หนุ่มสาวทัวร์ชี้ธุรกิจท่องเที่ยว3ขาใหญ่ปี63โตแรง "อินบาวนด์"กลุ่มครอบครัว คนไทยกลุ่มสูงวัย/คอปอเรต-เที่ยววิลล่ามูเซ่ เขาใหญ่
หนุ่มสาวทัวร์เจน2ชี้ธุรกิจท่องเที่ยว3ขาใหญ่ปี’63
อินบาวนด์มีช่องโต-ทัวร์ไทยสูงวัย/คอร์ปอเรตฉลุย
คิงเพาเวอร์มอบความสุขเด็กไทยส่งท้าย12ม.ค.63
รับคูปองเงินคืน2พันช้อปด้วยบัตรร่วมคิงเพาเวอร์
มหานครสกายบาร์จัดพิเศษ“ไวท์ทรัฟเฟิล16-17ม.ค.
ททท.ชวนเที่ยวงานแผ่นดินพระนารายณ์14-23ก.พ.
โคราชลุยจัดทัวร์แสงสีเสียงปราสาทหินพิมาย18ม.ค.
BCPGเครือบางจากรุกขายไฟในลาวให้เวียดนาม25ปี
เที่ยวเขาใหญ่ยุคใหม่มุมเก๋ๆ
ที่ “วิลล่า มูเซ่”เท่จริงๆ
UNEPแนะทั่วโลกลดขยะอาหารด้วย5วิธีเพื่อสุขภาพ
AWCใจป้ำทุ่ม2.6หมื่นล้านซื้อโรงแรม/มิกยูสขึ้นผู้นำ
รฟท.เปิดขายตั๋วล่วงหน้าเที่ยวสงกรานต์11-15เม.ย.
ต้อนรับสู่รายการ
“รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” ในวันอาทิตย์ที่ 12 มกราคม 2563 เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง
ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookliveFM97.0 อ่านทั้งหมดทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen
และบล็อกเกอร์ #gurutourza #รวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97 #เที่ยวกับกู๋ #หนุ่มสาวทัวร์ #ท่องเที่ยวปี63โตได้อีก # #
ช่วงที่ 1 สุดเซอร์ไพรส์นักธุรกิจรุ่นใหม่
“โชติช่วง ศูรางกูร” รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท หนุ่ม สาว ทัวร์ จำกัด
เจนเนอเรชั่น 2 ถอดรหัสวงจรท่องเที่ยวปีหนู 2563
จับตา 3
ขาใหญ่ ยังโตได้แบบ 2 หลัก “Inbound” เร่งฝ่าค่าบาทแข็งไปโกยตลาดครอบครัวยุโรป
อินเดีย จีน หวังโตเพิ่มให้ได้ 10 % “Domestic”
เอาใจลูกค้าสูงวัย กับไมซ์ คอร์ปอเรต และหน่วยงานราชการ กำลังซื้อฉลุยโตแน่เกิน 20
% ส่วน “Outbound”
ต้องดีไซน์เส้นทางให้โดนใจสไตล์ Exotic เส้นทางแปลกใหม่
ละตินอเมริกา จอร์แดน เภตรา โมร็อกโค พร้อมกับแนะโปรเจ็กต์เชิงนโยบายต้องจูน 4
เรื่องไฮไลต์แห่งปี
“เที่ยวเมืองรอง-ชุมชน-สตรีทฟู้ด-เที่ยวอย่างรับผิดชอบ”
ให้โลกเข้าใจเมืองไทยตรงกัน
นายโชติช่วง
ศูรางกูร รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท หนุ่ม สาว ทัวร์ จำกัด เปิดเผยว่า
ได้ดำเนินธุรกิจท่องเที่ยวมา 4 ทศวรรษ
ประเมินสถานการณ์ของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวปี 2563 ความท้าทายยังคงอยู่กับเรื่องบาทแข็งเป็นอุปสรรคต่อการนำเข้านักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาเที่ยวเมืองไทย
(inbound) ต้องซื้อแพกเกจแพงขึ้นโดยอัตโนมัติกว่า 20
% และเป็นการเปิดโอกาสให้คนไทยเดินทางเที่ยวต่างประเทศ
(Outbound) เพิ่มขึ้นเพราะซื้อของได้ถูกลงเช่นกัน
ผนวกกับปัจจัยรอบด้าน สงครามการค้าและการเมือง ทำให้ดุลการค้าไทยสูง แต่จะกลายเป็น
SAVE HEAVEN คลังการเงิน
ที่จะมีนักลงทุนหลั่งไหลเข้ามาเพราะดีกว่าการถือเงินสกุลดอลลาร์หรือเยนไว้ในมือซึ่งสวิงตัวมาก
พอค่าเงินบาทสูงขึ้นจึงเป็นจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญของไทยที่เคยถูกมองว่าเป็น
“จุดหมายปลายทางราคาถูก” อาหาร ที่พัก ข้าวของช้อปปิ้ง ได้ถูก
กลายเป็นทุกอย่างแพงขึ้นทั้งหมด
ทำให้ไทยไม่ได้เป็นจุดหมายอันดับหนึ่งในใจนักท่องเที่ยวทั่วโลกอีกต่อไป
เพราะส่วนใหญ่นักท่องเที่ยวต่างชาติต้องการมาใช้ชีวิตด้วยค่าครองชีพที่ถูก
ดังนั้นปี 2563 ต่างชาติจึงหันไปเลือก เวียดนาม
มาเลเซีย เติบโตสูงขึ้น เป็นทางเลือกใหม่ ๆ มากกว่า
หรือชาวยุโรปอาจจะมองการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม
แต่ก็เปรียบเทียบความคุ้มค่าที่จะบินไกลข้ามทวีปมาเที่ยวหรือไม่
เนื่องจากเศรษฐกิจภายในสหภาพยุโรป ปัญหา Brexit ยังอึมครึม
ส่งผลถึงการตัดสินใจเลือกเที่ยวระยะสั้น ๆ Shorthaul แทนหรือมาเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ลดลง
หันไปทะเลตุรกี
ปัจจัยข้างต้นเป็นความท้าทายหรือ
challenge ของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยไตรมาส 1-2 แล้วจะเริ่มผ่อนคลายได้ช่วงไตรมาส
3-4 ภายใต้เงื่อนไขจะไม่มีสถานการณ์อื่น ๆ
เข้ามาขัดขวางเศรษฐกิจไทยและทั่วโลก
ปี 2563
ตั้งเป้าหมายการเติบโตการนำนักท่องเที่ยวเข้าเมืองไทย
(Inbound) เพิ่มประมาณ 10 % ด้วยการบุกเจาะตลาดกลุ่มเฉพาะ
ในยุโรป ก็พุ่งเป้ากลุ่มครอบครัว และขยายฐานตลาดเอเชียมากขึ้น ละตินอเมริกาเริ่มทำเมื่อปีที่ผ่านมาผลลัพธ์การเติบโตสูงกว่าทั่วไป
ส่วนการนำคนไทยเที่ยวต่างประเทศ (outbound)
ยังเติบโตได้อยู่เพราะมีโฮลเซลค้าส่งจำนวนมากแต่ความท้าทายคือการตัดราคา
ทางเราจึงเน้นการมีสต็อกห้องพักและตั๋วเครื่องบิน ขณะที่ตลาดในประเทศ (domestic)
จะเห็นการเติบโตของไมซ์ในประเทศเพิ่มสูงขึ้น เพราะรัฐบาลมีนโยบายให้จัดประชุม
สัมมนา ภายในประเทศเป็นหลัก โดยเฉพาะกลุ่มตลาดหน่วยงานราชการจะมีสูงถึง 20
% ผนวกกับนักท่องเที่ยวเดินทางอิสระจะเป็นอีกตลาดเติบโตแน่นอน
จึงหวังว่าปีนี้รัฐบาลจะมีมาตรการสนับสนุนอย่างเต็มที่ เป็นหลักปฏิบัติของหลาย ๆ
ประเทศ คือ รัฐบาลเป็นผู้กำกับดูแลระเบียบปฏิบัติ สร้างนโยบายสนับสนุนเอกชนทำงาน
ทำการตลาดและการขาย ได้คล่องตัวมากขึ้น ก็จะเป็นผลดีต่อประเทศ
ส่วนเอกชนมีหน้าที่สร้างรายได้หมุนเวียนเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ
เมื่อทั้งสองภาคส่วนทำงานสอดประสานกันได้ดีก็จะทำให้การท่องเที่ยวปี 2563 เดินหน้าเติบโตเป็นเสาหลักเศรษฐกิจกระจายเม็ดเงินสู่ชุมชนท้องถิ่นได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้
ตอนนี้ตลาดต่างประเทศที่มีความหวังพึ่งพาได้จากสถิติปี
2562 มีประมาณ 39 ล้านคน
“อินเดีย” เป็นดาวรุ่งมาแรง ปี 2563
รัฐบาลไทยขยายฟรี VISA ON ARRIVAL : VOA ไปจนถึงเมษายน
นี้ ให้นักท่องเที่ยวจีน และอินเดีย อาจจะทำให้จำนวนเพิ่มขึ้นก็ได้
แต่ในมุมของเอกชนปีที่ผ่านมาจีนมาเที่ยวไทยน้อยลงเป็นผลมาจากการปราบปรามทัวร์ศูนย์เหรียญ
ทำให้การทำกรุ๊ปเดินทางเข้ามามีความเสี่ยงมากขึ้น ตลาดจีนเดินทางเที่ยวอิสระ F.I.T.มีสูงขึ้นก็จริงแต่ภาพเรือล่มที่ภูเก็ตยังอยู่ในความทรงจำของนักท่องเที่ยว
รวมถึงคนจีนมีความมั่นใจระดับหนึ่งเมื่อมีข่าวในไทยไม่ดีออกไปก็ทำให้จีนชะลอการเดินทางด้วยเช่นกัน
ทางหน่วยงานเกี่ยวข้องจึงควรปรับปรุงแก้ไขภาพลักษณ์ให้ถูกต้อง
สำหรับตลาดมาแรงอย่าง
CLMV เวียดนามเติบโตเร็วมาก
เป็นคาราวานเข้ามาทางอีสานและภาคเหนือ ส่วนเมียนมาเข้าทางด่านภาคตะวันตก กาญจนบุรี
กรุงเทพฯ พัทยา เนื่องจากการเปิดประเทศ แต่จำนวนคนกับยอดใช้จ่ายยังสู้จีนไม่ได้เลย
ตลาด CLMV
จึงยังไม่ได้ส่งผลต่อเศรษฐกิจท่องเที่ยวไทยมากนัก
นายโชติช่วงกล่าวว่าเอกชนท่องเที่ยวเผชิญปัญหาในลักษณะดังกล่าวมาหลายครั้ง
แต่ยุคนี้โลกหมุนเร็วไร้พรมแดน
เพราะเมื่อเกิดเหตุการณ์ในแต่ละมุมโลกก็กระทบมาถึงไทย ดังนั้น บริษัท หนุ่ม สาว
ทัวร์ จำกัด จึงปรับตัวด้วยการนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้
เพราะกลุ่มนักท่องเที่ยวมีมากขึ้น โดยมีกลุ่มตั้งแต่มัธยมปลายเริ่มออกเที่ยว
เพราะค่าใช้จ่ายในการท่องเที่ยวถูกลง มีโลว์คอสแอร์ไลน์ มีOTA
ออนไลน์บริการจองที่พัก แพกเกจท่องเที่ยว แทนที่เดิมจะขายตลาดทั่วไป (mass
tourism ) กลายเป็นจุดเปลี่ยนเข้าไปสู่กลุ่มตลาดเฉพาะเพิ่มขึ้น
(niche market)
ทางหนุ่มสาวทัวร์หันไปจับกลุ่มลูกค้า “ผู้สูงอายุ” เป็นฐานหลัก
เพราะเคยเจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ผลปรากฎว่าคนกลุ่มนี้มีทักษะการหาซื้อทุกอย่างผ่านออนไลน์ได้เองและพยายามหาของราคาถูกที่สุดในออนไลน์
พร้อมกับค้นหารีวิวเพื่อสร้างความมั่นใจเรื่องความปลอดภัยด้วย
เส้นทางการซื้อแพกเกจท่องเที่ยวของกลุ่ม Young Gen นั้นเปลี่ยนไปแล้ว
หนุ่ม
สาว ทัวร์ จึงหันมาจับกลุ่มตลาดผู้สูงอายุ เป็น Niche Market ต้องการ
Full service ยานพาหนะที่มีความสะดวกสบาย
ต้องการบริการดี ๆ เป็นการขานรับ Aging Society ตอนนี้ทำเป็นธุรกิจหลักคือ
1.กลุ่มคอร์ปอเรต มีขนาดตลาดใหญ่มากขึ้น
นักท่องเที่ยวไมซ์ที่เดินทางประชุม สัมมนา อินเซ็นทีฟ คอนเว็นชั่น
ซึ่งทางบริษัทมีลูกค้าอยู่ประมาณ 80 % ของนักท่องเที่ยวทั้งหมด
แทนที่ตลาดเดิมจะมีนักท่องเที่ยวบุคคลมากสุดถึง 80 % ตอนนี้ลดสัดส่วนเหลือเพียง
20 %
ลูกค้ากลุ่มคอร์ปอเรต
ต้องการเดินทางด้วยไอเดียสร้างสรรค์บวกกับกิจกรรมมากกว่าการท่องเที่ยวเฉพาะบุคคลซึ่งสนใจเพียงเส้นทางเป้าหมายเท่านั้น
สำหรับ
“เส้นทางท่องเที่ยว” ตลาดในประเทศ ซึ่งสนใจเดินทางพร้อมกันเป็นกรุ๊ป ซีรีย์
ตอนนี้ค่อนข้างจะขายยากมากขึ้น ทางเราก็เลยผูกเส้นทางประเทศเพื่อนบ้านเข้าไปด้วย
เช่น ไทย+ลาวใต้ หรือทางภาคเหนือ และเมืองกาญจนบุรี+เมียนมา
เพราะเป็นเส้นทางที่ยังมีความยากลำบากต้องอาศัยบริษัทนำเที่ยวดูแล
ส่วนการใช้บริการบริษัททัวร์บางครั้งถูกกว่าการเดินทางเอง เพราะมี Volumn ทั้งโรงแรม
ตั๋วเครื่องบิน พอมีจำนวนสต็อกห้องและตั๋วมากก็สามารถทำราคาได้ถูกลงกว่า OTA
ใหญ่ ๆ อย่าง Agoda หรืออื่น
ๆ
ตอนนี้นำมาทำเส้นทางขายคนไทยเดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศ
เป็น EXOTIC ไปละตินอเมริกา จอร์แดน เภตรา
โมร็อกโค เส้นทางแปลกใหม่ นักท่องเที่ยวเดินทางเองไม่สะดวก
ส่วนในอาเซียนก็จะผสมผสานเที่ยวเมืองไทยบวกเส้นทางเพื่อนบ้านใกล้เคียง
นายโชติช่วงกล่าวว่านโยบายของรัฐบาลในการพัฒนาจุดขายแหล่งท่องเที่ยวเมืองไทยต้องปรับ
4 เรื่องหลัก
ได้แก่
1.การท่องเที่ยวเมืองรอง
ตอนนี้ความเข้าใจของนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ได้พูดคุยกับคู่ค้าบริษัทนำเที่ยวจำนวนมาก
ยังไม่ตรงกัน เพราะต่างชาติมองเมืองรองคือเมืองใดก็ได้นอกเหนือจากกรุงเทพฯ
ดังนั้นจะต้องสื่อสารไปยังกลุ่มธุรกิจและนักท่องเที่ยวให้เข้าใจตรงกัน
2.การขยายฐานท่องเที่ยวชุมชน
ต้องดูด้านความพร้อม ทั้งเรื่องโครงสร้างพื้นฐาน การรองรับนักท่องเที่ยว
จะต้องมีด้วยเช่นกัน เพื่อให้นักท่องเที่ยวมีประสบการณ์ความประทับใจ
ถึงแม้จะได้รับประสบการณ์แต่ไม่ประทับใจแล้วเผยแพร่ลงโซเชียล มีเดีย
อาจจะไม่ได้ส่งเสริมท่องเที่ยวชุมชนในเชิงบวก ตัวอย่าง ญี่ปุ่น
เมื่อต้องการส่งเสริมการท่องเที่ยวชุมชน รัฐก็จะเข้าไปพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน
เตรียมมาตรฐานรองรับให้ชุมชน ภาพลักษณ์จึงออกมาดี
3.การเปิดท่องเที่ยวถนนคนเดินหรือ
THAILAND STREET FOOD ต้องเน้นย้ำเรื่องมาตรฐานสุขอนามัย
ความปลอดภัย มีป้ายติดตราสัญลักษณ์ได้การรับรองด้านสุขอนามัยตามมาตรฐานสากล เพราะนักท่องเที่ยวของ
หนุ่ม สาว ทัวร์ ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มครอบครัวยุโรป
จะไม่ค่อยเชื่อมั่นสตรีทฟู้ดเมืองไทย
อยากลองแต่ก็ไม่กล้าเพราะไม่มั่นใจเรื่องสุขอนามัย
เพราะพฤติกรรมการบริโภคอาหารเผ็ดหรือร้อนแรงมากก็มักจะไม่คุ้น
ลูกค้าที่ชื่นชอบสตรีทฟู้ดก็อาจจะเป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่อยากลองสัมผัสความเป็นท้องถิ่นหรือ
Local ตัวอย่างตอนนี้ในไต้หวันทำโครงการสตรีทฟู้ด
ซึ่งมีป้ายบอกชัดเจนเรื่องสุขอนามัย ผ่านการรับรองจากหน่วยงานรัฐ
มีเงื่อนไขกำกับชัดเจน
4. การท่องเที่ยวอย่างมีส่วนร่วมรับผิดชอบ
ซึ่งเป็นโยบายหลักของประเทศ ภาคเอกชนโดยเฉพาะ บริษัท หนุ่ม สาว ทัวร์ จำกัด
มีทั้งกิจกรรมนำเที่ยวและโรงแรม รีสอร์ต ของตนเอง
ดำเนินการด้านธุรกิจสีเขียวต่อเนื่องมาตลอด ทำเป็นโครงการ GO GREEN เรื่องของบริการที่พักได้นำวัสดุธรรมชาติ
หลอดจากเยื่อไผ่ ปี 2563 ก็จะเร่งรณรงค์จากภายในองค์กรอย่างเข้มข้นหันมาดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมในทุกเส้นทางการท่องเที่ยว
รวมทั้งการปลูกฝังพนักงานในเครือหนุ่ม
สาว ทัวร์ ตลอด 20 ปีที่ผ่านมาคุณพ่อ (ศุภฤกษ์
ศูรางกูร) ได้ทำจรรยาบรรณกับพนักงานในบริษัทเมื่อไปนำเที่ยวสถานที่ใดก็ตาม
จะต้องนำขยะกลับมาทิ้งบนฝั่ง เป็นหลักปฏิบัติของบริษัท ปัจจุบันภายในสำนักงานก็ประกาศให้ใช้หลอดประหยัดไฟ
ใช้กระดาษนำกลับมาใช้ซ้ำ Re-Use สร้างจิตสำนึก
Go Green และมีของที่ระลึก แก้ว ขายให้นักท่องเที่ยว
พยายามส่งผ่าน Go Green จากภายในสู่ภายนอกองค์กร
เพราะตามปกติจะเห็นว่าเมื่อนักท่องเที่ยวไปที่ไหนก็จะทำให้เกิดความเสื่อมโทรม
ดังนั้น
หนุ่ม สาว ทัวร์
จึงต้องวางหลักปฏิบัติเรื่องการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมแหล่งท่องเที่ยวอย่างเข้มข้น
โดยเป็นบริษัทอันดับต้น ๆ
ของเมืองไทยที่ดำเนินการท่องเที่ยวอย่างมีส่วนร่วมรับผิดชอบ ตัวอย่าง ทัวร์อินบาวนด์ของบริษัทได้การรับรองจาก
TRAVEL LIFE ยุโรปมอบตราสัญลักษณ์ให้ถึงมาตรฐานของ
หนุ่ม สาว ทัวร์ ในการดูแลชุมชน สิ่งแวดล้อม เป็นการเช็คอิน มาตรวจสอบ
แล้วมอบตราดังกล่าวให้บริษัทของเรา
ฟังข่าวต้นชั่วโมง
กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ได้มอบความพิเศษในโอกาสวันเด็กแห่งชาติ
วันเสาร์ที่ 11 มกราคม 2563 ให้กับหนู ๆ น้อง ๆ
และครอบครัวที่เข้ามาเที่ยวภายในงาน King
Power and Disney’s Funtastic Children's Day Celebration! คิง เพาเวอร์ รางน้ำ ได้จับมือถ่ายรูปกับตัวการ์ตูนระดับโลกจากดิสนีย์ทั้ง
‘มิคกี้ เมาส์ – มินนี่ เมาส์’ ขวัญใจเด็ก ๆ ต่างพากันมาร่วมกิจกรรมตั้งแต่เช้า
บางครอบครัวมายืนรอต่อแถวกันตั้งแต่ตี 4 เลยทีเดียว พร้อมกับจัดให้ชโชว์ชุดพิเศษ และถ่ายภาพสุดประทับใจ ร่วมกับ มิคกี้ -
มินนี่ บริเวณชั้น 2 คราวน์ เอเทรียม คิง เพาเวอร์ รางน้ำ มาได้อีกในวันอาทิตย์ที่ 12 มกราคม 2563
อีกทั้งรอบบริเวณ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ
มีกิจกรรมมากมายให้เด็กๆได้ร่วมสนุกฟรี ที่ลานไอซ์สเก็ตกลางแจ้งแห่งแรกในเมืองไทย และเล่นเกม
รับของรางวัลสุดเซอไพรส์ ในงาน “King Power Winter
Village Presented by KBank” รวมทั้งช้อปสินค้าลิขสิทธิ์แท้จากดิสนีย์ราคาสุดพิเศษ
แล้วห้ามพลาดวันสุดท้าย 12 มกราคม
นี้ ชมความอลังการของ “ดินแดนมหัศจรรย์
และเมืองเอเรนเดลด์” ใน งาน คิง เพาเวอร์ แอนด์ ดิสนีย์ โฟรเซ่น 2 แมจิคัล
เจอร์นีย์ : King Power Disney’s Frozen 2 Magical Journey
กลุ่มบริษัท
คิง เพาเวอร์ จัดแพกเกจต้อนรับศักราชใหม่ 2563 ด้วยแคมเปญ “BEST DEAL EVER” ให้ สมาชิก คิง
เพาเวอร์ รับฟรี! คูปองเงินสดสูงสุด 2,000 บาท*
ระหว่างวันนี้ – 29
กุมภาพันธ์ 2563ที่ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ
มหานคร ศรีวารี พัทยา และภูเก็ต เมื่อมียอดใช้จ่ายผ่านบัตรฯ
ครบทุก 10,000 บาท (สุทธิ) / ใบเสร็จ
เมื่อจ่ายผ่านบัตรเครดิตร่วม คิง เพาเวอร์ – ไทยพาณิชย์ รับคูปองเงินสด
1,000 บาท บัตรเครดิตไทยพาณิชย์
ประเภทอื่นๆ รับคูปองเงินสด 800 บาท จำกัดการซื้อสินค้าสูงสุด 20,000 บาท/ท่าน/สาขา/ตลอดรายการ
รับคูปองเงินสดคืน 2,000 บาท
ใช้สิทธิตามเงื่อนไขดังนี้ 1.เฉพาะสินค้าที่ร่วมรายการ
ตรวจสอบเพิ่มเติม ณ จุดขาย 2.สามารถใช้ร่วมกับส่วนลดจากบัตรสมาชิก
คิง เพาเวอร์ 3.สมาชิกที่ร่วมรายการจะต้องแสดงบัตรประชาชนคู่กับบัตรเครดิตไทยพาณิชย์
ในการเข้าร่วมรายการ 4.คูปองเงินสดมูลค่า 800 บาท และ 1,000 บาท ไม่สามารถใช้ร่วมกับส่วนลดจากบัตรสมาชิก
คิง เพาเวอร์ 5.คูปองนี้สามารถใช้ได้ที่ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ
มหานคร ศรีวารี พัทยา และภูเก็ต และหมดอายุวันที่ 5 มีนาคม 2563
สอบถามเพิ่มเติมที่ คอล เซนเตอร์ 1631f
มหานคร แบงค็อก สกายบาร์ ภูมิใจนำเสนอ
เชฟลูก้า ฟาสโซเน (Luca Fassone) แห่งห้องอาหาร L’Angolo di Rosina ประเทศอิตาลี
ที่พร้อมนำสุดยอดวัตถุดิบสุดพรีเมี่ยมแห่งฤดูหนาวอย่าง “ไวท์ทรัฟเฟิล”
หรือเห็ดทรัฟเฟิลขาว มารังสรรเป็นเมนูสุดพิเศษ อาทิ ทาจารีนพาสต้า
ที่เชฟลูก้านำเส้นพาสต้าสดสูตรดั่งเดิมของครอบครัวมาผสมผสานเข้ากับซอสเห็ดทรัฟเฟิลขาวได้อย่างลงตัว
รวมทั้งเมนูไฮไลท์อื่น
ๆ อาทิ พีดมอนต์ทาร์ทาร์
และสเต๊กสันนอกลูกวัวเสิร์ฟพร้อมซอสเห็ดทรัฟเฟิลขาว
ที่เชฟเตรียมมาให้ทุกท่านได้ลิ้มลองพร้อมวิวทิวทัศน์อันงดงามบนห้องอาหารและบาร์ที่สูงที่สุดในเมืองไทย
พบกับเมนูอาหารค่ำ 7 คอร์ส ราคาเพียง 7,000++ บาท/คน ระหว่างพฤหัสบดีที่ 16 -ศุกร์ที่ 17 มกราคม 2563 และเมนูอาหารกลางวัน 4 คอร์ส ราคา 3,000++ บาท/คน ในวันศุกร์ที่ 17 มกราคม 2563 ณ ห้องอาหารมหานคร แบงค็อก สกายบาร์
สำรองที่นั่งล่วงหน้าได้ที่ http://bit.ly/Luca-Fassone-White-Truffle
ไฮไลต์เมนูอาหารค่ำ 7 คอร์ส ของเชฟลูก้า ฟาสโซเน
ใช้วัตถุดิบจากเห็ดทรัฟเฟิลขาวประกอบไปด้วยเมนู เนื้อลูกวัวแช่เย็นในซอสทูน่า
พีดมอนต์ทาร์ทาร์ ราวีโอลี่สอดไส้ไข่แดง ทาจารีนพาสต้า
สเต๊กสันนอกลูกวัวเสิร์ฟพร้อมซอสเห็ดทรัฟเฟิลขาว รวมทั้งของหวานปิดท้ายเป็นทีรามิสุ
และพานาคอตต้า เปิดตั้งแต่เวลา 18:00 น. เริ่มเสิร์ฟ 19:00 น.
ทางเชฟลูก้ายังใช้วัตถุดิบระดับพรีเมี่ยมมาเป็นส่วนประกอบในการทำอาหาร
อาทิ เนื้อวัวฟาสโซนาไร้มัน และเนื้อลูกวัวจากแคว้นพีดมอนต์ อิตาลี
ที่ขึ้นชื่อในเรื่องของรสชาติอันกลมกล่อมและเนื้อสัมผัสที่นุ่มนวล
รวมทั้งทาจารีนพาสต้าสูตรดั่งเดิมจากครอบครัวของเชฟลูก้าที่ใช้ไข่แดงเป็นส่วนประกอบมากถึง
40
ฟองต่อแป้งหนึ่งกิโลกรัมด้วยกัน (สูตรปกติใช้ไข่แดงเพียงแค่ 30 ฟอง)
จนออกมาเป็นเส้นพาสต้าสดที่มีเอกลักษณ์และเต็มไปด้วยรสสัมผัสที่ไม่เหมือนใคร
นางจิรารัตน์
มีงาม ผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานลพบุรี กล่าวว่า เชิญชวนนักท่องเที่ยวแต่งไทยร่วมงาน
“งานแผ่นดินสมเด็จพระนารายณ์มหาราช” ประจำปี 2563 ระหว่างวันที่
14-23 กุมภาพันธ์ 2563 ณ
พระนารายณ์ราชนิเวศน์ อำเภอเมือง จังหวัดลพบุรี พร้อมเข้าชมโบราณสถานต่างๆ
ในบริเวณใกล้เคียง อาทิ บ้านวิชาเยนทร์ ปรางค์แขก วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ พระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระนารายณ์มหาราช
วัดปืน วัดกวิศราราม วัดเสาธงทอง วัดเชิงท่า และบันได 51ขั้น
ภายในงานมีกิจกรรมที่น่าสนใจมากมาย
ทั้งขบวนแห่ประวัติศาสตร์ พิธีบวงสรวงสมเด็จพระนารายณ์มหาราช การแสดงประวัติศาสตร์จินตนาการ
สวนนารายณ์นฤมิต ตำรับโอสถพระนารายณ์ ทหารวังเปลี่ยนเวรการแสดงละครลิง แต่งชุดไทยมาจดทะเบียนสมรส
หมากรุกคน ตลาดย้อนยุค ลานวัฒนธรรมและอาหารพื้นบ้าน การแสดงศิลปวัฒนธรรม การจำหน่ายสินค้า
OTOP และของดีจังหวัดลพบุรี
อีกทั้งนักท่องเที่ยวสามารถแวะเยี่ยมชมแหล่งท่องเที่ยวใกล้เคียงได้ด้วย
ได้แก่ นมัสการเจ้าพ่อพระกาฬ ชมความงดงามของพระปรางค์สามยอด
โบราณสถานที่สร้างด้วยศิลาแรงเรียงกันสามองค์ นมัสการหลวงพ่อโต วัดเสาธงทอง
พระพุทธรูปเก่าแก่ ที่ชาวจังหวัดลพบุรีให้ความเคารพศรัทธา
นางรุ่งทิพย์
บุกขุนทด ผู้อำนวยการสำนักงาน การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)
สำนักงานนครราชสีมา เปิดเผยว่า ได้จัดให้นักท่องเที่ยวได้ชมความอลังการงานแสดงประกอบแสง-เสียง
“วิมายะนาฏการ” ในคืนวันเสาร์ที่ 18 มกราคม 2563 เวลา 17.00 – 20.00 น. ณ
อุทยานประวัติศาสตร์พิมาย อำเภอพิมายโดยจะต้อนรับนักท่องเที่ยวด้วยพิธีบายศรีสู่ขวัญจากผู้เฒ่าผู้แก่ชาวพิมาย
นำชมความสวยงามของศาสนสถานสมัยอาณาจักรขอมโบราณ ภายในอุทยานประวัติศาสตร์พิมาย และการแสดงนาฏศิลป์ไทยพื้นบ้านชุด
รำบายศรีสู่ขวัญ และรำจับกรับ
“วิมายะนาฏการ” เป็นการแสดงโดยจินตนาการจากเรื่องราวของภาพจำหลักในปราสาทหินพิมายออกมาเป็นนาฏลีลา
แสดงต่อเนื่องหลายชุด เริ่มจากฉากสร้างปราสาทหินพิมาย รำมวยโบราณ
รำดึงครกดึงสาก รำตั๊กแตน ลาวกระทบไม้
ขบวนแห่พระพุทธบูชาและระบำพิมาย โดยนักแสดงจากโรงเรียนพิมายวิทยา
โดย ททท.เปิดฟรีให้เข้าชมการแสดง
ติดต่อจองรอบได้ที่ ททท. นครราชสีมา โทร.044-213-666
แฟนเพจ : ททท.สำนักงานนครราชสีมา
ตลอดงานนักท่องเที่ยวสามารถเดินชม
และชิมอาหารขึ้นชื่อของเมืองพิมายตามธีมส่งเสริมการตลาดการท่องเที่ยว ปี 2563ธีม More
Gastonomy ได้ที่ตลาดย้อนยุค 1000 ปี เช่น เมนูคั่วหมี่พิมาย
ยำขนมจีนปลาป่นหรือยำเหมือด หมี่อ่อน ส้มตำโคราช และอื่น ๆ รวมทั้งจะชวนไปเช็คอินในแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยม
ได้แก่ แหล่งโบราณคดีบ้านปราสาท อนุสรณ์สถานวีรกรรมทุ่งสัมฤทธิ์ ปราสาทพนมวัน และวิถีชีวิตของคนโคราช
ที่ชุมชนบ้านเตย ชุมชนบ้านธารปราสาท
นายบัณฑิต สะเพียรชัย
กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บีซีพีจี จำกัด (มหาชน) ในเครือ บมจ.บางจาก
คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในการประชุมระหว่างรัฐบาลเวียดนาม กับ สสป.ลาว
ครั้งที่ 42 เมื่อ 4 มกราคม 2563 ที่กรุงฮานอย
ได้มีพิธีลงนามสัญญาซื้อขายไฟฟ้าระหว่างการไฟฟ้าเวียดนาม (EVN) กับโครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำ Nam
San 3A
Power ของบีซีพีจี
ใน สปป.ลาว จะจำหน่ายไฟฟ้าให้EVN รวมทั้งสิ้น 25 ปี โดยคาดจะเริ่มได้ตั้งแต่ปี
2565 ขยายไปจนถึงปี 2590
อีกทั้งอัตราค่าไฟฟ้าเฉลี่ยตลอดอายุสัญญาเพิ่มขึ้นจากสัญญาเดิมประมาณ 10 % ประกอบกับสัญญาดังกล่าวเป็นสัญญาซื้อขายไฟฟ้าระหว่างประเทศ
มีการชำระเงินเป็นสกุลเงินเหรียญสหรัฐ เนื่องจากปัจจุบันเวียดนามเป็นประเทศที่มีศักยภาพเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมขยายตัวเติบโตสูง
ส่งผลให้เกิดความต้องการใช้ไฟฟ้าเพิ่มขึ้นอีกมากในอนาคต
ความสำเร็จของบีซีพีจีครั้งนี้ ถือเป็นบริษัทไทยรายแรกที่ใช้นวัตกรรมใหม่ลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำใน
สปป.ลาว แล้วขายไฟฟ้าให้เวียดนาม สามารถเพิ่มเสถียรภาพด้านรายได้ และเพิ่มผลตอบแทนการลงทุนให้บริษัทได้เป็นอย่างดี
สำหรับบีซีพีจีได้เข้าลงทุนในโรงไฟฟ้าพลังน้ำ
Nam San 3A
Power เมื่อวันที่
19 กันยายน 2562 ตั้งอยู่ในเมืองเชียงขวาง มีกำลังการผลิตติดตั้ง 69 เมกะวัตต์
เปิดเชิงพาณิชย์แล้วจำหน่ายไฟฟ้าให้แก่การไฟฟ้า สปป.ลาว เรียบร้อยแล้ว
ช่วงที่ 2
@ เที่ยวเขาใหญ่มุมเก๋ ๆ ที่ “วิลล่า มูเซ่”เท่จริงๆ
มองหาสถานที่เที่ยวมุมใหม่ในเขาใหญ่
เพื่อรอเวลาออกเที่ยวกันให้สนุก
นอกจากเขาใหญ่จะมีชื่อเสียงด้านแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติแล้ว
ตอนนี้มีแหล่งท่องเที่ยวมุมใหม่ “วิลล่า มูเซ่”
เจ้าของได้นำเรือนโบราณสมัยรัชกาลที่ 4 และรัชกาลที่
5 มาดีไซน์ให้เป็น “พิพิธภัณฑ์” ในอ้อมกอดธรรมชาติ
ภายในมีเรื่องราวทางศิลปะกับประวัติศาสตร์ดึงดูดความสนใจเหล่าคนอยากรู้หลากหลายอย่าง
บัตรเข้าชมคนละ 400 บาท นักเรียน นักศึกษา
แสดงบัตรประจำตัว จ่ายแค่เพียงคนละ 100 บาท
เริ่มส่องความงดงามอลังการกันที่
เรือนไม้สักทอง “ประเสนชิต” สมัยรัชกาลที่ 5 ที่สมาคมสถาปนิกสยามในพระบรมราชูปถัมภ์
อดใจไม่ไหวต้องมอบรางวัลอาคารอนุรักษ์ศิลปะสถาปัตยกรรมดีเด่นประจำปี 2558 ให้เป็นที่เรียบร้อย
รอบบริเวณเรือนมีปลากแหวกว่าย กับเสียงน้ำตก และดอกไม้นานาชนิด ส่งกลิ่นหอมฟุ้ง
พอเดินเข้าไปในเรือนหลังนี้
จะต้องตะลึงพรึงเพริดกับการจัดแสดง เครื่องเรือน เครื่องประดับ ศาสตราวุธ
เอกสารโบราณร่วมสมัย รัชกาลที่ 5 กับรัชกาลที่ 6 อย่าง
ภาพพิมพ์หินพระบรมฉายาลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
ภาพเหตุการณ์สำคัญจากต้นฉบับของหนังสือพิมพ์ฝรั่งเศส ‘Le Petit Jounal
ตลอดทั้งปีในเรือนจะหมุนเวียนจัดนิทรรศการแสดงให้ได้ชมต่าง ๆ กันไป
รวมทั้งมีบริการมุมนั่งจิบชากาแฟยามบ่าย
พร้อมขนมสูตรพิเศษของวิลล่าพร้อมเสิร์ฟรออยู่ เซ็ตละ 399 บาท/2คน
ด้วยสภาพบรรยากาศโรแมนติกจึงเป็นจุดเช็คอินของคู่บ่าว-สาว
เลือกมาจัดถ่ายรูป Pre Wedding
ย้อนยุควิคทอเรียนในสยาม อีกทั้งยังสามารถใช้จัดกิจกรรมสาระประโยชน์ได้มากมาย เช่น
จัดนิทรรศการแสดง เปิดตัวผลิตภัณฑ์สินค้า จัดงานเลี้ยงกลางคืน ถ่ายหนัง ละคร โฆษณา
ต่าง ๆ
มาพักผ่อนชมศิลปะ
ประวัติศาสตร์ ดื่มด่ำบรรยากาศ “วิลล่า มูเซ่ เขาใหญ่” แล้วบอกได้เลยว่าสุขจริง ๆ
สอบถามที่โทร. 063-225-1555
หรือหาข้อมูลได้ทาง www.villamusee.com
องค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ (UNFAO)
ร่วมกับ
โครงการสิ่งแวดล้อมแห่งสหประชาชาติ (UNEP) เผยแพร่ข้อแนะนำในการแก้ไขปัญหาขยะอาหารและอาหารส่วนเกิน
เรียงลำดับจากที่ควรทำมากที่สุดไปจนถึงน้อยที่สุด โดยมีวิธีการ ดังนี้
วิธีที่ 1
ป้องกันการเกิดขยะอาหารจากห่วงโซ่อาหาร (Prevention) เช่น ภาคเอกชนพัฒนาระบบการสั่งสินค้าเพื่อลดการสั่งสินค้าเหลือ
ภาครัฐจัดเก็บค่าธรรมเนียมการจัดเก็บขยะอาหารตามปริมาณ
วิธีที่ 2
จัดสรรอาหารที่ยังสามารถบริโภคได้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด (Optimization) เช่น บริจาคให้ผู้ยากไร้/พนักงาน
นำมาขายราคาถูก จำหน่ายเป็นอาหารสัตว์แทน
วิธีที่ 3 นำมาผลิตเพื่อใช้ใหม่ (Recycle)
เช่น
ทำปุ๋ยเพื่อการเกษตร ผลิตก๊าซชีวภาพ
วิธีที่ 4 กำจัดเพื่อนำพลังงานมาใช้ใหม่ (Recovery)
เผาเพื่อผลิตพลังงานความร้อน
วิธีที่ 5 กำจัดทิ้ง โดยมีระบบการจัดการที่ดี
ฟังข่าวท้ายชั่วโมง
นางวัลลภา ไตรโสรัส
ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด
(มหาชน) “AWC” เปิดเผยว่า
ปีนี้ได้ลงทุนเพิ่ม 26,229 ล้านบาท เข้าซื้อกิจการโรงแรมในกลางและระดับสูงเพื่อรองรับอนาคตการท่องเที่ยวโตวันโตคืนในระยะยาว
ทำให้พอร์ตรายได้อีก 5 ปีหน้าจะเติบโตแบบก้าวกระโดด และเมื่อพัฒนาโครงการทั้งหมดแล้วเสร็จบริษัทจะมีโรงแรม
27 แห่ง จำนวนห้องพักมากกว่า 8,500 ห้อง
เป็นผู้นำตลาดฮอสพิทาลิตี้ของเมืองไทยอย่างแท้จริง
ขณะนี้เปิดบริการแล้ว 4
แห่ง ได้แก่ 1.แบงค็อก แมริออท เดอะ สุรวงศ์ 302 ห้อง 2.ฮอลิเดย์ อินน์ เอ็กซ์เพรส กรุงเทพ สาทร 184 ห้อง 3.ภูเก็ต แมริออท รีสอร์ท แอนด์ สปา ในยางบีช มีห้องพักและพูลวิลล่าจำนวน
180 ห้อง 4.หัวหิน แมริออท รีสอร์ทและสปา
เป็นที่พักไฮเอนด์ 322 ห้อง
โดยยังมีโครงการอสังหาริมทรัพย์มิกซ์ยูสอยู่ระหว่างปรับปรุงอีก
8 แห่ง ห้องพักรวมมากกว่า
2,500 ห้อง เช่น AWC CENTER PATTAYA เมกะโปรเจ็กต์มิกยูสแห่งใหม่ใจกลางเมืองพัทยา โครงการอควอทีค
จุดหมายปลายทางด้านช็อปปิ้งไลฟ์สไตล์ระดับไอคอนของพัทยา
ข่าวที่สอง “มาสเตอร์การ์ดโพลล์ยันภูเก็ตโกยเงินทัวร์อันดับ10ของโลก”
มาสเตอร์การ์ด เปิดผลสำรวจสุดยอดจุดหมายปลายทางโลก
ประจำปี 2019 (Global Destination Cities Index 2019) จากทั่วโลก 200 เมือง พบว่าภูเก็ต ครองอันดับ 10
มีรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติมากที่สุดในโลกเมื่อปี 2561 ทำได้ 12.01 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
.
จุดหมายปลายทางที่มีรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติมากที่สุดในโลกปี
2561 ใน 10 อันดับแรก
ได้แก่
อันดับ 1 ดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ 30.82 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ อันดับ 2 เมกกะ ซาอุดีอาระเบีย 20.09 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ อันดับ 3 กรุงเทพมหานคร ไทย 20.03 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ อันดับ 4 สิงคโปร์ 16.56 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ อันดับ 5 ลอนดอน, สหราชอาณาจักร 16.47 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
อันดับ 6 นิวยอร์ก, สหรัฐอเมริกา 16.43 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ อันดับ 7 ปารีส ฝรั่งเศส 14.06 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ อันดับ 8 โตเกียว ญี่ปุ่น 13.77 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ อันดับ 9 ปัลมา มาจอร์กา สเปน 12.69 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และอันดับ 10 ภูเก็ต ไทย 12.01 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
. รวมทั้งพบว่าภูเก็ต ติดอันดับ 14 เมืองที่มีนักท่องเที่ยวมาเยือนแบบพักค้างคืนมากที่สุดในโลกรวม
9.89 ล้านคน
ตลาดที่มามากสุดได้แก่ จีน 31.3% รองลงมาคือรัสเซีย 9.8% เยอรมนี 6.7%
ข่าวที่สาม “รฟท.เปิดขายแล้วตั๋วล่วงหน้าเที่ยวสงกรานต์11-15เม.ย.”
นายวรวุฒิ มาลา
รองผู้ว่าการกลุ่มธุรกิจการบริหารทรัพย์สิน
รักษาการในตำแหน่งผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ได้เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้ามาจองซื้อตั๋วช่วงเทศกาลสงกรานต์
ระหว่าง 11-15 เมษายน 2563 ล่วงหน้าสูงสุดก่อนเดินทาง
90 วัน เริ่มตั้งแต่ 10 มกราคม 2563 เป็นต้นไป ในขบวนรถที่มีเดินประจำทุกเส้นทาง 244 ขบวน
พร้อมทั้งพ่วงตู้โดยสารนั่งและนอนปรับอากาศชั้น 2 รถนั่ง/นอนพัดลม ชั้น 2 และรถชั้น 3
เพิ่มไปกับขบวนรถที่มีเดินประจำจนเต็มหน่วยลากจูง
สามารถรองรับการเดินทางของผู้โดยสารได้สูงสุดถึง 100,000 คน/วัน
หลักเกณฑ์การจองซื้อตั๋วรถไฟล่วงหน้าก่อนเดินทาง และการกำหนดวันข้างต้นให้รวมถึงการเปลี่ยนแปลงการเดินทางด้วย
ตามรายละเอียดดังนี้
1.
ผู้โดยสารที่ซื้อตั๋วเดินทางน้อยกว่า 25 % ของระยะทางขบวนรถ ซื้อตั๋วล่วงหน้าได้ 1 วัน
2. ผู้โดยสารที่ซื้อตั๋วเดินทางระหว่าง 25 - 59 % ของระยะทางขบวนรถ
ซื้อตั๋วล่วงหน้าได้ภายใน 30 วัน
3. ผู้โดยสารที่ซื้อตั๋วเดินทางตั้งแต่ 60 % ของระยะทางขบวนรถขึ้นไป ซื้อตั๋วล่วงหน้าได้ภายใน 90 วัน
สอบถามได้ที่ คอล เซ็นเตอร์ รฟท. 1690 ตลอด 24
ชั่วโมง
ติดตามฟังรายการได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์
เวลา 11.00-12.00 น.ทาง สวท.FM 97.0 MHz.
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น