“ศูนย์สิริกิติ์”ปลุกจุดขายซอฟท์เพาเวอร์รับAPEC2022 ชูสตอรี่“อาหาร/วัฒนธรรม/แฟชั่นผ้า”ย้ำให้โลกปลื้มไทย
“ศูนย์สิริกิติ์”ปลุกจุดขายซอฟท์เพาเวอร์รับAPEC2022
ชูสตอรี่“อาหาร/วัฒนธรรม/แฟชั่นผ้า”ย้ำให้โลกปลื้มไทย
เรื่องโดย...#เพ็ญรุ่งใยสามเสน #gurutourza #รายการรวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97 #TheJournalistclub #QSNCC #APEC2022 #Streetfood #RoyalCuisine
อ่านใน website
TheJournalistclub
จากลิงค์นี้ https://thejournalistclub.com/
“ศูนย์สิริกิติ์” จัดทัพรับ“เอเปค 2022”
ครบทุกมิติ ทั้ง “พื้นที่ไฮเทค3.3แสนตรม.-บริการ-ทีมงานมืออาชีพ”
โชว์พลังซอฟท์ เพาเวอร์ไทยกระหึ่มโลกทั้ง “อาหาร/วัฒนธรรม/แฟชั่น”
คัดวัตถุดิบชุมชน ผ้าพื้นเมือง หัตถกรรมท้องถิ่น บูม “โลคอลสู่เลอค่า”
สร้างสตอรี่วิถีไทยผ่านเมนูอาหารสตรีทฟู้ดไปจนถึงรอยัล ครุยซีน ตลอดงาน 14-19 พ.ย.65
นายศักดิ์ชัย ภัทรปรีชากุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็น.ซี.ซี. แมนเนจเมนท์ แอนด์ ดิเวลลอปเม้นท์ จำกัด เปิดเผยว่า ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ (QSNCC) ได้รับเกียรติให้เนสถานที่จัดงานเอเปค 2022 และต้อนรับผู้นำและผู้เข้าร่วมประชุมจาก 21 เขตเศรษฐกิจภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ระหว่างวันที่ 14-19 พฤศจิกายน 2565 ถือเป็นที่สุดของอีเวนต์แพลตฟอร์ม ที่ได้วางแผนความพร้อมอย่างเต็มที่ทุกมิติหลังลงทุนปรับโฉมใหม่กว่า 15,000 ล้านบาท เพื่อรองรับงานระดับโลก และการต้อนรับเอเปคครั้งนี้อย่างยิ่งใหญ่ทั้ง 3 ด้าน ประกอบด้วย
ด้านที่ 1 พื้นที่และสิ่งอำนวยความสะดวก ขนาด 330,000 ตารางเมตร ดีไซน์อย่างงดงามมีอัตลักษณ์ความเป็นไทยเพียบพร้อมด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่ เน้นบริการอย่างเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมตอบโจทย์ความยั่งยืน สอดคล้องตามยุทธศาสตร์ BCG Economy Model ของรัฐบาลไทย และคอนเซ็ปต์การจัดประชุมเอเปคครั้งนี้ซึ่งมุ่งเน้นแนวคิดหลัก “เปิดกว้างสร้างสัมพันธ์ เชื่อมโยงกัน สู่สมดุล หรือ Open.Connect.Balance.”
ด้านที่ 2 การบริการ นำระบบมาตรฐานสากลทั้งเรื่องความปลอดภัยในชีวิตทรัพย์สิน สุขอนามัย และโภชนาการ ครบวงจร เข้ามาใช้เป็นแนวทางปฏิบัติอย่างเต็มประสิทธิภาพตลอดงาน
ด้านที่
3 บุคคลากร
มีความเป็นมืออาชีพด้วยประสบการณ์ทีมงานตั้งแต่ระดับบริหารไปจนถึงพนักงานปฏิบัติการล้วนเคยรองรับการจัดงานระดับโลกมาแล้วทั้งสิ้น
ครั้งนี้มีจำนวนรวมไม่ต่ำกว่า 2,000 คน โดยได้เน้นนำเสนอวัฒนธรรมไทยอันดีงามให้นานาประเทศประทับใจเมื่อเข้ามาร่วมประชุมเอเปคในเมืองไทย
นายสิทธิชัย
บัณฑิตวรวุฒิ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็น.ซี.ซี.
แมนเนจเมนท์ แอนด์ ดิเวลลอปเม้นท์ จำกัด กล่าวว่า
ทางศูนย์สิริกิติ์เตรียมล่วงหน้ามากว่า 2 เดือน
พร้อมรับการจัดประชุมสุดยอดผู้นำเอเปค 2022 ประกอบด้วย 3 เรื่อง
1.พื้นที่และสิ่งอำนวยความสะดวก
2.อัตลักษณ์วิถีความเป็นไทยหรือ
Thai hospitality 3.การบริการ
ไฮไลต์สำคัญคือ การเลือกออร์กาไนเซอร์ การตกแต่งสถานที่ การจัดงานเลี้ยง
การคัดเลือกเมนูอาหาร ต้อนรับผู้นำแต่ละประเทศที่เข้าร่วมประชุม
และสื่อมวลชนทั่วโลก
ความโดดเด่นเป็นไฮไลต์ซึ่งบ่งบอกถึงการเชื่อมโยงเมนูอาหารบนจานที่นำมาเสิร์ฟผู้เข้าร่วมงานเอเปค 2022 ที่สอดคล้องกับ BCG Ecomomy Model คือ 1.ได้เลือกวัตถุดิบซึ่งเป็นส่วนผสมอยู่ในอาหารแต่ละจานนั้นจะเลือกจากแหล่งผลิตที่มีสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ หรือ GI : Geographic Index ซึ่งกระจายรายได้ตรงถึงท้องถิ่นการผลิต เช่น ส้มโอนครชัยศรี จ.นครปฐม 2.วัตถุดิบอาหารแต่ละชนิดสามารถนำมาประยุกต์ได้หลากหลายแบบ ตั้งแต่ สตรีทฟู้ด หรืออาหารไทยเด่น ๆ หรืออาหารชาววัง/Royal Cuisine
ม.ร.ว.สวัสดิวุฒิ สวัสดิวัฒน์ รองกรรมการผู้จัดการ ด้าน Copoate Affairs บริษัท เอ็น.ซี.ซี. แมนเนจเมนท์ แอนด์ ดิเวลลอปเม้นท์ จำกัด กล่าวว่า ในฐานะผู้รับผิดชอบดูแลการบริการ “อาหารและเครื่องดื่ม” ซึ่งจะใช้โอกาสนี้นำเสนออาหารไทยเป็นประตูสู่ครัวโลก จึงได้รวบรวมในนาม Team Thailand มีทั้งเชฟที่มีชื่อเสียงอาหารหลักแต่ละประเภทพร้อมทีมงานฝีมือดีแต่ละด้านที่มีนวัตกรรมใหม่ ๆ มาร่วมชูความโดดเด่น “เรื่องราวหรือสตอรี่” การรังสรรค์ “เมนูอาหาร” ซึ่งเป็นมากกว่ารสชาติแต่จะสัมผัสเข้าถึงได้ “วัฒนธรรมความเป็นไทย” ผ่านเรื่องราวอาหารทุกจานตลอดระยะเวลาการประชุมเอเปค 2022 ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์
โดยผู้บริหารพร้อมทีมเชฟและพนักงานทั้งหมดวางแผนเนรมิตธีมด้วยการนำเสนอ “สตอรี่อาหารไทย” ตั้งแต่การคัดเลือกวัตถุดิบ “ท้องถิ่นจากชุมชนทั่วไทย” ผนวกเข้าธีมดีไซเนอร์โดยมี “อาจารย์ขาบ” สไตล์ลิสต์อาหารชื่อดัง เป็นผู้นำเสนอความงดงามการออกแบบบรรยากาศกับอาหารเอเปค 2022 ทุกมื้อด้วยคอนเซ็ปต์ “โลคอลสู่เลอค่า” คัดเลือกอาหารที่จะเสิร์ฟภายในพื้นที่จัดงานของศูนย์สิริกิติ์
สไตล์ลิสต์จะออกแบบการตกแต่งสถานที่อบอวลด้วยวิถีอัตลักษณ์ความเป็นไทยให้มีความสัมพันธ์กับเมนูอาหาร ไล่เรียงตั้งแต่อาหารสไตล์สตรีทฟู้ดยอดนิยม 4 ภาค ไปจนถึงอาหารชาววังหรือ Royal Cuisine ในแต่ละมื้อ แต่ละวัน แต่ละชั้น ภายในศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ พร้อมบริการอาหารโดยจัดทำครัวถูกต้องตามมาตรฐานฮาลาลทั้งหมด ด้วยการสนับสนุนชุมชนไทยซึ่งมีวิธีคัดเลือกอาหารไทยซึ่งแตกต่างกันมาจัดวางให้ผู้เข้างานได้ลิ้มรส แล้วเผยแพร่สร้างชื่อเสียงไปทั่วโลก โดยแบ่งเสิร์ฟเป็น 3 ชั้น ได้แก่
โซนที่ 1 ชั้นใต้ดิน เป็นที่ตั้งของ มีเดีย เซ็นเตอร์ บริการสื่อมวลชนทั่วโลก กว่า 2,500 คน แต่ละวันจะเพิ่มตื่นตาตื่นใจซ้ำแบบ เช่น จำลองและสาธิตการปลูกข้าว ปลูกผัก และห่วงโซ่แห่งความสุขของคนไทย
โซนที่ 2 ชั้นกราวนด์ พื้นที่ของแขกผู้เข้าร่วมงานประชุม อีกไม่ต่ำกว่าวันละ 1,500 คน ก็รังสรรค์ด้วยการนำเสนอวัตถุดิบปรุงอาหารบ่งบอกถึงความเป็นไทย เช่น ธีม กล้วย ดอกบัว พืชแต่ละชนิดจะนำเสนอรายละเอียดถึงการนำมาใช้ประโยชน์และการนำมาใช้ทำแต่ละเมนูอาหารบนจานอย่างสวยงาม
โซนที่ 3 ชั้น 1 จะมีพื้นที่บรรยากาศ 2 วิง คือ วิงติดทะเลสาบกับบอลรูมวิง พื้นที่ของผู้นำ รัฐมนตรี แต่ละประเทศ แต่ละโซนจะมีสีสันชีวิตชีวาอัตลักษณ์วิถีไทยต่างกันไป
สำหรับเมนูไฮไลต์แต่ละภาค เช่น ปลาทราย แซลม่อนเทราส์โครงการหลวง ปลาจะละเม็ดอ่าวไทย คาเวียหัวหิน ชีสนมแพะจากเชียงราย เรื่อยไปจนถึงอาหารนานาชาติผสมผสานแบบฟิวชั่นฟู้ด ต่อเนื่องถึงการเลือก “ดอกไม้” มาประดับบริเวณโซนอาหารแต่ละชั้นก็เลือกเด่น ๆ จากชุมชน เช่น กล้วยไม้ไทย “หัตถกรรม” เช่น ผ้าย้อมคราม ผ้าพื้นเมืองเอกลักษณ์ของทั้ง 4 ภาค นำมาร่วมด้วยเพื่อสื่อถึงวัฒนธรรมการทำขนมของคนในแต่ละท้องถิ่น
อาหารทุกเมนูที่นำมาเสิร์ฟทุกมื้อตลอด 6 วันนี้ ได้คัดเลือกวัตถุดิบชุมชนขนานแท้จากฟาร์มปลอดสาร แหล่งเกษตรอินทรีย์ เช่น ฟาร์มปลูกพืชผักบริเวณเขาใหญ่ ผนวกเข้ากับการใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่เข้ามาร่วมเป็นกรีนที่ทำให้อาหารมีรสชาติดี
ไฮไลต์ในวันที่ 18 พฤศจิกายน 2565 ได้จัดทำ Bookless บอกเล่าเรื่องราววัตถุดิบ พร้อมส่วนผสมอาหาร แต่ละเมนูที่นำขึ้นโต๊ะเสิร์ฟสุดยอดผู้นำของแต่ละประเทศ เพื่อโชว์ให้เห็นพลังวิถีอัตลักษณ์ไทยซึ่งสามารถนำกลับไปอ่านได้ด้วย
ม.ร.ว.สวัสดิวุฒิ กล่าวว่า การนำเสนอ “อาหารรากวัฒนธรรมไทย” ในการประชุมเอเปค 2022 ครั้งนี้จะเป็นโอกาสสำคัญสุดอีกครั้งของประเทศไทย ที่จะได้ตอกย้ำถึง “ความหลากหลายวัฒนธรรมไทย” กับ “พหุวัฒนธรรม” รวมอยู่ด้วย ซึ่งทำให้มีความมั่นคงทางอาหารอย่างแข็งแกร่งมาจนถึงทุกวันนี้
นอกจากนี้ยังมีการสาธิต
“ทำขนมไทย” สุดอลังการ จากนักศึกษาคหกรรมจากมหาวิทยาลัยและผู้เชี่ยวชาญ
โดยจะโปรโมตแหล่งผลิตหรือชื่อร้านขนมแต่ละแห่งควบคู่กันไปด้วย
พร้อมกับการตกแต่งโต๊ะตั้งขนมไทยได้นำแฟชั่นผ้าไทยทอมือจากชุมชนย้อมด้วยสีธรรมชาตินำมาจัดทำเป็นธีมแห่งสายน้ำเชื่อมโยงหนึ่งในพลัเรื่องราวเข้ากับแนวคิดหลักการประชุมเอเปคครั้งนี้คือ
“เปิดกว้างสร้างสัมพันธ์ เชื่อมโยงกัน สู่สมดุล หรือ Open.Connect.Balance.” ซึ่งเป็นรากฐานหลักของไทยด้วยเช่นกัน
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น