ททท.เอเชียตะวันออก5ประเทศปี’67โตไม่ยั้ง10ล้านคน
ผู้ว่าฯนำทีมฉลองใหญ่50ปีไทย-จีน19ส.ค.โชว์ไลฟ์สตรีม
ปี’68รุกเทรนด์ใหม่Singing Marketทัวร์เมืองรองทั่วเอเชีย
วีคเอนด์สายบิวตี้ช้อปฟินที่คิงเพาเวอร์3แห่งลดจัดหนัก
คิงเพาเวอร์มัดรวมไอเทมบิวตี้ลดแล้วลดอีกใน4สนามบิน
ททท.เทงบกลางทำQuickWin2โปรเจกต์โกย1.7หมื่นล้าน
BSRCกลุ่มบางจากครึ่งปีแรกกำไรพันล้าน/Q2การกลั่นโต
TCEBภาคใต้ชูMICEBazaarสงขลา/แนะไมซ์สุราษฎร์4Must
สุขทันทีที่เที่ยวอ่างทอง@หน้าฝนทัวร์ชวนไปเช็คอิน6พิกัด
4 วิธีล้างพิษในร่างกายทำได้ง่ายๆแถมได้ผลดีมีประโยชน์
ดุสิตรุกบริหารคิงส์สแควร์ใหม่“โรงแรม/เรสซิเดนซ์”เปิดปี69
รร.ม็อกซี่แบงคอกบูมขายปาร์ตี้/ไมซ์3แพกเกจเริ่ม900บาท
วันอาทิตย์ที่
11 สิงหาคม 2567 ต้อนเข้าสู่รายการ
“รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน”
ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97MHz. ฟังทางfacebookLiveFM97.0 อ่านในwww.facebook.com/penroongyaisamsen
#gurutourza #รวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97 #เพ็ญรุ่งใยสามเสน #เที่ยวกับกู๋ #KingPower #TAT #บางจาก #TCEB #
ฟัง Live สดจากลิงค์นี้... https://www.facebook.com/share/v/KvkyGdCztEitxqeu/?mibextid=jmPrMh
ฟังข่าวต้นชั่วโมง
ช่วงที่
1 สัมภาษณ์ !!
“ชูวิทย์
ศิริเวชกุล” ผู้อำนวยการภูมิภาคเอเชียตะวันออก การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)
ปี’67กระตุ้นตลาดเด่น
5 ประเทศ
ทำยอดรวมทะลุ 10 ล้านคน
“เกาหลี” 2 ล้านคน ฮ่องกง
ไต้หวัน ญี่ปุ่น ชาติละ 1 ล้านคน
ส่วนจีนลุ้น 6 ล้านคน
ครึ่งปีหลัง นำเอกชนเดินสาย “โร้ดโชว์” พร้อมเปิดเทรนด์ใหม่ Singing Market
นำร่องแล้วในจีนเจาะเมืองเศรษฐกิจรองในจีน
ฉางชา เฉิงตู ซีอาน กระแสปังสุด “ผู้ว่าฯ ททท.” นำทีมฉลองไทย-จีน 50 ปี จัดใหญ่ 4 แพลตฟอร์มจีน ตลอดปี67-68 เตรียมไลฟ์สตรีม 18 ส.ค.นี้ ที่กรุงเทพฯ เปิดแผนปี’68 เอเชียตะวันออกรุก 3 กลยุทธ์ “เพิ่มไฟลต์บิน-ขยายฐาน Singing
Market-ปั๊มกลุ่มทัวร์ได้ทันที”
นายชูวิทย์
ศิริเวชกุล ผู้อำนวยการภูมิภาคเอเชียตะวันออก การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)
เปิดเผยว่า ความเคลื่อนไหวของตลาดเอเชียตะวันออกปี 2567 ดาวเด่นทั้ง 5 ประเทศ สาธารณรัฐประชาชนจีน ญี่ปุ่น เกาหลี
ฮ่องกง ไต้หวัน
มีสีสันทุกตลาดเพราะผ่านโลว์ซีซันมาแล้วทั้งหมดกำลังเข้าสู่ฤดูเดินทางท่องเที่ยวปิดเทอมภาคฤดูร้อนระหว่างกรกฎาคม-กันยายน
ดังนั้นการเดินทางมาไทยจึงค่อนข้างคึกคักต่อเนื่อง สถิติเกือบ 7 เดือนแรก มกราคม-7 สิงหาคม 2567
ตลาดแรก
เกาหลี ตั้งเป้าไว้ 2 ล้านคน
เข้ามาแล้ว 1,132,400 คน
เพิ่งไปทำโร้ดโชว์ที่กรุงโซลช่วงกรกฎาคมมีเอกชนไทยไปพบกับคู่ค้าท่องเที่ยวเกาหลีจำนวนมาก
ตอนนี้ยอดจองทัวร์เริ่มทยอยเข้ามาแล้วโดยมีกลุ่มครอบครัว ล่าสุด 8 สิงหาคม วันเดียวเข้ามาเกือบ 6,000 คน และใช้จ่ายเงินค่อนข้างสูง
จำนวนนักเดินทางจะพีคมากสุดช่วงเดือนตุลาคมของทุกปียาวข้ามไปจนถึงมีนาคมของปีหน้า
นักท่องเที่ยวเกาหลีกว่า
70 % นิยมมาตีกอล์ฟ
ทั้งคนรุ่นใหม่และผู้สูงวัย ไทยจึงเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยม พื้นที่หลัก ๆ คือ
กรุงเทพฯ พัทยา ภูเก็ต เชียงใหม่
ตลาดที่
2 “ญี่ปุ่น”
ขณะนี้นักท่องเที่ยวมาไทยกว่า 6 แสนคน
ปีนี้ตั้งไว้ 8 แสนคน
ด้วยสัญญาณการฟื้นตัวที่ดีน่าจะได้ถึง 1 ล้านคน
ซึ่งจะทำให้ผู้ประกอบการท่องเที่ยวของไทยอุ่นใจได้
แล้วนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ก็มีความจงรักภักดีกับแบรนด์เมืองไทย
เป็นตลาดคุณภาพใช้จ่ายเงินสูงมากกว่าจำนวนคนเดินทาง ตอนนี้ ททท.ทำ 2 แคมเปญ “อิมาคาระ ไคเอะ กับอิมาคาโซะ ไคเอะ
รุกเจาะกลุ่มตลาดคนรุ่นใหม่ เพื่อสร้างนักท่องเที่ยวอนาคต
ควบคู่กับฐานนักท่องเที่ยวเก่ากลุ่มผู้สูงวัย มีทั้งนักธุรกิจ เล่นกอล์ฟ ทำสปา
ถึงแม้เศรษฐกิจจะฟื้นตัวช้า แต่ก็หลุดพ้นจากช่วงเศรษฐกิจสูญหายจาก 30 ปีที่ผ่านมา
ตลาดที่
3 ไต้หวัน
ตอนนี้มาเที่ยวไทยแล้ว 6.48 แสนคน
แนวโน้มปีนี้จะเป็นอีกตลาดที่ทะลุ 1 ล้านคน
เป็นครั้งแรกที่จะเกิดปรากฏการณ์นี้ และวันที่ 9 สิงหาคม ททท.นำทีมไปร่วมงาน Thailand
Cultural Festival 2024 ที่ไทเป ต่อจากโร้ดโชว์ท่องเที่ยวเมื่อเดือนกรกฎาคมเพิ่งนำเอกชนไปทำตลาดเช่นกัน
ตลาดที่
4 ฮ่องกง
เป็นตลาดดาวรุ่งกำลังฟื้นตัวกลับมาแล้ว ตอนนี้เข้ามาไทยแล้วเกิน 6 แสนคน ปีนี้จะได้ 1 ล้านคน
ตลาดที่
5 สาธารณรัฐประชาชนจีน
เข้ามาไทยแล้ว 4.27 ล้านคน
ททท.ตั้งเป้าปีนี้ไว้ 7.3 ล้านคน
ส่วนรัฐบาลตั้งเป้าท้าทาย 8.8 ล้านคน
ล่าสุดไปจัดโร้ดโชว์เสร็จใน ฉางชา เฉิงตู ซีอาน 3 เมืองรองของจีน หรือ New first Tier แต่ภาษารุ่นใหม่จะใช้คำว่า Singing Market
หมายถึงพื้นที่ตลาดท่องเที่ยวที่มีรายได้ต่อหัวของประชากรต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของจีนทั้งประเทศ
แต่มีจีพีดีกับจำนวนประชากรสูง ปี 2568 ททท.ตั้งเป้าจะขยายตลาดบุกไปยัง
Singing Market ตามประเทศต่าง
ๆ
ส่วนการไปจัดโร้ดโชว์ใน
3 เมืองรองของจีน
ทางผู้ประกอบการท่องเที่ยวในพื้นที่ตื่นตัวให้การต้อนรับดี
เป็นการเปิดศักราชตลาดใหม่ผลตอบรับดีมาก
สำหรับเดือนสิงหาคม
2567 มีกิจกรรมหลากหลายมาก
ได้แก่ “หนีห่าว มันท์” จะแถลงการจัดงานวันที่ 19 สิงหาคม นี้ แล้ววันที่ 17 กันยายน 2567 ตรงกับเทศกาลไหว้พระจันทร์
จะเปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่ในไทยโดยมีเซลิบริตี้เบอร์ 1 ของจีนมาร่วมงาน จากวันดังกล่าวต่อเนื่องไปจนถึงสิ้นปีนี้
ททท.จะจัดกิจกรรมต่อเนื่องเฉลิมฉลองความสัมพันธ์ไทย-จีน 50 ปี ยาวไปจนถึงปี 2568
โดย
ททท.ร่วมมือกับแพลตฟอร์มใหญ่ของจีน 4 แบรนด์
C-Trip เหม่ถวน ถงเฉิน
ยูเนี่ยนเปย์ กระตุ้นการเดินทาง และใช้จ่ายเงินในไทย 1-10 ตุลาคม นี้
จะเป็นวันชาติจีนจะเดินทางมาไทยเป็นจุดหมายปลายทางอันดับ 1 ททท.ร่วมกับพันธมิตรต้อนรับนักท่องเที่ยวจีนให้ส่วนลด
แลกแจกแถมมากมาย นำโดยร้านค้าดิวตี้ฟรี ห้างสรรพสินค้า เครือข่ายโทรศัพท์ต่าง ๆ
เพียงแค่โชว์พาสปอร์ตเล่มแดง ก็จะได้ส่วนลดพิเศษ ของแจก มากมายตลอดเดือนตุลาคมนี้
ไฮไลต์ทั้ง
4 แพลตฟอร์ม
จะมีจุดแข็งในตลาดแตกต่างกัน ได้แก่ 1.C-Trip เน้นการขายแพกเกจท่องเที่ยว ตั๋วเครื่องบิน
การเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยว ให้ส่วนลดพิเศษ มีผู้ใช้งานกว่า 100 ล้านคน 2.ถูนี่
มีจุดเด่นการขายห้องพักโรงแรมระดับ 4-5 ดาว
ก็จะนำเสนอแพกเกจอาหารเมนูพิเศษและอื่น ๆ 3.ถงเฉิน ใหญ่อันดับ 3 ถนัดเจาะเมืองใหญ่อันดับ 2 3 ของจีน
จะมุ่งเจาะกลุ่มนักท่องเที่ยวเดินทางครั้งแรก มาเป็นหมู่คณะ มาเมืองไทย 4.ยูเนี่ยนเปย์ เน้นกระตุ้นการใช้จ่ายเงิน
มีดีลพิเศษคูปองส่วนลดมากมาย
ไฮไลต์
คืนวันที่ 19 สิงหาคม 2567
ผู้ว่าการ ททท.จะจัด live
streaming ขายสินค้ารอบแรกในกรุงเทพฯ
ต้อนรับเดือน หนีหน่าว มันท์ จากนั้นเดือนกันยายน 2567 จะจัดรอบ 2 ที่เชียงใหม่
ผอ.ชูวิทย์
กล่าวว่า แผนส่งเสริมตลาดการท่องเที่ยวปี 2568 ต้องรับมือกับภาวะเศรษฐกิจถดถอย
ถึงแม้นักท่องเที่ยวจะกลับมาแล้วเฉลี่ยภาพรวมประมาณ 75 % ได้วางไว้ 3 กลยุทธ์ ได้แก่
กลยุทธ์ที่
1 เพิ่มเที่ยวบินจากประเทศต้นทางเข้าสู่เมืองไทยให้ได้ใกล้เคียงปี
2562 เช่น
เพิ่งไปกับแอร์เอเชียเปิดเที่ยวบิน นาโกย่า-กรุงเทพฯ โอกินาว่า-กรุงเทพฯ
การบินไทยต้องการเพิ่มความถี่ โตเกียว-กรุงเทพฯ จาก 3 เป็น 4 เที่ยว/สัปดาห์
ตอนนี้กำลังผลักดันเชนได-กรุงเทพฯ
กลยุทธ์ที่
2 เจาะกลุ่มนักท่องเที่ยวที่สามารถเดินทางได้ทันที
เช่น ญี่ปุ่นเศรษฐกิจกระทบภาคครัวเรือน จากพรีเมี่ยมสู่งระดับกลางและล่าง
ดังนั้นกลุ่มที่มีคุณภาพและศักภาพจะรีบเจาะทันที
กลยุทธ์ที่
3 Singing Market จะรุกเข้าไปทำทันที
เดือนกันยายน นี้ ททท.จะจัดโร้ดโชว์ครั้งใหญ่สุดร่วมกับสมาคมไทยธุรกิจท่องเที่ยว (ATTA) ไปยังสาธารณรัฐประชาชนจีน 2 เมืองใหญ่ “ปักกิ่ง”
มีข้าราชการบำนาญเกษียนอายุตอนนี้รัฐบาลอนุญาตให้เดินทางได้ทันทีเมื่อเกษียน กับ
“กวางโจว” มีมหาเศรษฐกิจเกิดใหม่จำนวนมาก
เป็นนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จตั้งแต่อายุน้อยเกิดขึ้นจำนวนมาก
ปี 2568
จะเป็นปีฉลองความสัมพันธ์ไทย-จีน 50 ปี
ก็จะจัดกิจกรรมต่อเนื่องได้ตลอดทั้งปี ซึ่งทำงานใกล้กับสถานฑูตจีน
และปลายเดือนพฤศจิกายนนี้ จะมีงานใหญ่ทางการท่องเที่ยว CITM :China
International Tourism Mart 2024 ที่เซี่ยงไฮ้
ทางผู้จัดคือกระทรวงการท่องเที่ยวและวัฒนธรรมจีน
ซึ่งประเทศไทยได้รับเกียรติให้เข้าร่วมงานด้วย ส่วนญี่ปุ่นก็มี JATA :Japan
Agent Travel Association ที่กรุงโตเกียว
รวมทั้งปีหน้าจะจัด โอซาก้า บลู เอ็กซ์โป ไทยก็จะไปเปิดพาวิลเลี่ยนด้วย
จึงทำให้เป็นปีที่มีสีสันมากด้วยเช่นกัน
ผอ.ชูวิทย์
กล่าวว่า ฝากถึงผู้ประกอบการท่องเที่ยวในไทยติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
เพราะตลาดเอเชียตะวันออก เปลี่ยนรูปแบบอย่างรวดเร็ว หลังจากปี 2566 กลุ่มที่กลับมาเดินทางหลังโควิดจะเป็น
“คนรุ่นใหม่” พอเข้าปี 2567 กลุ่มเก่าเริ่มกลับมาโดยเฉพาะ
“ผู้หญิง” หรือ Super Mom ซึ่งมีอำนาจตัดสินใจใช้เงิน ผนวกกับ
“โครงสร้างสังคม” เปลี่ยนเร็ว การเดินทางท่องเที่ยวก็เปลี่ยนไป
ดังนั้นผู้ผลิตหรือให้บริการจะต้องปรับเรื่องสิ่งอำนวยความสะดวกตามตลาดที่เคลื่อนตัวอย่างรวดเร็ว
ข่าวที่ 1 วีคเอนด์สายบิวตี้ช้อปฟินคิงเพาเวอร์3แห่งลดจัดหนัก
วีคเอนด์นี้สายบิวตี้ต้องมา
! “คิง เพาเวอร์” มีดีลดีจัดเต็มตลอดสิงหาคม 2567 ให้ช้อปเครื่องสำอาง
สกินแคร์ และ น้ำหอม ได้แบบคุ้ม ๆ
ดีลปังทุกสุดสัปดาห์
ลดทุกวีค
! ลงทะเบียนรับเลยคูปองส่วนลด 1,000 บาท
แล้วนำไปเลือกช้อปสินค้าน้ำหอม และเครื่องสำอางครบ 5,000
บาทขึ้นไป / ใบเสร็จ แลกรับคนละ 1 สิทธิ์ /วัน
“TOP
SPENDER” แจกทุกวีคหรือทุกสัปดาห์ บัตรรับประทานอาหารมูลค่ารวม 5,000
บาท ที่ “มหานคร อีทเทอรี่” มูลลค่ารางวัลสัปดาห์ละ 1,000 บาท จำนวน 5 รางวัล / สัปดาห์
“สมาชิกคิงเพาเวอร์”
5 คนแรก ในแต่ละสัปดาห์ เมื่อมียอดช้อปน้ำหอม และเครื่องสำอางสะสมสูงสุด
โดยช้อปขั้นต่ำ 30,000 บาทขึ้นไป (สุทธิ) ตลอดรายการรับได้เลยคนละ 1 รางวัล
“ใช้สิทธิ์ช้อปวีคเอนด์”
ที่คิง เพาเวอร์ รางน้ำ ศรีวารี ภูเก็ต ได้วันเสาร์ – อาทิตย์
และวันหยุดนักขัตฤกษ์ วันที่ 10 –
12 , 17 – 18 และ 24 – 25 สิงหาคม 2567
ข่าวที่ 2 คิงเพาเวอร์มัดรวมไอเทมบิวตี้ลดแล้วลดอีกใน4สนามบิน
กลุ่มบริษัท
คิง เพาเวอร์ มัดรวมไอเทมบิวตี้น่าช้อปพร้อมแล้ว ช้อปทุกเวลาก่อนบินได้เลยวันนี้-31 สิงหาคม 2567 ที่ 4 สนามบิน
ได้แก่ สุวรรณภูมิ ดอนเมือง เชียงใหม่ และภูเก็ต
1.สมาชิก คิง เพาเวอร์ รับส่วนลดสูงสุด 20% (ตามสถานะสมาชิก)
พร้อมรับส่วนลดน้ำหอมและเครื่องสำอางเพิ่มสูงสุดอีก 10%
ดังนี้
- ลด ON-TOP 5% เมื่อช้อปครบ 7,000 บาทขึ้นไป / ใบเสร็จ
- ลด ON-TOP 10% เมื่อช้อปครบ 12,000 บาทขึ้นไป / ใบเสร็จ
2.เปิดส่วนลดน้ำหอมและเครื่องสำอางสุดฟิน สำหรับนักเดินทางชาวไทย
- ลดทันที 5% เมื่อช้อปครบ 7,000
บาทขึ้นไป / ใบเสร็จ
- ลดทันที 10% เมื่อช้อปครบ 12,000 บาทขึ้นไป / ใบเสร็จ
3.ยังไม่เป็นสมาชิก สมัครเลย รับคุ้มสูงสุด 2,000 บาท
3.1 สมัครสมาชิก NAVY ฟรี (จากปกติเติมเงิน 1,000 บาท) ใช้ส่วนลดได้ทันที! ส่วนลด 300 บาทสำหรับช้อป 3,500 บาทขึ้นไป/ใบเสร็จ
3.2 สมัครสมาชิก SCARLET และเติมเงินไว้ใช้ช้อป 18,000 บาท (จากปกติเติมเงิน 20,000 บาท)
รับฟรี!
GIFT CARD 2,000 บาท เพื่อใช้ช้อปสินค้ามูลค่ามากกว่า 2,000 บาทขึ้นไป/ใบเสร็จ
ข่าวที่
3 ททท.เทงบกลางทำQuickWin2โปรเจกต์โกย1.7หมื่นล้าน
นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า มีนโยบายให้การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
(ททท.) เดินหน้ากระตุ้นการท่องเที่ยวระยะเร่งด่วนหรือ Quick win
หลังจากได้รับจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 งบกลาง
รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็นเรียบร้อยแล้ว
ตามมติคณะรัฐมนตรีวันที่ 6
สิงหาคม 2567 วงเงิน 433 ล้านบาท ทางททท.เดินหน้าทำทันที 2 โครงการใหญ่
ประกอบด้วย โครงการที่ 1 ใช้เงินทำโปรโมชันส่งเสริมการขายร่วมพันธมิตรออนไลน์ชื่อดัง
9 แพลตฟอร์ม โครงการที่ 2
จัดงานมหกรรมเสน่ห์ไทยนำเสนออัตลักษณ์ถิ่น 5
จังหวัด ใน
5 ภูมิภาค สานต่อนโยบาย IGNITE THAILAND’s TOURISM คาดจะสามารถสร้างเงินหมุนเวียนเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจรวมแล้วไม่ต่ำกว่า
17,000 ล้านบาท
โครงการทำตลาดท่องเที่ยวไทยเชิงรุกช่วงครึ่งปีหลัง
2567 ผ่านแพลตฟอร์ม
ออนไลน์ มุ่งนำเสนอขายสินค้าและบริการท่องเที่ยวไทย
โดย ททท.จะร่วมกับบริษัทตัวแทนจัดการท่องเที่ยวออนไลน์ หรือ OTA : Online Travel Agency รายใหญ่คือ 1.Agoda 2.Meituan
3.MakeMyTrip 4.Traveloka 5.Ascend Travel 6.Trip 7.TripAdvisor 8.Klook และ 9.Tagthai โดยมอบโค้ดส่วนลดให้นักท่องเที่ยวนำไปซื้อสินค้าและบริการท่องเที่ยวนอกฤดูกาลท่องเที่ยวผ่านแพลตฟอร์มที่เข้าร่วมโครงการต่อเนื่องตลอด
2 เดือน
นี้ ระหว่างสิงหาคม - กันยายน 2567
เร่งนำการท่องเที่ยวตอบโจทย์เป้าหมาย 3 เรื่อง
ได้แก่ เรื่องที่ 1 เพิ่มอัตราการเข้าพักและการจองห้องพักล่วงหน้าในเมืองไทย
เรื่องที่ 2 เพิ่มการใช้จ่ายการเดินทางแต่ละครั้งสูงขึ้น
เรื่องที่ 3 เพิ่มจำนวนวันเข้าพักของนักท่องเที่ยวโดยเฉพาะตลาดต่างชาติ
เรื่องที่ 4 ช่วยผลักดันทำให้อัตราการขนส่งผู้โดยสารของสายการบินนานาชาติ
(Passenger Load Factor) เพิ่มขึ้น คาดจะช่วยสร้างยอดขายตลอดโครงการกว่า
2,800 ล้านบาท และสร้างการรับรู้กระจายเป็นวงกว้าง 500 ล้านคน-ครั้ง
ส่วนโครงการ “มหกรรมเสน่ห์ไทย” ททท. เตรียมจัดอีเวนต์
มาร์เก็ตติ้ง ที่นักท่องเที่ยวนิยมเข้าร่วมทั้ง เทศกาลดนตรี กีฬา ศิลปะ วัฒนธรรม
ซึ่งในเมืองไทยสามารถทำได้หลากหลายรูปแบบ เน้นนำเสนอผ่านนวัตกรรมความสร้างสรรค์กระจายทั่วประเทศ
5 ภูมิภาค ภาคกลาง ภาคเหนือ ภาคตะวันออก ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคใต้ พร้อมมอบสิทธิพิเศษกระตุ้นการเดินทางท่องเที่ยวรูปแบบต่าง
ๆ เช่น ส่วนลด ของที่ระลึก และอื่น ๆ
ไฮไลต์การจัดเทศกาลท่องเที่ยวเดือนกันยายน
2567 ตามพื้นที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของเมืองไทย
นำร่องจัดงานเทศกาลระดับนานาชาติ กระจาย 5 งาน 5 พื้นที่ คาดจะสร้างรายได้ทางการท่องเที่ยวรวมทั้งหมดไม่ต่ำกว่า
750 ล้านบาท ประกอบด้วย
งานแรก ในเชียงใหม่
มีหลากหลายรูปแบบให้เลือกท่องเที่ยว นำโดย เชียงใหม่อาร์ต แอนด์ มิวสิค เฟสติวัล จ.เชียงใหม่
งานดนตรีอันปลั๊ก แจ๊ส ซิมโฟนี่ ออร์เคสตร้า การแสดงเต้นประกอบดนตรี และอีกหลายเทศกาล
โดยมีศิลปินท้องถิ่น และศิลปินที่มีชื่อเสียง กระจายตามจุดต่างๆ
ทั่วเมืองเชียงใหม่ อย่าง ประตูท่าแพ อนุสาวรีย์สามกษัตริย์ วันนิมมาน
ตลอดจนประดับตกแต่งซุ้มไฟบนถนนในเมืองเชียงใหม่ และงาน Art Installation ในบรรยากาศ
“Harmony & Art Performance”
งานที่ 2 “เสน่ห์เมืองนคร : Khanom Mindfulness
Territory” จ.นครศรีธรรมราช รวมเหล่าศิลปินที่มีชื่อเสียงจัดการแสดงดนตรี
ร่วมกับการแสดงทางวัฒนธรรม เช่น การแสดงมโนราห์ การแสดงโขนรามเกียรติ์ และกิจกรรม Mindfulness
Art & Craft
งานที่
3 มหกรรมสายน้ำแห่งกาญจน์เวลา หรือ The
River of Time จ.กาญจนบุรี
จัดกิจกรรมตลาดย้อนยุค การแสดงแสงสีเสียง การแสดงทางวัฒนธรรมและดนตรี
งานที่ 4 เสน่ห์อีสานม่วนซื่น
ณ ขอนแก่น จัดกิจกรรมการแสดงดนตรี วัฒนธรรม ศิลปินหมอลำ นักร้องที่มีชื่อเสียง
งานที่ 5 เทศกาลดนตรี “ชลบุรี อินเตอร์เนชั่นแนล มิวสิค
เฟสติวัล อิน เดอะ เรน” จ.ชลบุรี ร่วมด้วยศิลปินนักร้องเพลงป๊อป ร็อค R&B
ที่มีชื่อเสียง และการออกร้านอาหาร พรีเมี่ยม ซีฟู้ด บริเวณชายหาดพัทยา
ข่าวที่
4 BSRCบางจากครึ่งปีแรกกำไรพันล้าน/Q2ทุบสถิติการกลั่น
นายบัณฑิต หรรษาไพบูลย์
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บางจาก ศรีราชา จำกัด (มหาชน) หรือ “BSRC” เปิดเผยว่า
BSRC ทำผลประกอบการครึ่งปีแรก 2567
มีรายได้จากการขายและให้บริการ 129,631 ล้านบาท กำไรก่อนหักภาษีและค่าใช้จ่าย
หรือEBITDA 3,604 ล้านบาท มีกำไร 1,077
ล้านบาท คิดเป็นกำไรต่อหุ้น 0.31 บาท ทำให้ธุรกิจโรงกลั่นสร้างสถิติใหม่อย่างต่อเนื่อง
ด้วยกำลังการกลั่นสูงสุดต่อเดือน เมื่อพฤษภาคมปีนี้ทำได้สูงถึง 154,900
บาร์เรลต่อวัน ครึ่งปีแรก 2567
ค่าเฉลี่ยการกลั่นทำได้ 152,200
บาร์เรลต่อวัน ขณะที่ปริมาณการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ทั้งหมดช่วงครึ่งปีสูง 4,745
ล้านลิตร โดยเพิ่มขึ้นจากก่อนหน้า 16 %
ความสำเร็จครั้งนี้เกิดขึ้นท่ามกลางความท้าทายและปัจจัยกดดันด้านราคาพลังงาน
ตามผลการดำเนินงานตลอดครึ่งแรก 2567 แสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของ BSRC
ทั้งในธุรกิจโรงกลั่นและธุรกิจการตลาด ซึ่งมีความมุ่งมั่นเพิ่มศักยภาพโรงกลั่น
ส่งผลให้เกิดการผลิตน้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้นได้
เป็นสัดส่วนสูงสุดตั้งแต่ก่อตั้งบริษัท อีกทั้งยังลดต้นทุนน้ำมันดิบที่นำเข้ากลั่นได้
ผนวกกับกลยุทธ์การบริหารการจำหน่ายให้สมดุลกับปริมาณการกลั่น จึงรักษาผลการดำเนินงานและทำรายได้ดีต่อเนื่อง
@ธุรกิจโรงกลั่นไตรมาส2ทุบสถิติ
1.54
แสนบาร์เรล/วัน
“ธุรกิจโรงกลั่น” ของ BRSC ช่วงไตรมาส
2 สร้างสถิติใหม่ด้วยกำลังการกลั่น 154,200
บาร์เรลต่อวัน ถือเป็นกำลังการกลั่นรายไตรมาสที่สูงสุดเป็นประวัติการณ์ของบริษัท
ซึ่งสามารถเพิ่มอัตราการกลั่นโดยรวมให้สูงสุด เพื่อผนึกกำลังทางธุรกิจกับบางจากฯ
และจำหน่ายผลิตภัณฑ์เชื้อเพลิงให้โรงกลั่นบางจากพระโขนงช่วงที่ปิดซ่อมบำรุงประจำปี
2567
“ธุรกิจการตลาด” มีปริมาณการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ในสถานีบริการสูงถึง
1,759 ล้านลิตร
โดยได้รับปัจจัยบวกจากแผนการตลาดที่มีประสิทธิภาพและสถานีบริการที่เปลี่ยนตราสัญลักษณ์เป็นแบรนด์บางจาก
ซึ่งดำเนินการได้เร็วกว่ากำหนด ตอนสิ้นไตรมาส 2
ได้เปลี่ยนตราสัญลักษณ์สถานีบริการเป็นบางจากแล้วเสร็จ 488
สถานี มากกว่าเป้าหมายที่วางไว้
นายบัณฑิตกล่าวว่า ทาง BSRC ยังประสบความสำเร็จในการออกหุ้นกู้ครั้งแรกเมื่อปลายเดือนกรกฎาคม
2567 สะท้อนความเชื่อมั่นในผลการดำเนินงานและศักยภาพของบริษัทฯ
นับตั้งแต่เข้ามาร่วมอยู่ในกลุ่มบริษัทบางจาก โดยมุ่งมั่นขับเคลื่อนธุรกิจภายใต้วิสัยทัศน์
“สรรค์สร้างอนาคตที่ยั่งยืน ด้วยนวัตกรรมเพื่อพลังงานที่เหนือกว่า” มาโดยตลอด เพื่อสร้างการเติบโต
พร้อมตอบสนองต่อความท้าทายต่าง ๆ ด้วยการบริหารจัดการและเพิ่มประสิทธิภาพทุกด้าน
เสริมสร้างขีดความสามารถทางการแข่งขันใหม่ ๆ พร้อมผนึกกำลังทางธุรกิจในกลุ่มบริษัทบางจาก
อย่างเต็มที่สร้างการเติบโตอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืนต่อไป
ข่าวที่ 5 TCEBภาคใต้จัดMICE Bazaarสงขลา/แนะไมซ์สุราษฎร์4Must
สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ
(องค์การมหาชน) “TCEB” ภาคใต้ รายงานว่า เตรียมจัด “MICE Bazaar
2024” วันที่ 22 สิงหาคม 2567 ที่ศูนย์ประชุมนานาชาติฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี
อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ไฮไลต์จะเป็นการจับคู่ธุรกิจกว่า 35 บูธ พร้อมทั้งมีบรรยายพิเศษในเวทีเสวนาเพิ่มความรู้ MICE แบบจุใจ 3 หัวข้อหลัก
หัวข้อที่
1 กลับบ้าน มาสร้างอนาคต : พลิกโฉมสู่เมืองไมซ์ระดับโลก
Homecoming: Preserving the Legacy, Embracing the Future of MICE.”
หัวข้อที่
2“กลยุทธ์สื่อสารสุดล้ำ ดึงดูดใจลูกค้าไมซ์!”
หัวข้อที่
3 พลังแห่งชุมชน ขับเคลื่อนไมซ์ไทย สู่ระดับสากล”
แล้วทีเส็บภาคใต้ยังได้แนะนำสถานที่จัดไมซ์ภาคใต้ที่
“สุราษฎร์ธานี” เมืองไมซ์ โดดเด่นในพื้นที่ “เกาะสมุย”
แหล่งท่องเที่ยวชื่อเสียงดังระดับโลก เพียบพร้อมด้วยความสวยงาม
วัฒนธรรมอันหลากหลาย และครบครันด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกพร้อมรองรับการจัดไมซ์แบบครบวงจร
กับ 2 Must 4 กิจกรรม ดังนี้
Must
Join มาร่วมเรียนรู้วิถีชีวิตท้องถิ่น
แล้วร่วมลงมือเติมประสบการณ์ระหว่างการเดินทางไปในพื้นที่ สนุกสนานกับ 2 กิจกรรม ได้แก่
กิจกรรมที่
1 ชวนชาวไมซ์มาเรียนรู้การใช้ประโยชน์จากส่วนต่างๆของมะพร้าว
พืชเศรษฐกิจสำคัญ และสัญลักษณ์ของเกาะสมุยที่ “บ้านมะพร้าว”
พร้อมเรียนรู้วิถีชีวิตชาวเกาะสมุย และชมผลิตภัณฑ์แปรรูปจากส่วนต่างๆของมะพร้าว
เช่น เครื่องใช้ในครัวเรือน เครื่องประดับ ของเล่นที่ทำจากกะลามะพร้าว
เรียนรู้กระบวนการแปรรูปน้ำมันมะพร้าวด้วยวิธีการธรรมชาติ
และเข้าร่วมเวิร์กชอปทำขนมหวานท้องถิ่นโบราณของชาวเกาะสมุย ได้แก่ ขนมโค
และขนมขี้มัน ซึ่งมีมะพร้าวเป็นส่วนผสมหลัก
กิจกรรมที่
2 เรียนรู้วิถีชีวิตช้าง และควาญช้างที่ Samui
Elephant Kingdom อาณาจักรช้างบนพื้นที่กว่า 60 ไร่ ใกล้น้ำตกหน้าเมือง
ซึ่งมีกิจกรรมให้นักเดินทางไมซ์สามารถเข้าร่วมได้หลากหลาย เช่น การอาบน้ำช้าง หรือการเตรียมอาหารที่เหมาะสมตามช่วงวัยของช้าง
และที่นี่ยังสามารถปรับพื้นที่ให้เป็นห้องประชุมท่ามกลางธรรมชาติ
เปลี่ยนบรรยากาศให้นักเดินทางไมซ์ได้ประชุมในแบบสร้างสรรค์ หรือจัดกิจกรรม Team
Building แบบใกล้ชิดธรรมชาติได้อีกด้วย
Must
Eat ต้องห้ามพลาดการรับประทานอาหารถิ่นขึ้นชื่อ
ใช้วัตถุดิบท้องถิ่นนำเสนอความอร่อย 2 แห่ง
แห่งแรก "บ้านสวนลางสาด"
รับประทานอาหารกลางวันกับเมนูชาวเกาะสมุยดั้งเดิมในบรรยากาศร่มรื่นของสวนผลไม้หลายชนิด
เน้นเมนูพื้นบ้านรสชาติเข้มข้น จัดจ้าน ปรุงอย่างใส่ใจทุกขั้นตอน ด้วยการคัดสรรวัตถุดิบท้องถิ่น
อาหารทะเลสดจากชายฝั่ง ผักปลอดสารพิษทางร้านปลูกเอง ใช้น้ำมันมะพร้าวมาประกอบอาหาร
เมนูต้องสั่งคือ
กุ้งผัดสะตอกะปิ แกงกะทิปู แกงส้มปลากระบอกยอดมะพร้าวใส่ไข่ ข้าวมันกะทิ และขนมหวาน
ผลไม้สดตามฤดูกาลจากสวนทางร้านปลูกเอง
แห่งที่
2 “The
Oyster Bar x Samui” ชิมมื้ออาหารสุดพิเศษที่ได้รวบรวมเมนูอาหารทะเลสดจากหลายประเทศมาไว้ที่ร้านนี้
จานเด่นคือเมนูหอยนางรมกาญจนดิษฐ์ของดีเมืองสุราษฎร์ รสชาติอร่อยที่สุดในเมืองไทย
จุดเด่นของทางร้านจะแกะหอยนางรมสด ๆ ให้ได้เห็นทุกขั้นตอนการเตรียมอาหาร จะรับประทานสด
และปรุงเป็นเมนูต่าง ๆ จับคู่รับประทานคู่กับเครื่องดื่มพิเศษ รังสรรค์มาเสิร์ฟในงานเลี้ยงสุดพิเศษให้นักเดินทางไมซ์ทุกกลุ่มได้เป็นอย่างดี
ช่วงที่ 2 ออกไปเที่ยวเมืองไทย
สุขทันทีที่ได้เที่ยว “อ่างทอง” ชุ่มฉ่ำตลอดหน้าฝน ไปเช้าเย็นกลับฟิน ๆ 6 พิกัด ในอุทยานสวรรค์ วัดจันทรังษี ล่องแม่น้ำน้อย ชิลร้านกาแฟดัง แล้วทำ
“4วิธีล้างพิษตกค้าง” ในร่างกายทำง่ายได้ประโยชน์
ฟังข่าวเด่น ข่าวแรก “ดุสิตรับบริหารใหม่” โรงแรมและเรสซิเดนซ์คิงสแควร์
ข่าวที่สอง “โรงแรมมอกซี่ราชประสงค์” ปิ๊งขาย 3 แพกเกจแนวใหม่
ท่องเที่ยว –“สุขทันที....ที่เที่ยวชุ่มฉ่ำรับหน้าฝน
@ อ่างทอง”
เดินทางง่าย
ใกล้กรุงเทพฯ สะดวกเมื่อไร ก็ไปได้ทันที เที่ยวให้ฉ่ำรับหน้าฝนที่ “อ่างทอง”
แบบไปเช้าเย็นกลับ ออกจากกรุงเทพฯ ตอนเช้า 08.00 น. กับ 6 พิกัดสุดฟิน
พิกัดที่
1 อุทยานสวรรค์อ่างทองหนองเจ็ดเส้น
อุทยานแห่งความจงรักภักดี จังหวัดอ่างทอง บนพื้นที่กว่า 300 ไร่
ในเขตจังหวัดอ่างทอง ถูกเนรมิตสรรค์สร้างให้เป็นอุทยานสวรรค์
แหล่งท่องเที่ยวท่ามกลางธรรมชาติ พร้อมการตกแต่ง จัดวางแบบแปลน รอบล้อมด้วยไม้ประดับหายาก
นานาชนิดนับร้อยสายพันธุ์ กว่าแสนต้น จะพบความสุข ความประทับใจ
พิกัดที่
2 วัดจันทรังษี ภายในวัดมีวิหารจัตุรมุขมียอดบุษบกกลาง
5 ชั้น สูง 48 เมตร กว้าง 24 เมตร ยาว 33 เมตร
มีสถาปัตยกรรมอันวิจิตรงดงามที่บ่งบอกถึงความเจริญรุ่งเรืองของพระพุทธศาสนาในจังหวัดอ่างทอง
ภายในประดิษฐานรูปหล่อหลวงพ่อสด วัดปากน้ำ (หลวงพ่อสด จันทสโร) หล่อด้วยโลหะองค์ใหญ่สุดในโลก
มีขนาดหน้าตักกว้าง 6 เมตร 9 นิ้ว สูง 9 เมตร 9 นิ้ว แล้วรับประทานอาหารกลางวัน
พิกัดที่
3 ล่องเรือแม่น้ำน้อย กิจกรรม ล่องเรือ
ทานอาหารไทยพื้นบ้าน ชมธรรมชาติ แม่น้ำน้อย วิเศษชัยชาญ
ในเขตพื้นที่ของเทศบาลตำบลบางจัก อ.วิเศษชัยชาญ จ.อ่างทอง เริ่มนั่งเรือแม่น้ำน้อย
ชมรังนกกระจาบ ตามต้นไม้ริมแม่น้ำน้อย ที่วันนี้หาชมได้ยาก
ไหว้หลวงพ่อโตวัดสี่ร้อย เดินเล่นตลาดเก่าของชุมชน
ชมวิถีชีวิตของคนริมสองฝั่งแม่น้ำน้อย การหาปลาแบบยกยอ หรือการเลี้ยงปลาในกระชัง
พิกัดที่
4 The Lao Café ร้านบรรยากาศดีมากๆ กาแฟอร่อย
อยู่ท่ามกลางทุ่งนาเขียว ที่สามารถมองเห็น องค์พระที่ใหญ่ที่สุดในอ่างทอง
และสัมผัสอากาศที่ปลอดโปร่งชุ่มฉ่ำ จากกลิ่นไอดินเคล้าทุ่งข้าว ช่วยให้หายเหนื่อย
พิกัดที่
5 บ้านหุ่นเหล็ก
พบกับความตื่นตาตื่นใจกับหุ่นยนต์จากภาพยนตร์ดัง ที่ใหญ่โตสูงกว่า 8 เมตร
และยังมีเหล่า SuperHero และตัวละครดังๆ อีกมากมาย
อีกทั้งยังมี “สนิมหวาน” กับเครื่องมือช่างรสชาติช็อกโกแลต
ที่หากใครมาแล้วไม่ได้ทาน ถือว่าพลาดมากๆเลย
พิกัดที่
6 Monstera Café เป็นคาเฟ่ ที่มีต้นไม้เยอะ
ท่ามกลางสวนเฟิร์น ฟิวนั่งธรรมชาติ สัมผัสหมอกไอ น้ำเย็น สดชื่น สบายใจ
เที่ยวเมืองไทย
เที่ยวใกล้ เที่ยวง่าย เที่ยวสบาย เที่ยวได้ทุกวัน ตลอดทั้งปี 365 วัน
สุขภาพ –4 วิธีล้างพิษในร่างกายทำได้ง่ายๆได้ผลดีมีประโยชน์
สารพิษตกค้างในร่างกาย เกิดจาก การที่ร่างกายไม่สามารถขับสารพิษออกได้หมด
ส่งผลทำให้ร่างกายมีสารพิษตกค้างอยู่ สำหรับใครที่อยาก ล้างสารพิษในร่างกาย
เพื่อฟื้นฟูสุขภาพให้กลับมาแข็งแรง วันนี้เรามีวิธีล้างสารพิษง่ายๆ
แต่ได้ผลดีมาฝากดังนี้
1.สูตรล้างสารพิษในลำไส้ -ใช้โยเกิร์ตรสธรรมชาติ ผสมกับนมจืด 1 กล่อง บีบมะนาว 2 ลูก เติมน้ำผึ้ง 2 ช้อนโต๊ะคนให้เข้ากัน แล้วดื่มในตอนที่ท้องว่างตั้งแต่ตี 5 – 7 โมงเช้า จะช่วยล้างสารพิษที่ตกค้างในลำไส้ออกไปได้
2.สูตรล้างสารพิษด้วยผักและผลไม้ -สูตรนี้คือให้ดื่มน้ำผัก
หรือผลไม้ชนิดเดียวกันทั้งวันเช่น น้ำมะเขือเทศ น้ำมะละกอ น้ำฝรั่ง น้ำผักแคล
น้ำผักแคล แตงกวา เป็นต้น วิธีนี้จะได้ผลดีมาก
หากทำเป็นประจำสัปดาห์ละ 2 ครั้ง
3.ล้างสารพิษด้วยการไม่ทานเนื้อสัตว์ใน 1 วัน วิธีนี้สามารถรับประทานอาหารได้ตามปกติ เพียงแต่ห้ามทานเนื้อสัตว์ใน 1 วัน เพื่อให้ระบบย่อยอาหาร และตับได้พักบ้าง
4.ล้างสารพิษด้วยการดื่มน้ำเปล่าแทนการดื่มกาแฟ -หลังตื่นนอนตอนเช้า ให้ดื่มน้ำเปล่าจำนวน 2 แก้ว จะเป็นน้ำอุ่น หรือน้ำอุณภูมิปกติก็ได้ แต่ไม่ควรดื่มน้ำเย็น
การดื่มน้ำในตอนเช้า
จะช่วยล้างสารพิษที่ตกค้างในระบบของเหลวในร่างกายได้เป็นอย่างดี
เพราะสารพิษเหล่านั้นจะถูกขับออกผ่านทางปัสสาวะ และผ่านทางเหงื่อ
แถมยังช่วยให้ระบบไหลเวียนโลหิต และระบบน้ำเหลืองทำงานได้ดีอีกด้วย
ฟังข่าวท้ายชั่วโมง
ข่าวแรก –ดุสิตรุกบริหารคิงส์สแควร์ใหม่“โรงแรม-เรสซิเดนซ์”เปิดปี69
นางสาวศุภจี
สุธรรมพันธุ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม ดุสิต
อินเตอร์เนชั่นแนล เปิดเผยว่า ดุสิต อินเตอร์เนชั่นแนล หนึ่งในบริษัทพัฒนาโรงแรมและอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของเมืองไทย
ได้ลงนามในข้อตกลงการบริหารจัดการอสังหาริมทรัพย์กับ บริษัท
คิงสแควร์ ดิเวลลอปเมนท์ จำกัด และบริษัท คิงสแควร์ สวีท จำกัดเพื่อบริหารจัดการ
“โรงแรมดุสิต สวีท คิงส์สแควร์ กรุงเทพฯ “และ “คิงส์สแควร์ เรสซิเดนซ์” ซึ่งเป็นโครงการโรงแรมและที่พักอาศัยระดับหรูระดับบนกำหนดจะเปิดตัวปี
2569 ตั้งอยู่บนถนนพระราม 3 ติดใกล้โรงเรียนนานาชาติ
คิงส์ คอลเลจ กรุงเทพฯ สัญชาติอังกฤษเปิดดำเนินการเมื่อกันยายน 2563 เป็นส่วนหนึ่งของโครงการไลฟ์สไตล์ใหม่ล่าสุดทำให้ศูนย์รวมแบบครบวงจร
“ดุสิต
สวีท คิงส์สแควร์ กรุงเทพฯ” เป็นทั้งเซอร์วิสอพาร์ทเมนท์และโรงแรม ประกอบด้วย ห้องพักตกแต่งอย่างหรูหรา 60 ห้อง
และห้องสวีทพร้อมพื้นที่กว้างขวางอีก 49 ห้อง มีห้องเตียงคู่สะดวกสบายไปจนถึงห้องสวีท
2 ห้องนอน พร้อมมอบความสะดวกสบายสูงสุดให้ผู้เข้าพักทั้งระยะสั้นและระยะยาว
บริการห้องชุดพร้อมเฟอร์นิเจอร์ครบครัน แต่ละห้องจะมีสิ่งอำนวยความสะดวกภายในมากมาย
เช่น โซฟาหรูหรา ทีวีจอกว้างทัชสกรีน ห้องครัวขนาดเล็ก
รวมถึงสิ่งอำนวยความสะดวก
ได้แก่ สระว่ายน้ำขนาดใหญ่ คลับสำหรับเด็กโดยเฉพาะ
พื้นที่ทำงานร่วมกันที่โปร่งสบายและสว่างสดใส ห้องอาหารเปิดให้บริการตลอดวัน เน้นดีต่อสุขภาพรสชาติอร่อย
อีกทั้งยังมีห้องประชุม เลานจ์ส่วนตัว ด้วยการมอบพื้นที่ที่ยืดหยุ่นไว้รองรับการทำงาน
พักผ่อน และนั่งเล่นได้ตลอด
“คิงสแควร์
เรสซิเดนซ์” เป็นอีกส่วนที่อยู่ภายใต้การบริหารของ ดุสิต ฮอสพิทาลิตี้ เซอร์วิสเซส
ซึ่งเป็นบริษัทในเครือที่บริหารงานโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อนำประสบการณ์อันยาวนานของทีมงานโรงแรมดุสิตมาให้บริการต่าง
ๆ เช่น สิ่งอำนวยความสะดวก การบริหารจัดการตลาดที่อยู่อาศัยสุดหรูในกรุงเทพฯ
และอื่นๆ
ทาง
บริษัท คิงส์สแควร์ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด มุ่งมั่นสร้างสังคมแห่งความเอื้อเฟื้อซึ่งกัน
จึงเน้นออกแบบ คิงส์ สแควร์ เรสซิเดนท์ เป็นที่พักผ่อนในเมืองอันเงียบสงบเหมาะกับครอบครัว
และคนทำงาน ใช้ชีวิตในอาคารสูง 52 ชั้น ประกอบด้วย ที่อยู่อาศัย
222 ยูนิต พื้นที่ใช้สอยกว้างขวางยูนิต 1 ห้องนอน ขนาด 60-73 ตร.ม. ไปจนถึง 3 ห้องนอน ขนาดใหญ่ 169-296 ตร.ม./ยูนิต แล้วก็ยังมี “เพนท์เฮาส์และเพนท์เฮาส์ดูเพล็กซ์”
ขนาดเริ่มต้น 324 ตร.ม.
ไว้รองรับกลุ่มกำลังซื้อที่ชื่นชอบความหรูหรามีระดับอย่างมาก
ภายในมีสิ่งอำนวยความสะดวกส่วนกลาง
ได้แก่ สระว่ายน้ำและลานบาร์บีคิว ครัวส่วนกลางและพื้นที่รับประทานอาหารส่วนตัว
ห้องเด็กเล่นพร้อมสนามหญ้าที่อยู่ติดกัน สนามบาสเก็ตบอล พื้นที่ประชุมส่วนตัว
บริการตามสั่งของดุสิต เช่น แม่บ้าน บริการซักรีด และพนักงานอำนวยความสะดวกตลอด 24 ชั่วโมง จะช่วยยกระดับประสบการณ์การเข้าพักให้ดียิ่งขึ้น
ทั้งแขกและผู้อยู่อาศัยใน
ดุสิต สวีท คิงสแควร์ กรุงเทพฯ และคิง สแควร์ เรสซิเดนซ์ ยังได้รับประโยชน์จากการเข้าถึงแหล่งบันเทิง
ร้านอาหาร ศูนย์การค้า และศูนย์กลางธุรกิจย่านสาธร รวมทั้งอยู่ใกล้ทางด่วนเดินทางง่ายสะดวกด้วย
นางสาวศุภจี
กล่าวว่า รู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้ร่วมงานกับ บริษัท คิงสแควร์
ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด และ บริษัท คิงสแควร์ สวีท จำกัด จะได้นำวิสัยทัศน์ “ชุมชนแห่งความเมตตา”
สร้างแรงบันดาลใจให้เป็นจริง ในการบริหารโรงแรมดุสิต สวีท คิงส์สแควร์ กรุงเทพฯ
และ คิงส์สแควร์ เรสซิเดนซ์ จะไม่เพียงแต่มีห้องพักหรูหราสะดวกสบายเท่านั้น
แต่ยังเป็นสวรรค์ความสง่างาม การเชื่อมต่อระบบโลจิสติกส์ที่ดีด้วย
เรามุ่งมั่นจะสร้างชุมชนที่มีชีวิตชีวาให้ผู้อยู่อาศัยและแขกรู้สึกถึงความเป็นส่วนหนึ่งและความเป็นอยู่ที่ดีด้วยการผสมผสานการต้อนรับแบบไทยอันเป็นเอกลักษณ์ของดุสิตเข้าไว้ในพื้นที่เหล่านี้ทั้งหมด
นายจักรกฤษณ์
สันติรัตนกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท คิงสแควร์ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด กล่าวว่า ดุสิตมีความมุ่งมั่นด้านบริการอันยอดเยี่ยมสอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของกลุ่มที่สร้างชุมชนแห่งความเมตตาให้สมาชิกในครอบครัวสามารถใช้เวลาร่วมกันได้อย่างมีคุณภาพมากขึ้น
ด้วยความเชี่ยวชาญของทั้ง ดุสิต สวีท คิงส์ สแควร์ กรุงเทพฯ และคิงส์ สแควร์
เรสซิเดนซ์ จึงพร้อมจะสร้างมาตรฐานใหม่สร้างความหรูหรา ทำให้การใช้ชีวิตสะดวกสบาย หวังจะมอบคุณค่าอันโดดเด่นให้ลูกค้าและผู้พักอาศัยทุกคน
ข่าวที่สอง -รร.ม็อกซี่แบงคอกบูมขายปาร์ตี้/ไมซ์3แพกเกจเริ่ม900บาท
โรงแรม
“ม็อกซี่ แบงคอก ราชประสงค์” รายงานว่า ในฐานะโรงแรมแห่งแรกของไทยมีใหญ่ที่สุดในเอเชียแปซิฟิก
วางกลยุทธ์ส่งเสริมตลาดนำร่องเปิดตัวแพ็กเกจปาร์ตี้จัดเลี้ยง “Party
Like a Rockstar” เจาะกำลังซื้อกลุ่มบริษัทหรือองค์กรที่กำลังวางแผนและมองหาสถานที่เฉลิมฉลองสิ้นปีทั้งจัดงานเลี้ยงบริษัท
งานเลี้ยงขอบคุณพนักงาน งานสัมมนาเชิงกิจกรรม งานเอาติ้งบริษัท งานสังสรรค์สังคม
กิจกรรมไมซ์อย่างงานประชุมสัมมนานอกสถานที่ โดยชูจุดเด่นในม็อกซี่ด้วยพื้นที่กว้างขวางภายในและภายนอก
ออกแบบอย่างโดดเด่น ในร่มและระเบียงกลางแจ้งมองเห็นทิวทัศน์กรุงเทพฯ
เป็นแบ็คดรอปจัดงานสังสรรค์ที่ดีที่สุดอีกแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ
จึงได้เตรียมปฏิวัติวงการปาร์ตี้จัดเลี้ยงแนวใหม่นำเสนอแพ็กเกจเน้น
“อาหารและเครื่องดื่ม” ให้ลูกค้าได้เพลิดเพลินแบบไม่อั้นผสมผสานเมนูอาหารเอเชียและตะวันตก
รวมถึงเชฟปรุงสดนอกจากนี้ เพิ่มสีสันแต่ละแพ็กเกจโดยจะรวมดีเจหรือวงดนตรีสดแบบคู่ดูโอไปด้วย
มีให้เลือกหลากหลายพิเศษ 3 แพกเกจ ได้แก่
แพ็กเกจที่
1 ราคา 900 บาทสุทธิ/คน สามารถเพลิดเพลินกับน้ำอัดลมไม่อั้น 3 ชั่วโมง พร้อมเมนูอาหาร เรียกน้ำย่อย Meet Up 3
รายการ จานหลัก Hot & Spice 3 รายการ ขนมหวาน 3 รายการ และ สเตชั่น เชฟ ปรุงสด Chef’s live cooking station 1 รายการ
แพ็กเกจที่
2 ราคา 1,100 บาทสุทธิ/คน ดื่มด่ำกับเครื่องดื่มเบียร์และน้ำอัดลมไม่อั้น 3 ชั่วโมง พร้อมอาหาร เรียกน้ำย่อย Meet Up 4 รายการ จานหลัก
Hot & Spice 5 รายการ ขนมหวาน 4
รายการ และเชฟปรุงสด 1 รายการ
แพ็กเกจที่
3 ราคา 1,600 บาทสุทธิ/คน เสิร์ฟเครื่องดื่มไม่อั้น
เช่น น้ำอัดลม เบียร์ ไวน์ เครื่องดื่มไฮบอลตลอด 3 ชั่วโมง พร้อมอาหาร
เรียกน้ำย่อย Meet Up 5 รายการ จานหลัก Hot &
Spice 7 รายการ ขนมหวาน 5 รายการ และเชฟปรุงสด
1 รายการ
สำหรับ
“โปรโมชันปาร์ตี้และจัดเลี้ยง” อันน่าตื่นเต้นครั้งนี้ หน่วยงานต่าง ๆ
ที่จองใช้บริการจะต้องมีผู้เข้าร่วมงานละอย่างน้อย 30 คน จองได้ตั้งแต่วันนี้ถึง 15 ธันวาคม 2567
ทางโรงแรมจะเปิดให้ลูกค้าชมตัวเลือกเมนูและโปรโมชันอาหารและเครื่องดื่มล่าสุดของ
“ม็อกซี่ แบงค็อก ราชประสงค์” ผ่านทางลิงก์ หรือทางอีเมล moxy.bkkox.rsvn@moxyhotels.com
แชทผ่านไลน์ @MoxyBangkok หรือ www.moxybangkokratchaprasong.com
ติดตามฟังรายการได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์
เวลา 11.00-12.00 น.ทาง สวท.FM 97.0 MHz.
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น