ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

ททท.เชียงใหม่ขายเที่ยวGreen Seasonปี'66 ชู 5โครงการ

ททท.ลุยขาย“กรีนซีซันเที่ยวเชียงใหม่”รับหน้าฝน5โปรเจกต์

ม.ค.-มี.ค.66โกย2.2หมื่นล้าน-เที่ยวบินพุ่ง4แสนที่นั่ง/เดือน

ชูทัวร์“Pride-กอล์ฟ-สปา-TheLink-UnseenNewChapters

คิงเพาเวอร์พาเหรดสินค้าชุมชน6แบรนด์ให้ช้อปสนุก8สาขา

บัตรคิงเพาเวอร์ลดที่พักThe Tanar Align เกาะเต่าสูงสุด17%

ททท.จัดใหญ่TTM+2023ดึง50ชาติซื้อขายบูมทัวร์8เส้นทาง

บางจาก-ทอ.นำฝูงบินกองทัพต่อยอดใช้น้ำมันโลกยั่งยืนSAF

เที่ยววิจิตร5ภาค@เชียงรายแสงแห่งเวียงสวยมีเสน่ห์15พิกัด

เลือกกิน5 อาหารช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันทำให้สุขภาพที่ดียิ่งขึ้น

ดุสิตหัวหินขายแพกเกจWell-Festวันสุขภาวะดีโลก9-11มิ.ย.

KTC-ก.ทรัพยากรหนุนกรีนโฮเตลส์ลด45%ใน20จว.114แห่ง


 

วันอาทิตย์ที่ 21 พฤษภาคม 2566 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทางfacebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen บล็อกเกอร์ #gurutourza #รวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97  #เพ็ญรุ่งใยสามเสน #เที่ยวกับกู๋  #KingPower  #TAT   #TCEB  #บางจาก #ทททเชียงใหม่  #วิจิตร5ภาคเชียงราย

ฟัง Live สดจากลิงค์นี้... https://fb.watch/kFlTPQk4DA/

ช่วงที่ 1 เที่ยวด่วนกับ “นางสาวสุลัดดา ศรุติลาวัณย์” ผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานเชียงใหม่ ท่องเที่ยวกวาดรายได้ 3 เดือนแรก มกราคม-มีนาคม 2566 แล้ว 22,000 ล้าน เร่งขายเที่ยวหน้าฝน Green Season จัดหนัก 5 โครงการ “Amazing Pride-Chaingmai Golf Fest-สปาล้านนา-The Link Local to Local 3จังหวัด” เพชรบุรี สงขลา กระบี่ ปิดท้าย “Unseen New Chapters” มุมใหม่ในอำเภอเวียงแหง ขานรับเที่ยวบินในประเทศและต่างชาติแข่งขันเพิ่มความถี่กว่า 4 แสนที่นั่ง/เดือน

 

นางสาวสุลัดดา ศรุติลาวัณย์ ผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานเชียงใหม่ เปิดเผยว่า วางกลยุทธ์ส่งเสริมการท่องเที่ยวเชียงใหม่รับหน้าฝน Green Season ได้เพิ่มการจัดกิจกรรมจำนวนมากเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวเข้าพื้นที่ เดินหน้ากระตุ้นการท่องเที่ยวเข้าเชียงใหม่ด้วย สถิติ 3 เดือนแรก มกราคม-มีนาคม 2566 มีการเดินทางเข้ามาแล้วรวมทั้งหมด 2.89 ล้านคน แบ่งเป็น ผู้เยี่ยมเยือนคนไทย 75 % ต่างชาติ 25 % ใกล้เคียงกับสถานการณ์ปกติมากแล้วที่เคยทำได้ประมาณ 30 %

ขณะที่ “รายได้” ท่องเที่ยวในเชียงใหม่ 3 เดือนแรกปีนี้ ทำได้กว่า 22,000 ล้านบาท มาจากคนไทย 67 % ใช้จ่ายเงินเฉลี่ยประมาณ 3,000 บาท/คน/ทริป ส่วนต่างชาติใช้จ่าย 33 % โดยมีค่าเฉลี่ยประมาณกว่า 4,000 บาท/คน/ทริป สูงกว่านักท่องเที่ยวคนไทย

“อัตราการเข้าพักแรม” โดยภาพรวมทำได้แล้ว 76-77 % ต่อเนื่องเดือนเมษายน 2566 เชียงใหม่ประสบปัญหาภาวะฝุ่น PM2.5 จึงกระทบกับนักท่องเที่ยวหายไปราว 20 % ช่วงสงกรานต์มีการจองช่วงสุดท้ายเข้ามาเพิ่มได้จำนวนมากพอสมควร

 


ปัจจุบันเชียงใหม่มีสายการบินเข้า-ออก เป็นเที่ยวบินเปิดเข้าสู่เชียงใหม่ รวมแล้วกว่า 406,000 ที่นั่ง/เดือน แบ่งเป็น “ในประเทศ” 12 เส้นทาง 6 สายการบิน ครบจากเมืองหลักทั้ง ภาคกลาง ภาคอีสาน ภาคใต้ ด้วยจำนวนที่นั่งมากกว่า 270,000 ที่นั่ง/เดือน และ “เที่ยวบินต่างประเทศ” 20 เส้นทาง 19 สายการบิน จำนวนที่นั่งเที่ยวบิน 136,000 ที่นั่ง/เดือน

ดังนั้นตลอดหน้าฝน Green Season ปีนี้ นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางได้อย่างสะดวก โดยมีกิจกรรมท่องเที่ยวหลัก ๆ ให้เลือกได้อย่างน้อย 4 โครงการ ดังต่อไปนี้

 


โครงการที่ เริ่มจาก “มิถุนายน 2566  Pride Month จัดเป็น Amazing Chaingmai Pride 2023 เริ่มวันที่ 28 พฤษภาคม -30 มิถุนายน นี้ ภายใต้ธีม “เชียงใหม่เมืองแห่งสีสัน และความสุขที่หลากหลาย” สร้างเท่าเทียมกับการท่องเที่ยวของทุกเพศทุกวัยครอบคลุมทั้ง กลุ่มความหลากหลายทางเพศ กลุ่มชาติพันธุ์ กลุ่มที่มีความบกพร่องทางร่างกาย กลุ่มเวิร์คเกอร์ จะทำกิจกรรมร่วมกันระหว่างจังหวัดและเทศกาลเมืองเชียงใหม่ สมาคมธุรกิจท่องเที่ยวเชียงใหม่ สมาคมโรงแรม เครือข่าย LGBT

ไฮไลต์วันที่ 28 พฤษภาคม จัดยิ่งใหญ่ขบวนพาเหรดในพื้นที่เมืองเก่าเชียงใหม่ เริ่มตั้งแต่พุทธสถาน ไปสิ้นสุดตรงข่วงประตูท่าแพ พร้อมกับเปิดลานกิจกรรม ด้วยพาเหรดของกลุ่มความหลากหลายทางเพศซึ่งเชียงใหม่เป็นจังหวัดแรก จากนั้นจะเวียนไปจัดที่พัทยา กรุงเทพฯ พร้อมกับทำแลนด์มาร์กเชิงสัญลักษณ์ เช็คอิน ถ่ายรูป 2-3 จุด 1.ช่วงสะพานหัวเหล็ก มีความเก่าแก่ตกแต่งด้วยสีรุ้ง 2.เขตเมืองเก่า

 

ตลอดเดือนมิถุนายน 2566 จะทำกิจกรรมโปรโมชั่นร่วมกับห้างสรรพสินค้าชั้นนำ ห้างเซ็นทรัลเชียงใหม่ ห้างเมญ่า สมาคมธุรกิจท่องเที่ยวเชียงใหม่ สมาคมโรงแรมไทยภาคเหนือตอนเหนือตอนบน รวมตัวกันกับ แหล่งท่องเที่ยวชุมชน ร้านอาหาร และทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว ทำโปรโมชั่นลดตลอดงานด้วยเช่นกัน แล้วยังมีกิมมิกพิเศษ เช่น ร้านอาหาร ทำเมนู เครปสีรุ้ง ข้าวเหนียวมะม่วง และบัวลอย 7 สี ไว้ต้อนรับนักท่องเที่ยว

โครงการที่ 2 Chaingmai Golf Festival 2023  ระหว่างวันนี้ -สิงหาคม 2566 ต้อนรับกลุ่มนักกอล์ฟที่นิยมเดินทางมาตีกอล์ฟช่วงหน้าฝนในเชียงใหม่ ททท.ร่วมกับสมาคมนักกอล์ฟ จัดทัวร์นาเมนท์แข่งขันขึ้นตามสนามที่เป็นสมาชิกสมาคมเข้าร่วมโครงการรวม 8 สนาม แข่งขันทั้งหมด 9 แมชท์ คาดจะมีนักกอล์ฟและผู้ร่วมแข่งขันไม่น้อยกว่า 1,000 คน

โดยจะให้สิทธิพิเศษกับนักกอล์ฟด้วยแคมเปญ “Amazing Weekday Payless” ระหว่างมิถุนายน-สิงหาคม 2566เมื่อเดินทางมาเล่นกอล์ฟช่วงวันธรรมดา ตามสนามกอล์ฟในเชียงใหม่ที่เข้าร่วมโครงการ จะได้รับคูปอง อี-โวเชอร์ เป็นค่าอาหารกลางวัน เพิ่มจำนวนและรายได้วันธรรมดาจันทร์-พฤหัสบดี ทุกสัปดาห์

สนามกอล์ฟหลัก ๆ ได้แก่ กัสซันเลกาซี กัสซันพาโนรามา แม่โจ้นอร์ธฮิลล์ เชียงใหม่ไฮแลนด์ ซัมมิตกรีนวัลเลย์

โครงการที่ 3 ททท.ร่วมกับสมาคมล้านนา Sodiac Spa จัดแคมเปญ “นวดตามธาตุ ผ่อนคลายตามราศรี” พร้อมส่วนลดพิเศษช่วงกรีนซีซัน 20 % ระหว่างมิถุนายน-สิงหาคม นี้ โดยจะจัดทำเมนูผ่อนคลายบำบัดสุขภาพด้วยสปา โดยรังสรรค์ทรีตเมนท์ให้มีความแตกต่างกันตามธาตุและราศรีของแต่ละคน ด้วยการผสมผสานระหว่างศาสตร์ล้านนากับความทันสมัยของสปาแนวใหม่ โดยมีสปาชั้นนำของสมาคมสปาล้านนาในเชียงใหม่พร้อมให้บริการ เช่น โอเอซิสสปา ศิลาสปา ฟ้าล้านนาสปา ลานนาคำสปา ยูสปา อาสวมันตรา

ผอ.สุลัดดากล่าวว่า ททท.เชียงใหม่ ได้เพิ่มกิจกรรมและโครงการท่องเที่ยวกรีน ซีซัน เพื่อเป็นทางเลือก ได้แก่ กิจกรรมAmazing Lomo Experience จะนำเสนอกิจกรรมช่วยส่งเสริมการเดินทางเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ท่องเที่ยวกับรถตุ๊กตุ๊กระบบไฟฟ้าโลโม่ ตอนนี้ทำเส้นทางต้นแบบพร้อมขายรองรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ สามารถใช้บริการได้ทั้งแบบ ดีมานด์ และแพกเกจ “ย้อนรอยเมืองเชียงใหม่” พาไปชมหอศิลป์ ศึกษาเรื่องราวประวัติศาสตร์เมืองเก่า หรือจะไปวัดสำคัญอย่างวัดศรีสุพรรณที่ชุมชนวัวลาย ข่วงประตูท่าแพสถานที่แลนด์มาร์กจังหวัดเชียงใหม่ และคุ้มเจ้าบุรีรัตนาเป็นสถาปัตยกรรมแบบล้านนา เป็นคุ้มเจ้านายฝ่ายเหนือที่เหลืออยู่เพียงไม่กี่แห่งแล้ว

 

แล้วนักท่องเที่ยวยังสามารถร่วมทำกิจกรรมเวิร์คช้อปต่าง ๆ เช่น ตัดตุง ทำปิ่นปักผม จะได้มีส่วนร่วมประสบการณ์การเดินทางเพิ่มมากขึ้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการทดลองเส้นทาง และสามารถเปิดบริการนักท่องเที่ยวได้ช่วงกรีน ซีซัน

 


โครงการที่ 4 The Link Local to Local  แลกเปลี่ยนการขายระหว่างเชียงใหม่กับภาคอื่น 3 จังหวัด 3 เส้นทาง ได้แก่

 

เส้นทางที่ 1 เชียงใหม่ ลิงค์ กับจังหวัดเพชรบุรี จัดทำเส้นทาง Royal Route สมัยโบราณ แลกเปลี่ยนคนสองจังหวัดข้ามมาเที่ยวกัน กลุ่มเป้าหมายจะเป็นผู้หญิง กับ ซิลเวอร์เอจ เชียงใหม่ทำ “ภิรมย์เวียงพิงค์” เสนอขาย 5F ชูเด่น 2F คือ Fashion มาใส่ชุดสมัยเจ้าดารารัศมี สวมผ้าซิ่น นั่งเรือล่องแม่น้ำปิง จิบชายามบ่าย และ Film แหล่งถ่ายทำละคร/ภาพยนตร์ เช่น วัดต้นแกว๋น เรือนศรีมันตรา จากละครเรื่องกาสะลอง ส่วน “เพชรบุรี” จะขาย “พริบพรีภิรมย์” ขายเส้นทางในแบบราชวงศ์ จากนั้นก็นำผู้ประกอบการร่วมแลกเปลี่ยนสำรวจเส้นทางของสองจังหวัด แล้ว

 

เส้นทางที่ 2 เชียงใหม่ ลิงค์ กับจังหวัดกระบี่ นำเสนอ “Green Route” ในเชียงใหม่จะขาย ป่าหน้าฝน นาขั้นบันไดดอยอินทนนท์ และรถตุ๊กตุ๊กไฟฟ้า รวมทั้งอื่น ๆ ส่วนกระบี่ก็ขายกรีนเที่ยวทะเลเหมือนกัน เน้นเจาะกลุ่มครอบครัว

เส้นทางที่ 3 เชียงใหม่ ลิงค์ กับจังหวัดสงขลา นำเสนอ “ท่องเที่ยวศึกษาดูงาน” สถานที่จัดการประชุม อบรม ขนาดใหญ่ สวนพฤกษศาสตร์ แหล่งท่องเที่ยวรองรับกลุ่มขนาดใหญ่ ไนท์ซาฟารี สปาโซดิแอค ตรงกับ Flight สอดคล้องกับ Fit &Firm

 


โครงการที่ 5 การเสนอขาย Unseen New Chapters ล่าสุดนำเสนอในอำเภอเวียงแหง ด้วยจุดขาย 5 อัญมณีสีดำ ประกอบด้วย  1.จุดชมวิวดอยดำ อยู่ในอุทยานแห่งชาตห้วยน้ำดัง มีระดับความสูงจากน้ำทะเล 1,835 เมตร หน้าหนาวจะเห็นทะเลหมอก และดอยหลวงเชียงดาวอย่างชัดเจน 2.บ้านเล็กในป่าใหญ่ แหล่งเลี้ยงปลาเทราส์ และสเตเจี้ยน คาเวียร์สีดำ 3.เขตท้องฟ้ามืด Dark Sky สามารถมองเห็นทางช้างเผือกได้ 4.ผลิตภัณฑ์ถั่วเน่าสีดำ ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์โอท็อปขึ้นเชื่อ มีลักษณะเหมือนถั่วนัตโต๊ะของญี่ปุ่น  5.เส้นทางเดินทัพองค์ดำ หรือสมเด็จพระนเรศวรมหาราช พระองค์ท่านเคยเดินทัพผ่านเส้นทางนี้ ทั้งหมดนี้เป็นพื้นที่นำเสนอขาย

ขณะนี้ขอเสียงให้ร่วมกันโหวตผ่านช่องทางเว็บไซต์ www.tourismthailand.org/unseennewchapters เริ่ม

เริ่มวันจันทร์ที่ 22 -อาทิตย์ 28 พฤษภาคม 2566 โหวตได้วันละ 1 ภาค ต่อ 1 สถานที่ท่องเที่ยว ก็ขอคะแนนโหวตให้ด้วยเลือก “จุดชมวิวดอยดำ” และสินค้าท่องเที่ยว 5 อัญมณีสีดำ อำเภอเวียงแหง จังหวัดเชียงใหม่

ฟังข่าวต้นชั่วโมง


ข่าวที่ 1 คิงเพาเวอร์พาเหรดสินค้าชุมชน6แบรนด์ให้ช้อปได้8สาขา

คิง เพาเวอร์ จัดเต็มผลิตภัณฑ์งานคราฟต์ของไทยที่นักท่องเที่ยวทั่วโลกนิยมด้วยฝีมืออันประณีตมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ซึ่งสามารถช้อปได้ที่ คิง เพาเวอร์ ทั้งหมด 8 สาขา ได้แก่ ดาวน์ทาวน์ 4 สาขา คือ รางน้ำ, ศรีวารี, พัทยา, ภูเก็ต และที่สนามบิน 4 สาขา คือ สุวรรณภูมิ  ดอนเมือง ภูเก็ต หาดใหญ่

มีสินค้า Art & Craft จากหลากหลายแบรนด์ทั้งงานปัก งานทอ และตัดเย็บจากฝ้าฝ้ายย้อมจากสีธรรมชาติ แต่ละชิ้นผสมผสานไอเดียเข้ากับวัสดุท้องถิ่นได้อย่างลงตัว ด้วยจุดเด่นหนึ่งเดียวในโลก  

จุดเด่นที่ 1 ฝีมือช่างท้องถิ่นที่อย่างประณีต ลวดลายของแพตเทิร์น ดีเทลสะท้อนถึงภูมิปัญญาพื้นบ้าน ใช้วัสดุในชุมชนเป็นหลัก

จุดเด่นที่ 2 ใช้ผ้าพื้นเมืองและเอกลักษณ์ของชุดชนเผ่า ปรับดีไซน์ให้ทันสมัย ได้ใจคนรุ่นใหม่ แมตช์กับสไตล์ในชีวิตประจำวัน

จุดเด่นที่ แนวคิดรักษ์โลกและความยั่งยืน การผลิตเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ใช้ผ้าฝ้ายคุณภาพ เนื้อผ้าเหมาะกับสภาพอากาศของไทย

โดยได้นำเสนอสินค้าที่ลายปักอันเป็นเอกลักษณ์ภาคเหนือ ไม่น้อยกว่า 6 แบรนด์ ยกขึ้นเชลท์รับตลาดอินเตอร์ ดังนี้

แบรนด์แรก “นายใจดี” ผลิตเสื้อยืดผ้าฝ้ายปักมือเป็นตัวอักษรไทยสไตล์ล้านนา สวยมีสไตล์ ควรค่าแก่การเป็นของขวัญเป็นอย่างยิ่ง  

แบรนด์ 2 NITHEE ช่วยเพิ่มเลเยอร์ความเก๋ให้กับลุคด้วยกระเป๋าลวดลายชนเผ่าและวิถีชีวิตชาวเหนือ ด้วยผ้าปักมือจากกลุ่มผู้สูงอายุบ้านสันกอง อ.แม่จัน จ.เชียงราย

แบรนด์ 3 อินดิโก โฮม ของดีจากเมืองแพร่  สามารถเติมสีสันด้วยงานย้อมสีธรรมชาติ -สนุกไปกับการแต่งตัวด้วยผ้าพันคอบาติกเนื้อผ้ามัสลินย้อมครามธรรมชาติ

แบรนด์ 4 ‘รักษ์บาติก’ เสริมด้วยหมวกเพนต์บาติกผ้าฝ้ายธรรมชาติ ที่ได้รวมวัฒนธรรมล้านนาเข้ากับศิลปะสมัยใหม่ จนได้ลายและสีสวยไม่ซ้ำใคร

แบรนด์ 5 LONG GOY ต่อยอดไอเดียด้วยงานดีไซน์ร่วมสมัย -เสื้อผ้าโอเวอร์ไซซ์สไตล์ญี่ปุ่น มิกซ์แอนด์แมตซ์เข้ากับทุกลุค เน้นการสวมใส่สบายโดยดีไซเนอร์รุ่นใหม่   ผลิตจากผ้าฝ้ายธรรมชาติและตัดเย็บโดยช่างในชุมชน

แบรนด์ที่ 6 KHUNJACK เสื้อคลุมผ้าฝ้ายผสมใยกัญชง mujได้แรงบันดาลใจจากเสื้อยูกาตะของญี่ปุ่น ด้วยเส้นใยและการออกแบบใส่ได้ทั้งหน้าร้อนและหนาว

            ช้อปสินค้าไทยคุณภาพหนึ่งเดียวในโลกได้ทั้ง 6 แบรนด์ ที่คิง เพาเวอร์ ในเมืองและสนามบินได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป

 

ข่าวที่ 2 บัตรคิงเพาเวอร์ลดที่พักThe Tanar Align เกาะเต่าสูงสุด17%



 

1.จองห้องพักทุกประเภททางเว็บไซต์รับส่วนลด 17%  www.tarnaalignkohtao.com 

 

2.ใช้บริการอาหารและเครื่องดื่มในโรงแรมรับส่วนลด 15% ได้ที่ห้องอาหารมะลิ ส่วนลดดังกล่าวจะยกเว้นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์

 

3.พิเศษ!! ผู้ถือบัตรสมาชิก คิง เพาเวอร์ VEGA CROWN และ ONYX รับฟรี! The Tarna Herb Mocktail จำนวน 2 แก้ว (จำกัด 1 สิทธิ์ ตลอดรายการ)

 

สมาชิก คิง เพาเวอร์ สามารถสำรองห้องพักล่วงหน้าที่โรงแรม The Tarna Align Resort เกาะเต่า ได้ที่

โทร. 077-601-843, LINE Official Account: @tarnaalignkohta และอีเมล: info@tarnaalignkohtao.com

 

เพียงแค่สมาชิกจะต้อง “กดรับรหัสส่วนลด” ผ่านระบบ LINE Official Account : @kingpower หรือ member.kingpower.com แล้วแจ้งรหัสส่วนลดกับเจ้าหน้าที่ของโรงแรม เพื่อทำการจองล่วงหน้า สอบถามห้องพัก ก่อนทำการกดรับสิทธิ์ ด้วยเช่นกัน

 

ข่าวที่ 3 ททท.จัดใหญ่TTM+2023ดึง50ชาติซื้อขายบูมทัวร์8เส้นทาง

 

          ดร.ยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ททท. เตรียมจัดงานส่งเสริมการขายด้านการท่องเที่ยว Thailand Travel Mart Plus (TTM+) 2023 ระหว่างวันที่ 31 พฤษภาคม -  2 มิถุนายน 2566 ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ กรุงเทพฯ เพื่อตอกย้ำแคมเปญ “Visit Thailand Year 2023 : Amazing New Chapters” โดยเน้นขายสินค้าSoft Power ยกระดับห่วงโซ่อุปทานและสร้างโอกาสทางธุรกิจแก่ผู้ประกอบการไทยสู่ตลาดต่างประเทศ ซึ่งเป็นรายการใหญ่ในการจับคู่เจรจาธุรกิจแบบ B2B ซื้อขายการท่องเที่ยว

           

            ททท.คาดจะสามารถดึงดูดผู้เข้าร่วมงานกว่า 850 ราย เป็นผู้ประกอบการบริษัทนำเที่ยวตัวแทนผู้ซื้อ (buyers) จากทั่วโลก 50 ประเทศ กว่า 350 ราย มีทั้ง ยุโรป อาเซียน เอเชียตะวันออก อเมริกา และออสเตรเลีย ขยายกลุ่มตลาดเกิดใหม่ที่มีศักยภาพอื่น ๆ เช่น ยุโรปตะวันออก ตะวันออกกลาง อเมริกาใต้ และแอฟริกาใต้

               

                รวมทั้งจะผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวไทยเป็นตัวแทนผู้ขาย (sallers) ทั่วประเทศจาก 5 ภูมิภาคกว่า 400 ราย จากเมืองหลักและเมืองรอง ผนวกกับสื่อมวลชนในและต่างประเทศอีกกว่า 100 ราย จะเดินทางมาร่วมเผยแพร่การจัดงาน TTM+2023 แหล่งท่องเที่ยว รวมถึงสินค้าและบริการของเมืองไทย

 

ภายในงาน TTM+ 2023 จะมี 4 กิจกรรมหลัก ได้แก่ 1.การเจรจาธุรกิจ 2.Thailand Product Update ฉายภาพสินค้าและบริการด้านการท่องเที่ยวไทย 3.TTM Talk เปิดเวทีแลกเปลี่ยนพูดคุยเสวนาถึงอนาคตการท่องเที่ยวไทย ภายใต้หัวข้อที่เกี่ยวข้องกับ Sustainable Technology, Digital Technology for Tourism Industry 4.Networking Lunch และการอัปเดตสินค้าและบริการด้านการท่องเที่ยวในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง (GMS ) จากหน่วยงานด้านการท่องเที่ยวของประเทศต่าง ๆ

 

         ขณะเดียวกันก็ได้กิจกรรมสำรวจเส้นทางแหล่งท่องเที่ยว Pre-Post Tour ให้ทั้งกลุ่มต่างทั้งประเทศทั้งผู้ซื้อสื่อมวลชน ลงพื้นที่อัพเดทสินค้าท่องเที่ยว ก่อนการจัดงาน (Pre-Tour) 2 เส้นทาง ระหว่าง 30-31  พฤษภาคม 2566 จัดการท่องเที่ยวมุมมองใหม่ในพื้นที่กรุงเทพฯ และนนทบุรี และหลังจัดงาน (Post-Tour) ระหว่างวันที่ 3 – 5 มิถุนายน 2566 นำทีมสำรวจอีก 6 เส้นทาง ได้แก่ เส้นทางที่ 1 เชียงใหม่ เส้นทางที่ 2 นครราชสีมา (เขาใหญ่) – ปราจีนบุรี เส้นทางที่ 3 เพชรบุรี - ประจวบคีรีขันธ์ (หัวหิน)  เส้นทางที่ 4 นครศรีธรรมราช เส้นทางที่ 5 สมุทรสงคราม - กาญจนบุรี เส้นทางที่ 6 ชลบุรีระยอง  

 

            สำหรับการจัดงาน TTM+ 2023 ททท.ให้ความสำคัญส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบและการสร้างความยั่งยืน โดยส่งเสริมผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวไทยให้คำนึงถึงการดูแลและรักษาสิ่งแวดล้อม  การออกแบบใช้วัสดุผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมตกแต่งคูหาในงาน และช่วงทำ Pre-Tour และ  Post-Tour เน้นเรื่องการลดมลพิษ รักษาสิ่งแวดล้อม ให้ความสำคัญกับภูมิปัญญาท้องถิ่น วิถีชุมชน ควบคู่กันไป

 

ข่าวที่ 4 บางจาก-ทอ.นำฝูงบินกองทัพต่อยอดใช้น้ำมันโลกยั่งยืนSAF

 

นายธรรมรัตน์ ประยูรสุข รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มธุรกิจโรงกลั่นและการค้าน้ำมัน บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า นำผู้บริหาร นางกัณฑมาศ กฤตยานุกูล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการผลิตและจัดส่งน้ำมัน บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) และคณะทำงานบริษัทบางจากฯ เดินทางไปพบกับพันธมิตรที่จะใช้น้ำเครื่องบินแบบยั่งยืน (SAF  :Sustainable Aviation Fuel ) โดยได้ร่วมประชุมคณะกรรมการพิจารณาศึกษาความเหมาะสมในการใช้เชื้อเพลิงอากาศยานคาร์บอนต่ำ (Bio-Jet) กับ ฝ่ายอากาศยานของกองทัพอากาศ ครั้งที่ 1 ประจำปี 2566 กับคณะทำงานกองทัพอากาศ และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน (มทร.อีสาน)

 

ในที่ประชุมได้ร่วมกันกำหนดแนวทางความร่วมมือในอนาคต ภายหลังสรุปผลสำเร็จของโครงการศึกษาความเหมาะสมในการใช้เชื้อเพลิงอากาศยานคาร์บอนต่ำ (Bio-Jet) กับอากาศยานที่ได้นำเชื้อเพลิงอากาศยานคาร์บอนต่ำมาผสมเข้ากับน้ำมันอากาศยาน JP-8 ของกองทัพอากาศในอัตราส่วน 2% และนำมาทดสอบกับเครื่องยนต์ทั้งแบบ Jet Start และ Engine Test จากนี้จะเดินหน้าต่อยอดทดสอบน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานยั่งยืน SAF กับอากาศยานของกองทัพอากาศเป็นลำดับถัดไป

 

สำหรับโครงการนี้ดำเนินงานภายใต้การสนับสนุนการวิจัย จากสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) จัดขึ้นครั้งแรกที่กองบัญชาการกองทัพอากาศ ดอนเมือง โดยมี พลอากาศตรี จักรวัชร จงสืบสุข ผู้อำนวยการสำนักงานการบินกองทัพอากาศ เป็นประธานคณะกรรมการ ซึ่งจะร่วมหารือกันเป็นระยะ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายการใช้น้ำมันเครื่องบิน SAF ที่มีคาร์บอนต่ำ สร้างความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมในอนาคตได้

 

            ช่วงที่ 2 ออกเที่ยว “วิจิตร5ภาค@เชียงราย” ไปร่วมหลงแสงเวียง ที่เจียงฮายกันได้รอบอำเภอเมืองรัศมี 5 กม.ได้ถึง 15 พิกัด ตั้งแต่วันนี้ -28 พ.ค.2566 แล้ว “เลือกกิน 5 อาหารเพิ่มภูมิคุ้มกันสุขภาพ” และข่าวท้ายชั่วโมง ข่าวแรก “ดุสิตธานีหัวหินจัดWellFest”แพกเกจรับวันสุขาภาวะดีโลก ราคาพิเศษกิจกรรมและที่พัก ข่าวที่สอง  “KTCผนึกกระทรวงทรัพย์ฯ” หนุนกรีนโฮเต็ลส์ทั่วไทยจ่ายผ่านบัตรลด 45 % ใน 20 จังหวัด 114 โรงแรม

 

ท่องเที่ยว-เที่ยววิจิตร5ภาค@เชียงรายแสงแห่งเวียงสวยมีเสน่ห์15พิกัด

 

สัปดาห์แห่งการเที่ยว “วิจิตร 5 ภาค @ เชียงราย-หลงแสงเวียง ที่เจียงฮาย” ขึ้นเหนือไปได้ตั้งแต่วันนี้-28 พฤษภาคม 2566 ปักหมุดอำเภอเมืองเชียงราย รัศมี 5 กม.สามารถเดินชมหรือนั่งรถรางฟรีเพิ่มประสบการณ์ชมความงดงามได้ทุกวันตั้งแต่ 18.00 น. – 24.00 น. ตื่นตากับงานเทศกาล แสง เสียง และความคิดสร้างสรรค์ สื่อด้วย Light up / Mapping / Projection 3D / Light installation และสื่อผสมทันสมัย สะท้อนอัตลักษณ์ท้องถิ่น เชื่อมโยงเส้นทางให้นักท่องเที่ยวได้ชมตามจุดต่างๆ  

 

มาร่วม “หลงแสงเวียง ที่เจียงฮาย (Chiang Rai : Wiang of Light)” เดินชมสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ในรัศมี 5 กม.ได้ถึง 15 แห่ง 15 พิกัด

 

พิกัดที่ 1 หอนาฬิกาเฉลิมพระเกียรติ: สร้างขึ้นตั้งแต่ปี พ.ศ. 2548 เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ออกแบบโดย ศาสตรเมธี ดร.เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ศิลปินแห่งชาติ

 

จัดแสดงภายใต้แนวคิด Celebrated Time สื่อถึงช่วงเวลาเฉลิมฉลองความภาคภูมิใจของคนเชียงราย โดยใช้เทคนิค Moving Head Beam กับลำแสงสีทอง เงิน นาก เคลื่อนไหวไปพร้อมจังหวะการเดินของเข็มนาฬิกา บอกเล่าถึงเวลาแห่งการเดินหน้า หรือเดินถอยหลังสู่อดีตกาล

 

พิกัดที่ 2 ถนนเชื่อมหอนาฬิกา : ถนนสุขสถิตย์หนึ่งในถนนย่านค้าขายสําคัญของเมืองเชียงรายยุคใหม่ ที่เชื่อมโยงวิถีชีวิต เศรษฐกิจ และการคมนาคม ถือเป็นลมหายใจหนึ่งของการเติบโตของเมือง

 

จัดแสดงภายใต้แนวคิด Connected โดยใช้เทคนิค Laser & Mirror ยิงแสงเลเซอร์ถักเป็นตาข่าย ลอยสุขสถิตย์เหนือผืนถนน สร้างคลื่นแสงเชื่อมสองเวลาและสองสถานที่เข้าหากัน

 

พิกัดที่ 3  หอนาฬิกา (เก่า) : หอนาฬิกาเก่าของเชียงราย สร้างเมื่อ พ.ศ.2510 โดยย้ายจากถนนบรรพปราการ  (ปัจจุบันเป็นที่ตั้งหอนาฬิกาเฉลิมพระเกียรติฯ) ไปไว้ที่ตลาดสดเทศบาล บริเวณสามแยกโรงรับจำนำ

 

จัดแสดงภายใต้แนวคิด Classical Time หนึ่งในตัวแทนยุคสมัยอันคลาสสิค โดยใช้เทคนิคแสง Luminous Light แสงสีขาววางล้อมหอนาฬิกา อวดโฉมเวลาหนึ่งช่วงอดีตสู่ความเจริญของเมืองยุคใหม่

 

พิกัดที่ 4 มูลนิธิสาธารณกุศลสงเคราะห์ : มูลนิธิสาธารณกุศลสงเคราะห์เชียงราย บนถนนบรรพปราการ ทุกวันช่วงเย็นจะมีกิจกรรม ต่าง ๆ เช่น รำไทเก๊ก รำมวยจีน รำกระบี่ ส่งเสริมการออกกำลังกาย ตกแต่งอาคารสวยงามตามสไตล์จีน ด้านในมีจุดไหว้เทพเจ้าต่าง ๆ ตามความเชื่อของชาวไทยเชื้อสายจีนในเชียงราย

 

จัดแสดงภายใต้แนวคิด Power of Gods การไหว้บูชาเหล่าเทพเจ้าขอพร ใช้เทคนิค Red & Gold Lights แสงสีแดงและสีทอง ตัวแทนความมั่งคั่งและโชคดี

 

พิกัดที่ 5 วัดมิ่งเมือง : ชาวเชียงรายเรียก วัดจ๊างมูบ (ช้างหมอบ) หรือ วัดตะละแม่ศรีตามชื่อผู้สร้าง เป็นวัดเก่าแก่คู่บ้านคู่เมืองเชียงราย ทั้งภายในและภายนอกมีสถาปัตยกรรมผสมระหว่างพม่าและล้านนาวิจิตรงดงาม

 

จัดแสดงภายใต้แนวคิด Multi Culture Multi-Colors หนึ่งศรัทธา มากศิลป์ โดยใช้เทคนิคแสง Led Par Light เลือกใช้คู่สีแสงที่ต่อเนื่องและขัดแย้งกันเพื่อขับเน้นศิลปกรรมที่ผสมผสานแปลกตา

 

พิกัดที่ 6 ตึกสามเหลี่ยม : ตึก 3 ชั้นทรงแปลกตา ครั้งหนึ่งเคยเป็นอาคารโมเดิร์นของธนาคารแห่งหนึ่งของเชียงรายยุค 80s

 

จัดแสดงภายใต้แนวคิด Neon Era ใช้เทคนิคแสง Led Neo Light ไฟนีออนที่ไม่ใช่สิ่งส่องสว่าง แต่ได้ใช้งานและจัดวางเป็นงานศิลปะและเป็นเอกลักษณ์ที่สําคัญหนึ่งของยุคสมัย

 

พิกัดที่ 7 แมงสี่หูห้าตา : เป็นชื่อสัตว์ประหลาดตัวหนึ่งในตํานานว่าด้วยวัดพระธาตุดอยเขาควายแก้ว มีลักษณะเหมือนหมีสีดําตัวอ้วน มีหูสองคู่และตาห้าดวง รับประทานถ่านไฟร้อนเป็นอาหารและถ่ายมูลเป็นทองคํา แมงสี่หูห้าตา ยังเคยได้รับการคัดเลือกให้เป็นมาสคอต กีฬาแห่งชาติครั้งที่ 36 "เจียงฮายเกมส์"   

 

จัดแสดงภายใต้แนวคิด Fire Monster ใช้เทคนิคแสง Lantern Installation หุ่นโคมไฟแมงสี่หูห้าตา ขนาดใหญ่ ในท่ากําลังปีนต้นก้ามปูยักษ์หน้าอาคารเทิดพระเกียรติ ที่มาพร้อมกับเสียงแมลงกลางคืน + เสียงสะล้อ

 

พิกัดที่ 8 วัดพระแก้ว : ตั้งอยู่บนถนนไตรรัตน์ ใจกลางเมืองเชียงราย เป็นสถานที่แรกที่ค้นพบพระแก้วมรกต หรือพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร ปัจจุบันประดิษฐานอยู่ในวัดพระศรีรัตนศาสดาราม (วัดพระแก้ว) กรุงเทพฯ ตามประวัติเล่าว่า เมื่อ พ.ศ. 1897 สมัยพระเจ้าสามฝั่งแกน เป็นเจ้าครองเมืองเชียงใหม่ ฟ้าได้ผ่าเจดีย์ร้างองค์หนึ่ง และได้พบพระพุทธรูปลงรักปิดทองอยู่ภายในเจดีย์ ต่อมาจึงได้พบว่าเป็นพระพุทธรูปสีเขียวที่สร้างด้วยหยกคือพระแก้วมรกตนั่นเอง ปัจจุบันวัดพระแก้วเชียงราย ได้สร้างและประดิษฐานพระหยก สร้างขึ้นมาใหม่ 

 

จัดภายใต้แนวคิด Jade Begins กำเนิดแสงมรกต ใช้เทคนิคแสง Green Light & Laser ติดตั้งเครื่องยิงเลเซอร์วาดภาพพระแก้วมรกตประกอบไฟแสงสีเขียวย้อนรําลึกถึงการค้นพบพระแก้วมรกตเป็นแห่งแรก

 

พิกัดที่ 9  ศาลากลางจังหวัด (เก่า) : เป็นสถาปัตยกรรมมีอายุกว่า 120 ปี เป็นหลักฐานทางประวัติศาสตร์ช่วยอธิบายความเป็นมาเป็นไปของสังคมเชียงรายสมัยนั้นได้ดีมาก เปิดดำเนินการเมื่อ พ.ศ. 2443 ในสมัยของพระพลอาษาเป็นข้าหลวงเมืองเชียงราย ออกแบบและก่อสร้างโดยนาย แพทย์วิลเลี่ยม เอ.บริกส์ (Dr.William A. Briggs) แพทย์ชาวอเมริกัน ปัจจุบันอาคารศาลากลางจังหวัดเชียงรายหลังเก่า ขึ้นทะเบียนโบราณสถานของกรมศิลปากรตามประกาศราชกิจจานุเบกษาวันที่ 16 สิงหาคม 2520 ยุติบทบาทในการเป็นอาคารศูนย์กลางการปกครองหัวเมืองเชียงรายมานานกว่า 1 ศตวรรษ

 

จัดแสดงภายใต้แนวคิด Wiang of Light Wiang of Life อาคารที่สัมพันธ์กับชาวเชียงราย ดูแล พัฒนา และเฝ้ามองการเติบโตและเปลี่ยนแปลงของเมืองจากอดีตสู่ปัจจุบัน โดยใช้เทคนิคแสง Projection 3D Mapping ใน 2 เรื่อง ได้แก่

 

เรื่องที่ 1: Concept Motion Chiang Rai, Wiang of Light เล่าถึงที่มาแนวคิดการจัดงาน นําเสนอเส้นทางการชมทั้ง 15 จุดแสงในเมือง

 

เรื่องที่ 2 : Content Motion Chiang Rai, Wiang of Life นําเสนอของดีของเด่น ของจังหวัดเชียงราย อาทิอาหาร วัดธรรมชาติศิลปะ กลุ่มชาติพันธ์ุชา-กาแฟ ผลไม้ ด้วยกราฟฟิกสนุกชวนดู

 

พิกัดที่ 10 บ้านสิงหไคล : เป็นอาคารโบราณอายุ 103 ปี ออกแบบโดยนายแพทย์วิลเลียม เอ.บริกส์ปัจจุบันได้รับการบูรณะเปลี่ยนเป็นที่ทำการมูลนิธิมดชนะภัย  เพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้ด้านสถาปัตยกรรมและเรื่องราวของภัยพิบัติในจังหวัดเชียงราย    รวมทั้งเป็นจุดเชื่อมต่อไปสู่เรื่องราวทางศิลปะและเป็นพื้นที่จัดกิจกรรมทางด้านสังคมและศิลปวัฒนธรรมให้ประชาชน และช่วยขับเคลื่อนเชียงรายเมืองศิลปะ   บริเวณชั้น 2  เปิดเป็นแกลเลอรี่แสดงผลงานศิลปะ บริเวณชั้นล่างเป็นร้านกาแฟ

 

จัดแสดงภายใต้แนวคิด Shape of House ถ่ายทอดความงดงามของบ้านด้วยแสง ใช้เทคนิคแสง Tiny Light Bulbs Par Light ใช้แสงอาบฉาบผิวบ้านด้านนอก และใช้แสงส่องออกมาจากภายในตัวบ้าน ผ่านช่องหน้าต่าง เพื่ออวดสัดส่วนการออกแบบบ้านอันสวยงาม และตกแต่งรอบบ้านด้วยไฟเม็ดถั่ว

 

พิกัดที่ 11 หอประวัติเมืองเชียงราย : เป็นส่วนหนึ่งภายในศูนย์วัฒนธรรมนิทัศน์และพิพิธภัณฑ์เมืองเชียงราย 750 ปี ได้ปรับปรุงอาคารหอประชุมเม็งรายอนุสรณ์เดิมเป็นแหล่งเรียนรู้ทางด้านภูมิหลังของท้องถิ่น พัฒนาการทางสังคม ประวัติศาสตร์ ศิลปวัฒนธรรม จารีตประเพณี  ส่วนจัดแสดงนิทรรศการ ภายใน จัดแสดงเนื้อหานับตั้งแต่ยุคสมัยก่อน ประวัติศาสตร์ ยุคของการสร้างบ้านเมือง การเปลี่ยนแปลง จนกระทั่งเป็นเมืองเชียงรายในปัจจุบัน และจัดแสดงเรื่องราว วิถีชีวิต ภูมิปัญญา การเมืองการปกครองและ เอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมอันน่าภูมิใจ   

 

จัดแสดงภายใต้แนวคิด Night Museum ขยายเวลาเปิดดําเนินการภาคกลางคืนสําหรับนักท่องเที่ยวในช่วงงาน ใช้เทคนิคแสง Colorful of Par Light ตกแต่งแสงอาคารด้านนอกด้วยไฟหลากสีเพื่อเชื้อเชิญให้เข้าชมนิทรรศการภายในอาคาร

 

พิกัดที่ 12  ตู้โทรศัพท์ : เป็นตู้สาธารณะหยอดเหรียญอีกหนึ่งประวัติศาสตร์การสื่อสารของคนเชียงรายที่เปลี่ยนผ่านไปอย่างไม่มีวันหวนคืน จัดวางไว้ยังหน้าบ้านพักข้าราชการคลัง ริมถนนอันเงียบเหงา

จัดแสดงภายใต้แนวคิด Silent Call ใช้เทคนิคแสง Light Inside Box-Phone ติดตั้งแสงภายในตู้โทรศัพท์คืนชีวิตด้วยสีสันตื่นเต้นชวนมอง พร้อมเสียงโทรศัพท์ประกอบดนตรี

 

พิกัดที่ 13  ต้นไม้ใหญ่ : อุโมงค์ต้นจามจุรี หรือต้นฉำฉาหรือต้นก้ามปูขนาดใหญ่ บริเวณถนนสิงหไคล นับสิบต้นที่อยู่สองฝั่งถนน แผ่กิ่งก้านสาขาปกคลุม สร้างความร่มรื่น ทางเทศบาลนครเชียงรายอนุรักษ์ไว้เพราะเป็นต้นไม้ขนาดใหญ่คาดมีอายุนับร้อยปี เป็นสัญลักษณ์การอนุรักษ์พื้นที่สีเขียว ควบคู่กับประวัติศาสตร์เมืองเชียงราย

 

จัดแสดงภายใต้แนวคิด Eco Friendly เลือกใช้กลุ่มต้นไม้ใหญ่บริเวณริมถนนสิงหไคล เป็นตัวแทนความอุดมสมบูรณ์ของผืนป่า การรักษาระบบนิเวศ และความยั่งยืนร่วมกันของคนเชียงรายกับป่าไม้ ใช้เทคนิคแสง Light Down From Tree ติดตั้ง Mirror Ball บนยอดไม้แล้วยิงแสงกระทบใส่สร้างซีนแสงแปลกตา

 

พิกัดที่ 14 สวนตุงและโคม : สวนตุงและโคมเฉลิมพระเกียรติ 75 พรรษา เดิมเป็นพื้นที่เรือนจําโบราณ ต้ังอยู่ใจกลางย่านการค้าเทศบาลนครเชียงราย มีอายุเก่าแก่กว่า 100 ปี ต่อมาย้ายเรือนจําออกไป และปรับพื้นที่เป็นลานสาธารณะแห่งใหม่ใจกลางเชียงราย สวนบางส่วนปรับให้เป็นสวนหย่อม ด้านในมีเรือนจําหญิงปรับใหม่ให้เป็นอาคารแสดงศิลปะการแต่งกายชนเผ่า 30 ชนเผ่า ด้านข้างอาคารมีตุงเฉลิมพระเกียรติ ความสูง 36 เมตร กรอบตุงมีลวดลายสัญลักษณ์ปีนักษัตร โดยช่างฝีมือของท้องถิ่น เพื่อเป็นสัญลักษณ์ของเมืองล้านนาร่วมสมัย

 

จัดแสดงภายใต้แนวคิด Wiang Flower ดอกพวงแสด ดอกไม้ประจําจังหวัดเชียงราย ใช้เทคนิคแสง Light Installation ประติมากรรมดอกพวงแสดส่องแสงประกอบฉากแสงสีส้ม

 

พิกัดที่ 15 คริสตจักรที่ 1 เวียงเชียงราย ได้รับสถาปนาเป็นคริสตจักร เมื่อวันที่  13 เมษายน ค.ศ.1890 โดยไม่มีอาคารพระวิหาร ต่อมาปี ค.ศ. 1910 – 1911  นายแพทย์วิลเลี่ยม เอ บริกส์ จึงรวบรวมเงินจากผู้ศรัทธาซื้อที่ดินสร้างอาคารพระวิหาร โดยตั้งอยู่บริเวณประตูเมืองเชียงรายเรียกว่า “ประตูสลี” ปัจจุบันเป็นที่ตั้งคริสตจักร โบสถ์หลังนี้บูรณะครั้งใหญ่เมื่อสิ้นสุดมหาสงครามเอเชียบูรพา (สงครามโลกครั้งที่ 2) ราวปี ค.ศ. 1946 หลังชำรุดทรุดโทรมเนื่องจากถูกยึดใช้เป็นส่วนหนึ่งของเขตทหารที่มาตั้งมั่นอยู่ในเชียงราย เมื่อเสร็จสงครามเหล่าคริสเตียนจึงยินดีที่ได้กลับมาใช้โบสถ์นี้เป็นที่นมัสการอีกครั้ง

 

 จัดแสดงภายใต้แนวคิด In Light of Faith ด้วยแสงแห่งศรัทธาของคริสตศาสนิกชนเวียงเชียงราย ใช้เทคนิคแสง Light VS Shadow การต่อสู้กันระหว่างแสงและเงา

 

ตลอดการจัดงาน ทุกวันศุกร์-อาทิตย์ ยังได้เปิดพื้นที่หน้าศาลากลางจังหวัดเชียงราย (หลังเก่า) จัดการแสดงต่าง ๆ เช่น ศิลปวัฒนธรรมพื้นถิ่น ดนตรี การออกร้าน     ทางผู้ประกอบการในพื้นที่ได้มอบสิทธิพิเศษส่วนลดจากร้านค้าทั้งโรงแรม ร้านอาหาร คาเฟ่  มูลค่ารวมกว่า 500,000 บาท ร่วมสนุกได้ผ่านช่องทาง Facebook Fanpage: GoNorthThailand   

 

สุขภาพ – เลือกกิน 5 อาหารเพิ่มภูมิคุ้มกันทำให้สุขภาพที่ดียิ่งขึ้น

อาหารเพิ่มภูมิคุ้มกันเป็นอาหารที่ประกอบไปด้วยสารอาหารที่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ชี้ว่าอาจช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน เช่น วิตามินซี สังกะสีหรือซิงค์ สารต้านอนุมูลอิสระ และสารอาหารอื่น ๆ อีกหลายประเภท ซึ่งคนไทยสามารถหาซื้อได้ง่าย ตัวอย่างอาหารเพิ่มภูมิคุ้มกัน 5 ประเภท ให้เลือกรับประทานดังนี้

 

1.ผลไม้ตระกูลส้ม สายพันธุ์ต่าง ๆ มะนาว ส้มโอ ส้มเช้ง ไปจนถึงผลไม้ต่างประเทศ เช่น เลมอนและเกรปฟรุต ล้วนเป็นผลไม้ที่มีสารอาหารเพิ่มภูมิคุ้มกันซึ่งหลายคนรู้จักกันดี นั่นก็คือสารอาหารกลุ่มวิตามินซีหรือกรดแอสคอร์บิก (Ascorbic Acid) มีข้อมูลส่วนหนึ่งชี้ว่าเมื่อวิตามินซีเข้าสู่ร่างกาย วิตามินซีจะช่วยกระตุ้นการทำงานของเซลล์เม็ดเลือดขาวที่มีหน้าที่ในการจัดการกับเชื้อโรคชนิดต่าง ๆ

 

2.ขิง เป็นพืชสมุนไพรที่ให้รสเผ็ดร้อนและกลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์ ซึ่งนอกจากกลิ่นและรสชาติแล้ว ขิงยังมีคุณสมบัติเสริมภูมิคุ้มกันที่โดดเด่นด้วยเช่นกัน นักวิทยาศาสตร์พบว่าขิงอาจช่วยต้านเชื้อไวรัส RSV (Respiratory Syncytial Virus) ที่ก่อโรคในระบบทางเดินหายใจ ช่วยต้านเชื้อแบคทีเรียเชื้อซาลโมเนลลา (Salmonella)  ที่เป็นสาเหตุของอาการติดเชื้อในทางเดินอาหาร ส่งผลดีต่อคนที่มีอาการอักเสบเรื้อรัง อย่างโรคข้ออักเสบชนิดต่าง ๆ ด้วย ซึ่งมีผลส่วนหนึ่งมาจากการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน และขิงยังอาจช่วยขับลมได้ด้วย คนไทยอาจคุ้นกับน้ำขิง เมนูไก่ผัดขิง และอีกหลากหลายเมนูที่มีขิงเป็นส่วนประกอบ

 

3.อาหารทะเล 2 ชนิดที่เป็นอาหารเพิ่มภูมิคุ้มกันที่โดดเด่น คือ

 

3.1 ปลาทะเลที่อุดมไปด้วยไขมัน เช่น ปลาทู ปลาทูน่า และปลาแซลมอน เพราะปลาในกลุ่มนี้มีกรดไขมันโอเมก้า 3 ซึ่งเป็นกรดไขมันดีที่มีส่วนช่วยเสริมการทำงานและปรับสมดุลของระบบภูมิคุ้มกัน ซึ่งร่างกายไม่สามารถผลิตขึ้นเองได้และจำเป็นต่อคนทุกวัย โดยเฉพาะคนที่มีโรคภูมิคุ้มกัน เช่น โรคเบาหวานชนิดที่ โรคลูปัส และโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ (Rheumatoid Arthritis

 

3.2 หอยนางรม เป็นหนึ่งในอาหารทะเลที่หลายคนชื่นชอบ โดยหอยนางรมก็มีกรดไขมันโอเมก้า 3เช่นเดียวกัน แต่สิ่งที่น่าสนใจของอาหารเพิ่มภูมิคุ้มกันชนิดนี้คือปริมาณของสังกะสีที่ค่อนข้างสูง ซึ่งสังกะสีมีคุณสมบัติช่วยกระตุ้นการทำงานของเซลล์เม็ดเลือดขาวและต้านเชื้อไวรัส

 

4.อาหารโพรไบโอติกส์ เป็นจุลินทรีย์มีประโยชน์ ซึ่งร่างกายมนุษย์มีโพรไบโอติกส์อาศัยอยู่จำนวนมาก โดยเฉพาะในลำไส้ โดยปริมาณโพรไบโอติกส์ในร่างกายที่เหมาะสมจะช่วยรักษาการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันข้อมูลทางวิทยาศาสตร์บางส่วนชี้ว่าการได้รับโพรไบโอติกส์อาจช่วยลดความรุนแรงของโรคหวัด โรคไข้หวัดใหญ่ และอาการท้องเสียที่เป็นผลข้างเคียงจากการใช้ยาปฏิชีวนะ

 

โพรไบโอติกส์เป็นสารอาหารเพิ่มภูมิคุ้มกันที่พบได้ในอาหารหมักดองหลายชนิด เช่น โยเกิร์ต นมเปรี้ยว มอสซาเรลลาชีส คอทเทจชีส และเชดด้าชีส กิมจิ มิโซะคอมบูชา เทมเป้

 

ควรเลือกอาหารโพรไบโอติกส์ที่ผ่านการพาสเจอไรซ์และกระบวนการทำที่สะอาด นอกจากนี้ ในช่วงแรกของการเริ่มกินอาหารโพรไบโอติกส์อาจพบกับอาการท้องเสียและท้องอืดที่ไม่รุนแรง โดยอาการจะดีขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป

 

5.ผักผลไม้หลากสี เพิ่มภูมิคุ้มกันไม่จำเป็นต้องเป็นอาหารที่มีราคาแพงหรือหาซื้อยากเสมอไป โดยนอกจากอาหาร 4 ประเภทในข้างต้นแล้ว การเลือกกินผักผลไม้หลากสีเป็นประจำจะช่วยให้ร่างกายได้รับวิตามินและแร่ธาตุอย่างเพียงพอ สารอาหารจากพืชหลากหลายชนิดไม่เพียงช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน แต่ยังส่งผลดีต่อการทำงานของร่างกายในด้านอื่นด้วย

 

ฟังข่าวท้ายชั่วโมง

 

ข่าวแรก–ดุสิตหัวหินขายแพกเกจWell-Festวันสุขภาวะดีโลก9-11มิ.ย.66

 

                เทวารัณย์ เวลเนส เซ็นเตอร์ ใน โรงแรมดุสิตธานี หัวหิน หนึ่งในรีสอร์ทเพื่อการพักผ่อนที่มีชื่อของหัวหินร่วมเฉลิมฉลองกิจกรรมวันสุขภาวะดีโลก วันที่ 10 มิถุนายน 2566 ด้วยการจัดกิจกรรมเพื่อสุขภาพริมทะเลและไลฟ์สไตล์ตลอด 3 วัน คือ “Well-Fest: A Weekend Of Wellbeing By The Sea” ระหว่าง 9-11 มิถุนายน 2566 เพื่อนำเสนอประสบการณ์เพื่อการฟื้นฟูและผ่อนคลายท่ามกลางบรรยากาศอันสวยงามและสดชื่นริมทะเล

 

                จะเปิดขาย “บัตรร่วมกิจกรรมสุดสัปดาห์ Well-Fest ราคาพิเศษ 1,500++ บาท/คน รวมสิทธิพิเศษ ได้แก่ 1.การเข้าร่วมเวิร์คช็อปการพูดคุยทริคเพื่อการเสริมพลังกับ MSHAPPYDIET 2.เต้นรำบำบัดเพื่อการเชื่อมโยงจิตวิญญาณและห้วงความคิดกับ Johana 3.เวิร์คช็อปการบำบัดด้วยลูกประคบสมุนไพร, เวิร์คช็อปการผ่อนคลายด้วยกาแฟ​ และ 4.ละครหุ่นเพื่อการผ่อนคลาย

สำหรับการขาย “แพ็คเกจห้องพัก” ราคาพิเศษ Well-Fest โดยเน้นห้องดีลักซ์ เมื่อจอเข้าพัก 1 คน จ่ายในราคาเริ่มต้น 5,500++ บาท/ห้อง/คืน   เข้าพัก 2 คน จ่าย 7,000++ บาท/คืน/ห้อง ทั้งแพกเกจจะรวม 1.ห้องพัก 2.อาหารเช้า 3.เข้าร่วมกิจกรรมเอ็กซ์คลูซิฟ Well-Fest 4.ส่วนลด 15% ชุดอาหารมื้อค่ำเพื่อฟื้นฟูด้วยพลังของอาหารจากโนมาดา​ 5.อัพเกรดห้องพักเป็นห้องพรีเมี่ยม โอเชี่ยนวิว และอีกมากมาย

               

ข่าวที่สอง - KTC-ก.ทรัพยากรหนุนกรีนโฮเตลส์ลด45%ใน20จว.114แห่ง

 

นางประณยา นิถานานนท์ ผู้บริหารสูงสุด สายงานการตลาดบัตรเครดิต เคทีซี หรือ บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า เคทีซีนำได้เข้าร่วมสนับสนุนโครงการ “โรงแรมที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม” (Green Hotel)  ร่วมขับเคลื่อนสังคมแห่งความยั่งยืน พร้อมตอบโจทย์พฤติกรรมการท่องเที่ยวของสมาชิกบัตรเครดิตเคทีซีที่หันมาให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น โดยได้เพิ่ม คุณค่าให้ทุกการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตเคทีซีตามที่พักที่เข้าร่วมโครงการ 114 โรงแรม ทั่วประเทศ 20 จังหวัด ซึ่งเป็นจังหวัดท่องเที่ยว เช่น ชลบุรี ประจวบคีรีขันธ์ เชียงใหม่ และ ภูเก็ต

 

ใช้จ่ายผ่านบัตรเคทีซีรับ “สิทธิพิเศษส่วนลดสูงสุด 45%” ครอบคลุมบริการ ห้องพัก ห้องอาหาร และสปา  โดยสมาชิกสามารถใช้คะแนน KTC FOREVER แลกรับเครดิตเงินคืน 13% ระหว่างวันนี้-31 ธันวาคม 2566  ดูรายละเอียดผ่านเว็บไซต์ www.ktc.co.th/greenhotels

แนวคิดด้านความยั่งยืนหรือการดำเนินธุรกิจโดยคำนึงถึงมิติสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (Environmental / Social / Governance) มาบูรณาการกับการดำเนินธุรกิจอย่างรับผิดชอบ ในส่วนมิติสิ่งแวดล้อมนั้น เคทีซีตอบสนองแนวคิด Environmentally Friendly ผ่านการดำเนินงานและการเข้าร่วมโครงการเพื่อช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและบรรเทาปัญหาภาวะโลกร้อนจากการเพิ่มขึ้นของก๊าซเรือนกระจกอย่างต่อเนื่อง การ

           

ซึ่งทางเคทีซีร่วมมือครั้งสำคัญกับ กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และพันธมิตรโรงแรม  เพื่อสนับสนุนการท่องเที่ยวอย่างมีคุณค่า ส่งผลต่อการสร้างสังคมแห่งความยั่งยืนต่อไป

 

นายสมศักดิ์ สรรพโกศลกุล อธิบดีกรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า โครงการ “โรงแรมที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม” (Green Hotel)เดินหน้าตามเป้าหมายเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน พร้อมส่งเสริมการใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งยังเล็งเห็นถึงความสำคัญของการถ่ายทอดเป้าหมายหลักในการพัฒนาไปสู่กลุ่มโรงแรมซึ่งมีการใช้พลังงานอย่างมาก ซึ่งได้เริ่มโครงการมาตั้งแต่ปี 2556 มุ่งเน้นให้ความสำคัญกับการพัฒนาองค์ความรู้ เสริมศักยภาพ เพื่อส่งเสริมศักยภาพสถานประกอบการให้เกิดการใช้ทรัพยากร พลังงาน อย่างคุ้มค่า และมีประสิทธิภาพ ตลอดจนมีการจัดการสิ่งแวดล้อมที่ดี และเพื่อยกระดับมาตรฐานการบริการ ทั้งด้านสุขอนามัย และการจัดการสิ่งแวดล้อมให้สอดรับกับสถานการณ์การท่องเที่ยว

 

ปี 2566 ร่วมมือกับ SWITCH-ASIA และ TourLink ยกระดับสู่การปฏิบัติที่ดีเทียบเท่ามาตรฐานสากล โดยเทียบเกณฑ์การประเมินโรงแรมที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม (Green Hotel) ของประเทศไทยกับเกณฑ์ GSTC (Global Sustainable Tourism Council) ซึ่งเป็นเกณฑ์ชี้วัดระดับสากล เพื่อใช้ประเมินโรงแรมที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม (Green Hotel) ในระดับดีเยี่ยม (G ทอง)

 

รวมถึงได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานภาคเอกชนอย่างเคทีซี มอบสิทธิประโยชน์ร่วมกับโรงแรมที่เข้าร่วมโครงการ เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวที่มีศักยภาพ สร้างภาคีความร่วมมือทุกภาคส่วนขับเคลื่อนการทำงานและกระตุ้นการขยายตัวทางเศรษฐกิจจากธุรกิจโรงแรมที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมเพิ่มมากยิ่งขึ้นต่อไป

 

โดยได้ขยายจำนวนเครือข่ายสถานประกอบการให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น พัฒนาและส่งเสริมการท่องเที่ยวของประเทศอย่างยั่งยืน ปัจจุบันมีโรงแรมอยู่ระหว่างรอรับรอง 262 แห่ง แบ่งเป็น 1.ระดับดีเยี่ยม (G ทอง) 106 แห่ง 2.ระดับดีมาก (G เงิน) 83 แห่ง 3.ระดับดี (G ทองแดง) 73 แห่ง 

ติดตามฟังรายการได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 11.00-12.00 น.ทาง สวท.FM 97.0 MHz.

 

 

 

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ททท.นครราชสีมาพลิกโฉมตลาดท่องเที่ยวปี67

  รุ่งทิพย์ บุกขุนทด  ผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานนครราชสีมา ททท.นครสีมานำธุรกิจพลิกโฉมตลาดปี 67 เที่ยวโคราช-ชัยภูมิ ปลุกกระแส 3 วัยเที่ยวมุมใหม่เมืองย่าโม 3 มรดกโลก 10 อำเภอ จัดชุดใหญ่ Soft Power365 วัน 2 จว. 5 จุดขาย-สงกรานต์สนุกแน่ สมัคร!!สมาชิกคิงเพาเวอร์มี.ค.รับกิฟท์โวเชอร์/กะรัต/ส่วนลด THE POWER BAND# 4คิงเพาเวอร์แจก2ล้านนักดนตรีอาชีพ พลูแมนคิงเพาเวอร์ชูแพ็คเกจ Wedding แจก12รายการ2-3มี.ค. ททท.หนุน PELUPO ปักหมุดพัทยาบูมเที่ยวเทศกาลดนตรีโลก บางจากนำโมเดลสมดุลเพื่อโลกยั่งยืน ESG ส่งต่อผู้อบรมกปร. สุขทันทีนั่งรถม้าเที่ยวลำปาง-วัดพระพุทธบาทผาหนามลำพูน นายกฯจุดฝันไทยฮับบินโลกดันสุวรรณภูมิติดท็อป 20 รุก 5 ส่วน 800 บูธร่วมมหกรรมลดกระหน่ำเทศกาลเที่ยวไทยถึง 3 มี.ค. 67 วันเสาร์ที่  2 มีนาคม 2567 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen #gurutourza # รวยด้วยข่าวเสาร์อ

TCEBนำไมซ์ปี67โร้ดโชว์เทรดโชว์ทั่วโลก-จัดยกทีมประชุมรุมรักเมืองไทย

นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) "TCEB" บิ๊ก TCEB ปี 67 ปั๊มยอดไมซ์โตลุยโร้ดโชว์/เทรดโชว์ทั่วเอเชีย ในประเทศจัดกระหึ่ม“ยกทีมประชุมรุมรักเมืองไทย”พ.ค.นี้   3-7 มี.ค.ประชุมโดฮาลุ้นข่าวดี !! ไทยเจ้าภาพ Korat Expo2029 ดับร้อน!!ที่คิงเพาเวอร์ช้อป4มันส์ลดแจกแลกฟรี-31มี.ค.67 คิงเพาเวอร์จัดเต็ม 3.3 BEAUTY TRIO” ช้อป 3 อย่างลด 25% ททท.นำร่องจัด AIR-MAZING ไทยฮับท่องเที่ยว/การบินปี67 บางจากแจกมี.ค.67นำปั๊มเอสโซ่เดิม & บางจากมอบ2โปรดี สุขทันทีที่เที่ยวแดนใต้นราธิวาสเมืองพหุวัฒนธรรม5พิกัด AWC ปี’66ทำ5นิวไฮ-ปี67ทุ่ม1.9หมื่นล้านเปิด18โครงการ Trip.com- ททท.ไลฟ์สตรีมขายสงกรานต์โกยต่างชาติ150ล. วันอาทิตย์ที่   3 มีนาคม 2567 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen #gurutourza # รวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์ FM97  # เพ็ญรุ่งใยสามเสน # เท

เปิดใจ “พศิน ลาทูรัส”ทายาท”นารายา”พลิกโมเดลแบรนด์ไทย ถอดบทเรียนโควิดปรับมุมคิดธุรกิจรุ่งปั้นสินค้าใหม่บุกทั่วโลก

  เปิดใจ “พศิน ลาทูรัส”ทายาท”นารายา”พลิกโมเดลแบรนด์ไทย ถอดบทเรียนโควิดปรับมุมคิดธุรกิจรุ่งปั้นสินค้าใหม่บุกทั่วโลก คิงเพาเวอร์ชวนช้อปออนไลน์แบรนด์เนมลด 70%26-31 ต.ค.นี้ สนุกกับ SUPER SURPRISE ดีลพิเศษราคาดิวตี้ฟรีที่คิงเพาเวอร์ ก.ท่องเที่ยวตีปีกรับทัวร์ต่างชาติ 3 เฟส-ไฟเขียวแล้ว 10 แอร์ไลน์ ไทยจ่อดึงลองสเตย์ต่างชาติซื้ออสังหาฟื้นเศรษฐกิจหลังโควิด “ TCEB” ชูไทยแลนด์ไมซ์สตาร์ตอัพปั้นนวัตกรรมใหม่5โปรเจ็กต์ หนาวนี้เที่ยว“นครพนม”ปลอดภัยมั่นใจเส้นทางสาย SHA ริมโขง วิธีเลือกกินเพื่อหลีกเลี่ยงความอ้วนควบคู่การลดโรคมากมาย ไทยสมายล์ขายตั๋วชุดเที่ยวไทยเหมาจ่าย4ใบเริ่มที่3.8พันบาท ไทยเวียตเจ็ทขายตั๋ว5บาท/เที่ยวโปร2เส้นทางใหม่ในประเทศ กรมเจ้าท่าฟุ้งแผนทำ10ท่าเรือรองรับวันสต็อปเที่ยวเจ้าพระยา   นายพศิน ลาทูรัส ซีอีโอฝ่ายพัฒนาธุรกิจ  บริษัท นารายณ์ อินเตอร์เทรด จำกัด ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” ในวันเสาร์ที่ 24 ตุลาคม 2563 เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง