ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

บิ๊กสปาไทยลั่นรุกเทรนด์เวลเนสเรียลเอสเตทปี’63-นกแอร์บี้ไทยแอร์เอเชียขายตั๋ว0บาท

บิ๊กสปาไทยลั่นรุกเทรนด์เวลเนสเรียลเอสเตทปี’63
บูมจุดขายนวดไทยมรดกโลกกระหึ่มตลาดอินเตอร์
คิง เพาเวอร์จัดช้อปสนุกกินสนั่น Thai Taste Hub
ช้อปคิงเพาเวอร์เทรนด์ใหม่3บิ๊กแบรนด์ต้อนรับปี’63
ททท.ผนึกเอกชนบูมเรารักเขาใหญ่รุกจีนเต็มรูปแบบ
บางจากหนุนรักษ์โลกส่งมอบขวดPETให้อินโดรามา
MoreFoodตรุษจีนชุมชน“ชากแง้ว-ท่าเรือพลี”ชลบุรี
แพทย์แนะต้องระวัง!อาการปวดหัวจุดไหนบอกโรคได้
“นกแอร์-แอร์เอเชีย”ขายตั๋ว0บาทชิงผู้โดยสารต้นปี63
Airbnbชี้เป้าคนไทยเทเที่ยวตรุษจีนใน/นอก5อันดับ
โรงแรมอนันตราสยามชู5ห้องอาหารรับทรัพย์ตรุษจีน
ไลม์ไลท์อเวนิวภูเก็ตจัดช้อปตรุษจีนลด23-31ม.ค.นี้

เข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” ในวันอาทิตย์ที่ 19 มกราคม 2563 เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทางมือถือ และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen และบล็อกเกอร์ #gurutourza # #รวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97  #เที่ยวกับกู๋  #สมาคมสปาไทย  #ไทยรุกWellnessRealEstate

กรด โรจนเสถียร” นายกสมาคมสปาไทย
และกรรมการบริหาร บริษัท ชีวาศรม อินเตอร์เนชั่นแนล เฮลท์ รีสอร์ต จำกัด

ช่วงที่ 1 เปิดใจ “กรด โรจนเสถียร” นายกสมาคมสปาไทย ถึงเวลาประเทศไทยจะต้องขับเคลื่อนอุตสาหกรรมบริการ “การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพองค์รวม”หรือ Wellness Spa ตามเทรนด์โลกที่กำลังมาแรงด้วยการเปิดแนวรุกการลงทุน Wellness Real Estate สร้างที่อยู่อาศัยด้วยกิจกรรมสีเขียวครบวงจร จับตาระเบียงเศรษฐกิจ EEC พื้นที่นำร่องตามข้อเรียกร้องของนักบริหารต่างชาติ และกระตุ้นทุกภาคส่วนร่วมใช้จังหวะที่ยูเนสโก้ประกาศให้ “นวดไทย” เป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมจับต้องไม่ได้กระพือจุดขายภาพลักษณ์ในตลาดนานาชาติ รวมทั้งตั้งความหวังดึง “จีน” ที่มียอดใช้จ่ายเงินท่องเที่ยวเพื่อสุขภาพในไทยสูงสุดเฉลี่ย 30,000 บาทขึ้นไป/คน/ครั้ง ฟื้นตลาดกลับมาให้เร็วที่สุดภายในปีนี้

กรด โรจนเสถียร” นายกสมาคมสปาไทย 



“กรด โรจนเสถียร” นายกสมาคมสปาไทย เปิดเผยว่า ปี 2563 ทิศทางของอุตสาหกรรมเวลเนส สปา และ hospitality เมืองไทย กำลังขับเคลื่อนเข้าสู่ยุคเทรนด์สุขภาพ ซึ่งจะต้องการทำข้อมูลรายได้ทางตรงและทางอ้อม รายได้ส่วนใหญ่มาจากบริการนักท่องเที่ยวจำนวนที่เดินทางเข้ามาเมืองไทย แบ่งเป็น 1.เข้ามาโดยตรงเพื่อทำกิจกรรมด้านสุขภาพโดยตรงหรือ Primary group เช่นเดินทางมาใช้บริการชีวาศรม 2.นักท่องเที่ยวที่เข้ามาแล้วแวะใช้บริการนวดสปาบ้างเป็นกลุ่ม Secondary ทั้ง 2 รูปแบบถ้าหน่วยงานของประเทศควรจะทำความชัดเจน ตอนนี้เอกชนพยายามเรียกร้องให้ทางสำนักงานสถิติ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กระทรวงสาธารณสุข และอีกหลายหน่วยงานบูรณาการจัดการข้อมูลในอุตสาหกรรมอย่างเป็นระบบมากขึ้น ทุกวันนี้ต้องใช้อ้างอิงสถิติด้านสุขภาพจากต่างประเทศ

ดังนั้นทุกวันนี้รายได้ของอุตสาหกรรมบริการด้านสุขภาพเวลเนส สปา มาจากนักท่องเที่ยวต่างชาติ 70-80 % ด้วยสนนราคาการใช้แต่ละครั้งสูง 2,000-3,000 บาท คนไทยนิยมร้านนวดชั่วโมงละ 300-500 บาท

ขณะนี้แนวโน้มรายได้ของเวลเนส สปา อยู่ในระดับทรง ๆ ตัว อาจจะประมาณปีละหลักแสนล้านบาท ขึ้นอยู่กับการท่องเที่ยวตลาดต่างประเทศ เศรษฐกิจทั้งในและต่างประเทศ ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้น ส่งผลถึงนักท่องเที่ยวให้หันไปเลือกจุดหมายปลายทางเที่ยวประเทศอื่นแทน

สำหรับจุดขายของเมืองไทยทางด้านวัฒนธรรมเข้ามาผสมสาน ตัวอย่างข่าวดีเรื่อง “นวดไทยได้รับการขึ้นทะเบียนจากยูเนสโก้ให้เป็นมรดกทางวัฒนธรรมจับต้องไม่ได้ จึงควรใช้จุดแข็งเหล่านี้สนใจมาใช้บริการนวดไทยมากขึ้น ถ้ารัฐบาลมาถูกทางแล้วประชาสัมพันธ์โอกาสนี้โปรโมตประเทศเป็นตัวประกอบดันเศรษฐกิจให้แข็งแกร่งมากขึ้น ควบคู่กับการสร้างภาพลักษณ์ธุรกิจให้ดียิ่งขึ้นไป

คนไทยนิยมใช้บริการสุขภาพในหมวด นวดสมุนไพร
ค่าบริการเฉลี่ย 300-500 บาท/คน/ครั้ง

โดยทางสมาคมสปาไทยได้ริเริ่มขับเคลื่อนก่อนหน้าที่จะได้รับการประกาศเป็นมรดกโลก โดยได้ใช้เวทีตั้งแต่ต้นปี 2562 โปรโมตนวดไทยสร้างความยั่งยืนทางวัฒนธรรม เดือนมีนาคม 2563 ทางกระทรวงสาธารณสุขจะจัดงานสมุนไพรไทยแห่งชาติ ก็จะนำเรื่องนี้เข้าไปเผยแพร่ด้วย การทำกินเนส เวิลด์ เรคคอร์ด เรื่องนวดแผนไทย ซึ่งในอดีตเคยทำมาแล้ว ปี 2563 เป็นอีกครั้งที่ได้การรับรอง จึงควรนำมาเป็นจุดขายใหม่โดยเร็วเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวเข้ามาใช้จ่ายเงินนวดไทยเพิ่มขึ้นด้วย

นายกรดกล่าวว่าการเดินหน้าลงทุนธุรกิจ เวลเนส สปา จะต้องจับตากลุ่มนักลงทุนกลุ่มขนาดใหญ่ ในตลาดโลกกลุ่มที่ขยับอย่างชัดเจนคืออสังหาริมทรัพย์ (Real Estate) นำเวลเนส สปา เข้าไปเสริมบริการที่อยู่อาศัย บ้าน คอนโดมิเนียม หากทุกโครงการขนาดใหญ่ลงทุนก็จะทำให้ธุรกิจด้านสุขภาพจะเกิดการเติบโตสูง สอดคล้องกับเทรนด์โลกเรื่อง Wellness Real Estate จะเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญใหญ่มากสำหรับตลาดทั้งหมด

ปัจจุบันโลกการลงทุนหันมามองพื้นที่สีเขียว หรือประเทศจุดหมายปลายทางซึ่งสามารถพัฒนาที่พักสีเขียวได้ คนทั่วโลกก็จะหันมาเลือกพักพิง แม้กระทั่งในเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก :Eastern Economic Corridor :EEC สิ่งที่ผู้บริหารชาวต่างชาติเรียกร้องมากที่สุดมีอยู่ 3 อย่าง คือ 1.ที่อยู่อาศัย เพราะนำครอบครัวต้องใช้ชีวิตอยู่นาน 5-10 ปี จึงให้น้ำหนักความสำคัญกับเรื่องนี้มากที่สุด สะท้อนถึงแรงกระตุ้นภาคเศรษฐกิจของประเทศด้วย 2.ทักษะแรงงาน 3.อัตราภาษี ฉนั้นการขับเคลื่อนนักลงทุนจึงต้องมองจุดขายเรื่องเหล่านี้ใส่เข้าไปด้วย

เทรนด์ที่ประเทศไทยควรจะนำมาพัฒนาการลงทุนด้วย Wellness Real Estate
ในการนำประเทศไทยก้าวเข้าสู่ Wellness Real Estate เพิ่งจะเริ่มต้น ยังมองเห็นผลเชิงเศรษฐกิจไม่ชัด มีบางพื้นที่อย่างเขาใหญ่ สามารถดีไซน์เวลเนส สปา เรื่องสุขภาพครบวงจร ทั้งพื้นที่สีเขียว พื้นที่ออกกำลังกาย อากาศบริสุทธิ์ ต้องผสมผสานปัจจัยต่าง ๆ เหล่านี้เข้าด้วยกัน

พัฒนาการของเมืองไทยก่อนหน้านี้เริ่มต้นจาก Medical Hub ต้องการดึงคนเข้ามารักษาสุขภาพ เนื่องจากมีความเจ็บป่วยแล้ว แต่ตอนนี้เราหันมาเน้นเรื่องสุขภาพด้วยเวลเนส ซึ่งเป็นการใช้ชีวิตเชิงป้องกันไม่ให้เจ็บป่วย คำนี้เพิ่งจะเกิดได้ราว 10 ปี เป้าหมายตอนนี้เอกชนพุ่งเป้าไปยังการดึงคนจากทั่วโลกที่ต้องการป้องกันสุขภาพจากความเจ็บป่วยเข้ามาแทน ด้วยการสร้างสิ่งแวดล้อมที่มีผลทางจิตใจ ผ่อนคลาย อากาศดี อาหารมีคุณภาพ ถูกภาวะโภชนาการ องค์รวมเหล่านี้จึงกระตุ้นให้เกิดการลงทุนด้านอื่น ๆ ตามมา เช่น สปา ก็เป็นเพียงส่วนหนึ่งของเวลเนส เท่านั้น

ขณะนี้ถือเป็นโอกาสที่ดีของประเทศไทยที่ได้เริ่มต้นการพัฒนาจุดขายเป็น Wellness Real Estate ตามเทรนด์ของโลก เริ่มมีกฎหมายรองรับมาตรฐาน ล่าสุดได้แก่ พระราชบัญญัติสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ พ.ศ.2559 บังคับเกี่ยวกับมาตรฐานคุ้มครองผู้ที่มารับบริการหรือผู้บริโภค ส่วนมาตรฐานการให้บริการ ทางกระทรวงสาธารณสุข กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา มีระเบียบกำกับดูแล หรือมีรางวัลให้กับสถานการที่เข้าสู่เกณฑ์ หากวันนี้จะยึดกฎหมายก็ยึดของกระทรวงสาธารณสุขเป็นหลัก โดยคำนึงถึงประโยชน์ตามนี้โดยปฏิบัติให้ตรงตามข้อกฎหมายที่จัดทำขึ้นมา

นายกรด กล่าวว่า ตลาดหลัก ๆ ของเวลเนส สปา เมื่อปี 2560 มาจนถึงปัจจุบัน “จีน” ครองอันดับ 1 ช่วงนั้นข้อมูลระบุจีนเดินทางออกต่างประเทศเพียงปีละประมาณ 7 % ของนักท่องเที่ยวทั้งหมด และใช้จ่ายเงินด้านสุขภาพเฉลี่ย 30,000 บาท/คน/ทริป เพราะฉนั้นกำลังจะบอกว่าสถานการณ์หรือเทรนด์ของโลกจากตลาดจีนซึ่งมีพื้นฐานการแพทย์จีน จึงความเข้าใจเรื่องการดูแลสุขภาพเป็นอย่างดี แล้วมองเห็นศักยภาพของประเทศปลายทางที่จะมาเที่ยวอย่างไทยหากสร้างจุดขายด้านสุขภาพให้ดีก็จะยิ่งส่งเสริมรายได้เติบโตเพิ่มได้ เพราะแค่จีนมาใช้บริการสุขภาพในไทยเพียง 0.05 % ก็ทำเม็ดเงินได้มหาศาล

ขณะนี้จึงขึ้นอยู่ประเทศไทยจะโปรโมตการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพอย่างไร ถ้าทำได้ผมเชื่อว่าตลาดจีนจะกลับมาไทย ไม่ต้องทำมากมายเพียงแค่ตลาดเดียวก็ใช้จ่ายเงินต่อคนสูงมาก

ส่วนตลาดอื่น ๆ รองจากจีนก็มี อันดับ 2 เกาหลี อันดับ 3 ญี่ปุ่น อันดับ 4 มาเลเซีย อันดับ 5 รัสเซีย อันดับ 6 อินเดีย อันดับ 7 ฮ่องกง อันดับ 8 สหรัฐอเมริกา

ประเทศไทยจะต้องดูขีดความสามารถเฉพาะทางของผู้ประกอบการ มองโดยไม่ต้องกระจายมาก ทำให้เหมาะสมกับตลาดที่สนใจใช้เงินอย่างจีนก็ต้องทุ่มเจาะลึกเข้าไปโดยตรง ดังนั้นภาครัฐและเอกชนจะต้องทุ่มเททำงานร่วมกันเพื่อสร้างความชัดเจน

ตลาดคนไทย 70-80 % จะไม่ใช้สปา นิยมร้านนวดราคา 300-500 บาท/คน/ครั้ง กับ ความงาม ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเวลเนสด้วย โดยเฉพาะความงามเป็นตลาดขนาดใหญ่ของโลกรองจากการชะลอวัยหรือ Anti Aging แต่บริการหลักของตลาดคนไทยคือดูแลสุขภาพเรื่องใหญ่คือคุมน้ำหนักตัว ความสวยความงาม

หากเป็นเวลเนส สปา ยังคงต้องพึ่งตลาดต่างประเทศ เพราะสามารถดึงเม็ดเงินค่าใช้บริการเข้าประเทศได้ครั้งละมากกว่าคนไทย 5-6 เท่า เฉลี่ยครั้งละ 3,000 บาทขึ้นไป/คน/ครั้ง

กรด โรจนเสถียร นายกสมาคมสปาไทย และหนึ่งในผู้บริหาร บริษัท ชีวาศรม อินเตอร์เนชั่นแนล เฮลท์ รีสอร์ต จำกัด ได้ฉายภาพใหญ่ของเทรนด์ Wellness Spa เมืองไทยและระดับเวทีโลก ซึ่งขับเคลื่อนด้วยพลังจุดขายการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ รองรับกลุ่มกำลังซื้อสูง ตอนนี้ที่สามารถพึ่งได้อย่างเต็มกำลังคือตลาดจีน แต่ก็ขึ้นอยู่กับประเทศไทยทั้งภาครัฐและเอกชนควรจะร่วมมือกันกระตุ้นกำลังซื้อขนาดใหญ่กลับมาโดยเร็วที่สุด ปี 2563 อุตสาหกรรมสุขภาพยังคงฝากความหวังไว้นักท่องเที่ยวจีนต่อไป

ฟังข่าวต้นชั่วโมง

🍄 ข่าวที่ 1 “คิง เพาเวอร์จัดช้อปสนุกกินสนั่น Thai Taste Hub”

คิง เพาเวอร์ ชวนนักท่องเที่ยวเดินทางมาช้อปสนุก กินสนั่น ที่ THAI TASTE HUB คิง เพาเวอร์ รางน้ำ ชั้น 3

กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ เดินหน้าสร้างประสบการณ์เหนือระดับ ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ของนักเดินทาง เพื่อทำให้ “คิง เพาเวอร์ รางน้ำ” ถูกอกถูกใจนักเดินทางสายช้อป ด้วยการคัดสรรสินค้ามากมายหลากหลายแบรนด์ดัง ในราคาที่คุ้มค่าโดนใจมาให้ได้เลือกสรรกันแล้ว ยังยกขบวนร้านอาหารเด็ดดังจัดเต็มทั้งคาวหวานเอาใจสายชิมกว่า 20 ร้าน มาไว้ที่ชั้น 3 โซน “Thai Taste Hub” ให้อิ่มอร่อยครบถ้วนในที่เดียว

“Thai Taste Hub” อาณาจักรแห่งความอร่อย ที่มาพร้อมกับเสน่ห์ของบรรยากาศห้องแถวแบบไทยๆ ผสมผสานเข้ากับสไตล์โมเดิร์นร่วมสมัย อัดแน่นไปด้วยสตรีทฟู้ดร้านเด็ดที่ห้ามพลาดด้วยประการทั้งปวง ไม่ว่าจะเป็น ห่านท่าดินแดง, Thai Street Food by Asian Corner, กุ้งเผาอยุธยา, ข้าวขาหมูจุฬา สามย่าน, นายอ้วนเย็นตาโฟ, ก๋วยจั๊บฮ่องเต้, รองเมืองเกาเหลา, ทิพย์สมัย ผัดไทยประตูผี, การิม โรตี มะตะบะ, เชียงการีลา, ลามูน, เอี๊ยงออเฮ่าชือ, HOT FRIED by the Emerald 1992, ออล โคโค, ขนมครกประมวล มีศิลป์, ละมัย หอยทอด เยาวราช, สยาม วิสดอม, เจ็กเม้ง ข้าวมันไก่สองสี, สว่างบะหมี่ก้ามปู และธีรชัยไก่ย่าง

อีกทั้งยังมีโซน Thai Taste Hub Express ที่รวบรวมร้านอร่อยอีกมากมายผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันมาให้ได้ชิมกันอย่างจุใจ ถือเป็นหนึ่งในจุดหมายที่เรียกได้ว่าเป็นสวรรค์ของนักเดินทางอย่างแท้จริง ตามไปพิสูจน์กันได้แล้ว ที่ชั้น 3 คิง เพาเวอร์ รางน้ำ เท่านั้น

🍄 ข่าวที่ 2 “ช้อปคิงเพาเวอร์เทรนด์ใหม่3แบรนด์แรงต้อนรับปี’63”

กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ต้อนรับช่วงเวลาแห่งการเฉลิมฉลองด้วยเครื่องประดับแวววาวสุดหรูหรา เหมาะกับช่วงเวลาที่แฮ็ปปี้ต้อนรับศักราชใหม่ปี 2563 ที่ คิง เพาเวอร์ กับแฟชั่นใหม่มาแรง What’s New Fashion 3 แบรนด์ดังระดับโลก กระเป๋า รองเท้า สร้อยข้อมือ
กระเป่าเทรนด์ใหม่แบรนด์ FENDI
เลือกช้อปได้ที่ คิง เพาเวอร์ สาขาต่าง ๆ ตั้งแต่ปี 2563 เป็นต้นไป

     FENDI- แบรนด์หรูสัญชาติอิตาลี ขอแนะนำ “Metallic Vibes” คอลเลคชั่นใหม่เฉพาะเทศกาลปีใหม่ที่นำเทรนด์เมทัลลิกประกายเงางามของโลหะเลอค่ามาสร้างสรรค์ผ่านคอลเลคชั่นกระเป๋า Baguette กระเป๋าไอคอนที่สาวๆ ทุกคนใฝ่ฝันจะครอบครอง เลือกสรรวัตถุดิบชั้นดีอย่างหนังแกะนำมาปั๊มนูนเป็นลายโลโก้ FF ก่อนจะจับคู่กับฮาร์ดแวร์สีเงินแวววาว จะถือออกไปงานปาร์ตี้ล้อแสงไฟ หรือถือตอนกลางวันกับลุคเรียบโก้ ก็ดูโดดเด่นไม่แพ้กัน

CHANEL นำเครื่องประดับรูปดวงดาวคอลเลคชั่นใหม่ “Comète” มาวางขายในคิง เพาเวอร์ ต้อนรับปีหนูทอง


    CHANEL - เป็นที่ทราบกันดีว่า มาดมัวแซล Chanel นั้นเชื่อในเรื่องโหราศาสตร์และดวงดาวเป็นอย่างมาก ด้วยแรงบันดาลใจนี้เองทำให้แบรนด์หรูออกแบบเครื่องประดับรูปดวงดาวคอลเลคชั่นใหม่ “Comète” ที่มาพร้อมรูปทรงโมเดิร์นแปลกตาของดาวหาง อย่างตุ้มหูคู่นี้ที่แต่ละข้างมีดีไซน์ไม่เหมือนกัน ข้างหนึ่งทำจากทองคำและไวท์โกลด์ประดับเพชร ดูแปลกตาและทันสมัย ขณะที่อีกข้างหนึ่งทำจากทองคำประดับเพชร สาวเก๋จะใส่เพียงข้างเดียว หรือ 2 ข้าง หรือใส่ซ้อนกับตุ้มหูคู่อื่นก็ได้ แล้วแต่ความชอบ แต่ที่แน่ๆ ใส่แล้วเด่นแน่นอน

   
BOTTEGA VENETA นำรองเท้าสุดเก๋ดีไซน์เท่มาให้ได้ช้อปกันที่ คิง เพาเวอร์ ปี 2563

    BOTTEGA VENETA - มินิมอลสะดุดตาและไม่เหมือนใคร คือนิยามที่บ่งบอกถึงเอกลักษณ์ของ Bottega Veneta ในยุคแดเนียล ลี ได้เป็นอย่างดี อย่างรองเท้าส้นสูงคู่เก่งจากคอลเลคชั่น Resort 2020 ก็มาพร้อมกับดีไซน์ที่ทุกคนต้องก้มลงไปมอง เริ่มตั้งแต่ส้นรองเท้าโค้งเว้า ปลายด้านหน้าหุ้มบริเวณนิ้วโป้งก่อนขึ้นมาคาดตรงหน้าเท้า แถมด้วยสีทองเมทัลลิกเตะตา ใส่แล้วไม่มีคนชม ไม่มีคนทัก เห็นจะเป็นไปไม่ได้แน่นอน และที่สำคัญ รองเท้าของแบรนด์นี้หายากสุดๆ Sold Out แทบจะทันที ถ้าซื้อไม่ทัน อย่าหาว่าไม่เตือน

🍄 ข่าวที่ 3 “ททท.ผนึกเอกชนบูมเรารักเขาใหญ่รุกจีนเต็มรูปแบบ”

การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) MOU กับสมาคมผู้ประกอบการท่องเที่ยวสัมพันธ์ไทย-จีน
และสมาคมการท่องเที่ยวเขาใหญ่ จัดทำโครงการ "เรารักเขาใหญ่" ปลุกตลาดจีนเที่ยวนครราชสีมา

    นางรุ่งทิพย์ บุกขุนทด ผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงาน นครราชสีมา เปิดเผยว่า ได้ร่วมลงนามข้อตกลง (MOU) กับ นายรณรงค์ ชีวินสิริอำนวย นายกสมาคมผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวสัมพันธ์ไทย-จีน และ สมาคมการท่องเที่ยวเขาใหญ่ ดร.วัชรี ปรัชญานุสรณ์ นายกสมาคมการท่องเที่ยวเขาใหญ่ จัดทำโครงการส่งเสริมประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวของประเทศไทย ตลอดจนกระตุ้นอัตราการเพิ่มจำนวนของนักท่องเที่ยวกลุ่มศักยภาพจากสาธารณรัฐประชาชนจีนมายังเมืองไทย ภายใต้โครงการท่องเที่ยว “เรารักเขาใหญ่(We Love KhaoYai)”

    โดยจะร่วมกันส่งเสริมและพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวในพื้นที่นครราชสีมา และบริเวณใกล้เคียงโดยการกำหนดหลักเกณฑ์ให้ผู้ประกอบการในพื้นที่และบริษัทนำเที่ยวของไทยและสาธารณรัฐประชาชนจีน พัฒนาคุณภาพมาตรฐานการท่องเที่ยวและการบริการการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน ตลอดจนสร้างภาพลักษณ์ที่ดีแก่อุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย ด้วยการกำหนดเส้นทางการท่องเที่ยว จัดกิจกรรมแลกเปลี่ยนเรียนรู้  ด้านศิลปวัฒนธรรม มุ่งหวังให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ของนักท่องเที่ยวจีน 4 ด้านหลัก คือ


1.การท่องเที่ยว ประกอบด้วย 1.การท่องเที่ยวเชิงนิเวศธรรมชาติ 2.เกษตรอินทรีย์ 3.วิถีชุมชน 4.ศิลปวัฒนธรรม โดยพัฒนาองค์ความรู้ให้แก่ผู้ประกอบการหรือบุคลากรในพื้นที่ตามมาตรฐานการท่องเที่ยวไทย และจัดทำเส้นทางท่องเที่ยวพร้อมประชาสัมพันธ์ให้แก่นักท่องเที่ยวชาวจีน

2.การค้า ร่วมกันส่งเสริมและผลักดันธุรกิจการท่องเที่ยวในพื้นที่ให้เป็นไปตามมาตรฐานและได้รับรองจากสมาคมการท่องเที่ยวเขาใหญ่

3.ด้านวัฒนธรรม สนับสนุนให้ชุมชนเป็นแหล่งเรียนรู้ด้านศิลปวัฒนธรรม ผ่านการถ่ายทอดเรื่องราว ประวัติศาสตร์ ประเพณี อัตลักษณ์ และวิถีชุมชน ด้านการศึกษา ส่งเสริมการศึกษานิเวศธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พร้อมจัดกิจกรรมการศึกษา การกีฬาของเยาวชนในพื้นที่ตามความเหมาะสม และ
4.ด้านการจัดนิทรรศการและการประชุม ส่งเสริมกิจกรรมการจัดนิทรรศการและการจัดประชุมในพื้นที่

โดย ททท. จะเร่งประชาสัมพันธ์โครงการ “เรารักเขาใหญ่(We Love KhaoYai)” เรื่องเส้นทางท่องเที่ยว แหล่งท่องเที่ยว กิจกรรมในพื้นที่ผ่านสำนักงาน ททท.ในจีน 5 แห่ง ทั้งปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ คุนหมิง กวางโจว เฉินตู  นำผู้ประกอบการท่องเที่ยวจีนและสื่อที่มีศักยภาพร่วมสำรวจเส้นทางและประชาสัมพันธ์แหล่งท่องเที่ยวใหม่ ๆ ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2563  เป็นต้นไป ดึงดูดนักท่องเที่ยวจีนเข้ามาสร้างการเติบโตทางรายได้ในพื้นที่เขาใหญ่ตั้งแต่ปีนี้เป็นต้นไป
🍄 ข่าวที่ 4 “บางจากรักษ์โลกส่งมอบขวดPETอินโดรามา”

นายสมชัย เตชะวณิช ประธานเจ้าหน้าที่การตลาดและรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ พร้อมผู้บริหาร บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ได้ส่งมอบขวดน้ำดื่ม PET ใช้แล้ว จำนวน 600,000 ขวด ที่ได้รับผ่านสถานีบริการน้ำมันบางจากที่ร่วมรายการ แก่ Mr. Richard Jones, Senior Vice President, Corporate Communications, Sustainability and Head Office Human Resources บริษัท อินโดรามา เวนเจอร์ส จำกัด (มหาชน) นำไปรีไซเคิลในโครงการ “รักษ์ ปัน สุข” แปรรูปเป็นเส้นใยก่อนนำไปผลิตเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ โดยรายได้จากโครงการจะมอบให้องค์กรสาธารณประโยชน์ต่อไป

นอกจากนั้น ยังนำเส้นใยที่ได้จากการรีไซเคิลส่วนหนึ่งไปผลิตเป็นหมวกเพื่อมอบให้กับเจ้าหน้าที่ กทม. และพัทยา และยังนำไปผลิตของขวัญปีใหม่และวันเด็ก ตามแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียน Circular Economy และร่วมลดขยะพลาสติก ลดผลกระทบ รักษาสิ่งแวดล้อม

ช่วงที่ 2 รอได้เลยว่าตรุษจีนนี้มีแหล่งท่องเที่ยวดี ๆ มาแนะนำ “ชุมชนชากแง้ว” บางละมุง วิถีไทยเชื้อสายกว่าร้อยปีพร้อมเปิดบ้านต้อนรับนักท่องเที่ยว ด้วยอาหารคาวหวาน วิถีวัฒนธรรมหาชมได้ยาก ลองมาสัมผัสแล้วจะรู้ว่าสุดยอด MORE FOOD & FUN ส่วน “อาการปวดหัวตรงไหนบอกโรคได้” ต้องฟังแล้วจะรู้ และข่าวร้อน ๆ ท้ายชั่วโมง “ตั๋วบิน 0 บาท” ของ นกแอร์กับไทย แอร์ เอเชีย แข่งกันเทขายตั้งแต่ต้นปี “อนันตราสยาม” ชิงลูกค้าตรุษจีนเปิด 5 ห้องอาหารบริการครบวงจร “AIRBNB” ชี้เป้าคนไทยแห่เที่ยวนอกและในประเทศช่วงเทศกาลตรุษจีน เพื่อกิน ดื่ม เที่ยว

🍊  More Foodตรุษจีน”ชากแง้ว-ท่าเรือพลี”ชลบุรี

     ใกล้เทศกาลฉลองตรุษจีนปีหนูทอง มีชุมชนโบราณ “ชากแง้ว” บ้านหนองชากแง้วง ตำบลห้วยใหญ่ อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี เป็นไฮไลต์ที่จะชวนมาเที่ยวย้อนกลิ่นอายคนไทยเชื้อสายจีนที่มาปักหลักอยู่นานนับร้อยปี ด้วยสถาปัตยกรรมอันมีอัตลักษณ์จีนแผ่นดินใหหญ่ กลมกลืนวิถีไทย

      ทุกวันเสาร์คนในชากแง้วจะใส่เสื้อแดง ตั้งร้านหน้าบ้านขายอาหารการกิน ต้อนรับนักท่องเที่ยว ในบรรยากาศสบาย ๆ โดนใจนักท่องเที่ยวกลุ่มครอบครัวคนไทยจากพื้นที่ใกล้เคียงและต่างถิ่นที่เข้ามาชมความเป็นอยู่ของผู้คน ตามตรอกซอกซอยสามารถเดินชมบ้านเรือนยุคเก่าที่สวยงาม

       ส่วนอาหารมีทั้งสไตล์ ไทย จีน ที่ชาวบ้านนำมาขาย ในราคากันเอง  พร้อมการตกแต่งโคมไฟสีแดงสวยงาม นอกจากจะกินกันจนพุงกางแล้ว นักท่องเที่ยวยังสามารถเชลฟี่มุมอาร์ตสวย ๆ ได้มากมาย

      ขณะเดียวกันก็สมารถเดินไปตามซอยเล็ก ๆ ของหมู่บ้าน ซึ่งมี โรงหนังเก่าในชื่อ “ชากแง้วโรม่า” ศาลเจ้าแม่ทับทิม ศูนย์รวมจิตใจของคนในชุมชนซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถเข้าไปสักการะขอพรได้ หรือจะชมภาพย้อนยุค รถลาก (รถเจ็ก” และโรงฝิ่นโบราณ
“ชากแง้ว” เป็นชุมชนที่มีอัตลักษณ์เป็นเสน่ห์ของตนเองที่หาชมได้ยาก

      จากชากแง้ว ไปต่อที่  “ตลาดประมงท่าเรือพลี” เปิดุทุกวันเสาร์เช่นกัน แม่เหล็กดึงดูดความสนใจตั้งแต่ประตูทางเข้าตลาด คือ “สะพานชลมารควิถี” เลียบทะเลอ่าวไทย ที่ยาวกว่า 2 กม.ก่อนจะไปสุดซอยตรงตลาดประมงท่าเรือพลี-ศรีนิคม ต.มะขามเหย่ง อำเภอเมือง  ซึ่งมีวัตถุดิบอาหารทะเลสดแบบละลานตาแปรรูปเป็นเมนูอาหาร ปิ้ง ย่าง ทอด และปรุงได้สารพัดตามแต่ความต้องการ

        มาได้เลยทุกวันเสาร์ ทั้งที่ชุมชนชากแง้ว และตลาดประมงท่าเรือพลี มีของอร่อยพร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวอย่างประทับใจ เป็นหนึ่งในของดีเมืองไทยมาแล้วจะติดใจทุกคน

😍 ต้องระวัง! อาการปวดหัวบริเวณไหนบอกโรคได้

       ผศ.พญ.แสงศุลี ธรรมไกรสร ภาควิชาเวชศาสตร์ครอบครัว คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล ปวดหัวในตำแหน่งต่าง ๆ อาจจะพอบอกโรคคร่าว ๆ ได้บ้าง

        1. โรคปวดศีรษะที่พบมากที่สุด เป็นโรคปวดหัวที่เกิดจากการเกร็งของกล้ามเนื้อบริเวณรอบศีรษะ ตำแหน่งที่ปวดศีรษะที่พบบ่อยคือ ตำแหน่งบริเวณหน้าผากและขมับทั้งสองข้าง บางครั้งร้าวมาที่ด้านหลังของศีรษะและต้นคอ รวมถึงบ่าไหล่ร่วมด้วย อันนี้เป็นภาวะที่สัมพันธ์กับความเครียดด้วย

        2. ปวดศีรษะจากโรคไมเกรน จะมีอาการปวดบริเวณขมับด้านใดด้านหนึ่งโดยเฉพาะ อาจจะปวดสลับกันได้ระหว่างข้างซ้ายหรือข้างขวา และเวลาปวดบางครั้งอาจจะมีปวดร้าวเข้ามาที่กระบอกตาร่วมด้วย คนไข้ก็จะมีอาการคลื่นไส้อาเจียน เวียนศีรษะ และขณะที่มีอาการปวด ถ้าอยู่ในที่แสงสว่างจ้า เสียงดังหรือว่ากลิ่นฉุนอาการจะแย่ลง

        3. ปวดอันต่อไปก็เป็นปวดที่พบบ่อย คือปวดบริเวณโหนกแก้มทั้งสองข้างลงมาจนถึงบริเวณหน้าผากด้วย หรือว่าปวดตรงบริเวณดั้งจมูก อันนี้เป็นตำแหน่งของไซนัส ถ้าเกิดมีการอักเสบของไซนัส คนไข้ก็จะมีอาการปวดที่ตรงตำแหน่งนี้

        4. ปวดที่เกิดจากการอักเสบของกราม มักจะมีอาการปวดบริเวณหน้าใบหู ซึ่งสัมพันธ์กับการเคี้ยวอาหารร่วมด้วย คนไข้บางคนอาจจะไม่รู้ตัวว่าตัวเองมีการกัดฟันตอนเวลานอน ตื่นเช้ามาก็รู้สึกว่าเวลาขยับปากหรือเวลาเคี้ยวอาหาร จะรู้สึกปวดบริเวณหน้าใบหู อาจจะสัมพันธ์กับภาวะกระดูกกรามหน้าใบหูอักเสบได้

         5. อาการปวดอาจจะมาจากโรคที่ร้ายแรงมากกว่านั้นได้อีก ไม่ว่าจะเป็นโรคหลอดเลือดสมอง หรือว่าโรคเนื้องอกสมอง ซึ่งพวกนี้ อาการปวดจะมีลักษณะรุนแรง มีการปวดที่เป็นอย่างรุนแรงมากขึ้นชนิดที่ว่า ในชาตินี้ไม่เคยปวดแบบนี้มาก่อน ไม่เคยปวดแบบนี้จนถึงอายุเกิน 50 ปี อันนี้เราก็เริ่มสงสัยแล้ว นอกจากนี้อาจจะมีอาการมองเห็นที่ผิดปกติ ไม่ว่าจะเห็นภาพซ้อน หรือว่ามองเห็นไม่ชัด มีการชาหรืออ่อนแรงของกล้ามเนื้อต่าง ๆ ของร่างกายร่วมด้วย หรือบางคนอาจจะมีลักษณะพฤติกรรมที่ผิดปกติไปกว่าเดิม รวมไปถึงชัก

       เมื่อมีอาการเหล่านี้ แนะนำให้มาพบแพทย์โดยเร่งด่วน หรือว่าอาการปวดศีรษะที่มีไข้หรือคอแข็งร่วมด้วย พวกนี้อาจจะเป็นตัวบอกว่ามีการอักเสบของเยื่อหุ้มสมอง อันนี้ก็แนะนำให้มาพบแพทย์

🍎 ฟังข่าวท้ายชั่วโมง

🌍 ข่าวที่ 1 “นกแอร์-แอร์เอเชียขายตั๋ว0บาทชิงผู้โดยสารต้นปี”


         สายการบินโลว์คอสต์ในประเทศ เปิดศักราชใหม่ด้วยการแข่งขันจัดแคมเปญขายตั๋วราคา 0 บาท โดย 2 สายการบินหลัก “นกแอร์” ทำโปรโมชั่นตั๋ว 50,000 ที่นั่ง ให้บริการในบางวันและบางเที่ยวบิน จองได้ตั้งแต่วันนี้ – 31 มกราคม 2563 เดินทางได้ตั้งแต่วันนี้– 31 พฤษภาคม 2563 พร้อมกับให้ผ่อน0% นาน 3 หรือ 6 เดือน เมื่อจองทาง www.nokair.com และผ่อน 0% 3 เดือนเมื่อจองผ่านแอพลิเคชั่นนกแอร์ แล้วจ่ายผ่าน QR code ฟรีไม่มีค่าธรรมเนียม ส่วนเด็กอายุ 2 - 12 ปี บินไปฮิโรชิมาบินฟรีโดยจ่ายเพียงค่าภาษีและค่าธรรมเนียมเท่านั้

        ขณะที่ ไทย แอร์ เอเชีย จัดโปรลด 7 วัน พบกันทุกวัน 13-19  มกราคม2563 ซื้อแล้วนำตั๋วไปใช้เดินทาง ระหว่างวันที่ 1 ก.ย. 2563 – 2 มี.ค. 2564 พร้อมเปิดให้สมาชิก BIG ซื้อในราคาเริ่มต้น 0 บาท/เที่ยว ส่วนคนทั่วไปราคาเริ่มต้น 43 บาท/เที่ยวทางด้าน ไทย แอร์ เอเชีย เอ็กซ์ สมาชิก BIG ราคาเริ่มต้น 1,670 บาท/เที่ยว คนทั่วไปซื้อได้ราคา 1,710 บาท/เที่ยว โปรโมชั่นพิเศษมีที่นั่งจำนวนจำกัดและอาจไม่มีให้บริการในบางเที่ยวบินและบางช่วงของวันหยุดยาว ราคาเริ่มต้น 0 บาท และราคาอื่นๆ

🌍ข่าวที่สอง “Airbnbชี้เป้าไทยเที่ยวตรุษจีน5พื้นที่หลัก”

         Airbnb รายงานช่วงเทศกาลตรุษจีนปี 2563 คนไทย 79% จะแห่เดินทางเป็นกลุ่มท่องเที่ยวต่างประเทศประมาณ 4 วัน Airbnb โดยเลือกเที่ยวในลักษณะครอบครัว ไปยังจุดหมายปลายทางในอเชียแปซิฟิก (APAC) ราว 85% จะจัดทริปท่องเที่ยวพร้อมกับครอบครัวซึ่งเป็นเปอร์เซ็นที่สูงขึ้นกว่าการท่องเที่ยวปกติ 61% จุดหมายปลายทางยอดนิยม 5 อันดับแรก ได้แก่ 1.โอซาก้า ญี่ปุ่น 2. เชียงใหม่ 3. โตเกียว ญี่ปุ่น 4. กรุงเทพฯ ไทย 5. โซล เกาหลีใต้

        โดยเฉพาะคนไทยเชื้อสายจีนนิยมท่องเที่ยวเทศกาลตรุษจีน ด้วยการเดินสายกินอาหารและเครื่องดื่มตามแหล่งท่องเที่ยวขึ้นชื่อในประเทศและภูมิภาคเอเชีย ตามมาด้วยประสบการณ์แนวธรรมชาติ ประวัติศาสตร์ กีฬา และความบันเทิง

🌍 ข่าวที่สาม “โรงแรมอนันตราสยามเปิด5ห้องอาหารรับตรุษจีน”



        โรงแรมอนันตรา สยาม กรุงเทพ ขอเชิญทุกท่านร่วมเฉลิมฉลองวันตรุษจีน ต้อนรับปีหนูทองปีนี้ ด้วยอาหารที่รังสรรค์ขึ้นเป็นพิเศษจากหลากหลายห้องอาหารของโรงแรมฯ ต้อนรับวันมงคล และร่วมรับชมการเชิดสิงโตในวันเสาร์ที่ 25 มกราคม อันเชื่อกันว่าจะนำมาซึ่งโชคลาภ ความเป็นสิริมงคล และความเจริญรุ่งเรืองให้กับผู้ที่ได้รับชม 18 – 31 มกราคม 2563

       1.ห้องอาหารญี่ปุ่นชินทาโร่ 18 – 31 มกราคม 2563 มื้อกลางวัน เวลา 11.30 – 14.30 น. มื้อค่ำ เวลา 17.00 – 22.30 น. เพลิดเพลินกับเมนูพิเศษจากล็อบสเตอร์ บรรจงปรุงรสอย่างพิถีพิถันโดยเชฟซาโตชิ ซาวาดะ เมนูไฮไลท์ อาทิ ล็อบสเตอร์ย่างเทอริยากิ เสิร์ฟกับหอยเม่น ซอสมิโสะ, ล็อบสเตอร์โรล เสิร์ฟพร้อม ตับห่าน อะโวคาโด และ ไข่ปลาแซลมอน, ข้าวผัดเนยเห็ดทรัฟเฟิล กับล็อบสเตอร์และไข่ออนเซน เป็นต้น ราคาเริ่มต้น 1,350 บาท++ ต่อจาน


       2.มอคค่า แอนด์ มัฟฟินส์ 18 – 25 มกราคม 2563 เวลา 09.00 – 20.00 น.ต้อนรับเทศกาลตรุษจีน ด้วยหลากหลายเมนูขนมเค้ก ขนมอบ และของหวานที่รังสรรค์ขึ้นเป็นพิเศษ ทั้งช็อกโกแลต โฮมเมด กิฟท์เซ็ตช็อกโกแลต ไวน์ชั้นเยี่ยม ให้ท่านได้เลือกสรรและนำไปมอบเป็นของขวัญให้กับญาติผู้ใหญ่ เพื่อนฝูง หรือลูกค้าคนสำคัญ ในเทศกาลอันเป็นมงคลนี้

       3.เดอะ ล็อบบี้  25 – 31 มกราคม 2563 เวลา 14.00 – 18.00 น.จิบชามาคิยาจ แฟรส์ เบลนด์พิเศษสำหรับโรงแรมอนันตรา สยาม กรุงเทพ พร้อมเพลิดเพลินกับชุดน้ำชายามบ่าย ซึ่งรังสรรค์เพื่อต้อนรับเทศกาลมงคลนี้ ในบรรยากาศล็อบบี้อันโอ่โถงและหรูหรา เคล้าเสียงเปียโนอันไพเราะ


      • ชุดน้ำชายามบ่าย หรือ บุฟเฟ่ต์น้ำชายามบ่าย ราคา 888 บาท++  รวมชาหรือกาแฟ
(แบบบุฟเฟ่ต์เฉพาะวันเสาร์-อาทิตย์)


     4.ห้องอาหารไทยสไปซ์ มาร์เก็ต  25 – 31 มกราคม 2563 เวลา 18.00 – 22.30 น.อิ่มอร่อยกับเซ็ตเมนูพิเศษมื้อค่ำ ในช่วงตรุษจีน รังสรรค์โดยเชฟวรินธร สัมฤทธิ์ผล กับหลากหลายอาหารเลิศรสที่ปรุงขึ้นสดใหม่อย่างพิถีพิถัน อาทิ ทอดมันปลากราย, ส้มตำทอด, ปูนิ่มอบวุ้นเส้น, กุ้งคั่วพริกเกลือ, เป็นต้น ในราคา 888 บาท++ ต่อท่าน

    5.อควา บาร์  25 – 31 มกราคม 2563 เวลา 18.00 – 23.00 น.สังสรรค์เฮฮา ฉลองรับตรุษจีนกับเพื่อนและญาติพี่น้อง ในบรรยากาศอันร่มรื่นของสวนปาริชาติ คอร์ท กับเมนู “Seafood On Ice” กับหลากหลายซีฟู้ดชั้นเยี่ยม อาทิ ล็อบสเตอร์, หอยนางรม, หอยเชลล์ฮอกไกโด, กุ้งลายเสือ เป็นต้น ราคา 3,888 บาท++ หรือเลือกจิบเครื่องดื่ม สปาร์คกลิ้งไวน์แบบไม่อั้น 2 ชั่วโมง ในราคา 1,888 บาท++ ต่อท่าน

     ตรุษจีน ซันเดย์บรันช์  วันอาทิตย์ที่ 26 มกราคม 2563 เวลา 12.00 – 15.00 น. เฉลิมฉลองกับครอบครัวและมิตรสหายด้วยบุฟเฟ่ต์ ซันเดย์บรันช์ รับตรุษจีน กับหลากหลายเมนู อาทิ เป็ดปักกิ่ง, หมูหันสไตล์ฮ่องกงติ่มซำ ซีฟู้ดนานาชนิด อาทิ หอยนางรมฟินเดอแคลร์, ขาปูอลาสก้า, บอสตันล็อบสเตอร์, รวมไปถึงตับห่าน (ฟัวร์กราส์) หลากหลายเมนูอาหารนานาชาติ ไทย, ญี่ปุ่น, อิตาเลียน และ ตะวันออกกลาง ปิดท้ายด้วยขนมหวานนานาชนิด และเครื่องดื่มหลากหลายประเภท โดยท่านสามารถเลือกที่นั่งได้ทั้งในห้องอาหารเมดิสัน สเต๊กเฮ้าส์, สไปซ์ มาร์เก็ต หรือ อควา บาร์ ริมสวนปาริชาติ คอร์ท

     • ตรุษจีนซันเดย์บรันช์แพ็คเกจ ราคา 2,999 บาท++ ต่อท่าน รวมซอฟท์ดริ้งค์และเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์

     • แชมเปญแพ็คเกจ ราคา 4,100 บาท++ ต่อท่าน รวมแชมเปญ Billecart-Salmon ค็อกเทล เบียร์ และ ไวน์

     ราคาข้างต้นไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่มและค่าบริการ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมและสำรองที่นั่งล่วงหน้าได้ที่ โทร. 0 2126 8866 ต่อ 1201

🌍 ข่าวที่สี่ “ไลม์ไลท์อเวนิวภูเก็ตช้อปลดพิเศษตรุษจีน23-31ม.ค.”



     ไลม์ไลท์ อเวนิว ภูเก็ตจัดฉลองเทศกาลตรุษจีน เฮงๆๆ รับอั่งเปา ระหว่างวันที่ 23-31 มกราคม 2563 เพื่อให้ลูกค้าที่มาใช้บริการได้รับความสุข ความเป็นสิริมงคลกลับไป เพียงลูกค้ากินช้อปในไลม์ไลท์ อเวนิว ภูเก็ต ครบทุก 300 บาท รับคูปองชิงโชคอั่งเปาแทนเงินสดมากมายหลายรางวัล จับรางวัลวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2563

     โดยเทศกาลโคมไฟภูเก็ต ประจำปี 2563 กำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 18 มกราคม - 8 กุมภาพันธ์ 2563 ไลม์ไลท์ อเวนิว ภูเก็ต ก็เป็นอีกหนึ่งสถานที่ในการให้ความร่วมมือประดับประดาสถานที่เพื่อส่งเสริมเทศกาลดังกล่าว ร่วมกับชมรมอ๊ามจังหวัดภูเก็ต ซึ่งจะทำพิธีเปิดเทศกาลโคมไฟภูเก็ต ครั้งที่ 4 ในวันเสาร์ที่ 18 มกราคม 2563 เวลา 18.30 น. บริเวณด้านหน้าไลม์ไลท์ อเวนิว ภูเก็ต ขอเชิญชวนประชาชนทุกท่านร่วมพิธีเปิดดังกล่าวเพื่อความเป็นสิริมงคลร่วมกันอีกด้วย

        โทร. 076 682900 หรือ 092 1295468 เฟสบุ๊ค : Limelight Avenue Phuket

ติดตามฟังรายการได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ 11.00-12.00 น.ทาง สวท.FM 97.0 MHz. 

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ททท.คุนหมิงดึงจีน3มณฑลเที่ยวไทยทางบก4ด่านเงินสะพัด

ททท.ปั๊มทัวร์จีนคุนหมิงแบบโอเวอร์แลนด์เงินสะพัดไทย 4 ด่าน ส.ค. 66- ปี ’67 กระหน่ำขาย “ New Ways to Amazing to Thailand” ล็อกเป้าจีน 4 ตลาดใช้จ่ายแสนบาท/ทริป-ดันอีสานอู้ฟู่ 20 จังหวัด ช้อป!!ของขวัญวันแม่ที่คิงเพาเวอร์ลด20%- Firster9 หมื่นไอเท็ม ฉลองวันแม่!พูลแมนคิงเพาเวอร์จัดบุฟเฟต์พรีเมี่ยมกลางวัน/ค่ำ กินฟินที่คิงเพาเวอร์มหานคร-รร.เดอะสแตนดาร์ดตลอดส.ค. 66 ททท.จัดแข่งผัดกะเพราโลก“ World Kaphrao 2023”ชิงเงินล้าน กลุ่มบริษัทบางจากโชว์ครึ่งปีแรก66กวาดรายได้1.48 แสนล้าน TCEB บุกจีนจัด Thailand MICE in China 2023 โกยไมซ์ 990 ล้าน เที่ยววันแม่ใกล้กรุงได้ที่อุทยานเบญจสิริ/ดรีมเวิลด์/สวนนงนุช เคล็ดลับ!!การรักษาแผลให้หายไวด้วยขั้นตอนง่ายๆทำได้เอง บินไทยฟื้นเร็ว!!ครึ่งแรกปี’66กำไร329%พกเงินสด5.1หมื่นล้าน เปิดขายแล้ว!!บัตรชม“โขน”สุดยิ่งใหญ่แห่งดูได้ 5 พ.ย.- 5 ธ.ค. 66   วันเสาร์ที่ 12 สิงหาคม 2566 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97.0 และอ

TCEB นำงานวิจัยMICE for Sightแนะธุรกิจปรับตัวรับไมซ์10ปีหน้า

  นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) "TCEB" “ TCEB ”เปิดคัมภีร์ MICE for Sight ปลุกไมซ์จัดทัพใหม่ 10 ปีหน้า รับมือ Gen Z ผงาดผู้ทรงอิทธิพลไมซ์โลกเขย่าตลาดครั้งใหญ่ ปี 67 เร่งโกย 1.4 แสนล้านโหมซอฟท์เพาเวอร์/ไมซ์ซิตี้/ไมซ์ชุมชน รีบช้อป!!คิงเพาเวอร์เป็นไปได้5รายการรางวัลสูงสุดกว่า 4 ล้าน ด่วน 4 วันสุดท้าย!คิงเพาเวอร์อัดโปร SurpriseOnlineSale ลด 50% คิงเพาเวอร์ช้อปวนไปแจกทันที 3 ฟรี คูปอง/ตั๋ว/รถยนต์ LEXUS ท่องเที่ยวรุกเจรจาธุรกิจ TEJ 2023ฉลุย300นัดโกยญี่ปุ่น9ตลาด บางจาก-กรุงไทยเปิดแอปเป๋าตังจองซื้อหุ้นกู้ดิทัลดีเดย์ 30 ต.ค. เที่ยวประจวบนอนแคมป์ทะเลหมอกบ้านป่าหมาก-วิ่งปราณบุรี บินไทยโชว์ยูนิฟอร์มใหม่ลูกเรือแฟชั่นผ้าลดโลกร้อนเริ่ม1ม.ค.67 คาเธ่ย์ กรุ๊ปทุ่มลงทุนฝูงบินใหม่ A 320 neo เพิ่ม32ลำบินจีน/เอเชีย   วันเสาร์ที่  28 ตุลาคม 2566 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97

ททท.ภาคเหนือ7เดือนปี66โกยแล้ว1.08แสนล้าน

นางสาวภัทรอนงค์ ณ เชียงใหม่ ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคเหนือ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)  ททท.ภาคเหนืออู้ฟู่ 7 เดือนแรกโกยได้แล้ว 1 แสนล้าน ต.ค.-ธ.ค. 66 ลุยขายเที่ยวไฮซีซัน 4 เทรนด์ใหม่มาแรง นำ The Link จับคู่ทัวร์ข้ามภาคสำเร็จ 3 เส้นทางสุดฮ็อต คิง เพาเวอร์แจกมันส์แจกฟินที่รางน้ำเสาร์16ก.ย.นี้ ช้อป KingPowerOnline รับแบบไม่ยั้ง2สุดคุ้มถึง24ก.ย. ช้อป DUTY FREE SALE นำบิวตี้แบรนด์โลกมาเต็ม ททท.ใช้ฟรีวีซ่าปั๊ม1.4แสนล้านชาเตอร์จีนเฮเข้าไทย บางจากโชว์อุตฯไทย-ไต้หวันชูนวัตกรรมธุรกิจสีเขียว TCEB ผนึก EECAutoPark หนุนไมซ์เอ็กซิบิชั่นอินเตอร์ เที่ยว Unseen “พิพิธภัณฑ์ป่าสัก-วัดขุนอิน-วัดปัญญา” 4วิธี“ปิดล้างเลี่ยงหยุด”ป้องกันไข้หวัดใหญ่ทุกพันธุ์ “สุดาวรรณ”รมว.ใหม่ท่องเที่ยวดึงต่างชาติ40ล้านคน กพท.-สมาคมแอร์ไลน์สไทยแบไต๋ตั๋วบินราคาแพง วันเสาร์ที่ 16 กันยายน 2566 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyai