ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

บมจ.อินเตอร์ไฮเปิดแผนลงทุนปี60-ทอท.กำไร-สตรีทฟู้ดไทยมาแรง

เจาะใจทายาทผู้นำเครื่องหนังไทยบุกตลาดโลก
อินเตอร์ไฮด์4.0ต่อยอดวัตถุดิบอาหารและสุขภาพ
คิงเพาเวอร์กอดคอททท.ผนึกWeChatโกยตลาดจีน
ทอท.โชว์ครึ่งปีแรก6สนามบินโกยกำไรหมื่นล้าน
นำร่องอเมซิ่งสตรีทฟู้ดขยายทัวร์อาหารแสนล้าน


ต้อนรับวันเช้าอาทิตย์ที่  21 พฤษภาคม 2560 เวลา 11.00-12.00 น.กับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz.ในรายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” (ฟังสดทางได้มือถือเลือก FM 97.0 หรืออ่านได้ทาง www.facebook.com/penroong และ gurutourza.blogspot.com ฟังข่าวย้อนหลังใน youtubeทาง www.facebook.com/rauydauykhao)

ช่วงที่ 1 อาทิตย์นี้เปลี่ยนบรรยากาศจากเรื่องท่องเที่ยวไปเจาะใจคนรุ่นใหม่“คุณวศิน ดำรงสกุลวงษ์” ทายาทธุรกิจดาวรุ่งในอุตสาหกรรม “เครื่องหนังส่งออก” ในยุคสู่ 4.0 เมื่อไทยได้การยกย่องให้เป็นศูนย์กลางการผลิต ซึ่งทั่วโลกพร้อมสนับสนุนตลาดการต่อยอดสินค้า by product เพิ่มไปยัง ผลิตภัณฑ์อาหารและสุขภาพ

“คุณวศิน ดำรงสกุลวงษ์” ผู้จัดการทั่วไป บริษัท อินเตอร์ไฮด์ จำกัด (มหาชน) ทายาทธุรกิจรุ่นใหม่ในวงการอุตสาหกรรมเครื่องหนัง ดาวรุ่งของสินค้าส่งออกที่กำลังเติมนวัตกรรมเชิงสร้างสรรต่อยอดเป็นผลิตภัณฑ์ช้อปปิ้งและสุขภาพ นำรายได้เข้าประเทศ

“คุณวศิน” เล่าว่าอุตสาหกรรมเครื่องหนังของไทยที่ส่งออกสู่ตลาดโลก แบ่งตามโครงสร้างธุรกิจแยกได้ 3 ส่วน คือ ส่วนที่ 1 รับจ้างฟอกหนัง โดยมีบริษัทต่างชาติเข้ามาใช้บริการจ้างโรงงานฟอกหนังในไทย ส่วนที่ 2 ผลิตเพื่อขายให้กับยี่ห้อต่าง ๆ ส่วนที่ 3 ผลิตภายใต้แบรนด์หรือยี่ห้อของตนเอง

สำหรับ บริษัท อินเตอร์ไฮด์ จำกัด (มหาชน) : IHL จะลงทุนครอบคลุมทั้ง “รับจ้าง” เช่น ทำรองเท้า และ “ผลิตให้แบรนด์อื่น” ทำเบาะให้กับค่ายรถยนต์ ล่าสุดปี 2560 ได้เซ็นสัญญาร่วมดำเนินการรับจ้างผลิตให้แก่ บริษัท Global Leather Intelligence (HK) Limited : GLI เป็นเวลา 2  ปี เพื่อรับผิดชอบการผลิตหนังแล้วจัดส่งให้กับคู่สัญญาดังกล่าวปีละ  1 ล้านตัว มูลค่ารับจ้างเทียบเท่าปีละประมาณ 700 ล้านบาท

ด้วยศักยภาพที่ต่างชาติมองว่าไทยเป็นศูนย์กลางโลจิสติกส์การผลิตอุตสาหกรรมหนัง แตกต่างจากประเทศขนาดใหญ่อย่างจีนอาจจะทำได้ไม่เท่ากับไทย

ส่วนสถานการณ์ของอุตสาหกรรมเครื่องหนังเฉพาะของ บมจ.อินเตอร์ไฮด์ แต่ละปีมีอัตราการเติบโตทางด้านการส่งออก 10-15 % จึงเป็นธุรกิจหลักที่มีความสำคัญต่อเศรษฐกิจของประเทศ เพราะการผลิตแต่ละชิ้นมีมูลค่าสูง

การทำธุรกิจจากหนังมีตลาดทั่วโลกใช้ผลิตภัณฑ์นับเป็นอุตสาหกรรมดาวรุ่งที่มีอนาคต เพราะสามารถต่อยอดได้หลากหลายผลิตภัณฑ์ยอดนิยม โดยเฉพาะสินค้าแฟชั่นอย่าง กระเป๋า รองเท้า เบาะรถยนต์  ผนวกกับทุกวันนี้ยังแตกไลน์ไปได้เรื่อย ๆ อาทิ  ของตกแต่งบ้าน กำแพงหนัง และอื่น ๆ สมัยก่อนคนอาจจะมองว่าเป็นสินค้าหรูหรา ราคาสูง แตกต่างจากปัจจุบันมีให้เลือกซื้อใช้อย่างมีคุณภาพได้ “หลายระดับราคา” สอดคล้องกับกำลังซื้อของคนยุคใหม่ อีกทั้งยังแผ่วงกว้างไปจากสินค้าแฟชั่นเป็นสินค้าตกแต่งบ้าน อาคาร สถานที่


ทางอินเตอร์ไฮด์ วางแผนจะต่อยอดหลากหลายสาขา เมื่อ 2 ปีที่ผ่านมาได้ริเริ่มดัดแปลงเศษหนังที่เหลือจากการผลิตเบาะรถยนต์มาพัฒนาแปลงเป็น “ผลิตภัณฑ์รองเท้าหนัง” เพราะคุณสมบัติแข็งแรง ทนไฟ กันไฟฟ้าสถิต จึงเน้นเพิ่มมูลค่าเป็นสินค้าที่เกิดขึ้นแบบ by product แล้วเมื่อช่วงต้นปีเปิด บริษัท อินเตอร์ กรีน จำกัด เพื่อนำหนังมาทำคอลลาเจนเข้าสู่หมวดการผลิต “อาหารและผลิตภัณฑ์สุขภาพ” เป็นการเตรียมรองรับธุรกิจใหม่ในอนาคต

อินเตอร์ กรีน เป็นบริษัทเดียวในประเทศไทย ที่ได้รับเลข 13 หลักจากหน่วยงานรัฐบาล ให้ดำเนินการบำบัดของเสียจากวัตถุดิบกากอุตสาหกรรม โดยไม่ทิ้งแต่นำมาต่อยอด โดยได้วางกลุ่มตลาดเป้าหมายข้างหน้าที่จะเน้น “ส่งออก
“ สินค้าใหม่เข้าไปจำหน่ายยัง ยุโรป อเมริกา ญี่ปุ่น และทั่วโลก

ปกติวัตถุดิบดังกล่าวมีหลายประเทศนำไปผลิต ยา เครื่องสำอาง บ้าง อาทิ ในเวียดนาม อินเดีย ยุโรป แต่เราจะทำหน้าที่ส่งวัตถุดิบเหล่านี้ป้อนไปยังตลาดผู้ผลิตสำเร็จรูป ซึ่งที่มาของวัตถุดิบนี้จะต้องได้มาจากประเทศที่มีโรงงานผลิตหนังเท่านั้น แล้วทางอินเตอร์ ไฮด์ เองก็ทำธุรกิจภายใต้การดูแลมาตรฐานให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์สากลทุกอย่างทั้งเรื่องขั้นตอนการผลิต การดูแลสิ่งแวดล้อม เพื่อปกป้องภาพลักษณ์ของอุตสาหกรรม เพราะเชื่อมั่นว่าไทยยังเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมฟอกหนัง รวมทั้งมีความได้เปรียบในฐานะแหล่งวัตถุดิบ

ส่วนการพัฒนาสินค้าเข้าสู่หมวดสุขภาพนั้น ทางอินเตอร์ ไฮด์ คิดว่าทำได้เพราะเป็นเทคโนโลยีของญี่ปุ่นซึ่งเป็นคู่สัญญากับเรา ผมกำลังศึกษาและน่าจะทำให้ได้ภายในปี 2560

ในมุมของการแข่งขันของภาคธุรกิจ “ขึ้นอยู่กับการมีปริมาณวัตถุดิบจำนวนมากอยู่ในมือ” ซึ่งประเทศอื่นแทบจะไม่มีวัตถุดิบหนัง แต่อาจจะมีมาจากกระดูกหรืออื่น ๆ

สำหรับ “ยอดขายและรายได้หมุนเวียน” ของอินเตอร์ ไฮด์ ทั้งธุรกิจและหลักและผลิตภัณฑ์ใหม่ ตั้งเป้าหมายการเติบโตตามที่ได้แจ้งที่ประชุมผู้ถือหุ้นไปเรียบร้อยแล้ว ในการทำสัญญากับคู่ค้า ซึ่งจะสร้างยอดขายอนาคตได้มากพอสมควรอีก 2-3 ปีข้างหน้า แต่จะเริ่มเพิ่มแนวรุกนอกเหนือจากการผลิตเบาะรถยนต์ ในไตรมาส 2 เชื่อมั่นยอดขายจะพุ่ง เพราะบริษัทคู่สัญญามียอดสั่งซื้ออย่างมีเสถียรภาพ

ขณะเดียวกันบริษัทก็ต้องลงทุนด้วยงบประมาณสูงไม่ต่ำกว่าหลัก 100 ล้านบาท เพื่อเพิ่มยอดการผลิตและส่งออก โดยจะลงทุนเครื่องจักร เทคโนโลยี ปีนี้จะเปิดโรงงานแห่งที่ 10 สามารถรองรับกำลังการผลิตเพิ่มปี 2561 บวกกับรับลูกค้ารายใหม่

เมื่อขยายการลงทุนเพิ่มกำลังการผลิต ถึงแม้จะนำเข้าเครื่องจักรมากขึ้น แต่อุตสาหกรรมเครื่องหนังยังจำเป็นจะต้องพึ่ง “คน” ดังนั้นจึงต้องมี “การจ้างงาน” เพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ จึงแนะนำคนที่จะเข้ามาสู่อาชีพรับจ้างการฟอกหนังต้องอดทน และองค์ความรู้ทางด้านวิศวะเคมี การจ้างงานจึงไม่ได้เฉพาะเจาะจงคุณสมบัติอย่างใดอย่างหนึ่ง แต่มุ่งเน้นให้คนที่ชอบอาชีพนี้เข้ามาเรียนรู้ ศึกษา อย่างอดทน เพราะอนาคตของอุตสาหกรรมสามารถแตกไลน์ไปได้อีกจำนวนมาก เพื่อการส่งออก นำรายได้เข้าประเทศ สร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจไทยให้เข้มแข็งได้อีกหนึ่งอุตสาหกรรม

ฟังข่าวช่วงแรก

ข่าวที่ 1 “คิงเพาเวอร์กอดคอททท.บุกโกยตลาดจีน”

นายอภิเชษฐ์ ศรีวัฒนประภา ผู้ช่วยประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ เปิดเผยว่า ปี 2560  คิง เพาเวอร์ วางกลยุทธ์เจาะฐานกำลังซื้อตลาดจีนกลุ่มผู้ทรงพลังทางการซื้อในวัยระหว่าง 18-40 ปี นิยมซื้อผ่านทางออนไลน์ และมีพฤติกรรมเป็นกลุ่มที่หันมาเลือกเดินทางอิสระ (F.I.T) ไม่จำเป็นจะต้องซื้อการเดินทางผ่านบริษัทตัวแทนนำเที่ยวมาเป็นหมู่คณะ (G.I.T.) เทรนด์ของผู้บริโภคจึงเป็นแรงผลักดันทำให้ คิง เพาเวอร์ ต้องเปลี่ยนกลยุทธ์ตามด้วย



ตามสถิติของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) มีชาวจีนเข้ามาเที่ยวปีละประมาณ 8-9 ล้านคน จะต้องแวะมาช้อปปิ้งในร้านค้าคิง เพาเวอร์ สาขาต่าง ๆ ตามสนามบินนานาชาติ ในเมือง ประมาณ 6-7 ล้านคน

คิง เพาเวอร์ จึงผนึกความร่วมมือกับ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) รุกตลาดด้วย 2 โครงการใหญ่  ล่าสุด จะทำโครงการ “people Choice Awards Thailand Voted by Chiness Tourist 2017” โดยเล็งเห็นถึงความสำคัญของตลาดจีนซึ่งปี 2560 ยังคงเดินทางเข้ามาไทยเป็นอันดับ 1 ททท.วางแผนเตรียมทำแอพลิเคชั่น Wechat ซึ่งเป็นเบอร์หนึ่งในจีน มีผู้ใช้บริการวันละ 530-570 ล้านคน ตั้งเป้าหมายให้ลูกค้าจีน “โหวตบริการ” ต่าง ๆ ทั้งแหล่งช้อปปิ้ง โรงแรม ร้านอาหาร ด้วยประสบการณ์ที่ได้รับสิทธิประโยชน์ แนวโน้มจะเริ่มโครงการได้ช่วงมิถุนายนปีนี้ กำหนดจัดงานเปิดตัวแนะนำโครงการ ณ มลฑลเซี่ยงไฮ้ สาธารณรัฐประชาชน และในประเทศไทย ช่วงเวลาใกล้เคียงกัน

จึงนับเป็นโครงการดีๆ ที่จะทำร่วมกันผ่านช่องทางแอพลิเคชั่นทรงพลังมากสุดของจีน เพื่อจะได้ผนึกทีมกันสื่อสารข้อมูล กิจกรรมการท่องเที่ยว ของประเทศไทยเข้าถึงผู้ใช้บริการกลุ่มเป้าหมาย

หลังจากเมื่อต้นเดือนพฤษภาคม 2560 คิง เพาเวอร์ จับมือ ททท.ทำโครงการ โครงการ“Women’s Jouney Thailand 2017” ตลอดเดือนสิงหาคม 2560 เพื่อชวนนักท่องเที่ยวกลุ่มผู้หญิงจากทั่วโลกเข้ามาท่องเที่ยวในไทย ในส่วนของคิง เพาเวอร์ ร่วมสนับสนุนหลักกิจกรรมการช้อปปิ้ง เพื่อให้เกิดความประทับใจกับนานาชาติ

ตลอดเดือนสิงหาคมนี้คิง เพาเวอร์ พร้อมจะมอบสิทธิประโยชน์ให้แก่นักท่องเที่ยวของโครงการ Women’s Jouney Thailand 2017 ด้วยไฮไลต์ต้อนรับอย่างประทับใจ จุดแรก “ขาเข้าประเทศ-arrival” ซื้อสินค้าได้ไม่จำกัดจำนวนรับผลิตภัณฑ์สปา VR แบรนด์ จุดที่สอง “ขาออก-departure” เมื่อเดินทางออกนอกประเทศไทยแล้วซื้อสินค้าในดิวตี้ฟรีคิง เพาเวอร์ ครบ 3,000 บาท รับผลิตภัณฑ์สปาพรีเมี่ยมแบรนด์ได้อีกเช่นกัน


นอกจากนี้ทาง ททท.ได้จัดทำแอพลิเคชั่น womenjouneythailand เมื่อนักท่องเที่ยวเข้าไปโหลดแอพลิเคชั่นดังกล่าวมาแสดง ก็รับส่วนลดได้เลยถึง 20 %
จากคิง เพาเวอร์ ดาวน์ทาวน์ ทุกสาขา ทั้ง ชั้น 2 Pop Up Store โรงแรมคิง เพาเวอร์ พูลแมน รางน้ำ กรุงเทพฯ, ศรีวารี, พัทยา, ภูเก็ต

ข่าวที่ “ทอท.โชว์ครึ่งปีแรกกำไรพุ่ง1.1หมื่นล้าน”

ทอท.ครึ่งปี’60 ทำกำไรสุทธิอื้อซ่าเกิน 1.1 หมื่นล้านบาท ปั๊มยอดผู้โดยสารเฉียด 66 ล้านคน

นางพูลศิริ วิโรจนาภา รองกรรมการผุ้อำนวยการใหญ่ (สายงานบัญชีและการเงิน) บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) “ทอท. เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานระหว่าง มกราคม-มีนาคม 2560 หรือไตรมาส 2 ของปีงบประมาณ ทอท.สามารถทำกำไรสุทธิได้ทั้งสิ้น 6,470 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 17.78 % สูงขึ้นจากช่วงเดียวกันกับปีก่อนทำไว้ 5,493 ล้านบาท

ทำให้ภาพรวมการดำเนินงานต่อเนื่อง 6 เดือนแรกปีงบประมาณ 2560 ระหว่าง ตุลาคม 2559-มีนาคม 2560 มีกำไรสุทธิรวมทั้งสิ้น 11,496 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14.25 %

ทั้งนี้เป็นผลมาจากครึ่งปีแรก ท่าอากาศยานที่อยู่ในความดูแลของ ทอท.ทั้ง 6 แห่ง มีสายการบินใช้บริการด้วยปริมาณจราจรทางอากาศ “เที่ยวบินรวม” 415,688 เที่ยว เพิ่มขึ้น 6.79 % แบ่งเป็น “เที่ยวบินระหว่างประเทศ” 205,724 เที่ยว “เที่ยวบินในประเทศ” 209,964 เที่ยว ขณะที่ “จำนวนผู้โดยสารรวมทั้งหมด” 65.59 ล้านคน เพิ่มขึ้น 7.09 %

ตลอดปี 2560 ทอท.ยังมีปัจจัยบวกเป็นแรงกระตุ้นรายได้จากการบริการ เนื่องจากได้ทยอยเปิดอาคารผู้โดยสาร ท่าอากาศยานดอนเมือง หลังที่ 2 มาตั้งแต่วันที่ 8 มีนาคม 2559  เปิดอาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศท่าอากาศยานภูเก็ต เมื่อกันยายน 2559 และกำลังทยอยขยายอาคารรองรับตามแผน 10 ปีหน้า

ข่าวที่ 3 “8-11มิ.ย.จัดอะเมซิ่งไทยเทสต์บูมทัวร์อาหาร”

นายนพดล ภาคพรต รองผู้ว่าการด้านสินค้าและธุรกิจท่องเที่ยว การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า เตรียมจัด “งานมหกรรมอาหารไทย Amazing Thai Taste Festival 2017” ระหว่างวันที่ 8-11 มิถุนายน 2560 ณ ลานกิจกรรม สถานีแอร์พอร์ตลิงค์ มักกะสัน พร้อมเดินหน้า สานพลังประชารัฐ ภายในงานตลอด 4 วัน นักท่องเที่ยวและผู้บริโภคจะได้พบความอร่อยครบทุกรสในรูปแบบ Street food to Royal Cuisine พร้อมด้วยนวัตกรรมอาหาร (Innovation Food) และการท่องเที่ยวเชิงอาหาร (Foodie Tour)  ร้านอาหารชั้นนำของเหล่าเซเล็บบริตี้ ร้านเครือข่ายประชารัฐ และกิจกรรมบันเทิงต่างๆ ที่ต้องห้ามพลาด

จากสถิติตั้งแต่ปี พ.ศ. 2558 การท่องเที่ยวสามารถสร้างรายได้ให้กับประเทศถึง 2.2 ล้านล้านบาท  ในจำนวนนี้มาจากนักท่องเที่ยวต่างชาติกว่า 1.46 ล้านล้านบาท และจากการสำรวจนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้ามาไทยปีละ  29.8 ล้านคน  พำนักเฉลี่ยทริปละ 9.05 วัน นั้นนักท่องเที่ยวให้ความสำคัญกับกิจกรรมความนิยมสูงสุดคือ การรับประทานอาหารไทย ค่าใช้จ่ายด้านอาหารของนักท่องเที่ยวต่างชาติอยู่ที่  3,762 บาท /คน /ทริป

โครงการส่งเสริม อาหาร และผลไม้ไทย ให้เป็นสินค้า Amazing นั้น ททท. คาดจะสามารถเพิ่มยอดค่าใช้จ่ายการรับประทานอาหารต่อทริปได้อีกไม่ต่ำกว่า 10%  สร้างรายได้ให้ประเทศเพิ่มขึ้นราว  12,000 ล้านบาท

ดูรายละเอียดงานได้ที่  www.amazingthaitaste.com

ข่าวที่ 4 “บางจากขอ500แต้มแลกประกันสุขใจ”

บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ให้สิทธิพิเศษแก่ผู้ถือบัตรสมาชิกบางจาก ระหว่างวันนี้-31 ธันวาคม 2560 นำแต้มในบัตร 500 คะแนน แลกสิทธิประโยชน์ “ประกันอุบัติเหตุสุขใจ” ถูกออกแบบมาเพื่อสมาชิกบางจากโดยเฉพาะ โดยคุ้มครองกรณีเสียชีวิตจากอุบัติเหตุ การถูกทำร้ายร่างกาย การขับขี่ หรือโดยสารรถจักรยานยนต์ การจลาจล นัดหยุดงาน รวมถึงค่าปลงศพหรือใช้จ่ายในการจัดงานศพ กรณีเสียชีวิตจากการบาดเจ็บ

รายละเอียดความคุ้มครอง อายุรับประกัน 15-70 ปี ระยะเวลาเอาประกัน 1 ปี โดยนับตามรอบวันเริ่มคุ้มครอง รอบวันที่ 1 และ 16 ของเดือน (หลังจากตัวแทนประกันได้รับข้อมูลสมาชิกครบถ้วน”

ขั้นตอนการแลกคะแนน
-ลูกค้ากรอกข้อมูลการแลกคะแนนให้ครบถ้วนทาง hpp://goo.gl/1wU90T
-ตัวแทนบริษัท เอ็ม เอส ไอ จี ประกันภัย ติดต่อสมาชิกเพื่อยืนยันข้อมูลส่วนตัว
- สมาชิกรอรับ SMS ยืนยันความคุ้มครอง
- ทางบริษัท เอ็ม เอส ไอ จี ประกันภัย จัดส่งบัตรประกันอุบัติเหตุให้สมาชิกตามที่อยู่

สอบถามที่ โทร.02-157-8899 ช่วงวันจันทร์-ศุกร์ 08.30-17.30 น. หรือดูรายละเอียดที่เว็บไซต์ www.bangchak.co.th


ข่าวที่ 5“เที่ยววันธรรมดาประหยัดทั่วไทยถึง30ก.ย.”

ภายใน 4 เดือนครึ่งปีนี้ ตั้งแต่วันนี้-30 กันยายน 2560 ต้องไม่พลาดเลือกไปเดินทาง “ท่องเที่ยววันธรรมดา” จันทร์-พฤหัสบดี กับสิทธิมากมายจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ระดมเครือข่ายผู้ประกอบการนำห้องพักราคาประหยัดสุด ๆ มาให้เลือกใช้บริการดังนี้
 
 สมาคมโรงแรมไทย นำสมาชิกโรงแรมทุกระดับเข้าร่วมโครงการลดราคาที่พักในวันธรรมดา มอบข้อเสนอ และ บริการ สุดพิเศษ จากผู้ประกอบการโรงแรมมากมายหลายพันแห่ง

จองที่พักทางออนไลน์ ทางเว็บไซต์ www.agoda.com  นำสมาชิกโรงแรมที่เข้ามาขายผ่านทางออนไลน์ของเว็บไซต์ ช่วงวันนี้– 30 กันยายน 2560 พร้อมใจกันมอบส่วนลดพิเศษ  “ห้องพักวันธรรมดา” ถึง 60% เพื่อพักโรงแรมทั่วประเทศไทย ซึ่งมีให้เลือกมากกว่า 1,000 โรงแรม และส่วนลดห้องอาหารและสปาในโรงแรมที่เข้าร่วมโครงการ “ไม่ต่ำกว่า15 %” พร้อมสิทธิพิเศษมากมาย

โรงแรมเครือเซเรเนต้า – ในเครือกลุ่มบริษัท หนุ่มสาว ทัวร์ จำกัด มอบส่วนลดห้องพักสูงสุด 60 % ระหว่างวันนี้ – 30 กันยายน 2560
สามารข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.weekdayspecialthailand.com



ช่วงที่ 2 เมืองไทยมีหลากหลายสถานที่น่าเที่ยว ช่วงนี้แนะนำไปใกล้ ๆ กรุงเทพฯ ที่ “พระราชวังบางประอินและวัดนิเวศธรรมประวัติ” ต่อด้วยกินอย่างไรเพื่อลดความเสี่ยงโรค และข่าวสุดสัปดาห์ทั้งเทศกาลอาหารแนะนำตามโรงแรม เปิดแผนโบอิ้งผู้ผลิตเครื่องบินรายใหญ่ของโลก และ 9 หมู่บ้านท่องเที่ยวเทรนด์ใหม่

@พระราชวังบางปะอิน และวัดนิเวศธรรมฯ

พระราชวังบางปะอิน และวัดนิเวศธรรมประวัติ ราชวรวิหาร ตั้งอยู่ ม.12 ต.บ้านเลน อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา  ท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งปีเปิดให้เข้าชม : ทุกวัน 08.00-17.00 น. โดยมีบริการกระเช้าข้ามฟาก 05.30-21.00 น.

" พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงเห็นความเงียบสงบของบางปะอิน จึงโปรดเกล้าฯ ให้สร้างพระตำหนัก และพระที่นั่งสำหรับ แปรพระราชฐานและประทับรับรอง พระราชอาคันตุกะ "

ใครที่ชื่นชอบเสน่ห์ของสถาปัตยกรรมยุโรป เมื่อได้มาท่องเที่ยวอยุธยา คงต้องตรงมาที่วัดนิเวศธรรมประวัติราชวรวิหารเป็นที่แรก อารามหลวงบนเกาะกลางแม่น้ำแห่งนี้ เป็นวัดที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้น โดยศึกษาแบบจากโบสถ์ฝรั่งสไตล์โกธิค สังเกต ได้จากปลายยอดแหลมของอุโบสถ ภายในตกแต่งด้วยกระจกสีสวยงามนำเข้ามาจากอิตาลี กลายเป็นความงดงาม ที่แตกต่างไม่แพ้วัดไทยดั้งเดิม

ข้ามมาอีกฝั่งของแม่น้ำจะเข้าสู่เขตพระราชวังบางปะอิน วังโบราณที่สร้างในยุคสมัยของสมเด็จพระเจ้าปราสาททองแบ่งออกเป็นเขตพระราชฐานชั้นนอก ซึ่งใช้สำหรับการประกอบราชพิธีต่างๆ และเขตพระราชฐานชั้นใน เชื่อมจาก พระที่นั่งวโรภาษพิมานกับประตูเทวราชครรไล

นอกจากศิลปะไทยที่ผสมผสานกับศิลปะตะวันตกทั่วบริเวณแล้ว ยังมีพระที่นั่งเวหาศน์จำรูญ พระที่นั่งสุดท้ายที่สร้าง ในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่นี่สร้างขึ้นโดยสมาคมพ่อค้าใหญ่ชาวจีน สร้างด้วยสถาปัตยกรรมแบบจีนดั้งเดิมที่งดงามอลังการไม่แพ้ พระที่นั่งอื่นๆ

เส้นทางท่องเที่ยว จ.พระนครศรีอยุธยา

วันแรก “ช่วงเช้า” พระราชวังบางปะอิน และวัดนิเวศธรรมประวัติ ราชวรวิหาร ชมความงดงามของวังฤดูร้อน และสักการะพระประธานที่สร้างขึ้นในสมัย ร.5 วัดพนัญเชิง สักการะหลวงพ่อโต พระคู่บ้านคู่เมืองมาแต่โบราณ “ช่วงบ่าย” ชมจิตรกรรมฝาผนังวัดสุวรรณดารามราชวรวิหารพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติเจ้าสามพระยาชมความงดงามของโบราณวัตถุ

วันที่สอง  “ช่วงเช้า” ตันแลนด์ ดินแดนแห่งความสมดุลเปิดโรงงานอุตสาหกรรมของการผลิตชาเขียว หอนิทรรศการประวัติศาสตร์มรดกโลก เรื่องราวของอยุธยาตั้งแต่อดีต จนปัจจุบัน “ช่วงบ่าย” เที่ยวชมวัดหน้าพระเมรุ วัดราชบูรณะ นมัสการพระมงคลบพิตร พระราชวังโบราณ และวัดพระศรีสรรเพชญ์

สถานที่เที่ยวห้ามพลาด  ชมหอประดิษฐาน พระคันธารราษฎร์ กราบไหว้พระพุทธรูปปางขอฝน หอวิฑูรทัศนา หอส่องกล้องดูดาวและชมวิวทิวทัศน์โดยรอบ
พระที่นั่งอุทยานภูมิเสถียร พระที่นั่งเรือนไม้สองชั้นสไตล์ยุโรป

กิจกรรมห้ามพลาด  ขึ้นกระเช้าข้ามน้ำมาสู่วัด จากนั้นร่วมบริจาคเงินค่ากระเช้าตามศรัทธา ออกกำลังกายเบาๆ ด้วยการเดินขึ้นบันไดเวียนความสูง 30 เมตรไปจุดชมวิวที่หอวิฑูรทัศนา

สนใจท่องเที่ยว พระราชวังบางปะอินและวัดนิเวศธรรมประวัติ โทร. 0-3526-2139  และพระราชวังบางปะอิน โทร. 0-3526-1548 , 0-3526-1044

การเดินทาง วิ่งออกจากใจกลางเมืองไปทางหลวงหมายเลข 3477 มุ่งหน้าสู่ ต.บ้านเลนขับไปตามทางประมาณ 15 กม. จะถึงสถานีรถไฟบางปะอิน จุดหมายอยู่ทางขวามือ


@เปลี่ยนพฤติกรรมการกินลดเสี่ยงโรค
หลายคนเชื่อว่าเครื่องดื่มน้ำตาลน้อยหรือปราศจากน้ำตาลจะไม่เกิดผลเสียต่อร่างกาย นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยบอสตัน ในสหรัฐอเมริกา เผยว่า การดื่มเครื่องดื่มเหล่านี้เป็นประจำ นอกจากจะไม่ช่วยให้น้ำหนักลดลงยังทำให้น้ำหนักเพิ่มขึ้น เสี่ยงต่อการเป็นโรคลมปัจจุบัน โรคสมองเสื่อม
วิธีแก้ คือ เปลี่ยนมาลองจิบน้ำเปล่าอัดแก๊ส, น้ำมะนาวแท้ๆ หรือกินผลส้มจะดีกว่าสุขภาพของเรา
          ส่วนคนที่ “ชอบกินอาหารเสริมวิตามินพร้อมอาหาร” นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยอีสต์ แองเกลียเผยว่า อาหารร้อนๆ เช่น ข้าวต้ม จะยับยั้งการดูดซึมธาตุเหล็กในวิตามินรวม ในชาและกาแฟจะมีสารโพลีฟีนอลที่อาจขวางการดูดซับแร่ธาตุสังกะสี แมกนีเซียม แคลเซียม อาหารเสริมส่วนใหญ่ควรกินทันทีหลังอาหาร พร้อมดื่มน้ำเท่านั้น ไม่ควรดื่มชา กาแฟภายใน 2 ชั่วโมงหลังจากกินอาหารเสริมที่มีธาตุเหล็ก
สำหรับ “การใช้สมุนไพร” ก็เช่นกัน สมาคมยาสมุนไพรแห่งอังกฤษออกมาชี้แจงว่ายาทุกชนิดมีความเสี่ยง ยาสมุนไพรบางชนิดก็มีคุณภาพไม่เท่ากัน มีผลิตภัณฑ์ที่ไม่ได้รับอนุญาตจำนวนมากเพราะมีคุณภาพต่ำ ปนเปื้อนเป็นอันตราย ผู้บริโภคต้องตรวจสอบใบรับรองจากหน่วยงานด้านสาธารณสุขอย่างรอบคอบ
          นอกจากนี้การกินอาการที่มีกากใยก็เป็นสิ่งที่ต้องคำนึงถึง แม้หลายข้อมูลจะบอกว่าดี แต่อาจจะไม่ดีต่อผู้ที่มีอาการลำไส้แปรปรวน การกินอาหารมีกากใยมากไปอาจทำให้ท้องอืด ท้องเสีย และสุดท้ายคือการนอน จริงอยู่ที่ร่างกายจะซ่อมแซมตัวเองช่วงกำลังหลับ แต่หากใช้เวลานอนคืนละ 10 ชม.ขึ้นไปอาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพมีความเสี่ยงต่อโรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง โรคเบาหวาน ควรนอน 7 ชม.ต่อคืนจะดีต่อสุขภาพ.
 
ปิดท้ายด้วยข่าวฮ็อตสุดสัปดาห์

ข่าวแรก “ชิมเมนูเด็ด3เทศกาล3โรงแรม”

1.โรงแรม ดิ โอกุระ เพรสทีจ กรุงเทพฯ

โรงแรม ดิ โอกุระ เพรสทีจ กรุงเทพฯ  เปิด”ห้องอาหาร เอเลเมนท์” จัดเทศกาลหน่อไม้ฝรั่ง วันที่ 1 - 30 มิถุนายน 2560 อาหารจานเดี่ยว ราคาเริ่มต้นที่จานละ 690++ บาท หรืออาหารชุด 5 รายการ ราคาชุดละ 4,500++ บาท ไม่รวมค่าบริการ 10% และภาษีมูลค่าเพิ่มอีก 7%

โดย เชฟ แอนโทนี ชอลท์ไมเยอร์ หัวหน้าพ่อครัวใหญ่ ได้คัดสรรหน่อไม้ฝรั่ง หลากสีและสายพันธุ์ อาทิ หน่อไม้ฝรั่งขาว หน่อไม้ฝรั่งเขียว หน่อไม้ฝรั่งม่วง และหน่อไม้ฝรั่งป่าที่ขึ้นตามธรรมชาติ ส่งตรงจากทั้งประเทศฝรั่งเศสและญี่ปุ่น มารังสรรค์เป็นเมนูอาหารฝรั่งเศสจานพิเศษที่มีกลิ่นอายญี่ปุ่นมีคุณภาพและรสชาติดีที่สุดในรอบปี

เมนูแนะนำ อาทิ สลัดหน่อไม้ฝรั่งป่า เนื้อปูคลุกมายองเนสสไตล์ฝรั่งเศส เพิ่มรสชาติด้วยสาหร่ายญี่ปุ่น ถั่วแระญี่ปุ่น และมะเขือเทศ  หน่อไม้ฝรั่งป่า  หน่อไม้ฝรั่งขาว หน่อไม้ฝรั่งม่วง และหน่อไม้ฝรั่งเขียวนึ่ง เสิร์ฟพร้อมสาหร่ายคอมบุ  ถั่วเหลืองอบ  และซอสสมุนไพรบด ซุปครีมหน่อไม้ฝรั่งขาว และหอยนางรมตุ๋น ตกแต่งด้วยผักชีญี่ปุ่น และหัวไชเท้ารมควัน ปลาเทราท์นึ่ง รับประทานกับซอสครีมหน่อไม้ฝรั่งขาว  พริกซันโชญี่ปุ่นและหน่อไม้ฝรั่งป่า   ซี่โครงแกะสายพันธุ์สเปน เนื้อแกะจะมีความหอมของถั่วเป็นพิเศษ เพราะแกะสายพันธุ์นี้ถูกเลี้ยงด้วยถั่วเป็นอาหารหลัก เสิร์ฟกับหน่อไม้ฝรั่งเขียว แก่นตะวัน และเม็ดแปะก๊วย

ห้องอาหาร เอเลเมนท์ เปิดให้บริการวัน อังคาร ถึงวันเสาร์ เฉพาะมื้อค่ำ ตั้งแต่เวลา 18.00 น. ถึง 22.30 น.  ติดต่อ 02 687 9000 หรือ elements@okurabangkok.com

2.โรงแรมอนันตรา สยาม กรุงเทพ

โรงแรมอนันตรา สยาม กรุงเทพ เปิด “ห้องอาหารสไปซ์ มาร์เก็ต” ชั้น 1
เสิร์ฟส้มตำไฮโซ ณ ราชดำริ ที่สุดของความอร่อยแบบต้นตำรับไทย ระหว่างวันที่ 1 - 30 มิถุนายน 2560  ระหว่างเวลา 11.30 – 14.30 น.ในราคาเริ่มต้นเพียง 280 บาท++ (ราคาไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่มและค่าบริการ)

  “เชฟวรินธร สัมฤทธิ์ผล” แม่ครัวอาหารไทย ได้รังสรรค์หลากหลายเมนูส้มตำ พร้อมกับรสชาติที่จัดจ้านถึงเครื่องแบบไทย มาให้คุณลิ้มลองตลอดทั้งเดือน

โดยมีเมนูแนะนำ อาทิ • ตำถาด ส้มตำทรงเครื่องจานใหญ่ เสิร์ฟกับหอยนางรมนิวซีแลนด์ กุ้งแม่น้ำเกรดพรีเมียม ขนมจีน หมูยอ และ แคบหมู พร้อมให้คุณได้แชร์ความอร่อยกับเพื่อนและครอบครัว

-ตำข้าวโพดกับกุ้งย่าง ตำรสอร่อย โดดเด่นด้วยรสชาติหวานกรอบของข้าวโพดสีเหลืองนวล เสิร์ฟพร้อมกับกุ้งแม่น้ำย่างเกรดพรีเมียม  

-ตำมะม่วงกุ้งหวานกับปลาดุกฟู อีกหนึ่งเมนูเด็ด ชูรสเปรี้ยวด้วยมะม่วง เสิร์ฟพร้อมกับกุ้งหวานและปลาดุกฟู
โทร. 0 2126 8866 ต่อ สไปซ์ มาร์เก็ต หรืออีเมล์: spicemarket.asia@anantara.com

3.โรงแรมดับเบิ้ลทรี บาย ฮิลตัน สุขุมวิท กรุงเทพฯ

เชิญชวนลูกค้าทุกคนมาชิมบุฟเฟต์อาหารค่ำใหม่ล่าสุดทุกวันเสาร์  ‘ฮิตเดอะโรสต์’  ที่ห้องอาหารดีไลท์ ระหว่าง 18.00 – 23.00 น. ในราคาสุทธิเพียงคนละ 950 บาท รวมน้ำเปล่าและน้ำอัดลม ฟรีเด็กอายุต่ำกว่า 6 ปี จ่ายครึ่งราคาสหรับเด็กอายุ 6 – 12 ปี โดยดมีนตรีสดจากดูโอแบนด์เคล้าบรรยากาศคันทรี

โดยมีเมนูอบ-ย่างให้ลิ้มลองมากมาย เช่น เนื้อออสเตรเลีย หมูย่างทั้งตัวจากจังหวัดตรัง และเป็ดย่าง หมูแฮม แซลมอนทั้งตัวย่าง ขาแกะ รวมไปถึงอาหารเคียงมากมาย

พร้อมกับเมนูของกินเล่นจากเอเชียและเมดิเตอเรเนียน เช่น ห่อหมกปลาอบในไม้ไผ่ กุ้งพันอ้อย ไส้กรอกอิตาลีอบด้วยมอสซาเรลลาชีสใบธามและหัวหอม ปลากะพงแดงอบ ไก่อบซอสเพสโต ก๋วยเตี๋ยวหมูย่างและขนมจีบกุ้ง เมนูอาหารจานหลักอื่น ๆ เช่น หมูย่างสมุนไพร ขาแกะย่างกระเทียมพริกไทยและอาหารทะเล เพลิดเพลินอย่างต่อเนื่องได้แก่ หอยแมลงภู่นิวซีแลนด์ หอยนางรมจากฝรั่งเศส หอยหวาน ปลาแซลมอน โคลด์คัทส์ ชีส ขนมหวาน ไอศกรีมและผลไม้ตามฤดูกาล

สอบถามได้ที่ 02 649 6666 หรืออีเมล bkkss.info@hilton.com

ข่าวที่สอง “เปิดแข่งทำอาหารเกาหลีชิงรางวัล1.5แสน”

 สถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐเกาหลีประจำประเทศไทย ร่วมกับกระทรวงเกษตร อาหารและกิจการชนบทแห่งประเทศเกาหลี องค์การโคเรีย อะโกร-เทรด เซ็นเตอร์ เตรียมจัดกิจกรรม “2017 Global Taste of Korea Cooking Contest” Where K-Food Comes From เชิญชวนลงแข่งขันการทำอาหารเกาหลี เมนู ไก่ตุ๋นรสเผ็ด (Dakbokeumtang) ชิงรางวัลมูลค่ารวมกว่า 150,000 บาท แพคเกจตั๋วเครื่องบิน ที่พัก ทริปท่องเที่ยวไปเยี่ยมชมสถาบันอาหาร เรียนรู้เคล็ดลับการทำอาหารเกาหลีต้นตำรับถึงแดนกิมจ

สมัครได้ตั้งแต่วันนี้ – 30 พฤษภาคม 2560 ด้วยการอัพโหลดคลิปวิดีโอแนะนำตัว ผ่านทาง http://www.thebridgesmagazine.com/global_taste  สอบถามที่ โทร 02 – 539 7387 ต่อ 44 – 45 หรือ http://www.facebook.com/LoveThaiKor

ประกาศผล 31 พฤษภาคม 2560 ตามกำหนดจะแข่งขันรอบตัดสินวันที่ 7 มิถุนายน 2560 ณ สถาบันศิลปะการทำอาหาร เดอะ วี สคูล

ข่าวที่สาม “กสอ.ทุ่ม40ล้านนำร่อง9ชุมชนท่องเที่ยวสร้างสรรค์”

นายพรเทพ การศัพท์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) เปิดเผยว่า การท่องเที่ยวเป็นธุรกิจที่สร้างรายได้มูลค่ามหาศาลให้แก่ไทยซึ่งเป็นประเทศเกษตรกรรม กสอ. จึงเล็งเห็นความสำคัญดังกล่าวนำมากำหนดแนวทางการพัฒนาด้วยการจัดตั้งโครงการพัฒนาหมู่บ้านอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ (Creative Industry Village : CIV) พุ่งเป้าส่งเสริมการสร้างผลิตภัณฑ์และบริการด้วยการใช้ทั้งองค์ความรู้ เทคโนโลยี และนวัตกรรมสมัยใหม่ การออกแบบ ด้วยความคิดสร้างสรรค์ มาเชื่อมโยงกับทุนทางวัฒนธรรมและภูมิปัญญา เข้ากับแหล่งท่องเที่ยวชุมชนของจังหวัด ช่วยยกระดับวิสาหกิจชุมชนในท้องถิ่นยกระดับขึ้นไปสู่ SMEs เป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ พัฒนามาตรฐานต่าง ๆ การรวมกลุ่มหรือคลัสเตอร์

ปี 2560  กสอ. จะดำเนินการพัฒนาหมู่บ้านท่องเที่ยว CIV นำร่องรวม 9 หมู่บ้าน ใน 9 จังหวัดที่มีเสน่ห์แตกต่างกันไปตามอัตลักษณ์ของชุมชน ประกอบด้วย

1.ชุมชนออนใต้ จ.เชียงใหม่ ชุมชนที่สืบเชื้อสายไทลื้อแคว้นสิบสองปันนา มีชื่อเสียงในด้านพระสายวัดป่า รวมทั้งผลิตภัณฑ์หัตถกรรมพื้นบ้าน อาทิ ไม้กวาดทางมะพร้าว เครื่องสังคโลก

 2.ชุมชนน้ำเกี๋ยน จ.น่าน ชุมชนวิถีสมุนไพรที่ลดการใช้สารเคมี สามารถคิดค้นผลิตภัณฑ์ได้กว่า 30 รายการ สร้างชื่อ สู่สินค้าสุขภาพในร้านสปาชั้นนำระดับประเทศ

 3.ชุมชนบ้านนาต้นจั่น จ.สุโขทัย แหล่งท่องเที่ยวชุมชนใน อ.ศรีสัชนาลัย ที่มีจุดชมพระอาทิตย์และทะเลหมอกอันงดงาม มีสินค้าโอทอปขึ้นชื่อ อาทิ ผลิตภัณฑ์จากผ้าหมักโคลน เครื่องถมเงิน ข้าวเปิ๊ป

4.ชุมชนบ้านเชียง จ.อุดรธานี  พื้นที่มรดกโลกทางอารยธรรม และเป็นแหล่งผลิตเครื่องปั้นดินเผาและผ้าทอมือ

5.ชุมชนเกาะเกร็ด จ.นนทบุรี สถานที่ที่รู้จักกันดีในฐานะแหล่งชุมชน คนมอญ และมีชื่อเสียงในเรื่องของเครื่องปั้นดินเผา และขนมหวานอันเลื่องชื่อ

6.ชุมชนประแส จ.ระยอง แหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมโบราณของเมืองท่าสำคัญฝั่งทะเลตะวันออก  และเป็นแหล่งผลิตชาใบขลู่ รวมทั้งผลิตภัณฑ์จากการประมงที่หลากหลาย

7.ชุมชนบ้านศาลาดิน จ.นครปฐม จุดท่องเที่ยวเชิงเกษตรริมคลองมหาสวัสดิ์ ที่มีความโดดเด่นด้วยสวนพืชผลทางการเกษตรมากมายหลากหลายชนิด และมีสินค้าแปรรูปจากการเกษตรที่โดดเด่น อาทิ ผลิตภัณฑ์จากฟักข้าว ข้าวตังจากข้าวซ้อมมือ


 8.ชุมชนเกาะยอ จ.สงขลา เกาะที่มีความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรธรรมชาติทั้งบนบกและในทะเลสาบ มีสินค้าอันโดดเด่น ได้แก่ ผ้าเกาะยอ และหนังปลากระพงทอดกรอบ

 9.ชุมชนบ้านนาตีน จ.กระบี่ ชุมชนมุสลิมแห่งอ่าวนาง แหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติที่มีชื่อเสียงระดับโลก สามารถผลิตสินค้าจนเป็นที่รู้จัก โดยเฉพาะผ้าบาติกเรือหัวโทงจำลอง กระดาษใยสับปะรด

@โบอิ้งลั่นผลิตฝูงบินอนาคตชิงตลาดโลว์คอสต์

นายแรนดี้ ทินเซ็ธ รองประธานฝ่ายการตลาด โบอิ้ง คอมเมอร์เชียล แอร์เพลน กล่าวถึงแผนการตลาดเชิงรุกในการผลิตเครื่องบินพาณิชย์ ว่า พุ่งเป้าหมายการผลิตเครื่องบินลำใหม่ให้สอดคล้องกับการขยายตัวของโลว์คอสต์ แอร์ไลน์ส และสายการบินนานาชาติที่ต้องการเปลี่ยนเครื่องใหม่แทนฝูงบินเก่าจะมีสูงถึง 40% จีนเป็นลูกค้ารายใหญ่ของเอเชียมีส่วนแบ่งราว 40% ส่วนเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ประมาณ 25% หลัก ๆ ได้แก่ สายการบินใน ประเทศไทย เวียดนาม มาเลเซีย อินโดนีเซีย

ขณะนี้โบอิ้ง ได้รับคำสั่งซื้อจากสายการบินทั่วโลกมูลค่าประมาณ 1.4  แสนล้านบาท (416,000 ล้านเหรียญสหรัฐ) โดยภาพรวมแล้วเอเชียสั่งจองเครื่องมากที่สุดเป็นอันดับหนึ่ง 15,130 ลำ รองลงมา คือ อเมริกาเหนือ 8,330 ลำ และยุโรป 7,570 ลำ

เครื่องบินรุ่นใหม่ยอดนิยมในตลาด แบ่งเป็น ตลาดเครื่องบินขนาดเล็ก โบอิ้ง 737 MAX จะเป็นรุ่นล่าสุดที่มีความโดดเด่นเรื่องความประหยัดและคล่องตัว ส่วนรุ่นที่ทดลองเมื่อเร็ว ๆ นี้คือโบอิ้ง 737 MAX 9 คาดปี 2561 ส่งมอบลำแรกได้ จากนั้นปี 2562 โบอิ้ง 737 MAX7 และโบอิ้ง 737 MAX 200 ขณะที่ ปลายปีนี้และปี 2563 จะส่งมอบ โบอิ้ง 737 MAX 10 มีขนาดเท่ากับคู่แข่งแอร์บัส A320 บินได้ไกลกว่า โบอิ้ง 737 เพราะมีน้ำหนักเบาและช่วยประหยัดต้นทุนของสายการบินได้ถึง 5%

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ททท.นครราชสีมาพลิกโฉมตลาดท่องเที่ยวปี67

  รุ่งทิพย์ บุกขุนทด  ผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานนครราชสีมา ททท.นครสีมานำธุรกิจพลิกโฉมตลาดปี 67 เที่ยวโคราช-ชัยภูมิ ปลุกกระแส 3 วัยเที่ยวมุมใหม่เมืองย่าโม 3 มรดกโลก 10 อำเภอ จัดชุดใหญ่ Soft Power365 วัน 2 จว. 5 จุดขาย-สงกรานต์สนุกแน่ สมัคร!!สมาชิกคิงเพาเวอร์มี.ค.รับกิฟท์โวเชอร์/กะรัต/ส่วนลด THE POWER BAND# 4คิงเพาเวอร์แจก2ล้านนักดนตรีอาชีพ พลูแมนคิงเพาเวอร์ชูแพ็คเกจ Wedding แจก12รายการ2-3มี.ค. ททท.หนุน PELUPO ปักหมุดพัทยาบูมเที่ยวเทศกาลดนตรีโลก บางจากนำโมเดลสมดุลเพื่อโลกยั่งยืน ESG ส่งต่อผู้อบรมกปร. สุขทันทีนั่งรถม้าเที่ยวลำปาง-วัดพระพุทธบาทผาหนามลำพูน นายกฯจุดฝันไทยฮับบินโลกดันสุวรรณภูมิติดท็อป 20 รุก 5 ส่วน 800 บูธร่วมมหกรรมลดกระหน่ำเทศกาลเที่ยวไทยถึง 3 มี.ค. 67 วันเสาร์ที่  2 มีนาคม 2567 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen #gurutourza # รวยด้วยข่าวเสาร์อ

TCEBนำไมซ์ปี67โร้ดโชว์เทรดโชว์ทั่วโลก-จัดยกทีมประชุมรุมรักเมืองไทย

นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) "TCEB" บิ๊ก TCEB ปี 67 ปั๊มยอดไมซ์โตลุยโร้ดโชว์/เทรดโชว์ทั่วเอเชีย ในประเทศจัดกระหึ่ม“ยกทีมประชุมรุมรักเมืองไทย”พ.ค.นี้   3-7 มี.ค.ประชุมโดฮาลุ้นข่าวดี !! ไทยเจ้าภาพ Korat Expo2029 ดับร้อน!!ที่คิงเพาเวอร์ช้อป4มันส์ลดแจกแลกฟรี-31มี.ค.67 คิงเพาเวอร์จัดเต็ม 3.3 BEAUTY TRIO” ช้อป 3 อย่างลด 25% ททท.นำร่องจัด AIR-MAZING ไทยฮับท่องเที่ยว/การบินปี67 บางจากแจกมี.ค.67นำปั๊มเอสโซ่เดิม & บางจากมอบ2โปรดี สุขทันทีที่เที่ยวแดนใต้นราธิวาสเมืองพหุวัฒนธรรม5พิกัด AWC ปี’66ทำ5นิวไฮ-ปี67ทุ่ม1.9หมื่นล้านเปิด18โครงการ Trip.com- ททท.ไลฟ์สตรีมขายสงกรานต์โกยต่างชาติ150ล. วันอาทิตย์ที่   3 มีนาคม 2567 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen #gurutourza # รวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์ FM97  # เพ็ญรุ่งใยสามเสน # เท

เปิดใจ “พศิน ลาทูรัส”ทายาท”นารายา”พลิกโมเดลแบรนด์ไทย ถอดบทเรียนโควิดปรับมุมคิดธุรกิจรุ่งปั้นสินค้าใหม่บุกทั่วโลก

  เปิดใจ “พศิน ลาทูรัส”ทายาท”นารายา”พลิกโมเดลแบรนด์ไทย ถอดบทเรียนโควิดปรับมุมคิดธุรกิจรุ่งปั้นสินค้าใหม่บุกทั่วโลก คิงเพาเวอร์ชวนช้อปออนไลน์แบรนด์เนมลด 70%26-31 ต.ค.นี้ สนุกกับ SUPER SURPRISE ดีลพิเศษราคาดิวตี้ฟรีที่คิงเพาเวอร์ ก.ท่องเที่ยวตีปีกรับทัวร์ต่างชาติ 3 เฟส-ไฟเขียวแล้ว 10 แอร์ไลน์ ไทยจ่อดึงลองสเตย์ต่างชาติซื้ออสังหาฟื้นเศรษฐกิจหลังโควิด “ TCEB” ชูไทยแลนด์ไมซ์สตาร์ตอัพปั้นนวัตกรรมใหม่5โปรเจ็กต์ หนาวนี้เที่ยว“นครพนม”ปลอดภัยมั่นใจเส้นทางสาย SHA ริมโขง วิธีเลือกกินเพื่อหลีกเลี่ยงความอ้วนควบคู่การลดโรคมากมาย ไทยสมายล์ขายตั๋วชุดเที่ยวไทยเหมาจ่าย4ใบเริ่มที่3.8พันบาท ไทยเวียตเจ็ทขายตั๋ว5บาท/เที่ยวโปร2เส้นทางใหม่ในประเทศ กรมเจ้าท่าฟุ้งแผนทำ10ท่าเรือรองรับวันสต็อปเที่ยวเจ้าพระยา   นายพศิน ลาทูรัส ซีอีโอฝ่ายพัฒนาธุรกิจ  บริษัท นารายณ์ อินเตอร์เทรด จำกัด ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” ในวันเสาร์ที่ 24 ตุลาคม 2563 เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง