รองผู้ว่าการด้านตลาดในประเทศ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
ททท.นำเทศกาลเที่ยวเมืองไทยทำสำเร็จ3เรื่อง“คน-ทัวร์-ขยะ”
อาหาร-แฟชั่นครองรายได้/บูมสงกรานต์/เปิดทัวร์72เส้นทาง
ดึงพันธมิตร/แอร์ไลน์ขายสุขทันทีทัวร์หน้าฝนโกย1.08ล้านล.
คิงเพาเวอร์ชวน“ม่วนหนุกสุขคัก”สงกรานต์รางน้ำถึง16เม.ย.
ช้อปThainessStationคิงเพาเวอร์4สนามบินลดสูงสุด25%
ททท.-22แอร์ไลน์จัดAirmazingดันไทยฮับบิน/ท่องเที่ยว
บิ๊กบางจากร่วมโร้ดโชว์Non-Dealพบนักลงทุนต่างประเทศ
สนุกฉ่ำๆที่เที่ยวสงกรานต์ภาคกลางอยุธยา-สระบุรี
4พิกัด
5เคล็ดลับหลีกเลี่ยงโรคลมแดดช่วงอากาศร้อนจัดเม.ย.นี้
ศูนย์สิริกิติ์แจกพิเศษLoyaltyProgramขยายฐานตลาดใหม่
AOTพร้อม!!นำ6สนามบินบริการสงกรานต์7วัน2.61ล้านคน
วันอาทิตย์ที่ 7 เมษายน 2567 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทางfacebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen #gurutourza #รวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97 #เพ็ญรุ่งใยสามเสน #เที่ยวกับกู๋ #KingPower #TAT #บางจาก #สุขทันทีเที่ยวสงกรานต์อยุธยาสระบุรี
ฟัง Live สดจากลิงค์นี้... https://fb.watch/rhRFZDLqC6/?mibextid=UyTHkb
ช่วงที่ 1 สัมภาษณ์ นางสาวสมฤดี จิตรจง
รองผู้ว่าการด้านตลาดในประเทศ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)
ปลื้มเทศกาลเที่ยวเมืองไทยปี67 โชว์ 3
ความสำเร็จ 1.ดึงคนเข้าร่วมเพิ่มเกิน 100 % ขยับต่อยอดขายพลังซอฟท์ พาเวอร์
“อาหาร-แฟชั่นผ้าคนรุ่นใหม่” 2.สร้างโมเดลจัดการขยะลดคาร์บอนได้แบบเสร็จ
เตรียมนำต้นแบบไปใช้กับงานทั่วประเทศ ไตรมาส 2-3-4 แก้ลำงบล่าช้าหันพึ่งพันธมิตรหน้าใหม่จัดใหญ่ 3.ต่อยอดขาย “สุขทันทีเที่ยวหน้าฝน”
ดันเศรษฐกิจเมืองรองโตตามเป้า ผนึกแอร์ไลน์สน้องใหม่ Easy Air บูม 3 จังหวัดชายแดนใต้ ส่วน สงกรานต์แนะไป 5 พื้นที่ปัง ๆ แล้วต้องห้ามพลาดเที่ยวไทย 365
วัน กับ 72
เส้นทางแห่งศรัทธา
นางสาวสมฤดี
จิตรจง รองผู้ว่าการด้านตลาดในประเทศ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)
เปิดเผยว่า ททท.ได้ประมวลผลสำเร็จหลังเสร็จสิ้นงานเทศกาลเที่ยวเมืองไทย
ปี 2567 เห็นภาพชัดเจน 3
ความสำเร็จ คือ ความสำเร็จที่ 1
ดึงดูดผู้เข้าร่วมงานได้มากถึง 152,799
คน เพิ่มขึ้นจากปีก่อนกว่า 104
% สร้างรายได้เกินกว่า 90 ล้านบาท สูงกว่าปีก่อนเช่นเดียวกัน
ตามแผนการจัดงานในช่วงไตรมาส 2 เพื่อเชื่อมโยงให้เกิดการท่องเที่ยวต่อเนื่องไตรมาส
3 และ 4 ภายในงานปีนี้มีนักธุรกิจรุ่นใหม่นำสินค้าเด่นที่สร้างรายได้เป็นกอบกำคือ
ซอฟท์ พาวเวอร์ ได้แก่ อันดับ 1 “Food/อาหาร”
สร้างจุดขายใหม่เปิดเป็นเส้นทางได้ทั่วประเทศ ท่องเที่ยวเชิงอาหาร และร้านคาเฟ่
ทั่วประเทศ อันดับ 2 “Fashion/ผ้าพื้นเมือง”
อย่างผ้าพื้นเมือง 3 จังหวัดชายแดนใต้
ผ้าปาเต๊ะหรือบาติกแบรนด์ YAYEE ภูเก็ต
ทำยอดขายได้ดีมาก ด้วยดีไซน์เปลี่ยนไปทั้งโทนสีร่วมสมัย ดีไซน์โมเดิร์น
หรือการนำผ้าพื้นเมืองพัทลุงมาตัดชุดว่ายน้ำ จึงกลายเป็นความโดดเด่นได้รับความนิยม
นำไปสู่การต่อยอดสู่ “365 วัน
มหัศจรรย์เมืองไทย เที่ยวได้ทุกวัน” สามารถทำซีรีย์ท่องเที่ยวต่อเนื่องหน้าฝน
ความสำเร็จที่ 2 “การแยกขยะ” ลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากการคัดแยกขยะรีไซเคิลในงานเทศกาลเที่ยวเมืองไทย ได้ถึง 4,114.63 กิโลกรัมคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า ดูดซับก๊าซคาร์บอนออกไซด์ต้นไม้ได้ 457.8 ต้น/ปี มาจากขยะในงาน 6 ประเภท ได้แก่ 1.เศษอาหาร 1,026 กิโลกรัม 2.ขวดพลาสติก 151 กิโลกรัม 3.ขวด/กระป๋อง 238 กิโลกรัม 4.กระดาษลัง 276 กิโลกรัม 5.ทั่วไป 1,818 กิโลกรัม 6.แก้วกับฝาครอบ ไม่มีขยะ ซึ่งส่งให้พันธมิตรปลายทางเข้าโรงงานผลิตเสื้อ ทำปุ๋ย และผลิตภัณฑ์แปรรูปที่เป็นประโยชน์ต่อไป ซึ่ง ททท.จะใช้โมเดล “จัดการขยะ” ในงานเทศกาลเที่ยวเมืองไทย 2567 เป็นต้นแบบนำไปใช้กับการจัดงานท่องเที่ยวทั่วประเทศทุกงาน เพื่อตอกย้ำเมื่อมีนักท่องเที่ยวเป็นจำนวนมากก็จะไม่ไปสร้างภาระให้พื้นที่
นางสาวสมฤดี กล่าวว่า ปี 2567 ททท.มีปัญหาเรื่องงบประมาณล่าช้าจึงต้องปรับกลยุทธ์ใหม่เพื่อให้เดินหน้าจัดกิจกรรมกระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศให้ได้ตามเป้าหมาย
1.08 ล้านล้านบาท
ด้วยกลยุทธ์จับมือกับเครือข่ายพันธมิตร ทำโครงการระยะสั้น แล้วทำเป็นซีรีย์
ซึ่งจะมีผลดีสามารถวัดประเมินผล แล้วปรับรูปแบบให้สอดคล้องกับเป้าหมายการเติบโต
เช่น ร่วมกับ Grab ห้างสรรพสินค้าท่องเที่ยว
เรื่อยไปจนถึงกลุ่มใหม่ ๆ อย่าง ผู้ผลิตสินค้าปลากระป๋องแบรนด์ “ปุ้มปุ้ย”
กลุ่มสถาบันการเงินอย่าง กรุงศรี คาร์ ฟอร์ แคช และอื่น ๆ
ทุกกลุ่มให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีซึ่งมีฐานลูกค้าแห่งละหลายคนสมาชิก
จากนั้นก็ใช้วิธี “ออกแบบ”
กิจกรรมให้สอดคล้องกับความต้องการของสมาชิกแต่ละกลุ่มธุรกิจ เช่น โลตัส
มีฐานลูกค้าในแอพลิเคชั่นประมาณ 6 ล้านคน
ก็จะสร้างกิจกรรมเจาะลึกเข้าถึงลูกค้า
ตามแผนจะทำโครงการ
“สุขทันทีที่เที่ยวหน้าฝน” ระหว่างพฤษภาคม-สิงหาคม 2567 โดยใช้ฐานโครงการเดิมอย่าง วันธรรมดา...น่าเที่ยว
ท่องเที่ยวเมืองรอง 365 วันมหัศจรรย์เมืองไทย
เที่ยวได้ทุกวัน ผนวกกับโครงการของรัฐบาลให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่
โฟกัสทำร่วมกับพันธมิตร “สายการบิน” นำโดย ไทยแอร์ เอเชีย กระตุ้นท่องเที่ยวหน้าฝน
และ วันธรรมดาน่าเที่ยวกับบางกอกแอร์เวย์ส และมีน้องใหม่เกิดขึ้นคือ Easy
Airline
รอใบอนุญาตเดินอากาศจะได้ประมาณกลางปีนี้ ใช้เครื่องขนาดเล็ก 12 ที่นั่ง ให้บริการเดินทางในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ พอเริ่มบิน
ททท.ก็จะร่วมสนับสนุนการท่องเที่ยวภาคใต้ต่อเนื่องไป
รวมทั้ง
ททท.ยังจะจับมือกับพันธมิตรรายใหญ่ที่มีฐานลูกค้าสูง มุ่งเจาะกลุ่มตลาดเชิงลึก
ได้แก่ 1.ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์
อีก 1 ปี
จัดมหกรรมการท่องเที่ยว Goft and Dive Expo 2024 ซึ่งจะช่วยเพิ่มนักท่องเที่ยวจากงานนี้ได้อีกไม่ต่ำกว่า
50,000 แพ็ก 2.เมเจอร์ เพิ่มยอดนักท่องเที่ยวอีก 30,000-40,000
คน 3.Grab บริการเรียกรถเดินทางไปตามสถานที่ท่องเที่ยวต่าง
ๆ 4.งานสปอตไลท์เกาะเต่า
เป็นมหกรรมท่องเที่ยวดำน้ำที่มีไฮไลต์จัดกิจกรรมรักษ์ทะเลผนวกเข้ากับซีเอสอาร์
จะมีคนเข้าร่วมกว่า 40,000 คน
เมื่อเสร็จจากกิจกรรมการขาย
“สุขทันทีที่เที่ยวหน้าฝน” ในเดือนสิงหาคม
ช่วงกรกฎาคมนี้ก็จะปรับกลยุทธ์ปิดท้ายจัดงานกิจกรรมอย่างเต็มที่เดือนกันยายน นี้
เพื่อส่งต่อให้ไปเชื่อมต่อกับปีงบประมาณใหม่เริ่ม 1 ตุลาคม 2567
นางสาวสมฤดี
กล่าวว่า การท่องเที่ยวสงกรานต์ที่กำลังจะจัด “มหาสงกรานต์”
ซึ่งทางยูเนสโกประกาศขึ้นทะเบียนมรดกโลกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ ไฮไลต์เด่น
พื้นที่แรก กรุงเทพมหานคร ททท.ร่วมกับ 3
กระทรวง การท่องเที่ยวและกีฬา วัฒนธรรม และมหาดไทย
จัดบริเวณถนนราชดำเนินไปยังท้องสนามหลวง เริ่ม 11 เมษายน คัด 20 จังหวัด จัดขบวนแห่สงกรานต์
แล้วจัดงานให้หลากหลายร่วมสมัย จำลองสงกรานต์ใหญ่ของแต่ละจังหวัด คอนเสิร์ต
แล้วในกรุงเทพฯ ยังมี สงกรานต์ถนนข้าวสาร สีลม บรรทัดทอง
พื้นที่
2 ขอนแก่น
มีประเพณีเสียเคราะห์ บริเวณสิมวัดไชยศรี อำเภอเมือง และสงกรานต์ถนนข้าวเหนียว
พื้นที่
3 ขบวนแห่ต้นดอกไม้หมู่บ้านแสงภา
อำเภอนาแห้ว จังหวัดเลย
บรรยากาศในหุบเขาเชิญชวนนักท่องเที่ยวไปดูตั้งแต่ขั้นตอนทำต้นดอกไม้แบบสด ๆ วันที่
14 เมษายน นี้
พื้นที่
4 เชียงใหม่
ป๋าเวณีปี๋เมือง พิธีหุงน้ำทิพย์ 9 วัดสักดิ์สิทธิ์
ที่จะนำน้ำมาทำพิธีใหญ่วันที่ 10 เมษายน
นี้
ที่วัดพระธาตุดอยสุเทพโดยใช้พลังความร้อนจากแสงอาทิตย์ใส่สมุนไพรลงไปน้ำดังกล่าว
แล้วนำไปแจกนักท่องเที่ยวตลอดสงกรานต์ในเชียงใหม่
พื้นที่
5 นครศรีธรรมราช
สงกรานต์แห่นางดาน ตามความเชื่อของศาสนาพราหมณ์ เรื่องความศักดิ์สิทธิ์
เป็นสิริมงคล
พื้นที่
6 พัทยา
จัดงานประเพณีวันไหล ที่มีชื่อเสียงโด่งดังของภาคตะวันออก
ที่จะปิดท้ายมหาสงกรานต์แห่งปี ที่จะสร้างความสนุกสนานและรายได้
นางสาวสมฤดี
กล่าวว่า ล่าสุด ททท.เปิดโครงการใหม่รองรับนักท่องเที่ยวสายศรัทธา 72 เส้นทาง โดยจับมือกับกระทรวงวัฒนธรรม
และสำนักนายกรัฐมนตรี กำกับดูแลสำนักพระพุทธศาสนา
ออกแบบเส้นทางท่องเที่ยวตามสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ วัดไทย มัสยิดอิสลามที่สวยงาม
และศาลเจ้าที่ผู้คนเคารพนับถือ สามารถเดินทางท่องเที่ยวได้ด้วยตนเอง
พร้อมเส้นทางตัวอย่างเดินทางท่องเที่ยวสงกรานต์ต้อนรับปีใหม่ไทยตั้งแต่ 13 เมษายนนี้เป็นต้นไป ขณะนี้มีมิติใหม่คนหันมาใช้รถยนต์ไฟฟ้า EV
มากขึ้น
ซึ่งเหมาะกับเส้นทางเที่ยวสายศรัทธา ทาง
ททท.กำลังหารือกันในระดับนโยบายถึงการกระตุ้นทางรถอีวี แต่จะมีสิ่งที่ต้องขอให้รัฐบาลเข้ามาสนับสนุนเพื่ออำนวยความสะดวกปลอดภัยให้นักเดินทาง
ได้แก่ 1.บริการรถลากกรณีรถอีวีเสียระหว่างทาง
ซึ่งตามต่างจังหวัดยังไม่มีบริการดังกล่าว 2.สภาพถนนเส้นหลักกระทรวงคมนาคมทำได้ดีอยู่แล้ว
ยกเว้นถนนสายย่อยเข้าสู่แหล่งท่องเที่ยวควรจะเตรียมพัฒนารองรับการเที่ยวโดยรถอีวีดังกล่าวเพิ่มมากขึ้น
เพื่อประโยชน์ทั้งการเดินทางและช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมด้วย
ฟังข่าวต้นชั่วโมง
ข่าวที่
1 คิงเพาเวอร์ชวน“ม่วนหนุกสุขคัก”สงกรานต์รางน้ำถึง16เม.ย.
คิง เพาเวอร์ จัดงาน “อภิมหาสงกรานต์รางน้ำ” เฉลิมฉลองเทศกาลสุดยิ่งใหญ่ ในโอกาสก้าวสู่ปีที่ 35 ของกลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ชวนทุกคนมา “ม่วน หนุก สุข คัก” กับอภิมหาความวาไรตี้จัดเต็มตลอด 6 วัน ตั้งแต่วันนี้ถึง 16 เม.ย. นี้
“ม่วน” ไปกับอภิมหาขบวนสงกรานต์ ที่จะ “แห่ฉ่ำ” พบกับกองทัพดาราชื่อดังทุกวัน ที่จะมาพร้อมขบวนแห่สุดอลังการบนถนนรางน้ำ โดยวันนี้พบกับ พีพี กฤษฏ์, อิงฟ้า วราหะ, โบว์ เมลดา และวันที่ 13 เม.ย. พบกับขบวนจากอนุเสาวรีย์ชัยสมรภูมิ นำโดย ญาญ่า อุรัสยา, เจฟ ซาเตอร์, เจมีไนน์-โฟร์ท และขบวนนางงาม อาทิ มารีญา, น้ำตาล ชลิตา, อแมนด้า ออบดัม, แนท อนิพรณ์ พร้อมโชว์พิเศษจากชาวย่านรางน้ำ
“หนุก” กับอภิมหาความบันเทิง ที่ให้ทุกคนมา “แดนซ์ฉ่ำ” กับคอนเสิร์ตจากศิลปินชั้นนำ อาทิ นนท์ ธนนท์, โอ๊ต ปราโมทย์, PROXIE, จ๊ะ นงผณี, คลื่นลูกใหม่สุนทราภรณ์, ลำตัดหวังเต๊ะ, คณะลิเกเทพบุตร สุดที่รัก
“สุข” กับอภิมหาความอร่อย มัดรวมของดีย่านรางน้ำ และร้านอร่อยหากินยากมาให้ “กินฉ่ำ” กว่า 50 ร้าน “คัก” กับอภิมหาโปรฯ สุดคุ้ม “ช้อปฉ่ำ” ลดสูงสุด 25%
พิเศษสุดเฉพาะ 13-15 เม.ย. ชวนเล่นน้ำฉ่ำกับ “RANGNAM WATER STREET BY SUPERFLUID” ปรากฏการณ์เทศกาลดนตรีสุดชุ่มฉ่ำ ที่มาพร้อม LINEUP ศิลปิน T-POPและดีเจชื่อดัง ที่ขนมาสาดความมันส์ทั้งรางน้ำ
มาร่วม แห่ แดนซ์ กิน ช้อป เล่นน้ำ ให้ฉ่ำ กับงาน “คิง เพาเวอร์ อภิมหาสงกรานต์ รางน้ำ” ตั้งแต่วันนี้ถึง 16 เม.ย. นี้ ที่ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ
ข่าวที่ 2 ช้อปThainessStationคิงเพาเวอร์4สนามบินลดสูงสุด25%
คิง เพาเวอร์ เปิดพื้นที่ทำโครงการ THAINESS
STATION สินค้าไทย ร่วมใจเพื่อชุมชน โดยแนะนำช่วงเทศกาลสงกรานต์ปี แวะช้อป “ผ้าขาวม้า”
ได้ที่ คิง เพาเวอร์ ถึง 8
แห่ง ที่สาขาในเมือง รางน้ำ ศรีวารี พัทยา
ภูเก็ต และในสนามบินหลัก 3
แห่ง สุวรรณภูมิ ดอนเมือง และภูเก็ต สินค้าป้ายฟ้า ไม่ต้องมีไฟลต์บินก็ช้อปได้
คิง เพาเวอร์
ร่วมต่อยอดและยกระดับสินค้าภูมิปัญญาท้องถิ่นไทย จัดแสดงและจำหน่ายสินค้าไทย
ผลิตภัณฑ์จากผ้าขาวม้า งานหัตถกรรมจากกระจูดและผักตบชวา
ผ้าย้อมครามจากกลุ่มแม่บ้านและชุมชนในจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศ
ส่วนตำนานผ้าขาวม้า เป็นผืนผ้าที่อยู่คู่กายคนไทยมากว่า
900 ปี ใช้กันอย่างแพร่หลายในทั่วทุกภูมิภาคของประเทศ
โดดเด่นด้วยลวดลายและสีสันที่เป็นเอกลักษณ์แต่ละพื้นถิ่น รวมถึงกระบวนการทอด้วยมือที่ต้องใช้ความพิถีพิถันและความเชี่ยวชาญที่ส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่น
นิยมมอบเป็นของขวัญเพื่อสะท้อนความงดงามของวิถีชีวิตแบบไทย
ตลอดเดือนเมษายน 2567 เตรียมตัวเที่ยวฉ่ำแล้วอย่าลืมเตรียมแรงช้อปคุ้มแวะช้อปปิ้งสินค้าดิวตี้ฟรีก่อนขึ้นเครื่องกับ
คิง เพาเวอร์พบกับโปรโมชั่นเฉพาะที่สนามบินเท่านั้น! คือ สุวรรณภูมิ ดอนเมือง
เชียงใหม่ และภูเก็ต เฉพาะสมาชิก คิง เพาเวอร์ สัญชาติไทยเท่านั้น
ช้อปรับส่วนลดตามสถานะสมาชิก สูงสุดถึง
20% พร้อมกับลดเพิ่ม ON
TOP สูงสุดอีก 10%
1.ลดเพิ่ม 5%* เมื่อช้อปครบ 3,500 บาท/ใบเสร็จ
2.ลดเพิ่ม 7%* เมื่อช้อปครบ 8,000 บาท/ใบเสร็จ
3.ลดเพิ่ม 10%* เมื่อช้อปครบ 12,000 บาท/ใบเสร็จ
ในช่วงวันพิเศษ จัดใหญ่ให้นักช้อป!
เมื่อชำระด้วยบัตรเครดิตที่ร่วมรายการ รับเครดิตเงินคืนสูงสุด 17%
ข่าวที่ 3 ททท.-22แอร์ไลน์จัดAirmazingดันไทยฮับบิน/ท่องเที่ยว
นางสาวฐาปนีย์
เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ททท.ร่วมกับพันธมิตรการบินนำร่องทำครั้งแรกโครงการ
Air-mazing
Thailand: The Amazing Airline FAM Trip ระหว่างวันที่ 2 – 5
เมษายน 2567 ตอบโจทย์กลยุทธ์ แอร์ไลน์ส โฟกัส
ร่วมกับสายการบินทั้งในและต่างประเทศเบื้องต้น 22 สายการบิน
เร่งขยายเส้นทางการบินสู่จุดหมายปลายทางเมืองหลักและเมืองรองใหม่ในไทย
สร้างเครือข่ายและโอกาสเจรจาธุรกิจระหว่างสายการบินกับผู้ประกอบการท่องเที่ยว
เพื่อนำประเทศไทยก้าวขึ้นสู่ศูนย์กลางการบินของโลกตามนโยบาย Aviation
Hub ของรัฐบาล
รวมทั้งตอบโจทย์กลุ่มตลาดนักเดินทางท่องเที่ยวใหม่
ๆ ททท.จึงได้เดินหน้ารุกตลาดพื้นที่ศักยภาพใหม่ ๆ เช่น ตะวันออกกลาง และภูมิภาคอเมริกา
เน้นส่งเสริมให้สายการบินเร่งขยายเส้นทางและเพิ่มเที่ยวบินนำรายได้และจำนวนท่องเที่ยวตลาดต่างประเทศปี
2567 เป็นไปตามเป้า 1.92 ล้านล้านบาท จากจำนวน 35 ล้านคน
ผู้ว่าฐาปนีย์ ททท.พร้อมรับนโยบายของนายกรัฐมนตรีผลักดันให้ประเทศไทยมุ่งสู่เป้าหมายการเป็นศูนย์กลางทางการบินของภูมิภาค
และเป็นศูนย์กลางทางด้านการท่องเที่ยว (Tourism
Hub) จึงจับมือกับพันธมิตรเร่งเพิ่มศักยภาพทางการบินของไทยส่งเสริมการเพิ่มซัพพลายหรือจำนวนที่นั่งเที่ยวบินด้วยการเพิ่มเส้นทางบินกับความถี่เที่ยวบินผ่านโครงการ
Air-mazing Thailand : The Amazing Airline FAM Trip
เริ่มวันที่ 2 เมษายน 2567 นำคณะผู้บริหารต้อนรับผู้แทนทั่วโลก 22 สายการบิน
เช่น เอทิฮัด กาตาร์แอร์เวย์ อีวีเอแอร์(ไต้หวัน) แอร์ไชน่า ลุฟท์ฮันซ่ากรุ๊ป
แอร์เอเชีย และสายการบินไทยรายอื่น ๆ จัดกิจกรรม
Air-mazing Reception &
Presentation ร่วมกันนำเสนอสถานการณ์ท่องเที่ยว
และศักยภาพการจัดการด้านการบินของไทย นำโดย นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์
ผู้ว่าการ ททท. กับผู้แทนจากหน่วยงานพันธมิตร ได้แก่
สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) “AOT/ทอท.” ท่าอากาศยานนานาชาติอู่ตะเภา ระยอง-พัทยา กรมท่าอากาศยาน
กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว วิทยุการบินแห่งประเทศไทย
สมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ
นำเสนอความพร้อมของท่าอากาศยานที่อยู่ในความดูแลของ
ทอท.หลัก ๆ คือ สุวรรณภูมิ และเชียงใหม่ ท่าอากาศยานนานาชาติอู่ตะเภา ระยอง-พัทยา ที่มีกองทัพเรือดูแล
รวมทั้งท่าอากาศยานนานาชาติที่กรมท่าอากาศยานดูแล อีก 2 แห่ง คือ กระบี่กับสุราษฎร์ธานี จากนั้นได้นำผู้แทนสายการบินเข้าเยี่ยมชมอาคารผู้โดยสารหลังที่สองสุวรรณภูมิ
หรือ SAT1 จากนั้นระหว่างวันที่ 2 – 5 เมษายน
2567 ททท. จัดทำแฟมทริปนำผู้ประกอบการและหน่วยงานการบินเดินทางไปสำรวจโดยลงพื้นที่จริงแบ่งเป็น
2 เส้นทาง เส้นทางแรกกรุงเทพฯ – เชียงใหม่–อู่ตะภา
(พัทยา-ระยอง) เส้นทาง 2 กรุงเทพฯ-กระบี่–สุราษฎร์ธานี
เพื่อประเมินศักยภาพพบปะผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ท่าอากาศยานในแต่ละพื้นที่ วันสุดท้าย
5 เมษายน นี้ จะจัดการประชุมสรุปอีกครั้งประเมินผลการจัดตลอดโครงการนี้แล้วเร่งทำแผนการบินกับพันธมิตรปรับใหม่อย่างเป็นรูปธรรมถึงการขยายเส้นทางบิน
เพิ่มความถี่เที่ยวบิน จากประเทศต้นทางเข้ามายังเมืองไทยในอนาคตอันใกล้นี้
ข่าวที่ 4 บิ๊กบางจากร่วมโร้ดโชว์Non-Dealพบนักลงทุนต่างประเทศ
นายชัยวัฒน์
โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัทบางจาก
และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น
จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า นำทีมผู้บริหารเข้าร่วมกิจกรรม
Non-Deal Roadshow ของบริษัท
Credit Lyonnais Securities Asia หรือ CLSA โดยมีนางสาวภัทร์ภูรี
ชินกุลกิจนิวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการเงิน
และรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มงานบัญชีและการเงิน ทำกิจกรรมต่าง ๆ ด้วย ในการนำเสนอข้อมูลกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจ
โอกาสการเติบโต ความสามารถด้านการบริหาร การแข่งขันของกลุ่มบริษัทบางจาก แก่ผู้จัดการกองทุนและนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ในประเทศอังกฤษ
ซึ่งได้รับความสนใจจากกองทุนที่มีแนวทางการลงทุนทั้งแบบ Value Investment และ Growth
Investment เป็นจำนวนมาก
นางสาวภัทร์ภูรี
ชินกุลกิจนิวัฒน์ กล่าวว่า ได้ร่วมกิจกรรม Non-Deal Roadshow
กับบริษัทหลักทรัพย์เมย์แบงก์เพื่อพบปะ
ให้ข้อมูลและแลกเปลี่ยนมุมมองการเติบโตธุรกิจแก่นักลงทุนและนักวิเคราะห์กลุ่มเป้าหมายของบริษัทฯ
เขตบริหารพิเศษฮ่องกง ซึ่งทางเข้าร่วมกิจกรรมนี้ก็เพื่อสร้างโอกาสพบปะนักลงทุนต่างประเทศ
ช่วยให้นักลงทุนเข้าใจบริษัทฯ มากขึ้น พร้อมกับสร้างความเชื่อมั่นและขยายฐานนักลงทุนในต่างประเทศเพิ่มมากขึ้น
แล้วยังจะเป็นผลดีต่อธุรกิจพลังงานทางเลือกในระยะยาวด้วย
ช่วงที่ 2 ปักหมุดเที่ยววันหยุดสงกรานต์ให้ฉ่ำ ๆ ใกล้กรุงในภาคกลาง
“พระนครศรีอยุธยา-สระบุรี” เปิด 5 พิกัด
เล่นสาดน้ำประเพณีวันปีใหม่ไทย แล้วฟังหมอบอก “5วิธีเลี่ยงโรคลมแดด”
เดือนเม.ย. และข่าวเจาะลึก ข่าวแรก “ศูนย์สิริกิติ์แจกพิเศษLoyalty Program” ขยายตลาดใหม่ ข่าวที่สอง “AOT นำ 6 สนามบิน” พร้อมบริการนักท่องเที่ยวหยุดสงกรานต์ 7 วัน
2.61 ล้านคน
ท่องเที่ยว
–สนุกฉ่ำๆที่เที่ยวสงกรานต์ภาคกลางอยุธยา-สระบุรี
4พิกัด
ชาวกรุงเก่าอยุธยาภูมิใจที่ได้ร่วม 1 ใน
22 ขบวนพาเหรด เปิดงานใหญ่ “มหาสงกรานต์ เวิลด์
วอเตอร์ เฟสติวัล 2024 : เย็นทั่วหล้า
มหาสงกรานต์ 2567” ชวนนักท่องเที่ยวมาร่วมชมเฟสติวัลระดับโลกสุดอลังการ
ขวนอยู่ตรงลำดับที่ 13 กว่าร้อยชีวิตพร้อมแล้ว 11 เมษายน 2567 เริ่ม17.30
น. จากสะพานผ่านฟ้าลีลาศ-ท้องสนามหลวง แล้วมาหยุดทำการแสดงหน้าลานพลับพลามหาเจษฎาบดินทร์ ตื่นตากับคุณค่าเอกลักษณ์หนึ่งเดียวของไทยและของโลกแล้วยังจะได้รับชมถ่ายทอดสดทั่วโลก
องค์เจดีย์วัดพระศรีสรรเพชญ์ พระคชาธารทองคำจำลองจากกรุสมบัติวัดราชบูรณะ
การแสดงโขนไทย หนังใหญ่ ชุดไทยอยุธยารูปแบบต่าง ๆ ปีนี้ครบรอบ 700
ปีการสถาปนา พระพุทธรูปองค์จำลองหลวงพ่อโต วัดพนัญเชิง
ไฮไลต์ด้วยขบวน 3
มรดกโลกไทย ได้แก่ อยุธยาเมืองมรดกโลก โขนไทย สงกรานต์ไทย วัฒนธรรมอยุธยาสู่การสรรค์สร้างพลังซอฟท์
เพาเวอร์ นำขบวนโดย อแมนด้า ชาร์ลีน ออบดัม
มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2563 และท็อปเท็นมิสยูนิเวิร์ส ปี 2563 นางสาวไทยอยุธยา 2566 ดาราปลากระป๋อง school ประชาชน/เยาวชนตัวแทนชาวอยุธยา แห่เสร็จเรียบร้อยจะนำขบวนพาเหรดไปจอดจัดแสดงไว้ให้นักท่องเที่ยวมาเยี่ยมชมที่ท้องสนามหลวงทุกวัน
11-15 เมษายน นี้
ส่วนสงกรานต์ภายใน “พระนครศรีอยุธยา” ที่เด่น ๆ
ชวนไปเที่ยวใกล้กรุงก็มี
พิกัดแรก
หมู่บ้านญี่ปุ่น จัด HANAMI
FESTIVAL AT JAPANESE VILLAGE 2024 เทศกาล เมษาพาชม ดอกชากุระ วันนี้-14 เมษายน
2567 เริ่มวันหยุดนี้อาทิตย์ ที่ 7 เมษายน และ 13-14
เมษายน พิเศษ เวลาเปิด
9.30-18.30 น.ชมแดนซากุระและชิมร้านอาหารฟู้ดทรัค ดูการแสดงดนตรี ส่วนวันธรรมดา วันจันทร์-ศุกร์
เปิด 9.30-17.00 น. เดินชมดอกซากุระด้วยการเช่าชุดชุดกิโมโน
ยูกะตะ ของเด็กและผู้ใหญ่ ได้เที่ยวได้เลยตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป
พิกัดที่ 2 สงกรานต์นครกรุงเก่า
67 “อยุธยามหาสงกรานต์ สนุก สุข ศักดิ์สิทธิ์”
เทศบาลนครพระนครศรีอยุธยา
จัดสถานที่เล่นสาดน้ำสงกรานต์ในเขตพื้นที่เกาะเมือง โดยจะมีขบวนแห่พระคู่บ้านคู่เมือง ขบวนสืบสานวัฒนธรรมไทย ขบวนช้างเพื่อสืบสานและอนุรักษ์ประเพณีสำคัญของไทย
ทำบุญขึ้นปีใหม่ไทย ขบวนแห่นางสงกรานต์ ขบวนแห่สรงน้ำพระพุทธรูป จัดงาน 13 -15 เมษายน
พิกัดที่ 3 งานประเพณีสงกรานต์ชาวมอญ
จัดวันเดียว 13 เม.ย. 2567 ที่วัดทองบ่อ ต.ขนอนหลวง อ.บางปะอิน ตามแบบฉบับประเพณีสงกรานต์ชาวมอญ
กับการสรงน้ำผ่านรางไม้ไผ่หนึ่งเดียวที่บางปะอิน
แต่งกายแบบชาวมอญมาทำบุญตักบาตรที่วัด ร่วมขบวนแห่หงส์ ธงตะขาบ ไม้ค้ำโพธิ์
ขบวนแห่พระพุทธรูป ขบวนแห่ผ้าห่มเจดีย์ แห่นก แห่ปลา
พิกัดที่ 4 หอมนสิการ สระบุรี ฉลองสงกรานต์มรดกไทยมรดกโลก ชวนนักท่องเที่ยว
นุ่งโจง ห่มสไบ แต่งชุดไทย ในบรรยากาศสุดอันซีน ท่ามกลางธรรมชาติงดงามมีทิวทัศน์เทือกเขาพระพุทธบาทน้อยเป็นฉากหลัง
ลุ้นการประกวดแบบโบราณเทพีสงกรานต์หอมนสิการ ชิงรางวัลรวมกว่า 100,000
บาท เปิดรับสมัครคนที่มีภูมิลำเนาหรือทำงานอยู่ในสระบุรี อายุ 18–28 ปี สมัครได้ถึง
8 เมษายน นี้ ดูรายละเอียดทางเว็บไซต์ manasikarn.com
แล้วยังมีกิจกรรมอนุรักษ์ประเพณีไทยอีกมากมาย
นักท่องเที่ยวจะได้ร่วมสรงน้ำพระบรมโลกนาถ
รดน้ำดำหัวผู้ใหญ่ ชมการแสดงดนตรีไทย สนุกกับกิร่วมกับผู้สมัครเข้าประกวดเทพีสงกรานต์ รื่นเริงกับเล่นน้ำสงกรานต์วิถีไทย
ร่วมบุญขนทราย และถ่ายภาพคู่เจดีย์ทรายได้บรรจงสร้างสรรค์อย่างสวยงาม
พิกัดที่
5 Nour Chum ตลาดอิ่มเอม
สระบุรี ชวนเที่ยวมหาสงกรานต์ 12-16
เมษายน ชวนไปเติมความมันส์! ให้ฉ่ำกับ Water
Effect แบบจัดเต็มที่แดนซ์ฟลอร์ต้องลุกเป็นไฟ พร้อมด้วย Stage Production แสง
สี เสียง เต็มระบบสุดตระการตา รับประกันความยิ่งใหญ่
ให้สมกับเป็นงานน้ำแห่งปีที่ทุกคนรอคอย มาสัมผัสความมันส์ไปกับงานน้ำสุดยิ่งใหญ่แห่งปี
ซื้อบัตรได้ที่ Line ID : @nourchum
สนุกแบบฉ่ำ
ๆ กับงานประเพณีปีใหม่ไทย “สุขทันทีที่เที่ยวสงกรานต์”ภาคกลาง“อยุธยา-สระบุรี” 11-15
เมษายน นี้
สุขภาพ
–5เคล็ดลับหลีกเลี่ยงโรคลมแดดช่วงอากาศร้อนจัดเม.ย.นี้
นพ.ชลทิตย์ จงบุญประเสริฐ
แพทย์เฉพาะทางเวชศาสตร์ฉุกเฉิน ศูนย์ฉุกเฉิน โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ มีข้อแนะนำเรื่อง
“โรคลมแดด”
เมษายน ปีนี้อากาศร้อนระอุเหลือเกิน
ตามปกติร่างกายของมนุษย์จะรักษาความสมดุลของอุณหภูมิระหว่างความร้อนจากร่างกายและสภาพแวดล้อม
โดยอุณหภูมิจะเปลี่ยนแปลงตลอดทั้งวันอยู่ระหว่าง 36 ถึง 37.5 องศาเซลเซียส การระบายเหงื่อถือเป็นกลไกสำคัญในการลดความร้อนที่มากเกินไป
แล้วโรคลมแดดคืออะไร ก็คือ อาการเกิดจากความล้มเหลวในการรักษาอุณหภูมิของร่างกายให้คงที่
(thermoregulation) ส่งผลให้อุณหภูมิของร่างกายสูงขึ้นกว่าปกติ แล้วเกิดอาการต่าง
ๆ หากอาการรุนแรงอาจเป็นอันตรายต่อชีวิตได้
เคล็ดลับในการหลีกเลี่ยงโรคลมแดด -หากอยู่ในที่อุณหภูมิสูงก็หลีกเลี่ยงโรคลมแดดได้โดยปฏิบัติตามคำแนะนำดังต่อไปนี้
1.ดื่มน้ำมากๆ
เพื่อให้ร่างกายได้รับน้ำอย่างเพียงพอ
ซึ่งส่งผลให้ร่างกายสามารถทำตัวให้เย็นลงได้ตามธรรมชาติผ่านทางเหงื่อ
2.หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์
เนื่องจากเพิ่มการขับน้ำทางปัสสาวะ อาจทำให้ร่างกายสูญเสียน้ำและเกลือแร่มากขึ้น
3.สวมใส่เสื้อผ้าที่เบาบางและไม่รัดแน่นจนเกินไป
ซึ่งจะช่วยให้ร่างกายมีอุณหภูมิที่เย็นอย่างเหมาะสม
4.อย่าใช้กำลังกายมากเกินไปในช่วงเวลาที่ร้อนที่สุดของวัน
ให้ทำงานที่ใช้กำลังมากที่สุดในตอนเช้าหรือตอนเย็นเมื่ออุณหภูมิเย็นลง
5.หลีกเลี่ยงการอยู่ในที่มีแดดจัด
รวมถึงการนั่งในรถยนต์ที่จอดไว้ถึงแม้จะเปิดกระจกทิ้งไว้หรือจอดรถยนต์ไว้ในที่ร่มก็ตาม
เพราะอุณหภูมิในรถยนต์สามารถร้อนจัดขึ้นได้อย่างรวดเร็ว
สำหรับ
โรคลมแดดแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ
1.โรคลมแดดที่ไม่ได้เกิดจากการใช้กำลังกายหนัก (classical
heatstroke or non-exertional heatstroke: NEHS) โรคลมแดดประเภทนี้เกิดจากความร้อนในสิ่งแวดล้อมที่มากเกินไป
มักพบได้ บ่อยในผู้สูงอายุที่มีโรคเรื้อรังซึ่งทำให้ไม่สามารถทนต่อสภาพอากาศร้อนและการขาดน้ำได้
โรคลมแดดประเภทนี้ยังสามารถเกิดขึ้นกับคนในทุกวัย
โดยเกิดจากยารักษาโรคบางชนิด หรือการดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์
ซึ่งส่งผลต่อความสามารถในการควบคุมอุณหภูมิของร่างกาย
2.โรคลมแดดที่เกิดจากการใช้กำลังกายหนัก (exertional
heatstroke: EHS) เช่น การออกกำลังกายที่หักโหมเกินไป
มักเกิดขึ้นกับคนอายุน้อย นักกีฬา
และทหารเกณฑ์ที่ฝึกหนักในอากาศร้อนจัดและสภาพแวดล้อมที่มีความชื้นสูง
อาการของโรคลมแดด -จะไม่ได้เกิดขึ้นทันทีที่สัมผัสกับอากาศร้อน
แต่เกิดขึ้นจากการอยู่ในสภาพอากาศที่ร้อนจัดเป็นเวลานานหรือใช้กำลังกายในอุณหภูมิที่ร้อนสูง
ซึ่งเมื่ออุณหภูมิในร่างกายสูงขึ้น อาจเริ่มมีอาการวิงเวียนศีรษะ ปวดศีรษะ
อ่อนแรงและคลื่นไส้ เมื่ออุณหภูมิสูงขึ้นเรื่อยๆ อาจทำให้เกิดอาการผิดปกติ เช่น
สับสน พูดไม่ชัดเจน กระสับกระส่าย หรือเห็นภาพหลอน
หากรุนแรงมากอาจทำให้เกิดการชักเกร็งและมีอาการโคม่าได้ในที่สุด
สังเกตได้ว่าเมื่อสัมผัสผู้ที่มีอาการจะพบตัวร้อนมากและมีผิวสีแดงกว่าปกติ (flushing)
วิธีการรักษาโรคลมแดด -ผู้ป่วยโรคลมแดดควรได้รับการรักษาอย่างเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
โดยเป้าหมายของการรักษาคือการลดอุณหภูมิภายในร่างกายของผู้ป่วย เช่น
การใช้น้ำพรมตามร่างกายและใช้พัดลมเป่าให้น้ำระเหย
หรือการใช้ถุงน้ำแข็งประคบตามรักแร้ คอ หลังและขาหนีบ
หากผู้ป่วยไม่ได้รับการรักษาโดยทันที
อาจเกิดอาการที่รุนแรงและบางครั้งอาจไม่กลับมาเป็นปกติได้ ยิ่งผู้ป่วยไม่ได้รับการรักษานานเท่าใด
โอกาสในการเสียชีวิตจะยิ่งเพิ่มมากขึ้น
ฟังข่าวท้ายชั่วโมง
ข่าวแรก –ศูนย์สิริกิติ์แจกพิเศษLoyaltyProgramขยายฐานตลาดใหม่
นายสุรพล อุทินทุ กรรมการผู้จัดการ
บริษัท เอ็น.ซี.ซี. แมนเนจเม้นท์ แอนด์ ดิเวลลอปเม้นท์
จำกัดผู้บริหารศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ เปิดเผยว่า ล่าสุดทางศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ได้เปิดตัว
Loyalty
Program ส่งมอบสิทธิประโยชน์ที่เหนือกว่าให้ลูกค้าผู้จัดงานทั่วโลกอย่างหลากหลาย
ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ ทั้งห้องพักจากโรงแรมพันธมิตร สื่อดิจิทัล
บัตรกำนัลการใช้บริการ ร้านอาหาร โดยการใช้เทคโนโลยีเข้ามาเสริมแผนการบริหารความสัมพันธ์ลูกค้าหรือ
CRM (Customer Relationship Management) ภายในศูนย์สิริกิติ์
และอื่น ๆ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้ลูกค้าเดิม
พร้อมกับเสริมความโดดเด่นให้แบรนด์เกิดความแตกต่าง
สร้างการบอกต่อและเพิ่มฐานลูกค้าใหม่มากขึ้น
จุดเด่นของ
Loyalty
Program ศูนย์สิริกิติ์ได้พัฒนาระบบที่ดำเนินการผ่านเว็บไซต์พอร์ทัลเพิ่มความสะดวก
ปลอดภัยต่อการใช้งาน โดยเก็บข้อมูลสมาชิกอย่างเป็นระบบ สามารถตรวจสอบยอดซื้อ คะแนน
และระดับสมาชิกแบบเรียลไทม์ได้ทางเว็บไซต์ดังกล่าว รองรับทั้งภาษาไทยและอังกฤษ
สมาชิกสามารถนำคะแนนไปแลกสิทธิพิเศษต่าง ๆ ได้ทันที โดยไม่จำกัดการแลกใช้คะแนน ผนวกับมีกลไกป้องกันการเข้าถึงข้อมูลในระดับสูง
สมาชิกสามารถใช้งานผ่านอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ได้หลากหลาย ทุกที่ทุกเวลา ทั้งสมาร์ทโฟน
แท็บเล็ต หรือคอมพิวเตอร์
นายสุรพลย้ำว่าหลังจากศูนย์สิริกิติ์กลับมาเปิดตัวอย่างเป็นทางการตั้งแต่ปี
2565
เป็นต้นมาจนถึงปัจจุบัน ได้สร้างการรับรู้ถึงศักยภาพรองรับตลาดการจัดงานได้ทุกรูปแบบ
ทุกขนาด แล้วก็ได้รับความเชื่อมั่นจากลูกค้าทั้งไทยและต่างประเทศเลือกมาจัดงานเป็นจำนวนมากทั้งระดับชาติและนานาชาติ
จึงต้องการแสดงความขอบคุณเชื่อมความสัมพันธ์กับลูกค้าเพิ่มความไว้วางใจมากขึ้น จึงได้ลงทุนนำเทคโนโลยีเข้ามาเชื่อมต่อกับลูกค้าด้วยระบบสะสมคะแนน
พร้อมมอบสิทธิพิเศษหลากหลาย เพิ่มความคุ้มค่าให้ลูกค้าเลือกเป็นสถานที่จัดงานครั้งต่อไป
เนื่องจากลูกค้าคือคนสำคัญที่จะขับเคลื่อนธุรกิจไปข้างหน้า
ทางศูนย์สิริกิติ์จึงคำนึงถึงเส้นทางการเดินทางของลูกค้าหรือคัสโตเมอร์ เจอร์นี่ เป็นอย่างมาก
การนำระบบ Loyalty
Program มาใช้จะช่วยเติมเต็มเส้นทางให้ครบสมบูรณ์
เมื่อลูกค้าเข้ามาจัดงานก็จะได้รับความประทับใจและสัมผัสถึงความแตกต่าง รวมทั้งเกิดความจงรักภักดีในแบรนด์ด้วย
สร้างแรงดึงดูดให้กลับมาใช้บริการซ้ำ จากสิทธิประโยชน์ที่ได้รับในโปรแกรมลอยัลตี้
ทั้งยังช่วยสร้างความสัมพันธ์ บวกเข้ากับประสบการณ์ที่ดีจะช่วยรักษาฐานลูกค้าประจำเกิดการบอกต่อ
เป็นการช่วยสร้างลูกค้าใหม่ได้โดยอัตโนมัติ
ทั้งนี้ Loyalty Program เป็นหนึ่งในกลยุทธ์
CRM ของศูนย์สิริกิติ์ มุ่งมั่นให้ความสำคัญเดินหน้าพัฒนาต่อยอดสร้างความหลากหลายด้วยสิทธิพิเศษ
และมองหาพันธมิตรเข้ามาเสริมบริการ พร้อมเปิดรับฟังความต้องการ และข้อเสนอแนะ
เพื่อส่งมอบประสบการณ์กับมอบความพึงพอใจสูงสุดแก่ลูกค้าอย่างไม่หยุดยั้งต่อไป
ข่าวที่สอง
-AOTพร้อม!!6สนามบินรับสงกรานต์7วัน2.61ล้านคน
นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า หลังการประชุมแผนการอำนวยความสะดวกและความปลอดภัยรองรับการเดินทางของประชาชนช่วงเทศกาลสงกรานต์
2567 รวม 7 วัน
ระหว่าง 11 – 17 เมษายน 2567
ได้สั่งการทุกหน่วยงานในสังกัดเตรียมพร้อมบริการประชาชนทุกมิติ เดินทางอย่างสะดวกและปลอดภัยตามนโยบาย
“เดินทางทั่วไทย คมนาคม สะดวก ปลอดภัย ใส่ใจให้บริการประชาชน”
กำกับดูแลการให้บริการ มาตรฐานความปลอดภัย แจ้งข้อมูลข่าวสารประชาชนวางแผนการเดินทางล่วงหน้าได้
ในส่วนการเดินทางทางอากาศ
ได้กำชับบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) “AOT” ดูแล 6 สนามบิน ได้แก่ สุวรรณภูมิ (ทสภ.) ดอนเมือง (ทดม.)
เชียงใหม่ (ทชม.) แม่ฟ้าหลวง เชียงราย (ทชร.) ภูเก็ต (ทภก.) และหาดใหญ่ (ทหญ.) ร่วมกันบริหารจัดการการอำนวยความสะดวกอย่างมีประสิทธิภาพ
สร้างความรวดเร็วทุกขั้นตอนทั้ง 1.“ผู้โดยสาร”
ขาเข้าและขาออก 2.จัดเจ้าหน้าที่ดูแลและให้ความช่วยเหลือผู้โดยสารทุกขั้นตอน
3.รักษามาตรฐานด้านความปลอดภัย
และเชื่อมโยงกับการคมนาคมด้านอื่นอย่างไร้รอยต่อ
คาดช่วงสงกรานต์ 2567 ระหว่าง 11 – 17 เมษายน 2567 จะมี “ผู้โดยสาร” มาใช้บริการสนามบิน
AOT ทั้ง 6 แห่ง รวมกว่า 2.61 ล้านคน เพิ่มขึ้น
28.50% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกับปีก่อน แบ่งเป็น “ผู้โดยสารระหว่างประเทศ” 1.65
ล้านคน เพิ่มขึ้น 46 % “ผู้โดยสารภายในประเทศ”
962,362 คน เพิ่มขึ้น 6.59% จะมี “เที่ยวบิน” รวมประมาณ 15,113 เที่ยว เพิ่มขึ้น
16.71% แบ่งเป็น “เที่ยวบินระหว่างประเทศ” 8,682 เที่ยว เพิ่มขึ้น 32.53% “เที่ยวบินภายในประเทศ”
ประมาณ 6,431 เที่ยว เพิ่มขึ้น 0.52%
เรียงอันดับตามจำนวนผู้โดยสารมากสุดไปจนถึงน้อยสุดดังนี้
อันดับ 1 “สุวรรณภูมิ” จะมีผู้โดยสาร 1.34 ล้านคน
เพิ่มขึ้น 36.73% มีเที่ยวบิน 7,022 เที่ยว เพิ่มขึ้น 21.13%
อันดับ 2 “ดอนเมือง” จะมีผู้โดยสาร 625,530 คน เพิ่มขึ้น
14.83% มีเที่ยวบิน 4,117 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 10.58%
อันดับ 3 “ภูเก็ต”
จะมีผู้โดยสาร 355,501 คน เพิ่มขึ้น 31.97% มีเที่ยวบิน 2,161 เที่ยว
เพิ่มขึ้น 24.77%
อันดับ 4 “เชียงใหม่” จะมีผู้โดยสาร 199,563 คน
เพิ่มขึ้น 34.83% มีเที่ยวบิน 1,152 เที่ยว เพิ่มขึ้น 6.96%
อันดับ 5 “เชียงราย” จะมีผู้โดยสาร 41,318 คน เพิ่มขึ้น
16.71% มีเที่ยวบิน 281 เที่ยว เพิ่มขึ้น 18.07%
อันดับ
6 “หาดใหญ่”
มีผู้โดยสาร 53,894 คน ลดลง 6.92% มีเที่ยวบิน380 เที่ยวบิน ลดลง 0.52%
นายสุริยะ กล่าวเพิ่มว่า กระทรวงคมนาคมdy[ AOT
มอบความสุขให้ประชาชนเดินทางกลับบ้านและท่องเที่ยวสงกรานต์
2567 โดยจัด 1.จอดรถยนต์ฟรีในแต่ละสนามบินหลักดังนี้
1.สุวรรณภูมิตรงบริเวณลานจอดรถยนต์ระยะยาว โซน D
ตั้งแต่12 – 16 เมษายน 2567
2.ดอนเมืองสามารถจอดรถยนต์ฟรีได้ที่บริเวณระหว่างอาคารคลังสินค้า
2 และอาคารจอดรถยนต์ 5 ชั้น ตั้งแต่ 11 – 17 เมษายน 2567 จอดรถยนต์ได้ 250 คัน
พร้อมจัดเตรียมรถรับส่งให้บริการระหว่างจุดจอดรถไปยังอาคารผู้โดยสารด้วย
โดยได้เน้นย้ำให้ AOT เตรียมพร้อมส่งมอบประสบการณ์การเดินทางน่าประทับใจ
และสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้ประเทศ ประสานหน่วยงานเกี่ยวข้องที่ให้บริการผู้โดยสารในสนาม
เช่น สำนักงานตำรวจตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) ผู้ประกอบการที่ให้บริการภาคพื้น รวมทั้งจัดเจ้าหน้าที่และอุปกรณ์ให้เพียงพอ
ประสานบริษัทผู้รับจ้างให้บริการรถเข็นกระเป๋าเตรียมความพร้อมพนักงาน
รถเข็นกระเป๋าให้พร้อมตลอดเวลา เพิ่มความถี่จัดเก็บรถเข็นกระเป๋าให้เร็วขึ้น
ขอความร่วมมือสายการบินเปิดใช้งานเคาน์เตอร์ครบตามจำนวนที่ได้รับการจัดสรร
จัดเจ้าหน้าที่ Airport Help คอยอำนวยความสะดวกและให้คำแนะนำผู้โดยสารด้านต่าง
ๆ เช่น แนะนำใช้เครื่อง CUSS (Common Use Self Service) เพื่อเช็กอินด้วยตนเอง หรือเครื่อง CUBD
(Common Use Bag Drop) โหลดสัมภาระด้วยตนเอง
ช่วยดูแลเรื่องจัดแถวผู้โดยสารในพื้นที่หน้าเคาน์เตอร์เช็กอิน
เพื่อความสะดวกและรวดเร็ว ตลอดจนด้านระบบคมนาคมขนส่ง สุวรรณภูมิ ดอนเมือง
เชียงใหม่ ภูเก็ต เปิดให้บริการรถรับจ้างผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ Grab
Application เพิ่มทางเลือกให้ผู้โดยสารใช้อย่าง สะดวก
รวดเร็ว และปลอดภัย และการบริหารจัดการการจราจรเพื่อลดความหนาแน่นของรถยนต์ในแต่ละสนามบินด้วย
ดร.กีรติ กิจมานะวัฒน์
กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ AOT กล่าวว่า AOT พร้อมทำตามข้อสั่งการของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม
ทุกสนามบินจัดตั้งศูนย์ประสานงานและอำนวยความสะดวก และศูนย์ความปลอดภัยคมนาคม โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องบูรณาการทำงานและประสานงานด้านการข่าวร่วมกันตลอด
24 ชั่วโมง จัดพิธีปล่อยแถวการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่เพื่อเพิ่มมาตรการการรักษาความปลอดภัยและเตรียมต้อนรับผู้โดยสาร
รณรงค์ด้านความปลอดภัยให้มีโครงการรณรงค์ขับขี่ปลอดภัย และโครงการท่าอากาศยานสีขาว
ทั้งนี้ ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2567
อาจมีผู้ใช้บริการสนามบินจำนวนมาก โดยเฉพาะดอนเมืองอาจมีรถหนาแน่นบริเวณชานชาลาอาคารผู้โดยสารขาเข้าและขาออก
AOT จึงให้รถแท็กซี่สาธารณะทุกคันใช้ช่องทาง PASSENGER
DROP LANE จัดเตรียมเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวก ให้คำแนะนำ
ช่วยเหลือแก่ผู้โดยสารบริเวณช่องทาดังกล่าวตรงประตู
16 และ 17 ตลอด 24 ชั่วโมง ยกเว้นรถแท็กซี่สาธารณะที่มีผู้โดยสารที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นกรณีพิเศษ
หรือต้องการใช้รถวีลแชร์
หรือนำรถวีลแชร์มาด้วยให้ส่งผู้โดยสารที่บริเวณประตูหมายเลข 5
อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ (ขาออก) อาคาร 1 ดอนเมือง
ทาง AOT
ได้ร่วมสืบสานประเพณีสงกรานต์จัดกิจกรรมต้อนรับผู้โดยสาร 6 สนามบิน
ได้แก่
“สุวรรณภูมิ” จัดซุ้มถ่ายภาพและกิจกรรมสรงน้ำพระในอาคารผู้โดยสารหลัก
และซุ้มนิทรรศการประวัติความเป็นมาของเทศกาลสงกรานต์ บริเวณชั้น 3
อาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 (Satellite-1: SAT-1)
“ดอนเมือง” จัดตั้งซุ้มเทศกาล “Gateway
to Wonderful Songkran อัศจรรย์สงกรานต์ ประเพณีไทยมรดกโลก”
พร้อมการแสดงขบวนกลองยาว การฟ้อนรำชุดเริงระบำสงกรานต์ รวมถึงจัดกิจกรรมสรงน้ำพระ
การสาธิตการทำน้ำอบน้ำปรุง และกิจกรรมมอบของที่ระลึกให้กับผู้โดยสาร
“เชียงใหม่” จัดจุดสรงน้ำพระ และจุดเช็ค-อิน
ถ่ายภาพในบรรยากาศเทศกาลสงกรานต์ (ปี๋ใหม่เมือง) จัดกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับสงกรานต์ให้ผู้โดยสารมีส่วนร่วม
เช่น สาธิตตัดตุงไส้หมู สาธิตทำกรวยดอกไม้ แจกของที่ระลึก จัดการแสดงคีตะมวยไทย
“เชียงราย” จัดซุ้มสรงน้ำพระ
กิจกรรมมอบของที่ระลึกให้แก่ผู้โดยสาร พร้อมการแสดงรำไทยจากนักเรียนโรงเรียนป่าสักไก่
ตลอดจนจัดการแสดงดนตรีพื้นเมืองล้านนา เพื่อสร้างความสนุกสนาน
“ภูเก็ต” จัดกิจกรรมมอบของที่ระลึกให้แก่ผู้โดยสาร
สร้างความประทับใจกับนักท่องเที่ยวทุกคน
“หาดใหญ่” จัดซุ้มสรงน้ำพระ และจัดกิจกรรมสืบสานประเพณีสงกรานต์
โดยมีการแสดงเพื่อสร้างบรรยากาศในอาคารผู้โดยสารให้คึกคักตลอดเทศกาล
AOT ขอความร่วมมือผู้โดยสารเผื่อเวลาเดินทางมาสนามบินล่วงหน้า
2 – 3 ชั่วโมง เพื่อป้องกันพลาดเที่ยวบิน
สามารถสอบถามเกี่ยวกับเที่ยวบินและบริการได้ที่
1722 ตลอด 24 ชั่วโมง
ติดตามฟังรายการได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์
เวลา 11.00-12.00 น.ทาง สวท.FM 97.0 MHz.
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น