เจาะลึก ! ททท.จ่อใช้ 5 REจัดทัพใหม่TATAPปี’63
ผู้ว่าฯยุทธศักดิ์นำทีมปลุกทัวร์หน้าฝน5เดือนคึกคัก
คิงเพาเวอร์แฟร์ครั้งแรก!!ห้ามพลาด23พ.ค.-2 มิ.ย.
ททท.เตรียมโปรแรงชวนเศรษฐีหันเที่ยวเมืองไทย
บางจากทุ่ม100ล้านดันB100โตดันQ2ทำกำไรเพิ่ม
MoreFun72ชั่วโมงเที่ยววิถีตะวันออกจันทน์-ตราด
ขยะอันตรายใกล้ตัว7 อย่างต้องรู้วิธีจำกัดโดยด่วน
บินไทยQ1กำไร456ล้าน-อึ้งค่าใช้จ่ายพุ่ง5หมื่นล้าน
บางกอกแอร์Q1กำไรฉิว501ล้านจุดบินใหม่โตแรง
กรมอุทยานปิดสิมิลัน-สุรินทร์รอเที่ยวหลัง14ต.ค.
ช่วงที่ 1 เจาะลึก “ดร.ยุทธศักดิ์ สุภสร” ผู้ว่าการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)กอดคอผู้บริหาร ผนึกเอกชนไทยและต่างชาติงัดนวัตกรรมขายออนไลน์เทรนด์โลก โหมโปรไฟไหม้เที่ยวหน้าฝนกระตุ้นตลาดครึ่งปีหลังปลุกเศรษฐกิจไทยคึกคัก “ผู้ว่าฯ ยุทธศักดิ์” ลั่นจัดทัพใหม่แผนการตลาดปี’63 TATAP 2020 งัดใช้กลยุทธ์ 5 Re ขานรับสถานการณ์ท้าทายทั้งในและต่างประเทศรักษารายได้ท่องเที่ยวเป็นเสาหลักสร้างความยั่งยืน
ดร.ยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการ ททท. |
ดร.ยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า วางแผนขับเคลื่อนการท่องเที่ยวช่วงครึ่งปีหลังใน 2 ตลาด ทั้งตลาดต่างประเทศระยะใกล้ที่มีความสามารถนำเข้ามาคือสาธารณรัฐประชาชนจีนตอนนี้เข้าสู่ภาวะปกติแต่ละวันเข้ามาเที่ยวเมืองไทยไม่ต่ำกว่า 30,000 คน หรือเดือนละ 1 ล้านคน แต่จะทำกิจกรรมเพิ่มเติม Let Get together Thailand รับรู้กระตุ้นการเดินทางเจาะกลุ่ม Young Gen-วัยรุ่น นักศึกษามหาวิทยาลัยต่างๆ ซึ่งมีจำนวนมากกว่า 48 ล้านคน โดยจะทำกิจกรรมกระตุ้นการขาย
กิจกรรมที่ 1 ร่วมมือกับตัวแทนการขายท่องเที่ยวออนไลน์ (TOA) ของจีน เช่น Seetrip ขายแพกเกจขายนักท่องเที่ยวเดินทางอิสระ ในลักษณะ Semi F.I.T.เผยแพร่ประชาสัมพันธ์วงกว้างผ่านช่องทางออนไลน์ Weibo, WeChat
ททท.ระดมสมองคิดแคมเปญกระตุ้นท่องเที่ยวครึ่งปีหลัง พ.ค.-ก.ย.2562 |
กิจกรรมที่ 2 ร่วมกับพันธมิตรในพื้นที่โดย ททท.สำนักงานในจีน 5 แห่ง ปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ เฉินตู กวางโจว คุนหมิง ทำโปรโมชั่นเชิงรุกกับกลุ่มหลัก ได้แก่ กลุ่มแรก บริษัทตัวแทนท่องเที่ยวขนาดใหญ่ เช่น CTS Group, PandaTour, China International Travel และกลุ่มที่ 2 สายการบินชั้นนำ ทั้ง การบินไทย แอร์เอเชีย สวิงแอร์ไลน์ส ชานตงแอร์ ไลออนแอร์ กลุ่มที่ 3 ธุรกิจสมัยใหม่ไร้เงินสดจะตั้งเป้าไว้รวมให้ได้ผลลัพธ์การขายรวมกว่า 176,000 Pax เริ่มตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปต้อนรับกรีนซีซัน เพราะโปรโมชั่นเพื่อให้เพิ่มรายได้และจำนวนนักท่องเที่ยวให้มากกว่าปกติ
จากนั้นวันที่ 20 พฤษภาคม 2562 จะลงนามในหนังสือแสดงเจตจำนง Letter of Intent : LOI ระหว่าง ททท.กับ บริษัท ไชน่า แทรเวล เซอร์วิส สำนักงานใหญ่ ถือเป็นรัฐวิสาหกิจการท่องเที่ยวขนาดใหญ่สุดที่สามารถนำนักท่องเที่ยวกลุ่มคุณภาพชาวจีนมาไทยได้มหาศาล โดยมีสำนักงานกระจายอยู่ใน 19 มณฑล มากกว่า 63 แห่ง และสาขาย่อยอีก 2,500 แห่ง คาดจะใช้ความร่วมมือครั้งนี้นำจีนคุณภาพมาเที่ยวเมืองไทยภายในปี 2562 ได้ไม่ต่ำกว่า 2 ล้านคน
อีกทั้งยังมีอีก 2 รายใหญ่ที่ ททท.จะลงนามด้วย 2 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มแรก อาลีเพย์ซึ่งมีกลุ่มแอ๊ด ไฟแนนซ์ เป็นผู้ดำเนินธุรกิจการรับจ่ายเงินของอาลีเพย์ ดังนั้น ททท.จะอำนวยความสะดวกให้นักท่องเที่ยวซึ่งเป็นสมาชิกระดับพรีเมี่ยม ตั้งแต่ โกลด์ แพลทินัม กับไดมอน ซึ่งมีสมาชิกอยู่กว่า 123 ล้านคน ในจำนวนนี้จะเลือกเดินทางมาไทยจำนวนไม่ต่ำกว่า 2 ล้านคน กลุ่มที่ 2 สปริงแอร์ไลน์ส เตรียมลงนามส่งเสริมการขายท่องเที่ยวร่วมกัน ปัจจุบันมีบริการเที่ยวบินตรงไป-กลับ จากจีน 17 เมือง เข้ามายังประเทศไทย เป็นเป้าหมายที่จะสามารถนำนักท่องเที่ยวกลุ่มคุณภาพจีนมาไทยได้ตามเป้าหมาย
สำหรับเอเชียอีก 2-3 ตลาด ประกอบด้วย อินเดีย ได้รับอานิสงส์จากฟรี Visa On Arrival : VOA เข้าเมืองไทยไปจนถึงปลายเดือนตุลาคม 2562 ปัจจุบันเติบโตมากกว่า 20 % ขณะนี้ ททท.ได้จัดทำโครงการ Give Me Five คือการให้น้ำหนักสัมภาระแก่นักท่องเที่ยวเพิ่มอีก 5 กิโลกรัม/คน/ทริป ในเที่ยวบินขากลับจากไทยไปอินเดีย เพื่อกระตุ้นการช้อปปปิ้งสินค้าโอท็อปชุมชนต่าง ๆ รวมถึงตลาด CLMV-กัมพูชา/สปป.ลาว/เมียนมา/เวียดนาม และ มาเลเซีย อินโดนีเซีย จะเริ่มทำโปรโมชั่นการขายเชิงรุกตั้งแต่เดือนมิถุนายน-กรกฎาคม นี้เป็นต้นไป
ขณะที่ยุโรปเป็นช่วงฤดูร้อนจึงมุ่งเจาะกลุ่มตลาดวัยรุ่น โดยได้มอบหมายให้ทางสำนักงาน ททท.สวีเดน รัสเซีย นำคนรุ่นใหม่ที่ไม่เคยเดินทางเที่ยวไทยมาก่อนได้มีโอกาสเข้ามาด้วยการร่วมมือกับทางสายการบิน แนะนำท่องเที่ยวหน้าฝน
ดร.ยุทธศักดิ์กล่าวว่าการเพิ่มความเข้มข้นตลาดท่องเที่ยวในประเทศ มีดังนี้
กิจกรรมที่ 1 จะอัดฉีดแคมเปญแรง ๆ อย่าง “บินพักหลักร้อยหลักพันลุ้นรางวัลหลักล้าน” ต้อนรับท่องเที่ยวหน้าฝน จูงใจให้คนไทยซื้อตั๋วโดยสารบินไปเที่ยวได้ในราคาหลักร้อย แล้วไปพักตามโรงแรมราคาเพียงหลักพันบาท แล้วยังมีรางวัลมูลค่าเป็นล้านบาทให้ลุ้นด้วย นอกจากสิทธิพิเศษราคาท่อเงที่ยวโปรโมชั่นพิเศษแล้ว นักท่องเที่ยวคนไทยยังจะใช้สิทธิตามนโยบายของรัฐบาลนำค่าใช้จ่ายรวมไม่เกิน 20,000 บาท/คน มาลดหย่อนภาษีบุคคลธรรมดาปี 2562 ได้อีก แต่จะต้องเร่งใช้ประโยชน์เพราะจะสิ้นสุดภายในกันยายนนี้
กิจกรรมที่ 2 ททท.ร่วมกับ OTA ค่ายหลัก ๆ ได้แก่ www.Traveloka.com มอบสวนลดห้องพัก 24 จังหวัด พร้อมส่วนลดตั๋วเครื่องบินไปจนถึง 30 มิถุนายน นี้ และ www.agoda.com มอบสวนลด 55 เมืองรอง ไปจนถึงวันที่ 15 กันยายน นี้ โรงแรมที่เข้าร่วมจะลดพิเศษ และโรงแรมระดับหรูหรามอบโปรโมชั่นลดสูงสุดถึง 65 % จากหลักหมื่นเหลือเพียงแค่คืนละหลักพันบาท รวมทั้งยังมีกิจกรรมต่างๆ จัดต่อเนื่อง ประการสำคัญมีการจัดเส้นทางท่องเที่ยวใหม่รวม 188 เส้นทาง แบ่งเป็น 2 แบบ ได้แก่ แบบแรก 108 เส้นทางพร้อมไป เมืองรอง เพื่อคนทั้งมวล โลว์คาร์บอน แบบที่สอง 80 เส้นทางพร้อมเปย์ พร้อมขายโดยร่วมมือกับเอกชน เช่น เที่ยวเฮฮาปาร์ตี้สุขีที่เกาะหมาก 3 วัน 2 คืน หรือ เที่ยวเทศกาลลำดวนบาน 2 วัน 1 คืน เพียงแค่ 3,200 บาท/คน
ดร.ยุทธศักดิ์ย้ำว่า ททท.มีมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวช่วงครึ่งปีหลังช่วงกรีนซีซันหน้าฝนทั้งตลาดในประเทศและต่างประเทศอย่างเต็มที่ เพื่อให้เกิดการเติบโตทั้งจำนวนและรายได้ตลอดปี 2562 เพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่า 10 % จากปีก่อน ซึ่งสถานการณ์ภาพรวมเรื่องรายได้กระจายสู่ท้องถิ่นตามปีปฏิทิน ไตรมาสแรก มกราคม-มีนาคม 2562 มีมูลค่ารวม 8.85 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 5 % แบ่งเป็นมีนักท่องเที่ยวต่างประเทศ 14.9ล้านคน คนไทย 35 ล้านคน-ครั้ง
แนวโน้มไตรมาส 2 จะมีรายได้รวม 7.6 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 10 % เป็นนักท่องเที่ยวต่างประเทศ 9.4 ล้านคน เมื่อรวม 2 ไตรมาส จะมีจำนวนรวมกว่า 20 ล้านคน ส่วนคนไทยกว่า 43 ล้านคน-ครั้ง แนวโน้มภาพรวมตลอดทั้งปี 2562 จะมีรายได้จากการท่องเที่ยวไม่ต่ำกว่า 3.4 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 10 % จากนักท่องเที่ยวต่างประเทศ 40 ล้านคน จากเดิม 38.4 ล้านคน และคนไทยเที่ยวไทยจะได้ถึง 171 ล้านคน-ครั้ง จากเดิม 166 ล้านคน-ครั้ง
ผู้ว่าฯ ยุทธศักดิ์ กล่าวว่า ได้วางแผนปูพรมทำการตลาดท่องเที่ยวต่อเนื่องปี 2563 โดยการประชุมร่วมกันระหว่างสำนักงานใหญ่และ ททท.ในประเทศกับทั่วโลกประชุมเพื่อหารือร่วมกันแล้วแต่ละด้านไม่ต่ำกว่า 2 ครั้ง เรียกว่า Re-Regional พยายามหาช่องทางการจัดลำดับความสำคัญ ประเมินผลการทำงานที่ผ่านมา ขณะเดียวกันก็กำหนดธีมการทำงาน เพราะสถานการณ์ของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวปัจจุบัน
1.การแข่งขันระหว่างไทยกับประเทศอื่น ๆ ดุเดือดมาก 2.สถานการณ์ภายในประเทศมีข้อจำกัดของแหล่งท่องเที่ยวต่าง ๆ 3.การเติบโตทางเทคโนโลยีและการเข้ามามีส่วนร่วมของโซเชียล มีเดีย และ OTA ต่าง ๆ อาจจะนำไปถึงจุดที่ ททท.จะต้อง Re-Shape หรือปรับทัพการทำงานกันใหม่ด้วยวิธีอย่างไรถึงจะต่อสู้กับสถานการณ์ที่ไม่แน่นอนและมีความเปลี่ยนแปลง ทั้งนี้เพื่อให้การจัดทัพครั้งใหม่เดินหน้าทุกอย่างเป็นไปตามวิสัยทัศน์การนำประเทศไทยการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนต่อไป
ฉะนั้นจึงจะต้องกำหนดความเหมาะแต่ละฝ่ายของ ททท. ประกอบด้วย
1.ด้านตลาดในประเทศ ซึ่งเป็นเสาหลักขับเคลื่อนรายได้ของประเทศจึงต้องทำ Re-Invent มีการคิดค้นสิ่งใหม่ด้วยนวัตกรรมการทำงาน
2.ด้านตลาดต่างประเทศ” 2-3 ปีที่ผ่านมาทุ่มเทไปกับการทำ segmentation ส่งเสริมการตลาดเชิงคุณภาพ ต่อไปอาจจะต้อง Re-Focus
3.ด้านสื่อสารการตลาด ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญเกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีและโซเชียลมีเดียจึงจะต้องเน้นเรื่องการทำ Re-Connect ไม่เฉพาะองคาพายพใน ททท.เท่านั้นแต่จะต้องดูแลความเชื่อมโยงสู่ภายนอกด้วย
4.ด้านส่งเสริมสินค้าการท่องเที่ยว มีบทบาทพัฒนาสินค้ามาตลอดอาจจะต้องมา Re-Define กันใหม่ถึงบทบาทภาพรวมของ ททท.ให้ทำด้านซัพพลายไซซ์มากขึ้น งานทางด้านพัฒนาสินค้า เส้นทาง จะต้องผนวกทำเรื่องสิ่งแวดล้อม ความปลอดภัย
5.ด้านดิจิทัลวิจัยและพัฒนา ททท.ได้รับมอบหมายจากกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ให้รับผิดชอบการทำสถิติตัวเลขเหมือนในอดีตที่ผ่านมา หน้าที่จึงจะต้อง Re-Boost ตัวเอง เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ และข้อมูลทางด้าน intelligent มากขึ้น ทำทางด้านดิจิทัล อินฟอร์เมชั่น เพิ่มมากขึ้น
การวางยุทธศาสตร์การประชุมแผนตลาดการท่องเที่ยวประจำปี 2563 (TAT Action Plan 2020 : TATAP 2020) จะจัดทัพการทำงานใหม่ภายใต้ “5 Re” ดังกล่าว กำหนดจะประชุมช่วงต้นเดือนกรกฎาคม 2562 แล้วจากนั้นจะแถลงแผนการตลาดประจำปี 2563 ได้ในวันที่ 8 กรกฎาคม 2562 ที่โรงแรมเซนทารา แกรนด์ กรุงเทพฯ
โดยจะยังตอกย้ำอัตราการเติบโตต่อเนื่องปี 2563 เพิ่มจากปัจจุบันทั้งรายได้และจำนวนนักท่องเที่ยวไทยและต่างประเทศไม่ต่ำกว่า 10 % ท่ามกลางความท้าทายของหลายเครื่องยนต์ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อสถานการณ์ตลาดท่องเที่ยวอยู่บ้าง ทั้งปัจจัยโลกสถานการณ์สงครามการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐอเมริกา หรือปัจจัยด้านข้อจำกัดในประเทศ แต่ ททท.ก็จะต้องพยายามคงอัตราเป้าหมายไว้ได้ทั้งปี 2562 จะต้องมีรายได้รวมไม่ต่ำกว่า 3.4 ล้านล้านบาท เช่นเดียวกับต้องขยายการเติบโตให้ได้ในปีต่อ ๆ ไป
ฟังข่าวท้ายชั่วโมง
ข่าวที่ 1 “คิงเพาเวอร์แฟร์ยิ่งใหญ่ต้องไป23พ.ค.-2มิ.ย.นี้”
กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ รายงานว่า ได้ร่วมมือกับกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา จัดอย่างยิ่งใหญ่มหกรรมงานแฟร์ “Thai Power Community Fair พลังคนไทย พลังชุมชนไทย” ต่อเนื่องเป็นเวลา 2 สัปดาห์ ระหว่างวันที่ 23 พฤษภาคม – 2 มิถุนายน 2562 ณ บริเวณคิง เพาเวอร์ มหานคร เป็นพลังและศักยภาพที่จะแสดงให้เห็นถึงพลังคนไทยให้ทั้งในและต่างประเทศได้รับรู้ ผ่านงานแสดงสินค้าชุมชนอันเป็นเอกลักษณถิ่น ภายใต้แนวคิด ‘เชื่อในพลังคนไทย’ เวทีที่จะมาสนับสนุน ส่งเสริม พัฒนา และนำสินค้าไทยก้าวไกลสู่เวทีโลก
จึงขอเชิญชวนทุกคนมาเที่ยวงานแฟร์ครั้งแรก Thai Power Community Fair พลังคนไทย พลังชุมชนไทยกับ สุดยอดสินค้าภูมิปัญญาไทย! งานหัตถกรรมฝีมือประณีต งานคราฟต์สุดเก๋ สินค้าไลฟ์สไตล์ และของดีฝีมือคนไทยจากหลากหลายชุมชนทั่วประเทศกว่า 30 ร้านค้า และอิ่มอร่อยไปกับเมนูเด็ดร้านดังกว่า 17 ร้าน ให้ด้ชม ชิม ช้อป รวมทั้งภายในงานยังจำหน่ายผลิตภัณฑ์ชุมชนท้องถิ่น สนุกกับศิลปินดารารับเชิญที่จะมาร่วมกิจกรรมภายในงานอย่างคับคั่งตลอดทุกวัน
ความพิเศษของงาน ได้จัดให้มีเวทีสาธิตการผลิตสินค้าชุมชนที่น่าสนใจจากชาวบ้านท้องถิ่น การแสดงอักษราหุ่นละครเล็ก ที่ยังคงอนุรักษ์ท่วงท่าร่ายรำอันอ่อนช้อยละเมียดละไมในแบบไทยเดิมไว้ การแสดงสุดอลังการโชว์พื้นเมือง 4 ภาค จากทีมเพชรจรัสแสง ห้ามพลาด มหกรรมงาน คิง เพาเวอร์ แฟร์ ครั้งแรกในประวัติศาสตร์กับสินค้าคุณภาพจากมืออาชีพของชาวชุมชนทั่วประเทศ 23 พฤษภาคม - 2 มิถุนายนนี้ 10.30 - 20.30 น. ณ มหานคร สแควร์ คิง เพาเวอร์ มหานคร
ข่าวที่ 2 “ททท.งัดทุกโปรเที่ยวไทย5เดือนเข้าเป้า1.2ล้านล้าน”
นพดล ภาคพรต รองผู้ว่าการด้านตลาดในประเทศ ททท. |
นายนพดล ภาคพรต รองผู้ว่าการด้านตลาดในประเทศ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า วางแผนกระตุ้นรายได้ตลาดการท่องเที่ยวในประเทศช่วงครึ่งปีหลังหรือกรีนซีซัน ระหว่างพฤษภาคม-กันยายน 2562 ด้วยแคมเปญแรง ๆ ที่จะปลุกเศรษฐกิจชุมชนทั่วประเทศคึกคัก แคมเปญแรก “บินพักหลักร้อยหลักพันลุ้นล้าน” เจาะกลุ่มนักท่องเที่ยวทั่วไปทุกวัย
โดย ททท.พร้อมให้สิทธิประโยชน์นักท่องเที่ยวรับไปถึง 3 ต่อ คือ ต่อที่ 1 ซื้อตั๋วเครื่องบินราคาหลักร้อยบาท ต่อที่ 2 จองใช้ที่พักคืนละหลักพันบาท ไปท่องเที่ยวเมืองหลัก-เมืองรอง ซึ่งลดสูงสุดถึง 65 % ต่อที่ 3 ลุ้นรับรางวัลท่องเที่ยวมูลค่ารวมกว่าล้านบาท
แคมเปญที่ 2 “Where is the World” เจาะกลุ่มนักท่องเที่ยวเศรษฐีที่นิยมเที่ยวต่างประเทศให้หันมาเที่ยวเมืองไทย โดยจะนำภาพแหล่งท่องเที่ยวหรู สวย เก๋ มาโพสต์เชิญชวนกำลังซื้อเหล่านี้เดินทางเที่ยว จะเริ่มช่วงเดือนมิถุนายน นี้ ควบคู่กับการทำโปรโมชั่นส่งเสริมการขายร่วมกับเครือข่ายพันธมิตร สายการบิน โรงแรมที่พัก ร้านอาหาร สปา ร้านอาหาร และกิจกรรมท่องเที่ยวต่าง ๆ
ตลอดฤดูฝน 5 เดือนนี้ พฤษภาคม-กันยายน นี้ ในมหกรรมการขาย 188 เส้นทาง จาก 108 เส้นทางพร้อมไป และ 80 เส้นทางพร้อมเปย์ โดย 1.ทำโปรโมชั่นกับบริษัทนำเที่ยวออนไลน์ (OTA) 2 ค่าย คือ www.traveloka.com ให้ส่วนลดห้องพักในเมืองท่องเที่ยวรอง 24 จังหวัด และส่วนลดตั๋วเครื่องบิน ระหว่างวันนี้-30 มิถุนายน 2562 และร่วมกับ www.agoda.com มอบส่วนลดห้องพักโรงแรม 55 เมืองรอง ระหว่างวันนี้-15 กันยายน นี้ 2.ทำเว็บไซต์ www.teawthaionline.com แนะนำวิธีเที่ยวเมืองไทย ระหว่างวันนี้-30 กันยายน มีให้เลือก 3 แบบ ได้แก่
1.จัดรูปแบบเที่ยวเอง 2.จัดทำแพกเกจซื้อโปรแกรมเที่ยวผ่านบริษัททัวร์ 3.สินค้าที่ระลึก ทั้งงานผ้าไทย งานไม้ เครื่องเคลือบ เป้าหมายตลอดปี 2562 จะกระตุ้นรายได้ท่องเที่ยวตลาดในประเทศให้ได้ตามเป้า 1.2 ล้านล้านบาท
ข่าวที่ 3 “บางจากทุ่ม100ล้านลุยB100ดันQ2/62กำไร”
นายชัยวัฒน์ โควา วิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทบางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บางจากมีความพร้อมผลิต B100 ตามนโยบายรัฐบาล ขณะนี้ได้ใช้งบลงทุน 100 ล้านบาท ปรับปรุงการผลิตมาตรฐานไบโอดีเซล หรือ B100 ทำให้ต้นทุนการผลิต B100 เพิ่มขึ้นอีก 1 บาทต่อลิตร ทว่าจะสามารถสร้างผลการดำเนินงานไตรมาส 2 ปี 2562 มีทิศทางเติบโตได้ดีกว่าไตรมาสแรก และคาดจะทำกำไรได้ในระดับหลักร้อยล้านบาทเช่นกัน
นายบัณฑิต สะเพียรชัย กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บีซีพีจี จำกัด (มหาชน) เครือบางจาก กล่าวว่า ในไตรมาส 1/2562 ผลการดำเนินงานเติบโตดีต่อเนื่องทั้งในไทย ญี่ปุ่นและฟิลิปปินส์ สามารถทำกำไรสุทธิ 492 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 110 ล้านบาท สูงขึ้น 29% พร้อมกับรับรู้กำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน 38 ล้านบาท เพราะค่าเงินบาทแข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน ส่งผลให้ผลประกอบการไตรมาส 1 ทำกำไรสุทธิ 61% และกำไรต่อหุ้น 0.25 บาท
ช่วงที่ 2 เมืองไทยมีความสนุกมากกว่าที่คิด กับ More Fun 72 ชั่วโมง เที่ยวไปตามเส้นทาง “วิถีชุมชนตะวันออกจันทบุรี-ตราด” ตลุยกินผลไม้ “วิสาหกิจชุมชนเขาบายศรี” ทำ D.I.Y.ที่ “บ้านห้วยแร้ง” งมหอยปากเห็ด “บ้านแหลมมะขาม” แล้วไปทำสปาทรายดำ “บ้านยายม่อม” เท่านี้ก็สุขสุด ๆ แล้ว ส่วน “การทิ้งขยะ” ต้องเรียนรู้ความอันตราย และข่าวร้อน ๆ “การบินไทย” ลั่นกำไรไตรมาส1 ปี62 ฟัน 456 ล้านบาท ทั้งที่ค่าใช้จ่ายบานทะโล่ 50,619 ล้านบาท ผิดกับ “บางกอกแอร์” โกยกำไรสบาย ๆ ไตรมาส 1 ปีนี้ 510 ล้านบาท “กรมอุทยานแห่งชาติ” ปิดแล้วเที่ยวเกาะสิมิลัน-สุรินทร์ ขอฟื้นฟู 5 เดือน หลัง 14 ตุลาคม 2562 จะเปิดให้เที่ยวได้ตามปกติ
@More Fun 72ชม.วิถีชุมชนตะวันออกจันทบุรี-ตราด
เมืองไทยมีหลากหลายความสนุกให้เลือกท่องเที่ยว ช่วงปี 2562 เส้นทางสวนผลไม้ชายฝั่งทะเลตะวันออก มีเรื่องราวชวนไปสัมผัสมุมใหม่หลายรสชาติ อย่างการท่องเที่ยววิถีชุมชนคนตะวันออก
พอมีเวลาพักผ่อนสัก 72 ชั่วโมง หรือ 3 วัน 2 คืน จะชวนไปเที่ยวเชื่อมโยงจันทบุรี-ตราด อย่างเป็นสุขทั้งกลุ่มครอบครัว กลุ่มเพื่อนเหล่าเจนวาย วัยเก๋า และกลุ่มบริษัทห้างร้าน องค์กร
จันทบุรี กับ ตราด ไปแล้ว มีอะไรให้ส่องความสุขได้บ้าง
วันแรก บุกไปกินผลไม้ตามฤดูกาลในสวนที่ “วิสาหกิจชุมชนรักษ์เขาบายศรี” ใต้ต้นทุเรียน เงาะ ระกำ สละ ลองกอง พออิ่มหนำสำราญแล้ว ก็ไปชมของสวย ๆ งาม ๆ แปลกตาของ “ลานหินสีชมพู” ในเขตห้ามล่าสัตว์ป่าอ่าวคุ้งกระเบน เที่ยวพอหอมปากหอมคอสัก 2-3 แห่ง ก็สอดสายตาหาร้านอร่อย ๆ ช่วงมื้อค่ำ ก่อนเข้าพักค้างคืนในตัวเมืองจันทบุรี
วันที่สอง ออกไปล่องเรือชมต้นครูซ ร่วมกิจกรรมท้าทายแบบสนุก ๆ ลงมือฝึก D.I.Y.ทำสบู่เปลือกมังคุดกับชาวบ้านในชุมชน “บ้านห้วยแร้ง” ยังมีเวลาเหลือช่วงบ่ายเลือกไปอีกสักแห่งเพื่อเรียนรู้สัมผัสชุมชน 3 วัฒนธรรม ของชาว “บ้านแหลมมะขาม” ศูนย์รวมวิถีประมงพื้นบ้าน และการสอนงมหอยปากเป็ด
วันที่สาม มุ่งหน้าเยือนเมืองตราด ตรงไปยัง “ชุมชนยายม่อม” ร่วมประสบการณ์ดี ๆ ด้วยการทดลองทำสปาทรายดำแห่งเดียวในเมืองไทย ใช้เวลาราว 1-2 ชั่วโมง จะรู้สึกได้ถึงความสบายตัว หายเมื่อยล้าเป็นปลิดทิ้ง
จากนั้นก็วกเข้าตัวเมืองไปเยี่ยมชม “พิพิธภัณฑ์สถานเมืองตราด” ในเรือนไม้โบราณขนาด 2 ชั้น ซึ่งได้ออกแบบห้องจัดนิทรรศการแสดงเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ทุกแง่มุมให้นักท่องเที่ยวต้องตื่นตะลึง ในสิ่งที่ไม่เคยรู้มาก่อนว่ายุคหนึ่งเมืองเล็ก ๆ ริมทะเลอ่าวไทย คือประวัติศาสตร์แห่งความทรงจำที่ทำให้เข้าถึงรากความเป็นมาของไทยได้เป็นอย่างดี
ทุกครั้งที่มีโอกาสไปถึงแต่ละชุมชนภาคตะวันออก จันทบุรี-ตราด แล้ว ก็ต้องอุดหนุนของดีประจำถิ่นชาวตราด 5 อย่างต้องห้ามพลาด ได้แก่ สละ ระกำหวาน สับปะรดสีทอง กะปิ และงอบ
ไป More Fun 72 ชั่วโมง ใน “วิถีชุมชนตะวันออก : จนทบุรี-ตราด” แล้วจะรู้ว่าเที่ยวเมืองไทยสนุกและดีกว่าที่คิด
@ขยะอันตรายใกล้ตัวต้องรู้วิธีกำจัดโดยด่วน ขึ้นชื่อว่าเป็นขยะอันตราย
ย่อมต้องอันตรายสมชื่อแน่นอนค่ะ แล้วเราควรทิ้งและจัดการอย่างไร ดูข้อแนะนำดังนี้
1.ถ่านไฟฉาย : มีแมงกานีส - ทำให้ปวดหัว เป็นตะคริวที่แขนขา สมองอักเสบ
2.หลอดฟลูออเรสเซนต์ : มีปรอท -ทำให้เหงือกบวม ท้องร่วงรุนแรง กล้ามเนื้อกระตุก
3.แบตฯรถยนต์ : มีตะกั่ว - ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ ความจำเสื่อม ชักกระตุก
4.น้ำยาทำความสะอาด : มีแอมโมเนีย -มีเสมหะ เจ็บหน้าอก ชัก ถ้าสัมผัสจะไหม้ผิ
5.แบตฯมือถือ – มีนิกเกิล - มีอาการแพ้ตามผิวหนัง มีแผลไหม้ แน่นหน้าอก 6.ทินเนอร์ – มีสารทำละลาย คลื่นเหียน ระบบทางเดินอาหารอาจหยุดทำงาน
วิธีการคัดแยก “ขยะอันตราย” เริ่มลงมือทำตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ดังนี้ 1.ทิ้งในถังขยะอันตรายสีเทาส้มเท่านั้น 2.ไม่นำไปเผา ฝัง หรือทิ้งแหล่งน้ำ 3.ถ้าเป็นของเหลว อย่าเทรวมกัน 4.ถ้าเป็นของแข็ง ระวังภาชนะไม่ให้แตกหัก
ฟังข่าวท้ายชั่วโมง
ข่าวแรก “บินไทยแจงQ1กำไร456ล้านค่าใช้จ่ายพุ่ง5หมื่นล้าน”
นายสุเมธ ดำรงชัยธรรม กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) นำทีมฝ่ายบริหารแถลงผลการดำเนินงาน ไตรมาส 1 ปี 2562 ของกลุ่มบริษัท การบินไทย สรุปดังนี้
1.มีกำไรสุทธิ 456 ล้านบาท (หมายเหตุ จากการค้นข้อมูลย้อนหลังพบการบินไทยขาดทุนต่อเนื่องมานานเกือบ8 ปี ตั้งแต่ปี 2554-2561)
2. มีรายได้รวมทั้งสิ้น 49,791 ล้านบาท ต่ำกว่าไตรมาสเดียวกันของปีก่อน 3,675 ล้านบาท คิดเป็นลดลงไป 6.9% (สาเหตุสำคัญคือ 1.การขนส่งผู้โดยสารและสินค้าลดลง เป็นผลจากปริมาณการผลิตและการขนส่งลดลง 2.รายได้จากผู้โดยสารเฉลี่ยต่อหน่วยลดลงจากการแข่งขันที่รุนแรง และ 3.การแข็งค่าของเงินบาทต่อสกุลเงินรายได้หลัก ทำให้รายได้เมื่อคำนวณเป็นเงินบาทลดลง )
3.มีค่าใช้จ่ายรวม 50,619 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 989 ล้านบาท หรือคิดเป็น 2.0 % (สาเหตุส่วนหนึ่งเกิดจากการปรับลดประมาณการมูลค่าคงเหลือของเครื่องบินและเครื่องยนต์อะไหล่ ทำให้ค่าเสื่อมราคาเพิ่มขึ้น ค่าเช่าเครื่องบิน และอะไหล่เพิ่มขึ้น )
4.แผนงานปี 2562 เดินหน้ามุ่งเน้นการสร้างรายได้เสริมภายใต้โครงการ “มนตรา” ลุยฟื้นฟูการบินไทยแบบเร่งด่วนในไตรมาส 2 ปีนี้เป็นต้นไป ขานรับคณะรัฐมนตรีเมื่อ 14 พ.ค.2562 อนุมัติให้ใช้เงินลงทุน 1.5 แสนล้านบาท จัดซื้อฝูงบินใหม่ 38 ลำ ได้แล้ว
5.ฝูงบินบริการ ณ วันที่ 31 มีนาคม 2562 จำนวน 103 ลำ ใช้บริการได้จริงจำนวน 90 ลำ ต่ำกว่าปีก่อนซึ่งมีการใช้เฉลี่ย 94 ลำ
6.มีอัตราการใช้ประโยชน์ของเครื่องบิน (Aircraft Utilization) 12.5 ชั่วโมง -มีปริมาณการผลิตด้านผู้โดยสาร (ASK) ลดลง 2.8% -มีปริมาณการขนส่งผู้โดยสาร (RPK) ลดลง 3.2% -มีอัตราส่วนการบรรทุกผู้โดยสาร (Cabin Factor) เฉลี่ย 80.3% ต่ำกว่าปีก่อนเฉลี่ยที่ 80.6%
7.มีจำนวนผู้โดยสารที่ทำการขนส่งรวมทั้งสิ้น 6.29 ล้านคน เพิ่มขึ้นกว่าปีก่อน 0.6%
ข่าวที่สอง “บางกอกแอร์Q1/62ฟันกำไรพุ่ง510ล้าน”
นายพุฒิพงศ์ ปราสาททองโอสถ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) |
นายพุฒิพงศ์ ปราสาททองโอสถ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ไตรมาส1 ปี 2562 มีรายได้รวม 7,789.9 ล้านบาท ทำกำไรสุทธิ 510.8 ล้านบาท โดยเป็นกำไรสุทธิของผู้ถือหุ้น 504.3 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.24 บาท มีผู้โดยสารรวม 1.73 ล้านคน อัตราขนส่งผู้โดยสารเฉลี่ย (Load Factor) 74.6 % สัดส่วนผู้โดยสารจากจุดขายตั๋ว (Point-of-Sale) 3 อันดับแรก มาจากยุโรป 25 % ในประเทศไทย 23 % เอเชีย 20 %
ช่วงไตรมาสแรก บางกอกแอร์เวย์สได้เปิดเส้นทางบินใหม่ ระหว่าง กรุงเทพฯ-คัมรัน (เวียดนาม) เมื่อ ม.ค.62 4 เที่ยว/สัปดาห์ เชียงใหม่-กระบี่ (เที่ยวเดียว)เมื่อ มี.ค.3 เที่ยว/สัปดาห์ เพิ่มความถี่ในเส้นทางระหว่างประเทศ ได้แก่ กรุงเทพฯ-ดานัง (เวียดนาม) เป็น 14 จาก 7 เที่ยว/สัปดาห์ กรุงเทพฯ–มัณฑะเลย์ (เมียนมาร์) เป็น 14 จาก11 เที่ยว/สัปดาห์
ข่าวที่สาม “ปิดเกาะสิริมิลัน-สุรินทร์ห้ามเที่ยวถึง14ต.ค.นี้”
กรมอุทยานแห่งชาติ ได้ประกาศปิดเกาะสิมิลัน เกาะสุรินทร์ ต่อเนื่อง 5 เดือน ระหว่าง16 พ.ค.- 14 ต.ค.2562 เพื่อแก้ไขปัญหาผลกระทบต่อทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมที่เกิดจากการท่องเที่ยวในเขตอุทยานแห่งชาติ จึงขอให้นักท่องเที่ยวรอไปเที่ยวได้อีกครั้งหลังเปิดบริการใหม่ ตลอด 5 เดือนทางกรมอุทยานฯ จะเดินหน้าฟื้นฟูธรรมชาติให้กลับมาอุดมสมบูรณ์
เหตุที่เลือกปิดช่วงดังกล่าวเพราะเป็นช่วงมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ทำให้ ฝั่งทะเลอันดามันมีคลื่นสูง ไม่เหมาะแก่การเดินทางด้วยเรือ ระหว่างนี้อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน จัดเจ้าหน้าที่ออกไปตรวจสอบ และเฝ้าระวังไม่ให้ลักลอบนำนักท่องเที่ยวเสี่ยงอันตรายเข้าไปเที่ยว รวมทั้งจัดกำลังนำเรือตรวจการณ์ ออกไปตรวจสอบป้องกันการลักลอบทำประมงผิดกฎหมาย โดยเฉพาะบริเวณเกาะบอน ซึ่งเป็นเกาะเล็ก ๆ ตั้งอยู่ระหว่างเกาะสิมิลัน และเกาะตาชัย
ในช่วงฤดูมรสุม มักจะมีกลุ่มชาวประมงลักลอบเข้าไปจับสัตว์น้ำ ทำให้ทรัพยากรได้รับความเสียหายเสื่อมโทรมมาตลอดจึงต้องมีมาตรการป้องกันเป็นอย่างดี
ติดตามฟังรายการได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 11.00-12.00 น.ทาง สวท.FM 97.0 MHz.
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น