ททท.พลิกโฉมขอนแก่นขึ้นชั้นเมือง“เวิลด์เฟสติวัล-อีเวนต์โลก”
ครึ่งปีแรกโกย7พันล้าน/ครึ่งปีหลังถึงต้นปี68กระหน่ำ10งานใหญ่
งัดเทศกาลปลาร้าหมอลำแจ้งเกิด
ISAN to The World26-29ธ.ค.
เสาร์นี้มีนัดกับศิลปินจิมมี่ที่คิงเพาเวอร์รางน้ำมิวสิคFUNอิ่มฟรี
ช้อปคิงเพาเวอร์สนุกทุกสนามบินส่วนลด/รับฟรีถึง
30 ก.ย.67
คิงเพาเวอร์เปิดออนไลน์รวมเหล่าไอเทมช้อปตัวหอมแบรนด์ดัง
ททท.ตีปีกรับมาเลเซียแอร์บินเชียงใหม่/ปี67ตั้งเป้า
5 ล้านคน
บางจากร่วมมาเลเซียโมเดลทำตลาดซื้อขาย“คาร์บอนอาเซียน”
ทีเส็บอีสานจัดไมซ์ ISAN Expo-แนะพื้นที่ชุมชนโคราชทำCSR
สุขทันทีที่เที่ยว“เทศกาลโกโก้สวนผึ้ง”ในเมืองน่าเที่ยวราชบุรี
วิธีเลือก “ซื้ออาหารกระป๋อง” กับ 8 ลักษณะสินค้าต้องห้ามกิน
“บางกอกแอร์”เป๋าตุงครึ่งปี67รายได้1.36หมื่นล้านกำไรโต67%
เอมิเรตส์รุกตลาดคนไทยซัมเมอร์ปี’67บินเที่ยวฮ็อต5เส้นทาง
วันเสาร์ที่ 17 สิงหาคม 2567 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97MHz. ฟังทางfacebookLiveFM97.0 อ่านในwww.facebook.com/penroongyaisamsen #gurutourza #รวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97 #เพ็ญรุ่งใยสามเสน #เที่ยวกับกู๋ #KingPower #TAT #บางจาก #TCEB #เสกสรรศรีไพรวรรณ
ฟัง Live สดจากลิงค์นี้...
ช่วงที่
1 สัมภาษณ์ !! “เสกสรร ศรีไพรวรรณ” ผู้อำนวยการ
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานขอนแก่น
พลิกโฉมขอนแก่นสู่เมืองท่องเที่ยว “เวิลด์เฟสติวัลและอีเวนต์โลก” ครึ่งปีแรก 2567 ตุนรายได้แล้วกว่า 7,265 ล้านบาท ครึ่งปีหลังกระหน่ำถึงไตรมาสแรกปีหน้า
มีคิวจัด 10 อีเวนต์ใหญ่ ส.ค.-ธ.ค.67
“โร้ดโชว์โขงชีมูลลงใต้-บัตรเที่ยวยามค่ำคืนลูฟไลน์บาร์นม-มอนิเตอร์ทัวร์-ขอนแก่นมาราธอน-เสน่ห์ไทย”
ฮือฮาเที่ยวเทรนด์ใหม่ “เทศกาลปลาร้าหมอลำ
Isan to The World”
เสนอขายทั่วโลก ควบ “ขอนแก่น เคาน์ดาวน์” ก.พ.68 มีไฮไลต์มหกรรมงานเที่ยวเทศกาลดนตรีอินเตอร์ตลอดเดือน
นายเสกสรร ศรีไพรวรรณ ผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานขอนแก่น เปิดเผยว่า สถานการณ์ในขอนแก่นในฐานะเมืองท่องเที่ยวหลักและมีร้อยแก่นสารสินธุ์เมืองน่าเที่ยวได้ขับเคลื่อนด้วยกิจกรรมที่ส่งผลเชิงบวกที่มีผลต่อเศรษฐกิจในพื้นที่ ช่วงครึ่งปีแรก ตัวเลขอย่างเป็นทางการจากกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ระหว่างมกราคม-มิถุนายน 2567 “ขอนแก่น” มีนักท่องเที่ยว 2.45 ล้านคน-ครั้ง เพิ่มขึ้น 27 % รายได้ 7,265 ล้านบาท (ตัวเลขใช้พยากรณ์ของ ททท.นำมาใช้ประกอบการทำตลาด ระหว่างมกราคม-กรกฎาคม นี้ 5.8 ล้านคน-ครั้ง รายได้หมุนเวียน 18,400 ล้านบาท อัตราเข้าพักเฉลี่ย 67 %) การเติบโตเป็นผลมาจากการจัดกิจกรรมและอีเวนต์ต่าง ๆ
โดยมีธนาคารแห่งประเทศไทย ขอนแก่น ยืนยันตัวเลขแต่ละช่วงถึงเศรษฐกิจภายในเติบโตจังหวัดยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่องจากการจัดกิจกรรมต่อเนื่องอยู่ตลอด
ส่วน “การส่งเสริมท่องเที่ยวปลายปี 2567” ของ ททท.ขอนแก่น นำเสนอภายใต้ธีม “อีสานเขียว เที่ยวหน้าฝน ดลบันดาลใจ” ด้วยกิจกรรมต่อเนื่องตั้งแต่สัปดาห์ที่สองของเดือนสิงหาคม 2567
งานที่
1 จัดโร้ดโชว์ “จากโขงชีมูลสู่หรอยแรงแหล่งใต้” วันที่
20-23 สิงหาคม ไปยังจังหวัดนครศรีธรรมราช และหาดใหญ่
(สงขลา) เนื่องจากเป็นตลาดที่มีเที่ยวบินเชื่อมโยง ไป-กลับ ขอนแก่น-หาดใหญ่ เน้นเจาะกลุ่มประชุมสัมมนาจากหน่วยงานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
(อปท.) เทศบาล ซึ่งมีจำนวนเจ้าหน้าที่และพนักงาน
สนใจปิดฤดูกาลใช้งบประมาณมาประชุมย่อยเลี้ยงเกษียณราชการ
งานที่
2 ทำโครงการส่งเสริมการท่องเที่ยวยามค่ำคืน
(บัตรเที่ยวกลางคืนในรูปแบบ e-coupon ผ่านช่องทาง LINE)
วันที่ 1-30 กันยายน โดยร่วมกับขอนแก่น
ซิตี้บัส และผู้ประกอบการย่านกังสดาล-กัลปพฤกษ์-ศรีจันทน์ มีทั้งร้านค้า ร้านอาหาร
สตรีทฟู้ด บาร์/ร้านนมประเภทเย็น ร้อน และฟู้ดทรัค
ให้บริการเจาะกลุ่มเป้าหมายนักเรียน นักศึกษา นักท่องเที่ยวที่เดินทางมายังขอนแก่น
เพราะสามารถเปิดได้จนถึงตี 1-2
งานที่ 3 ทำกิจกรรม Monitor Tour วันที่ 6-8 กันยายน เป็นการจัดทัวร์นำร่องเพื่อหวังผลทางการขายร่วมกับโรงเรียนขอนแก่นวิเทศศึกษา และพันธมิตรบริษัทนำเที่ยว สู่เส้นทางท่องเที่ยวบรรพชีวิน จังหวัดกาฬสินธุ์ กระตุ้น 1 ใน 55 เมืองน่าเที่ยว เพราะเป็นจังหวัดที่มีการขุดค้นพบแหล่งไดโนเสาร์มากมาย จากนั้นก็จะต่อยอดเป็น School trip ขนาดกลุ่มละ 10-60 คน เพื่อกระจายไปเดินทางเชื่อมโยงสู่เมืองน่าเที่ยว
งานที่ 4 จัดมาราธอน Khon Kaen 10 ประจำปี 2567 วันที่ 6-8 กันยายน ทางจังหวัดขอนแก่นจะผลักดันสู่มาราธอนระดับนานาชาติเช่นเดียวกับ งาน Khon Kaen International Marathon เพิ่มฐานตลาดนักท่องเที่ยวเชิงกีฬา
งานที่
5 ทำโครงการเสน่ห์ไทย : ภาคอีสาน วันที่ 25- 29 กันยายน ที่บริเวณลานกิจกรรมสถานีขนส่งผู้โดยสารแห่งที่
3 (บขส. 3) อำเภอเมือง สร้างขอนแก่นเป็น Music
Destination คาดจะมีผู้เข้าร่วมงาน 5 วัน
ไม่ต่ำกว่า 25,000-30,000 คน
เนื่องจากมีความพร้อมทางเครื่องบินและรถยนต์เข้าถึงพื้นที่ท่องเที่ยวจังหวัดหลัก
โดยใช้งบกระตุ้นการท่องเที่ยวตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติให้ใช้กระตุ้นการท่องเที่ยวและใช้ช่วงโลว์ซีซั่นหรือหน้าฝน
มุ่งจัดสรรสู่พื้นที่ท่องเที่ยวจังหวัดหลักเพื่อทำกิจกรรมกระตุ้นเศรษฐกิจ ด้วยธีม : อีสานม่วนซื่น ต้อนรับปริมาณคนเข้าร่วมงานจำนวนมาก ด้วยศิลปินเบอร์ต้น ๆ พร้อมกับเยี่ยมชมโซนกิจกรรมต่าง ๆ เช่น หมอลำ/ศิลปินลูกทุ่ง ศิลปินอีสานอินดี้/ฮิ๊ปปี้อีสาน หมู่บ้านงานศิลปะหัตถกรรมอีสาน หรือ Isan Crafts Village อีสานแซ่บหลาย อาหารอีสาน/เครื่องดื่ม
กิจกรรมโปรโมชั่นร่วมกับพันธมิตรในพื้นที่ เช่น ร้านอาหารร้านค้าที่เป็นสมาชิกหอการค้าจังหวัดขอนแก่น โรงแรม/ที่พัก สมาชิกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวและไมซ์จังหวัดขอนแก่น ผ่านการจัดกิจกรรมกระตุ้นการใช้จ่ายต่าง ๆ
ไฮไลต์งานนี้ส่งเสริมการใช้บริการขนส่งสาธารณะ
เพื่ออำนวยความสะดวกในการเดินทางเข้าร่วมงาน โดยจัดทำเป็น Festival Loop Line ในรูปแบบ Park & Go ตามเส้นทางผ่านร้านค้าร้านอาหารและโรงแรมที่พัก ที่เข้าร่วมโครงการมอบส่วนลดหรือโปรโมชั่นพิเศษในงานดังกล่าว
ผอ.เสกสรร กล่าวว่า ทางขอนแก่นเองร่วมกันผลักดันให้เป็นจุดหมายปลายทางเมืองท่องเที่ยว World Festival Events โดยมีกิจกรรม งานขนาดใหญ่ เทศกาลประเพณีตามงบประมาณปี 2568 ระหว่างตุลาคม-ธันวาคม 2567 อีก 3 อีเวนต์ใหญ่ ได้แก่
บิ๊กอีเวนต์ที่ 1 เทศกาลไหมนานาชาติ งานผูกเสี่ยว และงานซอฟพาวเวอร์จังหวัดขอนแก่น ประจำปี 2567 ที่เฮือนโบราณ ศาลากลางจังหวัดขอนแก่น กำหนดจัดระหว่างสัปดาห์แรกของเดือนธันวาคม 2567 ถึงกลางเดือนธันวาคม 2567
บิ๊กอีเวนต์ที่ 2 เทศกาลปลาร้าหมอลำ Isan to The World ททท.ร่วมกับพันธมิตรสร้างสรรค์ขึ้นมาใหม่ จะจัดวันที่ 26-29 ธันวาคม 2567 บริเวณตึกแก่น ถนนศรีจันทน์ และบริเวณถนนไกย่าง บริเวณหน้าเทศบาลนครขอนแก่น เป้าหมายจะเป็นกลุ่มคนกรุงเทพฯ ต่างชาติที่พำนักในไทย (Expat) โดยออกแบบกิจกรรมเมนูอาหาร กลุ่ม LGBT ซึ่งสนใจหมอลำมากเป็นพิเศษ
ก่อนหน้านี้ได้นำงานปลาร้าหมอลำไปทำโร้ดโชว์ที่กรุงมอสโค
ในงานเทศกาลไทย แล้วระหว่าง 16-18 สิงหาคม 2567 จะไปโร้ดโชว์ในงานเทศกาลขนาดใหญ่ที่กรุงโตเกียว
จะนำเสนอเรื่องปลาร้า เรื่องการหมักดดอง ดนตรีอีสาน หมอลำ ต่อเนื่องด้วยหมอลำ
Cross Over ก้าวสู่ตลาดสากล
เนื่องจากปลาร้ามีมูลค่าการส่งออกปีละกว่าพันล้านบาท
กระจายไปยังร้านอาหารไทยในต่างประเทศ
งานนี้จะมีกิจกรรม
ประกอบด้วย 1.งานสัมมนา (Forum)
เชิงวิชาการเกี่ยวกับอุตสาหกรรมหมักดองประเภทปลาร้า (Fermentation)
2.งานนิทรรศการ (Exhibition) 3.งานแสดงหมอลำรูปแบบต่าง
ๆ เช่น traditional/ หมอลำ Cross Over นำศิลปินที่มีชื่อเสียงโด่งดังต่างประเทศรู้จักมาแสดงให้ชม
4.Isan Home
Coming กลุ่ม Expat (ชวนเขยต่างชาติกลับไปเยี่ยมบ้านภรรยาชาวไทย-อีสาน 5.อาหารอีสานทั้งแบบดั้งเดิม/fusion 6.จัดกิจกรรมขบวน Morlum Carnival ทุกวัน
บิ๊กอีเวนต์ที่
3 จัดขอนแก่น เคาน์ดาวน์
ประจำปี 2567 โดยเทศบาลนครขอนแก่นร่วมกับพันธมิตรในพื้นที่ส่งท้ายปีระหว่าง 29-31 ธันวาคม 2567
สำหรับแผนการตลาดท่องเที่ยวขอนแก่นปี
2568 แบ่งเป็น 2 ตลาดใหญ่
คือในประเทศและต่างประเทศ จึงได้จัดต่อเนื่องอีก 2 งาน
ที่จะทำให้ขอนแก่นเป็นมีเดือนแห่งการเที่ยวเทศกาลดนตรีระดับนานาชาติ ได้แก่
งานแรก
“เทศกาลดนตรีนานาชาติ : ISAN Music
Festival “ จัดเป็นครั้งที่ 12 แล้ว มีศิลปิน 80
ไลน์อัพ จัดตลอดเดือนกุมภาพันธ์ 2568 จะผลักดันเป็น
Music World Events ทางผู้จัดมุ่งเน้นนำศิลปินและอาร์ตผสมผสานอย่างสวยงาม
ททท.จึงหารือกับผู้จัดและองค์กรที่เกี่ยวอย่างสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ
(องค์การมหาชน) ภาคอีสาน
เพื่อวางแผนกระจายตัวนักท่องเที่ยวให้ได้มากที่สุดทั้งการพักค้างในเมืองและแคมป์ไซซ์
โดยได้รับอนุญาตจากเขื่อนอุบลรัตน์ อำเภอน้ำพอง ขนาดงานจะยิ่งใหญ่เสมือนลาสเวกัส
และ วันเดอร์ฟรุ้ต พัทยา แต่ละครั้งมีคนเข้าร่วมหลักแสนคน
โดยจะทำเป็นงานเฟสติวัลเพื่อบรรจุเป็นปฏิทินท่องเที่ยวเป็นลิสต์ที่นักท่องเที่ยวกลุ่มมิวสิค
เลิฟเวอร์ จะต้องมาชมทุกปี
งานที่
2 เทศกาลดนตรี “เฉียงเหนือ เฟสต์”
จัดช่วงกลางเดือนกุมภาพันธ์ 2568 เอกชนเป็นผู้จัด
ทำต่อเนื่องหลังจากปีก่อนจัดวันเดียว มีผู้เข้าร่วม 25,000 คน
สร้างรายได้ 250 ล้านบาท เพราะเวทีขนาดใหญ่
สามารถดึงคนรอบพื้นที่ขอนแก่น และกรุงเทพฯ ทำให้เกิดการใช้จ่ายเงินอย่างเต็มที่
ดังนั้นช่วงเดือนกุมภาพันธ์
2568 ขอนแก่นจะเป็นจุดหมายปลายทางของเมืองดนตรี
สามารถขับเคลื่อนเป็น World Festival & Event ที่จะสร้างให้ขอนแก่นกระตุ้นการท่องเที่ยว
2 อีเวนต์นานาชาติ คือ เมืองแห่งดนตรี/Music และอาหารการกิน/Gastronomy โดยมีร้านอาหารระดับท็อปเทนระดับตำนาน
และมิชลิน
สามารถผสมผสานจุดแข็งให้กลายเป็นจุดขายสร้างเศรษฐกิจเติบโตอย่างมั่นคงในอนาคตต่อไป
ฟังข่าวต้นชั่วโมง
ข่าวที่ 1 -เสาร์นี้มีนัดกับศิลปินจิมมี่ที่คิงเพาเวอร์รางน้ำมิวสิคFUNอิ่มฟรี
วันเสาร์นี้มีนัด
!! เสาร์ 17
สิงหาคม 2567 คิง เพาเวอร์ นัดเหล่ามิวสิค เลิฟเวอร์ ไปเจอกันที่ “คิง
เพาเวอร์ รางน้ำ” ทุกวันหยุดสุดสัปดาห์ Weekend Possibility
เตรียมตัวฟินทุกโมเมนต์กับศิลปินหน้าใส
“จิมมี่ จิตรพล” เปิดให้ทุกคนได้ร่วมเป็น 1 ใน 20 ผู้โชคดี
ที่จะได้ร่วมกิจกรรมบนเวทีแบบใกล้ชิดและรับสิทธิ์ถ่ายภาพคู่ศิลปิน
หรือรับรูปศิลปินพร้อมลายเซ็น
วิธีเข้าร่วมกิจกรรม
สมาชิก คิง เพาเวอร์ ชาวไทยและลูกค้าทุกสัญชาติ ลงทะเบียนรับฟรี 1 สิทธิ์ เพื่อร่วมเป็นผู้โชคดีเอนจอยโมเมนต์สุดฟิน เริ่มลงทะเบียนตั้งแต่ 10.00
- 16.00 น. ได้คนละ 1 สิทธิ์ /วัน
ใครยังไม่เป็นสมาชิกฯ
สมัครผ่านช่องทาง LINE Official Account : https://bit.ly/3Xtb0dH
จองอิ่มฟิน
! กับร้านดังฟังมิวสิกเพลินๆ
พร้อมหลากหลายกิจกรรมสุดฟัน ได้ทุกเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดพิเศษที่ คิง เพาเวอร์
รางน้ำ เดินทางสะดวกสบายด้วย BTS ลงสถานีอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ
ทางออกที่ 2
ข่าวที่ 2 -ช้อปคิงเพาเวอร์สนุกทุกสนามบินส่วนลด/รับฟรีถึง 30 ก.ย.67
ไม่พลาดทุกดีล!
ช้อปดิวตี้ ฟรี สนุกที่สนามบิน วันนี้– 30 ก.ย. 2567 ช้อปได้ทันทีที่ 4 สนามบิน สุวรรณภูมิ ดอนเมือง เชียงใหม่ และภูเก็ต
1.สมาชิก คิง เพาเวอร์ ช้อปสนุก รับ “ส่วนลด” ทุกการช้อปตามสถานะสมาชิกสูงสุด
20% “รับฟรี!” ส่วนลด 300 บาท เมื่อช้อปครบ 3,500 บาทขึ้นไป/ใบเสร็จ
2.ยังไม่เป็นสมาชิก ลดคุ้มเกินคุ้ม! “รับฟรี!” GIFT CARD 2,000 บาท สำหรับช้อปสินค้ามูลค่ามากกว่า 2,000 บาทขึ้นไป/ใบเสร็จ
เมื่อสมัครสมาชิก
SCARLET และเติมเงินไว้ใช้ช้อป 18,000
บาท(จากปกติเติมเงิน 20,000 บาท) แล้วใช้ส่วนลดได้ทันที! ส่วนลด 300 บาท
สำหรับช้อป 3,500 บาทขึ้นไป/ใบเสร็จ และสมัครฟรีสมาชิก NAVY ฟรี
จากปกติต้องเติมเงิน 1,000 บาท
3.รับสิทธิพิเศษยิ่งกว่าใคร! จาก คิง เพาเวอร์ และพันธมิตรชั้นนำ
คุ้มแรก
รับกะรัตทุกการช้อป 100 บาท รับ 1 กะรัต*
คุ้มที่
2 สะสมยอดช้อปเพื่อปรับสถานะเป็นสมาชิก ONYX
คุ้มที่
3 สิทธิ์วันเกิดรับ CASH BACK 25%
x 2 สิทธิ์
คุ้มที่
4 สิทธิ์เข้าใช้บริการ KING POWER SPACEที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ 6 สิทธิ์ / ปี (สำหรับสมาชิก SCARLET ขึ้นไป)
ข่าวที่ 3-คิงเพาเวอร์เปิดออนไลน์รวมเหล่าช้อปไอเทมตัวหอมแบรนด์ดัง
คิง
เพาเวอร์ มีดีมาบอก อยากตัวหอมต้องช้อปไอเทมนี้!! พาเหรดแบรนด์สุดหรูมาให้เลือก
ทั้ง MAISON MARGIELA, YSL , TOM FORD, LANCOME , BURBERRY, GUCCI, JO
MALONE LONDON และแบรนด์ดังอีกมาก ดีลสุดคุ้มขนาดนี้ จะพลาดได้งัย
รีบช้อปและรอรับของที่สนามบิน
POWER
YOUR HAPPINESS JOURNEY ลดสูงสุด 20% เปิดประตูสู่ความสุข
ฟินไปกับทุกการช้อปขาออกประเทศ อยู่ที่ไหนก็กดช้อปสบายกับ “คิง เพาเวอร์ ออนไลน์”
เริ่มวันนี้- 31 สิงหาคม 2567
ช้อปดีลสุดพิเศษที่อดใจไว้ไม่อยู่
สายช้อปแบบไหนก็มีหมดครบในที่เดียว ทั้งสายแฟ สายบิวตี้ สายกิน และอื่นๆอีกมาก SHOP
MORE SAVE MORE!! ดีลจัดเต็มตลอดท้ังเดือน มีไฟลต์ช้อปด่วน
และรอรับของที่สนามบิน
1.ลดสูงสุด 10% เมื่อช้อปครบ 3,000 บาทรหัสส่วนลด 10AUG24
2.ลดสูงสุด 15% เมื่อช้อปครบ 6,000 บาท รหัสส่วนลด 15AUG24
3.ลดสูงสุด 20% เมื่อช้อปครบ 10,000 บาทรหัสส่วนลด 20AUG24
ข่าวที่ 4 -ททท.ตีปีกรับมาเลเซียแอร์บินเชียงใหม่/ปี67ตั้งเป้า 5 ล้านคน
นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
(ททท.) เปิดเผยว่า ททท.นำกลยุทธ์แอร์ไลน์ส โฟกัส
ร่วมกับสายการบินนานาชาติขยายตลาดดึงนักท่องเที่ยวต่างชาติมาไทย วันที่ 15 สิงหาคม 2567 ร่วมกันต้อนรับสายการบินมาเลเซีย
แอร์ไลน์ เปิดบินตรงแบบประจำ ไป-กลับ กัวลาลัมเปอร์(มาเลเซีย-เชียงใหม่ (ไทย)
บริการ 5 เที่ยว/สัปดาห์ โดยใช้เครื่องบินแอร์บัส A330neo
ขนาดบรรทุกผู้โดยสาร 297 ที่นั่ง/เที่ยว นำร่องความร่วมมือยกระดับไทยเป็นประเทศศูนย์กลางการบินแห่งอาเซียน
หรือ HUB OF ASEAN
สถิติตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม – 12 สิงหาคม 2567 ชาวมาเลเซียเดินทางเข้ามาเที่ยวเมืองไทยแล้ว3,029,594
คน เพิ่มขึ้น 27.65 % เปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันกับปี
2566 ตลอดปี 2567 ททท.เล็งเห็ฯโอกาสการเติบโตอย่างต่อเนื่องที่จะทำให้มาเลเซียเที่ยวไทยให้ได้ตามเป้า
5 ล้านคน เร่งส่งเสริมกิจกรรมการขายร่วมกับพันธมิตรและผู้ประกอบการอย่างต่อเนื่องมาจนถึงขณะนี้
ทางมาเลเซีย
แอร์ไลน์ส ได้เปิดปฐมฤกษ์ เที่ยวบินตรง MH772 จากกัวลาลัมเปอร์มายังเชียงใหม่เรียบร้อยแล้ว
เริ่มวันนี้ 15 สิงหาคม 2567 เวลา 11.50 น. – 13.40 น.นำนักท่องเที่ยวโดยสารเครื่อง A330neo
เข้ามาพักผ่อนในภาคเหนือของไทย โดยมีผู้บริหาร
ททท.หน่วยงานภาครัฐและเอกชนในพื้นที่ร่วมกันต้อนรับส่งมอบความประทับใจให้แก่นักท่องเที่ยวทันทีที่เดินทางมาถึงเชียงใหม่
โดยท่าอากาศยานเชียงใหม่ได้จัดทำอุโมงค์น้ำรับเที่ยวบินปฐมฤกษ์
ส่วนบรรยากาศภายในสนามบินขาเข้าก็ร่วมกันมอบของที่ระลึกแก่นักท่องเที่ยวที่มากับเที่ยวบินดังกล่าว
แสดงความเป็นมิตรไมตรีในฐานะเจ้าบ้าน ตอกย้ำให้ไทยเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมของนักท่องเที่ยวทั่วโลก
ผู้ว่าฯ
ฐาปนีย์ ย้ำว่า พฤติกรรมตลาดมาเลเซียนิยมมาเที่ยวเมืองไทยในรูปแบบเดินทางอิสระโดยลำพัง
(FIT) 80 %
เป็นนักท่องเที่ยวเดินทางมาซ้ำ ๆ ปีละหลายครั้ง (Repeat Visitors) 69 % เลือก “จุดหมายปลายทางยอดนิยม”
ตามลำดับ 5 จังหวัด
ได้แก่ สงขลา กรุงเทพมหานคร ภูเก็ต กระบี่ ชลบุรี เชียงใหม่ และ สุราษฎร์ธานี ให้ความสนใจทำ
“กิจกรรม” รับประทานอาหารไทย นวดสปา
ชมแสงสียามค่ำคืน ชมแหล่งท่องเที่ยวประวัติศาสตร์ และชายหาด จัดเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวคุณภาพที่มีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่องเพิ่มสูงขึ้นทุกปี
เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2567 ประเทศไทยร่วมกันต้อนรับเที่ยวบินปฐมฤกษ์ มาเลเซีย แอร์ไลน์ส เที่ยวบิน MH772 นำโดย นายวรวิทย์
ชัยสวัสดิ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ นางพิมพา รัตนพฤกษ์
รองผู้อำนวยการภูมิภาคอาเซียน เอเชียใต้ และแปซิฟิกใต้ ททท. นางพัศลินทร์
เศวตรัตน์ ผู้อำนวยการสำนักงาน ททท. สำนักงานเชียงใหม่ นางศิรินทรา สุระกนิตย์
ผู้อำนวยการสำนักงาน ททท. สำนักงานกัวลาลัมเปอร์ นายณัฐจิต อุ่นเสียม
ผู้อำนวยการกองตลาดอาเซียน เอเชียใต้ ททท. และแปซิฟิกใต้ Ms. Emily Tan ประธานเจ้าหน้าที่การตลาดมาเลเซีย แอร์ไลน์ส และ
ผู้แทนจากหน่วยงานภาครัฐและเอกชนในพื้นที่เชียงใหม่
ข่าวที่ 5- บางจากร่วมมาเลเซียชูโมเดลทำตลาด“คาร์บอนอาเซียน”
นางกลอยตา ณ
ถลาง รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ งานบริหารความยั่งยืนและสื่อสารองค์กร บริษัท บางจาก
คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในฐานะประธาน Carbon Markets Club และประธานคณะอนุกรรมการด้านตลาดคาร์บอน
เครือข่ายคาร์บอนนิวทรัลประเทศไทย (TCNN) ได้เข้าร่วมงาน 2nd Malaysia Carbon Market Forum 2024 ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ มาเลเซีย พร้อมกับนำเสนอโมเดลการพัฒนาตลาดคาร์บอนในอาเซียภายใต้หัวข้อ
"Empowering Climate Actions through Carbon
Market" เวที่ทาง Bursa Carbon Exchange ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของตลาดหลักทรัพย์มาเลเซีย
จัดขึ้นเมื่อเร็ว ๆ นี้
เพื่อร่วมมือกันกระตุ้นธุรกิจปรับตัวรับสถานการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นในภูมิภาค
การเข้าร่วมการประชุม ASEAN-BAC Malaysia Closed Door Roundtable
Meeting เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม ด้วยการแบ่งปันประสบการณ์จากการจัดตั้ง Carbon Markets Club เมื่อปี 2564 เพื่อสนับสนุนการซื้อขายคาร์บอนเครดิตของประเทศไทยซึ่งเป็นตลาดภาคสมัครใจ
พร้อมทั้งได้หารือกับผู้เข้าร่วมการประชุมจัดตั้งกรอบการทำงานร่วมกันของตลาดคาร์บอนอาเซียน
(ASEAN Common Carbon Framework) พุ่งเป้าพัฒนาระบบนิเวศตลาดคาร์บอนในภูมิภาคและส่งเสริมความร่วมมือระหว่างประเทศสมาชิกอาเซียน
จากนั้นวันที่ 8 สิงหาคม 2567 ได้รับเชิญเข้าร่วมเสวนา "Creating a High Integrity ASEAN Carbon
Market" ร่วมผู้เชี่ยวชาญของมาเลเซีย
อินโดนีเซีย และเวียดนาม เน้นพัฒนาตลาดคาร์บอนเครดิตคุณภาพสูงในอาเซียน รวมทั้งได้หารือเพิ่มเติมเกี่ยวกับศักยภาพของกรอบการทำงานร่วมกันของตลาดคาร์บอนอาเซียน
เพื่อดำเนินการสร้างความเป็นกลางทางคาร์บอนในภูมิภาค
นางกลอยตากล่าวว่าได้ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนอาเซียน โดยสะท้อนมุมมองจากประสบการณ์ในตลาดคาร์บอนภาคสมัครใจของประเทศไทย
ซึ่งมีบทบาทสำคัญด้านความร่วมมือระดับภูมิภาคเพื่อพัฒนาตลาดคาร์บอนในอาเซียน
และย้ำถึงความสำคัญของกรอบการดำเนินงานตลาดคาร์บอนอาเซียน (ACCF)ที่จะทำให้บรรลุเป้าหมายด้านสภาพภูมิอากาศระดับภูมิภาค รวมถึงการเปิดตัว Malaysia Carbon Market Association (MCMA) ซึ่งตั้งขึ้นเพื่อส่งเสริมและเร่งการพัฒนาตลาดคาร์บอนในมาเลเซียด้วย
ข่าวที่
6 - ทีเส็บอีสานรุกจัดไมซ์ISAN Expo-แนะใช้ชุมชนโคราชทำCSR
สำนักส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ หรือ “TCEB
อีสาน” รายงานว่าได้เป็นเจ้าภาพจัด ISAN MICE EXPO 2024 ภายใต้แนวคิด“Leap
New Heights in The Future with ISAN Destinations ก้าวกระโดดสู่อนาคตใหม่ที่ภูมิภาคอีสาน” เมื่อ 15
สิงหาคม 2567 เวลา 09.00
– 16.30 น.ที่โรงแรม
ดิ อิมพีเรียล โฮเทล แอนด์ คอนเวนชั่น เซ็นเตอร์ นครราชสีมา
โดยเปิดเวทีให้หน่วยงานไมซ์ภาครัฐและภาคเอกชนในภูมิภาคต่าง
ๆ มีโอกาสพบปะ แลกเปลี่ยนข้อมูลเกี่ยวกับสินค้า บริการ และจับคู่เจรจาธุรกิจ (Business
Matching) กับผู้ประกอบกาไมซ์ภายในประเทศ
ทำให้ไมซ์อีสานช่วงครึ่งปีหลัง 2567
กระตุ้นเศรษฐกิจคึกคักเพิ่มขึ้น โดยแบ่งการจัดเป็น 3
ส่วน ได้แก่ ส่วนที่ 1 จัดประชุมสัมมนา ส่วนที่
2 โซนพื้นที่สำหรับส่วนแสดงนิทรรศการ (Showcase) ส่วนที่ 3 โซนพื้นที่ทำกิจกรรมตั้งโต๊ะเจรจาธุรกิจ
(Table Top Sales) ระหว่างผู้ซื้อกับผู้ขาย
ขณะเดียวกันก็มีพื้นที่ใน “นครราชสีมา”
แนะนำเลือกใช้บริการจัดงานไมซ์ที่ “ชุมชนบ้านท่ามะปรางค์-คลองเพล”อยู่ริมเขาใหญ่โอบล้อมด้วยผืนป่าธรรมชาติเขียวขจี
มีสายน้ำลำตะคองไหลผ่าน เป็นแหล่งโอโซนต้นน้ำสะอาดและบริสุทธิ์ วิถีชีวิตผู้คนในชุมชนผูกพันกับธรรมชาติ
เกื้อกูลกันทั้งคน ต้นไม้ และสัตว์ป่า สามารถทำกิจกรรมลดคาร์บอน CSR Low carbon เชิงสร้างสรรค์ได้หลากหลายรูปแบบด้วยกัน
โดยมี “วิสาหกิจชุมชนบ้านท่ามะปรางค์-คลองเพล”
ดูแลบริการร่วมทำกิจกรรมต่าง ๆ ได้มากถึง 12
1.ปั่นจักรยานเส้นทางเลียบภูเขาลอดอุโมงค์ต้นไม้ 2.ชิมผลไม้สดจากสวนตามฤดูกาล
3.นมัสการหลวงพ่อใหญ่
อายุกว่า 100 ปี 4.ทำของที่ระลึกด้วยตนเองจากสวนครัวหลังบ้าน
5.รับประทานอาหารพื้นถิ่นแสนอร่อยฝีมือชาวบ้านในชุมชน
6.เที่ยวสวนเกษตรผสมผสานและสวนเกษตรพอเพียง
7.ทำบุญตักบาตร ชมวิถีชีวิตชุมชนยามเช้า 8.สนุกสนานกับการช้อนกุ้ง
บริเวณน้ำลำตะคอง
9.เล่นน้ำผ่อนคลายในลำธารใสสะอาดเย็นสบาย
10.เพิ่มพื้นที่สีเขียวด้วยกิจกรรม
“ปลูกป่า” ที่ศูนย์การเรียนรู้ท่องเที่ยวเชิงนิเวศ ททท.11.ทำกิจกรรมลูกไม้ใกล้บ้าน”
ร่วมทำ D.I.Y. พับกุหลาบจากใบเตยกับลูกมะกรูด
วัสดุทั้งหมดปลูกอยู่ทั่วไปในสวนหลังบ้าน หรือทำลูกหอมดับกลิ่นจากผลมะกรูดด้วยตัวเองเป็นของที่ระลึกนำกลับบ้านได้
และ12.เรียนรู้เรื่อง
ช้าง สัตว์ตัวใหญ่ประจำถิ่น ที่ศูนย์อนุรักษ์ช้างไทยเขาใหญ่
ช่วงที่ 2 เที่ยวไทยต้องเตรียมตัวไปสัมผัสประสบการณ์เมืองน่าเที่ยวจัดครั้งแรก
“เทศกาลโกโก้” อำเภอสวนผึ้ง จ.ราชบุรี มี 6 กิจกรรมฮีลใจ กิน
ช้อป ชิล ชมธรรมชาติในหุบเขาสวย ๆ แล้วฟัง “วิธีเลือกซื้ออาหารกระป๋อง” 8ลักษณะต้องห้าม เกาะติดข่าวเด่น ข่าวแรก “บางกอกแอร์เวย์ส” ครึ่งปีแรก รายได้
1.36 หมื่นล้าน กำไรโต 67 % ข่าวที่สอง
“เอมิเรตส์” รุกตลาดคนไทยบินเที่ยวซัมเมอร์ 5 เส้นทางฮ็อต
ท่องเที่ยว –สุขทันทีที่เที่ยวเทศกาลโกโก้สวนผึ้งครั้งแรกเมืองน่าเที่ยวราชบุรี
วงปฏิทินเตรียมออกเดินทางไปหาประสบการณ์ใหม่ไปทัวร์
“เทศกาลโกโก้” ครั้งแรกในเมืองน่าเที่ยว เดอะ ฮาร์โมนี่ สวนผึ้ง จ.ราชบุรี สุขทันทีที่เที่ยวงาน
“The Chocolate Woods Festival “ 30 - 31 สิงหาคม และ 1
กันยายน 2567
เมื่อการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
(ททท. ) ภูมิภาคภาคกลาง กับสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวสวนผึ้ง
ชวนตั้งเข็มไมล์ออกเดินทางเที่ยวฉ่ำว้าวช่วงหน้าฝนชมธรรมชาติเขียวขจีใน
“อำเภอสวนผึ้ง” และเที่ยวเชื่อมโยงไปยังอำเภอใกล้เคียงอื่น ๆ ได้ด้วยราชบุรี
ตื่นตากับแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรส่งเสริมชุมชนเกษตรกรโกโก้ให้มีช่องทางในการประชาสัมพันธ์และเสนอขายผลิตพันธ์จากโกโก้
แบ่งปันองค์ความรู้ระหว่างกัน อันเป็นการพัฒนาคุณภาพชีวิตของชุมชนท่องเที่ยว
อีกทั้งเป็นการตอบรับนโยบายส่งเสริมการท่องเที่ยวเมืองน่าเที่ยวของรัฐบาล
ตลอดจนนำไปสู่การพัฒนาสู่ความสำเร็จของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทยที่เติบโตอย่างยั่งยืนและสมดุล
สัมผัสประสบการณ์ใหม่ที่น่าประทับใจ
ผ่านกิจกรรมหลากหลาย
กิจกรรมที่ 1 อิ่มอร่อยกับกิจกรรม Chocolate Fine Dining ดื่มด่ำเมนูเลิศรสที่รังสรรค์จากช็อกโกแลต
กิจกรรมที่
2 Chocolate & Wine Pairing สัมผัสความสุนทรีย์ในการจับคู่ไวน์และช็อคโกแลตแต่ละประเภทที่ผสมผสานอย่างลงตัว
กิจกรรมที่
3 Chocolate Spa ผ่อนคลายกับการนวดด้วยน้ำมันโก้และการทำสปาจากช็อกโกแล็ต
กิจกรรม 4 เดินช้อปสุดฟินกับตลาดเก๋
ๆ Chocolate Market นำเสนอผลิตภัณฑ์ชุมชนจากช็อคโกแลต
กิจกรรมที่
5 ปั่นจักรยานจิบช็อคโกแลตยามเช้าริมลำธาร
กิจกรรมที่
6 ฮีลใจไปกับเสียงเพลงท่ามกลางหุบเขาสวย ๆ กับ Music
Art & Fashion In The Forest music
มรเสพดนตรีฮีลใจและสนุกกับสีสันของแฟชั่นท้องถิ่นจากผ้าที่ใช้โกโก้เป็นวัตถุดิบในการผลิต
และภายในงานมีการคำนวณคาร์บอนสุทธิ
งานนี้มี
“มหาวิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้านจอมบึง” สนับสนุนเครื่องมือ Thai
Carbon Footprint Calculator รวมทั้งลดการปล่อยคาร์บอนโดยวิธีออกแบบเมนูอาหารที่ปล่อยก๊าซคาร์บอนต่ำ
ใช้วัตถุดิบในชุมชนเพื่อลดการขนส่ง รณรงค์งดใช้พลาสติกและโฟม
ตกแต่งบริเวณจัดงานด้วยวัสดุธรรมชาติ และใช้พลังงาน Solar Energy ด้วยการเลือกสถานที่ในการจัดงานที่โปร่งโล่ง มีแสงส่องสว่าง
และได้รับความร่มรื่นจากต้นไม้
นักท่องเที่ยวที่จะเที่ยวเทศกาลโกโก้
สอบถามเพิ่มได้ที่สมาคมธุรกิจท่องเที่ยวสวนผึ้ง โทร.032 395 248
สุขภาพ
–วิธีเลือก “ซื้ออาหารกระป๋อง” กับ 8 ลักษณะสินค้าต้องห้าม
กรมอนามัย
กระทรวงสาธารณสุข มีคำแนะนำมาฝากผู้บริโภคที่ชอบควรรับประทานอาหารกระป๋อง มีวิธีเลือกซื้อคือ
ดูเลข อย. ตรวจเช็กบรรจุภัณฑ์ต้องไม่มีรอยบุบ ไม่เป็นสนิม
และควรตรวจสอบวันที่ผลิตและวันหมดอายุที่ระบุบนบรรจุภัณฑ์ รวมถึงพิจารณาคุณค่าทางโภชนาการก่อนซื้อทุกครั้ง
ที่สำคัญควรเก็บรักษาไม่ดี
อาจทำให้กระป๋องเกิดสนิม ซึ่งเป็นช่องทางให้เชื้อโรคและ
แบคทีเรียเข้าสู่กระป๋องได้ โดยเฉพาะแบคทีเรียคลอสติเดียม โบทูลินัม (Clostridium Botulinum) ที่เติบโตในที่ไร้ออกซิเจน
หากกินเข้าไปอาจส่งผลให้ปวดท้อง ท้องเสีย คลื่นไส้ อาเจียน ตามัว จุกแน่นหน้าอก
หายใจลำบาก แขนขาอ่อนแรง และเป็นอัมพาตได้ หากไม่รีบไป พบแพทย์แต่เนิ่น ๆ
ก็อาจทาให้เป็นอันตรายถึงชีวิตได้
“8
ลักษณะ” อาหารกระป๋องที่ไม่ควรบริโภค
หรือห้ามกินโดยเด็ดขาดเพื่อสุขภาพของตัวเราเอง มีดังนี้
1.กระป๋องบุบบี้หรือโป่งพองและเป็นสนิม 2.ฝากระป๋องไม่ควรยุบหรือพองออก
3.เมื่อเขย่าจะมีเสียงกระฉอกของน้ำกับอากาศ 4.เปิดกระป๋องแล้วมีอากาศ(ลม)
พุ่งออกมาจากภายใน 5.เปิดแล้ว
ได้กลิ่นบูดเน่าหรือกลิ่นผิดแปลกไปจากเดิม
6.เมื่อเทอาหารออก เห็นสนิมหรือรอยถลอกในกระป๋อง 7.อาหารที่ผลิตมานานมากหรือหมดอายุแล้ว
และ 8.ไม่มีการแสดงสาระสำคัญของฉลาก เช่น เลขสารบบอาหาร
วันเดือนปีที่ควรบริโภคก่อน ชื่อและที่ตั้งผู้ผลิตหรือผู้นำเข้า
วิธี “กินอาหารกระป๋อง” ให้ได้ประโยชน์สูงสุด
แนะนำให้ลองทำเมนูใหม่
ๆ โดยนำอาหารกระป๋องมาประกอบอาหารร่วมกับอาหารปรุงสด เช่น ใส่โปรตีนสด อย่างปลา
หมู ไก่สด
หรือผักที่ชอบลงไปเพิ่มเติมเพื่อให้ได้สารอาหารที่ครบถ้วนและเป็นประโยชน์ต่อสุขภาพ
ฟังข่าวท้ายชั่วโมง
ข่าวแรก
–“บางกอกแอร์”เป๋าตุงครึ่งปี67รายได้1.36หมื่นล้านกำไรโต67%
นายพุฒิพงศ์
ปราสาททองโอสถ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่
บริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า นำสายการบินบางกอกแอร์เวย์ส (BA) ไตรมาส 2 ปี 2567 ทำรายได้รวมครึ่งปีแรก 13,625 ล้านบาท
เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันกับปีก่อน 27.3 % มีผลกำไรสุทธิ
2,591.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 67.6 % ให้บริการขนส่งผู้โดยสารรวม 2.26 ล้านคน เพิ่มขึ้น11.3 % โดยยังคงได้รับแรงหนุนจากการฟื้นของภาคอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและการบินโลก
ทำกำไรจากการดำเนินงาน
3.367.3 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 66.5 % เป็นรายได้ตั๋วโดยสารของธุรกิจการบินและรายได้ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจสนามบิน
ครึ่งปีแรกขายตั๋วโดยสารราคาเฉลี่ย 4,235 บาท/เที่ยว
มีผลกำไรสุทธิสำหรับงวด 2,591.5 ล้านบาท
แบ่งเป็น “กำไรส่วนของผู้ถือหุ้น” บริษัทฯ 2,585.4 ล้านบาท
กำไรต่อหุ้น 1.23 บาท
ส่วนรายได้จากการขาย-บริการส่วนใหญ่ มาจากธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับสนามบิน 2,544.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 28.3 % มีค่าใช้จ่ายรวม 10,147.7 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 17.4 %
ส่วนใหญ่มาจากต้นทุนการขาย-บริการเพิ่มสูงขึ้น
เปรียบเทียบการเติบโตกับช่วงเดียวกันกับปีก่อนการขนส่งผู้โดยสารตลอด
6 เดือนแรกปีนี้ 2567 ได้ให้บริการที่นั่ง 2.7 ล้านที่นั่ง เติบโต 8.0 % ขนส่งผู้โดยสารรวม 2.3 ล้านคน เพิ่มขึ้น 11.4 % ทำอัตราขนส่งผู้โดยสารเฉลี่ย
83.3 % เพิ่มขึ้น 2.0 %
บริษัทฯ
ได้เข้าร่วมทำสัญญาทำความตกลงเที่ยวบินร่วม (Codeshare) เพิ่มเติมกับ 2 สายการบิน ได้แก่ ลุฟท์ฮันซ่า (เยอรมัน) เมื่อเดือนพฤษภาคม
2567 และสวิสอินเตอร์แนชั่นแนลแอร์ไลน์เดือนมิถุนายน 2567 รวมแล้วตอนนี้ได้ทำความตกลงเที่ยวบินร่วมกับทั้งหมด
30 สายการบิน อีกทั้งยังได้แสดงเจตนารมณ์สนับสนุนการใช้เชื้อเพลิงพลังงานสะอาด
ลดการปล่อยก๊าซ CO2 สู่ชั้นบรรยากาศ เมื่อเดือนมิถุนายน
2567 เริ่มนำร่องใช้น้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานแบบยั่งยืน หรือ Sustainable
Aviation Fuel (SAF) กับเที่ยวบินบางกอกแอร์เวย์สเส้นทางสมุย-กรุงเทพฯ
นายพุฒิพงศ์
กล่าวว่า บางกอกแอร์เวย์ พร้อมตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นส่งมอบการบริการที่ประทับใจและเป็นเลิศซึ่งได้การยอมรับในอุตสาหกรรมการบินโลก
ด้วยการคว้ารางวัลสกายแทร็กซ์ หรือ Skytrax World
Airline Awards 2 รางวัล ได้แก่
สายการบินระดับภูมิภาคที่ดีที่สุดในโลก
และสายการบินระดับภูมิภาคที่ดีที่สุดในเอเชีย ประจำปี 2024 เป็นปีที่ 8 ติดต่อกัน แล้วบางกอกแอร์เวย์สยังได้รับการจัดอันดับให้เป็นสายการบินดีที่สุดในโลก
อันดับที่ 27 (Top 100 Airlines 2024) เมื่อเร็ว ๆ นี้อีกรางวัล
ข่าวที่สอง
-เอมิเรตส์รุกตลาดคนไทยซัมเมอร์ปี’67บินเที่ยวฮ็อต5เส้นทาง
สายการบินเอมิเรตส์ รายงานว่า ในฐานะสายการบินระหว่างประเทศรายใหญ่ที่สุดของโลก
พบปี 2567 คนไทยใช้บริการเที่ยวบินช่วงฤดูร้อนเดินทางต่างประเทศยอดนิยมมากที่สุด
5 จุดหมาย ได้แก่
ฮ่องกง ดูไบ/สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ปารีส/ฝรั่งเศส ซูริค/สวิสเซอร์แลนด์ และ มิลาน(อิตาลี)
แล้วเอมิเรตส์ยังคงครองใจผู้โดยสารไทยจำนวนหลายพันคนต้องการค้นหาจุดหมายปลายทางใหม่
ๆ ครอบคลุมทุกเครือข่ายการบิน ด้วยผลิตภัณฑ์และบริการระดับโลกพร้อมให้ทุกคนได้สัมผัสอย่างสะดวกสบาย
5 เส้นทางหลัก
ได้แก่
เส้นทางที่
1 ฮ่องกง มหานครแห่งสีสันจากกรุงเทพฯเวลาบินเพียง
2.30 ชั่วโมง มีสถานที่ยอดนิยมด้านวัฒนธรรม
แหล่งช้อปปิ้ง อาหารรสเลิศมากมาย พร้อมประสบการณ์ในการเดินเที่ยวตลาด เยี่ยมชมแลนด์มาร์ค
ลิ้มลองอาหารและความบันเทิงระดับโลก ปัจจุบันเอมิเรตส์ใช้เครื่องบินไอโคนิก
แอร์บัส A380 บริการ ไป-กลับ
กรุงเทพฯ-ฮ่องกง ทุกวัน
เส้นทางที่
2 ดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
เมืองโอเอซิสขึ้นชื่อใจกลางตะวันออกกลาง เข้าถึงได้อย่างง่ายด้วยบริการระดับโลกจากสายการบินเอมิเรตส์
มีเที่ยวบินบริการ ไป-กลับ กรุงเทพฯ-ดูไบ 35 เที่ยว/สัปดาห์ และ ภูเก็ต-ดูไบ อีก 14 เที่ยว/สัปดาห์ ด้วยเครื่องซูเปอร์จัมโบ้ แอร์บัส
A380 และโบอิ้ง B777
มีแม่เหล็กเรื่องความหรูหราไม่เหมือนใคร
พร้อมวัฒนธรรมที่มีชีวิตชีวา แหล่งช้อปปิ้งระดับโลก เป็นสถานที่พักผ่อนสมบูรณ์แบบตอบโจทย์ประสบการณ์ที่น่าจดจำและไม่ซ้ำใคร
เยี่ยมชมตึก Burj Khalifa อันโด่งดัง
ไปจนถึงการรับประทานอาหารรสเลิศ หรือเพียงแค่อาบแดดบนชายหาดอันแสนอบอุ่น
รับรองได้ว่าดูไบจะมอบประสบการณ์การเดินทางสุดพิเศษให้แก่ผู้มาเยือนทุกคน
ปัจจุบันผู้โดยสารที่ต้องการขยายเวลาแวะพักในดูไบระหว่างเดินทางไปยุโรปหรือสถานที่อื่น
ๆ สามารถยกใช้บริการ My Emirates Pass มีข้อเสนอสุดพิเศษให้เยี่ยมชมสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยม
ตั้งแต่สวนน้ำ ชมวิวบนยอดตึกเบิร์ก คาลิฟา แถมยังช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้ด้วย
เพียงแสดงตั๋วโดยสารจากสายการบินเอมิเรตส์ทั้งแบบกระดาษหรืออิเล็กทรอนิกส์
พร้อมข้อมูลยืนยันตัวตนในจุดที่เข้าร่วมรายการ
เส้นทางที่
3 ปารีส ฝรั่งเศส
เมืองหลวงที่มีนักท่องเที่ยวไปเยี่ยมเยือนมากที่สุดในโลก เอมิเรตส์
มีเที่ยวบินบริการ ไป-กลับ ดูไบ-ปารีส 3 เที่ยว/วัน
ด้วยเครื่องแอร์บัส A380 และโบอิ้ง
B777 มีแหล่งท่องเที่ยวโดดเด่นให้เลือกมากมาย
ทั้งหอไอเฟล มหาวิหารนอร์ทเทอร์-ดาม ถนนฌ็องเซลิเซ่ สถานที่ต้องห้ามพลาด เช่น พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์เข้าไปชมภาพภาพวาดโมนาลิซา
และหอศิลป์อื่น ๆ และการเดินชมย่านลาติน ควอเตอร์ อันเลื่องชื่อ
แวะชิมอาหารพื้นเมืองฝรั่งเศสที่ร้านอาหารและคาเฟ่สุดฮิป
เส้นทางที่
ซูริค สวิตเซอร์แลนด์ เอมิเรตส์บินบริการ ไป-กลับ ดูไบ-ซุริค 2 เที่ยว/วัน พาไปสำรวจเมืองแห่งการผสมผสานอย่างลงตัวระหว่างเสน่ห์ตัวเมืองกับธรรมชาติสวยงาม
สามารถไปเยี่ยมชมเมืองเก่า ล่องเรือไปตามแม่น้ำซูริค หรือเดินช้อปปิ้งบนถนนย่านการค้าเก่าแก่
Bahnhofstrasse หนึ่งในถนนการค้าเก่าแก่ของเมือง
และร่วมผจญภัยช่วงฤดูร้อนในเส้นทางพิชิตเทือกเขาแอลป์หลายจุดด้วยกันทั้งTitlis
และ Jungfraujoch
เส้นทางที่
5 มิลาน อิตาลี
เอมิเรตส์มีเที่ยวบินบริการ ไป-กลับ ดูไบ-มิลาน 2 เที่ยว/วัน ด้วยเครื่องแอร์บัส A380 พาไปเยือนเมืองหลวงแห่งแฟชั่น ละลานตากับสถานที่หรูหราทันสมัยผสานกับเสน่ห์เรื่องราวทางประวัติศาสตร์
และมรดกทางศิลปะมากมาย มีพิพิธภัณฑ์ระดับโลก เยี่ยมชมสถาปัตยกรรมอันน่าอัศจรรย์ใจ ช้อปปิ้งห้างสรรพสินค้าไฮเอนด์ให้ช้อปแบรนด์ดัง
ลิ้มรสชาติอาหารต้นตำรับอิตาลีอย่างพิซซ่า พาสต้า ไวน์ชั้นดี อีกทั้งมิลานยังถือเป็นประตูบานสำคัญในการสำรวจแคว้นบอมบาร์ดี้สวยงาม
และมีสิ่งตื่นตาตื่นใจอีกมากมาย
ติดตามฟังรายการได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์
เวลา 11.00-12.00 น.ทาง สวท.FM 97.0 MHz.
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น