ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

จังหวัดเลยท้าเที่ยวหน้าหนาวคริสมาสต์ภูเรือ-ศูนย์พัฒนาอาชีพเกษตรกระบี่-นายกประยุทธ์แก้ทัวร์จีน0 เหรียญให้ถูกวิธี


ไทยเปิดเมืองเลยท้าเที่ยวหน้าหนาวในอีสาน

ททท.ท้าชิม25อาหารถิ่นจาก5ภาค23พ.ย.นี้

ลงใต้ชมศูนย์พัฒนาอาชีพเกษตร จ.กระบี่

วอนนายกฯตู่แก้ทัวร์จีน0เหรียญให้ถูกวิธี

สวัสดีเช้าวันอาทิตย์ที่ 20 พฤศจิกายน 2559   เวลา 11.00-12.00 น.พบกันทางสถานีวิทยุแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz.ในรายการ รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์รู้ทันข่าวและสารคดีท่องเที่ยวอัพเดททุกสถานการณ์

ช่วงแรกเวลา 11.15 น.


เกียรติพงษ์ คชวงษ์
ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานเลย 
“คุณเกียรติพงษ์ คชวงษ์” ผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานจังหวัดเลย ได้มาพูดคุยในรายการเชิญชวนไปเที่ยวอีสาน “ที่เมืองเลย” ช่วงฤดูหนาว ซึ่งเป็น 1ใน 12 เมืองต้องห้ามพลาด อากาศเย็นสบายความสวยงามไม่แพ้ภาคเหนือและภาคอื่น ๆ 
 คุณเกียรติพงษ์เล่าว่าตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนนี้เป็นต้นไป อุณหภูมิเมืองเลยอยู่ที่ประมาณ 20 องศาเซลเซียส เย็นกว่าการเปิดแอร์ในห้องทำงาน โดยเฉพาะตอนนี้บน “ภูเรือ” เพียง 17 องศาเซลเซียส ส่วน “ภูหลวง” ก็เหลือเพียง 13 องศาเซลเซียส เย็นสบาย ๆ  นักท่องเที่ยวที่ชอบการถ่ายภาพทะเลหมอกท้าให้มาได้เลยรับรองไม่ผิดหวังสักวัน และในสัปดาห์นี้ทางผู้ว่าจังหวัดเลยยังได้เปิดเทศกาล “แหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติจังหวัดเลย” เชิญชวนคนมาท่องเที่ยว นำเส้นทางท่องเที่ยว “7 มหัศจรรย์ท่องเที่ยวเลย”
 

เส้นทางที่ 1 ศึกษาโครงการพระราชดำริ ในหลวงทรงเสด็จมาเลยถึง 5 ครั้ง แล้วได้ทำหลายโครงการ แนะนำเที่ยวชม อ่างเก็บน้ำเลย อ.ทุ่งหลวง ธรรมชาติสวยงามมาก  พัฒนาปศุสัตว์ อ.ด่านซ้าย เกษตรที่สูง อ.ภูเรือ มีแปลงดอกไม้เริ่มผลิดอก

เส้นทางที่ 2 เกษตรชุมชน นักท่องเที่ยวจะได้เรียนรู้ต้นแบบเศรษฐกิจพอเพียง อ.หนองหิน ส่วนอีกแห่งอยู่ภูทอก ส่วนที่ชอบรับประทานพืชผักเกษตรปลอดสารแนะนำที่ภูเรือ มี “พี.เค.ฟาร์ม” ให้ชิมสารพัดเมนูอร่อย สามารถเลือกผักมารับประทานเป็นได้สด ๆ และดูกรรมวิธีปรุงอาหารแต่ละชนิดได้ด้วย

เส้นทางที่ 3 งานประเพณีอีสาน ทั้ง 12 เดือน จะแจ้งถึงการท่องเที่ยวงานประเพณีต่าง ๆ ในวันที่ 26 พฤศจิกายน 2559 นำร่องงานเทศกาล “คริสมาสต์ภูเรือ” จากนั้นไม้ดอกเมืองหนาวเดือนมกราคมปีหน้า

เส้นทางที่ 4 เลาะชายโขง สายน้ำโขงจะไหลเข้าประเทศ สปป.ลาว มารวมกับไทย สามารถดูพระอาทิตย์ลับขอบฟ้าที่แม่น้ำโขง แล้วช่วงยามเย็นของทุกวันจะได้ชมบรรยากาศนกกระยางบินกลับจากฝั่งลาวมาพักฝั่งไทย

เส้นทางที่ 5 ขับรถยนต์ชมธรรมชาติจาก จังหวัดเลยสู่หนองคายก็เป็นอีกบรรยากาศการท่องเที่ยวข้ามสองฝั่งโขงที่สวยงามทุกวัน

เส้นทางที่ 6 ตามตะวัน ด้วยศักยภาพจังหวัดเลยเป็นภูเขา สามารถตามตะวันไปเที่ยวได้หลายแห่ง

เส้นทางที่ 7 ผจญภัยสายธรรมชาติ การเดินป่า ศึกษาธรรมชาติ ขี่จักรยาน ล่องแก่ง แทบทุกพื้นที่ในอำเภอภูเรือ และในจังหวัดเลยด้วย

ทั้ง 7 เส้นทาง ทางจังหวัดเลยได้จัดทำเป็นโครงการ “ท้าเที่ยวข้ามภาค” ด้วย เริ่มจากเทศกาล “คริสมาสต์ภูเรือ” เริ่มวันที่ 26 พฤศจิกายน ไปจนถึง 31 ธันวาคม 2559 บริเวณหน้าที่ว่าการอำเภอด่านซ้าย จะเป็นศูนย์กลางการจัดงาน ททท.นำ “อาหารถิ่นภาคอีสาน” ได้รวบรวมทั้ง 20 จังหวัด มาไว้ในงาน ตลอด 3 วัน ระหว่าง 26-28 พฤศจิกายน นี้

เริ่มจากอาหารถิ่นจังหวัดเลยที่มีความหลากหลาย ที่ขึ้นชื่อ ส้มตำน้ำผักสะทอน ตำด๊องแด๊ง สำหรับน้ำผักสะทอนเดิมชาวภูเรือหาปลากินยากจึงหันไปเก็บใบผักสะทอนมาหมักเป็นน้ำปรุงรสแทนน้ำปลาร้าใส่ส้มตำได้ ส่วนจังหวัดอื่น ๆ ก็มีเมนูอาหารถิ่นจานเด็ดแนะนำ ได้แก่ จ.หนองลำภู โชว์เมนู ลาภขี้ปลา จ.กาฬสินธ์ ตำเมี่ยงลาว จ.ชัยภูมิ นำเสนอ “หม่ำขี้ปลา” จ.นครราชสีมา มี “ไก่สเต็ก” มาให้ชิม

ขณะที่ผลไม้ขึ้นชื่อในอีสานและจังหวัดเลย ช่วงฤดูหนาวก็มีผลไม้ให้ชิมตลอดคือ “แก้วมังกร” กับ “แมคคาเดเมีย” และผลไม้อย่างสตอบอรี่ มีจำนวนมาก หรือจะเป็น “ส้มภูเรือ” สามารถซื้อหากลับไปเป็นของฝากได้ ส่วนผลไม้อื่นๆ จะมีจำนวนมากอีกครั้งในช่วงฤดูร้อน เพราะช่วงหน้าหนาวเกษตรกรจะเน้นการปลูกพืชไม้ดอกไม้ประดับก่อน เพื่อจำหน่ายในเชิงพาณิชย์และเปิดเป็นสถานที่ท่องเที่ยวควบคู่กันไปด้วย
 

ราคาห้องพักในเมืองเลย มีช่วงนาทีทอง “วันที่ 26 พฤศจิกายน 2559” ทางสมาคมท่องเที่ยวภูเรือร่วมกับทุกภาคส่วนในจังหวัด ทำโปรโมชั่นห้องพักทั่วจังหวัดเลยราคา “ซื้อ 1 แถม 1 เป็นโปรต้อนรับเทศกาลเริ่มงานเทศกาลชมทุ่งคริสมาสต์เมืองเลย ดังนั้นต้องรีบจองด่วน เพราะตอนนี้นักท่องเที่ยวจองกันเป็นจำนวนมากแล้ว

สำหรับจำนวนห้องพัก หากในอำเภอภูเรือจองพักเต็ม นักท่องเที่ยวสามารถขับรถไปไม่ไกลในอำเภอด่านซ้ายหรืออำเภอเมือง มีห้องรวมกันไม่ต่ำกว่า5,000 ห้อง ราคาห้องพักเฉลี่ยระดับ 3 ดาว คืนละประมาณ 1,200 บาท/ห้อง/คืน เรื่อยไปจนถึง 5 ดาวประมาณ คืนละ 2,000 บาท/ห้อง/คืน

การเดินทางไปยังจังหวัดเลยมีเที่ยวบินวันละ 5 เที่ยว ไป-กลับ วันละ 10 เที่ยว ตั้งแต่ 6 โมงเช้าถึงค่ำ 2 ทุ่ม สะดวกสบายของ 2 สายการบิน ขณะที่ “รถบขส.” จากกรุงเทพฯ 2 ทุ่ม มาถึงเลย 6 โมงเช้า ติดต่อการใช้บริการเดินทางด้วยการขอคำแนะนำเพื่อเช่ารถตู้ ททท.จังหวัดเลย ซึ่งขณะนี้เอกชนกลุ่มรถตู้ได้ตั้งชมรมบริการขึ้น 042-812-812 ติดต่อทาง facebook พิมพ์ TATLOEI หรือจะขอรายละเอียดผ่านทางเฟซบุ๊คก็จะสะดวกกับนักท่องเที่ยวทุกวัยด้วยเช่นกัน

ติดตามฟังการสัมภาษณ์ทุกรายละเอียดได้ในรายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” สวท.FM 97.0 MHz.

จากนั้นมาฟังข่าวต้นชั่วโมง

ข่าวที่ 1 “ช้อปสินค้าไทยในคิงเพาเวอร์รับกระเป๋าฟรี”

            “กลุ่มคิง เพาเวอร์” ผู้นำการบุกเบิกร้านค้าดิวตี้ฟรี และผู้สนับสนุนการนำสินค้าไทยเข้าไปวางจำหน่ายในทุกสาขาทั่วประเทศ ระหว่างวันนี้-30 พฤศจิกายน 2559 คิง เพาเวอร์ เปิดมหกรรมที่คิง เพาเวอร์ คอมเพล็กซ์ รางน้ำ ศรีวารี พัทยา และ ภูเก็ต และ คิง เพาเวอร์ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ดอนเมือง และภูเก็ต เพียงซื้อสินค้าแผนกอาหารสำเร็จรูป ตั้งแต่  3,000 บาทขึ้นไป รับฟรีทันทีกระเป๋าสะพายลายเก๋  รายละเอียดเพิ่มเติมโทร 1631
ข่าวที่ 2 “ชมพิพิธภัณฑ์บ้านนักเขียนรอบพระบรมมหาราชวัง”

ขณะนี้ผู้คนหลั่งไหลไปรวมกันอยู่ในบริเวณรอบพื้นที่พระบรมมหาราชวัง ดังนั้นจึงจะแนะนำให้แวะไป “บ้านพิพิธภัณฑ์” ของนักเขียนแถวหน้าของเมืองไทย เลขที่ 170/17 หมู่ 17 ถ.ศาลาธรรมสพน์ ซอย 3  พร้อมเปิดประตูต้อนรับผู้มาเยือนทุก ๆ เสาร์-อาทิตย์ 10.00-17.00 . ค่าบัตรเข้าชมก็ไม่มากมายเท่าไร สำหรับผู้ใหญ่ 40 บาท และเด็ก 10 บาท เท่านั้น

บ้านพิพิธภัณฑ์ เป็นของ “เอนก นาวิกมูล” นักเขียนและนักวิชาการคนสำคัญของไทย ก่อตั้งขึ้นโดยรวบรวมของใช้ในชีวิตประจำวันจากยุคตั้งแต่ 40-50 ปีก่อน ทั้งของตัวเองและเพื่อนๆ มาจัดแสดงในอาคาร 3 ชั้น เป็นเสมือนเครื่องย้อนเวลา (time mechine ) ในการนักท่องเที่ยวที่แวะเวียนเข้าไปร่วมข้ามเวลาไปในอีกยุคหนึ่งได้อย่างไม่รู้ตัว

ภายในบริเวณบ้านพิพิธภัณฑ์มีของโบราณน่าสนใจเป็นจำนวนมาก ตั้งแต่ ตู้ เตียงป้ายโฆษณา แก้วน้ำ หนังสือเรียน ของเล่น ของที่ระลึก และอื่นๆ มากมาย แต่ละห้องจัดแสดงอย่างมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เช่น ร้านขายยา โรงหนัง ร้านทำฟัน ห้องเรียน ร้านกาแฟ  บรรดาวัยเก๋าทั้งหลายที่มีโอกาสได้เข้าไปชมบ้านพิพิธภัณฑ์ของ “อเนก นาวิกมูล” แล้วจะต้องหลงไหลได้ปลื้มอดที่จะยิ้มออกมาอย่างมีความสุขแน่ ๆ กับการได้ย้อนวันเวลาของตนเองไปด้วย
ข่าวที่ 3 “ห้ามพลาดชิม25เมนูอาหารถิ่น5ภาค23พ.ย.นี้

นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เชิญชวนประชาชนทั่วไปมาร่วมชิมอาหารถิ่นจากทั่วประเทศ 5 ภูมิภาค ในวันพุธที่ 23 พฤศจิกายน 2559 เวลา 10.00 น. ณ ควอเทียร์ วอเตอร์ การ์เด้นท์ ชั้น 5 ดิ เอ็มควอเทียร์ ด้วยการคัดสรร 25 เมนูเด็ด จาก 5 ภูมิภาค คือ

ภาคเหนือ ได้แก่ ข้าวซอย ขนมจีนน้ำเงี้ยว แกงฮังเล ลาบคั่ว น้ำพริกหนุ่มและไส้อั่ว

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ได้แก่ ซุบหน่อไม้ ไส้กรอกอีสาน แกงอ่อม ลาบเป็ด ไก่ย่าง

ภาคกลาง ได้แก่ น้ำพริกกะปิ หลน ปลาดุกผัดเผ็ด แกงฉู่ฉี่ แกงคั่ว

ภาคตะวันออก ได้แก่ หมูชะมวง ไก่บ้านต้มระกำ ปลากะพงทอดน้ำปลา เส้นจันท์ผัดปู น้ำพริกไข่

ภาคใต้ ได้แก่ แกงส้มปักษ์ใต้(แกงเหลือง) แกงไตปลา คั่วกลิ้ง ผัดสะตอ น้ำพริกกุ้งเสียบ

และ 6 เมนูอาหารไทยยอดนิยม จากโครงการ อะเมสซิ่ง ไทย เทสต์ (Amazing Thai Taste) ได้แก่ ผัดไทย ต้มข่าไก่ ต้มยำกุ้ง แกงมัสมั่น ส้มตำไทย และ แกงเขียวหวาน

ในงานจะพิธีมอบรางวัลแก่ผู้ชนะเลิศ เป็นใบประกาศรับรองมาตรฐานร้านอาหารในโครงการเสริมสร้างมาตรฐานอาหารถิ่น "สุขใจชวนกิน อาหารถิ่นต้องห้ามพลาด" การันตีรสชาติอร่อยเด็ดแบบดั้งเดิมและถูกสุขลักษณะด้วยใบรับรองมาตรฐานอาหารจาก ททท. ตุ๊กตาน้องสุขใจ (มาสคอต ประจำโครงการ) พร้อมสติ๊กเกอร์ตราสัญลักษณ์โครงการ
ข่าวที่ 4 “ทริสจัดอันดับเครดิตบางจากA-Stable

บริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) รายงานว่าล่าสุดเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2559  “ทริสเรทติ้ง” ได้จัดอันดับโดยเครดิตองค์กรและหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันของ ที่ระดับ “A” แนวโน้ม “Stable” หรือ คงที่โดยอันดับเครดิตดังกล่าวสะท้อนถึงพื้นฐานธุรกิจโรงกลั่นน้ำมันที่มั่นคง ตลอดจนความได้เปรียบจากการบูรณาการธุรกิจการตลาดกับธุรกิจโรงกลั่นน้ำมัน ตำแหน่งทางการตลาดของบริษัทที่ดีขึ้นในธุรกิจการตลาด และความสำเร็จในการขยายธุรกิจไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์

ซึ่งแนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” สะท้อนถึงคาดการณ์ที่บางจากจะสามารถดำรงสถานะทางการตลาดที่แข็งแกร่งในธุรกิจการตลาดเอาไว้ได้ ขณะที่การลงทุนโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์จะสร้างรายได้ต่อเนื่อง และจะช่วยลดความผันผวนของธุรกิจกลั่นน้ำมันและธุรกิจการตลาดลงได้บางส่วน
ข่าวที่ 5 4เทรนด์ไอทีสุดแรงแห่งการทำธุรกิจไมซ์”

สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ TCEB แนะนำผู้ประกอบการในไทยต้องรู้ลึกรู้จริงกับการนำเทคโนโลยีมาใช้พัฒนาในอุตสาหกรรมไมซ์ด้วยการใช้เครื่องมือใหม่ 4 เทรนด์มาแรงปี 2560

1.คิว อา ร์ โค้ด (QR Codes)  เป็นเครื่องสำคัญทางเทคโนโลยีที่จะทำให้ผู้เข้าร่วมงานและนักวางแผนอีเว้นท์ จัดการเรื่องการลงทะเบียนและเช็คอินได้ง่ายและรวดเร็วขึ้นอีกทั้งคิวอาร์ โค้ดยังใช้ในการเก็บข้อมูลได้ด้วย เช่นใช้บันทึกช่วงเวลาที่เข้าร่วมงาน หรือตรวจสอบการรับของที่ระลึกในงาน

2.การประชุมทางไกลผ่านจอภาพ( V i d e o Conferencing) ในโลกปัจจุบันและอนาคตบรรดาบริษัทข้ามชาติส่วนใหญ่นิยมใช้แอปพลิเคชัน “CitrixGoToMeeting” และ “Click Meeting” ในการจัดประชุมผ่านจอภาพ  

3.การบันทึกวิดีโอแบบ 360 องศาสามารถใช้บันทึกเนื้อหาแบบสดๆ ที่กำลังเกิดขึ้น (Live Action) และรับชมได้ทั้งแบบ 2 มิติและ 3 มิติด้วยอุปกรณ์ชนิดพิเศษ เช่น อุปกรณ์สวมศีรษะ ลักษณะคล้ายแว่นตาขนาดใหญ่ (Oculus Rift) ของเฟซบุ๊กทำให้ผู้ใส่สามารถเข้าไปมีปฏิสัมพันธ์ในโลกจำลองเสมือนจริงได้

4.แอปพลิเคชัน สำหรับการจัดงานอีเว้นท์การมีแอปพลิเคชันดีๆ ไว้ให้ผู้เข้าร่วมงานใช้กำลังได้รับความนิยมอย่างมากผู้เข้าร่วมงานสามารถดาวน์โหลดพรีเซนเทชั่นดูประวัติวิทยากร ติดต่อกับผู้เข้าร่วมงานท่านอื่นและทำการบันทึกข้อมูลต่างๆ ไว้ดูภายหลังได้ด้วย

 ข่าวที่ 6“แอร์เอเชียผนึกUNพลิกโฉมCSRชุมชน”

สายการบิน “ไทย แอร์เอเชีย” รายงานว่ากำลังพลิกโฉมการทำกลยุทธ์ใหม่ทางด้าน “การคืนประโยชน์จากธุรกิจสู่สังคม หรือ CSR ภายใต้ธีมคอนเซ็ปต์แคมเปญ “ เจอร์นีย์ ดี -Journey D” อันหมายถึงการพัฒนาสิ่งที่ดีในการเดินทาง โดยเฉพาะตามจุดหมายปลายทางในประเทศที่ ไทย แอร์ เอเชีย เปิดเส้นทางบินบริการ เพื่อส่งเสริมสนับสนุนการท่องเที่ยวของประเทศ เริ่มจากเดือนพฤศจิกายน 2559 โดยร่วมมือกับองค์การสหประชาชาติ (UN) คัดเลือกชุมชนเพื่อนำผู้ที่เกี่ยวข้องกับไปร่วมใช้ชีวิตเรียนรู้ชุมชนแล้วลงมือทำกิจกรรมซึ่งจะเกิดประโยชน์จริง  ๆ ต่อชุมชนนั้น ๆ  

ตัวอย่างเมื่อเร็ว ๆ นี้ได้นำ “ชาวเขาเผ่าอาข่า” ลงจากดอยผาหมี เชียงราย เดินทางเข้ากรุงเทพฯ เพื่อมากราบพระบรมศพพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศ  ซึ่งชาวเขาเผ่าอาข่านั้นตั้งถิ่นฐานอาศัยอยู่บนดอยผาหมีมาอย่างยาวนาน บริเวณใกล้เคียงกับดอยตุง จังหวัดเชียงราย ในอดีตเป็นพื้นที่ที่ในหลวงทรงเสด็จเยี่ยมเยือนและทรงมีพระราชดำริช่วยชาวอาข่าเปลี่ยนพื้นที่มาปลูกพืชเมืองหนาว กระทั่งทุกวันนี้ชาวเขาสามารถสร้างรายได้เลี้ยงตัวเองอย่างมีความสุขทุกครอบครัว

ในปี 2560 ชาวเขาเผ่าอาข่าบนดอยผาหมียังจะริเริ่มทำโครงการแหล่งท่องเที่ยวชุมชน เปิดบริการโฮมสเตย์ ด้วยการเน้นเรื่องการพัฒนาอย่างยั่งยืน

สำหรับชุมชนซีเอสอาร์ที่ ไทย แอร์เอเชีย จะเข้าไปร่วมส่งเสริมอย่างจริงจังโดยลงมือปฏิบัติด้วยในปี 2560 ก็นำร่องทำ ได้แก่  1.ภาคเหนือ หมู่บ้านชาวเขาเผ่าอาข่า ดอยผาหมี จ.เชียงราย 2.ภาคใต้ ชุมชนเกาะกลาง  จ.กระบี่ ซึ่งมีวิถีไทยพุทธ-มุสลิม ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันได้อย่างมีความสุข 3.ภาคอีสาน ชุมชนหมู่บ้าน รอบบริเวณปราสาทเมืองต่ำ จ.บุรีรัมย์

 ช่วงที่ 2 ของ เวลา 11.45 น. จะชวนไป 1 ใน 70 เส้นทางตามรอยพระบาท
 

@ลงใต้ไปศูนย์ฯอาชีพเกษตรกระบี่”

ลงใต้ไปฝั่งอันดามัน เพื่อเยี่ยมชม 1 ใน 70 เส้นทางตามรอยพระบาท กันที่ “ศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาอาชีพการเกษตรจังหวัดกระบี่ (พืชสวน) ชมพันธุ์ไม้หายาก”  สถานที่แห่งการ " มุ่งมั่นพัฒนา เพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้ และเป็นแหล่งให้บริการทางการเกษตร ด้านพืชสวน ที่มีคุณภาพ " เปิดให้เข้าชมฟรีตั้งแต่วันจันทร์-ศุกร์ เวลา 08.30-16.30 น.

หลายคนคิดว่าหากจะไปชมสวนไม้ดอกไม้ประดับระดับนานาชาติต้องนึกถึงภาคเหนือก่อนเสมอ ทว่าในภาคใต้ ก็มีแหล่งชมดอกไม้งามที่สมบูรณ์แบบไม่แพ้กัน นั่นคือ ศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาอาชีพการเกษตร (พืชสวน) ศูนย์กลางรวบรวมพันธุ์พืชท้องถิ่น ผลิตและขยายพันธุ์พืชสวน และ ใช้ทดสอบพันธุ์พืชในประเทศและต่างประเทศอีกด้วย

จากเดิมเคยเน้นการทำแปลงผักและเพาะพันธุ์มะพร้าว ต่อมาเมื่อสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ได้เสด็จฯ มาที่ศูนย์ฯ ทรงมีพระราชดำริให้ที่ศูนย์ฯหันมาเน้นการจัดทำแปลงปลูกพืชที่หายากหรือใกล้สูญพันธุ์ จึงเป็นที่มาของโครงการพันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจาก พระราชดำริ
 

มาถึงวันนี้ ความโดดเด่นของศูนย์ฯ ทำให้มีนักท่องเที่ยว แวะเวียนมาเยี่ยมชมอยู่เสมอ เพราะที่นี่มีแปลงกล้วยไม้พื้นเมืองมากถึง 113 สายพันธุ์ ต้นดอกหน้าวัวแปลกตา กว่า 60 สายพันธุ์ และบรรดาเหล่าดอกไม้เมืองร้อนมากมาย ก็ได้รับการเพาะปลูกและวิจัยที่นี่ ทั้ง เฮลิโคเนียหมากแดง ดาหลา ฯลฯ ทำให้กลุ่มคนรักดอกไม้ต้อง จดบันทึกให้เป็นสถานที่ห้ามพลาด และยังจัดจำหน่าย ให้แก่เกษตรกรและผู้ที่สนใจ

โปรแกรมตัวอย่าง 3 วัน 2 คืน เส้นทางท่องเที่ยว จ.กระบี่

 วันแรก ช่วงบ่าย เข้าชมศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาอาชีพการเกษตรจังหวัดกระบี่ (พืชสวน) ชมพันธุ์ไม้หายาก  เดินทางสู่บ้านหนองจิก ชมป่าพรุ ท่าปอม คลองสองน้ำ (Unseen in Thailand)
 

 วันที่สอง  ช่วงเช้า-บ่ายเดินทางสู่ถ้ำพระนาง ชมความมหัศจรรย์ของ ทะเลแหวก (Unseen in Thailand)

วันที่สาม ช่วงเช้า สัมผัสวิถีชีวิตเรียบง่ายของชุมชนเกาะกลาง ชุมชนอิสลามที่ส่วนใหญ่ทำอาชีพชาวประมง

สถานที่ท่องเที่ยวห้ามพลาด โรงเรือนทดสอบสาธิตการผลิตกล้วยไม้ เพื่อการค้าในภาคใต้ แปลงปลูกไม้ผล ทั้ง สละ มะพร้าวน้ำหอม ลำไย แก้วมังกร ทุเรียน มังคุด ลองกอง ฯลฯ แปลงรวบรวมและอนุรักษ์พืชสมุนไพร และผักพื้นบ้าน

กิจกรรมห้ามพลาด  ชมสาธิตการปลูกผักโดยไม่ใช้ดินฝึกกรีดยางพารา อีกหนึ่งอาชีพของคนใต้ที่ควรเรียนรู้
 

ศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาอาชีพการเกษตร (พืชสวน) 401 ม.1 ถ.เพชรเกษม ต.เขาคราม อ.เมือง จ. กระบี่  โทร. 0-7565-6388 www.aopdh10.doae.go.th       

 @แพทย์แนะผู้สูงวัยประเมินตนก่อนขับรถเอง

นพ.นริศ เจนวิริยะ ศัลยแพทย์เมืองไทย นำเรื่องราว อายุเท่าไหร่จึงไม่ควรขับรถ”  ในประเทศพัฒนาก็ไม่มีตัวเลขอายุที่ขีดเส้นแน่นอน ว่าอายุเท่าไหร่จึงควรและไม่ควรขับรถ เพราะความสามารถในการมองเห็นได้ยิน และตอบสนองต่อสิ่งเร้าแวดล้อมไม่เท่ากัน

สิ่งสำคัญสุดของ “ผู้สูงวัยในการขับรถเอง” คือการประเมินตัวเอง บางคนรู้ตัวเองว่ามีขีดจำกัดแค่ไหน ตามสถิติของสหรัฐฯ คนขับรถที่สูงอายุมีสถิติเกิดอุบัติเหตุปางตายต่อระยะทางเป็นไมล์ มากกว่ากลุ่มอื่น คนขับที่อายุมากกว่า 75ปี เกิดเหตุฝ่าฝืนกฎจราจรและอุบัติเหตุไม่ถึงตายมากกว่าคนหนุ่มสาว เขามีกฎเกณฑ์ในแต่ละมลรัฐแตกต่างกันในการออกใบอนุญาตขับรถ

เรื่องที่จะต้องประเมินตนเองคือ 1.เคยมีประวัติหกล้มง่ายบ้างไหม เป็นสิ่งเตือนล่วงหน้าของระบบประสาทและสมองเสื่อมลง 2.เคยมีอุบัติเหตุเล็กๆ หรือฝ่าฝืนกฎจราจรโดยไม่ได้ตั้งใจ เช่น ขับฝ่าไฟแดงบ้างไหม สายตาเป็นอย่างไร อ่านหนังสือตัวเล็กๆ ได้ไหม อ่านป้ายจราจรได้ดีแค่ไหน มีความสามารถทางร่างกายเป็นอย่างไร เดินเหินลุกนั่งคล่องตัวหรือไม่ 

3.กินยารักษาโรคประจำตัวอะไรบ้าง ที่มีผลข้างเคียงทำให้ง่วงซึมลดความสามารถในการขับรถ เช่น ยาแก้แพ้ ยากล่อมประสาท ยาต้านความเครียด ฯลฯ  4. มีโรคประจำตัวที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ไหม เช่น โรคลมชักหรือลมบ้าหมู โรคหัวใจขาดเลือดรุนแรงจนเกิดหัวใจวาย (heart attack) หรือหัวใจเต้นผิดปกติจนเกิดอัมพาต (stoke) เฉียบพลันขณะขับรถ

และถ้าไม่แน่ใจว่ายังมีความสามารถในการขับรถได้ดีหรือเปล่า ควรปรึกษาแพทย์ ซึ่งอาจจะช่วยซักประวัติ ตรวจร่างกาย ตรวจสายตา เพื่อหาโรคที่ทำให้การขับรถอันตรายต่อตัวเองและผู้อื่น
ฟังข่าวท้ายชั่วโมง

ข่าวแรก “วอนนายกตู่”แก้ทัวร์จีน0เหรียญให้ถูกวิธี”

 ผลพวงจากมาตรการปราบทัวร์จีนศูนย์เหรียญ ที่รัฐสั่งปิดเครือข่าย บริษัท โอเอ ทรานสปอร์ต จำกัด เมื่อต้นเดือนกันยายน 2559  เพียงกลุ่มเดียวกลายเป็นโดมิโนทำให้ “ตลาดทัวร์จีน” ซึ่งเป็นลูกค้ารายใหญ่ของไทยเขย่าโครงสร้างเศรษฐกิจในภาคอุตสาหกรรมท่องเที่ยวของประเทศสะเทือนทันที เมื่อภาคธุรกิจทั้งรายใหญ่ รายย่อย SMEs รายได้ลดลงต่อเนื่องจากนักท่องเที่ยวจีนหายฉับพลันทั้งที่เป็น ตลาดสำคัญ สร้างทั้ง จำนวนและรายได้ ตามที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาประกาศเป้าหมายจะมีนักท่องเที่ยวจีนเข้าไทยปี 2559 ถึงปีละ 10 ล้านคน นำรายได้เข้ามาปีละกว่า 500,000 ล้านบาท  

แต่พองัดมาตรการปราบทัวร์จีนศูนย์เหรียญขึ้นมาใช้สถานการณ์ที่กำลังอยู่ในช่วงขาขึ้นกลับตาลปัตรเป็นดิ่งลงเหว นักท่องเที่ยวจีนไหลไปเที่ยวประเทศอื่นแทนไทยทุกเดือน สิ่งที่ ผู้ประกอบการท่องเที่ยวทั้งรายใหญ่และรายย่อยของไทยต้องการในขณะนี้คือขอให้ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชานายกรัฐมนตรี เข้ามาคลี่คลายปัญหาร่วมกันกับทุกภาคส่วน โดยนำข้อมูลออกมากางแล้วยอมรับความจริงที่กำลังเกิดขึ้นกับประเทศ เพื่อนำไปสู่ ทางออก เรื่องลดความเสียหายทางเศรษฐกิจ เพราะไทยใช้เวลาพัฒนาตลาดจีนมา 4 ทศวรรษ กว่าจะขึ้นเป็นผู้นำเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

อีกทั้งตลอด 3 เดือนที่ผ่านมา รัฐบาลให้โอกาส “กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา” ในฐานะกระทรวง กำกับดูแลนโยบายลงมาแก้ไขปัญหาทัวร์จีนแล้ว แต่ก็ไม่สามารถคลี่คลายได้ทันต่อเหตุการณ์ ส่งผลให้ นักท่องเที่ยวจีนย้ายจากไทยหันไปเที่ยว เกาหลี ญี่ปุ่น ยุโรป ซึ่งทุ่มโฆษณา ประชาสัมพันธ์โดยใช้กลไกราคาประหยัดชิงนักท่องเที่ยวจีนกันอุตลุด

สายการบินนานาชาติของไทยและจีน รายการตรงกันว่า ช่วงฤดูท่องเที่ยวของประเทศไทยซึ่งเริ่มมาตั้งแต่ปลายเดือนตุลาคม 2559  นักท่องเที่ยวจีนมาไทยลดลงเฉลี่ยวันละไม่ต่ำกว่า 10,000 คน ลดต่อเนื่องมาตั้งแต่วันหยุดยาวของจีนเมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ทำให้ทุกกลุ่มธุรกิจตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ จากฐานรากไม่ว่าจะเป็นกลุ่มจำหน่ายสินค้าพื้นเมืองของกิน ของใช้ อาหาร แฟชั่น ผู้ประกอบการ SMEs บริษัทจัดนำเที่ยวรายย่อยกว่า 300 บริษัท ร้านอาหาร โรงแรม สายการบิน และธุรกิจอื่น ๆ เดือดร้อนกันถ้วนหน้า

นายเจริญ วังอนานนท์ นายกสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (แอตต้า) ดูแลสมาชิกบริษัทนำนักท่องเที่ยวต่างประเทศเข้าไทย ยอมรับว่าจำนวนทัวร์จีนเข้าไทยปี 2559 จะต่ำกว่าเป้าหมายถึง 500,000 คน ตามปกติหน่วยงานรัฐตั้งเป้าปีนี้ไว้ 10 ล้านคน อาจจะเหลือเพียง 9.5 ล้านคน ต่อเนื่องปี 2560 ก็จะต่ำกว่าเป้าหมายราว 1 ล้านคน ตามคาดการณ์เดิมจีนจะขยายตัวเพิ่มเข้ามาเที่ยวไทย 12-13 ล้านคน ก็อาจจะเหลือเพียง 11 ล้านคน

          นายชนะพันธ์ แก้วกล้าไชยวุฒิ อุปนายกและเลขาธิการสมาคมสมาคมผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวสัมพันธ์ไทย-จีน (ทีซีทีเอ) กล่าวย้ำมาตลอดว่า ทัวร์จีนศูนย์เหรียญเป็นเพียงศัพท์เรียกกันเอง จนกลายเป็นความเข้าใจผิด ๆ  ทั้งที่ความจริงแล้วชาวจีนเข้ามาเที่ยวเมืองไทยยังคงจ่ายเงินค่าบริการทุกอย่างตามปกติเหมือนกับนักท่องเที่ยวทุกชาติ ทั้งจ่ายค่าห้องพัก โรงแรม อาหาร บัตรเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยว ใช้จ่ายเงินช้อปปิ้งสินค้าไทยจำนวนมหาศาล สร้างรายได้เข้าประเทศมูลค่ารวมปีละหลายแสนล้านบาท

            ขณะที่ผู้ประกอบการขนาดกลางและย่อม (SMEs) ในกลุ่มผู้ประกอบการทัวร์จีนในไทยซึ่งมีกว่า 300 บริษัท ยังคงได้รับความเดือดร้อนมาจนถึงปัจจุบันนับจากเหตุการณ์จับกุม เครือข่าย บริษัท โอเอ ทรานสปอร์ต จำกัด เพราะเอกชนท่องเที่ยวรายย่อยขาดรถบัสหรือรถให้บริการนำเที่ยว ซึ่งเป็นเครื่องมือทำมาหากินหลักของการรับทัวร์เป็นหมู่คณะขนาดตั้งแต่ 30 คนขึ้นไป

            ส่วนโรงแรมในเมืองท่องเที่ยวยอดนิยม อย่าง พัทยา ชลบุรี ภูเก็ต  ซึ่งเป็นพื้นที่หลักของ นักท่องเที่ยวจีนเดินทางเข้าไปท่องเที่ยวปีละหลายคน และธุรกิจตามจังหวัดเมืองท่องเที่ยวรองแถบชายฝั่งทะเลอันดามันซึ่งเริ่มจะเป็นจุดหมายปลายทางใหม่ ๆ ของจีน ก็ต้องหยุดชะงักลงเช่นกัน

            นายสินไซย์ วัฒนศาสตร์สาธร นายกสมาคมท่องเที่ยวเมืองพัทยา กล่าวว่า ฤดูท่องเที่ยวหนาแน่นในเดือนตุลาคม 2559-เมษายน 2560 กลุ่มโรงแรมทั่วเมืองพัทยาระดับ 2-3 ดาว ได้รับผลกระทบ สาหัสสุด ๆ จากตลาดจีนหายไปจากไทยต่อเนื่องหลังมีมาตรการปราบปรามทัวร์จีนศูนย์เหรียญ เป็นผลมาจากนักท่องเที่ยวยกเลิกการจองตั๋วเครื่องบินตั้งแต่ช่วงแรกปลายเดือนกันยายน 70-80 %

          สอดคล้องกับที่ นางสาวอลิสา พันธุศักดิ์ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท ทิฟฟานี่โชว์ พัทยา จำกัด กล่าวว่า ในฐานะผู้ดำเนินธุรกิจโชว์การแสดงทิฟฟานี่ที่มีนักท่องเที่ยวจีนเข้ามาชมมากเป็นอันดับต้น ๆ โดนปัจจัยลบจากการปราบทัวร์ศูนย์เหรียญด้วยเช่นกัน เพราะทัวร์จีนทั้งกลุ่มเดินทางอิสระ (F.I.T.)และเป็นหมู่คณะ (G.I.T.) หายไปจากพัทยาไม่ต่ำกว่า 40 % และจนถึงขณะนี้ภาครัฐที่รับผิดชอบดูแลการแก้ไขปัญหายังไม่มีความชัดเจนใด ๆ ที่จะสร้างความเชื่อมั่นกับทั้งผู้ประกอบการคนไทยและจีน ดังนั้นบริษัทตัวแทนการขาย (agents) ซึ่งเป็นผู้ทำตลาดก็ขาดความมั่นใจว่าเมื่อเดินหน้าขายต่อไปจะเข้าข่ายกระทำผิดกฎหมายด้วยหรือไม่นั่นเอง

            ทางด้าน ไทยแอร์เอเชีย ซึ่งเปิดจุดบินบริการบินเข้าออกจีนมาไทยมากเป็นอับดับหนึ่งทั้งจากเมืองเศรษฐกิจหลักและเมืองรอง ระบุว่า ผลของการปราบทัวร์จีนศูนย์เหรียญของไทย ทำให้ยอดจองตั๋วโดยสารช่วงไตรมาส 4 ปี 2559 ลดลง ซึ่งมีสัญญาณชะลอตัวต่อเนื่องด้วยการยกเลิกตั๋วมาตั้งแต่เดือนกันยายนช่วงไทยเริ่มใช้มาตรการปราบปรามดังกล่าว

 อีกทั้งตัวแทนบริษัทนำเที่ยวบางส่วนที่จัดทัวร์จีนเดินทางมาเป็นหมู่คณะขนาดครั้งละ 100 คนขึ้นไป ยังยกเลิกการเช่าเหมาลำเครื่องบิน (Charter Fight) เพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ ทั้งที่ในฤดูท่องเที่ยวปลายปีของทุกปี หรือเทศกาลตรุษจีนตามปกติจะเป็นช่วงที่ประเทศไทยมีรายได้จากทัวร์จีนมากที่สุดก็ตาม  และมาตราการปราบทัวร์ศูนย์เหรียญจะกระทบต่อเนื่องไปเรื่อย ๆ ประเมินจากยอดจองซื้อตั๋วโดยสารไตรมาส 1 ปี 2560 ลดลงอย่างเห็นได้ชัด

ดร.นิตินัย ศิริสมรรถการ ผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ “ทอท”กล่าวว่า ช่วงตารางบินฤดูหนาวเริ่มตั้งแต่ปลายเดือนตุลาคม 2559 เป็นต้นมา นักท่องเที่ยวจีนลดลงจนทำให้ปริมาณการจราจรในสนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิและดอนเมืองเบาบางตามไปด้วย แต่ได้ตลาดรัสเซียเริ่มกลับเข้ามาแทนที่ หลังจากหายไปเกือบ 2 ปี สิ่งที่เป็นผลกระทบตามมาจากจีนลดน้อยลงคือยอดขายสินค้าไทย สินค้าปลอดอากร ร้านค้าจำหน่ายของที่ระลึก ร้านอาหาร และบริการอื่น ๆ ภายในสนามบินนานาชาติ เนื่องจากจีนเป็นนักช้อปที่นิยมซื้อของไทยมากกว่านักท่องเที่ยวยุโรปและชาวตะวันตก

คำยืนยันจากผู้ประกอบการทั้งอุตสาหกรรมท่องเที่ยวของประเทศ คือเสียงสะท้อนไปถึง “พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา” นายกรัฐมนตรี ถึงเวลาต้องลงมาแก้ปัญหาทัวร์จีนอย่างมืออาชีพก่อนที่เศรษฐกิจไทยจะพังเสียหายมากไปกว่านี้ ขณะที่เสาหลักการส่งออกก็ยังตีตื้นกลับมาไม่ได้

 ข่าวที่สอง “ททท.คุนหมิงนำสื่อจีนปลุกตลาดคุณภาพ”

การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานคุนหมิง รายงานว่าได้ร่วมมือกับไทยแอร์เอเชีย มีเที่ยวบินตรง ไป-กลับ เมืองหนานหนิง ท่าอากาศยานอู่ตะเภา (ไทย) สัปดาห์ละหลายเที่ยว  จึงจัดทริปนำสื่อมวลชนจากเมืองหนานหนิง มณฑลกว่างซี ประเทศจีน ทั้งสื่อ กว่างซีทีวี, กว่างซีเรดิโอ, China News, SINA.com เดินทางมาสัมผัสประสบการณ์วิถีไทยหรือ Local Experience เมื่อ 12 19 พฤศจิกายน 2559 เพื่อทดสอบสินค้าทางการท่องเที่ยวในภาคตะวันออก เส้นทางระยอง จันทบุรี พัทยา กรุงเทพฯ อาทิ ชุมชนริมน้ำจันทบูร โอเอซีส ซีเวิลด์ ศูนย์ศึกษาการพัฒนาอ่าวคุ้งกระเบน อันเนื่องมาจากพระราชดำริ จังหวัดจันทบุรี รวมทั้งนำเข้าร่วมลอยกระทงเรียนรู้ประเพณีที่งดงามของไทยด้วย  เพื่อนำไปเผยแพร่ในจีนกระตุ้นตลาดคุณภาพและกลุ่มเป้าหมายให้กลับมาเที่ยวเมืองไทยเพิ่มขึ้นในปี 2560
 
พบกับสาระข่าวดี ๆ ได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 11.00-12.00 น.
ดำเนินรายการโดย...เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน

ติดตามฟังรายการย้อนหลังเข้าไปที่ www.google.com พิมพ์คำว่า รวยด้วยข่าว97.0 หรือทาง www.facebook.com/rauydauykhao, www.facebook.com/penroong yaisamsen , www.googleplus.com/penroong
เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน
คอลัมนิสต์-บล็อกเกอร์การบิน/ท่องเที่ยว และผู้เดำนินรายการ สวท.FM 97.0MHz
 

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ททท.คุนหมิงดึงจีน3มณฑลเที่ยวไทยทางบก4ด่านเงินสะพัด

ททท.ปั๊มทัวร์จีนคุนหมิงแบบโอเวอร์แลนด์เงินสะพัดไทย 4 ด่าน ส.ค. 66- ปี ’67 กระหน่ำขาย “ New Ways to Amazing to Thailand” ล็อกเป้าจีน 4 ตลาดใช้จ่ายแสนบาท/ทริป-ดันอีสานอู้ฟู่ 20 จังหวัด ช้อป!!ของขวัญวันแม่ที่คิงเพาเวอร์ลด20%- Firster9 หมื่นไอเท็ม ฉลองวันแม่!พูลแมนคิงเพาเวอร์จัดบุฟเฟต์พรีเมี่ยมกลางวัน/ค่ำ กินฟินที่คิงเพาเวอร์มหานคร-รร.เดอะสแตนดาร์ดตลอดส.ค. 66 ททท.จัดแข่งผัดกะเพราโลก“ World Kaphrao 2023”ชิงเงินล้าน กลุ่มบริษัทบางจากโชว์ครึ่งปีแรก66กวาดรายได้1.48 แสนล้าน TCEB บุกจีนจัด Thailand MICE in China 2023 โกยไมซ์ 990 ล้าน เที่ยววันแม่ใกล้กรุงได้ที่อุทยานเบญจสิริ/ดรีมเวิลด์/สวนนงนุช เคล็ดลับ!!การรักษาแผลให้หายไวด้วยขั้นตอนง่ายๆทำได้เอง บินไทยฟื้นเร็ว!!ครึ่งแรกปี’66กำไร329%พกเงินสด5.1หมื่นล้าน เปิดขายแล้ว!!บัตรชม“โขน”สุดยิ่งใหญ่แห่งดูได้ 5 พ.ย.- 5 ธ.ค. 66   วันเสาร์ที่ 12 สิงหาคม 2566 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97.0 และอ

TCEB นำงานวิจัยMICE for Sightแนะธุรกิจปรับตัวรับไมซ์10ปีหน้า

  นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) "TCEB" “ TCEB ”เปิดคัมภีร์ MICE for Sight ปลุกไมซ์จัดทัพใหม่ 10 ปีหน้า รับมือ Gen Z ผงาดผู้ทรงอิทธิพลไมซ์โลกเขย่าตลาดครั้งใหญ่ ปี 67 เร่งโกย 1.4 แสนล้านโหมซอฟท์เพาเวอร์/ไมซ์ซิตี้/ไมซ์ชุมชน รีบช้อป!!คิงเพาเวอร์เป็นไปได้5รายการรางวัลสูงสุดกว่า 4 ล้าน ด่วน 4 วันสุดท้าย!คิงเพาเวอร์อัดโปร SurpriseOnlineSale ลด 50% คิงเพาเวอร์ช้อปวนไปแจกทันที 3 ฟรี คูปอง/ตั๋ว/รถยนต์ LEXUS ท่องเที่ยวรุกเจรจาธุรกิจ TEJ 2023ฉลุย300นัดโกยญี่ปุ่น9ตลาด บางจาก-กรุงไทยเปิดแอปเป๋าตังจองซื้อหุ้นกู้ดิทัลดีเดย์ 30 ต.ค. เที่ยวประจวบนอนแคมป์ทะเลหมอกบ้านป่าหมาก-วิ่งปราณบุรี บินไทยโชว์ยูนิฟอร์มใหม่ลูกเรือแฟชั่นผ้าลดโลกร้อนเริ่ม1ม.ค.67 คาเธ่ย์ กรุ๊ปทุ่มลงทุนฝูงบินใหม่ A 320 neo เพิ่ม32ลำบินจีน/เอเชีย   วันเสาร์ที่  28 ตุลาคม 2566 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97

ททท.ภาคเหนือ7เดือนปี66โกยแล้ว1.08แสนล้าน

นางสาวภัทรอนงค์ ณ เชียงใหม่ ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคเหนือ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)  ททท.ภาคเหนืออู้ฟู่ 7 เดือนแรกโกยได้แล้ว 1 แสนล้าน ต.ค.-ธ.ค. 66 ลุยขายเที่ยวไฮซีซัน 4 เทรนด์ใหม่มาแรง นำ The Link จับคู่ทัวร์ข้ามภาคสำเร็จ 3 เส้นทางสุดฮ็อต คิง เพาเวอร์แจกมันส์แจกฟินที่รางน้ำเสาร์16ก.ย.นี้ ช้อป KingPowerOnline รับแบบไม่ยั้ง2สุดคุ้มถึง24ก.ย. ช้อป DUTY FREE SALE นำบิวตี้แบรนด์โลกมาเต็ม ททท.ใช้ฟรีวีซ่าปั๊ม1.4แสนล้านชาเตอร์จีนเฮเข้าไทย บางจากโชว์อุตฯไทย-ไต้หวันชูนวัตกรรมธุรกิจสีเขียว TCEB ผนึก EECAutoPark หนุนไมซ์เอ็กซิบิชั่นอินเตอร์ เที่ยว Unseen “พิพิธภัณฑ์ป่าสัก-วัดขุนอิน-วัดปัญญา” 4วิธี“ปิดล้างเลี่ยงหยุด”ป้องกันไข้หวัดใหญ่ทุกพันธุ์ “สุดาวรรณ”รมว.ใหม่ท่องเที่ยวดึงต่างชาติ40ล้านคน กพท.-สมาคมแอร์ไลน์สไทยแบไต๋ตั๋วบินราคาแพง วันเสาร์ที่ 16 กันยายน 2566 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyai