ททท.ตะวันออกยกMore Fun 9 จังหวัดบุกกรุง จัดหนักเทศกาลเที่ยวเมืองไทย 23-27 ม.ค.62-เที่ยวหาดทรายดำ 1ใน5ของโลก

ททท.ตะวันออกยกMore Fun9จังหวัดบุกกรุง

 ชิงจัดหนักในเทศกาลเที่ยวเมืองไทย23-27ม.ค.
คิงเพาเวอร์แจกของขวัญตั๋วลดทั่วโลก-ยอร์ชไทย
 ประกาศปรับโฉมใหม่รางวัลกินรีท่องเที่ยวปี’62 
ททท.เพิ่ม5เส้นทางต่อยอดท่องเที่ยวคนทั้งมวล
 บางจากเปิดปั๊มขายไข่เกษตรกร-แจกโต๊ะเรียน 
เที่ยวไทย1ใน5ของโลกที่หาดทรายดำ จ.ตราด 
เคล็ดลับป้องกันโรคหวัดยุคฝุ่นตลบด้วยการกิน 
ททท.ชูTME3สร้างท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบ
 รฟท.ฝันผุดยูนิเวอร์แซลขอนแก่นรับไฮสปีดจีน
 นกสกู๊ตเพิ่มฝูงบินหวังโกยตลาดขาใหญ่4ชาติ 

 “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ต้อนรับเข้าสู่รายการ "รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์" ในวันอาทิตย์ที่ 13 มกราคม 2562 เวลา 11.00-12.00 น.ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังได้ทางมือถือ และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen และบล็อกเกอร์ #gurutourza #สวท97 #รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์ 

ช่วงที่ 1 ล้วงลึก “วิบูลย์ นิมิตวานิช” ผู้อำนวยการ ภูมิภาคภาคตะวันออก การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จะมาไขความลับว่าปีหมูทอง 2562 ทั้ง 9 จังหวัดที่อยู่ในความดูแลจะเคลื่อนทัพ MORE FUN แบบจัดเต็ม โดยจะยกการท่องเที่ยวสีสันใหม่ของทั้งภาคมาไว้ในงาน “เทศกาลเที่ยวเมืองไทย ประจำปี 2562” ระหว่าง 23-27 มกราคม 2562 ยึดสวนลุมพินี โปรโมต แพกเกจท่องเที่ยว 20 เส้นทาง อาหารถิ่นเมนูของแต่ละชุมชนหนึ่งเดียวในเมืองไทย กิจกรรม D.I.Y.จากใต้ทะเลสู่พื้นราบ ซั้งเชือกบ้านปลา-อีแปะบ้านหอย-มะโหด บ้านตะเคียนเตี้ย พบกับ More Fun Café จะฟินขนาดไหนต้องแวะมาที่โซน ททท.ภาคตะวันออก ได้ทุกวัน แล้วมาลุ้นรับ “ริชแบนด์” และของรางวัลเพียบ

วิบูลย์ นิมิตวานิช
 ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคตะวันออก การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) 

 “วิบูลย์ นิมิตวานิช” ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคตะวันออก การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า วางกลยุทธ์ขับเคลื่อนการตลาดท่องเที่ยวต้อนรับศักราชใหม่ปี 2562 ตั้งเป้าชูแคมเปญ More Fun การท่องเที่ยวแสนสนุกโดยใช้กิจกรรมธรรมดาทำเป็นเรื่องเล่นแสนสนุกมาเติมสีสันให้ชีวิตในพื้นที่ที่ภูมิภาคภาคตะวันออกดูแล 9 จังหวัด ซึ่งมีพื้นที่เลียบชายฝั่งทะเล ชลบุรี ระยอง จันทบุรี ตราด จะสุขสันต์ด้วยธีมทะเล เริ่มจากพัทยา ชลบุรี มีทะเลสวยงาม ความหรูหราการล่องเรือยอร์ช สนุกสนาน ขณะเดียวกันก็มีกิจกรรมใหม่ ๆ การเล่นเรือใบ เก็บไข่ ทำสวนครัว เลี้ยงมา ที่อลาคัมปาณ หรือผู้ใหญ่ก็สามารถไปเรียนรู้การชงชาอย่างเข้าถึงการลิ้มรสอย่างได้อารมณ์

 “ระยอง” เป็นจังหวัดที่มีบรรยากาศให้นักท่องเที่ยวได้ดื่มด่ำกับผืนป่าติดทะเลอุดมสมบูรณ์ เช่น ป่าวังจันทน์ ปตท.ได้นำองค์ความรู้กว่า 20 ปีจากการปลูกป่าทั่วประเทศมาใช้ให้เกิดประโยชน์ เปิดให้นักท่องเที่ยวได้เดินชมดอกไม้สวยงาม

 “จันทบุรี” เป็นเมืองเต็มไปด้วยความสนุกสนานกับทั้งเรื่อง การกิน วิถีชุมชนริมน้ำจันทบูร ชุมชนขนมแปลก ตลาดใหม่ ชื่อตลาดทุบหม้อ มีวัดพลับ บริเวณบางกะจะเป็นแหล่งร่อนพลอยแหวน เพชร เพราะคนจันทบุรีรวยจริง เมื่อขุดจากชั้นหินแล้วมาร่อนล้างน้ำจะได้พลอย ซึ่งเปิดให้นักท่องเที่ยวร่วมสนุกเพียงจ่ายแค่คนละ 100 บาท ก็สามารถลุ้นรับพลอยจากการลงไปร่อนด้วยตนเอง แต่จะได้พลอยขนาดเม็ดเล็กหรือใหญ่ก็ต้องได้ทุกครั้ง

 รวมทั้งมีตลาดน้องใหม่ เพิ่มขึ้นมาอีกแห่ง ต่างจากเดิมนักท่องเที่ยวมักนิยมไปโบสถ์คริสต์ ตอนนี้มีตลาดหลังวัดโรมัน พบกับเมนูอาหารถิ่นหมูอบโอ่ง ซึ่งเป็นหมูกรอบของคุณตาคุณยายทำจากสูตรพิเศษเสิร์ฟจนถึงมื้อเที่ยงในแต่ละวัน ด้วยบริเวณตลาดแห่งนี้เป็นชุมชนชาวญวนก็จะมีขนมโบราณให้ชิม อาทิ ขนมโบ๋ ขนมต่าง ๆ มาจำหน่าย และบันเชฟ คล้ายขนมโก๋ มีกลิ่นหอม

 โดยเฉพาะใน “อำเภอขลุง” มี “ตลาดตะปอน” ซึ่งเกิดขึ้นจากชาวบ้านได้นำผลผลิตมาแลกเปลี่ยนการค้าขายระหว่างกัน “ตราด” คือจังหวัดที่ต้องไปท่องเที่ยว ชุมชนบ้านน้ำเชี่ยว มีสะพานวัดใจ เมื่อไปถึงนักท่องเที่ยวจะสามารถข้ามไปอีกฝั่งได้หรือไม่ แล้วยังมีกิจกรรมสานงอบ อาหารการกิน ไฮไลต์คือข้าวเกรียบฮาน่า ส่วนที่ชุมชนแหลมยายม่อม มีสปาทรายดำ และในท่าระแนะ สามารถล่องเรือไปดูป่าโกงกาง หากน้ำลดสามารถเดินเล่นได้เลย โดยสามารถนำลูกตะบูนมาโยนเล่นเป็นโบลิ่งได้ 

ขณะเดียวกันตราดมี 2 ส่วน อีกส่วนอยู่ในอำเภอบ้านคลองใหญ่ มีชุมชนชวนน่ารัก ๆ อยู่ด้วย 

วิธีการท่องเที่ยวจังหวัดตราด แนะนำให้แวะ “พิพิธภัณฑ์เมืองตราด” ได้จัดทำข้อมูลเรียบเรียงไว้เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้ศึกษาเรียนรู้ก่อนจะเดินทางไปตามแหล่งท่องเที่ยว เกาะช้าง เกาะกูด เกาะหมาก ก็เป็นแหล่งท่องเที่ยวไฮไลต์อยู่แล้ว 

ข้ามมายังฝั่งใกล้กรุงเทพฯ อีก 3 จังหวัด ได้แก่ นครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว นักท่องเที่ยวสามารถสนุกสนานในสไตล์ More Fun ได้เช่นกัน 

เริ่มจาก “นครนายก” บริเวณแหล่งท่องเที่ยวในโรงเรียนนายร้อย จปร.มีสถานีวัดใจนักท่องเที่ยวในการกระโดดหอแล้วรับปีกเป็นผู้กล้าไปด้วย หรือจะขับรถ ATV ท่องเที่ยวเชิงผจญภัยกลางธรรมชาติ ล่องแก่งต่าง ๆ ก็สามารถทำได้ตามความชอบ รวมถึงยังมีเขื่อนขุนด่านปราการชล แหล่งศึกษาเรียนรู้โครงการพระราชดำริ 

“ปราจีนบุรี” เป็นอีกพื้นที่ซึ่งมีสถานที่ท่องเที่ยวน้องใหม่ “ภูมิภูเบศร์” เป็นสวนสมุนไพรและภูมิปัญญาสุขภาพ อยู่ในเครือข่ายของโรงพยาบาลอภัยภูเบศร์ ที่นี่จะมีหมอพลอย สมัยรัชกาลที่ 5 ซึ่งยกเรือนหมอจากสี่พระยาไปตั้งไว้ เป็นเสน่ห์ดึงดูดความสนใจ โดยมีกิจกรรมให้นักท่องเที่ยวร่วมทำ D.I.Y.ยาดมสมุนไพร สำหรับไฮไลต์อีกกิจกรรมการดองยา กล้วยดองน้ำผึ้งจนกลายเป็นไวน์ผลไม้ แถมมีสรรพคุณรักษาโรคได้ด้วย ซึ่งเป็นเรียนรู้สมุนไพรไทยมีคุณประโยชน์มากมายในชีวิตประจำวัน

 ขณะที่ “สระแก้ว” แนะนำให้ไปชมปราสาทสด็อกก๊อกธม สวยงามมาก ส่วนในเมืองก็จะมีร้านกาแฟชิค ๆ เก๋ ๆ รวมทั้งในบริเวณตัวเมืองมีไฮไลต์โรงเรียนควายกาสรกสิวิทย์ เปิดสอนควายซึ่งปัจจุบันไถนาไม่เป็นแล้วต้องเข้ามายังโรงเรียนแห่งนี้ ภายในโรงเรียนมีเครื่องดื่มขึ้นชื่อต้องชิม 2 เมนู คือ ควายคะนอง กับควายเผือก ประการสำคัญอาหารอร่อย 

นอกจากนี้สระแก้วยังมีแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมอย่าง ตลาดโรงเกลือ ชุมชนละลุ ให้นักท่องเที่ยวได้ไปดูยุคหินโปร่งกัน 

ข้ามมาที่ “จังหวัดฉะเชิงเทรา” ความโดดเด่นมาก คือ ไหว้พระ หลวงพ่อโสธร หรือจะไปวัด เล่งฮกยี่ เป็นส่วนท้องมังกร โดยมีความเชื่อมโยงกับวัดเล่งเน่ยยี่ ในกรุงเทพฯ ซึ่งเป็นส่วนของหัวมังกร และวัดเล่งฮั่วยี่-วัดมังกรบุปผาราม เป็นท้ายมังกร อยู่ในอำเภอขลุง จันทบุรี 

ในฉะเชิงเทรายังมีหลวงพ่อโต และมีองค์เทพ เช่น พระพิฆเนศซึ่งเป็นเทพแห่งความสำเร็จ มีทั้งปรางค์ที่เป็น องค์ยืน องค์นั่งเสวยสุข อยู่ในวัดสมาน อำเภอบางคล้า ไว้ให้สักการะ ในตัวเมืองฉะเชิงเทรามีจุดขายการท่องเที่ยวเชิงเกษตรขึ้นชื่อ คือ สวนมะม่วง 3 สายพันธุ์ ได้แก่ มะม่วงน้ำดอกไม้ เขียวเสวย และพันธุ์ล่าสุดคือมะม่วงแรดหารับประทานได้ยากมาก รสกลมกล่อม 3 รส เปรี้ยว หวาน มัน ขณะเดียวกันก็จะยังมีบริการล่องเรือท่องเที่ยวแม่น้ำบางปะกง

 “สมุทรปราการ” เป็นอีกจังหวัดที่มากด้วยเสน่ห์ใกล้กรุง ที่บ้านสาขลา ตำบลนาเกลือ อำเภอพระสมุทรเจดีย์ มีชื่อเสียงโด่งดังมากเรื่องการทำเมนูอาหารกุ้งเหยียด ชิมเสร็จก็ไปเดินชมรอบวัดสาขลา มีองค์เทพสวยงาม โดยเฉพาะพระพิฆเนศหลายปาง นับเป็นศิลปะสวยงามมาก จากนั้นข้ามมายัง “ตลาดน้ำบางน้ำผึ้ง” ชุมชนอาหารอร่อยมีอาหารถิ่นทั้งคาวหวานให้เลือกรับประทาน บริเวณใกล้ ๆ กันยังมี “คลองลัดโพธิ์” คลองช่วยในการระบายน้ำจากภาคเหนือสู่อ่าวไทย ลักษณะเด่นคือประตูหากชันน้อยจะปล่อยน้ำน้อยและชันมากจะปล่อยน้ำได้มาก

 ทั้งหมดเป็นเสน่ห์ความสนุกสนานกับการท่องเที่ยวภาคตะวันออก 9 จังหวัด ซึ่งนักท่องเที่ยวจะไม่ลืมความน่าเบื่อไปได้เลย เพราะแต่ละจังหวัดทุกเส้นทางจะได้รับอรรถรสความสนุกครบทุกรูปแบบ ทั้งสนุกกับการท่องเที่ยว การกิน ความท้าทายผจญภัยในรูปแบบต่าง ๆ 

นับจากนี้ไปอีก 9 เดือนข้างหน้า มกราคม-กันยายน 2562 รับประกันเที่ยวภาคตะวันออก สนุกทุกจังหวัด

 ผอ.วิบูลย์อธิบายว่า เตรียมยกจุดขายของการท่องเที่ยวภาคตะวันออกทั้ง 9 จังหวัด มาให้นักท่องเที่ยวได้ชิมลางชมได้ทุกเรื่องในงาน “เทศกาลเที่ยวเมืองไทย ประจำปี 2562” ซึ่ง ททท.ร่วมกับกรุงเทพมหานคร และเครือข่ายพันธมิตรทั้งภาครัฐและเอกชน จัดมหกรรมความสนุกขึ้นใจกลางกรุง ณ สวนลุมพินี แบบครบวงจร ตลอด 5 วัน ระหว่างวันที่ 23-27 มกราคม 2562

 ในบริเวณพื้นที่โซน ททท.ภาคตะวันออก จะยกวิถีชุมชน เมืองหลัก เมืองรอง ดาหน้ากันเข้ามานำเสนอจุดขายการท่องเที่ยวเด่น ๆ ทั้งเรื่อง กิจกรรมสาธิต เช่น ชุมชนตะเคียนเตี้ย จ.ชลบุรี จะมาโชว์การทำอาหารถิ่นขึ้นชื่อเมนู “ไก่กะลา” กิจกรรมถ่ายภาพของกลุ่ม Street Art จันทบูร จันทบุรี หรือเมนูการทำข้าวเกรียบยาหน้าของชุมชนบ้านน้ำเชี่ยว จ.ตราด หรือในระยอง จะโชว์การทำซั้งเชือกซึ่งเป็นกิจกรรมสร้างบ้านให้ปลา ส่วนใหญ่ทางระยอง พัทยา ชลบุรี จะนิยมรณรงค์ให้นักท่องเที่ยวเข้ามามีส่วนร่วมทำซั้งเชือกเพื่อให้ปลาได้วางไข่ขยายพันธุ์ให้ได้รับประทานจำนวนมาก ซึ่งจะต้องใช้ความอดทนคลี่เชือกก่อนจะทำซั้งแต่ละเส้น 

ทางด้าน “อ่าวคุ้งกะเบน” เตรียมนำเสนอกิจกรรมการทำอีเปะหย่อนลงไปในทะเลเป็นการสร้างบ้านให้หอยได้ขยายพันธุ์ด้วยเช่นกัน 

นอกจากนี้ยังมี “ซุ้มโอท็อป” 9 จังหวัด “ซุ้มอาหาร” เด่นต่าง ๆ มานำเสนอถึงความมีชื่อเสียงเรื่องผลไม้ภาคตะวันออกขึ้นชื่อทั้ง มะม่วง สับปะรด สละ มะพร้าว เมล่อน และอาหารคาว ก็มี กุ้งแม่น้ำเผา หอยนางรมของฟาร์มลุงทมป้าหลุย ข้าวคลุกพริกเกลือ ก๋วยเตี๋ยวกั้ง หอยจ๊อ ก๋วยเตี๋ยวปากหม้อ กุ้งเหยียด รวมทั้งอาหารทะเลอื่น ๆ โซนเครื่องจักรสาน และโซน “จิวเวอรี่ จันทบุรี” แหล่งหุงพลอยทำให้สีของพลอยมีความสวยงามแตกต่างกัน สามารถเจียระไนแล้วติดบนตัวเรือนเครื่องประดับได้ 

ไฮไลต์ภายในงานเทศกาลเที่ยวเมืองไทย ประจำปี 2562 ตลาดในประเทศทั้ง 5 ภูมิภาค ได้จัดทำการนำเสนอขายท่องเที่ยว 90 เส้นทาง สำหรับ “ททท.ภูมิภาคภาคตะวันออก” มีเส้นทางท่องเที่ยวตัวอย่าง เช่น ตราด More Fun & Fin ชวนเที่ยวพื้นราบ เรียนรู้พิพิธภัณฑ์เมืองตราด ก่อนข้ามไปเที่ยวเกาะกูด สนุกสนานกับการดำน้ำ และชมบ้านน้ำเชี่ยว (ตราด) ศูนย์รวมชุมชน 2 ศาสนา พุทธ มุสลิม ใน 3 วัฒนธรรม ไทย จีน อิสลาม จากนั้นก็ไปชิมข้าวเกียบยาหน้ารสชาติไม่เหมือนใคร

 ทางด้าน “จันทบุรี” นำเสนอเส้นทางท่องเที่ยว “กิน เที่ยว ช็อป เช็ด” คำว่า เช็ด หมายถึงต้องกินให้หมด เป็นพื้นที่ใหม่ เที่ยวชุมชนเกษตรออร์แกนิกนั่งซาเล้งชมสวนต่าง ๆ ตามฤดูกาล เช่นหน้าทุเรียน เงาะ มังคุด และการเลี้ยงชันรงค์เป็นผึ้งพันธุ์ตัวเล็กเลี้ยงในแบบเฉพาะเป็นตัวผสมเกสรตามสวนผลไม้ สามารถชมชิมความหอมหวานน้ำผึ้งชันรงค์ ที่นี่จะมีลักษณะของ Chef Table โดยชาวบ้านจะทำอาหารกลางสวนชวนชิมมื้อกลางวันกลางสวนผลไม้ 

และแวะชมตลาดต่าง ๆ อาทิ ตลาดทุบหม้อ มีเมนูขาดไม่ได้ คือก๋วยเตี๋ยวน้ำกุ้งผัดของยายลั้ง จะมาปรากฎตัวปรุงเมนูอาหารถิ่นให้นักท่องเที่ยวได้ชิมในงานเทศกาลเที่ยวเมืองไทย และการทำ D.I.Y.ไปหาพลอยเมืองจันทบุรี หรือจะแวะไปดูกรรมวิธีของลุงทมป้าหลุยที่เปิดฟาร์มเลี้ยงหอยนางรมอย่างไรให้กลายเป็น “หอยนางรมยักษ์” เพื่อการเรียนรู้วิถีชาวประมงที่ดำลงใต้ทะเลนำหอยสด ๆ มาให้ชิมถึงในกรุง สนนราคาขายเพียงตัวละ 150 บาท แตกต่างจากกรุงเทพขายราคาตัวละ 300 บาทขึ้นไป 

นอกจากนี้ยังมีการแสดงความสนุกสนาน นำเสนอในรูปแบบ “สวนสนุก” และอีกไฮไลต์คืออยากให้มาสัมผัสกับ “More Fun Cafe” มิใช่ร้านกาแฟแต่เป็นร้านขายน้ำผลไม้ปั่น มะพร้าว สละ สับปะรด มะปรี๊ดหรือน้ำส้มจี๊ดรสชาติเปรี้ยวโดนใจ ผสมกับกาแฟ ทำเค้กมะปรี๊ด ซึ่งเป็นอีกเสน่ห์ แต่ละร้านจะมีสูตรผสมแตกต่างกันไป เมื่อดื่มแล้วจะตื่นตัว สดชื่นทันที

ขณะเดียวกันก็มีโซนให้ปีนผา หรือเด็ก ๆ ที่อยากรู้ว่ามีฝีมือทำพิซซ่าด้วยตนเองก็ได้ที่ มิมูราห์ฟาร์ม เปิดให้ปรุงหน้าพิซซ่า นำไปอบเตาถ่าน สุกแล้วรับประทานได้เลย ทุกกิจกรรมที่นำมาเสนอในงานเทศกาลเที่ยวเมืองไทย สามารถแวะมาร่วมกิจกรรม D.I.Y.ได้ตลอด แต่ขอแนะนำให้แวะไปก่อนเที่ยง เพราะคิวอาจจะแน่นมาก พบกับความสนุกสนานของ เทศกาลเที่ยวเมืองไทย ในโซน ภูมิภาคภาคตะวันออก ได้ตลอดงาน ระหว่างวันที่ 23-27 มกราคม 2562 

ผอ.วิบูลย์ กล่าวว่า จะชวนไปทำกิจกรรมที่สนุกสนานและได้ประโยชน์กับการท่องเที่ยวเชิงเพื่อสู่สังคม CSR การทำซั้งเชือกสร้างบ้านปลา ทำอีเปะสร้างบ้านหอย ในชุมชนจะเตรียมอุปกรณ์ต่าง ๆ ไว้ให้ หรือจะไปตัดพวงมะโหดที่บ้านตะเคียนเตี้ย ชลบุรี ก็ได้ ปี 2562 ตลอดงาน ททท.ภูมิภาคภาคตะวันออก จะรณรงค์ให้นักท่องเที่ยวที่เข้าชมงานร่วมโครงการ “ลด โลก เลอะ” ลดการใช้พลาสติก โฟม แล้วหันมาใช้ภาชนะที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม กระบอกน้ำ ถุงผ้า ถุงกระดาษ ปิ่นโต หากต้องการสนุกกับการลด โลก เลอะ ก็ร่วมสนุกได้เพื่อลุ้นรับอุปกรณ์ดังกล่าวไปใช้ในงาน 

ซึ่งในโซน ททท.ภาคตะวันออก มีความพิเศษในการเตรียม “ริชแบนด์” สีสันสดใสไว้ให้โดยบรรจุข้อมูลการท่องเที่ยวของภาคตะวันออกทั้งหมด

 หลังจากนักท่องเที่ยวได้เข้าไปเยี่ยมชมภูมิภาคภาคตะวันออก ทั้ง 9 จังหวัด ในงานเทศกาลเที่ยวเมืองไทย เสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็จะได้เกิดไอเดียนำไปวางแผนการเดินทางท่องเที่ยวภาคตะวันออกต่อเนื่องตลอดทั้งปี 2562 

ฟังข่าวต้นชั่วโมง 

ข่าวที่ 1 “คิงเพาเวอร์แจกของขวัญส่วนลดตั๋วบินทั่วโลก-ล่องยอร์ชไทย” 

กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ มอบของขวัญต้อนรับศักราชใหม่ปี 2562 ให้แก่สมาชิกบัตร คิง เพาเวอร์ รับสิทธิ์เดินทางแบบไม่มีวันสิ้นสุด ตั้งแต่วันนี้ – 31 ธันวาคม 2562 สามารถแสดงบัตรเพื่อซื้อตั๋วของสายการบินเอทิฮัด แอร์เวย์ส ชั้นธุรกิจ และชั้นเฟิร์สคลาส ลด 30% และ ชั้นประหยัด ลด 15% ในเส้นทาง ไป-กลับ กรุงเทพฯ สู่ ยุโรป ได้แก่เมือง บรัสเซลส์ แมนเชสเตอร์ โรม แฟรงก์เฟิร์ต เจนีวา ลอนดอน มิลาน มิวนิค ปารีส ซูริค เส้นทางอเมริกา ลอสแอนเจลิสและนิวยอร์ก และซื้อตั๋วสายการบินชั้นนำเส้นทางอื่น ๆ ได้สิทธิ์รับส่วนลดสูงสุด 20% อาทิ กาตาร์แอร์เวย์ส บริติชแอร์เวย์ส ไชน่า แอร์ไลน์ส สิงคโปร์ แอร์ไลน์ส และอื่น ๆ 

โปรโมชั่นนี้สอบถามเส้นทางเพิ่มที่ Amber Air Travels โทร. 0 2168 7300 – 9 (วันจันทร์ – วันศุกร์ 8.30 – 17.00 น.) หรือ www.amber.co.th 

 สิทธิพิเศษที่ 2 ของสมาชิกบัตรคิง เพาเวอร์ ระหว่างวันนี้ – 31 ธันวาคม 2562 สัมผัสประสบการณ์ล่องเรือยอร์ชสุดหรู ที่ควรจะลองสักครั้งในชีวิต เพลิดเพลินกับหลากหลายกิจกรรม เช่น ดำนํ้าตื้น ตกปลา พายเรือ ดื่มดํ่ากับบรรยากาศพระอาทิตย์ตกดิน พร้อมปิ้งย่างบาบีคิว โดยขึ้นเรือได้ที่โอเซียนมารีน่า ยอร์ช คลับ พัทยา สมาชิกบัตรประเภท CROWN & VEGA ลด 10% สมาชิก SCARLET & ONYX ลด 5% จากราคาพิเศษลำละ 130,000 บาท เป็นราคาที่ไม่รวมบัตรเข้าโซนท่าเรือ อุปกรณ์อื่น ๆ เสื้อชูชีพ และภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% 

สอบถามเพิ่มโทร. 0 922 700 754 และ 0 642 495 159 Line Official : @skyandsea9559 หรือ www.skyandseathailand.com 

ข่าวที่ 2 “ททท.ปรับโฉมใหม่ลดประเภทการชิงรางวัลกินรีปี’62” 

ดร.ยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ ททท.ได้เปิดรับสมัครผู้ประกอบการท่องเที่ยวทั่วประเทศเข้าร่วมเสนอชื่อและผลงาน เพื่อชิงรางวัล “อุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย : Thailand Tourism Awards) ครั้งที่ 12 ประจำปี 2562” ระหว่างวันที่ 1 กุมภาพันธ์ - 30 เมษายน นี้ กำหนดจัดพิธีมอบรางวัลวันที่ 27 กันยายน 2562 เพื่อให้เป็นกิจกรรมส่วนหนึ่งของวันการท่องเที่ยวโลก : World Tourism Day) การจัดประกวดปี 2562 Thailand Tourism Awards ได้ปรับโฉมให้สอดคล้องกับสถานการณ์โดยปรับรางวัลหลัก เหลือเพียง 3 ประเภท และรางวัลย่อย 12 สาขา 

โดยมีนายสุวรรณชัย ฤทธิรักษ์ ประธานคณะกรรมการพิจารณาและตัดสินรางวัล โดยประกาศใช้เกณฑ์การตัดสินให้สอดคล้องกับพฤติกรรมและความต้องการของนักท่องเที่ยว และทำให้รางวัลเป็นเครื่องมือยกระดับคุณภาพสินค้าการท่องเที่ยวไทยควบคู๋กันไปด้วย ดูรายละเอียดพร้อมเงื่อนไขการเข้าร่วมโครงการและสมัครทางออนไลน์หรือดาวน์โหลดใบสมัครที่ www.tourismthailand.org/tourismawards หรือ www-epl.facebook.com/thailandtourismawards 

กรณีผู้ไม่สะดวกสมัครทางออนไลน์ สามารถส่งใบสมัครพร้อมเอกสารประกอบการคัดเลือกได้ด้วยตนเองหรือ ทางไปรษณีย์ ได้ที่ กองส่งเสริมสินค้าการท่องเที่ยว การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เลขที่ 1600 ถนนเพชรบุรีตัดใหม่ แขวงมักกะสัน เขตราชเทวี กรุงเทพฯ 10400 หรือ สำนักงาน ททท. ส่วนภูมิภาคทั่วประเทศ วงเล็บมุมซอง “การประกวดรางวัลอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย ครั้งที่ 12 ประจำปี 2562” 

ข่าวที่ 3 “ททท.ต่อยอด5เส้นทางปลุกกระแสเที่ยวเพื่อคนทั้งมวล” 

ดร.ยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า เปิดเผยว่าได้ขยายและต่อยอดเส้นทางในโครงการ “การท่องเที่ยวเพื่อคนทั้งมวล : Tourism for All” เพิ่มอีก 5 เส้นทาง ได้แก่ 1.ภาคกลาง-จังหวัดราชบุรี 2.ภาคตะวันออก-จังหวัดชลบุรี 3.ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ-จังหวัดเลย 4.ภาคเหนือ-จังหวัดเชียงราย และ 5.ภาคใต้-จังหวัดพังงา แต่ละพื้นที่ได้จัดทำโครงสร้างพื้นฐาน สิ่งอำนวยความสะดวกในการเข้าถึง จัดทำพร้อมรองรับและเหมาะสมต่อการเดินทาง เสริมสร้างประสบการณ์และการเรียนรู้สิ่งใหม่ได้เท่ากับนักท่องเที่ยวปกติทั่วไป 

แนวทางการต่อยอดเส้นทางใหม่ในโครงการนี้ ททท.ตั้งเป้าจะขยายผลต่อจากปี 2560 นำร่องทำไปแล้ว 9 เส้นทาง ส่งเสริมและสนับสนุนให้นักท่องเที่ยวเดินทางโดยปราศจากอุปสรรคแก่คนทั้งมวลหรือแหล่งท่องเที่ยวที่มีอารยสถาปัตย์รองรับ และต้องการกระตุ้นทั้งภาครัฐและผู้ประกอบการเห็นความสำคัญในการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวเพื่อให้บุคคลทุกกลุ่มการสามารถเข้าถึงได้อย่างเท่าเทียมกันทุกกลุ่มทุกวัย 

ข่าวที่ 4 “บางจากเปิดปั๊มขายไข่-แจกโต๊ะเรียนราชวินิตฯ” 

บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) รายงานว่า ได้ร่วมกับกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ สนับสนุนผลผลิตจากเกษตรกรผู้เลี้ยงไก่ไข่ และช่วยลดภาระค่าครองชีพในชีวิตประจำวันของคนไทย ด้วยการนำไข่ไก่เบอร์ 3 มาจำหน่ายระหว่างวันนี้ -15 ก.พ.2562 หรือจนกว่าสินค้าจะหมด สามารถซื้อได้ตามสถานีบริการบางจากที่เข้าร่วมรายการทั้งเขตกรุงเทพฯ ปริมณฑล ฉะเชิงเทรา พระนครศรีอยุธยา ชลบุรี นครปฐม และสมุทรสาคร โดยเป็นหนึ่งในโครงการธงฟ้าประชารัฐ ที่ขายให้ผู้บริโภคได้ในราคาพิเศษแพ็กละ 10 ฟอง 20 บาท 

แต่มีเงื่อนไขโดยจำกัดคนละไม่เกิน 5 แพ็ก ดูรายละเอียดเพิ่มที่ www.bangchakmarketplace.com 

 อีกทั้งเมื่อเร็ว ๆ นี้ ทางสโมสรพนักงาน บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) พร้อมด้วยผู้ปกครองสโมสรฟุตบอลเยาวชนบางจาก ยังได้ทำกิจกรรมมอบโต๊ะเรียนและเก้าอี้ 100 ชุด ให้กับโรงเรียนราชวินิตสุวรรณภูมิ เพื่อเป็นประโยชน์ต่อการเรียนการสอน ทดแทนของเดิมที่ชำรุด ทั้งนี้โรงเรียนราชวินิตสุวรรณภูมิ ให้การสนับสนุนโควต้านักกีฬาจากสโมสรฟุตบอลเยาวชนบางจากเพื่อเข้าศึกษาในโรงเรียน โดยได้รับยกเว้นค่าเล่าเรียน มาต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 นับเป็นกิจกรรมที่เป็นประโยชน์แก่เยาวชนทางด้านการศึกษาด้วยอีกช่องทาง

ช่วงที่ 2 ได้เวลาแสวงหาความสุขกับแหล่งท่องเที่ยวเทรนด์ระดับโลกใต้ฟ้าเมืองไทย “หาดทรายดำ แหลมงอบ” จ.ตราด ค้นหาความมหัศจรรย์ 1 ใน 5 ของโลกได้ที่นี่ ส่วนช่วงนี้ฝุ่นละอองมลพิษเพียบ ควรหันมาใส่ใจสุขภาพ “ป้องกันโรคหวัดด้วยการกิน” และข่าวท้ายชั่วโมง “ททท.เปิดแล้ว TME3” ระดมคนทั่ววงการท่องเที่ยวร่วมหลักสูตรพิเศษสร้างสรรค์การท่องเที่ยวอย่างมีส่วนร่วมรับผิดชอบทั้งการค้า การลงทุน “รฟท.ฝัน” เนรมิตที่ดินริมทางรถไฟความเร็วสูงขอนแก่น ไทย-จีน ให้กลายเป็นสวนสนุกยูนิเวอร์แซล และ “นกสกู๊ต” ออกตัวแรงตั้งแต่ต้นปีสั่งซื้อฝูงบินใหม่กินรวบตลาดใหญ่เอเชียตะวันออกและใต้ 4 ประเทศมาแรง 

@เที่ยว1ใน5ของโลกหาดทรายดำแหลมงอบ ตราด 

ความมหัศจรรย์ทางธรรมชาติแห่งเดียวในเมืองไทยและ 1 ใน 5 ของโลก สักครั้งในชีวิตต้องไปที่ “ศูนย์การท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติหาดทรายดำและป่าชายเลน -Black Sand Beach and Mangrove Forest Ecotourims Center” ในตำบลแหลมงอบ อำเภอแหลมงอบ จังหวัดตราด เขตท้องที่ป่าสงวนแห่งชาติ ป่าแหลมมะขาม อยู่ในความดูแลของกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มีโอกาสต้อนรับนักท่องเที่ยวปีละกว่า 3 แสนคน

 หาดทรายแห่งนี้เป็นสีดำบริสุทธิ์บนพื้นป่าชายเลนทุกวันนี้ได้รับการฟื้นฟูจากหลายฝ่ายจนมีความอุดมสมบูรณ์ พัฒนาเป็นแหล่งพักผ่อนและเป็นแหล่งอนุบาลสัตว์น้ำวัยอ่อนชนิดต่าง ๆ สิ่งสำคัญคือชุมชนซึ่งได้ใช้ทำอาชีพหล่อเลี้ยงชีวิต เมื่อไปถึงหาดทรายดำนักท่องเที่ยวจะต้องตื่นตากับความมหัศจรรย์ของธรรมชาติซึ่งมีความแปลกอย่างหลากหลายทางชีวภาพในพื้นที่นับพันไร่ที่อยู่บนฝั่งของแร่สีดำ “ไลโมไนต์ (limonite) ซึ่งเกิดจากการยุบสลายของเศษเหมือง เปลือกหอยผสมด้วยควอตซ์หรือซิลิก้าซึ่งเป็นการผุกร่อนของเหล็ก ผู้คนนิยมใช้บำบัดสุขภาพ ด้วยการแช่เท้าแขนขาและฝังตัวลงไปใต้ทรายดำ ซึ่งเชื่อกันว่าสามารถช่วย อาการปวดเมื่อยตามร่างกาย อย่าง เข่า หลัง อัมพาต อัมพฤกษ์ หรือบรรเทาการเป็นสิว ฝ้า ได้ด้วย

นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่มักชอบชวนกันไปเที่ยวแล้วทำสปา โดยจะมีทรายดำกระจายเป็นฐานอยู่ริมป่าชายเลนด้านที่ติดทะเล พร้อมกับมัคคุเทศก์น้อยคอยให้คำแนะนำวิธีการทำสปาด้วยการนำทรายพอกขาพอกหน้าและส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย หรือจะหมกตัวฝังลงในทรายแช่ไว้ประมาณ 3-4 ชั่วโมง ก่อนจะไปล้างด้วยน้ำสะอาด จะรู้สึกได้ถึงความผ่อนคลายเบาสบายอีกทั้งสภาพผิวนุ่มขึ้นหลังจากได้ทำสปาเรียบร้อยแล้ว 

ความมหัศจรรย์อีกอย่างคือ การนำใบไม้ที่ขึ้นในป่าชายเลนชนิดต่าง ๆ มาทำเป็น “อาหาร” ที่ขึ้นชื่อคือ “ใบโกงกางชุบแป้งทอด” หรือฝักของต้นไม้บางชนิดนำมาทำขนมหวานได้ เป็นเมนูต้อนรับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติซึ่งเป็นที่ชื่นชอบอย่างมาก 

หลังจากทำสปาทรายดำแล้ว สามารถเดินไปตามสะพานเพื่อชมธรรมชาติในเส้นทางรอบป่าโกงกาง มีพันธุ์ไม้หลากหลายให้ศึกษาเรียนรู้มากกว่า 65 ชนิด ไม้โกงกาง ไม้ลาน ไม้ประสัก ไม้ลุ่ย ไม้ตะบัน ไม้ตะบูน ไม้ฝาด ไม้แสม ไม้เสม็ด ไม้หงอนไก่ ไม้ลำพูน ไม้ลำแพน ไม้ตาตุ่ม รวมทั้งมีสัตว์หายากซึ่งเคยสูญหายไปกลับมาอาศัยอยู่อีกครั้งหลังจากป่าได้รับการฟื้นฟูจนอุดมสมบูรณ์ อย่าง หอยขี้ค้อน ปลาตีน และอื่น ๆ ระยะทางยาว 2 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินเพียงชั่วโมงเดียวก็สามารถสัมผัสความสมบูรณ์ของผืนป่าได้ครบไฮไลต์ 8 จุด

 เริ่มจาก ดูอาคารนิทรรศการ จุดดูปูแสม จุดดูหอยขี้ค้อน 3 จุด จุดดูปลาตีน จุดชมนก จุดชมหิ่งห้อย จุดดูปูก้ามดาบ ส่วนธรรมชาติหาดทรายดำในโลกนี้มีด้วยกัน 5 แห่ง คือ ในอำเภอแหลมงอบ จังหวัดตราด ประเทศไทย ส่วนอีก 4 แห่ง อยู่ใน Pulau langKaiwi มาเลเซีย Hualien -Taitung ไต้หวัน ทางตอนเหนือรัฐแคลิฟอร์เนีย และ Waianapanapa Beach ฮาวาย สหรัฐอเมริกา 

ก่อนจะมุ่งหน้าสู่ “ร้านครัวพลัดถิ่น” ร้านอาหารกลางทะเลสาบโอบล้อมด้วยป่าสีเขียว 1ใน 9 แหล่งท่องเที่ยวต้องห้ามพลาดเมืองตราด ซึ่งมีปรากฎการณ์ “เหยี่ยวแดงคอขาว” กว่า 500 ตัว บินโชว์โฉบเฉี่ยวระหว่างมื้อกลางวันให้นักท่องเที่ยวได้แชะแชร์ระหว่างชิมเมนูทะเลเด็ด ๆ ทั้ง กุ้ง หอย ปู ปลา ผักพื้นบ้าน ต้ม ยำ ทอด ครบทุกรส 

ช่วงบ่ายแนะนำไปท่องเที่ยว “วัดบุปผาราม” อายุกว่า 300 ปี เจ้าของรางวัลอนุรักษ์สถาปัตยกรรมไทยดีเด่นจากสถาปนิกสยาม มีเรื่องราวไฮไลต์ให้ชมคือ พิพิธภัณฑ์รวบรวมของเก่าแก่ไว้มากมาย ศาลาที่มีรูปปั้นพระเจ้าตากสินแห่งเดียวในไทยที่ปั้นโดยเปิดหมวกเห็นหน้าพระองค์ท่านชัดเจน และโบสถ์สมัยโบราณ 

ก่อนกลับบ้านต้องแวะ “สวนสละสมโภชน์” ขนาดกว่า 80 ไร่ ที่ใช้ภูมิปัญญาพื้นบ้านติดต่อเกสรสละพันธุ์สุมาลีจนได้ผลผลิตคุณภาพเลิศทั้งแบบสดและแปรรูปเป็นสละลอยแก้วรสชาติอร่อยหวานหอม ซึ่งอยู่ใกล้สนามบินตราด ให้แวะ “ร้าน Check in @Trat” ของนักธุรกิจรุ่นใหม่นำโดย “แชมป์-จตุพัฒน์ เลิศสหกุล” ประธานณะกรรมการผู้ประกอบการรุ่นใหม่หอการค้าจังหวัดตราด (YEC ตราด) ภายในร้านตกแต่งสไตล์ฮิปเก๋ ๆ มีบริการของฝาก กาแฟ และเค้กโฮมเมด ถูกปากนักท่องเที่ยวทุกวัย 

เที่ยวตราดวันนี้มีมุมใหม่หลากหลายได้เรียนรู้ความสุขทุก ๆ วัน 

@โรคหวัดป้องกันด้วยการกินอย่างถูกวิธี 

สภาพอากาศของไทยและทั่วโลกเปลี่ยนแปลงบ่อยครั้ง ทำให้หลายคนมีปัญหาสุขภาพกันมากขึ้น โดยเฉพาะโรคหวัด ส่วนจะเป็นมากเป็นน้อยแค่ไหนก็ขึ้นอยู่กับสภาพภูมิต้านทานในร่างกายของแต่ละคน ถ้าหากว่าร่างกายอ่อนแอหรือพักผ่อนไม่เพียงพอ ก็มักจะถูกเจ้าเชื้อไวรัสหวัดจู่โจมได้ง่ายๆ 

สำหรับปัจจัยที่ช่วยในการป้องกันหวัดที่ให้ผลเสมอก็คือ หมั่นล้างมือให้สะอาดและใช้ช้อนกลาง พักผ่อนให้เพียงพอ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ เสริมภูมิต้านทานให้ร่างกายด้วยอาหารที่มีสารอาหารในการป้องกันหวัด เช่น อาหารที่มีวิตามินซีสูง ดื่มน้ำมากๆ ทั้งนี้ มีอาหารหลายชนิดที่อาจให้ผลในการช่วยเพิ่มภูมิต้านทาน ป้องกันหรือลดความรุนแรงของหวัด ดังนี้ 

1. อาหารรสเผ็ดรวมทั้งเครื่องเทศ เช่น กระเทียมต้นหอม พริก ลดอาการคัดจมูก ช่วยให้หายใจโล่งขึ้น

 2. กระเทียม ช่วยลดอาการหวัดจะเติมลงในอาหารหรือเคี้ยวสดๆ วันละ ๑-๒ กลีบก็ได้ 

3. ดื่มน้ำมากๆ แทนที่จะดื่มกาแฟ น้ำอัดลมหรือเครื่องดื่มที่มีรสหวาน อาจดื่มน้ำผลไม้คั้นสดบ้างเพื่อเสริมวิตามินซี เครื่องดื่มร้อนที่ช่วยได้ เช่น ชา น้ำมะนาวอุ่นๆ จะช่วยลดเสมหะได้ 

4. ซุปไก่ร้อนๆ ช่วยลดอาการคัดจมูก อาจเติมผักหลายๆ สี เพื่อเพิ่มสารแอนติออกซิแดนต์ ทำให้ร่างกายแข็งแรง มีสุขภาพดี 

5. สารต่อต้านอนุมูลอิสระ เช่น บีตาแคโรทีน(วิตามินเอ) วิตามินซี วิตามินอี ช่วยกำจัดสิ่งแปลกปลอมหรือเชื้อโรคเข้าสู่ร่างกาย ป้องกันการติดเชื้อ ผักและผลไม้ที่มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง เช่น แครอต ผักใบเขียวจัด ส้ม ฝรั่ง องุ่น แคนตาลูป มะละกอสุก เป็นต้น 

ฟังข่าวท้ายชั่วโมง 

ข่าวแรก “ททท.โหมคนท่องเที่ยวร่วมTME3ไม่เกิน80คน” 

 การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) รายงานว่า ได้เปิดรับผู้ที่สนใจเข้าร่วมอบรม “หลักสูตรการบริหารการท่องเที่ยวสำหรับผู้บริหารระดับสูง : TME 3 (Tourism Management Program for Executives)” ระหว่างวันนี้- 25 มกราคม 2562 จำนวนรุ่นละไม่เกิน 80 คน ค่าใช้จ่ายตลอดหลักสูตรคนละ 220,000 บาท โดยรวมค่าใช้จ่ายในการศึกษาดูแลตลอดการอบรมด้วย 

ททท.ตั้งเป้าหลักสูตร TME เพื่อให้ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมท่องเที่ยวได้รับรู้ถึงเทรนด์ใหม่ทางการตลาดและตระหนักถึงความสำคัญของการท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบ ทำให้เกิดประโยชน์แก่ผู้เข้าร่วมอบรมในเชิงธุรกิจแล้วสามารถสร้างรายได้ ลดรายจ่าย และได้รับส่วนแบ่งตลาดระยะยาว ก่อให้เกิดการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน ผู้ที่ผ่านมาการคัดเลือกเข้าร่วมอบรมในหลักสูตรดังกล่าว จะเริ่มเรียนตั้งแต่ 6 มีนาคม – 7 สิงหาคม 2562 ทุกวันพุธ สัปดาห์ละ 1 ครั้ง เวลา 13.00-18.00 น.

 ระหว่างเรียนจะต้องลงพื้นที่ทัศนศึกษานอกสถานที่ ในประเทศ 2 ครั้ง คือ ครั้งที่ 1 ดูงานจังหวัดน่าน 3 วัน 2 คืน ช่วงเดือนพฤษภาคม 2562 ครั้งที่ 2 จังหวัดชลบุรี 2 วัน 1 คืน ช่วงเดือนมิถุนายน 2562 และศึกษาดูงานต่างประเทศ 1 ครั้ง ที่สาธารณรัฐประชาชนจีน 4 คืน 3 วัน ช่วงเดือนกรกฎาคม 2562 

ข่าวที่สอง “รถไฟฝันใช้ที่ดินรถไฟรางคู่ผุดยูนิเวอร์แซลขอนแก่น” 

นายวรวุฒิ มาลา รองผู้ว่าการกลุ่มธุรกิจการบริหารทรัพย์สิน รักษาการในตำแหน่งผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยว่า วางแผนพัฒนาพื้นที่ของรถไฟบริเวณสถานีขอนแก่นที่จะยกระดับทางคู่ ถนนจิระ-ขอนแก่น เชื่อมไฮสปีด ไทย-จีน เส้นทาง นครราชสีมา-หนองคาย ซึ่งมีที่ดินราว 108 ไร่ เบื้องต้นแบ่งออกเป็น 5 แปลง ได้แก่ โซน B 16.2 ไร่ จะพัฒนาเป็นที่พักอาศัย อาคารพาณิชย์ และธุรกิจค้าปลีก โซน C และ D 26.5 ไร่ จะทำโรงแรมรองรับตลาดกลุ่มมาทำธุรกิจศูนย์ประชุมและศูนย์แสดงสินค้า 

ส่วนไฮไลต์ โซน E 58.6 ไร่ ปัจจุบันให้เช่าทำสนามกอล์ฟ เตรียมแปลงโฉมลงทุนสร้างสวนสนุกนำแนวคิดเมืองภาพยนต์ของ มูฟวี่เวิลด์ และยูนิเวอร์แซลสตูดิโอ มาเป็นต้นแบบการพัฒนาอย่างเข้มข้นเพื่อให้บริการเครื่องเล่น ดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและนานาชาติ ขณะที่โซน F 8ไร่ ขระนี้ทำที่พักพนักงาน จะพัฒนาเป็นกลุ่มอาคารสำนักงานและที่พักอาศัยต่อไป 

ข่าวที่สาม “นกสกู๊ตลุยเพิ่มฝูงบินรุกเจาะ4ตลาดเอเชีย”

 นายยอดชาย สุทธิธนกูล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของสายการบินนกสกู๊ต กล่าวว่า วางกลยุทธ์พัฒนาธุรกิจการบินปี 2562 ด้วยการเตรียมเพิ่มฝูงบินใหม่อีก 7 ลำ จากขณะนี้มีอยู่แล้ว 5 ลำ พร้อมกับจะขยายจุดบินใหม่ไปยัง 9 เส้นทาง ตามเมืองหลักในแถบเอเชียตะวันออกและเอเชียใต้ที่มีแนวโน้มนักท่องเที่ยวเติบโตเป็นจำนวนมาก 3 ประเทศ ได้แก่ สาธารณรัฐประชาชนจีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และอินเดีย 

หลังจากเมื่อปี 2561 ได้ทำเที่ยวบินปฐมฤกษ์ ไป-กลับ กรุงเทพฯ-โตเกียว และขยายสู่โอซากา ของญี่ปุ่น ดังนั้นในปี 2562 จะใช้กลยุทธ์การตลาดเพิ่มเครือข่ายจุดบิน อย่างเต็มที่ โดยอาศัยจุดแข็งของการเป็นพันธมิตรกับนกแอร์ของไทย กับสกู๊ต สิงคโปร์ 

ติดตามฟังรายการได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 11.00-12.00 น.ทาง สวท.FM 97.0 

เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน
ผู้ดำเนินรายการและคอลัมนิสต์ท่องเที่ยว