TCEBปลื้มเจ้าภาพจัดไมซ์โลก2016-

ไทยเนื้อหอมรับเป็นเจ้าภาพสัปดาห์ไมซ์โลก

แจ้งเกิดMICE MODEL-THAILAND CONNECT

ขับรถเที่ยววันธรรมดา”พฤกษาภูผาทราย”อุบล

สวัสดีเช้าวันเสาร์ที่ 1 ตุลาคม 2559   เวลา 11.00-12.00 น.พบกันทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย” FM 97.0 MHz.ในรายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์”

ช่วงแรกเวลา 11.15 น.


ศุภวรรณ ตีระรัตน์
รองผู้อำนวยการสายงานกลยุทธ์และพัฒนาธุรกิจ TCEB

           “คุณศุภวรรณ ตีระรัตน์” รองผู้อำนวยการสายงานกลยุทธ์และพัฒนาธุรกิจ สำนักงานส่งเสริมการประชุมและนิทรรศการ (องค์มหาชน) หรือ " TCEB" ให้สัมภาษณ์พิเศษในรายการ พุ่งเป้าอธิบายถึง “สัปดาห์ไมซ์โลกในประเทศไทย” ช่วงสัปดาห์สุดท้ายปลายเดือนกันยายน 2559 โดยผู้นำธุรกิจไมซ์จากทั่วโลกมารวมตัวจัดงานกันอยู่ในประเทศไทย

ประกอบด้วย งานแรก งานแสดงสินค้าบริการรายการใหญ่สุดแห่งเอเชีย แปซิฟิก “IT& CM Asia and Asia-Pacific 2016” โดย TCEB สมาคมส่งเสริมการประชุมนานาชาติ (TICA)  การบินไทย สนับสนุนงบประมาณให้ บริษัท ทีทีจี มีเดีย จำกัด จัดงานต่อเนื่องในประเทศไทยมาเป็นปีที่ 15 ระหว่าง 27-29 กันยายน 2559 ณ บางกอกคอนเวนชั่น เซนทาราแกรนด์ เซ็นทรัลเวิลด์

โดยมีผู้ซื้อและผู้ขายจากเอเชีย แปซิฟิก มาร่วมมือกันขายจุดหมายปลายทางในประเทศ นักธุรกิจไมซ์ และมีการ จัดงานที่ 2 งานสัมมนา “ASEAN CONFERENCE MICE2016” ต้องการความร่วมมือกับภาคีอาเซียน 10 ประเทศ จึงมีตัวแทนภาครัฐ เอกชน มาแลกเปลี่ยนกันถึงแนวโน้มความร่วมมือที่จะพัฒนาด้วยกันในอนาคต เพราะเป็นอุตสาหกรรมพรีเมี่ยม แต่ละปีเติบโตมาก ๆ

            ประโยชน์ที่จะได้รับจากเวทีในอนาคตที่จะเกิดกับประเทศไทย ภายในงานได้จัดธีม The Road to Connect Collaboration ASEAN ตลอดการสัมมนามีเรื่อง “แนวโน้มหรือเทรนด์” ซึ่งแต่ละประเทศได้รับคำแนะนำถึงความพร้อมกับการรับมือ รวมถึงการเตรียมเครื่องมือต่อสู้กับประเทศมหาอำนาจหรือยักษ์ใหญ่ในอุตสาหกรรมอย่างสหรัฐอเมริกา ซึ่งถ้าไทยกับอาเซียนผนึกกันสร้างจุดขายที่แข็งแกร่งขึ้นมาก็จะสามารถสู้ได้ เพราะด้วยจำนวนประชากรภายใน 10 ประเทศ จะเป็นกลุ่มผู้บริโภคที่มีจำนวนรวมกันเกือบ 600 ล้านคน

            อีกทั้งภายในงาน IT& CM Asia and Asia-Pacific 2016 ทีเส็บได้เชิญผู้ประกอบการจากทั่วโลก 60 ประเทศ กว่า 500 คน มาร่วมงานที่ 3 “Business Matching” การจับคู่เจรจาธุรกิจกับผู้ประกอบการไทยกลุ่ม SMEs  68 ราย และไมซ์ ซิตี้ จาก 2 เมือง คือ พัทยา เชียงใหม่ หลังเสร็จสิ้นการจัดงานก็ยังได้ทำโปรแกรมนำผู้ประกอบการทั่วโลกลงพื้นที่เมืองไมซ์และท่องเที่ยว ได้แก่ หัวหิน (ประจวบคีรีขันธ์) และ เขาใหญ่ (นครราชสีมา) ซึ่งมีความพร้อมสูงเป็นมากกว่าเมืองท่องเที่ยว ทว่าสามารถจัดกิจกรรมอินเซ็นทีพ และมีความเกี่ยวข้องกับสถานที่รองรับการประชุมองค์กรหรือ meeting

          สุดท้ายงานที่ 4  “Wolrd Tourism Day” วันท่องเที่ยวโลก โดยมีองค์การสหประชาชาติด้านการท่องเที่ยว (UNWTO) และองค์กรเกี่ยวข้องภาครัฐกับเอกชนนานาชาติมาพูดคุยกัน ในกรุงเทพฯและขอนแก่น ซึ่งเป็น 2 ใน 5 เมือง ไมซ์ ซิตี้ แถวหน้าของประเทศไทย

            ดังนั้นทั้ง 4 งาน จะเป็นสัปดาห์ของการสร้างสปริงบอร์ด “เพิ่มรายได้” ขยายผลต่อเนื่องจากปี 2559 ซึ่งคาดการณ์จะมีนักเดินทางไมซ์ไม่ต่ำกว่า 1 แสนคน ทำรายได้กว่า 1 แสนล้านบาท และยังตอกย้ำถึง “ศักยภาพ” ที่จะทำให้ผู้ประกอบการทั่วโลกเห็นความพร้อม ซึ่งปัจจุบันไทยเทียบชั้นตำแหน่งความเป็นผู้นำได้เท่ากับ “สิงคโปร์” ปีนี้รับงานได้กว่า 108 งาน

            โครงการต่อเนื่องปี 2560 จะใช้ Thailand Connect Your Vibrant Journey to Business Success เป็นเครื่องมือสื่อสารการตลาดแบบไร้พรมแดนไปยังกลุ่มลูกค้าเป้าหมายทั่วโลก สื่อสาร 3 เรื่องหลัก ได้แก่ Connect Destination จะเล่าเรื่องให้คู่ค้าของไทยรู้ลึกเข้าถึงจุดหมายปลายทางในไทย ซึ่งมีมากกว่าห้องประชุม เช่น จัดประชุมในสวนธรรมชาติ พิพิธภัณฑ์ รวมถึงอาเซียนจะมีส่วนสำคัญดึงกำลังซื้อเข้ามาได้ตลอดทุกปี ต่อเนื่อง Business คือโอกาสทางธุรกิจ

            ส่วนสำคัญที่สุดคือ Connect People ซึ่งทีเส็บเล็งเห็นถึงการเสริมสร้างศักยภาพบุคลากรให้เป็นมืออาชีพตามมาตรฐานโลก โดยสนับสนุนให้คนรุ่นใหม่ Future Leader เข้ามาสู่อาณาจักรอุตสาหกรรมไมซ์ ขณะนี้ได้ทำความร่วมมือกับกว่า 60 มหาวิทยาลัยในไทย จัดทำหลักสูตรใหม่เป็นฮอสพิตาลิตี้ เพื่อเตรียมความพร้อมเข้าสู่สายอาชีพ ควบคู่กับการฝึกอบรม Coach the Coacher สอนอาจารย์ด้วยการนำหลักสูตรจากต่างประเทศมาอบรมอาจารย์ รวมทั้งการเปิดโอกาสให้นักศึกษาได้แสดงความสามารถคิดค้นการทำไมซ์แล้วไปแข่งขันในเวทีโลก โดยจะขยายผลต่อเนื่อง สอดคล้องกับการวางตำแหน่งเป้าหมายตามโร้ดแมฟก้าวขึ้นสู่การเป็น ASEAN institution Academy Hub แห่งอาเซียนให้สำเร็จนั่นเอง

ฟังข่าวช่วงต้นชั่วโมง

ข่าวที่ 1 “ดีไลท์แอนด์เซอร์ไพรส์คิงเพาเวอร์14-17ต.ค.59”

“วรมาศ ศรีวัฒนประภา”(คนกลาง)
ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายงานพาณิชย์ กลุ่มบริษัทคิง เพาเวอร์
นำทีมเปิดแคมเปญ Delights & Surprises 2016

 

“วรมาศ ศรีวัฒนประภา” ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายงานพาณิชย์ ทายาทคนโตของกลุ่มบริษัทคิง เพาเวอร์ นำทีมผู้บริหาร ซิลิบริตี้ ดาราศิลปินชั้นนำ ร่วมสร้างสีสันจัด “งาน Delights & Surprises 2016” จัดขึ้น ตั้งแต่วันที่ 14-19 ตุลาคมศกนี้  เฉพาะที่ คิง เพาเวอร์ ดาวน์ทาวน์ คอมเพล็กซ์ ถ.รางน้ำ, คิง เพาเวอร์ ศรีวารี คอมเพล็กซ์ เพื่อขอบคุณลูกค้าและพันธมิตรทุกท่านที่เชื่อมั่นและมอบความไว้วางใจด้วยดีมาตลอด 27 ปี

งานนี้ใครๆ ก็มา  ช้อปได้ ที่คิง เพาเวอร์ โดยมอบสิทธิพิเศษในการสมัครบัตรสมาชิกฟรี และยังมีโปรโมชั่นตลอดเดือนตุลาคมแจกแรงวัลกันกระหึ่มรวมมูลค่ากว่า 10 ล้านบาท พร้อมพบกับแบรนด์เนมหรูจากทั่วโลกมาลดราคาพิเศษสูงสุดถึง 60% นอกจากนี้เมื่อช้อปครบทุก 10,000 บาท (สุทธิ) ลุ้นรับคูปองหรือลุ้นรับแพ็คเกจท่องเที่ยวชมความยิ่งใหญ่ของกำแพงเมืองจีน 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกแบบเอ็กซ์คลูซีฟ และรางวัลอื่นๆ อีกมากมาย  พิเศษ สำหรับลูกค้า Top Spender ที่มียอดใช้จ่ายสูงสุด 2 ท่านแรก รับทันทีแพ็กเกจเอ็กซ์คลูซีฟทริปประเทศเยอรมันสุดพิเศษสอบถามเพิ่มเติมโทร. 1631

ข่าวที่ 2 “5ต.ค.นี้เปิดโฉมยักษ์คิ้วบนฝูงบินไทยแอร์เอเชีย”

บริษัท แบงค์คอก ไรเตอร์ แอนด์ พาร์ทเนอร์ส จำกัด รายงานว่า ในวันที่ 5 ตุลาคม 2559 การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) และสายการบินพร้อมจะเปิดตัวการวาดลงบนลำตัวเครื่องของไทย แอร์เอเชีย ภาพ “ยักษ์คิ้ว” ระหว่างนี้กำลังจัดทำอยู่ในศูนย์ซ่อมบำรุงอากาศยานพาณิชย์

 

กิจกรรมนี้เป็นการจัดประกวดโครงการ “วาดฟ้าให้เก๋ไก๋ ดีไซน์ไทยติดปีกบิน” โดย ททท. หรือชื่อที่ไทย แอร์เอเชียตั้งอย่างเก๋ไก๋ว่า “Paint The Sky Junior ระบายฝันกว้างไกล..จินตนาการเด็กไทยเหินฟ้า” เริ่มมาตั้งแต่เดือนสิงหาคมที่ผ่านมาโดยทั้ง  2 องค์กรได้เชิญชวนเยาวชนอายุ 6-12 ปี ทั่วประเทศจาก 4 ภาค ทั้ง ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคใต้ และส่วนกลาง (กรุงเทพปริมณฑล ภาคตะวันออก ภาคตะวันตกและจังหวัดใกล้เคียง) มาร่วมสร้างสรรค์ผลงานวาดภาพระบายสี ออกแบบลายเครื่องบินตามจินตนาการของน้องๆ พร้อมวาดภาพประกอบสถานที่ท่องเที่ยวที่น้องๆ อยากไปกับแอร์เอเชีย โดยไม่จำกัดรูปแบบและจินตนาการ ชิงทุนการศึกษาและของรางวัลมูลค่ารวมกว่า 1 ล้านบาท  ได้รับความสนใจจากประชาชนทั่วไปเป็นจำนวนมาก

ทั้งนี้ลายที่ได้รับรางวัลชนะเลิศจำนวนสองลำได้นำมาสร้างสรรค์บนตัวเครื่องบินแอร์เอเชียเพื่อประชาสัมพันธ์ถึงเอกลักษณ์ วัฒนธรรม และสถานที่ท่องเที่ยวของไทย การติดตั้งลายเครื่องบินลำดังกล่าวนี้จะแล้วเสร็จภายในเดือนกันยายน 2559 

 

สำหรับ “ลายยักษ์คิ้ว” (Yuk Cute) ออกแบบโดย นายเชิดศักดิ์ เม้ยขันหมาก ซึ่ง “ยักษ์คิ้ว” ได้ถ่ายทอดลวดลายของยักษ์วัดโพธิ์และยักษ์วัดแจ้ง ซึ่งเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียง และเป็นสถาปัตยกรรมที่เป็นเอกลักษณ์ของประเทศไทย นำเสนอในรูปแบบน่ารักร่วมสมัย สะท้อนให้เห็นถึงลักษณะนิสัยของคนไทยที่มีความสนุกสนานเป็นมิตร และพร้อมยินดีต้อนรับนักท่องเที่ยวให้เดินทางมาสัมผัสเสน่ห์ไทย

ข่าวที่ 3 “เสาร์เช้า1ต.ค.ห้ามพลาดไปExpat Fair Thailand”

เช้าวันเสาร์ที่ 2 ต.ค.นี้ “ททท.” นัดทุกคนไปงาน EXPAT FAIR THAILAND 2016 ชมมรดกวัฒนธรรมหนึ่งเดียวในโลกมากมาย พร้อม ฟู้ดทรัค อาหารทุกภาค ได้จนถึงวันอาทิตย์ที่ 2 ต.ค.นี้

“นายยุทธศักดิ์ สุภสร” ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ชวนไปร่วมงาน “EXPAT FAIR THAILAND 2016” เริ่มตั้งแต่ช่วงเช้า 10.00 น. ในวันเสาร์ที่ 1 ตุลาคม  นี้ จะจัดไปถึงวันอาทิตย์ที่ 2 ตุลาคม 2559 เวลา 10.00 – 22.00 น. สามารถเข้างานได้ฟรี ณ ฟราแกรนท์ พาร์ค สุขุมวิท 36 ติด BTS ทองหล่อเพื่อสร้างความประทับใจและความรักของกลุ่มชาวต่างชาติที่พำนักในประเทศไทย (Expat) กระตุ้นใช้จ่ายนักท่องเที่ยวกลุ่มศักยภาพสูง พร้อมเตรียมนำเสนอแนวทางการสื่อสารมุ่งเน้นประสบการณ์ที่เป็นเอกลักษณ์ไทยเฉพาะถิ่นผ่านแคมเปญ “Discover Amazing Stories in Amazing Thailand” 

 “กิจกรรมภายในงาน”  สนุกตลอดทั้งงาน 48 ชั่วโมง กับบรรยากาศ แสง สี เสียงครบครันภายใต้แนวคิด “FOOD FUN FAIR, I LOVE THAILAND” ครบครันด้วยวัฒนธรรมที่หลากหลาย อาหารต้นตำหรับของไทยและเทศมาออกร้าน พร้อมปรุงสดใหม่ และมี Food Truck มาเพิ่มสีสัน พร้อมกิจกรรมที่สนุกสนานให้ผู้ร่วมงานได้ร่วมสนุก อาทิ การแข่งกินขนมไทย การแข่งขันการทำอาหาร การแข่งขันการละเล่นไทย

ข่าวที่ 4 “บางจากตั้งบ.ออมสุขคืนสังคมครบวงจร”

“ชัยวัฒน์ โควาวิสารัช” กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.บางจากปิโตรเลียม (BCP) เปิดเผยว่า เมื่อ 29 กันยายน 2559 ที่ประชุมคณะกรรมการ บมจ.บางจากปิโตรเลียม หรือบอร์ดได้อนุมัติให้ตั้ง “บริษัท ออมสุข วิสาหกิจเพื่อสังคม จำกัด” ด้วยทุนจดทะเบียนเริ่มต้น 10 ล้านบาท โดยมีถือหุ้นร่วมกัน 2 องค์กร คือ บมจ.บางจาก 40% และมูลนิธิพุทธเศรษฐศาสตร์ 60% เพื่อประกอบธุรกิจซื้อสินค้าเกษตร ข้าว และพืชอินทรีย์อื่น ๆ เพื่อนำมาแปรรูป ทำการตลาด จัดจำหน่าย และวิจัยพัฒนา  โดยเงินลงทุนจะมาจากเงินทุนหมุนเวียน และเงินสดจากกิจกรรมการจัดหาเงิน

บริษัท ออมสุข วิสาหกิจเพื่อสังคม จำกัด มีบทบาทในการดำเนินธุรกิจเพื่อส่งเสริมเกษตรกรทางภาคเหนือที่ปลูกข้าว และทำเกษตรอินทรีย์ สร้างความเข้มแข็งให้กับเศรษฐกิจชุมชน นำนวัตกรรมและการวิจัยพัฒนามาเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้าการเกษตร ช่วยสร้างงาน สร้างรายได้ให้กับเกษตรกร สามารถพัฒนาตนเองอย่างยั่งยืน รวมทั้งส่งเสริมให้เกษตรกรร่วมรักษาสิ่งแวดล้อม ดูแลธรรมชาติ ช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนดไดออกไซด์ เพื่อควบคุมอุณหภูมิโลกไม่ให้เกิน 2 องศา และช่วยบรรเทาภัยพิบัติจากธรรมชาติ

ข่าวที่ 5 ปลุก“ไทยแลนด์คอนเน็ก-ปั้นไมซ์โมเดล”

น.ส. ปาริฉัตร เศวตเศรนี
 ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดและภาพลักษณ์องค์กร TCEB

ทีเส็บทุ่มทำปี’60 “ไทยแลนด์ คอนเน็กต์ ยัวร์ ไวแบรนท์ เจอร์นี่ ทู บิสิเนส ซัคเซส” เร่ง 3 ขา “พื้นที่เป้าหมายจัดงาน-โอกาสทางธุรกิจ-พัฒนามาตรฐานคนไมซ์สู่สากล” ปั้น MICE MODEL

น.ส. ปาริฉัตร เศวตเศรนี ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดและภาพลักษณ์องค์กร สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) เปิดเผยว่าตั้งแต่เดือนตุลาคม 2559 เป็นต้นไป จะใช้แคมเปญ "THAILAND CONNECT Your Vibrant Journey to Business Success" เป็นหัวหอกขยายผลการตลาดปีงบประมาณ 2560 เน้นเชื่อมโยงหรือการ Connect 3 เรื่อง คือ

1.ประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางของทั่วโลกที่จะเลือกมาจัดงานไมซ์ (destination)

          2.โอกาสทางธุรกิจ (business) ที่จะทำให้ผู้ประกอบการไทยต่อตลาดกับนานาชาติอย่างเต็มที่ ด้วยเสน่ห์ความเป็นไทยที่เต็มไปด้วยสีสีนมากมายทั้งแซบและสนุก

3.การเชื่อมโยงบุคลากร (People) ร่วมกับสถาบันการศึกษาทั่วประเทศกว่า 63 สถาบัน นำหลักสูตรไมซ์ไปบรรจุไว้ในการเรียนการสอน ไฮไลต์ในปี 2560 กำลังหารือกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชนจัดทำ MICE MODEL สร้างแพลตฟอร์มครบวงจรขานรับการขับเคลื่อน  THAILAND MICE DIGITAL 4.0 ซึ่งพร้อมจะเปิดตัวได้ภายในเดือนมกราคม 2560

            ในปี 2559 ทีเส็บสร้างความสำเร็จตลอด 3 ไตรมาสแรกปี 2559 ทำรายได้รวม กว่า 60,593 ล้านบาท (1,740 ล้านเหรียญสหรัฐ) จากจำนวน 750,742 คน มาจากลูกค้ารายใหญ่ในตลาด 10 อันดับแรก ได้แก่

1. จีน 7,909 ล้านบาท 2.อินเดีย 6,461 ล้านบาท 3.สิงคโปร์ 5,195 ล้านบาท 4.มาเลเซีย 4,547  ล้านบาท 5.สหรัฐอเมริกา 2,934 ล้านบาท 6.ญี่ปุ่น 2,489 ล้านบาท 7.เกาหลี 2,407 ล้านบาท 8.อินโดนีเซีย 2,014 ล้านบาท 9.ฮ่องกง 1,953 ล้านบาท 10.เวียดนาม 1,675 ล้านบาท

            สำหรับเป้ารายได้ไมซ์เข้าประเทศปี 2560   อันดับ 1.การประชุมองค์กร(meeting) 33,000 ล้านบาท อันดับ 2 .การประชุมนานาชาติ (convention) 30,000 ล้านบาท 3.การท่องเที่ยวเพื่อเป็นรางวัล (incentive) 20,000 ล้านบาท 4.การประชุมนานาชาติ (exhibition) 18,000 ล้านบาท

ปี 2560 TCEB จะขับเคลื่อนกลยุทธ์โดยใช้แคมเปญบุกการตลาดชัดเจนคือ “ตลาดต่างประเทศ” (international) ชูแคมปญ THAILAND CONNECT  Your Vibrant Journey to Business Success เลือกช่องทางการสื่อสารทางออนไลน์เป็นหลัก เพราะสามารถสร้างการรับรู้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้สูงถึงปีละกว่า 20 ล้านคน

“ตลาดในประเทศ” (Domistic) จะใช้แคมเปญ “ประชุมเมืองไทย ภูมิใจช่วยชาติ” โดยเลือก “ช่องทางการสื่อสาร” เน้นสื่อสิ่งพิมพ์ ทีวี  ด้วยแพลตฟอร์มการทำพีอาร์กับอีเวนต์ นำเสนอทิศทางใหม่ส่งเสริมให้มากขึ้นจากกลุ่มองค์กรธุรกิจและผู้บริโภคกลุ่มขนาดใหญ่ รองรับนโยบาย ไทยแลนด์ 4.0 , ทำ MICE model/Activities ที่ทีเส็บจะจับมือกับเอกชน เปิดตัวได้ช่วงมกราคม2560 และส่งเสริมสนับสนุน 5 อุตสาหกรรมในกลุ่มหลักของ S-Curve

ข่าวที่ 6 “2 โปรโมชั่นตั๋วบิน“ไทยแอร์เอเชียต้น ต.ค.นี้

ไทย แอร์เอเชีย จัดฮ็อตดีล 2 โปรโมชั่น จองภายใน 2 ต.ค.นี้ โปรแรก เที่ยว “มาเก๊า” ในสไตล์คุณ ในราคาพิเศษลดสูงสุดถึง 70 % โดยเลือกเดินทางได้สบายๆ จากจังหวัดต้นทาง 4 แห่ง ดอนเมือง กรุงเทพฯ, เชียงใหม่, ภูเก็ต และ อู่ตะเภา พัทยา จ.ชลบุรี ซื้อตามกำหนดภายในวันที่  2 ต.ค.นี้ สามารถเก็บไว้ใช้เดินทางได้จนถึง 22 มกราคม 2560

โปรสอง เฉพาะจองผ่านแอพลิเคชั่น airasia ได้ทางมือถือเท่านั้น รับไปเลยส่วนลด 20% สามารถเก็บตั๋วไว้ใช้ได้เดินทาง 10 ต.ค.2559-24 เม.ย.2560

ดูรายละเอียดและจองซื้อได้ที่ www.airasia.com

ช่วงที่ 2 เวลา 11.45 น.สุขใจเมื่อได้เที่ยว “ถนนสายพฤกษา” และ วิธีกินช่วงเทศกาลเจแล้วปลอดโรคอ้วน และข่าวคุณภาพ 4 เรื่องที่น่าสนใจ

@บินไปขับรถเที่ยว“พฤกษาภูผาทราย”อุบลฯ
 

วันธรรมดาน่าขับรถท่องเที่ยวในเส้นทาง “พฤกษาบนภูผาทราย” เมืองชายแดนริมแม่น้ำโขง “อุบลราชธานี” ที่เชื่อมต่อไปยังประเทศเพื่อนบ้าน สปป.ลาว โดยมีแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติมากมายให้ชม

บรรยากาศริมฝั่งโขงบริเวณ "ช่องเม็ก" จ.อุบลราชธานี

สถานที่แรกไปชมวิวธรรมชาติอากาศสบาย ๆ   “เขื่อนสิรินธร” และ “หาดพัทยาสิรินธร” นักท่องเที่ยวท้องถิ่นนิยมไปเล่นน้ำกัน จากนั้นก็มุ่งหน้าไปสุดเขตผ่านแดน  “ช่องเม็ก” สำรวจตลาดสินค้าปลอดอากรซึ่งเปิดตั้งแต่ 8 โมงเช้า ถึง 4 โมงเย็น สุดปลายทางแม่น้ำโขงไหลผ่านยังมี “บ้านเวินบึก” หมู่บ้านชาวบรู แหล่งผลิตและจำหน่ายขายผ้าไหมมัดหมี่แบบไทยโบราณ ผ้าแพรวา สินค้าขึ้นชื่อของชุมชนที่ต้องห้ามพลาดช้อปมาใช้งาน

บ้านเวินบึก ของชาวบรู แหล่งผลิตไหมมัดหมี่

ตลอดเส้นทางสายนี้สามารถขับรถไปเที่ยว “อุทยานแห่งชาติแก่งตะนะ” ได้ชื่อว่าเป็นแม่น้ำสองสีที่ “ดอนด่านปากน้ำมูล” เป็นจุดที่แม่น้ำมูลกับแม่น้ำโขงไหลมารวมกันในช่วงเดือนเมษายนของทุกปีจะปรากฏเป็นสองสีชัดเจนที่สุด คือโขงสีปูน และมูลสีคราม

 ส่วนลักษณะโดยรวมเป็นเกาะแก่งขวางกั้นลำน้ำมูลช่วงที่ใหญ่ที่สุด ช่วงที่นักท่องเที่ยวชอบไปคือมกราคม-พฤษภาคม ของทุกปี ส่วนการพักค้างคืนควรจะตีกลับไปนอนในตัวเมือง “อำเภอโขงเจียม” ซึ่งจะมีตลาดที่เต็มไปด้วยปลาแม่น้ำโขง พืชผลทางการเกษตรตมฤดูกาล เปิดช่วงเช้า ตี 4 ถึง 9 โมงเช้า หรือจะไปนอนค้างในบ้านพักที่อุทยานแห่งชาติผาแต้ม เพื่อเตรียมตัวเดินทางท่องเที่ยวต่อวันใหม่ในเส้นทาง “ผาแต้ม-สามพันโบก”

ผาแต้ม-สามพันโบก

 

ควรตื่นแต่เช้าไปชมพระอาทิตย์ขึ้นในจุดสวยที่สุดในประเทศที่ “ผาแต้ม” พร้อม ๆ กับเดินชม “ภาพเขียนสี” ตามเส้นทางริมหน้าผา แหล่งประวัติศาสตร์ภาพเขียนที่มีมานานนับ 3,000-4,000 ปี   ซึ่งมีประติมากรรมเสาเฉลียงคล้ายเห็ด

ส่วนไฮไลต์ของแหล่งท่องเที่ยวแห่งนี้อีกส่วนคือ “น้ำตกสร้อยสวรรค์” ความสูงกว่า 20 เมตร ช่วงปลายฝนต้นหนาว รอบลานหินจะมีดอกไม้ป่าแสนงดงามทั้ง ดอกดุสิตา สร้อยสุวรรณา ทิพย์เกสร มณีเทวา สรัสจันทร และม่านน้ำตกแสงจันทร์ (น้ำตกลงรู) ที่ถูกธรรมชาติจัดสรรไว้อย่างงดงาม น้ำไหลตกผ่านช่องหินลงสู่ด้านล่างในช่วงเที่ยงวันจะเห็นคล้ายแสงจันทร์สาดส่องลงมา เดือนที่น่าท่องเที่ยวอย่างมากคือตุลาคม-ธันวาคม ของทุกปี

ส่งท้ายการเที่ยวในเมืองดอกบัวอุบลราชธานีที่ “สามพันโบก” มรดกทางธรรมชาติที่ดาดดื่นตาด้วยแก่งหินถูกกัดเซาะเป็นร่องหลุ่มมากกว่า 3,000 แอ่ง คล้ายแกรนด์แคนยอนเมืองไทย มี “หาดสลึง” เป็นหาดทรายแม่น้ำโขง “ปากบ้อง” ส่วนของแม่น้ำโขงที่แคบที่สุด และ “หินหัวพะเนียง” แก่งหินขนาดใหญ่

“อาหารถิ่น” ฟู้ดสตรีทอร่อย ๆ ตามรายทาง เมนูประจำถิ่นก็มี ไข่กระทะ โจ๊กถั่วเขียว ก๋วยจั๊บญวน ลาปลาคร้าว กุ้งปลาแม่น้ำโขง ต้มยำปลาบึก หลนเค็มบักนัท “ของใช้ของฝาก” ก็มี ผ้าฝ้ายทอดมือลายกาบบัว ผ้าลายเกล็ดเต่า หมูยอ ไส้กรอกอีสาน เค็มบักนัท เครื่องทองเหลือง และเครื่องจักรสาน

สอบถามรายละเอียดได้ที่ ททท.อุบลราชธานี โทร.045-243-770, 045-250-714

 @10วิธีกินเจเลี่ยงโรคอ้วน

เข้าสู่เทศกาลกินเจแล้ว เรามีวิธีการเลือกกินเจแบบอิ่มบุญครบ 10 วัน โดยไม่กระทบกับโปรแกรมลดความอ้วนมาบอกต่อ

ลดแป้ง เน้นผัก - อาหารเจไม่ได้มีแค่แป้งหรือโปรตีนเกษตรเท่านั้น แต่ยังมีผัก เห็ด ธัญพืช ข้าวกล้อง ข้าวโอ๊ต โฮลเกรน โฮลวีท พืชตระกูลถั่ว และเต้าหู้ที่มีโปรตีนสูงเทียบเท่าเนื้อสัตว์และช่วยให้อิ่มท้อง ดังนั้นแทนที่จะเน้นกินอาหารเจประเภทแป้งขัดขาว หรือเน้นกินแป้งหนักๆ ก็หันมามองทางเลือกอื่นๆ และควรกินผักให้ครบ 5 สี เขียว เหลือง ขาว แดง และดำ

เลือกผักใบดีกว่าพืชหัว - พืชประเภทหัวอย่าง เผือก มัน จะมีคาร์โบไฮเดรตค่อนข้างสูง ซึ่งหากกินพืชประเภทนี้มากๆ ในช่วงกินเจอาจทำให้น้ำหนักและรูปร่างเปลี่ยนแปลงได้ จึงแนะนำให้กินผักประเภทใบ เช่น คะน้า กวางตุ้ง ผักบุ้ง ที่มีกากใยและไฟเบอร์มากกว่า

กินเจแบบคลีน -โฟกัสที่อาหารตุ๋น ต้ม นึ่ง เลี่ยงกินอาหารทอดหรือผัดที่อุดมไปด้วยน้ำมัน ซึ่งเพิ่มแคลอรี่และยังสะสมไขมันในร่างกายอีกด้วย

คลีนๆ ปรุงรสน้อยๆ - สิ่งสำคัญของการกินคลีน คือปรุงแต่งรสอาหารให้น้อยที่สุด โดยเฉพาะเครื่องปรุงรสอย่าง ซีอิ๊ว เกลือ น้ำตาล น้ำมันหอยสูตรเจ เพราะเครื่องปรุงรสแทบทุกชนิดจะมีโซเดียม น้ำตาล หรือไขมันผสมอยู่ด้วย ซึ่งหากปรุงรสให้อาหารเจมากๆ อาจทำให้เสี่ยงต่อภาวะโซเดียมสูง เกิดอาการบวมและเสี่ยงต่อโรคเรื้อรัง โดยเฉพาะภาวะความดันโลหิตสูง โรคไต เส้นเลือดหัวใจตีบ หรือเส้นเลือดในสมองแตก

เน้นความสดใหม่ - ไม่ว่าจะกินเจหรือไม่ สิ่งที่ขาดไม่ได้คือการเลือกกินอาหารที่สดใหม่ ทั้งผัก ผลไม้ หรืออาหารปรุงสุก เพราะจะทำให้คุณค่าทางสารอาหารอยู่ครบถ้วน รวมถึงป้องกันอาการอาหารเป็นพิษ ท้องเสีย หรือท้องร่วง

ลดความหวาน - ช่วงเทศกาลกินเจมักมีขนมหวานและน้ำสมุนไพรออกมาขาย เป็นอาหารเสริมของคนกินเจที่ไม่ค่อยชอบใจกับรสชาติอาหารจืดๆ แต่ก็เป็นตัวการที่ทำให้น้ำหนักขึ้นไม่หยุดฉุดไม่อยู่ ทางที่ดีควรงดของหวานนอกมื้ออาหาร หรือลดปริมาณและระดับความหวานจะดีที่สุด

สำหรับข่าวท้ายชั่วโมง

ข่าวแรก “Snowdenภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์บุกฉายในไทย”

วันจันทร์ที่ 3 ตุลาคม 2559 พบกันที่โรงแรมสยามเคมพินสกี้  ตั้งแต่เวลา 17.00-18.00 น. พร้อมชมรอบปฐมทัศน์ ณ โรงภาพยนตร์สยามภาวลัย พารากอนซีนีเพล็กซ์ เวลา 20.00 น. ซึ่งทางบริษัท DIGITAL CONTENT FACTORY (DCF) ผู้ถือลิขสิทธิ์สุดยอดภาพยนตร์แห่งปี 2559  เรื่อง “ สโนว์เดน :อัจฉริยะจารกรรมเขย่ามหาอำนาจ”  ซึ่งสร้างจากเค้าโครงจริงที่เกิดขึ้นในประเทศสหรัฐอเมริกาภายหลังเหตุการณ์ 911  MR. SNOWDEN  ได้ออกมาเปิดเผยเรื่องราวการสอดแนมและจารกรรมข้อมูลต่างๆทั่วโลกจนเป็นเหตุให้เขาต้องถูกไล่ล่าและเป็นบุคคลที่ทางการสหรัฐฯต้องการตัวมากที่สุด  

เป็นผลงานของ “โอลิเวอร์ สโตน” ผู้กำกับยอดฝีมือระดับรางวัลออสการ์  นำแสดงโดย โจเซฟ กอร์ดอน-เลวิตต์ (Batman:Dark Knight,  Inception),   เซลีน วูดลีย์ (Insurgent)    

ข่าวที่สอง “ไทยเฮ!FAAปลดธงแดงการบินต.ค.นี้”

ข่าวดี !ของประเทศไทย “FAA-องค์กรการบินสหรัฐอเมริกา” ปลดธงแดงไทย เริ่มตั้งแต่ตุลาคม 2559 เป็นต้นไปไฟเขียว “สายการบินของไทย” เปิดบินเข้าได้ตามปกติ

นายออมสิน ชีวะพฤกษ์ รัฐมนตรีช่วยกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ในช่วงปลายเดือนกันยายน 2559 นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นำทีมผู้ที่เกี่ยวข้องทางการบิน ได้หารือกับนาย Michael P. Huerta ผู้ว่าการ FAA แห่งสหรัฐอเมริกา โดยมีข่าวดีเมื่อทางสำนักงานบริหารการบินแห่งสหรัฐอเมริกา หรือ FAA  จะปรับระดับมาตรฐานการบินของไทยจาก Category 2 ขึ้นเป็นระดับ Category 1 ส่งผลให้ สายการบินของประเทศไทย สามารถบินเข้าสหรัฐอเมริกาได้เดือนตุลาคม 2559 นี้ โดยที่ไม่ต้องรอให้มีการปลดธงแดง จากองค์การบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO) ปี 2560

ข่าวที่สาม “ไทยสไมล์ชิงเปิดบิน4เมืองไฮไลต์ในอินเดีย”

“กัปตันวรเนติ หล้าพระบาง” รักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยสมายล์แอร์เวย์ จำกัด เปิดเผยว่า ไทยสมายล์ ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของการบินไทย พร้อมเปิดเที่ยวบินตรง ไป-กลับ 4 เมืองสู่อินเดีย โดยจะทยอยเปิดไปตามลำดับ เริ่มจาก กรุงเทพฯ สู่คยา และพาราณสี ตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2559 เป็นต้นไป กรุงเทพฯ – ชัยปุระ เริ่ม 15 พฤศจิกายน กรุงเทพฯ – ลัคเนา เริ่ม  1 ธันวาคม 2559 เป็นต้นไป

โดยจะให้บริการด้วยฝูงบินแอร์บัส A320 มีชั้นพรีเมี่ยมอีโคโนมี่ 12 ที่นั่ง และชั้นประหยัด 154 ที่นั่ง และอิ่มอร่อยกับอาหารและเครื่องดื่มเมนูขึ้นชื่อของอินเดียที่คัดสรรมาเป็นพิเศษเพื่อผู้โดยสารโดยเฉพาะ อีกทั้งผู้โดยสารรอยัล ออร์คิดและชั้นพรีเมี่ยมอีโคโนมี่สามารถเข้าใช้บริการเลาจน์ ณ สนามบินสุวรรณภูมิได้ และฟรีเครื่องดื่มทั้งร้อนและเย็น สัญญาณอินเทอร์เน็ต Wifi  

ข่าวที่สี่“ตุ๊กตุ๊ก-รถม้า-สกายแลป-เรือหัวโทง"บุกWTM2016

            ดร.ชินวุธ ชินะประยูร ผู้อำนวยการ บริษัท นวทรรศน์  ฮอสพิตาลีตี้ จำกัด เปิดเผยว่า ได้เข้าร่วมโครงการ "รถถิ่นเที่ยวไทย-A Touch of Thai Vehicles"  ของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ซึ่งมีทั้ง “ตุ๊กตุ๊ก-รถม้า-สกายแลป-เรือหัวโทง” พร้อมที่จะบุกไปแนะนำบริการรูปแบบใหม่ในงาน World Travel Mart 2016 ณ กรุงลอนดอน อังกฤษ ระหว่าง 4-9 พฤศจิกายน 2559

ซึ่งขณะนี้ได้สร้างสรรค์เปิดเส้นทางเที่ยววิถีไทยเป็นทัวร์ทางเลือก (tour option) ด้วยรถท้องถิ่นดังกล่าว อาทิ ทัวร์ธนบุรีคาแนล เส้นทางตุ๊กตุ๊กฮาลาล แวะชิมอาหารถิ่น สัมผัสเส้นทางโรแมนติก ซึ่งมีนักท่องเที่ยวต่างชาติแห่อุดหนุนทั้งชาวสิงค์โปร์ จีน ยุโรป อเมริกา ช่วยคนขับมีรายได้มั่นคงเดือนละกว่า 15,000 บาท อนาคตอันใกล้นี้เตรียมขยายไปทำในเมืองมรดก นครวัด ประเทศกัมพูชา และสปป.ลาว

ขณะนี้นวทรรศน์มีลูกค้าใช้บริการเดือนละ 1,000 คน หรือทัวร์วันละ 22คนต่อทริป ราคาทัวร์เริ่ม 1,550 บาทต่อคน ส่งผลทำให้คนขับตุ๊กตุ๊กรมีรายได้คันละ15,000 บาทต่อเดือน

ในช่วงไตรมาส 3 ปี 2559 กำลังปรับโครงสร้างราคา ควบคู่กับเดินทางไปทำตลาดต่างประเทศในลักษณะปฎิบัติการตรงกับคู่ค้าหรือทำโอเปอเรชั่น ในประเทศต่าง ๆ  โดยแนะนำ ฟู้ดทัวร์ ระยะทางสั้น ๆ  และพร้อมทั้งจะปรับคอนเซ็ปต์ ให้เป็นมากกว่าการท่องเที่ยวทั่ว ๆ ไป นั่นคือเป็นการท่องเที่ยวชุมชนวิถีไทยครบวงจร โปรแกรมละครึ่งวัน-1วัน เช่น บ้านนาป่าหนาด หมู่บ้านไทยดำ นั่งรถสกายแลปไปชมที่จังหวัดเลย เส้นทางที่พัฒนาแล้ว ตามมาตรฐาน ททท.ทุกบริษัทสามารถเข้ามาดำเนินการได้

ข่าวที่ห้า “นายกลุงตู่ให้อันดามันผุด2เมกะโปรเจกต์ทัวร์”

“อิทธิฤทธิ์ กิ่งเล็ก” ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(สทท.) กล่าวว่า ในการประชุมคณะกรรมการร่วมภาครัฐบาลและเอกชน (กรอ.) เดือนกันยายน ที่ผ่านมา โดยมี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเป็นประธาน นั้นได้อนุมัติให้เดินหน้าใช้งบประมาณเบื้องต้น 800 ล้านบาท เพื่อแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจหรือกรอ.ส่วนกลางและคณะกรรมการกรอ.กลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามัน (ภูเก็ต พังงา ระนอง กระบี่ และตรัง) ถึงแนวทางการพัฒนาและส่งเสริมเศรษฐกิจในกลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามัน(Andaman Cluster)  

เรื่องแรก คือ การยกระดับเมืองสปาน้ำพุร้อนเค็ม และพัฒนาเส้นทางอันดามันโรแมนติก โรด อ.คลองท่อม จ.กระบี่ เรื่องที่ 2 คือ การสนับสนุนโครงการยกระดับเส้นทางเชื่อมโยงท่องเที่ยวอันดามัน ควบคู่กับการเร่งรัดการคมนาคมขนส่ง ประกอบด้วย 1.เร่งรัดปรับปรุงเส้นทางสาย 4 (เพชรเกษม)เป็น 4 ช่องจราจร ได้แก่ สายระนอง-ราชกรูด สายราชกรูด-ตะกั่วป่า สายตะกั่วป่า-เขาหลัก และ 2.เร่งรัดปรับปรุงเส้นทางสาย 4027 เป็น 4 ช่องจราจร โดยคำนึงถึงการสนับสนุนยุทธศาสตร์การพัฒนาเชื่อมโยงแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของประเทศ เป็นหลัก

พบกับสาระข่าวดี ๆ ได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา11.00-12.00 น.

ดำเนินรายการโดย...เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน และ นฤมล พุกยม

ติดตามฟังรายการย้อนหลังเข้าไปที่ www.google.com พิมพ์คำว่า รวยด้วยข่าว97.0 หรือทาง www.facebook.com/rauydauykhao และ ข่าววิเคราะห์เจาะลึกทางบล็อกเกอร์ :gurutourza.blogspot.com



เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน
คอลัมนิสต์และบล็อกเกอร์การบิน/ท่องเที่ยว และผู้ดำเนินรายการ สวท.FM 97.0 MHz