ททท.ผ่าบิ๊กโปรเจ็กต์ปั๊มรายได้ครึ่งปีหลัง60-วัยเก๋าทัวร์ยกก๊วน-LAND LOCK LAND LINK

ผ่าบิ๊กโปรเจ็กต์รัฐ-ททท.ปั๊มเศรษฐกิจครึ่งปีหลัง     

สูงวัยทัวร์ยกก๊วน-ผุดLand Lockริมโขงสองแผ่นดิน

คิงเพาเวอร์กวาดรางวัลโลกสร้างชื่อดิวตี้ฟรีไทย

รันเวย์สุวรรณภูมิใหม่โดนใจฝูงบินซูเปอร์A380

BPCGเครือบางจากลุ้นเข้าดัชนีหุ้นโลกMSCI1มิ.ย.

 ทัวร์“ม่อนเงาะเชียงใหม่”ชมผักต่างแดนบนดอย 

3บิ๊กอีเวนต์ททท.‘ราชประสงค์-ลพบุรี-ปั่นสวนผึ้ง’

พาณิชย์ผุดตลาดแม็กเนตใน6เมืองท่องเที่ยว

สวัสดีเช้าวันอาทิตย์ที่ 28 พฤษภาคม 2560 เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz.ในรายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” (ฟังสดทางมือถือเลือก FM 97.0 หรืออ่านทาง www.facebook.com/penroong และบล็อกเกอร์  #gurutourza ฟังย้อนหลังใน youtubeทาง www.facebook.com/rauydauykhao)

ช่วงที่ 1 เกาะติดสถานการณ์ครึ่งปีหลัง“สมฤดี จิตรจง” ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคตะวันออกเฉียงเหนือ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) แม่งานที่รัฐบาลฝากความหวังไว้ให้ลุยทำตลาดเชิงลึกปลุก “วัยเก๋าทั่วประเทศเที่ยวยกก๊วน” และสานโปรเจ็กต์ใหม่ถอดด้ามเชื่อมตะเข็บการท่องเที่ยวเลาะริมโขงสองแผ่นดิน “Land Lock สู่ Land LINK” ไทยสู่ สปป.ลาว

คุณสมฤดี จิตรจง

ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคตะวันออกเฉียงเหนือ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย

“คุณสมฤดี จิตรจง” ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคตะวันออกเฉียงเหนือ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ในฐานะเจ้าภาพโครงการ “ทัวร์วัยเก๋ายกก๊วนทั่วไทย” และผู้ขานรับนโยบายใหม่ล่าสุด “เปิดตะเข็บท่องเที่ยวเลาะริมฝั่งโขงไทย-สปป.ลาว” LAND LOCK สู่ LAND LINK ปลุกกระแสเศรษฐกิจท้องถิ่น ชุมชนเลียบแม่น้ำโขงได้มาอัพเดทกับทางรายการ

คุณสมฤดี กล่าวว่า ขณะนี้นักท่องเที่ยววัยเก๋าอายุตั้งแต่ 55 ปีขึ้นไป มีจำนวนเพิ่มขึ้น ททท.จึงเล็งเห็นถึงคุณภาพของตลาด เพราะที่ผ่านมาเน้นขยายฐานกลุ่มนักท่องเที่ยวเจนวายเป็นหลัก จากนี้ไปได้พุ่งเป้าขยาย “กลุ่มวัยเก๋า” ซึ่งปัจจุบันมีส่วนแบ่งตลาดอยู่ประมาณ 18 % ปี 2560 เริ่มเข้าสู่สังคมผู้สูงวัยโดยไร้ความแก่ เพราะสภาพร่างกายยังแข็งแรง เป็น “เก๋าทันสมัย” ที่ชื่นชอบท่องเที่ยวชวนเพื่อน ๆ ร่วมเดินทางเที่ยวเป็นแก๊ง ททท.จึงดีไซน์รูปแบบแนะนำให้กระจายไปเที่ยวทั่วประเทศไปสัมผัสประสบการณ์ความสุข ความสนุก เติมเต็มซึ่งกันและกัน อันหมายถึงเมื่อวัยนี้ออกเดินทางก็จะได้ทั้งความสุขและสนุก กระจายรายได้แบบไม่อั้น

อีกทั้งวัยเก๋ายังเป็นผู้มีประสบการณ์สูง เพียบไปด้วยองค์ความรู้มากมายที่สั่งสมมานาน การชวนผู้สูงวัยออกมาเที่ยวใน “ชุมชน” ก็จะนำความรู้ที่มีไปแลกเปลี่ยนแนะนำแก่ผู้ประกอบการห้องพักโรงแรม ร้านค้าช้อปปิ้ง ช่วยเร่งพัฒนาผลิตสินค้าการท่องเที่ยวเติบโตเร็วมากยิ่งขึ้นกว่าจะพึ่งพารองบประมาณภาครัฐเพียงอย่างเดียว หากหันมาใช้การบอกต่อจากประสบการณ์ตรงของนักท่องเที่ยวซึ่งเป็นผู้รู้จะดีกว่า อีกทั้งยังได้มาตรฐานสูงขึ้นด้วย

แคมเปญนี้มีความพิเศษกว่าการท่องเที่ยวทั่วไป โดยทำกลยุทธ์ “เจาะตลาด” ไม่ได้ทำเรื่องการสร้างกระแสเหมือน 2 โครงการแรกอย่าง เที่ยววิถีไทย เก๋ไก๋สไตล์ลึกซึ้ง กับท้าเที่ยวข้ามภาค ที่ต้องการให้เกิดการเที่ยวแลกเปลี่ยนข้ามภาคกันเองภายในประเทศ ส่วน “เก๋ายกก๊วน” เน้นเจาะลึกเข้าถึงตลาดสูงวัยแบบเนื้อ ๆ แล้วเข้าไปเสาะแสวงหา ชมรม สมาคม บริษัทจัดนำเที่ยว และองค์กรต่าง ๆ

โดยททท. แต่ละสำนักงาน เตรียมอำนวยความสะดวก จัดโปรแกรมแนะนำเส้นทางท่องเที่ยว และกิจกรรมในชุมชนไว้บริการ รองรับพฤติกรรมการเดินทาง 2 แบบ คือ 1.เดินทางด้วยตนเองเป็นกลุ่มเพื่อนพวกพ้อง 2.ใช้บริการบริษัทนำเที่ยว  

ช่วงเดือนกรกฎาคม-สิงหาคม นี้ ททท.ได้จับมือกับสายการบิน ไทย แอร์เอเชีย ซึ่งทำวิจัยการเดินทางของตลาดวัยเก๋าเน้นความปลอดภัย สะดวก และไม่ชอบถือของขึ้นเครื่อง แต่ต้องการโหลดไว้ใต้ท้องเครื่องบิน จึงได้คัดสรร “สิทธิพิเศษโดยให้น้ำหนักสัมภาระขึ้นเครื่องบินเพิ่ม 1 เท่า เป็น 40 กิโลกรัม (กก.) จาก 20 กก.แถมอีก 20 กก.” เมื่อวัยเก๋าจองซื้อตั๋วโดยสาร ไทย แอร์ เอเชีย ช่วง 2 เดือนหน้านี้ กรกฎาคม-สิงหาคม แล้วเก็บตั๋วและสิทธิประโยชน์ดังกล่าวไว้ใช้ได้จนถึงสิ้นเดือนกันยายน 2560

สิทธิพิเศษดังกล่าวยังหวังผลต่อเนื่องเรื่อง “ลดเพื่อเพิ่ม” นั่นคือลดภาระนักท่องเที่ยว ไปพร้อม ๆ กับเพิ่มรายได้ช้อปปิ้งตามแหล่งต่าง ๆ ในเมืองท่องเที่ยว สามารถช้อปได้โดยไม่ต้องกังวลเรื่องน้ำหนักที่จะขนกลับบ้าน

เส้นทางไฮไลต์ที่วัยเก๋านิยมเดินทางช่วงมิถุนายน นี้เป็นต้นไป ปกติจะเป็น “ทัวร์ไหว้พระ” ระยะหลังพบว่าคนวัยเก๋าหันมาสนใจร่วมกิจกรรมทำ D.I.Y.เหมือนเจนวาย สะท้อนว่าอายุไม่ได้เป็นอุปสรรค ทางสำนักงาน ททท.ทั่วประเทศจึงคัดเลือกกิจกรรมมาให้ เช่น ภาคเหนือ เก็บใบชาจากไร่ เก็บ-ตาก-ชง หรือตอนนี้ จ.ตาก สวนทุเรียนอร่อยมาแรงกำลังโด่งดัง ก็จัดทริปไปลองปอก ลองชิมทุเรียนถึงต้นตามสวนต่าง ๆ ภาคอีสาน ทำผ้ามัดย้อมและอื่น ๆ เพราะคนวัยนี้ทำงานอยู่ในเมืองไม่ค่อยได้สัมผัสการทำแบบต่างจังหวัดทำ ซึ่งจะทำให้เกิด “การกระจายรายได้สู่ชุมชน” ด้วยวิธีง่าย ๆ นั่นเอง

ส่วนโครงการ “เปิดตะเข็บการค้าการท่องเที่ยวริมฝั่งโขง”ร่วมสร้าง LAND LOCK สู่ LAND LINK เป็นนโยบายของรัฐบาลด้านบูรณาการร่วมกันให้มากกว่ากลยุทธ์เดิม ๆ ที่ทำแผนเฉพาะภายในแต่ละจังหวัดของตนเอง ตัวอย่างภาคอีสานเดิมกำหนดทำ 5  กลุ่ม ต่อไปรัฐบาลให้ทำ “กลุ่มจังหวัดเป็นทั้งภาค” ให้เห็นภาพใหญ่นำไปสู่การพัฒนาอย่างเป็นระบบเชื่อมโยงเต็มรูป

“ภาคอีสาน” จะเป็นโมเดลนำร่องทำ BIG LOCK พูลกันทั้งหมด จากต้นทางแม่น้ำโขงบริเวณ “ท่าลี่ จ.เลย” ไปถึง “ชานุมาน จ.อุบลราชธานี” ปลายสุดของแม่น้ำโขง ทาง ททท.กับ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา หอการค้าไทย กำลังวางผัง “เส้นทางท่องเที่ยวเชื่อมโยง” ตลอดเส้นทางท่าลี่-ชานุมาน” เพราะปัจจุบันบางช่วงมีหมู่บ้านท่องเที่ยวแต่เส้นทางบางช่วงเลี่ยงเมืองหายไปจากการเลียบน้ำโขง

ดังนั้นจึงกำลังทำสำรวจวาง Route เดินทาง ขับรถท่องเที่ยว โดยแนะนำเส้นเลียบริมโขง หรือบางช่วงไม่ติดริมโขง แต่สามารถเลาะหมู่บ้าน ท่องเที่ยวชุมชนผนวกการทำกิจกรรมต่าง ๆ ได้

ด้วยการเปิดชุมชนท่องเที่ยวแต่ละแห่งมีความพร้อมมากน้อยขนาดไหนนั้น ส่วนใหญ่มีอยู่ในโปรแกรมท่องเที่ยวอยู่แล้ว เพียงแต่ขนาดยังไม่ใหญ่มากนัก ทาง ททท.จะเพิ่มป้ายบอกทาง ถนนยังไม่สะดวก เมื่อเข้าสู่กระบวนการให้เป็น “เส้นทางท่องเที่ยว” แล้ว หน่วยงานภาครัฐจะเข้าไปพัฒนาแต่ละส่วนให้พร้อม เพราะแผนการสำรวจจากโครงการนี้ทางรัฐบาลจะจัดสรรงบประมาณแจกจ่ายไปตามหน่วยงานรับผิดชอบเข้าไปดูแลพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน โลจิสติกส์ ซึ่งทำอย่างเป็นระบบ

เป็นกลยุทธ์ใหม่รัฐบาลชุดนี้ต้องการให้ดำเนินการ “พัฒนา” ของหน่วยงานรัฐ ควบคู่กับ “การส่งเสริมการตลาด” ของ ททท.

จำนวนหมู่บ้านเลียบริมโขงที่จะนำเสนอเป็นโครงการนำร่องยังไม่ได้ลงลึกว่ามีเท่าไร แต่จะต้องส่งให้กรมพัฒนาชุมชน กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ลงลึกรายละเอียด นำชุมชนที่มีความพร้อมกลุ่มเก่าและกลุ่มใหม่ เข้ามาเชื่อมโยงไปพร้อม ๆ กัน

โครงการปลุกการท่องเที่ยวชุมชนเลียบริมโขง สร้างเศรษฐกิจ 2 แผ่นดินสดใสขึ้นมานั้น กำหนดแล้วเสร็จภายในปี 2560 แล้วเริ่มขายแบบค่อยเป็นค่อยไป เพราะโครงการนี้จะเป็นกุญแจสำคัญบิ๊กล็อตไขการเติบโต “ทางเศรษฐกิจ” ทำให้เกิดการกระจายตัว “การท่องเที่ยวชุมชน” โดยอัตโนมัติ

เนื่องจากทาง สปป.ลาว เองก็ริเริ่มทำการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษ ทางตอนเหนือ วังเวียง หลวงพระบาง สู่เวียงจันทน์ หรือบริเวณฝั่งตรงข้ามจังหวัดนครพนม ก็มีเขตเศรษฐกิจพิเศษของ สปป.ลาว ด้วย เมื่อไทยพัฒนาฝั่งเราช่วงวันหยุดนักท่องเที่ยวฝั่งลาวก็จะเดินทางข้ามาท่องเที่ยวเพื่อเปลี่ยนบรรยากาศ อีกทั้งรัฐบาล สปป.ลาว เองก็มีนโยบายทำโครงการพัฒนาการท่องเที่ยวเลียบฝั่งโขงในลาวด้วยเช่นกัน จึงจะเป็นแม่เหล็กดึงคนไทยข้ามไปเที่ยวได้ในลักษณะของการแลกเปลี่ยนการเดินทางระหว่างกันเกิดขึ้น เข้าสู่นโยบาย “ท่องเที่ยวไร้พรมแดนระหว่างประเทศสมาชิกอาเซียน” ได้ตลอดเวลา

ทั้งภาครัฐ สมาคม ผู้ประกอบธุรกิจเอกชน ในแถบแม่น้ำโขง 2 แผ่นดิน มีความมุ่งมั่นนำร่องโปรเจ็กต์ “Big Lot Big Project” จุดพลุการขายเส้นทางท่องเที่ยวเลียบฝั่งโขงมานำเสนอภายในปี 2561 อันจะเป็นอีกช่องทางการกระจายเม็ดเงินรายได้ “สร้างเศรษฐกิจชุมชน” ห่างไกลให้ลืมตาอ้าปากได้ในอนาคตต่อไป

ฟังข่าวต้นชั่วโมง

ข่าวที่ 1 “กลุ่มคิงเพาเวอร์คว้ารางวัลโลกเพียบ”

“ซูซาน วีลแลน”  รองกรรมการผู้อำนวยการอาวุโส กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สโมสรฟุตบอล เลสเตอร์ ซิตี้ กล่าวว่า “กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์” มุ่งมั่นที่จะส่งเสริมธุรกิจดิวตี้ฟรีของคนไทยให้ก้าวไกลสู่ระดับสากล” ควบคู่การตอกย้ำความเป็น “ผู้นำร้านค้าปลอดอากรภาษีระดับสากล” ในวงการผู้พัฒนาธุรกิจค้าปลีกสินค้าปลอดอากรภาษี ล่าสุดสามารถคว้ารางวัลผู้นำค้าปลีกสินค้าดิวตี้ฟรีแห่งภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก จาก DFNI นิตยสารดิวตี้ฟรี ชั้นนำจากของอังกฤษสาขา Best Travel Retailer Operating in a Single Country in Asia/Pacific  ผู้นำค้าปลีกยอดเยี่ยมแห่งปีของเอเชีย อันเป็นบทพิสูจน์ความสำเร็จที่สำคัญยิ่งใหญ่สร้างความภาคภูมิใจให้ประเทศไทย

โดยก่อนหน้านี้กลุ่มคิง เพาเวอร์ ก็ได้คว้ารางวัลจากเวทีต่างประเทศและไทยมากมาย เช่น รางวัล Super Brand สุดยอดแบรนด์ในธุรกิจค้าปลีกของไทย ต่อเนื่องเป็นปีที่ 9  รางวัล The Asia Ireland Business Awards จากหอการค้าไทย-ไอร์แลนด์ ในฐานะที่ประสบความสำเร็จและมีความโดดเด่นในการเสริมสร้างธุรกิจระหว่างเอเชียและไอร์แลนด์  และรางวัล Brand of the Year 2016-2017 ต่อเนื่องปีที่ 2 สาขา Retail – Duty Free – Thailand จากงานประกาศรางวัล World Branding Awards ตลอด 28 ปีได้มุ่งพัฒนาสินค้าและบริการที่มีคุณภาพ ด้วยการจำหน่ายสินค้าปลอดอากรภาษีที่คัดสรรสินค้าที่ตรงใจนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก นำรายได้เข้าประเทศเป็นจำนวนมาก

ข่าวที่ 2 “รันเวย์2สุวรรณภูมิปรับใหม่โดนใจฝูงบินA380”

นายศิโรตม์ ดวงรัตน์ ผู้อำนวยการ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ บริษัท ท่าอากาศไทย จำกัด (มหาชน) “ทอท.” เปิดเผยว่า หลังจากการปรับปรุงทางวิ่งฝั่งตะวันออก (EAST Runway) ในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.) พร้อมเปิดให้บริการได้ตั้งแต่ 1 พฤษภาคม 2560 เป็นต้นมา ขณะนี้สร้างความพึงพอใจแก่สายการบินจำนวนมากเพราะได้รับความสะดวกสบายสามารถนำเครื่องบินขนาดใหญ่สุดของโลก ซูเปอร์ จัมโบ้ แอร์บัส A380 บินพิสัยไกล ขึ้น-ลงบนทางวิ่งฝั่งตะวันออกได้อย่างสะดวกสบายตามปกติ และ ทสภ สามารถใช้ทางวิ่งทั้ง 2 เส้น ได้อย่างเต็มศักยภาพ  68 เที่ยวต่อชั่วโมง

สำหรับทางวิ่งฝั่งตะวันออกด้านทิศเหนือ มีระยะทาง 935 เมตร ได้ซ่อมแซมพื้นผิวทางวิ่งเสร็จเรียบร้อย โดย ทอท.ได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากทั้ง สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) หน่วยงานที่เกี่ยวข้องของ ทสภ. ร่วมกันดำเนินการตรวจสอบความพร้อมด้านมาตรฐานความปลอดภัยของทางวิ่งก่อนทำการเปิดใช้งาน  เรื่อยไปจนถึงหน่วยงานภายนอก ได้แก่ บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด (บวท.) สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) สำนักอุตุนิยมวิทยาการบิน คณะกรรมการดำเนินงานด้านธุรกิจการบิน (Airline Operators Committee : AOC) สายการบินต่าง ๆ กองบังคับการตำรวจตรวจคนเข้าเมือง

เป็นความร่วมมือที่ทุกฝ่ายมุ่งมั่นสนับสนุนเพิ่มการเติบโตด้านขนส่งทางอากาศของประเทศในอนาคตนำรายได้เข้าประเทศมากยิ่งขึ้นต่อไป

ข่าวที่ 3 “ททท.ควงYECทำCSRต่อยอดวิลเลจทูเดอะเวิลด์”

นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า กลุ่มนักธุรกิจรุ่นใหม่ YEC หอการค้าจังหวัดสุโขทัย ได้ต่อยอดโครงการ วิลเลจ ทู เดอะ เวิลด์ (Village to the World) ด้วยการขยายผลทำกิจกรรม CSR outing และบริจาคเงินสมทบทุนสร้างสาธารณะประโยชน์เพื่อชุมชนเมืองเก่า สุโขทัย เป็นตัวอย่างต้นแบบการพัฒนา 10 ชุมชนต้นแบบนวัตกรรมการท่องเที่ยวของกลุ่มองค์กรหันมาทำ CSR outing สร้างมูลค่าเพิ่ม สร้างรายได้ให้ชุมชนขนาดเล็กที่มีรายได้จากการท่องเที่ยวต่ำกว่าปีละ 1 ล้านบาท

ปี 2560  ททท.เริ่มทยอยรณรงค์การขายแพ็กเกจ CSR outing ให้องค์กรต่างๆ ตั้งเป้าสร้างรายได้ให้ชุมชนละ 1 ล้านบาท โดยขับเคลื่อนต่อยอดเป้าหมาย สร้างรายได้ สร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชนได้อย่างยั่งยืน พร้อมทั้งขอเชิญชวนองค์กรต่างๆ พาพนักงานมาท่องเที่ยวด้วยการทำ CSR outing ควบคู่กับการเรียนรู้วิถีชีวิตในหลากหลายมิติของแต่ละชุมชนที่สามารถสร้างความสนุกและสุขใจให้แก่พนักงานขององค์กร ประการสำคัญสามารถกระจายรายได้กับความสุขให้ชุมชนไปพร้อม ๆ กันได้ด้วย

ข่าวที่ 4 “บีซีพีจีเครือบางจากลุ้นดัชนีหุ้นMSCI”

นายบัณฑิต สะเพียรชัย กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บีซีพีจี จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า จากการที่บีพีซีจีในเครือ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)  มีโครงสร้างรายได้ ทำผลกำไรเติบโตดีต่อเนื่อง ดึงดูดความสนใจนักลงทุนและตลาดตอบรับเป็นอย่างดี ทำให้หุ้นบีซีพีจีได้รับคัดเลือกเข้าร่วมคำนวณดัชนีระดับโลกอย่าง MSCI MSCI Global Small Cap Indexes  ตั้งแต่ 1 มิถุนายน 2560  (MSCI : Morgan Stanley Capital International)  ที่มีมานานกว่า 35 ปี และเป็นดัชนีที่นักลงทุนสถาบันใช้อ้างอิงในการลงทุน

จึงนับเป็นความสำเร็จอย่างต่อเนื่องของบริษัทในระดับสากล ทั้งในแง่การขยายธุรกิจและการได้รับ การยอมรับในตลาดทุน และเป็นข่าวดีของ บมจ.บีซีพีจี ซึ่งจัดเป็นหุ้นฟอร์มดีกำลังได้รับคัดเลือกเข้าคำนวณดัชนีระดับโลก

ทั้งนี้ในวันที่ 13 มิถุนายน 2560  บริษัทฯ รอรอการอนุมัติจากที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2560 เพื่อลงทุนในโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนใต้พิภพที่ประเทศอินโดนีเซีย หลังจากคณะกรรมการบริษัทฯ มีมติอนุมัติไปเรียบร้อยแล้ว

ข่าวที่ 5 “รถขนส่งแห่ลดเที่ยววันธรรมดามิ.ย.60”

การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ควงแขนกลุ่มธุรกิจกระตุ้นการท่องเที่ยววันธรรมดา ต่อเนื่องอีก 4 เดือน ระหว่างวันนี้-30 กันยายน 2560 ในช่วงเดือนมิถุนายนนี้เป็นต้นไป กลุ่มบริการขนส่งดาหน้าให้ส่วนลดเที่ยววันธรรมดาอย่างเนื่อง ประกอบด้วย

Thai rent a car มอบรถเช่า เมื่อเช่ารถวันธรรมดา ( อาทิตย์-พฤหัสบดี ) วันนี้ – 30 กันยายน 2560เริ่มต้น 550 บาท  ไม่รวม Vat และประกันภัย SLDW

          นครชัยแอร์ ระหว่างมิถุนายน-กันยายน 2560 มอบส่วนลด 50 บาท ทุกที่นั่งทุกเส้นทางในวันธรรมดา โดยขอให้ลูกค้าเดินทางวันอังคาร – พฤหัสบดี และซื้อตั๋วโดยสารไม่ต่ำกว่า 350 บาท

ขณะที่ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดปั๊มทั่วประเทศ  750 แห่ง ตั้งแต่ 1 มิ.ย. – 31 ก.ค. 2560 เติมน้ำมันบางจาก E20s ในวันธรรมดา รับคะแนน 2 เท่า หรือคิดเป็นมูลค่า 40 สต./ลิตร)

ดูรายละเอียดทั้งหมดได้ที่ www.weekdayspecial.com

ช่วงที่ 2 แหล่งเรียนรู้ของพ่อที่ “ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงม่อนเงาะ จ.เชียงใหม่” เปิดประตูต้อนรับทุกคน ส่วนกลุ่มวัยทองห้ามพลาดฟังว่าถั่วเหลืองเป็นมิตรที่ดีอย่างไร และข่าวในรอบสัปดาห์

@ทัวร์โครงการหลวงม่อนเงาะชิมผักต่างแดนบนดอย

ตามรอยพ่อไปยัง “ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงม่อนเงาะ” ตั้งอยู่ ม.4 ต.เมืองก๋าย อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ เที่ยวได้ตลอดทั้งปี เข้าชมได้ทุกวัน เวลา 08.00-18.00 น.

ณ ภูเขาสูงอันเป็นที่ตั้งของหมู่บ้านม่อนเงาะ อำเภอแม่แตง แต่เดิมเคยเป็นที่อยู่อาศัยของชาวเขา เผ่าม้ง ซึ่งมักจะดำรงชีพด้วยการปลูกฝิ่นและมีฐานะยากจน โครงการหลวงจึงเริ่มพัฒนาและส่งเสริมการปลูกผัก เป็นลำดับแรก โดยเน้นแก้ปัญหาพื้นที่สูงชัน ยากต่อการเพาะปลูก พืชผักที่เลือกปลูกจึงต้องเหมาะสมที่สุดกับพื้นที่เนินเขา เช่น ผักกาดสายพันธ์ุต่างๆ กะหล่ำปลี นานาชนิด ฟักทองญี่ปุ่น หัวไชเท้าญี่ปุ่น ฯลฯ วิธีการปลูก ที่ผ่านการวิจัยมาแล้วนั้น ทางโครงการหลวงได้ส่งต่อให้กับเกษตรกร เนรมิตพื้นที่เทือกเขาแห้งแล้งให้กลับกลายเป็นอีกหนึ่งวิวงดงามให้ได้เยี่ยมชม

หลังจากได้รับการฟื้นฟูผืนป่าทำให้ดอยม่อนเงาะกลับมา เขียวชอุ่มและงดงามขึ้นอีกครั้ง กลายเป็นจุดท่องเที่ยวในฝันของนักท่องไพร ทางโครงการจัดเตรียมบ้านพักแสนสบายให้บริการ พร้อมร้านอาหารที่จัดเสิร์ฟอาหารพื้นเมืองคุณภาพดี แขกที่มาเยือนจะได้ความรู้เกี่ยวกับการเกษตรไปด้วยจากแปลงไม้ดอก และพืชผักต่างๆ รวมไปถึงไร่ชา ไร่กาแฟ ที่เรียงรายอย่างงดงาม

" เมื่อเผชิญปัญหา พื้นที่ราบมีน้อย ทั่วบริเวณล้วนเป็น เทือกเขา ยากต่อการ เพาะปลูก นักวิชาการเกษตรของโครงการหลวงจึงต้องทำงานหนัก เพื่อค้นหาทางแก้ไขปัญหาด้านพื้นที่ทำกินของม่อนเงาะ "

เส้นทางท่องเที่ยวโครงการหลวง จ.เชียงใหม่

วันแรก  “ช่วงเช้า” โครงการหลวงม่อนเงาะ สัมผัสวิถีชาวม้ง ชมแปลงปลูกชาลุงเดช โรงเพาะเห็ดระบบปิด แปลงกล้วยไม้ซิมบิเดียม ภูมิปัญญาการทำเหมี้ยงแบบดั้งเดิม “ช่วงบ่าย” ไปดอยหลวงเชียงดาว ชมพรรณไม้หายากที่เดียวในไทย เช่น ค้อเชียงดาว สิงโตเชียงดาว

วันที่สอง  “ช่วงเช้า” เยี่ยมชมโครงการหลวงห้วยลึก “ช่วงบ่าย” เรียนรู้วิถีพอเพียงที่ ดารา ดาเล บ้านดินฟาร์ม เดินเล่นถนนคนเดินท่าแพ เชียงใหม่

สถานที่เที่ยวห้ามพลาด หมู่บ้านเหล่าพัฒนาชุมชนท่องเที่ยว สัมผัสวิถีชีวิตและวัฒนธรรมความเป็นอยู่ของชาวพื้นเมือง ไร่ชาสวนลุงเดช จิบชาพร้อมชมวิวสวย ที่เน้นปลูกชา และยังมีสวนเงาะ ส้ม มะขามให้เข้าชมด้วย แปลงส่งเสริมไม้ดอก สารพันดอกไม้แปลกตาอย่าง ไม้ใบวานิลลา ซิมบิเดียม และกล้วยไม้นานาพรรณ

กิจกรรมห้ามพลาด ไปกางเต็นท์ค้างคืนนอนชมดาว แล้วตื่นขึ้นมาชมความงดงามยามพระอาทิตย์ขึ้นที่จุดชมวิวดอยม่อนเงาะ

สนใจท่องเที่ยว ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงม่อนเงาะ  โทร.08-1025-1002

การเดินทาง  วิ่งเส้นทางหลวงสาย 107 มุ่งหน้า ไปทางแม่ริม ตรงไปราว 30 กม. เมื่อถึงอำเภอแม่แตงให้เลี้ยวซ้ายเข้าสู่ทางหลวงสาย 1095 วิ่งตรงไปประมาณ 13 กม. ให้เลี้ยวขวา ตามป้ายของโครงการ วิ่งตามทาง มาอีกประมาณ 7 กม. ให้เลี้ยวซ้าย ไปก็จะถึงที่หมายคือบ้านม่อนเงาะ ถนนปลายทางค่อนข้างแคบควร ขับขี่ด้วยความระมัดระวัง

@ถั่วเหลืองเป็นมิตรกับวัยทอง

ตามปกติแล้วเมื่อผู้หญิงเริ่มย่างเข้า “สู่วัยทอง” ร่างกายจะเริ่มสร้างฮอร์โมนเอสโตรเจนลดลง ทำให้เกิดอาการต่างๆ เช่น ร้อนวูบวาบ ปวดเมื่อย กลั้นปัสสาวะไม่ค่อยอยู่ อารมณ์ไม่คงที่ อีกทั้งยังเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคบางชนิด เช่น โรคหัวใจ โรคกระดูกพรุน

วิธีการรักษาโดยทั่วไป ก็คือ การให้ฮอร์โมนทดแทนหรือการให้ยาบางชนิด อย่างไรก็ตาม ในบางกรณี การให้ฮอร์โมนทดแทนอาจก่อให้เกิดผลข้างเคียงบางประการได้ ผู้หญิงบางคนจึงเริ่มมองหาทางเลือกเพื่อรักษาสุขภาพด้วยวิธีการทางธรรมชาติ

ผลจากการสำรวจพบว่า พบอาการวัยทองน้อยมากในผู้หญิงญี่ปุ่นที่มีนิสัยการรับประทานอาหารจากถั่วเหลืองเป็นประจำ ผลการสำรวจดังกล่าวจึงนำไปสู่การศึกษา จนได้ข้อมูลว่า ถั่วเหลืองจัดเป็นแหล่งของสารไอโซฟลาโวนส์ตามธรรมชาติ ซึ่งมีโครงสร้างและคุณสมบัติคล้ายคลึงกันกับฮอร์โมนเอสโตรเจนที่ร่างกายสร้างขึ้น แต่มีฤทธิ์ไม่แรงเท่า

จากการวิจัยเบื้องต้นพบว่า อาหารที่มีโปรตีนถั่วเหลืองซึ่งเป็นแหล่งของไอโซฟลาโวนส์ตามธรรมชาติสูงนั้น มีประโยชน์ต่อผู้หญิงหลายประการ เช่น ช่วยลดการสูญเสียมวลกระดูก และลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจ ยิ่งไปกว่านั้น การรับประทานอาหารที่อุดมไปด้วยโปรตีนถั่วเหลืองยังอาจช่วยลดอาการร้อนวูบวาบ ซึ่งผู้หญิงวัยทองส่วนใหญ่มักจะต้องประสบได้อีกด้วย

สิ่งสำคัญ ควรหมั่นออกกำลังกายควบคู่ไปด้วย จะช่วยทำให้มีวัยที่สดใส ห่างไกลจากโรคร้าย ไม่ต้องว้าวุ่น

ฟังข่าวท้ายชั่วโมง  

ข่าวแรก “ดุสิตฯบุกลงทุนจีน-เนปาล-หนุนFESTA START UP”

นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มดุสิต อินเตอร์เนชั่นแนล กล่าวว่า ล่าสุดได้ร่วมลงนามในสัญญาเปิดโรงแรมใหม่ทั้งในจีน เนปาล และสนับสนุน Favstay กลุ่มธุรกิจสตาร์ตอัพในเมืองไทย

ในเนปาลได้จับมือกับ บริษัท ออมสโตน เอเชีย แคปปิตอล เนปาล จำกัด (Omstone Asia Capital Nepal Pvt. Ltd.) บริหารโรงแรมแห่งแรก ดุสิตธานี หิมาลายา รีสอร์ทแอนด์สปา ขนาด 44 ห้อง และวิลล่า 20 ยูนิต ทุกห้องสามารถมองเห็นทิวทัศน์สุดตระการตาของเทือกเขาหิมาลัย  มีบริการทรีทเม้นท์จากสปาเทวารัณย์ พร้อมกับสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ครบ รายล้อมด้วยธรรมชาติ

ส่วนในจีนลงนามกับกลุ่มบริษัทโดสเซ่น อินเตอร์เนชั่นแนล (Dossen International Group) เครือธุรกิจโรงแรมที่เติบโตเร็วสุดแห่งหนึ่งของจีนเพื่อร่วมมือกันพัฒนาแบรนด์ดุสิตปริ้นเซสภายใน 5 ปีข้างหน้า จะมีขยายให้ได้ตามเป้าอย่างต่ำ 40 โรงแรม เพื่อเตรียมรองรับตลาดอนาคตกลุ่มไฮเอนด์ ตามที่องค์การท่องเที่ยวโลกคาดการณ์ว่าจีนจะกลายเป็นจุดหมายปลายทางที่ใหญ่ที่สุดของนักท่องเที่ยวภายในปี 2563  จะเดินทางมาจีน 137.10 ล้านคน หรือมีส่วนแบ่งคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 8.6 ของจำนวนนักท่องเที่ยวทั่วโลก  

ขณะเดียวกันดุสิต อินเตอร์เนชั่นแนล ยังได้ สนับสนุนเงินลงทุน 1 ล้านเหรียญสหรัฐ "Favstay" สตาร์ตอัพด้านการท่องเที่ยวไทย กางแผนธุรกิจนำเสนอบริการที่พักตากอากาศตามหัวเมืองท่องเที่ยว ตั้งเป้าเพิ่มรายการบ้านพัก-คอนโดฯอีก 6 เท่า จากที่มีกว่า 1.1 หมื่นรายการ ภายในปี 2560 จะเร่งขยายตลาดไปยัง 4 ประเทศ

ข่าวที่สอง “3งานบิ๊กททท.ราชประสงค์-2จังหวัดภาคกลาง”

นางสาวฐาปนีย์  เกียรติไพบูลย์  ผู้อำนวยการฝ่ายกิจกรรม การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)  กล่าวว่า ได้ร่วมมือกับ นายชาย ศรีวิกรม์  นายกสมาคมผู้ประกอบวิสาหกิจในย่านราชประสงค์ นำ ททท.กับสมาคมผู้ประกอบวิสาหกิจในย่านราชประสงค์ (RSTV) จัด Ratchaprasong Shrines & Culture Walk 2017 ระหว่าง 30 พฤษภาคม – 31 ธันวาคม 2560 ณ บริเวณประดิษฐาน 8 มหาเทพย่านราชประสงค์  กรุงเทพฯ เพื่อตอกย้ำให้ผู้คนที่มีความศรัทธาตั้งอยู่ในศีลธรรมความดี  รวมทั้งส่งเสริมให้เทพทั้ง 8 องค์ เป็นเอกลักษณ์สำคัญของภาพจำในกลุ่มนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ

        วันที่ 30 พฤษภาคม 2560 เวลา 10.00 น. ททท.กับสมาคมฯ เตรียมเปิดตัวโครงการงาน Ratchaprasong Shrines & Culture Walk 2017  ณ ทางเดินลอยฟ้า Ratchaprasong Walk   ทิศใต้ บริเวณด้านหน้าเกษร วิลเลจ

ด้านนายอรรถพล วรรณกิจ ผู้อำนวยการ ททท.สำนักงานลพบุรี ขึ้นร่วมแถลงข่าวในงาน "เทศกาลกระท้อนหวานและของดีเมืองลพบุรี” ครั้งที่ 26 ประจำปี 2560 ระหว่างวันที่ 1 - 13 มิถุนายน 2560 ณ บริเวณหน้าที่ว่าการอำเภอเมืองลพบุรี จังหวัดลพบุรี โดยได้เตรียมจัดกิจกรรมมากมายไว้ต้อนรับนักท่องเที่ยว อาทิ การแสดง เรื่องพระลอ การแสดงโขนสด การแสดงลิเกเด็ก เรื่องสองมือแม่ และจำหน่ายผลิตภัณฑ์กระท้อนหวานเมืองลพบุรี การแปรรูปกระท้อน และการจำหน่ายสินค้า OTOP ของลพบุรี

ขณะที่ ททท. สำนักงานราชบุรี รายงานว่า ด้ร่วมกับ 4 พันธมิตร ได้แก่ จังหวัดราชบุรี และสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวสวนผึ้ง กลุ่ม I Love สวนผึ้ง จัดแข่งขันจักรยานผู้หญิงรายการ”Suanphueng Challenge Chapter 2 : Be Angel Be Gorgeous” วันอาทิตย์ที่ 11 มิ.ย.2560 สามารถสมัครได้ทางเว็บไซต์ http://event.thaimtb.com หรือสอบถามเพิ่มที่ โทร.09-2371-779

ข่าวที่สาม “ชิมเมนูเวียดนามที่แคนทารีศรีราชา”

โรงแรมแคนทารี เบย์, ศรีราชา ชวนไปสัมผัสความอร่อยของอาหารเวียดนามต้นตำรับ ที่ “ห้องอาหาร ดิ ออร์ชาร์ด” ระหว่างวันที่ 31 พฤษภาคม - 2 มิถุนายน 18.00-22.00 น.  พร้อมเมนูอาหารยอดนิยมมากมายที่รังสรรค์ความอร่อยโดยเชฟมืออาชีพ  ในราคาสุทธิเพียงคนละ 600 บาท เด็กอายุต่ำกว่า 12 ปี ลดครึ่งราคา    

สอบถามเพิ่มเติมที่ โทร 038-771-365 หรือดูได้ที่ www.kantarycollection.com

ข่าวที่สี่ “พาณิชย์ผุดตลาดแม็กเนตดึงทัวร์ช่วยชุมชน”

นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า กรมการค้าภายใน ได้เร่งขับเคลื่อนเศรษฐกิจชุมชนเพื่อเพิ่มกำลังซื้อในประเทศ เชื่อมโยงผลผลิตให้ถึงตลาด เกษตรกร ผู้ผลิต ผู้ค้า ด้วยกลยุทธ์การทำตลาดเฉพาะสินค้าหรือแม็กเนต (Magnet Market)  เพิ่มช่องทางการกระจายสินค้าที่มีลักษณะโดดเด่น มีความต้องการซื้อสูง เชื่อมโยงภาคการท่องเที่ยว โดยตั้งเป้าภายใน 2560 จะนำร่องทำในแหล่งท่องเที่ยว 6 แห่ง เชียงใหม่ ภูเก็ต อุดรธานี จันทบุรีสงขลา ชลบุรี

ระหว่างวันนี้- 15 กันยายน 2560 ชิมลางเปิดตลาดแม็กเน็ตแห่งแรก โดยจัดงาน “Thailand :King Fruit paradise” ขึ้นที่ศูนย์การค้า Think park สี่แยกรินคำอำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ รองรับนักท่องเที่ยวไทยและต่างชาติ คาดจะมีผู้เข้าร่วมงานกว่า 70,000 คน บริโภคผลไม้ทุเรียนไม่ต่ำกว่า 180 ตัน สร้างรายได้จากการซื้อกลับบ้านกว่า 50 ล้านบาท

 

เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน

คอลัมนิสต์และบล็อกเกอร์ ท่องเที่ยว/การบิน

เจ้าของรายการ "รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์" สวท.FM 97.0 MHz.