TCEBเปิดแผนปี62กระจายความรวยสู่ภูมิภาคขานรับกลุ่มทุนแห่เปิดศูนย์ประชุมทั่วไทย-เที่ยวเมืองรอง ณ สัทธา ราชบุรี
TCEBเปิดแผนปี62ไมซ์กระจายความรวยสู่ภูมิภาค
กลุ่มทุนแห่เปิดศูนย์ประชุมใหม่ทั่วไทย-EECพุ่งแรง
คิงเพาเวอร์แจกวันเด็กบอลแสนลูก-ชมฟรีมหานคร
เทศกาลเที่ยวเมืองไทย5ภาคขาย90ทัวร์ดึง6แสนคน
วันเด็กบางจากชูเด็กไทยหัวใจไบโอแจกเพียบ12มค.
บอร์ดทอท.23ม.ค.ดันเปิดประมูลสุวรรณภูมิเฟส2-3
เที่ยวเมืองรองดาวรุ่ง“ณ สัทธา อุทยานไทย ราชบุรี”
เทคนิคการรักษาสุขภาพต้องฟังเสียงร่างกายให้ดี ๆ
ททท.ปี61เข้าเป้า3.046ล้านล้าน-รื้องบใหญ่ปี’63
ท่องเที่ยวกรุงเทพโกย3อันดับโลก”อาหาร-ช็อปปิ้ง”
7สนามบินต่างจังหวัดบริการใหม่APMส่งทั่วโลก
ททท.ลพบุรีเปิดวังนารายณ์จัดฟรีแฟนซีคอนเสิร์ต
“เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ขอต้อนรับเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” ในวันเสาร์ที่ 12 มกราคม 2562 เวลา 11.00-12.00 น.ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทางมือถือ และอ่านได้ในwww.facebook.com/penroongyaisamsaen และบล็อกเกอร์ #gurutourza #สวท97 #รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์
ช่วงที่ 1 เกาะติด “จิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา” ผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) “TCEB” เคลื่อนทัพไมซ์ปี 2562-2563 กระจายความมั่งคั่งทุกภูมิภาค ขานรับการแห่ลงทุนเปิดศูนย์ประชุมนานาชาติทั้ง KICE ขอนแก่น NICE พัทยา และกำลังเปิดที่อ่าวมะขามภูเก็ต รวมถึงศูนย์สิริกิติ์โฉมใหม่ พร้อมกับใช้มหกรรมเอ็กซโป เกาหลี ไต้หวัน จีน ดันไทยเป็นศูนย์กลางการค้าเอเชีย เพิ่มรายได้ทะลุปีละ 2 แสนล้านบาท และผุดโปรเจ็กต์ TSEMs มาตรฐานไมซ์ยั่งยืนทั่วประเทศ
กลุ่มทุนแห่เปิดศูนย์ประชุมใหม่ทั่วไทย-EECพุ่งแรง
คิงเพาเวอร์แจกวันเด็กบอลแสนลูก-ชมฟรีมหานคร
เทศกาลเที่ยวเมืองไทย5ภาคขาย90ทัวร์ดึง6แสนคน
วันเด็กบางจากชูเด็กไทยหัวใจไบโอแจกเพียบ12มค.
บอร์ดทอท.23ม.ค.ดันเปิดประมูลสุวรรณภูมิเฟส2-3
เที่ยวเมืองรองดาวรุ่ง“ณ สัทธา อุทยานไทย ราชบุรี”
เทคนิคการรักษาสุขภาพต้องฟังเสียงร่างกายให้ดี ๆ
ททท.ปี61เข้าเป้า3.046ล้านล้าน-รื้องบใหญ่ปี’63
ท่องเที่ยวกรุงเทพโกย3อันดับโลก”อาหาร-ช็อปปิ้ง”
7สนามบินต่างจังหวัดบริการใหม่APMส่งทั่วโลก
ททท.ลพบุรีเปิดวังนารายณ์จัดฟรีแฟนซีคอนเสิร์ต
“เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ขอต้อนรับเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” ในวันเสาร์ที่ 12 มกราคม 2562 เวลา 11.00-12.00 น.ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทางมือถือ และอ่านได้ในwww.facebook.com/penroongyaisamsaen และบล็อกเกอร์ #gurutourza #สวท97 #รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์
ช่วงที่ 1 เกาะติด “จิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา” ผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) “TCEB” เคลื่อนทัพไมซ์ปี 2562-2563 กระจายความมั่งคั่งทุกภูมิภาค ขานรับการแห่ลงทุนเปิดศูนย์ประชุมนานาชาติทั้ง KICE ขอนแก่น NICE พัทยา และกำลังเปิดที่อ่าวมะขามภูเก็ต รวมถึงศูนย์สิริกิติ์โฉมใหม่ พร้อมกับใช้มหกรรมเอ็กซโป เกาหลี ไต้หวัน จีน ดันไทยเป็นศูนย์กลางการค้าเอเชีย เพิ่มรายได้ทะลุปีละ 2 แสนล้านบาท และผุดโปรเจ็กต์ TSEMs มาตรฐานไมซ์ยั่งยืนทั่วประเทศ
จิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) “TCEB |
นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) “TCEB” เปิดเผยว่า ในปี 2562 วางกลยุทธ์การตลาดให้คึกคักตั้งแต่เริ่มงบประมาณไตรมาส 1 ทำสถิติรายได้เข้าเป้าในด้านการประชุมและการท่องเที่ยวเพื่อเป็นรางวัล หรือ MI -Meeting & Incentive ส่วนเอ็กซิบิชั่นมีงานใหม่โดยได้อานิสงส์จากการดึงงานเข้ามาต่อเนื่อง 3 ปี คือ งาน Future Energy จะจัดต่ออีกในปี 2562-2563 และงาน Metalex 2019 ได้เพิ่มเอ็กซิบิชั่น ฮอลล์ จัดแสดงขนาดใหญ่งานโรโบติก ต่างจากปกติจะมีเฉพาะการแสดงสินค้าอาหารและอัญมณี แต่ขณะนี้มีงานอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ทั้งเรื่องพลังงานและ S-CURV เรื่อยไปจนถึงเอ็กซ์โปของ เกาหลี และไต้หวัน เลือกเข้ามาจัดในไทย เพราะเล็งเห็นถึงศักยภาพของไทยคือประเทศศูนย์กลางการค้าจึงได้เลือกมาใช้สถานที่จัดงานดังกล่าว
ข่าวดีต้อนรับปีใหม่ เมื่อโครงสร้างคมนาคม การทำรถไฟฟ้าความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน สุวรรณภูมิ-ดอนเมือง-อู่ตะเภา เกิดขึ้นจะเป็นแรงส่งให้ตลาดการจัดขายระดับอินเตอร์ของเอ็กซิบิชั่นและคอนเว็นชั่นเมืองไทยไปได้ดี ประมาณกลางปี 2562 จะมีงานเกิดขึ้นในไอคอน สยาม เตรียมเปิดศูนย์ประชุมแห่งใหม่ขนาด 3,000 คน ส่วนพัทยาก็จะมีงานและศูนย์ประชุมเกิดขึ้นจำนวนมาก ทาง TCEB วางแผนเดินหน้าการทำงานร่วมกับจังหวัดไมซ์ ซิตี้ มากขึ้น ปูพรมจัดงานปี 2563 เช่น งานผ้าระดับนานาชาติที่ศูนย์ประชุม KICE ขอนแก่น โดยจะร่วมกับทางจังหวัดขอนแก่น และหอการค้าไทย สรุปปี 2562-2563 มุ่งกระจายไปไมซ์ไปสู่ภูมิภาคเพิ่มมากขึ้น ตัวอย่าง งาน ลานนา ไมซ์ เอ็กซโป จ.เชียงใหม่ อีสาน จะจัดงานผ้าในขอนแก่น เริ่มปี 2563 หรือ 2564 ภาคใต้ จะมีศูนย์ ประชุมนานาชาติ ลงทุนก่อสร้างแห่งใหม่บริเวณอ่าวมะขาม จังหวัดภูเก็ต โดยมีแผนเพิ่มท่าเรือ ศูนย์การค้า ปิดท้ายด้วยศูนย์ประชุมนานาชาติ ทางฝั่งตะวันออก ก็มี NICE สวนนงนุช พัทยา และกำลังรอนักลงทุนในเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก
ขณะที่แผน 5 ปีข้างหน้า ก็จะมีศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์โฉมใหม่ ที่จะเปิดบริการภายในปี 2565 จะเป็นศูนย์ประชุมเชื่อมต่อการบริการเหมือนกับอิมแพ็ค ทำให้สามารถเป็นศูนย์กลางของอาเซียน ซึ่งเห็นภาพมาตั้งแต่ปี 2561 หลังจากเกาหลีและไต้หวันเลือกจัดงานเอ็กซโปในไทย ขณะนี้จีนก็เริ่มสนใจเข้ามาจัดเอ็กซโปด้วยเช่นกัน รวมทั้งงานก็ขยายเป็นเอ็กซโป พลังงาน การโปรโมตอุตสาหกรรมไมซ์ของประเทศ ภายใต้ความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง ซึ่งมีการส่งเสริมนักลงทุนต่างชาติเข้ามายังไทย จะช่วยทำให้แผนพัฒนาอุตสาหกรรมกลุ่มไมซ์เติบโตตามเป้าหมาย
ปี 2562 TCEB ได้เพิ่มมาตรฐานใหม่ TSEMs : Thailand Standard ดำเนินการโดยฝ่ายพัฒนาศักยภาพ ดูแล 3 เรื่อง ได้แก่ 1.บุคลากร 2.สถานที่สามารถจัดเมกะอีเวนต์ได้ 3.พัฒนา ที่ผ่านมาได้จัดทำมาตรฐานตั้งแต่ปี 2557 ส่
ส่วนที่ 1 นำร่องมาตรฐานห้องประชุม 300 แห่ง 900 ห้อง ทั้งระดับประเทศ TMVS และผลักดันสู่อาเซียน AMVS ทำแล้ว 2 ปี
ส่วนที่ 2 มาตรฐานเอ็กซิบิชั่น ทำมา 2 ปีเช่นกัน มีประมาณ 30 เอ็กซิบิชั่นฮอลล์ และระหว่าง 13-17 มกราคม 2562 จะไปนำเสนอมาตรฐาน AMVS ในการประชุมรัฐมนตรีท่องเที่ยวอาเซียน งาน ASEAN TOURISM FORUM 2019 เมืองฮาลองเบย์ เวียดนาม ซึ่งก่อนหน้านี้เคยพูดคุยกันมาหลายรอบแล้ว
ส่วนที่ 3 มาตรฐานสถานที่พิเศษในการจัดงาน หรือ Special Events จะทำอีก 2 ปีข้างหน้า เช่น โบราณสถาน สถานที่กลางแจ้งต่าง ๆ ปี 2561 ได้มาแล้ว 16 แห่ง ปี 2563 จะเสนอให้ทำต่อเรื่อง AMVS ส่วนมาตรฐาน TSEMs :Thailand Sustainable Equipment Standards ทำแล้วเสร็จเมื่อ 26 ธันวาคม 2561 เป็นเรื่องการพัฒนาการจัดการอย่างยั่งยืน จะดูครอบคลุมทั้งสถานที่และบุคลากรของบริษัทออร์กาไนเซอร์ เช่น บริษัทเยอรมันที่ต้องการจัดงานประชุมหรืออินเซ็นทีฟ กลุ่มขายตรง ในจำนวนนี้ 68 % ต้องดูสถานที่หรือผู้จัดต้องเป็นผู้ที่ดูแลสิ่งแวดล้อม แต่บ้านเรายังไม่มีจึงต้องเริ่มทำ TSEMs ขึ้นมารองรับ
โดยทาง TCEB จะร่วมกับเอกชน โดยเริ่มจากกลุ่มที่ได้มาตรฐานห้องประชุมเรียบร้อยแล้ว มีฐานตัวเลขเดิม 300 แห่ง ผ่านการคัดเลือก จากนั้นในเว็บไซต์ www.businessevents.com เปิดให้ผู้สนใจสมัครเข้ามาคัดเลือกการรับรองมาตรฐาน TSEMs มีใบรับรองไปยืนยันกับทางลูกค้า จะสร้างผลให้นำไปเปรียบเทียบกับประเทศคู่แข่งพร้อมจัดงานระดับนานาชาติที่จะส่งผลต่อผู้จัดงาน และเป็นภาพลักษณ์ที่ดีด้วย เพราะปกติจะต้องจ่ายเงินให้กลุ่ม ISO 20121 ซึ่งเป็น Events Sustainbility Management ค่อนข้างสูงแปลเป็นภาษาอังกฤษมาก็ลำบาก
แต่โครงการ TSEMs เป็นภาษาไทยดีกว่า และมีการกำหนดลักษณะของห้องประชุม เกณฑ์การวัดตามมาตรฐานนานาชาติ เช่น ใช้แก้วน้ำแทนพลาสติกหรือวัสดุสิ้นเปลือง การสร้างองค์ความรู้ให้ชุมชนเข้าร่วมอย่างถูกต้อง เป็นอีกช่องทางของไมซ์ในการทำ CSR ชุมชน จะเริ่มทำปี 2562 เป็นต้นไป เพื่อทำให้ทุกฝ่ายได้ตระหนักถึงเรื่องสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน และเป็น 1 ใน 17 ข้อที่สหประชาชาติกำหนดไว้ อีกทั้งผู้ประกอบการการจ้างจัดงานสามารถเคลมได้ในการคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน
เป้าหมายปี 2562 รายได้จากตลาดไมซ์โดยรวม 221,500 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5-7 % ประกอบด้วย ตลาดต่างประเทศจำนวน 3 ล้านคน จากอาเซียนและเอเชีย ฮ่องกง เวียดนาม มาเลเซีย จะมีกลุ่มใหม่ที่จะไป ทำไมซ์ โร้ดโชว์ ในยุโรป อเมริกา โดยดูสถานการณ์ตลอดถึงจีนกับสหรัฐอเมริกา อีก 2-3 เดือนข้างหน้าก็ไม่น่าจะมีปัญหา
แต่ช่วงกันยายน 2562-2563 ก็เป็นห่วงสถานการณ์มีโอกาสชะลอตัว ซึ่งไทยจะได้กรุ๊ปญี่ปุ่นเข้ามาเสริมทัพ ในกลุ่มเอ็กซิบิชั่นและคอนเวนชั่น มีตลาดยุโรปและอเมริกาเพิ่มขึ้น ยกเว้นอินเซ็นทีฟกับมีตติ้ง วันพำนักลดลงเหลือเพียงครั้งละ 3 คืน/คน จึงจะต้องเพิ่มโปรแกรมหรือเป็นเจ้าภาพทำให้น้ำหนักดึงดูดคนเพิ่มวันพักขึ้น แต่ก็ยังมีโอกาสในกลุ่มตลาดโรตารีและไลออนซึ่ง TCEB เคยเป็นเจ้าภาพมาแล้ว จะจัดประชุมผู้บริหารล่วงหน้า 2 วัน แล้วจึงประชุมสมาชิกอีก 3 วัน สำหรับตลาดในประเทศ จะต้องพุ่งเป้าเพิ่มการเติบโตตลาดเอ็กซิบิชั่น ปี 2562-2563-2564 จะร่วมกับสภาหอการค้าสร้างงานเพิ่มมากขึ้น
ส่วนการประชุมในประเทศซึ่งมีจำนวนมาก มีนโยบายให้ฝ่ายการตลาด MI ตามมาตรการของรัฐบาลนำมาลดภาษี แต่ที่ต้องปลดล็อกคือคำสั่งที่จะต้องให้หน่วยงานราชการออกไปประชุมในพื้นที่ใกล้กรุงเทพฯ รัศมี 200-300 กม.ซึ่งที่ผ่านมารัฐบาลได้สั่งให้หยุดการเดินทางประชุมมาระยะหนึ่ง เพราะมีส่วนทำให้หน่วยงานเลิก Outing หรือจัดประชุมนอกสถานที่ลดลงไปบ้าง
ทั้งนี้ต้องรองบประมาณปี 2563 หลังจากปี 2562 ถูกตัดงบไปพอสมควร สำหรับปี 2562 ที่ TCEB นำมาจัดในไทยไฮไลต์ได้แก่
1.งาน SITE จำนวน 400 คน แต่เป็นระดับผู้นำการตัดสินใจสมาคมอินเซ็นทีฟระดับโลก เดิมเคยใช้ลักษณะเวียนจัดแต่ออกมาจัดนอกอเมริกาในเอเชียที่ไทยเป็นประเทศที่ 2 ต่อจากญี่ปุ่น ซึ่งไทยมีสมาชิกเข้าร่วมด้วย แต่ละครั้งหากมีงานมาจัดจำนวนแสนคน
2.งาน IEA :International Awards จัดประมาณกลางปีนี้ เป็นบริษัทและสมาคมขายตรง แต่ละคนจะได้รับรางวัลทางด้านการขายประกัน จำนวน 8,000 คน มาประชุมที่อิมแพ็ค เลือกพักโรงแรมระดับ 5 ดาว รวมทั้งมีโพสต์ทัวร์ ภูเก็ต เชียงใหม่ โดยรวมจะนำเงินเข้าประเทศสูงมาก
3.UFI จำนวน 900 คน เป็นผู้นำธุรกิจการจัดเอ็กซิบิชั่น เช่น ศูนย์ประชุม MESSE และออร์กาไนเซอร์ที่จะหาตลาดเอ็กซิบิชั่นเดินทางมาจัดนอกประเทศ งานนี้จะมีช่วง พฤศจิกายน 2562 4.IA3E เจ้าภาพคือการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ร่วมกับจุฬาลงกรณ์ ดึงมาจากอเมริกาได้ครั้งแรก จำนวน 10,000 คน เป็นการดึงตลาดการจัดงานพลังงานมาไทย
ทั้งหมดสามารถตอบโจทก์ตามนโยบายรัฐบาลที่ทาง TCEB จะใช้อุตสาหกรรมไมซ์เป็นหัวหอกขยายตลาดนำอุตสาหกรรมการจัดงาน S-CURV เข้ามาจัดในประเทศเพิ่มขึ้นทำให้เศรษฐกิจไทยเติบโตอย่างมั่งคั่ง ยั่งยืน
ฟังข่าวต้นชั่วโมง
ข่าวที่ 1 “คิงเพาเวอร์วันเด็กแจกฟรีบอลแสนลูก-มหานครสกายวอล์ค”
กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ประกาศขยายความสุขต้อนรับวันเด็กแห่งชาติ ด้วยโครงการ “คิง เพาเวอร์ ไทย เพาเวอร์ พลังคนไทย-ลูก ล้านพลัง สร้างฝันเด็กไทย” เดินหน้าแจกฟุตบอลให้เด็ก ๆ 105,000 ลูก ในวันเสาร์ที่ 12 มกราคม 2562 ตั้งแต่ 8.00 – 15.00 น. เพื่อมอบให้น้อง ๆ อายุระหว่าง 4 - 15 ปี ได้สิทธิรับแจกลูกฟุตบอล 1 ลูก ต่อ 1 คน เท่านั้น โดยขอสงวนสิทธิ์ห้ามนำลูกฟุตบอลไปจำหน่ายไม่ว่ากรณีใด ๆ ทั้งสิ้น โดยกระจายแจกเด็ก ๆ ทั่วประเทศในพื้นที่ 28 จุด ดังนี้
1. คิง เพาเวอร์ รางน้ำ (*เริ่มแจก10.00น.) 2. กองบิน 6 ฝูงบิน 601 3. พิพิธภัณฑ์กองทัพอากาศ 4. สนามบินเล็กทุ่งสีกัน 5. กองบัญชาการกองทัพบก 6. กรมพลศึกษา สนามกีฬาแห่งชาติ 7. สถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบก ช่อง 5 8. กระทรวงศึกษาธิการ 9. โรงเรียนการบินกำแพงแสน 10. กองบิน 2 จังหวัดลพบุรี 11. ท่าเรือจุกเสม็ด ฐานทัพเรือสัตหี บ 12. ที่ทำการอำเภอบางละมุง 13. ศาลากลางเมืองพัทยา 14. สนามบินนานาชาติอู่ตะเภา
15. ศาลากลางจังหวัดภูเก็ต 16. เทศบาลตำบลวิชิต จังหวัดภูเก็ต 17. ท่าอากาศยานจังหวัดภูเก็ต 18. ท่าเทียบเรือ ฐานทัพเรือสงขลา ทัพเรือภาคที่ 2 19. กองบิน 7 จังหวัดสุราษฏร์ธานี 20. ค่ายจุฬาภรณ์ กองพันทหารราบที่ 9 รักษาพระองค์ จังหวัดนราธิวาส 21. ลานจอดท่าอากาศยานทหาร กองบิน 41 จังหวัดเชียงใหม่ 22. กองบิน 46 จังหวัดพิษณุโลก 23. กองร้อยตำรวจตระเวนชายแดนที่ 246 อำเภอเชียงคาน จังหวัดเลย 24. กองบิน 1 จังหวัดนครราชสีมา 25. กองบิน 23 จังหวัดอุดรธานี 26. มหาวิทยาลัยมหาสารคาม จังหวัดมหาสารคาม 27. โรงเรียนนายเรือ จังหวัดสมุทรปราการ 28. การกีฬาแห่งประเทศไทย หัวหมาก กรุงเทพฯ
ติดตามเพิ่มที่ Facebook King Power Thai Power หรือ www.kingpowerthaipower.com
ขณะที่ คิง เพาเวอร์ มหานคร เชิญชวนเด็กไทยอายุไม่เกิน 15 ปี ขึ้นไปชม “มหานคร สกายวอล์ค” จุดชมวิวชั้นดาดฟ้าที่สูงที่สุดในประเทศไทย ได้ฟรีตลอดวัน ในวันเด็กแห่งชาติ พร้อมสนุกสนานกับกิจกรรมเพ้นท์หน้า บอลลูนอาร์ต และมายากล ในวันเสาร์ที่ 12 มกราคมนี้ สำหรับผู้ใหญ่ที่ไปกับครอบครัวสามารถขึ้นชม มหานคร สกายวอล์ค และ รูฟท็อป บาร์ โดยซื้อบัตรชมภายในและภายนอกอาคารชั้น 74,78 คนละ 765 บาท
ดูข้อมูลเพิ่มที่ Facebook page ของ King Power Mahanakhon
ข่าวที่ 2 “ททท.โหมเทศกาลเที่ยวเมืองไทยขาย90ทัวร์ดึง6แสนคน”
ดร.ยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า เตรียมจัดมหกรรม “เทศกาลเที่ยวเมืองไทย ประจำปี 2562 ครั้งที่ 39” (THAILAND TOURISM FESTIVAL : TTF 2019) ระหว่าง 23 - 27 มกราคม นี้ ที่สวนลุมพินี ตั้งเป้าจะมีนักท่องเที่ยวเข้าชมงานกว่า 600,000 คน เพื่อจะสร้างแรงบันดาลใจให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยวจริงไปยังแหล่งท่องเที่ยวต่าง ๆ ในประเทศ ไม่ต่ำกว่า 50 % ของผู้เข้าชมงาน ตลอด 5 วัน จะจัดให้มีกิจกรรมกระจายทั่วบริเวณ 9 โซน ซึ่งจะเป็นปีแรกที่นำแพ็คเกจทัวร์จากทั้ง 5 ภูมิภาคมานำเสนอขายรวม 90 เส้นทาง
โดยจะใช้เทศกาลเที่ยวเมืองไทย ปี 2562 ปลุกกระแสการเที่ยวเท่ๆ ในเมืองไทย ในธีม “amazingไทยเท่” ภายใต้แนวคิด “เมืองไทย....สวยทุกที่ เท่ทุกเวลา” พบไฮไลท์ หมู่บ้านท่องเที่ยว 5 ภูมิภาค ภายใต้แนวคิด “ไทยเท่ 5 ภูมิภาค” และจัดกิจกรรม “ลด โลก เลอะ” รณรงค์ให้ทุกโซนร่วมกันทำคือ ลดการใช้โฟม พลาสติก และการกำจัดขยะ ขอความร่วมมือจากทุกคนใช้ถุงผ้า กระบอกน้ำ และกล่องบรรจุอาหาร ซึ่งมีผู้สนับสนุนรายใหญ่เข้ามาด้วยคือ บจม. เอสซีจี แพคเกจจิ้ง และ บมจ. พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำหน่ายผลิตภัณฑ์ราคาพิเศษที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมให้กับร้านค้าต่าง ๆ มีทั้ง กล่องอาหาร จาน ชาม ถ้วย แก้วน้ำร้อน แก้วน้ำเย็น หลอด ช้อน ส้อม มีด กระดาษเช็ดปาก
ส่วนในโซนที่ 7 จะจำลองเมืองไทยสวยด้วยสองมือ “ขยะให้โชค” มีกิจกรรมการให้ความรู้เรื่องการจัดการขยะ กิจกรรมขยะให้โชค และการท่องเที่ยวแนวคิด “ 7Greens” สร้างกิจกรรม “ขวดสุขใจ 5 เปล่าแลก 1 น้ำ” คือ สามารถนำขวดเปล่าของน้ำน้องสุขใจ 5 ขวด ไปแลกน้ำน้องสุขใจได้ 1 ขวด หรือหากนำขวดเปล่าของน้ำน้องสุขใจ ไปเล่นเกมส์กิจกรรมขยะให้โชคก็จะได้แต้มพิเศษ ในการเล่นเกมส์แลกรับของรางวัล
สำหรับไฮไลต์การท่องเที่ยว 9 โซน ได้แก่
โซนที่ 1 ไทยเที่ยวไทย ไทยยั่งยืน - บริเวณหน้าลานพระบรมราชานุสาวรีย์รัชกาลที่ 6 สร้างแลนด์มาร์คลอยตัว สะท้อนเอกลักษณ์ของแต่ละท้องถิ่น ได้แก่ แลนด์มาร์คปลาตะเพียนสาน แลนด์มาร์คร่มบ่อสร้าง แลนด์มาร์คธุงอีสานใยแมงมุม แลนด์มาร์คงานจักสานและกกย้อมสี และแลนด์มาร์คกรงนก
โซนที่ 2 เที่ยวไทย สุดคุ้ม - แนะนำโปรแกรมและสินค้าท่องเที่ยว 90 เส้นทาง ซึ่งจะจำหน่ายและ แนะนำโปรแกรมการท่องเที่ยวโดยสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวภายในประเทศ ในบริเวณที่รายล้อมด้วยสินค้าชุมชนน่าเที่ยว อาหารห้ามพลาด 5 แบบ ได้แก่ ภาคเหนือ : เส้นทางบอกเล่าเรื่องราวผ่านวิถีผ้า ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ : เส้นทางอาหารภูมิปัญญาท้องถิ่น ภาคกลาง : เส้นทางวิถีแห่งสายน้ำอารยธรรมอันรุ่งเรืองสืบทอดจากอดีตสู่ปัจจุบัน ภาคตะวันออก : เส้นทางสนุกสนาน เรียนรู้ เติมสีสันให้ชีวิต เที่ยวชุมชน และภาคใต้ : เส้นทางแห่งแรงบันดาลใจให้เยือนภาคใต้ สักครั้งในชีวิต
โซนที่ 3 ไทยเท่ 5 ภูมิภาค - นำเสนอหมู่บ้านท่องเที่ยวทั้ง 5 ภูมิภาค เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสบรรยากาศจำลองเสมือนจริง นำเสนอในแนวคิดที่แตกต่างกัน ได้แก่ ภาคกลาง : More Legacy มรดกแห่งสยาม ภาคเหนือ : More Authentic ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ : More Gastronomy ภาคตะวันออก : More Fun และภาคใต้ : More Inspired ซึ่งแต่ละภาคได้ยกการแสดงทางศิลปวัฒนธรรมที่หาชมได้ยาก อาหารถิ่น สินค้าที่ระลึก ให้เลือกชิมเลือกชอปอย่างจุใจ และกิจกรรม DIY พร้อมมุมถ่ายภาพที่สวยงาม
โซนที่ 4 ของดี กทม. - คัดสรรอาหารดี อาหารเด็ดของ 50 เขตกทม. มานำเสนอ ภายใต้แนวความคิด Bangkok 24 hrs. หรือ “กรุงเทพฯ...กินได้ทุกที่ เท่ทุกเวลา” ซึ่งกรุงเทพฯ ถือเป็นสวรรค์ของนักชิม ที่สามารถหาอาหารอร่อยได้ตลอดเวลา พร้อมจัดกิจกรรมการแสดง และจุดบริการข้อมูลข่าวสาร แนะนำแหล่งท่องเที่ยวของแต่ละเขต
โซนที่ 5 เวทีกลาง -กิจกรรมบันเทิง การแสดงศิลปวัฒนธรรมในแต่ละภูมิภาค การแสดงศิลปะร่วมสมัย เติมเต็มความสุข ความสนุกของผู้เข้าชมงาน พลาดไม่ได้กับ การแสดงโขนพระราชทาน (วันที่ 24 มกราคม 2562 เวลา 17.30 – 18.30 น.) การแสดงละครนอก การแสดงมโนราห์เรืองแสง การแสดงผีตาโขนประยุกต์ รวมถึงการแสดงของศิลปินที่มีชื่อเสียง เช่น หนึ่ง จักรวาล, ปาล์มมี่, หญิงลี, เจ เจตริน, จ๊ะอาร์สยาม, นนท์ ธนนท์, แสตมป์ อภิวัชร์, Getsnova, Potato, Scrubb และTwopee
โซนที่ 6 TAT STUDIO และ Startup - พื้นที่นำเสนอส่วนผสมของข้อมูลทางการท่องเที่ยวและเทคโนโลยีสู่การสื่อสารเชิงการตลาด ผ่านสถานีข่าว ททท. หรือ TAT STUDIO ที่จะผลิตและนำเสนอข้อมูลทางการตลาดท่องเที่ยวของงานเทศกาลเที่ยวเมืองไทยทุกโซน ทุกพื้นที่ ในรูปแบบการรายงานข่าว สกู๊ปข่าว สัมภาษณ์พิเศษ การถ่ายทอดสดกิจกรรมที่น่าสนใจ ไปสู่ผู้ชมงาน ร่วมถ่ายภาพกับภาพ Graffiti ที่สร้างสรรค์แหล่งท่องเที่ยวด้วยศิลปะร่วมสมัย และนำเสนอบริษัทของเหล่านักธุรกิจสตาร์ตอัพ
โซนที่ 7 เมืองไทยสวยด้วยสองมือ “ขยะให้โชค” - ส่งเสริมการท่องเที่ยวเพื่อสัมผัสวิถีไทย และสร้างกระแสใส่ใจสิ่งแวดล้อม การท่องเที่ยวแนวคิด “7 Greens” ฟังการเสวนา โดยบล็อกเกอร์ท่องเที่ยวแนะนำการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ อาทิ I Roam Alone, Journeyเจอนี่ และพาลูกเที่ยวดะ สนุกกับเกมส์แยกขยะ การนำขยะรีไซเคิล ขวด pet ขวดแก้ว และกระป๋อง มาแลกเพื่อร่วมลุ้นของรางวัล การจัดกิจกรรมบนเวทีการแสดงและนำเสนอกิจกรรมท่องเที่ยวใส่ใจในสิ่งแวดล้อมโดยผู้มีชื่อเสียง ดาราและศิลปิน อาทิ BNK48, กอล์ฟ – พิชญะ, ฮั่น เดอะสตาร์, หมวดแวนRapper, ปุณ ศิริปัญญา, ดนตรี EDM DJ Roxy june และ DJ ICON
โซนที่ 8 เมืองไทย…ใครๆ ก็เที่ยวได้ - พบกับเส้นทางท่องเที่ยวที่ทุกคนสามารถเที่ยวได้ Tourism for All ชมการสาธิต และการจำหน่ายสินค้าจากผู้ด้อยโอกาสทางร่างกาย โซนที่ 9 พันธมิตรท่องเที่ยวไทย - พบกับหน่วยงานเจ้าของแหล่งท่องเที่ยว เช่น Dino Park โดยกรมทรัพยากรธรณี ความสุขจากใจชุมชนรอบเขื่อน โดยการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย และหน่วยงานพันธมิตรด้านการท่องเที่ยวไทย อีกมากมาย อาทิ มูลนิธิมิราเคิลออฟไลฟ์ บจ. ไปรษณีย์ไทย จำกัด ผู้สนับสนุน ธนาคาร กรุงเทพ จำกัด (มหาชน)
ทางด้าน “อภิศักดิ์ ภูริวัฒน์” ผู้อำนวยการส่วนวัฒนธรรม รักษาการในตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานวัฒนธรรมและการท่องเที่ยว กรุงเทพมหานคร กล่าวว่า กรุงเทพฯ ยินดีและภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่งที่ได้มีส่วนร่วมในเทศกาลเที่ยวเมืองไทย และได้คัดสรรของดีมาให้ชมโซนที่ 4 โซน ของดีกทม. “กรุงเทพฯ...กินได้ทุกที่ เท่ทุกเวลา” พร้อมจัดกิจกรรมการแสดง และจุดบริการข้อมูลข่าวสาร แนะนำแหล่งท่องเที่ยว และให้ความสำคัญเรื่อง ความสะอาด ความปลอดภัย โดยได้บูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จัดเตรียมมาตรการต่างๆ เพื่อให้นักท่องเที่ยวมีความสุข สนุกสนานและเพลิดเพลินตลอดการจัดงานทั้ง 5 วัน
ศึกษาข้อมูลเพิ่มที่ โทร 1672 www.tourismthailand.org และ Facebook : Amazing Thailand
บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เชิญชวนเด็ก ๆ และผู้ปกครอง ร่วมงาน “วันเด็กบางจาก ประจำปี 2562” ในวันเสาร์ที่ 12 มกราคม 2562 เวลา 08.00-11.30 น. ภายใต้แนวคิด “เด็กไทย หัวใจ Bio” ปลูกฝังแนวคิดการใช้วัสดุชีวภาพ การร่วมลดปริมาณขยะเพื่อดูแลสิ่งแวดล้อมและรักษาสมดุลทางระบบนิเวศน์อย่างยั่งยืน โดยจัดให้มีกิจกรรมเสริมสร้างทักษะ ซุ้มงานประดิษฐ์จากวัสดุเหลือใช้ เพิ่มพูนความรู้คู่ความสนุกสนาน เฮฮา กับเกมส์และเครื่องเล่น การแสดงมายากล
พร้อมเปิดให้ชมมินิคอนเสิร์ตจากศิลปิน “เจเน็ต เขียว” การแสดงสุนัขและลิงแสนรู้ พร้อมอาหารเครื่องดื่ม และรับของรางวัลมากมาย ณ ลานอเนกประสงค์ หน้าโรงกลั่นน้ำมันบางจาก สุขุมวิท 64
บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) “ทอท.” รายงานว่า ในการประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) วันที่ 23 มกราคม 2562 จะมีวาระเสนอพิจารณาการประมูลให้แล้วเสร็จโครงการพัฒนาสนามบินสุวรรณภูมิเฟสที่ 2 ซึ่งยังเหลืองานก่อสร้างส่วนต่อขยายอาคารผู้โดยสารด้านทิศตะวันออก อาคารสำนักงานสายการบิน ที่จอดรถ วงเงินรวม 7,600 ล้านบาท อีก 1 งา เพื่อจะได้เดินหน้าเปิดประมูลต่อโครงการพัฒนาสนามบินสุวรรณภูมิเฟสที่ 3 ต่อไป
รวมทั้งล่าสุดทางสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เห็นชอบแผนของ ททท.โครงการงานก่อสร้างส่วนต่อขยายอาคารผู้โดยสารด้านทิศตะวันตก (West Wing) กับงานก่อสร้างทางวิ่ง (Runway) แห่งที่ 3 วงเงิน 22,000 ล้านบาท ซึ่งพร้อมจะเสนอเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรีพิจารณาต่อไป เพื่อเดินหน้าการก่อสร้างอาคารผู้โดยสาร (Terminal) แห่งที่ 2 วงเงิน 42,000 ล้านบาท ซึ่งขณะนี้อยู่ในแผนพัฒนาสนามบินสุวรรณภูมิเฟส 3 ในขั้นตอนรับฟังและสรุปความคิดเห็นจากสาธารณะ หากแล้วเสร็จก็จะนำเสนอเข้าที่ประชุมบอร์ด ทอท.ในครั้งนี้ด้วยเช่นกัน
ช่วงที่ 2 เที่ยวสบาย ๆ ใกล้กรุงในเมืองรองดาวรุ่ง “ณ สัทธา อุทยานไทย” พบความมหัศจรรย์แห่งเดียวในเมืองไทยได้ตลอดทั้งปี แล้วมารู้เรื่อง “เทคนิคดูแลสุขภาพต้องฟังร่างกายบ้าง” ตามติดข่าว “ททท.” ยิ้มรับรายได้ปี’61 เข้าเป้า 3..046 ล้านล้านบาท “กรุงเทพฯคว้า3อันดับโลก” เมืองจุดหมายปลายทางอันดับ1 รายได้อาหาร อันดับ 3 รายได้ช้อปปิ้ง อันดับ 6 “7สนามบินต่างจังหวัด” เปิดบริการไปรษณีย์ APM ส่งของทั่วโลก “ททท.” เปิดวังนารายณ์ ลพบุรี ชวนเที่ยวฟรีแฟนซีคอนเสิร์ต 13 มกราคม นี้
การขึ้นต้นด้วยวรรคทองที่ว่า “เพราะเราอยากให้คุณเอาความทุกข์มาทิ้งไว้ที่นี่ แล้วเก็บรับความสุขกลับไป” เป็นคำเชิญชวนของ “ณ สัทธา อุทยานไทย” สถานที่ท่องเที่ยว “ดาวรุ่งใกล้กรุงในเมืองรอง” ในตำบลวังเย็น อำเภอบางแพ จังหวัดราชบุรี ที่ได้เนรมิตประติมากรรม MAN MADE จากฝีมือมนุษย์สร้างขึ้น โดยใช้ความชำนาญการปั้นหุ่นขี้ผึ้งไทยไฟเบอร์กลาสเสมือนจริงของบุคคลสำคัญ สร้างเรือนไทย เรื่อยไปจนถึงเสนอการท่องเที่ยววิถีไทยตามแบบคติชาวพุทธ ส่งเสริมคุณค่าทางประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม ใต้ร่มเงาไม้ใหญ่ร่มรื่นกระจายอยู่ทั่วพื้นที่กว่า 42 ไร่ ภายใต้แนวคิด “ความรู้นอกตำรา ความสงบสุขในอ้อมกอดของธรรมชาติ” พร้อมกับใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่สแกนคิวอาร์โค้ด นำเสนอข้อมูลเรื่องราวผ่านวีดีโอไกด์ 3 มิติ ทุกจุดดูเข้าใจง่ายและสะดวกเป็นอย่างยิ่ง
“ณปภา ศิริพรเลิศ” กรรมการผู้จัดการ ณ สัทธา อุทยานไทย อธิบายว่า ทางครอบครัวได้ทุ่มเทสร้างสรรค์สถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้ขึ้นเพื่อเป็นแรงบันดาลใจให้นักท่องเที่ยวทุกกลุ่มเป้าหมายได้รับคุณค่าทางจิตใจเป็นพลังนำทางชีวิต แต่ละเทศกาลจึงได้หมุนเวียนจัดกิจกรรมความแปลกใหม่ เริ่มจากช่วงเปิดศักราชใหม่ปี 2562 นำร่องจัด “มหกรรมเทศกาลแสงไฟแห่งศรัทธา “มหัศจรรย์แห่งความเบิกบาน” ทุกวันเสาร์-วันอาทิตย์ ได้ขยายการจัดเทศกาลไปจนถึงสัปดาห์สุดท้ายของเดือนมกราคม 2562 หลังจากประสบความสำเร็จจากเดิมกำหนดจัดเพียง 3 สัปดาห์เท่านั้น คือวันที่ 22-23, 29-30-31 ธันวาคม 2561 และ 1, 5-6 มกราคม 2562 แต่ด้วยกระแสตอบรับดีมากจึงต้องขยายการจัดงานต่อไป เพราะมีทั้งกลุ่มครอบครัว เยาวชน คนสูงวัย นักท่องเที่ยวนั่งวีลแชร์ เดินทางเข้ามาชมความยิ่งใหญ่ของเทศกาลแสงไฟแห่งศรัทธาวันละนับพันคน
ไฮไลต์ช่วง “วันเด็กแห่งชาติ-วันเสาร์ที่ 12 มกราคม 2562” ณ สัทธา อุทยานไทย ได้เปิดฟรีให้ครอบครัวพาเด็กและเยาวชนอายุไม่เกิน 15 ปี เข้ามาร่วมกิจกรรมวันเด็กฟรี ได้ภายใต้ธีม “สนามจินตนาการไม่รู้จบ ปล่อยพลังความคิดสร้างสรรค์” ได้ตลอดทั้งวันตั้งแต่ 8.30-17.00 น.โดยได้เตรียมพื้นที่ทำเวิร์คช็อป นำชมจุดเรียนรู้ถิ่นเรือนไทย พร้อมรับของขวัญมากมาย เมื่อไปถึง ณ สัทธา อุทยานไทย ในอีก 3 สัปดาห์ความสุขกับเทศกาลแสงไฟแห่งศรัทธา “มหัศจรรย์แห่งความเบิกบาน” ทุกวันเสาร์-วันอาทิตย์ที่ 12-13, 19-20, 26-27 มกราคม 2562
นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสความต่างของการท่องเที่ยวช่วงกลางวัน ตั้งแต่ 9 โมงเช้า จนถึง 5 โมงเย็น จากนั้นช่วงกลางคืนตั้งแต่ 1 ทุ่ม – 4 ทุ่ม เมื่อแสงอาทิตย์มืดลงแสงไฟระยับจำนวนหลายล้านดวงก็จะเข้ามาแทนที่ โดยมีจุดดึงดูดและสร้างความตื่นตาตื่นใจให้เดินชมช่วงกลางวันและกลางคืนด้วยอารมณ์ความรู้สึกแตกต่างกันใน 8 โซน ได้แก่
โซนที่ 1 มหาราชกษัตรา นำเสนอประติมากรรมพระรูปหล่อ 3 บูรพากษัตริย์ผู้กอบกู้เอกราชไทย ตั้งตระหง่านให้นักท่องเที่ยวได้กราบสักการะ สมเด็จพระนเรศวรมหาราช สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช สมเด็จพระปิยมหาราช (พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว)
โซนที่ 2 ณ สัทธานุสรณ์ เดินชมภายในอาคาร 2 ชั้น ตกแต่งบรรยากาศแต่ละห้องโดยการปั้นหุ่นไฟเบอร์กลาสบุคคลสำคัญพร้อมการจำลองห้องทำงานเสมือนจริงของแต่ละคนมาได้อย่างสมบูรณ์พร้อมผูกโยงผลงานความโดดเด่นที่แตกต่างกันมานำเสนอ อาทิ ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช สืบ นาคะเสถียร ห้องสนทนาของ 3 ผู้นำจีน ไฮไลต์ชั้น 2 นำเสนอเรื่องราวของสมเด็จย่าด้วยรูปปั้นและพระอริยาบทที่ถอดจากภาพแต่ละในมุมที่แทบจะไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อน หากแต่มีให้ชมได้ที่ ณ สัทธา
โซนที่ 3 ณ สัทธาปฏิมา ได้จัดทำกำแพงเมือง แล้วหล่อพระพุทธรูปองค์ขนาดใหญ่ 3 สมัย ที่สะท้อนถึงความรุ่งเรืองในอดีตของประเทศไทยผ่านองค์พระพุทธรูปที่สวยงามยุค เชียงแสน สุโขทัย อยุธยา
โซนที่ 4 ถ้ำพุทธชาดก ปี 2562 นำเสนอเรื่องราวทางคติพุทธเล่าเรื่องราวชีวิตขององคุลีมาล มหาโจรผู้กลับใจเข้าสู่ธรรมะ โดยใช้ผนังถ้ำจำลองแต่ละห้องถ่ายทอดเนื้อหาผ่านแสง สี เสียง ร้อยเรียงไปกับภาพเคลื่อนไหว คล้ายภาพยนตร์การ์ตูนสลับด้วยรูปปั้น สร้างความสนุกเพลิดเพลินตลอดเส้นทาง
โซนที่ 5 อริยสัทธา สร้างกุฎิพร้อมปั้นหุ่นไฟเบอร์กลาสพระเกจิอาจารย์ดังทั่วทุกภาคของประเทศที่คนไทยเลื่อมใสศรัทธา มาไว้ในโซนนี้ โดยมีทั้งพระอริยสงฆ์รุ่นเดิม เช่น หลวงปู่ทวด หลวงปู่แหวน หลวงปู่มั่น รวมถึงพระอริยสงฆ์รุ่นใหม่ เช่น หลวงตาบัว หลวงพ่อจรัญ และหลวงพ่ออีกหลายองค์ที่อยู่ในความทรงจำของชาวพุทธ
โซนที่ 6 สัทธาถิ่นเรือนไทย สร้างและจำลองวิถีชีวิตและวัฒนธรรมความเป็นอยู่ของบ้านคนไทย 4 ภาค เหนือ ใต้ กลาง อีสาน จำลองบรรยากาศเสมือนจริงมาให้ได้สัมผัสศึกษาเรียนรู้เสน่ห์ความเป็นไทยที่มีอัตลักษณ์ความโดดเด่นต่างกัน
โซนที่ 7 ลานภิรมย์ ลานกว้างปูด้วยหญ้าเขียวขจีใต้ร่มไม้ใหญ่มีไว้เพื่อจัดแสดงศิลปะ วัฒนธรรม ตกแต่งด้วยบอนไซนานาพันธุ์
โซนที่ 8 ลานอวโลสัทธา หล่อรูปปั้นองค์พระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวรปางมหราชลีลา จำลองต้นแบบมาจากศิลปะของราชวงศ์ซ้อง สาธารณรัฐประชาชนจีน มาตั้งไว้อย่างสง่างาม เพื่อให้ผู้มีศรัทธาทั้งหลายได้สักการะก่อนเดินทางกลับ
ภายในบริเวณพื้นที่ท่องเที่ยวแมนเมดทั้ง 42 ไร่ ยังมีบริการ ห้องประชุมและจัดเลี้ยง พร้อมรับการจัดสัมมนา มีอุปกรณ์บริการครบ รวมถึงอาหารว่างและมื้อหลัก สามารถเลือกใช้สถานที่ได้ทั้งภายนอกห้องและกลางแจ้งท่ามกลางต้นไม้แสนร่มรื่น
ส่วนบริเวณ ลานไท ณ สัทธา ก็เหมาะจะทำกิจกรรมและเวิร์คช็อปในหลากหลายรูปแบบ รอบ ๆ พื้นที่มี ร้านกาแฟ หน้าน้ำตก นั่งดื่มด่ำธรรมชาติอย่างใกล้ชิด หรือจะเป็น ร้านไทยกาแฟ ในตึกทรง 8 เหลี่ยม ร้านอาหาร รสสัทธา บริการอยู่บริเวณด้านหน้าทางเข้าโครงการ
ส่วนยามค่ำคืนช่วงงานเทศกาล “มหัศจรรย์แห่งความเบิกบาน” ได้ตกแต่งบริเวณโซนอาหารพิเศษ ทั้งคาว หวาน มีทั้งอาหารถิ่นขึ้นชื่อ และขนมไทยโบราณรับประทานคู่กับชาดอกไม้ ทำสดรสชาติอร่อยมาวางจำหน่ายทุกวัน
ก่อนกลับบ้านยังสามารถแวะช้อปปิ้ง ณ ร้านสัทธาช็อป เพื่อเลือกซื้อของที่ระลึก ผลิตภัณฑ์พื้นเมือง ทั้งของใช้ แฟชั่น ของกิน ขนมพื้นบ้าน ได้ด้วย
สำหรับบัตรเข้าชม ณ สัทธา อุทยานไทย แบ่งเป็น ราคาสำหรับ “บุคคลทั่วไป” คนไทย ผู้ใหญ่ 200 บาท เด็ก 100 บาท ผู้สูงวัยและเด็กเล็กฟรี ต่างชาติ ผู้ใหญ่ 400 บาท เด็ก 300 บาท “เดินทางเป็นหมู่คณะ” ผู้ใหญ่ 25-50 คน จองล่วงหน้า คนละ 160 บาท ไม่ได้จองล่วงหน้าคนละ 180 บาท และ 50 คนขึ้นไป จองล่วงหน้าจ่ายแค่คนละ 150 บาท ไม่ได้จองล่วงหน้าคนละ 170 บาท
นอกจากนี้ยังมีบริการ เช่าชุดไทยสวมใส่เดินและถ่ายรูปตามโซนต่าง ๆ ได้ตลอดทั้งวัน ราคาเริ่มที่ 250-450 บาท แพกเกจถ่ายภาพโดยเช่าสถานที่ถ่ายทำต่างๆ วันละประมาณ 4,500 บาท ในอนาคต ณ สัทธา อุทยานไทย ยังมีที่ดินบริเวณรอยต่อให้พัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชื่อมโยงมุมใหม่อยู่อีกกว่า 50 ไร่ เพื่อทำให้ราชบุรีเป็นจังหวัดเมืองรองใกล้กรุงเทพฯ กลายเป็นดินแดนแห่งความสุขของการท่องเที่ยวเพื่อคนทั้งมวลตลอดไป
การเปลี่ยนตัวเองด้านสุขภาพร่างกาย ที่ไม่ใช่แค่เพียงเปลี่ยนให้มีรูปร่างที่ดีขึ้น แต่ยังรวมถึงการดูแลตัวเองให้อย่างสม่ำเสมอและมีความสุขเมื่อได้ออกกำลังกาย
• ขยันเหยียดแข้งเหยียดขาทุกครึ่งชั่วโมง – 1 วันควรขยับร่างกายให้ได้ครึ่งชม. เดินไปทำงาน เดินขึ้นบันไดอย่างกระฉับกระเฉง ลุกไปยืดเสีนยืดสายทุกครึ่งชั่วโมง แล้วจะพบว่าตัวเองคล่องแคล่วขึ้นแค่ไหน
• ยิ้มให้ตัวเองหน้ากระจกทุกวัน – มีผลวิจัยมายืนยันแล้ว การยิ้มกว้าง ๆ ตอนเช้าจะทำให้กล้ามเนื้อแก้มและตาที่ยกสูง 30 วินาที ส่งสัญญาณไปยังสมองเพื่อบอกว่า วันนี้มีเรื่องอารมณ์ดีเกิดขึ้นแล้ว
• คิดให้หนักหากจะใช้การกินเป็นทางออกของปัญหา – ทางที่ดีควรหาวิธีจำกัดความเครียดด้วยวิธีอื่นที่ไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพระยะยาว เช่น การวิ่ง ที่ก็แก้เครียดได้ดีเช่นกัน เป็นต้น
• เลือก ‘น้ำเปล่า’ เสมอ - เลิกนั่งทำงานทั้งวันโดยไม่จิบน้ำเลยสักอึก เปลี่ยนมาจิบน้ำบ่อย ๆ แล้วจะรู้สึกแจ่มใส มีสมาธิ จดจ่อกับงานได้มากขึ้น เพราะน้ำจะกระตุ้นสมองให้ตื่นตัว
• หยุดเข้มงวดกับเรื่องฟิตเนส - อย่าตั้งใจมากเกินไป เพราะมันจะกลายเป็นความเครียดภายหลัง อาจทำให้คุณรู้สึกไม่สนุกกับการออกกำลังกาย และสุดท้ายคุณก็จะล้มเลิกมันไปในที่สุด
ฟังข่าวท้ายชั่วโมง
ดร.ยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้ข้อสรุปสถิติตลอดปี 2561 การท่องเที่ยวภาพรวมสามารถรายได้รวมมูลค่ามากถึง 3.046 ล้านล้านบาท ยอดสูงกว่าปี 2560 ซึ่งทำได้เพียง 2.78 ล้านล้านบาท รายได้รวมทั้งหมด 3.046 ล้านล้านบาท
มาจาก “ตลาดต่างประเทศ” 1.997 ล้านล้านบาท จากนักท่องเที่ยวรวม 38.1 ล้านคน (ปี 2560 ทำได้ 35.4 ล้านคน) และ “ตลาดในประเทศ” 1.046 ล้านล้านบาท เกินกว่าเป้าที่ตั้งไว้ราว 46,000 ล้านบาท เดิมตั้งไว้ 3 ล้านล้านบาท เป็นผลมาจากกระแสการท่องเที่ยว 55 เมืองรอง จึงมีนักท่องเที่ยวคนไทยเดินทางในประเทศสูงถึง 167 ล้านคน-ครั้ง ซึ่งการเติบโตของรายได้ในเมืองรองอาจจะหลุดเป้าบ้างเล็กน้อยเติบโตโดยทำได้เพียง 7-8 % จากเดิมตั้งไว้ 10 %
ส่วนปีงบประมาณ 2562 ช่วงไตรมาส 1 ระหว่างตุลาคม-ธันวาคม 2561การท่องเที่ยวยังคงเติบโตต่อเนื่องเฉพาะธันวาคมที่ผ่านมาเพียงเดือนเดียวขยายตัวประมาณ 7-8 %
ดร.ยุทธศักดิ์กล่าวว่า เมื่อเช้าวันพฤหัสบดีที่ 10 มกราคม 2562 ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ได้หารือกับ ดร.วีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เจ้าภาพจัดการประชุม ร่วมกับผู้บริหารระดับสูง โดยมีทั้งผม ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงคมนาคม กระทรวงวัฒนธรรม เข้าร่วมหารือกันถึงการเสนอของบบูรณาการปีงบประมาณ 2563 กำหนดตัวเลขไว้เพียง 8,000 ล้านบาท นั้น
ดร.สมคิด รองนายกรัฐมนตรี ได้ขอให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นเจ้าภาพรื้อตัวเลขดังกล่าวใหม่ พร้อมทั้งทำแผนขอเสนองบบูรณาการมาใหม่อีกครั้งภายใน 2-3 เดือนหน้า โดยขอให้เสนองบบูรณาการสูงขึ้นกว่านี้ เพื่อให้สอดดล้องกับความเป็นจริงของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวซึ่งสามารถทำรายได้เข้าประเทศปีละกว่า 3 ล้านล้านบาท คิดเป็นกว่า 20 % ของจีดีพี จึงขอให้ความสำคัญ 3 เรื่องหลัก ได้แก่
1.เพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขัน ลดความเหลื่อมล้ำ ต้องดีขึ้นจากปี 2562 ต้องขยับไปอยู่อันดับที่ 33 สร้างจีดีพีของประเทศให้ได้ไม่ต่ำกว่า 20 %
2.มุ่งส่งเสริมการท่องเที่ยวชุมชน เพื่อกระจายรายได้สู่ท้องถิ่น 3.สนับสนุนเข้าถึงเส้นทางคมนาคมต่าง ๆ เพื่อการท่องเที่ยวอย่างจริงจัง ทั้งทางบก ทางอากาศ การเชื่อมรถไฟชุมพร ระนอง โครงการไทยแลนด์ ริเวียร่า สำหรับการเสนอของบบูรณาการจะใช้ในเชิงยุทธศาสตร์
แนวทางการเสนอของบประมาณบูรณาการปี 2563 เน้นโครงสร้างพื้นฐาน ความปลอดภัย สิ่งแวดล้อม เพื่อปูพรมสร้างความมั่นคงยั่งยืนของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวระยะยาวเป็นงบประมาณที่จะสามารถใช้ได้ตั้งแต่ตุลาคม 2562 เป็นต้นไป โดยขอให้ไปทบทวนใหม่ เพราะการท่องเที่ยวถือเป็นกลไกผลักดันเศรษฐกิจ สร้างความสุขอย่างเท่าเทียมแก่ท้องถิ่น โดยใช้ตัวชี้วัด 3 อย่าง
1.เพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขัน ลดความเหลื่อมล้ำ
2.ต้องปรับให้ดีขึ้นจากปี 2562 ขยับการสร้างสัดส่วนรายได้ท่องเที่ยวในจีดีพีของประเทศไปอยู่อันดับที่ 33 ทำให้ได้มากกว่า 20 %
3.สัดส่วนการกระจายรายได้ระหว่าง เมืองท่องเที่ยวหลัก กับ เมืองท่องเที่ยวรอง จะต้องกระจายสัดส่วนใหม่เป็น 80-20 จากปัจจุบัน 90-10 จะพิจารณาโดยให้ความสำคัญกับการลงทุนท่องเที่ยวเมืองรองเพิ่มขึ้น
ทั้งนี้ ดร.สมคิด ได้มอบหมายให้รัฐมนตรีว่าการและปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กลับไปทบทวนแผนนโยบายให้ชัดเจนอีกครั้ง เพื่อให้เป็นไปตามเป้าหมายการกระจายรายได้ตามที่กล่าวมา ลดความเหลื่อมล้ำ กระจายรายได้สู่ฐานรากอย่างเต็มที่ ผู้ว่าฯ ยุทธศักดิ์กล่าวย้ำว่า แผนกลยุทธ์การตลาดท่องเที่ยวเพื่อเพิ่มรายได้การท่องเที่ยวตั้งแต่ปี 2562 เป็นต้นไป จะพุ่งเป้าเพิ่มรายได้จากการให้นักท่องเที่ยวจ่ายเงินต่อคนต่อทริปเพิ่มขึ้น เนื่องจากขีดความสามารถทางการรองรับผู้โดยสารของสนามบินนานาชาติทุกแห่งเต็มเกือบหมดแล้ว ไม่ว่าจะเป็นสุวรรณภูมิ ขณะนี้ต้องเร่งสร้างรันเวย์ที่ 3 เช่นเดียกับดอนเมือง ภูเก็ต หาดใหญ่ เชียงใหม่ เชียงราย
ผู้ว่าการ ททท.ย้ำว่า ขณะนี้ ททท.เองต้องมองข้ามช็อตถึงการเร่งโกยรายได้ไตรมาส 1-2 ปี 2562 ระหว่าง มกราคม-เมษายน เพราะผลจากความสุกงอมของสถานการณ์เศรษฐกิจโลกระหว่างจีนกับสหรัฐอเมริกา ซึ่งไม่สามารถคาดเดาได้ แต่ค่าเงินบาทแข็งขึ้นจะไม่กระทบมากนัก
ดังนั้น ททท.ต้องเร่งกระตุ้นการท่องเที่ยวทุกรูปแบบในช่วงเทศกาลต้นปีทั้ง เทศกาลเที่ยวเมืองไทย 23-27 มกราคม ตรุษจีนวันที่ 5 กุมภาพันธ์ และสงกรานต์ 13-15 เมษายน 2562 จะบุกตลาดอาเซียนและเอเชีย เจาะกลุ่มเดินทางท่องเที่ยวไทยครั้งแรก ขณะที่จีนก็น่าจะทำได้ในช่วง 4 เดือนแรกปีนี้รวมไม่ต่ำกว่า 2.7 ล้านคน เพราะช่วงการเดินทางสูงสุดตรุษจีนทำได้วันละประมาณ 50,000 คน ส่วนตลาดระยะไกลในยุโรป อเมริกา ก็จะไปเน้นการพักผ่อนช่วงฤดูร้อนเพิ่มขึ้นต่อไป
มาสเตอร์การ์ด' เปิดเผยถึง ผลสำรวจประจำปี 2561 เมืองสุดยอดจุดหมายปลายทางด้านอาหารและการช็อปปิ้ง ปรากฏว่า 'กรุงเทพฯ' คว้าตำแหน่งต้น ๆ ที่สร้างความฮือฮาต้อนรับเปิดศักราชใหม่ โดยติดอันดับ 3 ของเมืองที่มีการใช้จ่ายด้านอาหารมากที่สุด ค่าใช้จ่ายเฉลี่ย 108,000 ล้านบาท (3,380 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) หรือคิดเป็น 20.6 % ของค่าใช้จ่ายทั้งหมด ส่วนอันดับ 1 คือ ดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ค่าใช้จ่ายเฉลี่ย 190,000 ล้านบาท (5,940 ล้านดอลลาร์สหรัฐ อันดับ 3 เมืองปัลมา เกาะมายอร์กา สเปน 121,000 ล้านบาท (3,780 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ)
กรุงเทพฯ ติดอันดับ 6 เมืองที่มีการใช้จ่ายด้านการช็อปปิ้งมากที่สุด ค่าใช้จ่ายเฉลี่ย 120,000 ล้านบาท (3,750 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ) คิดเป็น 23 % ของค่าใช้จ่ายทั้งหมด
และกรุงเทพฯ ยังติดเมืองสุดยอดจุดหมายปลายทางอันดับ 1 ของโลก ต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 โดยมีภูเก็ตติดอันดับ 12 และพัทยาติดอันดับ18
ข่าวที่สาม “7สนามบินทั่วไทยเปิดบริการAPMส่งทั่วโลก”
นางอัมพวัน วรรณโก อธิบดีกรมท่าอากาศยาน กระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ได้ร่วมมือกับ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด ติดตั้งเครื่องบริการไปรษณีย์อัตโนมัติ (Automated Postal Machine : APM) เพื่อให้บริการแก่ประชาชน ในสนามบินภูมิภาคทั่วประเทศตามแผนปี 2562 จะกระจายให้ทั่ว 7 สนามบิน รวม 9 เครื่อง ซึ่งอยู่ระหว่างการติดตั้งและทดสอบระบบ ได้แก่ กระบี่ 2 เครื่องนครศรีธรรมราช 1 เครื่อง สุราษฎร์ธานี 1 เครื่อง อุดรธานี 2 เครื่อง ขอนแก่น 1 เครื่อง อุบลราชธานี 1 เครื่อง และแม่สอด 1 เครื่อง ภายในปี 2563 จะติดตั้งเพิ่มให้ครบอีก 10 แห่ง
บริการดังกล่าวเพื่อเปิดทางเลือกที่ดีให้ผู้โดยสารที่มีแบตเตอรี่สำรอง หรือ สิ่งของต้องห้ามอื่นที่ไม่สามารถถือขึ้นเครื่องได้ เข้ามาใช้จัดบริการไปรษณีย์ด่วนพิเศษ (EMS) ชิ้นละ 50 บาท รวมถึงส่งไปยังต่างประเทศด้วยบริการไปรษณีย์ลงทะเบียนระหว่างประเทศราคาชิ้นละ 450 บาท ผ่านเครื่องบริการไปรษณีย์เอพีเอ็ม น้ำหนักไม่เกินชิ้นละ 10 กิโลกรัม
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานลพบุรี รายงานว่า ได้กิจกรรมการกุศล “ลพบุรีแฟนซีคอนเสิร์ต รฦก 333 ปี ละโว้ธานี - ฝรั่งเศส” วันอาทิตย์ที่ 13 มกราคม 2562 เริ่ม 17.00 น.เป็นต้นไป จัด ณ พระนารายณ์ราชนิเวศน์ อ.เมือง จ.ลพบุรี จึงขอชวนแต่งไทยไปร่วมงานฟรี
ภายในงานได้จัดเสวนาเกร็ดประวัติศาสตร์ ความรุ่งเรืองในสมัยแผ่นดินสมเด็จพระนารายณ์มหาราช โดย ศ.พิเศษ ธงทอง จันทรางศุ อ.ภูธร ภูมะธน อ.อารี สวัสดี, การเดินแบบผ้าไทย โดยนักแสดงแบบกิตติมศักดิ์ ชมการแสดงดนตรีซิมโฟนีคอนเสิร์ต การแสดงแสง เสียง และกิจกรรมมากมาย
ติดตามฟังรายการได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ 11.00-12.00 น.ทาง สวท.FM 97.0 MHz.
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น