สมฤดี จิตรจง
รองผู้ว่าการด้านตลาดในประเทศ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
ททท.ในประเทศจัดชุดใหญ่ปั๊มเที่ยวไทยเข้าเป้า 1.08ล้านล้าน
6เดือนแรกได้6แสนล้าน-ชูเสน่ห์ไทย5ภาคโกยเพิ่มอีกพันล้าน
ดันเที่ยวยั่งยืนโลว์คาร์บอนผ่าน45สนง.-บัสทัวร์-สมาคมTEATA
คิงเพาเวอร์จัดแล้วจัดต่อฟินฟันมันส์ทุกโมเมนท์เสาร์
24 ส.ค.
ช้อปดีลเด็ดคิงเพาเวอร์ออนไลน์ช้อปแจกแล้วแจกอีกรับ3ฟรี
พูลแมนคิงเพาเวอร์จัดโปรไทยเที่ยวไทย999บาทซื้อ 10แถม1
ททท.ดึงโรงแรม/แอร์ไลน์ขายแฟลชดีลเที่ยวไทยเติม300ล้าน
บางจาก-BBGIชู“ลดเผาเบาฝุ่น”นาข้าวภาคกลางลด PM
2.5
TCEBลั่นQ3ปี67นำไมซ์โกยแสนล้าน-ครึ่งปีหลังชิง3งานโลก
สุขทันทีเที่ยวไทยไปสุราษฎร์ธานีฟินทุกทีกทุกสไตล์ 7 พิกัด
5ผลไม้ช่วยให้นอนหลับ หลับปุ๋ย นอนสบายยาวถึงเช้าสุดชิว
บอร์ดAOTดูโมเดลสนามบินชางยีสิงคโปร์ปรับใช้ในไทย6แห่ง
ททท.ตะวันออกลุยจัดเที่ยวได้ทุกเจนก.ย.เร่งโกย 1.2 หมื่นล้าน
บอร์ดAOTดูโมเดลสนามบินชางยีสิงคโปร์ปรับใช้ในไทย6แห่ง
วันเสาร์ที่ 24 สิงหาคม 2567 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97MHz. ฟังทางfacebookLiveFM97.0 อ่านในwww.facebook.com/penroongyaisamsen #gurutourza #รวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97 #เพ็ญรุ่งใยสามเสน #เที่ยวกับกู๋ #KingPower #TAT #บางจาก #TCEB #เสน่ห์ไทย
ฟัง Live สดจากลิงค์นี้... https://www.facebook.com/share/v/XqicgF5kFShEnjGZ/?mibextid=oFDknk
ช่วงที่
1 สัมภาษณ์ !!
“นางสาวสมฤดี
จิตรจง” รองผู้ว่าการด้านตลาดในประเทศ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) 7 เดือนแรก “เที่ยวในประเทศ” ตุนรายได้เกือบ 6
แสนล้านบาท โต 12.44
% รอความหวัง Q4/67
แค่ไตรมาสมาสเดียวโกยเท่ากับ5เดือนแรกปีนี้ นำเที่ยวไทยเข้าเป้าแน่นอน 1.08
ล้านล้านบาท เปิดมหกรรมเที่ยวโค้งสุดท้ายด้วยงบกลางดัน
“เสน่ห์ไทย” 5 ภาค 5 จังหวัด
“เชียงใหม่/เหนือ-ขอนแก่น/อีสาน-กาญจนบุรี/กลาง-พัทยา/ตะวันออก-ขนอม/ภาคใต้”
จัดเบิ้ม ๆ 20-29 ก.ย.67 ปั๊มเพิ่มอีก 1,000 ล้านบาท เดินหน้าเข็นโครงการ
“เที่ยวยั่งยืนลดโลว์คาร์บอน” ขับเคลื่อนพร้อมกัน 3 ส่วน “ใช้ททท.45 สำนักงาน” โปรโมตเส้นทางทุกเว็บไซต์ จับมือ
“สมาคมTEATA”
โปรโมททัวร์โลว์คาร์บอน ผนึก “เกรท วอลล์ มอเตอร์” ขับรถ EV เที่ยวทั่วไทย
นางสาวสมฤดี
จิตรจง
รองผู้ว่าการด้านตลาดในประเทศ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า
สถานการณ์ตลาดท่องเที่ยวในประเทศช่วงครึ่งหลังปี 2567 ต่อเนื่องจากมกราคม-กรกฎาคม 2567 คนไทย 160.5 ล้านคน-ครั้ง เพิ่มขึ้น 8.88 % รายได้ 5.81 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 12.44 % อัตราเข้าพักเฉลี่ยทั่วประเทศ (OR
:Occupacy Rate) 73 % ถือเป็นตัวเลขดีมากเพราะคนเดินทางจำนวนมาก
ปริมาณฝนไม่มากถึงแม้จะเริ่มข่าวน้ำท่วมรอบนอกพื้นที่ท่องเที่ยวอยู่บ้าง
ที่ยังน่าเป็นห่วง “รายได้” เพราะไม่ได้พัฒนาแหล่งมากนัก โดยยืนเป้าหมายตลอดปีนี้เที่ยวในประเทศจะทำให้ได้
1.08 ล้านล้านบาท
โดยได้เร่งจัดกิจกรรม แคมเปญ ล่าสุดได้รับงบประมาณกลางปีมาทำโครงการ “เสน่ห์ไทย”
ช่วงไตรมาส 4 ปิดท้ายปีจะมีนักท่องเที่ยวเดินทางสูงกว่าทุกไตรมาสมาตลอด
“รายได้” เฉพาะไตรมาส 4 จะมีมูลค่ารวมกัน
2 ไตรมาสคือมกราคม-พฤษภาคม
ของทุกปี ตอนนี้มีปัจจัยจะต้องเกาะติดสถานการณ์อย่างใกล้ชิดสำหรับตลาดคนไทยคือ
ประเทศอื่น ๆ ก็ต้องการดึงดูดคนไทยไปเที่ยวต่างประเทศด้วยเช่นกัน
สถานการณ์ครึ่งปีหลัง
ตามปกติกราฟรายได้และจำนวนจะอยู่ในช่วงตกท้องช้าง แต่ก็ได้งบประมาณกลางมาเติมเป็น
“งบเสน่ห์ไทย” จึงวางแผนจัดงานช่วง 2 สัปดาห์สุดท้ายในเดือนกันยายน
2567 เนื่องจากจะต้องผ่านขั้นตอนการจัดซื้อจัดจ้างอย่างถูกต้อง
แล้วก็ต้องประเมินเรื่องปริมาณฝนจะตกน้อยหรือมากควบคู่กันไปด้วย
กิจกรรมประชาสัมพันธ์เสน่ห์ไทยจะจัดพร้อมกันทั่วประเทศ
แล้วก็ใช้กลยุทธ์การกระตุ้นใน “ภาคเดียวกัน”
เดินทางเข้าไปเที่ยวในพื้นที่เป้าหมายการจัดงานแต่ละจังหวัด
ททท.วางกลยุทธ์จัดงานเสน่ห์ไทยจัดครบ
5 ภูมิภาค
ประกอบด้วย “ภาคเหนือ” จัดที่เชียงใหม่ “ภาคใต้” จัดที่อำเภอขนอม จ.นครศรีธรรมราช
“ภาคอีสาน” จัดที่ขอนแก่น “ภาคกลาง” จ.กาญจนบุรี “ภาคตะวันออก” พัทยา จ.ชลบุรี
ตามที่ได้เสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) จะทำรายได้หมุนเวียนกระจายทั่วประเทศ 1,000
ล้านบาท
รูปแบบการจัดงาน “เสน่ห์ไทย” จะนำเสนอจุดขาย 5 Must Do in Thailand ชูเทศกาลดนตรี เพื่อดึงดูดคนไหลเข้ามาในงานให้ได้มากที่สุด ซึ่งแตกต่างจาก “วิจิตร 5 ภาค” เป็นงานตกแต่งประดับไฟสวยงาม กระจายจัด 5 ภาค 5 งาน
งานแรก “เสน่ห์ไทยพัทยา” ภาคตะวันออก จะจัด 2 ช่วง คือ 20-22 และ 27-29 กันยายน มีงานเทศกาลดนตรีแบ่งเป็น 2 สไตล์ ได้แก่ สไตล์แรก ดึงดูดคนรุ่นใหม่ สไตล์ที่สอง โรงแรมต่าง ๆ จัดดนตรีเพื่อให้คนสูงวัยได้ใช้บริการ
งานที่ 2 “เสน่ห์ไทยกาญจนบุรี” ภาคกลาง ใช้บริเวณโรงกระดาษเก่า อำเภอเมือง จะจัดระหว่าง 21-29 กันยายน ทำเป็นตลาดย้อนยุคยามเย็น พร้อมกับใช้ช่วงกลางวันจัดโปรแกรมพาเที่ยวฟรี
งานที่ 3 “เสน่ห์ไทยขนอม” ภาคใต้ 22-29 กันยายน เน้นไฮไลต์นำเสียงโลมาเอกลักษณ์เข้ามาสร้างสีสันเสริมเทศกาลดนตรี
งานที่ 4 “เสน่ห์ขอนแก่น อีสานม่วนซื่น” ภาคอีสาน วันที่ 25-29 กันยายน เน้นเทศกาลดนตรีหมอลำ ซึ่งมีชื่อเสียงโด่งดังเป็นที่รู้จักระดับประเทศและนานาชาติ
งานที่ 5 “มหกรรมเสน่ห์ไทยเชียงใหม่” จัดวันที่ 20-29 กันยายน ก็จัดกิจกรรมดนตรี ศิลปะ หัตถกรรม
ทุกงานในทุกพื้นที่จะเน้นให้ “ท้องถิ่น” มีรายได้ด้วยการเปิดพื้นที่ให้นำสินค้าชุมชน จัดกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการกระจายรายได้สู่ชุมชนอย่างแท้จริง
ขณะนี้ ททท.จะร่วมเอกชนเพื่อทำให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยวโดยรสบัส เสนอให้เอกชนผลิตโปรแกรมท่องเที่ยวโดยจะได้รับเงินสนับสนุนจาก ททท.คันละ 10,000 บาท ในการขายแพกเกจให้ได้คันละ 30 คน ซึ่งสามารถเดินทางเที่ยวเมืองหลักเชื่อมโยงสู่เมืองน่าเที่ยวในแต่ละภาครอบพื้นที่จัดงานได้
นางสาวสมฤดี กล่าวว่า โครงการกระตุ้นท่องเที่ยวในประเทศโครงการ “ท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน/ลดการปล่อยคาร์บอน”ขับเคลื่อน 3 ส่วนหลัก คือ ส่วนที่ 1 มอบหมายให้ สำนักงาน ททท.ทั่วประเทศ 45 แห่ง คัดเลือกเส้นทางในจังหวัดที่รับผิดชอบดูแลมาจัดวางไว้ในเว็บไซต์ของแต่ละสำนักงานไว้ ส่วนที่ 2 จับมือสมาคมการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์และผจญภัย (TEATA) เปิดขายเส้นทางโลว์คาร์บอน ส่วนที่ 3 ททท.จับมือกับธุรกิจเอกชน เช่น บริษัท เกรท วอลล์ มอเตอร์ GWM ปิดท้ายปีนี้อีก 1 เส้นทาง กรุงเทพฯ-สระบุรี-นครราชสีมา” วันที่ 14-15 กันยายน 2567 จะนำนักท่องเที่ยวขับรถยนต์ระบบไฟฟ้า (EV) ท่องเที่ยวตามเส้นทางดังกล่าว
ขณะเดียวกันก็มีอีก 1 โครงการ “Meet อุตรดิตถ์” นำอุตรดิตถ์จังหวัดน้องใหม่เข้ามาจัดงานในกรุงเทพฯ ตลอดงานก็จะนำเสนอการจัดงานแบบดูแลสิ่งแวดล้อม รักษ์โลก รวมทั้งททท.เพิ่งจัดเสร็จสิ้นไปเป็นงาน Green Festival 2024 อีกทั้งยังมีโมเดลตัวอย่างโครงการแต่ละภูมิภาค โครงการบัสทัวร์เป็นการเดินทางร่วมกันลดน้ำมันลงได้ ก็จัดอยู่ในหมวดลดใช้พลังงานและคาร์บอนไปด้วยได้เช่นกัน
วันอาทิตย์ที่ 25 สิงหาคม นี้ ททท.จะจัด “สวิง แดนซ์” ที่หัวลำโพง ต่อด้วย วันที่ 29 กันยายน นี้ จะไปจัดต่อเนื่องที่เยาวราช ที่ผ่านมามีต่างชาติเข้ามาร่วมสนุกด้วยเพิ่มขึ้นจำนวนมาก และอัดแน่นกิจกรรมที่ ททท.ทำร่วมกับพันธมิตรอย่างขับรถเที่ยวแวะโลตัสลุ้นรับทองคำ 1 ล้านบาท จับมือกับบัตรเครดิตเคทีซีจ่ายเงินเติมน้ำมันรถในปั๊ม ปตท.รับส่วนลดพิเศษ และอื่น ๆ
ฟังข่าวต้นชั่วโมง
ข่าวที่ 1-คิงเพาเวอร์จัดแล้วจัดต่อฟินฟันมันส์ทุกโมเมนท์เสาร์24ส.ค.นี้
กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ จัดแล้ว จัดต่อ “Weekend Possibilities :ฟิน แอนด์ ฟัน มันส์ทุกโมเมนท์” ที่ “คิง เพาเวอร์ รางน้ำ” เปิดพื้นที่ต้อนรับแฟนคลับให้กรี๊ดฟินได้ต่อเนื่องทุกวันหยุดสุดสัปดาห์ วันเสาร์นี้ 24 สิงหาคม 2567 พบกับ “สตางค์ -กิตติภพ เสรีวิชยสวัสดิ์” เวลา 16.00 น.แฟนคลับคนไทยและทุกสัญชาติเตรียมตัวลงทะเบียนรับคนละ 1 สิทธิ์ เพื่อเป็น 1 ใน 20 ผู้โชคดี เข้าร่วมกิจกรรมบนเวทีแบบใกล้ชิด และถ่ายภาพคู่กับศิลปิน หรือรับรูปศิลปินพร้อมลายเซ็นได้ในงาน
อิ่มฟิน!! ทุกวันเสาร์-อาทิตย์
และวันหยุดพิเศษ มีอัพเดตร้านใหม่ ๆ
ที่ได้รวบรวมร้านเด็ด ร้านดังจากย่านยอดนิยมรวมมาไว้ให้แล้วในบริเวณไทย
เทสต์ ฮับ ชั้น 3 คิง เพาเวอร์ รางน้ำ
ช้อปรับฟรี!! คูปองรับประทานอาหารภายในงานมูลค่า 100 บาท เมื่อมียอดซื้อสินค้าแต่ละวันครบ 5,000
บาทขึ้นไป / ใบเสร็จ รับเลยคนละ 1 สิทธิ์/วัน
มิวสิกมันส์!!
ทุกวันอาทิตย์ วันละ 3 เวลา
รอบแรก 13.00 น. รอบสอง 15.30 น. รอบสาม 18.00 น.วันอาทิตย์ที่ 25 สิงหาคม 2567 ฟินกับวง Tom & Jerry
กิจกรรม FUN
!! สนุกทุกโมเมนท์กับหลากหลายประสบการณ์ความสุข
เตรียมไว้รอต้อนรับทุกคนที่เดินทางมาใช้บริการ ตั้งแต่วันนี้ -31 สิงหาคม 2567 มีให้เลือก 3 กิจกรรม
ดังนี้
กิจกรรมที่ 1 จุ่มฟันกับกล่องสุ่ม ART TOY “ตัวแรร์” ตัวหายาก รวมไว้ให้แล้วตรงจุดกิจกรรม โซนสปอร์ต ชั้น 2 พร้อมรับฟรี! กล่องสุ่ม ART TOY 1 ชิ้น เพียงช้อปคิง เพาเวอร์ให้ครบ 8,000 บาทขึ้นไป (สุทธิ) / ใบเสร็จ
กิจกรรมที่ 2 สแนปฟินกับตู้ Photobooth The Powerpuff Girls สุดคิวท์ ณ จุด Member Service ชั้น 1 รับฟรี! ถ่ายรูปพร้อมพวงกุญแจกรอบรูปลวดลายสุดพิเศษมูลค่า 260 บาท เพียงสมัคร “สมาชิก คิง เพาเวอร์” บัตคร SCARLET ภายในวันที่ 31 สิงหาคม 2567 หากยังไม่ได้สมัครสมาชิกใหม่ก็สามารถมาสัมผัสความน่ารักแล้วถ่ายรูปเป็นที่ระลึกได้เช่นกัน
กิจกรรมที่
3 สนุกยกครอบครัวที่ KIDZONE
บริเวณฮอลล์เวย์ ชั้น 1 ทันทีที่ช้อปครบ 500 บาทขึ้นไป (สุทธิ) / ใบเสร็จ สามารถเลือกเพ้นท์สีตุ๊กตามิกกี้เมาส์และกระเป๋าผ้า
TOTE BAG จากเรื่อง FROZEN 2 สุดคิวท์ได้เลย
ข่าวที่ 2- ช้อปดีลเด็ดคิงเพาเวอร์ออนไลน์แจกแล้วแจกอีกรับทันที3ฟรี
คิง เพาเวอร์ ชวนทุกคนมาช้อป รับแล้ว รับได้อีก กับดีลเด็ด “คิง เพาเวอร์ ออนไลน์” 2 แคมเปญ ได้แก่
แคมเปญ แรก SPECIAL GIFT @ONLINE ONLY ช้อปดีลเด็ดทาง “คิง เพาเวอร์ ออนไลน์” ตั้งแต่วันนี้ไปจนถึงสิ้นเดือน 31 สิงหาคม 2567 กดช้อปด่วนแล้วทำตามเงื่อนไขได้ทันทีของแถมมากมาย ยิ่งช้อปยิ่งได้เมื่อมียอดซื้อสินค้าออนไลน์ครบครั้งละ 10,000 บาท (สุทธิ)
แคมเปญที่ 2 POWER YOUR HAPPINESS JOURNEY ช้อปลดสูงสุด 20% “ คิง เพาเวอร์ ออนไลน์” ยิ่งช้อปมากยิ่งเซฟเงินในกระเป๋าเพิ่ม เป็นมหกรรมเปิดประตูความสุขให้ช้อป “ขาออกประเทศ” อยู่ที่ไหนก็กดช้อปสบายทางออนไลน์เพื่อรับดีลสุดพิเศษ จัดไว้ให้สายครบจบที่เดียว ทั้งสายแฟ สายบิวตี้ สายกิน และอื่น ๆ เลือกได้ถึง 4 แบบ ได้แก่
แบบที่ 1 ลดสูงสุด 10% เมื่อช้อปครบ 3,000 บาท ด้วยรหัสส่วนลด 10AUG24
แบบที่ 2 ลดสูงสุด 15% เมื่อช้อปครบ 6,000 บาท ด้วยรหัสส่วนลด 15AUG24
แบบที่สาม ลดสูงสุด 20% เมื่อช้อปครบ 10,000 บาท
แบบที่สี่ รหัสส่วนลด 20AUG24
ทุกการช้อป “คิง เพาเวอร์ ออนไลน์” กับอีเวนต์ SPECIAL GIFT @ONLINE ONLY และ POWER YOUR HAPPINESS JOURNEY ช้อปเรียบร้อยแล้วรอรับของได้ที่สนามบินขาออกประเทศทุกแห่ง พร้อมของฟรีเพิ่มอีก 3 รายการ ดังนี้
ฟรีแรก !!รับส่วนลด 10% นำไปโปรแกรมตรวจเลือด BWC Antioxidants Plus ที่ BDMS เวลเนส คลินิก เข้าไปเก็บโค้ดส่วนลดได้ถึง 31 สิงหาคม แล้วนำไปใช้ได้จนถึง 15 กันยายน
ฟรีที่สอง!! รับผ้าคลุมกระเป๋า คิง เพาเวอร์ ขนาด 26 นิ้ว ลายสุดเอ็กซ์คลูซีฟ ของแถมพิเศษทั้งหมดนี้คิง เพาเวอร์แจกจนกว่าสินค้าจะหมด ช้อก่อนมีสิทธิ์รับก่อนทุกวัน
ฟรีที่สาม !! ของแถมจากแบรนด์ดัง เช่น ช้อปครบ 18,000 บาท 21-31 สิงหาคม รับฟรีผลิตภัณฑ์ดูแลผิวจากแบรนด์ชั้นนำ ลาแมร์ (La Mer) ของใช้จาก Giogio Armani หรือช้อปครบ 4,000 บาท รับผลิตภัณฑ์บิวตี้จากแบรนด์ NARS
ข่าวที่ 3-พูลแมนคิงเพาเวอร์จัดโปรไทยเที่ยวไทย999บาทซื้อ10แถม1
พูลแมน คิง เพาเวอร์ กรุงเทพ ในเครือของคิง
เพาเวอร์ มอบพิเศษสุดๆ ในงาน #ไทยเที่ยวไทย ครั้งที่
71! ราคาเริ่มต้นเพียง 999 บาทเท่านั้น! ระหว่างวันที่ 24-25 สิงหาคม 2567 ที่ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์
ยิ่งซื้อมากยิ่งได้มาก ซื้อ 10 ใบ รับฟรีอีก 1 ใบ หรือซื้อออนไลน์ได้แบบไม่ต้องไปงานก็ได้เช่นกัน คลิก bit.ly/TTT71voucher
พิเศษสุด!
รับส่วนลดเพิ่มเติมเมื่อซื้อบัตรกำนัลในงาน สิทธิพิเศษนี้เฉพาะสมาชิก King
Power และ Accor Plus เท่านั้น! รับคุ้มได้ถึง 3 รายการ
ดังนี้
1.อินเตอร์เนชั่แนล
แอนด์ ซีฟู้ด ดินเนอร์ บุฟเฟต์ ทุกวันพฤหัส-วันอาทิตย์ ราคา 1,867.50 บาทสุทธิ
(จากราคาปกติ 2,490 บาท)
2.เทนโกะ เอ็กซ์คลูซ๊ฟ
โอมากาเสะ ดินเนอร์ 12 คอร์ส ราคา 3,500 บาทสุทธิ
(จากราคาปกติ 4,500 บาท)
3.ป๊อบปูลาร์ ทรีตเมนท์
แอท เลอ สปา ดูแลสุขภาพ 60 นาที ราคาเพียง 1,250 บาทสุทธิ
และอื่นๆ อีกมากมาย
ข่าวที่
4-ททท.ดึงโรงแรม/แอร์ไลน์ขายแฟลชดีลเที่ยวไทยเติม300ล้าน
นางสาวสมฤดี จิตรจง
รองผู้ว่าการด้านตลาดในประเทศ (ททท.) เปิดเผยว่า
ททท.กระตุ้นท่องเที่ยวในประเทศช่วงเดือนสิงหาคม 2567 ทำโครงการ “ททท. 999 ไทยเที่ยวไทย Tourism
Department Store” สนับสนุนธุรกิจเอกชนชูคอนเซปต์ “Flash
Deal สุขทันที ที่เที่ยวหน้าฝน” ขายแพกเกจท่องเที่ยวราคาเดียว
999 บาท รวมทั้งหมด 20,000 สิทธิ์ ช่วยเอกชนท่องเที่ยวทั่วประเทศมีโอกาสได้นำเสนอสินค้าคุณภาพตอบโจทย์นโยบาย
5 Must Do in Thailand และออกแบบเส้นทางท่องเที่ยวใหม่ ๆ มั่นใจเป็นกิจกรรมส่งเสริมการตลาดร่วมกับพันธมิตรธุรกิจท่องเที่ยวกระตุ้นให้เกิดการเดินทางเที่ยวในประเทศต่อเนื่องช่วงกรีนซีซั่นได้จนถึงสิ้นปี
ช่วยสร้างรายได้ท่องเที่ยวทั้งทางตรงและทางอ้อมไม่ต่ำกว่า 300 ล้านบาท
ขณะนี้เปิดให้คนที่วางแผนเดินทางเที่ยวเมืองไทยตามจุดหมายปลายทางที่ชอบได้จากแพ็กเกจท่องเที่ยว
เปิดซื้อขายผ่าน
2 ช่องทาง หลัก คือ
ช่องทางแรก ซื้อตรงในงาน
“ไทยเที่ยวไทย” ครั้งที่ 71
ที่ บริษัท เอ็กซิบิชั่น แมเนจเมนท์ จัดขึ้น
เปิดให้ทุกคนเข้าร่วมฟรีโดยมีผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวมาออกบูธรวมกว่า 700 ราย
เริ่มแล้ววันนี้ 22 - 25 สิงหาคม 2567 ที่ฮอลล์ 5
ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โดย ททท.
จะมอบความพิเศษแจกกระเป๋าผ้า “สุขทันทีที่ เที่ยวหน้าฝน” เป็นของที่ระลึก 400 ใบ
ช่องทางที่ 2 ซื้อผ่านเว็บไซต์ tourismdepartmentstore.com หรือห้าง
ททท. 22 - 31 สิงหาคม 2567 ห้าง ททท. จัดวางสินค้าท่องเที่ยวไว้ในออนไลน์แยกตามประเภทสินค้าและบริการท่องเที่ยว
เป็น 7 ชั้น
ได้แก่ ชั้นที่ 1 พาหนะเดินทาง-บัตรโดยสารเครื่องบิน, ชั้นที่
2 ร้านอาหารและเครื่องดื่ม, ชั้นที่ 3 โรงแรม ที่พัก
รีสอร์ตและโฮมสเตย์, ชั้นที่ 4 ชอปปิงและของที่ระลึก ชั้นที่ 5
แหล่งท่องเที่ยวและกิจกรรมชุมชนท่องเที่ยว ชั้นที่
6 บริษัททัวร์ และชั้นที่ 7 โปรโมชั่นพิเศษซึ่งนำเสนอขายอยู่ในงานไทยเที่ยวไทย
ครั้งที่ 71 ด้วย
พร้อมทั้งมีตัวอย่างธุรกิจห้องพัก
โรงแรม ทั้งระดับท้องถิ่น และเชนขนาดใหญ่ ทั่วประเทศทั้ง 5 ภูมิภาค เข้าร่วมอย่างคับคั่ง รวมทั้งสายการบิน
ได้จัดทำตั๋วโดยสารเครื่องบินในเส้นทางต่าง ๆ วางขายตามคอนเซ็ปต์ราคาเดียว 999
บาท ดังนี้
“ภาคเหนือ” เช่น โรงแรมในเชียงใหม่
ได้แก่ 1.ไอบิส สไตล์ 2.ออนเซ็น แอท ม่อนแจ่ม 3.โรงแรมเมอร์เคียว
4.เชียงใหม่เกต
5.ดวงตะวัน 6.ม้งฮิลล์ไทร์ปล็อดจ์
ในเชียงราย เช่น โรงแรมม่อนฟ้าใส โฮม รีสอร์ท ในลำปาง เช่น ลำปางริเวอร์ลอดจ์ และโรงแรมทรีธารา
ในสุโขทัย
เช่น เทรเชอร์รีสอร์ท แอนด์ สปา , เลเจนด้า
สุโขทัย รีสอร์ท และเลอชาร์ม
สุโขทัย รีสอร์ท
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เช่น เขาใหญ่
ฟาร์ม วิลเลจ แอนด์ ฟาวเท่น ทรี รีสอร์ท นครราชสีมา,
โรงแรมเดอะพรรณราย อุดรธานี
ภาคตะวันออก เช่น โนโวเทล แบงค็อก
สุวรรณภูมิ สมุทรปราการ
ในพัทยาและชลบุรีก็มี โรงแรมรอยัลคลิฟฟ์พัทยา เบย์สเฟียร์โฮเทลพัทยา Heeton
Concept Hotel Pattaya โรงแรมเอเชีย
และ โกโฮเทลชลบุรี สวนไดโนเสาร์พัทยา,
Ripley's Believe It or Not! Pattaya มินิมูร่าห์ฟาร์ม ฉะเชิงเทรา, ผึ้งหลวงแคมป์กราวด์
รีสอร์ท ปราจีนบุรี โนโวเทลระยอง
สตาร์ คอนเวนชั่น เซ็นเตอร์ จังเกิลราฟท์
ภาคกลาง ส่วนใหญ่อยู่ในกรุงเทพฯ เช่น แอมบาสซาเดอร์ ,อิมพีเรียล โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท, โฮเทล โคลฟเวอร์ อโศก, พรีเมี่ยม ชูชิ แอนด์ ซีฟู้ด บุฟเฟต์ ดินเนอร์
แอท เดอะ เอมเมอรัลด์ คอฟฟี่ช้อป โรงแรมดิเอมเมอรัลด์, ซีฟู้ด อัลติเมท ห้องอาหาร
เดอะ สแควร์ โนโวเทล เพลินจิต สุขุมวิท ,
เดอะแกรนด์ ชูร์ราสโสบุฟเฟต์สไตล์บราซิล, โนโวเทล
กรุงเทพ ฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต, คีรียาสปาแอดลิทกรุงเทพ,
สวนสนุกดรีมเวิลด์, ฮารุ
ชูชิ บุฟเฟต์ เดอะ ศาลายา เลเชอร์ ปาร์ค นครปฐม, อสิตา อีโค รีสอร์ต สมุทรสงคราม,
ร็อค รีสอร์ท ราชบุรี, โฮมพุเตยริเวอร์แคว รีสอร์ท กาญจนบุรี , คำแสดริเวอร์แควรีสอร์ท
กาญจนบุรี, เขาโทนริเวอร์วิว รีสอร์ท กาญจนบุรี, เรือนแพ
ริเวอร์แคว
รวมทั้งในภาคกลางยังดูแลพื้นที่หัวหิน ชะอำ
ประจวบคีรีขันธ์ ก็มีผู้ประกอบการที่พักเข้าร่วมขายด้วย เช่น โกลเด้นบีช
ชะอำ, ฟูรามาเอ็กซ์คลูซีฟ
แซนดารา หัวหิน-ชะอำ, อาร์ เดอะ ไพรเวทหัวหิน , บลูมารีน
หัวหิน, ซันแดนซ์
เดย์คลับ หัวหิน,หัวหิน ไวท์ วิลล่า, ดอลฟิน เบย์ รีสอร์ต ประจวบคีรีขันธ์,
โรงแรมแอทที บูทีค ประจวบคีรีขันธ์, โรงแรมยู
ภาคใต้ เช่น สปาทรีตเมนต์ วานา เบลล่า ,
อะ ลักชัวรี่ คอลเลคชั่น รีสอร์ต เกาะสมุย,
ทรายแดงสปา
ทรายแดง รีสอร์ท เกาะเต่า, เบสต์ บัดเจ็ท โฮเทล เกาะสมุย,
เลิฟ อันดามันภูเก็ต,
โปรแกรมนวด ฟิวชั่น สวีต ภูเก็ต ป่าตอง ,ภูเก็ตเดสติเนชั่น , โรงแรมแคนทารี
เบย์ ภูเก็ต, อวานิ พลัส
เขาหลัก รีสอร์ต , พีซ ฮิล
รีสอร์ต ภูเก็ต, โรงแรมแคนทารี
บีช เขาหลัก พังงา, ดุสิต ปริ๊นเซส
พัทลุง
ขณะที่ “สายการบิน” ก็มี ไทยไลอ้อนแอร์ นกแอร์ เวียตเจ็ท “บริการรถเช่า” มี บัดเจ็ท คาร์ แอนด์ ทรัค เรนทัล กับเอวิส เรนต์ อะ คาร์
ข่าวที่ 5-บางจาก-BBGIชู“ลดเผาเบาฝุ่น”นาข้าวภาคกลางลดPM
2.5
นางกลอยตา
ณ ถลาง รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ งานบริหารความยั่งยืนและสื่อสารองค์กร บริษัท
บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) และ นายกิตติพงศ์ ลิ่มสุวรรณโรจน์
ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บีบีจีไอ จำกัด (มหาชน)
หรือ บีบีจีไอ ร่วมหารือกับนายพีรพันธุ์ คอทอง อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร
ผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ของกรมฯ เพื่อเตรียมประสานงานหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง
เพื่อดำเนินโครงการ “ลดเผา เบาฝุ่น”
ด้วยการใช้จุลินทรีย์ย่อยสลายตอซังและฟางข้าวในพื้นที่นาข้าวนำร่องในภาคกลาง
เพื่อลดปัญหาการเผา ซึ่งก่อให้เกิดมลภาวะและฝุ่น PM 2.5 โดยจะมีการติดตามผลลัพธ์ต่าง ๆ เป็นระยะเวลา 3 ปี
โครงการ
“ลดเผา เบาฝุ่น”
เป็นการนำนวัตกรรมจุลินทรีย์ที่มีคุณภาพที่บีบีจีไอได้พัฒนาสูตรให้เหมาะสมกับความต้องการของเกษตรกร
เพื่อลดการเผาตอซังและฟางข้าว
เป็นโครงการที่ได้รับสิทธิประโยชน์จากมาตรการลงทุนเพื่อสังคมและชุมชนจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน
โดยการใช้จุลินทรีย์ที่สามารถย่อยสลายตอซังและฟางข้าวได้ภายใน 7 วัน มีกลิ่นน้อย
และไม่ก่อให้เกิดมลภาวะทางน้ำ ในเบื้องต้นได้มีการทดสอบประสิทธิภาพ
ได้ผลเป็นที่น่าพอใจ
ทั้งในห้องทดลองปฏิบัติการและทดลองภาคสนามกับพื้นที่ของเกษตรกรในจังหวัดต่าง ๆ
ในพื้นที่ภาคกลาง ซึ่งบางจากฯ และบีบีจีไอ ร่วมกับกรมส่งเสริมการเกษตร
จะประสานงานกับหน่วยงานราชการต่าง ๆ
ที่เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินการโครงการนำร่องในเร็ว ๆ นี้
ข่าวที่
6-TCEBลั่นQ3ปี67นำไมซ์โกยแสนล้าน-ครึ่งปีหลังชิง3งานโลก
นายจิรุตถ์
อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ
(องค์การมหาชน) “TCEB” เปิดเผยว่าทีเส็บเร่งขับเคลื่อนอุตสาหกรรมไมซ์ครึ่งปีหลัง
2567 กระตุ้นตลาดไมซ์ให้สอดคล้องตามเป้าหมายปีงบประมาณ 2567
(ตุลาคม 2567-30 กันยายน 2567) จะต้องสร้างรายได้เข้าสู่ระบบเศรษฐกิจประเทศให้ฟื้นกลับมาเติบโตอย่างรวดเร็ว
ระหว่างนี้ร่วมกับทุกฝ่ายเร่งเดินหน้าทุกโครงการทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งแต่ละตลาดมีสัญญาณที่ดีเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
ช่วงไตรมาสที่ 3 ปีงบประมาณ 2567
คาดการณ์จะสร้างมูลค่ารายได้รวม 109,669 ล้านบาท จำนวน 18
ล้านคน จากไมซ์ต่างประเทศ 52,980 ล้านบาท
จำนวน 894,584 คน และไมซ์ในประเทศ 56,689 ล้านบาท จำนวน 17,125,343 คน
เริ่มด้วย
“ตลาดไมซ์ประเทศ” เพิ่มความเข้มข้นโครงการ “ยกทีมประชุม รุมรักเมืองไทย” กระตุ้นหน่วยงาน
องค์กร ภาครัฐ เอกชน
หันมาใช้จ่ายเงินจัดงานประชุมภายในประเทศต่อเนื่องตลอดทุกเดือนจนปิดโครงการวันที่ 30 พฤศจิกายน 2567 หลังเปิดตัวโครงการให้ลงทะเบียนเข้าสู่เดือนที่สามผู้ประกอบการทุกภาคส่วนสนใจเข้าร่วมระหว่างมิถุนายน-กลางเดือนสิงหาคม
2567 เกิน 4,000 คน จาก 3 กลุ่มหลัก ประกอบด้วย
กลุ่มที่
1 “ผู้ซื้อ”
บริษัทเอกชน สถาบันการศึกษา/สมาคม บริษัทในตลาดหลักทรัพย์ SMEs/Start Ups
กลุ่มที่
2 “ผู้ขาย”
ก็มีสถานที่จัดงาน ออร์แกไนเซอร์ บริษัทตัวแทนจัดการเดินทางและท่องเที่ยว (DMC) อาหารเครื่องดื่ม วิทยากร ร้านค้า สินค้า โลจิสติกส์
หน่วยงานเกี่ยวข้องอื่น ๆ
กลุ่มที่
3 หน่วยงานพันธมิตร
ที่เกี่ยวข้องกับแคมเปญ เช่น
องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (อพท.)
สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) เครือข่ายคนไทยไร้พุง
หอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
สมาคมโรงแรมไทย สมาคมไทยธุรกิจท่องเที่ยว (ATTA)
สมาคมธุรกิจท่องเที่ยวภายในประเทศ (สทน.)
ด้าน
“ตลาดไมซ์ต่างประเทศ”
ทีเส็บกับพันธมิตรที่เกี่ยวข้องร่วมมือกันนำงานระดับโลกมาไทยอย่างน้อย 6 งาน ประกอบด้วย
“งานที่ประเทศไทยกำลังเสนอชื่อ”
เข้าร่วมประมูลแข่งกับประเทศอื่น ๆ เพื่อผลักดันให้ไทยเป็นเจ้าภาพจัด 3 งานระดับโลก ได้แก่
งานที่
1 Formula
E Race in Chaing Mai 2025 การแข่งขันรถยนต์สมัยใหม่ด้วยพลังงานไฟฟ้า
ซึ่งไทยพร้อมเสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดปี 2568 ที่สนามกีฬา 700
ปี จ.เชียงใหม่ จัดต่อเนื่อง 2 วัน
จะสามารถดึงผู้ชมและผู้เกี่ยวข้องจากทั่วโลกเข้าร่วมได้กว่า 10,000 คน สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจกว่า 4,000 ล้านบาท
งานที่
2 Formula 1 Race in Bangkok 2027 ประเทศไทยกำลังศึกษาความเป็นไปได้จะเป็นเจ้าภาพจัดแข่งขันรถสูตรหนึ่งหรือ
F1 : Formula One ปี 2570 จัดต่อเนื่อง 4 วัน คาดจะมีผู้เข้าร่วมราว 300,000
คน สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจราว 12,007 ล้านบาท
งานที่ 3 ตั้งเป้าจะประมูลสิทธิ์เป็นเจ้าภาพจัดงาน InterPride World Conference 2025 กับงาน World Pride 2030 ทีเส็บจะร่วมกับหน่วยงานในไทยดึงงานมาจัดในปี 2573 โชว์ศักยภาพส่งเสริมการสร้างความเท่าเทียมและความหลากหลายทางเพศแก่คนทั่วโลก
ช่วงที่ 2 เที่ยวไทยไป “สุราษฎร์ธานี” ปักหมุดให้แล้ว ฟินทุกที ชีวิตดี๊ดีทุกแห่ง
กับ 7 พิกัด ทะเล หาดทราย ป่าธรรมชาติ วัด วิถีชุมชน
ไปถิ่นอันซีน กุ้ยหลินเมืองไทย เขาขาในหลวง คลองร้อยสาย และอีกเพียบ
แล้วรีบฟังด่วน “5ผลไม้ตัวช่วยแก้นอนไม่หลับ”
ตามด้วยข่าวฮ็อต ๆ ข่าวแรก “บอร์ด AOT”
ลุยดูโมเดลชางยีสิงคโปร์มาปรับใช้ในไทย6สนามบิน ข่าวที่สอง
“ททท.ตะวันออก” จัดทริปเที่ยวได้ทุกเจน ก.ย.นี้เร่งปั๊มรายได้ 12,000 ล้านบาท
ท่องเที่ยว
–สุขทันทีเที่ยวไทยไปสุราษฎร์ธานีฟินทุกทีกทุกสไตล์
7
พิกัด
เที่ยวไทยในทุกโมเมนท์ที่ใช่แล้วจะ “สุขทันทีที่...เที่ยวสุราษฎร์ธานี
” เตรียมลากกระเป๋าเดินทาง ไปอาบธรรมชาติในเมืองที่ได้ชื่อว่ามีเกาะมากเป็นอันดับ 3 ของประเทศ
ด้วยสภาพภูมิประเทศของ
“จังหวัดสุราษฎร์ธานี” ตั้งอยู่ในฝั่งตะวันออกของภาคใต้ มีหลากหลายทั้งที่ราบสูง พื้นที่ราบชายฝั่ง ครอบคลุมอ่าวไทย ทั้งบริเวณพื้นที่ทะเลและเกาะขนาดใหญ่และเล็กมากที่สุดเป็นอันดับ 3 ของประเทศ อุดมสมบูรณ์ไปด้วยพืชผัก ผลไม้ รวมถึงวัตถุดิบทางทะเลสดใหม่
แถมยังเป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวยอดนิยม ชวนไปฟินด้วยกันใน 7 พิกัด
พิกัดที่
1 เขื่อนรัชชประภา หนึ่งใน Unseen New
Chapters และเจ้าของฉายา
“กุ้ยหลิน” เมืองไทย หากได้มาสัมผัสความสวยงามของธรรมชาติสวยทุกมุม สงบร่มเย็น
เข้าถึงง่าย พักผ่อนชาร์จพลังได้ดีจริง ๆ
พิกัดที่
2 อุทยานธรรมเขานาในหลวง โดดเด่นด้วมซุ้มประตูขนาดใหญ่
เป็นแลนด์มาร์กแชะแชร์รูปของนักท่องเที่ยวเมื่อมาถึงต้องได้โพสต์ท่ากันทุกคน เดินขึ้นไปด้านบนมี “พระพุทธศิลาวดี”
บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ กับ “เจดีย์ลอยฟ้า” อีกหลายองค์ ให้สักการะขอพร
พิกัดที่
3 ตลาดศาลเจ้า เป็นตลาดเก่าแก่คู่บ้านคู่เมือง จะเปิดให้เข้าไปเดินชมช่วงบ่าย แล้วก็ปิดช่วงค่ำ ๆ
ร้านค้าเก่าแก่ส่วนใหญ่เน้นขายของกินเป็นหลักอยู่คู่ตลาดมานาน
ทำอาหารถิ่น รสชาติอร่อย เมนูไม่ซ้ำกัน
แถมราคาสบายกระเป๋าอีกด้วย
พิกัดที่
4 สะพานแขวนเขาเทพพิทักษ์ หนึ่งในสะพานขึงสลิงขนาดใหญ่บนภูเขาสูงตระหง่าน
ส่วนที่ตั้งด้านหลังสะพานจินตนาการรูปร่างคล้ายรูปหัวใจ เป็นจุดชมทัศนียภาพงดงาม ทอดตัวข้ามลำธารกับป่าไม้เขียวขจี
มาเยี่ยมสักครั้งรับอรรถรสฟินสูงเสียดฟ้ามีอยู่จริง
พิกัดที่
5 ป่าต้นน้ำ “บ้านน้ำราด” แหล่งท่องเที่ยวอันซีนอีกแห่งในเมืองสุราษฎร์ธานี
เป็น “บ่อน้ำกลางผืนป่าใหญ่” สีฟ้าใสมองเห็นพื้นทรายด้านล่าง สามารถลงไปเล่นน้ำได้
พื้นที่แถบเป็นป่าต้นน้ำอันอุดมสมบูรณ์
หล่อเลี้ยงชาวชุมชนรอบบริเวณได้กินใช้ชีวิตอย่างมีความสุข
พิกัดที่
6 วัดพระบรมธาตุไชยาราชวรวิหาร เป็น 1
ใน 3 โบราณสถานศักดิ์สิทธิ์ที่เคารพบูชาของภาคใต้ เป็นปูชนียสถานที่สำคัญประจำจังหวัด รวมทั้งเป็นสถานที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ สถาปัตยกรรมสวยงาม
เปิดต้อนรับนักท่องเที่ยวสายบุญ สายศรัทธา แวะมาได้ทุกวัน
พิกัดที่
7 “คลองร้อยสาย-บางใบไม้” สถานที่ท่องเที่ยวล่องเรือชมหิ่งห้อยท่ามกลางป่าชายเลนบริสุทธิ์ ไปพร้อม
ๆ กับชมบ้านโบราณเก่าแก่เก็บรักษาไว้เป็นอย่างดี และนมัสการหลวงพ่อข้าวสุกที่วัดบางใบไม้ ชุมชนแห่งนี้ใช้ชีวิตสุดแสนจะธรรมดาสัญจรไปมาโดยใช้เรือเป็นพาหนะหลัก
นักท่องเที่ยวสามารถมาสัมผัสความสุขแบบเรียบง่ายแห่งวิถีประมงพื้นบ้าน
มีกิจกรรมให้ทำในชีวิตประจำวันมากมาย
โดยนักท่องเที่ยวจะได้ชมการสาธิตการทำหัตถกรรมกะลามะพร้าว ผักตบชวา เขียนผ้าบาติก
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
(ททท.) สำนักงานสุราษฎร์ธานี ชวนมาปักหมุดเที่ยวได้ทั้ง 7 พิกัด โดยได้ร่วมเอไอเอส
ชวนสมาชิกมาตะลอนทัวร์ได้ตลอดปีทั้ง 365
วัน
สุขภาพ
–5ผลไม้ช่วยให้นอนหลับ หลับปุ๋ย นอนสบายยาวถึงเช้าสุดชิว
ผู้ที่ที่กำลังมีปัญหา “นอนไม่หลับ-นอนหลับยาก-นอนหลับไม่สนิท”
สาเหตุอาจจะมาจากความเครียดต่าง ๆ ทำให้นอนไม่หลับ จึงขอแนะนำตัวช่วยนอนหลับ 5
ผลไม้ หลับปุ๋ยสบายได้จนถึงเช้า ได้แก่
1.กล้วยหอม -เป็นผลไม้ที่มีแมกนีเซียมสูงมาก
จึงสามารถช่วยลดความตึงเครียดของกล้ามเนื้อ
อีกทั้งยังช่วยแก้อาการนอนไม่หลับเพราะมีกรดอะมิโนและทริปโตเฟนที่จะช่วยคลายเครียดและรู้สึกผ่อนคลายขึ้นจึงทำให้นอนหลับสบายตลอดคืน
2.กีวี-จะช่วยทำให้นอนหลับง่ายขึ้น
เพราะกีวีมีสารเซโรโทนินที่ช่วยให้นอนหลับสบายตลอดทั้งคืน
เพราะจะไปช่วยคลายความเครียด ลดความวิตกกังวลต่างๆ ได้
3.มะเฟือง -ผลไม้ไทยๆอย่างมะเฟืองอุดมไปด้วยวิตามินมากมาย
มีฤทธิ์กล่อมประสาท ช่วยคลายความเครียด และช่วยทำให้นอนหลับสบายอีกด้วย
เพียงแค่กินมะเฟืองเพียง 1 ผล หรือคั้นน้ำมะเฟืองโดยดื่มก่อนนอน
ก็จะช่วยแก้เครียดทำให้ผ่อนคลายนอนหลับสบายมากขึ้น
4.เชอร์รี่ -มีสารเมลาโทนินจึงช่วยให้นอนหลับสบายตลอดทั้งคืน
เพราะจะไปช่วยคลายความเครียด ลดความวิตกกังวลต่างๆได้
อีกทั้งยังช่วยลดอาการซึมเศร้าได้ดีอีกด้วย
5.เสาวรส -แม้จะมีรสชาติเปรี้ยวแต่สามารถช่วยทำให้นอนหลับสบายขึ้นเพราะเสาวรสมีสารเซโรโทนินซึ่งเป็นสารที่มีหน้าที่ควบคุมการนอนหลับ
ช่วยลดความเครียดและอาการซึมเศร้า เมื่อกินเสาวรสแล้วจึงทำให้ร่างกายหลับง่ายขึ้น
เพียงแค่ดื่มชาเสาวรสก็ช่วยให้นอนหลับสบายขึ้นแล้ว
ลองไปหามารับประทานกันดู
อาจจะช่วยปัญหาเรื่องการนอนไม่หลับให้ดีขึ้นได้
ซึ่งเป็นผลไม้ที่หาได้ไม่ยากมีขายทั่วไป
ฟังข่าวท้ายชั่วโมง
ข่าวแรก
–บอร์ดAOTดูโมเดลสนามบินชางยีสิงคโปร์ปรับใช้ในไทย6แห่ง
พลตำรวจเอก วิสนุ ปราสาททองโอสถ ประธานกรรมการ บริษัท ท่าอากาศยานไทย
จำกัด (มหาชน) “AOT/ทอท.” เปิดเผยว่า นำคณะกรรมการ (บอร์ด) บริษัท พร้อมผู้บริหารมี ดร.กีรติ กิจมานะวัฒน์
กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ AOT และผู้บริหารที่เกี่ยวข้อง
เดินทางไปศึกษาดูงานที่ท่าอากาศยานชางจี สิงคโปร์ ด้านคุณภาพงานบริการผู้โดยสารชั้นนำของเอเชีย
เพื่อนำมาปรับใช้พัฒนาศักยภาพท่าอากาศยานที่อยู่ในความดูบริหารจัดการของ AOT
ทั้ง 6 แห่ เพิ่มความสะดวกสบาย รวดเร็ว
ส่งมอบประสบการณ์การเดินทางที่ดีให้แก่ผู้โดยสารทุกคนทั้งคนไทยและนานาชาติทั่วโลก
โดยให้
AOT ศึกษาดูงานท่าอากาศยานชางยี สิงคโปร์ 3 ส่วนหลัก ได้แก่ ส่วนที่ 1 การบริการลูกค้าที่เป็นเลิศ
(Customer Service Excellence) ส่วนที่ 2 นวัตกรรมและระบบเทคโนโลยีกระบวนการผู้โดยสารขาเข้าและขาออก (Innovation
and Technology) ส่วนที่ 3 โครงการพัฒนาท่าอากาศยานฝั่งตะวันออก
(Changi East Development Project)
พร้อมกับเดินทางเข้าเยี่ยมคารวะและแสดงความยินดีกับ Mr. Yam Kum Weng ในโอกาสเข้ารับตำแหน่ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร
(CEO) ของชางยี แอร์พอร์ต กรุ๊ป อย่างเป็นทางการ
@ชางยีพัฒนาจุดขายได้มากกว่าสนามบินเป็นแหล่งท่องเที่ยวด้วย
ท่าอากาศยานชางยี
หรือ Changi Airport ของสิงคโปร์มีชื่อเสียงโด่งดังด้านสถาปัตยกรรมและบริการทันสมัยครบวงจรซึ่งเป็นมากกว่าศูนย์กลางการบินระดับโลกที่ได้รับรางวัลมากมายต่อเนื่องทุกปีแล้ว
ยังสามารถพัฒนาเป็นสถานที่ท่องเที่ยว มีกิจกรรมน่าสนใจ ร้านอาหารนานาชาติ บันเทิง
และร้านค้าแหล่งช้อปปิ้งมากมาย
ภายใต้หลังคาเดียวกัน ออกแบบให้มีอาคารผู้โดยสาร
4 แห่ง กับ จูเวลชางยี (Jewel Changi)
ศูนย์ไลฟ์สไตล์ 10 ชั้น จุดชมวิวยามค่ำคืนสุดตระการตาของ
ชิเชโด ฟอเรสต์ วัลเล่ย์ กับ เฮชเอสบีซี เรน วอร์เท็กซ์ พื้นที่แห่งนี้เชื่อมต่อกับอาคารผู้โดยสาร 1, 2 และ 3
รวมพื้นที่งานศิลปะ สถาปัตยกรรม ธรรมชาติอันบริสุทธิ์ รวมอยู่ด้วยกันอย่างลงตัว
ภายในอาคารผู้โดยสารท่าอากาศยานชางยี
จะมีแลนด์มาร์คประจำแต่ละหลังสร้างความตื่นตาตื่นใจให้นักท่องเที่ยวในมิติแตกต่างกันไป
เริ่มตั้งแต่โซนน้ำตกในร่มสูง 40 เมตร ล้อมด้วยพรรณไม้เขตร้อนชื้นและต้นไม้กว่า
2,000 ต้น ที่อาคารผู้โดยสาร
1 มีสวนตะบองเพชรหรือแคคตัสและพืชทนแล้งจัดแสดงไว้กว่า 100 สายพันธุ์ อาคารหลังที่ 2 มีทุ่งทานตะวันสวยงาม
อาคารผู้โดยสารหลังที่ 3 มีกับสวนผีเสื้อตระการตา
สำหรับ
“นักเดินทางเป็นครอบครัว” มี แฟมิลี่โซน อยู่ในอคารผู้โดยสารหลังที่ 2 ส่วนอาคารหลังที่ 1 ก็มีสนามเด็กเล่นในร่มไว้บริการด้วย
ที่อาคารผู้โดยสารหลังที่ 4 จะมี “เอนเทอร์เทนเมนต์
คอร์เนอร์ให้เด็กได้เพลิดเพลินสนุกสนานกับเกม Xbox Kinect กับเครื่องเล่นเกมรุ่นเก่า หรือดูหนังก็มีโรงภาพยนตร์
ก็มี 2 โรงในผู้โดยสาร 2 และ 3 ชั้นบนสุดจูเวลสามารถพาครอบครัวไปเดินเล่นในโซน
Canopy Park ชมวิวสวย ๆ พื้นที่กว่า 14,000 ตารางเมตร
ข่าวที่สอง -ททท.ตะวันออกลุยจัดเที่ยวได้ทุกเจนก.ย.โกย1.2หมื่นล้าน
นายสมชาย
ชมภูน้อย ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคตะวันออก
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า นำ ททท.ภาคตะวันออก 6 สำนักงาน ร่วมกับเอกชนเปิดตัวกิจกรรม All In One ตะวันออก
“เที่ยวได้ทุกเจน ฟินได้ทุกวัย” ทำแคมเปญ “เที่ยวที่ใช่
ออกไปทำกิจกรรมที่ชอบกับสุดที่รัก”
โดยเชิญชวนผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวและสื่อ 5 ภูมิภาค ร่วมคาราวานแรลลี่ท่องเที่ยวแบบ
กรีน โร้ด ทริป สำรวจเส้นทางท่องเที่ยว สินค้าและบริการภาคตะวันออก 9 เส้นทาง
และเปิดเจรจาธุรกิจระหว่างผู้ซื้อและผู้ขาย พร้อมกับแถลงทิศทางการดำเนินงานส่งเสริมการตลาด ช่วงระหว่างวันที่ 3 – 10 กันยายน 2567 มุ่งเจาะตลาดนักเดินทาง
4 Gen ได้แก่ Gen B, Gen X, Gen Y และ Gen
Z
ททท.มั่นใจด้วยศักยภาพของภูมิภาคตะวันออกการจัดกิจกรรมกระตุ้นท่องเที่ยวช่วงโค้งสุดท้ายปลายปีงบประมาณ
2567 คาดเดือนกันยายน 2567 จะมีนักท่องเที่ยวและผู้เยี่ยมเยือนเข้าพื้นที่ไม่ต่ำกว่า
3.8 ล้านคน - ครั้ง ทำรายได้สะพัดเกิน 12,000 ล้านบาท
รวมทั้งจะใช้แคมเปญ
“เที่ยวได้ทุกเจน ฟินได้ทุกวัย” เปิดการท่องเที่ยว 9 เส้นทาง ด้วยธีม “คัลเลอร์ฟูลบูรพา : ยืนหนึ่งเรื่องกิน สุดฟินเรื่องเที่ยว เต็มเหนี่ยวสายศรัทธา
เรียนรู้เรื่องรักษ์” แล้วจัดคาราวานแรลลี่ท่องเที่ยวมุมลับและ กรีน โร้ด ทริป Green
Road Trip เจาะตลาด 4 Gen โดยเฉพาะกลุ่ม Gen B หรือนักท่องเที่ยววัยเก๋า (Baby Boomer) ซึ่งถือเป็นกลุ่มคุณภาพที่ได้เปรียบเพราะมีเวลาเดินทางได้ตลอดและมีเงินใช้จ่ายสูง
สำหรับกิจกรรม
All In One ตะวันออก“เที่ยวได้ทุกเจน ฟินได้ทุกวัย” ททท.เตรียมมอบความสนุกกับคาราวาน
กรีน โร้ด ทริป ระหว่าง 3 – 10 กันยายน 2567 ประกอบด้วย กิจกรรมที่ 1 ออกแบบเส้นทาง
พร้อมโปรโมชั่นสินค้าและบริการให้เหมาะกับผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยว 5 ภูมิภาค
เดินทางได้จริงทุกเจนเนอเรชั่น
สอดคล้องตามแนวคิด
5 Must Do in
Thailand ทั้ง 9 เส้นทาง ใน 9
จังหวัด ประกอบด้วย เส้นทาง 1 : มหานครผลไม้ “อร่อยทุกไร่ชิมไปทุกสวน”
เส้นทาง 2 : สุขทันที ที่เที่ยวตะวันออก “Happy Model บูรพา” ร่วมกับ YEC (หอการค้าไทย) เส้นทาง 3 : ยกก๊วนชวนตี “กอล์ฟคัลเลอร์ฟูลบูรพา” เส้นทาง 4 : เที่ยวทะเลหวานตะวันออก
“ดำน้ำเที่ยวทะเลหวานตะวันออก” เส้นทาง 5 : สี่ขาพาตะลุย (เที่ยวกับสัตว์เลี้ยง)
“พาสุดที่รักเที่ยวตะวันออก”
เส้นทาง
6 : Sport Tourism “กีฬาชายฝั่งตะวันออก”เช่น วิ่งมาราธอน วิ่งบิกินี่รัน แข่งรถยนต์ทางเรียบ
ฯลฯ เส้นทาง 7 : การท่องเที่ยวเพื่อคนทั้งมวล (Tourism For All) “วัยเก๋ายกก๊วนชวนเที่ยวตะวันออก” เส้นทาง 8 : เที่ยวผจญภัยหน้าฝน
“ล่องแก่ง น้ำตก ล่องเรือ ตะวันออก” เส้นทาง 9 : เที่ยวค้นหามุมลับ “9 จังหวัด 9
มุมลับตะวันออก”
จากนั้นวันที่ 9 กันยายน 2567 จัดกิจกรรมส่งเสริมการขายเปิดให้เจรจาธุรกิจระหว่างผู้ซื้อและผู้ขายกับ 5 ภูมิภาค พร้อมกับแถลงทิศทางการดำเนินงานส่งเสริมการตลาดของ ททท.ภูมิภาคภาคตะวันออกทั้ง 6 สำนักงาน ได้แก่ พัทยา ระยอง จันทบุรี ตราด ฉะเชิงเทรา และนครนายก ที่ศูนย์ฝึกอบรมการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย บางแสน (ศอท.) จังหวัดชลบุรี
ติดตามฟังรายการได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์
เวลา 11.00-12.00 น.ทาง สวท.FM 97.0 MHz.
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น