อีสานปรับท่องเที่ยวใหม่“COOL-CHIC”โกอินเตอร์
รองฯสมคิดแนะลุยต่อยอดCNNให้อันดับโลกช้อปคิงเพาเวอร์2.5หมื่นบินตปท.ฟรี2แอร์ไลน์
เลาะท่าเตียนดูการวางผังเมืองอดีตสู่อนาคต
จ่อตั้ง“ไทยกรุ๊ป”คุมเบ็ดเสร็จ3แอร์ไลน์บินไทยบางกอกแอร์รับAOCเจ้าแรกรัฐเร่งแจกอีก33สาย
สวัสดีเช้าวันเสาร์ที่ 4 มีนาคม 2560 เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz.ในรายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” (ฟังสดทางได้มือถือเลือก FM 97.0 หรืออ่านได้ทาง www.facebook.com/penroong และ gurutourza.blogspot.com)
ช่วงที่ 1 ฟังสัมภาษณ์เจาะลึก
และข่าวที่น่าสนใจ
คุณสมฤดี จิตรจง
ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคตะวันออกเฉียงเหนือ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
|
คุณสมฤดี จิตรจง
ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคตะวันออกเฉียงเหนือ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)
จะมาให้สัมภาษณ์ในรายการถึง “ยุคเปลี่ยน” ของการท่องเที่ยวภาคอีสาน 20
จังหวัด ในปี 2560 ที่รัฐบาลดันสุดแรงเกิดให้ทำ “COOL I SAN” หรือ “CHIC I SAN ” นำภูมิภาคก้าวสู่ตลาดอินเตอร์ต่อยอดหลังจากสถานีโทรทัศน์ CNN ประกาศว่า ปี 2560 อีสานเป็นภาคที่ทั่วโลกยกย่องให้เป็นพื้นที่ท่องเที่ยวยอดนิยมติดอันดับ
17 ของโลก
ผอ.สมฤดี
ตามที่ CNN
เห็นถึงความมุ่งมั่นของภาคอีสานที่พยายามผลักดันโฆษณาประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวอย่างเข้มข้นในช่วง
2-3 ปีทีผ่านมา
ถึงแม้จะเป็นภาคที่ดึงเม็ดเงินท่องเที่ยวเข้าสู่ภูมิภาคได้น้อยกว่าภาคอื่น ๆ ก็ตาม
โดยปี 2559 มีจำนวนและรายได้เติบโตเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 10
% ขณะเดียวกันก็เริ่มมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามา
ผลจากการจัดอันดับอีสานเป็นพื้นที่น่าเที่ยวอันดับ
17 ของโลก
ส่งผลดีต่อการประชาสัมพันธ์ภาพลักษณ์อีสานให้ทั่วโลกรู้จักมากขึ้น
อดีตอีสานเคยได้รับการโหวตให้ “ทะเลบัวแดง อุดรธานี”
เป็นแหล่งท่องเที่ยวแปลกของโลก แล้วหลังจากนั้น
ททท.ก็นำมาต่อยอดโฆษณาประชาสัมพันธ์ปลุกกระแสให้คนเข้ามาท่องเที่ยวตลอดในช่วง 3
เดือนแรกของปี
เมื่อย้อนกลับมาถึง
CNN จัดอันดับให้อีกครั้งปี 2560 จึงต้องมาดูกลยุทธ์การต่อยอด “ตลาดการขายท่องเที่ยว” มีแผน 2 ส่วน ส่วนแรก ตลาดในประเทศ กลุ่มที่เข้ามาเที่ยวอีสานเป็นเจนวาย
(คนรุ่นใหม่-วัยรุ่น) เจนแซด
แต่กลุ่มวัยเก๋าซึ่งกำลังจะกลายเป็นประชากรส่วนใหญ่ของไทยและของโลกด้วย
ยังมีสัดส่วนเพียง 10 %
ดังนั้นปี 2560
จึงตั้งเป้าหมายเพิ่มตลาดทางด้านรายได้จากวัยเก๋าเติบโตขึ้นอีก
15 % แต่ก็ยังมีอุปสรรคคือสินค้าทางการท่องเที่ยวยังไม่ตอบโจทก์
จึงต้องสร้างการเรียนรู้ให้ “ชุมชน”
เจ้าของพื้นที่เข้าใจพฤติกรรมความต้องการของนักท่องเที่ยวเพื่อปรับการผลิตสินค้าให้สอดคล้องกับที่สิ่งลูกค้าอยากได้
ซึ่งเป็นกลยุทธ์การใช้ “การตลาด” นำ “การพัฒนา”
ส่วนที่สอง “ตลาดต่างประเทศ” ใช้จังหวะที่ดีจากการรับรู้ข้อมูลผ่าน CNN ประชาสัมพันธ์ เนื่องจากการจัดอันดับครั้งนี้ใช้คำว่า “อีสาน”
ทั้งภูมิภาค ดังนั้นจากนี้ไปจะปรับการขายขยับจากเดิม “ขายแยกเฉพาะจังหวัด”
มาเป็นการขาย “ทั้งภูมิภาค” แล้วสำรวจรวบรวมสิ่งที่จะโดนใจ
ซึ่งสินค้าภาพรวมอาจจะเปลี่ยนไม่ได้แต่จะหันมาเน้นการท่องเที่ยวไฮไลต์ทางด้าน
วัฒนธรรม วัดวาอาราม
ตลอด 3
ปีมีการคัดสรรสินค้ามากระตุ้นนักท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่อง
ส่งผลดีมาถึงตอนนี้ทำให้ “นักลงทุน” มุ่งสู่ “การเปิดบริการร้านอาหารแนวใหม่”
สไตล์เก๋ไก๋ น่ารัก น่าพักผ่อน เพิ่มขึ้น
ททท.จึงอยากสร้างแบรนด์เป็นของอีสานเองจะเรียก
“CHIC I SAN” หรือ COOL I SAN มาแล้วเก๋ไก่แถมได้สัมผัสความลึกซึ้ง
โดยใช้สินค้าท้องถิ่นมาสอดแทรกในอาหารได้ด้วย
ช่วงเทศกาลท่องเที่ยวใกล้ๆ
นี้ คือ “เทศกาลสงกรานต์”
นำสื่อมวลชนต่างประเทศเข้ามาร่วมประเพณีสงกรานต์ในเมืองท่องเที่ยวอย่าง
สงกรานต์ขอนแก่น แห่ดอกไม้บ้านแสงภาและนาแห้ว และสงกรานต์ท่าลี จังหวัดเลย
จะเป็นพื้นที่ตัวอย่าง ขณะเดียวกันก็ยังมี “สงกรานต์” อีกมากมาย
เป็นการทดลองใช้สินค้าเดิมคืองานเทศกาลประเพณีสงกรานต์
ที่มีเสน่ห์เป็นเอกลักษณ์ จัดเทรนด์อาหารแนะนำเข้าไป อีสานมากกว่าข้าวเหนียวส้มตำ
นั่นคือ เส้นทาง “ร้านอาหาร ร้านกาแฟ ดีไซน์เก๋ ๆ”
หรือไปร่วมทำส้มตำในหมู่บ้านกับชุมชนแล้วถ่ายภาพเก่ๆ
แชร์กิจกรรมดังกล่าวออกสู่โลกภายนอก แทนการมาขอพรปีใหม่เล่นน้ำสงกรานต์เพียงอย่างเดียวเหมือนอดีตที่ผ่านมา
ให้ทุกคนเป็นตัวของตัวเอง มาเรียนรู้การทำส้มตำ และถ่ายภาพไปแนะนำเพื่อน ๆ
เส้นทางชิคเก๋ไก๋ในแบบอีสานยุคใหม่ที่ได้รับความนิยมทั้งกลุ่มคนรุ่นใหม่และวัยเก๋า
ก็อยากจะชิคเหมือนกัน คือ “กลุ่มจังหวัดสนุก” 3 จังหวัด ได้แก่ นครพนม สกลนคร มุกดาหาร เป็นเส้นทางเชื่อมโยงแหล่งท่องเที่ยวกับสินค้าที่มีความต่าง
เช่น บินมานครพนมเพื่อสักการะพระธาตุพนม ต่อด้วยชมวิวชิค ๆ
ในพื้นที่เลียบแม่น้ำโขง แล้วยังล่องเรือในแม่น้ำโขง อีกวันต่อมาก็บินไปทำ D.I.Y.ผ้าย้อมครามในสกลนคร ที่มีเครือข่ายอยู่หลายชุมชน
นักท่องเที่ยวสามารถลงมือทำเสื้อย้อมคราม ผ้าพันคอ ผ้าคลุมไหล่ ผ้าซิ่น
ทำร่วมกับชาวบ้าน หรือเอกชนเจ้าของแบรนด์ แล้วนำกลับบ้านเป็นของฝากของใช้ได้ด้วย
ที่น่าสนใจทั้ง
3 จังหวัด
มีร้านกาแฟสไตล์เก๋น่ารักเพิ่มขึ้นจำนวนมาก โดยเฉพาะในสกลนครขึ้นเป็นดอกเห็ด
สำหรับ “ตลาดต่างประเทศ” การเชื่อมโยงกับประเทศเพื่อนบ้านตามรอยตะเข็บชายแดน
และจีนตอนใต้ ความได้เปรียบของภาคอีสานอยู่ตรงมี “ด่านสากล” อยู่ 8 ด่าน สามารถเชื่อมโยงกับพื้นที่ฝั่งตรงข้ามรอยต่ออย่าง สปป.ลาว
มีนักลงทุนเข้ามาปักหลักพัฒนาธุรกิจ ซึ่งมีทั้งกลุ่มนักท่องเที่ยว นักลงทุน จากจีน
มาอยู่ในวังเวียง และเวียงจันทน์ จำนวนรวมกว่า 200,000 คน ซึ่งเป็นกลุ่มที่สนใจจะมาเมืองไทย
เบื้องต้นต้องหารือกับทางจังหวัดภาคอีสานตามตะเข็บรอยต่อถึงการเตรียมความพร้อมผลิตสินค้าให้สอดคล้องกับความต้องการของนักท่องเที่ยวกลุ่มใหม่ที่จะข้ามมาฝั่งไทย
เช่น ตอนนี้อีสานเป็นดินแดนที่ปลูกผลไม้ได้อร่อยก็นำมาให้นักท่องเที่ยวทดลองใช้
พัฒนาแหล่งช้อปปิ้ง ร้านอาหาร ที่พัก ทำให้เหมือนเป็น “บ้านหลังที่สอง”
ของนักท่องเที่ยวต่างชาติ
ส่วนอีกกลุ่มกำลังเคลื่อนตัวแรงมาทางด้านทัวร์คุณภาพหลั่งไหลเข้าสู่อีสานคือ
“นักท่องเที่ยวจีนตอนใต้”
จากหลายกลุ่มเป็นไหหลำมีรายได้สูงต้องการเปลี่ยนบรรยากาศมาเที่ยวเมืองไทย
ขณะนี้ตั้งแต่ต้นเดือนมีนาคม 2560 เป็นต้นมา ที่
“เที่ยวบินเช่าเหมาลำ” หรือ Charter Flight ไป-กลับ 3 เที่ยวต่อสัปดาห์ ขนาดเที่ยวละ 170 ที่นั่ง ไหหลำ-เวียดนาม-อุดรธานี นั่งรถเที่ยวเวียดนาม
สู่เวียงจันทน์ วังเวียง หลังจากนั้นข้ามา อุดรธานี หนองคาย 2 คืน แล้วบินกลับเวียดนาม
ดังนั้นจึงมอบหมายให้
ททท.สำนักงานอุดรธานี เป็นแม่งานดูแลพื้นที่ตลาดจีนตอนใต้เพราะต้องการขยายและทำเพิ่มจำนวนเที่ยวบินเช่าเหมาให้กลายเป็นเที่ยวบินประจำต่อไป
ททท.เชื่อมั่นว่าตลาดจากจีนตอนใต้จะขยายได้ภายในเวลาอันรวดเร็ว
ทว่าทางอีสานเองก็ยังมีข้อจำกัดหลายเรื่องเกี่ยวกับโปรดักซ์ที่จะรองรับนักท่องเที่ยวที่ยังไม่พร้อม
แต่ด้วยความสามารถของคนไทยที่สันทัดงานบริการก็จะช่วยทำให้สถานการณ์ดีขึ้นตามลำดับ
เส้นทางที่จีนตอนใต้เริ่มทยอยเข้ามาทาง
หนองคาย ไหว้หลวงพ่อพระใส แวะช้อปปิ้งตลาดท่าเสด็จ หรือ นอนพักค้างคืนในอุดรธานี
มีช้อปปิ้งในเมือง สักการะศาลปู่ย่า แหล่งท่องเที่ยวมรดกโลกบ้านเชียง ซึ่งยังกระจุกตัวอยู่บริเวณชายแดนเวียดนาม
สปป.ลาว หนองคาย อุดรธานี
ระยะเริ่มต้นต้องดูผลตอบรับและการศึกษาควบคู่กับการพัฒนาตลาด
เพื่อผลิตสินค้าให้ตรงกับความต้องการ
ล่าสุด
ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ให้เกียรติเป็นประธานการประชุมระหว่าง
ททท.กับพื้นที่นำร่องในอีสาน 3 จังหวัด
ได้แก่ หนองคาย เลย หนองบัวลำภู อุดรธานี ตกลงร่วมกันที่จะทำ กรอบ 1 เส้นทาง บินไปหรือบินกลับ เริ่มจาก เส้นทางแรก จาก “จังหวัดเลย”
ตามเส้นทาง เชียงคาน-ปากชม-อำเภอสังคม เลียบแม่น้ำโขง
เป็นเส้นทางท่องเที่ยวสวยสุดริมน้ำโขง แต่หลายจุดต้องขยายถนนเพิ่มมาตรฐานความปลอดภัย
เพราะบางจุดเป็นเส้นทางขนส่งอ้อย หรือ เส้นทางที่สอง จาก 2 อำเภอในหนองคายคือ “ปากชม-สังคม” มายัง “อุดรธานี” เข้าสู่
“จังหวัดหนองบัวลำภู” พัฒนาเป็นเส้นทางวงกลม เพื่อเป็นเส้นหลัก
ก่อนจะขยายวงเพิ่มไปยั่งพื้นที่ใกล้เคียง
เส้นทางชิค ๆ
ในอีสาน ซึ่งสามารถเชื่อมไปยัง “จังหวัดขอนแก่น”
มีแหล่งช้อปปิ้งหลักที่จีนน่าจะสนใจ เรื่อยไปจนถึงโครงการล่าสุดได้ขอขยายถนนจาก
หนองคายเข้าจังหวัดบึงกาฬทะลุไปถึงสกลนคร
ต่อไปก็จะทำให้นักท่องเที่ยวรื่นไหลเป็นวงกลมเพื่อไปขึ้นเครื่องกลับ ณ
จังหวัดอุดรธานี ได้
ฟังข่าวช่วงแรก
ข่าวที่ 1 “ช็อปดิ้วตี้ฟรี บินฟรี ไม่ต้องลุ้น”
กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์
ชวนขาช้อปทั้งหลายแห่แหนกันมาช็อปในดิ้วตี้ฟรีแล้วสามารถบินฟรีได้โดยไม่ต้องลุ้น เพียงแค่นำ cash card ช็อปเลยให้ครบ
25,000 บาท
ตั้งแต่วันนี้ไปจนถึง 20 เมษายนนี้
เมื่อช้อปแล้วไม่ต้องมีเที่ยวบินล่วงหน้า ก็สามารถรับตั๋วโดยสารฟรีบินได้จริงๆ ไม่ต้องลุ้นหรือไม่ต้องรอ
ตั๋วโดยสารบินฟรี
สู่ประเทศท่องเที่ยวชั้นนำอย่าง ญี่ปุ่น ฮ่องกง กับ สายการบิน คาเธ่ย์ แปซิฟิก
หรือ สิงคโปร์ มาเก๊า และเส้นทางอื่นอีกมากมาย ในการบินกับ “แอร์ เอเชีย” ทันที
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่ คอล
เซนเตอร์ 1631
ข่าวที่ 2 “ทอท.จัดนิทรรศเที่ยวลาว-เมียนมาถึง29 มี.ค.นี้”
นางสาวศศิศุภา สุคนธทรัพย์ รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ (สายงานยุทธศาสตร์) บริษัท
ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. กล่าวว่า
ได้เป็นประธานพิธีเปิด นิทรรศการประชาสัมพันธ์สถานที่ท่องเที่ยวของสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว
และสถานที่ท่องเที่ยวของสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา บริเวณห้องโถงผู้โดยสารขาออก
ชั้น 4 ประตู 3 ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ
เพื่อให้นักท่องเที่ยวและนักเดินทางได้ชมระหว่างวันนี้- 29 มีนาคม 2560
เป็นหนึ่งในกิจกรรมความร่วมมือด้านการจัดการท่าอากาศยานที่ดีระดับโลก
(AOT operates the world’s smartest airports) และมียุทธศาสตร์ด้านนโยบายการต่างประเทศ ภายใต้กลยุทธ์การทำ
MOU ระหว่าง ททอท.กับท่าอากาศยานประเทศต่าง ๆ (Sister
Airport Agreement) 11
บริษัท หรือองค์กรใน 8 ประเทศ
โดยมีท่าอากาศยานภายใต้บันทึกข้อตกลงฯ 15 ท่าอากาศยาน
เพื่อร่วมมือกันในการพัฒนาและเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการ
ได้แก่
การแลกเปลี่ยนข่าวสารข้อมูล (Exchange of Information) การดำเนินโครงการร่วมกัน (Joint Work Activities) การตลาดและการส่งเสริมการขายร่วมกัน (Joint
Marketing and Promotion) รวมถึงการจัดให้มีการประชุมร่วมกันเป็นประจำ
(Regular Meeting) ล่าสุดเมื่อ 1 มีนาคม 2560 ทอท.ร่วมกับ Lao Airports Authority, Pioneer
Aerodrome Services Company Limited และ
Yangon Aerodrome Company Limited พร้อมกับจัดนิทรรศการดังกล่าวขึ้นเพื่อทำโครงการแลกเปลี่ยนการเผยแพร่ข้อมูลสถานที่ท่องเที่ยว
ซึ่งในพิธีได้จัดให้มีการแสดง การเล่นเกมส์ตอบคำถาม
และการมอบของที่ระลึกแก่ผู้เยี่ยมชมนิทรรศการด้วย
ข่าวที่ 3 “ทัวร์เก็บองุ่นไวน์คืนวันเสาร์4มีค.ที่วังน้ำเขียว”
นางรุ่งทิพย์
บุกขุนทด
ผู้อำนวยการสำนักงาน การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานนครราชสีมา
กล่าวว่า ได้สนับสนุนจัดเทศกาลแห่งความสุข “เทศกาลเก็บเกี่ยวองุ่นไวน์ ประจำปี 2560” Village Farm’s Night Harvest Festival 2017 ในคืนวันเสาร์ที่
4 มีนาคม 2560 เวลา 19.00 น. ณ ไร่ใหญ่ วิลเลจฟาร์ม อำเภอวังน้ำเขียว
จังหวัดนครราชสีมา เพื่อสร้างการรับรู้และแรงจูงใจในการเดินทางท่องเที่ยว
เส้นทางสายโรแมนติก ที่ผสานกับความลงตัวกับงานแห่งสีสันความสวยงามในช่วงเวลาเก็บเกี่ยวองุ่นไวน์
กับกิจกรรมเรียนรู้ความเป็นมาของต้นองุ่น รับประทานอาหารเย็นกับเมนูสไตล์ตะวันตก
และการเปิดตัวผลิตภัณฑ์จากต้นองุ่นสุดลึกล้ำ สอบถามเพิ่มเติมที่ โทร 0 4422 8407-8, 08 1877 3711
อีกทั้ง ททท.นครราชสีมา ขอแนะนำเส้นทางท่องเที่ยวธรรมชาติต่อเนื่องหลังจากเสร็จจากการทัวร์ไร่องุ่นแล้ว
ก็ยังมีสถานที่น่าสนใจอย่าง ผาเก็บตะวัน อุทยานแห่งชาติทับลาน ชมแปลงผักปลอดสารพิษ
สวนลุงไกร ขั้นตอนการเก็บเห็ดหอม วังน้ำเขียวฟาร์ม ชิมพุทรานมสด
และก่อนเดินทางกลับ แวะไหว้ขอพรองค์หลวงพ่อคูณสีทองคำสุดยิ่งใหญ่ ณ วัดบุไผ่
ปากทางเข้าตำบลไทยสามัคคี
ข่าวที่ 4 “บัตรบางจากแลกส่วนลดบีทีเอสได้30บาท”
บริษัท
บางจากปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) รายงานว่า ระหว่างวันนี้- 31 พ.ค. 2560 สมาชิกบัตรบางจากสามารถใช้
150 คะแนน แลกรับส่วนลด 30 บาท ที่ BTS เมื่อซื้อ / เติมเงิน / เติมเที่ยว
ตั้งแต่ 300 บาท ขึ้นไป ตรวจสอบวิธีกดรับสิทธิ์ ณ ห้องจำหน่ายตั๋วบนสถานีเท่านั้น) โดยขอ*สงวนสิทธิ์รับส่วนลด
30 บาท ต่อ 1 ใบเสร็จ
ผู้รับสิทธิดังกล่าวควรปฏิบัติดังนี้
1.แสดงรหัสในโทรศัพท์มือถือของท่านแก่พนักงานที่ห้องจำหน่ายตั๋วก่อนการรับสิทธิ์ 2.นำโทรศัพท์มือถือกดรับสิทธิ์
ณ ห้องจำหน่ายตั๋วบนสถานีที่กำหนดไว้
ข่าวที่ 5 “ย้อนดูการวางผังก่อสร้าง“ท่าเตียน”
การก่อสร้างตึกแถวในสมัยรัชกาลที่
5 มีหลายวัตถุประสงค์ทั้งในเรื่องของประโยชน์ทางเศรษฐกิจ
การขยายชุมชน และการทำให้เมืองมีความสวยงาม แม้จะตั้งอยู่ริมถนน
แต่การวางผังบริเวณตึกแถวก็มีความแตกต่างกันในรายละเอียด
การวางผังก่อสร้างท่าเตียน
มีวัตถุประสงค์เพื่อปรับปรุง
“สภาพแวดล้อมที่เคยเป็นสต่างประเทศที่พักของข้าราชการ ตลาดโล่ง
รวมทั้งโรงโม่หินที่มีสภาพทรุดดทรมให้มีความเป็นระเบียบเรียบร้อย
มีความสมวยงามสมกับเป็นหน้าด่านของพระบรมมหาราชวัง
เป็นแบบอย่างของการวางผังกลุ่มอาคารตึกแถวที่ทำไปพร้อมกับตัดถนนใหม่เพื่อเปิดพื้นที่
คือ “ถนนท้ายวังและซอยท่าเตียน” จึงทำให้สามารถทำตึกแถวเป็นรูปตัว U ได้
การวางผังพื้นที่แบบนี้ที่
“ท่าเตียน” มีแบบอย่างมาจากตึกแถวบริเวณ
“หน้าวัดราชบุรณะ” ปัจจุบันคือตลาดยอดพิมาน ปากคลองตลาด
นอกจากนั้น
การพัฒนาพื้นที่ท่าเตยนยังมีการสร้างตลาดไว้ข้างในที่ท่าเตียน มีลักษณะการวางผังที่แตกต่างจากตลาดที่เคยทำไว้ก่อนหน้านี้
เช่น
ตลาดเสาชิงช้าและตลาดนางเลิ้งในยุคแรกเริ่มพัฒนาพื้นที่แบบตึกแถวล้อมรอบตลาดท่าเตียนนี้
ได้รับความนิยมอย่างมากแม้ที่ดินของเอกชน จนถึง พ.ศ.2510-2520 เมื่อแทนที่ด้วยโครงการห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ นั่นเอง
@โครงการศึกษาวิจัยและพัฒนาสิ่งแวดล้อมแหลมผักเบี้ย
โครงการศึกษาวิจัยและพัฒนาสิ่งแวดล้อมแหลมผักเบี้ย
อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ตั้งอยู่ที่ ต.แหลมผักเบี้ย อ.บ้านแหลม จ.เพชรบุรี เปิดประตูต้อนรับนักท่องเที่ยวตลอดทั้งปี เปิดให้เข้าชมทุกวัน เวลา 06.00
- 18.00 น.
เป็นทั้งสถานที่ท่องเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจ
มีความอุดมสมบูรณ์ทางธรรมชาติมากที่สุดแห่งหนึ่งในจังหวัดเพชรบุรีแล้ว ยังได้ชื่อว่าเป็น "
ต้นแบบ
การบำบัดน้ำเสีย สู่น้ำใส ด้วยกลไก ของธรรมชาติ "หนึ่งในโครงการภายใต้การดูแลของมูลนิธิชัยพัฒนา
ที่ช่วยเยียวยาและปกป้องระบบนิเวศชายฝั่งอย่างยั่งยืน
ย้อนกลับไปเมื่อปี
พ.ศ. 2533
แม่น้ำเพชรบุรีคือเป็นเส้นเลือดใหญ่คอยหล่อเลี้ยงชีวิตคนสองฝั่งน้ำ
ประสบปัญหาสิ่งแวดล้อม พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระราชดำริให้สำนักงาน กปร.
และกรมชลประทาน ร่วมกัน ศึกษาและหาวิธีแก้ปัญหาเรื่องสภาพแวดล้อมชายฝั่งทะเล
จึงเป็นที่มาของการจัดทำแผนปฏิบัติการแก้ปัญหาดังกล่าว โดยใช้พื้นที่บริเวณตำบลแหลมผักเบี้ยอำเภอบ้านแหลม
เป็นพื้นที่ศึกษาวิจัยของโครงการซึ่งสามารถแก้ไขปัญหาต่างๆให้หมดไปอย่างยั่งยืนช่วยให้คุณภาพน้ำในแม่น้ำเพชรบุรีค่อยๆ
ดีขึ้นตามลำดับมาจนถึงปัจจุบัน
แหลมผักเบี้ยนอกจากจะเป็นเส้นทางศึกษาธรรมชาติบริเวณ
ปากอ่าวแล้ว ยังสามารถชมนกหลากหลายสายพันธุ์ที่ หาชมได้ยากอีกด้วย
เรียกว่ามาเที่ยวที่นี่แล้วได้ทั้งความรู้และความเพลิดเพลินกับไปพร้อมกันในคราวเดียว
ทริปตัวอย่าง เส้นทางท่องเที่ยว จ.เพชรบุรี
“ช่วงเช้า” เดินทางสู่โครงการศึกษาวิจัยและพัฒนาสิ่งแวดล้อมแหลมผักเบี้ย
เดินชมป่าชายเลน ดูนกหายาก “ช่วงบ่าย” พักผ่อน
รับประทานอาหารทะเลสดๆ ที่หาดเจ้าสำราญ และหาดปึกเตียน
สถานที่เที่ยวห้ามพลาด
ขอแนะนำ เส้นทางศึกษาธรรมชาติป่าชายเลน ศึกษาการบำบัดน้ำเสียด้วยกลไกธรรมชาติ ส่วนการจัดการระบบพืชและหญ้ากรองน้ำเสีย
และระบบพื้นที่ชุ่มน้ำเทียม ที่อาศัยระบบพืชและ หญ้ากรอง จำพวก หญ้าแฝก ธูปฤาษี
และกกกลม ช่วยบำบัดน้ำเสีย ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
กิจกรรมห้ามพลาด เข้าไปชมคือ เทคโนโลยีการทำปุ๋ยหมักจากขยะโดยการฝังกลบ
ในกล่องคอนกรีต
และการพายเรือท่องเที่ยวตามเส้นทางศึกษาธรรมชาติป่าชายเลนบริเวณปากอ่าวในระยะทางราว
4 กม. จะชมนกหาชมได้ยาก อาทิ
นกยาง นกกาน้ำเล็ก นกเป็ดผีเล็ก นกอีเสือ สีน้ำตาล และนกกินเปรี้ยว เป็นต้น
สนใจท่องเที่ยวโครงการศึกษาวิจัยและพัฒนาสิ่งแวดล้อมแหลมผักเบี้ย
โทร. 0-3244-1264-5
การเดินทาง จากตัวเมืองเพชรบุรี
ใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 3177 ตรงไป
ระยะทางประมาณ 15 กม. สู่หาดเจ้าสำราญ
ก่อนถึงหาดเจ้าสำราญราว 1 กม.
จะมีทางแยกให้เลี้ยวซ้าย ขับตรงไปประมาณ 6 กม.
ช่วงที่ 2
ออกไปท่องเที่ยว ฟังคำแนะนำด้านสุขภาพ
และข่าวในรอบสัปดาห์ทางด้านการบิน
@รพ.จุฬาฯส่องกล้องรักษาโรคหืดได้แล้ว
โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์
สภากาชาดไทย ร่วมกับ หน่วยโรคระบบการหายใจและภาวะวิกฤติการหายใจ ฝ่ายอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
“รพ.จุฬาลงกรณ์ ส่องกล้องรักษาโรคหืด แห่งแรกและแห่งเดียวในประเทศไทย”
เพื่อพัฒนาวิธีการรักษาผู้ป่วยโรคหืดขั้นรุนแรง
ณ ห้องเอนกประสงค์ ระเบียงรมณีย์ ชั้น 14 อาคารภูมิสิริมังคลานุสรณ์
ศ.นพ.สุทธิพงศ์ วัชรสินธุ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์
และคณบดีคณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า ในวันนี้
นับเป็นโอกาสสำคัญอีกครั้งที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์
ได้ประสบผลสำเร็จในการนำนวัตกรรมใหม่ใช้ในการรักษาโรคหืดเรื้อรังขั้นรุนแรง
ทำให้ผู้ป่วยลดปริมาณการรับประทานยาและฉีดยาได้ เป็นเวลานานถึง 5 ปี
เป็นการลดภาระค่าใช้จ่ายและงบประมาณในการรักษาผู้ป่วยปีละประมาณหลายแสนบาทต่อคน
สำหรับนวัตกรรมใหม่นี้จะขอให้แพทย์ที่ดูแลได้อธิบายและสาธิตวิธีการและขั้นตอนการรักษา
รวมทั้งเกณฑ์ในการเข้ารับการรักษาต่อไป
อ.นพ.ธิติวัฒน์
ศรีประสาธน์ หน่วยโรคระบบการหายใจและภาวะวิกฤติการหายใจ ฝ่ายอายุรศาสตร์
โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ กล่าวถึง การรักษาโรคหืดด้วยนวัตกรรมใหม่
“การจี้หลอดลมด้วยความร้อน (Bronchial thermoplasty) ครั้งนี้
นับว่าเป็นอีกหนึ่งทางเลือกของการรักษาผู้ป่วยโรคหืดขั้นรุนแรง
ให้สามารถกลับมาใช้ชีวิตประจำวันได้เป็นปกติ ไม่เหนื่อยหอบ
และไม่ต้องนอนโรงพยาบาลบ่อย
ที่สำคัญเป็นการประหยัดค่าใช้จ่ายในการเดินทางมารักษาตัวของคนไข้เอง
และประหยัดงบประมาณของประเทศ
วิธีรักษาโรคหืดด้วยนวัตกรรมการส่องกล้อง
ใส่สายแคสเตเตอร์หย่อนลงไปผ่านหลอดลมเข้าไปในปอด ที่มีขนาดความกว้าง 2-3
มิลลิเมตร เซนเซอร์จะเปลี่ยนจากคลื่นวิทยุเป็นความร้อนที่ 65
องศา
และจี้เข้าไปที่หลอดลมส่วนปลายเพื่อทำลายกล้ามเนื้อเรียบให้บางลงไม่ให้หลอดลมตีบ การจี้แต่ละจุดใช้เวลา 2 ชม.
ในการทำ 1
ครั้ง จะต้องจี้ให้ได้ 100
จุด จุดละ 10
วินาที หรือมากที่สุดในบริเวณปอดล่างขวา ปอดล่างซ้าย และปอดด้านบนสองข้าง
ทำทั้งหมดจำนวน 3
ครั้ง แต่ละครั้งห่างกัน 3
สัปดาห์
ฟังข่าวท้ายชั่วโมง
ข่าวแรก “จ่อตั้งไทยกรุ๊ปจัดแถว3แอร์ไลน์บินไทย”
รายงานจากคณะกรรมการ (บอร์ด) บริษัท การบินไทย
จำกัด (มหาชน) ว่าขณะนี้คณะกรรมการการบินไทยได้เร่งหาทางออกการปรับโครงสร้างธุรกิจสายการบินใหม่
ที่จะทำเป็น "Thai Group" เข้าบริหาร 3 สายการบิน ที่อยู่ภายใต้การบินไทย ให้สำเร็จภายในปี
2560 เพื่อปลดล็อก 2 เรื่องใหญ่ คือ เรื่องแรก
ภาระการขาดทุนสะสมทั้งการบินไทย ไทยสไมล์ และ นกแอร์ เรื่องที่สอง
รวมกันสร้างพลังช่วงชิงตลาดสำคัญ ๆ แทนการแข่งขันหรือห้ำหั่นกันเอง
เนื่องจากสภาพตลาดปัจจุบันต่อสู้กับสายการบินอื่น ๆ
ดุเดือดมากพออยู่แล้วทั้งสายการบินนานาชาติ โลว์คอสต์แอร์ไลน์ส
ในการจัดตั้ง “ไทย กรุ๊ป” ขึ้นมานั้น จะต้องทำโครงสร้างที่มีแพลตฟอร์มการทำงานเชิงรุก
โดยแบ่งภารกิจและวางตำแหน่งทางธุรกิจกันให้ชัดเจนอีกครั้งนั่นคือ “การบินไทย” ดูแลตลาดผู้โดยสารกลุ่มพรีเมี่ยม "ไทยสมายล์"
ที่การบินไทยถือหุ้น 100 % จะเป็นหัวหอกขยายแนวรุกเครือข่ายเส้นทางบินผู้โดยสารตลาดระดับกลางและระดับบนระยะใกล้
ซึ่งเป็นโอกาสใหม่อย่างกลุ่ม CLMV กัมพูชา
สปป.ลาว เมียนมา เวียดนาม ขณะที่ "นกแอร์" การบินไทยถือหุ้น 39.20 % จะต้องส่งทีมงานเข้าไปบริหารแบบเต็มออปชั่น
เพราะนอกจากการแข่งขันของธุรกิจสายการบินจะดุเดือดแล้ว
ปีนี้ยังมีปัจจัยเสี่ยงด้านเศรษฐกิจและความผันผวนของราคาน้ำมัน
ทำให้สายการบินทั่วโลกต้องปรับเปลี่ยนกลยุทธ์บริหารจัดการความเสี่ยงทุกทาง
ข่าวที่สอง “บางกอกแอร์รับAOCเจ้าแรก-รัฐเร่งแจก33แอร์ไลน์ก่อนมิ.ย.”
นายพุฒิพงศ์ ปราสาททองโอสถ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด
(มหาชน) เจ้าของสายการบินบางกอกแอร์เวย์ส
กล่าวว่า ขณะนี้เป็นสายการบินแรกของประเทศไทยที่ได้รับใบรับรองผู้ดำเนินการเดินอากาศใหม่ตามมาตรฐานองค์กรการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO)
เรียบร้อยแล้ว โดยตลอดระยะเวลาในการดำเนินธุรกิจการบิน
บางกอกแอร์เวย์ส มุ่งให้บริการโดยคำนึงถึงความปลอดภัยสูงสุดของผู้โดยสาร
รวมถึงพนักงานผู้ปฏิบัติหน้าที่ และ
ผู้ที่เกี่ยวข้องในการปฏิบัติการบินร่วมมือกันอย่างเต็มที่มาตั้งแต่ 12 กันยายน
2559 ทั้งการตรวจสอบและแก้ไขในรายละเอียดทุกอย่างเพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐานความปลอดภัยทุกประการ
จนกระทั่งตรวจประเมินครบทุก 5 ขั้นตอนและได้รับใบรับรองดังกล่าว
หลังจากผ่านขั้นตอนสุดท้ายของการตรวจสอบและได้รับใบรับรองผู้ดำเนินการเดินอากาศใหม่ตามมาตรฐานองค์กรการบินพลเรือนระหว่างประเทศ หรือ ICAO จากสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย
(กพท.) ล่าสุดเมื่อปลายเดือนกุมภาพันธ์
2560 บางกอกแอร์เวย์ส เข้ารับมอบใบรับรองผู้ดำเนินการเดินอากาศ
จาก นายจุฬา สุขมานพ ผู้อำนวยการ กพท. และมีนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ร่วมเป็นประธาน พร้อมกับ มร. เบ็น อัลค็อท
ผู้อำนวยการสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศอังกฤษ
ทั้งนี้กระทรวงคมนาคมเตรียมออก AOC ภายใน มี.ค.-เม.ย.60 จะสามารถออกใบ AOC
ให้กับอีก 22 สายการบิน กลุ่มแรก จำนวน 8 สายการบิน
ได้แก่ การบินไทย ไทยแอร์เอเชีย เค-ไมล์แอร์ โอเรียนท์ไทย นกแอร์ นกสกู๊ต
ไทยแอร์เอเชียเอ็กซ์ และไทยสมายล์ แอร์เวย์
อยู่ระหว่างการประเมินใบรับรองผู้เดินอากาศใหม่ ขึ้นอยู่กับขนาดและโครงสร้างองค์กร
จำนวนประเภทเครื่องบิน
และความซับซ้อนในระบบการปฏิบัติงานของแต่ละสายการบินซึ่งขณะนี้
กำลังจะสู่การตรวจสอบภาคปฎิบัติ
หลังจากนั้นจะพิจารณาให้ที่เหลืออีก 12 สายการบิน ได้รับใบ AOC ก่อนวันที่ 30 มิ.ย.2560 ซึ่งเป็นวันที่ประเทศไทยจะยื่นหนังสือ ขอให้ ICAO มาตรวจซ้ำสำหรับข้อบกพร่องอย่างมีนัยสำคัญด้านความปลอดภัย
(SSC) จำนวน 33 ข้อ คาดว่าภายในสิ้นปีจะสามารถปลดธงแดงได้
นอกจากนี้ คณะรัฐมนตรีได้อนุมัติพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การเดินอากาศ พ.ศ......
ซี่งอยู่ในการพิจารณาของคณะกรรมการกฤษฎีกา เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป
ข่าวที่สาม “ห้ามพลาดงานเที่ยวไทย4-5มี.ค.ที่ NCC”
นายกฤตย์ พัตรปาล กรรมการผู้จัดการ บริษัท พี.เค.เอ็กซิบิชั่น แมนเนจเม้นท์
จำกัด ผู้จัดงานไทยเที่ยวไทย เปิดเผยว่า ได้จัดงาน “ไทยเที่ยวไทย ระหว่าง 2-5
มีนาคม 2560 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์
โดยตั้งเป้าจะมีผู้เข้าชมงาไม่ต่ำกว่า 500,000 คน
เข้ามาช้อปรายการนำเที่ยวจากกลุ่มผู้ประกอบการท่องเที่ยวทั้งโรงแรม รีสอร์ต
บริษัทจัดนำเที่ยว สายการบิน และภาคบริการ ทั่วประเทศเข้ามาร่วมงานกว่า 1,250 บูธ ไฮไลต์ประกอบด้วย โซนไทยเที่ยวไทย 4.0
และทางผู้จัดงานยังได้เชิญชวนผู้ชมงานผ่านสื่อดิจิทัลต่าง ๆ
และทำโปรโมชั่นร่วมกับกลุ่มพันธมิตร 7 บัตร อาทิ ซิตี้แบงก์ มอบราคาสุดคุ้ม 4 ต่อ
และโปรโมชั่นอื่น ๆ
อีกทั้งยังโซนไฮไลต์ที่น่าสนใจภายในงาน
ได้แก่ “โซนงานไหมแห่งสยาม ร้อยแก่นสารสินธุ์
เทศกาลไหมแห่งประเทศไทยของกลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนกลาง
“โซนทัวร์ทั่วไทย” ก็มีบริษัทท่องเที่ยวชั้นนำ 70 บริษัท “โซนสายการบิน”
มีทั้งโลว์คอสต์และพรีเมียมแอร์ไลน์ อย่าง แอร์เอเชีย ไทยไลอ้อนแอร์ ไทยสไมล์
นกแอร์ บางกอกแอร์เวย์ส โซนเอเทรียม โซนรถเช่า โซนท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์
เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน
คอลัมนิสต์ท่องเที่ยว-การบิน
และเจ้าของรายการ "รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์" ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz.
|
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น