ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา
เปิดใจ“ธเนศวร์ เพชรสุวรรณ”ที่ปรึกษารมว.ท่องเที่ยว
ลุยควิกวิน IGNITE Tourism
Thailand ปรับใหม่3เรื่อง
รื้อเว็บ-แจ้งเกิดASEAN PASS-แปลงโฉมเมืองน่าเที่ยว
คิงเพาเวอร์ชูอภิมหาสงกรานต์รางน้ำสู่เฟสติวัลโลก
หนุกจริง!!สงกรานต์คิงเพาเวอร์มหานคร11-16เม.ย.67
ช้อปฉ่ำ!คิงเพาเวอร์ดาวน์ทาวน์/ออนไลน์ลด20-25%
“ททท.-ทรู”เปิดสนั่น365วันคนรักกาแฟไป55เมืองรอง
บางจากผนึกซิมิโตโมร่วมผลิตขายน้ำมันการบินSAF
สุขทันทีเที่ยวมหาสงกรานต์บารมี4ประเพณีเมืองเลย
3วิธีรับมืออุณหภูมิพุ่ง40-50องศาต้องเลิกดื่มน้ำเย็น
นายกฯเศรษฐาลั่น6-8เม.ย.มีข่าวดีขยายสนามบินสมุย
มิชลินไกด์บุ๊ครุกขยายร้านอาหารพื้นที่ใหม่ชลบุรีปี’68
วันเสาร์ที่ 6 เมษายน 2567 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทางfacebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen #gurutourza #รวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97 #เพ็ญรุ่งใยสามเสน #เที่ยวกับกู๋ #KingPower #TAT #บางจาก #มหาสงกรานต์2567
ฟัง Live สดจากลิงค์นี้... https://fb.watch/rgxrYrFGC4/?mibextid=Nif5oz
ช่วงที่ 1 สัมภาษณ์ “นายธเนศวร์ เพชรสุวรรณ”
ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา
ถอดรหัสพลังร่วมมือขับเคลื่อนนโยบาย “ IGNITE Tourism
Thailand” 5 กลยุทธ์นำไทยสู่ศูนย์การท่องเที่ยว ใช้แผน Quick
Win 3-6 เดือน
ยกเครื่องพลิกโฉมใหม่ 3 เรื่อง
เรื่องแรก “รื้อเว็บไซต์ท่องเที่ยว” สร้าง VisitThailand ทำคอนเทนท์ให้ตรงใจนักท่องเที่ยวทั่วโลกผู้ใช้ตัวจริง
เรื่องที่ 2 จับมือแอร์ไลน์สแจ้งเกิดโครงการ
ASEAN PASS เชื่อมอาเซียนเป็นจุดหมายเดียวของโลก
เรื่องที่ 3 ลดชื่อ 55
เมืองรองเปลี่ยนเป็น
“เมืองน่าเที่ยว” 55 จังหวัด
นายธเนศวร์
เพชรสุวรรณ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า
ทุกฝ่ายได้ร่วมสนับสนุน “IGNTE TOURISM THAILAND” ซึ่งมีการทำงานเชิงรุกเบื้องหลังจากหน่วยต่าง ๆ
ภาครัฐ เอกชน เข้าร่วมเวิร์คช็อปเริ่มเมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2567 ก่อนจะมีไฮไลต์การแถลงเปิดโครงการเต็มรูปแบบของนางสาวสุดาวรรณ
หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา
ต่อหน้านายกรัฐมนตรีและผู้เข้าร่วมรับฟังกว่า 500 คน เมื่อวันที่ 2 เมษายน 2567 ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล ได้นำเสนอ 5
กลยุทธ์ ประกอบด้วย 1.เพิ่มประสบการณ์ที่ดีในทุกย่างก้าว 2.Must
Do in Thailand 3.เมืองหลักและเมืองรอง
4.HUB of ASEAN 5.World Class Event Hub
ซึ่งเป็น
5 กลยุทธ์ที่สกัดมาจากเวิร์คช้อปนำไปสู่การปฏิบัติได้จริง
เป็นโยบายที่มีรายละเอียดเห็นภาพการดำเนินงานอย่างชัดเจน
เป็นรูปธรรมและแนวทางปฏิบัติชัดเจน
พร้อมกับกำหนดกรอบการขับเคลื่อนให้บรรลุเป้าหมาย Quick Win 3 เดือน และ 6 เดือนข้างหน้า ปี 2567 ไฮไลต์กลยุทธ์ที่จะเน้นอย่างเข้มข้น ได้แก่
กลยุทธ์ที่ 1 “นโยบายความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว” ปฏิรูปบริการด้วยเทคโนโลยี นำร่องเรื่องแรก ระบบการแจ้งเหตุฉุกเฉินให้มารวมศูนย์กลางไว้ที่ 1155 สายด่วนตำรวจท่องเที่ยว เบอร์เดียวเท่านั้น ซึ่งสามารถเชื่อมต่อกับศูนย์อื่น ๆ ได้ทั้งหมด โดยออกแบบเป็น 5 ภาษา ซึ่งการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จะต้องไปประชาสัมพันธ์กับนักท่องเที่ยวทั่วโลก
กลยุทธ์ที่
2 Up Level ประสบการณ์ที่เหนือกว่า
สร้างแรงใจนักท่องเที่ยวทั่วโลกเมื่อเลือกเมืองไทยเป็นจุดหมายปลายทางแล้ว
ประเทศไทยจะพลิกโฉมช่องทางการเข้าถึงข้อมูล วิธีการเดินทาง ไปยังแหล่งท่องเที่ยว
ให้เกิดความประทับใจตั้งแต่ก่อนเดินทาง ระหว่างเดินทาง
และหลังเสร็จสิ้นการเดินทางกลับประเทศไปแล้ว เรื่องเร่งด่วนที่จะทำหลังจากนี้ไป
เบื้องต้น 2 เรื่อง ได้แก่
เรื่องที่ 1 “รื้อระบบเว็บไซต์การท่องเที่ยว” ใหม่ทั้งหมด
โดยปรับชื่อเว็บไซต์ให้สอดคล้องกับพฤติกรรมการใช้งานของนักท่องเที่ยวทั่วโลก
อาจใช้ชื่อตรง ๆ คือ VisitThailand แทนเว็บไซต์ของ
ททท.ปัจจุบัน www.Tourismthailand.org ปัจจุบันมีรายละเอียดปะปนกันอยู่หลายอย่างทั้ง
คอร์ปอเรตองค์กร ซึ่งไม่ใช่ข้อมูลที่นักท่องเที่ยวอยากรู้
รวมทั้งกว่าจะเข้าถึงข้อมูลแหล่งท่องเที่ยวก็ไม่สะดวก จึงเป็นเว็บไซต์ที่ไม่ friendly กับนักท่องเที่ยวต่างชาติมากนัก
เว็บไซต์การท่องเที่ยวประเทศไทยชุดใหม่ที่จะยกเครื่องทำขึ้นมาต้องพุ่งเป้านำเสนอคอนเทนท์
3 เรื่องสำคัญ
คือ 1.แพกเกจการท่องเที่ยวเมืองไทย
2.สินค้าทางการท่องเที่ยว
3.ลิงค์ไปสู่สินค้าเชื่อมโยงกับการท่องเที่ยวเครือข่ายอื่น
ๆ ได้อย่างสะดวก คล่องตัว
เรื่องที่ 2 ร่วมกับสายการบินนานาชาติที่จะนำการสื่อสารการตลาดท่องเที่ยวเมืองไทย
ขึ้นไปไว้บนเครื่องบินที่เข้าออกเมืองไทย ได้มากกว่าปัจจุบัน
แล้วในการนำเสนอนโยบายของ
รมว.สุดาวรรณ บนเวที IGNITE TOURISM THAILAND ใน 5 กลยุทธ์
เน้น 2 กลยุทธ์ที่เป็นโหมดหลัก
คือ โหมดที่ 1 แนวทางการแก้ปัญหา ตั้งแต่ “ก่อน-ระหว่าง-หลัง”
การเดินทางตามเส้นทางของนักท่องเที่ยวตลอดทริป หรือ Customer Jouney ซึ่งมีบริการต่าง ๆ
เป็นอุปสรรคกับนักท่องเที่ยวรวมอยู่ด้วย เช่น
เคาน์เตอร์ตรวจหนังสือเดินทางไม่เพียงพอทำให้ต้องรอคิวนาน
หรือแท็กซี่สนามบินสื่อสารไม่ตรงทำให้เกิดปัญหาการเอาเปรียบหลอกลวงนักท่องเที่ยว
และอื่น ๆ โหมดที่ 2 Up Level การสร้างประสบการณ์ที่เหนือกว่า ด้วยการพลิกโฉมบริการเดินทางใหม่ทั้งหมด
ต่อเนื่องกับกลยุทธ์
HUB of ASEAN จะใช้ประโยชน์จากสมาชิกอาเซียนแต่ละประเทศประกาศทำฟรีวีซ่าทั้งไทย
อินโดนีเซีย สิงคโปร์ มาเลเซีย และอื่น ๆ
ซึ่งจะทำให้นักท่องเที่ยวทั่วโลกสามารถเดินทางเป็นวงกลมในอาเซียนได้
โดยจะออกแพกเกจ“ASEAN PASS”
เสนอโดยสมาคมสายการบินแห่งประเทศไทย
เปิดให้นักท่องเที่ยวใช้ตั๋วโดยสารเครื่องบินเดินทางได้ไม่อั้นเช่นเดียวกับ SWISS
PASS ของยุโรป หรือ JR
PASS ของญี่ปุ่น
โครงการนี้อยู่ในแผน 6 เดือน
ที่จะทำให้เกิดนโยบายใหม่ ๆ ขึ้นในเมืองไทยตามยุทธศาสตร์ ASEN Single
Destination จากนี้ไปจะต้องมีทีมไปหารือกับทางธนาคารแห่งประเทศไทย
เปิดช่องทางการใช้จ่ายเงินผ่านแอพลิเคชั่นเป็นสกุลเงินแลกเปลี่ยนกันได้
หากโครงการนี้เริ่มขับเคลื่อนจะเป็นประโยชน์อย่างมากกับการเพิ่มการเดินทางให้เกิดความรื่นไหลระหว่างอาเซียนเติบโตเพิ่มขึ้น
เข้าถึงแหล่งท่องเที่ยวได้อย่างสะดวก
โดยเฉพาะการขายแพกเกจอาเซียนพาสส์จะมีความเป็นไปได้สูงด้วย
เป็นการปูพรมเชื่อมโยงไปถึงปี 2568 การท่องเที่ยวจะต้องปังมากสุด
เพราะเส้นทางการหลอมรวมคอนเทนท์กว่าจะมาเป็น IGNITE TOURISM
THAILAND นั้นต้องขอบคุณทางสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
(สภาพัฒน์) และหน่วยงานสำคัญ ๆ เพื่อผลักดันให้นโยบายนำไปสู่การปฏิบัติได้จริง
เรื่องที่ 3 การยกระดับเมืองรองสู่เมืองหลักโดยจะยกเลิกจากเมืองรองเป็น
“เมืองน่าเที่ยว” แล้วใช้เมืองยอดนิยมเชื่อมเส้นทางสู่พื้นที่ใกล้เคียง เช่น
เส้นทาง ล้านนา คัลเจอร์ เชียงใหม่-ลำพูน-ลำปาง ส่วนกลยุทธ์สุดท้าย เวิลด์ คลาส อีเวนต์ ฮับ
ตามที่นายกรัฐมนตรีประกาศมาตั้งแต่แรก
ทางกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาจะนำมาขยายผลดึงอีเวนต์ทางด้านกีฬา
ไมซ์ดึงการประชุมและจัดเอ็กซิบิชั่นขนาดใหญ่ก็เป็นเวิลด์อีเวนต์ได้เช่นกัน โดยจะหารือกับสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ
(องค์การมหาชน) “TCEB” อีกครั้ง
สำหรับเครื่องมือหลักที่จะใส่เข้าไปเพื่อให้นโยบาย
IGNITE TOURISM THAILAND ประสบความสำเร็จเป็นรูปธรรมในปี 2568 คือกลยุทธ์ Must Do in Thailand เทรนด์ใหม่ โดยจะโชว์พลัง “ซอฟท์ พาวเวอร์”
สินค้าท่องเที่ยวเข้ามาขับเคลื่อนเต็มรูปแบบ นำโดย อาหารไทย มวยไทย วัฒนธรรมไทย
แฟชั่นผ้าไทย และอื่น ๆ
โดยให้เชื่อมกับการท่องเที่ยวเมืองหลักสู่เมืองใกล้เคียงให้ได้มากที่สุด
ปี 2568
นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา
จะนำพาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวประเทศไทยก้าวสู่ตลาดโลกแบบปังมากที่สุด
ฟังข่าวต้นชั่วโมง
ข่าวที่
1 คิงเพาเวอร์ดันอภิมหาสงกรานต์รางน้ำสู่เฟสติวัลโลก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า
กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ จับมือกับพันธมิตรโดยได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐทั้งกระทรวงมหาดไทย
กระทรวงวัฒนธรรม กระทรวงการคลัง กรุงเทพมหานคร การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) รวมทั้งเอกชนกลุ่มธุรกิจโฮลเซล
ธนาคารไทยพาณิชย์ กับชุมชนย่านรางน้ำ พร้อมใจกันจัดยิ่งใหญ่ “อภิมหาสงกรานต์รางน้ำ
ม่วน-หนุก-สุข-คัก” ต่อเนื่อง
6 วัน ระหว่างวันที่ 11-16 เมษายน
2567 ที่บริเวณ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ
ขานรับนโยบายรัฐบาลกระตุ้นนักท่องเที่ยวทั่วโลกนำประเทศไทยก้าวสู่เป้าหมายหลัก 3
นโยบาย ได้แก่
นโยบาย
ที่ 1 ผลักดันย่านรางน้ำ กรุงเทพมหานคร
เป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวโลกในอนาคต นโยบายที่ 2
ยกระดับซอฟท์ พาวเวอร์ ของรัฐบาล
ส่งเสริมงานประเพณีปีใหม่ไทยที่ยูเนสโกขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้
และ นโยบายที่ 3
ผลักดันไทยเป็นศูนย์กลางจัดเทศกาลระดับนานาชาติหรือ World Class Event
โดยใช้ศักยภาพงานอภิมหาสงกรานต์ ปี 2567 สร้างปรากฎการณ์ใหญ่เนรมิต
“ย่านรางน้ำ” ก้าวสู่จุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวทั่วโลก ร่วมสืบสานประเพณีไทยโดยจะจัดขบวนแห่สงกรานต์
4 ภาค ผนวกเข้ากับอภิมหาความวาไรตี้กองทัพศิลปินแถวหน้าของเมืองไทยสลับกันขึ้นเวทีแสดงตลอด
6 วัน เพื่อเชิญชวนนักท่องเที่ยวเดินทางมาร่วมสาดสนุกในเทศกาลดนตรีกลางสายน้ำครั้งแรกใจกลางเมืองสไตล์
“RANGNAM WATER STREET BY SUPERFLUID” สร้างสีสันรับซัมเมอร์นี้ ตลอดบริเวณคิง
เพาเวอร์ รางน้ำ
นายอนุทิน ชาญวีรกุล
รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า
เป็นประธานให้กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ร่วมมือกับทุกภาคส่วนจัด
“อภิมหาสงกรานต์รางน้ำ” ปี 2567 ถือเป็นนิมิตหมายอันดีสอดคล้องกับนโยบายรัฐบาลซอฟท์
พาวเวอร์ ภายใต้การนำของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
และนางสาวแพทองธาร ชินวัตร ประธานกรรมการพัฒนาซอฟท์พาวเวอร์แห่งชาติ
งานนี้จะช่วยส่งเสริมให้ไทยเป็นประเทศศูนย์กลางจัดงานเทศกาลหรือเฟสติวัลเสริมคุณค่าและอิทธิพลทางวัฒนธรรมแล้วยังสามารถขับเคลื่อนเศรษฐกิจเติบโตทุกมิติได้ด้วย
จากการรวมพลังกันปลุกกระแสการเดินทางท่องเที่ยวจากทั้งตลาดในประเทศและทั่วโลกหลั่งไหลเข้าสู่ไทยเพิ่มรายได้เข้าสู่เศรษฐกิจประเทศ
นายอัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร
กลุ่มบริษัท คิง พาวเวอร์ เปิดเผยว่า คิง เพาเวอร์ ก้าวสู่ปีที่ 35 พร้อมพลิกโฉมจัดงาน
“อภิมหาสงกรานต์รางน้ำ” ภายใต้แนวคิด “ม่วน หนุก สุข คัก” ยกระดับชุมชนแห่งนี้เป็น
“Festivalsation” สามารถจัดกิจกรรมต่าง
ๆ ต่อเนื่องตลอดทั้งปี
ทำให้กลายเป็นถนนสายหลักพัฒนาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์
ขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยทุกมิติ
เพิ่มโอกาสให้คนกับธุรกิจรอบพื้นที่ในชุมชนเติบโตอย่างมั่นคงยั่งยืน
อภิมหาสงกรานต์ รางน้ำ ปี 2567 กลุ่มบริษัท คิง
เพาเวอร์ จัดเต็มตลอด 6 วัน
พร้อมส่งมอบความสุขปีใหม่ไทยโดยได้คัดสรรมาให้นักท่องเที่ยวครบทุกอรรถรสทั้ง ชม
ชิม ช้อป แชร์ประสบการณ์ดี ๆ ด้วย “4 อภิ” คือ
1.ม่วนกับอภิมหาขบวนสงกรานต์
สัมผัสบรรยากาศจำลองสงกรานต์ทั่วไทยมาไว้ที่เดียวครบ 4 ภาค
ต้อนรับทุกคนให้ได้ฉ่ำกับศิลปินดาราชื่อดังกว่า 40 ชีวิต
ตลอด 6 วัน นำโดย ญาญ่า-อุรัสยา สเปอร์บันด์ พีพี-กฤษฏ์
อำนวยเดชกร โบว์-เมลดา สุศรี อิงฟ้า-วราหะ เจฟ-วรกมล ซาเตอร์ เจมีไนน์-นรวิชญ์ ฐิติเจริญรักษ์
โฟร์ท-ณัฐวรรธน์ จิโรชน์ธิกุล ขบวนนางงามมีสาวงามอย่าง อแมนด้า ออบดัม มารีญา
พูลเลิศลาภ น้ำตาล-ชลิตา ส่วนเสน่ห์ แอนชิลี สก๊อต-เคมมิส แนท-อนิพรณ์ เฉลิมบูรณะวงศ์ โยชิ-รินรดา ธุระพันธ์
และเฟิร์ส-ภัทราพร หวัง
2.หนุกกับอภิมหาความบันเทิง
ชมอย่างเพลิดเพลินการแสดงมินิคอนเสิร์ตจากศิลปินทั่วฟ้าเมืองไทย มีทั้ง นนท์-ธนนท์
จำเริญ โอ๊ต ปราโมทย์ ปาทาน วง PROXIE จ๊ะ-นงผณี มหาดไทย คณะลิเกเทพบุตรสุดที่รัก คลื่นลูกใหม่สุนทราภรณ์
และ The Golden Song
3.สุขกับอภิมหาความอร่อย
แนะนำของอร่อยทั่วย่านรางน้ำและร้านอาหารชื่อดังของไทยมาให้ชิมทุกวันกว่า 40 ร้าน เช่น
ป้าแป๊ดลูกชิ้นยืนกินบุรีรัมย์ ติดลม หมูทอดปลาร้า ยำแหนมข้าวกรอบ เจ๊อ้อม มาดามไส้อั่ว
Chaffeine ข้าวขาหมูตรอกซุง เฮ้งเพียวเฉาก๊วยบางรัก ลอดช่องวัดเจษฯ
ซอย 6 มหาชัย ผัดไทยยายศรีปลาจับหลัก เสน่ห์ข้าวซอย เสน่ห์ข้าวปุกงาโมจิน้ำผึ้ง ป้าบุ๋ม
บ้าบิ่น มะพร้าวน้ำหอม น้ำวุ้นใบเตย ซอยมังกร โก๋อินเตอร์ เมี่ยงกลีบบัว เจ๊เบียร์ทะเลทอด
เกี๊ยวซ่าทอดโง่โง่ ข้าวมันไก่เจ๊อิม ไททันลูกชิ้นหมูแช่กะทิ ขนมไทยอุ้ม &นภา โดนัท พี่ปราณี จีบโรจน์โคตรหร่อย และอีกหลายร้านคุณภาพมากมาย
4.คักกับอภิมหาโปรฯสุดคุ้ม
สมาชิกคิง เพาเวอร์ เมื่อมีไฟลต์บินต่างประเทศช้อปสินค้าดิวตี้ฟรีลดสูงสุด 25% หากไม่มีไฟลต์บินก็ช้อปสินค้าป้ายฟ้าได้แถมนำของกลับบ้านได้ทันทีด้วย
ถ้ายังไม่เป็นสมาชิกก็สมัครง่าย ๆ บัตร NAVY ฟรี พร้อมคูปองส่วนลด
1,000 บาท ตั้งแต่วันนี้-16 เมษายน 2567 ที่ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ ศรีวารี พัทยา
ภูเก็ต
พิเศษ!! สมัครสมาชิกช่วง 11-16 เมษายน
2567 รับฟรีไปเลยกิฟท์ โวเชอร์ 200 บาท กับกางเกงช้างหรือผ้าขาวม้า 1 ชิ้น
รีบสมัครเพราะสินค้ามีจำกัด แล้ว 30 คนพิเศษ ยังได้สิทธิ์ที่ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ ร่วมกิจกรรมถ่ายรูป
รับดริ้งค์สุดพิเศษจากศิลปินให้คนละ 1 สิทธิ์วัน
กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์
ยืนหนึ่งแผนขับเคลื่อนธุรกิจย่านรางน้ำเป็นแลนด์มาร์กแห่งใหม่ในปฏิทินท่องเที่ยวซอฟท์
พาเวอร์ “สงกรานต์” เตรียมทำให้รางน้ำกลายเป็นถนนสายน้ำเย็นชุ่มฉ่ำ13 – 15 เมษายน จัดชุดใหญ่มหกรรมเทศกาลดนตรี
“RANGNAM WATER
STREET BY SUPERFLUID” ภายใต้แนวคิด “สีสันที่ไม่มีวันสิ้นสุด” ส่งมอบประสบการณ์ความสุขปีใหม่ไทยให้นักท่องเที่ยวคนไทยและทั่วโลกมา
“ม่วน หนุก สุข คัก” กับไลน์อัพศิลปิน T-POP มีดีเจชื่อดังมาช่วยสาดความมันส์ต้อนรับซัมเมอร์อย่างสนุกสนาน
ข่าวที่ 2
หนุกจริง!!สงกรานต์คิงเพาเวอร์มหานคร11-16เม.ย.67
คิง เพาเวอร์ มหานคร ชวนมาสาดความสนุก กับ “สงกรานต์ มหานคร” สาดพร้อมกัน ตั้งแต่วันที่ 11-16 เม.ย. นี้
ตั้งแต่ 12.00-
22.00 น.!พบกันที่ ลานมหานคร สแควร์
คิง เพาเวอร์ มหานคร ลง BTS
ช่องนนทรี ทางออก 3
เติมสีสันสาดความสุข สไลด์สนุกสุขสงกรานต์มหานคร สำหรับคนเมือง Urbanista มาเที่ยวสงกรานต์แบบเก๋ไก๋กว่าที่เคยร่วมสัมผัสประสบการณ์ความสนุก
เต็มไปด้วยสีสัน และ กิจกรรมมากมาย
เข้างานฟรี! พร้อมกิจกรรมแจกฟรี! ปืนฉีดน้ำมหานคร ภายในงานมาสนุกกับสไลด์เดอร์น้ำสูง
4
เมตร
ใจกลางมหานคร
สาดกระจายความสดชื่นทั่วร่าง พร้อมโซนเล่นน้ำ แบบฉ่ำ ๆ ตลอดทั้งงาน
ชมดนตรีจากศิลปินและดีเจชื่อดังมากมาย อาทิ New Country, The Paradise
Bangkok, Palm The Voice, DJ Soda, DJ
Maft Sai, DJ Alpha
สัมผัสประสบการณ์แปลกใหม่ เล่นน้ำสงกรานต์กับควายเผือกแห่งสยาม
พร้อมพี่โก้และผองเพื่อน
ในวันที่ 14 เม.ย. เวลา 18.00
น. เท่านั้น
อิ่มอร่อยกับร้านดังมากมาย ทั้งอาหารไทยและอาหารนานาชาติภายในงาน
ทั้งที่ลานกิจกรรม มหานครสแควร์ และมหานครคิวบ์
ข่าวที่
3 ช้อปฉ่ำ!คิงเพาเวอร์ดาวน์ทาวน์/ออนไลน์ลด20-25%
ซัมเมอร์นี้ ช้อปดิวตี้ ฟรี “คิง
เพาเวอร์” ฉ่ำทุกที่ ! จะเป็นร้านดาวน์ทาวน์ในเมือง
หรือช้อปทางออนไลน์ รับส่วนลดทันที! สูงสุด 20%
1.ช้อปฉ่ำที่ดาวน์ทาวน์ สมาชิก คิง เพาเวอร์ ลดทันทีสูงสุด 20%
หรือ ลดสูงสุด 25% เมื่อช้อปครบ 15,000 บาทขึ้นไป/ใบเสร็จ วันนี้
- 16 เมษายน
2567 ที่ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ ศรีวารี พัทยา ภูเก็ต และช่องทาง Call to
Shop และ Chat to Shop
2.ช้อปฉ่ำที่ออนไลน์ ใส่โค้ดรับส่วนลดสูงสุด 20% 1 - 23
เมษายน 2567 ที่ www.kingpower.com และ Application King Power
2.1 ลดสูงสุด 20% ใส่โค้ด PUAPR20
เมื่อช้อปครบ 7,000 บาทขึ้นไป/ใบเสร็จ
2.2 ลดสูงสุด 15% ใส่โค้ด PUAPR15
เมื่อช้อปครบ 4,000 บาทขึ้นไป/ใบเสร็จ
ข่าวที่ 4 “ททท.-ทรู”เปิดสนั่น365วันคนรักกาแฟไป55เมืองรอง
นางสาวสมฤดี จิตรจง
รองผู้ว่าการด้านตลาดในประเทศ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ททท.ร่วมกับ
บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดตัวโครงการ
“365 วัน
แห่งการเดินทางของคนรักกาแฟที่เที่ยวเมืองรอง : 365 Days
of Coffee at Muang Rong” ภายใต้แนวคิด “เปิดประสบการณ์ใหม่...เที่ยวเมืองรองมิรู้ลืม” โดยจับมือกันพันธมิตรส่งเสริมการตลาดท่องเที่ยวเมืองรอง คัดสรรคาเฟ่และกาแฟที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นร่วมมอบส่วนลดและของรางวัลสุดพิเศษให้ลูกค้าทรูและดีแทคที่เดินทางท่องเที่ยวแล้วแวะใช้บริการตามพื้นที่ทั่วประเทศ
ปลุกกระแส 365 วันมหัศจรรย์เมืองไทย
เที่ยวได้ทุกวัน แล้วทำให้เศรษฐกิจแต่ละพื้นที่คึกคักเพิ่มมากขึ้นด้วย
ทาง
ททท.เล็งเห็นถึงความสำเร็จการทำกิจกรรม 356 day coffee ของภูมิภาคภาคเหนือ
ได้นำร่องชวนนักท่องเที่ยวไปดื่มด่ำกับกาแฟซิกเนเจอร์ภาคเหนือ 17 จังหวัด สามารถขยายฐานตลาดและเพิ่มการใช้จ่ายจากนักท่องเที่ยวคุณภาพสายคาเฟ่หรือ
Café’ Hopper ผ่านเทรนด์ดื่มชา กาแฟ โกโก้ สร้างแม่เหล็กดึงดูดนักเดินทางกลุ่มต่าง
ๆ มุ่งหน้าสู่คาเฟ่หรือร้านกาแฟเติบโตเพิ่มขึ้น แล้วปัจจุบันพื้นที่ต่าง ๆ ก็มีคาเฟ่
ร้านกาแฟ จำนวนมากเสมือนหมุดหมายของนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้เกิดความต้องการอยากเดินทางชิมกาแฟ
ถ่ายภาพสวย ๆ ในร้านกาแฟต่างๆ ทั่วเมืองไทย
นางสาวสมฤดีกล่าวว่า
ททท.จึงรีบต่อยอดความสำเร็จทำโครงการ 365 วันแห่งการเดินทางของคนรักกาแฟที่เที่ยวเมืองรองขึ้นมา
กระตุ้นการท่องเที่ยวเชิงประสบการณ์โดยใช้อาหารเป็นเครื่องมือสร้างแรงบันดาลใจให้คนออกเดินทางผ่านมาเช็คอินตามร้านกาแฟที่มี
ซิกเนเจอร์ เมนู รังสรรค์ความแปลกใหม่จากวัตถุดิบที่มีอยู่ในท้องถิ่น สร้างความแตกต่างอย่างมีเอกลักษณ์
พร้อม ๆ กับดึงความสนใจนักท่องเที่ยวได้เรียนรู้เรื่องราวของชุมชนแต่ละจังหวัดเมืองรอง
ได้ชิมเมนูกาแฟที่มีสตอรี่ส่งต่อประสบการณ์ความประทับใจนี้ให้ผู้อื่นได้ด้วย
การเผยแพร่ลงสื่อโซเชียลของตนเองกลายเป็นห่วงโซ่การขยายฐานการตลาดที่มีพลังอย่างยิ่ง
สำหรับการจัดกิจกรรม“365 วัน
แห่งการเดินทางของคนรักกาแฟที่เที่ยวเมืองรอง” ททท.ภูมิภาคภาคเหนือ และ
ททท.ในประเทศ เน้นจับมือกับเครือข่ายพันธมิตรชูกลยุทธ์ส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงอาหาร
หรือ Gastronomy Tourism เพื่อสร้างแรงบันดาลใจนักท่องเที่ยวตัดสินใจเลือกเดินทางสู่เมืองรองเติบโตเพิ่มขึ้นตามนโยบายรัฐบาล
ประการสำคัญยังจะเพิ่มการใช้จ่ายเงินตลอดการเดินทางท่องเที่ยวกระจายรายได้สู่ชุมชน
ส่งผลให้บรรลุเป้าหมายการท่องเที่ยวได้ครบสองมิติทั้งเชิงปริมาณและคุณภาพ
นางสาวสรรค์พิจิตร เอี่ยมชีรางกูร Head of CRM/Reward บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)
กล่าวว่า ทรูมีเครือข่ายทั่วไทย ปี 2567 มีแผนส่งเสริมการตลาดด้วยแนวคิด
“เมืองรอง สัญญาณแรง” โดยอยากเชิญชวนลูกค้าทรูกับดีแทคได้
“เที่ยว กิน เล่น พัก ช้อป” ในเมืองรองทั่วไทยทั้ง
55 จังหวัด ร่วมกับ ททท. ส่งเสริมการขายมอบสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ ให้ลูกค้าเดินทางท่องเที่ยวเมืองรอง
เมื่อซื้อสินค้าและบริการที่ร้านกาแฟตามเมืองรองต่าง ๆ มีประสบการณ์มุมมองใหม่ระหว่างการเดินทางจะได้รับความสุข
ความประทับใจผ่านถ้วยกาแฟกลายเป็น “ถ้วยกาแฟ” ถ้วยโปรดที่จะทำให้เกิดภาพการจดจำตลอดไป
ลูกค้าทรูและดีแทคทั่วประเทศสามารถเข้าร่วมกิจกรรมทั้งหมดนี้ได้ง่าย
ๆ เพียงซื้อสินค้าและบริการกับร้านกาแฟที่ร่วมรายการครบ 300 บาท
มีสิทธิ์รับส่วนลดพิเศษจากทางร้าน รวมทั้งลงทะเบียน รับของที่ระลึกเป็นแก้วกาแฟพิเศษ 1,000 คนแรก จาก ททท. แก้วที่มาในคอนเซ็ปต์ดีไซน์ “Muang Rong The Series on Coffee Cup” มากถึง 10 แบบ จาก 10 เมืองรอง ได้แก่ แพร่ ลำปาง นครสวรรค์ อุตรดิตถ์
นครพนม ศรีสะเกษ จันทบุรี ราชบุรี นครศรีธรรมราช และตรัง
ข่าวที่
5 บางจากผนึกซิมิโตโมร่วมผลิตขายน้ำมันการบินSAF
นายธรรมรัตน์
ประยูรสุข รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มธุรกิจโรงกลั่นและการค้าน้ำมัน บริษัท
บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า นำทีมบางจากฯ
ร่วมลงนามกับบริษัท ซูมิโตโม คอร์ปอเรชั่น (กลุ่มธุรกิจด้านเคมี)
บริษัทการค้าและการลงทุนชั้นนำระดับโลก จากญี่ปุ่น ผนึกพลังเดินหน้าสู่การเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในเชิงกลยุทธ์ของทั้งสองบริษัท
เพื่อตอกย้ำความมุ่งมั่นร่วมกันในการพัฒนาอย่างยั่งยืนควบคู่กับการดูแลสิ่งแวดล้อม
ตามกรอบข้อตกลงความร่วมมือการจัดหาน้ำมันปรุงอาหารใช้แล้ว
และการจำหน่ายน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานยั่งยืน หรือ SAF
: Sustainable Aviation Fuel
การลงนามข้อตกลงฉบับนี้ เป็นอีกก้าสำคัญของ
บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) และ ซูมิโตโม คอร์ปอเรชั่น จะได้พัฒนาแผนงานลดการปล่อยคาร์บอน
เป็นพันธมิตรกันในเชิงกลยุทธ์ที่จะแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นร่วมกันดำเนินการให้บรรลุเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์
(Net Zero GHG Emissions) และขับเคลื่อนการพัฒนาพลังงานสะอาดแห่งอนาคต
ทั้งบางจากฯ และซูมิโตโมมีเป้าหมายจะสร้างมูลค่าร่วมกันก้าวสู่เป้าหมายความท้าทายด้านความยั่งยืนขณะนี้ทั่วโลกกำลังตื่นตัวทำกิจกรรมและโครงการต่าง
ๆ ร่วมกันอย่างเข้มแข็ง
สำหรับการร่วมลงนามครั้งนี้
มี นายธรรมรัตน์ เป็นตัวแทน บมจ.บางจาก กับ Mr. Yutaka Takamura, General Manager of Green Chemical, Strategic
Business Unit (SBU), Chemical Solution Group ซูมิโตโม
คอร์ปอเรชั่น โดยมี Mr. Takashi Tanaka, General Manager of the Asia &
Oceania Chemical Solutions Business Unit at Sumitomo Corporation Asia and
Oceania Pte. Ltd. พร้อมด้วยนางองค์อร เปลี่ยนรังษี
กรรมการผู้จัดการ บริษัท บีซีพีที จำกัด เป็นพยาน เป็นจุดเริ่มต้นความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ระหว่างสองบริษัทเพื่อสร้างห่วงโซ่อุปทานการนำน้ำมันปรุงอาหารใช้แล้ว
นำเข้าสู่การผลิตและจำหน่ายน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานยั่งยืน (UCO-to-SAF) ที่แข็งแกร่งและมีประสิทธิภาพเพื่อดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมโลกร่วมกัน
ช่วงที่ 2 เมษายน
เป็นเดือนฉลองปีใหม่ไทย ไปสุขกันทันทีเที่ยว “สงกรานต์บารมี 4 ประเพณี” เมืองเลย ครั้งหนึ่งในชีวิตต้องไปชม “แห่ต้นไม้ใหญ่ บ้านแสงภา”
อ.นาแห้ว วิถีชุมชนเกือบ 500 ปี “สรงน้ำพระพุทธนาวาบรรพต”
อุทยานแห่งชาติภูเรือ อ.ภูเรือ “แห่ดอกไม้-แห่ข้าวพันก้อน” บูชาพระธาตุศรีสองรักษ์
อ.ด่านซ้าย แล้วฟังให้ดี “3วิธีรับมืออุณหภูมิพุ่ง 40-50องศา” เกาะติดข่าวฮ็อต ข่าวแรก “นายกฯ เศรษฐาคุยแล้วแผนขยายสนามบินสมุย”
ข่าวที่สอง “มิชลินไกด์” บุกขยายร้านในชลบุรี เมืองท่องเที่ยวโลก
ท่องเที่ยว–สุขทันทีเที่ยวมหาสงกรานต์บารมี4ประเพณีเมืองเลย
สุขทันทีที่เที่ยว
“สงกรานต์-ปีใหม่ไทย” ครั้งหนึ่งในชีวิตต้องได้สัมผัสประสบการณ์สงกรานต์ ปี 2567 การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
(ททท.) สำนักงานจังหวัดเลย ต้อนรับนักท่องเที่ยวด้วยการรวมประเพณีปีใหม่ไทย
ระหว่างวันที่ 14-16 เมษายน
2567 ชวนเดินทางต่อเนื่องกันงาน"เสริมศรัทธา
บารมี 4
ประเพณี มหาสงกรานต์"
พิกัดแรก
งานประเพณีแห่ต้นดอกไม้ใหญ่ บ้านแสงภา วัดศรีโพธิ์ชัย อำเภอนาแห้ว วันที่ 14
เมษายน ประเพณีแห่ต้นดอกไม้
หนึ่งเดียวในประเทศไทย
จุดเริ่มจากพุทธบูชา แรงศรัทธา
สู่ประเพณีอันยิ่งใหญ่กว่าเกือบ 500 ปี
งานประเพณีแห่ต้นดอกไม้บ้านแสงภา จัดขึ้นเพื่อถวายเป็นพุทธบูชา ต่อพระพุทธ พระธรรม
พระสงฆ์ เป็นสิริมงคลชีวิต วันแรกจะจัดขึ้น 14 เมษายนของทุกปี กับวันพระอีก 2
ครั้ง คือวันที่ 16
และ 23
เมษายน 2567
สันนิษฐานกันว่างานแห่ต้นดอกไม้เกิดขึ้นมาพร้อมการก่อสร้างวัดศรีโพธิ์ชัยราว
482 ปี
จากจารึกบนคัมภีร์ใบลานในหอพระไตรปิฎกวัด
กล่าวถึงอานิสงฆ์ของการถวายต้นดอกไม้ในวันขึ้นปีใหม่ไทย
แฝงไปด้วยแรงศรัทธาของชาวบ้านแสงภาร่วมมือ แรงกาย แรงใจ ของทุกคนในหมู่บ้าน
ตั้งแต่ผู้เฒ่า ผู้แก่ คนหนุ่มสาว เด็กๆ
ช่วงเช้าตรู่ผู้ชายจะเข้าป่าไปตัดไม้ไผ่นำมาสร้างเป็นต้นดอกไม้ โดยขึ้นโครงต้นดอกไม้ตามด้วยตกแต่งดอกไม้ตามธรรมในหมู่บ้านหลากหลายสีสัน
ดอกคูณ เฟื่องฟ้า หางนกยูง เสร็จแล้วก็จะเริ่มแห่ต้นดอกไม้เข้าวัด ช่วงเย็นชาวบ้านจะทยอยกันเข้าไปกราบพระประธาน
ร่วมกันจุดเทียนตามคานของต้นดอกไม้ จนถึงเวลาสมควรจึงเริ่มพิธีกล่าวคำไหว้พระและถวายต้นดอกไม้
แห่รอบอุโบสถ 3
รอบ เพื่อบูชา พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ โดยมีเสียงของดนตรีพื้นบ้านสนุกสนาน
สอบถามได้ที่วัดศรีโพธิ์ชัย บ้านแสงภา อบต.แสงภา
042 031 428 ททท. 042 812 812
พิกัดที่ 2 งานประเพณีสรงน้ำพระพุทธนาวาบรรพต
(ยอดภูเรือ) ช่วงเช้าวันที่ 15
เมษายน ที่อุทยานแห่งชาติภูเรือ อำเภอภูเรือ สนุกสนานกับขบวนแห่ผีบุ้งเต้า
ทุกปีชาวบ้านที่ตั้งอยู่รอบอุทยานแห่งชาติภูเรือ ทั้ง 5 หมู่บ้าน ได้แก่ บ้านภูเรือ บ้านป่าจันตม บ้านหนองเสือคราง บ้านไฮตาก บ้านน้ำมี อำเภอท่าลี่
จะตั้งขบวนแห่ขึ้นไปตรงยอดภูเรือ เพื่อกราบสักการะและสรงน้ำพระพุทธนาวาบรรพต
องค์พระพุทธรูปที่ได้อัญเชิญมาจากวัดพระญาติ จังหวัดพระนครศรีอยุธยาเมื่อปี 2520
ชาวบ้านจะออกเดินทางตั้งแต่เช้าเพื่อขึ้นไปยังอุทยานภูเรือ
แล้วตั้งขบวนแห่ต้นผึ้ง ต้นดอกไม้ ขบวนผีบุ้งเต้า
เตรียมนำน้ำอบน้ำหอมบรรจุใส่ในลูกน้ำเต้าเงินน้ำเต้าทอง ขึ้นไปสรงน้ำพระ เมื่อกาลเวลาผ่านไปชาวบ้านอยู่เย็นเป็นสุขมากขึ้น
จึงเคิดสร้างสรรค์มาจากเยาวชนกลุ่มหนึ่งที่บ้านไฮตาก ทำหน้ากากผีบุ้งเต้า นำผลน้ำเต้าลูกใหญ่มาเป็นวัสดุแล้ววาดลวดลายให้เป็นหน้ากาก
“ผีบุ้งเต้า”
ซึ่งมีลักษณะเป็นรูปหน้ายักษ์ทวารบาลที่มีใบหน้าเปื้อนรอยยิ้มใจดี แล้วแต่งกายและสวมใส่หน้ากากผีบุ้งเต้ามาเข้าร่วมขบวนแห่สร้างสีสันความสนุกสนานในประเพณีสรงน้ำพระพุทธนาวาบรรพตครั้งแรกปี2562
พิกัดที่
3 งานประเพณีแห่ดอกไม้บูชาพระธาตุศรีสองรัก
อำเภอด่านซ้าย ช่วงบ่ายวันที่ 15
เมษายน
พิกัดที่
4 งานประเพณีแห่ข้าวพันก้อน
บูชาพระธาตุศรีสองรัก อำเภอด่านซ้าย เช้าตรู่วันที่ 16 เมษายน
ไฮไลต์วันที่ 15
เมษายน “มหาสงกรานต์ด่านซ้าย” จะจัดขบวนแห่แห่งศรัทธา "แห่ขันดอกไม้
ตามความเชื่อ “ฮีต 12
คอง 14” จะจัดกิจกรรมนี้ขึนโดยนำดอกไม้สีขาวใส่ในขันเงิน
ถวายองค์พระธาตุศรีสองรัก เป็นแนวทางที่คณะผู้รักษาวัฒนธรรมงานประเพณีเดือนห้า เพื่อเสริมสิริมงคลแก่ชีวิตในวันปีใหม่ของไทย
ทำสืบทอดกันมาแต่โบราณ โดยมีผู้นำทางด้านจิตวิญญาณอย่าง “เจ้าพ่อกวน
และเจ้าแม่นางเทียม”
เริ่มจากรุ่งเช้าวันขึ้นปีใหม่ 15 เมษายน
เจ้าแม่นางเทียมทำพิธีเลี้ยงเจ้าแม่กลาง เจ้าพ่อกวนไปทำพิธีกับเจ้าพ่อแสน
ซึ่งเป็นงานของเจ้าแม่นางเทียม ดำเนินตามขั้นตอนเลี้ยงประจำปี
เมื่อเจ้าเมืองกลางลงมา องค์นางท้าว นางจันทร์ นางจวด
ลงมาทรงเจ้านางเทียมแล้วเลี้ยงตามพิธีประเพณี เสร็จแล้วเจ้าพ่อกวนก็ลากลับบ้าน
ช่วงบ่ายประมาณ 3 – 4
โมงเย็น เจ้าพ่อกวนตั้งขบวนจากบ้านทำพิธีแห่ดอกไม้ นิมนต์พระสงฆ์ 4
รูป จากวัดโพนชัย ผ่านหน้าบ้านเจ้าแม่นางเทียม แล้วชวนเข้าร่วมขบวนแห่รอบพระธาตุ
ทำพิธีถวายดอกไม้ ขึ้นปีใหม่ นิมนต์พระสงฆ์เทศน์มาลัยแสน
แล้วเปิดพระธาตุทำบุญให้ทาน ด้วยกัน
ช่วงเย็นชาวบ้านจะมารวมตัวกันที่บ้านเจ้าพ่อกวน
ส่วนชุมชน “คุ้มบ้านเหนือกับบ้านใต้” รวมตัวกันบ้านเจ้าแม่นางเทียมทำกระทงใหญ่ที่เตรียมอุปกรณ์ไว้ตั้งแต่
14 เมษายน
หลังจากไปขะหิ้งบ้านเจ้าแม่นางเทียมแล้ว ก็ไปทำกระทงที่บ้านเจ้าพ่อกวน ให้เสร็จตอน 5-6 โมงเย็น
เพื่อแห่ดอกไม้ทำพิธีที่วัดโพนชัย ไปปักธง ไหว้พระ รับศีล ทำพิธีชักธงขึ้นวัด โดยมีทั้งบ้านเจ้าพ่อกวน
– เจ้าแม่นางเทียม หรือหลาย ๆ บ้าน เสร็จแล้วทางบ้านเจ้าพ่อกวนจะทำพิธีบายศรีสู่ขวัญผู้สูงอายุวัย70
ปีขั้นไป สู่ขวัญก็รดน้ำขอพรจากผู้อาวุโส แล้วรับประทานอาหารเย็นร่วมกัน
นักท่องเที่ยวที่สนใจร่วมขบวนแห่ดอกไม้
แนะนำให้แต่งกายสุภาพเสื้อขาว มาร่วมกันอนุรักษ์อันประเพณีงดงาม
สอบถามได้ที่ ททท.สำนักงานเลย 0
4281 2812
สงกรานต์ปีนี้ จึงขอชวนให้นักท่องเที่ยว
นักถ่ายภาพแนวศิลปะวัฒนธรรม เลือกเป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยว ไปพร้อม ๆ กับร่วมเสริมบุญ
เสริมบารมี ให้ชีวิตตนเองและครอบครัว มีความสุขกายใจรับวันขึ้นปีใหม่ไทย ด้วยการกระจายรายได้ให้ชุมชนท่องเที่ยวตลอดสงกรานต์ในพื้นที่จังหวัดเลย
สุขภาพ –3วิธีรับมืออุณหภูมิพุ่ง40-50องศาเลิกดื่มน้ำเย็นได้แล้ว
แพทย์ได้ให้ข้อมูลถึงวิธีดื่มน้ำเตรียมรับมือกับสภาพภูมิอากาศโลกและเมืองไทย
ในอุณหภูมิ 40-50
องศา ควรดื่มน้ำสะอาด ดื่มช้าๆ หลีกเลี่ยงน้ำเย็น น้ำแข็ง เพราะขณะนี้ มาเลเซีย
อินโดนีเซีย สิงคโปร์ กำลังเผชิญกับคลื่นความร้อน
อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ จึงขอแนะนำ 3
วิธี ดังนี้
1. หมอบอกว่าหากร้อนถึง 40
องศา ไม่ควรดื่มน้ำเย็นต่อไป เพราะหลอดเลือดเล็กอาจปริหรือระเบิดได้ เพื่อนของหมอคนหนึ่งมาจากข้างนอก ร้อนจนเหงื่อแตก รีบล้างเท้าด้วยน้ำเย็น ผลคือตามองไม่เห็นต้องรีบเรียกรถพยาบาล
2. หากร้อนถึง 38 องศา
ก็ปล่อยร่างกายร้อนไป อย่าดื่มน้ำเย็น ให้ดื่มน้ำร้อนหรือน้ำอุ่น ค่อยๆ ดื่ม
อย่ารีบร้อนล้างขาล้างมือหรือส่วนที่ถูกแดดเผา ควรรอสัก 30 นาทีค่อยอาบน้ำ
3.ข้อควรระวัง ในหน้าร้อนหรือยามร่างกายเราอ่อนเพลีย ต้องหลีกเลี่ยงดื่มน้ำเย็นทันที เพราะจะทำให้หลอดเลือดหดเล็ก แล้วเป็นสโตรคได้ง่ายมาก ช่วยกันบอกญาติพี่น้องในครอบครัว พ่อ แม่ ลูก หลาน ปู่ ย่า ตา ยาย และเพื่อนฝูงทุกคน
เพราะมีตัวอย่างชายคนหนึ่งรู้สึกร้อนมากจึงรีบไปอาบน้ำ อาบเสร็จขากรรไกรแข็งเป็นสโตรคไปเลย
ฟังข่าวท้ายชั่วโมง
ข่าวแรก–นายกฯเศรษฐาลั่น6-8เม.ย.นี้มีข่าวดีสนามบินสมุย
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
โพสต์เฟสบุ๊คล่าสุดระบุปลายสัปดาห์นี้ ระหว่างวันที่ 6-8 เมษายน
2567 ลงพื้นที่เพื่อตรวจราชการที่เกาะสมุย
จังหวัดสุราษฏร์ธานี ซึ่งเป็นพื้นที่มีนักท่องเที่ยวจำนวนมาก แต่สนามบินนานาชาติยังไม่สามารถรองรับเที่ยวบินให้เพิ่มขึ้นได้
จึงได้เชิญรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม และนายพุฒิพงศ์ ปราสาททองโอสถ
กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ บางกอกแอร์เวย์ส
และในฐานะผู้บริหารสนามบินนานาชาติสมุย เดินทางมาร่วมหารือเพื่อวางแนวทางการขยายสนามบิน
และเพิ่มเที่ยวบิน คาดน่าจะมีข่าวดีให้มาแจ้งให้ชาวสมุยทราบ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 15 มีนาคม
2567 ก่อนหน้านายพฤติพงศ์
ปราสาททองโอสถ ผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.การบินกรุงเทพ เจ้าของสายการบินบางกอกแอร์เวย์ส
นายกสมาคมสายการบินแห่งประเทศไทย และผู้บริหารสนามบินนานาชาติสมุย
จะเข้าพบนายกรัฐมนตรี ก็ได้เข้าร่วมเวิร์คช้อปกับทางกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา
ในฐานะนายกสมาคมสายการบินแห่งประเทศไทย โดยได้เสนอให้นางสาวสุดาวรรณ
หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา รวบรวมข้อเสนอของสายการบินขึ้นไปกล่าวบนเวที
IGNIGTH Thailand Tourism
เมื่อวันที่ 2 เมษายน 2567 ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล
เกี่ยวกับแผนขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ผลักดันอาเซียนเป็นจุดหมายปลายทางหนึ่งเดียวของภูมิภาค
หรือ ASEAN Single
Destination ด้วยวิธีสนับสนุนสายการบินของไทยทำโครงการส่งเสริมตลาดการขายผ่านแคมเปญ
“อาเซียน พาสส์ :ASEAN
PASS”
ขายแพกเกจตั๋วโดยสารเครื่องบินให้นักเดินทางทั่วโลกเข้ามายังอาเซียนโดยใช้มาตรการฟรีวีซ่าของประเทศสมาชิกในอาเซียนให้เกิดประโยชน์สูงสุด
เปิดทางให้นักท่องเที่ยวนานาประเทศบินเที่ยวเชื่อมโยงเข้ามายังไทยแล้วบินไปต่ออาเซียนได้แบบไร้รอยต่อในอนาคตตามนโยบายรัฐบาลไทย
ขณะที่ “สนามบินนานาชาติสมุย”
เปิดดำเนินงานมาเป็นปีที่ 35
เริ่มบริการเมื่อวันที่
25 เมษายน 2532 ในพื้นที่ปัจจุบัน 500 ไร่ ที่ตำบลบ่อผุด อ.เกาะสมุย
จ.สุราษฎร์ธานี เปรียบเทียบการเติบโตปี 2565 กับปี 2566 มีขีดความสามารถรองรับ “ปริมาณผู้โดยสาร” รวมทั้งสิ้นประมาณ 1.13 ล้านคน เพิ่มขึ้น 472,122 คน เติบโต 70.72% แบ่งเป็น ผู้โดยสารในประเทศ
863,641 คน เพิ่มขึ้น 303,100 คน เติบโต 54.07% ผู้โดยสารระหว่างประเทศ 276,007 คน
เพิ่มขึ้น 159,022 คน เติบโต 135.93% และมี “ปริมาณเที่ยวบิน” 12,628 เที่ยว เพิ่มขึ้น 4,739 เที่ยว เติบโต 60.07
%
ข่าวที่สอง -ข่าวดี!มิชลินไกด์รุกขยายร้านพื้นที่ใหม่ชลบุรีปี’68
เกว็นดัล
ปูลเล็นเนค ผู้อำนวยการฝ่ายจัดทำคู่มือ มิชลิน ไกด์ ทั่วโลก เปิดเผยว่า มิชลิน
ไกด์ ประเทศไทย ประกาศขยายพื้นที่จัดทำคู่มือฉบับประจำปี 2568 ไปยังจุดหมายใหม่ “ชลบุรี” เตรียมเผยแพร่ในไตรมาสสุดท้ายปี
2567 โดยได้เลือกเมืองตากอากาศชายทะเลใกล้กรุงเทพฯ มากที่สุด
เพียง 80 กม.เท่านั้น จะช่วยดึงดูดนักชิมและนักท่องเที่ยวคนไทยและต่างชาติออกค้นหาประสบการณ์ด้านอาหารแปลกใหม่และแตกต่างกัน
โดยมีองค์ประกอบหลากหลายทำให้ผู้ตรวจสอบตัดสินใจออกสำรวจเพื่อคัดสรรร้านอาหารในพื้นที่ดังกล่าว
ตั้งแต่แหล่งท่องเที่ยวคุณภาพชายหาดสวยงามอย่างพัทยา บางแสน เกาะล้าน มีวัดเงียบสงบ
พร้อมงานประเพณีวัฒนธรรมท้องถิ่น กิจกรรมตามเทศกาลต่าง ๆ สถานบันเทิงยามค่ำคืนน่าตื่นตาตื่นใจ
ร้านอาหารและรถเข็นขายอาหารริมทาง โดดเด่นเป็นพิเศษเรื่องอาหารทะเลสดใหม่ อาหารท้องถิ่นไม่เหมือนใคร
สามารถรับประทานในบรรยากาศริมชายหาดได้ด้วย
ชลบุรีเป็นพื้นที่ใหม่ล่าสุดที่จะได้คัดเลือกร้านอาหารคู่มือ
มิชลิน ไกด์ ประเทศไทย ฉบับประจำปี 2568 ต่อจากกรุงเทพฯ
ปี 2561 ภูเก็ตและพังงาปี 2562 เชียงใหม่ปี 2563 พระนครศรีอยุธยาปี 2565 ภาคอีสานปี 2566 เกาะสมุยและสุราษฎร์ธานีปี
2567 และชลบุรีปี 2568 ถือเป็นอีกก้าวสำคัญช่วยตอกย้ำให้เห็นถึงหลากหลายและอัตลักษณ์อันโดดเด่นของอาหาร
ตลอดจนบรรยากาศที่เปี่ยมด้วยชีวิตชีวาอาหารท้องถิ่นของไทย
นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)
กล่าวว่า คู่มือ มิชลิน ไกด์ ประเทศไทย มีบทบาทสำคัญมากเรื่องการเผยแพร่อาหารไทยสู่เวทีโลกและทำให้นักท่องเที่ยวรู้จักเมืองไทยในฐานะจุดหมายด้านการท่องเที่ยวเชิงอาหารชั้นนำระดับโลก
สนับสนุนยุทธศาสตร์ ซอฟต์ พาวเวอร์แห่งชาติของรัฐบาลมุ่งเน้น 5 ด้าน (5Fs) ได้แก่ อาหาร/Food
แฟชั่น/Fashion ภาพยนตร์/Film มวยไทย/Fight)
และเทศกาล/Festival ยกระดับศักยภาพการแข่งขันด้านท่องเที่ยวของไทยในตลาดโลก
เนื่องจากอาหารเป็นศาสตร์และศิลป์มีความโดดเด่นหลากหลายใน
ซอฟต์ พาวเวอร์ หรืออิทธิพลทางวัฒนธรรมดึงดูดให้นักท่องเที่ยวจากทั่วโลกเลือกมาไทย
เมื่อมิชลิน ไกด์ ในฐานะคู่มืออ้างอิงด้านอาหารทรงอิทธิพลต่อผู้คนทั่วโลก
เผยแพร่ความหลากหลายและความน่าสนใจทั้งเมนูอาหารและบรรยากาศแวดล้อมของไทย จึงช่วยเสริมสร้างประสบการณ์การท่องเที่ยวไทยให้มีความหมายยิ่งขึ้น
ติดตามฟังรายการได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์
เวลา 11.00-12.00 น.ทาง สวท.FM 97.0 MHz.
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น