ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

ททท.ปลุกตลาดใหม่5ภูมิภาค-เปิดหลักสูตรแรกTME-ดอนเมืองเปิดบริการใหม่Co-Working Space


ททท.ฮือปลุกตลาด5ภูมิภาคดึงทั่วโลกใช้เงิน

จัดเที่ยวเมืองไทยควบตรุษจีน25-28ม.ค.60

ดอนเมืองบริการใหม่Co-Working Space

สวัสดีเช้าวันเสาร์ที่ 26 พฤศจิกายน 2559  เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย” FM 97.0 MHz.ในรายการ รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์อัพเดททุกความเคลื่อนไหวในแวดวงท่องเที่ยวแต่ละกลุ่มสาขา

ช่วงแรกเวลา 11.15 น.


ดร.ยุทธศักดิ์ สุภสร
ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
 
ดร.ยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จะมาผ่ากลยุทธ์ให้ฟังในรายการ ถึงแนวทางการ เพิ่มรายได้ก่อนสิ้นปี 2559 ทั้งตลาดในประเทศและต่างประเทศ ต้องโหมทำกิจกรรมอย่างเข้มข้นเพิ่มขึ้นอีกหลายเท่าต่อเนื่องไปจนถึงปี  2560 โดยเฉพาะตลาดจีน พลเอกธนศักดิ์ ปฎิมาประกร รองนายกรัฐมนตรี จะนำทีมภาครัฐและเอกชนบุกไปจับเข่าคุยกับรัฐบาลและผู้ประกอบการจีนในหัวเมืองหลัก ๆ ทั้งเฉินตู ฉงชิ่ง

ดร.ยุทธศักดิ์ เริ่มต้นอธิบายถึงสถานการณ์ตามเป้าหมายในการเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวตลาดต่างประเทศตัวเลขสิ้นสุดปีนี้จะทำได้ไม่ต่ำกว่า 33 ล้านคน สร้างรายได้เกินกว่า 2.2 ล้านล้านบาท ส่วนตลาดในประเทศก็เติบโตเฉลี่ยทั้งจำนวนและรายได้เข้าเป้า 8 % ปลายปีนี้จึงเตรียมกระตุ้นตลาดในประเทศช่วงฤดูท่องเที่ยวหน้าหนาว ด้วยการขับเคลื่อนนโยบายให้ ททท.ทั้ง 5 ภูมิภาค เพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวช่วงธันวาคมนี้เพียงเดือนเดียว จะต้องปั๊มนักท่องเที่ยวไทยเดินทางในประเทศเพิ่มอีกภาคละไม่ต่ำกว่า 50,000 คนครั้ง ทางฝ่ายกิจกรรมจะเสริมความเข้มแข็งมากขึ้นด้วยอีกทางจากกลุ่มเฉพาะที่พร้อมใช้เงินทั้งกลุ่มสตรี ผู้สูงวัย เจนวาย ในอีก 3 กลุ่มจะต้องทำยอดเพิ่มรวมถึง 70,000 คนครั้ง รวมแล้วคนไทยเที่ยวในประเทศเดือนธันวาคมปลายปีนี้รวมแล้วควรจะได้ถึง 300,000 คน

            สำหรับ ตลาดต่างประเทศ ต้องหาจำนวนคนและรายได้มาชดเชยนักท่องเที่ยวจีนที่ชะลอตัวลงจากมาตรการปราบปรามทัวร์ 0 เหรียญ หันมาทำตลาดศักยภาพ แต่ละสำนักงาน ททท.ในจีน 5 แห่ง จะต้องนำนักท่องเที่ยวเข้ามาไม่น้อยกว่าแห่งละ 20,000 แพ็ก โดยทำโปรโมชั่นร่วมกับโฮลเซลในจีน และการทำเซลทริปเจาะกลุ่มเดินทางอิสระ (FIT) เรื่อยไปจนถึงตลาดระยะไกลจากยุโรปก็น่าจะทำเพิ่มได้อีกสำนักงานละ 100,000 คน

            การจัดทำกิจกรรมโครงการตลาดในประเทศเพื่อกระตุ้นช่วงปลายปีนี้ต่อเนื่องถึงป 2560 จะเดินหน้าต่อไป โดยเฉพาะช่วงสิ้นปีส่งท้ายปีเก่าเคาน์ดาวน์ต้อนรับปีใหม่ ในการทำโครงการ แสงเทียนแห่งสยาม รณรงค์คนไทยทั้งประเทศร่วมกันทำความดีเพื่อพ่อหลวงและพระบรมวงศานุวงศ์ รวมทั้งทำเพื่อตัวเองและครอบครัวด้วย

            กิจกรรมไฮไลต์ ช่วงต้นปีหน้า 2560 ททท.กำหนดจัดงาน เทศกาลเที่ยวเมืองไทย จะจัดระหว่างวันที่ 25-28 มกราคม 2559 ณ สวนลุมพินี โดยจะเพิ่มรวมงาน ตรุษจีน มาอยู่ในงานเที่ยวเมืองไทยด้วย เพราะวันที่ 28 มกราคม 2560 ตรงกับวันตรุษจีนพอดี ขณะที่กิจกรรมท่องเที่ยวอื่น ๆ ททท.เน้นส่งเสริมการท่องเที่ยวในพื้นที่ทรงงาน 70 เส้นทางตามรอยพระบาท ซึ่งจะอำนวยความสะดวกให้คนไทยเปิดมุมมองใหม่การเที่ยวเมืองไทย ด้วยกลยุทธ์การผนวกความร่วมมือกับผู้ประกอบการเอกชน ผลิตโปรแกรมนำเที่ยวเส้นทางตามรอยพระบาทเป็นแพกเกจเสนอให้พี่น้องคนไทย แล้ว ททท.ก็จัดทำคู่มือท่องเที่ยวในเส้นทางดังกล่าว แนวทางการทำงานกับเอกชนนั้น ททท.ยึดถือการทำงานร่วมกันมาโดยต่อเนื่องมาตลอด

            ปี 2560 คีย์เวิร์ดสำคัญของการทำ ตลาดในประเทศ คือ ท่องเที่ยวเก๋ไก๋ สไตล์ลึกซึ้ง เที่ยวในมุมมองที่ลึกขึ้น ใช้จ่ายเงินกระจายไปยังแหล่งท่องเที่ยวที่เพิ่มมากขึ้น ส่วน ตลาดต่างประเทศ คือ Local Experience เพิ่มรายได้จากการให้นักท่องเที่ยวมีกิจกรรมทำร่วมกับชุมชนในพื้นที่ให้มากขึ้น เช่น แต่ก่อนมากินอาหารไทยกลยุทธ์ใหม่นักท่องเที่ยวได้เรียนทำอาหารไทยเพิ่มขึ้นด้วย หรือเมื่อก่อนมาดูมวยไทยยุคใหม่นี้ต้องให้นักท่องเที่ยวมาเรียนมวยไทยไปด้วย

            อีกทั้งยังได้วางกลยุทธ์ร่วมกับภาคเอกชนที่จะสร้างสรรค์งานเทรดท่องเที่ยวเพื่อเปิดช่องทางการขาย ทำให้นักท่องเที่ยวได้มาใช้ชีวิตสัมผัสความเป็นไทยอย่างเข้าถึงมากยิ่งขึ้น

            การเพิ่มตลาดในประเทศขณะนี้ต้องมุ่ง คนไทยเที่ยวในประเทศ สร้างรายได้อย่างเข้มแข็งจากคนไทยด้วยกันใช้จ่ายเงินซึ่งมีไม่ต่ำกว่า 33 % ของรายได้ท่องเที่ยวแต่ละปี จากนั้นก็หันไปเพิ่ม ตลาดต่างประเทศ อย่างระยะใกล้บินไม่เกิน 6 ชั่วโมง มีนักท่องเที่ยวแถบเอเชียเข้ามาเที่ยวเมืองไทยมากถึง 60 % ดังนั้นจึงต้องเจาะกำลังซื้อกลุ่มนักท่องเที่ยวือประเทศใกล้บ้านให้มากขึ้น ซึ่งมีความถี่ในการเดินทางสูง ตลาดใหม่ในยุโรปก็ต้องทำคู่ขนานกันไปเพราะเข้ามาพักนานวันใช้เงินเฉลี่ยสูง ททท.เองก็มองกลุ่มศักยภาพใหม่อย่าง CIS รวมถึงการไปเปิดสำนักงานใหม่ ททท.ในกรุงปร๊าก ก็หวังที่ขยายแนวรุกเข้าไปยังตลาดยุโรปตะวันออกและยุโรปกลางเกือบทั้งหมด โปแลนด์ ฮังการี สาธารณรัฐเชค ทำให้ตลาดใกล้กับไกลสมดุลยิ่งขึ้น ซึ่งจะใช้เวลาอีกสัก 1-2 ปี

            เครื่องมือที่จะใช้เพิ่มจำนวนและรายได้จากนักท่องเที่ยวตลาดต่างประเทศ ททท.ยังมีลูกค้ารายใหญ่อย่างกลุ่มฮันนีมูน คู่แต่งงาน การท่องเที่ยวเชิงกีฬา การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ เป็นอาวุธสำคัญในการเป็นหัวหอกเจาะนักท่องเที่ยวได้หลากหลายกลุ่ม ทำให้เกิด Beyond Being กับตลาดที่เข้ามารับบริการเรื่องสุขภาพครบวงจรด้วย

            ในตลาดเอเชียคงจะต้องเพิ่มความเข้มข้นอย่างจีน จะเน้นขยายฐานเข้าไปยังนักเดินทางอิสระตามเมืองใหม่ ๆ เกาหลี ญี่ปุ่น เน้นย้ำเรื่องความปลอดภัย ภาพลักษณ์ สำหรับตลาดผู้หญิงมีความมั่นใจแล้วตัดสินใจเดินทางเข้ามาเพิ่มขึ้น

            ระหว่างวันที่ 25-28 พฤศจิกายน นี้ พลเอกธนะศักดิ์ ปฎิมาประกร รองนายกรัฐมนตรี กำกับดูแลการท่องเที่ยว จะนำคณะไปพบปะเจรจากับทางฝ่ายจีน เพื่อไปทำความเข้าใจกรณีการปราบปรามทัวร์ 0 เหรียญของไทยยกระดับไปสู่ทัวร์คุณภาพนั้น รองนายกรัฐมนตรีจะนำผู้ประกอบการไทยไปพบปะพูดคุยกับภาครัฐและเอกชนของจีน โดยที่ผ่านมา ททท.ได้นำเอกชนไปทำภารกิจในลักษณะดังกล่าวมาแล้วในปักกิ่ง ทริปนี้จะไปเมืองเฉินตูกับฉงชิ่ง หลังจากนั้นก็จะไปกวางโจว คุนหมิง เซี่ยงไฮ้ ทั้งนี้ก็เพื่อตอกย้ำความมั่นใจและทำให้ทางจีนเห็นถึงความตั้งใจของรัฐบาลไทยที่มุ่งมั่นจะยกระดับทัวร์จีนที่เดินทางเป็นกลุ่มคณะ ตั้งเป้าหมายจะเดินสายไปจีนให้ครบภายในเดือนธันวาคมนี้ แต่กำหนดการกับความพร้อมพื้นที่จำเป็นต้องยาวไปถึงเดือนมกราคมปีหน้าที่คุนหมิงและเซี่ยงไฮ้

            การปรับโครงสร้างภายในองค์กรของ ททท.ปี 2560 ทำไว้ก่อนที่ผมจะมาทำหน้าที่ผู้ว่า เพียงแต่จะต้องนำมาพิจารณาให้เหมาะสมและมองไปถึงอนาคต ต้องยอมรับอย่างหนึ่งด้วยกันว่าพลวัฒน์ทางเศรษฐกิจเคลื่อนไหวเร็วมาก ต้องคำนึงถึงธรรมาภิบาล โปร่งใส ตรวจสอบได้ โดยเฉพาะ ททท.เป็นรัฐวิสาหกิจนอกจากจะต้องทำภารกิจให้ครบถ้วนเป็นไปตามกฎหมายแล้วยังต้องดูแลการขับเคลื่อนเศรษฐกิจภาพใหญ่ของประเทศไทยให้เกิดความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน และสมดุลทั้งในประเทศกับตลาดโลก เป็นสำคัญด้วย

ฟังข่าวช่วงแรก

ข่าวที่ 1 “คิง เพาเวอร์”เปิดข้อมูลจริงเครื่องเก็บเงิน“POS สนามบิน”

ระหว่างที่ประเทศไทยต้องการเพิ่มแม่เหล็กดึงดูดรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติ ด้วยการกระตุ้นการใช้จ่ายในด้านต่าง ๆ โดยเฉพาะจากการช้อปปิ้งซึ่งสามารถเพิ่มส่วนแบ่ง 30-35 %  ของรายได้รวมจากการท่องเที่ยวแต่ละปี ซึ่งมีร้านจำหน่ายสินค้าปลอดอากร ( Duty free) กลุ่ม บริษัท คิง เพาเวอร์  เป็นกำลังสำคัญนำรายได้เข้าประเทศ จากการเป็นผู้ชนะประมูลอย่างถูกต้องตามกติกาของ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน)  ทอท.  คัดเลือกสินค้าทั้งไทยและนานาชาติเข้ามาวางจำหน่ายในพื้นที่เชิงพาณิชย์สนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิ ดอนเมือง ภูเก็ต

นายสมบัตร เดชาพานิชกุล รองประธานกรรมการบริหาร กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์  เปิดเผยว่าในฐานะที่คิง เพาเวอร์ เป็นผู้บุกเบิกธุรกิจร้านค้าปลอดอากรในประเทศไทย ได้ปฏิบัติตามระเบียบกติกาอย่างถูกต้องมาตลอด 27 ปี พร้อมกับอธิบายข้อมูลอย่างตรงไปตรงทุกครั้งทุกกรณีที่มีผู้กล่าวคิง เพาเวอร์ ไปในทางเสียหายหลายต่อหลายครั้ง ล่าสุดกรณีที่ “นายชาญชัย อิสระเสนารักษ์” ออกมาประกาศต่อสาธารณะเมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน 2559 เกี่ยวกับความเสียหายของรัฐที่เกิดจากการขายสินค้าปลอดอากรโดยไม่เชื่อมต่อระบบพอยต์ ออฟ เซล ( Point of Sale ) หรือระบบ POS และเป็นเหตุให้รัฐได้รับความเสียหายรวม 40,000 ล้านบาทนั้น

มีข้อเท็จจริงอีกด้านหนึ่งที่นายชาญชัยไม่กล่าวถึงเลย  ทั้ง ๆ ที่หน่วยงานเกี่ยวข้อง ได้แก่ หน่วยงานสรรพากร ทอท.นำระเบียบมาบังคับใช้ตามข้อตกลงสัญญาเพื่อตรวจสอบและปฏิบัติอย่างเคร่งครัดกับบริษัทฯ เพื่อประโยชน์สูงสุดของประเทศ โดยใช้อุปกรณ์เครื่องมืออย่างเหมาะสมในทุกสถานการณ์ที่ผ่านมา

ประเด็นแรก ระบบพอยต์ ออฟ เซล นั้น ชื่อโดยย่อคือ ระบบ POS ( Point of Sale ) หรือก็คือเครื่องบันทึกการเก็บเงินลักษณะหนึ่งนั่นเอง  ซึ่งบริษัทคิง เพาเวอร์ ขอยืนยันและสามารถตรวจสอบได้ว่า บริษัทฯ ได้ติดตั้งระบบ POS ดังกล่าวนับแต่วันที่ร้านแต่ละร้านเปิดจำหน่ายสินค้าปลอดอากร อีกทั้งเรื่องดังกล่าวเป็นระเบียบของกรมสรรพากรที่จะต้องปฏิบัติ หากไม่มีเครื่อง POS ร้านค้าจะไม่สามารถจำหน่ายสินค้าได้และจะมีความผิดตามกฎหมายทันที นอกจากนั้นเครื่อง POS ที่ใช้ก็ต้องขึ้นทะเบียนไว้กับกรมสรรพากรด้วย ซึ่งเป็นเรื่องปกติที่ผู้ประกอบการค้าปลีกทราบกันดีถึงวิธีปฏิบัติตามระเบียบให้ถูกต้อง รวมถึงคิง เพาเวอร์ ด้วย

 

            ประเด็นที่สอง กรณีนายชาญชัยประเมินเองว่า “ รัฐเกิดความเสียหายรวม 40,000 ล้านบาท” จากการขายสินค้าโดยไม่เชื่อมต่อระบบพอยต์ ออฟ เซล กับระบบของการท่าอากาศยานไทย ( ทอท.) ที่จะต้องได้ส่วนแบ่งร้อยละ 15 ตามสัญญาการซื้อขายสินค้านั้น

นายสมบัตรอธิบายว่าเนื้อหาทั้งหมดไม่ถูกต้อง เนื่องจากบริษัทฯ มีระบบ POS ที่ติดตั้งพร้อมนับแต่เปิดจำหน่ายสินค้าปลอดอากรในสนามบินสุวรรณภูมิ และภูมิภาคในวันที่ 28 กันยายน 2549 ( วันที่สนามบินสุวรรณภูมิเปิดใช้งาน ) และบริษัทฯ พร้อมที่จะเชื่อมต่อข้อมูล หรือส่งข้อมูลให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องนับแต่วันที่ 28 กันยายน 2549 เช่นกัน  แต่จากข้อพิพาทในชั้นศาลในขณะนั้น รวมถึงข้อกล่าวหาต่าง ๆ ที่บริษัทฯถูกกล่าวหาในช่วงเวลาเดียวกัน ทำให้กระบวนการเชื่อมต่อข้อมูลการขายไปยัง ทอท. ไม่สามารถดำเนินการได้ ทั้งที่ระบบ POS ของบริษัทพร้อมให้เชื่อมต่อข้อมูลนับแต่วันแรกที่เปิดจำหน่ายสินค้าปลอดอากร

ซึ่งความพยายามของคิง เพาเวอร์ มิได้นิ่งเฉยต่อเรื่องนี้แต่อย่างใด จึงสามารถตรวจสอบได้ว่านับแต่เปิดดำเนินการร้านค้าปลอดอากรที่สนามบินสุวรรณภูมิมาตั้งแต่ปี 2549 บริษัทฯได้ส่งข้อมูลการขายให้ ทอท. เป็นรายวันทั้งในรูปแบบเอกสาร และการส่งข้อมูลทาง Network หรือเครือข่ายที่ ทอท.เป็นผู้กำหนดมา ทำให้ทาง ทอท.สามารถตรวจสอบยอดขายในแต่ละวันจากข้อมูลดังกล่าวได้ทุกวัน

และถึงแม้การเชื่อมต่อระบบ POS ของบริษัทฯ กับระบบของ ทอท. ยังไม่เกิดขึ้นในขณะนั้นก็ตาม รวมทั้ง ทอท. ยังมีสิทธิที่จะลงตรวจการขายในแต่ละร้านค้าได้ทุกเวลา และสามารถส่งเจ้าหน้าที่หรือตัวแทนที่ ทอท. แต่งตั้งมาตรวจสอบยอดขายของบริษัทฯ ว่าตรงกับค่าตอบแทนที่ชำระให้ ทอท. หรือไม่ประการ

“ยกตัวอย่างเช่น ในปี 2555 สมัยรัฐบาลนายกฯ ยิ่งลักษณ์ ตอนนั้น ทอท.ได้ส่งเจ้าหน้าที่และผู้สอบบัญชี     ( Ernst & Young Thailand ) เข้ามาตรวจสอบการทำงานของคิง เพาเวอร์ กรณีสัญญาร้านค้าปลอดอากร ซึ่งตอนนั้นเข้ามาตรวจในบริษัทฯ กว่าครึ่งปี ก็ไม่ได้พบการกระทำหรือความไม่ถูกต้องใด ๆ  หากช่วงนั้นหากพบอะไรไม่ถูกต้องบริษัทฯก็คงถูกดำเนินการต่าง ๆ รวมถึงการยกเลิกสัญญาฯ  ไปแล้ว เรื่องนี้จึงเป็นข้อเท็จจริงอีกหนึ่งข้ออันพิสูจน์ได้ถึงเจตนาการทำธุรกิจของกลุ่มคิง เพาเวอร์ มุ่งมั่นทำทุกเรื่องอย่างตรงไปตรงมา จึงสามารถผ่านการตรวจสอบมานับครั้งไม่ถ้วน” นายสมบัตรกล่าว

      

     ประเด็นที่ 3 ปัจจุบัน การเชื่อมต่อข้อมูลจากระบบ POS ของร้านค้าปลอดอากรของบริษัทไปยังระบบเครือข่ายของ ทอท. เสร็จสมบูรณ์ในทุก ๆ สนามบินแล้ว ดังนั้น ทอท. จึงสามารถตรวจสอบยอดขายสินค้าปลอดอากรในทุก ๆ สนามบินในระบบ ON LINE แบบ REAL TIME ได้

ส่วนประเด็นอื่น ๆ บริษัทฯ เคารพคำตัดสินซึ่งข้อยุติถือเป็นที่สิ้นสุดแล้วก็ให้เป็นตามไปกระบวนการกฎหมาย

“เช่นเดียวกันกับหากนายชาญชัยเปิดเผยต่อสาธารณะถึงบริษัทฯ โดยมีข้อความไม่ถูกต้อง ทางบริษัทฯ  ก็จะต้องเข้าสู่กระบวนการทางศาลเป็นการเพิ่มเติมต่อไป  และในฐานะกลุ่มนักลงทุนไทยที่มุ่งมั่นพัฒนาเศรษฐกิจในประเทศมากว่า 27 ปี เชื่อมั่นว่าสังคมและรัฐบาลจะพิจารณาจากข้อมูลจริงแล้วนำมาถ่วงดุลให้ความเป็นธรรมกับเอกชน” นายสมบัตรกล่าว

 “คิง เพาเวอร์” ตอกย้ำว่ามีความมุ่งมั่นและดำเนินธุรกิจอย่างถูกต้องตรงไปตรงมาเพื่อช่วยเครือข่ายธุรกิจสินค้าไทยเติบโตในตลาดโลกไปด้วยกัน เพื่อความมั่งคั่ง มั่นคง ของเศรษฐกิจไทยทั้งระดับฐานรากและประเทศอย่างยั่งยืน

ข่าวที่ 2 “แวะไปชีลในท่าเตียนที่ร้านEat Sight Story

การเดินทางไปชมพื้นที่รอบพระบรมมหาราชวังในบริเวณท่าเตียน แนะนำ แวะไปแฮงค์เอาท์ได้ที่ “Eat Sight Story ท่าเตียน ถ.มหาราช เวลาทำการ ทุกวัน 10:00-23:00 น. เป็นอีกหนึ่งร้านอาหารริมน้ำติดกับโรงแรม Sala Arun ในอดีตพื้นที่นี้เคยเป็นท่าเรือแดงมาก่อน จึงมองเห็นทิวทัศน์แม่น้ำเจ้าพระยาและวัดอรุณราชวรารามอันงดงาม ภายในร้านกลิ่นอายวินเทจ ด้วยการตกแต่งด้วยประตูเหล็กและไม้เก่าหลายบานประกอบกันเป็นกำแพง

 เสิร์ฟอาหารสไตล์ไทยฟิวชัน รสชาติกลมกล่อมกลาง ๆ ไม่แซบเวอร์จัดจ้านแบบไทยจ๋ามากนัก เพราะต้องการให้นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติได้ชิมอาหารไทยแบบเต็ม ๆ คำ “ราคา” อาหารแต่ละเมนูก็พอสมน้ำสมเนื้อสมราคา เมนูยอดนิยม ได้แก่ เนื้อกระเพรากรอบ จานละประมาณ 230 บาท  พิซซากระเพราหมู 190 บาท หรือเมนูยอดฮิตปูนิ่มผัดผงกะหรี่ ก็จานละ 280 บาท มีเครื่องดื่มทั้งปลอดแอลกอฮอล์และแอลกอฮอล์รวมถึงค็อกเทลจัดเตรียมไว้ให้จิบสร้างความสดชื่นด้วย ราคาเริ่มต้นที่ 149 บาท  สนใจจะไปชิลในบรรยากาศริมเจ้าพระยา แถวท่าเตียน และชิมอาหารพร้อมเครื่องดื่ม โทร.สอบถามได้ที่ 02-622-2163

 ข่าวที่ 3 “ททท.นำร่องระดมเซียนร่วมหลักสูตรท่องเที่ยว”

นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ ททท.ได้เปิดตัวหลักสูตรการบริหารการท่องเที่ยวสำหรับผู้บริหารระดับสูง หรือ Tourism Management Program for Executives (TME) เพื่อพัฒนาศักยภาพของผู้เข้าอบรมในการบริหารจัดการการท่องเที่ยว สร้างเครือข่ายและบรูณาการการทำงานในระดับนโยบายซึ่งนำไปสู่การพัฒนาการท่องเที่ยวทั้งระบบ เปิดรับสมัครตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป จะเริ่มเรียน 1 ก.พ.-30 มิถุนายน 2560 รวม72 ชั่วโมง โดยจะคัดเลือกผู้เข้าร่วมหลักสูตร 80 คน จากภาคเอกชน รัฐวิสาหกิจ หน่วยงานรัฐ และสื่อมวลชน ค่าหลักสูตรละ 100,000 บาท หลักสูตรการบริหารการท่องเที่ยวสำหรับผู้บริหารระดับสูงนี้ จะรับผู้เข้าอบรม 80 คน เรียนสัปดาห์ละ 1 ครั้ง และเดินทางศึกษาดูงานในประเทศ 2 ครั้ง  

โดย “คณะกรรมการดำเนินการศูนย์พัฒนาวิชาการด้านการตลาดการท่องเที่ยว (TAT Academy) เป็นเจ้าภาพจัดทำโครงการเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันทางการตลาดท่องเที่ยว TME มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างการเชื่อมโยง   การทำงานในระดับนโยบายครอบคลุมเป็นเครือข่ายและช่วยพัฒนาการท่องเที่ยวทั้งระบบอย่างเป็นรูปธรรม

                ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ธนวรรธน์  พลวิชัย รองอธิการบดีอาวุโสวิชาการและงานวิจัย มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย  กล่าวเพิ่มเติมว่า เนื้อหาในการอบรมออกแบบตามแนวทางการพัฒนาเศรษฐกิจพอเพียงสู่ความมั่นคง  มั่งคั่ง และยั่งยืน  โดยมีหัวข้อการอบรมที่เอื้อต่อการประสานประโยชน์ด้านการท่องเที่ยวต่อกัน  อาทิ  แผนยุทธศาสตร์ด้านการท่องเที่ยวระดับต่างๆ ห่วงโซ่อุปทานของอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ภูมิสถาปัตยกรรมและการบริหารจัดการพื้นที่ด้านการท่องเที่ยว  การบริหารจัดการภาวะวิกฤตและความเสี่ยงด้านการท่องเที่ยว  แบรนด์และการสร้างภาพลักษณ์ด้านการท่องเที่ยว  นวัตกรรมและการสร้างสรรค์ต่อยอดการท่องเที่ยว  Inclusive Tourism  Good Governance CSR

สอบถามการสมัครเข้าร่วมหลักสูตรได้ที่ศูนย์พัฒนาวิชาการด้านการตลาดการท่องเที่ยว (TAT Academy)  โทร. 0 2250 5694 ต่อ 4476-79

ข่าวที่ 4 “สวยด้วยบัตรบางจากที่รพ.เอเซียคอสเมติก”

บริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) มอบสิ่งดี ๆ ให้กับสมาชิกบัตรบางจาก ได้ดูแลสุขภาพและความงาม วันนี้ 31 มีนาคม 2560 บางจากร่วมกับโรงพยาบาลเอเซียคอสเมติก มอบส่วนลด 70 % สำหรับทรีทเม้นท์    HIFU  จากราคา   80,000.- บาท ลดเหลือ  25,000.- บาท IPL     จากราคา   50,000.- บาท ลดเหลือ  15,000.- บาท ( 3 ครั้ง)

ส่วนลด 10 %  สำหรับศัลยกรรมตกแต่ง(แถม Botox  25  Unit สำหรับการศัลยกรรมตกแต่งเท่านั้น) เว็ปไซต์ : www.asiahospitalthailand.comเบอร์โทรศัพท์ : 02-199-9999

ข่าวที่ 5 “บอร์ดTCEBไฟเขียวกรอ.ไมซ์28พ.ย.นี้”

นายอรรคพล สรสุชาติ ประธานอนุกรรมการภาครัฐและเอกชนเพื่อการลดอุปสรรคและพัฒนาเพิ่มขีดความสามารถอุสาหกรรมไมซ์  เปิดเผยว่า ในวันจันทร์ 28 พฤศจิกายน 2559 จะได้นำเสนอที่ประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) TCEB พิจารณาลงมติเห็นชอบกรอบแนวทางการจัดตั้ง คณะกรรมการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ไมซ์หรือ “กรอ.ไมซ์” ซึ่งภาครัฐและเอกชนที่หารือร่วมกันโดยจะใช้โครงสร้างเดิมของ คณะกรรมการส่งเสริมความร่วมมือพัฒนาอุตสาหกรรมไมซ์พ.ศ.2550 ปรับปรุงโครงสร้างกรรมการและภารกิจที่เหมาะสม จากนั้นก็นำเสนอรองนายกรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องนำเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเห็นชอบในขั้นตอนต่อไป คิดว่าตามกระบวนการทั้งหมดน่าจะแล้วเสร็จได้ภายในเดือนพฤศจิกายน 2559

ข่าวที่ 6 “แค่590บาทก็บินเที่ยวหน้าหนาวได้”

ไทยแอร์เอเชียต้อนรับการเดินทางท่องเที่ยวช่วงฤดูหนาวด้วยตั๋วโดยสารราคาเริ่มต้นเพียง 590 บาท ระหว่างวันนี้-27 พ.ย.นี้ ไปยัง เชียงใหม่ สุราษฎร์ธานี อุดรธานี และต่างประเทศ ในฮานอย (เวียดนาม) สิงคโปร์ ย่างกุ้ง(เมียนมา) และเส้นทางบินอื่น ๆ ที่มีให้เลือกมากมาย เข้าไปจองด่วนที่ www.airasia.com แล้วนำตั๋วเก็บไว้ใช้เดินทางได้ตั้งแต่วันนี้ถึง 30 เม.ย.2560

 ช่วงที่ 2 เวลา 11.45 น.ตามรอยพระบาทขึ้นเหนือไปยังดอยขุนวาง เชียงใหม่ ไปชมศูนย์วิจัยเกษตรหลวงเชียงใหม่กัน แล้วมาดู 10 เรื่องที่ช่วยพัฒนาตัวเองให้อายุยืนได้ และ ดอนเมืองผนึกมิราเคิลกรุ๊ปเปิดบริการมิติใหม่ “Co Working Space” และห้ามพลาดงาน “ยักษ์กะโจนสัญจร” ฟังเรื่องราวศาสตร์พระราชาอย่างเต็มอิ่ม

@ขึ้นเหนือชมศูนย์วิจัยเกษตรหลวงเชียงใหม่ (ขุนวาง)  

 
ท่ามกลางขุนเขาสีเขียวที่นักท่องเที่ยวจะต้องตื่นตาตื่นใจกับทิว “ดอกไม้สีชมพู” ผลิบานเต็มหุบเขาที่ “ศูนย์วิจัยเกษตรหลวงเชียงใหม่ (ขุนวาง)” ม.12 ต.แม่วิน อ.แม่วาง จ.เชียงใหม่ เปิดให้ชมได้ ทุกวัน เวลา 08.00–16.00 น. พฤศจิกายนนี้เข้าสู่ฤดูท่องเที่ยว ซึ่งมีเป็นประจำระหว่างตุลาคม-กุมภาพันธ์ ของทุกปี

“ศูนย์วิจัยเกษตรหลวงเชียงใหม่ (ขุนวาง)” เป็นอีกหนึ่งจุดชมต้นนางพญาเสือโคร่ง หรือซากุระเมืองไทยแห่งสำคัญของเชียงใหม่ เพราะพื้นที่ ซึ่งสูงจากระดับน้ำทะเล 1,100 เมตร ทำให้นอกจากจะได้ชื่นชมกับดอกนางพญาเสือโคร่งที่ผลิดอกสวยงามเต็มที่แล้วยังได้สัมผัสกับอากาศเย็นสบายในช่วงฤดูหนาว

ด้วยทำเลที่ตั้งอยู่ ระหว่างหมู่บ้านปกาเกอะญอและหมู่บ้านม้ง ตำบลแม่วิน อำเภอแม่วาง อยู่ในวงล้อมของแนวเทือกเขาอินทนนท์ ตั้งขึ้นภายหลังจากที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินมาที่บ้านขุนวางในปี พ.ศ. 2523 ซึ่งพระองค์ได้ทอดพระเนตรเห็นการปลูกฝิ่นจำนวนมากของชาวบ้าน ทรงมีพระราชดำรัสให้กองพืชสวน กรมวิชาการเกษตร ดำเนินการปรับปรุงพื้นที่แห่งนี้ ให้เป็นสถานที่ทดลอง ขยายพันธุ์ ส่งเสริม และถ่ายทอดเทคโนโลยีการปลูกพืชเมืองหนาวบนที่ราบสูงให้กับเกษตรกร ทดแทนการปลูกฝิ่น
 

ปัจจุบันภายในพื้นที่ของโครงการ คือแหล่งเพาะปลูกและวิจัยพืชพรรณและไม้ผลเมืองหนาว เช่น สาลี่ พลัม แมคคาเดเมีย เกาลัดจีน สตรอว์เบอร์รี เป็นต้น ทั้งยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ยอดนิยม เพราะมีอากาศหนาวเย็นตลอดทั้งปี

ทริปตัวอย่าง 3 วัน 2 คืน


 

เส้นทางท่องเที่ยว จ.เชียงใหม่ วันแรก ช่วงเช้า ศูนย์วิจัยเกษตรหลวงเชียงใหม่ (ขุนวาง) ชมแปลงดอกไม้ พืชผักเมืองหนาวศูนย์อนุรักษ์พันธุ์กล้วยไม้รองเท้านารี ดอยอินทนนท์ มีเพียงแห่งเดียวในโลก “ช่วงบ่าย”พระตำหนักดอยผาตั้ง ชมเรือนประทับและเรือนทรงงาน ชมสถานีเกษตรหลวงอินทนนท์ ทดลองเลี้ยงแกะ ป้อนหญ้า ป้อนนม

วันที่สอง ช่วงเช้า สถานีวิจัยและศูนย์ฝึกอบรมขุนช่างเคี่ยน ชมซากุระบานสะพรั่งทั้งป่า

ช่วงบ่ายชมสวนพฤกษาศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ เดินชมธรรมชาติบนสะพานลอยฟ้ายาวที่สุดของไทย

 วันที่สาม ช่วงเช้า ขึ้นรถรางชมพรรณไม้ ณ สวนพฤกษศาสตร์ทวีชล ชมงานพุทธศิลป์วัดบ้านเด่นสะหรีศรีเมืองแกน ช่วงบ่ายเข้าไปชมพิพิธภัณฑ์พระตำหนักดาราภิรมย์ พระตำหนักของเจ้าดารารัศมีซื้อของฝากกลับบ้านที่กาดวโรรส

สถานที่เที่ยวห้ามพลาด จุดชมต้นนางพญาเสือโคร่ง ถนนสายซากุระเมืองไทยภายในพื้นที่ของศูนย์วิจัยเกษตรหลวงเชียงใหม่ ไร่กาแฟ ชมเมล็ดกาแฟอาราบิก้า สายพันธุ์คาติมอร์ สดๆ จากต้น

กิจกรรมห้ามพลาด เดินชมแปลงทดลองการเกษตรภายในศูนย์เก็บภาพสวยๆ กับดอกนางพญาเสือโคร่ง ที่หนึ่งปีจะบานให้เห็น แค่ครั้งเดียว
 

            การเดินทาง ใช้ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 1009 เลี้ยวขวาที่สามแยกบริเวณหมู่บ้านขุนกลาง (ประมาณหลักกิโลเมตรที่ 31) ขับตรงไปประมาณ 18 กม. จนถึงขุนวาง

            โทร.สอบถามการเดินทางไปชมศูนย์วิจัยเกษตรหลวงเชียงใหม่ ได้ที่ โทร.0-5331-8333

@10 เรื่องที่คนควรพัฒนาตัวเอง

1.ออกไปสัมผัสธรรมชาติ เพราะธรรมชาติจะช่วยบำบัดความเครียด ช่วยสร้างความคิดสร้างสรรค์ ช่วยพัฒนาความทรงจำ และช่วยทำให้คุณรู้สึกดีขึ้น

2.ออกกำลังกาย เราทุกคนต่างรู้ดีว่าการออกกำลังกายเป็นสิ่งสำคัญ แต่มีสักกี่คนที่ลงมือทำจริง การออกกำลังกายนั้นจะทำให้คุณสมาร์ทขึ้น มีความสุขขึ้น นอนหลับง่ายขึ้น และจะทำให้คุณพึงพอใจในร่างกายของตัวเอง หนึ่งในงานวิจัยจากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดที่ได้ติดตามกลุ่มผู้ชายมากกว่า 70 ปี พบว่า การออกกำลังกายเป็นกุญแจสำคัญที่ทำให้ชราช้าและมีอายุยืนยาว

3.ใช้เวลากับเพื่อนและครอบครัว แดเนียล กิลเบิร์ต จากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด เผยว่า การใช้เวลาร่วมกับคนที่คุณรักไม่ว่าจะเป็นเพื่อนหรือคนในครอบครัว นับเป็นปัจจัยสำคัญของความสุขในชีวิตของคุณ กล่าวคือ ความสัมพันธ์มีค่ามากกว่าที่คุณคิด เพราะการอยู่คนเดียวนั้นอาจก่อให้เกิดความทุกข์ และโรคร้ายอย่าง โรคหัวใจ เลือดไปเลี้ยงสมองไม่เพียงพอ และโรคเบาหวาน ดังนั้นคนที่มีอายุยืนยาวคือคนที่มีคนรอบกายที่ดี ซึ่งคนที่มีสังคมดีอาจมีอายุยืนยาวมากกว่าคนออกกำลังกาย คนรอบข้างจึงเป็นปัจจัยที่สำคัญที่สุดสำหรับคนสูงวัย

4.แสดงความกตัญญูต่อคนที่มีความสำคัญในชีวิต เพราะนั่นจะทำให้คุณมีความสุข และยังช่วยพัฒนาความสัมพันธ์ ทำให้คุณเป็นคนที่ดี และทำให้คนรอบข้างมีความสุขตามไปด้วย

5.นั่งสมาธิ การทำวิปัสสนาหรือนั่งสมาธิจะช่วยเพิ่มความสุข ทำให้เห็นความหมายของชีวิต และทำให้ลด ละ เลิก ความโกรธ ความกดดัน ความวิตกกังวล และความเหนื่อยล้าลงไปได้ โดยสรุปคือการสวดมนต์จะทำให้คุณรู้สึกดีขึ้นถึงแม้ว่าจะนับถือศาสนาใดก็ตาม

6.นอนให้เพียงพอ คุณไม่สามารถต้านทานผลของการพักผ่อนไม่เพียงพอได้ เพราะความรู้สึกอ่อนล้าจะทำให้ยากที่จะมีความสุข ความหมายของการอดนอน คือ โอกาสที่จะป่วย ดังนั้น ถ้านอนได้ไม่มาก การงีบหลับระหว่างวันก็นับเป็นสิ่งที่ดีเช่นกัน เพราะการงีบจะช่วยกระตุ้นความกระตือรือร้นและทำให้ทำงานได้ดีขึ้น (บอกเจ้านายคุณถึงความสำคัญข้อนี้)

7.ท้าทายตัวเองอยู่เสมอ การเรียนรู้ภาษาต่างประเทศจะทำให้สมองของคุณไม่ขี้เกียจ การเข้าคลาสเล่นดนตรีจะทำให้คุณฉลาดแหลมคม เพราะความตั้งใจจริงที่จะท้าทายตัวเองด้วยวิธีการใดก็แล้วแต่ ล้วนทำให้คุณเก่งขึ้นมากกว่าการพัฒนาไอคิวเสียด้วยซ้ำ

8.หัวเราะ คนที่ใช้ความตลกจัดการกับความเครียดมักได้ผลดีกว่าระบบของร่างกาย การหัวเราะจะช่วยลดความเสี่ยงการเป็นโรคหัวใจ ทำให้ร่างกายรู้สึกดีขึ้น และทำให้อายุยืนยาวมากขึ้น เพราะการหัวเราะเปรียบเสมือนวิตามิน เพียงแค่หวนระลึกถึงเรื่องราวขำขันที่เคยเกิดขึ้นในอดีตก็จะทำให้คุณรู้สึกดี และจัดการปัญหาที่อยู่ตรงหน้าได้ด้วยใจรื่นเริง

9.การสัมผัส วิธีง่ายๆ ที่จะจัดการกับความเครียดได้คือ กอด การโอบกอดกันเป็นวิธีที่ทำให้รู้สึกสบายใจ ได้ส่งต่อและรับความรักจากกันและกัน รวมถึงการมีเพศสัมพันธ์จะช่วยป้องกันโรคหัวใจและมะเร็งได้ด้วย

10.มองโลกในแง่ดี การมองโลกในแง่ดีจะทำให้คุณสุขภาพดี มีความสุขดี และมีอายุขัยยืนยาว อย่างในค่ายทหาร วิธีการเพิ่มความแข็งแกร่งคือ การสร้างความมั่นใจอย่างเหลือล้น เพื่อส่งผลให้การปฏิบัติมีประสิทธิภาพมากขึ้น ดังนั้นเรื่องของจิตใจจึงมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อกายภาพ ถ้าจิตไม่แน่วแน่ กายก็จะทำไม่สำเร็จอย่างแน่นอน

ข้อควรทำและต้องทำทั้งหมดนี้คือ วิธีการที่ทุกคนสามารถทำได้ด้วยตัวเอง เพื่อการพัฒนาความคิด การบำบัดความเครียด การสร้างความสุขในจิตใจ และการใช้ชีวิตให้ยืนยาวอย่างมีความสุข ขอเพียงลงมือทำ แล้วผลลัพธ์จะตามมาโดยไม่ทันตั้งตัว

ข่าวแรก “ดอนเมืองปิ๊งเปิดบริการโค-เวิร์คกิ้งสเปซ”

นายเพ็ชร ชั้นเจริญ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานดอนเมือง บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) “ทอท.” เปิดเผยว่า ร่วมกับ มิราเคิล กรุ๊ป เปิดบริการมิราเคิล โค-เวิร์กกิ้ง สเปซ (Miracle Co-working Space) แห่งแรก ที่อาคาร 2 ท่าอากาศยานดอนเมือง โดยทำเป็นพื้นที่สำหรับพบปะนัดหมาย ทำงาน หรือประชุม ภายในพื้นที่จะมีบริการอาหารและเครื่องดื่มไว้ด้วย ซึ่งเป็นโครงการนำร่องการพัฒนาเชิงพาณิชย์ในสนามบินดอนเมือง รองรับการขยายเฟส 2-3 ระหว่างปี 2560-2568 เตรียมปรับปรุงเพิ่มพื้นที่เชิงพาณิชย์ในอาคาร 2 ปี 2560 จะมีร้านค้าเข้ามาเปิดเต็มพื้นที่รวมทั้งหมด 270ร้านค้า ขณะนี้ยังพอมีเหลืออยู่ประมาณ 20 ห้อง เมื่อทุกอย่างสมบูรณ์ก็จะช่วยเพิ่มรายได้ให้สนามบินดอนเมืองเติบโต 10-15% หรือประมาณปีละ 200 ล้านบาท ส่วนอาคารผู้โดยสาร 1 ก็เดินหน้าปรับปรุงด้วยเช่นกันเพื่อให้บริการผู้โดยสารระหว่างประเทศ

สำหรับปี 2560 ทอท.แผนจะเพิ่มอาคารจอดรถรองรับเพิ่มได้อีกกว่า 1,000 คัน เพื่อลดปัญหาการจราจรและที่จอดรถด้วยการทุบอาคารสำนักงานดอนเมืองที่ไม่ได้ใช้งานบริเวณด้านทิศเหนือของสนามบิน สร้างเป็นอาคารจอดรถ

ขณะเดียวกันก็มีรายงานจาก ทอท.ว่า สิ้นปี 2559 สนามบินดอนเมืองจะมีกำไรสุทธิจากการดำเนินงานมากถึง 5,020 ล้านบาท เป็นผลมาจากผู้โดยสารนิยมใช้โลว์คอสต์แอร์ไลน์ขยายตัวแบบก้าวกระโดดปัจจุบันมีผู้โดยสารปีละ 34-35 ล้านคน มีเที่ยวบินวันละกว่า 670 เที่ยว ปริมาณผู้โดยสารใช้บริการเข้า-ออกดอนเมืองวันละเกือบ 100,000 คน  

นายอัศวิน อิงคะกุล ประธานกรรมการบริหาร มิราเคิล กรุ๊ป กล่าวว่า มิราเคิลได้เปิดมิราเคิล โค-เวิร์กกิ้ง สเปซ หรือห้องนัดพบ มีพื้นที่กว่า 500 ตารางเมตร บริเวณชั้น 4 อาคารผู้โดยสาร ซึ่งจะเปิดให้บริการทุกวัน ระหว่างเวลา 06.00-22.00 น. พิเศษตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2559 ทำโปรโมชั่นคิดค่าบริการเพียงคนละ 200 บาทต่อ 2 ชั่วโมง อนาคตจะทำ Co-Working Space ขยายไปให้บริการในสนามบินสุวรรณภูมิด้วย

นายอัศวินกล่าวว่า มิราเคิล โค-เวิร์กกิ้ง สเปซ ตั้งอยู่ใกล้ Sleeep Box by Miracle ห้องพักแนวใหม่ในสนามบินดอนเมือง เปิดบริการแล้วประสบความสำเร็จเร็วมาก ดังนั้นจึงวางแผนขยายกิจการในสนามบินนานาชาติดอนเมืองทยอยเปิดโรงแรม Sleep Box เพิ่มอีก 2 แห่ง และ Miracle Lounge 3 แห่ง ส่วนในสนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิ มีบริการ  Miracle Lounge ตรงบริเวณคองคอร์ด D ขนาด 3,000 ตารางเมตร ไว้รองรับผู้โดยสารชั้นหนึ่งและชั้นธุรกิจ

ข่าวที่สอง “ห้ามพลาดงานศาสตร์พระราชาภูมิปัญญาท้องถิ่น”

วันเสาร์ที่ 26พฤศจิกายน 2559  ต้องห้ามพลาดไปพบกัน ที่ Pickadaily อ่อนนุช เยื้องกับซอยอ่อนนุช 46/1 เพื่อการฟังเสวนาในช่วง 13.00 น. เรื่อง ศาสตร์พระราชาและภูมิปัญญาท้องถิ่น พร้อมเรียนรู้ทฤษฎีบันได ๙ ขั้นสู่ความพอเพียง ในรูปแบบธรรมธุรกิจ ที่เข้าถึง เข้าใจได้ ในงาน ยักษ์กะโจน สัญจร ตั้งแต่เวลา 10.00น. - 18.00น.  

แล้วจะได้พบกับสุดยอดบุคลากรแถวหน้าของประเทศ ทั้ง อ. ยักษ์ ดร. วิวัฒน์ ศัลยกำธร (มูลนิธิกสิกรรมธรรมชาติ) อ. โจน จันได (สวนพันพรรณ) คุณหนาว พิเชษฐ โตนิติวงศ์ (ธรรมธุรกิจ)คุณแมน มณฑล เสนีวงศ์ ณ อยุธยา (บริษัท สนุกไร้ขีด จำกัด)ที่จะมารังสรรค์ ให้เกิดสังคมสร้างสรรค์ อย่างพอเพียงในงาน ยักษ์กะโจนสัญจร

ส่วน “กิจกรรม”ตลอดงานนั้น ทางเครือข่ายกสิกรรมธรรมชาติ - พันพรรณ - ธรรมธุรกิจ ทั่วประเทศ ยกผลผลิตธรรมชาติปลอดสารพิษทั้งสด และแปรรูปจากลูกศิษย์ยักษ์กับโจน มาจำหน่าย และในช่วง 11.00 น. เชฟเยียร์ ฟาร์มพอสุข ควงแขน โอ-ศุทธวีร์ และ ไมค์-พลภัทร เวลส์ช นักแสดงอารมณ์ดี มาร่วมสร้างสีสันเมนูมีดีไซน์ในงาน

 พบกับสาระข่าวดี ๆ ได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 11.00-12.00 น.

ดำเนินรายการโดย...เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน

ติดตามฟังรายการย้อนหลังเข้าไปที่ www.google.com พิมพ์คำว่า รวยด้วยข่าว97.0 หรือทาง www.facebook.com/rauydauykhao และวิเคราะห์เจาะลึกทางบล็อกเกอร์ :gurutourza.blogspot.com

เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน
คอลัมนิสต์-บล็อกเกอร์ การบิน/ท่องเที่ยว และผู้ดำเนินรายการ
 

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ททท.คุนหมิงดึงจีน3มณฑลเที่ยวไทยทางบก4ด่านเงินสะพัด

ททท.ปั๊มทัวร์จีนคุนหมิงแบบโอเวอร์แลนด์เงินสะพัดไทย 4 ด่าน ส.ค. 66- ปี ’67 กระหน่ำขาย “ New Ways to Amazing to Thailand” ล็อกเป้าจีน 4 ตลาดใช้จ่ายแสนบาท/ทริป-ดันอีสานอู้ฟู่ 20 จังหวัด ช้อป!!ของขวัญวันแม่ที่คิงเพาเวอร์ลด20%- Firster9 หมื่นไอเท็ม ฉลองวันแม่!พูลแมนคิงเพาเวอร์จัดบุฟเฟต์พรีเมี่ยมกลางวัน/ค่ำ กินฟินที่คิงเพาเวอร์มหานคร-รร.เดอะสแตนดาร์ดตลอดส.ค. 66 ททท.จัดแข่งผัดกะเพราโลก“ World Kaphrao 2023”ชิงเงินล้าน กลุ่มบริษัทบางจากโชว์ครึ่งปีแรก66กวาดรายได้1.48 แสนล้าน TCEB บุกจีนจัด Thailand MICE in China 2023 โกยไมซ์ 990 ล้าน เที่ยววันแม่ใกล้กรุงได้ที่อุทยานเบญจสิริ/ดรีมเวิลด์/สวนนงนุช เคล็ดลับ!!การรักษาแผลให้หายไวด้วยขั้นตอนง่ายๆทำได้เอง บินไทยฟื้นเร็ว!!ครึ่งแรกปี’66กำไร329%พกเงินสด5.1หมื่นล้าน เปิดขายแล้ว!!บัตรชม“โขน”สุดยิ่งใหญ่แห่งดูได้ 5 พ.ย.- 5 ธ.ค. 66   วันเสาร์ที่ 12 สิงหาคม 2566 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97.0 และอ

TCEB นำงานวิจัยMICE for Sightแนะธุรกิจปรับตัวรับไมซ์10ปีหน้า

  นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) "TCEB" “ TCEB ”เปิดคัมภีร์ MICE for Sight ปลุกไมซ์จัดทัพใหม่ 10 ปีหน้า รับมือ Gen Z ผงาดผู้ทรงอิทธิพลไมซ์โลกเขย่าตลาดครั้งใหญ่ ปี 67 เร่งโกย 1.4 แสนล้านโหมซอฟท์เพาเวอร์/ไมซ์ซิตี้/ไมซ์ชุมชน รีบช้อป!!คิงเพาเวอร์เป็นไปได้5รายการรางวัลสูงสุดกว่า 4 ล้าน ด่วน 4 วันสุดท้าย!คิงเพาเวอร์อัดโปร SurpriseOnlineSale ลด 50% คิงเพาเวอร์ช้อปวนไปแจกทันที 3 ฟรี คูปอง/ตั๋ว/รถยนต์ LEXUS ท่องเที่ยวรุกเจรจาธุรกิจ TEJ 2023ฉลุย300นัดโกยญี่ปุ่น9ตลาด บางจาก-กรุงไทยเปิดแอปเป๋าตังจองซื้อหุ้นกู้ดิทัลดีเดย์ 30 ต.ค. เที่ยวประจวบนอนแคมป์ทะเลหมอกบ้านป่าหมาก-วิ่งปราณบุรี บินไทยโชว์ยูนิฟอร์มใหม่ลูกเรือแฟชั่นผ้าลดโลกร้อนเริ่ม1ม.ค.67 คาเธ่ย์ กรุ๊ปทุ่มลงทุนฝูงบินใหม่ A 320 neo เพิ่ม32ลำบินจีน/เอเชีย   วันเสาร์ที่  28 ตุลาคม 2566 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97

ททท.ภาคเหนือ7เดือนปี66โกยแล้ว1.08แสนล้าน

นางสาวภัทรอนงค์ ณ เชียงใหม่ ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคเหนือ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)  ททท.ภาคเหนืออู้ฟู่ 7 เดือนแรกโกยได้แล้ว 1 แสนล้าน ต.ค.-ธ.ค. 66 ลุยขายเที่ยวไฮซีซัน 4 เทรนด์ใหม่มาแรง นำ The Link จับคู่ทัวร์ข้ามภาคสำเร็จ 3 เส้นทางสุดฮ็อต คิง เพาเวอร์แจกมันส์แจกฟินที่รางน้ำเสาร์16ก.ย.นี้ ช้อป KingPowerOnline รับแบบไม่ยั้ง2สุดคุ้มถึง24ก.ย. ช้อป DUTY FREE SALE นำบิวตี้แบรนด์โลกมาเต็ม ททท.ใช้ฟรีวีซ่าปั๊ม1.4แสนล้านชาเตอร์จีนเฮเข้าไทย บางจากโชว์อุตฯไทย-ไต้หวันชูนวัตกรรมธุรกิจสีเขียว TCEB ผนึก EECAutoPark หนุนไมซ์เอ็กซิบิชั่นอินเตอร์ เที่ยว Unseen “พิพิธภัณฑ์ป่าสัก-วัดขุนอิน-วัดปัญญา” 4วิธี“ปิดล้างเลี่ยงหยุด”ป้องกันไข้หวัดใหญ่ทุกพันธุ์ “สุดาวรรณ”รมว.ใหม่ท่องเที่ยวดึงต่างชาติ40ล้านคน กพท.-สมาคมแอร์ไลน์สไทยแบไต๋ตั๋วบินราคาแพง วันเสาร์ที่ 16 กันยายน 2566 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyai