ททท.จัดทัพใหญ่สินค้า5เทรนด์แรงชิงตลาดปีหนูทอง ผนึกTICTOK-UNDPชูไทยโมเดลไอดอลเที่ยวยั่งยืน

ททท.จัดทัพใหญ่สินค้า5เทรนด์แรงชิงตลาดปีหนูทอง

ผนึกTICTOK-UNDPชูไทยโมเดลไอดอลเที่ยวยั่งยืน

คิง เพาเวอร์ปลุกตรุษจีน“ชิม-ช้อป-แชร์”วันนี้-1ก.พ.

ชมเชิดสิงโตลอยฟ้าที่คิงเพาเวอร์มหานคร 25 ม.ค.

ททท.ถกแผนรับมือดิสรัปชั่นรักษาตลาด4ทวีปปี63

บูมปั่นMoreFunทัวร์นครนายก-ปราจีน-สระแก้ว

บางจากงัด3มาตรการดูแลคนไทยช่วยลดPM2.5

ทริปฟินประจวบย่ำตลาดเก่าปราณ-ล่องเรือ3อ่าว

กินอาหารนอกบ้านอย่างไรให้ปลอดภัยต่อสุขภาพ

สั่งการบินไทยส่งด่วนเช่าฝูงบิน38ลำ1.5แสนล้าน

คมนาคมหนุนทอท.สร้าง3เทอร์มินัลสุวรรณภูมิ

ทอท.ผนึกกสทช.นำ5Gหนุน6สนามบินอัจฉริยะ

พบกันในรายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” วันเสาร์ที่ 25 มกราคม 2563 เวลา 11.00-12.00 น.กับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebook Live FM 97.0 อ่านทางwww.facebook.com/penroongyaisamsaen และบล็อกเกอร์ #gurutourza  #รวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97  #เที่ยวกับกู๋  #ทททตรุษจีน  # #  #  

ช่วงที่ 1 เกาะติดการเคลื่อนทัพสินค้าและกิจกรรท่องเที่ยวปีหนูทองกับ “ฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์” รองผู้ว่าการด้านสินค้าและธุรกิจท่องเที่ยว การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) พลิกโฉม 3 กิจกรรม “ไทยแลนด์ เฟสติวัล เอ็กพรีเรียนซ์-แกรนด์อีเวนต์-สปอร์ตทัวริสซึ่ม” ยกสินค้า 5 หมวดขึ้นชั้นอินเตอร์ ทยอยนำ ผีตาโขน แห่เทียน เป็นงานประเพณีมรดกโลก พร้อมผนึกแอพลิชั่นดังระดับโลกมีผู้ใช้กว่าพันล้านคน TIC TOK นำร่องตลุยโปรโมตตรุษจีน และเตรียมพบกับเซอร์ไพรส์การทำบิ๊กโปรเจ็กต์ในเดือนฉลอง 60 ปี มีนาคม นี้ ทาง UNDP จะนำเสนอไทยเป็นประเทศต้นแบบความสำเร็จ “เส้นทางการท่องเที่ยวศาสตร์พระราชาพัฒนาสู่ความยั่งยืน” เป็นไอดอลใช้พัฒนาการท่องเที่ยวยั่งยืนกับนานาประเทศทั่วโลก

นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์
รองผู้ว่าการด้านสินค้าและธุรกิจท่องเที่ยว การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)

นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ รองผู้ว่าการด้านสินค้าและธุรกิจท่องเที่ยว การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ปีหนูทอง 2563 อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวต้องเผชิญความท้าทายของค่าเงินบาทแข็ง เศรษฐกิจโลกมีปัจจัยกดดันหลายด้าน แต่การพัฒนาสินค้าและกิจกรรมท่องเที่ยวให้ปังในโอกาสฉลอง ททท.60 ปี จะเน้นหนักการสร้างประสบการณ์ที่ดีแก่นักท่องเที่ยวทั่วโลกให้อยู่ในความทรงจำเพื่อเกิดการระลึกถึงอยู่ตลอดเวลาจึงจะนำ Thailand Festival Experience กลับมาใช้ในโครงการใหญ่ ต่อเนื่องกับ Classic Event เริ่มมาตั้งแต่ต้นปีตอกย้ำถึงการให้ความสำคัญกับการยกระดับแกรนด์อีเวนต์

เริ่มจาก กิจกรรมแรก เคาน์ดาวน์ทั่วเมืองไทยได้รับเสียงชื่นชมทั้งเมืองหลักเมืองรองนานาชาติตั้งสมญานามให้เป็นประเทศแห่งการเคาน์ดาวน์ของโลก

กิจกรรมที่ 2 เทศกาลตรุษจีน ระหว่าง 23-29 มกราคม นี้จัดยิ่งใหญ่มากเพราะเฉลิมฉลอง 45 ปีความสัมพันธ์ไทย-จีน มีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมท่องเที่ยวสาธารณรัฐประชาชนจีน เดินทางมาไทยเป็นครั้งแรก มีกิจกรรมศิลปะวัฒนธรรมหลายรูปแบบร่วมกัน

กิจกรรมที่ 3 การท่องเที่ยวเชิงกีฬา-Sport Tourism เป็นระดับอินเตอร์เนชั่นแนลไฮไลต์คือการจัดซีรีย์ อะเมซิ่ง ไทยแลนด์มาราธอน จัดมาแล้ว 3 ปี ในปี 2563 จะได้การรับรองจาก IF เป็นระดับบรอนซ์ทั้งสองเหรียญ ซึ่งเป็นการเก็บคะแนนในเดือนกุมภาพันธ์นี้ แล้วก็ยังมีเมกะอีเวนต์ “โมโต จีพี 2020” จะได้จัดเดือนมีนาคมและตุลาคม 2563 ทั้งสองรายการเป็นเวิลด์คลาสแล้ว

ขณะที่คลาสสิคอีเวนต์ ททท.จะทำให้ดียิ่งขึ้นโดยเฉพาะทางด้านศิลปะวัฒนธรรม ได้แก่ งานแห่เทียนพรรษา อุบลราชธานี เป็นฉบับ 60 ปี ททท.งานเทศกาลผีตาโขน อำเภอด่านซ้าย งานมหาสงกรานต์ทั่วฟ้าเมืองไทย ปีนี้เป็นครั้งแรกจับมือกับกระทรวงวัฒนธรรมกำลังยกระดับผีตาโขนเป็นมรดก ส่วนกระทรวงการต่างประเทศเข้ามาช่วยผลักดันให้งานเหล่านี้ได้รับการขึ้นทะเบียนจากองค์การยูเนสโก้ให้เป็นมรดกโลก-World Heritage สามารถเสริมเป็นเวิลด์ อีเวนต์

ทางด้านสินค้าเพื่อขายนักท่องเที่ยวคนไทยและต่างชาติจะทำคู่ขนานกันไปทั้งในเมืองหลัก เมืองรอง จะเน้นฐานราก ด้วยการบูมขาย “ท่องเที่ยวชุมชน” ปีนี้จะเล่นเพิ่มเรื่อง “การท่องเที่ยวชนบท” เพื่อทำเป็นขุมทรัพย์ทางการท่องเที่ยวของประเทศ ซึ่งมีแมวมองเป็นพันธมิตรของ ททท. คือ ธนาคารออมสิน ธนาคารเพื่อการเษตร องค์การธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม บริหารพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (องค์การมหาชน) “อพท.” และอีกหลากหลายหน่วยงานช่วยกันเต็มที่ เสนอรายชื่อมายัง ททท.เข้าไปพัฒนาโดยแต่ละธนาคารพร้อมจะให้เงินกู้ด้วยสิทธิพิเศษมาก ๆ กับกลุ่มชนบทที่ต้องการยกระดับเข้าสู่ตลาดการท่องเที่ยว

จะเป็นสุดยอดสินค้า “การท่องเที่ยวหมู่บ้านชนบท” นำร่องปี 2563 โดยจะมีเกณฑ์การคัดเลือกอย่างเข้มข้นตอบโจทย์กลยุทธ์ตามนโยบายของนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ซึ่งต้องการแจ้งเกิด HomeLodge และ Homestay ที่จะต้องทำให้เกิดตามมาตรฐานภายในปีนี้โดยมีตัวแทนของแต่ละภาคเป็นทางเลือกใหม่ในการท่องเที่ยว

สำหรับสินค้า “การท่องเที่ยวหมู่บ้านชนบท” ททท.เริ่มปักธงเมื่อช่วงเดือนธันวาคม 2562 ที่ภาคเหนือ เป็นการเปิดเส้นทางท่องเที่ยวหมู่บ้านในล้านนาตอนบน มีหมู่บ้านที่ได้รับการคัดสรรและทำเช็คลิสต์จาก อพท.และกรมการพัฒนาชุมชน (พช.) กระทรวงมหาดไทย ได้ทำโอท็อปนวัตวิถีซึ่งมีอยู่ 3,000 แห่ง ททท.จะจำแนกศักยภาพของหมู่บ้านที่มีความพร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวเริ่มจากตลาดในประเทศก่อนขยายสู่ตลาดต่างประเทศ โดยจะต้องสามารถพัฒนาเพิ่มให้เข้าเกณฑ์มาตรฐาน หากเป็น Home Stay จะต้องมีคุณสมบัติครบ 22 ข้อ ซึ่งบางหมู่บ้านยังไม่สามารถทำเป็นโฮมสเตย์ได้ แต่ ททท.ได้ผนึกความร่วมมือกับกรมท่องเที่ยว จัดทำเป็น Home Lodge ไปก่อน พิจารณาบ้านที่ต้องการเปลี่ยนบ้านพักเป็นสถานที่พักแรมแก่นักทัศนาจร ทางกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาจะส่งผู้เชี่ยวชาญไปอบรมสัมมนาชาวบ้าน ตอนนี้ ททท.ให้รายชื่อแต่ละหมู่บ้านไปแล้วในแต่ละภูมิภาค เปิดเป็นคลินิกให้คำปรึกษาตามหมู่บ้าน

สถิติปี 2563 ประเทศเรามีโฮมสเตย์อยู่ประมาณ 300 แห่ง จึงจะให้ทำโฮมลอดจ์ซึ่งสามารถทำได้ง่ายกว่าแต่ต้องยึดหลัก ความสะอาด ปลอดภัย ไม่คดโกงเอาเปรียบนักท่องเที่ยว ตามเป้าหมายจะต้องทำให้ครบ 1,500 แห่ง เพื่อให้คนได้รู้จักการเริ่มต้นจากบ้านตนเองก่อนแล้วเชื่อมโยงเส้นทางการท่องเที่ยวรอบพื้นที่เข้าไป เพื่อจะได้กระจายการท่องเที่ยวจากเมืองไปสู่ชนบทเพิ่มรายได้ถึงมือกลุ่มฐานรากอย่างแท้จริง

นางสาวฐาปนีย์กล่าวว่า ปีนี้ก็จะเดินหน้าพัฒนาสินค้าท่องเที่ยวนวัตกรรม ที่มีการสร้างสรรค์ ประยุกต์รวมความต้องการของนักท่องเที่ยวเข้ามาไว้ให้ชัดเจน ททท.ได้เริ่มทำโครงการ Creative Tourism โดยสถานที่ต่าง ๆ มีแผนนำร่องที่แม่ฮ่องสอนเมื่อปีที่ผ่านมา คิดนวัตกรรมจากความเป็นจริงของสถานที่นั้น ๆ ตามคอนเซ็ปต์แม่ฮ่องสอนมี 5 อา “อากาศบริสุทธิ์-อาหารอร่อย-อารมณ์ดี-อายุยืน-อารามงดงาม“ และยังได้สร้างจุดขายดังกล่าวใน จังหวัดแพร่ กาฬสินธุ์ ปีนี้จะเพิ่มอีกหลายจังหวัดเข้าไป

ส่วนการกระตุ้นให้เห็นถึงความต้องการด้วยการร่วมมือกับพันธมิตรระดับโลก โครงการแรก คือ TIC TOK เนื่องจากพฤติกรรมของผู้คนในโลกยุคปัจจุบันอยู่กับดิจิทัลและเซลฟีคนหลายช่วงชีวิต หลายวัยต่างก็ใช้ออนไลน์ จึงหาช่องทางให้ออนไลน์เวิลด์หันมาสนใจเมืองไทยผ่านนวัตกรรมดิจิทัล ขณะเดียวกันเด็กไทยที่ใช้ประโยชน์จากออนไลน์ได้เข้ามามีส่วนสร้างสรรค์การโปรโมตประเทศไทยด้วย ตอนนี้ ททท.กำลังเปิดบัญชีอย่างเป็นทางการกับทาง TIC TOK เริ่มงานตรุษจีน เดือนมกราคมนี้เป็นต้นไป เพราะมีคนนิยมใช้สูงเกิน 1,000 ล้านคน สูงที่สุดในโลก ไทยจะโปรโมตแคมเปญตรุษจีนผ่านแอพลิเคชั่น TIC TOK กลุ่มเคแอลที่อยู่ใน TICTOK จะช่วยประชาสัมพันธ์เมืองไทย และเด็กที่ใช้ TIC TOK ก็จะทำแคมเปญเพื่อให้เข้ามาโปรโมตเมืองไทยในช่วงเวลาเดียวกัน

โครงการที่ 2 ททท.ให้ความสำคัญมากกับการท่องเที่ยวอย่างมีส่วนร่วมรับผิดชอบ (Responsible Tourism :RT) ซึ่งยึดโยงอยู่กับเกณฑ์ Sustainable Development Goals : SDGs 17 ข้อ ของโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติหรือ United Nations Development Programme : UNDP ปี 2563 จะเป็นปีแรก (หลังจากปูพรมทำงานด้วยกันมาแล้ว 2 ปี) ที่จะทำงานด้วยรูปแบบพันธมิตรอย่างยั่งยืน โดยจะเริ่มคลิกออฟช่วงมีนาคม 2563 ซึ่งเป็นเดือนเกิดของ ททท.

โดย UNDP มุ่งเน้นพัฒนาการท่องเที่ยวที่เป็นประโยชน์ต่อทุกประเทศทั่วโลก โดยจะใช้โมเดลประเทศไทยต้นแบบหรือไอดอลของนานาชาติ จากการที่ ททท.ได้ทำแคมเปญศาสตร์พระราชาสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน จนประสบความสำเร็จมาก หลายประเทศแสดงความจำนงต้องการให้ไทยเป็นต้นแบบแล้วต้องการให้เราไปแชร์ประสบการณ์ทำงานท่องเที่ยวตามศาสตร์พระราชาสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน

อย่างไรก็ตามทาง UNDP ยืนยันว่า SDGs ทั้ง 17 ข้อนั้น ทาง ททท.ได้ทำหลายอย่างรวมทั้งนวัตกรรม เพื่อรับมือกับผลกระทบต่อสภาวะโลกที่เปลี่ยนแปลงไป สำหรับรายละเอียดโครงการจะได้เห็นทั้งหมดภายในเดือนมีนาคมปีนี้อย่างแน่นอน

โครงการที่ 3 Thailand Walking Street เปิดกิจกรรมถนนคนเดินกระตุ้นการท่องเที่ยวกระจายรายได้ สร้างเศรษฐกิจท้องถิ่น จากกำลังซื้อของนักท่องเที่ยว โดยจะทำแผนที่การจัดถนนคนเดินแต่ละจังหวัดตลอดทั้งปี อย่างถนนท่องเที่ยวในกรุงเทพฯ ดัง ๆ คือ สีลม เยาวราช ข้าวสาร และต่างจังหวัดก็เลือกถนนเด่น ๆ ขึ้นมา แล้ว ททท.ก็ทำข้อมูลเผยแพร่หลายภาษา เพื่อเป็นอีกช่องทางเลือกแก่นักท่องเที่ยวนานาชาติ

โครงการที่ 4 สินค้าท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ ริเริ่มจัดงานเอ็กซโป Medical Health Wellness เพราะเมืองไทยมีความพร้อมทั้งเรื่องหมอ โรงพยาบาล ทำได้ทั้งการป้องกันและรักษาสุขภาพผนวกกับการให้ข้อมูลความรู้การนำกัญชา/กัญชง มาใช้ในทางการแพทย์ ปีนี้กำลังพิจารณาจัดที่หาดใหญ่เป็นพื้นที่นำร่อง เพราะเอกชนประกาศมีความพร้อมจัดงานได้ก่อนพื้นที่อื่น ๆ

โครงการที่ 5 สินค้ามูลค่าสูงที่จะเพิ่มรายได้ ตอนนี้เร่งขยายผลการท่องเที่ยวยอร์ช ซูเปอร์ยอร์ช ครุยส์ มารีไทม์ ขณะนี้ ททท.ภูมิภาคภาคกลางได้นำร่องจัดเส้นทางท่องเที่ยวแม่น้ำ และสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญสองฝั่งเจ้าพระยาในกรุงเทพฯ เองก็ได้ประดับไฟสว่างไสวสวยงาม เรื่อยไปจนถึงการผลักดันให้เกิดการพัฒนาไทยแลนด์ ริเวียร่า เลียบชายฝั่งทะเลอ่าวไทยไปจนถึงอันดามัน

นางสาวฐาปนีย์ ยืนยันว่า ททท.โหมรณรงค์การท่องเที่ยวอย่างมีส่วนร่วมรับผิดชอบควบคู่ไปกับทุกโครงการ โดยตระหนักมากสุด ๆ อันดับแรก คือ “สิ่งแวดล้อม” เป็นเรื่องใกล้ตัวมาก แม้จะรณรงค์ลดใช้ปริมาณขยะพลาสติกจากเดิมเคยใช้เพียงครั้งเดียวแล้วทิ้งก็ให้นำมารีไซเคิลจะได้ช่วยลดการเหมาไหม้หรือจำกัดลงได้มาก ส่วนการท่องเที่ยวมีการบริโภคทั้งเชื้อเพลิงพลังงาน ก่อให้เกิดมลพิษ ส่วนใหญ่คนก็จะเดินทางกันเป็นกลุ่มสามารถช่วยกันบ่มเพาะเปลี่ยนพฤติกรรมของนักเดินทางในเชิงบวกได้ ด้วยการร่วมมือกันหันมาใส่ใจดูแลสิ่งแวดล้อม และใช้ทรัพยากรธรรมชาติให้เกิดประโยชน์ก็เป็นอีกเรื่องที่สำคัญมาก

เพราะการออกเดินทางแต่ละครั้งจะต้องรู้ว่าไปแล้วควรทำหรือไม่ควรทำ-Do & Don’t อะไร เช่น เมื่อไปพักโรงแรมจากนี้ไปควรปรับพฤติกรรมใช้ซ้ำเพื่อซักให้น้อยลงสามารถประหยัดน้ำได้ หรือสมาชิกสมาคมโรงแรมไทยเข้าร่วมโครงการ ลด โลก เลอะ กับ ททท.โดยเลิกใช้ขวดน้ำ หลอด พลาสติก ทำทุกอย่างที่ทำจากธรรมชาติ สร้าง Domino Possitive Effect คือภูมิใจเมื่อได้ทำและรู้สึกละอายใจต่อสิ่งที่ไม่ดี ททท.ทำโครงการลด โลก เลอะ มาแล้ว 3 ปี พอมาถึงปี 2563 เห็นผลชัดเจนในองค์กรช่วยกันเต็มที่เลิกใช้ถุงพลาสติก นำปิ่นโตใส่อาหารมารับประทาน ใช้กระบอกน้ำแทนขวดน้ำ เป็นจุดเริ่มต้นที่ดี บ่มเพาะนิสัยที่ดีก่อให้เกิดความละอาย นำไปสู่การท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน

ฟังข่าวต้นชั่วโมง

ข่าวที่ 1“คิง เพาเวอร์”บูมตรุษจีนชิม-ช้อป-แชร์วันนี้-1กพ.”

นายอภิเชษฐ์ ศรีวัฒนประภา ผู้ช่วยประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฎิบัติการ กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ เปิดเผยว่า ได้นำทีมเปิดงานฉลองเทศกาลตรุษจีน เป็นครั้งที่ 3 จัดภายใต้ธีม “KING POWER THE BLESSING COMES HOME” โดยได้ลงทุนเนรมิตพื้นที่ทั้งในและด้านนอกอาคาร คิง เพาเวอร์ รางน้ำ ให้กลายเป็น ‘The Golden Mouse Village’ หรือ ‘หมู่บ้านหนูทอง’ เชิญชวนนักท่องเที่ยวทั้งคนไทยเชื้อสายจีนและนักท่องเที่ยวจีนเข้ามาสัมผัสประสบการณ์ดี ๆ ได้ตั้งแต่วันนี้ -1 กุมภาพันธ์ 2563 ด้วยการออกแบบสถาปัตยกรรมและวัฒนธรรมจีนโดยได้รับแรงบันดาลใจจากถนนซานถัง (Shantung Street) ของเมืองซูโจว หนึ่งในเมืองมรดกโลกที่มีความงดงาม  มีกิจกรรมมงคล การแจกอั่งเปาส่วนลด ร่วมถ่ายภาพ ส่งมอบคำอวยพรมงคลทั้ง 6 ประการ ผ่านงานศิลปะลายเส้น ‘ครอบครัวหนู’ ออกแบบโดย คุณยูน-ปัณพัท เตชเมธากุล ซึ่งเป็นนักวาดภาพ illustrator ชื่อดังระดับโลก นำผลงานภาพวาดมาผสานเทคโนโลยี AR (Augmented Reality) ในรูปแบบ AR Installation Art สามารถแชร์ลงโซเชี่ยลมีเดียได้ทันที 

ในการจัดงานครั้งนี้คิง เพาเวอร์ มีพันธมิตรเข้ามาร่วมสนับสนุนด้วยอีก 2 ราย คือ กลุ่มผลิตภัณฑ์โก๋แก่ แบรนด์อันดับ 1 เรื่องถั่วคุณภาพดี ที่ใส่ใจการผลิตทุกขั้นตอน และยาอมแก้ไอตราตะขาบ 5 ตัว ที่อยู่คู่คนไทยมากว่า 80 ปี เป็นสมุนไพรไทยยอดนิยมของนักท่องเที่ยวจีนซื้อไปเป็นของฝากด้วย

โดยมีพิธีเปิดงานเมื่อวันที่ 23 มกราคม 2563 ณ บริเวณ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ จัดอย่างยิ่งใหญ่ตระการตาแสง สี เสียง สดใส สร้างความคึกคักแก่นักท่องเที่ยว ทั้งเรื่องราวการแสดงศิลปะวัฒนธรรมผสมผสานไทย-จีน ความบันเทิงเต็มรูปแบบ อีกทั้งมี “ถนนมงคล” เปิดมุมอร่อยกับ “อาหารเมนูเด็ดหรือ Paradise Food Street” ตอบโจทย์พฤติกรรมการท่องเที่ยวเมื่อมางานนี้จะได้ชิมอาหารจีนจากร้านต้นตำรับที่มีชื่อเสียงโด่งดังอันดับต้น ๆ ของเมืองไทย มีให้เลือกกว่า 30 ร้าน  บางร้านยกมาเปิดบริการเฉพาะงานนี้แห่งเดียว เช่น ก๋วยเตี๋ยวเจ๊ปุ๊ย พลับพลาไชย ที่มีชื่อเสียงเรื่องลูกชิ้นปลา ฮือก้วยทำเองที่เปิดมานานกว่า 40 ปี  ร้านหมูสะเต๊ะ นายสง่า เจ้าดังย่านเอกชัย บางบอน และร้านอื่น ๆ

ตลอดงานจัดให้มี “กิจกรรมเสริมศิริมงคล” สุดยอดศาสตร์พยากรณ์มากมายตามความเชื่อและศรัทธา เช่น  หมอฮั่น มาจอง ผู้เชี่ยวชาญด้านศาสตร์ไพ่นกกระจอกจีน, หมอเล็ก ผู้เชี่ยวชาญ ด้านศาสตร์การใช้ดนตรีกู่เจิ้งในการพยากรณ์ เมื่อช้อปสินค้า คิง เพาเวอร์ ครบ 20,000 บาท/ใบเสร็จ สามารถดูดวงจากหมอดังได้เลย

ข่าวที่ 2 “ชมเชิดสิงโตลอยฟ้าที่คิงเพาเวอร์มหานคร25 ม.ค.นี้”

คิง เพาเวอร์ มหานคร แลนด์มาร์คการท่องเที่ยวของประเทศไทย ร่วมเฉลิมฉลองเทศกาลตรุษจีน 2563 ในวันที่ 25 มกราคม 2563 นี้ เวลา 16:00 น. ณ ลานมหานคร สแควร์ จัดกิจกรรมเชิดสิงโตเหนือพื้นกระจกลอยฟ้าบนความสูง 310 เมตร พร้อมชมการแสดง “เชิดสิงโตเรืองแสง” ที่สูงที่สุดในกรุงเทพฯ เวลา 19:00 น. ณ มหานคร สกายวอล์ค ชั้น 78

ที่พลาดไม่ได้คือเตรียมรับโชคดีรับปีหนูทอง ร่วมลุ้นรับบัตรเข้าชมฟรี มหานคร สกายวอล์ค และส่วนลดต่าง ๆมากมาย พร้อมอั่งเปาลุ้นโชคได้ตลอดงาน

ส่วนที่ร้านอาหาร “มหานคร แบงค็อก สกายบาร์” เตรียมเครื่องดื่มม็อกเทลเมนูพิเศษในชื่อ “Shooting Star” ใช้สีแดงซึ่งเป็นมงคลแทนความสุขและความโชคดีของชาวจีน มาให้บริการบนห้องอาหารและบาร์ กับ “ถุงส้มมงคล” มอบให้แก่ทุกท่านที่มาใช้บริการในวันที่ 25 มกราคมนี้

                ติดตามข้อมูลเพิ่มได้ที่ www.facebook.com/KingPowerMahanakhon หรือ www.facebook.com/MahanakhonBangkokSkyBar

ข่าวที่ 3 “ททท.ถกแผนรับมือดิสรัปชั่นรักษาตลาด4ทวีปปี’63”

ศรีสุดา วนภิญโญศักดิ์
 รองผู้ว่าการด้านตลาดยุโรป แอฟริกา ตะวันออกกลาง และอเมริกา
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)

นางศรีสุดา วนภิญโญศักดิ์ รองผู้ว่าการด้านตลาดยุโรป แอฟริกา ตะวันออกกลาง และอเมริกา การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า วันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2563 ดร.ยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการ ททท. เตรียมนำทีมจัดการประชุมใหญ่กับรองผู้ว่า ผู้อำนวยการสำนักงานทั้งหมดเพื่อทบทวนการทำตลาดที่อยู่ในความดูแลทั้ง 4 ทวีป  รับมือกับการเปลี่ยนแปลงจากสถานการณ์โลกหรือ disruption ซึ่งมีปรากฎการณ์ความปกติรูปแบบใหม่หรือ New Normal เกิดขึ้น ส่งผลถึงภาพรวมการเติบโตของท่องเที่ยวจะเป็นไปอย่างช้า ๆ ไม่ก้าวกระโดดเหมือนอดีตที่ผ่านมา แนวทางของ ททท.จึงต้องหันไปเพิ่มเงินลงทุนกับผู้บริโภคแทนการอุดหนุนบริษัทตัวแทนท่องเที่ยว

ปี 2563 จะมุ่งรักษาฐานตลาดทั้ง 4 ทวีปให้ได้มากที่สุด โดยเตรียมเปิดแคมเปญใหญ่ “New Shade of Responsibility” ร่วมมือกับผู้ประกอบการทำแคมเปญเสนอขายสินค้าท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบเพิ่มเติม กระตุ้นให้เกิดความรู้สึกเป็นทั้งผู้รับและผู้ให้ไปพร้อม ๆ กัน

โดยยังคงฝากความหวังไว้กับตลาดที่เห็นเติบโตชัดเจน ได้แก่ 1.สหรัฐอเมริกา กับละตินอเมริกา ยังคงเติบโตไปเชิงบวก 2.รัสเซียได้ไฟเขียวจากรัฐบาลอนุญาตให้ข้าราชการเดินทางออกนอกประเทศได้ ผนวกกับเมื่อเดือนธันวาคม 2562 มีเที่ยวบินเหมาลำของสายการบินนอร์ทวินมายังสมุย (สุราษฎร์ธานี) จาก 4 เมืองรวม 90 เที่ยว จำนวน 39,600 ที่นั่ง 3.ยุโรปตะวันออก โปแลนด์ ยูเครน และ สเปน 4. กลุ่มคนรุ่นใหม่ในอาหรับ ททท.กำลังศึกษาเพื่อเจาะลูกค้ากลุ่มนี้ในอนาคต เนื่องจากมีโอกาสใหม่ ๆ ที่แอร์ไลน์เปิดเส้นทางบินจากโดฮาเข้ามาไทยบินตรงเข้าสู่ตามจังหวัดต่าง ๆ ทั้ง  เชียงใหม่ กระบี่ สุราษฎร์ธานี

สำหรับตลาดที่ส่งสัญญาเริ่มติดลบก็มี 1.สหราชอาณาจักรต้องรอผล Brexit โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวอังกฤษลดลงไป 2.5% % 2.อิตาลี จีดีพีตกเหลือเพียง 0.8% ประกอบกับยุโรปยังมีสภาพอากาศร้อนยาวกว่าทุกปีคนที่เคยเดินทางมาไทยช่วงปลายปีจึงหายไป 3.กลุ่มสแกนดิเนเวียเจอภาวะค่าเงินอ่อนสวนทางกับค่าเงินบาทไทยแข็งค่า 4.ตะวันออกกลาง เผชิญปัญหาทางการเมืองที่ส่งผลกระทบถึงความสัมพันธ์และเศรษฐกิจภายในภูมิภาค และความเชื่อมั่นในการเดินทางกระทบไปถึงค่าตั๋วโดยสารเครื่องบินแพงมากขึ้น

อย่างไรก็ตาม ททท.จะพยายามใช้ความเป็นมืออาชีพรักษาตลาดท่ามกลางความท้าทายรอบด้านทั้งในและต่างประเทศ

ข่าวที่ 4 “ททท.ชูปั่นMoreFun3เมืองรอง”นครนายก-ปราจีน-สระแก้ว”

การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานนครนายก รายงานว่า ได้ร่วมสนับสนุนการท่องเที่ยวเชิงกีฬา กระตุ้นรายได้เข้าสู่พื้นที่ภาคตะวันออ 3 จังหวัด ในโครงการ “ปั่นปันรัก พักเมืองรอง” สร้างสีสันด้วยสวยงามเข้าร่วมปั่นแต่ละครั้ง ประกอบด้วย สนามที่ 9 นครนายก สนามที่ 10 ปราจีนบุรีและสนามที่ 11 สระแก้ว  มีทั้ง  จูน-บัญฑิตา แก้วเหมือน มิสแกรนด์ปราจีนบุรี 2019 โกโก้-อารยะ ศุภฤกษ์  มิสแกรนต์ไทยแลนด์ 2019 พลอย-พีรชดา ขุนรักษ์ รองอันดับ 1 มิสแกรนด์ไทยแลนด์ 2019 และน้องยู้-นักปั่น นักวิ่ง และไตรกีฬา เจ้าของเพจสปอร์ตเกิร์ล (bythipwadee) มาร่วมเปิดประสบการณ์ครั้งพิเศษ “ปั่นท่องเที่ยว ชื่นชมภาคตะวันออก”

ในวันอาทิตย์ที่ 26 มกราคม 2563 จะมีนักปั่นจากทั่วประเทศเข้าร่วมกว่า 800 คน ร่วมสร้างประสบการณ์ More Fun สัมผัสวิถีธรรมชาติเมืองรองภาคตะวันออกใน 3 จังหวัด และไฮไลต์สำหรับผู้ทำสถิติปั่นครบ 3 จังหวัด ผู้สนับสนุนมีเงินรางวัลนักปั่นขึ้นกล้องมูลค่า 10,000 บาท

โดยมีเส้นทางท่องเที่ยวที่จะแนะนำกับนักท่องเที่ยว ตั้งแต่จุดสตาร์ต บริเวณเขื่อนขุนด่านปราการชล ผ่านซุ้มเฉลิมพระเกียรติไปยังน้ำตกนางรอง น้ำตกสาริกา มุ่งหน้าสู่อุทยานพระพิฆเนศที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยความสูง 9 เมตร ผ่านวัดเขาแดงและวัดเขาน้อย ตลอดการปั่นสามารถชมพื้นที่ใกล้เคียงอย่าง “ตลาดต้องชม” ถนนคนเดินในหมู่บ้านเล็ก ๆ ขายสินค้าอยู่ริมสองฝั่งถนน และสถานที่ต่าง ๆ ได้อย่างครบถ้วน

ข่าวที่ 5 “บางจากงัด3มาตรการดูแลคนไทยลดPM2.5”

นายชัยวัฒน์ โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ปัจจุบันกำลังรับมือกับสภาวะฝุ่นละออง PM 2.5 ในอากาศสะสมเกินค่ามาตรฐาน จนส่งผลกระทบต่อสุขภาพ บางจากจึงขอร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการดูแลสุขภาพของคนไทย ดำเนินการ 3 เรื่องหลัก ดังนี้

1.ดูแลสุขภาพพนักงาน สื่อสารให้ข้อมูล - บางจากฯ ให้ความสำคัญกับการสื่อสารให้พนักงานทราบถึงข้อมูลคุณภาพอากาศและแนะนำการดูแลตัวเอง ออกมาตรการและแนวปฏิบัติในสถานการณ์ PM 2.5 อนุญาตให้พนักงานที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงทำงานที่บ้านได้ จัดให้มีป้ายแสดงคุณภาพอากาศแสดงผลออนไลน์ 2 จุด ด้านหน้าโรงกลั่นน้ำมันบางจาก และบริเวณตลาดน้ำบางน้ำผึ้ง จังหวัดสมุทรปราการ เพื่อแสดงผลตรวจวัดคุณภาพอากาศ สื่อสารให้สาธารณชนรับทราบถึงการบริหารจัดการด้านสิ่งแวดล้อมของโรงกลั่น ว่ามีความปลอดภัยไม่ส่งผลกระทบต่อสภาพแวดล้อมรอบข้าง

2.แจกหน้ากาก N95 ป้องกันฝุ่น - เมื่อสถานการณ์ PM 2.5 เริ่มรุนแรงขึ้น บริษัทฯ ก็ได้แจกหน้ากาก N95 ให้กับพนักงานทันที เมื่อเร็วๆ นี้ ผู้บริหารและเพื่อนพนักงานจิตอาสาร่วมกับผู้บริหารจากสำนักงานเขตพระโขนงและเขตบางนา ได้มอบหน้ากาก N95 ให้แก่เพื่อนบ้านชุมชนรอบโรงกลั่นน้ำมันบางจาก รวม 10 ชุมชน และแฟลตทหาร 1 แห่ง เพื่อแสดงความห่วงใยต่อสุขภาพของเพื่อนบ้านของเรา

3.ปรับคุณภาพน้ำมันดีเซล ระหว่าง 15 ธันวาคม 2562-31 มกราคม 2563 บางจากได้ปรับคุณภาพ ยกระดับน้ำมันดีเซลทุกชนิดของบางจากให้เป็นมาตรฐาน EURO 5 ที่มีค่าซัลเฟอร์ต่ำกว่า 10 ส่วนในล้านส่วน และค่ากำมะถันลดลงกว่า 5 เท่า เมื่อเทียบกับ EURO 4 ซึ่งจะช่วยลดมลภาวะฝุ่นควันและฝุ่น PM 2.5 ได้จัดจำหน่ายผ่านสถานีบริการน้ำมันบางจากในกรุงเทพมหานครในราคาเท่าเดิม

                ช่วงที่ 2 นักเดินทางที่ชื่นชอบความฟินต้องลองไป “ประจวบคีรีขันธ์” ย่ำตลาดเก่าในปราณบุรี แล้วก็แวะไปล่องเรือสูดโอโซนทะเลรับแสงอาทิตย์สวย ๆ ยามเย็นชมทะเล 3 อ่าว ทั้งฟินและแฮปปี้มาก ๆ แล้วก็ต้องเลือก “วิธีกินอาหารนอกบ้านให้ปลอดภัย” ส่วนข่าวแรง ๆ ยกให้ “การบินไทย” ได้รับคำสั่งตรงจาก รมว.ศักดิ์สยาม ชิดชอบ เร่งมือแผนเช่าฝูงบินมูลค่า 1.5 แสนล้าน ท่ามกลางปัญหาเพียบ “ทอท.เฮ” คมนาคมยันเดินหน้าสร้างสุวรรณภูมิได้ตามแผนทั้ง 3 เทอร์มินัล และ “ดึง กสทช.” นำ 5G ช่วยหนุนเมกะโปรเจ็กต์ Smart Airport  

@ทริปฟินในประจวบย่ำตลาดเก่าปราณ-ล่องเรือ3อ่าว

เมืองไทยมีมุมท่องเที่ยวสบาย ๆ ใน “ประจวบคีรีขันธ์” ย่ำถนนคนเดิน “ตลาด 200 ปี ปราณบุรี” ตรงสถานีรถไฟปราณบุรี เปิดทุกวันเสาร์ ช่วงบ่าย 4 โมงเย็นเป็นต้นไป  บรรยากาศตลาดเก่ามีเรือนไม้เรียงรายนำมาจัดทำเป็นถนนคนเดินย้อนยุค รอบตลาดมีบ้านเรียงราย สลับกับร้านกาแฟ ร้านอาหารเก่าแก่ ร้านขายของของที่ระลึก และหนังสือท่องเที่ยวย้อนยุคให้เดินชม และมีเด็ก ๆ นักเรียนมาเล่นดนตรีให้ฟัง

จากนั้นก็แวะไป “Seen Space” ซอยหัวหิน 35 แหล่งแฮงเอาต์สไตล์ “บีช ฟรอนท์ มอลล์” แห่งแรกในหัวหิน ดีไซน์ที่นั่งแต่ละมุมเทรนดี้มาก ๆ อาคารเป็นกระจกมองเห็นวิวทะเล มีบริการอาหารสไตล์ Grab & Go กับ Seek Happening และจัดพื้นที่ไว้รองรับการทำกิจกรรมต่าง ๆ รอบบริเวณก็สามารถเดินช้อปปิ้งได้ เปิดทุกวัน ตั้งแต่ 5 โมงเช้า ไปจนถึง 4 ทุ่ม

ยามเย็นก็สามารถเปลี่ยนมู้ดแอนด์โทน “ล่องเรือชมอ่าวประจวบคีรีขันธ์” ไปชมเมืองอ่าว 3 อ่าว พร้อม ๆ กับนั่งจิบเครื่องดื่มพร้อมของทานเล่น ท่ามกลางแสงอาทิตย์สาดสีทองลับขอบฟ้าในอ่าวมะนาว อ่าวประจวบคีรีขันธ์ อ่าวมะนาว แต่ละมุมมีความงดงามแตกต่างกัน

อาหารถิ่นในประจวบคีรีขันธ์ แนะนำให้สั่งของกินเล่นฝีมือชาวหัวหิน เป็น “หอยเสียบจิ้มมะละกอ” เป็นน้ำจิ้มสูตรเด็ด หวาน เผ็ด คลุกเคล้าถั่วบดแกล้มมะละกอ แปลกจากที่อื่น ๆ

เที่ยวไทยแนวใหม่เราสามารถออกแบบได้เองในสถานที่ชอบและสิ่งแวดล้อมที่ใช่ มาเลย “ปราณบุรี-หัวหิน” ทะเลสงบ บรรยากาศเงียบสุดฟิน

@กินอาหารนอกบ้านอย่างไรให้ปลอดภัยดีต่อสุขภาพ

ตามสถิติคนกรุงเทพฯ มีผู้คนวัยระหว่าง 13 -49 ปี นิยมไปกินอาหารนอกบ้านเฉลี่ยถึง 21 ครั้งต่อเดือน เเต่ไม่ต้องตกใจไป หากเราไม่สามารถทำอาหารทานเองได้ ก็ลองมาดูเคล็ดลับง่ายๆ ในการทานอาหารนอกบ้าน ว่าทานอย่างไรให้สุขภาพดี

1.วางเเผนว่าจะกินอะไรก่อนออกจากบ้าน เลี่ยงการทานฟาสต์ฟู้ด เเละเลือกร้านที่ปรุงอาหารสดใหม่

2.ถามส่วนผสมก่อนไม่น่าอาย เพื่อสุขภาพสามารถทำได้ไม่น่าเกลียด เช่น จานนี้ใช้เนื้อส่วนไหน ใช้น้ำมันอะไรจะได้ขอปรุงเเบบพิเศษได้

3.เลือกปรุงเเบบพิเศษได้ เช่น มื้อนี้ขอปลานึ่งเเทนปลาทอด ขอน้ำมันน้อยหน่อย ไม่ใส่ผงชูรส ลดหวาน เค็ม

4.เลี่ยงน้ำหวาน ทานน้ำเปล่า อาหารจะอร่อยขึ้น เเละสุขภาพก็ดีขึ้นด้วย

5.เคี้ยวให้ช้า ปกติสมองจะส่งสัญญาณให้อิ่มหลังทานไปแล้ว 20 นาที

ฟังข่าวท้ายชั่วโมง

ข่าวที่ 1 สั่งบินไทยปรับด่วนเช่าฝูงบิน38ลำ1.5แสนล้าน

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่าได้ให้นโยบายการบินไทย สายการบินแห่งชาติ ปรับปรุงและสรุปความคืบหน้าแผนการจัดหาเครื่องบิน 38 ลำ วงเงินลงทุน 1.56 แสนล้านบาท เสนอมายังกระทรวงคมนาคมให้แล้วเสร็จพร้อมที่จะสั่งเช่าภายในปี 2563 ในรูปแบบเช่าทั้งเครื่องบิน นักบิน และลูกเรือ เนื่องจากสายการบินทั่วโลกก็ทำรูปแบบนี้ได้ ส่วนการบินไทยตอนนี้มีเงื่อนไขจะต้องดูข้อจำกัดเรื่องเงินลงทุน การเงินของบริษัท บริการเส้นทางการบิน

โดยไม่ต้องกังวลเรื่องที่อาจจะต้องปลดล็อกระเบียบที่คณะกรรมการการบินพลเรือน (กบร.) กรณีห้ามให้สายการบินใช้นักบินจากที่อื่นเข้ามาทำงานนั้น ไม่ต้องเป็นห่วงเพราะตนเองเป็นประธาน กบร. สามารถพิจารณาแก้ไขกฎระเบียบข้อบังคับให้เหมาะสมสามารถดำเนินการจัดหาฝูงบินอย่างคล่องตัวมากขึ้นได้

ขณะที่ นายสุเมธ ดำรงชัยธรรม กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินไทย จำกัด(มหาชน) กล่าวว่า ขณะนี้ฝ่ายบริหารการบินไทยได้แก้ไขปรับปรุงแผนจัดหาฝูงบินตามนโยบายรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม โดยเปลี่ยนให้สอดคล้องกับสถานการณ์อุตสาหกรรมการบินใหม่ด้วย ด้วยการนำแนวทางแลกฝูงบินไว้ในแผนนั่นคือ เจรจาซื้อพร้อมกับขอขายเครื่องบินในฝูงเก่าออกไปด้วย แต่ตอนนี้วิธีแลกฝูงบินยังติดระเบียบ มาตรา 7 ตามพระราชบัญญัติการจัดซื้อจัดจ้างของกรมบัญชีกลาง

ดังนั้นภายในเดือน มีนาคม 2563 จะเร่งสรุปแผนจัดหาฝูงบินส่งไปยังกระทรวงคมนาคม เพราะระหว่างนี้ต้องใช้เวลาสักระยะเพื่อแก้ไขระเบียบภายในด้านการจัดซื้อให้สามารถดำเนินการและฝูงบินเก่ากับใหม่ได้ เพื่อจะเป็นอีกแนวทางในการปรับปรุงการจัดหาฝูงบิน เพราะตอนนี้ตามแผนวิสาหกิจ 5 ปี ระหว่างปี 2563-2568 มีเครื่องที่ต้องการปลดระวางอยู่ไม่ต่ำกว่า 17 ลำ และเป็นเครื่องที่จอดแช่อยู่ในสนามบินเพื่อรอขายรวม 13 ลำ ในจำนวนนี้เป็นแอร์บัส A340  มากถึง 9 ลำ

อีกทั้งปัจจุบันมีฝูงบินอยู่ 82 ลำ ยังคงใช้งานได้ตามขีดความสามารถลำละเฉลี่ย 12.2 ชั่วโมง โดยช่วงปลายปีนี้จะนำเข้าฝูงบินตกค้างจากการเช่าไว้ตามแผนตั้งแต่ปี 2561 เข้ามาใช้งานได้อีก 2 ลำ และจะมีลำสุดท้ายที่จะต้องรับมาให้ครบอีก 1 ลำด้วย อาจจะเป็นช่วงปีหน้าหรืออย่างไรจะต้องรอดูอีกครั้ง จากการกำหนดตารางบินฤดูร้อน 29 มีนาคม -28 ตุลาคม 2563 มีความต้องการใช้งานตามเส้นทางบินของการบินไทยซึ่งอาจจะเพิ่มหรือลดลงอย่างไร

เพราะตอนนี้อาจจะต้องประกาศปิดบินในบางเส้นทางที่บินแล้วไม่ทำกำไร ต้องรอใกล้เวลาหยุดบินจึงจะเดินหน้าแจ้งต่อสาธารณะ เพราะบอกไปตอนนี้จะทำให้คนแตกตื่นได้

ข่าวที่ 2 “ไฟเขียวทอท.ลุยสร้าง3เทอร์มินัลสุวรรณภูมิ”

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการคมนาคม กล่าวว่า ส่วนโครงการขยายสนามบินสุวรรณภูมิอาคารผู้โดยสาร หลังที่ 2 และ 3 กับพื้นที่ส่วนต่อขยายทางด้านทิศเหนือนั้น ก็มีนโยบายให้ บริษัท ท่าอากสศยานไทย จำกัด(มหาชน) "ทอท/AOT" เดินหน้าทำการก่อสร้างทุกอย่างตามแผน 5 ปีข้างหน้า เริ่มตั้งแต่ปี 2563 เป็นต้นไป

เพราะประเทศไทยตั้งเป้าหมายเป็นศูนย์กลางเชื่อม Aviation Hub) โยงการบินภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ประการสำคัญต้องพึ่งพารายได้จากนักท่องเที่ยวทั่วโลกที่เดินทางโดยเครื่องบินเข้ามายังเมืองไทย ถึงอย่างไรก็จะต้องสร้างอาคารผู้โดยสารเพิ่มเพื่อเตรียมรองรับการเติบโตในอนคต

ข่าวที่ 3 “ทอท.ผนึกกสทช.ลุยใช้5Gขับเคลื่อนไฮเทคการบิน”

ดร.นิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) “ทอท.” กล่าวว่า ได้ลงนามความร่วมมือ MOU โครงการ 5G กับทาง กสทช.นำโครงข่ายระบบเทคโนโลยีต่อเชื่อมเข้ากับอุตสาหกรรมการบินให้สามารถประยุกต์ใช้นวัตกรรมนำไปสู่ระบบนิเวศของสนามบินอัจฉริยะ (Smart Airport Ecosystem) ในอนาคต สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ระดับชาติและนโยบายของรัฐบาลภายใต้แนวคิดไทยแลนด์ 4.0  ตามสนามบินที่ ทอท.บริหาร 6 แห่ง  ได้แก่ ท่าสุวรรณภูมิ ดอนเมือง ภูเก็ต เชียงใหม่ หาดใหญ่ และแม่ฟ้าหลวง เชียงราย ได้ก้าวเข้าสู่ยุค Digital เต็มตัวเริ่มโครงการ Digital Airports

โดยเปิดให้ผู้ใช้บริการท่าอากาศยานดาวน์โหลด AOT Airports Application ภายใต้ Concept สนามบินมีชีวิตที่จะทำให้ผู้โดยสารสามารถโต้ตอบกับระบบ IT ได้เมื่อใช้บริการ ณ ท่าอากาศยานทั้ง 6 แห่ง และจะต่อยอดขยายไปยังท่าอากาศยานพันธมิตรทั่วโลกกว่า 15 แห่ง เพื่อทำให้การเดินทางของผู้โดยสารง่ายขึ้นภายใต้ Slogan “Turn Busy to Easy”

                ติดตามฟังรายการได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 11.00-12.00 น.ทาง สวท.FM 97.0 MHz.