ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

TCEBครึ่งปีหลัง67ลุย3บิ๊กโปรเจกต์โร้ดโชว์อินเดียโกย4พันล้าน

 


จิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา

ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) 


TCEBใส่เกียร์ลุยตลาดไมซ์ครึ่งปีหลัง3บิ๊กโปรเจกต์

โรดโชว์อินเดีย“มุมไบ-กัลกัตตา”โกยทันที4,000ล้าน

เจาะWeddingดึงมหาเศรษฐีหอบเงินจัดแต่งงานไทย

คิงเพาเวอร์JOYให้สุดที่สุวรรณภูมิรับคุ้มคูณ2/รับของขาออก

เสาร์ที่10ส.ค.เจอกันที่คิงเพาเวอร์รางน้ำฟินกับวินนี่-ธนวินท์

“คิงเพาเวอร์มหานคร”จัด3อีเวนต์วันแม่/ขึ้นสกายวอล์คฟรี

ททท.ผนึกLINEShopจัด365วันเมืองน่าเที่ยวแจกโปร11บาท

บางจากครึ่งปี’67โกยรายได้2.9แสนล้าน/ยอดการกลั่นพุ่ง

TCEBภาคกลางรุกจัดเครือข่ายธุรกิจไมซ์เชื่อมโยงข้ามภาค

เที่ยวเหนือแนวใหม่“คำ-ธรรม-นาย”เชียงใหม่เชียงราย9+9วัด

8อาหารกินแล้วช่วยลดอาการไข้ลดอุณหภูมิในร่างกายที่ดี

บินไทยครึ่งปีแรก67ปลด3ล็อก“เงินสด/ปรับทุน/เข้าตลาดปี68

แอร์เอเชียบินอาเซียนเพิ่มเป้า75ล้านคนอัดโปร0บาทหมื่นใบ


วันเสาร์ที่  10 สิงหาคม 2567 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97MHz. ฟังทางfacebookLiveFM97.0 อ่านในwww.facebook.com/penroongyaisamsen #gurutourza #รวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97  #เพ็ญรุ่งใยสามเสน #เที่ยวกับกู๋  #KingPower  #TAT   #บางจาก #TCEB  #คำธรรมนาย 

ฟัง Live สดจากลิงค์นี้... https://www.facebook.com/share/v/6zcVdJRjZ9ndeQqF/?mibextid=jmPrMh

 ช่วงที่ 1 สัมภาษณ์ !! “จิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา” ผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) “TCEB” กับภารกิจนำไมซ์ครึ่งปีหลัง 2567 ก้าวสู่ฝัน เคลื่อนทัพตลาด 3 โปรเจกต์ “โร้ดโชว์” ประเทศเป้าหมาย อินเดีย 2 เมือง กวาดธุรกิจมาได้ 4,000 ล้านบาท แถมเจอตลาดใหม่ “Wedding” ลุยจับมือกงศุลไทย ททท.การบินไทย นำโปรเจกต์นำร่องปลุกเศรษฐีมุมไมมาจัดแต่งงานในไทย ส่วนบินไทยลงทุนใช้ฝูงบินขนาดใหญ่บริการเพิ่ม ส่วนในประเทศ “ยกทีมประชุม รุมรักเมืองไทย” 2เดือนแรกคึกคักมีผู้เข้าร่วม 3,000 คน ห่วง SMEs ต้องร่วมด้วยช่วยกันแก้เรื่องเงินทุน ส่วนต่างประเทศเกาะติดการสู้รบจะกระทบกับไมซ์

 


นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) “TCEB” เปิดเผยว่า การขับเคลื่อนตลาดไมซ์ครึ่งปีหลัง 2567 มีไฮไลต์จะต้องทำและติดตามอย่างต่อเนื่อง 3 โครงการ เริ่มด้วย โครงการที่ 1 ทำ “โร้ดโชว์” ตลาดที่มีผลตอบรับสูงทั้งรายได้และจำนวน ล่าสุดช่วง 30 กรกฎาคม-1 สิงหาคม 2567 ทำโร้ดโชว์ไปอินเดีย 2 เมือง มุมไบ กับกัลกัตต้า มีเอกชนไทยร่วมทีมไปด้วย 31 ราย นำสินค้าไมซ์ไปเสนอขายเป็นกลุ่มโรงแรมมีคอนเว็นชั่นในโรงแรม ศูนย์การประชุมขนาดใหญ่อย่าง ศูนย์สิริกิติ์ อิมแพ็คเมืองทองธานี ไบเทค บริษัทตัวแทนจัดการเดินทาง (DMC) มีโอกาสพบกับตัวแทนผู้ขายรวมแล้วกว่า 300 ราย ที่กัลกัตตา 140 ราย มุมไบ 169 ราย แล้วยังได้เชิญคอร์ปอเรชั่นจัดเลี้ยงพิเศษซึ่งนำงานมาจัดในไทยอุตสาหกรรมเทคโนโลยี โรงงานผลิตเหล็ก ส่งนักเดินทางที่ได้รางวัล (incentive) พร้อมกับมีกลุ่ม Leads หรือผู้ที่มีเป้าหมายจะส่งไมซ์มาไทยอีกว่า 120 ราย ผลจากการทำโร้ดโชว์ครั้งนี้จะสร้างรายได้เข้าประเทศเกือบ 4,000 ล้านบาท

 

ตลาดอินเดียต้องการให้ไทยดูแลให้เกียรติทุกกลุ่ม ตอนนี้เห็นตลาดพิเศษเพิ่มขึ้นอีกกลุ่มคือ “การจัดแต่งงาน/Wedding” รัฐบาลอินเดียต้องการให้ประชาชนจัดในประเทศแต่ความนิยมก็ยังคงเลือกยุโรปซึ่งใช้เงินมหาศาล ดังนั้นจึงเป็นโอกาสของไทย ทีเส็บกับทางกงศุลไทย  การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) การบินไทย จะทำโครงการนำร่องดึงตลาดแต่งงานอินเดียเลือกไทยเป็นจุดหมายปลายทาง โดยเฉพาะการบินไทยวางแผนจะเพิ่มขนาดเครื่องบินขนส่งนักเดินทางอินเดีย เพราะมีกำลังซื้อสูงกลุ่มคุณภาพ  ซึ่งจะต้องหารือกำหนดแนวทางเลือก “มุมไบ” เป็นพื้นที่นำร่อง เพื่อสร้างโมเดล ขั้นตอน เป้าหมาย เริ่มทำภายในปี 2567 เป็นต้นไป

 

เนื่องจากการจัดแต่งงานของอินเดียต้องการความพิเศษ อำนวยความสะดวกขาเข้าเมือง การนำเข้าอุปกรณ์ที่นำมาใช้จัดงาน การนำเข้าเครื่องประดับราคาแพงมาใช้ ส่วน ททท.ก็สามารถรับเป็นเจ้าภาพจัดเลี้ยง

 

ตอนนี้ประเทศไทยมีแม่เหล็กดึงดูดไมซ์อินเดียที่จูงใจด้วย 3 มาตรการ ได้แก่ 1.วีซ่าฟรี และ 2.การเปิดวันสต็อป เซอร์วิส MICE LANE ร่วมกัน 4 หน่วยงาน คือ ทีเส็บ กรมการกงศุล บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง

 

3.การจัดกิจกรรม President Recognition Awards ให้ทางผู้นำธุรกิจไมซ์ในอินเดีย จัดต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 ซึ่งผลตอบรับดีมาก ระหว่างโร้ดโชว์ครั้งล่าสุดก็ได้มอบรางวัลในกัลกัตตา 8 บริษัท มุมไบ 22 บริษัท ตามเงื่อนไขจะต้องเป็นบริษัทที่สามารถทำยอดขายไมซ์มาเมืองไทยได้เกิน 3,000 คน ควบคู่กับจัดการการเดินทางโดยดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมสร้างความยั่งยืน กิจกรรมดังกล่าวไม่ต้องใช้เงินลงทุนมากแต่ได้ผลดีเกินคาด ถือเป็นการให้เกียรติคู่ค้าแล้วสร้างความพึงพอใจสูงมาก

 

โครงการที่ 2 ทีเส็บร่วมกับวีซ่า อินเตอร์เนชั่นแนล เปิด Thailand MICE Visa Card กระตุ้นตลาดตามคอนเซ็ปต์ MICE to Meet You Thailand Privilage ด้วยบัตร Thailand MICE Visa Prepaid Card มอบของขวัญที่มีคุณค่าให้กลุ่มนักเดินทางไมซ์ต่างประเทศนำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ เพราะมีผลวิจัยพฤติกรรรมของไมซ์ต้องการใช้ทราเวล การ์ด ที่มีสิทธิพิเศษต่าง ๆ บัตรใหม่นี้ ราคาใบละ 350 บาท จะมีมูลค่าเกิน 1,500 บาท โดยจะมีห้างสรรพสินค้า ร้านค้าต่าง ๆ เข้ามาร่วม เช่น เซ็นทรัลโฮเทล รีเทล ศูนย์ประชุมนานาชาติ สามารถใช้ในร้านอาหารของศูนย์ประชุม หรือสินค้ากลุ่ม SMEs และการซื้อโปรดักซ์จากองค์กรต่าง ๆ จึงน่าจะเป็นกลยุทธ์ส่งเสริมตลาดได้ดี

 

โครงการที่ 3 ยกทีมประชุม รุมรักเมืองไทย กระตุ้นตลาดไมซ์ในประเทศ หลังเปิดตัวไปได้เดือนเศษมีผู้ประกอบการจากทุกภาคส่วนสนใจลงทะเบียน เริ่มเมื่อ 1 มิถุนายน -30 พฤศจิกายน 2567 คาดจะมีผู้เข้าร่วม 9,000 คน ช่วงมิถุนายน-กรกฎาคม ทำได้แล้ว 2,299 คน แบ่งเป็น  3 กลุ่ม

 

กลุ่มที่ 1  “ผู้ซื้อ” บริษัทเอกชน สถาบันการศึกษา/สมาคม บริษัทในตลาดหลักทรัพย์ SMEs/Start Ups

 

กลุ่มที่ 2 “ผู้ขาย” ก็มีสถานที่จัดงาน ออร์แกไนเซอร์ บริษัทตัวแทนจัดการเดินทางและท่องเที่ยว (DMC) อาหารเครื่องดื่ม วิทยากร ร้านค้า สินค้า โลจิสติกส์ หน่วยงานเกี่ยวข้อง

 

กลุ่มที่ 3 หน่วยงานพันธมิตรที่เกี่ยวข้องกับแคมเปญ เช่น องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (อพท.) สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) เครือข่ายคนไทยไร้พุง หอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สมาคมโรงแรมไทย สมาคมไทยธุรกิจท่องเที่ยว (ATTA) สมาคมธุรกิจท่องเที่ยวภายในประเทศ (สทน.)

 

นายจิรุตถ์ กล่าวว่าสถานการณ์อุตสาหกรรมไมซ์ปี 2567 ทำรายได้จากตลาดในและต่างประเทศได้ค่อนข้างดีเป็นไปตามเป้าหมาย แต่ก็ยังคงเป็นห่วง “สภาพเศรษฐกิจ” โดยเฉพาะ ไมซ์ในประเทศ จะต้องร่วมมือกันดูแลกลุ่ม SMEs เพราะการออกบูธแต่ละครั้งมีเรื่องเงินลงทุนอยู่พอสมควร แล้วต้องรอดูการส่งเสริมธุรกิจรายย่อยภาคอุตสาหกรรม เรื่องการปล่อยเงินกู้เพื่อการลงทุนต่าง ๆ ส่วน “ไมซ์ตลาดต่างประเทศ” ก็ต้องจับตาการสู้รบระหว่างประเทศ

 

ฟังข่าวต้นชั่วโมง

 

ข่าวที่ 1คิงเพาเวอร์JOYให้สุดที่สุวรรณภูมิรับคุ้มคูณ2/รับของขาออก

 

คิง เพาเวอร์ จัดไป “JOY ให้สุด” เพื่อนักช้อป รับคุ้ม x 2 ได้ที่ คิง เพาเวอร์ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ วันนี้– 30 กันยายน 2567 แล้วนักช้อปที่ซื้อผ่านช่องทางอื่น ๆ เรียบร้อยแล้ว ก่อนขึ้นเครื่องแวะรับสินค้าตรงบริเวณ “ขาออก” ได้ทุกทริป ส่วนการช้อปในสุวรรณภูมิรับทันทีดังนี้

 

1.รับฟรี! GIFT CARD 2,000 บาท เมื่อซื้อ CASH CARD 20,000 บาท

 

2.พร้อมรับสถานะสมาชิก คิง เพาเวอร์ SCARLET ฟรีทันที!

 

3.ไม่พลาด..รับทุกส่วนลดและสิทธิประโยชน์สุดพิเศษอีกมากมาย ได้ดังนี้

-รับกะรัตทุกการช้อป 100 บาท รับ 1 กะรัต

-สะสมยอดช้อปเพื่อปรับสถานะเป็นสมาชิก ONYX

-สิทธิ์วันเกิดรับ CASH BACK 25% x 2 สิทธิ์

-สิทธิ์เข้าใช้บริการ KING POWER SPACE  ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ 6 สิทธิ์ / ปี

  

ข่าวที่ 2 เสาร์ที่10ส.ค.เจอกันที่คิงเพาเวอร์รางน้ำฟินกับวินนี่-ธนวินท์

 

เสาร์นี้เจอกัน! คิง เพาเวอร์ รางน้ำ นัดชาววินเนอร์เตรียมตัวฟินเวอร์กับ “วินนี่ ธนวินท์” วันเสาร์ที่ 10 สิงหาคม 2567 เวลา 16.00 น.ร่วมเป็น 1 ใน 20 ผู้โชคดี เพื่อจะได้ร่วมกิจกรรมบนเวทีแบบใกล้ชิด และรับสิทธิ์ถ่ายภาพคู่ศิลปิน หรือรับรูปศิลปินพร้อมลายเซ็น ทุกเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดพิเศษ ที่ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ

 

สมาชิก คิง เพาเวอร์ ชาวไทยและลูกค้าทุกสัญชาติ  เข้าร่วมกิจกรรมได้อย่างง่าย

 

1.ลงทะเบียนรับฟรี 1 สิทธิ์* เพื่อร่วมเป็นผู้โชคดีเอนจอยโมเมนต์สุดฟินเริ่มลงทะเบียนตั้งแต่ 10.00 - 16.00 น. ได้คนละ 1 สิทธิ์ /วัน

 

2.ใครยังไม่เป็นสมาชิกฯ สมัครผ่านช่องทาง LINE Official Account  

 

3.อิ่มฟินกับร้านดังฟังมิวสิกเพลินๆ พร้อมหลากหลายกิจกรรมพิเศษสุด ๆ

 

ข่าวที่ 3“คิงเพาเวอร์มหานคร”จัด3อีเวนต์วันแม่/ขึ้นสกายวอล์คฟรี

 

คิง เพาเวอร์ มหานคร นำเสนอการพักผ่อนพิเศษที่จะทำให้ “วันแม่แห่งชาติ” เดือนสิงหาคม 2567 พิเศษมากยิ่งขึ้น จึงได้จัดกิจกรรมจบครบที่เดียวใน 1 วัน ให้บรรดาลูก ๆ จูงมือคุณแม่มาเฉลิมฉลองความสุขอย่างพร้อมหน้าพร้อมตากัน ด้วยสัมผัสประสบการณอันน่าจดจำของแม่ลูกและครอบครัว โดยได้คัดสรรไฮไลต์ให้ร่วมทำอย่างคุ้มค่า 3 กิจกรรมเด่น ได้แก่

 

กิจกรรมที่ 1 คุณแม่ทุกท่านเข้าชม มหานคร สกายวอล์ค ฟรี เปิดให้คุณแม่กับลูก ๆ ทุกครอบครัว มาร่วมเฉลิมฉลองกับวันแม่ วันจันทร์ที่ 12 สิงหาคม 2567  พิเศษ โดยจะเปิดคุณแม่ทุกคนเข้าชมฟี “มหานคร สกายวอล์ค” ชั้น 78 เมื่อมีคนในครอบครัวซื้อบัตร มหานคร สกายวอล์ค 1 ใบ ใช้บริการได้ตลอดทั้งวันตั้งแต่ 10.00 – 19.00 น. เข้ารอบสุดท้ายซื้อบัตรได้ตอน 18.30 น.

 

กิจกรรมที่ 2 เพิ่มพลัง “โยคะ MOM & ME Sky Yoga” กับ “ครูแนน-ชลิตา เฟื่องอารมย์” คิง เพาเวอร์ มหานคร จัดอีเวนต์สุดฟินงาน “MOM & ME Sky Yoga” ราคาคู่ละ ราคา 2,400 บาท ชวนคุณลูกจูงมือคุณแม่มาร่วมกิจกรรมพิเศษเดือนแห่งวันแม่สิงหาคมนี้ เปิดพื้นที่จุดชมวิว ชั้น 74 ให้เข้าร่วมโชว์พลังความแข็งแรงได้เช้าวันเสาร์ที่ 17 สิงหาคม 2567 เวลา 6.00 – 8.00 น.

 

คิง เพาเวอร์ มหานคร ได้รับเกียรติจาก “แนน-ชลิตา เฟื่องอารมย์” เซเลบริตี้ซึ่งเป็นทั้งดารานักแสดง คุณครูสอนโยคะ และคุณแม่ลูกหนึ่ มาเป็นผู้สอนคลาสเอ็กซ์คลูซีฟนี้ ด้วยการพกพาประสบการณ์ด้านโยคะมามากกว่า 20 ปี มาถ่ายทอดสอนท่าโยคะให้คุณแม่และคุณลูก ให้เข้าใจอย่างง่ายถึงเทคนิควิธีการยืดกล้ามกล้ามเนื้อเพิ่มความแข็งแรง ฝึแล้วสามารถนำไปปรับใช้ที่บ้าน แล้วคุณแนนยังมีท่าให้บรรดาคุณแม่ทุกคน ได้บรรเทาและรักษาโรคที่เกิดกับผู้สูงอายุได้อีกด้วย

 

กิจกรรมที่ 3 อิ่มอร่อยกับอาหารมื้อพิเศษ พร้อมรับส่วนลด 10% แพ็คเกจนวดที่สปา Let’s Relax ระหว่างวันเสาร์ที่ 10 - วันจันทร์ที่ 12 สิงหาคม 2567 หลังจบจากการชมวิวกรุงเทพมหานครอันสวยงามแล้ว ต้องห้ามพลาด พาคุณแม่มารับประทานอาหารมื้อพิเศษ ในคิง เพาเวอร์ เพาเวอร์ ซึ่งมีให้เลือกทั้งที่ “มหานคร อีทเทอรี่ และ “ไทย เทสต์ ฮับ มหานคร คิวบ์ พร้อมรับสิทธิทันทีเมื่อรับประทานครบ 1,200 บาท แจกส่วนลด 10% นำไปใช้ทำทรีตเมนต์ได้ที่ร้าน Let’s Relax เฉพาะสาขา มหานคร คิวบ์ เลือกหมุดหมายจบที่เดียวภายใน 1 วัน ได้ที่คิง เพาเวอร์ มหานครช่วงหยุดยาววันแม่ปีนี้

  

ข่าวที่ 4ททท.ผนึกLINEShopจัด365วันเมืองน่าเที่ยวแจกโปร11บาท

 

นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า เป็นประธานเปิดตัวโครงการ "Amazing Thailand 365 วัน มหัศจรรย์เมืองน่าเที่ยว" ขับเคลื่อนนโยบาย IGNITE THAILAND'S TOURISM โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จับมือกับ บริษัท ไลน์ คอมพานี (ประเทศไทย) จำกัด นำฟังก์ชันใหม่ระบบจัดทริปทำปฏิทินท่องเที่ยวไว้บนเว็บ tourismthailand.org/amazingthailand365 ควบคู่การทำโปรโมชั่นดีลท่องเที่ยวราคาพิเศษ กระตุ้นนักท่องเที่ยวเดินทางทั่วไทยเริ่มกรีนซีซันสิงหาคมนี้ต่อเนื่องได้ตลอดทั้งปี 365 วัน ส่งเสริมการท่องเที่ยวเชื่อมโยงเมืองหลักและเมืองน่าเที่ยว

 

ผนวกกับเร่งทำตลาดเชิงรุกตามรูปแบบ Marketing 6.0 ใช้นำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยยกระดับขานรับพฤติกรรมนักท่องเที่ยวยุคใหม่ทำกิจกรรมแพลตฟอร์มอี-คอมเมอร์ซ เพิ่มช่องทางนำเสนอขายสินค้าและบริการให้ผู้ประกอบการท่องเที่ยว พร้อม ๆ กับเพิ่มความสะดวกการเข้าถึงข้อมูลกับสินค้าท่องเที่ยวสร้างความสำเร็จให้อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทยเติบโตอย่างยั่งยืนและสมดุล

 

 

นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า การเปิดตัวโครงการ "Amazing Thailand 365 วัน มหัศจรรย์เมืองน่าเที่ยว" เพื่อเร่งกระตุ้นการเดินทางท่องเที่ยวกรีนซีซันต่อเนื่องตลอดทั้งปี 365 วัน All year round โดยมีแคมเปญ “สุขทันที ที่เที่ยวไทย” รองรับทุกเส้นทาง รวมถึงคัดสรรสินค้าและบริการด้านการท่องเที่ยว นำเสนอกิจกรรมท่องเที่ยวต่าง ๆ ให้โดนใจทั้ง งานประเพณี เทศกาล แหล่งท่องเที่ยวตามพื้นที่ทั่วประเทศ โดยเฉพาะเมืองน่าเที่ยว 55 จังหวัด ที่รวบรวมไฮไลต์ของแต่ละจังหวัดมาไว้บนเว็บไซต์ tourismthailand.org/amazingthailand365 ใช้เป็นเครื่องมืออำนวยความสะดวกให้คนได้นำไปใช้วางแผนเดินทางท่องเที่ยวตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์และทุกกลุ่มเป้าหมาย

ททท. เชื่อมั่นโครงการนี้จะช่วยกระตุ้นให้คนออกเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศกว่า 15,000 แพ็ก กระจายรายได้สู่ท้องถิ่นอย่างทั่วถึง ช่วยสนับสนุนผู้ประกอบการท่องเที่ยว และขับเคลื่อนเศรษฐกิจการท่องเที่ยวไทยฟื้นตัวอย่างยั่งยืน ทำให้ปี 2567 ท่องเที่ยวทำรายได้เข้าเป้าหมาย 3.5 ล้านล้านบาท

 

ในเว็บไซต์ที่นำมาใช้ทำโครงการนี้จะเพิ่มไฮไลต์อีก 2 ฟังก์ชั่น คือ ฟังก์ชั่นแรก “ระบบจัดทริปท่องเที่ยว” โดยนำเทคโนโลยี Generative AI หรือ เครื่องมืออัจฉริยะเข้ามาช่วยวางแผนการท่องเที่ยวแบบตามความต้องการของแต่ละคนหรือ personalized เติมเต็มประสบการณ์ท่องเที่ยว ฟังก์ชั่นที่ 2  “ปฏิทินท่องเที่ยว” รวบรวมข้อมูลกิจกรรมงานเทศกาล และแหล่งท่องเที่ยวในเมืองน่าเที่ยวทั่วประเทศ ที่ได้รับความสนใจดึงดูดให้เข้าถึงข้อมูลได้สะดวก รวดเร็ว ตั้งแต่ขั้นตอนการค้นหา จอง และซื้อสินค้าและบริการท่องเที่ยว พร้อมออกเดินทางรับความสุขทั่วไทยได้ตลอดทั้งปี

 

ททท.จึงร่วมมือกับบริษัท ไลน์ คอมพานี (ประเทศไทย) จำกัด ในส่วนหลัก LINE Shopping จัด กิจกรรมส่งเสริมการขาย LINE Event Hub รวบรวมร้านค้าของผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว 1,000 ราย ร่วมนำเสนอสินค้าและบริการท่องเที่ยว เพิ่มช่องทางการประชาสัมพันธ์ให้สะดวกมากขึ้น และเพิ่มความพิเศษด้วยกิจกรรม "11 22 33 44 และ 55" จะจัดขึ้นทุกวันศุกร์ เริ่มศุกร์ที่ 23 สิงหาคม ถึง 13 กันยายน 2567 นำเสนอโปรโมชั่นจัดเต็มราคาสุดปังให้นักท่องเที่ยวซื้อโวเชอร์ท่องเที่ยวราคาพิเศษ ได้แก่ 11 บาท 22 บาท 33 บาท 44 บาท และ 55 บาท เลือกสินค้าได้หลายประเภทจากผู้ประกอบการชั้นนำ เช่นกลุ่มโรงแรมแถวหน้าของเมืองไทยอย่าง วีรันดา รีสอร์ท พัทยา – เอ็มแกลเลอรี โรงแรมรอยัล คลิฟ โฮเต็ล กรุ๊ป เดอะ ยานา วิลล่า หัวหิน โคลัมเบีย พิคเจอร์ส อควาเวิร์ส โอเอซิสสปา โมโม่ พาราไดซ์ บอนชอน และอีกหลายแห่งทั่วประเทศ

 

พร้อมกับจัดอบรมเสริมทักษะ Reskill Upskill ให้ผู้ประกอบการใช้ระบบ LINE Shopping และนำเสนอการประโยชน์จากเทคโนโลยี Generative AI จัดการธุรกิจ โดยมีผู้เชี่ยวชาญจาก Solution Impact การใช้สื่อ Social ต่าง ๆ ผลิตเนื้อหาประชาสัมพันธ์ และจัดผู้เชี่ยวชาญจาก Anymind มาแนะนำเพิ่มการรับรู้และมีส่วนร่วมเรื่องการท่องเที่ยว

ข่าวที่ 5 บางจากครึ่งปี’67โกยรายได้2.9แสนล้าน/ยอดการกลั่นพุ่ง

 

นายชัยวัฒน์ โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัทบางจาก และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานครึ่งปีแรก 2567 กลุ่มบริษัทบางจากมีรายได้จากการขายและให้บริการ 293,438 ล้านบาท กำไรก่อนหักค่าใช้จ่ายและภาษีอื่น ๆ หรือ EBITDA 26,072 ล้านบาท ส่งผลให้มีกำไรสุทธิส่วนบริษัทใหญ่ 4,261  ล้านบาท คิดเป็นกำไรต่อหุ้น 2.91 บาท เป็นผลมาจาก

 

“กลุ่มธุรกิจโรงกลั่นและการค้าน้ำมัน” ได้บริษัท บางจาก ศรีราชา จำกัด (มหาชน) หรือ “BSRC” ทำผลการดำเนินงานดี

 

“กลุ่มธุรกิจการตลาดจำหน่ายน้ำมัน” รวมทุกช่องทางสร้างสถิติใหม่ 6,919 ล้านลิตร

 

“กลุ่มธุรกิจไฟฟ้าพลังงานสะอาด” สามารถรับรู้รายได้จากการขายไฟฟ้าเพิ่มขึ้น และรับรู้ผลดำเนินงานเต็มครึ่งปีจากการลงทุนโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานก๊าซธรรมชาติในสหรัฐ 4 แห่ง

 

“กลุ่มธุรกิจทรัพยากรธรรมชาติ” โดย OKEA ASA มีปริมาณการผลิตและปริมาณการขายได้เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญด้วยการรับรู้ผลดำเนินงานของแหล่งผลิต Statfjord และแหล่งผลิต Hasselmus

 

นายชัยวัฒน์ กล่าวว่า แม้ครึ่งแรกปี 2567 ต้องเผชิญกับ Crack Spread ของทุกผลิตภัณฑ์ปรับตัวลดลงตามภาวะตลาดโลก และโรงกลั่นพระโขนงปิดซ่อมบำรุงหน่วยกลั่นตามวาระ บางจากฯ ยังคงสร้างผลดำเนินงานดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ เปรียบเทียบการเติบโตเพิ่มกับช่วงเดียวกันกับปีก่อน มีรายได้จากการขายและการให้บริการ 293,438 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 98 % ทำ EBITDA รวม 26,072 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 48 % มีกำไรงวดส่วนของบริษัทใหญ่ 4,261 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 33 % คิดเป็นกำไรต่อหุ้น 2.91 บาท จาdการเดินหน้าธุรกิจผ่านการลงทุนโครงการที่มีศักยภาพสูง และการสร้างซินเนอร์ยี่ระหว่างกันภายในกลุ่มบริษัทบางจากส่งผลให้รับรู้ยอดสะสมกว่า 3,000 ล้านบาท ช่วงครึ่งแรกปี 2567 บรรลุเป้าหมายเรื่อง EBITDA Synergy กว่า 2,500 ล้านบาท บริษัทฯ มุ่งมั่นจะพัฒนาต่อเนื่องต่อไปให้ได้ปีละ 3,000 ล้านบาท

 

ช่วงที่เหลือครึ่งปีหลัง 2567 คาดการณ์ ค่าการกลั่นมีแนวโน้มเข้าสู่ระดับเสถียรภาพมากขึ้นจากอุปสงค์จะเพิ่มขึ้นตามฤดูกาล บริษัทฯ จะติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดและจะบริหารจัดการอย่างรอบคอบ
เพื่อสร้างรากฐานให้มีเสถียรภาพและมั่นคงเติบโตอย่างยั่งยืน

 

นางสาวภัทร์ภูรี ชินกุลกิจนิวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการเงิน และรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มงานบัญชีและการเงิน รายงานผลการดำเนินงานที่สำคัญครึ่งแรกปี 2567 เปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันกับปี 2566 แต่ละกลุ่มธุรกิจ มีดังนี้

 

กลุ่มที่ 1 ธุรกิจโรงกลั่นและการค้าน้ำมัน (โรงกลั่นพระโขนงและโรงกลั่นศรีราชา) มี EBITDA 6,452 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 19 %  ได้รับแรงหนุนหลักจากผลดำเนินงานของ BSRC เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในกลุ่มบริษัทบางจากตั้งแต่ 1 กันยายน 2566 มีกำลังการผลิตเฉลี่ยเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ 251,000 บาร์เรลต่อวัน โดยโรงกลั่นศรีราชาสร้างสถิติใหม่ต่อเนื่องช่วยชดเชยกำลังการผลิตเฉลี่ยที่ลดลงของโรงกลั่นพระโขนงที่ปิดซ่อมบำรุงหน่วยกลั่นตามวาระ (Turnaround Maintenance) เป็นเวลา 27 วัน (ระหว่าง 7 พฤษภาคม - 2 มิถุนายน 2567) แล้วยังมี Inventory Gain 438 ล้านบาท (รวมการปรับมูลค่าสินค้าคงเหลือ (NRV)) ช่วยชดเชยแรงกดดันจาก Operating GRM ที่ลดลงเมื่อเทียบกับช่วงครึ่งแรกปี 2566 จาก Crack Spread ของทุกผลิตภัณฑ์ปรับตัวลดลงตามภาวะตลาดโลก

 

กลุ่มที่ 2 ธุรกิจการตลาด มี EBITDA 4,095 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเกิน100 % มีปริมาณการจำหน่ายน้ำมันรวมทุกช่องทางสร้างสถิติใหม่ที่ 6,919 ล้านลิตร เติบโตกว่า 100 % ตามการขยายตัวของเครือข่ายสถานีบริการและฐานลูกค้าอุตสาหกรรมครอบคลุมมากขึ้นภายหลังรับรู้ผลดำเนินงาน BSRC เต็มครึ่งปี ผสานกับแผนกลยุทธ์การตลาดตอบสนองความต้องการลูกค้าช่วยดันยอดขายน้ำมันผ่านสถานีบริการทั่วประเทศ 2,214 แห่ง

 

กลุ่มที่ 3 ธุรกิจไฟฟ้าพลังงานสะอาด โดย บริษัท บีซีพีจี จำกัด (มหาชน) มี EBITDA 2,424 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 32 % ปัจจัยหลักมาจากการรับรู้รายได้ขายไฟฟ้าเพิ่มขึ้น รับรู้ผลดำเนินงานเต็มครึ่งปีการลงทุนโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานก๊าซธรรมชาติในสหรัฐ 4 แห่ง ด้วยกำลังการผลิตรวม 857 เมกะวัตต์ และการลงทุนในคลังน้ำมัน ท่าเทียบเรือ ท่อขนส่งน้ำมันในเพชรบุรี ช่วยลดผลกระทบการสิ้นสุด Adder โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในไทยได้ทั้งหมด และรับรู้กำไรการขายไปของโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในญี่ปุ่น 9 โครงการ

 

กลุ่มที่ 4 ธุรกิจผลิตภัณฑ์ชีวภาพ โดย บริษัท บีบีจีไอ จำกัด (มหาชน) มี EBITDA 493 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 100 % ได้รับแรงหนุนจากยอดขายเพิ่มขึ้นทั้งในส่วนเอทานอลและไบโอดีเซล สอดคล้องตามขยายตัวของกลุ่มธุรกิจการตลาด

 

กลุ่มที่ 5 ธุรกิจทรัพยากรธรรมชาติ มี EBITDA รวม 13,074 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 43 % มีปริมาณการผลิตและจำหน่ายเพิ่มขึ้น จากการรับรู้ผลดำเนินงานเต็มครึ่งปีแหล่งปิโตรเลียม Statfjord ที่ได้รับโอนสิทธิ์เมื่อ 29 ธันวาคม 2566 แหล่งผลิต Brage เพิ่มกำลังการผลิตได้ และแหล่งผลิต Hasselmus เริ่มทำ CODหรือการขายไฟฟ้าเข้าระบบในเชิงพาณิชย์แล้วตั้งแต่ตุลาคม 2566 เป็นต้นมา

  

 ข่าวที่ 6TCEBภาคกลางรุกจัดเครือข่ายธุรกิจไมซ์เชื่อมโยงข้ามภาค

 

นางสาวจุฑารัตน์ แสนประสิทธิ์ ผู้จัดการ สำนักส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (TCEB) ภาคกลาง เปิดเผยว่า  สำนักงานทีเส็บในประเทศร่วมกันขับเคลื่อนตลาดไมซ์ในประเทศเมื่อเร็ว ๆ นี้ มุ่งร่วมมือกันสร้างเครือข่ายธุรกิจนำเอกชนภาคกลาง 3 จังหวัด ไปพบกับคู่ค้าในภาคตะวันออกที่พัทยา ชลบุรี โดยมีผู้ประกอบการไทยร่วมลงพื้นที่ด้วยกว่า 130 บริษัท และเพื่อนบ้านอีก 4 ประเทศ มี เวียดนาม สปป.ลาว กัมพูชา มาเลเซีย ทั้งหมดมีโอกาสเข้าร่วมงาน 4 กิจกรรม คือ

 

กิจกรรมที่ 1 สร้างเครือข่ายธุรกิจไมซ์เชื่อมโยงข้ามภูมิภาคจาก “ภาคกลางสู่ภาคตะวันออก” ได้รับการสนับสนุนจากเอกชน หอการค้า สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยว สมาคมธุรกิจท่องเที่ยว จาก 3 จังหวัด ได้แก่ กาญจนบุรี เพชรบุรี และประจวบคีรีขันธ์ ลงพื้นที่สำรวจแลกเปลี่ยนตลาดร่วมกัน

 

กิจกรรมที่ 2 ร่วมสัมมนา “Pattaya กับโอกาสตลาด MICE ยั่งยืน และงาน Pattaya Travel Mart  & MICE Mart 2024” ที่จังหวัดชลบุรี  โดยใช้เวทีสัมมนาครั้งนี้ยกระดับการท่องเที่ยวคุณภาพสูงจัดงานไมซ์อย่างยั่งยืน "Enhancing the potential of high value tourism"

 

กิจกรรมที่ 3 Business Matching จับคู่เจรจาธุรกิจระหว่างตัวแทนกลุ่มผู้ซื้อและผู้ขาย โดยได้จัดงาน Rayong MICE and travel mart 2024 ขึ้นที่จังหวัดระยอง

 

กิจกรรมที่ 4 นำผู้ประกอบการลงพื้นที่เยี่ยมชมศึกษาดูงานด้านการจัดการพื้นที่รองรับนักท่องเที่ยวคุณภาพสูง ที่ “สวนสุภัทราแลนด์” สร้างประสบการณ์จริงและองค์ความรู้ ซึ่งจะเป็นประโยชน์กับผู้ประกอบการไมซ์สามารถนำไปพัฒนาทำธุรกิจอย่างยั่งยืน ผลักดันการพัฒนาเชิงพื้นที่เป็นจุดหมายปลายทางไมซ์ ที่มีความเข้มแข็งและเติบโตอย่างยั่งยืนในจังหวัดอื่น ๆ ได้ด้วย

  

            ช่วงที่ 2 แอ่วเหนือแนวใหม่กับ ททท.เส้นทาง “คำ-ธรรม-นาย” เชียงใหม่ เชียงราย เปิดพิกัด 9+9 วัด พร้อมส่วนลดร้านอาหารหลายพื้นที่ วันนี้ จนถึง 10 ก.ย.2567 แล้วเลือกกิน “8อาหารช่วยลดไข้ได้” ฟังเจาะลึก ข่าวแรก “การบินไทย”ลั่นปลด3ล็อก “โกยเงินสด-ปรับโครงสร้างทุน-เข้าตลาดหลักทรัพย์ใหม่” ข่าวที่สอง “แอร์เอเชีย”ประกาศวันอาเซียนลุยเปิดบินพิ่ม 3,128 เที่ยว/สัปดาห์ แจกโปรตั๋วบิน 0 บาท 1 หมื่นใบ

 

ท่องเที่ยว –เที่ยวเหนือแนวใหม่“คำ-ธรรม-นาย”เชียงใหม่ เชียงราย9+9วัด

 

การเดินทางแต่ละครั้ง คือการสร้างประสบการณ์ใหม่ ๆ ให้ชีวิต สิงหาคม-กันยายน นี้ จะมาชวนไปเช็คอินเที่ยวภาคเหนือ “คำ-ธรรม-นาย” กับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ภูมิภาคภาคเหนือ มีโครงการ AMAZING NORTHERN FAITHIVAL สัมผัสวิถีล้านนาเชิงศรัทธพื้นที่ 2 จังหวัด “เชียงใหม่และเชียงราย ไปไหว้พระขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ องค์เทพที่มีความเกี่ยวข้องด้านโชคลาภและความรัก พร้อมเช็คอินสะสมคะแนนลุ้นรับ Art Toy ชวนเจน Y กับคนวัยทงาน ออกมาเที่ยวกันได้ตั้งแต่วันนี้ ถึงวันที่ 10 กันยายน 2567 

          

แต้มบุญหมดก็ไม่หวั่นเสริมดวงกันกับ “คำ ธรรม นาย” (come ธรรม 9) การเดินทางรูปแบบใหม่  แถมได้คำทำนาย และเลขเด็ดให้ชีวิตปัง ๆ ด้วยการไหว้พระ 9+9 วัด

 

จังหวัดเชียงใหม่ ต้องห้ามพลาด วัดพันเตา วัดพระสิงห์วรมหาวิหาร วัดดับภัย วัดดวงดี วัดบุพพาราม วัดชัยพระเกียรติ วัดเจ็ดยอด วัดพวกช้าง และ คำออน

 

จังหวัดเชียงราย ต้องไปสักครั้งหนึ่งในชีวิ วัดห้วยปลากั้ง วัดกลางเวียง วัดร่องเสือเต้น วัดเจ็ดยอด วัดพระนอน วัดเชียงยืน วัดมิ่งเมือง วัดขัวแคร่ และวัดพระธาตุดอยจอมทอง

 

ไหว้พระเรียบร้อยแล้ว ไปอิ่มอร่อยที่ร้านอาหารหรือคาเฟ่ในเชียงใหม่และเชียงราย พร้อมใจกันเข้าร่วมกิจกรรมท่องเที่ยว “คำ-ธรรม-นาย :come ธรรม 9”

 

ร่วมเติมบุญ “สะสมแต้มเช็คอิน” ด้วยวิธีสแกน QR Code หรือลิ้ง https://portals.group/app/index.html

 

ยิ่งสะสมมากยิ่งมีสิทธิ์ลุ้นรับรางวัลพิเศษ Art toy (Limited edition) อย่าง พระแม่ลักษมี เทพีแห่งความมั่งคั่ง โชคลาภ ความรัก และความอุดมสมบูรณ์

 

แล้วอย่าลืมใช้โปรโมชั่นพิเศษจากร้านมากมาย ใน “เชียงใหม่”  ร้านเฮือนเพ็ญ ลด 10% เมื่อทานครบ 300 บาท ร้านอาหารญี่ปุ่น Godzaa รับประทานครบ 500บาทขึ้นไป ลดค่าอาหาร 5% หรือบ้านคุณป๋อร้านอาหารปักษ์ใต้ ลด 10% เมื่อเช็คอินและรับประทานครบ 300 บาท

“เชียงราย” มีร้านชีวิตธรรมดา ลด 10% ซื้อเมนูขึ้นต้นด้วย TD นั่งโม้คาเฟ่ เมนูปลากระพงทอดหรือนึ่ง ร้านหวานใจ๋ ให้นักท่องเที่ยวที่ซื้อสินค้าจากร้านรับฟรีน้ำเต้าหู้ออแกนิก 1 ขวด

 

ออกเที่ยวภาคเหนือไปด้วยกันกับกิจกรรม “คำ-ธรรม-นาย” เพจเฟสบุ๊ค GoNorthThailand เริ่มวันนี้ -10 กันยายน 2567 เมืองไทย เที่ยวง่าย เที่ยวได้ตลอดทุกวัน

 

 

สุขภาพ –8อาหารกินแล้วช่วยลดอาการไข้ลดอุณหภูมิในร่างกายที่ดี

 

ทุกวันนี้พอมี “ไข้” เกิดจากการที่ร่างกายตอบสนองการติดเชื้อโรค หรือเพราะการอักเสบของเนื้อเยื่อ โดยร่างกายจะมีอุณหภูมิสูงขึ้นกว่าปกติ ในการวินิจฉัยอย่างแน่นอนว่าเป็นไข้หรือไม่ เราจะใช้เทอร์โมมิเตอร์วัดอุณหภูมิระบบอินฟาเรด หรือ เทอร์โมมิเตอร์วัดอุณหภูมิระบบดิจิตอล เพื่อวัดอุณหภูมิร่างกาย แต่ก็ยัง “อาหารช่วยลดไข้” ได้ให้เลือกรับประทานอยู่ 8 ชนิด ดังนี้

 

1.ฟักเขียว มีคุณสมบัติเย็น สามารถลดไข้ได้อย่างรวดเร็ว นิยมทำเป็นเมนูแกงจืด เพราะผู้ป่วยสามารถรับประทานได้คล่องคอ สำหรับเด็กสามารถบดให้ละเอียดแล้วนำมาผสมนมให้เด็กทานได้

 

2.ตำลึง ช่วยลดไข้ ดับพิษร้อนในร่างกาย

 

3.ซุปไก่ร้อนๆ ในเมนูซุปไก่ ควรจะประกอบไปด้วย ไก่ หอมหัวใหญ่ ขึ้นฉ่าย มันฝรั่ง มะเขือเทศ หัวผักกาด ผักชี แครอท พริกไทย และ เกลือ ซึ่งจะมีฤทธิ์ช่วยลดการอักเสบของปอด และลดอาการไอ

 

4.ผลไม้ที่ให้วิตามินซีสูง ได้แก่ มะละกอสุก สัปปะรด ส้มโอ มะม่วง มะขาม แตงโม ฯลฯ เนื่องจากวิตามินซีมีคุณสมบัติในการช่วยฟื้นฟูร่างกายได้เป็นอย่างดี นอกจากเป็นอาหารช่วยลดไข้ ยังช่วยบำรุงผิวพรรณได้

 

5.แตงกวา แก้ไข้ ช่วยขับปัสสาวะ แก้กระหายน้ำ เนื่องจากแตงกวาเป็นผักที่มีฤทธ์เย็น จึงใช้เป็นอาหารช่วยลดไข้ได้ หลายคนอาจไม่รู้

6.อาหารรสเผ็ด ได้แก่ ต้มยำ ลาบ แกงเลียง หรืออาหารอื่น ๆ ที่มีรสชาติเผ็ดร้อนเป็นส่วนประกอบที่สำคัญ ได้แก่ พริก พริกไทย สมุนไพร ขิง ข่า กระเพา มีคุณสมบัติช่วยต้านหวัด ทำให้หายคัดจมูก ทำให้ร่างกายสดชื่น

 

7.มะระ สรรพคุณเป็นยา ช่วยถอนพิษไข้ แก้กระหาย แก้อักเสบ บรรเทาอาการร้อนใน

 

8.หัวไชเท้า มีคุณสมบัติช่วยล้างพิษภายใน ขับปัสสาวะ สลายนิ่ว เป็นผักฤทธ์เย็นคล้ายแตงกวา เป็นอาหารช่วยลดไข้ได้เช่นกัน

 

 ฟังข่าวท้ายชั่วโมง

ข่าวแรก –บินไทยครึ่งปีแรก67ปลด3ล็อก“เงินสด/ปรับทุน/เข้าตลาดปี68

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ประกาศผลการดำเนินงานปี 2567 เมื่อ 9 สิงหาคม 2567ช่วงไตรมาส 2 ระหว่างเมษายน-มิถุนายน และ 6 เดือนหรือครึ่งปีแรก ระหว่างมกราคม-มิถุนายน โดยมีนายปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ ประธานคณะผู้บริหารแผนฟื้นฟูกิจการ นายชาย เอี่ยมศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร นายกรกฎ ชาตะสิงห์ ประธานเจ้าหน้าที่สายการพาณิชย์ นางเฉิดโฉม เทอดสถีรศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่สายการเงินและบัญชี  นายทวิโรจน์ ทรงกำนัล ประธานเจ้าหน้าที่สายกลยุทธ์องค์กร ร่วมกันนำเสนอรายละเอียด 3 เรื่องหลัก

 

เรื่องที่ 1 ผลการดำเนินงาน บมจ.การบินไทย และบริษัทย่อย (ที่ไม่รวมรายการที่เกิดขึ้นครั้งเดียว) ช่วงครึ่งแรกปี 2567 บริษัทฯ และบริษัทย่อย มีความเคลื่อนไหวดังนี้

 

 มี “รายได้รวม” 89,936 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14.0%  มี “กำไร” จากการดำเนินงานก่อนต้นทุนทางการเงิน 17,001 ล้านบาท ลดลงจากงวดเดียวกันกับปีก่อน 21.3% มี “กำไรสุทธิ” 2,738 ล้านบาท ต่ำกว่าประมาณการณ์เล็กน้อย ต่างจากช่วงปีก่อนมีกำไร 14,795 ล้านบาท ปีนี้ขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน

 

มี “EBITDA หลังหักเงินสดจ่ายหนี้สินตามเงื่อนไขสัญญาเช่าเครื่องบิน 18,402 ล้านบาท ทำ EBITDA ได้สูงกว่างบประมาณที่ตั้งไว้  มี “ต้นทุนทางการเงิน” รับรู้ตามมาตรฐานรายงานทางการเงินฉบับที่ 9 (TFRS 9) 9,403 ล้านบาท มี “ค่าใช้จ่าย” 72,935 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 27.3% มี “รายการที่เกิดขึ้นครั้งเดียว” ส่วนใหญ่จากขาดทุนอัตราแลกเปลี่ยนและการด้อยค่าสินทรัพย์เป็นค่าใช้จ่ายรวม 4,847 ล้านบาท     

 

เฉพาะไตรมาส 2 ปี 2567 บมจ. การบินไทย และบริษัทย่อย ผลการดำเนินงานไม่รวมรายการที่เกิดขึ้นครั้งเดียว มี“รายได้รวม” 43,981 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 17.7% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนทำไว้รวม 37,381 ล้านบาท แต่ลดลง 4.3% จากไตรมาสแรกปี 2567  มี “กำไร” จากการดำเนินงานก่อนต้นทุนทางการเงิน 5,925 ล้านบาท ต่างจากช่วงเดียวกันกับปีก่อนทำกำไรไว้ 8,576 ล้านบาท มี “กำไรสุทธิ” 314 ล้านบาท ส่วนปีก่อนมีกำไรสุทธิ 2,273 ล้านบาท มี “EBITDA หลังหักเงินสดจ่ายหนี้สินตามเงื่อนไขสัญญาเช่าเครื่องบิน 4,401 ล้านบาท

 

มี “ค่าใช้จ่าย” 38,056 ล้านบาท สูงกว่าปีก่อน 32.1% ส่วนใหญ่ผันแปรตามปริมาณการผลิตและการขนส่งเพิ่มขึ้น มี “ต้นทุน” รับรู้ตามมาตรฐานการรายงานทางการเงินฉบับที่ 9 (TFRS 9) 4,796 ล้านบาท มี “รายการที่เกิดขึ้นครั้งเดียว” ส่วนใหญ่มาจากขาดทุนอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ และขาดทุนจากการด้อยค่าของสินทรัพย์เป็นค่าใช้จ่ายรวม 809 ล้านบาท  

 

ไตรมาส 2 ปี 2567 การบินไทยเปิดบินใหม่ระหว่างประเทศเพิ่ม 2 เส้นทาง ได้แก่ มิลาน อิตาลี และออสโล นอร์เวย์ โดยทำโค้ดแชร์กับคูเวตแอร์เวย์สขายตั๋วโดยสารเชื่อมต่อเครือข่ายไปยังจุดหมายปลายทางอื่น ๆ ในตะวันออกกลาง แอฟริกาเหนือและยุโรป ทำให้มีผู้โดยสารรวมไตรมาส 2 สูงถึง 3.81 ล้านคน มีอัตราการบรรทุกผู้โดยสาร (Cabin Factor) เฉลี่ย 73.2%

 

@จับตาการบินไทยยกเครื่องโครงสร้างทุนใหม่จบภายในสิ้นปี 67

 

เรื่องที่ 2 การบินไทย พร้อมปรับโครงสร้างทุนตามแผนฟื้นฟูกิจการภายใน 31 ธันวาคม  2567 โดยได้กำหนดราคาแปลงหนี้เป็นทุนไว้ 2.5452 บาท/หุ้น รวมจำนวนหุ้น 31,500 ล้านหุ้น แบ่งเป็น 2 แนวทาง

 

แนวทางที่ 1 แปลงหนี้เป็นทุนแบ่งให้เจ้าหนี้เดิม 2 กลุ่ม คือ กลุ่มที่ 1 เงินต้นเจ้าหนี้ตามแผนแปลงหนี้เป็นทุนให้เจ้าหนี้กลุ่มเดิม (Mandatory Conversion) มีกระทรวงการคลัง  รวม 5,040 ล้านหุ้น  มูลค่า 12,827 ล้านบาท  กับเจ้าหนี้กับผู้ถือหุ้นกู้อีก 9,822 ล้านหุ้น มูลค่า 25,000 ล้านบาท กลุ่มที่ 2 ให้สิทธิแปลงหนี้เป็นทุนเพิ่มเติม (Voluntary Conversion) 4,911 ล้านหุ้น มูลค่า 12,500 ล้านบาท

 

แนวทางที่ 2 เสนอขายหุ้นเพิ่มทุนแก่ผู้ถือหุ้นก่อนปรับโครงสร้างทุน พนักงานบริษัทฯ และนักลงทุนแบบเฉพาะเจาะจงตามลำดับ

 

@ลั่นนำการบินไทยกลับเข้าตลาดหลักทรัพย์ไทยQ2ปี’68

 

เรื่องที่ 3 ยื่นคำร้องต่อศาลล้มละลายกลางขอยกเลิกการฟื้นฟูกิจการและหุ้นของการบินไทยให้กลับเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยภายในไตรมาส 2 ปี 2568 เป็นต้นไป เพราะสามารถทำตามเงื่อนไขได้ครบทั้ง 2 ข้อ คือมีกระแสเงินสดหมุนเวียนแนวโน้มตลอดทั้งปีเกิน 20,000 ล้านบาท  กับทำให้โครงสร้างทุนเป็นบวกได้จากอัตราบรรทุกผู้โดยสารเฉลี่ยเกิน 80 %  ไตรมาส 3 ไม่น่าจะขาดทุนอัตราการแลกเปลี่ยนทางการเงิน

 

นายชาย เอี่ยมศิริ ซีอีโอ บมจ.การบินไทย กล่าวว่า ขณะนี้บริษัทประเมินหลังปรับออกจากแผนฟื้นฟูกิจการจะไม่กังวลเรื่องสภาพคล่องทางการเงินเพราะมีอยู่เกิน 10,000 ล้านบาทขึ้นไป แต่มีภารกิจหลักต้องเร่งแก้ปัญหาเรื่อง “โครงสร้างทุน” ยังอ่อนแออยู่ ส่วนแผนใช้เงิน “ลงทุนอนาคตฝูงบินใหม่” ทำแผนคู่ขนานการบริหารจัดการสภาพคล่องไว้ 2 ส่วน คือ ส่วนแรก ได้ลงนามคำสั่งซื้อไว้ 2 แบบ คือ แบบที่ 1 ซื้อเครื่องบินพร้อมเครื่องยนต์หรือ Full order รวม 45 ลำ แบบที่ 2 จัดหาเพิ่มเติมหรือ option Order อีก 35 ลำ ซึ่งทำเผื่อไว้เป็นทางออกให้สามารถยกเลิกได้ตามสถานการณ์ที่เหมาะสม ส่วนที่สอง จัดทำค่าใช้จ่ายแบบตายตัว (fix cost) เรื่องการจ้างงานพร้อมยกเลิกได้เช่นกัน

 

ส่วนการลงทุนโครงการศูนย์ซ่อมอากาศยาน (MRO) ในท่าอากาศยานอู่ตะเภา พัทยา และโครงการเมืองการบินภาคตะวันออก การบินไทยยืนยันจะเดินหน้าลงทุนต่อไปเพราะยังต้องมีศูนย์ซ่อมเครื่องบินเป็นของตนเอง โดยจะต้องฟังเงื่อนไขของทางอู่ตะเภา เนื่องจากขณะนี้พ้นสภาพจากรัฐวิสาหกิจแล้วยังคงได้สิทธิ์เหมือนเดิมหรือไม่ ถึงแม้จะมีฐานอยู่ในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิก็มีพื้นที่จำกัดส่วนดอนเมืองต้องรอความชัดเจนปี 2568

 

@ลุยขายตั๋วแบบเครือข่ายปั๊มตลาดบินใน/ต่างประเทศโต

 

นายกรกฎ ชาตะสิงห์ ประธานเจ้าหน้าที่สายการพาณิชย์ บมจ.การบินไทย กล่าวว่า ด้วยข้อจำกัดการขยายฝูงบินต้องใช้เท่าที่มี 79 ลำ ก็จะทำแผนส่งเสริมตลาดเต็มที่ด้วยกลยุทธ์การขายแบบเชื่อมโยงเครือข่ายเที่ยวบิน “ในประเทศ” ใช้เส้นทางของไทยสมายล์เดิมบินทุกจุดและต่อไปยังกลุ่มประเทศลุ่มน้ำโขง CLMV (กัมพูชา-สปป.ลาว-เมียนมา-เวียดนาม) ส่วนเที่ยวบิน “ระหว่างประเทศ” จะร่วมกับสายการบินพันธมิตร ตัวอย่างตลาดที่เติบโตเร็วอย่างอินเดียสามารถขายตั๋วต่อเครื่องบินไปออสเตรเลีย หรือทางฝั่งเอเชียเหนือ ไตรมาส 4 ปีนี้เตรียมเปิดบินเพิ่มสู่ 4 เมื่องหลักคือ เดลี มุมไบ ละฮอล์ ส่วนอิสลามาบัดได้รับสิทธิการบินเรียบร้อยแล้วอยู่ในขั้นตอนตรวจสอบความชัดเจน ส่วนเที่ยวบินไกลยุโรป เตรียมเปิดบิน กรุงเทพฯ-บรัสเซล(เบลเยี่ยม) และตลาดอื่น ๆ อัตราบรรทุกผู้โดยสารเติบโตดีขึ้นตามสถานการณ์ท่องเที่ยวโลก

 

 

ข่าวที่สอง -แอร์เอเชียบินอาเซียนเพิ่มเป้า75ล้านคนอัดโปร0บาทหมื่นใบ

 

นายโบ ลิงกัม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร AirAsia Aviation Group เปิดเผยว่า ในการจัดงานวันอาเซียน ทาง AirAsia RedQ ร่วมกับกระทรวงการต่างประเทศมาเลเซีย (MOFA) ร่วมจัดขึ้นพร้อมกับประกาศเพิ่มเที่ยวบินทั้งภายในประเทศและระหว่างประเทศเพิ่มเป็นสัปดาห์ละ 3,281 เที่ยว ในฐานะที่แอร์เอเชียเป็นสายการบินแห่งอาเซียนพร้อมจะช่วยกระตุ้นการท่องเที่ยวสร้างเศรษฐกิจในภูมิภาคเติบโต ตามเป้าหมายปี 2567 จะให้บริการผู้โดยสารให้ถึง 75 ล้านคน

 

ล่าสุดเปิดบริการบิน ไป-กลับ อีก 3 เส้นทาง ได้แก่ 1.กัวลาลัมเปอร์ มาเลเซียสู่เมืองดาลัด เวียดนาม 2.กรุงเทพฯ ประเทศไทยสู่เกาะฟูก๊วก เวียดนาม 3.ภูเก็ต ประเทศไทย ไปยังจังหวัดเสียมราฐ กัมพูชา

 

โดยเฉพาะในเมืองไทย แอร์เอเชียเปิดให้บริการเส้นทางบินใหม่สู่อาเซียนเพิ่มใหม่ 2 เส้นทาง ได้แก่ กรุงเทพฯ (ดอนเมือง) – ฟูก๊วก เวียดนาม จะเปิดเที่ยวบินแรกตั้งแต่ 27 ตุลาคม 2567 เป็นต้นไป วันละ 1 เที่ยว และ ภูเก็ต(ไทย)-เสียมราฐ (กัมพูชา) เที่ยวบินแรกเริ่ม 29 ตุลาคม 2567 สัปดาห์ละ 3 เที่ยว ควบคู่กับวางแผนขยายทุกเส้นทางในอาเซียนต่อเนื่อง ทั้งการเพิ่มความถี่และเส้นทางบินใหม่จะช่วยกระตุ้นการท่องเที่ยวเติบโตอย่างรวดเร็ว เพิ่มทางเลือกในการเดินทาง ช่วยส่งเสริมเศรษฐกิจ กระจายการใช้จ่ายเงินสู่ธุรกิจท้องถิ่น และจ้างงานภาคการท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น

 

นายโบ ลิงกัม กล่าวว่าปี 2566 แอร์เอเชียให้บริการผู้โดยสารกว่า 61 ล้านคน ในจำนวนนี้เป็นการเดินทางข้ามอาเซียกว่า 33 % ตลอดหลายปีที่ผ่านมาแอร์เอเชียเป็นแรงขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงในภูมิภาคโดยสร้างความเท่าเทียมการเดินทางทางอากาศได้หลายล้านคน แล้วก็เปิดเส้นทางบินสู่จุดหมายปลายทางยอดนิยม ช่วยเปิดตลาดการท่องเที่ยวของอาเซียน เป็นเส้นทางใหม่ ๆ ไม่เหมือนใครมากถึง 60 % 

 

ส่วนการขยายฐานการบินที่มีศูนย์กลางอยู่ใน มาเลเซีย ไทย อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ และกัมพูชา สะท้อนถึงความเชื่อมั่นการส่งต่อพลังและศักยภาพความสามัคคีและความแข็งแกร่งของอาเซียนในฐานะกลุ่มเศรษฐกิจ เป็นความภูมิใจของแอร์เอเชียที่ได้สนับสนุนวิสัยทัศน์ของประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนสร้างตลาดและฐานการผลิตเดียว ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนโดยมีมาตรฐานร่วมกัน ได้แก่ ระบบควบคุมการจราจรทางอากาศหนึ่งเดียว ระบบวิศวกรรมหนึ่งเดียว นโยบายท้องฟ้าเปิด และกรรมสิทธิ์ร่วมกัน

 

แอร์เอเชียเชื่อมั่นจะเชื่อมต่ออาเซียนกับโลกเข้าด้วยกัน เสริมสร้างอาเซ๊ยนให้แข็งแกร่งซึ่งมีผู้คนรวมกัน 10 ประเทศกว่า 700 ล้านคน บริการการบินที่จะเพิ่มความถี่มากขึ้นผนวกกับความสามารถทำให้ปฏิบัติการแข็งแกร่งร่วมมือกันระหว่างประเทศสมาชิก ส่งผลดีกับการเชื่อมโยงการเดินทางกันมากขึ้น ปี 2567 ตั้งเป้าจะให้บริการผู้โดยสาร 75 ล้านคน คาดจำนวนผู้โดยสารมาจากอาเซียน

 

ในโอกาสพิเศษเฉลิมฉลอง “วันอาเซียน” ปี 2567 แอร์เอเชียได้เสนอโปรโมชั่นราคาประหยัดพิเศษรวม 10,000 ที่นั่ง เริ่มต้นเที่ยวบินละ 0 บาท ไปยังพนมเปญ เวียงจันทน์ และฟูก๊วก รวมถึงเส้นทางอื่น ๆ เช่น ดานัง ญาจาง หลวงพระบาง ปีนัง ยะโฮร์บาห์รู บาหลี และอีกมากมาย

 

เปิดให้ผู้โดยสารจองโปรโมชั่นราคาพิเศษได้ทางแอปพลิเคชั่น AirAsia MOVE (เดิมชื่อ airasia Superapp) และ airasia.com วันนี้ -11 สิงหาคม 2567 แล้วนำตั๋วไปใช้การเดินทางเริ่ม 1 ตุลาคม 2567 ถึง 31 มีนาคม 2568

 

นาเดีย โอเมอร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร AirAsia MOVE ได้ร่วมลงนามข้อตกลงความร่วมมือกับสมาคมการท่องเที่ยวอาเซียน (ASEANTA) โดยมี เอ็ดดี้ กริสไมดี โซมาวิลากา ประธานสมาคมการท่องเที่ยวอาเซียนเป็นตัวแทนลงนาม ส่งเสริมภารกิจของสมาคมและผลิตภัณฑ์ ASEAN Explorer Pass ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์สมัครสมาชิกเพื่อการเดินทางอันเป็นเอกลักษณ์ของ AirAsia MOVE

 

 

เมื่อช่วงต้นปี 2567 แอร์เอเชียได้เปิด ASEAN Explorer Pass ตั๋วโดยสารรายปีให้สมาชิกเดินทางอาเซียนทั้งหมดผ่านเครือข่ายเที่ยวบินของเอเชียทั้งในและระหว่างประเทศ พร้อมส่วนลดโรงแรม และการเชื่อมต่อบนพื้นดินกับ AirAsia Ride ได้ 1 ปี

ติดตามฟังรายการได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 11.00-12.00 น.ทาง สวท.FM 97.0 MHz.

 

 

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ททท.นครราชสีมาพลิกโฉมตลาดท่องเที่ยวปี67

  รุ่งทิพย์ บุกขุนทด  ผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานนครราชสีมา ททท.นครสีมานำธุรกิจพลิกโฉมตลาดปี 67 เที่ยวโคราช-ชัยภูมิ ปลุกกระแส 3 วัยเที่ยวมุมใหม่เมืองย่าโม 3 มรดกโลก 10 อำเภอ จัดชุดใหญ่ Soft Power365 วัน 2 จว. 5 จุดขาย-สงกรานต์สนุกแน่ สมัคร!!สมาชิกคิงเพาเวอร์มี.ค.รับกิฟท์โวเชอร์/กะรัต/ส่วนลด THE POWER BAND# 4คิงเพาเวอร์แจก2ล้านนักดนตรีอาชีพ พลูแมนคิงเพาเวอร์ชูแพ็คเกจ Wedding แจก12รายการ2-3มี.ค. ททท.หนุน PELUPO ปักหมุดพัทยาบูมเที่ยวเทศกาลดนตรีโลก บางจากนำโมเดลสมดุลเพื่อโลกยั่งยืน ESG ส่งต่อผู้อบรมกปร. สุขทันทีนั่งรถม้าเที่ยวลำปาง-วัดพระพุทธบาทผาหนามลำพูน นายกฯจุดฝันไทยฮับบินโลกดันสุวรรณภูมิติดท็อป 20 รุก 5 ส่วน 800 บูธร่วมมหกรรมลดกระหน่ำเทศกาลเที่ยวไทยถึง 3 มี.ค. 67 วันเสาร์ที่  2 มีนาคม 2567 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen #gurutourza # รวยด้วยข่าวเสาร์อ

TCEBนำไมซ์ปี67โร้ดโชว์เทรดโชว์ทั่วโลก-จัดยกทีมประชุมรุมรักเมืองไทย

นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) "TCEB" บิ๊ก TCEB ปี 67 ปั๊มยอดไมซ์โตลุยโร้ดโชว์/เทรดโชว์ทั่วเอเชีย ในประเทศจัดกระหึ่ม“ยกทีมประชุมรุมรักเมืองไทย”พ.ค.นี้   3-7 มี.ค.ประชุมโดฮาลุ้นข่าวดี !! ไทยเจ้าภาพ Korat Expo2029 ดับร้อน!!ที่คิงเพาเวอร์ช้อป4มันส์ลดแจกแลกฟรี-31มี.ค.67 คิงเพาเวอร์จัดเต็ม 3.3 BEAUTY TRIO” ช้อป 3 อย่างลด 25% ททท.นำร่องจัด AIR-MAZING ไทยฮับท่องเที่ยว/การบินปี67 บางจากแจกมี.ค.67นำปั๊มเอสโซ่เดิม & บางจากมอบ2โปรดี สุขทันทีที่เที่ยวแดนใต้นราธิวาสเมืองพหุวัฒนธรรม5พิกัด AWC ปี’66ทำ5นิวไฮ-ปี67ทุ่ม1.9หมื่นล้านเปิด18โครงการ Trip.com- ททท.ไลฟ์สตรีมขายสงกรานต์โกยต่างชาติ150ล. วันอาทิตย์ที่   3 มีนาคม 2567 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen #gurutourza # รวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์ FM97  # เพ็ญรุ่งใยสามเสน # เท

เปิดใจ “พศิน ลาทูรัส”ทายาท”นารายา”พลิกโมเดลแบรนด์ไทย ถอดบทเรียนโควิดปรับมุมคิดธุรกิจรุ่งปั้นสินค้าใหม่บุกทั่วโลก

  เปิดใจ “พศิน ลาทูรัส”ทายาท”นารายา”พลิกโมเดลแบรนด์ไทย ถอดบทเรียนโควิดปรับมุมคิดธุรกิจรุ่งปั้นสินค้าใหม่บุกทั่วโลก คิงเพาเวอร์ชวนช้อปออนไลน์แบรนด์เนมลด 70%26-31 ต.ค.นี้ สนุกกับ SUPER SURPRISE ดีลพิเศษราคาดิวตี้ฟรีที่คิงเพาเวอร์ ก.ท่องเที่ยวตีปีกรับทัวร์ต่างชาติ 3 เฟส-ไฟเขียวแล้ว 10 แอร์ไลน์ ไทยจ่อดึงลองสเตย์ต่างชาติซื้ออสังหาฟื้นเศรษฐกิจหลังโควิด “ TCEB” ชูไทยแลนด์ไมซ์สตาร์ตอัพปั้นนวัตกรรมใหม่5โปรเจ็กต์ หนาวนี้เที่ยว“นครพนม”ปลอดภัยมั่นใจเส้นทางสาย SHA ริมโขง วิธีเลือกกินเพื่อหลีกเลี่ยงความอ้วนควบคู่การลดโรคมากมาย ไทยสมายล์ขายตั๋วชุดเที่ยวไทยเหมาจ่าย4ใบเริ่มที่3.8พันบาท ไทยเวียตเจ็ทขายตั๋ว5บาท/เที่ยวโปร2เส้นทางใหม่ในประเทศ กรมเจ้าท่าฟุ้งแผนทำ10ท่าเรือรองรับวันสต็อปเที่ยวเจ้าพระยา   นายพศิน ลาทูรัส ซีอีโอฝ่ายพัฒนาธุรกิจ  บริษัท นารายณ์ อินเตอร์เทรด จำกัด ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” ในวันเสาร์ที่ 24 ตุลาคม 2563 เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง