บางจากQ3/68โชว์ EBIDA เติบโตดีเท่าตัว
Q4/68สัญญาณดีสถานะการเงินแข็งแกร่ง
เรื่องโดย...#เพ็ญรุ่งใยสามเสน #gurutourza #รายการรวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97 #บางจาก
บางจากฯ ไตรมาส 3 ปี’68 โชว์ EBITDA โตเท่าตัว ได้แรงหนุน ค่าการกลั่นปรับตัวสูงขึ้น แนวโน้มไตรมาส 4 สถานะการเงินโตแข็งแกร่งขานรับ ทริสต์ เรตติ้ง คงอันดับเครดิต A+ ต่อเนื่องปีที่ 2
นายชัยวัฒน์ โควาวิสารัช
ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัทบางจาก และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจาก
คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า กลุ่มบริษัท มีผลการดำเนินงานไตรมาส 3 ปี 2568 มีศักยภาพการบริหารจัดการแข็งแกร่งท่ามกลางภาวะตลาดพลังงานยังคงผันผวน
สามารถทำ “รายได้” จากการขายและให้บริการ” 123,305 ล้านบาท มี “EBITDA” 10,269 ล้านบาท
เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนมากกว่า 1 เท่า และเพิ่มขึ้นจากปีก่อน 43
% “กำไรสุทธิ” จากการดำเนินงานปกติ 3,186 ล้านบาท กำไรส่วนของบริษัทใหญ่ 1,108 ล้านบาท
คิดเป็นกำไรต่อหุ้น 0.80 บาท
สะท้อนการฟื้นตัวต่อเนื่องของ
โรงกลั่นน้ำมันบางจาก พระโขนงและโรงกลั่นน้ำมันบางจาก ศรีราชา
ซึ่งมีค่าการกลั่นพื้นฐานขึ้นเป็น 7.38 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล จาก Crack Spread เพิ่มขึ้นและต้นทุนน้ำมันดิบลดลง
แล้วทาง บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด จัดอันดับไตรมาสนี้โดยคงอันดับเครดิตองค์กรบางจากฯ“A+” แนวโน้ม “คงที่” ต่อเนื่องปีที่สอง ตอกย้ำถึงสถานะทางธุรกิจและโครงสร้างการเงินอันแข็งแกร่ง
แนวโน้มไตรมาส 4 ปี 2568 มีทิศทางดีขึ้นมาก
ภายหลังปรับยุทธศาสตร์ใหม่ ประกอบกับ GRM และยอดขายปรับตัวดีขึ้น
แล้วกลุ่มบริษัทบางจากได้เปิดใช้ท่าเรือรับเรือบรรทุกน้ำมันดิบขนาดใหญ่มาก (Very
Large Crude Carrier: VLCC) ที่โรงกลั่นน้ำมันบางจาก ศรีราชา จ.ชลบุรี
ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและลดต้นทุนการจัดหาและขนส่งน้ำมันดิบ
ตลอดจนยกระดับความสามารถการแข่งขัน รองรับการเติบโตอย่างยั่งยืน
ขณะที่
“ธุรกิจสำรวจและผลิตปิโตรเลียม” ยังมีบทบาทสร้างรายได้และโอกาสเติบโต ช่วยส่งเสริมความแข็งแกร่งของโครงสร้างทางธุรกิจ
สนับสนุนการกระจายความเสี่ยงจากการลงทุนในธุรกิจที่หลากหลายให้ความสมดุลยิ่งขึ้น
ส่วนกระบวนการเพิกถอนหลักทรัพย์ของ บริษัท บางจาก ศรีราชา จำกัด (มหาชน) (BSRC) อยู่ในขั้นตอนการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ (Tender
Offer)
“นางสาวภัทร์ภูรี ชินกุลกิจนิวัฒน์” ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการเงิน และรองกรรมการผู้จัดการใหญ่
กลุ่มงานบัญชีและการเงิน กล่าวว่าไตรมาส 3 ปี 2568 แต่ละกลุ่มธุรกิจ
มีผลการดำเนินงาน ดังนี้
กลุ่มที่ 1 ธุรกิจโรงกลั่นและการค้าน้ำมัน มีรายได้ 99,851 ล้านบาท มี EBITDA 2,891 ล้านบาท เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญจากช่วงไตรมาสก่อนและปช่วงปีก่อน 100 % จากค่าการกลั่นพื้นฐานปรับเพิ่มขึ้นเป็น 7.38 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล จากไตรมาสก่อน 4.45 เหรียญสหรัฐ ตามการปรับตัวของส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์กลุ่ม Middle Distillates ได้แก่ น้ำมันดีเซลและน้ำมันอากาศยาน ขยายตัวด้วยข้อจำกัดด้านอุปทานในตลาดโลก ผนวกต้นทุนน้ำมันดิบลดลงและส่วนต่างราคาน้ำมันดิบเบรนท์ต่ำกว่าน้ำมันดิบดูไบ (DTD-DB) ทำให้ค่าการกลั่นโดยรวมปรับตัวดีขึ้น และผลขาดทุนจากสต็อกน้ำมันลดลงอย่างมีนัยสำคัญจากไตรมาสก่อนหน้า ช่วยสนับสนุนผลการดำเนินงานโดยรวม
กลุ่มที่ 2 ธุรกิจการตลาด มีรายได้ 88,200 ล้านบาท ลดลงจากไตรมาสก่อน
1%และจากปีก่อน 7 %แต่สร้าง EBITDA ได้ 1,629 ล้านบาท เติบโตก้าวกระโดดจากไตรมาสก่อน
38 % และมากกว่าปีก่อน 100 %จากค่าการตลาดสุทธิปรับเพิ่มขึ้นเป็น 0.85 บาท/ลิตร เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้า 16 %
โดยมีแรงหนุนจากการรับรู้ผลขาดทุนจากสต็อกน้ำมันลดลงมาก มาร์จิ้นสูงขึ้นของน้ำมันเรือเดินสมุทร
(Marine Fuels) และการเพิ่มสัดส่วนจำหน่ายผลิตภัณฑ์น้ำมันหล่อลื่นผ่านช่องทางที่มีค่าการตลาดสูง
บางจากฯ ได้รักษาส่วนแบ่งการตลาดค้าปลีกไว้ได้ที่ 29 %
พร้อมเพัฒนาเครือข่ายค้าปลีกและยกระดับประสบการณ์ลูกค้าด้วยแนวคิด “Greenovative
Destination for Intergeneration” สิ้นไตรมาส 3 มีสถานีบริการน้ำมันรวม 2,173 แห่ง
จุดชาร์จ EV 502 แห่ง และร้านกาแฟอินทนิลทั่วไทย 1,108 สาขา
กลุ่มที่ 3 ธุรกิจไฟฟ้าพลังงานสะอาด มีรายได้ 1,100 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้า
41 %ลดลงจากช่วงเดียวกันกับปีก่อน 2 %
มี EBITDA 1,620 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อน
66 % และจากปีก่อน 23 % สาเหตุหลักคือจำหน่ายไฟฟ้าได้เพิ่มจากโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำใน
สปป.ลาว การทยอยเปิดเชิงพาณิชย์ครบในโรงไฟฟ้าพลังงานลม สปป.ลาว และได้รับส่วนแบ่งกำไรเงินลงทุนในบริษัทร่วม 757 ล้านบาท จากโรงไฟฟ้าพลังงานก๊าซธรรมชาติในสหรัฐอเมริกา
ทั้งจากค่าความพร้อมจ่าย (Capacity Revenue) และปริมาณจำหน่ายไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นในฤดูร้อน
กลุ่มที่ 4 ธุรกิจผลิตภัณฑ์ชีวภาพ มีรายได้ 4,363 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อน
15% ลดลงจากช่วงเดียวกันกับปีก่อน 19 % มี EBITDA 286 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อน
100 % และจากปีก่อน 78 % เนื่องจากปริมาณจำหน่ายผลิตภัณฑ์เพิ่มขึ้น
อย่าง “เอทานอล”เดินเครื่องผลิตในระดับสูงต่อเนื่อง การปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตทำให้ต้นทุนต่อหน่วยลดลง
“ไบโอดีเซล” (B100) ได้แรงหนุนจากราคาขายเฉลี่ยปรับเพิ่มขึ้นตามทิศทางราคาน้ำมันปาล์มดิบสูงขึ้น
การบริหารต้นทุนการผลิตที่มีประสิทธิภาพ
กลุ่มที่ 5 ธุรกิจทรัพยากรธรรมชาติ มีรายได้ 7,056 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อน
9 % ลดลงจากปีก่อน 26% มี EBITDA
4,039 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อน 15 % ลดลงจากปีก่อน 40 % โดยได้แรงหนุนจากปริมาณการผลิตสูงกว่าประมาณการ และการจำหน่ายเพิ่มขึ้น 10 %
จากการเริ่มผลิตน้ำมันและก๊าซธรรมชาติของหลุมผลิต Sognefjord
East ในแหล่งผลิต Brage ตั้งแต่กรกฎาคม
รวมราคาขายเฉลี่ยน้ำมันและก๊าซธรรมชาติเหลวปรับเพิ่มขึ้นตามการฟื้นตัวราคาตลาดโลก
ส่วนผลประกอบการงวด 9 เดือนแรกปี 2568 กลุ่มบริษัทบางจาก มีรายได้จากการขายและการให้บริการ 383,780 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันกับปีก่อน 14 % มี EBITDA 26,600 ล้านบาท ลดลง20 % แต่กำไรสุทธิจากการดำเนินงานปกติ (ไม่รวมรายการพิเศษ) 6,184 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 43 % เมื่อเทียบช่วงเดียวกันกับปีก่อน ปัจจัยหลักมาจาก “ราคาน้ำมันดิบเฉลี่ย” ลดลงมาอยู่ที่ 71 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ตามภาวะเศรษฐกิจโลกชะลอตัวและการเพิ่มกำลังการผลิตของ OPEC+ ทำให้ธุรกิจโรงกลั่นและการค้าน้ำมันได้รับผลกระทบจาก Inventory Loss สูงขึ้น โดยค่าการกลั่นพื้นฐานเฉลี่ยปรับเพิ่มขึ้นเป็น 5.27 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล จากต้นทุนน้ำมันดิบลดลง และ “ส่วนต่างราคา” น้ำมันดิบเบรนท์-ดูไบปรับลดลง เอื้อต่อการผลิตของกลุ่มบริษัทบางจาก
“สรุปฐานะการเงิน”
กลุ่มบริษัทบางจากมีเงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสด 27,248 ล้านบาท สินทรัพย์รวม 307,306 ล้านบาท
หนี้สินรวม 224,331 ล้านบาท ส่วนผู้ถือหุ้นรวม 82,975 ล้านบาท เป็นส่วนของผู้ถือหุ้นส่วนของบริษัทใหญ่ 57,996 ล้านบาท และส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยสุทธิต่อส่วนของผู้ถือหุ้น 1.12 เท่า





ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น