ททท.ภาคกลาง17จังหวัดชิงตลาดสงกรานต์-วันธรรมดาน่าเที่ยวลดแหลก10-14พ.ค.60-บินไทยลดแหลกตั๋วรักคุณเท่าฟ้า

ภาคกลาง17จังหวัดฮือโกยตลาดสงกรานต์ปี60

10-14พ.ค.ทั่วไทยกระหน่ำลดวันธรรมดาน่าเที่ยว

คิงเพาเวอร์เท100ล้านแร็พไทยแอร์ดึง40ล้านคน

หอค้าไทย-ททท.รุกส่งออกวัฒนธรรมเที่ยวไทยเท่

ตามรอยพ่อไปศูนย์วิจัยชาน้ำมันฯชมวิถีเชียงราย

บินไทยกอดคอไทยสไมล์ขายตั๋วถูกรักคุณเท่าฟ้า

เครือดุสิตเทห้องพักไทย-เทศโกยเงินสงกรานต์

สวัสดีเช้าวันเสาร์ที่   2560 เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz.ในรายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” (ฟังสดทางได้มือถือเลือก FM 97.0 หรืออ่านได้ทาง www.facebook.com/penroong และ gurutourza.blogspot.com ฟังข่าวย้อนหลังใน youtubeทาง www.facebook.com/rauydauykhao)

ช่วงที่ 1 ฟังสัมภาษณ์เจาะลึก และข่าวอัพเดทหลากมิติที่น่าสนใจ

ช่วงสัมภาษณ์ข่าวเศรษฐกิจพบกับไฮไลต์ 2 ประเด็น ของการท่องเที่ยวในภาคกลาง 17 จังหวัด งัดไม้เด็ดดึงคนไปเที่ยวสงกรานต์ปีระกา และ “วันธรรมดา น่าเที่ยว” 10-14 พฤษภาคม 2560 เอกชนยกพลขึ้นบกจัดเต็ม “แพกเกจสุดประหยัดทั่วภาคกลาง” ลดแล้วยังลุ้นโชค 2 ชั้น รับรางวัลเที่ยวฟรีทุกเดือน และโปรถูกสุด ๆ ของบรรดาโรงแรม ร้านอาหาร ที่แห่กันเข้ามาเสนอขายผ่านทางเว็บไซต์ www.วันธรรมดาน่าเที่ยว.com

 

นายสมชาย ชมภูน้อย

ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคกลาง การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย

     “นายสมชาย ชมภูน้อย” ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคกลาง การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ให้เกียรติมาเล่าถึงการจัดกิจกรรมต้อนรับการท่องเที่ยวช่วงเทศกาล “เย็นทั่วหล้า มหาสงกรานต์”  ในภาคกลาง 17 จังหวัด จะมีคลื่นมหาชนชาวไทยและต่างชาติเดินทางคล้ายกับช่วงปีใหม่และตรุษจีน

สงกรานต์วันแรก 13 เมษายน เป็น “วันผู้สูงอายุ” เริ่มการรดน้ำดำหัวขอพรผู้ใหญ่ วันที่ 14 เมษายน เป็น “วันครอบครัว” จะทำกิจกรรมร่วมกัน ผู้คนจะเดินทางท่องเที่ยว วันที่ 15 เมษายน เป็น “วันเถลิงศก” เข้าสู่ปีใหม่ไทยอย่างเป็นทางการ ดังนั้นทั้ง  3 วัน คนไทยจะทำกิจกรรมไหว้ผู้สูงอายุ เข้าวัดฟังธรรม ไหว้พระ ขอพรทำบุญตักบาตร หรือร่วมกิจกรรมขนทรายเข้าวัด เล่นน้ำสงกรานต์

สำหรับ “ภาคกลาง” เชิญชวนไปเล่นน้ำสงกรานต์

 จุดแรก “สงกรานต์กรุงเก่า-พระนครศรีอยุธยา” เป็นราชธานีมีวัดสำคัญไหว้แล้วเกิดสิริมงคล อาทิ วัดใหญ่ชัยมงคล สักการะแล้วจะได้เป็นใหญ่เป็นโต หรือ วัดพนัญเชิง ไหว้แล้วจะมีชั้นเชิงที่ดี มีหลวงพ่อซำปอกง เกื้อหนุนให้เจริญก้าวหน้าด้านการค้าขาย หรือ วัดกล้วย ให้ความรู้สึกไหว้แล้วจะทำให้ราบรื่นชีวิตทำสิ่งใดได้กล้วย ๆ

นอกจากนักท่องเที่ยวจะไปพระนครศรีอยุธยาเพื่อไหว้พระเพิ่มความเป็นสิริมงคลแล้ว ยังมีไฮไลต์กิจกรรม “เล่นน้ำสงกรานต์กับช้าง” เป็นแม่เหล็กดึงดูดนักท่องเที่ยวได้ดีระหว่างวันที่ 13-15 เมษายน ของทุกปี ซึ่งจัดบริเวณถนนด้านหน้าสำนักงานการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานพระนครศรีอยุธยา

จุดที่ 2 “เย็นทั่วหล้า มหาสงกรานต์ กับ ศิลปินแห่งชาติ จังหวัดสุพรรณบุรี” เป็นอีกหนึ่งจังหวัดที่มีวัดศักดิ์สิทธิ์ด้วย

จุดที่ 3 “สงกรานต์มอญ สังขละบุรี” จังหวัดกาญจนบุรี หนึ่งเดียวในเมืองไทยกับชุมชนชาวรามัญทุกปีเมื่อถึงสงกรานต์จะต้องเดินทางกลับไปรดน้ำดำหัวงานประเพณีสงกรานต์ในครอบครัว ในบรรยากาศวิถีถิ่น เล่นน้ำสงกรานต์วันที่ 16 เมษายน คนจะไปรวมตัวกันเล่นสงกรานต์ที่วัดหลวงพ่ออุตตะมะ ถือน้ำอบน้ำปรุงไปสรงน้ำพระสงฆ์ พระพุทธรูป ซึ่งสรงผ่านกระบอกไม้ไผ่ความยาวเป็นกิโลเมตร ศูนย์รวมแห่งสายน้ำ ปิง วัง ยม น่าน รวมกันเป็นสายเดียว พระสงฆ์ที่เดินทางมารับน้ำอบน้ำปรุงจากผู้คนที่หลั่งไหลไปด้วยความศรัทธา โดยมีผู้ชายนอนเรียงแถวให้พระสงฆ์เดินเหยียบบนหลังเพื่อให้ผู้คนได้สรงกัน และวันที่ 17 เมษายน คนจะเล่นน้ำสงกรานต์กันทั้งเมืองกาญจน์

นอกจากนั้นจุดใหญ่ในการเล่นสงกรานต์ตามถนนชื่อดังต่าง ๆ ก็เล่นกันสนุกสนาน อาทิ สงกรานต์ถนนข้าวหมูแดง จ.นครปฐม เรื่อยไปจนถึง “สงกรานต์ริมหาดทรายชายทะเล” หาดเจ้าสำราญ จัดยิ่งใหญ่ ชะอำ เพชรบุรี สงกรานต์บ้านพ่อที่หัวหิน ต่อเนื่องถึงปราณบุรี  สงกรานต์ 2 สมุทร คือ สมุทรสาคร สมุทรสงคราม

ส่วน “กรุงเทพมหานคร” จัดในหลากหลายพื้นที่ ปีนี้ได้อัญเชิญ “พระพุทธสิหิงส์” มาให้ชาวกรุงสรงน้ำปีใหม่ไทย ตามตำนานกล่าวว่าพระพุทธสิหิงส์ในประเทศไทยนั้นมี 3 องค์ โดยมีรูปลักษณ์แตกต่างกันแต่ชื่อเดียวกัน จึงเป็นกุศโลบายนำมาให้ผู้คนได้นสรงน้ำกัน

พระพุทธสิหิงส์องค์แรก อยู่เชียงใหม่ นำมาในช่วงจัดสงกรานต์ “ปี๋ใหม่เมือง” พระพุทธสิหิงส์องค์ที่สอง อยู่นครศรีธรรมราช พระพุทธสิหิงส์องค์ที่สาม อยู่ในกรุงเทพมหานคร ซึ่งจะแห่มาให้ผู้คนได้สรงกันแล้วมารวมอยู่บริเวณหน้าลานคนเมือง

 นอกจากนี้ยังมีสงกรานต์ “วัดโพธิ์” ที่มีเรื่องราวของธรรมบาลคูบาล เป็นใครมาจากไหนต้องศึกษาตามดูกันที่วัดดังกล่าว หรือจะเป็นวัดอรุณราชวราราม และสงกรานต์เก่าแก่ถนนวิสุทธิ์กษัตริย์ สงกรานต์บางลำพู รอบเกาะรัตนโกสินทร์

ข้ามฝั่งมายังสงกรานต์สีลม สวนเบญจศิริ สยามสแควร์

ใครอยู่ใกล้บริเวณพื้นที่ใดก็ไปร่วมกิจกรรมในพื้นที่นั้น สามารถเข้าไปหาข้อมูลสงกรานต์ภาคกลาง 17 จังหวัดได้ที่ www.เที่ยวภาคกลาง.com  หรือเสิร์ชหาสงกรานต์ภาคกลางก็จะได้รับข้อมูลทั้งหมดเช่นกัน

การสร้างรายได้กระจายสู่ภาคกลางตลอดเทศกาลสงกรานต์ โดยเฉพาะ “รายได้ที่พัก” เมืองแถบสังขละบุรี กาญจนบุรี หรือ ชะอำ หัวหิน ห้องพักส่วนใหญ่เกือบเต็มแล้ว ส่วนกรุงเทพมหานครและชานเมือง จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าร่วมจำนวนมาก โดยรวมแล้วจะทำให้มีรายได้เติบโตเพิ่มขึ้นตลอดเทศกาลขยายตัว 5-7 %

อีกส่วนเป็นกลยุทธ์การกระตุ้น “วันธรรมดา น่าเที่ยว” มีจุดเด่นเสมือนนักท่องเที่ยวเป็นราชา ได้รับบริการการดูแลจากพนักงานดีกว่าวันหยุดหรือวันนักขัติฤกษ์ การจราจรคล่องตัวทั้งทางบก ทางอากาศ และอาหารการกิน ห้องพักราคาประหยัด ประการสำคัญ “นักท่องเที่ยวสามารถออกแบบการพักผ่อนได้เต็มที่”

ระหว่างวันที่ 10-14 พฤษภาคม 2560 จะมีมหกรรม “วันธรรมดา น่าเที่ยว” มาจากทุกภาคของประเทศไทยมารวมจัดแพกเกจราคาสุดประหยัด ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โดยเฉพาะ “ภาคกลาง” ได้ระดมผู้ประกอบการ ห้องพัก โรงแรม ร้านอาหาร บริษัทจัดนำเที่ยว นำแพกเกจราคาสุดคุ้มมาขายอีกครั้งในช่วงกลางปี หรือจะเข้าไปตรวจสอบข้อมูลโรงแรม ที่พัก ร้านอาหาร ที่ทยอยกันเข้ามาลดราคาอยู่ใน www.วันธรรมดาน่าเที่ยว.com ก็จะมีโปรโมชั่นพิเศษ เดินทางพร้อมลุ้นรับรางวัล ถึง  2 รายการด้วยกัน คือ

 รายการแรก  “โชคสองชั้น”  ได้แก่ “โชคชั้นแรก” ไปเช็คอินเคาน์เตอร์ ซึ่งจองจากการเข้าร่วมขายในโครงการวันธรรมดา ก็จะมีคูปองให้เขียนชื่อ ที่อยู่ ชิงโชค ลุ้นรางวัลจาก ททท.สำนักพื้นที่ ทุกเดือน “โชคชั้นที่สอง” หลังจากนั้นทุก 3 เดือน จะรวมคูปองมามอบรางวัลพิเศษให้ผู้โชคดี  รายการที่  2 โปรโมชั่นท็อปอัพลดเกินกว่า 70 % ทุกเดือน

โดยมีอัตราการเติบโตของ “ตลาดการเดินทางท่องเที่ยว วันธรรมดา” ที่ ททท.จัดต่อเนื่องกันมาหลายปีแล้วนั้น ผลลัพธ์ทางรายได้ของกลุ่มผู้ประกอบการโรงแรมมีจำนวนสูงขึ้นสามารถมียอดพักเฉลี่ยวันธรรมดา จันทร์-พฤหัสบดี จากเดิมเคยมียอดจองเพียง 45-50 % พอทำโครงการวันธรรมดา น่าเที่ยว ก็สามารถเติมเต็มนักท่องเที่ยวให้มีอัตราการเข้าพักเฉลี่ยสูงถึง 60 % เพิ่มอีก 10-15 %

กำลังซื้อส่วนใหญ่จะเลือกเดินทางเป็นหมู่คณะ บริษัทตัวแทนนำเที่ยวจะนิยมจัดแพกเกจขายด้วย หรือบริษัทขนาดใหญ่ที่มีเครือข่ายธุรกิจก็เลือกไปจัดประชุมสัมมนา ดังนั้นจึงขอเชิญชวนหน่วยงานที่มีสำนักงานสาขายกแก๊งไปเป็นก๊วนไปประชุมแบบคือ เที่ยวได้งานได้เงินด้วย ทำเวิร์คช็อป สร้างแรงบันดาลใจ การทำงานเป็นทีมร่วมกัน ซึ่งจะได้สิทธิพิเศษในแพกเกจส่วนลดค่าสาธารณูปโภค ค่าไฟฟ้าและสถานที่จัดประชุม คุ้มทั้งเงิน ทั้งเวลา และได้ประโยชน์ครบวงจร

ฟังข่าวช่วงแรก

ข่าวที่ 1 “คิงเพาเวอร์ทุ่ม100ล้านแร็พโลโก้ในไทยแอร์เอเชีย”

“อัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ เปิดเผยว่าได้ใช้งบประมาณ 100 ล้านบาท แรพโลโก้ คิง เพาเวอร์ ลงในฝูงบินไทย แอร์ เอเชีย ภายในปีนี้จะทำให้ครบ 44 ลำ เริ่มต้นทำแล้ว 3 ลำ โดยติดตั้งสื่อโฆษณาภายในและนอกลำตัวเครื่องบิน เป้าหมายหลักต้องการให้นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างประเทศปีละ 40 ล้านคน รับรู้จากการเห็นและจดจำ แบรนด์ คิง เพาเวอร์  ที่อยู่ในฝูงบินไทย แอร์เอเชีย ซึ่งเป็นช่องทางการตลาดเชื่อมโยงลูกค้ากลุ่มดังกล่าวเข้ามาใช้บริการภายในร้านค้าปลอดอากรของ คิง เพาเวอร์ ในไทยทุกสาขา ใช้จ่ายเงินช้อปปิ้งในดิวตี้ฟรีเพิ่มขึ้นกว่า 20%

ควบคู่ทำแผนบูรณาการตลาด 3 ธุรกิจ ดิวตี้ฟรี คิงเพาเวอร์ ไทย แอร์เอเชีย และสโมสรฟุตบอลระดับอินเตอร์เลสเตอร์ ว่า แต่ละธุรกิจมีความชัดเจน ขณะนี้ได้ลงทุน “แร็พโลโก้คิง เพาเวอร์” ลงบนลำตัวเครื่องบินไทย แอร์เอเชีย ฝูงแรก 4 ลำ มีบางลำนำไปบริการบินตามเส้นทางต่าง ๆ แล้ว เป็นกลยุทธ์การโปรโมตรูปแบบหนึ่ง ส่วนอีก 3 ลำ จะเพิ่มการแร็พโลโก้ทีมเลสเตอร์กับคิง เพาเวอร์ ออนไลน์ ด้วย

ข่าวที่ 2 “1 เม.ย.นี้สนามบินภูเก็ตใช้Inline Screeningสัมภาระ”

นางมนฤดี เกตุพันธุ์ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานภูเก็ต บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทอท.) กล่าวว่า ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2560 เวลา 00.00 น.เป็นต้นไป ท่าอากาศยานภูเก็ต (ทภก.) จะดำเนินการปรับเปลี่ยนมาตรการการรักษาความปลอดภัยการตรวจสัมภาระลงทะเบียน (Hold Baggage) ของผู้โดยสารจากระบบ Terminal Screening ซึ่งเป็นการตรวจสัมภาระด้านหน้าก่อนเข้าอาคารผู้โดยสาร เป็นระบบ In-line Screening ซึ่งเป็นระบบตรวจสัมภาระลงทะเบียนในระบบสายพานลำเลียงกระเป๋า

          นางมนฤดี กล่าวเพิ่มเติมว่า ในการใช้ระบบ In-line Screening ผู้โดยสารจะได้รับความสะดวกและลดปัญหาความแออัดของอาคารผู้โดยสาร เนื่องจากเมื่อผู้โดยสารเดินทางถึงท่าอากาศยาน ผู้โดยสารสามารถไปยังเคาน์เตอร์ตรวจบัตรโดยสารของสายการบินเพื่อเข้าสู่กระบวนการผู้โดยสารขาออกได้ทันที ในส่วนกระเป๋าสัมภาระลงทะเบียนจะถูกลำเลียงผ่านระบบสายพานลำเลียงกระเป๋า ซึ่งมีการติดตั้งระบบตรวจสอบความปลอดภัยไว้และหากพบสัมภาระต้องสงสัย จะมีการดำเนินการตามมาตรการการรักษาความปลอดภัยต่อไป

ข่าวที่ 3 “8เม.ย.ยกสงกรานต์5ภาคมาไว้ในกรุง”

8 เม.ย.นี้ปิดสุขุมวิท-ปทุมวัน จัดพาเหรดจำลองปีใหม่ไทย “เย็นทั่วหล้า มหาสงกรานต์ : Amazing Songkran 2017 มหัศจรรย์วันสงกรานต์” และ 8-13 เม.ะ ปี้ปิดสุขุมวิท-ปทุมวัน จัดพาเหรดจำลองปีใหม่ไทย "่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.ย.ยึดสวนเบญจสิริ จำลองลานกิจกรรม 5 ภูมิภาคมาไว้ใจกลางกรุง

             นายนภดล ภาคพรต รองผู้ว่าการด้านสินค้าและธุรกิจท่องเที่ยว การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า วันที่ 8  เมษายน 2560 เวลา 17.30-20.30 จะเปิดมหาสงกรานต์ด้วยขบวนมหัศจรรย์ วันเบิกบาน สงกรานต์ไทย (Amazing Songkran Joyful Procession) ระยะทางยาวกว่า 5 กม. เป็นครั้งแรกบนท้องถนนสุขุมวิท จาก “แยกพร้อมพงษ์” มุ่งสู่ “สยามสแควร์”

           โดยจะนำเสนอขนบธรรมเนียมประเพณีสงกรานต์ไทยทั่วประเทศ เล่าขานมหัศจรรย์วันสงกรานต์ที่กำลังจะมาถึง ผ่านประสบการณ์ที่ชวนหลงใหลน่ามหัศจรรย์ที่งดงาม      ของแต่ละภูมิภาค ผ่านการนำดอกไม้ประจำถิ่นมาเป็นเรื่องเล่า ร่วมกันสืบสานงานประเพณีแห่งความสุข สดชื่น เบิกบานใจสัมผัสความประทับใจ มีการเรียนรู้ พบมุมมองใหม่ ตามแบบฉบับการท่องเที่ยว Amazing Experience ในพื้นที่ที่คงวัฒนธรรมท้องถิ่น โดยแบ่งออกเป็น 6 ขบวน 5 ความอัศจรรย์ ประสบการณ์ ได้แก่

ขบวนแรก : Amazing Songkran 2017 มหัศจรรยวันสงกรานต์ (ตราสัญลักษณ์) พร้อมนางระบำ ชุด ราชพฤกษ์

ขบวนที่สอง : ขบวนเปิดตัวนางสงกรานต์ประจำปี 2560 กาฬกิณีเทวี นางสงกรานต์ประจำวันพฤหัสบดี เสด็จมาบนหลังคชสาร (ช้าง) ถือว่าเป็นสัญลักษณ์ตัวแทนแห่งความสมบูรณ์เปิดศักราชมหาสงกรานต์นี้ให้อุดมสมบูรณ์ตลอดทั้งปี พร้อมกับการแสดงชุด “มหัศจรรย์วันสงกรานต์” (Amazing Songkran 2017)

ขบวนที่สาม : อะเมซิ่งสงกรานต์เบญจางคทิศ (Amazing Songkran 5 Region) ที่รวมความมหัศจรรย์ มหาสงกรานต์ทั่วภูมิภาค ทั่วทุกทิศ ของไทยมาให้ ชาวกรุงฯ นักท่องเที่ยวสัมผัสร่วมประสบการณ์ความงดงาม บนพื้นที่ใจกลางกรุงเทพมหานคร ก่อนเดินทางไปร่วมประสบการณ์จริงทุกจังหวัดทั่วประเทศ

1. ขบวนมหาสงกรานต์ภาคใต้ : ดาหลางามตา ลอยเคราะห์ลงเล

 2.ขบวนมหาสงกรานต์ภาคกลาง : หอมกลิ่นมะลิ จำปา สาวถิ่นไทยงาม

 3.ขบวนมหาสงกรานต์ภาคตะวันออก : ดาวเรืองบางแสน อุ้มรักลงสีชัง

 4.ขบวนมหาสงกรานต์ภาคอีสาน : เสียงแคน ดอกคูณบ้านเฮา

 5.ขบวนมหาสงกรานต์ภาคเหนือ : ทองกวาวบานสดใส สุขใจ ปี๋ใหม่เมือง

ขบวนที่สี่ : ขบวนสงกรานต์สีเขียวรักษ์โลก โดย IRPC

เทพีรักษ์โลกมาพร้อมชุมชน สมาชิกอุตสาหกรรมทั่วประเทศที่หลงใหลประเพณีมหาสงกรานต์ กับการออกแบบผลิตภัณฑ์ต้นทางอย่างเม็ดพลาสติกแนวคิดรักษ์โลกมาสร้างสรรค์เป็นรถประดับไฟฟ้ารักษ์โลก   ประกอบการแสดง The earth of green songkran

ขบวนที่ห้า : มหาสงกรานต์เพื่อนบ้าน เรื่องราวความสัมพันธ์ของเพื่อนบ้านที่ประเพณีขึ้นปีใหม่วันสงกรานต์สืบสานต่อเนื่องกันมาอย่างยาวนาน รวมตัวแทนมิตรไมตรี กลุ่ม CLM

1.“อังกอร์สงกรานต์” ประเทศกัมพูชา มีการประดับซุ้มประตู พร้อมข้อความต้อนรับนักท่องเที่ยวตามปีนักษัตร

2.“นางสังขาน หลวงพระบาง” สปป.ลาว ซึ่งเป็นงานใหญ่ ของเมืองมรดกโลกดังกล่าว เพื่อคัดเลือกสาวงาม 7 คนทั้งหมด คือ จำนวนธิดาท้าวกบิลพรหม ในตำนานมหาสงกรานต์

3.“สุขบานหวานใจ ปีใหม่แก้ว พญาวันมา” ของรัฐฉาน สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์ ชาติพันธุ์ที่หลากหลาย ส่วนใหญ่เป็น ชาวไทเขิน หรือไทขึน ที่รวมตัวกันออกมาสาดความสดชื่นกันในหมู่บ้านกันอย่างสนุกสนาน

ขบวนที่หก : Amazing หลากรด(รถ) ปิดท้ายความสนุกสนานกับประสบการณ์อย่างยิ่งใหญ่ ที่นักท่องเที่ยว   ชาวไทยและต่างชาติรอคอยที่จะเดินทางมาเยือนประเทศไทย มหาสงกรานต์พร้อมด้วยมหาคาราวาน หลากรถจากทั่วทุกภูมิภาค ที่จะมารดน้ำให้ชุ่มฉ่ำ    

            

           ระหว่างวันที่ 8-13 เมษายน 2560 เวลา 12.00- 20.00 น.ททท.ได้จัดกิจกรรมจำลองงานสงกรานต์ทั่วทุกภูมิภาคทั่วประเทศ มาไว้ในอุทยานเบญจสิริ จัดลานแสดงกิจกรรม ดังนี้

          ลานที่ 1: สงกรานต์ลานบุญ เสริมสิริมงคลแบบไทยๆ ในวันสงกรานต์ สรงน้ำพระพุทธรูปบนเขา  พระสุเมรุมาศ สร้างสิริมงคลให้กับชีวิตในวันปีใหม่ไทย           
       กิจกรรมสาธิต รดน้ำขอพร 5 ภาค : พร้อมเปิดพื้นที่ให้คนรุ่นใหม่ได้รดน้ำดำหัวผู้ใหญ่ เป็นที่ระลึกภายในงาน
        หอมติดกระดาน : เติมเต็มประสบการณ์ความความปราณีต ความหอมแบบไทยๆ รับเทศกาลสงกรานต์ กับกิจกรรมเวิร์กช็อป น้ำอบไทย, แป้งพวง, บุหงา 
        
                   ลานที่ 2 : ทัวร์ทั่วหล้ามหาสงกรานต
          ประเวณีปี๋ใหม่เมือง : แม่หญิงขี่รถถีบกางจ้อง สาธิตการทำตุงไส้หมู และเพ้นท์ร่
         
            สงกรานต์บ้านเฮา ฮีตเก่าเดือนห้า : ติดต้นดอกไม้ถวายพุทธบูชาแบบอีสาน และชมสาธิตการ “บายศรีสู่ขวัญ” รับแขกบ้านแขกเมืองผู้มาเยือน พร้อม “ผูกเสี่ยว-ผูกข้อมือต่อแขน” ดองกันเป็นดุจญาติมิตรของชาวภูไท

        สงกรานต์ภาคกลาง : ถ่ายรูปที่ระลึกหนุ่มลอยชาย สงกรานต์พระประแดง และสาธิตทำธงตะขาบ
จากชาวมอญ

         สงกรานต์ภาคใต้ : จำลองสงกรานต์ชาวเล หนุ่มสาวชาวเล เพ้นท์ผ้าบาติก สาธิตการทำดอกไม้ยางพารา               และว่าววงเดือน

         สงกรานต์ภาคตะวันออก : จำลองงานสงกรานต์ศรีมหาราชา และประเพณีกองข้าว พร้อมสาธิตการทำปักเฉลว และร้อยมาลัยดอกไม้

        นุ่งไทย ห่มสไบ : ร่วมแชะ&แชร์ โชว์ความเป็นไทย ในวันสงกรานต์กับมุมนุ่งผ้าไทย 5 ภาค พร้อมถ่ายรูปกับมุมถ่ายภาพไทย ๆ เป็นที่ระลึ

          ลาน 3 : ตลาดวิถีไทยเก๋ไก๋

         กิจกรรมสาธิตการทำอาหาร 5 ภาค จวักกระบวยไทย ย้อนรอยขนมมงคลพื้นบ้าน ชม ชิม สาธิตการทำ “ข้าวแช่” ที่นิยมในช่วงสงกรานต์และขนมพื้นบ้านโบราณ ซึ่งถือเป็นขนมมงคลที่คนไทยนิยมใช้แทนคำอวยพรในช่วงโอกาสพิเศษ

         ลาน 4 : เวทีอเมซิ่งสงกราน
    
        เวทีให้คุณได้สัมผัสกับการแสดงวัฒนธรรมและการละเล่นของแต่ละภาค พบการแสดงไทยร่วมสมัย 5 ภาค  และกิจกรรมพื้นบ้าน Edutainment ที่จะให้ทุกท่านร่วมทำกิจกรรมไปพร้อมกัน อาทิ มวยตับจาก ตำน้ำพริก และ กิจกรรมที่น่าสนใจอย่างลึกซึ้งอีกมากมาย ตลอดทั้ง 6 วัน และในวันที่ 13 เมษายน 2560 กิจกรรมพิเศษสุดร่วมเฟ้นหา “Amazing เทพีสงกรานต์ อินเตอร์เนชั่นเนล” ที่สุดของสาวงามที่พำนักอยู่ในประเทศไทย ครั้งแรกที่จะพบกับเทพีนานาชาติในวันมหาสงกรานต์ สวมใส่ชุดไทยอย่างมีเอกลักษณ์พร้อมสืบสานแนวคิดไทยสู่สากล            

        สอบถามเพิ่มเติม ททท.  0 2250 5500 ต่อ 3470-3 หรือ 1672

ข่าวที่ 4 “บางจากนำเด็กไทยดูพลังงานสีเขียวญี่ปุ่น

           นายชัยวัฒน์ โควาวิสารัช กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัท บางจากฯ จัดให้มีการประกวดโครงการ Thailand Go Green มาอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 8 ปีล่าสุดประกวดในหัวข้อ “แปลงขยะเป็นทอง” เพื่อให้เยาวชนได้ทราบถึงที่มาของขยะจากการใช้ชีวิตประจำวัน พร้อมรณรงค์สร้างพฤติกรรมที่เหมาะสมในการกินอยู่ และเสริมสร้างความรู้โดยนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาปรับใช้ในการจัดการกับขยะที่เกิดขึ้น เพื่อก่อให้เกิดประโยชน์และสร้างมูลค่า ตามหลักฉลาดกิน ฉลาดอยู่ ฉลาดใช้พลังงานทดแทน วิถีไทยสู่สังคมสีเขียว เริ่มจากผู้บริโภคไปจนถึงผู้ “จากภัยพิบัติที่เกิดขึ้นทั่วโลก นับวันจะทวีความรุนแรงยิ่งขึ้น ได้ส่งสัญญาณบอกเราว่า
โลกกำลังเข้าสู่ภาวะวิกฤติจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศหรือภาวะโลกร้อน

         เมื่อเร็ว ๆ นี้บริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) นำคณะครูและนักเรียนโรงเรียนที่ชนะเลิศโครงการประกวดสุดยอดเยาวชนพลังงานทดแทน “Thailand Go Green” เดินทางไปศึกษาดูงานด้านการดูแลสิ่งแวดล้อม และเยี่ยมชมโรงงานอุตสาหกรรมที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ณ ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเป็นเมืองต้นแบบของวิถีชีวิตในรูปแบบสังคมสีเขียวที่น่าอยู่ เพื่อส่งเสริมให้เยาวชนได้เรียนรู้ เห็นตัวอย่างวิถีปฏิบัติ ระบบการบริหารจัดการด้านสิ่งแวดล้อม และรูปแบบพฤติกรรมการใช้ของชาวญี่ปุ่น ที่ให้ความสำคัญต่อการดูแลสิ่งแวดล้อมอย่างจริงจังและเห็นผลเป็นรูปธรรม

        ไปดูงานทั้งด้านการจัดการแปรสภาพขยะประเภทภาชนะพลาสติกเป็นเม็ดพลาสติก โดยผ่านกรรมวิธีที่ใช้ลมในการแยกขยะประเภทแก้วและพลาสติกออกจากกัน เพื่อนำไปรีไซเคิลเป็นวัตถุดิบต่างชนิดกัน ที่ The Sapporo Recycling Complex ศึกษาดูงานด้านพลังงานสะอาด Green Power Air-con System ในสวนสาธารณะ ดูงานนวัตกรรมด้านวิทยาศาสตร์ที่ Toshiba Science Museum และศึกษาดูงานด้านระเบียบการจัดเตรียมอาหารกลางวัน การจัดการด้านคุณค่าทางโภชนาการของนักเรียนประถมวัย รวมทั้งการแยกขยะตั้งแต่ขั้นตอนการบริโภคไปจนถึงการรีไซเคิล ที่ School Lunch in Japan: Saitama city school of food

ข่าวที่ 5 หอค้า-ททท.ลุยส่งออกวัฒนธรรม“#เที่ยวไทยเท่”

           นายกลินท์ สารสิน ประธานกรรมการ ททท. และประธานสภาหอการค้าไทย เปิดเผยว่า ททท.กับหอการค้าไทยร่วมมือกันทำกิจกรรมโครงการ “#เที่ยวไทยเท่” ภายใต้แนวคิด “ท่องเที่ยววิถีไทย เก๋ไก๋สไตล์ลึกซึ้ง” ตามนโยบายส่งเสริมการท่องเที่ยวในประเทศ ปี 2560 ต่อยอดการดำเนินงานตามแนวนโยบายไทยแลนด์ 4.๐ การสร้างเศรษฐกิจที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม โดยมีฐานคิดหลักคือเปลี่ยนจากการผลิตสินค้าโภคภัณฑ์ ไปสู่สินค้าเชิงนวัตกรรม มุ่งเสริมสร้างความเข้มแข็งจากภายใน โดยใช้แนวทางสานพลังประชารัฐ เป็นตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ

            ทางสภาหอการค้าไทย จะเพิ่มบทบาทการค้าการผลิต (supply) สนับสนุนสินค้าไทยผ่านกลยุทธ์ 2C คือ Creativity และ Culture เปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่ใส่ความคิดสร้างสรรค์ สร้างสินค้าไทยให้เท่ เพื่อเพิ่มมูลค่าสินค้า ผลักดันให้เกิดการส่งออกทางด้านวัฒนธรรมไทยไปทั่วโลก ส่วนทาง ททท. ก็จะสวมบทบาทในการสร้างกำลังซื้อ (demand) จากนักท่องเที่ยวเพิ่มการใช้เงิน กระจายรายได้ ไปยังกลุ่มเป้าหมายด้วยโครงการเที่ยวไทยเท่ ซึ่งโครงการนี้ช่วยเพิ่มคนไทยเที่ยวในประเทศช่วงเทศกาลมากขึ้นจากปกติอีก 20 % สร้างรายได้เพิ่มขึ้นไม่น้อยกว่า 10% โดยดึงกลุ่มคนไทยที่จะไปเที่ยวต่างประเทศมาเที่ยวในประเทศแทน เกิดการรับรู้ได้ไม่ต่ำกว่า 10 ล้านคน สร้างทัศนคติที่ดีต่อการท่องเที่ยวไทย ปลุกกระแสภาคภูมิใจในความเป็นไทย (เท่) เพิ่มขึ้น 75 %

           นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการ ททท. กล่าวต่อว่า ททท. ขอเชิญชวนคนไทยมาร่วมเป็น “เท่ SETTER” ออกแบบมุมมองเที่ยวเท่ในสไตล์ลึกซึ้งของตัวเอง ด้วยการเที่ยวเมืองไทย สร้างสรรค์กิจกรรมไทยเท่ ออกไปค้นหาและนำเสนอมุมมองความหลากหลายทั่วไทย 10 เทรนด์ ได้แก่

• 1. “แต่งเท่” การผสมผสานแฟชั่นผ้าถิ่นร่วมสมัย ไปท้องถิ่นไหนก็หยิบเสื้อผ้าท้องถิ่นมาประยุกต์ให้เข้ากับสไตล์ของตัวเอง
  2.. “กินเท่” อาหารถิ่นสูตรพิเศษที่ไม่ได้หากินที่ไหนก็ได้
  3. “ทำเท่” เที่ยวแบบลึกซึ้งต้องสัมผัสให้ถึงของดีภูมิปัญญาท้องถิ่น ร่วมเรียนรู้ และลงมือทำด้วยตนเอง ได้สัมผัสเสน่ห์ความเป็นไทย พร้อมได้ของ D.I.Y. ชิ้นเดียวในโลกกลับบ้าน
  4. “มุมเท่” สะพายกล้อง แบกเป้ ออกไปเปิดมุมมองใหม่ให้โลกรู้
  5. “ชิลล์เท่” ดื่มด่ำบรรยากาศเก๋ไก๋ ณ ร้านเท่ประจำถิ่น
  6. “ช้อปเท่” เที่ยวเมืองไทยทั้งที ต้องช้อปของดีประจำถิ่น
  7. “ไปมาเท่” เลือกพาหนะเท่ๆ เอกลักษณ์ท้องถิ่นไม่ซ้ำใคร
  8. “เทศกาลเท่” แฝงตัวไปสัมผัสประเพณีพื้นบ้านแบบคนถิ่น
  9. “แลกความเท่” จับเข่าแลกเปลี่ยนมุมมองใหม่ กับปราชญ์พื้นบ้าน
  10. “ใจเท่” เที่ยวเมืองไทย ด้วยคิดใจรักษ์เมืองไทย  
• โดยใช้กลุ่มคนรุ่นใหม่ หรือเจนวาย (Gen Y) จุดกระแสการเดินทางท่องเที่ยวในประเทศ ผ่านพฤติกรรมการใช้สื่อสังคมออนไลน์ (Social Media)
  
  
  
  ช่วงที่ 2 จะพาไปสร้างประสบการณ์ความสุขกับการท่องเที่ยว สุขภาพ และข่าวฮ็อตในรอบสัปดาห์
  
  
  @เที่ยวไร่ชาน้ำมันฯ ของพ่อที่เชียงราย
• 
  
  
• ศูนย์วิจัยและพัฒนาชาน้ำมันและพืชน้ำมัน จ.เชียงราย ตั้งอยู่ที่ 888 ถ.พหลโยธิน ต.เวียงพางคำ อ.แม่สาย จ.เชียงราย ท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งปี เปิดให้เข้าชมทุกวัน เวลา 08:00 - 20:00 น.
  ศูนย์วิจัยและพัฒนาชาน้ำมันและพืชน้ำมัน นับเป็นแหล่งเรียนรู้" จากเมล็ดชาหน้าตาคล้ายเกาลัดที่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ได้พระราชทาน ให้กับมูลนิธิชัยพัฒนา เพื่อศึกษาหาวิธีนำมาปลูกในไทยวันนี้ จึงเกิดศูนย์วิจัยและพัฒนาชาน้ำมันขึ้น เพื่อสานต่อพระราชดำริ "
  โดยปลูกต้นชาน้ำมันขึ้นในเมืองไทย ทำการเพาะปลูกต้นชาน้ำมันสายพันธุ์คามีเลียโอลีเฟร่า ซึ่งได้มาจากเมืองจีน และผ่านจากศึกษาวิจัยจนสามารถเพาะปลูกได้ผลผลิตเต็มที่ ที่อำเภอแม่สาย จ.เชียงราย
  ศูนย์วิจัยและพัฒนาชาน้ำมันและพืชน้ำมันที่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงมีพระราชดำริให้จัดตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2554 ปัจจุบันได้กลายเป็นอีกหนึ่งจุดหมายของนักท่องเที่ยว ที่สนใจในสุขภาพ เพราะที่นี่เป็นโรงงานผลิตน้ำมันจากเมล็ดชาและพืชน้ำมันอื่นๆ ที่อยู่ท่ามกลางธรรมชาติกว่า 150 ไร่
  จุดเด่นของศูนย์ฯ ที่ไม่ควรพลาด คือ ร้านอาหาร “เมล็ดชา” ชื่อพระราชทานจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ที่นำเสนออาหารเหนือสไตล์โมเดิร์น และใช้น้ำมันชามาเป็นวัตถุดิบหลัก มี 2 เมนูพระราชทาน คือ โครเก็ตเบคอน แป้งขนมปังทอดไส้มันฝรั่งผสมหมูเบคอนบด และซุปมะเขือเทศ เปรี้ยวหวานกลมกล่อม สำหรับของหวานก็สร้างสรรค์ที่สุด ด้วยไอศกรีมอัญชันโยเกิร์ต ทุกจานขอการันตีว่ากินแล้ว รู้สึกดีกับมื้ออร่อยนี้อย่างแน่นอน
• 
  
  
  การท่องเที่ยว จ.พะเยา-เชียงราย
  วันแรก : พะเยา ช่วงเช้า เดินทางไปพะเยา เยี่ยมชมวัดนันตาราม (Unseen) นมัสการพระเจ้าแสนแส้เยือนเฮือนไทลื้ออายุร้อยปีของแม่แสงดาสัมฤทธิ์ หรือชมการทอผ้าไทลื้อที่บ้านป้ามาลีวงศ์ใหญ่ “ช่วงบ่าย” ล่องกว๊านพะเยาสู่วัดติโลกอาราม แล้วกลับไปพักผ่อนที่เชียงราย
  วันที่สอง : เชียงราย  ช่วงเช้า ศูนย์ผลิตและจำหน่ายงานมือโครงการพัฒนาดอยตุง ซื้อผลิตภัณฑ์ดอยตุง ชมโรงงานทอผ้าเซรามิก “ช่วงบ่าย” เดินชมพระตำหนักดอยตุง ชมสวนแม่ฟ้าหลวงหอแห่งแรงบันดาลใจ และศูนย์พัฒนาพันธุ์พืชจักรพันธ์เพ็ญศิริ
  วันที่สาม : เชียงราย  ช่วงเช้า ชมหอฝิ่น อุทยานสามเหลี่ยมทองคำ อำเภอเชียงแสน อุมงคมุข อุโมงค์กาลเวลาที่รวบรวมเรื่องฝิ่นที่สมบูรณ์ที่สุด “ช่วงบ่าย” ไปช้อปที่ตลาดแม่สาย เลือกซื้อสินค้าจากไทย-เมียนมาร์
  สถานที่เที่ยวห้ามพลาด ชมนิทรรศการจัดแสดงความแตกต่างของชาน้ำมันและชาทั่วไป พร้อมบอกเล่าความเป็นมาของไร่ชาน้ำมัน ร้านขายผลิตภัณฑ์ นอกจากน้ำมันต่างๆ ทั้งน้ำมันชา น้ำมันเมล็ดไนเจอร์ น้ำมันเมล็ดงาม้อน และน้ำมันมะรุมแล้ว ยังมีจำหน่ายเครื่องสำอางหลายชนิดที่ผลิตจากน้ำมันชาอีกด้วย
  กิจกรรมห้ามพลาด ต้องชิมอาหารอร่อยสุขภาพดีที่เมล็ดชา ร้านอาหารริมน้ำสุดชิลล์ การันตีว่าทุกจานล้วนใช้น้ำมันชาในการประกอบอาหาร จัดสาธิตกรรมวิธีการสกัดน้ำมันจากเมล็ดชา
  สนใจไปเที่ยว ศูนย์วิจัยและพัฒนาชาน้ำมัน และพืชน้ำมัน โทร. 0-5373-4140-2, 0-5373-4440  www.teaoilcenter.org
  การเดินทาง  ใช้ทางหลวงหมายเลข 1 พหลโยธิน มุ่งหน้าแม่สาย เมื่อถึงฌาปนสถาน สาธารณะแม่สายจะเจอสี่แยกตัด ถนนสาย 1149 ให้เลี้ยวซ้าย ศูนย์วิจัยฯ จะตั้งอยู่ทางขวามือ
  
  
  
  @เย็นชื่นใจกับ `อาหารคลายร้อน`
  เมษายนนี้อากาศร้อนอบอ้าว อ.ชินริณี วีระวุฒิวงศ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูแลสุขภาพแบบองค์รวม วิทยาการของศูนย์เรียนรู้ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) นำเมนูอาหารคาว และอาหารหวานที่เหมาะสำหรับฤดูร้อนมาแนะนำดังนี้
  อาหารคาว 1.แกงจืดมะระ กระดูกหมู 2.แกงจืดฟัก 3.แกงจืดหัวไช้เท้า กระดูกหมู 4.แกงจืดตำลึง 5.แกงส้มใส่ใบย่านาง 6.ผัดผักบุ้ง 7.ผัดผักกาดขาว
  8.ผัดบวบใส่ไข่ 9.ผักพื้นบ้าน จิ้มน้ำพริก
  อ.ชินริณี บอกว่าเมนูที่ยกตัวอย่างนั้นเป็นอาหารฤทธิ์เย็นที่ดีต่อร่างกายในอากาศหน้าร้อน และอย่ากินอาหารเผ็ดร้อน จะยิ่งทำให้ร่างกายร้อนขึ้นไปอีก
  อาหารหวาน ได้แก่ 1.ถั่วเขียวต้มน้ำตาล (หวานน้อย) 2.เต้าส่วน (หวานน้อย)3.หยกมณี 4.ลูกตาลลอยแก้ว 5.สละลอยแก้ว 6.แตงไทยน้ำกะทิ (หวานน้อย)
  7.ข้าวแช่ ลอยน้ำดอกมะลิ
  ผลไม้ 1.แตงโม 2.แก้วมังกร 3.มะพร้าว 4.แคนตาลูป 5.กล้วยน้ำว้า
  
  
  ฟังข่าวท้ายชั่วโมง
  
  
  ข่าวแรก “บินไทยกอดคอไทยสไมล์ทำโปรตั๋วรักคุณเท่าฟ้า”
  นายกรกฏ ชาตะสิงห์ ผู้อำนวยการฝ่ายขาย-ประเทศไทย บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า การบินไทยจัดกิจกรรม “รักคุณเท่าฟ้า 2560” วันนี้- 2 เมษายน 2560 ณ ลานแฟชั่นฮอลล์ ชั้น 1 ศูนย์การค้าสยามพารากอน
  ระหว่างเวลา 10.00 - 20.00 น.เพื่อมอบความสุขให้กับลูกค้าในโอกาสการบินไทยครบ 57 ปี จึงได้จัดมหกรรมขายตั๋วโดยสารของการบินไทยและไทยสไมล์ในราคาโปรโมชั่นสุดพิเศษทุกเส้นทางทั้งในประเทศและระหว่างประเทศ จัดทำเป็น “ชุดบัตรโดยสารภายในประเทศ” ราคาโปรโมชั่น THAI Domestic Value Pack แพ็คเกจทัวร์เอื้องหลวงราคาพิเศษ สินค้าที่ระลึก THAI Shop ราคาพิเศษ
  ลูกค้าที่ซื้อบัตรโดยสาร แพ็คเกจทัวร์เอื้องหลวง สินค้าที่ระลึก THAI Shop แพ็คเกจร่วมฝึกบินกับเครื่องฝึกบินจำลอง “THAI SIMULATOR EXPERIENCE” ราคาพิเศษ ในงานครบ 50,000 บาทขึ้นไป (รวมใบเสร็จภายในวันเดียวกัน) ได้สิทธิ์ลุ้นรับรางวัลตั๋วบินฟรีของการบินไทยและไทยสไมล์ แจกสายการบินละ 57 ทั้งตั๋วชั้นธุรกิจ และชั้นประหยัด ไป-กลับ กรุงเทพฯ สู่เมืองต่างๆ อาทิ มอสโคว์ (รัสเซีย) บรัสเซลส์ (เบลเยี่ยม) เตหะราน (อิหร่าน) เพิร์ท (ออสเตรเลีย) โฮจิมินห์และฮานอย (เวียดนาม) ฮ่องกงและสิงคโปร์ หรือจะเป็น เชียงใหม่ ภูเก็ต กระบี่ และของรางวัลอื่นๆ อีกมากมาย
  
  
  ข่าวที่สอง “เครือดุสิตลดแหลกโกยเงินสงกรานต์”
  ตลอดเดือนเมษายน 2560 “โรงแรมและรีสอร์ทในเครือดุสิต” เสนอโปรโมชั่น “สงกรานต์สแปลช” มอบส่วนลดห้องพักพร้อมบุฟเฟ่ต์อาหารเช้า 30% ส่วนลดค่าอาหาร 25% พร้อมบัตรกำนัลเมนูผัดไทยฟรี และอุปกรณ์สำหรับเล่นน้ำสงกรานต์ (ปืนฉีดน้ำ, ผ้าขนหนู และกระเป๋ากันน้ำ)  
  โดยเฉพาะ “สมาชิกดุสิตโกลด์” รับสิทธิพิเศษเช็คเอาท์ล่วงเวลาหรืออัพเกรดห้องพักฟรี เพียงสมัครสมาชิกดุสิตโกลด์ฟรีและลงทะเบียนรับสิทธิได้ที่ www.dusitgold.com
  มีโรงแรมที่ร่วมรายการ อาทิ ดุสิตธานีกรุงเทพฯ, ดุสิตธานี ลากูน่า ภูเก็ต, ดุสิตดีทู เชียงใหม่, และดุสิตดีทู เขาใหญ่ รวมไปถึงโรงแรมในเครือต่างประเทศ อาทิ ดุสิตธานี มัลดีฟส์, ดุสิตธานี อาบู ดาบี, และดุสิตดีทู ไนโรบี สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมหรือสำรองห้องพักในราคา ดุสิต เบส อะวายเลเบิล เรท (Dusit Best Available Rate) เพื่อรับสิทธิพิเศษดังกล่าวได้ที่ www.dusit.com/songkran  หรือ 02 636 3333
  
  
  ข่าวที่สาม “ททท.โชว์ครึ่งปีแรกท่องเที่ยวโกย1.33ล้านล้าน”
  
  
  ททท.โชว์ผลงานท่องเที่ยว 6 เดือนแรกปี 60 ตุนรายได้ 1.33 ล้านล้านบาท ไตรมาส 1 โกยแล้ว 7.34 แสนล้านบาท ไตรมาส 2 หวังเพิ่มอีก 6. 3 แสนล้านบาท “สงกรานต์” นี้ เงินสะพัด 16,000 ล้านบาท และเม.ย.-พ.ค.นำไทยเจ้าภาพจัด 2 อินเตอร์อีเวนต์
             นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ร่วมกับภาคเอกชน 4 องค์กร รายงานสรุปสถานการณ์ท่องเที่ยวตามปฏิทิน 2560 แนวโน้มการท่องเที่ยวจะทำรายได้รวมถึง 1.33ล้านล้านบาท แบ่งเป็น ไตรมาสแรก มกราคม–มีนาคม 2560 ไทยจะมีรายได้ทางการท่องเที่ยวประมาณ 7.34 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 9 % จากนักท่องเที่ยว 2 ตลาด ได้แก่ 1.ต่างประเทศ 9.2 ล้านคน สร้างรายได้ 4.9 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 7 % และ 2. ตลาดในประเทศ 32.5 ล้านคน/ครั้ง สร้างรายได้ 2.4 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 12 %
  
  
                  ตลอด 3 เดือนแรกปี 2560 “นักท่องเที่ยวต่างชาติ” เพิ่มมากเป็นอันดับต้น ๆ คือ เอเชียใต้ เพิ่มขึ้น 18 %  เอเชีตะวันออกเฉียงเหนือ 3 %  อเมริกาเพิ่มขึ้น 15 % ยุโรป เพิ่มขึ้น 8 % ตะวันออกกลางเพิ่มขึ้น 7 % แอฟริกาเพิ่มขึ้น  4 % โอเชียเนียเพิ่มขึ้น 2 %    
  
  
           ขณะที่ “นักท่องเที่ยวในประเทศ” พื้นที่เติบโต ได้แก่ กรุงเทพมหานคร มีนเพิ่มขึ้น 12 % ภาคตะวันออกเฉียงเหนือเพิ่มขึ้น 9 % และภาคเหนือเพิ่มขึ้น 7 %  
  
  
           แนวโน้มไตรมาส 2  ระหว่างเมษายน-มิถุนายน 2560 ททท. คาดการณ์ว่า จะมีรายได้รวม 6.3 แสนล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 11 %  โดยมีนักท่องเที่ยวต่างประเทศ 8.02 ล้านคน เพิ่มขึ้น 6 % สร้างรายได้ 4 แสนล้านบาทเพิ่มขึ้น 11 % และนักท่องเที่ยวในประเทศ 40 ล้านคน/ครั้ง เพิ่มขึ้น5  %  สร้างรายได้ 2.3 แสนล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 9 %

• 

  เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน

  คอลัมนิสต์การบิน/ท่องเที่ยว

  เจ้าของรายการข่าวเสาร์-อาทิตย์ ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz.