ททท.เปิดTHE LINK ภาค2-มหานครการบินอู่ตะเภาEEC-4คัมภีร์คิงเพาเวอร์ดิวตี้ฟรี

ไทยงัดแผนผ่าเทรนด์ตลาดเที่ยวในเวทีโลก

ชูบิ๊กโปรเจ็กต์THE LINKภาค2แจ้งเกิดเมืองรอง
ตามรอยพ่อไปดูศูนย์เศรษฐกิจฯค่ายสุรนารี
เร่งมหานครการบินEECชงนายกฯ5เม.ย.นี้
         สวัสดีเช้าวันอาทิตย์ที่ 19 มีนาคม 2560 เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz.ในรายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” (ฟังสดทางสมาร์ทโฟนเลือก FM 97.0 อ่านได้ที่ www.facebook.com/penroong และ gurutourza.blogspot.com หรือฟังย้อนหลังทางใน www.facebook.com/rauydauykhao)

         ช่วงที่  1 ของรายการ มารวยความรู้ใหม่ ๆ เรื่องเศรษฐกิจกับบทสัมภาษณ์พิเศษ เทรนด์ใหม่อุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยในเวทีโลกกับ THE LINK ภาค 2 และข่าวช้อป กิน เที่ยว แบบสบายกระเป๋า

 

ธเนศวร์ เพชรสุวรรณ

รองผู้ว่าการด้านตลาดยุโรป แอฟริกา ตะวันออกกลางและอเมริกา ททท.

คุณธเนศวร์ เพชรสุวรรณ รองผู้ว่าการด้านตลาดยุโรป แอฟริกา ตะวันออกกลาง และอเมริกา การท่องเที่ยวแห่งประเทศไท (ททท.) ให้สัมภาษณ์ถึง ผลสำเร็จจากงาน ITB 2017 เตรียมต่อยอดโครงการ THE LINK ภาค 2 ขยายพื้นที่เมืองท่องเที่ยวไทยในตลาดโลก และการรณรงค์ให้แต่ละชุมเข้าสู่หมวด “เจ้าบ้านที่ดี”

“คุณธเนศวร์ เพชรสุวรรณ”  เล่าถึง “เทรนด์ใหม่” ในเวทีโลกจากงาน International Travel Brose 2017 : ITB 2017 ณ กรุงเบอร์ลิน เยอรมัน ที่เพิ่งเสร็จสิ้นไปเมื่อเร็ว ๆ นี้ โดยไทยเป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวของชาวเยอรมันเดินทางเข้ามาปี 2559 กว่า 300,000 คน ในเชิงรายได้เติบโตเกือบ 10 % นับเป็น “ตลาดคุณภาพ” จริง ๆ

สำหรับเทรนด์ใหม่จากเยอรมันจากเดิมเคยนิยมมาพักผ่อนพื้นที่หาดทรายชายทะเลของไทยเป็นหลักมาอย่างยาวนาน ขณะนี้พฤติกรรมเริ่มสนใจสิ่งใหม่ ๆ เพิ่มขึ้นได้แก่ อาหารถิ่นของไทย การท่องเที่ยวชุมชน ความงดงามทางธรรมชาติในเชิงภูเขา ทำให้ ททท.เกิดแนวคิดสร้างสรรค์จุดขายใหม่ในการทำโปรเจ็กต์ “Beach Plus”

นับจากนี้เป็นต้นไปนักท่องเที่ยวเยอรมันนอกจากจะมากระจายรายได้เมืองหาดทรายชายทะเลแบบเต็ม ๆ แล้ว ต่อไปจังหวัดใกล้เคียงก็จะมีรายได้จากการนำเสนอขายวิถีชีวิตและอาหารท้องถิ่น ธรรมชาติอันงดงามในชุมชนต่าง ๆ ซึ่งจะใช้โครงการ THE LINK ของ ททท.ซึ่งนำร่องทำมาตั้งแต่ต้นปี โดยจับคู่สำนักงาน ททท.ที่ดูแล “ตลาดเยอรมัน” เข้ากับ “จังหวัดพังงา” ในงาน ITB 2017 ผู้ว่าราชการจังหวัดพังงานำทีมผู้ประกอบการไปร่วมงานด้วย พร้อมทั้งการนำเสนอสินค้าทางการท่องเที่ยวนอกเหนือจากทะเล คือ ภูเขา อาหาร มีการท่องเที่ยวชุมชนมากมาย จึงกลายเป็นความสมบูรณ์ทางการขายเรื่อง “พลัส” ทะเลกับแหล่งท่องเที่ยวอื่น ๆ เข้าด้วยกัน

การกระจายจุดขายเชื่อมโยงทะเลกับแหล่งท่องเที่ยวชุมชนและอีกมากมายรอบพังงานั้น ททท.จะเพิ่มการโฆษณาประชาสัมพันธ์ตามอุทยานแห่งชาติทางทะเล เชื่อมต่อไปยัง กระบี่ ระนอง เพราะโครงการ The Link อย่างมาก

ดังนั้นจึงเตรียมวางแผนการตลาดในปี 2561 จัดทำ The Link ภาค 2 จังหวัดพังงานอกเหนือจากสินค้าภายในแล้ว ก็จะพ่วงขายพื้นที่ท่องเที่ยวจังหวัดใกล้เคียงให้ได้มากที่สุด ไฮไลต์ที่จะทำคือขายการท่องเที่ยว2 ฝั่งทะเลอันดามันกับอ่าวไทยเข้าด้วยกัน โดยจะเพิ่มการคมนาคมเพื่ออำนวยความสะดวกทางด้านบริการควบคู่กันไปด้วย

ล่าสุดพังงาเตรียมจัดทำสนามบินพาณิชย์ ที่ได้รับความสนใจจากตัวแทนผู้ประกอบการขายท่องเที่ยวในยุโรปจำนวนมากและสายการบินที่พร้อมจะนำนักท่องเที่ยวเข้ามาโดยตรง แต่ขณะเดียวกันทาง ททท.เองก็เห็นถึงศักยภาพบริการเดินทางทางบก ซึ่งเป็นเส้นทางหลักเชื่อมภาคใต้กับภาคตะวันออกได้

คุณธเนศวร์ย้ำว่าในการนำโครงการ THE LINK ไปนำเสนอตลาดโลกที่ ITB 2017 ซึ่งกระแสตอบรับโดดเด่นเกินคาด อีกทั้งยังได้พันธมิตรบริษัทนำเที่ยวขนาดกลางในเยอรมัน สหราชอาณาจักร ปร๊าก และยุโรป เข้ามาร่วมขายด้วยอย่างเป็นทางการอีก 8 ราย ตัวแทนของเยอรมันคือ บริษัท อาเซียน่า ซึ่งทุกบริษัทที่เข้าร่วมต่างก็พร้อมจะทำตลาดเชิงรุกทำแพกเกจท่องเที่ยวเมืองไทยโครงการ The Link ซึ่งเป็นสินค้าที่แปลกแตกต่างจากเดิมโดยจะเน้นการขายจังหวัดท่องเที่ยวเมืองรองของไทยให้กับนักท่องเที่ยวยุโรปทั้งหมด

โดยทั้ง 8 บริษัท เดินทางมาสำรวจพื้นที่ท่องเที่ยวในพังงาและพื้นที่ใกล้เคียงแล้วทั้งหมด และเข้าพบผู้ว่าราชการจังหวัดหลายจังหวัดจนครบ สร้างความพึงพอใจทางด้านซัพพลาย สาระหลักในขั้นต่อไปคือการเปิดตัวอย่างเป็นทางการ เพราะผลจากการลงพื้นที่ของเอเย่นต์ต่างประเทศ แลกเปลี่ยนความคิดเห็นและเสนอแนะการคัดเลือกสินค้าที่เหมาะกับความต้องการของนักท่องเที่ยวมาขายเรียบร้อยแล้วเกือบทุกแห่ง

คุณธเนศวร์ย้ำว่าอีกประเด็นไฮไลต์คือได้เป็นตัวแทน ททท.ลงนามกับโอเปอเรเตอร์รายใหญ่ของเยอรมันคือ บริษัท ลุฟฮันซ่า เซ็นเตอร์ ซิตี้ จำกัด หรือ LCC เพื่อทำการตลาดร่วมกันอย่างเข้มข้น โดย LCC มีสาขาทำการขายครอบคลุมทั่วยุโรปถึง 600 สาขา พร้อมที่จะขายท่องเที่ยวเมืองไทยเป็นพิเศษในปี 2561 ซึ่งจะเป็นพลังสำคัญขับเคลื่อนการท่องเที่ยวไทยในตลาดเยอรมัน สวิตเซอร์แลนด์ และอีกหลายประเทศ

นอกจากนี้ “ดร.ยุทธศักดิ์ สุภสร” ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ยังได้เปิดตัวโครงการซึ่งเป็นจุดขายใหม่ด้วยใน ITB 2017 เรื่องอาหารไทย ซึ่งเรื่องนี้จะอยู่ในแคมเปญ "อะเมซิ่ง ไทย เทสต์” ขณะนี้ ททท.กำลังทำโครงการชื่อ “THAI Dilicious” นำอาหารถิ่นมาผนวกกับแหล่งท่องเที่ยวเสนอขายตลาดยุโรป เป็นหนึ่งใน Beach Plus อย่างหนึ่งด้วย และหลังจากลงนามกับ LCC ได้พาเอเย่นต์ท่องเที่ยวกว่า 100 รายมาเยี่ยมชมไทยแลนด์ พาวิลเลี่ยน ใน ITB พร้อมทั้งได้สัมผัสความเป็นไทยกับอาหารไทยที่จัดเตรียมไปด้วย เป็นภาพแห่งความสำเร็จมาก

เนื่องจาก THE LINK เป็นการนำการท่องเที่ยวชุมชนมาเสนอกับตลาดโลก ดังนั้น ททท.ก็จะต้องรณรงค์ให้เจ้าของพื้นที่คือชุมชแต่ละแห่งทำหน้าที่สำคัญ “การเป็นเจ้าบ้านที่ดี” โดยทุกฝ่ายทั้งทางจังหวัด เอเย่นต์ท่องเที่ยวในต่างประเทศหลังพูดคุยกันเรียบร้อยแล้ว ก็จะเน้นให้ชุมชนดูแลมาตรฐานความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินนักท่องเที่ยว อาหารการกิน ซึ่งได้รับคำสัญญาจากผู้ว่าราชการจังหวัดที่จะทำให้เต็มที่ดีที่สุด

ส่วน THE LINK ต้องการเน้นเรื่องความยั่งยืนระยะยาวมากกว่าที่จะใช้เป็นกลไกในการเพิ่มรายได้หรือเร่งตลาดระยะเร่งด่วน เพราะขณะนี้ทั่วโลกมาเที่ยวเมืองไทยปีละกว่า 32 ล้านคน ถึงแม้จะต้องการทั้งจำนวนและรายได้ แต่การออกแบบ THE LINK เพื่อรักษาดูแลทรัพยากรและชุมชนยั่งยืนมากกว่าเหตุผลอื่น เพื่อให้ตลาดเติบโตอย่างสมดุล เป็นการคัดกรองนักท่องเที่ยวเชิงคุณภาพมากกว่าปริมาณ ที่จะนำไปสู่ “การเพิ่มรายได้” ที่สมบูรณ์

คุณธเนศวร์กล่าวเพิ่มว่า THE LINK ภาค 2 กำลังจะรวมพลขยายผลต่อภายในช่วงเดือนกรกฎาคม 2560 นี้ กำหนดจะประชุม ททท.สำนักงานต่างประเทศและในประเทศที่จับคู่กันไว้ ขยายแนวรุกสู่จังหวัดใกล้เคียงและกิจกรรมท่องเที่ยว ตัวอย่างล่าสุด ททท.สำนักงานลอสแองเจลิส จับคู่กับชุมพร จะบวกระนองเข้าไปด้วย แต่ละคู่ก็จะเชื่อมโยงบวกเพิ่ม เช่น เชียงราย เชียงใหม่ อาจจะต้องพลัสเมืองตะเข็บชายแดนประเทศเพื่อนบ้านเข้ามาด้วย ระหว่างขอทำการบ้านว่ามีโปรดักซ์ที่น่าสนใจอะไรบ้าง

กลยุทธ์การทำ THE LINK PLUS ประกอบด้วย 1.ศึกษาศักยภาพพื้นที่รอยต่อระหว่างจังหวัดหลัก-รองและเมืองติดตะเข็บเพื่อนบ้าน 2.เปิดโฉมหน้าพันธมิตรใหม่เข้ามาในโครงการ เช่น สายการบิน หรือกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาจะบูรณาการชุมชนเพิ่มด้วย

การวางแผนเสริมสร้างตลาดช่วงนอกฤดูเดินทางของตลาดต่างประเทศ ช่วงมีนาคม-กันยายน นี้ บางตลาดจะเป็นฤดูกาล ได้แก่ สเปน อิตาลี จะเบาบางลง แต่ตลาดสหราชอาณาจักร จะเที่ยวตลอดทั้งปี จึงจะใช้จุดแข็งนี้เติมเต็มด้วย หากลุ่มเป้าหมายเฉพาะใหม่ ๆ เช่น ตะวันออกกลาง จะมุ่งเน้นกลุ่มต่างชาติที่อยู่ในกลุ่มประเทศนี้ (expact) ช่วงรอมดอนเลือกมาพักผ่อนในไทย นอกจากนั้นผู้ว่าการ ททท.ให้แนวคิดใหม่กลุ่ม เมดิคอลเวลเนส เวดดิ้ง-ฮันนีมูน หรือในอเมริกาจะเจาะกลุ่มมิลเลนเนียล ซึ่งเป็นนักท่องเที่ยววัยรุ่นอายุ 18-30 ปี ลูกค้าใหม่ของไทยที่จะมาแทนกลุ่มเบบี้บูมเมอร์

สรุป ททท.กำลังหาเทคนิค แท็คติก กลยุทธ์ เครื่องมือใหม่ ๆ เป็นแม่เหล็กเติมเต็มการดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้ง 3 ทวีป เข้ามาเที่ยวประเทศไทยในช่วงนอกฤดูเดินทางเพิ่มขึ้นตลอดทั้งปี และในเดือนเมษายน 2560 นี้ ททท.เตรียมประชุมสำนักงานภูมิภาคทวีประยะไกลขึ้นที่เวียดนาม จะใช้เวทีคัดกรอง flagship หรือเรือธงทางการท่องเที่ยวของประเทศให้โดนใจตลาดเทรนด์ใหม่มานำเสนอต่อไป

ฟังข่าวช่วงท้ายเบรกแรก

ข่าวที่ 1 “4คัมภีร์ปลุกนักช้อปคิงเพาเวอร์”

กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ งัด 4 คัมภีร์ต้อนรับปีระกาปลุกกระแสการช้อปปิ้งในร้านค้าดิวตี้ฟรีของไทย

คัมภีร์ เล่มที่ 1: รู้ไว้จะได้ไม่ “เจ็บ”

ไม่ต้องเจ็บซ้ำไปซ้ำมา พบ 5 ทิปส์ วิธีการช็อปที่ คิง เพาเวอร์ ได้คุ้มจุใจ จนหลายคนต้องอิจฉา 1.ส่องโปรหน้าเว็บ KINGPOWER.COM 2. ถูกแล้วถูกอีกด้วยบัตรสมาชิก 3.มองหาของแถม 4.ใช้สิทธิ์ cash back 30% ในวันเกิด 5.ขั้นตอนง่ายๆ ล่าของถูกที่สาขาในเมืองได้ด้วยตัวเอง

        คัมภีร์ เล่มที่ 2: รู้ไว้จะได้ไม่ “เหลว”

สารพัดแบรนด์ชั้นนำ คัดมาเป็นพิเศษ หาไม่ได้ง่ายๆจากที่ไหน รวมไว้ที่ คิง เพาเวอร์ รีบรู้ไว้ การเดินทางครั้งต่อไป จะไม่มีคำว่าเหลวแน่นอน 1. คิง เพาเวอร์ หลากหลายด้วยสินค้าต่างๆมากมาย 2. สินค้าพิเศษสุด EXCLUSIVE มีแค่ที่ คิง เพาเวอร์ เท่านั้น 3. ของเยอะ ครบ เกินคาด อยู่ใกล้แค่ปลายจมูก

       คัมภีร์ เล่มที่ 3: รู้ไว้จะได้ไม่ “อ้าว”

COMPLETE GUIDE 3 วิธีช็อปสะดวกสบาย ที่ คิง เพาเวอร์ รู้แล้วจะร้อง “อ้าว ทำงี้ได้ด้วยเหรอเนี่ย”  วิธีที่ 1 จำขึ้นใจ จองไว้ได้ ไม่ต้องหิ้ว วิธีที่ 2 ช็อปสะใจ ไม่ต้องกลัวตกเครื่อง ที่สาขาในเมือง วิธีที่ 3 ช็อปออนไลน์สิ

คัมภีร์ เล่มที่ 4: รู้ไว้จะได้ไม่ “พลาด”

แล้วการช็อปที่ คิง เพาเวอร์ จะเป็นเรื่องง่าย ถ้าคุณรู้เรื่องเหล่านี้ รู้จักกันให้จริง แค่เคยได้ยินชื่อไม่พอ คิง เพาเวอร์ ไม่ได้มีแค่ในสนามบิน พลาด ลืมซื้อของฝาก แวะช็อปเก็บตกได้ที่ขาเข้าประเทศ การันตี! ของแท้!

ดูรายละเอียดสินค้าได้ที่ www.kingpower.com

ข่าวที่ 2 “พลิกโฉมสกายเลนใหม่ในสุวรรณภูมิ”

นายประสงค์ พูนธเนศ ประธานกรรมการ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า  ทอท.กับ ธนาคารไทยพาณิชย์ ได้ร่วมมือกันยกระดับมาตรฐานเส้นทางจักรยาน เรียกว่า “สนามเขียว” พื้นที่ว่างเปล่าเพื่อพัฒนาระยะทาง 23.5 กิโลเมตร สร้างประโยชน์ให้สังคมได้เข้ามาออกกำลังกาย เป็น “โครงการลู่ปั่นจักรยานรอบท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ” หรือ Sky Lane Thailand เปิดให้บริการ 6.00 -19.00 น. แต่จะปิดปรับปรุงตั้งแต่ 11 เมษายน 2560 ใช้เวลาประมาณ 7 เดือน ดำเนินการให้แล้วเสร็จและกำหนดเปิดใช้งานได้อีกครั้งช่วงกลางเดือนพฤศจิกายน 2560

  ในวันธรรมดาจะมีนักปั่นมาใช้บริการ 2,000 – 3,000 คน วันหยุดสุดสัปดาห์เพิ่มสูงถึง 5,000 – 10,000 คน ช่วงเวลาผู้ใช้หนาแน่นมากคือช่วงเช้าและเย็น

“ดร.วิชิต สุรพงษ์ชัย” ประธานกรรมการบริหาร ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า นักปั่นและประชาชนจะได้พบบริการใหม่ๆในลานปั่นประกอบด้วย 1.เพิ่มลู่ปั่นใหม่ คู่ขนานไปกับลู่ปัจจุบัน 2.เพิ่มพื้นที่จอดรถพร้อมสะพานจักรยาน (Bike Bridge) เชื่อมสู่โครงการฯ : จากลานจอดรถระยะยาวของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ซึ่งมีพื้นที่จอดรถมากถึง 3,500 คัน 3.เพิ่มจุดปฐมพยาบาลที่จุดพักที่ 2 ในลู่ใหญ่ 4.สร้างจุดนั่งพักที่มีหลังคาใกล้ลู่ปั่นเล็ก รองรับเด็กๆ มาปั่นที่และให้พ่อแม่ได้ดูแลลูกระหว่างปั่นอย่างใกล้ชิดมากขึ้น

 5.พัฒนาพื้นผิวลู่วิ่งจ๊อกกิ้ง ที่ขนานไปกับลู่ปั่นเล็กให้มีพื้นผิวที่ได้มาตรฐานมากยิ่งขึ้น 6.ศูนย์บริการนักปั่น (Bike Center) ซึ่งประกอบด้วย ฟู้ดคอร์ท  ร้านอาหาร-เครื่องดื่ม  ร้านอุปกรณ์จักรยาน  ร้านฝากและซ่อมจักรยาน

วันที่ 8-9 เมษายน 2560 ทอท. และธนาคารไทยพาณิชย์ เตรียมจัดกิจกรรมปั่นส่งท้ายนับเป็นงานที่ท่านจะได้มาพบปะเพื่อนนักปั่น และรับของที่ระลึกจากโครงการฯ  ติดตามข้อมูลได้ที่ Facebook fan page Sky Lane Thailand  และเว็บไซต์ Bike.SCB

ข่าวที่ 3 “เที่ยวชุมชน7กรีนในเมือง2สมุทร”

ททท. สำนักงานสมุทรสงคราม ชวนนักท่องเที่ยวหัวใจสีเขียว ร่วมอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ตามแนวคิด 7 Greens Concept กับโครงการ “เที่ยววิถีชุมชนคน Green” ในพื้นที่จังหวัดสมุทรสงคราม และ จังหวัดสมุทรสาคร ซึ่งทั้ง 2 จังหวัดมีความโดดเด่นทางด้านท่องเที่ยวเชิงเกษตร เชิงอนุรักษ์ แหล่งท่องเที่ยววิถีชุมชน วิถีชีวิต องค์ความรู้และภูมิปัญญาพื้นบ้านที่น่าสนใจ

โดย “7 Green concepts” เป็นแนวคิดที่ต้องการให้ทุกส่วนที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมท่องเที่ยวได้ดำเนินกิจกรรมท่องเที่ยวพร้อมกับการปกป้องสิ่งแวดล้อมและลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกอย่างเป็นรูปธรรม ประกอบไปด้วย

 Green Heart : “ท่องเที่ยวด้วยใจคิด เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม” จุดเริ่มต้นของการใส่ใจสิ่งแวดล้อม คือ เริ่มต้นที่ใจเราเอง ซึ่งพร้อมเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยลดภาระโลกร้อนได้”

Green Logistic : “ท่องเที่ยวใกล้ไกลใช้พลังงานให้คุ้มค่า” วิธีเดินทางไปยังแหล่งท่องเที่ยว ที่เน้นการประหยัดพลังงาน การใช้พลังงานทดแทน เช่น การโดยสารรถไฟ การขับรถที่ประหยัดพลังงาน การเลือกบริโภคของในท้องถิ่นเพื่อลดต้นทุนและมลภาวะจากการขนส่ง

 Green Attraction : “ท่องเที่ยวทั่วทิศ เลือกแหล่งเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมสนับสนุนและปกป้องแหล่งท่องเที่ยวให้ยั่งยืน

 Green Activity : “สนุกกับกิจกรรมท่องเที่ยวหลากหลาย ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม” การเลือกกิจกรรม ขี่จักรยาน ไม่ให้อาหารปลาในทะเล เพราะทำให้เกิดความไม่สมดุลตามธรรมชาติของระบบนิเวศ ไม่ส่งเสียงดังรบกวนคนในชุมชน ไม่รบกวนพืชพันธุ์ สิ่งมีชีวิตต่างๆ ในแหล่งท่องเที่ยว

 Green Community : “ท่องเที่ยวอย่างรู้คิด รักษาวิถีชีวิตชุมชน” เราทุกคนสามารถเลือกทำกิจกรรมที่สอดคล้องกับธรรมเนียมประเพณีท้องถิ่น ซึ่งมีส่วนช่วยในการรักษาวัฒนธรรมและวิถีชีวิตชุมชนให้คงอยู่ต่อไป

 Green Service : “เลือกใช้บริการธุรกิจที่ใส่ใจเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เช่น โรงแรม ร้านค้า ร้านอาหาร เป็นตัวอย่างที่ทำให้สถานบริการอื่นๆ หันมาปรับเปลี่ยนรูปแบบการจัดการให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น

 Green Plus : “จิตอาสา พาโลกสดใส ใส่ใจสิ่งแวดล้อม” ส่งต่อเรื่องราวและเผยแพร่แนวคิดการท่องเที่ยวแบบใส่ใจสิ่งแวดล้อม การลงมือทำในฐานะจิตอาสา หรือกระทั่งการบริจาคทุนทรัพย์ตามกำลัง เพื่อช่วยพัฒนาโครงการเพื่อสิ่งแวดล้อมให้แก่แหล่งท่องเที่ยวต่างๆ

ที่ผ่านมา ททท.สำนักงานสมุทรสงคราม ได้ร่วมกับสถานบันการศึกษาต่างๆ อาทิ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร โรงเรียนบ้านดินแดง อำเภอลำทับ จังหวัดกระบี่ มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี และ โรงเรียนเทศบาล 1 วัดแก่นเหล็ก (รัตนกะลัสอนุสรณ์) จังหวัดเพชรบุรี นำนักเรียน/นักศึกษา เข้าเรียนรู้แหล่งท่องเที่ยวชุมชนในพื้นที่และทำกิจกรรมที่สอดคล้องกับแนวคิด 7 Greens Concept เช่น รับประทานอาหารท้องถิ่นที่ชุมชนบ้านบางพลับ เพื่อเรียนรู้วัฒนธรรมผ่านอาหารการกินและสนับสนุนการใช้วัตถุดิบท้องถิ่นที่ไม่จำเป็นต้องสิ้นเปลืองพลังงานในการขนส่งมาจากแดนไกล (Green Logistic) ซึ่งครัวของชุมชนบ้านบางพลับนั้นมาจากบ้านพี่แดงหรือบ้านกลุ่มแม่บ้านที่ทำผลไม้กลับชาติ โดยมีอาหารขึ้นชื่อใช้วัตถุดิบจากท้องถิ่น อาทิ แกงกระดองกรุบ น้ำพริกกะปิรับประทานคู่กับผักพื้นบ้านลวกรวมถึงใบชะครามลวกราดด้วยกะทิและปลาทูทอด อาหารท้องถิ่นของจังหวัด

สร้างโอกาสในการเรียนรู้และประสบการณ์ด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม ตามวิถีชีวิตชุมชน (Green Community) อาทิ การทำผลไม้กลับชาติหรือการแปรรูปผลไม้จากขมเป็นหวาน เช่น บอระเพ็ด มะระ มะนาว การเผาถ่านผลไม้

รวมทั้งส่งเสริมการเข้าพักโฮมสเตย์กับเจ้าบ้านท้องถิ่น ช่วยลดการใช้พลังงาน แล้วเข้าไปเรียนรู้วิถีชีวิตชาวสวนส้มโอ และการปาดน้ำตาลจากต้นมะพร้าวเพื่อนำไปเคี่ยวน้ำตาลในช่วงเช้าอีกด้วย โดยมี “กลุ่มวิสาหกิจชุมชนบ้านริมคลองโฮมสเตย์” มีกิจกรรมที่สอดคล้องกับธรรมเนียมประเพณีท้องถิ่นยั่งยืน (Green Community) โดยชวนนักท่องเที่ยวไป เรียนรู้การทำขนมไทย “ขนมต้ม” ที่มีส่วนประกอบมาจากมะพร้าวที่ผูกพันกับชุมชนสมุทรสงคราม อีกทั้งยังมีพิพิธภัณฑ์วิถีชีวิตมะพร้าวไทยแบบครบวงจร โดยมีกิจกรรมการสานทางมะพร้าวเป็นหมวก กระเช้า ปลาตะเพียน ผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นแปรรูปเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มและยังก่อให้เกิดรายได้เข้าชุมชน

ข่าวที่ 4 “สมาชิกบางจากรับฟรีที่คลีนิกสไมล์ซีซันส์”

บริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) รายงานว่า สมาชิกบัตรจากทุกประเภท สามารถใช้ “คลินิกทันตกรรมสไมล์ซีซีนส์”  ระหว่างวันนี้– 31 ธ.ค. 2560 รับฟรี  “บริการขูดหินปูนและเคลือบฟลูออไรด์” เมื่อฟอกสีฟันขาวด้วยเลเซอร์ Zoom! ในราคาพิเศษ 8,999 (ปกติ 13,500) และส่วนลดค่ารักษา 10% สำหรับทันตกรรมทั่วไป (เมื่อใช้บริการ 2,000 บาท/ใบเสร็จ) ดูรายละเอียดทั้งหมดได้ที่ www.smileseasons.com Facebook : www.facebook.com/smileseasons.dc

ข่าวที่ 5 “การศึกษาด้านกายภาพการอนุรักษ์ท่าเตียน”

“กระบวนการอนุรักษ์” อาคารในพื้นที่รอบพระบรมมหาราชวัง ทื่ทางสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ได้นำมาใช้อีกเรื่องคือ “การศึกษาด้านกายภาพ”

การศึกษาด้านกายภาพ หมายถึงการดำเนินการเกี่ยวกับตัวอาคารและพื้นที่โดยรอบ และการศึกษาด้านกายภาพมีประโยชน์อย่างน้อย 4 อย่าง ได้แก่

1.เป็นหลักฐานประกอบเพื่อยืนยันการศึกษาด้านเอกสาร

2.ใช้ประเมินสภาพปัจจุบันว่าจะสามารถอนุรักษ์ได้หรือไม่ อย่างไร

3.เป็นพื้นฐานในการจัดทำแบบอนุรักษ์

4.เป็นพื้นฐานในการประมินราคาโครงการบูรณะและก่อสร้างในเบื้องต้น

การศึกษาด้านกายภาพสำหรับการอนุรักษ์อาคารนี้ ในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 1930 ประเทศสหรัฐอเมริกาเป็นผู้ริเริ่มให้มีแนวทางในการดำเนินการอย่างเป็นระบบ และครอบคลุมไปถึงการศึกษาด้านเอกสารด้วย มีการจัดทำเป็นรายการที่ครอบคลุมทุกด้านที่เกี่ยวข้องเรียกว่า “รายงานการศึกษาโครงสร้างอาคารประวัติศาสตร์” (Historic Structure Report)

ซึ่งต่อมาได้มีการนำไปประยุกต์ใช้ในหลายประเทศ รวมทั้ง ฝรั่งเศส แคนาดา ออสเตรเลีย และอื่น (Slat on 2005 :1) ในโครงการอนุรักษ์ตึกแถวทั้ง 3  แห่ง คือ หน้าพระลาน ท่าช้าง และท่าเตียน ก็ได้นำแนวทางดังกล่าวมาประยุกต์ใช้เช่นเดียวกัน หากแต่ทำแยกส่วนเป็นโครงการย่อยไม่ได้ทำเป็นเล่มเดียวกัน

การศึกษาด้านกายภาพ ในโครงการประกอบด้วยงานหลัก 2 ด้าน ได้แก่ 1.การสำรวจและบันทึกสภาพอาคาร 2.การสำรวจและศึกษาทางโบราณคดี

ในสัปดาห์หน้าจะมาเล่าให้ฟังว่า การสำรวจและบันทึกสภาพอาคารท้ง 2 ด้าน มีเรื่องราวน่าสนใจอะไรบ้างที่มีประโยชน์อย่างมากต่อการอนุรักษ์ด้วยการปรับปรุงให้สอดคล้องกับยุคสมัย

ช่วงที่ 2 ออกไปหาประสบการณ์ความสุขได้ที่ “ศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจฯ ค่ายสุรนารี” แล้วฟังเรื่องดีเกี่ยวกับสุขภาพ และข่าวฮ็อตในรอบสัปดาห์

 @ศูนย์การเรียนรู้เศรษฐกิจฯค่ายสุรนารี

ถึงเวลาออกไปหาประสบการณ์ตามรอยพ่อกันที่ “ศูนย์การเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงภาคตะวันออกเฉียงเหนือค่ายสุรนารีW  ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครราชสีมา

" เดินตามรอยเท้าพ่อ ดำเนินชีวิตตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงของชาวโพน ให้คงอยู่คู่วัฒนธรรมไทย "

ในกระแสโลกยุคปัจจุบันที่ทุกคนต่างหันมาสนใจ การท่องเที่ยวเชิงเกษตรกรรม สำหรับโคราชเมืองย่าโม แขกไปใครมาต้องแวะเวียนมาที่ค่ายสุรนารี เพราะที่นี่ เป็นที่ตั้งของศูนย์การเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่ซึ่งเป็นศูนย์สาธิตการทำเกษตรกรรมรูปแบบใหม่ เป้าหมายหลักคือการปลูกฝังอุดมการณ์ในเรื่องการปฏิบัติตามหลักเศรษฐกิจพอเพียง

ณ สวนน้ำบุ่งตาหลั่วที่กว้างใหญ่และงดงามแห่งนี้ แขกที่มาเยี่ยมชม ส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มข้าราชการ เกษตรกร ชาวบ้าน นักเรียนนักศึกษา ที่ต้องการดูงานด้านการเกษตร ที่นี่จัดแสดงแปลงเพาะ และการอบรม ให้ความรู้มากมาย ทั้งการประมง การเลี้ยงไก่โคราช การปลูกมะนาว การทำปุ๋ย ไปจนถึงเรื่องที่ซับซ้อนมากขึ้นอย่างการทำบัญชีครัวเรือน และการจัดทำโซล่าเซลล์ เพื่อประหยัดพลังงาน ก่อนกลับบ้านซื้อผักปลอดสารพิษซึ่งปลูกกันเองด้วยฝีมือกลุ่มแม่บ้านในศูนย์ ภายในหนึ่งวันแห่งการท่องเที่ยวหากได้มาเยี่ยมเยือนที่นี่ รับรองว่า คุ้มค่าอย่างแน่นอน

 เส้นทางท่องเที่ยว จ.นครราชสีมา

วันแรก “ช่วงเช้า” เยี่ยมชมหลวงพ่อโต ณ อุทยานลานบุญมหาวิหารสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) วัดบ้านไร่ พิพิธภัณฑ์หลวงพ่อคูณ “ช่วงบ่าย” เข้าชมอุทยานประวัติศาสตร์พิมาย เยี่ยมชมอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี (ย่าโม) วีรสตรีผู้กล้า

วันที่สอง “ช่วงเช้า”ศูนย์การเรียนรู้ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ค่ายสุรนารี เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงและ งานศิลปาชีพ ชมพิพิธภัณฑ์ไม้กลายเป็นหิน แห่งแรกของไทย หนึ่งในเจ็ดแห่งของโลก “ช่วงบ่าย” ชมประติมากรรมหุ่นเหล็ก ดราก้อน คอฟฟี่ ชมสวนซ่อนศิลป์และตลาดน้ำศิลปะกลางดง

สถานที่เที่ยวห้ามพลาด อาคารนิทรรศการฯ จัดแสดงแนวคิด หลักการ และวิถีชีวิตของเกษตรกรในด้านต่างๆอาคารศิลปาชีพจัดแสดงงานหัตถกรรมทอผ้าที่งดงามฐานเพาะเห็ดนางฟ้าจำหน่าย ก้อนเห็ดนางฟ้าสามารถทดลองปลูกและนำกลับบ้านได้

กิจกรรมห้ามพลาด  แต่ละปีที่นี่ จะจัดเทศกาลใหญ่ 2 ครั้ง คือ งานเทศกาลวันแม่ จัดช่วงวันที่ 10-11 ส.ค. งานนี้ จะมีการดำนาด้วยนักเรียนจาก โรงเรียนในเครือข่าย และในช่วง เทศกาลวันพ่อ หรือช่วง 3-4 ธ.ค. มีแสดงการเก็บเกี่ยวข้าวอีกครั้ง ใครมาเที่ยวโคราชช่วงเวลานี้ ไม่ควรพลาด

สนใจไปเที่ยวศูนย์การเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงค่ายสุรนารี  โทร. 0-4427-5965 www.facebook.com/northeaststudy

การเดินทาง จากตัวเมืองใช้เวลาเพียงประมาณ10 นาที ใช้ทางหลวง 224 ตรงเข้าทางหลวงหมายเลข 2 ถนนมิตรภาพจากนั้นเลี้ยวซ้ายเข้าซอยกิ่งสวายเรียง เลี้ยวขวาเข้าถนนมุขมนตรี ทางเข้าค่ายสุรนารีจะอยู่ซ้ายมือ

@แนะขั้นตอนการเลือกทำประกันสุขภาพ

ตามหลักในเรื่องวางแผนการเงินแล้ว สินค้าการเงินที่สำคัญเป็นอันดับต้นๆก็คือ “ประกันสุขภาพ” เพราะเป็นตัวช่วยที่ดีมากๆ

มาฟังขั้นตอนการเลือกแบบประกันาสุขภาพกันดีกว่า

1. ตรวจดูสวัสดิการให้ปัจจุบันของเรา เราควรตรวจดูสวิสดิการให้ปัจจุบันของเราทั้งหมดว่าตอนนี้มีอะไรบ้าง มีค่าห้อง ค่าผ่าตัด ค่าหมอ เท่าไหร่อย่างไรบ้าง ในกรณีนี้เราพูดถึงทั้งประกันสุขภาพที่ทำเพิ่มเติมเอง รวมไปถึงสวัสดิการประกันกลุ่มจากที่ทำงานด้วยเช่นกัน เราจะได้รู้ว่าถ้าเราต้องเบิกต้องใช้ขึ้นมาเรามีอยู่เท่าไหร่บ้าง

2. ลองไปสำรวจราคา “ค่าห้อง” กับโรงพยาบาล ค่าผ่าตัด กรณีต่างๆ รวมไปถึงโรคร้ายแรงเช่น พวกโรคมะเร็งหรือโรคหัวใจด้วย

3. ลองสำรวจดูส่วนต่างระหว่างข้อ 1 และ 2 แล้วศึกษาข้อมูลต่อไปถึงมีส่วนขาด/ส่วนเกินอยู่เท่าไหร่ ถ้าเกินอยู่แล้วก็แปลว่าเรามีประกันป้องกันอย่างครบถ้วนแล้ว แต่ถ้ามีส่วนขาดก็แนะนำว่าให้ลองหาแบบประกันสุขภาพที่สามารถเติมเต็มตรงนี้ได้

4. อย่าลืมดูเรื่องโรคร้ายแรงและอุบัติเหตุ แนะนำให้ทุกคนควรจะมีเพราะว่า “เบี้ยประกัน” เมื่อเทียบกับความคุ้มครองแล้วถือว่าถูกมาก หรือลองเปรียบเทียบด้วยตัวเองในเว็บไซต์ของบริษัทต่างๆได้เลย เพราะเรารู้แล้วว่าเราอยากทำแบบไหน ค่าห้องเท่าไหร่ ค่าผ่าตัดเท่าไหร่ และขอให้เลือกบริษัทประกันรายใหญ่ๆ เพื่อความมั่นคงทางการเงินกรณีเราเบิกเคลมด้วย

สุดท้ายรายจ่ายเรื่องประกันสุขภาพไม่ควรเกิน 10% ของรายได้เราในแต่ละปี

ฟังข่าวท้ายชั่วโมง

ข่าวแรก “ไลออนแอร์รุกเปิดบินไทย-เทศ”

นายอัศวิน ยังกีรติวร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายการบินไทย ไลอ้อน แอร์ กล่าวว่า การวางแผนพัฒนาธุรกิจสายการบินจะนำเข้าฝูงบินโบอิ้ง 737-900ER อีก 5 ลำ ทำให้มีเครื่องบินทั้งหมด 30 ลำ ควบคู่กับการทยอยเปิดจุดบินใหม่ระหว่างประเทศ 8-10 เส้นทาง เริ่มมีนาคมนี้ 4 เส้นทาง ประกอบด้วย จีน 3 เส้นทาง ไป-กลับ กรุงเทพฯ สู่เมืองได้หนานจิง เฉิงตู ฉงชิ่ง และ เวียดนาม กรุงเทพ-ฮานอย จากนั้นในวันที่ 1 เมษายน เปิดบิน กรุงเทพ-หนานชาง (จีน) ส่วนช่วงปลายปีจะบินเพิ่มอีกประเทศละ 1 เส้นทาง ได้แก่ จีน อินเดีย และเกาะบาหลี (อินโดนีเซีย)

ส่วนในประเทศพร้อมเปิดภายในเดือนมีนาคม 2 เส้นทาง ดอนเมือง ไป-กลับ ขอนแก่น เริ่ม 17 มีนาคมนี้เป็นต้นไป  และพิษณุโลก27 มีนาคมนี้  และสนใจจะบินเข้าสู่เมืองท่องเที่ยวรองอย่าง ร้อยเอ็ด นราธิวาส หากรัฐวางระบบบริหารจัดการสนามบินได้ดี

ปี 2560 ไลออนแอร์ ตั้งเป้าจะมีผู้โดยสารใช้บริการ 10 ล้านคน เพิ่มขึ้นจากปี 2559 ที่ทำได้เพียง 7.5 ล้านคน มีอัตราบรรทุกผู้โดยสารเฉลี่ย 89-90% สร้างรายได้เติบโต 20%

ข่าวที่สอง “เร่งผุดมหานครการบินEECเสนอนายก5เม.ย.นี้”

นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจ เปิดเผยว่าที่ประชุมของคณะกรรมการบริหารการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (กรศ.) นัดแรกมีมติให้เดินหน้าโครงการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) โดยเร็วที่สุดเพื่อเตรียมนำเสนอกรรมการนโยบายการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (คนพ.) ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเป็นประธาน วันที่ 5 เม.ย. นี้ ทางด้านการลงทุน 5 โครงการหลัก ได้แก่ สนามบินอูตะเภา รถไฟความเร็วสูงและรถไฟรางคู่ ท่าเรือแหลมฉบัง การลงทุนในอุตสาหกรรมเป้าหมายใหม่ และการพัฒนาเมืองใหม่

โดยมุ่งพัฒนาโครงการอู่ตะเภา ร่วมเป็นศูนย์กลางสนามบินนานาชาติกรุงเทพฯ แห่งที่ 3 ช่วยรองรับผู้โดยสารเพิ่มเติมจากสนามบินดอนเมือง และสุวรรณภูมิ เบื้องต้นกำหนดต้องจัดทำเอกสารจัดซื้อจัดจ้าง (TOR) ให้แล้วเสร็จภายใน 3-6 เดือนหน้า และภายในปีนี้ต้องทำให้เกิดเป็นรูปธรรม

รวมทั้งเร่งให้จัดทำรายละเอียดแผนพัฒนากลุ่มอุตสาหกรรมอากาศยาน ในลักษณะเขตการค้าเสรี เพื่อประกอบอุตสาหกรรมและการค้าเชื่อมโยงสนามบิน กลุ่มธุรกิจขนส่งทางอากาศ คลังสินค้า(คาร์โก้) สินค้าทางไปรษณีย์ และคลังสินค้าที่มีเทคโนโลยีสูง กลุ่มธุรกิจซ่อมเครื่องบิน และกลุ่มศูนย์ฝึกอบรมบุคลากรอากาศยานและธุรกิจการบิน

ข่าวที่สาม“รัฐบาลคืนความสุขสงกรานต์ฟรีขึ้นทางด่วน”

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า วันที่ 14 มีนาคม ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)อนุมัติให้กรมทางหลวงยกเว้นค่าผ่านทางมอเตอร์เวย์ หมายเลข 7 เส้นทางกรุงเทพฯ- พัทยา และหมายเลข 9 เส้นทางบางปะอิน- บางพลี ยกเว้นค่าผ่านทางช่วงเทศกาลสงกรานต์ ตั้งแต่เวลา 00.01 น. ของวันที่ 11 เมษายน- 24.00 น. ของวันที่ 18 เมษายน รวมระยะเวลา 8 วัน เพื่อเพิ่มความสะดวกในการเดินทางให้กับประชาชนและลดปัญหาการจราจรติดขัด เนื่องจากในช่วงวันดังกล่าวจะมีประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนาและท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก

อีกทั้งยังจะยกเว้นค่าผ่านทางในเส้นทางหลักของการทางพิเศษแห่งประเทศไทย(กทพ.ในช่วงสงกรานต์ด้วยเช่นกัน

เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน

คอลัมนิสต์ การบิน/ท่องเที่ยว , blogger :gurutourza.blogspot.com

เจ้าของรายการ "รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์" สวท.FM 97.0 MHz.