ทอท.เปิดแผนเมกะโปรเจ็กต์AIRPORT CITY
ปี’63รุกธุรกิจใหม่คาร์โก้ฮับ-เทรนนิ่งเซ็นเตอร์
More Fun
เขาหินซ้อน-บางคล้า ฉะเชิงเทรา
คิง เพาเวอร์ชวนฉลองตรุษจีนหมู่บ้านหนูทอง
คิงเพาเวอร์คืน3แสนเมื่อซื้อบัตรMayaMusic
ททท.หนุนประชุมผู้นำสตรีโลกปลุกเศรษฐกิจ
ททท.ปลุกท่องเที่ยวตรุษจีน9จังหวัด14พื้นที่
แนะสูตรเด็ด7สัปดาห์รอบรู้เรื่องสุขภาพแล้วดี
UNWTOชี้เป้าท่องเที่ยวปี63ไทยมีหวังโตได้
ประชาพิจารณ์รอบ2สนามบินนครปฐมไม่คืบ
คิงเพาเวอร์คืน3แสนเมื่อซื้อบัตรMayaMusic
ททท.ปลุกท่องเที่ยวตรุษจีน9จังหวัด14พื้นที่
ดร.นิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการ บมจ.ท่าอากาศยานไทย |
เข้าสู่รายการ
“รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” ในวันเสาร์ที่ 18 มกราคม 2563 เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน”
ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทางมือถือ
และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen และบล็อกเกอร์ #gurutourza # #รวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97 #เที่ยวกับกู๋ #ทอทเปิดเมกะโปรเจ็กต์AirportCity #MoreFunเขาหินซ้อนบางคล้าฉะเชิงเทรา
ช่วงที่ 1 ลุยถอดรหัสแนวคิด “ดร.นิตินัย ศิริสมรรถการ”
กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) “ทอท.”
ลั่นนำอุตสาหกรรมสนามบินผ่าน “S-CURVE” 3 ยุค ตั้งต้นปี’63 เร่งผุดเมกะโปรเจ็กต์ใหม่ในช่วงตกหลุมดำที่ต้องรอเวลาสร้างส่วนต่อขยายเทอร์มินัลนาน
5 ปี ก.พ.นี้
แจ้งเกิด “AIRPORT CITY”
สุวรรณภูมิ หลังปลดล็อกกฎระเบียบจบ ชิมลางสร้าง 3 โปรเจ็กต์ “Citifly Cargo Hub” ทำไทยศูนย์กลางส่งออกสินค้า CLMVสู่ยุโรป “ศูนย์ฝึกอบรมTraining Center” และ “Ground Handing Service” ส่วนการเปิดประมูล Pick Up Counter ดอนเมือง เปิด 2รอบยังไม่คึกเท่าที่ควร หลังแยก 2 ส่วน “ทอท.ทำเอง-เอกชนประมูล”
ย้ำมาตรการส่งเงินเข้ากองทุนกรมท่าอากาศยาน พร้อมสนองนโยบาย
รมว.ศักดิ์สยามไม่ขึ้นค่า PSCธรรมเนียมผู้โดยสาร
จะใช้วิธีเพิ่มประสิทธิภาพบริหารจัดการเพิ่มผู้โดยสารหารค่าใช้จ่ายต่อหัว
ดร.นิตินัย
ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) “ทอท.”
เปิดเผยว่า วางแผนพัฒนาธุรกิจสนามบินที่อยู่ในความดูแล 6 แห่ง
ปัจจุบันขีดความสามารถรองรับผู้โดยสารเกือบทุกสนามบินโตเกินศักยภาพ โดยในช่วง 4-5
ปีที่ผ่านมาเติบโตแบบก้าวกระโดดมาตลอด
ปี 2562
ได้ขยายศักยภาพปีละ 83.5 เป็น 101
ล้านคน แต่ปริมาณการใช้จริงมีสูงถึง 110 ล้านคน
ตอนนี้จำนวนผู้โดยสารเต็มจนล้นทำให้ในช่วงตารางบินฤดูหนาวช่วง 2 ปีที่ผ่านมาจึงไม่สามารถเพิ่มสล็อตบินได้
แล้วการเงินเติบโตดีได้จากวิบากกรรมของสายการบิน เพราะปี 2561-2562 ปริมาณเที่ยวบินโตติดลบ ส่วนจำนวนผู้โดยสารโต 1.7
% ปีงบประมาณ 2563 เริ่มจากตั้งตุลาคม 2562 ครบไตรมาส 1 เที่ยวบินยังคงโตศูนย์ถึงติดลบ
แต่ผู้โดยสารโตประมาณ 3 %
ตัวเลขดังกล่าวสะท้อนถึงการปรับตัวของสายการบินใช้กลยุทธ์สวิงจากผู้โดยสารในประเทศเป็นต่างประเทศเข้ามาเสียบแทน
ใช้ขนาดเครื่องบินลำใหญ่ขึ้นจึงทำให้ผู้โดยสารเติบโตแต่ปริมาณเที่ยวบินไม่เพิ่มนั่นเอง
ทอท.ก็สามารถทำรายได้จากค่าธรรมเนียมผู้โดยสารระหว่างประเทศ (Passenger
survice Charge :PSC) ในอัตรา 700
บาท/คน/ครั้ง
แทนที่จะได้จากในประเทศเพียง 100 บาท/คน/ครั้ง
เป็นสถานะทางอุตสาหกรรมการบินจากปี
2561 มาถึงปี 2562 ส่วนก้าวใหม่ในปี 2563 ก่อนสุวรรณภูมิจะเปิดอาคาร Sattlelite
Terminal อาคาร 1
หลังใหม่จะแล้วเสร็จเปิดใช้ช่วงปลายปีนี้
สถานการณ์โดยรวมก็ยังคงเป็นเช่นนี้
ตราบใดที่การสร้างอาคารเทียบเครื่องบินรองยังไม่เสร็จ
การขยายพื้นที่ก็ยังค่อนข้างกระท่อนกระแท่นมาตลอดถึงระดับ Red Zone เป็นเวลา 2 ปีแล้ว และอาจส่งผลต่อเนื่องถึงปี 2563
ทอท.เดินหน้ายกระดับสนามบินสุวรรณภูมิเปิดอาคารผู้โดยสารหลังที่ 2 |
จากการประเมินของ
ทอท.หากอาคารส่วนต่อขยายด้านเหนือสามารถสร้างได้ประมาณปี 2568 ทอท.จึงจะมีศักยภาพรองรับผู้โดยสารได้เกินกว่าผู้ใช้บริการแต่ละปี
ระหว่าง 5 ปี คือ 2563-2568
ก็ต้องกระท่อนกระแท่นต่อไป
ปีนี้สถานการณ์ธุรกิจสนามบินของ
ทอท.ได้ผ่าน S-CURVE ลูกที่ 1
แล้ว ระหว่างปี 2558-2560 การขยายตัวทั้งปริมาณสล็อตเที่ยวบินและผู้โดยสารดีมาก
แต่มาชะลอในปี 2561-2562
ส่วน S-CURVE
ลูกที่ 3 จะเริ่มเกิดจริงจังปี 2568 หลังการก่อสร้างส่วนต่อขยายแล้วเสร็จ ซึ่ง
ทอท.จะต้องดูแลจัดการเพื่อให้เครื่องบินขึ้น-ลงเพิ่มได้
ดังนั้นปี
2563 จึงเป็นช่วง S-CURVE
ลูกที่ 2 ของ ทอท.ที่จะต้องวางแผนรับมือกับ S-CURVE ลูกที่ 3 ซึ่งกำลังจะเกิดในอีก 5 ปีข้างหน้า คือ ปี 2568
ดร.นิตินัยกล่าวว่าแผนงานต้อนรับศักราชปี
2563 ในฐานะที่
ทอท.เป็นรัฐพาณิชย์ มีระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี
กฎเกณฑ์ของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (กลต.)
และกฎเกณฑ์ขององค์กรการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO) และอื่น ๆ กำกับดูแลอย่างเข้มงวด ต่อให้
ทอท.มีศักยภาพมากขนาดไหนแต่เนื่องจากมีกฎเกณฑ์คุมอยู่เต็มไปหมด
จึงกลายเป็นองค์กรอุ้ยอ้ายเคลื่อนตัวค่อนข้างลำบาก
ช่วง S-CURVE
ลูกแรก เมื่อ 4-5 ปีที่ผ่านมา
ทอท.ได้ปลดปล่อยพันธนาการหรือกฎเกณฑ์เหล่านี้รอไว้ จึงเป็นอานิสงต่อการรับมือกับ S-CURVE
ลูกที่ 2 จะเริ่มปี 2563-2564 ประกอบด้วย 1.เมื่อก่อนมีที่ดินรอบสุวรรณภูมิขนาด 723 ไร่ เป็นผังเมืองสีเขียว พัฒนาทำอะไรไม่ได้
แต่ตอนนี้เปลี่ยนเป็นพื้นที่สีน้ำเงินเช่นเดียวกับสุวรรณภูมิ
เป็นการเช่าที่จากกรมธนารักษ์ซึ่งระบุให้ทำกิจกรรมการบินแต่เขียนไว้กำกวมมาก
ตอนนี้จึงทำให้ชัดเจนแล้วสามารถทำได้เกือบทุกอย่าง
ทอ.ประกาศขับเคลื่อนการลงทุนเมกะโปรเจ็กต์ AIRPORT CITY เริ่มกุมภาพันธ์ 2563 |
ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์-มีนาคม
2563 ทอท.จะเริ่มก่อร่าง
“AIRPORT CITY” มีธุรกิจต่าง
ๆ ลงทุนได้ ส่วนใหญ่จะลำดับต้น ๆ เกี่ยวกับการบิน เช่น Cirtifly Hub ขยายศูนย์กลางบริการสินค้าขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ
(Cargo)
สร้างศูนย์ฝึกอบรม Training Center เพราะ
ทอท.เปิดบริษัทใหม่ทางด้านรักษาความปลอดภัย บริการขนสัมภาระผู้โดยสารสนามบิน (Ground
Handing Service :GHS)
ตอนนี้กำลังดำเนินการกับทาง ICAO
เพื่อออกใบรับรองมาตรฐาน และกับสมาคมการบินระหว่างประเทศ (International
Air Transport Association : IATA)
เพื่อแนะนำการจัดทำหลักสูตรอบรม และจะมีอีกหลายโครงการ
ขณะนี้มีผู้สนใจยื่นความจำนงเพื่อดำเนินแต่ละโครงการใน
AIRPORT CITY ประมาณ 40
ราย เกี่ยวข้องกับคาร์โก้
หรือบริการผู้โดยสาร ทอท.จะให้ความสำคัญกับกิจกรรมบริการผู้โดยสารก่อนเป็นลำดับต้น
ๆ
ตามนโยบายของรัฐบาลประกาศให้ไทยเป็นศูนย์กลางการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ
ของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (SOUTH EAST ASIA CARGO HUB) ด้วยทำเลอยู่ตรงจุดกึ่งระหว่างกลุ่มประเทศ CLMV-กัมพูชา/สสป.ลาว/เมียนมา/เวียดนาม
แต่ตลาดจากยุโรปต้องการส่งสินค้าเข้ามายังประเทศเหล่านี้
แต่มีเที่ยวบินเข้าออกน้อย
จึงต้องการใช้สนามบินสุวรรณภูมิเป็นศูนย์รับรองมาตรฐานหรือ Cirtifly Hub คาร์โก้ โดยในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาทางศุลกากรได้ปลดล็อก
ดังนั้นพื้นที่ขนส่งสินค้าสุวรรณภูมิจึงขยายขอบเขตเป็นมากกว่าดิวตี้ฟรีและแท็กซ์ฟรีโซน
ก้าวไปเป็น Regulation Free Zone หรือหน่วยกำกับดูแลระเบียบกฎเกณฑ์ได้อย่างอิสระ
ดังนั้นปี
2563 ก็จะได้เห็นสิ่งที่
ทอท.ไม่เคยลงทุนทำมาก่อนหน้านี้เกิดขึ้นในยุคนี้ ได้แก่ 1.AIRPORT CITY
2.CIRTIFLY CARGO HUB 3.MEDICAL HUB ส่วนสินค้าประเภทอาหาร
ผัก ผลไม้ ที่เน่าเสียง่าย (Perishable goods)
จะถูกตรวจสอบในเมืองไทยพอเข้ายุโรปจะไม่ถูกตรวจสอบอีก ฉนั้นสินค้านำเข้าจาก CLMV ก็จะถูกปฎิเสธอีกต่อไป ระหว่างนี้
ทอท.กำลังจัดตั้งบริษัท CIRTIFLY CARGO HUB
สิ่งต่าง ๆ เหล่านี้เป็นแนวคิดสามารถช่วยเศรษฐกิจชาติ และเกษตรกร
ด้วยการใช้พื้นที่รอบสุวรรณภูมิให้เกิดประสิทธิภาพสูงที่สุด
ทั้งที่ควรจะทำมาตั้งนานแล้ว เพียงแต่เรามียักษ์ตัวใหญ่คือกฎเกณฑ์ต่าง ๆ
ห้อมล้อมไว้ แต่ปีนี้กฎทั้งหลายถูกปลดออกแล้ว รวมทั้งมีโครงการดิจิทัล แพลตฟอร์ม
ที่นำเข้ามาใช้ในสนามบินก็เป็นธุรกิจใหม่ที่เพิ่งขึ้นได้
นับจากปี
2563 จะมีหลุมดำซึ่งไม่สามารถขยายศักยภาพการรองรับสล็อตเที่ยวบินเพิ่มขึ้น
ช่วงอีก 5 ปีข้างหน้า
ระหว่างปี 2563-2568 ดังนั้น
ทอท.จึงเน้นการพัฒนา 1.อี-คอมเมิร์ซ 2.ที่ดินว่างเปล่า 3.คาร์โก้
เพิ่มขีดความสามารถของประเทศด้านการส่งออกสินค้าสู่ตลาดโลก
สำหรับบางส่วนที่เกี่ยวข้องกับเชิงพาณิชย์หรือ
Non Aero ทอท.ได้เปิดประมูลไปแล้วจาก
สัญญาดิวตี้ฟรีและเชิงพาณิชย์สนามบินสุวรรณภูมิ คาดการณ์จะมีการรับรู้รายได้ปี 2563
ประมาณกว่า 8,000 ล้านบาท ส่วนปี 2564 อีก 9
เดือนหน้า ตัวเลขที่ผู้ชนะการประมูลเสนอจ่ายซึ่งจะทำให้เห็นรายได้จาก Non
Aero เติบโตแบบก้าวกระโดดจากปีละ 8,000
เป็น รวมปีละเกือบ 25,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นเพียง 1 กิจกรรม ในยุค S-CURVE ลูกที่ 2 ส่วน S-CURVE
ลูกที่ 3 ก็จะเริ่มไล่ลงทุนตั้งแต่กุมภาพันธ์ปีนี้เป็นต้นไป
สำหรับ
AIRPORT CITY จะมีกิจกรรมไฮไลต์
เพื่อทำ CIRTIFLY CARGO HUB
พื้นที่กว่า 100 ไร่
อนาคตเกษตรกรรายย่อยสามารถนำสินค้าส่งออกขายผ่านฮับดังกล่าวได้
แถมคัดแยกสินค้าคุณภาพทำราคาขายสูงกว่าตลาดในประเทศ โดย ทอท.ไปทำตลาดในยุโรป
สามารถช่วยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
เนื่องจากการทำตลาดจะทำให้ไทยรู้ปริมาณความต้องการของตลาดยุโรปก่อนแล้วกลับมาวางแผนการผลิตอย่างมีเป้าหมายสอดคล้องกัน
กิจกรรมเหล่านี้
ทอท.อยากทำมาตั้งนานแล้ว นอกจากจะเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์
ทำกำไรให้ผู้ถือหุ้นแล้ว ก็ยังสามารถช่วยเหลือเกษตร ประเทศ
ไม่ต้องมาพยุงราคาสินค้าแต่ละปีอีกต่อไป เพราะพร้อมจะใช้พื้นที่เปิด CIRTIFLY
CARGO HUB หลายร้อยไร่
ส่วนศูนย์ฝึกอบรม รปภ.และ GHS อีกกว่า
40 ไร่ เฉพาะ 2
กิจกรรมนี้ก็ใช้พื้นที่ไปกว่า 200
ไร่แล้ว ส่วนกิจกรรมอื่น ๆ
ต้องรอพิจารณาเป็นด้านเชิงพาณิชย์มาก ๆ ต้องรอข้อเสนอของเอกชนอีก 40 ราย
ทอท.จะเน้นบริการการบินเป็นอันดับต้น
ๆ โดยไม่ได้พุ่งเป้าทำแต่กำไรเพียงอย่างเดียว
ดร.นิตินัย
กล่าวว่า ประเด็นการเปิดประมูลศูนย์บริการเคาน์เตอร์รับส่งสินค้าปลอดอากร (Pick
up Counter)
ในสนามบินดอนเมือง ย้อนดูการประมูลพื้นที่ประกอบกิจการร้านค้าดิวตี้ฟรีในสุวรรณภูมิเมื่อปี
2549
ยังไม่มีพจนานุกรมคำนี้ มีเพียงพื้นที่ดิวตี้ฟรี แต่พอผู้ชนะได้เขียนแบบโดยมีคำว่า
Pick Up Counter อยู่ด้วย
เป็นของทาง คิง เพาเวอร์ เสนอมาในแบบครั้งนั้น พอดิวตี้ฟรีได้รับความนิยมทำกำไรได้มากจึงมีผู้สนใจเมื่อปี
2555 บอร์ด
ทอท.จึงเปิดสัญญาใหม่แยก Pick Up Counter ออกจากสัญญาใหญ่
บริษัทที่ชนะจะได้สิทธิ์แต่เพียงผู้เดียว
กระทั่งบอร์ด
ทอท.ชุดปัจจุบัน เปิดประมูล Pick Up Counter ที่สนามบินภูเก็ตปี 2562 เป็นลักษณะ Common Use มีเงื่อนไขว่าผู้ชนะจะต้องอนุญาตให้รายอื่นมาใช้บริการได้ด้วย เป็นวิวัฒนาการมาเรื่อย
ๆ
แต่ก็มีเสียงตำหนิว่าแนวทางนี้จะทำให้ผู้ชนะรู้ข้อมูลการตลาดของรายอื่นที่มาใช้บริการ
ปีนี้จึงต้องแก้จุดบกพร่องใหม่อีกครั้ง จาก Single Use เป็น Common Use มาครั้งนี้แบ่งเป็น 2 ส่วน คือ 1.Common Use ให้เอกชนยื่นประมูลบริหารเคาน์เตอร์ 2.ทอท.บริหารเอง หากผู้ใช้ไม่ต้องการใช้ Common
Use ก็มาส่งให้ ทอท.ได้
เป็นการแก้ไขข้อร้องเรียนต่าง ๆ ส่งผลทำให้ “ผู้ประกอบการดิวตี้ฟรีในเมือง (Downtown
Duty Free) มีทางเลือก
หรือร้านค้าในเมืองที่ขายสินค้าดิวตี้ฟรี หรือห้างสรรพสินค้าอื่น ๆ
ต้องการส่งสินค้าให้นักท่องเที่ยวต่างประเทศสามารถมาใช้เคาน์เตอร์ ทอท.ได้
การเปิดประมูล
Pick Up Counter ดอนเมือง
เปิดรอบแรกไปช่วงปลายปี 2562 มีผู้สนใจยื่นเพียงรายเดียวคือกลุ่ม
บริษัท คิง เพาเวอร์ ดังนั้นจึงต้องเปิดรอบ 2 เมื่อวันที่ 13 มกราคม 2563 ตามขั้นตอนประมาณ กุมภาพันธ์-มีนาคม นี้
น่าจะประกาศรายชื่อผู้ชนะได้ อาจจะไม่เซอร์ไพรส์หรือไม่คึกคักมากนัก โดย 1.ประกาศลงหนังสือพิมพ์เชิญชวนซื้อซอง TOR วันที่ 13-19 มกราคม นี้ 2.เปิดขายซอง 20-31 มกราคม 3.ให้เอกชนยื่นซองได้วัน
13 มีนาคม นี้ 4.นำเสนอผลงาน 16 มีนาคม 5.ประกาศผลวันที่ 17 มีนาคม 2563 ใครสนใจก็เข้ามาซื้อซองและปฏิบัติตามขั้นตอนดังกล่าว
แนวโน้มก็น่าจะมีผู้ประกอบการหันมาใช้บริการ
ทอท.แทน แล้วก็มีคำถามตามว่าถ้าอย่างนั้นรายได้ ทอท.จะลดลงหรือไม่
ผมบอกว่าต้องดูที่ “ต้นน้ำ” หากมีดิวตี้ฟรีในเมืองเปิดอีกเป็นจำนวนมาก
นอกเหนือจากปัจจุบันมีของ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ กับ โชว์ ดีซี พระราม 9 ต่อไปนี้หากมีจำนวนมากขึ้น ทอท.เป็น “ปลายน้ำ”
ก็รับทั้ง 2 ฝั่ง คือ
จากผู้ชนะการประมูล (ตอนนี้มีราคากลางเป็นหลักเกณฑ์มาตรฐานไว้แล้ว)
และจากบริการเองแล้วเก็บค่าบริการแบบน้ำซึมบ่อทราย 5 % เก็บทั้งปริมาณน้อยและมาก
ดังนั้นการแข่งขันประมูลครั้งนี้จึงไม่น่าจะได้รับการเสนอผลตอบแทนสูง
จึงมั่นใจจะมีรายได้จากค่าบริการ 5 % มากกว่า
เพราะมีผู้ประกอบการดิวตี้ฟรีเพิ่มขึ้น
การเพิ่มสถาปัตยกรรมและสิ่งแวดล้อมใหม่ในสนามบินสุวรรณภูมิ |
สำหรับประเด็น
“การส่งเงินเข้ากองทุนการบิน”
ตามหลักสากลแล้วทุกสนามบินในโลกมีกติกาการจัดเก็บรายได้จาก จาก 2 ส่วน คือ 1.กิจกรรมไม่เกี่ยวข้องกับการบิน/Non Aero 2.กิจกรรมการบิน/Aero
ทาง ICAO ควบคุมเรื่องความเป็นธรรม ระบุห้ามสนามบินใดเอาเปรียบจนมากเกินมาตรฐาน
จะระบุการเก็บค่าธรรมเนียมต่าง ๆ ไว้ เช่น ค่านำร่องอากาศยาน
ค่านำเครื่องบินขึ้น-ลง ค่าหลุมจอด ค่าธรรมเนียมผู้โดยสารสนามบิน/PSC ค่าบริการสัมภาระภาคพื้น/GHS ห้ามทำกำไรเกิน 5-10 % จึงเป็นรายได้ที่ถูกควบคุมต้นทุน “อัตราค่าภาระ”
ตามกฎ ICAO
มีภาระเท่าไรก็ต้องห้ามชาร์จราคาเกินจริง เช่น เครื่องบินแอร์บัส A380 น้ำหนักมากสุด 580 ตัน
ค่าแลนดิ้งที่ลงกระแทกรันเวย์จะต้องคิดค่าสึกหรอแล้วต้องซ่อม
โดยใช้สูตรนำจำนวนครั้งขึ้น-ลงไปหารค่าใช้จ่าย ออกมาเป็นค่า Landing เป็นตรรกะของการคำนวณการจัดเก็บรายได้กับค่าใช้จ่ายของสนามบินซึ่งจะต้องสำแดงต้นทุน
ส่วนค่าธรรมเนียมผู้โดยสารสนามบิน/PSC
ที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน
ยังไม่ได้รวมเงินสมทบหรือต้นทุนดังกล่าว แต่เมื่อจะต้องจ่ายสมทบเข้ากองทุนก็เท่ากับต้นทุนเพิ่มขึ้น
แล้วจะหารายได้จากการขึ้นค่า PSC
หรือเปล่า ตามที่ได้กล่าวไว้ข้างต้นในการจัดเก็บจากกิจกรรมการบินถูกควบคุมไว้ตามกฎหมายระบุให้จากผู้โดยสารอยู่แล้ว
ตอบคำถามที่ว่าแล้ว
ทอท.จะต้องขึ้นค่า PSC หรือไม่
คำตอบคือไม่จำเป็น เพราะภาระที่เพิ่มขึ้นจากการส่งเงินเข้ากองทุน เมื่อ
ทอท.รับสนามบินมาบริหารค่า PSC
เป็นต่อหัว คือ “ต้นทุนหารจำนวนผู้โดยสาร” ถ้าต้นทุนเพิ่มขึ้นเข้ากรมท่าอากาศยาน
(ทย.) แต่ส่วนที่เพิ่มจากการรับบริหารสนามบินตัวนี้ก็จะสามารถคงค่า PSC ไว้ได้
โดยสรุปการสมทบเงินกองทุนเข้ากรมท่าอากาศยาน
กระทรวงคมนาคม ทอท.จะหาเงินมาจากแหล่งที่มาของรายได้ตามกฎหมายระบุ
ซึ่งขึ้นอยู่กับประสิทธิภาพการบริหารจัดการตามนโยบาย นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ขอให้ ทอท.หาวิธีเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดที่จะทำให้
“จำนวนผู้โดยสารเติบโต” จนกระทั่งไป offset ต้นทุนต่อหัวให้ได้ อย่าขึ้นค่า PSC จนกลายเป็นภาระประชาชน โจทย์นี้
ทอท.ได้รับมาทำเป็นการบ้านต่อไป
ฟังข่าวต้นชั่วโมง
ข่าวที่ 1 “คิง เพาเวอร์”ชวนฉลองตรุษจีนหมู่บ้านหนูทอง”
คิง เพาเวอร์ รางน้ำ จชวนมาช้อปสนุก กินสนั่น ได้ที่ THAI TASYE HUB ชั้น 3 |
กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์
เตรียมจัดฉลองรับตรุษจีนต้อนรับปีหนูทอง ตลอด 10 วัน ระหว่างวันที่ 23 มกราคม – 1
กุมภาพันธ์ 2563 ณ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ ภายใต้ธีมคอนเซ็ปต์ “THE BLESSING
COMES HOME” ในงาน ‘คิง เพาเวอร์ ไชนีส นิวเยียร์ 2020 เดอะ
เบลสซิ่ง คัมส์ โฮม’ ที่พร้อมนำเสนอเรื่องราวความสุขปีใหม่จีนด้วยงานศิลปะสุดงดงามผ่านคาแรกเตอร์
‘ครอบครัวหนู’ ตัวแทนนักษัตรประจำปีชวด ค.ศ. 2020 โดยฝีมือของ “ยูน-ปัณพัท
เตชเมธากุล” Illustrator ศิลปินนักออกแบบลายเส้นชื่อดังระดับโลกได้มารังสรรศิลปะถ่ายทอดวัฒนธรรมปีใหม่ของชาวจีนและคนไทยเชื้อสายจีนด้วยการจำลองให้ชมความอลังการใน
“หมู่บ้านหนูทอง :THE GOLDEN MOUSE VILLAGE” และตลอดงานนักท่องเที่ยวที่เข้ามาเยี่ยมชมยังจะได้ตื่นตาตื่นใจกับ
“ถนนมงคล : Paradise Food Street” ของนักเดินทาง
สามารถเลือกรับประทานอาหารจีนอร่อย ๆ ร้านต้นตำรับดังจากทั่วฟ้าเมืองไทยมากถึง 25
ร้าน รวมทั้งร่วมกิจกรรมมงคล ตรวจดวงชะตาฟรีกับนักพยากรณ์ชื่อดังศาสตร์จีนโบราณ
พร้อมเดินช้อปรับโชคมากมายได้ทุกวัน
โดยคิง เพาเวอร์
ได้ร่วมสร้างจินตนาการกับศิลปินระดับโลก “ยูน- ปัณพัท เตชเมธากุล”
โดยการรังสรรค์ผลงานชิ้นพิเศษวาดลวดลายเส้นถ่ายทอดเรื่องราวสะท้อนวัฒนธรรมอันดีงามในวันขึ้นปีใหม่ของชาวจีนให้นักท่องเที่ยวได้เข้ามาชมในหมู่บ้านหนูทอง
: THE GOLDEN MOUSE VILLAGE ซึ่งได้แรงบันดาลใจมาจากถนนซานถัง (Shantung
Street) เมืองซูโจว โดย UNESCO ขึ้นทะเบียนให้เป็นเมืองมรดกโลก
เนื่องจากมีประวัติศาสตร์และความงดงามเลื่องลือจนได้รับการขนานนามว่า
‘เวนิสแห่งตะวันออก’ งานนี้ศิลปินได้วาดแบบผสมผสานเทคโนโลยี AR ทำให้ภาพวาดเสมือนมีชีวิต
เป็นเทคนิคการภาพวาดลายเส้นสวยงามใน
“การเฉลิมฉลองครอบครัวในวันตรุษจีน” ด้วยการใช้ครอบครัวปีนักษัตรหนูสีขาว
สื่อถึงความน่ารักและเป็นมิตรรวม 6 ตัว โดยเน้นให้เห็นความโดดเด่นหลัก ๆ ได้แก่
ส่วนที่ 1 ลวดลายเสื้อผ้าที่สวมใส่สอดแทรกสัญลักษณ์เพื่อสื่อถึงความเป็นศิริมงคลรวมอยู่ด้วย
เช่น ค้างคาว ลูกท้อ ผลส้ม มังกร ดอกไม้ ผีเสื้อ
ส่วนที่ 2 ท่วงท่าของหนูในการทำกิจกรรมต่าง ๆ
ที่คนจีนมักทำในวันเฉลิมฉลองตรุษจีน เช่น การไหว้เจ้าและบรรพบุรุษ
การเสี่ยงเซียมซี รับประทานอาหารและผลไม้มงคล การแจกซองอั่งเปา
รวมถึงชื่นชมการเจริญเติบโตของลูกหลานในแต่ละขวบปี
เต็มเปี่ยมไปด้วยเสียงหัวเราะชื่นใจ ส่วนที่ 3 จะนำผลงานไปต่อยอดในรูปแบบของ AR
และ Mascot เพื่อให้ทุกคนได้สัมผัสชิ้นงานศิลปะที่งดงาม
จากวิธีการวาดภาพและลงสีด้วยมือเป็นเทคนิคสร้างสรรค์ผลงานเป็นประจำอันทรงคุณค่า
สามารถสร้างความประทับใจให้ผู้เข้าร่วมชมงานตลอดเทศกาลตรุษจีนครั้งนี้
ทั้งนี้ คิง เพาเวอร์ ได้นำ
“ครอบครัวหนู” ของยูน มาสื่อสารความมงคล 6 ประการ ได้แก่ 1.มีอายุยืนยาว ผ่าน
คุณปู่หนูคังคัง 2.สุขภาพแข็งแรง ผ่าน คุณย่าหนูเจี้ยนเจี้ยน
3.อิ่มหนำสำราญอุดมสมบูรณ์ ผ่าน คุณพ่อหนูฝูฝู 4.ร่ำรวยมั่งคั่ง ผ่าน
คุณแม่หนูฟู่ฟู่ 5.มีความสุขและเสียงหัวเราะ ผ่าน พี่ชายหนูเล่อเล่อ และ
6.รับโชคลาภ ผ่าน น้องสาวหนูเจียเจีย พร้อมกับนำมาเป็น Gimmick สร้างสีสันในโซน
“สตรีทอาร์ท” ผสมผสานเทคโนโลยี AR (Augmented Reality) ให้ผู้ชมงานร่วมสนุก
กับคาแรคเตอร์ “ครอบครัวหนู” ทั้ง 6 ตัว คือ คุณปู่หนูคังคัง คุณย่าหนูเจี้ยนเจี้ยน คุณพ่อหนูฝูฝู
คุณแม่หนูฟู่ฟู่ พี่ชายหนูเล่อเล่อ
น้องสาวหนูเจียเจีย
สำหรับไฮไลต์ตรุษจีน ที่ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ
อีกส่วนในบริเวณ ““ถนนมงคล : Paradise Food Street” จุดศูนย์รวมความอร่อยของร้านอาหารจีนกว่า
25 ร้าน แต่ละร้านล้วนแล้วแต่มีชื่อเสียงความอร่อยยอดนิยมระดับแถวหน้าของเมืองไทย
อร่อยจากรุ่นสู่รุ่น อร่อยคิวยาว อร่อยแบบไม่เคยออกงานที่ไหนมาก่อน
แต่ยกมาไว้ในงานนี้งานเดียว เช่น ก๋วยเตี๋ยวเจ๊ปุ๊ย พลับพลาไชย
ที่มีชื่อเสียงเรื่องลูกชิ้นปลา ฮือก้วยทำเองเปิดมานานกว่า 40 ปี ร้านหมูสะเต๊ะ นายสง่า เจ้าดังย่านเอกชัย
บางบอนการันตีว่ามางานนี้เป็นที่แรก
รวมถึงความมงคลที่มาพร้อมงานศิลปะ จาก Golden
Mouse Street Art , Prosperous Grand Canal ลุ่มแม่น้ำศักดิ์สิทธิ์ และ Lucky
Town Square จตุรัสมมอบโชค
ขณะเดียวกันก็เอาใจผู้ที่ชื่นชอบกิจกรรมเกี่ยวกับความเชื่อ
จึงได้จำลอง ‘ศาลเจ้ากลางเมือง’ ชื่อดัง ได้แก่ วัดเล่งเน่ยยี่ ศาลเจ้าพ่อเสือ
และอื่น ๆ
เพื่อให้ทุกคนได้มาสักการะขอพรกัน
พร้อมร่วมเสริมเฮงรับตรุษจีนกับสุดยอดเทคนิคการไหว้เจ้าใน
‘นิทรรศการมงคล’ กับกิจกรรมประดิษฐ์ของมงคลตามความเชื่อ ซึ่งมีการสาธิตทุกวัน
รับของมงคลหลังการสาธิต เช่น ศิลปะการตัดกระดาษจีน กู่เฉียนเหรียญจีนโบราณ 1
ในสุดยอด 28 ของมงคลที่เชื่อว่าสามารถนำโชคลาภมาให้แต่ละคน
หรือจะเลือกตรวจดวงชะตากับนักพยากรณ์ชื่อดังเมื่อช้อปครบ
20,000 บาท ใน คิง เพาเวอร์
กับสุดยอดศาสตร์พยากรณ์ที่น่าสนใจ ได้แก่ หมอฮั่น มาจอง
ผู้เชี่ยวชาญด้านศาสตร์ไพ่นกกระจอกจีน อาจารย์เล็ก
ผู้เชี่ยวชาญด้านศาสตร์การใช้ดนตรีกู่เจิ้งในการพยากรณ์
ห้ามพลาดโปรโมชั่นพิเศษ ตลอดตรุษจีน
ตั้งแต่วันนี้ – 29 กุมภาพันธ์ 2563 ทาง คิง เพาเวอร์ ทั้ง 6 สาขา ได้แก่ รางน้ำ
ศรีวารี พัทยา ภูเก็ต สุวรรณภูมิ และดอนเมือง ชวนสมัครสมาชิกบัตรคิง เพาเวอร์
ทางออนไลน์ www.kingpower.com 1.บัตรประเภท
Scarlet มูลค่า 6,000 บาท รับคูปองส่วนลด On Top
10% จำนวน 1 ใบ
พร้อมรับอั่งเปาเงินคืน 60 กะรัต (มูลค่า 60 บาท) 2.บัตรประเภท Onyx
มูลค่า 60,000 บาท รับคูปองส่วนลด On Top 10%
จำนวน 2 ใบ พร้อมรับอั่งเปาเงินคืน 600
กะรัต (มูลค่า 600 บาท)
สำหรับพิธีเปิดงาน ตรุษจีน คิง
เพาเวอร์ จะมีในวันพฤหัสบดีที่ 23 มกราคม 2563 เวลา 19.00 น.
เต็มอิ่มกับความบันเทิงครบเต็มรูปแบบ ทั้งแสง สี เสียง สุดตระการตา
ชมการแสดงโชว์ชุดพิเศษ ‘The Blessing Comes Home’ จากดีว่าสาวเสียงทรงพลัง
‘เจนนิเฟอร์ คิ้ม’ และนักแสดงซีรีย์หนุ่มขวัญใจชาวจีน ‘เพิร์ธ - ธนพนธ์
สุขุมพันธนาสาร’ พร้อมการแสดงโชว์สิงโตมอบความสุขและอำนวยพรมงคลแก่ผู้มาเยือน คิง
เพาเวอร์ รางน้ำ ในวันดังกล่าว
ข่าวที่ 2 สมาชิกคิงเพาเวอร์ซื้อบัตรMayaMusicรับเงินคืน3แสน
ข่าวที่ 2 สมาชิกคิงเพาเวอร์ซื้อบัตรMayaMusicรับเงินคืน3แสน
คิง เพาเวอร์ ให้สิทธิ์ผู้ถือบัตรสมาชิกซื้อตั๋วพร้อมรับโวเชอร์เงินคืนสูงสุด 300,000 บาท ในการเข้าฟังดนตรีระดับโลก "MAYA MUSIC FESTIVAL 2020" ระหว่างวันที่ 31 ม.ค.-1 ก.พ.63 ณ MAYA SPACE พัทยา |
กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ให้สิทธิพเศษแก่สมาชิก
คิงเพาเวอร์เมื่อซื้อบัตรเข้างาน Maya Music
Festival 2020 วันนี้ รับทันที King Power Voucher มูลค่าสูงสุดถึง
300,000 บาท ในการชมดนตรีระดับโลกอย่างเต็มอิ่มกับ 4
เวที 4 สไตล์ 4
แนวดนตรี ทั้ง Live Stage, EDM Stage, Trap Stage และ
Pool & After Party วันที่ 31
มกราคม และ 1 กุมภาพันธ์ 2563
ที่ MAYA Space พัทยา
สิทธิพิเศษเฉพาะลูกค้า คิง เพาเวอร์
ซื้อบัตรวันนี้รับทันที King Power Voucher วันนี้
– 1 กุมภาพันธ์ 2563
1.บัตรประเภท GA Plus+ มูลค่า
4,599 บาท รับทันที
King Power Voucher มูลค่า 500
บาท เพียงกรอกรหัส Promo code: KPMAYA2020 ผ่านทางเว็บไซต์ www.mayamusicfestival.com
สำหรับบัตรประเภท VIP Table,
VVIP Table และ Crown Table รับทันที
King Power Voucher เมื่อซื้อบัตรผ่านทางหมายเลขโทรศัพท์ 0
953 678 978
2.บัตรประเภท VIP Table มูลค่า
107,000 บาท รับทันที
King Power Voucher มูลค่า 10,000
บาท
3.บัตรประเภท VVIP Table มูลค่า
321,000 บาทรับทันที King Power Voucher มูลค่า
30,000 บาท
4.บัตรประเภท Crown Table มูลค่า
1,500,000 บาท รับทันที
King Power Voucher มูลค่า 300,000
บาท
ทั้งนี้สามารถสิทธิประโยชน์
King Power Voucher ไปใช้ได้ที่ คิง เพาเวอร์ รางน้ำและ พัทยา
เท่านั้น หมดเขต 31 มีนาคม 2563
ข่าวที่ 3 “ททท.บูมตรุษจีน9จังหวัด14พื้นที่ทั่วไทย
พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี สนับสนุนการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) บูมการท่องเที่ยวฉลองเทศกาลตรุษจีนทั่วไทย 9 จังหวัด 14 พื้นที่ ระหว่าง 23 ม.ค.-1 ก.พ.2563 |
ดร.ยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) นำทีมจัดงานเทศกาลตรุษจีนทั้งในกรุงเทพมหานคร และพื้นที่ที่ ททท.สนับสนุนการจัดงานรวมทั้งหมด 9 จังหวัด 14 พื้นที่ ที่มีเอกลักษณ์ ที่จะเชิญชวนนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติเชื้อสายจีน เข้ามาใช้จ่ายเงินตลอดเทศกาลสำคัญ สามารถทท่องเที่ยวและร่วมกิจกรรมต่าง ๆ ดังต่อไปนี้
1. กรุงเทพมหานคร 2 พื้นที่
พื้นที่ 1 ตรุษจีนเยาวราช ประจำปี 2563
วันที่ : 25 – 26 มกราคม 2563 บริเวณซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติฯ ถนนเยาวราชกิจกรรม
: ร่วมรับเสด็จฯ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ
สยามบรมราชกุมารี เสด็จเป็นองค์ประธานในพิธีเปิดงาน ในวันที่ 25 มกราคม 2563
ชมการแสดงทางวัฒนธรรมจากสาธารณรัฐประชาชนจีน
รับเหรียญที่ระลึกในงานเทศกาลตรุษจีนเยาวราช จำนวน 9,999 เหรียญต่อวัน ชมการออกร้าน
และการแสดงจากศิลปินชื่อดัง
พื้นที่ 2 เทศกาลตรุษจีนประเทศไทยประจำปี 2563 วันที่ : 24 - 26 มกราคม 2563 สถานที่ : ลานสีฟ้า สยามสแควร์ ชม - การแสดงทางวัฒนธรรมจากประเทศไทย และสาธารณรัฐประชาชนจีน - การออกร้านจำหน่ายอาหารมงคลต่างๆ การแสดงจากศิลปินชื่อดัง
2. จังหวัดสุพรรณบุรี :
ตรุษจีนสุพรรณบุรี มหัศจรรย์ 12 ปี มังกรสวรรค์ วันที่ 25 - 27 มกราคม 2563 ณ อุทยานมังกรสวรรค์
พิพิธภัณฑ์ลูกหลานพันธุ์มังกร อำเภอเมือง จังหวัดสุพรรณบุรี ร่วมสักการะเจ้าพ่อหลักเมืองและภาพเจ้าในศาลเจ้าในภาคกลางคืน
จำหน่ายสินค้าและอาหารในราคาประหยัด การแสดงชุด ลูกหลานพันธุ์มังกร ประกอบด้วย
สิงโตวูซู กลองศึก มังกร 9 เซียน กังฟู เอ็งกอบู๊ กวนอิมพันมือ งิ้วเปลี่ยนหน้ากาก
โดยการแสดงจากเยาวชนชาวสุพรรณบุรี การแสดงจากศิลปินชื่อดัง
3. จังหวัดราชบุรี : ราชบุรีไชน่าทาวน์
2020 วันที่ : 24 - 27 มกราคม 2563 ณ ถนนอัมรินทร์และถนนวรเดชตลอดสาย อำเภอเมือง
จังหวัดราชบุรี ชมประกวดหมวยน้อยไชน่าทาวน์ตี๋น้อยไชน่าทาวน์
มิสเตอร์ไชน่าทาวน์ และมิสไชน่าทาวน์ การแสดงของนักเรียนและการแสดงแสงสีเสียง
การแสดงพลุดอกไม้ไฟ การผัดหมี่มงคลกระทะยักษ์ ขบวนแห่เทศกาลตรุษจีน
4. จังหวัดนครสวรรค์ :
ประเพณีแห่เจ้าพ่อ เจ้าแม่ ปากน้ำโพ (เทศกาลตรุษจีนนครสวรรค์) “อัตลักษณ์ประเพณี
วิถีแห่งศรัทธา” วันที่ : 18 - 29 มกราคม 2563 ณ หาดทรายริมน้ำ ต้นแม่น้ำเจ้าพระยา นักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวชมงานตรุษจีนตลอดทั้ง12
วัน 12 คืน ร่วมสนุกกับกิจกรรมประทับตราพลาสปอร์ตเที่ยวงานลุ้นรางวัล
พิธีแก้ชงที่ถูกต้องตามตำรา เดินลอดซุ้มประตูหัวเสือซุ้มประตูหัวมังกรขนาดใหญ่
5. จังหวัดเชียงใหม่ :
เทศกาลตรุษจีนไชน่าทาวน์เมืองเชียงใหม่ วันที่ : 24 - 26 มกราคม 2563
ตรอกเล่าโจ้ว ถนนวิชยานนท์ และ ถนนช้างม่อย ชมการแสดงศิลปวัฒนธรรมจากสาธารณรัฐประชาชนจีน
มหกรรมอาหาร ของฝากของที่ระลึกการประกวดหนูน้อย ตี๋หมวย สวย เก่ง การแสดงเชิดสิงโต
เสาดอกเหมย มังกรไฟ
6. จังหวัดสงขลา (หาดใหญ่) 1.: เทศกาลตรุษจีนหาดใหญ่ ประจำปี 2563 วันที่ : 25 - 29 มกราคม 2563 ณ โรงเรียนศรีนครมูลนิธิ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ร่วมสักการะขอพรเจ้าแม่กวนอิม และเฒ่าจันทรา ชมคอนเสิร์ตจากศิลปินชื่อดัง การประกวด Miss Chinese Hatyai 2020 และหนูน้อย Chinese Kids 2020 ชมหนังกลางแปลง ลุ้นรางวัลจากซุ้มสอยดาว และร่วมตรุษจีนประเพณีแห่พระสะเดาะเคราะห์มูลนิธิมิตรภาพสามัคคี (ท่งเซียเซี่ยงตึ๊ง) หาดใหญ่ วันที่ : 25 มกราคม – 3 กุมภาพันธ์ 2563 สถานที่ : มูลนิธิมิตรภาพสามัคคี (ท่งเซียเซี่ยงตึ๊ง) อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา
7. จังหวัดภูเก็ต :
งานตรุษจีนย้อนอดีตเมืองภูเก็ต ครั้งที่ 20 (ฉลอง 170 ปี) วันที่ : 30 มกราคม – 1
กุมภาพันธ์ 2563 ณ สวนเฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษามหาราชินี ย่านเมืองเก่าภูเก็ต
(ถนนถลางถนนกระบี่ ถนนเทพกระษัตรี ถนนพังงา ซอยรมณีย์ พิพิธภัณฑ์ภูเก็ตไทยหัว) ชมสถาปัตยกรรมโคโลเนียล
บนถนนสายประวัติศาสตร์ ย่านการค้าเมืองเก่า ชมการแสดงศิลปวัฒนธรรมจากสาธารณรัฐประชาชนจีน ชมขบวนแห่ที่ยิ่งใหญ่ตระการตา
และการแสดงศิลปวัฒนธรรม ชมการสาธิตอาหารพื้นเมืองภูเก็ตนานาชนิด
พร้อมชิมลิ้มลองรสชาติ สดใสกับสีสันโคมไฟ แสงสีสุดอลังการ
เลือกสรรและเลือกชิมสินค้าและอาหารพื้นเมือง
8. จังหวัดอุดรธานี :
เทศกาลตรุษจีนอุดรธานี 2563 วันที่ 24 - 26 มกราคม 2563 ณ ถนนประจักษ์ศิลปาคม
เทศบาลนครอุดรธานี ไหว้ขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์จากวัดสุนทรประดิษฐ์
ถอดรหัสรับดวงเฮงปีกุนจากนักพยากรณ์ชื่อดัง ชมความสวยงามจากองค์ประธานพระโพธิสัตย์กวนอิม
ขนาดใหญ่กว่า 8 เมตร มีถนนอาหารหลากหลายเมนู
การประกวดเชิดสิงโตดอกเหมยการประกวด kid Chinese มิสอาหมวยอุดรธานี
9. จังหวัดชลบุรี จัด 4 พื้นที่ ได้แก่ 1.เทศกาลตรุษจีนเมืองพัทยา วันที่ : 25
มกราคม 2563 สถานที่ : ชายหาดพัทยากลาง และวอล์คกิ้งสตรีท 2.ตรุษจีนชุมชนบ้านซากแง้ว วันที่ : 25
มกราคม 2563 สถานที่ : ชุมชนบ้านซากแง้ว อำเภอบางละมุง 3.
เทศกาลตรุษจีนและเทศกาลนมัสการเจ้าพ่อเขาใหญ่อำเภอเกาะสีชัง วันที่ : 25 มกราคม –
31 มีนาคม 2563 สถานที่ : อำเภอเกาะสีชัง 4. เทศกาลตรุษจีน ประจำปี 2562
มูลนิธิธรรมรัศมีมณีรัตน์ ศาลเจ้าหน่าจาซาไท้จื้อ วันที่ : 25 - 27 มกราคม 2563
สถานที่ : ศาลเจ้าหน่าจาซาไท้จื้อ
ข่าวที่ 4 “ททท.-3องค์กรหนุนประชุมผู้นำสตรีโลกบูมเศรษฐกิจ”
ศรีสุดา วนภิญโญศักดิ์ รองผู้ว่าด้านตลาดยุโรป แอฟริกา ตะวันออกกลาง และอเมริา ททท. ร่วมกับ3องค์กร สนับสนุนไทยเป็นเจ้าภาพจัดประชุมสุดยอดผู้นำสตรีไทย ระหว่าง 23-25 เม.ย.2563 |
นางศรีสุดา วนภิญโญศักดิ์ รองผู้ว่าการด้านตลาดยุโรป แอฟริกา
ตะวันออกกลาง และอเมริกา การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ททท.ร่วมกับ
3 องค์กร
สนับสนุนการจัดประชุมสุดยอดผู้นำสตรีโลก 2020 ที่มาจัดในไทยช่วงเดือนเมษายน
2563 จะเป็นโอกาสอันดียิ่งด้านการเน้นย้ำภาพลักษณ์ที่ดีและเปิดประสบการณ์การท่องเที่ยวเมืองไทย
ที่มีความเป็นมิตรกับนักท่องเที่ยวทุกกลุ่ม โดยเฉพาะกลุ่มสตรีตลาดศักยภาพสูงที่ได้ส่งเสริมต่อเนื่องอย่างจริงจัง มีแนวโน้มรายได้เฉลี่ยสูงกว่าผู้ชาย
และเริ่มมีบทบาทมากขึ้นในตำแหน่งผู้บริหารระดับสูง ปัจจุบันเดินทางกลุ่มสตรีถือเป็นผู้บริโภคขนาดใหญ่เติบโตอย่างรวดเร็ว
สามารถสร้างเม็ดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจของประเทศได้อย่างทรงพลังต่อไป
ปี 2563
ไทยจะเป็นเจ้าภาพจัด “งานประชุมสุดยอดผู้นำสตรีโลก 2020” (Global Summit of
Women 2020) ในระหว่างวันที่ 23-25
เมษายน 2563 ณ โรงแรม Centara Grand และ
Bangkok Convention Centre กรุงเทพฯ ภายใต้ Theme: “Women
Revolutionizing Economies” พลังสตรีพลิกเศรษฐกิจ โดยการสนับสนุนของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ สสปน.
และบริษัทเอกชนชั้นนำของประเทศไทย
ที่เล็งเห็นถึงความสำคัญและบทบาทของสตรีในเวทีโลก
การประชุมสุดยอดผู้นำสตรีโลก 2020 ปีนี้จะฉลองครบรอบ
30 ปี โดยมีผู้เข้าร่วมกว่า 1,000 คน เป็นเวทีระดับโลกที่มีความสำคัญ
เชื่อมนักธุรกิจ นักวิชาชีพ ผู้บริหารทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคสังคมจากทั่วโลก
สร้างเครือข่ายความร่วมมือและแบ่งปันประสบการณ์เพื่อขยายโอกาสทางธุรกิจและส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจของโลกอย่างยั่งยืน
ข่าวที่ 5 “TCEBแจกอินเซ็นทีฟ2หมื่นจัดประชุมเมืองไทย
นางสาววิชญา สุนทรศารทูล รักษาการรองผู้อำนวยการ สายงานบริหาร สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) “TCEB” |
นางสาววิชญา สุนทรศารทูล รักษาการรองผู้อำนวยการ สายงานบริหาร
สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) “TCEB” เปิดเผยว่า
เปิดศักราชใหม่ 2563 ทีเส็บพร้อมขานรับนโยบายรัฐบาลกระตุ้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยวระยะสั้น
ระยะกลาง และระยะยาว
ด้วยการทำตลาดไมซ์ให้เกิดใช้จ่ายสร้างรายได้หมุนเวียนในประเทศด้วยโครงการ “ประชุมเมืองไทย
ส่งเสริมเศรษฐกิจไทย” ภายใต้แคมเปญ “ประชุมเมืองไทย ภูมิใจช่วยชาติ” จะเริ่มขับเคลื่อนตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2563 และภายใน 31 กรกฎาคม นี้
คาดจะทำรายได้หมุนเวียนเข้าสู่ชุมชนท้องถิ่นกว่า 70 ล้านบาท
จากการวางกลยุทธ์รุกเจาะกลุ่มองค์กรภาครัฐและเอกชน
ออกเดินทางจัดประชุมองค์กรและการเดินทางเพื่อเป็นรางวัล หรือ Meetings and Incentives (MI) ในประเทศของกลุ่มบริษัทองค์กรได้ไม่ต่ำกว่า 500 กลุ่ม หรือเฉลี่ย 20,000 ถึง 40,000 คน
โปรเจ็กต์นี้ทางทีเส็บจะจับมือกับสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
และสมาชิกผู้ประกอบการไมซ์กว่า 200 หน่วยงาน
โดยทีเส็บจะสนับสนุนกลุ่มองค์กรบริษัท (Corporate) ในการจัดประชุมองค์กรและการเดินทางเพื่อเป็นรางวัลภายในประเทศ
ภายใต้เงื่อนไขหลัก ๆ คือ 1.จะต้องจัดกิจกรรมนอกจังหวัดของตนเอง 2.มีวันพักค้างอย่างน้อย 1 คืน 3.มีจำนวนผู้เข้าร่วมงานอย่างน้อยกลุ่มละ 40 คนขึ้นไป
หากองค์กรหรือหน่วยงานใดสามารถปฏิบัติตามเกณฑ์ดังกล่าวได้
ทีเส็บจะสนับสนุนในรูปแบบบัตรกำนัล (Voucher) มูลค่า 20,000 บาท/กลุ่ม
แล้วให้องค์กรและหน่วยงานจะต้องจัดงานผ่านบริษัทผู้รับจัดบริการเดินทางที่เป็นนิติบุคคลจดทะเบียนในเมืองไทย
(DMC
: Destination Management Company) ที่เข้าร่วมโครงการฯ
โดยสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย จะเป็นผู้รับรอง
สมาชิกผู้ประกอบการด้านไมซ์ ทั้ง DMC โรงแรมที่พัก ศูนย์ประชุม
บริการขนส่ง และแหล่งนันทนาการต่าง ๆ
อยู่ในทุกภูมิภาคทั่วประเทศที่พร้อมต้อนรับและให้บริการนักเดินทางด้วยไมตรี
สำหรับ DMC ที่เข้าร่วมโครงการฯ
ล้วนเป็นมืออาชีพพร้อมให้คำแนะนำและเป็นทั้งผู้จัดหาและจัดการตอบโจทย์ความต้องการในการจัดงานครบวงจร
สร้างสรรค์ประสบการณ์จัดงานที่แตกต่างและน่าประทับใจ
เริ่มสมัครได้เลยตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป
ทั้งนี้องค์กรและหน่วยงานที่สนใจขอรับการสนับสนุน สอบถามได้ที่
สำนักส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (ส่วนภูมิภาค) โทร. 02 694 6000
ช่วงที่ 2 เดินทางเที่ยวสโลว์ไลฟ์ใกล้กรุง ไป More
Fun “เขาหินซ้อน-ตลาดบางคล้า-วัดโพธิ์บางคล้า”
ในมุมสงบสวยสะอาดในอ้อมกอดธรรมชาติสุดชีล พร้อมกับดูแลสุขภาพกับ “เคล็ดลับ7สัปดาห์รู้สู่สุขภาพดี”
@ More Fun
เขาหินซ้อน-บางคล้า ฉะเชิงเทรา
ศูนย์การศึกษาพัฒนาเขาหินซ้อน และโครงการพัฒนาส่วนพระองค์เขาหินซ้อน |
การเดินทางสบาย
ๆ ไป More Fun กันที่
“ฉะเชิงเทรา” เพื่อชมความสมบูรณ์ทางธรรมชาติของพื้นที่ทุกตารางนิ้วใน
“ศูนย์การศึกษาพัฒนาเขาหินซ้อน และโครงการพัฒนาส่วนพระองค์เขาหินซ้อน”
เขียวขจีในพื้นที่ราว 1,250 ไร่ มีหมู่บ้านล้อมรอบพื้นที่กว่า
15 หมู่บ้าน
เป็นโครงการที่เกิดขึ้นจากแนวพระราชดำริในหลวงรัชกาลที่ 9 จากที่ดินแห้งแล้งเมื่อครั้งอดีตแปรเปลี่ยนเป็นความธรรมชาติเขียวขจีร่มเย็น
ด้วยการนำเทคโนโลยีเข้ามาพัฒนาปลูกพืช เลี้ยงสัตว์
เน้นให้ชาวบ้านใช้วิธีผสมผสานกับพื้นที่ตัวเองได้
นักท่องเที่ยวสามารถไปเยี่ยมชมดูกิจกรรมต่าง ๆ ได้ โทร.038 599 105-6
จากนั้นก็ไปเดิน
“ตลาดน้ำบางคล้า” เป็นโป๊ะยื่นลงสู่แม่น้ำมีอาหารอร่อย ๆ
และวิถีชีวิตคนริมฝั่งแม่น้ำบางปะกง แวะกินมื้อเที่ยงมีเมนูคาวขึ้นชื่อ อย่าง
กุ้งเผา ปลาเผา ปลาหมึกย่าง ส้มตำ ห่อหมก ของหวานก็มี ขนมจาก กระหรี่ปั๊บ
ขนมไทยหลากหลายชนิด
ผสมผสานความไทยโบราณกับยุคใหม่เข้ากันได้อย่างลงตัว
พอเสร็จเลือกช้อปสินค้าชุมชนซื้อติดมือกลับบ้านได้
ตลาดน้ำบางคล้า ฉะเชิงเทรา มีอาหารทั้งคาว หวาน ต้นตำรับท้องถิ่น รสชาติอร่อย ๆ เพียบ |
ค้างคาวแม่ไก่จำนวนกว่าแสนตัวที่วัดโพธิ์บางคล้า เวลากลางวันจะนอนห้อยหัวลง พอใกล้ค่ำก็จะออกหากิน |
ก่อนกลับรอชมค้างคาวแม่ไก่ที่
“วัดโพธิ์บางคล้า” เป็นวัดเก่าแก่อายุกว่าร้อยปี
สันนิษฐานว่าวัดแห่งนี้สร้างในสมัยพระเจ้าตากสินมหาราชในพื้นที่กว่า 31 ไร่ มีค้างคาวแม่ไก่ปีสีดำหน้าเหมือนสุนัขมาอาศัยอยู่นับแสนตัว
ช่วงกลางวันมันจะห้อยหัวเกาะอยู่ตามกิ่งไม้
พอพลบค่ำก็จะพากันบินเป็นสายขึ้นสู่ท้องฟ้าเพื่อออกไปหากินผลไม้
แต่ก็ไม่ได้สร้างความเสียหายแก่ชาวบ้าน
เมื่อไปถึงวัดโพธิ์บางคล้าแล้วก็สามารถเข้าไปสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์
ในศาลาขนาดใหญ่ซึ่งเป็นที่ประดิษฐานรูปหล่อของพระเกจิอาจารย์ดังหลายรูป
และพระเบญจภาคีของเมืองไทย เช่น พระลอดเมืองลำพูน สมเด็จวัดระฆัง
พระนางพญาพิษณุโลก พระซุ้มกอ พระผงสุพรรณ และพระคู่บ้านเมืองฉะเชิงเทรา
หลวงพ่อพุทธโสธร
การท่องเที่ยวแบบง่าย
ๆ สโลว์ไลฟ์ใกล้กรุงเทพฯ ได้ครบความสุขและความสนุกครบทุกอย่างในฉะเชิงเทรา
มีเวลาแวะมาเที่ยวได้ทุกวัน
@สูตรเด็ด 7
สัปดาห์รอบรู้เรื่องสุขภาพแล้วดี
แพทย์หญิงพรรณพิมล วิปุลากร
อธิบดีกรมอนามัย เชิญชวนคนไทยร่วมสูตรการปฎิบัติ
7 สัปดาห์
รอบรู้เรื่องสุขภาพแล้วดีให้เริ่มตั้งแต่
สัปดาห์ที่ 1
จุดเริ่มต้นทำความรู้จักกับร่างกายตัวเอง
โดยวัดรอบเอวและชั่งน้ำหนักและเริ่มก้าวด้วยการเดินให้ได้ ประมาณวันละ 10,000
- 15,000 ก้าว จะช่วยเผาผลาญร่างกายได้ 350-500
แคลอรี่
สัปดาห์ที่ 2ควรกินแป้งวันละ
6-8 ทัพพี ลดหวาน มัน เค็ม
และเพิ่มการออกกำลังกายมากขึ้น
สัปดาห์ที่ 3
เน้นกินเนื้อปลาหรือเนื้อสัตว์ที่ไม่ติดมัน ดื่มนมไขมันต่ำวันละ 1-2
แก้ว หลีกเลี่ยงน้ำหวาน และดื่มน้ำเปล่าอย่างน้อยวันละ 6-8
แก้ว
สัปดาห์ที่ 4
เลือกกินผักสด และผลไม้สดให้มากขึ้น และระหว่างการทำงาน
ควรทำกายบริหารยืดกล้ามเนื้อทุก 1 ชั่วโมง พักสายตาจากจอคอมพิวเตอร์ทุก 10
นาที และปรับท่าการทำงานทุก 20 นาทีเพื่อป้องกันโรคออฟฟิศซินโดรม
สัปดาห์ที่ 5
กำจัดความเครียด ด้วยการดูหนัง ฟังเพลง และนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอวันละ 7-9
ชั่วโมง
สัปดาห์ที่ 6
ทบทวนการบริโภคอาหารเพื่อสุขภาพ 5 สัปดาห์ที่ผ่านมา ยืดเหยียดกล้ามเนื้อก่อน-หลังออกกำลังกายท่าละ
10-30 วินาที และออกกำลังกายให้ต่อเนื่องมากกว่า 20
นาทีต่อวัน สัปดาห์ละ 5 วันถ้าน้ำหนักไม่ลดให้เพิ่มเวลาเป็น 30-60
นาที รวมทั้งดูแลรูปร่างให้กระชับด้วยการออกกำลังกายและทุกๆ
สัปดาห์ควรเพิ่มจำนวนก้าว 10 เปอร์เซ็นต์ และจดบันทึกจำนวนก้าวทุกครั้ง
สัปดาห์ที่ 7
สัปดาห์สุดท้ายแห่งการพิชิตเส้นชัย วิถีสุขภาพดี โดยประเมินร่างกายตัวเอง
เพื่อเปรียบเทียบร่างกายก่อนและหลังเข้าโปรแกรม 7
สัปดาห์รอบรู้และทบทวนความรู้ กิจกรรมต่างๆ ที่ทำมาตั้งแต่สัปดาห์ที่ 1
รวมทั้งประเมินร่างกายตัวเองอีกครั้งเมื่อครบ 6
เดือนหรือ 12 เดือน
หลังจากครบทั้ง 7 สัปดาห์แล้วควรหมั่นดูแลสุขภาพของตัวเองตามแนวทาง
7 สัปดาห์ต่อไปอย่างสม่ำเสมอ
เพื่อสุขภาพที่ดีในระยะยาวด้วย
ฟังข่าวท้ายชั่วโมง
ข่าวแรก “UNWTOชี้ท่องเที่ยวปี63ไทยพอมีหวัง”
องค์การการท่องเที่ยวโลกแห่งสหประชาชาติ
(UNWTO) รายงานถึงสถานการณ์การท่องเที่ยวปี
2563 จะมีคนทั่วโลกเดินทางกว่า 1,600 ล้านคน
หลั่งไหลเข้ามาเอเชียแปซิฟิกมากสุดถึง 416 ล้านคน หรือ1
ใน 4 โดยมีไทยเป็นประเทศจุดหมายปลายทางสำคัญซึ่งจะเป็นส่วนช่วยพยุงเศรษฐกิจของไทยไว้ได้ท่ามกลางปัจจัยลบทั้งภายในประเทศและทั่วโลก
ดร.ยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ยืนยันว่า
ปี 2563 ยังคงเป้ารายได้ตามนโยบายของรัฐบาลคือไม่ต่ำกว่า 3.2
ล้านล้านบาท โดยยังมีสามารถพึ่งพาตลาดในกลุ่มประเทศ
CLMV กัมพูชา สสป.ลาว เมียนมา เวียดนาม และ อาเซียนเก่าหลัก
ๆ มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ เวียดนาม อินโดนีเซีย ส่วนเอเชียที่ยังโดดเด่นก็มี เกาหลี ไต้หวัน
อินเดีย ยุโรป ก็มี สเปน ยุโรปตะวันออก ตะวันออกกลางมีอิสราเอล และสหรัฐอเมริกา
และอีกหลายตลาดมีแนวโน้มฟื้นตัวทั้ง จีน สิงคโปร์ ตะวันออกกลาง ส่วนที่ชะลอตัวก็มี
ญี่ปุ่นฮ่องกง ยุโรป สแกนดิเนเวีย ออสเตรเลีย และละตินอเมริกา
ขณะที่ สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ
(องค์การมหาชน) “NIA” แนะนำให้อุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย นำ
นวัตกรรมเข้ามาประยุกต์ใช้ในให้เกิดประโยชน์ ทั้ง AR (Augmented Reality) และ VR (Virtual Reality) ที่การนำเสนอข้อมูลเชิงเสมือนที่ผสมผสานกับโลกของความเป็นจริง
เพื่อกระตุ้นการสินใจเลือกไปใช้บริการไม่ว่าจะเป็นโรงแรม ร้านอาหาร แหล่งท่องเที่ยว
การเข้าร่วมกิจกรรม และอื่น ๆ
ข่าวที่สอง
“ทย.ไม่คืบแผนปัดฝุ่นสนามบินใกล้กรุงที่นครปฐม”
ดร.จรุณ มีสมบูรณ์
รองอธิบดีกรมท่าอากาศยาน
ประธานคณะกรรมการตรวจรับพัสดุในงานจ้างที่ปรึกษาโครงการศึกษาความเหมาะสมในการจัดตั้งสนามบินนครปฐม
เผยว่า กรมท่าอากาศยานได้จัดประชุมรับฟังความคิดเห็นของประชาชนครั้งที่ 2 (ปัจฉิมนิเทศ)
โครงการท่าอากาศยานนครปฐม เพื่อบรรเทาความคับคั่งของท่าอากาศยานหลัก
และอำนวยความสะดวกให้กับประชาชน
โดยศึกษาเปรียบเทียบพื้นที่ทางเลือกที่มีศักยภาพในการก่อสร้างสนามบิน
ซึ่งพิจารณาปัจจัยในหลายด้าน ทั้งในด้านเศรษฐกิจ วิศวกรรม และสิ่งแวดล้อม
เพื่อคัดเลือกพื้นที่ที่เหมาะสม รวมทั้งสำรวจ ออกแบบ และจัดทำแบบก่อสร้างเบื้องต้น
ตอนนี้ยังไม่มีข้อสรุป
ข้อมูลภายหลังจากการศึกษาเบื้องต้นพบว่าพื้นที่ที่มีความเหมาะสมในการก่อสร้างคือ อำเภอบางเลน (ต.บางระกำ ต.ลำพญา) และอำเภอนครชัยศรี (ต.บางแก้วฟ้า ต.บางพระ ต.วัดละมุด) ห่างจากโครงการก่อสร้างทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง สายบางใหญ่-กาญจนบุรี ประมาณ 5.3 กิโลเมตร และใช้เวลาเดินทางจากกรุงเทพฯ ประมาณ 1 ชั่วโมง 10 นาที ซึ่งจากการออกแบบโครงการฯจะมีพื้นที่ขนาด 3,500 ไร่ ทางวิ่งขนาด 45x2,500 เมตร อาคารที่พักผู้โดยสาร 3 อาคาร พื้นที่ประมาณ 115,740 ตารางเมตร รองรับผู้โดยสารได้ 5,100 คนต่อชั่วโมง อาคารและลานจอดรถ จอดรถได้ประมาณ 4,200 คัน
ติดตามฟังรายการได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์
เวลา 11.00-12.00 น.ทาง สวท.FM
97.0 MHz.
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น