ททท.ปลื้มปี61ทำรายได้เข้าเป้า 3.046ล้านล้านบาท -คนไทยสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ใช้เงินเที่ยว 1.04ล้านล้านบาท
ททท.ยิ้มร่ารายได้เข้าเป้า 3.046ล้านล้านบาท
คนไทยทำสถิติใหม่ใช้เงินทะลุ1.04 ล้านล้าน
เรื่องและภาพโดย...เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน #gurutourza #สวท97
ททท.ยิ้มรับยอดสรุปปี’61 ท่องเที่ยวทำเงินเข้าเป้า 3.046 ล้านล้านบาท คนไทยใช้เงินเที่ยวไทยดีเกินคาดทะลุเพดาน 1.046 ล้านล้านบาท ได้อานิสงกระแส 55 เมืองรอง “ยุทธศักดิ์” สั่งเร่งโกยรายได้ตุนตั้งแต่ต้นปี’62 ม.ค.-เม.ย.รับสถานการณ์โลกจีน-สหรัฐ ไม่หวั่นค่าเงินบาทแข็ง ขณะที่ “รองนายกฯ สมคิด” สั่งรื้อแผนเสนองบบูรณาการใหม่มาพิจารณาใหม่ 3 เดือนหน้า ต้องมากกว่า 8,000 ล้านบาท เพื่อตอบโจทก์ ลดเหลื่อมล้ำ-กระจายสู่เมืองรอง-หนุนท่องเที่ยวชุมชน
ดร.ยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า สถิติปี 2561 ได้ข้อสรุปตลอดทั้งปีแล้ว ประกอบด้วย รายได้รวมมูลค่ารวม 3.046 ล้านล้านบาท (สูงกว่าปี 2560 ทำได้เพียง 2.78 ล้านล้านบาท) โดยตลาดต่างประเทศทำเงินได้ 1.997 ล้านล้านบาท จากนักท่องเที่ยวรวม 38.1 ล้านคน (ปี 2560 ทำได้ 35.4 ล้านคน) และตลาดในประเทศทำเงินได้ 1.046 ล้านล้านบาท เกินกว่าเป้าที่ตั้งไว้ราว 46,000 ล้านบาท เดิมตั้งไว้ 3 ล้านล้านบาท เป็นผลมาจากกระแสการท่องเที่ยว 55 เมืองรอง จึงมีนักท่องเที่ยวสูงถึง 167 ล้านคน-ครั้ง แต่ตัวเลขรายได้เติบโตอาจจะหลุดเป้าบ้างเล็กน้อยเติบโตเพียง 7-8 % จากเดิมตั้งไว้ 10 %
ขณะที่ไตรมาส 1 ปีงบประมาณ 2562 ระหว่างตุลาคม-ธันวาคม 2562 การท่องเที่ยวยังคงเติบโตต่อเนื่องเฉพาะธันวาคมที่ผ่านมาเพียงเดือนเดียวขยายตัวประมาณ 7-8 % ดร.ยุทธศักดิ์กล่าวว่า เมื่อเช้าวันพฤหัสบดีที่ 10 มกราคม 2562 ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ได้เข้าหารือกับ ดร.วีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เจ้าภาพจัดการประชุม ร่วมกับผู้บริหารระดับสูง โดยมีทั้งผม ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงคมนาคม กระทรวงวัฒนธรรม เข้าร่วมหารือกันถึงการเสนอของบบูรณาการปีงบประมาณ 2563 จะขอเพียง 8,000 ล้านบาท นั้น
รองนายกรัฐมนตรีให้นำไปรื้อทำแผนขอเสนองบบูรณาการมาใหม่อีกครั้งภายใน 2-3 เดือนข้างหน้า โดยทำตัวเลขให้สูงขึ้นกว่านี้ เพื่อให้สอดดล้องกับความเป็นจริงของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวซึ่งสามารถทำรายได้เข้าประเทศปีละกว่า 3 ล้านล้านบาท คิดเป็นกว่า 20 % ของจีดีพี จึงขอให้ความสำคัญ 3 เรื่องหลัก ได้แก่
1.เพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขัน ลดความเหลื่อมล้ำ ต้องดีขึ้นจากปี 2562 ต้องขยับไปอยู่อันดับที่ 33 สร้างจีดีพีของประเทศให้ได้ไม่ต่ำกว่า 20 %
2.ส่งเสริมการท่องเที่ยวชุมชน 3.สนับสนุนเข้าถึงเส้นทางคมนาคมต่าง ๆ เพื่อการท่องเที่ยวอย่างจริงจัง ทั้งทางบก ทางอากาศ การเชื่อมรถไฟชุมพร ระนอง โครงการไทยแลนด์ ริเวียร่า
สำหรับการเสนอของบบูรณาการจะใช้ในเชิงยุทธศาสตร์ แนวทางการเสนอของบประมาณบูรณาการปี 2563 เน้นโครงสร้างพื้นฐาน ความปลอดภัย สิ่งแวดล้อม เพื่อปูพรมสร้างความมั่นคงยั่งยืนของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวระยะยาวเป็นงบประมาณที่จะสามารถใช้ได้ตั้งแต่ตุลาคม 2562 เป็นต้นไป โดยขอให้ไปทบทวนใหม่ เพราะการท่องเที่ยวถือเป็นกลไกผลักดันเศรษฐกิจ สร้างความสุขอย่างเท่าเทียมแก่ท้องถิ่น โดยใช้ตัวชี้วัด 3 อย่าง
1.เพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขัน ลดความเหลื่อมล้ำ ต้องดีขึ้นจากปี 2562 ต้องขยับไปอยู่อันดับที่ 33 สร้างจีดีพีของประเทศให้ได้ไม่ต่ำกว่า 20 %
2.สัดส่วนการกระจายรายได้ระหว่าง เมืองท่องเที่ยวหลัก กับ เมืองท่องเที่ยวรอง จะต้องกระจายสัดส่วนใหม่เป็น 80-20 จากปัจจุบัน 90-10 จะพิจารณาโดยให้ความสำคัญกับการลงทุนท่องเที่ยวเมืองรองเพิ่มขึ้น
โดย ดร.สมคิด ได้มอบหมายให้รัฐมนตรีว่าการและปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กลับไปทบทวนแผนนโยบายให้ชัดเจนอีกครั้ง เพื่อให้เป็นไปตามเป้าหมายการกระจายรายได้ตามที่กล่าวมา ลดความเหลื่อมล้ำ กระจายรายได้สู่ฐานราก ผู้ว่าฯ ยุทธศักดิ์กล่าวย้ำว่า แผนกลยุทธ์การตลาดท่องเที่ยวเพื่อเพิ่มรายได้การท่องเที่ยวตั้งแต่ปี 2562 เป็นต้นไป จะพุ่งเป้าเพิ่มรายได้จากการให้นักท่องเที่ยวจ่ายเงินต่อคนต่อทริปเพิ่มขึ้น เนื่องจากขีดความสามารถทางการรองรับผู้โดยสารของสนามบินนานาชาติทุกแห่งเต็มเกือบหมดแล้ว ไม่ว่าจะเป็นสุวรรณภูมิ ซึ่งต้องเร่งสร้างรันเวย์ที่ 3 เช่นเดียกับดอนเมือง ภูเก็ต หาดใหญ่ เชียงใหม่ เชียงราย
ขณะนี้ ททท.เองต้องมองข้ามช็อตถึงการเร่งโกยรายได้ไตรมาส 1-2 ปี 2562 ระหว่าง มกราคม-เมษายน เพราะผลจากความสุกงอมของสถานการณ์เศรษฐกิจโลกระหว่างจีนกับสหรัฐอเมริกา ซึ่งไม่สามารถคาดเดาได้ แต่ค่าเงินบาทแข็งขึ้นจะไม่กระทบมากนัก ดังนั้น ททท.ต้องเร่งกระตุ้นการท่องเที่ยวทุกรูปแบบในช่วงเทศกาลต้นปีทั้ง เทศกาลเที่ยวเมืองไทย 23-27 มกราคม ตรุษจีนวันที่ 5 กุมภาพันธ์ และสงกรานต์ 13-15 เมษายน 2562 จะบุกตลาดอาเซียนและเอเชีย เจาะกลุ่มเดินทางท่องเที่ยวไทยครั้งแรก
ขณะที่จีนก็น่าจะทำได้ในช่วง 4 เดือนแรกปีนี้รวมไม่ต่ำกว่า 2.7 ล้านคน เพราะช่วงการเดินทางสูงสุดตรุษจีนทำได้วันละประมาณ 50,000 คน ส่วนตลาดระยะไกลในยุโรป อเมริกา ก็จะไปเน้นการพักผ่อนช่วงฤดูร้อน
คนไทยทำสถิติใหม่ใช้เงินทะลุ1.04 ล้านล้าน
เรื่องและภาพโดย...เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน #gurutourza #สวท97
ททท.ยิ้มรับยอดสรุปปี’61 ท่องเที่ยวทำเงินเข้าเป้า 3.046 ล้านล้านบาท คนไทยใช้เงินเที่ยวไทยดีเกินคาดทะลุเพดาน 1.046 ล้านล้านบาท ได้อานิสงกระแส 55 เมืองรอง “ยุทธศักดิ์” สั่งเร่งโกยรายได้ตุนตั้งแต่ต้นปี’62 ม.ค.-เม.ย.รับสถานการณ์โลกจีน-สหรัฐ ไม่หวั่นค่าเงินบาทแข็ง ขณะที่ “รองนายกฯ สมคิด” สั่งรื้อแผนเสนองบบูรณาการใหม่มาพิจารณาใหม่ 3 เดือนหน้า ต้องมากกว่า 8,000 ล้านบาท เพื่อตอบโจทก์ ลดเหลื่อมล้ำ-กระจายสู่เมืองรอง-หนุนท่องเที่ยวชุมชน
.ยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) |
ดร.ยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า สถิติปี 2561 ได้ข้อสรุปตลอดทั้งปีแล้ว ประกอบด้วย รายได้รวมมูลค่ารวม 3.046 ล้านล้านบาท (สูงกว่าปี 2560 ทำได้เพียง 2.78 ล้านล้านบาท) โดยตลาดต่างประเทศทำเงินได้ 1.997 ล้านล้านบาท จากนักท่องเที่ยวรวม 38.1 ล้านคน (ปี 2560 ทำได้ 35.4 ล้านคน) และตลาดในประเทศทำเงินได้ 1.046 ล้านล้านบาท เกินกว่าเป้าที่ตั้งไว้ราว 46,000 ล้านบาท เดิมตั้งไว้ 3 ล้านล้านบาท เป็นผลมาจากกระแสการท่องเที่ยว 55 เมืองรอง จึงมีนักท่องเที่ยวสูงถึง 167 ล้านคน-ครั้ง แต่ตัวเลขรายได้เติบโตอาจจะหลุดเป้าบ้างเล็กน้อยเติบโตเพียง 7-8 % จากเดิมตั้งไว้ 10 %
ขณะที่ไตรมาส 1 ปีงบประมาณ 2562 ระหว่างตุลาคม-ธันวาคม 2562 การท่องเที่ยวยังคงเติบโตต่อเนื่องเฉพาะธันวาคมที่ผ่านมาเพียงเดือนเดียวขยายตัวประมาณ 7-8 % ดร.ยุทธศักดิ์กล่าวว่า เมื่อเช้าวันพฤหัสบดีที่ 10 มกราคม 2562 ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ได้เข้าหารือกับ ดร.วีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เจ้าภาพจัดการประชุม ร่วมกับผู้บริหารระดับสูง โดยมีทั้งผม ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงคมนาคม กระทรวงวัฒนธรรม เข้าร่วมหารือกันถึงการเสนอของบบูรณาการปีงบประมาณ 2563 จะขอเพียง 8,000 ล้านบาท นั้น
รองนายกรัฐมนตรีให้นำไปรื้อทำแผนขอเสนองบบูรณาการมาใหม่อีกครั้งภายใน 2-3 เดือนข้างหน้า โดยทำตัวเลขให้สูงขึ้นกว่านี้ เพื่อให้สอดดล้องกับความเป็นจริงของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวซึ่งสามารถทำรายได้เข้าประเทศปีละกว่า 3 ล้านล้านบาท คิดเป็นกว่า 20 % ของจีดีพี จึงขอให้ความสำคัญ 3 เรื่องหลัก ได้แก่
1.เพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขัน ลดความเหลื่อมล้ำ ต้องดีขึ้นจากปี 2562 ต้องขยับไปอยู่อันดับที่ 33 สร้างจีดีพีของประเทศให้ได้ไม่ต่ำกว่า 20 %
2.ส่งเสริมการท่องเที่ยวชุมชน 3.สนับสนุนเข้าถึงเส้นทางคมนาคมต่าง ๆ เพื่อการท่องเที่ยวอย่างจริงจัง ทั้งทางบก ทางอากาศ การเชื่อมรถไฟชุมพร ระนอง โครงการไทยแลนด์ ริเวียร่า
สำหรับการเสนอของบบูรณาการจะใช้ในเชิงยุทธศาสตร์ แนวทางการเสนอของบประมาณบูรณาการปี 2563 เน้นโครงสร้างพื้นฐาน ความปลอดภัย สิ่งแวดล้อม เพื่อปูพรมสร้างความมั่นคงยั่งยืนของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวระยะยาวเป็นงบประมาณที่จะสามารถใช้ได้ตั้งแต่ตุลาคม 2562 เป็นต้นไป โดยขอให้ไปทบทวนใหม่ เพราะการท่องเที่ยวถือเป็นกลไกผลักดันเศรษฐกิจ สร้างความสุขอย่างเท่าเทียมแก่ท้องถิ่น โดยใช้ตัวชี้วัด 3 อย่าง
1.เพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขัน ลดความเหลื่อมล้ำ ต้องดีขึ้นจากปี 2562 ต้องขยับไปอยู่อันดับที่ 33 สร้างจีดีพีของประเทศให้ได้ไม่ต่ำกว่า 20 %
2.สัดส่วนการกระจายรายได้ระหว่าง เมืองท่องเที่ยวหลัก กับ เมืองท่องเที่ยวรอง จะต้องกระจายสัดส่วนใหม่เป็น 80-20 จากปัจจุบัน 90-10 จะพิจารณาโดยให้ความสำคัญกับการลงทุนท่องเที่ยวเมืองรองเพิ่มขึ้น
โดย ดร.สมคิด ได้มอบหมายให้รัฐมนตรีว่าการและปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กลับไปทบทวนแผนนโยบายให้ชัดเจนอีกครั้ง เพื่อให้เป็นไปตามเป้าหมายการกระจายรายได้ตามที่กล่าวมา ลดความเหลื่อมล้ำ กระจายรายได้สู่ฐานราก ผู้ว่าฯ ยุทธศักดิ์กล่าวย้ำว่า แผนกลยุทธ์การตลาดท่องเที่ยวเพื่อเพิ่มรายได้การท่องเที่ยวตั้งแต่ปี 2562 เป็นต้นไป จะพุ่งเป้าเพิ่มรายได้จากการให้นักท่องเที่ยวจ่ายเงินต่อคนต่อทริปเพิ่มขึ้น เนื่องจากขีดความสามารถทางการรองรับผู้โดยสารของสนามบินนานาชาติทุกแห่งเต็มเกือบหมดแล้ว ไม่ว่าจะเป็นสุวรรณภูมิ ซึ่งต้องเร่งสร้างรันเวย์ที่ 3 เช่นเดียกับดอนเมือง ภูเก็ต หาดใหญ่ เชียงใหม่ เชียงราย
ขณะนี้ ททท.เองต้องมองข้ามช็อตถึงการเร่งโกยรายได้ไตรมาส 1-2 ปี 2562 ระหว่าง มกราคม-เมษายน เพราะผลจากความสุกงอมของสถานการณ์เศรษฐกิจโลกระหว่างจีนกับสหรัฐอเมริกา ซึ่งไม่สามารถคาดเดาได้ แต่ค่าเงินบาทแข็งขึ้นจะไม่กระทบมากนัก ดังนั้น ททท.ต้องเร่งกระตุ้นการท่องเที่ยวทุกรูปแบบในช่วงเทศกาลต้นปีทั้ง เทศกาลเที่ยวเมืองไทย 23-27 มกราคม ตรุษจีนวันที่ 5 กุมภาพันธ์ และสงกรานต์ 13-15 เมษายน 2562 จะบุกตลาดอาเซียนและเอเชีย เจาะกลุ่มเดินทางท่องเที่ยวไทยครั้งแรก
ขณะที่จีนก็น่าจะทำได้ในช่วง 4 เดือนแรกปีนี้รวมไม่ต่ำกว่า 2.7 ล้านคน เพราะช่วงการเดินทางสูงสุดตรุษจีนทำได้วันละประมาณ 50,000 คน ส่วนตลาดระยะไกลในยุโรป อเมริกา ก็จะไปเน้นการพักผ่อนช่วงฤดูร้อน
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น