ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

ททท.งัด3ไม้ตายปลุกเศรษฐกิจท่องเที่ยวปี63-คิงเพาเวอร์จัดประมูลตุ๊กตารูปปั้นตูนถึง31ม.ค.นี้


ททท.งัด3ไม้ตายปลุกเศรษฐกิจท่องเที่ยวปีหนูทอง
3เดือนแรกเร่งตุนรายได้ “ตรุษจีน-โมโตจีพี-ITB
คิงเพาเวอร์ชวนประมูลตุ๊กตารูปตูน7ชิ้นช่วย7 รพ.
คิงเพาเวอร์ขายแจ็คเก็ตคีรีวงเกลี้ยงภายใน24ชม.
ททท.ตราดชูปฎิทินทัวร์ปีหนู8งานใหญ่ม.ค.-มี.ค.
รมว.พิพัฒน์สั่งททท.ลุยตลาดโกยรายได้เพิ่มปี’63
ร้านสพาร์บางจากแจกถุงผ้า-เสิร์ฟเมนูอร่อยเพียบ
เที่ยวมุมใหม่“โรส คลับ สวนสามพราน”สำราญใจ
อาหารเช้าของคนญี่ปุ่นแนะนำให้กินดีต่อสุขภาพ
ครม.สั่งแยกสัญญาPick up Counterสนามบิน
บินไทยแจงยิบศูนย์ซ่อมอู่ตะเภาเปิดใช้ เม.ย.66
“อนุทิน”ชูไทยฮับสุขภาพ 6ด้านดูดเงินตลาดโลก

เข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” ในวันเสาร์ที่ 4 มกราคม 2563 เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทางมือถือ และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen บล็อกเกอร์ #gurutourza #รวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97  #เที่ยวกับกู๋  #ทททตุนรายได้3เดือนแรกปี63  #ResponsibleTourism #ทัวร์สูงวัยในสวนสามพราน
  
ช่วงที่ 1 ต้อนรับศักราชใหม่กับ “ดร.ยุทธศักดิ์ สุภสร” ผู้ว่าการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จะเสกการท่องเที่ยวให้กลายเป็นปีหนูทองฝ่าคลื่นเศรษฐกิจโลกขาลงกับบาทแข็งด้วย 3 ไม้ตาย  1.เพิ่มนักท่องเที่ยวคุณภาพ3วัย ผู้หญิง/เจนวาย/ซีเนียร์แอคทีฟ 2.เพิ่มการใช้จ่ายถึงมือรากหญ้า 3.สร้างแบรนด์ประเทศไทยให้ต่างจากคู่แข่ง ลั่นเดินหน้าตุนรายได้ 3 เดือนแรก โกยเทศกาลแรก “ตรุษจีน” พร้อมทุ่มโปรโมตเมืองหลักปั้นโมเดลต้นแบบกระพือจุดเปลี่ยนตลาดชูขาย Green Destination + Responsible Tourism กระหึ่มโลกในงาน ITB 2020 และเรียกร้องให้นักท่องเที่ยวไทยและนานาชาติร่วมตอกย้ำไทยส่งเสริมการลดโลกเลอะเลิกใช้พลาสติกจริงจัง ก้าวสู่ประเทศยอดนิยมด้านการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน

ดร.ยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย

ดร.ยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ตลอดเทศกาลวันหยุดยาวต่อเนื่อง 5 วัน ข้ามาจนถึงปีใหม่ 2563 จำนวนนักท่องเที่ยวเดินทางตามเป้าหมาย คนไทย 3.2 ล้านคน-ครั้ง ต่างประเทศมีแรงดึงดูดคนเข้ามาเคาน์ดาวน์มากติดอันดับท็อปของโลกมีราว 6.9 แสนคน พื้นที่ท่องเที่ยวเติบโตดียังคงอยู่ในแถบเมืองหลัก เมืองรอง ขึ้นอยู่กับระยะทางใกล้-ไกล ขึ้นอยู่กับอาจเศรษฐกิจผันผวนทำให้คนไม่เดินทางไกลเกรงปัญหาจราจรแออัด จึงเลือกพักผ่อนอยู่แถว ราชบุรี สมุทรสงคราม เพชรบุรี ชลบุรี นครนายก นครราชสีมา สุพรรณบุรี สระบุรี ล้วนแล้วแต่ได้รับความนิยมสูงเป็นพิเศษ
และนักท่องเที่ยวก็ใช้จ่ายเงินเข้าเป้าเช่นกันมูลค่ารวม 11,800 ล้านบาท ประมวลจากปรากฎการณ์กระตุ้นตามนโยบายของรัฐบาลโครงการ ชิม-ช้อป-ใช้ ผนวกเข้ากับ 100 เดียวเที่ยวทั่วไทย กับ วันธรรมดาราคาช็อกโลก ผมคิดว่าตัวเลขเบื้องต้นเป็นไปตามเป้าหมาย สอดคล้องกับพฤติกรรมของคนไทยช่วงเริ่มต้นปีใหม่มักจะซื้อข้าวของไว้ อาจไม่เกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจมากนัก

                ส่วนในช่วงไตรมาสที่ 1 ระหว่างมกราคม-มีนาคม 2563 ต้องทำให้สอดคล้องกับเป้าหมายตลอดทั้งปีที่ตั้งไว้ นั่นคือตลาดต่างประเทศเมื่อปลายเดือนธันวาคม 2562 มีนักท่องเที่ยวเข้ามาแล้ว 39.7 ล้านคน ปี 2563 ต้องขยับเป็น 40.8 ล้านคน คนไทยเที่ยวไทยก็ต้องขยับจาก 167 เป็น 172 ล้านคน-ครั้ง ททท.เดินหน้ากระตุ้นต่อเนื่องตามฤดูกาล โดยเฉพาะช่วง 3 เดือนแรกช่วงต้นปีนี้ จะมีเทศกาลตรุษจีน ต่อด้วยวาเลนไทน์ และไฮไลต์ต้นเดือนมีนาคมนี้จะมีการแข่งขันมอเตอร์ไซต์ทางเรียบ MoTo GP ที่จังหวัดบุรีรัมย์

ททท.ผนึกกำลังกันวางกลยุทธ์การตลาดทำให้ท่องเที่ยวนำรายได้จากทั่วโลกปี 2563 เข้าเมืองไทย 3.3 ล้านล้านบาท

ตลอดไตรมาสแรกตามปีปฏิทิน 2563 ททท.จึงน่าจะสามารถตุนจำนวนและรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติและคนไทยได้มากพอสมควร โดยมียุทธศาสตร์กระตุ้นอย่างมีนัยสำคัญ 3 ส่วน ได้แก่ ส่วนที่  1 การเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวคุณภาพอย่างสมดุล เป้าหมายใหญ่คือ กลุ่มผู้หญิง เจนวาย และ Active Silver ต่าง ๆ ส่วนที่ 2 เพิ่มมูลค่าการใช้จ่าย ส่วนที่ 3 การสร้างความเชื่อมั่นแบรนด์ประเทศไทยให้แตกต่างจากประเทศอื่น ๆ ซึ่งปี 2563 เป็นช่วงสำคัญอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยครบ 60 ปี จึงจะนำการท่องเที่ยวอย่างมีส่วนร่วมรับผิดชอบ Responsible Tourism :RT ทำให้นักท่องเที่ยวหันมาสนใจดูแลสิ่งแวดล้อมมาทำเป็นโครงการสำคัญเพื่อเพิ่มรายได้ในช่วง 3 เดือนแรกปีนี้ไปพร้อม ๆ กันด้วย

รวมถึงจะสร้างกลยุทธ์ทำเงินเข้าประเทศช่วงเทศกาลตรุษจีนเริ่มตั้งแต่ 25 มกราคม นี้เป็นต้นไป โดยได้มอบให้ ททท.สำนักงานในสาธารณรัฐประชาชนจีนทำการตลาดอย่างจริงจัง เนื่องจากตรุษจีนเป็นงานสำคัญซึ่ง ททท.ร่วมกับกระทรวงวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวสาธารณรัฐประชาชนจีน จัดงานตรุษจีนนอกแผ่นดินใหญ่มาหลายสิบปี การจัดงานที่เยาวราชถือว่าจัดได้ยิ่งใหญ่ไม่แพ้ในหลายประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งไทยได้รับเกียรติจากกระทรวงวัฒนธรรมจีนนำการแสดงวัฒนธรรมมาจัดตามเมืองท่องเที่ยวทั่วประเทศทุกปี กระตุ้นชาวจีนตามรอยมาร่วมเฉลิมฉลองในไทยด้วย

ททท.นำโร้ดโชว์ทั้งในยุโรป เอเชีย และทวีปต่าง ๆ ต่อเนื่องจากปี 2562

ปีนี้ทาง ททท.5 สำนักงาน ทั้ง ปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ คุนหมิง กวางโจว เฉินตู เตรียมจัดแพกเกจนำนักท่องเที่ยวจีนเข้ามาพร้อมกับเที่ยวบินเช่าเหมาลำ (Charter Flight) ซึ่งมีสัญญาณที่ดีเรื่องการเพิ่มเที่ยวพิเศษช่วงตรุษจีน เช่น การเปิดจุดบินใหม่ ไป-กลับ ระหว่าง หางโจว-เชียงราย รวมทั้งมีข้อมูลยืนยันว่าก่อนหน้านี้เมื่อปีที่ผ่านมาเที่ยวบินเช่าเหมาจากจีนเคยหายไปสักพักจากเหตุการณ์เรือล่มที่ภูเก็ต แต่ตอนนี้ ททท.ทั้ง 5 สำนักงานในจีนรายงานว่า จำนวนที่นั่งปกติกับเช่าเหมาลำเข้าสู่ภาวะปกติพร้อมทั้งมีการเปิดจุดบินใหม่เสริมเข้ามาด้วย

แนวโน้มตลาดจีนปี 2563 จะเติบโตต่อเนื่องนับจากปี 2561 มีนักท่องเที่ยวจีนมาไทย 10.5 ล้านคน ปี 2562 น่าจะเพิ่มจากฐานเดิมของปีก่อนอีก 5-7 แสนคน ส่งผลให้ตลอดปี 2563 ก็น่าจะเติบโตใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมาและยังคงอยู่ต่อไป จึงขอย้ำอีกครั้งว่าไทยเป็นประเทศที่มีนักท่องเที่ยวจีนเข้ามาปีละกว่า 10 ล้านคน นั้นถือได้ว่ามากเป็นอันดับต้น ๆ ของโลกวัดจากจีนเดินทางเที่ยวต่างประเทศในแต่ละปี

ฉนั้น ททท.จะไม่เน้นเพิ่มปริมาณแต่จะมุ่งเพิ่มคุณภาพ ด้วยวิธีคัดสรรกลุ่มเป้าหมาย เมื่อเดินทางเข้ามาแล้วก็ใช้จ่ายเงินเพิ่มขึ้นต่อหัวต่อทริป แล้วกระจายเม็ดเงินทั่วทุกพื้นที่ได้

ผู้ว่าฯ ยุทธศักดิ์ กล่าวว่า ปี 2563 รัฐบาลโหมโปรโมตถนนคนเดิน Street Food โดยนายกรัฐมนตรีลงพื้นที่เป็นประธานเปิดโครงการด้วยตนเอง นำร่องถนนสีลม ทาง ททท.สำนักงานต่าง ๆ ในจีนก็ได้รับความสนใจสอบถามถึงโครงการนี้เมื่อวันที่ 22 ธันวาคม 2562 มีตัวแทนผู้เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจีนร่วมงาน Street Food ถนนสีลมด้วยถึง 180 คน ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี เพราะตลอดแนวถนนมีของซื้อ ของกิน ถูกจริตนักท่องเที่ยวจีน เมื่อมาเดินแล้วได้อรรถรสครบทั้งกิน ช้อป อย่างสนุกสนาน ที่สำคัญสุดรัฐบาลไทยมีนโยบายจะขยายครอบคลุมทั้ง 5 ภูมิภาค เริ่มตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์นี้เป็นต้นไป

สำหรับเดือนมีนาคม 2563 ททท.มีภารกิจสำคัญจะต้องนำเอกชนเข้าร่วมงานเจรจาซื้อขายการท่องเที่ยวอันดับหนึ่งของโลกงาน ITB 2020 ณ กรุงเบอร์ลิน เยอรมันี ปีนี้ถือเป็นจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญที่ ททท.ได้ปูพรมนำเสนอการท่องเที่ยวเมืองรอง ภายใต้ธีม Open to the New Shades บวกกับการสร้างประสบการณ์ความประทับใจแก่นักท่องเที่ยวนานาชาติอย่างสม่ำเสมอ แต่ต่อไปจะต้องเพิ่มความเข้มข้นด้วยการมองภาพจากภายนอกเข้ามาสู่ภายใน Outside in มากขึ้น เพื่อดูคนข้างนอกมองไทยอย่างไร เช่น มองว่าไทยเป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวที่เน้นปริมาณมาก :Mass tourism ดังนั้น ททท.อาจจะต้องปรับมุมมองของต่างชาติ โดยเฉพาะตลาดภาคพื้นยุโรปจะเพิ่มมิติ การท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบ กับ Green Destination มากขึ้น

หลังจากที่มีเด็กน้อยเบต้า ซุนเบิร์ก ได้จุดกระแสรักษ์โลกขึ้นมามองเรื่องการเดินทางโดยเครื่องบินจะส่งผลต่อสิ่งแวดล้อม ททท.มีหน้าที่ต้องทำให้นักท่องเที่ยวยุโรปเห็นถึงการเดินทางมาเที่ยวเมืองไทยไม่ได้มาเพื่อสร้างความสุขเพียงอย่างเดียว แต่มาแล้วได้มีส่วนร่วมรักษาสิ่งแวดล้อม สร้างประโยชน์แก่ท้องถิ่น ส่งเสริมคุณภาพชีวิตที่ดีแก่ชุมชน และการดูแลทรัพยากรธรรมชาติทางการท่องเที่ยว

ททท.จะสร้างมิติการขายท่องเที่ยวด้วยมิติใหม่ RT :Responsible Tourism จะเริ่มกำหนดโครงการขึ้นมาให้สำนักงาน ททท.ในประเทศเร่งทำโครงการ “ท่องเที่ยวอย่างมีส่วนร่วมรับผิดชอบ” รวมทั้งช่วงการจัด Fam Trip นำนักท่องเที่ยวหรือสื่อมวลชนจากนานาประเทศเข้ามาไทยก็ต้องกำหนดให้ลงมือร่วมกิจกรรมดังกล่าวด้วย เพื่อทดสอบสินค้าท่องเที่ยวของไทยด้วยอีกช่องทาง

สำหรับดีไซน์การทำแพกเกจหรือกิจกรรมโครงการจะนำร่องในพื้นที่เมืองท่องเที่ยวหลักก่อน เพราะช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมาโปรโมตเมืองรองพอสมควร ดังนั้นปีนี้จะกลับมาใช้เมืองหลักเป็นฐานการพัฒนา Green Destination อย่างเป็นรูปธรรม คงไม่ได้ทำแค่เก็บขยะเพียงอย่างเดียว แต่จะทำหลายโครงการ เช่น การจัดทำกิจกรรมลดผลกระทบทางเศรษฐกิจ ให้คนในท้องถิ่น การยกระดับคุณภาพชีวิตคนในชุมชนเจ้าของทรัพยากรแหล่งท่องเที่ยว การดึงชุมชนเข้ามามีส่วนร่วมตัดสินใจทำการท่องเที่ยว ส่งเสริมการอนุรักษ์ท่องเที่ยวอย่างสนุกสนาน การเคารพวิถีวัฒนธรรมของคนในชุมชน แต่ละเรื่องล้วนแล้วแต่เป็นการท่องเที่ยวอย่างมีส่วนร่วมรับผิดชอบแทบทั้งสิ้น

ผมคิดว่าขณะนี้ ททท.อยู่ระหว่างมอบหมายภารกิจให้แต่ละสำนักงานออกแบบดีไซน์ เส้นทางและโปรดักซ์ทางการท่องเที่ยวที่สะท้อนความตั้งใจ ส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างมีส่วนร่วมรับผิดชอบอย่างจริงจัง และจะเริ่มในจังหวัดท่องเที่ยวหลักก่อนอย่างแน่นอน ดีเดย์จะเริ่มพร้อมกันทั้งประเทศช้าที่สุดอยู่ในไตรมาสแรกปีนี้ เลือกวันเกิด ททท. วันที่ 18 มีนาคม 2563 ประกาศให้โลกรู้ว่า ประเทศไทยส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างมีส่วนร่วมรับผิดชอบอย่างจริงจัง เพื่อให้ไทยเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมอย่างยั่งยืนต่อไป

ขณะที่อัตราการเติบโตของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวปี 2563 มีแนวโน้มขยายแบบชะลอตัวนั้น ดร.ยุทธศักดิ์ยืนยันว่า ตามรายงานของสภาการท่องเที่ยวโลกจากสมาชิก 1 ใน 4 ระบุแต่ละประเทศมีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าไปลดลง เช่นเดียวกับไทยตอนนี้ต้องเผชิญความท้าทายทั้งจากภาวะเศรษฐกิจทั่วโลกตกต่ำ แนวโน้มเงินบาทแข็งต่อเนื่อง การแข่งขันสูงทางการท่องเที่ยวสูงเพราะทั่วโลกหันมาใช้ท่องเที่ยวและอำนวยความสะดวกเป็นเครื่องมือทางเศรษฐกิจ
เปรียบเทียบแล้วเมืองไทยทำได้ขนาดนี้ถือเป็นเรื่องที่น่าพอใจ แต่ปีนี้ก็จะต้องร่วมสร้างการเติบโตทางการท่องเที่ยวผูกติดไว้กับการขยายตัวทางเศรษฐกิจของประเทศคู่ขนานไปด้วยกัน ททท.ต้องพยายามผลักดันให้เป็นไปตามเป้าหมายที่รัฐบาลตั้งไว้ทั้งจำนวนและรายได้ โดยคำนึงถึงพื้นฐานความเป็นจริงบวกกับความพยายามผลักดันเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นการอำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยว การสนับสนุนผู้ประกอบการแข่งขันได้กับตลาดต่างประเทศ

ดร.ยุทธศักดิ์กล่าวทิ้งท้ายว่าปี 2563 ประเทศไทยได้รณรงค์การลดขยะพลาสติกอย่างจริงจัง ในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวก็เช่นกัน ททท.ได้ทำ MOU ปฎิญญาไม่สร้างขยะ “ลด โลก เลอะ” นำร่องมาไว้แล้วถึง 2 ปี มุ่งมั่นลดการใช้พลาสติกครั้งเดียวทิ้งให้นำกลับมาใช้ใหม่หรือ Re-Use ให้ได้ 50 % ซึ่งพันธมิตรให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี จนกระทั่งวันนี้เห็นความตื่นตัวในสังคมมากมาย จึงอยากเชิญชวนพี่น้องชาวไทยไม่ได้ทำเรื่องนี้เป็นแฟชั่นแล้วก็หายไป แต่ต้องการเรียกร้องให้เริ่มต้นสนใจดูแลสิ่งแวดล้อมอย่างจริงจังทั้งลดปริมาณการใช้ หรือนำกลับมาใช้ใหม่ เพื่อร่วมกันลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมที่ถูกทำลาย สิ่งต่าง ๆ เหล่านี้จึงวอนขอให้ร่วมทำเพื่อประเทศไทยเดินไปข้างหน้าด้วยกันอย่างยั่งยืน

ฟังข่าวต้นชั่วโมง

ข่าวที่ 1 คิงเพาเวอร์ชวนประมูลตุ๊กตารูปตูน7ชิ้นช่วย7รพ.ชุมชน

คิง เพาเวอร์ นำแบรนด์อารมณ์ดินของศิลปินภาคเหนือปั้นรูปตูน-บอดี้สแลม
มีเพียง7ชิ้นในโลกเท่านั้นนำมาประมูลหารายได้สนับสนุนโรงพยาบาล 7 แห่ง

 
กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ เชิญชวนร่วมโครงการ “คิง เพาเวอร์ ไทย เพาเวอร์ พลังคนไทย” ประมูลตุ๊กตาปั้นมือรูป ‘พี่ตูน’  ที่มีเพียง 7 ชิ้นในโลก! เพื่อรายได้สมทบงานวิ่ง ก้าวต่อไปด้วยพลังเล็กๆ ภาคเหนือ’ ที่ได้พันธมิตรศิลปินชาวเหนือ ‘อารมณ์ดิน’ สร้างสรรค์ผลงานประติมากรรมสไตล์ป๊อบอาร์ตตุ๊กตาปั้นมือรูป พี่ตูน-อาทิวราห์ คงมาลัย พร้อมลายเซ็น ที่มีเพียง 7 ชิ้นในโลกเท่านั้น เปิดให้ประมูลเพื่อนำรายได้ไปสนับสนุนการซื้ออุปกรณ์การแพทย์ให้โรงพยาบาลชุมชนภาคเหนือที่ยังขาดแคลนเครื่องมืออีก 7 แห่ง

สามารถเข้าร่วมประมูลผ่านเพจเฟซบุ๊ก ก้าว ได้จนถึงวันที่ 31 มกราคม 2563 เวลา 20.00 น. ราคาเริ่มต้น 999 บาท และจะเพิ่มครั้งละ 1,000 บาท


อรรถเทพ สมัครธัญกิจ ประธานกลุ่มเครื่องปั้นดินเผาอารมณ์ดิน กล่าวว่า ในฐานะพันธมิตรของกลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ที่ได้รับการสนับสนุนด้านการผลิต และช่องทางการตลาดทำให้ตุ๊กตาปั้นฝีมือคนไทยโลดแล่นอยู่ในสายตาคนทั่วโลก วันนี้อารมณ์ดินรู้สึกภูมิใจมากที่ได้เป็นพลังเล็ก ๆ ช่วยให้ความตั้งใจของพี่ตูนประสบความสำเร็จ ผ่านตุ๊กตาปั้นมอบให้กับโครงการ ‘ก้าวต่อไปด้วยพลังเล็กๆ ภาคเหนือ’ โดยนำจุดเด่นของแบรนด์อารมณ์ดินกับจุดเด่นของพี่ตูนผสมผสานเข้าด้วยกันให้มีความลงตัวมากที่สุด คือ อารมณ์ดินเป็นงานตุ๊กตาปั้นดินเผาสื่ออารมณ์สนุกสนาน ดูแล้วรู้สึกอารมณ์ดี แต่ยังคงคาแร็กเตอร์พี่ตูน โดยเฉพาะดวงตาและรอยยิ้ม ให้เหมือนพี่ตูนมากที่สุด ถือเป็นสัญลักษณ์ของความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันของประเทศไทย

สำหรับตุ๊กตาปั้นมือรูปพี่ตูนสวมใส่ชุดและหมวกชนเผ่าพื้นเมืองชาวไทยภูเขา ชูนิ้วชี้ที่เป็นสัญลักษณ์ของโครงการ ก้าวคนละก้าว ขนาดความสูง 11 นิ้ว ผลิตเพียง 7 ชิ้นเท่านั้น แต่ละชิ้นแตกต่างกันที่สีเสื้อ 7 สี ได้แก่ แดง เหลือง ชมพู เขียว ส้มแสด ฟ้าและม่วง โดยมีชื่อโรงพยาบาลเขียนไว้ที่ฐานเพื่อเป็นตัวแทนของ 7 โรงพยาบาลชุมชนภาคเหนือ ได้แก่ 1. โรงพยาบาลอุ้มผาง จ.ตาก – สีแดง 2. โรงพยาบาลสะเมิง จ.เชียงใหม่ – สีเหลือง 3. โรงพยาบาลอุตรดิตถ์ จ.อุตรดิตถ์ – สีชมพู 4. โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ จ.เชียงใหม่ – สีเขียว 5. โรงพยาบาลเวียงแก่น จ.เชียงราย – สีส้มแสด 6. โรงพยาบาลศรีสังวาลย์ จ.แม่ฮ่องสอน – สีฟ้า  7. โรงพยาบาลทองแสนขัน จ. อุตรดิตถ์ – สีม่วง

ข่าวที่ 2 “คิงเพาเวอร์ขายเกลี้ยงแจ็คเก็ตมัดย้อมคีรีวงดังกระหึ่มโลก”


นายอัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ เปิดเผยว่า ทันทีที่เปิดตัวผลิตภัณฑ์ชุมชนไทยก้าวไกลสู่สากลขยายผล CSR “พลัง คิง เพาเวอร์ พลังคนไทย ” ต่อเนื่องในโครงการ From Leaves to Lively Thai Dye Collection โดยได้นำผ้ามัดย้อมชุมชนหมู่บ้านคีรีวง ตำบลกำโลน  จังหวัดนครศรีธรรมราช นำเสนอสู่ตลาดโลกภายใต้คอนเซ็ปต์ Enchanted Wonderland หรือมนต์เสน่ห์แห่งดินแดนมหัศจรรย์ ที่เราเชื่อว่าคนไทยสามารถทำได้ไม่แพ้ชาติใดในโลก พิสูจน์ให้เห็นจากผลิตภัณฑ์ชุมชนคอลเลคใหม่รวมทั้งสิ้น 17 แบบ กระแสตอบรับจากแฟนคลับดีมากทั้งในเมืองไทยและเลสเตอร์  อังกฤษ

เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2562 ได้นำผ้ามัดย้อมภาคใต้ของชุมชนคีรีวง จ.นครศรีธรรมราช กับชุมชนตะเคียนปม จ.ลำพูนภาคเหนือมัดย้อมสีธรรมชาติแล้วดีไซน์พิเศษเป็นเสื้อแจ็คเก็ตรุ่น limited Edition ให้นักเตะทีมเลสเตอร์ ซิตี้ สวมใส่ลงสนามทำให้แฟนบอลทั่วโลกนับพันล้านคนได้เห็นความมหัศจรรย์ผลิตภัณฑ์ชุมชนไทย ซึ่งมีความพิเศษในการผสมผสานสีธรรมชาติ สีครามน้ำเงินมัดย้อมจากชุมชนคีรีวง ส่วนสีเหลืองทองบนตัวเสื้อช่วงล่างมาจากการมัดย้อมของชุมชนตะเคียนปม เพื่อให้นักเตะเลสเตอร์ ซิตี้ สวมใส่ช่วงเริ่มเดินเข้าสู่สนามตอนลงเตะกับลิเวอร์พูล ในวัน Boxing Day  26 ธันวาคม 2562 พร้อมกับนำไปกระจายการวางจำหน่ายทั้งใน เดอะ ซิตี้ แฟนสโตร์ แอท คิง เพาเวอร์ สเตเดี้ยม เลสเตอร์ ซิตี้ และร้านคิง เพาเวอร์ ทั่วเมืองไทย
นักเตะเลสเตอร์สวมเสื้อแจ็คเก็ต ผ้ามัดย้อมของชุมชนคีรีวง นครศรีธรรมราช ลงสนาม
ทำให้ยอดขายหมดเกลี้ยงภายในช่วงข้ามคืนทั้งใน แฟน สโตร์ เมืองเลสเตอร์ และร้านคิง เพาเวอร์ ในเมืองไทย

ผลปรากฎว่าเสื้อแจ็คเก็ตดังกล่าวขายหมดเกลี้ยงภายในช่วงข้ามคืนทั้งในเมืองไทย และเมืองเลสเตอร์ รวมทั้งมียอดสั่งซื้อเพิ่มตามมาอีกเป็นจำนวนมาก สร้างชื่อเสียงให้ชุมชนคีรีวง นครศรีธรรมราช เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางในหมู่คนทั่วโลก
               
ส่วนสินค้าชุดนี้เป็นผลิตภัณฑ์ในคอลเลคชั่นที่ 4 ของโครงการ “From Leaves to Lively Thai Dye Collection” ซึ่ง เน้นถึงความใส่ใจดูแลสิ่งแวดล้อมรณรงค์ให้คนหันมาใช้วัตถุดิบจากธรรมชาติเพิ่มมากขึ้น รวมถึงการสร้างความยั่งยืนในระยะยาว อันเกิดจากความร่วมมือของชาวคีรีวง นครศรีธรรมราช กับครีเอทีฟของสโมสรเลสเตอร์ ซิตี้ และกลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ที่ได้หลอมรวมพลังเป็นหนึ่งเดียวกันสร้างผลิตภัณฑ์ออกมาวางขายได้ถึง 17 แบบ มีทั้งแฟชั่นเสื้อผ้า แจ็คเก็ต เสื้อยืดแขนสั้น-ยาว เสื้อเชิร์ต หมวก กระเป๋าสะพายหูรูด กระเป๋าสะพายไหล่ กระเป๋าใส่เอกสาร ลูกบอล พวงกุญแจ




นายวิบูลย์ นิมิตรวานิช ผู้อำนวยการ ภูมิภาคภาคตะวันออก การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ททท.สำนักงานตราดเปิดปฎิทินชวนไปท่องเที่ยวต้อนรับศักราชใหม่ 3 เดือนแรก ระหว่างมกราคม - มีนาคม 2563 ห้ามพลาดงานไฮไลต์เด่น ๆ แต่ละเดือน  งานแรก “เที่ยวงานวีระกรรมทหารเรือไทยในยุทธนาวีเกาะช้าง” 17-21 ม.ค.ณ อนุสรณ์สถานยุทธนาวีเกาะช้าง อำเภอแหลมงอบ งานที่ 2 Ulta Trail Unseen Koh Chang” มาร่วมวิ่งสุดมันกับ บริษัท ทีละก้าว วันที่ 16-17 dก.พ.นี้ บริเวณ เกาะช้าง  งานที่ 3 Amazing Sea Sun Fun คายัค รักษ์เกาะช้าง ททท.ตราดเป็นแม่งานใหญ่ จัดวันที่ 22 ก.พ.นี้ ที่เกาะช้าง และ งานที่ 4 มหกรรมอาหารทะเลพื้นบ้านเมืองตราด วันที่ 28 ก.พ.-1 มี.ค.นี้ ทางองค์การบริหารส่วนตำบลหนองคันทรง จัดอย่างยิ่งใหญ่บริเวณ กระโจมไฟเกาะปูบ้านแหลมหิน ตำบลหนองคันทรง ชวนไปชิมอาหารทะเลสดอร่อย

ส่วนเดือนมีนาคมคม เลือกท่องเที่ยวได้ถึง 3 งานใหญ่ งานที่ 5 “ตกปลานานาชาติ” วันที่ 3 มี.ค.นี้ เป็นงานที่เอกชนสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดตราด ตั้งใจทำให้นักท่องเที่ยวประทับใจ จัดบริเวณหมู่เกาะช้าง ลานเอนกประสงค์ อำเภอแหลมงอบ งานที่ 6 “เล่าขานตำนานคลองบางพระ” ระหว่าง 6-8 มี.ค.นี้ กลุ่มชุมชนรักคลองบางพระ ร่วมกันจัดขึ้นบริเวณเทศบาลเมืองตราด อำเภอเมือง งานที่ 7 “ตราดรำลึก” วันที่ 23-27 มี.ค.นี้ องค์การบริหารส่วนจังหวัดตราด ตั้งเป้าหมายให้เป็นสำคัญแห่งปีด้วยเช่นกัน จัดบริเวณพระบรมราชานุสรณ์ รัชกาลที่ 5
ปิดท้ายงานที่ 8 “อร่อยทุกไร่ ชิมไปทุกสวน” เริ่มมหกรรมเปิดสวนผลไม้ทั่วเมืองตราด ระหว่างมีนาคม-กรกฎาคม 2563 ทุกสวนพร้อมชวนไป More Food and Fun 2020 โดยทุกสวนผลไม้เมืองตราด และเกาะช้าง เตรียมสวนนำผลไม้อร่อย ๆ มาคอยต้อนรับอย่างต่อเนื่องตลอด 4 เดือนปีนี้




นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยว กล่าวว่า ปี 2563 ให้นโยบาย การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) และภาคีพันธมิตรหลักอย่าง การบินไทย บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) “ทอท.” ผนึกความร่วมมือเพื่อจุดขายไทยให้เป็นประเทศจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวอันดับต้น ๆ ของโลก หลังจากเมื่อวันที่ 27 ธันวาคม 2562 ได้ร่วมกันจัดกิจกรรม“Thailand’s Luckiest Visitor, the Amazing Smashing Success” โดย ททท.ทำต่อเนื่องต่อเนื่อง เพื่อประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ภาพลักษณ์ประเทศ ในฐานะแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยม (Preferred Destination) อย่างยั่งยืน  อีกทั้งได้เชิญชวนชาวไทยร่วมกันเป็นเจ้าบ้านที่ดี เพื่อสร้างความประทับใจให้เกิดการบอกต่อและเดินทางกลับมาท่องเที่ยวไทยอีกครั้ง

รวมทั้งได้จัดงานต้อนรับ Mrs. Anna Pavlovskaya -นางอันนา ปาฟโลฟสกายา ชาวรัสเซีย วัย 45 ปี นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเที่ยวเมืองไทยคนที่ 39 ล้าน จากกรุงมอสโก รัสเซีย กลับมาเที่ยวเป็นครั้งที่ 3 โดยเลือกไปภูเก็ตพร้อมกับครอบครัว ทาง ททท.ได้มอบเสื้อ Luckiest Visitor ประกาศนียบัตร แพ็คเกจที่พักโรงแรมในไทย 4-5 ดาว 5 คืน การบินไทยมอบตั๋วบินไป-กลับ ชั้นประหยัด เส้นทางระหว่างประเทศ 2 ที่นั่ง ส่วน ทอท.มอบบริการรถ AOT Limousine ส่งนักท่องเที่ยว เข้าที่พักในกรุงเทพฯ

นายพิพัฒน์กล่าวว่าปี 2562 มั่นใจจะทำยอดการท่องเที่ยวได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ สร้างมูลค่ารายได้รวม 3.06 ล้านล้านบาท  เพิ่ม 4% แบ่งเป็น ต่างประเทศ จำนวน 39.77ล้านคน เพิ่ม 4% สร้างรายได้ 1.96 ล้านล้านบาท เพิ่ม 4% ตลาดในประเทศมีนักท่องเที่ยว 167 ล้าน-ครั้ง เพิ่ม 1% สร้างรายได้ 1.10 ล้านล้านบาท เพิ่ม 3% 

ข่าวที่ 5 ร้านสพาร์บางจากลดแจกถุงผ้า-เสิร์ฟเมนูอร่อยเพียบ”



บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) จัดมหกรรมรับเทรนด์พกถุงผ้า ด้วยการแจกฟรี ถุงผ้าสปันด์บอน เมื่อซื้อสินค้าสพาร์ครบ 80 บาท ระหว่างวันนี้ - 15 ม.ค. 63 พร้อมทั้งมีโปรโมชั่นพิเศษ เมื่อลูกค้านำถุงผ้าสพาร์ สีใดก็ได้ มาซื้อสินค้าในร้านสพาร์ครบ 80 บาทขึ้นไป/ใบเสร็จ ระหว่างวันนี้ - 31 ม.ค.63 รับส่วนลด 10 บาท 

เมื่อแวะเข้าไปในสพาร์ ของบางจากแล้ว สามารถลองลิ้มชิมความอร่อยทั่วไทย ที่พร้อมเสิร์ฟเมนูเด็ดจากย่านดังที่มีครบทุกหมวดหมู่ อาหารจานหลัก, ขนมหวาน ให้เลือกชิมแบบไม่ต้องไปต่อคิวรอ เช่น ข้าวหน้าเป็น ร้านประจักษ์เป็ดย่าง โจ๊กสามย่าน ข้าวขาหมูจุฬา หอยทอดสวัสดีราชวัตร ต้มเลือดหมูร้านนกยูง ขนมจีนน้ำยาครัวเจ๊ปุ๊ ปากหม้อป้าแต๋ว ขนมหวานตลาดพลู(เจ้าเดียวไม่มีสาขา) และของอร่อยย่านดังอีกมากมายหลากหลาย ที่พร้อมเสิร์ฟคุณไม่ซ้ำวัน ไม่ซ้ำเมนู

                ช่วงที่ 2 ความสุขต้อนรับปีชวดกับสถานที่เที่ยวมุมใหม่ใน “สวนสามพราน” นครปฐม ตอนนี้เปิดบริการเทรนด์ใหม่ “ศูนย์พักผ่อนฟื้นสุขภาพผู้สูงวัย” กับ “โรส คลับ” แล้วมาฟังคนญี่ปุ่นแนะ “กินอาหารเช้า8อย่าง” ดีต่อสุขภาพ ข่าวร้อนแรงรับปีใหม่ “ครม.สั่งแยกสัญญา Pick up Counter สนามบิน” ส่วน “ผู้นำบินไทยแจงยิบศูนย์ซ่อมอู่ตะเภา” จัดคิวร่วมทุนแล้ว รออีก 3ปีได้ใช้บริการแน่ๆ  เม.ย.2566 “อนุทิน ชาญวีระกุล” รองนายกฯ ใส่เกียร์ชูไทยฮับสุขภาพ 6 ด้านบุกไปดูดเงินต่างชาติเข้ามากระตุ้นเศรษฐกิจ

@มุมพักผ่อนใหม่“สวนสามพราน”โอโซนใหญ่ใกล้กรุง


แหล่งท่องเที่ยวพักผ่อนทางเลือกใหม่ใน “โรส การ์เด้น สวนสามพราน” ของผู้สูงอายุที่ต้องการ พักระยะสั้น พักฟื้น ฟื้นฟูสุขภาพ ในบรรยากาศสวนร่มรื่นติดแม่น้ำท่าจีนเกือบ 100 ไร่ มีทั้งพันธุ์ไม้ใหญ่ค่อนร้อยปี พืชสมุนไพร ดงดอกไม้นานาชนิดหลากสีสันกระจายอยู่ทั่วบริเวณ พร้อมห้องพักแบบพรีเมี่ยม

โดยได้นำอาคารทรงสูงมีห้องพักขนาดเกือบ 100 ห้อง ดีไซน์ใหม่ผสมผสานแรงบันดาลระหว่างศิลปะประยุกต์ให้เข้ากับวิถีชีวิตของผู้สูงวัย มีความสะดวกครบครัน ด้วยอุปกรณ์วัดประสิทธิภาพการนอนที่เรียกว่า Smart Mattress ไฟเซนเซอร์จับการเคลื่อนไหว Monition Sensor Lights และปุ่มกดขอความช่วยเหลือฉุกเฉิน พร้อมพนักงานคอยดูแลให้บริการผู้สูงวัยได้ 24 ชั่วโมง พร้อมกิจกรรมต่าง ๆ

คุณสุชาดา ยุวบูรณ์ ประธานกรรมการ สวนสามพราน แนะนำบริการใหม่ในโซน "โรส คลับ"
สถานที่พักผ่อนฟื้นฟูสุขภาพของผู้สูงวัยสามารถมาพักได้ระยะสั้น ระยะยาว มีสิ่งอำนวยความสะดวกพิเศษครบวงจร

ระหว่างการพักผ่อนของผู้สูงวัย ได้จัดเตรียมบริการไว้คอยดูแลเริ่มจาก “วัตถุดิบอาหารจากสวนเกษตรอินทรีย์” ทั้ง ข้าว พืช ผัก สมุนไพร ไข่ ผลไม้และผักออร์แกนิก ที่นำมาปรุงสารพัดเมนูอร่อย ๆ “บริการอาหารว่างและเครื่องดื่ม” ได้จัดเตรียมไว้ในห้อง “โรส คลับ” ซึ่งเป็นศูนย์รวมพื้นที่ส่วนกลางให้ผู้ใช้บริการได้มาพบปะสังสรร ทำกิจกรรม เล่นเกมส์   พร้อม ๆ กับการเสิร์ฟ น้ำผลไม้สด น้ำสมุนไพร เครื่องดื่มเย็น นมโคสดแท้ นมถั่วเหลือง กาแฟสดและเครื่องดื่มร้อน ซึ่งเน้นเครื่องดื่มสุขภาพล้วน ๆ


            สำหรับโปรแกรมดูแลสุขภาพผู้สูงวัยใน “โรส การ์เด้น สามพราน” จัดคณะเทคนิคการแพทย์ มหาวิทยาลัย มหิดล มาคอยบริการทำโปรแกรมปรับสมดุลกายใจ รวมถึงกิจกรรมสุนทรีย์ต่าง ๆ ได้แก่ วิญญสุนทรีย์ กายสุนทรีย์ ศิลปะสุนทรีย์ ดุริยะสุนทรีย์ รวมทั้งสมาชิกในครอบครัวจะได้รับรายงานบันทึกกิจกรรมประจำวันของผู้สูงวัยด้วย
           
            ส่วนแหล่งท่องเที่ยวสำหรับนักท่องเที่ยวทั่วไป ใน “สวนสามพราน” มีห้องพักปกติบริการในอาคารอีกหลังติดแม่น้ำนครชัยศรี หรือแม่น้ำท่าจีน โดยใช้สิ่งแวดล้อมทางธรรมชาติร่วมกันได้ของ สวนนานาพันธุ์ เขียวขจี ร่มรื่น เรือนสปาไทยริมทะเลสาบ เดินชมฟาร์มปฐมออร์แกนิก หมู่บ้านปฐม วิลเลจ ปฐมคาเฟ่ โดยเฉพาะ”ตลาดสุขใจ” มีเครือข่ายผู้ปลูกพืชผักผลไม้เกษตรอินทรีย์จากทั่วประเทศนำผลิตภัณฑ์มาจำหน่ายทุกวันเสาร์-อาทิตย์ และยังสามารถเดินทางไปท่องเที่ยวรอบบริเวณได้ อย่าง วัดไร่ขิง ตลาดน้ำดอนหวาย พระปฐมเจดีย์ และพระราชวังสนามจันทร์

            สอบถาม บริการ “โรส การ์เด้น สวนสามพราน” สำหรับผู้สูงวัยได้ที่ 098-951-6511-12 ส่วนห้องพักปกติทั่วไปของ “สวน สามพราน” โทร.034-322-588

@อาหารเช้าที่คนญี่ปุ่นแนะนำให้กินเพื่อสุขภาพ



ความสำคัญของอาหารมื้อเช้า มีประโยชน์หลัก ๆ ดังนี้
1.เติมเต็มพลังงานและเพิ่มอุณหภูมิของร่างกาย ที่ถูกใช้ไปในช่วงกลางคืนและช่วยเพิ่มอุณหภูมิให้แก่ร่างกาย ช่วยส่งเสริมการทำงานที่ดีของภูมิคุ้มกันของร่างกาย คนที่รับประทานอาหารเช้าเป็นประจำจะไม่ค่อยป่วยเป็นไข้หวัด
2.เสริมสร้างพลังงานสมองและการมีสมาธิ -การตื่นแต่เช้าเพื่อรับแสงแดดและรับประทานอาหารเช้าเป็นสุขลักษณะนิสัยที่ดีในการปรับและตั้งนาฬิกาทางชีววิทยาของสมอง และส่งผลในการกระตุ้นจังหวะที่ถูกต้องของชีวิต การรับประทานอาหารเช้านอกจากจะช่วยเพิ่มพลังงานให้แก่สมองแล้วก็ยังทำให้ความคิดแล่นไวและมีสมาธิในการเรียนหรือทำงาน ในทางตรงข้าม การไม่รับประทานอาหารเช้าจะทำให้ไม่มีสมาธิและหงุดหงิดง่าย

            8 อย่างที่แนะนำให้กินเป็นประจำทุกเช้า ได้แก่
1. ไข่ - เป็นแหล่งโปรตีนคุณภาพดีที่ย่อยและดูดซึมเข้าสู่ร่างกายได้ดี อีกทั้งไข่ยังอุดมไปด้วยไขมันที่ช่วยในการสร้างเซลล์เมมเบรนและเยื่อประสาท

2. ถั่วต่าง ๆ - อุดมไปด้วยไขมันไม่อิ่มตัวซึ่งเป็นไขมันที่ดีสำหรับการลดน้ำหนัก ช่วยลดคอเลสเตอรอลชนิดไม่ดีและช่วยเพิ่มการสร้างคอเลสเตอรอลชนิดดี ช่วยเผาผลาญไขมันในร่างกายและป้องกันความดันโลหิตสูงได้ด้วย

3. โฮลวีท ข้าวกล้อง และข้าวโอ๊ต - อุดมไปด้วยเส้นใยอาหาร ซึ่งจะช่วยให้ระบบทางเดินอาหารมีสุขภาพดีและช่วยลดคอเลสเตอรอลชนิดไม่ดีได้

4. ผักโขมญี่ปุ่น - อุดมไปด้วยธาตุเหล็ก วิตามินซี และวิตามินบี 1 ซึ่งธาตุเหล็กจะช่วยป้องกันภาวะโลหิตจางในผู้หญิงและวิตามินบี 1 นั้นเป็นสารอาหารสำคัญเพื่อบำรุงสมอง

5. กล้วย - อุดมไปด้วยเส้นใยอาหารและโพแทสเซียมซึ่งช่วยลดอาการบวมน้ำของร่างกาย นอกจากนี้กล้วยยังอุดมไปด้วยกรดอะมิโนทริปโตเฟน ซึ่งเป็นสารตั้งต้นในการสร้างสารสื่อประสาทเซโรโทนิน ช่วยไม่ให้รู้สึกหงุดหงิดและเครียดง่าย

6. อะโวคาโด้ - อุดมไปด้วยเส้นใยอาหาร วิตามินอี กรดโฟลิก และโพแทสเซียม ซึ่งมีประสิทธิภาพในการลดการบวมน้ำของร่างกายและช่วยในการเผาผลาญไขมัน ใน 1 วันควรกินไม่เกินครึ่งลูก

7. แอปเปิ้ล - แอปเปิ้ลเป็นผลไม้ที่ช่วยให้ลำไส้มีสุขภาพดี 1 ผลให้พลังงานเพียง 140  กิโลแคลอรี น้ำตาลฟรุกโตสและกลูโคสในแอปเปิ้ลจะถูกดูดซึมเข้าสู่ร่างกายได้อย่างรวดเร็ว

8. โยเกิร์ต - โยเกิร์ตจะช่วยปรับสภาพแวดล้อมที่ดีในลำไส้ ช่วยลดอาการท้องผูก และดีต่อความงาม

9. ปลา - ปลาต่าง ๆ ได้แก่ ปลาแซลมอน ปลาซาบะ และปลาทูน่า เป็นต้น เป็นแหล่งโปรตีนที่ดีในการสร้างกล้ามเนื้อ นอกจากนี้ปลายังอุดมไปด้วยกรดอะมิโนทริปโตเฟนซึ่งมีบทบาทสำคัญในการช่วยลดความเครียด

ฟังข่าวท้ายชั่วโมง

ข่าวแรก “ครม.อนุมัติแยกสัญญาPick up Counterสนามบินทอท.



นางนฤมล ภิญโญสินวัตร โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยมติที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 2 มกราคม 2563 มีมติเห็นชอบแนวทางแก้ไขพื้นที่จุดส่งมอบสินค้าปลอดอากรสาธารณะ (pick up counter) ของบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) “ทอท.” ตามที่ คณะกรรมการ ทอท.เสนอ ครม.พิจารณาดังนี้

1.ให้ ทอท.เปิดบริการเคาน์เตอร์ Pick up counter สนามบิน 2 แบบ คือ แบบที่ 1 ทอท.บริการด้วยตนเอง แบบที่ 2 ให้สิทธิเอกชนให้บริการ เปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการจำหน่ายสินค้าปลอดอากรในเมืองทุกรายสามารถใช้เคาน์เตอร์ดังกล่าวได้ในสนามบินต่าง ๆ ของ ทอท.โดยให้ใช้หลักปฏิบัติใหม่ตามแนวทางดังกล่าว ภายหลังการสิ้นสุดสัญญาการเช่าพื้นที่ สนามบินสุวรรณภูมิ ในกันยายน 2563 และสนามบินดอนเมืองเดือนกันยายน 2565

2.ให้ ทอท.แยกสัญญาการเปิดประมูลเป็น 3 สัญญา ได้แก่ 1.กิจการจำหน่ายสินค้าปลอดอากร 2.กิจกรรมเชิงพาณิชย์ (ร้านค้าปลีก อาหารและเครื่องดื่ม บริการต่างๆ ธนาคาร) 3.กิจการให้บริการเคาน์เตอร์ส่งมอบสินค้าปลอดอากร โดยเน้นเปิดกว้างให้แข่งขันกันอย่างเสรี เป็นประโยชน์ต่อผู้บริโภคและภาพรวมเศรษฐกิจของประเทศในอนาคตต่อไป


โมเดลศูนย์ซ่อมเครื่องบินของการบินไทยในอู่ตะเภา
ตอนนี้กำลังรอเสนอครม.สิงหาคม 2563


นายสุเมธ ดำรงชัยธรรม กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในฐานะเจ้าของโครงการศูนย์ซ่อมบำรุงอากาศยานอู่ตะเภา ได้เดินหน้าตามนโยบายของคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (กพอ.) จัดส่งเอกสารให้แก่เอกชนผู้ประสงค์ร่วมทุนกับการบินไทยสอบถามข้อสงสัยและข้อมูลเพิ่มเติมได้ภายในวันที่ 22 มกราคม 2563 ก่อนกำหนดให้ยื่นเอกสารเข้าสู่การพิจารณาภายในวันที่ 6 มีนาคม 2563 จากนั้นจะเริ่มเจรจาต่อรองและหาข้อสรุปเพื่อนำผลการเจรจา ผลการคัดเลือก และร่าง
                                                                                                               สัญญา ร่วมทุน เสนอขอความเห็นจาก                                                                                                                                       หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป

ศูนย์ซ่อมเครื่องบินของการบินไทยที่สนามบินอู่ตะเภา
รอเปิดใช้งานเดือนเม.ยง2566

คาดการเจรจาต่อรองจะได้ข้อยุติในเดือนพฤษภาคม 2563 หลังจากนั้นการบินไทยจึงจะส่งร่างสัญญาร่วมลงทุนให้สำนักงานอัยการสูงสุดตรวจพิจารณารอความเห็นชอบช่วงเดือนมิถุนายน 2563 แล้วก็นำเรื่องเสนอผ่านสำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก ที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน เห็นชอบประมาณเดือนกรกฎาคม 2563 เพื่อนำเสนอเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรีรับทราบในเดือนสิงหาคม 2563
        การบินไทยประเมินเมื่อผ่านกระบวนการทุกขั้นตอนแล้ว ก็เร่งพัฒนาศูนย์ซ่อมบำรุงอากาศยานอู่ตะเภาเพื่อเปิด                                                                                                                                          ดำเนินกิจการให้ได้ประมาณเดือนเมษายน                                                                                                                                  2566 เป็นต้นไป

ข่าวที่สาม“อนุทิน”ชูไทยฮับสุขภาพ6ด้านดูดเงินตลาดโลก

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ได้ร่วมกับนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เดินหน้ามาตรการสร้างรายได้กระตุ้นเศรษฐกิจโดยการนำไทยเป็นศูนย์กลางสุขภาพนานาชาติ ส่งเสริมบริการรักษาพยาบาล สุขภาพ การศึกษา และผลิตภัณฑ์สุขภาพที่มีศักยภาพสูงดึงดูดชาวต่างชาติเข้ามาใช้จ่ายเงินในไทยที่มีความเป็นเลิศด้านบริการรักษาพยาบาล 6 ด้าน ได้แก่ 1.ด้านความงาม 2.การแปลงเพศ 3.ข้อเข่า 4.หัวใจ 5.ผู้มีบุตรยาก และ 6.ทันตกรรม ควบคู่การยกระดับมาตรฐานนวดไทยให้เป็นมรดกโลก เพื่อจะได้นำเข้าสู่การพิจารณาในเวทีการประชุมคณะกรรมการร่วมระหว่างรัฐบาลตามภาคีอนุสัญญาว่าด้วยการสงวนรักษามรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของยูเนสโก ครั้งที่ 14 วันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2562 ณ กรุงโบโกตา ประเทศโคลอมเบีย
อีกทั้งทางกระทรวงสาธารณสุข กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา องค์กรระหว่างภาครัฐและเอกชนเตรียมร่วมกันจัดงานมหกรรมสินค้าและบริการสุขภาพ -Thailand Helth Expo ขึ้นระหว่าง  4-8 มีนาคม 2563 ณ ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี เพื่อแสดงศักยภาพในการเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพของโลก สนับสนุนผู้ประกอบการไทยเปิดตลาดการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพในเวทีนานาชาติได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ติดตามฟังรายการได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 11.00-12.00 น.ทาง สวท.FM 97.0 MHz.

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ททท.คุนหมิงดึงจีน3มณฑลเที่ยวไทยทางบก4ด่านเงินสะพัด

ททท.ปั๊มทัวร์จีนคุนหมิงแบบโอเวอร์แลนด์เงินสะพัดไทย 4 ด่าน ส.ค. 66- ปี ’67 กระหน่ำขาย “ New Ways to Amazing to Thailand” ล็อกเป้าจีน 4 ตลาดใช้จ่ายแสนบาท/ทริป-ดันอีสานอู้ฟู่ 20 จังหวัด ช้อป!!ของขวัญวันแม่ที่คิงเพาเวอร์ลด20%- Firster9 หมื่นไอเท็ม ฉลองวันแม่!พูลแมนคิงเพาเวอร์จัดบุฟเฟต์พรีเมี่ยมกลางวัน/ค่ำ กินฟินที่คิงเพาเวอร์มหานคร-รร.เดอะสแตนดาร์ดตลอดส.ค. 66 ททท.จัดแข่งผัดกะเพราโลก“ World Kaphrao 2023”ชิงเงินล้าน กลุ่มบริษัทบางจากโชว์ครึ่งปีแรก66กวาดรายได้1.48 แสนล้าน TCEB บุกจีนจัด Thailand MICE in China 2023 โกยไมซ์ 990 ล้าน เที่ยววันแม่ใกล้กรุงได้ที่อุทยานเบญจสิริ/ดรีมเวิลด์/สวนนงนุช เคล็ดลับ!!การรักษาแผลให้หายไวด้วยขั้นตอนง่ายๆทำได้เอง บินไทยฟื้นเร็ว!!ครึ่งแรกปี’66กำไร329%พกเงินสด5.1หมื่นล้าน เปิดขายแล้ว!!บัตรชม“โขน”สุดยิ่งใหญ่แห่งดูได้ 5 พ.ย.- 5 ธ.ค. 66   วันเสาร์ที่ 12 สิงหาคม 2566 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97.0 และอ

TCEB นำงานวิจัยMICE for Sightแนะธุรกิจปรับตัวรับไมซ์10ปีหน้า

  นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) "TCEB" “ TCEB ”เปิดคัมภีร์ MICE for Sight ปลุกไมซ์จัดทัพใหม่ 10 ปีหน้า รับมือ Gen Z ผงาดผู้ทรงอิทธิพลไมซ์โลกเขย่าตลาดครั้งใหญ่ ปี 67 เร่งโกย 1.4 แสนล้านโหมซอฟท์เพาเวอร์/ไมซ์ซิตี้/ไมซ์ชุมชน รีบช้อป!!คิงเพาเวอร์เป็นไปได้5รายการรางวัลสูงสุดกว่า 4 ล้าน ด่วน 4 วันสุดท้าย!คิงเพาเวอร์อัดโปร SurpriseOnlineSale ลด 50% คิงเพาเวอร์ช้อปวนไปแจกทันที 3 ฟรี คูปอง/ตั๋ว/รถยนต์ LEXUS ท่องเที่ยวรุกเจรจาธุรกิจ TEJ 2023ฉลุย300นัดโกยญี่ปุ่น9ตลาด บางจาก-กรุงไทยเปิดแอปเป๋าตังจองซื้อหุ้นกู้ดิทัลดีเดย์ 30 ต.ค. เที่ยวประจวบนอนแคมป์ทะเลหมอกบ้านป่าหมาก-วิ่งปราณบุรี บินไทยโชว์ยูนิฟอร์มใหม่ลูกเรือแฟชั่นผ้าลดโลกร้อนเริ่ม1ม.ค.67 คาเธ่ย์ กรุ๊ปทุ่มลงทุนฝูงบินใหม่ A 320 neo เพิ่ม32ลำบินจีน/เอเชีย   วันเสาร์ที่  28 ตุลาคม 2566 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97

ททท.ภาคเหนือ7เดือนปี66โกยแล้ว1.08แสนล้าน

นางสาวภัทรอนงค์ ณ เชียงใหม่ ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคเหนือ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)  ททท.ภาคเหนืออู้ฟู่ 7 เดือนแรกโกยได้แล้ว 1 แสนล้าน ต.ค.-ธ.ค. 66 ลุยขายเที่ยวไฮซีซัน 4 เทรนด์ใหม่มาแรง นำ The Link จับคู่ทัวร์ข้ามภาคสำเร็จ 3 เส้นทางสุดฮ็อต คิง เพาเวอร์แจกมันส์แจกฟินที่รางน้ำเสาร์16ก.ย.นี้ ช้อป KingPowerOnline รับแบบไม่ยั้ง2สุดคุ้มถึง24ก.ย. ช้อป DUTY FREE SALE นำบิวตี้แบรนด์โลกมาเต็ม ททท.ใช้ฟรีวีซ่าปั๊ม1.4แสนล้านชาเตอร์จีนเฮเข้าไทย บางจากโชว์อุตฯไทย-ไต้หวันชูนวัตกรรมธุรกิจสีเขียว TCEB ผนึก EECAutoPark หนุนไมซ์เอ็กซิบิชั่นอินเตอร์ เที่ยว Unseen “พิพิธภัณฑ์ป่าสัก-วัดขุนอิน-วัดปัญญา” 4วิธี“ปิดล้างเลี่ยงหยุด”ป้องกันไข้หวัดใหญ่ทุกพันธุ์ “สุดาวรรณ”รมว.ใหม่ท่องเที่ยวดึงต่างชาติ40ล้านคน กพท.-สมาคมแอร์ไลน์สไทยแบไต๋ตั๋วบินราคาแพง วันเสาร์ที่ 16 กันยายน 2566 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyai