เปิดใจ"บุญลือ พรมหารือ"ผู้นำภูป่าเปาะ ฟูจิเมืองเลย ใช้เศรษฐกิจพอเพียง ผงาดเป็นชุมชนท่องเที่ยวต้นแบบโกยปีละเกือบ20ล้าน-ไปบวชทะเลชุมพรที่บ้านท้องตมใใหญ่

เปิดใจผู้นำภูป่าเปาะพลิกชุมชน”ต้นแบบท่องเที่ยวไทย”

ทฤษฎีพอเพียงบิ๊กเชนจ์บ้านผาหวายมีรายได้17ล้าน/ปี 

คิงเพาเวอรืจัดเต็ม3แบรนดืโลกรับสาวช้อปช่วงซัมเมอร์

ททท.ชวนเที่ยวแจ๊สหาดหัวหินพบ300ศิลปิน7-8มิ.ย.นี้

 บางจากฯเทโปรแรงเติมน้ำมันรับโชครับทองกว่า5ล้าน 

TCEBนำไมซ์ไทยQ2คว้าอันดับ4เอเชียโกย5หมื่นล้าน 

ตะลอนไปบวชทะเลชุมพรเที่ยวทะเล๊...ทะเลอ่าวไทย 

คนเลิฟทุเรียนฟังดีๆห้ามกินพร้อมกับดื่มแอลกอฮอร์

 จับตา15มิ.ย.นี้สัญญาEEC-ซีพีฉลุยรถไฟ3สนามบิน

 ARRIVALดึงกูรูเที่ยวชุมชนยึดกทม.เปิด5เทรนด์โลก 

อพท.จัดทัพใหม่ 4 ปีโอนย้ายเข้ากระทรวงท่องเที่ยว

 อิมแพ็คเท 12 ล้านบูมเลคฟรอนท์โกยงานเอาท์ดอร์ 

 ต้อนรับเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” ในวันอาทิตย์ที่ 19 พฤษภาคม 2562 เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังได้ทางมือถือ และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen และบล็อกเกอร์ #gurutourza #สวท97 #รวยด้วยข่าว #เที่ยวกับกู๋ #วันธรรมดาน่าเที่ยว #MoreFunตะวันออก #ภูป่าเปาะฟูจิเมืองเลย

 ช่วงที่ 1 เปิดใจผู้นำบนพื้นที่ห่างไกล “บุญลือ พรมหาลือ” ผู้ใหญ่บ้านผาหวาย อำเภอหนองหิน จังหวัดเลย สามารถพลิกชีวิตใหม่โดยการนำทฤษฎีเศรษฐกิจพอเพียงมาปรับใช้สร้างจุดแข็ง “ชุมชนท่องเที่ยวยั่งยืน” โดยก่อตั้งและเป็นชมรมการท่องเที่ยวอนุรักษ์ภูป่าเปาะ (องค์กรสวัสดิการชุมชน) มาขจัดความยากจน ยุติความขัดแย้ง ทำให้คนกับป่าอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข ภายในเวลาเพียง 8 ปี ผงาดเป็นพื้นที่ต้นแบบการท่องเที่ยวนำรายได้กระจายสู่คนในหมู่บ้านกว่า 12 กลุ่มอาชีพ ลืมตาอ้าปากสร้างเงินหล่อเลี้ยงปีละกว่า 17 ล้านบาท เป็นชุมชนต้นแบบวิถีความสุขอย่างยั่งยืน 

บุญลือ พรมหาลือ ผู้ใหญ่บ้านผาหวาย และประธานชุมชนท่องเที่ยวเชิงอนุรัก๋ภูป่าเปาะ อ.หนองหิน จ.เลย

 นายบุญลือ พรมหาลือ ผู้ใหญ่บ้านผาหวาย อำเภอหนองหิน จังหวัดเลย เปิดเผยว่า ในฐานะผู้นำการเปลี่ยนชีวิต ความคิด ของชาวบ้านในพื้นที่ห่างไกลให้กลายเป็นชุมชนท่องเที่ยวเข้มแข็งต้นแบบ จัดตั้งเป็นชมรมการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ภูป่าเปาะ (องค์กรสวัสดิการชุมชน) ด้วยการน้อมนำทฤษฎีเศรษฐกิจพอเพียงใช้คำง่าย ๆ เชิญชวนให้ชาวบ้านนำมาพัฒนาวิถีชีวิตอยู่อย่างพอดี ทั้งเรื่องการหารายได้ การกิน การอยู่ ต้องไม่ฟุ่มเฟือย เน้นเพาะปลูกเอง ซื้อเฉพาะที่จำเป็น และพยายามนำปรัชญาดังกล่าวเข้าไปพัฒนาความรักสามัคคีสร้างอาชีพอย่างยั่งยืน แก้ไขปัญหาความขัดแย้งที่มีมาอย่างอย่างยาวนานให้ยุติลงได้ ขณะเดียวกันก็ได้ฝึกฝนนิสัยให้คนในหมู่บ้านค่อย ๆ ทำสม่ำเสมอไม่ได้ขาด

จากวันนั้นถึงวันนี้ทำเรื่องการท่องเที่ยวชุมชน 7-8 ปี เริ่มตั้งแต่ปี 2554 จนถึงปัจจุบัน เกิดการสร้างงาน มีอาชีพ มีรายได้ ยกระดับคุณภาพชีวิตชุมชน หลังจากการเปลี่ยนวิถีชีวิตชาวบ้านเข้าสู่ชุมชนท่องเที่ยวมีผลที่ตามมาเป็นรูปธรรมหลายอย่าง ตั้งแต่ 1.ชาวบ้านหยุดการบุกรุกทำลายป่า 2.เกิดความหวงแหนผืนป่า 3.เกิดรายได้พอจุนเจือครอบครัว 4.สามารถกลับมาพึ่งพาอาศัยแบ่งปันซึ่งกันและกันได้ ซึ่งกำหนดวิธีบริหารจัดการโดยแบ่งรายได้แต่ละปีประมาณ 20 % ไปช่วยผู้ด้อยโอกาสในพื้นที่ตามความเห็นชอบของคณะกรรมการท่องเที่ยวภูป่าเปาะ ทั้งดูแลการเจ็บป่วย ช่วยสังคม หรืองานผู้เสียชีวิต

ภูป่าเปาะ...ได้ฉายาว่าเป็น "ฟูจิ เมืองเลย"

 ผู้ใหญ่บุญลือกล่าวว่าตลอด 8 ปีในการพัฒนาชุมชนท่องเที่ยวเข้มแข็งภายใต้การทำงานของชมรมการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ภูป่าเปาะ (องค์การสวัสดิการชุมชน) นั้นจนสามารถดึงชาวบ้านรวมตัวทำอาชีพได้มากถึง 12 กลุ่ม ยกตัวอย่างได้ดังนี้คือ 1.กลุ่มรถอีแต็กบริการนักท่องเที่ยว มีรายได้เฉลี่ยคันละ 770 บาท/วัน 2.กลุ่มโฮมสเตย์บริการบ้านพัก แล้วสินค้าที่ระลึกของกิน ของใช้ พร้อมขาย เช่น 3.กลุ่มทอผ้า 4.กลุ่มข้าวเกรียบหน่อไม้ 5.กลุ่มแปรรูปกล้วยเบรกแตก 6.กลุ่มสมุนไพรไทย 7.กลุ่มวัฒนธรรม 8.กลุ่มร้านค้า ฤดูกาลที่เหมาะจะมาท่องเที่ยวภูป่าเปาะในบ้านผาหวายสามารถเที่ยวได้ตลอดทั้งปี แต่จะอากาศสบายมีหมอกสวยงามจะอยู่ในช่วงหน้าหนาว

ระหว่างการทำท่องเที่ยวทางผู้นำก็ได้สอนให้ชาวบ้านดูแลสิ่งแวดล้อมควบคู่กันไปด้วย หลังจากมีรายได้จากการท่องเที่ยวก็หยุดบุกรุกป่า พร้อม ๆ กับคอยบอกนักท่องเที่ยวก่อนจะขึ้นไปบนภูห้ามหักกิ่งไม้ ห้ามเด็ดดอกไม้ ส่วนบริการพักค้างคืนโฮมสเตย์บ้านผาหวาย ขับรถมาท่องเที่ยว 350 บาท/คน/คืน ถ้าหากมาเป็นหมู่คณะเพื่อดูงานและค้างแรมจะคิด 500 บาท/คน/คืน มีอาหารเช้า เย็น พร้อมกิจกรรมบายศรีสู่ขวัญ สำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการไปเที่ยวแล้วโทรจองล่วงหน้า ทางชุมชนจะพาชมฟรีกิจกรรมการทอผ้า ทอรองเท้า วาเฟิลหน่อไม้ เที่ยววัดเก่าแก่ถ้ำโพธิ์ชัย พอช่วงเย็นประมาณ 5 โมงเย็น พาขึ้นไปชมบรรยากาศพระอาทิตย์ตกบนภูป่าเปาะ กลับลงมาทำพิธีบายศรีสู่ขวัญ รับประทานอาหารค่ำ เข้าโฮมสเตย์พักผ่อน พอเช้าวันใหม่จะมีบริการอาหารเช้าฟรีก่อนกลับบ้าน


ผู้ใหญ่บุญลือกล่าวว่าได้วางแผนบริหารจัดการท่องเที่ยวโดยได้หารือกันในที่ประชุมคณะกรรมการชมรมท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ภูป่าเปาะว่าจะเริ่มขยายการท่องเที่ยวเชื่อมโยงไปยังพื้นที่ใกล้เคียง นำร่องทำร่วมกันก่อน 10 ราย เพื่อนำเสนอแหล่งท่องเที่ยวใหม่ เช่น ผาพระมาลัย ลักษณะเป็นธรรมชาติตามจินตนาการคล้ายคนนำพวงมาลัยมาคล้องพระ พร้อมจะเปิดบริการได้ตั้งแต่สิงหาคม 2562 นี้เป็นต้นไป ต้อนรับการท่องเที่ยวหน้าฝนมีทะเลหมอก ฟ้าสีสวยใส ส่วนบริเวณภูป่าเปาะเองจะเปิดใหม่เป็นบริการลานกางเต็นท์บนภูในพื้นที่ซึ่งจัดเตรียมไว้ ได้ประมาณครั้งละ 50 เต็นท์ สามารถโทรจองล่วงหน้าก่อนเข้ามาพักได้ที่โทร.089-764-6829

ในการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวชมชนภูป่าเปาะนั้นมี องค์การบริหารการพัฒนาท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (อพท.) เข้ามาร่วมวางแผนการพัฒนาหมู่บ้านผาหวายระยะ 5 ปี ส่วนมหาวิทยาลัยราชภัฎจังหวัดเลย ก็เข้ามาช่วยวางระบบโฮมสเตย์ และการอบรมมัคคุเทศก์ท้องถิ่น สำหรับรายได้ของชาวบ้านผาหวาย จากให้บริการนำเที่ยวภูป่าเปาะ

ตั้งแต่ปี 2559 ภาพรวมทำได้ 14 ล้านบาท กระจายอยู่ในกลุ่มรถอีแต๊กประมาณ 7 ล้านบาท และกลุ่มอื่น ๆ 7 ล้านบาท ปี 2560 มีนักท่องเที่ยว 95,000 ราย รายได้กลุ่มรถอีแต๊กลดลงเหลือประมาณกว่า 6 ล้านบาท แต่เม็ดเงินจะไปเพิ่มอยู่ในกลุ่มร้านค้าแทนประมาณ 7-8 ล้านบาท

ปี 2561 สรุปยอดนักท่องเที่ยว 1.6 แสนคน มีรายได้รวมกว่า 17 ล้านบาท กลุ่มรถอีแต๊กมีรายได้กว่า 8 ล้านบาท กลุ่มร้านค้าอื่น ๆ มี 7.9 ล้านบาท

ผมพยายามทำให้ชาวบ้านใช้ใจในการให้บริการ ส่วนการพัฒนาก็ทำไปเรื่อย ๆ โดยเฉพาะการเก็บขยะแล้วนำมาแยกขาย ส่วนรายได้หลักมาจากการท่องเที่ยว ซึ่งเข้าไปแทนที่อาชีพเดิมทางการเกษตรปลูกมัน อ้อย ที่ผ่านมาให้จัดทำบัญชีแต่ละปีค่าใช้จ่ายต่าง ๆ เปรียบเทียบแล้วหากทำการเกษตรเพียงอย่างเดียวแทบจะไม่เหลือเงินใช้จ่าย ตอนนี้จึงต้องหันมาเพิ่มรายได้จากการท่องเที่ยว พร้อมกับเปลี่ยนการเพาะปลูกเข้าสู่เกษตรอินทรีย์ปลอดสารเคมีมากยิ่งขึ้น เพราะรู้จักคุณค่าการดำรงชีวิต

 ผู้ใหญ่บุญลือกล่าวย้ำว่า ขณะนี้มีพื้นที่ป่าให้ชาวบ้านผาหวายเพาะปลูกทำการเกษตรในบริเวณ 2,700 ไร่ ส่วนเรื่องที่สร้างความภาคภูมิใจปีนี้โครงการพระราชดำริของ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงเข้ามาช่วยเหลือด้านการสร้างป่า สร้างรายได้ โดยนำพันธุ์กล้าไม้ พยุง มะค่า ประดู่ ไม้สัก ให้ชาวบ้านนำร่องปลูกก่อน 300 ไร่ แล้วยังมีพืชกินได้ พืชคลุมดิน เพื่อหล่อเลี้ยงชีวิตผู้คนในพื้นที่บ้านผาหวาย

ส่วนทฤษฎีเศรษฐกิจพอเพียงของในหลวงรัชกาลที่ 9 ชาวบ้านนำมาใช้โดยยึดหลักซึ่งเป็นหัวใจสำคัญคือการมีวิถีชีวิตดำรงอยู่อย่าง “พอดี” ผู้ใหญ่บุญลือย้ำเสียงหนักแน่นว่า หากหน่วยงานอื่น ๆ ที่อยากจะนำงบประมาณเข้ามาช่วยพัฒนา ก่อนจะทำช่วยความคิดเห็นของชาวบ้านในพื้นที่ก่อน ทั้งการพัฒนาถนน โครงสร้างพื้นฐานต่าง ๆ นั้นสมัยก่อนชาวบ้านอาจต้องการ

แต่ปัจจุบันอาจไม่ใช่สิ่งที่พวกเขาต้องการมากไปกว่าการใช้ชีวิตอยู่ตามธรรมชาติ ตื่นเช้าสามารถเดินเข้าป่าไปเก็บผัก พืชสมุนไพร มากินมาใช้ดีกว่ามีความเจริญด้านอื่น ๆ แล้วเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตทำให้ความสุขของคนในหมู่บ้านหายไป ชาวบ้านผาหวายมีรายได้จากการท่องเที่ยวหล่อเลี้ยงชีวิต

ด้วยวิถีแห่งการนำทฤษฎีเศรษฐกิจพอเพียงมาปรับใช้อย่างพอดี ควบคู่กับการดูแลรักษาปลูกป่าเพิ่มตามโครงการพระราชดำริ ทั้งไม้ยืนต้น พืชกินและใช้ในชีวิตประจำวัน ทำให้ชาวบ้านบนดอยสูงหลายร้อยชีวิตมีความสุขอย่างยั่งยืน 

 ฟังข่าวต้นชั่วโมง 

 ข่าวที่ 1 “คิงเพาเวอร์นำ3แบรนด์โลกบุกไทยให้ช้อปสุดฟินปี’62  

กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ชวนสาวนักช้อปเติมความร้อนแรงในวันหยุดพักผ่อนด้วยแฟชั่นกระเป๋าและรองเท้าจากแบรนด์สุดหรูสัญชาติฝรั่งเศสต่างพร้อมใจกันหยิบเอาสีชมพูสดใสและลายทางมาใช้สร้างอารมณ์ความรู้สึกให้อยากซื้อ ที่คิง เพาเวอร์ สาขาต่าง ๆ ทั้งในเมืองและสนามบินเมืองไทย 

แบรนด์แรก CHANEL - พบกับคอลเลคชั่นหน้าร้อนที่ดีไซเนอร์ระดับตำนานผู้จากไปเมื่อต้นปีอย่าง Karl Lagerfeld ได้ฝากไว้ เต็มไปด้วยความตื่นตาโดยเนรมิตชายหาด ณ ใจกลางโดมกระจกของ Grand Palais ในกรุงปารีส พร้อมนางแบบหลายสิบชีวิตเดินเท้าเปล่าริมหาดทรายและโปรยรอยยิ้ม สร้างความรู้สึกอิ่มเอมให้กับโลกแฟชั่นได้ในทันที เช่นเดียวกับกระเป๋าเชือกถักสลับสีใบใหม่ที่ผสมผสานความแคชชวลง่าย ๆ ของสีขาวและสีชมพูเข้ากับความหรูหราและดีเอ็นเอของแบรนด์ ซึ่งเห็นได้จากการตกแต่งกระเป๋าเชือกถักด้วยกระเป๋าหนังเย็บลายประดับโลโก้รูปตัว C ไขว้ใบจิ๋ว

 แบรนด์ที่ 2 HERMÈS - นำกระเป๋าคลัตช์ใบเล็กขนาดกำลังดี สามารถใส่โทรศัพท์และบัตรเครดิต เพียงพอให้สาวๆ ได้พกไปเดินสบายๆ ริมชายหาด ด้วยดีไซน์โค้งมนพร้อมสายหนังคล้องแขนบนวัสดุหรูหราตามสไตล์ Hermès อย่างหนังลูกวัวหลากสีสัน ซึ่งแต่ละแถบสีนั้นได้แรงบันดาลใจมาจากท้องฟ้ายามพระอาทิตย์ตกดิน สีของท้องทะเล และผืนทราย ถือว่าเป็นเฉดสีใหม่ที่ผลิตมาในฤดูร้อนปีนี้โดยเฉพาะ

 แบรนด์ที่ 3 CHRISTIAN DIOR – นำเสนอรองเท้าแตะที่เหมาะกับการเดินเล่นริมชายหาดสุดๆ กับสาวผู้มีสไตล์ดังนั้นซัมเมอร์นี้ Dior โดยนักออกแบบหญิงอย่าง Maria Grazia Chiuri หยิบเอาความบางเบาของเส้นสายรองเท้าที่ตัดทอนความไม่จำเป็นออก มาผสมผสานกับดีเทลผ้าทอแบบชนเผ่าที่เธอชื่นชอบ กลายเป็นรองเท้าแตะคู่ที่ดูเหมือนธรรมดา แต่ไม่ธรรมดา ด้วยสีสันชมพูฟูเชีย ตราสัญลักษณ์ของแบรนด์ และลายถักไม่เหมือนใคร 

ข่าวที่ 2 “ททท.หนุนหัวหินแจ๊สเที่ยวกระหึ่ม7-8มิ.ย.นี้” 

 การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานหัวหิน ประจวบคีรีขันธ์ เปิดมหกรรมการท่องเที่ยว ชวนไปสัมผัสปรากฎการณ์แห่ง Jazz Festival เมืองไทย ที่จะได้พบกับศิลปินแจ๊สจากทั่วโลกเดินทางมาสร้างความสนุก เติมความสุขประชันเสียงเพลงอันไพเราะบน 2 เวที กว่า 50 คอนเสิร์ต ระหว่าง 7 - 8 มิถุนายน 2562 นี้ เปิดพื้นที่บริเวณชายหาดหัวหินให้นักท่องเที่ยวทุกวัยได้ดื่มด่ำแจ๊สกันอย่างจุใจ

ห้ามพลาดฟังเหล่าศิลปินแห่งตำนาน Deborah Brown แห่งวงการแจ๊สโลก New York Round Midnight วงแจ๊สบิ๊กแบนด์ระดับโลกมีโชว์พิเศษมาให้ชม The Kings of Samba บราซิเลี่ยนแจ๊สมาเยือนเมืองไทยครั้งแรก รวมถึงนักเล่นเบสที่ดีที่สุดในโลก Rubem Farias จากสวีเดน Beets Brothers กลุ่มแถวหน้าจาก Amerfoort เนเธอร์แลนด์ และเต็มอิ่มกับ The Shanghai Sisters ที่จะมาเติมเต็มแฟนคลับแจ๊สให้โดยเติ้ง ลี่ จวิน

 ตลอดงานร่วมจะได้พบศิลปินแจ๊สนานาชาติ 300 ชีวิต อาทิ จากสหรัฐ มีทั้ง ริชาร์ด แจ๊คสัน, Keithen Carter เดนโซ่ ไฮน์ส จากออสเตรเลีย Athalie de Koning กับ Zaline Calister จากเนเธอร์แลน์ Frank Herrgott กับ Jean Sebastien จากฝรั่งเศส Marat Yuldybaev รัสเซีย Fabio Funker บราซิล Nita Aartse อินโดนีเซีย Tay Cher Siang กับ Julian Chan จากมาเลเซีย

 ส่วนศิลปินไทยนำโดย โก้ แซกแมน ที-โบน ETC แบงคอกคอนเน็คชั่น จิรพรรณ อังศวานนท์ วิยะดา โกมารกุล ณ นคร ป้อม ออโต้บาห์น ฟางข้าวและกีต้าร์ ปุ้ย ดวงพร และ THE SOUND OF SIAM 

ข่าวที่ 3 “บางจากอัดบิ๊กโปรเติมน้ำมันลุ้นโชคทองกว่า5ล้าน

 บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) จัดแคมเปญสุดปัง “ลุ้นโชค...ทองมหามงคล กับ น้ำมันบาง ระหว่างวันนี้ - 15 ส.ค. 62 เพียงแค่เติมน้ำมันบางจากครบทุก 700 บาท รับคูปองชิงโชค 1 ใบ และพิเศษ! สมาชิกบัตรบางจาก และบัตรเกษตรสุขใจ รับสิทธิ์คูปอง 2 ใบ ลุ้นรับโชคทองรวมกว่า 1,000 รางวัล มูลค่ากว่า 5 ล้านบาท ที่สถานีบริการน้ำมันบางจากทุกสาขาทั่วประเทศ 

กติกาง่าย ๆ ในการลุ้นรับโชคทองคำ

 1. เติมน้ำมันบางจากทุกผลิตภัณฑ์ครบทุก 700 บาท รับคูปอง 1 ใบ (สมาชิกบัตรบางจาก และบัตรเกษตรสุขใจ รับสิทธิ์ 2 ใบ)

 2. เขียนรายละเอียดในคูปองให้ครบถ้วน หย่อนกล่องชิงโชค 

3.บางจากกำหนดประกาศรายชื่อผ่านเว็บไซต์บางจากเพื่อให้ผู้โชคดีติดต่อขอรับรางวัล ภายใน 60 วัน หลังจากวันประกาศรายชื่อ หากเลยกำหนดดังกล่าวถือเป็นโมฆะ

 4.ผู้โชคดีจะต้องชำระภาษีหัก ณ ที่จ่าย 5% ของมูลค่าของรางวัล

 สำหรับรางวัล รางวัลที่ 1 : ทองคำแท่ง 1 บาท มูลค่า 21,961.22 บาท 15 รางวัล รางวัลที่ 2 : สร้อยคอทองคำ 1 สลึง มูลค่า 5,278.98 บาท 990 รางวัล จะจับรางวัลทุกเดือนรวม 3 ครั้ง 335 รางวัล/ครั้ง รวม1,005 รางวัล ตามรายละเอียดดังนี้

 ครั้งที่ 1 รวบรวมคูปองที่ส่งตั้งแต่ 15 พ.ค.- 15 มิ.ย. 62 จับรางวัล 9 ก.ค. 62 เวลา 10:00 – 12:00 น. ประกาศผล 15 ก.ค. 62 แจกทองคำหนัก 1 บาท 5 รางวัล และสร้อยคอทองคำ 1 สลึง 330 รางวัล

 ครั้งที่ 2 รวบรวมคูปองที่ส่งตั้งแต่ 16 มิ.ย. - 15 ก.ค. 62 จับรางวัล 7 ส.ค. 62 เวลา 10:00 – 12:00 น.ประกาศผล 14 ส.ค. 62 แจกทองคำหนัก 1 บาท 5 รางวัล สร้อยคอทองคำ 1 สลึง 330 รางวัล

 ครั้งที่ 3 รวบรวมคูปองที่ส่งตั้งแต่ 16 ก.ค. - 15 ส.ค. 62 จับรางวัล 6 ก.ย. 62 เวลา 10:00 – 12:00 น.ประกาศผล 13 ก.ย. 62 แจกทองคำหนัก 1 บาท 5 รางวัล และสร้อยคอทองคำ 1 สลึง 330 รางวัล

 สถานที่จับรางวัล : บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ห้องปันสุข 2 ชั้น 8 ประกาศผลทาง : www.bangchakmarketplace.com สอบถามเพิ่มเติม : Call Caenter โทร 1651 กด 3 หรือ Call Center ธ.ก.ส. โทร 02555 0555

 ข่าวที่ 4 “TCEBนำไมซ์ไทยQ2ขึ้นที่4เอเชียโกย5หมื่นล้าน  

นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) “TCEB” เปิดเผยว่า ล่าสุดไทยได้รับการประกาศด้านอุตสาหกรรมไมซ์ด้านการประชุมนานาชาติ ขึ้นเป็นอันดับ 1 อาเซียน และอันดับ 4 เอเชีย ด้วยการรองรับการจัด 193 งาน (สูงกว่าปี 2560 ไทยรองรับการจัด...งาน ) ตามรายงานของสมาคมการประชุมนานาชาติระดับโลกปี 2561 (International Congress and Convention Association - ICCA) 

อีกทั้งปี 2561 ICCA ยังได้พบอันดับการประชุมนานาชาติระดับเมือง รองรับการจัดงานมีสถิติที่น่าสนใจ ได้แก่ กรุงเทพ ติดอันดับ 2 จำนวน 135 งาน เชียงใหม่ ติดอันดับ 25 จำนวน 25 งาน และพัทยา ติดอันดับ 60 จำนวน 11 งาน

 ขณะที่ไตรมาส 2 การดำเนินงานประจำปีงบประมาณ 2562 ระหว่างมกราคม-มีนาคม 2562 ไมซ์ไทยเติบโตทั้งตลาดในประเทศและต่างประเทศ สามารถสร้างรายได้เข้าประเทศรวม 54,772 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.27% จากจำนวนผู้เดินทางทั้งสิ้น 8,106,120 คน เพิ่มขึ้น 2.89% ประกอบด้วย

 “ตลาดไมซ์ต่างประเทศ” ทำรายได้ 26,703 ล้านบาท รวม 353,256 คน เติบโตสูงสุดคือการประชุมสัมมนาองค์กร (Meetings) ทำสถิติทางรายได้เพิ่มขึ้น 7% และจำนวนคนเพิ่มขึ้น 11% มาจาก 5 อันดับแรก ได้แก่ 1.จีน 122,426 คน 2.อินเดีย 40,492 คน 3.ญี่ปุ่น 30,038 คน 4.ฮ่องกง 26,021 คน และ 5.อินโดนีเซีย 21,202 คน

 “ตลาดไมซ์ในประเทศ” ทำรายได้ 28,069 ล้านบาท รวม 7,752,864 คน เติบโตสูงสุดคือธุรกิจการให้รางวัลพนักงานเดินทางท่องเที่ยว (Incentives) ทำสถิติทางรายได้เพิ่มขึ้นมากถึง 80 % จำนวนคนเพิ่มขึ้น 18 % กระจายจัดตามเมืองหลักเรียงตามลำดับ 5 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพฯ เชียงใหม่ ขอนแก่น ภูเก็ต พัทยา

 นายจิรุตถ์กล่าวว่า แผนขับเคลื่อนการตลาดภาคอุตสาหกรรมไมซ์ไทยช่วงครึ่งปีหลัง ระหว่างเมษายน-กันยายน 2562 คาดการณ์จะมีผู้เข้าร่วมงานจำนวนหลายแสนคน จากการเป็นเจ้าภาพรองรับการจัดไมซ์ขนาดใหญ่ ๆ เช่น งานแสดงสินค้านานาชาติ งานแสดงสินค้านานาชาติ Lanna Expo 2019 จ.เชียงใหม่ จะมีผู้เข้ราร่วมงาน 400,000 คน งานเมกะอีเวนท์ Thailand Toy Expo 2019 จำนวน 190,000 คน งานเมกะอีเวนท์ Bangkok Entertainment Fest 2019 จำนวน 100,000 คน และ งานแสดงสินค้างานแสดงสินค้าไลฟสไตล์ TCC ขอนแก่น Fair จำนวน 100,000 คน

 เป็นแรงผลักดันทำให้ TCEB ประสบความสำเร็จตามเป้าหมายปีงบประมาณ 2562 นี้ ทำให้ไทยมีตลาดกลุ่มอุตสาหกรรมไมซ์รวมทั้งสิ้น 35,982,000 สร้างรายได้ 221,500 ล้านบาท แบ่งเป็นไมซ์ต่างประเทศ 1,320,000 คน ทำรายได้ 100,500 ล้านบาท ไมซ์ในประเทศ 34,662,000 คน สร้างรายได้ 121,000 ล้านบาท

 ช่วงที่ 2 สัมผัสความแปลกใหม่สร้างแรงบันดาลใจในการเที่ยว “บวชทะเลชุมพร...พักโฮมสเตย์บ้านท้องตมใหญ่” แหล่งม้านำใหญ่สุดแห่งท้องทะเลอ่าวไทย ส่วน “ผู้รักการกินทุเรียน” ต้องฟังกรมอนามัยเตือนแรง ๆ ห้ามกินตอนดื่มแอลกอฮอล์ สำหรับข่าวมีหลายสาระ “จับตาEECเซ็นต์จ้างซีพี 15 มิ.ย.นี้” โปรเจ็กต์เดินหน้าสร้างรถไฮสปีดเทรนเชื่อม 3 สนามบิน “ARRIVAL” ผู้เชี่ยวชาญท่องเที่ยวชุมชนนำกูรูอินเตอร์ยึดกรุงเทพฯ เปิด 5 เทรนด์โลก 24-25 มิ.ย.นี้ “อพท.จัดทัพใหม่4ปี” หลังโอนเข้าใต้ปีกกระทรวงการท่องเที่ยวฯ ด้าน “อิมแพ็คเมืองทองธานี” เท 12 ล้านบูมอิมแพ็ค เลคฟรอนท์ กวาดลูกค้าเพิ่มยอดรายได้จัดงานเอาท์ดอร์ริมทะเลสาบ 

 @ไปบวชทะเลชุมพรพักโฮมสเตย์บ้านท้องตมใหญ่

 เคยได้ยินกันบ้างไหมว่า...เมืองไทยมีกิจกรรมบวชทะเล...

ถ้ายังไม่เคยจะชวนไปตะลอนเที่ยวเส้นทาง “ทะเล๊...ทะเลชุมพร”

More Inspire-แรงบันดาลใจแห่งจุดหมายปลายทางการพักผ่อนสุดฟินกับการ “ดูปะการัง ตกหมึก ชมม้าน้ำ” ร่วมกิจกรรมหนึ่งเดียวของคนรักทะเลไทยกับประสบการณ์ “บวชทะเล” ซึ่งเป็นโครงการรณรงค์ให้นักท่องเที่ยวมาร่วมกันอนุรักษ์ม้าน้ำนั่นเอง ทะเล๊...ทะเลชุมพร มีแม่เหล็กความสวยงามหลายเฉด

พอมีเวลาสัก 3 วัน ไปสำรวจด้วยกัน

วันแรก ตั้งเข็มทิศไป “หาดทุ่งวัวแล่น” ที่มีความงดงามทางธรรมชาติเกินจะบรรยายต้องไปเที่ยวเองจึงจะรู้และเข้าใจ จากนั้นแนะนำให้ดำน้ำดูปะการังบริเวณ “อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะชุมพร” แบบ One day trip แล้วลองพัก “โฮมสเตย์บ้านท้องตมใหญ่” เพื่อใช้เวลาช่วงกลางคืนออกเรือไปตกหมึกกับชาวบ้าน

บ้านท้องตมใหญ่ เป็นศูนย์รวมม้าน้ำที่ใหญ่สุดแห่งทะเลอ่าวไทย

วันที่สอง เตรียมตัวให้พร้อมกับกิจกรรมในทะเลล้วน ๆ เพราะบรรยากาศรอบ ๆ “บ้านรักเดียว บ้านท้องตมใหญ่” เป็นโฮมสเตย์ฮ็อตฮิตมีความพิเศษมอบให้นักท่องเที่ยว ด้วยการออกแบบบ้านยกพื้นสูงเหนือน้ำทะเลชายฝั่ง พร้อมกับระเบียงยื่นออกสู่ทะเล ในแหล่งอันอุดมสมบูรณ์ของผืนป่า สัตว์น้ำ ได้ชื่อว่าเป็นจุดศูนย์รวม “ม้าน้ำ” ชุกชมที่สุดในเมืองไทย แถมบางเวลาบางวันยังมีโลมามาแหวกว่ายให้เห็น เช่นเดียวกับ กุ้ง หอย ปู ปลา ก็อาศัยอยู่พร้อมเป็นเมนูอาหารของนักท่องเที่ยว

สนุกกับกิจกรรมบวชทะเลชุมพร.ฝ.สร้างบ้านให้ม้าน้ำ และเหล่าสัตว์ทะเล

รอบโฮมสเตย์ท้องตมใหญ่ จะมีโครงการอนุรักษ์ อนุบาลสัตว์น้ำทะเล หรือการสร้างซั้ง บ้านปลา ปลูกป่าชายเลน และไฮไลต์คือกิจกรรมการ “บวชทะเล” ที่นำความเชื่อทางพุทธศาสนามาผสมผสานเข้ากับการอนุรักษ์สัตว์น้ำ โดยการนิมนต์พระสงฆ์มาทำพิธีบนฝั่งก่อนร่วมกันปล่อยสัตว์น้ำ และโยนลูกชีวภาพปรับสภาพน้ำลงทะเล

วันที่สาม ออกไปทำสิ่งดี ๆ เที่ยวอย่างมีส่วนรับผิดชอบ โดยไปทำกิจกรรมกับ “” ร่วมปลูกป่าชายเลน แล้วก็ไปพบปะแลกเปลี่ยนพูดคุยกับ “ชาวบ้านเกาพิทักษ์” โมเดลต้นแบบวิถีชุมชนชาวใต้ ทุก ๆ เดือนมิถุนายนของแต่ละปีน้ำทะเลจะลดลง จึงเชิญชวนนักท่องเที่ยวไปร่วมมหกรรม “วิ่งข้ามเกาะ” อย่างสนุกสนาน

 ของดีในเมืองทะเล๊...ทะเลชุมพร ที่ต้องซื้อก็มี กาแฟ ทุเรียนกวน กล้วยเล็บมือนาง รังนกนางแอ่น

 @อย่ากินทุเรียนแล้วดื่มแอลกอฮอล์เสี่ยงสูง 

แพทย์หญิงพรรณพิมล วิปุลากร อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า ทุเรียนจัดอยู่ในอาหารกลุ่มผลไม้ ที่มีวิตามินและแร่ธาตุต่าง ๆ เป็นแหล่งของคาร์โบไฮเดรต หากต้องการกินทุเรียนให้ได้ประโยชน์และคุณค่าทางสารอาหารที่เหมาะสม ไม่ควรกินทุเรียนเกินวันละ 2 เม็ด และไม่กินถี่ทุกวัน อีกทั้งต้องลดอาหารกลุ่มข้าวแป้ง ของหวานในมื้อที่กินทุเรียน แต่ถ้าใครชอบกินทุเรียนมาก กินครั้งละประมาณ 2-3 พู หรือ 4-6 เม็ด เท่ากับร่างกายจะรับพลังงานสูงถึง 520 – 780 กิโลแคลอรี ซึ่งเทียบเท่าการกินข้าวมันไก่ 2 จาน หรืออาหาร 2 มื้อ

 นอกจากนี้คนที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคไต โรคเบาหวาน โรคหัวใจและโรคความดันโลหิตสูง ควรระมัดระวังเรื่องการกินทุเรียนมากกว่าคนทั่วไป อาจกินได้แต่ต้องกินในปริมาณน้อยกว่าคนปกติและ ไม่บ่อย เพราะการกินทุเรียนปริมาณมากหรือกินทุเรียนบ่อยๆ จะส่งผลต่อปริมาณน้ำตาลและไขมันในเลือดของผู้ป่วยได้ สิ่งสำคัญสุดคือผู้บริโภคไม่ควรกินทุเรียนร่วมกับเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์

เนื่องจากทุเรียนเป็นอาหารที่มีไขมัน และคาร์โบไฮเดรตสูงเช่นเดียวกับแอลกอฮอล์ เมื่อกินทุเรียนร่วมกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ร่างกายจะได้รับพลังงานที่มากเกินไป ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว เกิดกระบวนการเผาผลาญเพิ่มขึ้น ซึ่งต้องใช้น้ำจำนวนมาก ทำให้ร่างกายเกิดความร้อนสูงมากกว่าปกติ อาจเป็นผลทำให้ร่างกายเกิดภาวะขาดน้ำ และเสี่ยงต่อการเสียชีวิตได้ 

ฟังข่าวท้ายชั่วโมง 

 ข่าวแรก “EECชงสัญญาซีพี15มิ.ย.นี้ผุดรถไฟ3สนามบิน” 

 นายคณิศ แสงสุพรรณ เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (บอร์ดEEC) เปิดเผยว่า ล่าสุดมติที่ประชุมบอร์ดเห็นชอบอนุมัติร่างสัญญา โครงการร่วมลงทุนรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบินอีอีซี วงเงิน 2.2 แสนล้านบาท ระหว่างการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) กับ บริษัท เจริญโภคภัณฑ์โฮลดิ้ง จำกัด และพันธมิตร ดังนั้นวันที่ 28 พ.ค.2562 จะเสนอให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)พิจารณาก่อนลงนามสัญญา 15 มิ.ย.นี้

 ส่วนโครงการร่วมทุนศูนย์ซ่อมอากาศยาน (MRO) สนามบินอู่ตะเภา วงเงิน 1.16 หมื่นล้านบาท ความคืบหน้าขณะนี้การบินไทยกำลังเจรจากับแอร์บัส คาดจะสามารถเห็นชอบแนวทาง พร้อมที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน (บอร์ด PPP) ได้ในวัน 10 มิถุนายนนี้ ขณะที่โครงการเปิดประมูลท่าเรือหลักในอีอีซี 2 แห่ง ได้แก่

1.ท่าเรือแหลมฉบังเฟส 3 วงเงิน 8.4 หมื่นล้านบาท 2.ท่าเรือมาบตาพุด วงเงิน 4.79 หมื่นล้านบาท อาจล่าช้ากว่าเป้าหมายที่วางไว้ เพราะยังติดการพิจารณาของศาลปกครองและบางโครงการรอเสนอ ครม.พิจารณาอีกครั้ง เพื่อขอปรับเพิ่มวงเงินลงทุน เช่น โครงการท่าเรือแหลมฉบังเฟส 3 ต้องเจรจาเรื่องวงเงิน ดอกเบี้ย และผลตอบแทน กับกลุ่มกิจการ ร่วมค้ากัลฟ์ และพีทีที แทงค์ (บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) และ บริษัท พีทีที แทงค์ เทอร์มินัล จำกัด)

 ข่าวที่สอง “ARRIVALยึดกรุงเทพฯแนะทัวร์ชุมชน5เทรน์โลก24-25มิ.ย.” ARIVAL 

กลุ่มผู้นำงานแสดงธุรกิจทัวร์ท้องถิ่นและกิจกรรมท่องเที่ยวชุมชน รายงานว่า ได้นำสุดยอดงานส่งเสริมการขายสินค้าและบริการด้านการท่องเที่ยวในเอเชียแปซิฟิก มาจัดในกรุงเทพฯ 24-26 มิถุนายน 2562 พร้อมจะสร้างความฮือฮากับบิ๊กเชนจ์การท่องเที่ยวใหม่ของโลก 5 เทรนด์ ซึ่งธุรกิจทัวร์ชุมชนและแหล่งท่องเที่ยวต้องเป็นผู้ก้าวนำหากต้องการเป็นธุรกิจท่องเที่ยวที่ประสบความสำเร็จ ประกอบด้วย

 1.Become Mobile-First: เข้าถึงลูกค้าผ่านสมาร์ทโฟน โดยซุปเปอร์แอปส์ เอเจนท์ออนไลน์ การจองโดยตรงผ่านช่องทางดิจิทัลและเทคโนโลยีการจองตั๋ว กำลังเปลี่ยนโฉมหน้าการท่องเที่ยว

 2.Let a Million Experiences Bloom: ให้หนึ่งล้านประสบการณ์เชื่อมโยงนักท่องเที่ยว ผู้ให้บริการท่องเที่ยวในจุดหมายปลายทางจำเป็นต้องส่งเสริมประสบการณ์ทางประสาทสัมผัส ภายในงาน ARIVAL นี้ จะนักวิจัยจาก Google, videc, CrescentRating, Dragon Trail และอีกหลายคนมาร่วมแบ่งปันข้อมูลเชิงลึกใหม่ถึงความต้องการประสบการณ์การเดินทางของนักท่องเที่ยวทั่วโลก 

3.Encourage Sustainability: ส่งเสริมความยั่งยืน จากข้อมูลของ Virtuoso นักเดินทางในช่วงอายุ 20 - 30 ปี มีแนวโน้มที่จะจองสินค้าและบริการการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนมากกว่าผู้ที่มีอายุระหว่าง 40 - 50 ปี “นักท่องเที่ยวในอนาคตจะใส่ใจเกี่ยวกับการส่งเสริมและช่วยเหลือชุมชนแหล่งท่องเที่ยว เคารพวัฒนธรรมท้องถิ่น สนับสนุนและบริโภคผลิตภัณฑ์ชุมชน ต่อต้านการค้าสัตว์ป่า ลดการใช้พลาสติกและปกป้องแนวปะการัง ป่าไม้และแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์

 4.Utilise the Power of NTO Marketing: ใช้ประโยชน์จากพลังการตลาดขององค์กรการท่องเที่ยวแห่งชาติ มาริโอ ฮาร์ดี (Mario Hardy) ซีอีโอ สมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยวภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก (PATA) จะมาถอดบทเรียนให้ฟังถึงเรื่อง “หากองค์กรการท่องเที่ยวแห่งชาติเริ่มเปิดประตูการตลาด ภาคเอกชนควรใช้ประโยชน์นี้”

 5.Innovate – Even If It Means Failing: สร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ – แม้ว่ามันอาจจะล้มเหลว โดย จอห์น ชาร์ป (John Sharpe) ผู้ก่อตั้งศูนย์ผจญภัย Riverlife แห่งออสเตรเลีย พาถ่ายทอดเทคนิคให้ผู้ประกอบการที่ไม่สามารถเติบโตได้หากคุณไม่ยอมที่จะเสี่ยงกับความล้มเหลว

ข่าวที่สาม “อพท.จัดทัพใหม่4ปีหลังย้ายเข้ากระทรวงท่องเที่ยว” 

 นายทวีพงษ์ วิชัยดิษฐ ผู้อำนวยการองค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (องค์การมหาชน) หรือ อพท. เปิดเผยว่า ตามที่พระราชกฤษฎีกาจัดตั้งองค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษ เพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (องค์การมหาชน) (ฉบับที่ 3) พ.ศ.2562 ประกาศในราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่เมื่อ 6 เมษายน 2562 เริ่มมีผลใช้บังคับในวันที่ 7 เมษายน 2562 มีผลให้ “รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬารักษาการตามพระราชกฤษฎีกานี้” ซึ่งเป็นไปตาม มาตรา 4 ของ พ.ร.ฎ ฉบับดังกล่าว

โดยให้ อพท.มีอำนาจหน้าที่และความรับผิดชอบเพิ่มเติมโดยสามารถประกาศพื้นที่มากขึ้น จากปัจจุบัน 6 จังหวัดขยายเป็น 38 จังหวัด ควบคู่กับการทำงานพัฒนาเพื่อการท่องเที่ยวได้ครอบคลุมเขตพัฒนาการท่องเที่ยว (Cluster) ตามที่คณะกรรมการนโยบายการท่องเที่ยวแห่งชาติประกาศได้ด้วย

 ขณะนี้ อพท.อยู่ระหว่างปรับแผนระยะ 4 ปีให้สอดคล้องกับยุทธศาตร์กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา โดยจะขับเคลื่อนภารกิจหลัก ๆ ต่อไป คือ พัฒนาการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนโลก (Global Sustainable Tourism Council : GSTC) นำมาพัฒนาเกณฑ์ให้เหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมาย ได้แก่

1.เกณฑ์การพัฒนาการท่องเที่ยวโดยชุมชนของประเทศไทย (The Criteria for Thailand’s Community-Based Tourism Development : CBT Thailand) 2.มาตรฐานการจัดการการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (Sustainable Tourism Management Standard : STMS)

 ข่าวที่สี่ “อิมแพคฯทุ่ม12ล้านบูมเลคฟรอนท์ปั๊มรายงานกลางแจ้ง 

นายพอลล์ กาญจนพาสน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อิมแพ็ค เอ็กซิบิชั่น แมเนจเม้นท์ จำกัด ผู้บริหารศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม อิมแพ็ค เมืองทองธานี กล่าวว่า เตรียมเงินลงทุน 12 ล้านบาท จัดทำโครงการ “เพียร์ 99” บนพื้นที่ 392 ตารางเมตร เพิ่มพื้นที่รองรับงานกลางแจ้งทุกรูปแบบรองรับลูกค้าได้สูงสุดถึง 250 คน โดยเลือกทำเลบริเวณริมทะเลสาบเมืองทองธานี หรือ Inpack Lakefront ซึ่งมีบรรยากาศสบาย ๆ สามารถดีไซน์การจัดงานบนโป๊ะในทะเลสาบได้ เป็นการเพิ่มทางเลือกให้ลูกค้าจัดเลี้ยงสังสรรค์ งานปาร์ตี้ แต่งงาน และความเป็นส่วนตัว

 ขณะนี้อิมแพ็คยังได้สร้างสรรค์พื้นที่รอบทะเลสาบกว่า 2,400 ตารางเมตร บริเวณอิมแพ็ค เลคฟร้อนท์ บริการร้านอาหารนานาชาติ 3 ร้าน ได้แก่ ร้านอุวะจิมะ ร้านอาหารญี่ปุ่นแนวใหม่ในสไตล์ซูชิ แอนด์ ชาร์โคลกริลล์ ร้านบรีซ คาเฟ่ แอนด์ บาร์ ร้านอาหารฟิวชั่น ร้านอีสาน จิ้มจุ่ม และเปิด อิมแพ็ค สปีด พาร์ค สนามโกคาร์ตระดับสากล เมื่อปีที่ผ่านมาจึงสามารถดึงดูดงานชั้นนำระดับประเทศเลือกใช้สถานที่แห่งนี้กว่า 40 งานด้วยกัน

 ติตามฟังรายการได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 11.00-12.00 น.ทาง สวท.FM 97.0 MHz.