ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

ถนนข้าวสารพลิกโฉมปี'60-Tourism Awardsเปิดสมัครแล้ว-ศูนย์ศึกษาพัฒนาภูพาน



พลิกโฉมธุรกิจถนนข้าวสารรับโลว์คอสต์โลก

ปี’60ชูขายถิ่นโอลด์ทาวน์“วิถีวัฒนธรรมไทย”

มุ่งหน้าสู่อีสานเยือนศูนย์ภูพานของพ่อหลวง

สวัสดีเช้าวันอาทิตย์ที่ 2559  เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย” FM 97.0 MHz.ในรายการ รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์กับข่าวความเคลื่อนไหวในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศ

ช่วงแรกเวลา 11.15 น.


สง่า เรืองวัฒนกุล
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บัดดี้ กรุ๊ป
และที่ปรึกษานายกสมาคมผู้ประกอบการถนนข้าวสาร

“นายสง่า เรืองวัฒนกุล” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บัดดี้ กรุ๊ป และที่ปรึกษานายกสมาคมผู้ประกอบการถนนข้าวสาร จะมาสะท้อนแนวทางการประกอบธุรกิจบนถนนข้าวสารที่จะพลิกโฉมให้สอดคล้องกับสถานการณ์บ้านเมืองด้วยการนำ “วิถีวัฒนธรรมไทย” มาแสดงให้ทั่วโลกดื่มด่ำคุณค่าอันงดงาม

เริ่มต้นจากข้อมูล “คาดการณ์ความเคลื่อนไหวของนักท่องเที่ยวต่างชาติ” ตลอด 2 เดือนก่อนสิ้นปี 2559 ระหว่างพฤศจิกายน-ธันวาคม นี้ นักท่องเที่ยวต่างชาติเริ่มกลับมาแล้วเห็นได้จากการจองห้องพักล่วงหน้าช่วงพฤศจิกายนมีถึง 90 % ขณะนี้การจองช่วงเดือนธันวาคมมีเข้ามาแล้วประมาณ 50-60 % ด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่ทำให้นักท่องเที่ยวทั่วโลกตัดสินใจได้เร็วขึ้นแล้วซื้อผ่านออนไลน์ ภาพรวมช่วงฤดูท่องเที่ยวปีนี้ต่อเนื่องถึงปี 2560 จึงน่าจะเกิน 90 %

ส่วนการจัดกิจกรรม เดิมเคยคิดจะทำธีม “ฮาโลวีน” ก็ยกเลิกไป ส่วนเทศกาลลอยกระทงก็จัดแบบเรียบง่าย ขณะนี้ทางสมาคมฯ กำลังขออนุมัติจากผู้อำนวยการเขตพระนครจัดกิจกรรมช่วง “เคาน์ดาวน์” ซึ่งเป็นฤดูที่ชาวยุโรปหนีหนาวมาอยู่ถนนข้าวสารจำนวนมาก จึงขอเปลี่ยนจากกิจกรรมแสงเสียงดนตรีบันเทิงทำเป็น “วิถีวัฒนธรรมการแสดงไทย” ไฮไลต์คือ มวยไทย และวัฒนธรรมต่าง ๆ เช่น รำไทย โชว์รำกระบี่กระบอง ปิดท้ายด้วยวงออเคสต้าเพลงพระราชนิพนธ์ หักมุมตอนเคาน์ดาวน์ของช่วงค่ำคืนก่อนเข้าสู่วันใหม่ สถานที่จัดงานจะอยู่บริเวณที่ใช้เป็นประจำทุกปีตรงใกล้สี่แยกคอกวัวเชื่อมต่อมายังถนนข้าวสาร

ตามขั้นตอนเมื่อทางเขตกรุงเทพมหานครอนุมัติให้จัดตามหนังสือที่ขอนุญาตไป ทางสมาคมผู้ประกอบการถนนข้าวสาร ซึ่งมีทั้งโรงแรม ร้านอาหาร ร้านรวงต่าง ๆ ก็จะพร้อมใจกันทำแพกเกจและราคาที่เหมาะสมขายผ่านออนไลน์ไปยังนักท่องเที่ยวทั่วโลกทันที

สำหรับช่วงวันเคาน์ดาวน์-ส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ จะมีคนไทยอยู่บ้างแต่จำนวนไม่มาก ที่มีมากคือยุโรปกับนักท่องเที่ยวจีนกลุ่มเดินทางอิสระ (FIT) ซึ่งเป็นภาพลักษณ์ที่ดีในการจะผสมผสานทั้งคนไทย ยุโรป เอเชีย สร้างผลบวกต่อเศรษฐกิจปลายปี

ขณะที่สถานการณ์ในช่วงเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ประเทศไทยได้แสดงถวายความอาลัย ดังนั้นทางผู้ประกอบการถนนข้าวสารก็น้อมรับปรับกิจกรรมให้สอดคล้องกับสถานการณ์อย่างเต็มที่ เพิ่งจะเริ่มทยอยจัดดนตรีสดบ้าง ทำให้นักท่องเที่ยวกลับมาบ้างแล้ว หลังจากที่ช่วงเดือนตุลาคมนักท่องเที่ยวต่างชาติไปเที่ยวต่างจังหวัดแทน เดือนพฤศจิกายนเริ่มปกติแล้ว ส่วนคนไทยยังถวายความอาลัยกันอยู่ และยังไม่ค่อยจะออกมาเที่ยวหรือดื่มกิน จึงทำให้คนไทยลดน้อยลงไปบ้าง แต่ชาวต่างชาติเริ่มเข้าสู่ฤดูเดินทางเพิ่มขึ้น

ในการออกแบบโปรโมตจุดขายที่ให้สอดคล้องกับพื้นที่รอบเกาะรัตนโกสินทร์ซึ่งเป็นพื้นที่ OLD TOWN เป็นจุดขายของเขตพระนคร รวมทั้งเป็นจุดแข็งที่สร้างความได้เปรียบให้ถนนข้าวสารด้วย คือ “ราคาห้องพัก” หลากหลายมีให้เลือกตั้งแต่ 200 บาท/ห้อง/คืน ไปจนถึงเกือบ 3,000 บาท/ห้อง/คืน อีกทั้งยังมีห้องพักจำนวนรวมกว่า 8,000 ห้อง สามารถรองรับนักท่องเที่ยวทั้งกลุ่มระดับล่าง-กลาง-บน ผนวกกับการอำนวยความสะดวกเข้าถึงได้ง่ายอย่างปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน จึงทำให้ได้รับความนิยมจากทั่วโลกเสมอมา

และเรื่องการแข่งขันผู้ประกอบการถนนข้าวสารจะเน้นการพูดคุยขายเป็นทีมไม่ตัดราคากัน เพราะจำนวนนักท่องเที่ยวในช่วงฤดูเดินทางหนาแน่น จึงไม่ควรทำลายโครงสร้างตลาดอย่างไม่ถูกวิธีทำธุรกิจ ในช่วงไฮซีซันในเขตพระนครน่าจะมีอัตราเข้าพักเฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 80 % สิ่งที่สมาคมผู้ประกอบการถนนข้าวสารร่วมมือกันคือ สร้างสรรค์การจัดทำธีมให้ถนนข้าวสารมีเอกลัษณ์โดดเด่นในสายตานักท่องเที่ยว

ทั้งนี้ปี 2559 ตัวเลขการเข้าพักของนักท่องเที่ยวบริเวณถนนข้าวสารเติบโตสวนทางกับหลายพื้นที่ เพราะนักท่องเที่ยวโลว์คอสต์ที่นิยมพักห้องที่มีราคาให้เลือกหลากหลายตั้งแต่ 200 บาท/ห้อง/คืน ก็ยังนิยมเดินทางเข้ามาเพิ่มขึ้น ค่าเฉลี่ยรายได้ที่หมุนเวียนภายในบริเวณข้าวสารเงินสะพัดวันละรวม ๆ ประมาณ50 ล้านบาทขึ้นไป

ธีมคอนเซ็ปต์ของถนนข้าวสาร ปี 2560 จะมุ่งสู่เส้นทางพัฒนา “การแสดงวัฒนธรรมไทย” โดยวางแผนจัดอีเวนต์เพิ่มมากขึ้น รณรงค์ให้นักท่องเที่ยวตื่นตัวคำนึงถึงการดูแลรักษาธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ไม่ใช่กล่องโฟม พลาสติก หรือภาชนะที่เป็นพิษต่อสิ่งแวดล้อม รวมทั้งทำให้เป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวเขตพระนครที่มีธีมด้านวัฒนธรรมเข้ามานำจุดขาย รองรับนักท่องเที่ยวรุ่นใหม่วัยรุ่นต่างชาติหลายประเทศนิยมมาเล่นสงกรานต์ในถนนข้าวสารมากขึ้นอย่างน่าสนใจ ส่งสัญญาณส่วนหนึ่งถึง “กลุ่มตลาดคุณภาพ” เจนเอ็กซ์และวาย

แต่ถ้าเปรียบเทียบเรื่อง “กำลังการซื้อ” ระหว่างถนนข้าวสาร กับบริเวณย่านถนนสีลมและสุขุมวิท แล้ว จะต่างกันอยู่พอสมควร เพราะนักท่องเที่ยวที่มาแถวถนนข้าวสารมีเงินเพียงหลักร้อยบาทก็สามารถอยู่ได้ แตกต่างจากสีลม สุขุมวิท นักท่องเที่ยวอาจจะไม่กล้าใช้จ่ายเงินมาก แต่ถนนข้าวสารนักท่องเที่ยวจ่ายเต็มที่ไม่ว่าจะเป็นเที่ยวกิน ดื่ม และ ซื้อของที่ระลึก เป็นของฝากกลับไปบ้านด้วย

ธุรกิจการท่องเที่ยวยุคใหม่บน “ถนนข้าวสาร” ในปีพุทธศักราช 2560 จะก้าวเข้าสู่มิติย้อน “วิถีวัฒนธรรมไทย” ผสมผสานกลิ่นอายความเป็น Old Town แห่งเขตพระนคร ที่โดดเด่นแตกต่างไปจากเดิมซึ่งมีภาพลักษณ์เป็นแหล่งบันเทิงกิน เที่ยว ดื่ม และสีสันความสนุกสนานเพียงอย่างเดียว ส่วน “ราคา-ค่าครองชีพ” ก็ยังคงเหมาะกับนักท่องเที่ยวตลาดกลุ่มประหยัดค่าใช้จ่ายเจนเอ็กซ์และวายนั่นเอง

 จากนั้นมาฟังข่าวช่วงแรก

ข่าวที่ 1 “คิงเพาเวอร์ช่วยเศรษฐกิจไทยทุกช่องทาง”

นายสมบัตร เดชาพานิชกุล รองประธานกรรมการบริหาร กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์  เปิดเผยว่าในฐานะที่คิง เพาเวอร์ เป็นผู้บุกเบิกธุรกิจร้านค้าปลอดอากรในประเทศไทย ได้ปฏิบัติตามระเบียบกติกาอย่างถูกต้องมาตลอด 27 ปี ขอย้ำถึงขายสินค้าปลอดอากรได้ทำอย่างถูกต้องมาโดยตลอด โดยเฉพาะเรื่อง Point of Sale-POS หรือก็คือเครื่องบันทึกการเก็บเงินลักษณะหนึ่งนั่นเอง  ซึ่งบริษัทคิง เพาเวอร์ ขอยืนยันและสามารถตรวจสอบได้นับแต่วันที่ร้านแต่ละร้านเปิดจำหน่ายสินค้าปลอดอากร อีกทั้งเรื่องดังกล่าวเป็นระเบียบของกรมสรรพากรที่จะต้องปฏิบัติ หากไม่มีเครื่อง POS ร้านค้าจะไม่สามารถจำหน่ายสินค้าได้และจะมีความผิดตามกฎหมายทันที นอกจากนั้นเครื่อง POS ที่ใช้ก็ต้องขึ้นทะเบียนไว้กับกรมสรรพากรด้วย ซึ่งเป็นเรื่องปกติที่ผู้ประกอบการค้าปลีกทราบกันดีถึงวิธีปฏิบัติตามระเบียบให้ถูกต้อง รวมถึงคิง เพาเวอร์ ด้วย จึงไม่มีเหตุให้ต้องเกิดความเสียหายตามที่มีผู้ประเมินขึ้นเองบางคนกล่าวอ้างถึงเหตุดังกล่าวจะทำให้รัฐเสียหาย 40,000 ล้านบาท

สำหรับกลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์  ได้รับคัดเลือกให้เข้าร่วมพัฒนาผลิตภัณฑ์สินค้าโอท็อปมาตลอดกว่า 15 ปีที่ผ่านมา โดยร่วมกับ “กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์” ริเริ่มคัดเลือกและพัฒนาผลิตภัณฑ์โอท็อปชุมชนนำมาวางจำหน่ายในร้านค้าดิวตี้ฟรี คิง เพาเวอร์ ทุกสาขา ทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด มีสินค้าโอท็อปที่ได้รับความนิยมมากเป็นอันดับต้น ๆ ซึ่งสามารถสร้างฐานรากเศรษฐกิจชุมชนได้เติบโตต่อเนื่องเป็นอย่างดีมาจนถึงปัจจุบัน ได้แก่ อาหารและผลไม้แปรรูปที่มีดีไซน์บรรจุภัณฑ์สวยงามและเรื่องราวคุณค่าทางโภชนาการ ปัจจุบันคิง เพาเวอร์ ช่วยผู้ผลิตสินค้าโอท็อปแบรนด์ไทยจำหน่ายสินค้าได้ปีละกว่า 10,000 ล้านบาท คิดเป็น 10-15 % ของยอดขายรวมแต่ละปี

อีกทั้งกลุ่มคิง เพาเวอร์ ยังเป็นเอกชน 1 ใน 33 องค์กรสนับสนุนโครงการ “ประชารัฐ รักสามัคคี” มีหน้าที่ทำภารกิจหลัก ๆ ช่วยเผยแพร่ประชาสัมพันธ์แนะนำผลิตภัณฑ์ให้นักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามายังประเทศไทยได้รับรู้ถึงการเลือกของสินค้าแต่ละชนิดในแต่ละฤดูกาล เช่น การเลือกบริโภคผลไม้ไทยตามเทศกาลในแต่ละเดือน

และเข้าร่วมโครงการ “โอท็อปประชารัฐ” ของกรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย นำร่องพิมพ์แคตตาล็อกสินค้าโอท็อปขึ้นไปจำหน่ายบนเครื่องของการบินไทย (duty free onbroad) เริ่มมาตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2559 ส่วนใหญ่เป็นสินค้าหัตถกรรม หัตถศิลป์ ประเภทเครื่องประดับ และแฟชั่น ระยะแรก ๆ ช่วยโอท็อปทำยอดขายได้เดือนละเกือบ 1 ล้านบาท

สำหรับในสนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิ คิง เพาเวอร์ ได้นำสินค้าที่ผ่านการคัดเลือกมาวางขายในร้านโอท็อปขนาดใหญ่ตั้งอยู่บริเวณหัวท้ายสนามบินฯ 2 พื้นที่หลัก และยังได้ให้ “บริการส่งมอบสินค้า ณ ร้านโอท็อปในสนามบิน” ที่คิง เพาเวอร์ ได้สัมปทานสิทธิ์บริหารพื้นที่เชิงพาณิชย์ กิจกรรมดังกล่าวคิงเพาเวอร์ร่วมมือกับ บริษัท มอลล์ (ไทยแลนด์) จำกัด หนึ่งในภาคีเครือข่ายโครงการ “โอท็อปประชารัฐ” ซึ่งรับผิดชอบการขายผ่านออนไลน์ www.thailandmall.com และกระจายสินค้าจัดส่งให้ผู้ซื้อทั้งใน และต่างประเทศ

“คิง เพาเวอร์” มีความมุ่งมั่นและดำเนินธุรกิจอย่างถูกต้องตรงไปตรงมาเพื่อช่วยเครือข่ายธุรกิจสินค้าไทยเติบโตในตลาดโลกไปด้วยกัน เพื่อความมั่งคั่ง มั่นคง ของเศรษฐกิจไทยทั้งระดับฐานรากและประเทศอย่างยั่งยืน

 

ข่าวที่ 2 “มุมใหม่ในท่าเตียนที่เดอะเด็ค”

การท่องเที่ยวในพื้นที่รอบเกาะรัตนโกสินทร์และพื้นที่รอบพระบรมมหาราชวัง มีหลายมุมให้เลือก สำหรับ “The Deck ตรงซอยประตูนกยูง ก็เป็นอีกไลฟ์สไตล์เป็นมากกว่าที่นั่งรับประทานอาหารไทยและอาหารคอมฟอร์ทฟู้ดสไตล์ตะวันตก ทว่ายังมีกลิ่นอายโอลด์ทาวน์ริมเจ้าพระยาและวิววัดแจ้ง ผสมผสานด้วยบริการบาร์เครื่องดื่ม Amorosa ในแบบชิโน-โปตุกีส มีค็อกเทลให้จิบเติมความสดชื่น ภายในมีพื้นที่รองรับได้ราว 20 ที่นั่ง เปิดบริการจันทร์-พฤหัส 11.00-22.00น. วันศุกร์-เสาร์ 11.00-23.00 น.

ส่วน “ราคาอาหาร” เลือกได้ตามกำลังทรัพย์มีตั้งแต่หลักร้อยขึ้นไป เมนูยอดนิยม เช่น ยำส้มโอกับกุ้ง ไก่ผัดเม็ดมะม่วงหิมพานต์ ปลากระพงแดงผัดเปรี้ยวหวาน แกงเขียวหวานกุ้งแม่น้ำ สนนราคาแต่ละจาน 200-300 บาท ถ้าจะไปโทรจองที่นั่งไว้ก่อนก็ยิ่งดีที่ 02-221-9158

 ข่าวที่ 3 “ชวน5สาขาท่องเที่ยวชิงTourism Awards2560

การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ประกาศเชิญชวนองค์กร หน่วยงานและผู้ประกอบการในแวดวงอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยร่วมส่งผลงานด้านการท่องเที่ยวเข้าประกวด รางวัลอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย ครั้งที่ 11 ประจำปี 2560 (Thailand Tourism Awards) เปิดรับสมัครผลงานวันนี้-16 ธันวาคม 2559 ดาวน์โหลดใบสมัครที่ http://tourismawards.tourismthailand.org

รางวัลอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย รางวัลอันทรงคุณค่าที่จะมอบให้กับแหล่งท่องเที่ยว สถานประกอบการ ชุมชน หน่วยงานและองค์กรที่มีคุณภาพ รับผิดชอบต่อสังคมและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม แบ่งการประกวดออกเป็น 5 ประเภท ได้แก่

1.ประเภทองค์กรสนับสนุนและส่งเสริมการท่องเที่ยว 2. ประเภทรายการนำเที่ยว 3. ประเภทที่พักนักท่องเที่ยว 4. ประเภทแหล่งท่องเที่ยว 5. ประเภทการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ

 ข่าวที่ 4 “สมาชิกบางจากพักสปริงฟิลด์ได้ลดอื้อ”

บริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) มอบความพิเศษให้กับสมาชิกบัตรแก๊สโซฮอล์และดีเซลคลับ ใช้สิทธิเข้าพัก “โรงแรม สปริงฟิลด์ วิลเลจ กอล์ฟ แอนด์ สปา”  ระหว่างวันนี้-31 ธันวาคม 2559 รับไปเลยส่วนลดห้องพัก 40% จากราคามาตรฐานรวมอาหารเช้า 2 – 4 คน ตามประเภทห้อง  และลดค่าอาหารแต่ละห้องอาหารได้ถึง 10%  

             สำหรับ โรงแรม สปริงฟิลด์ วิลเลจ กอล์ฟ แอนด์ สปา” เป็นบริการห้องพักหรูหรา มีร้านอาหารและเครื่องดื่มให้เลือกถึง 4 แห่ง สระว่ายน้ำกลางแจ้ง 2 แห่ง ที่จอดรถฟรี และบริการรถรับส่งไปยังหัวหินไนท์มาร์เก็ต ส่วนที่พักมีให้เลือกทั้ง ห้องดีลักซ์ ห้องสวีท และคอทเทจ พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกตามมาตรฐานสากล และมีสนามกอล์ฟแชมเปี้ยนชิพขนาด 27 หลุมและสนามไดร์ฟกอล์ฟ มีบริการนวดบำบัด และทรีทเมนต์สำหรับผิวหน้าและเรือนร่าง คลาสแอโรบิกและโยคะ เบอร์โทรสอบถามที่  032-709222 หรือเข้าไปดูใน www.springfieldresort.com/village/
 
ข่าวที่ 5 “ไทยตีปีกรับไมซ์งานSITE90ประเทศปี62

นายนพรัตน์ เมธาวีกุลชัย ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ TCEB เปิดเผยว่า หลังจากทีเส็บคว้าชัยให้ไทยเป็นประเทศเจ้าภาพจัดงาน “SITE Global Conference 2019” ซึ่งเป็นงานประชุมประจำปีของ สมาคม Society for Incentive Travel Excellence หรือ SITE เป็นงานเกี่ยวกับธุรกิจการท่องเที่ยวเพื่อเป็นรางวัล (Incentive) ที่จะมีสมาชิกเป็นผู้ประกอบธุรกิจอินเซ็นทีฟรวมกว่า 90 ประเทศ จำนวนกว่า 2,000 คน ที่จะเดินทางมาร่วมงานนี้ในเมืองไทย ส่วนใหญ่จะเป็นสมาชิกที่อยู่ในสหรัฐอเมริกา ยุโรป และเอเชีย ตามลำดับ อาทิ โรงแรม บริษัทนำเที่ยว ผู้จัดการประชุม (Meeting Planner / Organizer) เรือสำราญ องค์กรส่งเสริมการท่องเที่ยว (Tourism Board) องค์กรส่งเสริมการประชุม (CVB) และ Incentive House

ประเทศไทยที่ได้รับสิทธิ์เป็นเจ้าภาพการจัดงานนี้ คาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมประชุมซึ่งเป็นสมาชิกจากทั่วโลกประมาณ 400 รายรูปแบบการจัดงาน ที่จะเกิดขึ้นในประเทศไทยปี พ.ศ.2562 ได้แก่ การประชุมคณะกรรมการ การประชุมสาขาและสมาชิกประจำปี พร้อมด้วยการถ่ายทอดองค์ความรู้ผ่านการสัมมนาทางวิชาการ 2 วัน และมีกิจกรรมสร้างเครือข่ายสมาชิก พร้อมด้วยทัศนศึกษาสถานที่จัดงานไมซ์ของไทย อาทิ ศูนย์การประชุม โรงแรม และสถานที่ท่องเที่ยว ซึ่งจะช่วยทำให้เศรษฐกิจไทยเติบโตด้วยอุตสาหกรรมไมซ์อย่างเข้มแข็งยั่งยืน

 ข่าวที่ 6 “เลือกปุ๊บลุ้นรับตั๋วฟรีเที่ยวเกาหลี”

แคมเปญร้อนแรงของ ไทย แอร์ เอเชีย “เลือกที่นั่งปุ๊บ ลุ้นรับบินฟรีเกาหลี” ระหว่างวันนี้-14 มีนาคม 2560 เพียงจองตั๋วโดยสารและจองบริการที่นั่ง (Pick A-Seat) มีสิทธิ์ลุ้นตั๋วบินฟรีไป-กลับ ดอนเมือง-กรุงโซล 2 ที่นั่ง พร้อม Hot Seat ฟรี และรางวัลย่อย Air Asia Big Points อีกกว่า 500,000 คะแนน ดูรายละเอียดเพิ่มที่ www.airasia.com
ช่วงที่ 2 เวลา 11.45 น.มุ่งหน้าสู่ภาคอีสานไปชม “ศูนย์ศึกษาการพัฒนาภูพาน” สกลนคร

@ทัวร์เกษตรเชิงนิเวศน์ศูนย์ฯภูพาน สกลนคร
 

โปรแกรมตามรอยพระบาททริปนี้ แนะนำให้มุ่งหน้าไปอีสาน ณ “ศูนย์ศึกษาการพัฒนาภูพาน อันเนื่องมาจากพระราชดำริ”  บ้านนานกเค้า ต.ห้วยยาง อ.เมือง จ.สกลนคร  ที่ได้ชื่อว่าเป็นพื้นที่ " สร้างงานและพื้นฐานอาชีพให้ ชาวภูพาน มีคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างยั่งยืน และเป็นแหล่งท่องเที่ยว เชิงเกษตรกรรม เพื่อการเรียนรู้ " สามารถเที่ยวได้ตลอดทั้งปี เปิดให้เข้าชมได้วันจันทร์-ศุกร์ 08.30-16.30 น.

จุดหมายของนักท่องเที่ยวที่มาเยือนสกลนคร ย่อมหลีก ไม่พ้นการมาสูดไอดินกลิ่นธรรมชาติที่อุทยานแห่งชาติ ภูพาน แต่สำหรับแหล่งท่องเที่ยวอีกหนึ่งแห่ง ที่เหมาะแก่การเรียนรู้วิถีพอเพียงตามพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในเขตอำเภอเดียวกันคือ “ศูนย์ศึกษาการพัฒนาภูพาน อันเนื่องมาจากพระราชดำริ”

ในปี พ.ศ. 2525พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระราชดำริให้จัดตั้งศูนย์ศึกษาการพัฒนาภูพานขึ้นเพื่อเป็นสถานศึกษา ทดลอง และพัฒนาอาชีพด้านเกษตรกรรม และอุตสาหกรรมทางการเกษตรอย่างเต็มรูปแบบ เพื่อให้ชุมชนยืนได้ด้วยการพึ่งพาตนเอง ทั้งยังช่วยฟื้นฟูและ พัฒนาป่าไม้ด้วยระบบชลประทาน เป็นต้น ที่ทำการของศูนย์ศึกษาการพัฒนาภูพานฯ ตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2527 ประกอบไปด้วย พื้นที่สาธิตเพื่อพัฒนาเกษตรกรรม และพื้นที่พัฒนาป่าไม้ จนกลายมาเป็นหนึ่งในแหล่งท่องเที่ยว เชิงเกษตรที่น่าสนใจของจังหวัดสกลนครไปแล้ว

 
การมาเยือนศูนย์ศึกษาการพัฒนาภูพาน สิ่งที่ได้กลับไปไม่ได้มีเพียงแค่ความรู้และความประทับใจเท่านั้น ผลผลิตทางการเกษตรและสินค้าแปรรูป คือของฝากขึ้นชื่อของที่นี่ อย่าลืมอุดหนุนช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจให้ชุมชนยั่งยืนต่อไป

ทริปตัวอย่าง 3 วัน 2 คืน เส้นทางท่องเที่ยว จ.สกลนคร-มุกดาหาร-สปป.ลาว- นครพนม

 วันแรก : สกลนคร ช่วงเช้า นั่งรถรางชมโครงการศูนย์ศึกษาการพัฒนาภูพานฯ  ช่วงกลางวัน

เยี่ยมชมพระธาตุประสิทธิ์ พระประจำวันเกิด วันพฤหัส  ชมการผลิตผ้าย้อมครามที่บ้านถ้ำเต่า  ช่วงบ่ายเยี่ยมชมพระธาตุเชิงชุม ปูชนียสถานเก่าแก่ ของภาคอีสาน

วันที่สอง : สกลนคร-มุกดาหาร ช่วงเช้า เยี่ยมชมพระธาตุพนม พระธาตุประจำปีวอก และผู้ที่เกิดวันอาทิตย์เยี่ยมชมรอยพระพุทธบาทที่วัดภูมโนรมย์ มุกดาหาร ช่วงบ่าย เดินทางสู่สปป.ลาว ที่สะพานมิตรภาพไทย-ลาว 2นมัสการพระธาตุโพน สะหวันนะเขต

วันที่สาม : สปป.ลาว-นครพนม ช่วงเช้า เยี่ยมชมวัดพระธาตุอิงฮัง และหมู่บ้านเชียงหวาง ชุมชนเวียดนามเก่าแก่ ชมพิพิธภัณฑ์โฮจิมินห์ และพระธาตุศรีโคดตะบอง ช่วงบ่ายซื้อสินค้าที่ตลาดหลัก 3 หรือ Duty Free กลับเมืองไทยที่สะพานมิตรภาพไทย-ลาว 3
 

สถานที่เที่ยวห้ามพลาด ควรเยี่ยมชมให้ครบทั้ง ส่วนงานศึกษาและพัฒนาป่าไม้ แหล่งรวมต้นกล้าและพันธุ์ไม้นานาชนิด ส่วนงานศึกษาและพัฒนาด้านปศุสัตว์ ชมสามดำมหัศจรรย์แห่ง ภูพาน คือ ไก่ดำภูพาน สุกรภูพาน และโคทาจิมะ (โคเนื้อ) อ่างเก็บน้ำห้วยตาดไฮใหญ่ ระบบชลประทานสำหรับเกษตรกรในชุมชน
 

กิจกรรมห้ามพลาด คือ นั่งรถราง ชมแปลงสาธิตทางการเกษตรและงานปศุสัตว์ภายในโครงการ

 และการถ่ายรูป ให้อาหาร และสัมผัสกับโคเนื้อ โคนม ไก่ดำ หมูดำ และกวางอย่างใกล้ชิด ปิดท้ายด้วยการเดินชมส่วนงานศึกษาและพัฒนาป่าไม้
           สอบถามการเดินทางได้ที่ โทร. 0-4274-7458-9, 0-4271-2975
 

การเดินทาง จากเทศบาลนครนครพนมไป ต.ห้วยยาง ใช้เส้นทางถนนสุขเกษมตรงมาถึงถนนสกลนคร ถึงสี่แยกตัดทางหลวงชนบทหมายเลข 3137เลี้ยวฃ้ายตรงไปบ้านนานกเค้า ระยะทาง 2.3 กม.

 

@เตือนภัยหน้าหนาวทั้งสุขภาพ-หมอกควัน

กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) แนะนำข้อควรปฏิบัติช่วยลดความเสี่ยงและภัยในช่วงฤดูหนาว  เริ่มจาก  “การดูแลรักษาสุขภาพให้แข็งแรง ด้วยการสวมใส่เสื้อผ้าหนาๆ สวมถุงมือ ถุงเท้า เพื่อสร้างความอบอุ่นแก่ร่างกาย และหมั่นออกกำลังกายอยู่เสมอ จะช่วยป้องกันการเจ็บป่วยจากสภาพอากาศหนาวเย็น ดูแลเด็กเล็ก ผู้สูงอายุ ผู้พิการ และผู้ที่มีโรคประจำตัวเป็นพิเศษ เพราะมีภูมิต้านทานต่ำ ทำให้เจ็บป่วยได้ง่าย และเสี่ยงต่อการเป็นโรคแทรกซ้อน หากเจ็บป่วยจะมีอาการรุนแรงกว่าคนทั่วไป ไม่นอนในที่โล่งแจ้งโดยไม่สวมเสื้อผ้าหรือห่มผ้า เพราะอากาศที่หนาวเย็นทำให้เลือดไหลเวียนช้า ร่างกายขาดออกซิเจน ส่งผลให้เกิดอาการช็อกและเสียชีวิตได้

ส่วนเรื่อง “เพลิงไหม้” ต้องช่วยกันเพิ่มความระมัดระวังในการประกอบกิจกรรมเกี่ยวกับไฟ ไม่เผาขยะ ไม่ทิ้งก้นบุหรี่ใกล้พงหญ้าแห้งหรือวัสดุติดไฟง่าย ไม่จุดยากันยุงหรือธูปเทียนทิ้งไว้โดยไม่มีคนดูแล ปิดวาล์วถังก๊าซทุกครั้งหลังใช้งาน รวมถึงดับไฟก้นบุหรี่ให้สนิทก่อนทิ้ง

และไม่ก่อกองไฟให้ความอบอุ่นบริเวณจุดเสี่ยงเพลิงไหม้ โดยเฉพาะบริเวณรอบบ้าน ใกล้แหล่งเชื้อเพลิง อาทิ กองฟางกองไม้แห้ง ผ้าห่ม ที่นอน พร้อมใช้น้ำราดดับไฟให้สนิท เพื่อป้องกันเพลิงไหม้

สำหรับ “หมอกควัน” หลีกเลี่ยงการสูดดมฝุ่นละอองหมอกควันเข้าสู่ร่างกาย โดยสวมหน้ากากอนามัยหรือใช้ผ้าชุบน้ำหมาดๆปิดปากและจมูก พร้อมสวมแว่นตาทุกครั้งเมื่ออยู่ในที่โล่งแจ้ง เพื่อลดการระคายเคืองตา งดประกอบกิจกรรมในบริเวณที่มีหมอกปกคลุมหนาแน่น โดยไม่ออกกำลังกายและทำงานที่ต้องออกแรงมาก เพราะจะสูดดมฝุ่นละอองเข้าสู่ร่างกายในปริมาณมากขึ้น

และไม่ประกอบกิจกรรมที่เพิ่มปริมาณหมอกควันในอากาศ ไม่เผาขยะ ไม่จุดธูปเทียน ไม่สูบบุหรี่และลดการใช้รถยนต์หรือรถจักรยานยนต์ เตรียมพื้นที่เพาะปลูกโดยไถกลบแทนการเผา พร้อมจัดสลับช่วงเวลาในการเผาหรือชิงเผาก่อนช่วงวิกฤตหมอกควัน
ฟังข่าวฮ็อตท้ายชั่วโมง

ข่าวแรก “โรงแรมเล็กในไทยสำเร็จได้ด้วย10ปัจจัย”

ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธานกรรมการบริหาร ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก. เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส (www.area.co.th) วิเคราะห์ถึง "การลงทุนธุรกิจโรงแรมขนาดเล็กจะประสบความสำเร็จจาก 10 ปัจจัย ดังนี้

         1. โอกาสความสำเร็จอยู่ที่จำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มเข้ามาเรื่อย ๆ ในประเทศไทยเติบโตมากขึ้นทุกปี

         2. นักท่องเที่ยวประเภทฉายเดี่ยว ไม่ใช้ทัวร์ มีมากขึ้น จากแต่เดิมมีแต่แบบ "Backpackers" ซึ่งมีทั้งยุโรป และกลุ่มคนรุ่นใหม่ในเอเชีย แม้แต่ประเทศจีน ก็มีนักท่องเที่ยวรุ่นใหม่ที่เป็นอิสระมากขึ้น

         3. ทำเลที่จะประสบความสำเร็จ ก็คือ ทำเลที่อยู่ในพื้นที่เมืองเก่า ที่มีเสน่ห์สำหรับนักท่องเที่ยว เช่น แม้แต่ในชุมชนแออัดเดิมหลังวัดราชนัดดา หรือชุมชนอื่น ๆ ก็สามารถดัดแปลงมาเป็นโรงแรมขนาดเล็ก ๆ ได้เช่นกัน  กลิ่นอายของเมืองโบราณเป็นเสน่ห์สำคัญ 

         4. ทำเลที่อยู่ติดรถไฟฟ้า เดินทางไปตามจุดต่าง ๆ ไปได้ง่าย ก็เป็นปัจจัยแห่งความสำเร็จของธุรกิจโรงแรมขนาดเล็ก ๆ ได้เช่นกัน 

         5. ชานเมืองที่ไม่มีระบบขนส่งมวลชนไม่ควรไปทำโรงแรมเด็ดขาด เช่น มีนบุรี หนองจอก ลำลูกกา 

         6. ถ้าเป็นในต่างจังหวัด โดยเฉพาะจังหวัดท่องเที่ยวก็เป็นในเขตเมืองเก่า เขตที่มีแหล่งท่องเที่ยวมาก ก็สามารถดำเนินการได้ ไม่ว่าจะเป็นเชียงใหม่ ลำพูน เชียงราย ภูเก็ต ฯลฯ  แต่ถ้าเป็นในเมืองที่ไม่ใช่แหล่งท่องเที่ยวที่ดึงดูดให้ชาวต่างชาติเดินทางไปเที่ยวได้จริง ๆ ก็ไม่ควรทำโรงแรมอย่างเด็ดขาด 

         7. การแปลงโฉมอะพาร์ตเมนต์ให้เช่าเดือนละ 3,000 บาท ให้เป็นโรงแรมให้เช่าคืนละ 1,000 บาท ซึ่งทำรายได้กว่าเดือนละ 30,000 บาท หรืออาจแปลงตึกแถวมาแบ่งเป็นห้องเช่าแบบโรงแรมก็ยังทำได้ เช่นกัน  บางครั้งยังสามารถแปลงเป็นห้องเช่ารวม (Dormitory) ที่มีเตียงนอน 2 ชั้น 3 เตียง ซึ่งเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวญี่ปุ่น จีน เกาหลี เอเชีย

         8. บทเรียนที่ผ่านมา การหวังทำธุรกิจแบบโฮมสเตย์ในพื้นที่ ๆ การท่องเที่ยวไม่ได้ติดอันดับต้น ๆ ของประเทศ อาจทำได้ยาก  ทำนองเดียวกับการทำโรงแรมแบบรีสอร์ตในแหล่งท่องเที่ยวที่ไม่ใช้อันดับ 1-10 ของประเทศ ก็มักไม่ประสบความสำเร็จเช่นกัน  การทำโรงแรมแบบ Conventional Hotel ให้มีการจัดงานประชุม-สัมมนา ก็ต้องอาศัยเครือข่ายกับส่วนราชการ ซึ่งก็เป็นสิ่งที่ต้องต่อสู้ช่วงชิงมากเป็นพิเศษ  โรงแรมตามลักษณะเดิม ๆ อย่างนี้จึงไม่ควรทำ

         9. ปัจจัยความสำเร็จจากการขายผ่านเว็บไซต์โรงแรมชื่อดังทั้งหลาย เช่น Agoda, Booking และอื่น ๆ  ซึ่งทำให้เราสามารถเข้าถึงลูกค้าได้ทันที  เสียค่าใช้จ่ายเพียง16-20% แต่ก็คุ้มค่า

         10. ปัจจัยสุดท้ายก็คือตัวโรงแรมเอง ทำแบบเรียบง่ายเรียบหรู มีสิ่งที่น่าประทับใจ ตั้งแต่ออกแบบให้ดูเตะตา ต้อนรับดี  บริการพ่วงที่ดีเกินคาด เช่น บางแห่งมีบริการซักผ้าให้ฟรี  เป็นแม่เหล็กกระตุ้นให้เกิดการมาใช้บริการซ้ำ และบอกต่อซึ่งเป็นข้อได้เปรียบของโรงแรมขนาดเล็กทั้งหลายในเมืองไทย
@ เปิดเฟอรี่พัทยา-หัวหินรับปีใหม่1ม.ค.60

           กรมเจ้าท่า กระทรวงคมนาคม รายงานถึงการวางแผนเปิดบริการเส้นทางเดินเรือเฟอรี่ “พัทยา-หัวหิน” จะเริ่มบริการอย่างเป็นทางการ ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2560 เป็นต้นไป ระหว่างนี้กำลังเร่งปรับปรุงท่าเรือเพื่อความปลอดภัย เพื่อจะได้ให้นักท่องเที่ยวได้เดินทางชมความงดงามของทะเลอ่าวไทยจากตะวันตกสู่ตะวันออก ระยะทาง113 กม.ได้ภายในเวลาเพียง 1 ชั่วโมง 30 นาที ประหยัดเวลาได้ดีกว่าการนั่งรถซึ่งต้องใช้เวลา 5-6 ชั่วโมง
@คาเฟ่ แคนทารี เปิดสาขาใหม่กาดฝรั่ง เชียงใหม่

นายเสริม พิสิษฐเกษม ผู้จัดการทั่วไปโรงแรมแคนทารี ฮิลส์ เชียงใหม่ กล่าวว่า ขณะนี้ คาเฟ่ แคนทารี ได้เปิดสาขาใหม่ล่าสุด สาขากาดฝรั่ง จังหวัดเชียงใหม่ เอาใจคนรักขนมหวานด้วยเมนูเค้กสดใหม่หลากหลาย พร้อมเครื่องดื่มนานาชนิด แถมพิเศษด้วยเมนูอาหารแบบฟิวชั่นฟู้ด  บริการทุกวันตั้งแต่เวลา 9.00 – 20.00 น.  สอบถามเพิ่มที่  1627 หรือดูได้ที่ www.cafekantary.com

 พบกับสาระข่าวดี ๆ ได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 11.00-12.00 น.
ดำเนินรายการโดย...เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน
ติดตามฟังรายการย้อนหลังเข้าไปที่ www.google.com พิมพ์คำว่า รวยด้วยข่าว97.0 หรือ www.facebook.com/rauydauykhao อ่านเนื้อหาก่อนทุกเช้าได้ที่ www.facebook.com/penroong yaisamsen และบล็อกเกอร์ : gurutourza.blogspot.com   

เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน
คอลัมนิสต์-บล็อกเกอร์ การบิน/ท่องเที่ยว และผู้ดำเนินรายการ FM 97.0 MHz.

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ททท.นครราชสีมาพลิกโฉมตลาดท่องเที่ยวปี67

  รุ่งทิพย์ บุกขุนทด  ผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานนครราชสีมา ททท.นครสีมานำธุรกิจพลิกโฉมตลาดปี 67 เที่ยวโคราช-ชัยภูมิ ปลุกกระแส 3 วัยเที่ยวมุมใหม่เมืองย่าโม 3 มรดกโลก 10 อำเภอ จัดชุดใหญ่ Soft Power365 วัน 2 จว. 5 จุดขาย-สงกรานต์สนุกแน่ สมัคร!!สมาชิกคิงเพาเวอร์มี.ค.รับกิฟท์โวเชอร์/กะรัต/ส่วนลด THE POWER BAND# 4คิงเพาเวอร์แจก2ล้านนักดนตรีอาชีพ พลูแมนคิงเพาเวอร์ชูแพ็คเกจ Wedding แจก12รายการ2-3มี.ค. ททท.หนุน PELUPO ปักหมุดพัทยาบูมเที่ยวเทศกาลดนตรีโลก บางจากนำโมเดลสมดุลเพื่อโลกยั่งยืน ESG ส่งต่อผู้อบรมกปร. สุขทันทีนั่งรถม้าเที่ยวลำปาง-วัดพระพุทธบาทผาหนามลำพูน นายกฯจุดฝันไทยฮับบินโลกดันสุวรรณภูมิติดท็อป 20 รุก 5 ส่วน 800 บูธร่วมมหกรรมลดกระหน่ำเทศกาลเที่ยวไทยถึง 3 มี.ค. 67 วันเสาร์ที่  2 มีนาคม 2567 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen #gurutourza # รวยด้วยข่าวเสาร์อ

TCEBนำไมซ์ปี67โร้ดโชว์เทรดโชว์ทั่วโลก-จัดยกทีมประชุมรุมรักเมืองไทย

นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) "TCEB" บิ๊ก TCEB ปี 67 ปั๊มยอดไมซ์โตลุยโร้ดโชว์/เทรดโชว์ทั่วเอเชีย ในประเทศจัดกระหึ่ม“ยกทีมประชุมรุมรักเมืองไทย”พ.ค.นี้   3-7 มี.ค.ประชุมโดฮาลุ้นข่าวดี !! ไทยเจ้าภาพ Korat Expo2029 ดับร้อน!!ที่คิงเพาเวอร์ช้อป4มันส์ลดแจกแลกฟรี-31มี.ค.67 คิงเพาเวอร์จัดเต็ม 3.3 BEAUTY TRIO” ช้อป 3 อย่างลด 25% ททท.นำร่องจัด AIR-MAZING ไทยฮับท่องเที่ยว/การบินปี67 บางจากแจกมี.ค.67นำปั๊มเอสโซ่เดิม & บางจากมอบ2โปรดี สุขทันทีที่เที่ยวแดนใต้นราธิวาสเมืองพหุวัฒนธรรม5พิกัด AWC ปี’66ทำ5นิวไฮ-ปี67ทุ่ม1.9หมื่นล้านเปิด18โครงการ Trip.com- ททท.ไลฟ์สตรีมขายสงกรานต์โกยต่างชาติ150ล. วันอาทิตย์ที่   3 มีนาคม 2567 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen #gurutourza # รวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์ FM97  # เพ็ญรุ่งใยสามเสน # เท

เปิดใจ “พศิน ลาทูรัส”ทายาท”นารายา”พลิกโมเดลแบรนด์ไทย ถอดบทเรียนโควิดปรับมุมคิดธุรกิจรุ่งปั้นสินค้าใหม่บุกทั่วโลก

  เปิดใจ “พศิน ลาทูรัส”ทายาท”นารายา”พลิกโมเดลแบรนด์ไทย ถอดบทเรียนโควิดปรับมุมคิดธุรกิจรุ่งปั้นสินค้าใหม่บุกทั่วโลก คิงเพาเวอร์ชวนช้อปออนไลน์แบรนด์เนมลด 70%26-31 ต.ค.นี้ สนุกกับ SUPER SURPRISE ดีลพิเศษราคาดิวตี้ฟรีที่คิงเพาเวอร์ ก.ท่องเที่ยวตีปีกรับทัวร์ต่างชาติ 3 เฟส-ไฟเขียวแล้ว 10 แอร์ไลน์ ไทยจ่อดึงลองสเตย์ต่างชาติซื้ออสังหาฟื้นเศรษฐกิจหลังโควิด “ TCEB” ชูไทยแลนด์ไมซ์สตาร์ตอัพปั้นนวัตกรรมใหม่5โปรเจ็กต์ หนาวนี้เที่ยว“นครพนม”ปลอดภัยมั่นใจเส้นทางสาย SHA ริมโขง วิธีเลือกกินเพื่อหลีกเลี่ยงความอ้วนควบคู่การลดโรคมากมาย ไทยสมายล์ขายตั๋วชุดเที่ยวไทยเหมาจ่าย4ใบเริ่มที่3.8พันบาท ไทยเวียตเจ็ทขายตั๋ว5บาท/เที่ยวโปร2เส้นทางใหม่ในประเทศ กรมเจ้าท่าฟุ้งแผนทำ10ท่าเรือรองรับวันสต็อปเที่ยวเจ้าพระยา   นายพศิน ลาทูรัส ซีอีโอฝ่ายพัฒนาธุรกิจ  บริษัท นารายณ์ อินเตอร์เทรด จำกัด ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” ในวันเสาร์ที่ 24 ตุลาคม 2563 เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง