อรรถพล วรรณกิจ
ผู้อำนวยการ ภูมิภาคภาคตะวันออกเฉียงเหนือ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)
ททท.นำอีสาน20จังหวัดรับทรัพย์สงกรานต์2พันล้าน
ไฮไลต์4เมืองใหญ่“โคราช-ขอนแก่น-หนองคาย-อุดร”
เทศกาลเที่ยวเมืองไทยมีโจทย์ใหม่ดันอีสานท็อป10
นายกฯเศรษฐาหนุนอภิมหาสงกรานต์รางน้ำฮับทัวร์
คิงเพาเวอร์ชวนมาม่วนฉ่ำ“แห่/แดนซ์/เล่น/กิน/ช้อป”
ฟรี!สงกรานต์คิงเพาเวอร์แจกบัตร200-กางเกงช้าง
ททท.ปลุกเที่ยวปีใหม่ไทย13เม.ย.จัดเต็มสนามหลวง
บางจากจุดไฮบริดหลังสงกรานต์แจกปันผล2บาท/หุ้น
ล่องเจ้าพระยาทัวร์สงกรานต์ปทุมธานีเสริมมงคล3วัด
5โรคต้องระวังให้มากช่วงเทศกาลสงกรานต์ของทุกปี
“EA-BAFS”จ่อตั้งใหม่บริษัทชิงตลาดน้ำมันการบินSAF
IATAแจ้งข่าวดีการบินโลกต้นปี67ผู้โดยสารโต15-26%
วันเสาร์ที่
13 เมษายน 2567 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ
“เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน”
ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทางfacebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen
#gurutourza #รวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97 #เพ็ญรุ่งใยสามเสน #เที่ยวกับกู๋ #KingPower #TAT #บางจาก #สงกรานต์
ฟัง Live สดจากลิงค์นี้...
ช่วงที่
1 สัมภาษณ์ “นายอรรถพล วรรณกิจ” ผู้อำนวยการ
ภูมิภาคภาคตะวันออกเฉียงเหนือ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เนรมิตประเพณีสงกรานต์
เม.ย.นี้ ปลุกนักท่องเที่ยว 8 แสนคน ใช้เงินฉ่ำ ๆ 2,000 ล้านบาท กระจาย 20
จังหวัด ไฮไลต์เที่ยวปีใหม่ไทย “โคราช” บูชาพระคันธารราฐ “ขอนแก่น” เปิดวัดไชยศรีทำพิธีเสียเคราะห์
“อุดรธานี” ชูพาเหรดคาร์นิวัล คัลเจอรัล แอนด์ คัลเลอร์ฟูล “หนองคาย” สงกรานต์ผ้าขาวม้า สมมาหลวงพ่อพระใส
หลังเทศกาลเที่ยวเมืองไทยอีสานได้โจทย์ใหม่เร่งผลักดันติดท็อปเท็นในดวงใจนักท่องเที่ยว
และรอบิ๊กโปรหน้าฝน พ.ค.นี้
นายอรรถพล
วรรณกิจ ผู้อำนวยการ ภูมิภาคภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า
ททท.ทั้งภูมิภาคอีสานเตรียมพร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยววันหยุดสงกรานต์หนึ่งในงานประเพณีแห่งปีที่มีคนเดินทางกลับบ้านมากเป็นอันดับต้น
ๆ ผนวกกับรัฐบาลส่งเสริมการท่องเที่ยวช่วงดังกล่าวด้วย
คาดการณ์ตลอดเทศกาลนี้จะมีนักท่องเที่ยว 800,000 คน
สร้างรายได้หมุนเวียนเข้าสู่ภาคอีสานเฉลี่ยทั้ง 20
จังหวัดประมาณ 2,000 ล้านบาท โดยมีพื้นที่จัดสงกรานต์หลัก ๆ
ได้แก่ “นครราชสีมา” จัดงานแห่พระคันธารราฐ รอดประตูชุมพล วันที่ 12-15 เมษายน นี้ ตามความเชื่อมายาวนานเป็นกิจกรรมขอฝนที่จะทำให้โคราชอุดมสมบูรณ์
“ขอนแก่น” นำเสนอสงกรานต์โบราณวัดไชยศรี “อุดรธานี” จัดสงกรานต์สีดอกจาน
“จังหวัดเลย” มีงานประเพณีแห่ต้นดอกไม้บ้านแสงภา อำเภอนาแห้ว “นครพนม”
สงกรานต์ถนนข้าวปุ้น “หนองคาย” สรงน้ำหลวงพ่อพระใส และภาคอีสานทั้ง 20 จังหวัดก็มีการจัดสงกรานต์แตกต่างกันไป
สำหรับไฮไลต์สงกรานต์ “ขอนแก่น”
ทางเทศกาลนครขอนแก่นพัฒนารูปแบบจัดสงกรานต์ถนนข้าวเหนียวจนกลายเป็นถนนสายน้ำต้นแบบสงกรานต์
จนเกิดเป็นถนนสายข้าวเป็นลำดับ ๆ ในพื้นที่อื่น ๆ โดยมีประเพณีสงกรานต์โบราณที่
“วัดไชยศรี” บ้านสาวัตถี อำเภอเมือง
มีโบราณสถานเก่าแก่สวยงามแล้วชุมชนเข้มแข็งอนุรักษ์ดูแลรักษาขนบธรรมเนียมประเพณี
ฮีต 12 ปีนี้จัดยิ่งใหญ่ “พิธีเสียเคราะห์แบบโบราณ”
ตามประเพณีชุมชน จัดวันที่ 13-15 เมษายน
นี้ จัดทำธงจากกาบกล้วยประมาณ 1 ศอก ใส่หมาก พลู ดอกไม้
เล็บผม ใส่ลงไป เพื่อลอยเคราะห์ออกไป ส่วนเทศบาลขอนแก่น
ก็จัดคลื่นมนุษย์เล่นเวฟระหว่างสาดน้ำสงกรานต์
“อุดรธานี”
จัดประเพณีสงกรานต์สาดน้ำสีดอกจาน สงกรานต์เมืองอุดร เป็นดอกไม้สีส้ม ทาง
ททท.อุดรธานี ร่วมกับเทศบาลเมืองจัดเป็น “คาร์นิวัล คัลเจอรัล แอนด์ คัลเลอร์ฟูล”
สิ่งที่จะเกิดขึ้นจะมีขบวนแห่รถบุปชาติจากอำเภอต่าง ๆ 30 ขบวน นำเสนอวัฒนธรรมประเพณี ไทย จีน
เวียดนาม การละเล่นพื้นบ้าน ประกวดนางสงกรานต์
นำคู่สมรสเขยต่างชาติในอุดรมาร่วมประกวดที่สวนสาธารณะหนองประจักษ์ศิลปะคม
เป็นอีกหนึ่งความยิ่งใหญ่งานสงกรานต์
“หนองคาย” มหาสงกรานต์ อีสานหนองคาย
ระหว่างวันที่ 12-18 เมษายน คอนเซ็ปต์ “ผ้าขาวม้า สมนาหลวงพ่อพระใส”
กิจกรรมสำคัญวันที่ 13 เมษายน
นำหลวงพ่อพระใสแห่ออกไปรอบเมืองพร้อมกับให้คนได้สรงน้ำ ต่อเนื่องไปจนถึงวันที่ 17
เมษายน จากนั้นวันที่ 18 เมษายน
ก็จะอัญเชิญขึ้นพระอุโบสถ ซึ่งได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยว สปป.ลาว เป็นอย่างดี
ส่วนงานประเพณีสงกรานต์แห่ต้นดอกไม้ในอีสานมีหลายด้วยกัน
ได้แก่ “แห่ต้นดอกไม้บ้านแสงภา” ที่วัดศรีโพธิชัย อำเภอนาแห้ว จ.เลย
พิธีแห่ดอกไม้บูชาพระธาตุศรีสองรักได้รับความนิยมมากจากอีสานและพื้นที่ใกล้เคียง
ผอ.อรรถพล กล่าวว่า ต่อจากสงกรานต์ปลายเดือนเมษายนนี้
อีสานจะปูพรมจากการขายในงานเทศกาลเที่ยวเมืองไทย 2567 ชูจุดขาย “อีสานไปไสกะแซ่บ” ชูความโดดเด่นเรื่องซอฟท์ พาเวอร์ “อาหาร”
ซึ่งรองรับโครงการท่องเที่ยว 365 วัน มหัศจรรย์เมืองไทย
เที่ยวได้ทุกวัน เช่น เดือนพฤษภาคม มีเที่ยวสวนผลไม้ทุเรียนภูเขาไฟ จ.ศรีสะเกษ
ต่อด้วย “อุบลตะโกนว่าแซ่บ” นำเสนออาหารถิ่นที่มีความหลากหลายทางด้านวัฒนธรรม
ตัวอย่าง อาหารเวียดนามที่ได้มิชลินไกด์ พอเข้าสู่ฤดูฝนกับเข้าพรรษา
จะมีงานบุญใหญ่ทั่วอีสาน คือ บุญบั้งไฟ จ.ยโสธร บั้งไฟตะไลล้าน จ.กาฬสินธุ์
ได้นำมาโชว์ในงานเทศกาลเที่ยวเมืองไทย “เดือนกรกฎาคม”
ไฮไลต์เที่ยวงานแห่เทียนพรรษา ปักหมุดที่ จ.อุบลราชธานี
นักท่องเที่ยวสนใจเดินทางไปศึกษาเรียนรู้กรรมวิธีหล่อเทียน ติดเทียน ทำต้นเทียน
รวมทั้งทางนางสาวสมฤดี จิตรจง
รองผู้ว่าการด้านตลาดในประเทศ ททท.ประสานกับสายการบินในประเทศ จัดมหกรรม
“ตั๋วโดยสารเครื่องบินเที่ยวไทยราคาประหยัด” รวมไปถึงร่วมกับพันธมิตรห้างสรรพสินค้า
บิ๊กซี โลตัส และอื่น ๆ จัดคูปองมอบรางวัล
เพื่อดึงดูดคนออกเดินทางท่องเที่ยวต่อเนื่องไปจนถึงสิ้นปีงบประมาณ 2567
ผอ.อรรถพล กล่าวว่า ตลอดการจัดงานเทศกาลเที่ยวเมืองไทย 2567 ที่ยกแหล่งท่องเที่ยว 20 จังหวัดมาไว้ใน “หมู่บ้านภาคตะวันออกเฉียงเหนือ”
ได้รับความสนใจสูงมาก โดยเฉพาะ “บั้งไฟตะไลล้าน กาฬสินธุ์”
รวมทั้งมีตัวชี้วัดรายได้จากการขายอาหารถิ่น คัดมาจาก 20 จังหวัด
40 ร้านค้า ทำยอดขายจากวันละ 1 ล้านบาท
เป็นวันละเกินกว่า 2 ล้านบาท ตลอด 5 วัน
ระหว่างวันที่ 28 มีนาคม -1 เมษายน 2567 หลังเสร็จสิ้นงาน ททท.ภูมิภาคภาคอีสานมีนโยบายให้
ททท.สำนักงานทุกจังหวัดในอีสานทำงานหนักเพิ่มมากขึ้น
เพราะได้เห็นจุดอ่อนเรื่องที่นักท่องเที่ยวยังไม่สามารถตอบได้ว่าหากจะเดินทางไปเที่ยวอีสานจะเลือกไปที่ใด
ซึ่งอีสานยังไม่ติด 1 ใน 10
ที่อยู่ในใจของนักท่องเที่ยว จึงเป็นประเด็นที่จะต้องทำการบ้านเพิ่มขึ้น
หาวิธีทำให้คนมีจังหวัดในใจติดอันดับ 1 ใน 10 ให้ได้
ส่วนปัจจัยหนุนที่จะสร้างโอกาสที่ดีทางการท่องเที่ยว
ได้แก่ การลงทุนก่อสร้างรถไฟความเร็วสูง การเปิดบริการมอเตอร์เวย์
รวมถึงสายการบินต่าง ๆ มีโปรโมชั่นนำเสนอขายตั๋วโดยสารเครื่องบินราคาถูกลงเหมาะสมมากขึ้น
ก็จะช่วยผลักดันการท่องเที่ยวอีสานเติบโตเพิ่มขึ้นได้
ผอ.อรรถพล
ย้ำว่าอีสานเป็นภาคที่มีเสน่ห์ในตัวเอง
นักท่องเที่ยวที่มีประสบการณ์เคยเดินทางไปท่องเที่ยวมาแล้ว น่าจะจดจำได้ดี
นอกเหนือวัฒนธรรม ประเพณี อาหาร วิถีชีวิต แล้ว
ยังมีแหล่งท่องเที่ยวที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ
และในนครราชสีมายังได้ประกาศขึ้นทะเบียนมรดกโลกถึง 3 แห่งด้วยกัน
ไปเยือนแผ่นดินถิ่นอีสานแล้วจะหลงรักการท่องเที่ยวภาคนี้ไปด้วยกัน
ฟังข่าวต้นชั่วโมง
ข่าวที่
1 นายกฯเศรษฐาหนุนอภิมหาสงกรานต์รางน้ำฮับทัวร์
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายเศรษฐา ทวีสิน
นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเป็นประธานเปิดงาน “อภิมหาสงกรานต์รางน้ำ
“RANGNAM’S SONGKRAN FESTIVAL 2024
: ม่วน หนุก สุข คัก” วันแรก 11 เมษายน
2567 ที่บริเวณ
ฟาวเท่น สแควร์ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ
ได้ลงทุนจัดอย่างยิ่งใหญ่เพื่อยกระดับย่านรางน้ำเป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวโลก
นำโดย นายอัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท คิง
เพาเวอร์ พร้อมกับนางสาวแพทองธาร ชินวัตร
รองประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ ร่วมสนับสนุน กับรัฐมนตรีว่าการร่วมเปิดงานด้วยวันแรกจาก
3 กระทรวงหลัก
คือ นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม นางสาวสุดาวรรณ
หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ตามด้วย 2 ผู้ว่าการ มี นายชัชชาติ
สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์
ผู้ว่าการการท่อง เที่ยวแห่งประเทศไทย
นายเศรษฐา
ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
เปิดเผยว่า กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ได้จัดงาน“RANGNAM’S SONGKRAN FESTIVAL 2024
: ม่วน หนุก สุข คัก” ต่อเนื่องตลอด 6 วัน ระหว่างวันที่ 11-16
เมษายน 2567 โดยร่วมมือกับทุกฝ่ายในย่านรางน้ำ
กระทรวงที่เกี่ยวข้อง กรุงเทพมหานคร
ททท.ทำให้งานประเพณีแห่งความสุขปีใหม่ไทยได้ต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างประเทศได้มาชื่นชมวัฒนธรรมอันดีงามของไทย
เพื่อร่วมยกระดับศักยภาพการท่องเที่ยวทำให้ย่านรางน้ำเป็นจุดหมายปลายทางท่องเที่ยวเชิงเศรษฐกิจสร้างสรรค์แห่งใหม่ของกรุงเทพมหานครได้การยอมรับจากทั้งคนไทยและนักท่องเที่ยวทั่วโลกต่อไป
ซึ่งทางกลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์
ลงทุนจัดงาน “อภิมหาสงกรานต์รางน้ำ 2567”
ขึ้นครั้งนี้นับเป็นอีกหนึ่งเวทีพร้อมเปิดให้นักท่องเที่ยวได้ร่วมเฉลิมฉลองเป็นครั้งแรกและปีแรกในโอกาสที่ยูเนสโกประกาศขึ้นทะเบียน
“สงกรานต์ในประเทศไทย” เป็นมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ และเป็นประวัติศาสตร์ครั้งสำคัญที่สุดของไทยด้วยเช่นกันในการยกระดับซอฟท์
เพาเวอร์ ของประเทศขึ้นมาอีกขั้นด้วย
นางสาวแพทองธาร
ชินวัตร
รองประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ กล่าวว่า จะทำให้พลัง ซอฟท์
พาวเวอร์ มหาสงกรานต์ไทยงานประเพณีมรดกโลกยูเนสโก
ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวทั่วโลกภายใน 4 ปีข้างหน้าจะเห็นผลอย่างชัดเจน
ซึ่งจะทำให้ไทยมีจุดขายโดดเด่นในตลาดโลกต่อไป
นายอัยยวัฒน์
ศรีวัฒนประภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท คิง
เพาเวอร์ กล่าวว่า การจัดงาน “อภิมหาสงกรานต์ รางน้ำ 2567 ตั้งใจจัดอย่างยิ่งใหญ่ของคิง
เพาเวอร์ ก้าวสู่ปีที่ 35 เปิดงานวันแรก 11 เมษายน 2567 ร่วมเป็นส่วนหนึ่งดึงดูดการท่องเที่ยวปี 2567 สร้างรายได้เข้าประเทศ
3.5 ล้านล้านบาท
ตามที่รัฐบาล กรุงเทพมหานคร และ
ททท.จัดมหาสงกรานต์เป็นเมกะอเวนต์กระตุ้นเศรษฐกิจและท่องเที่ยว
รวมถึงเป็นเรื่องน่ายินดีของกระทรวงวัฒนธรรมได้ขึ้นทะเบียนสงกรานต์เป็นมรดกโลกจากยูเนสโก
คิง เพาเวอร์ จึงร่วมกับภาครัฐ เอกชน ชุมชน จัดงานขึ้นเพื่อตอบสนองนโยบายภาครัฐ
และเผยแพร่ประชาสัมพันธ์งานร่วมสมัย พร้อมทั้งขอสวัสดีปีใหม่ให้ทุกคนมีความสุขกับปีใหม่ไทย
นอกจากรัฐบาล กรุงเทพมหานคร ททท.แล้ว
ยังมีธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ชุมชนย่านรางน้ำ สนับสนุนการจัดงานอย่างเต็มที่ ตั้งแต่วันที่ 11
-16 เมษายน 2567 กลุ่มบริษัท
คิง เพาเวอร์ เปิดพื้นที่ต้อนรับนักท่องเที่ยวทุกวันตั้งแต่เวลา 10.00-21.00 น. พร้อมกับชวนร่วมสาดความสนุกในธีม
“RANGNAM WATER STREET BY
SUPERFLUID” ระหว่างวันที่ 13 – 15 เมษายน เวลา 16.30-21.00 น. ที่ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ มีกิจกรรมสรงน้ำพระรับปีใหม่ไทย
แต่งชุดไทยถ่ายรูปฟรี ดูดวง
4 ศาสตร์ เกมงานวัด และอื่น ๆ
ข่าวที่ 2 คิงเพาเวอร์ชวนม่วนฉ่ำ
“แห่/แดนซ์/เล่น/กิน/ช้อป”
กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ปักหมุดความม่วน! จัดเต็มอภิมหาขบวนสงกรานต์
คณะคอนเสิร์ต และโชว์หนุก ๆ ตลอด 6 วัน ! รวมกว่า 60 ศิลปิน ฟินฉ่ำไปทั้งหัวใจ
สุดมันส์ไปกับการ แห่ แดนซ์ กิน ช้อป เล่นน้ำ ให้ฉ่ำ ตั้งแต่วันนี้– 16 เมษายน 2567 ที่ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ
เดินทางสะดวกด้วยรถไฟฟ้าบีทีเอส ลงสถานีอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ออกทางหมายเลข 2 เพื่อมาพบกันตามนัดได้ทุกวัน
แห่ฉ่ำ! กับอภิมหาขบวนสงกรานต์สุดยิ่งใหญ่ แห่มันส์ๆ ทั้งย่านรางน้ำ
กับศิลปินชื่อดังจากทั่วฟ้าเมืองไทย
แดนซ์ฉ่ำ ! กับอภิมหาความบันเทิงที่เวที ม่วน หนุก สุข คัก
กับคณะคอนเสิร์ตและโชว์หนุกๆ สุดครื้นเครง
เล่นน้ำฉ่ำ! กับอภิมหาความมันส์! ที่ Rangnam Water
Street By SUPERFLUID กับศิลปิน T-pop
พากินฉ่ำ!! แบบจัดเต็มกับอาหารร้านเด็ดกว่า 50 ร้าน
ช้อปฉ่ำ ! กับโปรโมชั่น ลดสูงสุด 25%
ที่ลดแรงที่สุดในเทศกาล!
ข่าวที่
3 ฟรี!สงกรานต์คิงเพาเวอร์แจกบัตร200-กางเกงช้าง
กลุ่มบริษัท
คิง เพาเวอร์ เปิดคิง เพาเวอร์ รางน้ำ เฉลิมฉลองสงกรานต์ แจกพิเศษ วันนี้-16 เมษายน 2567 รับฟรีบัตรของขวัญมูลค่า 200 บาท และกางเกงช้างหรือผ้าขาวม้า 1 ชิ้น (จำนวนจำกัด)
คุ้มสุด ๆ สมาชิกรับสิทธิ์เป็น 30 คนพิเศษร่วมกิจกรรมถ่ายรูปและรับเครื่องดื่มสุดพิเศษจากศิลปิน
1 สิทธิ์/คน/วัน)
พิเศษยิ่งขึ้น!! ผู้ถือบัตรเครดิตร่วมคิง เพาเวอร์
กับคาร์ด เอกซ์ ไทยพาณิชย์ รับเพิ่มโบนัส เครดิตเงินคืนสูงสุด 10,000 บาท และรับคะแนนสะสมเพิ่ม 10,000 คะแนน ระหว่างวันนี้
-16 เมษายน ที่ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ
ระหว่างวันที่ 13-15 เมษายน ยังเนรมิตถนนรางน้ำเป็นงานเทศกาลสงกรานต์ใจกลางเมือง “RANGNAM WATER STREET
BY SUPERFLUID” ภายใต้แนวคิด “สีสันที่ไม่มีวันสิ้นสุด” เพื่อสร้างประสบการณ์แห่งความ
ม่วน หนุก สุข คัก กับเทศกาลดนตรีสุดชุ่มฉ่ำผ่านสายน้ำ แลนด์มาร์คเล่นน้ำสงกรานต์แห่งใหม่ของกรุงเทพฯ
กับทัพศิลปิน T-POP อาทิ อิ้งค์-วรันธร เปานิล, แอลลี่-อชิรญา นิติพน, วงทรินิตี้,
โอบนิธิ วิวรรธนวรางค์, เจเลอร์-กฤษณภูมิ พิบูลสงคราม, ไทแทน
ทีปประสาน, ศิลปินจากค่าย HIGH CLOUD
ตลอดการจัดงาน พบกับกิจกรรมสรงน้ำพระรับปีใหม่ไทย, ใส่ชุดไทยถ่ายรูปฟรี, ดูดวง 4 ศาสตร์, เกมงานวัด ฯลฯ พร้อมเชิญชวน
“สรงน้ำพระ” เสริมสิริมงคล ภาคกลาง หลวงพ่อโสธรจำลอง, ภาคใต้
พระศรีศากยมุนีศรีธรรมราช วัดพระบรมธาตุวรมหาวิหาร, ภาคเหนือ
พระพุทธสิหิงค์ หน้าตัก 9 นิ้ว และภาคอีสาน หลวงพ่อพระใส หน้าตัก 9 นิ้ว
โดยจำลองบรรยากาศสงกรานต์ทั่วไทยมาไว้ในที่เดียว
ตั้งแต่โซนหนุก (ถนนดีบุกภูเก็ต), โซนม่วน (ถนนท่าแพเชียงใหม่),โซนชุมทาง คิง เพาเวอร์
(สถานีรถไฟ), โซนสุข (ถนนข้าวสาร กทม.) และโซนคัก
(ถนนข้าวเหนียว ขอนแก่น) รวมถึง 50 ร้านรวมมิตรสายอร่อย
และคลองดอกไม้
ห้ามพลาด! เที่ยวงาน “อภิมหาสงกรานต์รางน้ำ” ยกขบวนความสนุกของสงกรานต์ทั่วไทยไว้ในงานเดียว ตั้งแต่วันนี้ถึง
16 เมษายน นี้ เวลา 10.00-21.00 น. และ “RANGNAM WATER STREET BY
SUPERFLUID” ในวันที่ 13 – 15 เมษายน นี้ เวลา 16.30-21.00
น. ที่ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ
ข่าวที่
4 ททท.ปลุกเที่ยวปีใหม่ไทย13เม.ย.จัดเต็มสนามหลวง
นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา โดย
ททท. ร่วมมือกับ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงวัฒนธรรม
กรุงเทพมหานคร คณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟพาวเวอร์แห่งชาติ และเอกชน จัดงาน Maha Songkran World Water Festival 2024
เย็นทั่วหล้า มหาสงกรานต์ วันที่ 11-15 เมษายน 2567 บริเวณถนนราชดำเนินกลางและท้องสนามหลวง กรุงเทพมหานคร เพื่อประชาสัมพันธ์และฉลองการประกาศขึ้นทะเบียน “สงกรานต์ในประเทศไทย” ขององค์การยูเนสโก
โดยใช้พลังซอฟท์ พาวเวอร์ ต่อยอดการท่องเที่ยว ผลักดันงานเทศกาลประเพณีไทยจากระดับประเทศสู่ระดับโลก
พร้อมกระตุ้นการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์
สร้างรายได้หมุนเวียน และเศรษฐกิจในภาพรวม
วันเสาร์ที่ 13 เมษายน 2567 ตรงกับวันปีใหม่ไทย ททท.ได้จัดกิจกรรมพิเศษทำบุญตักบาตรพระสงฆ์ 99 รูป กิจกรรมสรงน้ำพระเพื่อขอพรเสริมสิริมงคล
โดยอัญเชิญพระพุทธรูปองค์จำลองจาก 5 วัด ได้แก่ พระแจ้ง-วัดอรุณราชวราราม ราชวรมหวิหาร
พระศรีสรรเพชญ์-วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ หลวงพ่อทองคำ-วัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร หลวงพ่อโต-วัดอินทรวิหาร พระอารามหลวง
พระพุทธมารวิชัย-วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม
พร้อมกับมีกิจกรรมรดน้ำผู้สูงอายุ
สนุกสนานกับโซนก่อเจดีย์ทราย “เจดีย์วิถีสงกรานต์”
ร่วมอนุรักษ์และสืบสานวัฒนธรรมประเพณีไทยอันดีงามด้วยกัน
สำหรับการจัดงาน Maha Songkran World Water Festival 2024
เย็นทั่วหล้า มหาสงกรานต์ 2567 ในครั้งนี้ยังได้รับความร่วมมือจาก บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด
(มหาชน) หรือ PTTGC จัด 3
กิจกรรม ดังนี้ 1.GCYOU เทิร์น บริหารจัดการขยะจากพลาสติก
ขวดน้ำดื่ม โดยจัดจุดรับขวด YOU
เทิร์น Droppoint ทั่วงาน 20 จุด2.ส่งเสริมรณรงค์การทิ้งขยะ
นำขวดน้ำดื่มมาแลกของรางวัล 3.Upcycling
ให้นำฝาขวดน้ำดื่มมาทำ DIY นำไปใช้เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีค่าและนำกลับมาใช้ได้ใหม่
ตลอดงาน
ททท. จัดรถสองแถวไว้บริการรับส่งผู้เข้าร่วมชมงาน ระหว่างวันนี้-15 เมษายน 2567 ทุกวันตั้งแต่ 13.00 น. – 24.00 น.
มีจุดจอดรถ 3 จุด จุดละ 3 คัน ได้แก่ 1.เมเจอร์ปิ่นเกล้า 2.สะพานผ่านฟ้าลีลาศ 3.มิวเซียมสยาม
ส่วนปลายทางมีจุดจอดตรงบริเวณป้ายรถเมล์ศาลฎีกา ท้องสนามหลวง ติดตามรายละเอียดเพิ่มได้ที่
www.thailandfestival.org และ Facebook : Thailand Festival
ข่าวที่
5 บางจากจัดไฮบริดหลังสงกรานต์แจกปันผล2บาท/หุ้น
บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) รายงานว่า
ได้จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2567 (AGM)
โดยเลือกใช้รูปแบบผสมผสานหรือไฮบริดอีเวนต์
เมื่อวันที่ 11
เมษายน 2567 เลือกเปิดช่องทางให้ผู้ถือหุ้นสามารถเข้าร่วมด้วยตัวเองหรือผ่านทางออนไลน์
ไฮไลต์เป็นเรื่องอนุมัติจัดสรรกำไรจ่ายเงินปันผลการดำเนินงานงวดครึ่งปีหลังปี
2566 ให้ผู้ถือหุ้น 1.50 บาท/หุ้น เมื่อรวมกับเงินปันผลระหว่างกาลงวดครึ่งปีแรกปี
2566 อีก 0.50 บาท/หุ้น จะรวมเป็นเงินปันผลปี 2566 ที่ต้องจ่ายรวมทั้งหมด 2.00 บาท/หุ้น กำหนดจ่ายเงินปันผลวันที่ 24
เมษายน 2567 ถือเป็นการจ่ายให้ผู้ถือหุ้นอย่างสม่ำเสมอ สะท้อนถึงสถานะทางการเงินอันแข็งแกร่ง
ผลการดำเนินงานเติบโตและความมุ่งมั่นพร้อมสร้างผลตอบแทนกับผู้ถือหุ้นอย่างคุ้มค่าต่อเนื่องมาตลอด
โดยมี นายพิชัย
ชุณหวชิร ประธานกรรมการ เป็นประธานการประชุม
พร้อมด้วย นายชัยวัฒน์ โควาวิสารัช
ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัทบางจากและกรรมการผู้จัดการใหญ่ คณะกรรมการ
คณะผู้บริหาร ผู้สอบบัญชีและที่ปรึกษากฎหมาย เข้าร่วมประชุมเมื่อวันที่ 11 เมษายน 2567
ที่ห้องประชุมใบไม้
อาคารเอ็ม ทาวเวอร์ สำนักงานใหญ่ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ตลอดการประชุมได้พิจารณาอนุมัติทุกวาระ
และนำเสนอรายงานผลการดำเนินงาน บมจ.บางจาก ปี 2566
ซึ่งเป็นปีที่มีผลการดำเนินงานสูงสุดนับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทฯ
ให้ผู้ถือหุ้นรับทราบโดยทั่วกัน
สำหรับการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปีของบริษัทบางจากฯ
แบบไฮบริดก็เพราะได้คำนึงถึงความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยได้คำนวณการปล่อยก๊าซเรือนกระจก
ชดเชยการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากการจัดประชุมด้วยคาร์บอนเครดิตจากโครงการกิจกรรมชดเชยคาร์บอนขององค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจกในปริมาณเท่ากัน
ทำให้การประชุมเป็น Carbon Neutral Event หรือปล่อยคาร์บอนเป็นศูนย์ต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2564 จนถึงปัจจุบัน
ช่วงที่ 2 สงกรานต์เที่ยวได้ใกล้กรุง
ททท.แนะนำเส้นทางใหม่ล่องเรือเจ้าพระยาเที่ยวปทุมธานี 3 วัดดัง
3 พิกัด “หลวงพ่อหร่ำ วัดกร่าง “หลวงพ่อเหลือ” วัดโบสถ์ “หลวงพ่อโต300ปี” วัดสิงห์ ตำนานวัดชาวมอญในอำเภอสามโคก ที่ได้รับความนิยม
แล้วโปรดระวัง “5โรคมากับเทศกาลสงกรานต์” ฟังข่าวฮ็อต
ข่าวแรก “EA-BAFS”ผนึกตั้งบริษัทใหม่ชิงตลาดน้ำมันเครื่องบินSAF
ข่าวที่สอง “IATAย้ำข่าวดี” ต้นปี67ผู้โดยสารบินทั่วโลกโตสองหลัก 15-26 %
ท่องเที่ยว
–ล่องเจ้าพระยาเที่ยวสงกรานต์ปทุมธานีเสริมมงคล3วัด
เที่ยวปีใหม่ไทยเย็นฉ่ำ “สงกรานต์” เส้นทางสายใหม่เที่ยวใกล้
ๆ กรุงเทพฯ ล่องเรือเลียบแม่น้ำเจ้าพระยากับโปรแกรม “ไหว้พระริมน้ำ ให้ฉ่ำบุญ
ที่ปทุมธานี” งานนี้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) แจกคู่มือท่องเที่ยวดิจิตอล
แบบมินิมอล มินิใจ ..... แนะนําเส้นทางท่องเที่ยวช่วงวันหยุดยาวเทศกาลสงกรานต์ใกล้กรุง
เปิดทางเลือกให้นักท่องเที่ยวที่มีเวลาน้อยช่วงวันหยุดสงกรานต์ปี 2567 ไม่สะดวกเดินทางไปยังจังหวัดไกล
ๆ
มีโปรแกรมแนะนำการพักผ่อน แถมได้สะสมบุญ
ด้วยการใช้เวลาอยู่กับครอบครัว ทำกิจกรรม ปิดทอง สรงน้ำพระ กราบขอพร ชิมอาหารอร่อย
ชมวิวสวยริมน้ำ เช็คอินคาเฟ่เก๋ ๆ จะขับรถเที่ยวก็ไปง่าย หรือจะล่องเรือเที่ยว
บรรยากาศสบายๆ ในแม่น้ำเจ้าพระยา ปัง ๆ 3 เส้นทาง 3 พิกัด
พิกัดที่ 1
"หร่ำ เหลือ รุ่งเรือง" เดินทางไปกราบ
หลวงปู่หร่ำ เกสโร อดีตเจ้าอาวาสวัดกร่าง พระสายวิปัสสนากรรมฐาน มีวาจาศักดิ์สิทธิ์ มากด้วยวิชาอาคม และมีเมตตาสูง
"วัดกร่าง"
เป็นวัดโบราณเก่าแก่สันนิษฐานว่าครั้งแผ่นดินอาณาจักรกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย
บริเวณนี้น่าจะอยู่ในเขตเมืองสามโคกมีชาวมอญอพยพเข้ามาตั้งบ้านเรือนจำนวนมาก แล้วร่วมกันสร้าง
"วัดดงดารา" ต่อมากลายเป็นวัดร้าง ชาวบ้านท้ายดงร่วมกันบูรณะซ่อมแซมขึ้นมาใหม่พร้อมเปลี่ยนชื่อเป็น
"วัดกร่าง" เพราะพื้นดินมีไม้ใหญ่ต้นกร่างตามชื่อใหม่ที่ใช้มาจนถึงทุกวันนี้
พิกัดที่ 2 ไหว้หลวงพ่อเหลือ วัดโบสถ์ พระพุทธรูปที่รอดพ้นการถูกทําลายของโจรผู้ร้าย จนเป็นที่มาของชื่อเหลือ เชื่อกันว่า
หากได้มาขอพร จะหนุนเสริมให้ชีวิตสบาย เหลือกินเหลือใช้ ไม่ลําบาก
วัดโบสถ์ หรือ วัดหลวงพ่อโตองค์ใหญ่
อยู่ที่ ตำบลบางกระบือ อำเภอสามโคก สร้างขึ้นเมื่อพ.ศ.
2164 ฝีมือมอญอพยพมาจากเมืองหงสาวดี เป็นวัดเก่าแก่โบราณในสมัยกรุงศรีอยุธยา สมัยก่อนเรียกวัดสร้อยนางหงษ์ นำชื่อหมู่บ้านที่อพยพมาตั้งเป็นชื่อวัด
แล้วสร้างเสาหงส์ขึ้นเป็นสัญลักษณ์เมืองหงสาวดี
หลวงพ่อเหลือ
ซึ่งเป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัยสร้างด้วยศิลาทราย
มีทั้งหมด 12 องค์ เมื่อ พ.ศ. 2507 มีคนเข้ามาลักลอบตัดเศียรพระพุทธรูปภายในโบสถ์ที่ไม่โดนตัดเศียรมีหลวงพ่อเหลือเพียงองค์เดียว
อันเป็นที่มาของชื่อนั่นเอง
พิกัดที่
3 สักการะหลวงพ่อโตอายุกว่า
300 ปี และหลวงพ่อเพชร (พระพุทธไสยาสน์) ที่วัดสิงห์ เพื่อความเป็นสิริมงคล ซึ่งเป็นที่นิยมกราบไหว้บูชาเพื่อขอพรให้เจริญรุ่งเรือง
“วัดสิงห์”
วัดโบราณเก่าแก่ ตั้งอยู่ที่บ้านสามโคก ถือเป็นวัดคู่บ้านเมืองคู่เมืองปทุมธานี ชาวบ้านนิยมมากราบไหว้
ก่อสร้างขึ้นสมัยอยุธยา ตอนชาวมอญอพยพมาตั้งรกรากตามบันทึกพงศาวดารกรุงศรีอยุธยาวัดสิงห์เป็นวัดคู่เมืองสามโคก
สันนิษฐานว่าวัดแห่งนี้น่าจะสร้างขึ้นในสมัยสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ
หรือในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ช่วง พ.ศ.2202-2210 ตั้งอยู่ใกล้แม่น้ำเจ้าพระยา
มี “คลองวัดสิงห์” เชื่อมให้เรือเข้าออกเรียกว่า มีโบราณสถานและโบราณวัตถุ ที่น่าสนใจ
ควรค่าแก่การศึกษาอย่างยิ่ง
ททท.เปิดให้นักท่องเที่ยวที่ร่วมสนุกกับกิจกรรมนี้
สามารถกดลิงค์ https://get-qr.com/TvJPZZ รับฟรีโปสการ์ด แล้วยังสามาถกดดูเพิ่มเติมได้ทั้ง ข้อมูล รูปภาพ แผนที่สถานที่เที่ยว บนโปสการ์ด เพื่อคู่มือไฮเทคโนโลยีนำติดติดตัวไปท่องเที่ยวให้ฉ่ำบุญตลอดสงกรานต์เมษายนนี้
สุขภาพ –5โรคต้องระวังให้มากช่วงเทศกาลสงกรานต์ของทุกปี
เทศกาลแห่งความสนุกสนานที่กำลังจะเริ่มขึ้นในอีกไม่กี่วัน
หลายๆคนกำลังตั้งใจรอ และเตรียมความพร้อม
แต่สิ่งหนึ่งที่ทุกคนต้องระวังด้วยในขณะเล่นน้ำสงกรานต์ คือ
เชื้อโรคต่างๆที่แฝงมากับช่วงเวลาแห่งความสนุกของคุณ อย่างเช่น 5
โรคระบาดหนักท่ามกลางแสงเเดดและน้ำที่ใช้เล่นสงกรานต์
1.โรคอาหารเป็นพิษ
โรคท้องร่วง โรคอหิวาตกโรค โรคไวรัสตับอักเสบเอ
ช่วงอากาศร้อนและแห้งเหมาะกับการเจริญเติบโตของเชื้อโรคโดยเฉพาะแบคทีเรียส่งผลให้อาหารที่ทำออกมารับประทานนั้นอาจบูดเสียได้ง่าย
โดยเฉพาะพวกแกงที่มีส่วนผสมของกะทิหรือนมด้วยแล้ว
รวมถึงการทานอาหารหรือน้ำที่ไม่สะอาดปนเปื้อนเชื้อโรค
อาจทำให้เกิดโรคดังกล่าวได้ อาการถ่ายเหลว
ปวดท้อง คลื่นไส้อาเจียน แต่หากมีภาวะขาดน้ำรุนแรงจะทำให้เกิดภาวะช็อค หมดสติ
และเสียชีวิตได้
2.โรคไข้หวัดและปอดอักเสบ
การเล่นน้ำสงกรานต์ทำให้ร่างกายเปียกชื้นเป็นเวลานาน
ยิ่งในต่างจังหวัดเล่นติดต่อกันตั้งแต่เช้าถึงเย็นด้วยแล้ว
จึงต้องระมัดระวังในผู้ป่วยที่มีภูมิต้านทานโรคต่ำและในกลุ่มเด็ก
ไม่ควรสาดแรงจนเกินไปอาจทำให้สำลักน้ำ จนเป็นปอดอักเสบได้
หากรู้สึกมีไข้หรือไม่สบายควรงดเล่นน้ำทันที เพราะจะทำให้อาการยิ่งรุนแรงมากขึ้น
3.โรคตาแดง
พบบ่อย เมื่อเราเล่นน้ำแล้วน้ำที่ไม่สะอาดที่มีเชื้อโรคปะปน เช่น น้ำในคลอง
น้ำบาดาล
หากน้ำกระเด็นเข้าตาและมือเราที่ไม่สะอาดอาจไปขยี้ตาก็จะทำให้ติดเชื้ออักเสบบวมแดงขึ้นมาได้
4.โรคผิวหนัง
ได้แก่ กลาก เกลื้อน ผดร้อน มักจะเกิดขึ้นหน้าร้อน เพราะไม่รักษาความสะอาดของผิวหนัง
และติดเชื้อแบคทีเรียแทรกซ้อน โดยเฉพาะช่วงสงกรานต์
เล่นน้ำที่ไม่สะอาดก็จะเกิดโรคได้ง่ายมาก จึงต้องรักษาความสะอาด
ใส่เสื้อผ้าที่ไม่หนาหรือคับเกินไป อาจมีทั้งตุ่มใส ตุ่มแดง ตุ่มหนอง ผื่นวงแดง
ผื่นจุดสีขาว คันตามจุดอับชื้น สงสัยให้รีบปรึกษาแพทย์ทันที
5.โรคลมแดดหรือ
ฮีตสโตรก อย่าคิดว่าอาจจะไม่ร้ายแรงมาก อาจทำให้ถึงขั้นเสียชีวิตได้เลย
โดยโรคนี้คือเป็นลมจากอากาศร้อน ทำให้ความร้อนในร่างกายสูงกว่า 40 องศาเซลเซียส
เกิดได้กับคนที่ร่างกายแข็งแรง ยิ่งช่วงสงกรานต์อากาศค่อนข้างร้อนจัดทำให้ร่างกายสูญเสียน้ำมากเป็นเวลานาน
ๆ ร่างกายปรับตัวไม่ทัน สูญเสียเหงื่อมาก
ระดับความเข้มข้นของเลือดและเกลือแร่ในร่างกายเข้มข้นเกินไป อาการเบื้องต้นคือ
รู้สึกกระหายน้ำมากๆ เบื่ออาหาร คลื่นไส้ อาเจียน ปวดศีรษะ หน้ามืด วิงเวียนศีรษะ
ความดันโลหิตต่ำ ช็อก หมดสติได้
ฟังข่าวท้ายชั่วโมง
ข่าวแรก –“EA-BAFS”จ่อตั้งใหม่บริษัทชิงตลาดน้ำมันการบินSAF
นายสมโภชน์ อาหุนัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท
พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) หรือ “EA” เปิดเผยว่า EA จับมือกับ บริษัท
บริการเชื้อเพลิงการบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ “BAFS/บาฟส์” ศึกษาแผนร่วมทุนตั้งบริษัทใหม่ประกอบธุรกิจผลิตน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานยั่งยืน
SAF : Sustainable
Aviation Fuel ตั้งเป้าส่งเสริมอุตสาหกรรมการบินภายในปี
2573 ก้าวสู่ลดการปล่อยมลพิษเป็นศูนย์
(Net Zero) ผนึกกำลังกันพัฒนาธุรกิจอย่างยั่งยืนโดยเใช้นวัตกรรมของคนไทยเพิ่มศักยภาพด้านการแข่งขันของประเทศ
โดยจะใช้การลงทุนต่อยอดธุรกิจน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานแบบยั่งยืน ซึ่งเป็นเชื้อเพลิงชีวภาพใช้กับเครื่องบินครั้งนี้ช่วยลดการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจก
สนับสนุนประเทศไทยสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon
Neutral) ตามคำสัญญาที่ให้ไว้กับประชาคมโลก COP26 ว่าด้วยการแก้ปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศโลก
การลงนามความร่วมมือกันระหว่าง EA กับ BAFS ครั้งนี้ จะรวมจุดแข็งของสององค์กรในไทยเดินหน้าควบรวมองค์ความรู้
ประสบการณ์ เทคโนโลยี สร้างศักยภาพด้านการแข่งขัน
3 ธุรกิจหลัก ได้แก่ ธุรกิจผลิตน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานแบบยั่งยืน
ธุรกิจจัดเก็บและบริหารจัดการน้ำมัน
SAF และธุรกิจอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติมในอนาคต ทั้งในไทยเองและอาเซียน
ม.ล.ณัฐสิทธิ์
ดิศกุล กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท เชื้อเพลิงการบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน)
(บาฟส์) กล่าวว่า
บาฟส์ในฐานะผู้ให้บริการน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานแบบครบวงจรตามมาตรฐานสากล
ให้ความสำคัญกับการทำธุรกิจควบคู่แผนพัฒนาสังคมและสิ่งแวดล้อมประกาศความร่วมมือครั้งนี้
โดยนำองค์ความรู้และประสบการณ์กว่า 40 ปีด้านการบริหารจัดการและให้บริการเติมน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยาน
บูรณาการความเชี่ยวชาญกับ EA ผู้นำธุรกิจพลังงานสะอาด เพื่อผลักดัน SAFเป็นกลไกสำคัญเปลี่ยนผ่านไปสู่การใช้พลังงานยั่งยืนในอุตสาหกรรมการบินในอนาคตอันใกล้นี้
แนวทางความร่วมมือกันเริ่มด้วยการศึกษาโอกาสสร้างสถานีบริการผสมน้ำมันอากาศยานยั่งยืน
(SAF Blending
Facility) แบบ Open-Access
เพื่อรองรับน้ำมันอากาศยานที่ผลิตจากวัตถุดิบทางชีวภาพและวัตถุดิบอื่น
ๆ โดยคำนึงถึงความเหมาะสมทางยุทธศาสตร์
ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ความสะดวกของทุกบริษัทน้ำมันจะเข้าถึงได้ รุกส่งเสริมให้ตลาดการค้าน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานแบบยั่งยืนเป็นไปอย่างเสรี
สนับสนุนผู้ผลิตน้ำมันอากาศยานทุกราย พร้อมขับเคลื่อนให้ไทยเป็นประเทศศูนย์กลางการผลิตน้ำมันอากาศแบบยั่งยืนของภูมิภาค
โดยบาฟส์พร้อมนำประสบการณ์ตรวจสอบคุณภาพน้ำมันอากาศยาน ทำให้สายการบินจากทั่วโลกมั่นใจได้ถึงคุณภาพบริการด้วยน้ำมันอากาศยานมีคุณภาพระดับมาตรฐานสากล
ผนวกกับบริษัทมีบุคลากรผ่านการรับรองจากองค์กร ISCC จึงพร้อมทำหน้าที่การตรวจสอบและรับรองคุณภาพ SAF ให้ได้ตรงตามมาตรฐานสากล
ทั้งการตรวจสอบวัตถุดิบในการผลิตที่สอดคล้องด้านความยั่งยืน ปริมาณคาร์บอนที่ลดลงตามกรอบมาตรฐานด้านความยั่งยืน
การลงนามความร่วมมือระหว่าง EA และ BAFS ถือเป็นก้าวสำคัญที่จะยกระดับอุตสาหกรรมการบินไร้มลพิษ ช่วยลดปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในอุตสาหกรรมการบิน
ส่งเสริมการท่องเที่ยว ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมสร้างรายได้เข้าประเทศ
เเละเป็นเเรงผลักดันขับเคลื่อนสู่ความสำเร็จธุรกิจของประเทศเติบโตบนหลักความยั่งยืน
ตลอดจนทำให้ไทยก้าวสู่เป้าหมายปลอดมลพิษได้รวดเร็วยิ่งขึ้น
สร้างสมดุลทางสภาพแวดล้อม เศรษฐกิจ และสังคม เติบอย่างแข็งแกร่งมีมาตรฐานสากล
ข่าวที่สอง
-IATAแจ้งข่าวดีการบินโลกต้นปี67ผู้โดยสารโต15-26%
วิลลี
วอลช์ ผู้อำนวยการทั่วไป สมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ
(IATA/ไออาต้า : The International Air Transport
Association) เปิดเผยว่า IATA นำเสนอข้อมูลอัพเดทล่าสุดถึงปริมาณผู้โดยสารทั่วโลกในตลาดการเดินทางทางอากาศช่วงเดือนกุมภาพันธ์
2567 มีสัญญาณเติบโตดีเป็นตัวเลขรวมเพิ่มขึ้นถึง
2 หลัก
เปรียบเทียบระหว่างเดือนกุมภาพันธ์ 2567 กับช่วงกุมภาพันธ์ 2566 มีปัจจัยตอกย้ำถึงสถานการณ์การบินโลกขยายตัวอย่างมีนัยสำคัญดังนี้
สถานการณ์
“ปริมาณการขนส่งผู้โดยสารต่อกิโลเมตร (RPK :Revenue
Passenger-kilometer)
ภาพรวมเพิ่มขึ้น 21.5 % ส่วนปริมาณการผลิตนั่ง
(ASK :Avaliable
Seat Kilometer) เพิ่มขึ้น 18.7% สามารถทำอัตราการบรรทุกผู้โดยสารเฉลี่ยรวมทั่วโลก
(load factor)
ได้ถึง 80.6% เพิ่มขึ้น 1.9 % มาจาก 2
ส่วนหลัก ได้แก่
ส่วนที่ 2 ผู้โดยสารระหว่างประเทศเพิ่มขึ้น 26.3% ด้วยกำลังการผลิตจำนวนที่นั่งเที่ยวบินเพิ่มขึ้น
25.5% ปี 2567
เปรียบเทียบกับปี 2566 มีอัตราบรรทุกผู้โดยสารเฉลี่ยระหว่างประเทศเพิ่มขึ้นได้
79.3% เดือนกุมภาพันธ์ปีนี้เพิ่มขึ้น 0.5 % จากช่วงเดียวกันกับปีก่อน
ส่วนที่ 3 ปริมาณความต้องการของผู้โดยสารในเที่ยวบินภายในประเทศของทั่วโลก
เพิ่มขึ้น 15.0% มีกำลังการผลิตที่นั่งเที่ยวบินเพิ่มขึ้น 9.4% เปรียบเทียบปี 2567 กับปี
2566 มีอัตราการบรรทุกผู้โดยสารเฉลี่ยภายในแต่ละประเทศ
82.6% เพิ่มขึ้น 4 %
จากช่วงเดียวกันกับปีก่อน
วิลลี วอลช์ กล่าวว่า อุตสาหกรรมการบินทั่วโลกเริ่มต้นปี
2567 ได้แข็งแกร่งจึงทำให้ผลสรุปเดือนกุมภาพันธ์ปีนี้ ทุกตลาดยกเว้นอเมริกาเหนือรายการจำนวนผู้โดยสารเติบโตเป็นตัวเลขสูงถึง
2 หลัก เป็นเหตุผลที่ดีจะมองโลกธุรกิจการบินมุมบวกเกี่ยวกับแนวโน้มอุตสาหกรรมตลอดปี
2567 เนื่องจากสายการบินต่าง ๆ เร่งลงทุนควบคู่กับแผนการลดปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ จึงทำให้ผู้โดยสารต้องการของผู้โดยสารเลือกใช้บริการเดินทางทางอากาศมากขึ้น
ในทางกลับกันจากความผันผวนทางสภาพภูมิรัฐศาสตร์และเศรษฐกิจ
จึงมีแนวโน้มที่หลายประเทศทั่วโลกอาจจะต้องจัดเก็บภาษีใหม่ที่เกี่ยวข้องกับการบินเพื่อรณรงค์ให้สายการบินต่าง
ๆ ร่วมกระบวนการลดการปล่อยคาร์บอนและร่วมลดมลพิษ ซึ่งอาจทำให้
“ราคาตั๋วโดยสารเครื่องบินสูงขึ้น” แล้วสร้างผลกระทบกับเสถียรภาพเชิงบวกกับผู้โดยสารทั้งเส้นทางบินในประเทศและระหว่างประเทศ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในแถบยุโรปตอนนี้เริ่มมีความกังวลมากขึ้น เพราะเศรษฐกิจยังซบเซาไม่ฟื้นตัวเท่าที่ควรผนวกกับมาตรการด้านภาษีต่าง
ๆ ไม่ได้ส่งผลดีกับการแข่งขันในตลาดการบินมากนักนั่นเอง
ติดตามฟังรายการได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์
เวลา 11.00-12.00 น.ทาง สวท.FM 97.0 MHz.
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น