ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

เศรษฐกิจปี2560-แสงเทียนแห่งสยาม-เกาะทะเลไทยสัตหีบ


จับตารอยต่อเศรษฐกิจไทยปีลิง59สู่ปีไก่60

คิงเพาเวอร์ในเมือง-สนามบินลดแหลก90%

ห้ามพลาดแสงเทียนแห่งสยามคืน31ธ.ค.นี้

ตามรอยพระบาทไปเกาะทะเลไทยสัตหีบ

สวัสดีส่งท้ายปีวอกในเช้าวันเสาร์ที่ 31 ธันวาคม 2559  เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ เพ็ญรุ่ง ใยสามเสนทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย” FM 97.0 MHz.ในรายการ รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์ฟังเรื่องราวความเข้มข้นข่าวเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว

ช่วงแรกเวลา 11.15 น.

 
“เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ผู้ดำเนินรายการจะนำผลสรุปการวิเคราะห์เรื่อง “รอยต่อเศรษฐกิจไทยจากปีลิง 2559 เข้าสู่ปีไก่ 2560มาให้ฟังกันอย่างเต็มอิ่ม

หลังจากตลอดช่วงโค้งสุดท้ายปลายปี 2559 นักพยากรณ์หลายสำนักได้ประเมินผลเศรษฐกิจภาพรวมปี 2559 ต่อเนื่องถึงแนวโน้มปี 2560 เต็มไปด้วยความท้าทายและต้องเฝ้าระวังปัจจัยรอบด้านทั้งภายในประเทศและสถานการณ์โลก

 ขณะที่ “ภาคบริการและอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว” ยังคงเป็นเดอะสตาร์ของประเทศ ที่พร้อมจะนำเงินกว่า 2.7 ล้านล้านบาท กระจายสู่ท้องถิ่นตามคอนเซ็ปต์ Local Experience ของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และนโยบายการขับเคลื่อนไทยแลนด์ 4.0 ของรัฐบาล พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา

เริ่มต้นจากผลวิเคราะห์ของ Economic Intelligent Center SCB ระบุว่ามีปัจจัยภายนอกหลังการเลือกตั้งสหรัฐอเมริกา ที่ส่งผลทำให้ประเทศไทยมีแนวโน้มต้องระวัง 5 เรื่อง โดยเฉพาะผลกระทบแรง ๆ ที่จะเกิดขึ้นในช่วงระยะกลาง 2 เรื่อง ได้แก่ 1.นโยบายทางการค้า และค่าเงินอาจจะผันผวนหากเกิดสงครามการค้า 2.นโยบายต่างประเทศ กรณีสหรัฐฯ ลดบทบาทในเอเชียแล้วจีนขึ้นมามีอำนาจแทน จึงต้องจับตาความตรึงเครียดในแถบทะเลจีนใต้ และความเสี่ยงด้านความขัดแย้งระหว่างประเทศที่เพิ่มขึ้น ส่วนผลกระทบระยะสั้นมี 3 เรื่อง ได้แก่ เงินลงทุนและการเทขายสินทรัพย์เสี่ยงในตลาดพันธบัตรและหุ้นผันผวน  และอัตราแลกเปลี่ยนค่าเงินดอลลาร์

รงขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยในภาพรวมปี 2560

 มีปัจจัยบวก 3 ส่วน ได้แก่ ส่วนแรก การบริโภคภาคเอกชน มาตรการช่วยเหลือรายได้เกษตรกรและผู้มีรายได้น้อย ส่วนที่ 2 การลงทุนภาคเอกชน การขยายตัวของการลงทุนในธุรกิจภาคบริการ และการเพิ่มขึ้นของการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานเป็นเท่าตัว ส่วนที่ 3 การส่งออก ราคาน้ำมันเพิ่มขึ้นจะส่งผลดีต่อราคาสินค้าส่งออกและกำลังซื้อของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกสินค้าโภคภัณฑ์ ผนวกกับความต้องการสินค้าหมวดอุปโภคบริโภคเติบโตดี

ขณะที่ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) จะเติบโต 3.3 % โดยได้รับแรงหนุนจาก 4หมวดหลัก ได้แก่ หมวด 1 ท่องเที่ยวยังคงเติบโตสูงต่อเนื่อง 10 % หมวด 2 การลงทุนภาครัฐ จะเติบโต 10.1 % เป็นผลมาจากการขยายลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน ควบคู่กับลดการลงทุนโครงการขนาดเล็ก  หมวด 3 การบริโภคภาคเอกชนเติบโต 2.9 % จากภาระจ่ายที่ลดลงและมาตรการภาครัฐ หมวด 4 การลงทุนภาคเอกชน เติบโต 2.3 % จากการฟื้นตัวของภาคบริการและโครงการภาครัฐ

ผนวกเข้ากับ “การลงทุนเมกะโปรเจ็กต์” ของ “กระทรวงคมนาคม” ปี 2560 มูลค่ารวมกว่า 7.3 แสนล้านบาท จำนวน 27 โครงการ ทั้งทางบก ทางน้ำ ทางอากาศ และโลจิสติกส์ ประกอบด้วย

1.โครงการรถไฟฟทางคู่ 10 โครงการ มูลค่ารวม 420,000 ล้านบาท   2.รถไฟฟ้า 7 โครงการ 192,000 ล้านบาท สายสีส้ม (ศูนย์วัฒนธรรม-ตลิ่งชัน) สายสีเขียวเหนือ (คูคต-ลำลูกกา) สายสีเขียวใต้ (สมุทรปราการ-บางปู) สายสีแดง (รังสิต-มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์)

3.โครงการถนน 6 โครงการ 114,000 ล้านบาท 4.โครงการสนามบิน 3 โครงการ 900 ล้านบาท สนามบินสกลนคร สนามบินแม่สอด สนามบินเบตง 5.ท่าเรือทางทะเล (Seaport) 1 โครงการ 1,400 ล้านบาท คือ เชียงของโลจิสติกส์ เซ็นเตอร์ จ.เชียงราย

 ทางด้าน “ศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินสถานการณ์” โดย KResearch คาดการณ์เบื้องต้นในในทิศทางเดียวกับ SCB นั่นคือจีดีพีเศรษฐกิจไทยปี 2560 จะเติบโตเฉลี่ย 3.3% ด้วยเครื่องจักรขับเคลื่อน 3 ตัว คือ การท่องเที่ยว การลงทุนภาครัฐ และการบริโภคภาคเอกชนถึงแม้จะมีแนวโน้มขยายตัวในอัตราชะลอลง แต่สามารถอาศัยแรงผลักดันเสริมจากเครื่องจักรอีก 3 ตัวเช่นกัน คือ การส่งออก (ไม่ติดลบ) การลงทุนภาคเอกชน และการจัดทางบประมาณกลางปี 2560 นับเป็นปัจจัยบวกใหม่ ซึ่งกำลังรอประเมินรายละเอียดและความคืบหน้าของงบกลางปี รวมทั้งปัจจัยแวดล้อมอื่นๆ อีกครั้ง

ปี 2560 เศรษฐกิจไทยในภาพรวมยังคงมีแนวโน้มฟื้นตัวช้า เริ่มจากสถานการณ์ ไตรมาส 1 จะเติบโตเพียง 3.2 % เพราะการท่องเที่ยวเผชิญแรงกดดัน ประเด็นแรก “นักท่องเที่ยวจีน” ปีนี้คงหดตัว ช่วงตรุษจีนต่างจากปกติปีที่ผ่านมามีฐานการใช้จ่ายเงินและเดินทางสูงมาตลอด ประเด็นที่ 2 การส่งออกและการลงทุนภาคเอกชนยังฟื้นตัวไม่เต็มที่ ประเด็นที่ 3 การบริโภคชะลอหลังใช้จ่ายล่วงหน้าในช่วงช็อปช่วยชาติ ประเด็นที่ 4 ต้องจับตานโยบายเศรษฐกิจของประธานาธิบดีสหรัฐฯ

พอเข้าสู่ “ไตรมาส 2 เศรษฐกิจไทยถึงจะเริ่มมีสัญญาณบวกเพิ่มเป็น 3.4 % เพราะเป็นช่วงเริ่มต้นเบิกจ่ายงบประมาณกลางปี และการรับเงินภาษีจากช็อป-กิน-เที่ยว ช่วยชาติ

อีกทั้งผลจากการ “จัดทำงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติม” (งบกลางปี) ด้วยอีกทาง ทำให้เกิดผลข้างเคียงตามมา คือ 1.จะก่อให้เกิดเม็ดเงินหมุนเวียนกระจายลงสู่ท้องถิ่นเพิ่มขึ้น ผ่านโครงการลงทุนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในด้านการเกษตร โลจิสติกส์ และการท่องเที่ยว 2.ความต้องการกู้เงินในประเทศ อาจเพิ่มแรงกดดันต่อต้นทุนทางการเงิน ท่ามกลางอัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะยาวที่ขยับขึ้น 3.การขาดดุลงบประมาณในปี 2560 อาจเพิ่มขึ้นจากเดิมที่ประเมินว่าจะอยู่ที่ 2.7% ของ GDP ขยับไปเป็น 3-4% ของ GDP หนี้สาธารณะไต่ระดับขึ้นไปใกล้ 45% ของ GDP ณ สิ้นปี 2560 (จากคาดการณ์ที่ 43% ณ สิ้นปี 2559)

สำหรับ “ครึ่งปีหลัง” ยังคงต้องติดตามอย่างใกล้ชิด 3 เรื่อง ได้แก่  1.การส่งออกขยายตัวเล็กน้อย จากผลด้านราคา 2.การท่องเที่ยวน่าจะขยายตัวดีขึ้น 3.หากการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานที่ประมูลแล้วหลายโครงการเริ่มดาเนินการก่อสร้างได้ และสามารถเร่งรัดเบิกจ่ายงบกลางปี อาจเพิ่ม Upside ต่อเศรษฐกิจ

แต่ก็ต้องระวัง “ปัจจัยเสี่ยง” ที่มีผลมาจาก 1.ความผันผวนตลาดการเงินโลกตามทิศทางการปรับขึ้นดอกเบี้ยสหรัฐฯ 2.BREXIT 3.ประเด็นการเมืองในยุโรป 4.เสถียรภาพเศรษฐกิจจีน 4.ราคาน้ามันสูงขึ้น 5.เงินเฟ้อที่สูงขึ้นอาจเพิ่มแรงกดดันต่อการใช้จ่ายของครัวเรือนไทย 3.2%

            สรุปภาพรวม “เศรษฐกิจปี 2560” ยังมีความไม่แน่นอนสูง ถึงแม้จะมี 1.การปรับเพิ่มประมาณการ จากผลบวกของงบกลางปี คงต้องรอประเมินรายละเอียดของโครงการ และช่วงเวลาที่เงินจะเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ ที่ชัดเจนอีกระยะหนึ่งก่อน และ 2.ต้องพิจารณาความเสี่ยงจากปัจจัยแวดล้อมอื่นๆ อาทิ เศรษฐกิจต่างประเทศที่จะมีผลต่อการส่งออก การฟื้นตัวของการลงทุนภาคเอกชน ประกอบไปด้วยกัน

            KResearch สะท้อนผลสำรวจ “ผู้บริโภคยังกังวลต่อปัญหาหนี้และเพิ่มความระมัดระวังด้านการใช้จ่าย” สาเหตุมาจาก 3 เรื่อง 1.แนวโน้มการเพิ่มขึ้นของค่าครองชีพ สินค้าแพงขึ้น 73.6 % 2.ความไม่แน่นอนด้านรายได้ครัวเรือน 73.6 % และ 3.ความสามารถในการชาระหนี้ในอนาคต 71.2 %

            ขณะที่เหตุผลของการระมัดระวังการใช้จ่าย มี 5 เรื่อง 1.อยู่ในช่วงไว้อาลัย 6.4 % 2.กังวลต่อรายได้ในอนาคต 51.1 % 3.ต้องการรัดเข็มขัดเพื่อเก็บเงินออม 21.1 % 4.ภาระค่าใช้จ่ายอื่น ๆ มากขึ้น 20.7 % และ 5.อื่น ๆ 0.3 %

            ส่วน “ปัจจัยที่ผู้ประกอบการต้องติดตามสำหรับการดำเนินธุรกิจในปี 2560 ซึ่งเป็นผลมาจากการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี และนโยบายรัฐ ที่กำลังเร่งขับเคลื่อน ไทยแลนด์ 4.0 การโหมยุทธศาสตร์เพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขัน ดังนั้นสิ่งที่ผู้ประกอบการต้องเดินหน้าอย่างชัดเจน ใน 2 กลุ่ม คือ

กลุ่มแรก ผู้ประกอบการรายกลาง/ใหญ่ต้องเตรียมรับมือกับการมาถึงของเทคโนโลยีใหม่ๆ และนโยบายสนับสนุนอุตสาหกรรมเพื่อยกระดับความสามารถทางการแข่งขันของประเทศ

 กลุ่มที่สอง ผู้ประกอบการ SMEs จะเผชิญกับการแข่งขันที่สูงขึ้น จากการเข้ามาของผู้เล่นที่วางระบบและให้การบริการที่ครบวงจรเพื่ออานวยความสะดวกให้กับลูกค้าและคู่ค้า

ขณะที่ “อุตสาหกรรมการท่องเที่ยว” ประเมินแนวโน้มปี 2560 ยังคงเป็นบวก

ตามที่ “กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา” ระบุทิศทางการพัฒนาการท่องเที่ยวปี 2560 ตั้งเป้าจะสร้างรายได้ 2.7 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.17% ปรับจากเป้าเดิมตั้งไว้เพียง 2.6 ล้านล้านบาทเท่านั้น  

โดยตั้งเป้าทำรายได้จาก “ตลาดนักท่องเที่ยวต่างประเทศ” มูลค่ารวมราว 1.78 ล้านล้านบาท จะหันไปเพิ่มฐานลูกค้าตลาดนักท่องเที่ยวกลุ่มประเทศกัมพูชา-สปป.ลาว-เมียนมา-เวียดนาม (CLMV) เร่งการเติบโตให้ได้ 8% จากปี 2559 มาเที่ยวเมืองไทยกว่า 3.25 ล้านคน สร้างรายได้ 96,700 ล้านบาท เพิ่มจากปีที่ผ่านมา 20% ควบคู่การขยายตลาดอื่นๆ เช่น อาเซียนเก่า และยุโรป เป็นการหาตลาดมาทดแทนนักท่องเที่ยวจีนในปี 2560 เพราะจีนอาจมีปัจจัยเสี่ยงจากเศรษฐกิจภายในชะลอตัวลง

ดังนั้นไทยจะใช้กลยุทธ์เพิ่มรายได้ตลาดต่างประเทศด้วยวิธีส่งเสริมประเทศขึ้นเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยว (THAILAND TOURISM HUB)  5 ด้าน ประกอบด้วย 1.การท่องเที่ยวเชิงกีฬา 2.การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ 3.การจัดงานแต่งงาน 4.การท่องเที่ยวทางน้ำ และ 5.การท่องเที่ยวเชื่อมโยง (ASAEN CONNECT) ผ่านกลยุทธ์วิถีถิ่นเพื่อกระจายรายได้ให้กับชุมชน  

และจะทำรายได้จาก “ตลาดคนไทยเที่ยวในประเทศ” อีก 9.3 แสนล้านบาท กระตุ้นการใช้จ่ายจากจากปัจจัยแรงส่งของมาตรการช้อปช่วยชาติปลายปี 2559 การขยายตัวของสายการบินต้นทุนต่ำ ทำให้การเดินทางสะดวกยิ่งขึ้น รวมถึงความร่วมมือกับกระทรวงคมนาคม จะส่งเสริมการท่องเที่ยวผ่านระบบรางในเส้นทางต่างๆ อาทิ เส้นทางรถไฟสายมรณะ การท่องเที่ยว 70 เส้นทางตามรอยพระบาท ตั้งความหวังจะเพิ่มนักท่องเที่ยวเข้าไปชมโครงการพระราชดำริและบริเวณใกล้เคียงได้อีก 2-3 เท่า รวมถึงการขยายตัวท่องเที่ยวยามค่ำคืนมากขึ้น

ทั้งนี้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ระบุให้จับตาปัจจัยเสี่ยงที่ต้องการท่องเที่ยวต้องเฝ้าระวังในปี 2560 มี 4 เรื่อง ได้แก่ 1.การแข่งขันการดึงดูดนักท่องเที่ยวจีน ผ่านการยกเว้นวีซ่าต่างๆ เริ่มรุนแรงมากขึ้น 2.ภัยก่อการร้ายและสงครามต่างๆ 3.ราคาน้ำมันเชื้อเพลิงเครื่องบินมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น และ 4.การเปลี่ยนแปลงผู้นำและนโยบายด้านเศรษฐกิจในสหรัฐฯ และยุโรป

สำหรับสถานการณ์เศรษฐกิจท่องเที่ยวไตรมาส 4 ปี 2559  มีรายได้รวม 628,486 ล้านบาท ขยายตัว 4.4% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา แบ่งเป็นรายได้จากต่างชาติ 400,436 ล้านบาท และรายได้คนไทย 228,050 ล้านบาท จากปัจจัยการขยายตัวของตลาดเมืองรอง เมืองต้องห้ามพลาดและเมืองต้องห้ามพลัส รวมถึงนักท่องเที่ยวภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อาเซียน เดินทางมาไทยเพิ่มขึ้น และกระตุ้นท่องเที่ยวช่วงปีใหม่

จึงทำให้สถานการณ์ท่องเที่ยวตลอดปี 2559 จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติสูงถึง 32.5 ล้านคน และมีรายได้รวม 2.51 ล้านล้านบาท ทะลุเป้าที่วางไว้

 ฟังข่าวช่วงแรก

ข่าวที่ 1 “ลดข้ามปี90%ที่คิงเพาเวอร์ทุกแห่ง”

ขาช้อปทั้งหลาย ! พบกันที่ “ร้านค้าดิวตี้ฟรี คิง เพาเวอร์” ทั้งสาขาในเมืองและสนามบิน เปกับโปรโมชั่น  Let’s Sale up to 90% แรงสุดขั้วข้ามปี จัดสินค้าแบรนด์เนมใหม่แกะกล่องมาให้ช็อปได้ทุกวัน ไปจนถึงวันที่ 15 มกราคม 2560

          ช้อปได้ทุกวันที่คิง เพาเวอร์ รางน้ำ  ชั้น 3 ช้อป กับแบรนด์เนมสินค้าใหม่ที่มาร่วมทัพมหกรรมLET’S SALE UP TO 90% และเมื่อซื้อสินค้าครบ 3ชิ้น ได้ส่วนลด On-Top อีก 20% ซื้อสินค้าครบ 5 ชิ้น รับส่วนลด On-Top ไปเลย 30%

            โดยเฉพาะดิวตี้ฟรีในเมืองสาขา คิง เพาเวอร์ รางน้ำ ศรีวารี พัทยา ภูเก็ต และที่สนามบินนานาชาติ 3 แห่ง คือ สุวรรณภูมิ ดอนเมือง และภูเก็ต แห่ทำโปรโมชั่นเสริมทัพอีกรายการช่วงส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ให้ช้อปอย่างจุใจกับ End of Season Sale ด้วยการนำแบรนด์เนมมาลดสูงสุดถึง 60% กับสินค้าราคาปกติลดเต็มอัตราถึง 20%
 

 ข่าวที่ 2 “ทั่วไทยร่วมแสงเทียนแห่งสยาม31ธค.นี้”

การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ได้จัดทำโซเชียล มีเดีย “ปฎิญาณทำความดี เสริมสิริมงคลแก่ชีวิต” ในกิจกรรมโครงการ “แสงเทียนแห่งสยาม” ร่วมสวดมนต์ข้ามปี ส่งท้ายปีเก่าวิถีไทย ต้อนรับปีใหม่วิถีธรรม 2560 ในวันที่ 31 ธันวาคม 2560
 

ภายในงานพบกับหลากหลกิจกรรมเสริมสิริมงคลรับปีใหม่ ถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ด้วยการสวดมนต์ข้ามปี และร่วมจุดเทียน 100,000 ดวง ในหลายพ้นที่ทั่วประเทศไทย ในคืนส่งท้ายปี

สำหรับประชาชนที่พลาดโอกาสเข้าร่วมงาน สามารถติดตามบรรยากาศสดได้และสามารถร่วมเขียนคำ “ปฎิญาณความดี” ผ่านออนไลน์ www.tourismthailand.org/thaifest  
 

นายยุทธศักดิ์  สุภสร ผู้ว่าการ ททท. กล่าวว่าช่วงส่งท้ายปีเก่า 2559 ต้อนรับปีใหม่ 2560 นี้ จะปลุกกระแสการเดินทางท่องเที่ยวทั่วประเทศได้ถึง 4 ล้านคน สร้างรายได้หมุนเวียนราว 19,300 ล้านบาท   รวมทั้งจะมีนักท่องเที่ยวทั่วประเทศร่วมกิจกรรมสวดมนต์ข้ามปีตามวัดต่างๆ อีกกว่า 18ล้านคน มูลค่าเงินหมุนเวียน  3,600 ล้านบาท

สำหรับรายละเอียดการจัดงาน “แสงเทียนแห่งสยาม”  วันที่ 31 ธันวาคม 2559 ต่อเนื่องถึงวันที่ 1 มกราคม 2560 ณ มณฑลพิธีท้องสนามหลวง  ภายในงานสามารถชมนิทรรศการ “70 เส้นทางตามรอยพระบาท 

เวลา 19.00 น. ททท. เริ่มแจกโคมเทียน100,000 โคม กระจาย 8 จุด ทั่วมณฑลพิธีท้องสนามหลวง  ให้แก่ประชาชนผู้เข้าร่วมงาน (จนกว่าโคมเทียนจะหมด)    

เวลา 20.30 น. พระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์และสวดมนต์ข้ามปี

เวลา 21.00 น. ผู้ร่วมงานยืนสงบนิ่งถวายความอาลัยพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช  89 วินาที

เวลา 23.45 น. ร่วมกันสวดมนต์บทสรรเสริญคุณพระรัตนตรัย (อิติปิโส ภควา) เวลา 00.00 น. ของวันที่ 1 มกราคม 2560 ประธานลั่นฆ้องชัย พระสงฆ์และประชาชนร่วมกันสวดเจริญมงคลคาถา บทชยันโต และนายสุกฤษฏิ์ วิเศษแก้ว (บี้ เดอะสตาร์) นำร้องเพลงพระราชนิพนธ์ พรปีใหม่ต่อด้วยการร้องเพลง สรรเสริญพระบารมีหน้าพระบรมฉายาลักษณ์สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร เวลา 00.09 น. จุดเทียน แสงเทียนแห่งสยาม พระสงฆ์และประชาชนร่วมกันสวดมนต์รับปีใหม่ บทมงคลคาถา (พาหุง)  ซึ่งเป็นการสวดมนต์และจุดเทียนเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จพระบูรพกษัติยาธิราช เทิดพระเกียรติสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ถวายพระพรชัยแด่พระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ และเสริมสิริมงคลแก่ประเทศไทยให้มีความสุขตลอดปี

นอกจากมณฑลพิธีท้องสนามหลวงแล้ว รัฐบาลยังได้รับความร่วมมือจากภาคเอกชนและห้างสรรพสินค้าต่างๆ ใจกลางย่านการค้าของกรุงเทพมหานคร จัดเวทีกิจกรรมร่วมงานแสงเทียนแห่งสยาม ตั้งแต่แยกปทุมวันถึงแยกพร้อมพงษ์ ได้แก่ เวทีบริเวณหน้าหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร ลานสยามพารากอน  เวทีบริเวณแยกราชประสงค์  เวทีลานเซ็นทรัลเวิลด์  เวทีบริเวณหน้าศูนย์การค้าเซ็นทรัล เอ็มบาสซี  เวทีบริเวณหน้าศูนย์การค้าเทอมินอล 21 และศูนย์การค้าเอ็มควอเทียร์  โดยให้ความร่วมมือในการดำเนินกิจกรรมไปพร้อมๆ กับมณฑลพิธีท้องสนามหลวง

ในเวลา 21.00 น. วันที่ 31 ธันวาคม 2559 ร่วมพิธียืนสงบนิ่งถวายความอาลัยพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช 89 วินาที และร้องเพลงพระราชนิพนธ์ พรปีใหม่เวลา 00.00 น.  วันที่ 1 มกราคม 2560 ร่วมร้องเพลง สรรเสริญพระบารมีเวลา 00.09 น. ร่วมจุดแสงเทียนแห่งสยามพร้อมกัน

 ข่าวที่ 3 “ดอนเมืองเปิดศูนย์ดูแลความปลอดภัย24ชม.”

นายเพ็ชร ชั้นเจริญ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานนานาชาติดอนเมือง บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท.กล่าวว่า ได้ร่วมกับส่วนงานราชการ สายการบินและผู้ประกอบการในสนามบินจัดพิธีปล่อยแถวการปฏิบัติการในการอำนวยความสะดวกและรักษาความปลอดภัยให้กับผู้โดยสารช่วงเทศกาลปีใหม่ 2560  โดยได้จัดตั้ง ศูนย์ประสานงานและอำนวยความสะดวกรองรับการเดินทางของประชาชน (Passenger Facilitation Center)” เพื่อเป็นศูนย์ประสานงานด้านการรักษาความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกในด้านต่าง ๆ แก่ผู้โดยสารและประชาชนตลอดเทศกาลปีใหม่ ซึ่งเปิดบริการตั้งแต่วันนี้ – 4 มกราคม 2560 ณ ศูนย์ประชาสัมพันธ์ท่าอากาศยาน บริเวณชั้น 3 อาคารผู้โดยสารภายในประเทศ อาคาร 2 สอบถามได้ตลอด 24 ชั่วโมง ที่โทร. 0 2535 1192 และ 0 2535 2110   

 ข่าวที่ 4 “ของขวัญฟรีจากบางจากตลอดปีใหม่”

นายชัยวัฒน์ โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.บางจากปิโตรเลียม (BCP) กล่าวว่า บางจากได้ตรึงราคาน้ำมันขายปลีกช่วงปีใหม่ตั้งแต่ 29 ธ.ค.59- 3 ม.ค.2560 เพื่อมอบเป็นของขวัญและแทนคำขอบคุณให้กับคนไทยที่เดินทางเยี่ยมครอบครัวญาติมิตรและท่องเที่ยว พร้อมกับจัดโครงการสัญจรปลอดภัย สุขใจทั่วประเทศ ระหว่าง 29 ธ.ค.59 – 4 ม.ค.60 ให้สมาชิกบัตรแก๊สโซฮอล์คลับและดีเซลคลับ รับสิทธิประกันอุบัติเหตุทุนประกัน 100,000 บาท ฟรี

รวมทั้งมีโครงการ"ตรวจรถฟรี ขับขี่ปลอดภัย ถวายพ่อหลวง" ร่วมกับกรมการขนส่งทางบก รณรงค์เรื่องความปลอดภัย และเตรียมความพร้อมของสภาพรถก่อนเดินทาง โดยให้บริการตรวจเช็คสภาพรถฟรี 11 รายการ อาทิ น้ำมันเบรคและคลัทช์ น้ำมันเกียร์ น้ำมันเฟืองท้าย ก้านปัดน้ำฝนและน้ำฉีดกระจก ฯลฯ พร้อมมอบส่วนลดไส้กรองน้ำมันเครื่อง 10% ณ ศูนย์บริการ Green Serve และ Wash Pro ในสถานีบริการน้ำมันบางจาก 45 สาขาทั่วประเทศ ตั้งแต่วันนี้ – 15 ม.ค.60

และร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) มอบฟรีหนังสือ “70 เส้นทางตามรอยพระบาท" สำหรับผู้ที่เดินทางข้ามจังหวัดและแวะเติมน้ำมันที่สถานีบริการน้ำมันบางจากบนเส้นทางสายหลักใน 5 จังหวัด 5 ภาค คือ พระนครศรีอยุธยา นครสวรรค์ นครราชสีมา ชลบุรี และเพชรบุรี เพื่อร่วมส่งเสริมการท่องเที่ยวไทย

 ข่าวที่ 5เรื่องเล่าจาก...ท่าเตียน”

บริเวณท่าเตียนถือเป็นพื้นที่ที่มีขนาดใหญ่ และอาจกล่าวได้ว่ามีความซับซ้อนทางด้านประวัติศาสตร์มากที่สุด พื้นที่ท่าเตียนนั้นมีความหมายถึง “บริเวณริมแม่น้ำเจ้าพระยาริมถนนมหาราช” นับตั้งแต่ท้ายวังจนถึงวังจักพงษ์

            พื้นที่บริเวณท่าเตียนเป็นส่วนหนึ่งของ “ป้อมบางกอกฝั่งตะวันออก” ที่ได้ถูกรื้อตั้งแต่สมัยพระเพทราชา ป้อมถูกรื้อจนหมดเพื่อนำอิฐไปก่อสร้าง “กำแพงกรุงธนบุรี” (ตามแนวคลองคูเมืองเดิมทั้งฝั่งพระนครและฝั่งธนบุรี) ปัจจุบันจึงไม่เหลือหลักฐานป้อมบนพื้นดินให้เห็นแล้ว

            พื้นที่ท่าเตียนเริ่มมีความสำคัญหลังจากได้เกิดไฟไหม้ตั้งแต่บริเวณ “บ้านหม้อถึงวัดโพธิ์” จนพื้นที่บริเวณนี้โล่งเตียนใน พ.ศ.2356 (รัชกาลที่ 2) และได้เกิดไฟไหม้อีกหลายครั้ง ขณะเดียวกันได้มีชาวตะวันตกหลายชาติเข้ามาขอเจริญพระราชไมตรีและทำสนธิสัญญาต่าง ๆ

            รัชกาลที่ 4 จึงโปรดให้สร้าง “เรือนหลวงรับราชทูต” และ “บ้านหลวงราชทูต” ต่อจากนั้นจึงได้ก่อสร้าง “ศาลต่างประเทศ” ขึ้นบริเวณนี้ในราว พ.ศ.2408-9 (ช่วงปลายรัชกาล)

            ต่อมาในสมัยรัชกาลที่ 5 ได้ว่าจ้างผู้เชี่ยวชาญชาวต่างประเทศสาขาต่าง ๆ เข้ามารับราชการเป็นจำนวนมาก ชาวต่างประเทศส่วนหนึ่งได้รับพระราชทานที่พักบริเวณท่าเตียนนี้ด้วย

            นอกจากนั้นท่าเตียนยังมีความสำคัญในฐานเป็น “ตลาดศูนย์รวมสินค้าต่าง ๆ” ที่อยู่ใกล้พระบรมมหาราชวังมากที่สุดอีกด้วย

 ข่าวที่ 6 “ไทยแอร์ผนึกเชียงใหม่โหมขายท่องเที่ยว”

สายการบินไทย แอร์ เอเชีย รายงานว่า ในฐานะผู้นำสายการบินราคาประหยัดที่มีเที่ยวบินตรงแบบประจำ ไป-กลับ กรุงเทพฯ-เชียงใหม่ มากที่สุดถึงวันละ 20 เที่ยว ตั้งแต่ปลายเดือน ธันวาคม 2559 เป็นต้นมา ได้ร่วมมือกับทางจังหวัดเชียงใหม่ โปรโมตการท่องเที่ยว ด้วยกลยุทธ์จัดทำภาพพิมพ์นำเสนอรูปแบบการท่องเที่ยวของเชียงใหม่ บนตู้เก็บของ (Overhead Logger) และถาดอาหาร (Meal Tray) เน้นนำเสนอเส้นทางบินระหว่างจังหวัดเชียงใหม่เชื่อมโยงสู่อาเซียนด้วย

จึงได้ออกแบบจัดทำภาพพิมพ์อุปกรณ์บนเครื่องบิน เพื่อประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวของจังหวัดเชียงใหม่ซึ่งมีความหลากหลายและน่าสนใจ ทั้งทางด้าน การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพและสปา การท่องเที่ยวเชิงผจญภัยและอุทยาน  การท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม

สำหรับสนามบินนานาชาติเชียงใหม่ ตามสถิติมีสายการบินขนส่งผู้โดยสารรวม 26 สายการบิน วันที่ 30 กันยายน 2559 มีเที่ยวบิน 67,134 เที่ยว จากผู้ใช้บริการ 9,208,256 คน

ช่วงที่ 2 เวลา 11.45 น.ตามไปดูโครงการพระราชดำริติดทะเลอ่าวไทยในสัตหีบ แล้วฟังข้อแนะนำตรวจสุขภาพส่งท้ายปี ปิดท้ายด้วยข่าวฮ็อตอำลาปีวอก

 @เที่ยวเกาะและทะเลไทย ชลบุรี

สถานที่รวบรวม และจัดแสดงด้านธรณีวิทยา พฤกษศาสตร์ สัตวศาสตร์ทางทะเล แห่งแรกในประเทศไทย ที่ควรค่าแก่การไปเยี่ยมชม คือ " โครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืช พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยา  เกาะและทะเลไทย” ตั้งอยู่บริเวณ เขาหมาจอ ต.แสมสาร อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี เปิดให้เข้าชม  ทุกวัน 08.30-16.30 น.


พื้นที่ในอำเภอสัตหีบของทหารเรือ มีชายฝั่งทะเลที่สวยไม่แพ้ที่ใดในชลบุรีเลย ไปถึงแล้วนอกจากจะชมท้องทะเลแล้ว อยากให้ลองหาเวลาว่างแวะมาชมพิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยาเกาะและทะเลไทย แหล่งเรียนรู้สำคัญ อัดแน่นไปด้วยความรู้ที่น่าสนใจมากมาย

พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยาเกาะและทะเลไทย ก่อตั้งขึ้น โดยกองทัพเรือ เป็นสถานที่รวบรวมและจัดแสดงด้านธรณีวิทยา พฤกษศาสตร์ สัตวศาสตร์ทางทะเลแห่งแรกในประเทศไทย อันเป็นส่วนหนึ่งในโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืช อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2536 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความเข้าใจ และสร้างความตระหนักถึงความสำคัญของพันธุกรรมพืชต่างๆ ในประเทศไทย
 

พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ มีสถาปัตยกรรมที่วางตัวเรียงรายกันอย่างสวยงามบนเนินเขา ถ้าหากแวะมาเที่ยวที่นี่แล้วยังมีเวลาเหลือเฟือ ยังสามารถนั่งเรือข้ามเกาะไปเที่ยวเกาะแสมสารได้พร้อมกันในวันเดียว

วางแผนไปเที่ยวชลบุรี 2 วัน 1 คืน แนะนำว่า วันแรก ช่วงเช้า เยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยาเกาะและทะเลไทย จ.ชลบุรี ช่วงบ่ายเดินทางไปเกาะแสมสาร เยี่ยมชมโครงการฯ เล่นน้ำ พักผ่อน เข้าพักที่สัตหีบ

วันที่สอง ช่วงเช้า เดินทางไปศูนย์อนุรักษ์พันธุ์เต่าทะเล ฐานทัพเรือสัตหีบ และเรือรบหลวงจักรีนฤเบศร ช่วงบ่าย เที่ยวชมเขตห้ามล่าสัตวป่าเขาชีโอน แหล่งเพาะเลี้ยงขยายพันธุ์สัตว์ป่าหายาก เยี่ยมชมวิหารเซียน ซื้อของฝากที่ชุมชนตลาดนาเกลือ

สถานที่เที่ยวห้ามพลาด 3 พิพิธภัณฑ์ได้แก่ พิพิธภัณฑ์อาคารเทิดพระเกียรติมหาราช จัดแสดงความเป็นมาของโครงการฯ และความสัมพันธ์ของระบบนิเวศ พิพิธภัณฑ์อาคารปวงปราชญ์ร่วมแรงใจ เป็นจุดชมวิวหมู่บ้านแสมสาร และเกาะแรด และจัดความรู้เกี่ยวกับระบบนิเวศของป่า พันธุ์พืช และสัตว์ พิพิธภัณฑ์อาคารพิทักษ์ศักยภาพทะเลไทย ตั้งอยู่สูงที่สุด จัดแสดงนิทรรศการผ่านสื่อมัลติมีเดีย และเป็นจุดชมวิวจุดสำคัญ

สนใจท่องเที่ยว พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยา เกาะและทะเลไทย ชลบุรี  โทร.0-3843-2475, 0-3843-2473  หรือ www.tis-museum.org  

ค่าเข้าชม  คนละ ผู้ใหญ่ 50 บาท เด็กอายุไม่เกิน 15 ปี 20 บาท ทหารเรือนอกเครื่องแบบแสดงบัตร 30 บาท และ ต่างชาติ 100 บาท

 
การเดินทาง - จากพัทยา ใช้เส้นทางถนนสุขุมวิท (ทางหลวงหมายเลข 3) ไปทาง อ.สัตหีบ เลี้ยวซ้ายที่สี่แยกกิโลสิบ ขับตรงไปจนถึงแยกทางเข้าบ้านแสมสารให้เลี้ยวซ้าย สังเกตป้าย บอกทางที่มีให้เห็นตลอดทาง

 @ตรวจสุขภาพส่งท้ายปีเพื่อชีวิตดีๆปีหน้า

สิ้นปีแล้ว แนะนำให้ไปตรวจสุขภาพตามคำแนะนำของแพทย์ระบุว่าเกี่ยวข้องกับ 2 เรื่องหลักๆ คือ

1.การค้นหาโรคที่ซ่อนอยู่ในตัวเรา โดยที่ยังไม่มีอาการผิดปกติให้สังเกตได้ เช่น โรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง มะเร็งปากมดลูกระยะแรก เป็นต้น ถ้ามีอาการเจ็บป่วยปรากฏให้เห็นแล้วค่อยไปตรวจ ไม่ใช่การตรวจสุขภาพ แต่เป็นการตรวจเพื่อให้แพทย์วินิจฉัยว่าป่วยเป็นโรคอะไร เพื่อยืนยันผล เมื่อทราบผลการตรวจที่แน่นอนแล้วก็จะได้ให้การรักษาอย่างเหมาะสม

2.การค้นหาพฤติกรรมเสี่ยง และปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดโรคต่างๆ เพื่อจะได้รู้ว่าสุขภาพของเราเป็นอย่างไรบ้าง และถ้าพบว่าเรามีพฤติกรรมเสี่ยงหรือปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดโรคอะไร แพทย์ที่ตรวจก็จะให้คำแนะนำในการปฏิบัติตัวอย่างถูกต้อง เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดโรคภัยไข้เจ็บตามมา

 ฟังข่าวช่วงท้ายชั่วโมง

 ขาวแรก “ชมแสงสีเสียง25ปีมรดกโลกสุโขทัย”

“นางพัศลินทร์ เศวตรัตน์” ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานสุโขทัย เชิญชวนเที่ยวเมืองเก่าสุโขทัยช่วงปีใหม่ด้วยการแวะไปชมกิจกรรม "25 ปี มรดกโลก เมืองประวัติศาสตร์สุโขทัย และเมืองบริวาร" ตั้งแต่วันนี้ -3 มกราคม 2560 เวลา 18.00-21.00 น. มีงานแสง สี เสียง สุโขทัย 2559 หรือ Sukhothai Historical Park's Light Up Night ให้นักท่องเที่ยวได้ชมตลอด ณ วัดมหาธาตุ ภายในอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย  

สอบถามที่โทร. 0 5561 6228-9 หรือ เฟซบุ๊ก Tat Sukhothai fanpage และอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย โทร. 0 5569 7310

 ข่าวที่สอง“ขสมก.จัดทัวร์9วัดรอบเกาะรัตนโกสินทร์”

องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) รายงานว่า ในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2560  มีวันหยุดต่อเนื่องหลายวัน ขสมก. จึงได้จัดแผนปฏิบัติการเดินรถและแผนอำนวยความสะดวก ปลอดภัย  เพื่อรองรับการเดินทางของประชาชน จัดเดินรถไหว้พระ 9 วัดรอบเกาะรัตนโกสินทร์ ให้บริการฟรีจำนวน 12 คัน ระหว่างวันที่ 31 ธ.ค.59 - 2 ม.ค.60  เริ่มให้บริการคันแรก ตั้งแต่เวลา 08.00 น.  คันสุดท้ายออกจากท่า เวลา 17.00 น. เส้นทางจากอู่หมอชิต 2 - วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร รถจะวิ่งผ่านวัดต่างๆ 9 วัด ได้แก่

วัดเบญจมบพิตรดุสิต-วนารามราชวรวิหาร, วัดสามพระยาวรวิหาร, วัดบวรนิเวศราชวรวิหาร, วัดชนะสงครามราชวรมหาวิหาร, วัดมหาธาตุ-ยุวราชรังสฤษฎิ์ราชวรมหาวิหาร, วัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร (วัดโพธิ์), วัดพระศรีรัตนศาสดาราม (วัดพระแก้ว), วัดสุทัศนเทพวรารามราชวรมหาวิหาร,วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร  

ข่าวที่สาม“TGเสิร์ฟเมนูเคาน์ดาวน์บินต่างประเทศ”

บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) หรือ TG จัดขนมหวานจานพิเศษต้อนรับเทศกาลปีใหม่ 2560 ให้ผู้โดยสารได้ร่วมเฉลิมฉลองเทศกาลแห่งความสุขช่วงเวลาพิเศษ ระหว่างวันที่ 31 ธันวาคม 2559 - 1 มกราคม 2560 สำหรับผู้โดยสาร ชั้นหนึ่งเสิร์ฟ เค้กแบล็คฟอเรสต์กับซอสช็อคโกแลต ชั้นธุรกิจเสิร์ฟนิวยอร์กชีสเค้ก และ ชั้นประหยัดเสิร์ฟเค้กกล้วยหอมกับคาราเมล

ขนมหวานดังกล่าว เชฟจากครัวการบินไทย ได้สร้างสรรค์เมนูพิเศษเพื่อให้ผู้โดยสาร พร้อมเสิร์ฟในทุกเที่ยวระหว่างประเทศขาออกจากกรุงเทพฯ มื้อกลางวันหรือมื้อเย็น (ยกเว้นเส้นทางตะวันออกกลาง ปากีสถาน บังคลาเทศ และอินเดีย) 

 ข่าวที่สี่ “แวะชมโชว์โลมาภูเก็ตลดพิเศษถึง8มค60

นายสุปรีชา สุฐมานนท์ ผู้จัดการทั่วไป Dolphins Bay Phuket กล่าวว่า ได้จัดโปรโมชั่นพิเศษ โชว์โลมา และแมวน้ำที่น่ารัก ณ ซอยป่าหล่าย ตำบลฉลอง อำเภอเมืองภูเก็ต เปิดให้นักท่องเที่ยวได้ร่วมฉลองเทศกาลปีใหม่ ระหว่างวันนี้-8 มกราคม 2560 กับสุดยอดการแสดงโชว์โลมาระดับโลก ตื่นเต้นกับความแสนรู้ และแมวน้ำที่น่ารัก ในราคาสุดประหยัดซื้อบัตร 3 ใบ แถมฟรี 1 ใบ ราคาบัตรเริ่มต้นที่ 250- พร้อมการถ่ายภาพกับโลมาปกติ 400- (ไม่เกิน 4 ท่านต่อครั้ง) เหลือเพียง 300 บาท

พบกับสาระข่าวดี ๆ ได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 11.00-12.00 น.

ดำเนินรายการโดย...เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน
เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน
คอลัมนิสต์ :การบิน/ท่องเที่ยว และผู้ดำเนินรายการ
 

 

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ททท.คุนหมิงดึงจีน3มณฑลเที่ยวไทยทางบก4ด่านเงินสะพัด

ททท.ปั๊มทัวร์จีนคุนหมิงแบบโอเวอร์แลนด์เงินสะพัดไทย 4 ด่าน ส.ค. 66- ปี ’67 กระหน่ำขาย “ New Ways to Amazing to Thailand” ล็อกเป้าจีน 4 ตลาดใช้จ่ายแสนบาท/ทริป-ดันอีสานอู้ฟู่ 20 จังหวัด ช้อป!!ของขวัญวันแม่ที่คิงเพาเวอร์ลด20%- Firster9 หมื่นไอเท็ม ฉลองวันแม่!พูลแมนคิงเพาเวอร์จัดบุฟเฟต์พรีเมี่ยมกลางวัน/ค่ำ กินฟินที่คิงเพาเวอร์มหานคร-รร.เดอะสแตนดาร์ดตลอดส.ค. 66 ททท.จัดแข่งผัดกะเพราโลก“ World Kaphrao 2023”ชิงเงินล้าน กลุ่มบริษัทบางจากโชว์ครึ่งปีแรก66กวาดรายได้1.48 แสนล้าน TCEB บุกจีนจัด Thailand MICE in China 2023 โกยไมซ์ 990 ล้าน เที่ยววันแม่ใกล้กรุงได้ที่อุทยานเบญจสิริ/ดรีมเวิลด์/สวนนงนุช เคล็ดลับ!!การรักษาแผลให้หายไวด้วยขั้นตอนง่ายๆทำได้เอง บินไทยฟื้นเร็ว!!ครึ่งแรกปี’66กำไร329%พกเงินสด5.1หมื่นล้าน เปิดขายแล้ว!!บัตรชม“โขน”สุดยิ่งใหญ่แห่งดูได้ 5 พ.ย.- 5 ธ.ค. 66   วันเสาร์ที่ 12 สิงหาคม 2566 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97.0 และอ

TCEB นำงานวิจัยMICE for Sightแนะธุรกิจปรับตัวรับไมซ์10ปีหน้า

  นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) "TCEB" “ TCEB ”เปิดคัมภีร์ MICE for Sight ปลุกไมซ์จัดทัพใหม่ 10 ปีหน้า รับมือ Gen Z ผงาดผู้ทรงอิทธิพลไมซ์โลกเขย่าตลาดครั้งใหญ่ ปี 67 เร่งโกย 1.4 แสนล้านโหมซอฟท์เพาเวอร์/ไมซ์ซิตี้/ไมซ์ชุมชน รีบช้อป!!คิงเพาเวอร์เป็นไปได้5รายการรางวัลสูงสุดกว่า 4 ล้าน ด่วน 4 วันสุดท้าย!คิงเพาเวอร์อัดโปร SurpriseOnlineSale ลด 50% คิงเพาเวอร์ช้อปวนไปแจกทันที 3 ฟรี คูปอง/ตั๋ว/รถยนต์ LEXUS ท่องเที่ยวรุกเจรจาธุรกิจ TEJ 2023ฉลุย300นัดโกยญี่ปุ่น9ตลาด บางจาก-กรุงไทยเปิดแอปเป๋าตังจองซื้อหุ้นกู้ดิทัลดีเดย์ 30 ต.ค. เที่ยวประจวบนอนแคมป์ทะเลหมอกบ้านป่าหมาก-วิ่งปราณบุรี บินไทยโชว์ยูนิฟอร์มใหม่ลูกเรือแฟชั่นผ้าลดโลกร้อนเริ่ม1ม.ค.67 คาเธ่ย์ กรุ๊ปทุ่มลงทุนฝูงบินใหม่ A 320 neo เพิ่ม32ลำบินจีน/เอเชีย   วันเสาร์ที่  28 ตุลาคม 2566 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97

ททท.ภาคเหนือ7เดือนปี66โกยแล้ว1.08แสนล้าน

นางสาวภัทรอนงค์ ณ เชียงใหม่ ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคเหนือ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)  ททท.ภาคเหนืออู้ฟู่ 7 เดือนแรกโกยได้แล้ว 1 แสนล้าน ต.ค.-ธ.ค. 66 ลุยขายเที่ยวไฮซีซัน 4 เทรนด์ใหม่มาแรง นำ The Link จับคู่ทัวร์ข้ามภาคสำเร็จ 3 เส้นทางสุดฮ็อต คิง เพาเวอร์แจกมันส์แจกฟินที่รางน้ำเสาร์16ก.ย.นี้ ช้อป KingPowerOnline รับแบบไม่ยั้ง2สุดคุ้มถึง24ก.ย. ช้อป DUTY FREE SALE นำบิวตี้แบรนด์โลกมาเต็ม ททท.ใช้ฟรีวีซ่าปั๊ม1.4แสนล้านชาเตอร์จีนเฮเข้าไทย บางจากโชว์อุตฯไทย-ไต้หวันชูนวัตกรรมธุรกิจสีเขียว TCEB ผนึก EECAutoPark หนุนไมซ์เอ็กซิบิชั่นอินเตอร์ เที่ยว Unseen “พิพิธภัณฑ์ป่าสัก-วัดขุนอิน-วัดปัญญา” 4วิธี“ปิดล้างเลี่ยงหยุด”ป้องกันไข้หวัดใหญ่ทุกพันธุ์ “สุดาวรรณ”รมว.ใหม่ท่องเที่ยวดึงต่างชาติ40ล้านคน กพท.-สมาคมแอร์ไลน์สไทยแบไต๋ตั๋วบินราคาแพง วันเสาร์ที่ 16 กันยายน 2566 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyai