ททท.ฮือฮา!!ดันตลาดทัวร์“จีน-เอเชียตะวันออก”ปี66โตเกินเป้า
ครึ่งปีหลังแอร์ไลน์เพิ่มเที่ยวบินจีนล็อตใหญ่430เที่ยว/สัปดาห์
แนะธุรกิจไทยรับมือทัวร์พันธุ์ใหม่ยุคดิจิทัล5กลุ่ม+เจ้าบ้านที่ดี
ช้อปมันส์คิงเพาเวอร์ออนไลน์/หน้าร้านลด20%&โยคะมหานคร
สมาชิกคิงเพาเวอร์ได้สิทธิ์ซื้อทัวร์IAmVacationDotComลด20%
ททท.ดึงแอร์ไลน์/รร.ขายโปรเจกต์“100เที่ยวได้งาน”เริ่ม6เดือน6
“บางจาก”หนุนรถแข่งปอร์เช่ชูน้ำมันไฮพรีเมี่ยม97สู่ตลาดโลก
เช็คอิน Unseen New Chapters#1แหล่งเที่ยวใหม่5พิกัด5ภาค
ล้างลำไส้ด้วยวิธีธรรมชาติกับอาหาร5ประเภทช่วยทุกคนได้
บิ๊กติ๊งค์จัดกระหึ่ม“TheScooterFest#3หาดบางแสน27พ.ค.66
บินไทยQ1ปี66กำไร1.2หมื่นล้าน3ไตรมาสลุยเพิ่มตลาด/ล้างหนี้
วันอาทิตย์ที่ 14 พฤษภาคม 2566 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทางfacebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen บล็อกเกอร์ #gurutourza #รวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97 #เพ็ญรุ่งใยสามเสน #เที่ยวกับกู๋ #KingPower #TAT #TCEB #บางจาก #ทัวร์จีน #พัทยาคาเฟ่
ฟัง Live สดจากลิงค์นี้... .https://fb.watch/kw8mY6xxbw/
ช่วงที่ 1 ฮือฮากับ “ชูวิทย์ ศิริเวชกุล” ผู้อำนวยการภูมิภาคเอเชียตะวันออก การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ครึ่งปีหลัง 2566 “เที่ยวบินจีน” เพิ่มรวดเร็ว 430 เที่ยว/สัปดาห์ เริ่ม มิ.ย.66 ขานรับทัวร์คุณภาพโตเร็วหอบเงินเที่ยวแหลก 5 ตลาดใหญ่ นำร่อง 2 ตลาดแรก “ลูกพาพ่อแม่เที่ยวกับเที่ยวยกครัวขนาดใหญ่” + ตลาดจีนยุคใหม่อีก 3 กลุ่ม คือ กลุ่ม 1 มิเลนเนียลพันธุ์ดิจิทัล Gen Y &Z ททท. ดึง KOL 90 คน ผู้นำกระแสโซเชียลร่วมตอกย้ำความปลอดภัยในไทย 22 พ.ค.นี้ กลุ่ม 2 เจาะทัวร์กรุ๊ปพลิกขายจุดต่างเที่ยวทะเลสวยล้ำ กลุ่ม 3 พลิกโฉมเที่ยวรถไฟความเร็วสูงเปิดโลกใหม่ขายอีสาน และเอเชียตะวันออกยอดโตดีเกินเป้าทั้ง 5 ตลาด จีน เกาหลี ฮ่องกง ไต้หวัน มองโกเลีย
นายชูวิทย์
ศิริเวชกุล ผู้อำนวยการภูมิภาคเอเชียตะวันออก
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า
ได้ประเมินสถานการณ์แนวโน้มตลาดที่มีความสำคัญมากที่สุดคือ “สาธารณรัฐประชาชนจีน”
ปี 2562
เดินทางเข้ามาเที่ยวเมืองไทยมากที่สุด 11.2 ล้านคน
ล่าสุดมีข่าวดีจะมีสายการบินจีนเพิ่มความถี่เที่ยวบินตรง ไป-กลับ
สาธารณรัฐประชาชนจีน-ไทย เริ่มตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2566
เป็นต้นไป ขยับเป็น 430
เที่ยว/สัปดาห์ จากปัจจุบัน 100 เที่ยว/สัปดาห์
เพิ่มขึ้นกว่า 300
เที่ยว/สัปดาห์
เนื่องจากสามารถการรองรับภาคพื้นดินทั่วประเทศได้มากขึ้นหลังเปิดประเทศอย่างเต็มที่
ซึ่งจะทำให้เข้าถึงเป้าหมายชัดเจนขึ้นปีนี้ต้องได้ 5.3 ล้านคน
ข้อมูลสถิติ 4 เดือนแรก เริ่มเปิดประเทศให้จีนเดินทางออกต่างประเทศเริ่ม 8 มกราคม- 30 เมษายน 2566 มีนักท่องเที่ยวจีนเข้าไทยแล้ว 843,920 คน ภายในเดือนพฤษภาคมนี้มีแนวโน้มรวม 5 เดือนจะมีจำนวนแตะ 1 ล้านคน ส่งผลถึงแนวโน้มครึ่งปีหลัง 2566 ตลาดจะกลับมาอย่างรวดเร็ว เพราะ ททท.ทุกสำนักงานเร่งทำการตลาดอย่างเต็มที่ เห็นกระแสตอบรับชัดช่วงการเดินทางวันหยุดแรงงานจีนเมื่อ 1-4 พฤษภาคม ปีนี้ มาไทยเฉลี่ยวันละ 15,000-20,000 คน หลังจากนี้จะเริ่มเป็นนอกฤดูจะมีนักท่องเที่ยวกลุ่มไมซ์นักเดินทางเพื่อจัดประชุมสัมมนาและกรุ๊ปอินเซนทีฟเข้ามาแทนนักท่องเที่ยวเดินทางพักผ่อนทั่วไป (leisure)
ตั้งแต่เดือนมิถุนายน -กันยายน นี้ ประมาณ 2 เดือนครึ่ง จะเริ่มเข้าสู่ฤดูเดินทางของจีนอีกครั้งเป็นตลาดกำลังซื้อสูง 2 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มที่ 1 เทรนด์ใหม่คือลูก ๆ พาพ่อแม่เที่ยว กลุ่มที่ 2 ครอบครัวใหญ่ พ่อ-แม่-ลูก-ปู่-ย่า-ตา-ยาย เดินทางด้วยกัน ดังนั้นช่วงหน้าร้อนของจีนตรงกับหน้าฝนของไทย และ 1-8 ตุลาคม นี้ จะมีโอกาสเพิ่มจำนวนได้สูงสุดช่วงหยุดฉลองวันชาติจีน จากนั้นเดือนธันวาคม จะเข้าฤดูหนาวของจีนจะหนีมาเที่ยวเมืองร้อนอย่างไทย
ผอ.ชูวิทย์ กล่าวว่า ททท.มีเครื่องมือที่จะใช้ส่งเสริมตลาดจีนเจาะตรงถึงแต่ละกลุ่มเป้าหมาย ให้สอดคล้องกับพฤติกรรมใหม่ของนักเดินทางซึ่งเปลี่ยนรูปแบบไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง ประกอบด้วย
กลุ่มที่ 1 มิลเลนเนียล คนรุ่นใหม่ และ Gen I, Z ที่เกิดมาพร้อมกับยุคดิจิทัล/ไอแพด อายุน้อย นิยมเดินทางท่องเที่ยวถี่มากขึ้น ชอบค้นหาข้อมูลแล้วออกเดินทางหาประสบการณ์แปลกใหม่ เพราะที่ผ่านมาตอนเกิดโควิด-19 กลุ่มนี้อยู่กับโลกเสมือนจริงในโลกดิจิทัล พอเปิดประเทศจึงกระหายที่ท่องเที่ยวตามสถานที่ต่าง ๆ
ดังนั้น ททท.จะใช้เครื่องมือหลักคือ “โซเชียล มีเดีย” กับ KOL :Key Operation Leader ผ้ำทางความคิด มาสร้างกระแสการเดินทาง เพราะตลาดมิลเลนเนียลจีนเป็นกลุ่มสำคัญของการท่องเที่ยวไทย นำเสนอเป็น Experience base แตกต่างจากแหล่งท่องเที่ยวทั่วไป แต่จะปรับโฉมสู่การท่องเที่ยวไฟล์สไตล์ เช่น โมเดิร์น ฟรุ้งฟริ้ง รูฟท็อปบาร์ ไนท์มาร์เก็ต ซึ่งเป็นสถานที่ใหม่ ๆ เพราะพฤติกรรมของนักเดินทางจีนกลุ่มนี้จะไม่ยอมตกเทรนด์เด็ดขาด เช่น จะต้องไปถ่ายรูปแชะแล้วแชร์ในสถานที่ที่คนอื่นยังไม่เคยไป และการแต่งตัวตามแฟชั่นจะต้องเด่นชัดเพื่อถ่ายรูปโพสต์แชร์ให้คนได้เห็นอย่างกว้างขวาง
วันที่ 22 พฤษภาคม 2566 ททท.ในจีน 5 สำนักงาน ปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ กวางโจว คุนหมิง เฉินตู เตรียมเชิญ KOL จากจีน 90 คน เดินทางมาร่วมเวทีใหญ่ กับ ททท.และสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้จับมือกัน นำเสนอภาพใหญ่ให้เห็นถึง “ความปลอดภัยจีนเที่ยวเมืองไทย” เนื่องจากคนจีนส่วนใหญ่ดูข้อมูลเกือบทั้งหมดผ่านสื่อดิจิทัล จึงทำให้เกิดกระแสเชิงลบเรื่องไม่ดีที่เกิดขึ้น และเชิงบวกเรื่องดี ซึ่งขึ้นอยู่กับการนำเสนอของไทยด้วย จึงต้องระวังในการแชร์บนโซเชียล มีเดีย เพราะการแชร์ 1 ครั้ง จะขยายอย่างรวดเร็วถึงคนชม 10 ล้านครั้ง /นาที
ดังนั้นการให้หน่วยราชการเป็นองค์กรที่ออกมายืนยันเรื่องความปลอดภัยกับนักท่องเที่ยวจีนซึ่งเป็นระบบที่เชื่อถือระบบทางการอย่างมากจะได้เกิดความเชื่อมั่นและพึงพอใจ
เมื่อได้รับรู้ข่าวสารโดยตรงเรื่องความปลอดภัยจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ผ่าน KOL จีนจะได้นำข่าวสารไปกระจายให้คนทั่วประเทศรับรู้ต่อไป
กลุ่มที่
2 กรุ๊ปทัวร์/เดินทางเป็นหมู่คณะ
แต่ด้วยสภาพปัจจุบันสถานการณ์เศรษฐกิจในประเทศจีนยังต้องการฟื้นฟูจึงมีงบประมาณส่งเสริมการท่องเที่ยวภายในประเทศด้วย
ดังนั้น ททท.จะต้องทำงานหนักมากขึ้นด้วยการหาจุดขายที่แตกต่างซึ่งในจีนไม่มี เช่น
แหล่งท่องเที่ยวทางทะเลธรรมชาติสวยงามมาก ๆ ชายหาดขาวเนียนละเอียด
อัธยาศรัยคนไทย
รองรับตลาดกลุ่มทัวร์จีนสูงวัย
กลุ่มที่
3 การท่องเที่ยวรูปแบบใหม่ระบบรางรถไฟฟ้าความเร็วสูง
ขยายฐานตลาดจีนทางใต้ นั่งรถไฟจากคุนหมิง ผ่าน สสป.ลาว เข้าสู่ภาคอีสานของไทย
เปิดโลกใหม่ให้ธุรกิจในภาคอีสาน จะชูสินค้าท่องเที่ยวพลังซอฟท์ เพาเวอร์ 1.Food-อาหารอีสาน 2.การท่องเที่ยวเชิงศรัทธา
สายมูเตลู เพราะคนจีนมีความเชื่อเรื่องโชคลาภ
เพื่อเสริมสิริมงคลให้ตัวเองและอาชีพค้าขาย จึงสามารถเจาะตลาดได้หลายกลุ่มทั้ง คนรุ่นใหม่ในจีนที่ชอบไลฟ์ขายของออนไลน์
กลุ่มที่ชื่นชอบค้นหาประสบการณ์แปลกใหม่ แฟชั่นสินค้าผ้าไหม ซึ่ง
ททท.จะช่วยปรับปรุงพัฒนาคุณภาพสินค้าควบคู่กับไปด้วย
ผอ.ชูวิทย์ย้ำถึง
ททท.พร้อมจะบูรณาการทำงานร่วมกับหลายภาคส่วนและขอฝากให้หันมาทำหน้าที่
“เจ้าบ้านที่ดี” และคุณภาพทั้งสินค้าท่องเที่ยว บริการรถสาธารณะแท็กซี่ ตุ๊กตุ๊ก
ควรจะมอบสิ่งที่ดีให้แก่นักท่องเที่ยว
ขณะที่การลงตราวีซ่าจีนพยายามเร่งแก้ไขให้ดีขึ้นตามลำดับ
รองรับนักท่องเที่ยวอย่างเพียงพอ หากไทยพร้อมใจกันขายของดี บริการดี
คนจีนก็อยากจะมาเที่ยวเพิ่มขึ้น แต่ถ้าทำในสิ่งที่ไม่ดีผลตอบรับก็จะไปถูกขยายในทางไม่ดีด้วยเช่นกัน
ดังนั้นจึงควรช่วยกันคลี่คลายปัญหาต่าง ๆ ให้หมดไปโดยเร็วที่สุด
สำหรับตลาดเอเชียอื่น
ๆ ช่วงมกราคม-เมษายน 5
อันดับแรก ได้แก่ อันดับ 1
เกาหลี
เข้ามาไทยตั้งแต่โควิดยังไม่จบทำให้ช่วง 4 เดือนแรกปีนี้ทำได้ 5.6 แสนคน
จากเป้าหมายตั้งไว้ 1.1
ล้านคน อันดับ 2 ฮ่องกง
เพิ่งเปิดตอนพฤศจิกายน 2565
ตอนนี้เข้ามาแล้ว 2.5 แสนคน
จากเป้า 1 ล้านคน
แต่มีโอกาสทำได้อย่างแน่นอน เพราะเดินทางด้วยความถี่สูงมาทุกวันหยุดสุดสัปดาห์
อันดับ 3 ไต้หวัน
มาแล้วเกินกว่าครึ่งคือ 2
แสนคน
จากเป้า 4 แสนคน
อันดับ 4 มองโกเลีย
เป็นตลาดเดียวนโลกช่วงโควิดก็มาเที่ยวมาตลอด มีประชากรน้อยเพียง 2 ล้านคน
มีเศรษฐีอยู่ประมาณ 10 % แต่สามารถท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่อง
เติบโตเร็วมาก
ช่วงตารางบินฤดูร้อนมาแน่นทุกเที่ยวบินแล้วมุ่งตรงไปยังแหล่งท่องเที่ยวทะเลเท่านั้น
กับกลุ่มเดินทางมารักษาพยาบาลจะมากรุงเทพฯ บ้างบางส่วนเท่านั้น
ทั้งนี้
ททท.ภูมิภาคเอเชียตะวันออกทุกตลาด จีน เกาหลี ไต้หวัน ฮ่องกง
ล้วนแล้วแต่ใช้โซเชียล มีเดีย และดิจิทัลเข้าถึงข้อมูลข่าวสาร
ดังนั้นหากเมืองไทยทำในสิ่งที่ไม่ดี หรือทำสิ่งที่ดี
ทุกเรื่องจะถูกเสนอผ่านช่องทางดังกล่าวแล้วแพร่กระจายอย่างรวดเร็วทั้งบวกและลบ
จึงขอความร่วมมือทุกฝ่ายช่วยกันทำเรื่องดี ๆ สร้างความประทับแก่นักท่องเที่ยว
เพื่อนำการท่องเที่ยวมาสร้างประโยชน์ทางเศรษฐกิจของประเทศกลับมาเติบโตอย่างรวดเร็วต่อไป
ฟังข่าวต้นชั่วโมง
ข่าวที่ 1
ช้อปมันส์คิงเพาเวอร์ออนไลน์/หน้าร้านลดแรง20%&โยคะมหานคร
คิง
เพาเวอร์ จัดหกรรมช้อปโปรสุดมันส์ แคมเปญ “LET THE PARTY
BEGIN รีบกดช้อปให้ทันกับดีลแรง! จะ “ช้อปออนไลน์” หรือไป “หน้าร้าน”
ก็สามารถเลือกได้ตามสไตล์ที่ชอบและสะดวก
ลดเดือด! ทั้งหน้าร้านและออนไลน์ รับส่วนลดเพิ่มสูงสุด 10 % โดยไม่ต้องมียอดช้อปขั้นต่ำ
พิเศษยิ่งกว่า! ช้อปครบ 4,000 บาท ลดเพิ่มอีก 20 %
เริ่มเลย “ช้อปหน้าร้าน” ได้ตลอดทุกวันศุกร์
- อาทิตย์ ที่ FIRSTER BY KING
POWER ทั้ง 2 สาขา ได้แก่
คิง เพาเวอร์ มหานคร และคิง เพาเวอร์ สยามสแควร์ ซอย 7
“ช้อปออนไลน์” ได้ทุกวันอังคาร
- พฤหัสบดี โดยการใส่โค้ด CODE : FPARTY
คลิกเข้าเว็บไซต์
kingpower.com , firster.com
และแอพลิเคชั่นของทั้งสองช่องแบรนด์ คือ App FIRSTER BY KING POWER
ส่วนที่
“คิง เพาเวอร์ มหานคร” ร่วมกับ Brew Yoga
Thailand ชวนคนมาเปลี่ยนคลาสโยคะธรรมดาให้สนุกมากยิ่งขึ้นกับ
Rave Workout, Techno ( Brew) Yoga วันเสาร์ที่ 27 พฤษภาคม นี้ 19.00
– 22.00 น. ที่ชั้น 74 คิง เพาเวอร์ มหานคร
มาสนุกกับการฝึกโยคะรูปแบบใหม่ผสมผสานระหว่างการเล่นโยคะและการทรงตัวโดยใช้เครื่องดื่มแก้วโปรดถ่วงสมดุลไปพร้อมกับจังหวะเพลงจากดีเจ
และโชว์สุดพิเศษ พร้อมผู้สนับสนุนกิจกรรมมากมาย เลือกได้ 2 ไทป์ ในราคาสบายกระเป๋า คือ
ประเภทไทป์
A: Techno (Brew) Yoga และ Secret
show + Rave Workout + Dance Session ราคาคนละ 1,499 บาท
ประเภทไทป์
B : Rave Workout + Dance Session ราคาคนละ 999 บาท
สำรองบัตรล่วงหน้าได้ที่
https://bit.ly/Book-Ticket-Rave-Workout
ข่าวที่
2 สมาชิกคิงเพาเวอร์ได้สิทธิ์ซื้อทัวร์IAmVacationDotComลด20%
สมาชิก คิง เพาเวอร์ ทุกคน ทุกบัตร รับส่วนลดสูงสุด 1,500 บาท เมื่อซื้อโปรแกรมทัวร์กับ I AM VACATION DOT COM ตั้งแต่วันนี้– 29 กุมภาพันธ์ 2567 กดรับสิทธิ์ง่ายๆ
ผ่าน LINE
Official Account
รับส่วนลด 1,500 บาท เมื่อซื้อโปรแกรมทัวร์โซนยุโรป
ไป อังกฤษ
(ดูฟุตบอล 7 วันและ 8 วัน) คลาสสิคยุโรป (8 วัน) ฝรั่งเศส
(6 วัน)
รับส่วนลด 1,000 บาท เมื่อซื้อโปรแกรมทัวร์โซนตะวันออกกลางและโซนแอฟริกา ตุรกี (8 วัน 5 คืน) จอร์เจีย (7 วัน และ 8 วัน)
ดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (5 วัน) จอร์แดน (7 วัน และ 6 วัน) โมร็อกโก (10 วัน)
รับส่วนลด 500 บาท เมื่อซื้อโปรแกรมทัวร์โซนเอเชียกับ I
AM VACATION DOT COM ไปเวียดนาม ดานัง ฮอยอัน บานาฮิลล์ (4 วัน 3 คืน)
รับสิทธิ์ได้ดังนี้ 1.สมาชิก คิง
เพาเวอร์ VEGA, CROWN, ONYX, SCARLET และ NAVY แสดงสถานะสมาชิกและหลักฐานการแลกรับสิทธิ์เพื่อใช้ส่วนลด 1 สมาชิก ใช้สิทธิ์ส่วนลดจองได้ไม่จำกัดจำนวนตลอดรายการ และสามารถใช้ร่วมกับผู้ติดตามได้ด้วย
ตรวจสอบรายละเอียดโปรแกรมทัวร์โทร. 062-693-5297 หรือ www.facebook.com/IAmVacations ก่อนทำการกดรับสิทธิ์
ผ่านช่องทาง LINE Official Account : @kingpower หรือ member.kingpower.com เพื่อรับรหัสส่วนลดและนำไปยืนยันการสำรองสิทธิ์ที่พึงได้รับอย่างคุ้มค่าทั้งหมด
ข่าวที่ 3
ททท.ดึงแอร์ไลน์/รร.ขายโปรเจกต์“100เที่ยวได้งาน”เริ่ม6เดือน6
นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ รองผู้ว่าการด้านตลาดในประเทศการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
(ททท.) เปิดเผยว่า ได้เปิดตัวแคมเปญ
“Workation Thailand 100 เดียวเที่ยวได้งาน” เพื่อกระตุ้นและส่งเสริมบุคลากรภาครัฐเลือกเดินทางทำงานนอกสถานที่ภายในประเทศและพักค้างคืนช่วงวันธรรมดา
ด้วยการนำเสนอสินค้าและบริการท่องเที่ยวราคาเพียง
100 บาท
ผ่านเว็บไซต์ workationthailand.com โดยมีพันธมิตรนำสินค้าเข้าร่วมสนับสนุนครบวงจร
พร้อมกับมอบส่วนลดสูงสุดถึง 80 %
แคมเปญนี้มุ่งเจาะนักท่องเที่ยวในช่วงวันธรรมดา 2 ตลาดหลัก คือ Digital Nomad และ Remote
Worker ต่อยอดจากโครงการ Workation
Thailand ซึ่งนำร่องทำเมื่อปี 2563
ช่วงสถานการณ์โควิด-19 ต่อเนื่องถึงปัจจุบัน สะท้อนถึงการท่องเที่ยว
Workation เป็นเทรนด์ใหม่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ซึ่งได้เปลี่ยนรูปแบบการทำงานจาก
Work from Home เป็น Work from Anywhere หรือ Workation นั่นเอง
ดังนั้น ททท. จึงร่วมกับพันธมิตรในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวอย่างน้อย 4 สมาคม คือ สมาพันธ์ธุรกิจนำเที่ยว สมาคมผู้ประกอบการนำเที่ยวไทย สมาคมไทยบริการท่องเที่ยว
สมาคมธุรกิจท่องเที่ยวภายในประเทศ
จัดกิจกรรมการขายผ่านเว็บไซต์ https://workationthailand.com รวม
4
ครั้งใหญ่ คือ วันที่ 6 เดือน 6, 7
เดือน 7, 8 เดือน 8 และ 9
เดือน 9 นำเสนอขายบัตรกำนัล (Voucher) เมื่อซื้อสินค้าและบริการท่องเที่ยวในราคา 100 บาท เลือกช้อปได้อย่างน้อย 4 ประเภท
ได้แก่
ประเภทที่ 1
โรงแรมที่พัก เช่นห้องพักโรงแรมในเครือเซ็นทารา เครือศรีพันวา และกีมาลา
ประเภทที่ 2
ยานพานหนะ/การเดินทาง เช่น แอร์เอเชีย Drivehub และบริษัทขนส่งจำกัด
(บขส.)
ประเภทที่ 3 ร้านอาหาร อาทิ แบล็คแคนยอน บาร์บีคิว
พลาซ่า และเชสเตอร์กริลล์
ประเภทที่
4 แพ็กเกจท่องเที่ยวและกิจกรรมท่องเที่ยว เช่น
ซาฟารีเวิลด์ โอเอซิส สปา และซีไลฟ์ แบงค็อก
รวมทั้งมีสถานประกอบการท่องเที่ยวอื่น
ๆ ร่วมนำเสนอสิทธิพิเศษและส่วนลดสูงสุดถึง 80%
เพื่อช่วยลดค่าใช้จ่ายในการเดินทางให้กับนักท่องเที่ยวกลุ่มเป้าหมายอย่าง Digital
Nomad และ Remote Worker ซึ่งมีพฤติกรรมท่องเที่ยวพร้อมทำงาน
และพักค้างคืน ในช่วงวันธรรมดา ผนวกกับ ททท.ยังได้สนับสนุนผู้ประกอบการอุตสาหกรรมท่องเที่ยวกระตุ้นการเดินทางภายในประเทศเพื่อเร่งสร้างรายได้ท่องเที่ยวในประเทศปี
2566 ทำได้ตามเป้าหมาย 880,000 ล้านบาท
ระหว่างการเปิดตัวแคมเปญ Workation Thailand 100 เดียวเที่ยวได้งาน เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม 2566 นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ รองผู้ว่าการด้านตลาดในประเทศ ททท. นำทีมเสวนาร่วมกับพันธมิตรสำคัญคือ นายสุชีพ
มีถม
ผู้ช่วยผู้ว่าการผลิตไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) นางมาริสา สุโกศล หนุนภักดี นายกสมาคมโรงแรมไทย และนายวู้ดดี้
วุฒิธร มิลินทจินดา พิธีกรชื่อดัง
ขณะนี้ Workation เป็นเทรนด์ของกลุ่มคนรุ่นใหม่ ที่จะเลือกใช้สถานที่ต่าง ๆ
ทุกแห่งทั่วประเทศทั้ง เพื่อการทำงาน จัดประชุม และสังสรรค์
รวมทั้งนักท่องเที่ยวทั่วโลกก็นิยมด้วยเช่นกัน ตลอดภาครัฐและเอกชนในประเทศไทยเริ่มนำมาปรับใช้ส่งเสริมบรรยากาศการทำงานให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นด้วย
ข่าวที่
4 “บางจาก”หนุนรถแข่งปอร์เช่ชูน้ำมันไฮพรีเมี่ยม97สู่ตลาดโลก
นายชัยวัฒน์ โควาวิสารัช
ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัทบางจากและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจาก
คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ร่วมกับ บริษัท เอเอเอส
ออโต้ เซอร์วิส จำกัด (AAS Auto Service Co., Ltd) สนับสนุนทีมรถแข่ง AAS Motorsport ซึ่งใช้รถปอร์เช่
รุ่น 992 GT3 R เป็นตัวแทนประเทศไทยเข้าแข่งขันรถยนต์ทางเรียบระดับอินเตอร์เนชั่นแนลรายการ
FANATEC GT World Challenge Asia 2023 ซีรีย์ GT ใหญ่ที่สุดในเอเชีย ซึ่งบางจากฯ เป็นแบรนด์พลังงานไทยผู้นำนวัตกรรมพัฒนาน้ำมันเชื้อเพลิงคุณภาพสูงระดับ
World Class อย่างต่อเนื่อง
มีความเชื่อมั่นในศักยภาพของนักแข่งรถชาวไทยว่าสามารถก้าวขึ้นสู่แถวหน้าของวงการ Motorsport
ระดับโลกได้
ซึ่งทีมรถแข่งปอร์เช่
โดย AAS Motorsport เป็นตัวแทนประเทศไทยลงแข่งขันในรายการ Fanatec
GT World Challenge Asia 2023 ซีรีส์ GT MULTI-CLASS ใหญ่ที่สุดของทวีปเอเชีย ที่จะช่วยยกระดับจากเอเชียไปสู่การแข่งขันระดับโลก
โดย บริษัท เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส
จำกัด (AAS Auto Service Co., Ltd.) ตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ปอร์เช่อย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียวในไทย
ได้แสดงความมั่นใจในคุณภาพเลือกนำรถซูเปอร์คาร์เติม Bangchak Hi Premium 97
เป็นน้ำมันถังแรก (First Fuel) ให้รถปอร์เช่ที่ออกจากศูนย์ฯ
เมืองไทย
ขณะเดียวกันบางจากฯ ได้พัฒนาผลิตภัณฑ์น้ำมันคุณภาพสูงเพื่อตอบโจทย์เทคโนโลยียานยนต์ระดับโลกซึ่งพัฒนาอย่างไม่หยุดนิ่ง
ล่าสุดบางจากฯ ได้พัฒนาน้ำมันเกรดพรีเมียม Bangchak Hi
Premium 97 มาตรฐาน Euro 5
ที่มีค่าออกเทนสูงกว่า 97 ซึ่งเหมาะกับรถยนต์ Super Car และรถยนต์สมรรถนะสูง
ตลอดจนรถเครื่องยนต์เบนซินต้องการการดูแลเป็นพิเศษ โดย Bangchak Hi Premium
97 มาตรฐาน Euro 5
เป็นพรีเมียมแก๊สโซฮอล์ดีที่สุดของบางจากฯ ในการคัดสรรน้ำมันเบนซินพื้นฐานชนิดพิเศษที่มีความบริสุทธิ์สูง
ผนวกสารเพิ่มคุณภาพ (Additive) ระดับ World Class จึงให้ค่าออกเทนสูงเป็นพิเศษกว่า 97
และทำให้มีคุณสมบัติโดดเด่น ไม่น้อยกว่า 4 ส่วนด้วยกัน
ได้แก่
ส่วนที่ 1 ค่าออกเทนสูงถึง 97
เหมาะกับรถยนต์ที่ต้องการน้ำมันค่าออกเทนสูงโดยเฉพาะ
สามารถรีดประสิทธิภาพเครื่องยนต์ได้เต็มสมรรถนะ
ทำให้เครื่องยนต์ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ เหมาะกับ
รถ Super Car รถสมรรถนะสูง
และรถใช้งานมาอย่างต่อเนื่องและต้องการการดูแลเป็นพิเศษ
ส่วนที่ 2 ได้มาตรฐาน Euro 5 รองรับยานยนต์อนาคตที่มีเทคโนโลยีทันสมัย ตามมาตรฐาน Euro 5 นอกจากจะช่วยยืดอายุอุปกรณ์ดักจับไอเสียและลดค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาแล้ว
ยังเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เพราะมีปริมาณกำมะถันน้อยกว่า 10 ppm ช่วยลดก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์ต้นเหตุทำให้เกิดฝุ่นละออง
ส่วนที่ 3 สารเพิ่มคุณภาพสูตรพิเศษระดับ World Class ได้แก่ G-Booster ที่ช่วยฉีดพลังแรง เร่งลื่น
รอบไว และ G-Purifier ทำความสะอาดหัวฉีดได้สะอาด 100%
ทั้งหัวฉีดเครื่องยนต์รุ่นใหม่และรุ่นเก่า (หัวฉีดแบบ GDI และ
PFI) ทำให้หัวฉีดสะอาดหมดจด เครื่องยนต์เผาไหม้ได้เต็มที่
เครื่องเดินเรียบ ส่งผลให้เครื่องยนต์เร่งได้แรงเต็มสมรรถนะ
ส่วนที่ 4 อัตราเร่งเพิ่มขึ้น 4.1% จากการทดสอบโดยห้องทดสอบปฏิบัติการสหรัฐอเมริกา
เมื่อเปรียบเทียบกับน้ำมันพื้นฐาน
นายชัยวัฒน์ ย้ำว่า Bangchak Hi Premium 97 มาตรฐาน Euro 5 พร้อมมอบประสบการณ์ความแรงเหนือระดับให้ผู้ใช้รถ Super Car รถสมรรถนะสูง ตลอดจนรถเครื่องยนต์เบนซินทั่วไป สร้างความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
รวมทั้งยินดีที่ Porsche Thailand มั่นใจเลือกใช้น้ำมัน Bangchak
Hi Premium 97 เป็นน้ำมันถังแรก สำหรับรถยนต์ปอร์เช่ทุกคันที่จะส่งมอบปี
2566 และปี 2567
เพื่อมอบประสบการณ์ความแรงสุดพรีเมียมให้เจ้าของรถปอร์เช่มั่นใจว่าประสิทธิภาพของ Hi
Premium 97 จะดึงสมรรถนะของรถปอร์เช่ออกมาได้อย่างเต็มที่
ให้เร่งแรงได้ดังใจ ขับขี่ได้สนุกเร้าใจขึ้น ตลอดจนร่วมดูแลสิ่งแวดล้อมควบคู่ไปด้วย
เพื่อให้การใช้พลังงานและการใช้ชีวิตเป็นไปอย่างสมดุลและยั่งยืน ตามแนวคิด Greenovative
Product ของบางจากฯ
ทั้งปัจจุบันและอนาคตที่จะสร้างพลังงานทางเลือกเพื่อยังประโยชน์โลกต่อไป
ช่วงที่ 2 เริ่มแล้วเช็คอินทั่วไทยเปิดมิติใหม่
“Unseen
New Chapters” #ซีซัน1 พาตลุย 5 ภาค 5 พิกัด ฟิน จึ้ง ปัง
กันได้แล้ว และดูแลสุขภาพ “ล้างลำไส้ด้วยวิธีธรรมชาติ” กับอาหาร5กลุ่ม เกาะติดข่าวร้อนในรอบสัปดาห์ ข่าวแรก “บิ๊กติ๊งควงซองโทเปีย”
จัดกระหึ่มทัวร์ The Scooter Fest #3”
แหลมแท่น หาดบางแสน ข่าวที่สอง “การบินไทยQ1ปี66กำไร 1.2 หมื่นล้าน” ลุยเพิ่มฝูงบิน เพิ่มเส้นทางขาย เร่งล้างหนี้
ท่องเที่ยว
-เช็คอิน Unseen New Chapters#1แหล่งเที่ยวใหม่5พิกัด5ภาค
เที่ยวเมืองไทยมิติใหม่
ชวนกันไปเช็คอินสร้างเสียงโหวต “Unseen New Chapters” ซีซัน #1 แบบเบา ๆ ใน 5 ภาค 5 พิกัด “ภาคกลาง” หุบเขาสวรรค์ ราชบุรี “ภาคอีสาน”
วัดพระธาตุหนองบัว อุบลราชธานี “ภาคเหนือ” น้ำตกขั้นบันได จ.ตาก “ภาคใต้”
ถ้ำภูผาเพชร สตูล “ภาคตะวันออก” หาดแสงจันทร์ ระยอง
พิกัดที่ 1 ภาคกลาง
หุบเขาสวรรค์ จ.ราชบุรี คำว่า ‘สวรรค์’
ถ้ามีแค่สวรรค์เดียวก็ไม่เรียกว่าสวรรค์ยุค 2023 ใช่ไหมคะ เอาชนะบันไดกว่า 365
ขั้นเพื่อพิชิต 7 โซนสวรรค์ที่ผสมผสานความต่างของแต่ละศาสนาไว้ได้อย่างลงตัว
ไม่ว่าจะเป็นเจ้าแม่กวนอิม พระสังกัจจายน์ ถ้ำลับแล สันติเจดีย์ พระเยซู พระพิฆเนศ
พระพุทธรูปนิรภัยทุกทิศ เต็มอิ่มกับความขลังของสายมูแบบ 300%
และที่สำคัญบนหุบผาสวรรค์ยังมีวิวสวย ๆ ของทุ่งนาสีเขียวให้ชมอีกด้วย
พูดแค่นี้ก็น่าไปแล้วใช่ไหมคะ แพ็คกระเป๋าออกเดินทางกันเลย
พิกัดที่
2 ภาคอีสาน “วัดพระธาตุหนองบัว”
อุบลราชธานี ตะลึงกับความสวยงามของพระธาตุเจดีย์ศรีมหาโพธิ์
ภายในวัดพระธาตุหนองบัว จังหวัดอุบลราชธานี
ที่มีการถ่ายรอดช่องผ่านรูปปั้นของพญานาคราชสีรุ้ง
ซึ่งพระธาตุเจดีย์แห่งนี้ได้มีการจำลองแบบมาจากเจดีย์พุทธคยาสถานที่ตรัสรู้ของพระพุทธเจ้าในอินเดีย
บริเวณภายในมีการประดิษฐานพระพุทธรูป และสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองอุบลฯ
นอกจากนี้พระธาตุแห่งนี้ยังเป็นพระธาตุประจำปีเกิดปีมะเส็งอีกด้วย
พิกัดที่
3 ภาคเหนือ
“น้ำตกขั้นบันได” จ.ตาก เอาใจสายลุย พาไปรับความชุ่มช่ำของน้ำตกขนาดใหญ่กลางป่าที่น้อยคนนักจะได้มีโอกาสไปเยือนถ้าไม่แกร่งพอ
กับน้ำตกขั้นบันได จังหวัดตาก
ที่การจะเดินทางไปยังน้ำตกดังกล่าวต้องล่องเรือยางเข้าไป
และต้องมีการตั้งแคมป์กันในป่า
ซึ่งความสวยงามของน้ำตกแห่งนี้บอกได้คำเดียวว่าสุดมาก เพราะเต็มไปด้วยความเขียวที่มาพร้อมม่านน้ำตกขนาดสูงหลั่นลงมาเป็นชั้น
ๆ สุดอลังการ จนทุกคนต้องร้องว้าวและประทับใจอย่างแน่นอน
พิกัดที่
4 ภาคใต้
ถ้ำภูผาเพชร จ.สตูล รู้หรือไม่!? ว่าประเทศไทยมีถ้ำที่ใหญ่ติดอันดับโลก
กับถ้ำภูผาเพชร จังหวัดสตูลที่มีขนาดใหญ่ติดอันดับ 4 ของโลก ภายในถ้ำมีพื้นที่มากกว่า 50 ไร่
ประกอบไปด้วยหินงอกหินย้อยรูปร่างแปลกตามากมาย และแบ่งเป็นห้องมากกว่า 20 ห้อง
โดยถ้ำแห่งนี้นักโบราณคดีเชื่อว่าเคยเป็นที่อยู่อาศัยของมนุษย์ยุคก่อนประวัติศาสตร์
เพราะมีการค้นพบกระดูกมนุษย์ยุคโบราณ เศษภาชนะดินเผา ซึ่งน่าจะมีอายุราวๆ 3,000 ปีเลยทีเดียว
พิกัดที่
5 ภาคตะวันออก
หาดแสงจันทร์ ระยอง เตรียมใจให้พร้อมกับมนต์เสน่ห์เกินห้ามใจของหาดที่ได้ชื่อว่าปังที่สุดในระยอง
ซึ่งเป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์คเมื่อมาแล้วต้องร้องว้าวกับความพิเศษของหาดที่มีความโค้งเว้าทอดยาวจนสุดมุมถนน
มีจุดเช็คอินให้ถ่ายรูปเยอะมาก วิวสวย บรรยากาศดี มีอาหารทะเลให้เลือกละลานตา
แถมยังไม่ไกลจากกรุงเทพฯ ผู้ที่กำลังมองหาสถานที่เที่ยวช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์มาด่วน
เมืองไทยเที่ยวมุมใหม่ไปกับ
“Unseen New
Chapters #1” แต่ละสถานที่ทั้ง ฟิน ว้าว ปัง ต้องมาให้เห็นกับตาเพื่อเข้าถึงประสบการณ์มากคุณค่าของทุกแห่งทั่วไทย
สุขภาพ -ล้างลำไส้ด้วยวิธีธรรมชาติกับอาหาร5กลุ่มพร้อมช่วยทุกคนได้
ปัจจุบัน
อาหารส่วนใหญ่ที่เรารับประทาน มักมีส่วนผสมของ สารประกอบ สารกันบูด และสารเคมีต่าง ๆ
ที่ทำให้เกิดการสะสมสารพิษในร่างกาย และทำให้สุขภาพแย่ลง “การล้างลำไส้
ด้วยวิธีธรรมชาติ” คือ
การเลือกรับประทานอาหารที่มีคุณสมบัติที่ช่วยทำความสะอาดลำไส้ ล้างสารพิษที่สะสมอยู่ในผนังลำไส้ แล้วยังช่วยลดความเสี่ยงการเกิดมะเร็งลำไส้ด้วย และการรับประทานอาหารจากธรรมชาติ
จะช่วยให้ลำไส้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ได้แก่
1.อาหารเสริมชนิดผงและชนิดน้ำ
วิธีนี้สามารถทำได้ทั้ง
การรับประทานอาหารเสริม และขับสารพิษออกทางทวารหนักเพื่อล้างลำไส้
อาหารเสริมล้างลำไส้ ซึ่งสามารถหาซื้อได้ตามร้านขายยาทั่วไปและ ซูเปอร์มาร์เก็ต
ประกอบด้วย ยาสวนทวาร (Enemas)
ยาระบายทั้งชนิดออกฤทธิ์กระตุ้นการทำงานของลำไส้และไม่กระตุ้น ชาสมุนไพร เอ็นไซม์ แมกนีเซียม
2.อาหารที่มีกากใยสูง อาหารที่มีกากใยที่ไม่ละลายน้ำ
สามารถช่วยให้ผนังลำไส้เรียบขึ้น และเร่งการเคลื่อนที่ของอุจจาระในลำไส้ และทำให้ขับถ่ายดีขึ้น
ได้แก่ ผักและผลไม้สด เช่น เบอร์รี่ ลูกแพร์ แอปเปิ้ล และผักต่าง ๆ เช่น อาร์ติโชก
และบร็อคโคลี ธัญพืช ถั่วและเมล็ดพืชก็อุดมด้วยกากใยเช่นกัน
3.ผลิตภัณฑ์หรืออาหารที่มีส่วนผสมของโปรไบโอติก
ที่มีส่วนผสมของโปรไบโอติก
(Probiotics)
ที่รู้จักกันในชื่อ “แบคทีเรียที่มีประโยชน์” สามารถช่วยการขับถ่าย
ลดอาการท้องอืด และการขับถ่ายที่ไม่เป็นปกติ และอย่างอื่นอีกมากมาย
ผลิตภัณฑ์ประเภทนี้ยังมีแคลเซียม ช่วยชะลอการเติบโตของเซลล์ตัวร้าย
ที่อาศัยอยู่ตามผนังลำไส้ โปรไบโอติกพบได้มากในอาหารหมักดอง เช่น โยเกิร์ต มิโซะ และกิมจิ
4.การดื่มน้ำสะอาดมาก
ๆ สามารถช่วยป้องกันอาการท้องผูกได้
เครื่องดื่มชนิดต่าง ๆ เช่น ชาหรือน้ำผลไม้ สามารถช่วยได้ ที่ดีที่สุดคือ “น้ำสะอาด”
ดื่มวันละประมาณ 10
แก้ว เพื่อให้ร่างกายล้างสารพิษและของเสีย ทำให้มีสุขภาพที่ดีและได้รับปริมาณน้ำในร่างกายเพียงพอ
หากไม่ชอบรสชาติของน้ำเปล่า สามารถบีบมะนาวเพื่อเพิ่มรสชาติได้ด้วย
แต่ถ้าหากกำลังป่วย ควรปรึกษาแพทย์เพื่อขอคำแนะนำก่อนเริ่มการบำบัดล้างลำไส้ด้วยวิธีดังกล่าว
ฟังข่าวท้ายชั่วโมง
ข่าวแรก -บิ๊กติ๊งค์จัดกระหึ่ม“TheScooterFest#3หาดบางแสน27พ.ค.66
นายอนุรักษ์ ภูมิทรัพย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท บิ๊ก
ติ๊งค์ จำกัด และผู้ก่อตั้ง Songtopia เปิดเผยว่า ได้นำงาน The
Scooter Fest #3 ตอน SEA SAND SUN FUN FREE
FRIEND กลับมาจัดอีกครั้งในวันเสาร์ที่ 27 พฤษภาคม 2566 ที่บริเวณแหลมแท่น บางแสน ตั้งแต่ 12.00 น.เป็นต้นไป พร้อมกับเปิดให้ลงทะเบียนเข้างานฟรี งานนี้ทาง ซองโทเปีย (Songtopia) ผู้ผลิต Music
& Lifestyle Content เป็นผู้รับผิดชอบจัดงาน โดยมียอดผู้ติดตามรวมกว่า
6 ล้านคน และได้นำงานมาคอลแลบส์กับ แลมเบรตต้า (Lambretta) เพื่อกระตุ้นต่อมนักท่องเที่ยวสายสกู๊ตเตอร์มาร่วมสนุกมันส์สุดขีดพร้อมกรี๊ดให้สุดเสียง
กับไลน์อัปศิลปินตัวพ่อทั้งจากสายฮิปฮอปอย่าง URBOYTJ และ SLUR และอินดี้แท็กทีมมาปล่อยเพลงเด็ดชวนแดนซ์สุดเหวี่ยง
โดยภาคธุรกิจจะมีบริการเสิร์ฟเครื่องดื่มเย็นๆ ชิมเมนูเด็ด และตะลุยกิจกรรมสุดฮิป
ในบรรยากาศติดริมหาด
เนื่องจากการจัดงาน The Scooter Fest ที่ผ่านมาทั้ง 2 ครั้ง มีกระแสตอบรับดีมาก จึงจัดครั้งที่ 3 เป็นของขวัญสุดเซอร์ไพรส์ให้เหล่าบรรดาคนรักสกู๊ตเตอร์ทั่วไทยได้มาร่วมสนุกใช้จ่ายเงินในแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมถือเป็นครั้งแรกที่ยก The
Scooter Fest มาจัดนอกกรุงเทพฯ ซึ่งผู้ที่ยังไม่เคยมางาน The Scooter Fest 2 ครั้งแรก ไม่ควรพลาด และครั้งนี้ยังได้เนรมิตพื้นที่แหลมแท่น บางแสน เป็น Beach
Party & Music Festival เทศกาลดนตรีและปาร์ตี้ริมทะเล
ที่พร้อมมอบความสุขด้วยกิจกรรมสุดเอ็กซ์คลูซีฟที่ต่อแถวกันมาสร้างความสนุกแบบนันสต็อปด้วยเช่นกัน
ภายในงานวันเสาร์ที่ 27 พฤษภาคม นี้ มีกิจกรรมหลากหลายรอต้อนรับนักท่องเที่ยวทุกคน
เริ่มต้นบูสต์อัปความสนุกตั้งแต่ก้าวแรกจนถึงนาทีสุดท้ายกับ
กิจกรรมที่ 1 สติ๊กเกอร์ลายลิมิเต็ดเอดิชั่น ฟรี! ให้ครีเอทความสดใสสไตล์คุณ
กิจกรรมที่ 2 ชวนตื่นตากับ LAMBRETTA DISPLAY รวมบรรดาสกู๊ตเตอร์ โมเดิร์นคลาสสิคระดับพรีเมียมในตำนานอย่าง Lambretta
X300 ที่ยกขบวนมาอวดโฉมให้เหล่าสาวกรถสกู๊ตเตอร์ได้ยลโฉมและสัมผัสกันอย่างใกล้ชิด
กิจกรรมที่ 3 ไปเดินเล่นเสพงานศิลป์ให้ฟินกันไปข้างด้วยกิจกรรมเอาใจสายอาร์ทกับ 2 อาร์ทติสชื่อดัง อย่าง Stupidnoobmacc และ parimroj ที่จะมาโชว์ลีลาการเพนท์และพ่นสีแบบศิลปะ Street
Art ให้ได้ดูกันแบบสดๆ
กิจกรรมที่ 4 พิเศษ! ลุ้นรับรางวัลหมวกกันน็อคที่เพนท์โดย 2 หนุ่มแบบแรร์ไอเทมชิ้นเดียวในโลกเฉพาะงานนี้เท่านั้น
มีหมวกแล้วต้องมีเสื้อฮาวายตัวเก่ง ไอเทมสำคัญที่ชาวสกู๊ตเตอร์จะขาดไม่ได้เลย คอยพบกับ เสื้อฮาวายดีไซน์พิเศษ จาก goh_m_kittipong ศิลปินนักวาดภาพชื่อดังในสไตล์สกู๊ตเตอร์คลาสสิก
ที่พร้อมให้ทุกคนเป็นเจ้าของในงาน
กิจกรรมที่ 5 ร่วมอวดโฉมสกู๊ตเตอร์คู่ใจกับขบวนคาราวานสกู๊ตเตอร์ที่พร้อมใจกันยกก๊วนไปทัวร์รอบบางแสนในบรรยากาศของเพื่อนพ้องสุดฟิน
สร้างความทรงจำดีๆ ริมบางแสนบีชร่วมกัน
รวมทั้งร่วมสนุกกับ “มินิคอนเสิร์ตสุดเอ็กซ์คลูซีฟ”
จาก 2 ศิลปิน ที่มีสไตล์ไม่ซ้ำใครอย่าง URBOY TJ (ยัวร์บอยทีเจ) แรปเปอร์ชื่อดังที่รันวงการฮิปฮอปเมืองไทย
งานนี้ขนเพลงฮิตมาให้สายฮิประเบิดเสียงกรี๊ดกันแบบสนั่นแหลมแท่น
พร้อมโลดแล่นไปกับจังหวะเพลงที่ชวนให้โยกตามเบาๆ อย่าง วายร้าย, เค้าก่อน, ช่วยไม่ได้ ถามคำ และอีกมากมาย
เรียกว่าใส่เต็มทุกเพลงแบบไม่มีลดสปีด
จากนั้นพร้อมส่งไม้ต่อความมันส์ให้กับ SLUR (เสลอ) วงดนตรีอินดี้ร็อค ขวัญใจเด็กแนวที่มาพร้อมกับซิงเกิลใหม่ในรอบ 2 ปี
อย่างเพลง ‘แซง (Race)’ และอีกหลายเพลงฮิตแบบอัดแน่นซาวด์ที่ทุกคนคิดถึง รับรองว่าถูกใจชาวสกู๊ตเตอร์แน่นอน
นอกจากนี้ตลอดทั้งงานยังได้แดนซ์กันแบบสุดเหวี่ยงไปกับเพลย์ลิสต์มันส์ๆ
จากดีเจชื่อดังที่แท็กทีมกันมาปล่อยของกันแบบไม่มีกั๊ก
เรียกว่ารวมทุกความหลงใหลคนรักเสียงเพลงในงานเดียว
อีกทั้งงาน The Scooter Fest #3 ยังขอบูสต์ความสุขแบบสุดเหวี่ยงคูณ 3 ให้ชาวแก๊งค์มาร่วมกิจกรรมสุดฮิป
ออน เดอะ บีช แบบจัดเต็มตลอดงาน อีก 2 รายการ ได้แก่
รายการแรก SCOOTER FUN ACTIVITY ON THE BEACH กิจกรรมที่จะชวนสาวกสกู๊ตเตอร์
มาร่วมกันตามหาอุปกรณ์สำหรับถ่ายภาพตามบูธต่างๆ ในงาน อาทิเช่น เสื้อฮาวาย หมวก
บอลชายหาด เพื่อให้แต่ละคนเลือกอุปกรณ์แล้วมารวมตัวกันที่หน้าเวที
ก่อนจะวัดดวงว่าใครสามารถหยิบอุปกรณ์มาได้ถูกต้องตามภาพได้มากที่สุด
ลุ้นรับรางวัลสุดพิเศษกลับบ้านไปแบบคูลๆ
รายการที่ 2 อิ่มอร่อยแบบจัดเต็มเมนูซีฟู้ด SEAFOOD CARNIVAL โดยได้รวบรวมทั้งอาหารทะเล ปิ้งย่างบาร์บีคิว
พร้อมเครื่องดื่มจากร้านดังทั้งในบางแสน และในโซเซียลมาให้ทุกคน
ลงทะเบียนเข้างานฟรี!!จำนวนจำกัด ดูเพิ่มได้ที่ https://www.facebook.com/songtopiathailand
ข่าวที่สอง
-บินไทยQ1ปี66กำไร1.2หมื่นล้าน3ไตรมาสลุยเพิ่มตลาด/ล้างหนี้
“การบินไทย”ตีปีกไตรมาส
1 ปี’66 ลั่นทำกำไรพุ่ง
12,523
ล้านบาท ต่อเนื่อง 3
ไตรมาส จัดทัพธุรกิจชิงเค้กเพิ่มไตรมาส 2-3
นำเข้าฝูงบินใหม่ 4 ลำ ควบรวมเครื่องไทยสมายล์
20 ลำ
หวังชิงยอดขาย “ยุโรป-เอเชียเหนือ” 1 ก.ค.66
เพิ่มเที่ยวบินเพียบเข้า จีน ญี่ปุ่น ฮ่องกง พร้อมตุนเงินสดเป๋าตุง 4.2 หมื่นล้าน
เตรียมใช้หนี้ก้อนโตปีหน้า 8,000 ล้านบาท
และยังฟุ้งเดินหน้าลงทุนศูนย์ซ่อมหมื่นล้าน MRO อู่ตะเภา
นายชาย
เอี่ยมศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานไตรมาส
1 ปี 2566 ดีเกินเป้าหมายที่ตั้งไว้
โดยการบินไทยและบริษัทย่อยมีได้รวมทั้งสิ้น 41,507 ล้านบาท
เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันกับปีก่อน 11,181 ล้านบาท เติบโต
271.2 % มีกำไรสุทธิ
12,523 ล้านบาท
เพิ่มขึ้น 486 % (กำไรต่อเนื่องกัน 3 ไตรมาส)
และมีกำไรหลังหักเงินสดจ่ายหนี้ตามสัญญาเช่าเครื่องบิน (EBIDA)
รวมทั้งสิ้น 14,054 ล้านบาท
พร้อมกับมีกระแสเงินสดหมุนเวียน 42,915 ล้านบาท ให้บริการขนส่งผู้โดยสารได้ 3.52 ล้านคน เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 245.1% ทำให้มีอัตราบรรทุกผู้โดยสารเฉลี่ย
83.5 %
ซึ่งตลอดปีนี้จะรักษาไว้ให้ได้ 77-80 %
ผลจากการบินไทยมีรายได้และกำไรดีขึ้นต่อเนื่อง
จึงประมาณการณ์ตลอดปี 2566
จะให้บริการขนส่งผู้โดยสารทั่วโลกได้ไม่ต่ำกว่า
9
ล้านคน ปี 2567 ตั้งไว้
12 ล้านคน
รวมทั้งยังคงเป้าหมายการออกจากแผนฟื้นฟูกิจการให้ได้ช่วงปลายปี 2567 ควบคู่กับการต้องบริหารกระแสเงินสดในมือที่มีอยู่ขณะนี้กว่า
42,915
ล้านบาท เนื่องจากตอนนี้มีหนี้รวมทั้งหมดกว่า 140,000 ล้านบาท
ปีหน้าจะต้องจ่ายตามสัญญาอย่างน้อย 8,000 ล้านบาท
ส่วนใหญ่เป็นหนี้จากการหักลบค่าโดยสารของคู่ค้าและผู้โดยสารซื้อไว้ก่อนเกิดปัญหาฟื้นฟูกิจการ
(เป็นหนี้คู่ค้าต่างประเทศ 70-80%) มีประมาณ 13,000 ล้านบาท
ตอนนี้ทยอยใช้คืนไปแล้วเหลือค้างชำระอีกเพียง 5,000-6,000 ล้านบาท
นายชายย้ำว่า
การบินไทยยังคงเป้าหมายที่จะนำธุรกิจออกจากแผนฟื้นฟูกิจการให้ได้ช่วงปลายปี 2567
ซึ่งเป็นไปตามเงื่อนไขที่ระบุไว้กับคณะกรรมการฟื้นฟูกิจการ
รวมทั้งการเดินหน้าสร้างรายได้ ลดหนี้สิน
จัดการขายสินทรัพย์ที่ไม่ควรเก็บไว้ให้เป็นภาระอีกต่อไป จึงกำลังประกาศขาย
สำนักงานการบินในประเทศที่เชียงใหม่ พิษณุโลก กับต่างประเทศ ที่อังกฤษ ฮ่องกง
ปีนัง มูลค่าการขายรวมทั้งหมดแล้วจะได้เป็นเงินเข้ามาหลัก 100 ล้านบาท
ทางด้านการ
“บริหารฝูงบิน” ขณะนี้มีเครื่องบินบริการรวม 65 ลำ แบ่งเป็น การบินไทย 45 ลำ
และไทยสมายล์อีก 20 ลำ
ตามแผนหลังจากจะเดินหน้าเพิ่มฝูงบินด้วย 2 แนวทาง แนวทางที่ 1 ทยอยนำเครื่องบินใหม่อีก
4 ลำ
เริ่มไตรมาส 3 ปีนี้เป็นต้นไปจะนำเข้ามาก่อน
2 ลำแรก
ผนวกกับแนวทางที่ 2 ควบรวมเครื่องบินลำตัวแคบ
แอร์บัส A320
ของไทยสมายล์มาเป็นของการบินไทยอีก 20 ลำ
โดยยอมเสียค่าใช้จ่ายซึ่งบางส่วนจะต้องจอดอยู่บนพื้นในระหว่างขั้นตอนรอควบรวมจนสำเร็จครบทั้งหมด
นายชายกล่าวว่าการจัดการฝูงบินใหม่ก็เพื่อประโยชน์หลัก
2 ส่วน
คือ ส่วนที่ 1
เพิ่มประสิทธิภาพการผลิตหรือจำนวนที่นั่ง (productivity) ให้สอดคล้องกับความต้องการของผู้โดยสารทั่วโลกฟื้นตัวหันมาเดินทางเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
ซึ่งปัจจุบันการบินไทยสามารถบริหารจัดการใช้ศักยภาพเครื่องบินเฉลี่ยสูงถึงวันละ 12.3 ชั่วโมง ส่วนที่
2 สามารถทยอยนำเครื่องไทยสมายล์แต่ละล็อตที่โอนให้การบินไทยครั้งละ
4-5 ลำ
นำมาผลิตที่นั่งขายให้ผู้โดยสารเส้นทางบินระยะใกล้เพิ่มขึ้นได้
แล้วยังสามารถลดการใช้งานเครื่องบินปัจจุบันซึ่งทำงานหนักลงได้ด้วย
ส่วนธุรกิจให้บริการภาคพื้นดินและขนสัมภาระกระเป๋าผู้โดยสาร
(Ground handing service)
ตามสัญญาจ้างระหว่าง บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) กับ บมจ.การบินไทย
ในสนามบินนานาชาติหลักสุวรรณภูมิ
ถึงแม้กระทรวงคมนาคมจะมีนโยบายให้ดำเนินการจ้างบริษัทรายที่ 3 เข้ามาบริการได้
เนื่องจากที่ผ่านมาการบินไทยมีแรงงานไม่เพียงพอทำให้ผู้โดยสารร้องเรียนเรื่องได้รับกระเป๋าล่าช้าเกินมาตรฐานสากล
นั้น
นายชายกล่าวว่า
การบินไทยได้แก้ไขปัญหาได้แล้วโดยใช้วิธีเพิ่มค่าจ้างแรงงานสูงขึ้น
จูงใจให้คนเข้ามาทำงานอย่างเพียงพอ หลังจากช่วงโควิด-19
แรงงานเหล่านี้หันไปประกอบอาชีพอื่นแล้วไม่กลับเข้าสู่ระบบ
ผนวกกับเมื่อมีบริษัทรายที่ 3 เข้ามาบริการก็จะเกิดการแย่งชิงแรงงานส่งผลต่อเนื่องไปถึง
“ค่าตั๋วโดยสารเครื่องบิน” ของสายการบินต่าง ๆ
จะแพงขึ้นเหมือนที่ปรากฎอยู่ในปัจจุบัน เพราะพอสายการบินต่าง ๆ
มีต้นทุนจากส่วนนี้เพิ่มขึ้น
ก็ใช้วิธีบวกค่าใช้จ่ายรวมไว้ในตั๋วเครื่องบินเรียบร้อยแล้ว
นายกรกฎ
ชาตะสิงห์
ประธานเจ้าหน้าที่สายการพาณิชย์ บมจ.การบินไทย กล่าวว่า ช่วงไตรมาส 2 ปี 2566 เริ่มเข้านอกฤดูเดินทาง
(low season)
จึงยังต้องเร่งรักษาฐานรายได้จากการขายตั๋วโดยสารและบริการตลาดที่มีความแข็งแรงไว้
2 ตลาดหลัก
ได้แก่ ตลาดที่ 1 ยุโรป เป็นแหล่งรายได้สำคัญของการบินไทยสัดส่วนประมาณ
40 % ของรายได้ทั้งหมด
จึงวางกลยุทธ์บินบริการแบบประจำทุกวันทุกเส้นทาง (daily flight)
ตอนนี้มีสัญญาณจองซื้อตั๋วล่วงหน้าทยอยเข้ามาแล้ว
ตลาดที่ 2 เอเชียเหนือ
ได้แก่ “สาธารณรัฐประชารัฐประชาชนจีน”
ซึ่งการบินไทยต้องแข่งขันกับสายการบินจีนซึ่งมีอยู่จำนวนมากมายสามารถบินตรงได้จากทุกเมืองของจีนมายังไทย
ขณะนี้การบินไทยมีส่วนแบ่งตลาดผู้โดยสารไม่มากนักราว 10 % ของทั้งหมด
จึงวางแผนจะเพิ่มเที่ยวบินตรงแบบประจำ เริ่ม 1 กรกฎาคม 2566 เป็นต้นไป
บริการบิน ไป-กลับ ไทย-สาธารณรัฐประชาชน ทุกวัน หรือ วันละ 1 เที่ยว
สู่ 3 เมืองใหญ่
คือ ปักกิ่ง 7
เที่ยว/สัปดาห์ จากเดิม 3
เที่ยว/สัปดาห์ เซี่ยงไฮ้ 7 เที่ยว/สัปดาห์ จากเดิม 4 เที่ยว/สัปดาห์
กวางโจว 7
เที่ยว/สัปดาห์ จากเดิม 3
เที่ยว/สัปดาห์
เช่นเดียวกับ “ญี่ปุ่น” วันที่ 1 กรกฎาคมนี้ จะเพิ่มเที่ยวบิน สู่เมืองโตเกียว 21 เที่ยว/สัปดาห์
หรือ วันละ 3 เที่ยว
ส่วนการขึ้นลงสนามบินฮาเนดะ ยังคงไว้ที่ 14 เที่ยว/สัปดาห์ เมืองโอซาก้า 14 เที่ยว/สัปดาห์
เมืองนาโงย่า 7
เที่ยว/สัปดาห์ และ “ฮ่องกง” ตั้งแต่ 1 กรกฎาคมนี้ จะเพิ่มเป็น 21 เที่ยว/สัปดาห์
จากเดิม 14 เที่ยว/สัปดาห์
ด้านนายทวิโรจน์
ทรงกำพล ประธานเจ้าหน้าที่สายกลยุทธ์องค์กร บมจ.การบินไทย
กล่าวเสริมว่าการบินไทยยังคงพร้อมที่จะลงทุนเพียงรายในโครงการ
“ศูนย์ซ่อมบำรุงเครื่องบิน” TG MRO ที่สนามบินนนาชาติอู่ตะเภา
ซึ่งประเมินมูลค่ากันไว้ประมาณกว่า 10,000 ล้านบาท
ตอนนี้อยู่ระหว่างการศึกษารายละเอียดทั้งหมดอีกครั้ง
แล้วล่าสุดได้หารือกับทางเลขาธิการประธานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก
(EEC)
ถึงการเดินหน้าโครงการดังกล่าวต่อไป ซึ่งจะมีความชัดเจนช่วงปลายปี 2566
แล้วการบินไทยยังคงเปิดโอกาสให้บริษัทที่สนใจจะเข้าร่วมทุนเข้ามาเจรจาหากเหมาะสมก็จะพิจารณาร่วมทุนกันได้ต่อไป
ติดตามฟังรายการได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์
เวลา 11.00-12.00 น.ทาง สวท.FM 97.0 MHz.
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น