วันอังคารที่ 24 กันยายน พ.ศ. 2562

TCEB ยึดเจ้าภาพจัด IT&CMAandCTW2019 ปลุกกระแส5ไมซ์ซิตี้นำร่องเลิกใช้พลาสติกปี'63 โหมกลยุทธ์ดูดตลาดประชุมอินเซนทีฟMIโตไม่ยั้ง

TCEB ยึดเจ้าภาพจัด IT&CMAandCTW2019
ปลุกกระแส5ไมซ์ซิตี้นำร่องเลิกใช้พลาสติกปี'63
โหมกลยุทธ์ดูดตลาดประชุมอินเซนทีฟMIโตไม่ยั้ง

เรื่องและภาพโดย...เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน #gurutourza #สวท97 #ITCMA2019 #TCEB



นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ ทีเส็บ (TCEB)  เปิดเผยถึงทิศทางการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมไมซ์ในปี 2563 ว่า  ทีเส็บพร้อมขับเคลื่อน 4Ms ในตลาดไมซ์โลก โดยได้เปิดตัวเวทีงานเทรดโชว์ ITCMA&CTW 2019 Asia-Pacific 2019 ตั้งเป้ารุกเจาะกลุ่มประชุมธุรกิจเข้าไทยครบทุกเซกเม้นท์ในปี 2563 ดทำรายได้ 5.7 หมื่นล้านบาท อีกทั้งยังรุกทำความร่วมมือกับไมซ์ซิตี้และผู้ประกอบการ 5 เมือง ออกมาตรการไมซ์เพื่อสิ่งแวดล้อมเพื่อวร้างเมืองไมซ์ในประเทศไทยอย่าวยั่งยืน ด้วยการผนึกกำลังกันลุยลดปริมาณขยะลงให้ได้ 50% 


เนื่องจากทีเส็บเป็นองค์กรให้ความสำคัญกับการเสริมสร้างขีดความสามารถในการ
แข่งขันและยกระดับไมซ์ให้เป็นวาระแห่งชาติ โดยมุ่งเน้นในเรื่องของการสร้างเครือข่ายความร่วมมือเพื่อให้เกิดการพัฒนาธุรกิจไมซ์อย่างยั่งยืน



ในโอกาสที่ไทยเป็นเจ้าภาพจัดงาน IT&CMA and CTW Asia-Pacific 2019 จัดมหกรรมเทรดโชว์ด้านไมซ์ประจำปีที่สำคัญของภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก โดยเฉพาะเป็นเวทีธุรกิจการจัดประชุมและการเดินทางเพื่อเป็นรางวัลระดับภูมิภาค ทีเส็บพร้อมนำเสนอกลยุทธ์ส่งเสริมตลาดการประชุมและการเดินทางเพื่อเป็นรางวัลในปี 2563 


โดยเดินหน้ากลยุทธ์หลัก ได้แก่ 1.ส่งเสริมตลาดและการขายควบคู่ไปกับการร่วมมือกับพันธมิตรทางด้านการตลาด นำผู้ประกอบการไมซ์ไทยเจรจาธุรกิจในงานเทรดโชว์หลักด้านไมซ์ทั่วโลก 2.สร้างพันธมิตรเพิ่มการมีส่วนร่วมกับผู้ประกอบการท้องถิ่นโดยเฉพาะในเมืองที่มีศักยภาพพบปะแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันมากขึ้น มีจัดกิจกรรม “An Afternoon with MI…” ร่วมกับพันธมิตรระดับผู้บริหารไมซ์ เช่น โรงแรม สถานที่จัดงาน เพื่อร่วมหารือแนวทางพัฒนาสินค้าบริการใหม่ รวมถึงกิจกรรมและสถานที่ใหม่รองรับกลุ่มนักเดินทาง 3.ประชาสัมพันธ์การจัดงานในพื้นที่ 4.จัดกิจกรรมทางการตลาดหรือแคมเปญส่งเสริมการขายร่วมกัน และความร่วมมือในการดึงการจัดงานใหม่เข้าสู่ไทย



ผอ.จิรุตถ์ ยืนยันว่า เล็งกลุ่มเป้าหมายตลาดส่งเสริมตลาดประชุมและการเดินทางเพื่อเป็นรางวัล หรือ ตลาด Meetings & Incentives (MI) จาก 1. ASEAN+6 (จีน, อินเดีย, ญี่ปุ่น, เกาหลี,ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ 2.สหรัฐอเมริกา 3.ยุโรปจะเป็นตลาดรอง ขยายไปยังตลาดใหม่ในแถบยุโรปตะวันออก 

ส่วนการจัดกิจกรรมส่งเสริมการตลาดและการขาย 4 Ms ทั้งในรูปแบบการเพิ่มการสนับสนุนและการจัดแคมเปญร่วมกับพันธมิตรกระจายสู่แต่ละกลุ่มเป้าหมาย ได้แก่ แคมเปญ

1.เจาะกลุ่มประชุมที่เดินทางไปยังเมืองที่มีศักยภาพในจังหวัดต่างๆ (Meet Now)

2. กลุ่มการประชุมขนาดใหญ่ (Meet Mega) 

3.กลุ่มประชุมตามธุรกิจภายใต้นโยบายไทยแลนด์ 4.0 (Meet Smart) 
4.กลุ่มประชุมที่จัดงานหรือทำกิจกรรมเพื่อการจัดงานอย่างยั่งยืน (Meet sustainable 2020) 

โดยได้รับสิทธิพิเศษ อาทิ ช่องทางพิเศษ MICE Lane การแสดงทางวัฒนธรรม ของที่ระลึก และงบประมาณสนับสนุนตามเงื่อนไขตั้งแต่คนละ 500 บาท/คน ขนาดงานตั้งแต่ 50 คนขึ้นไป พัก 3 คืนขึ้นไป ไปจรนจนถึงมูลค่าสูงสุด งานขนาด 3,000 คน สนับสนุนงานสูงสุดไม่เกิน 2 ล้านบาท



ทีเส็บกำหนดเป้าหมายปี 2563 จะมีนักเดินทางไมซ์ต่างประเทศเข้าสู่ประเทศไทยโดยรวม 1,386,000 คน ทำรายได้ 105,600 ล้านบาท ในจำนวนนี้ประมาณการว่าจะเป็นตลาดธุรกิจประชุมและการเดินทางเพื่อเป็นรางวัล 762,000 คน สร้างรายได้ 57,000 ล้านบาท 


ผอ.จิรุตถ์ กล่าวต่อถึงเรื่อง ด้านการส่งเสริมภาพลักษณ์ที่ดีของประเทศและความพร้อมของเมืองในการเป็นเจ้าภาพจัดงานนานาชาติ ตลอดจนพัฒนาระบบนิเวศน์ของอุตสาหกรรมไมซ์ในพื้นที่อย่างเป็นระบบ (MICE Ecosystem) ให้มีจิตอาสาร่วมพัฒนาเมืองสู่การเป็นเมืองแห่งไมซ์ที่ยั่งยืน เมืองไมซ์หลักทั้ง 5 แห่ง ได้แก่ กรุงเทพ พัทยา ภูเก็ต เชียงใหม่ และขอนแก่น ทีเส็บประกาศความร่วมมือพัฒนา 5 เมืองไมซ์ใน 4 มิติ คือ การพัฒนาศักยภาพ องค์ความรู้ จัดอบรม ส่งเสริมข้อมูล การประชาสัมพันธ์ เผยแพร่สถานที่หรือผู้จัดงาน การสนับสนุนงาน ผลักดันการจัดงานอย่างยั่งยืน (Sustainable Events) และผลักดันสถานที่จัดงานให้ได้มาตรฐานความยั่งยืน ตลอดจนการติดตามประเมินผล ส่งเสริมการวัดผลการแสดงความยั่งยืนจากธุรกิจไมซ์ที่จับต้องได้ 



ขณะที่ปี 2562 แคมเปญแรกใน  5 เมืองไมซ์ซิตี้  คือ “Zero Plastic Events” กำหนดเป้าหมายจำนวนขวดพลาสติกที่ใช้ในห้องประชุมในเมืองไมซ์ซิตี้ ซึ่งมีปริมาณสูงถึง 17,345,674 ขวด ภายใน 1 ปี จะให้ลดลง 50% เหลือ 8,672,837 ขวด 

ทีเส็บวางกลยุทธ์ร่วมกับ 5 เมืองไมซ์ซิตี้ เร่งกระตุ้นการลดใช้ขวดน้ำพลาสติกในการจัดประชุม สัมมนา และนิทรรศการในเมืองไมซ์ซิตี้ ผ่านการรณรงค์ 3 แนวทาง คือ 

1.การใช้ขวดแก้ว ซึ่งเหมาะกับการประชุมระยะสั้น 1-2 วัน โดยแนวโน้มการบริโภคในปัจจุบันคือ น้ำ 1 ขวดต่อผู้ร่วมประชุม 2 ท่าน 

2.การใช้ขวดน้ำพกพา เหมาะกับการประชุมที่มีระยะเวลามากกว่า 1 วัน สามารถแจกแทนของที่ระลึกและให้นำมาใช้ในการประชุมทุกวัน

 3.การใช้ตู้กดน้ำ เหมาะกับการประชุมทุกประเภท แนะนำการนำภาชนะมาใช้เองของผู้เข้าประชุมหรือแก้วน้ำของสถานที่ โดยงดใช้แก้วพลาสติกหรือกระดาษ   



“หากการดำเนินงานเป็นไปตามเป้าหมาย จะสามารถลดการใช้ขวดพลาสติกในปริมาณดังกล่าว โดยคำนวณเป็นปริมาณคาร์บอนได้ถึง 638 ตันคาร์บอนไดอ๊อกไซด์ (Tonco2) เทียบเท่ากับการปลูกต้นไม้ จำนวน 70,226 ต้น และลดค่าใช้จ่ายได้กว่า 30,000,000 บาท ทีเส็บมั่นใจว่าความร่วมมือนี้จะเป็นอีกก้าวสำคัญของความร่วมมือในการพัฒนาอุตสาหกรรมไมซ์ไทยไปสู่ความยั่งยืน และมีมาตรฐานเป็นที่ยอมรับในฐานะจุดหมายปลายทางไมซ์ชั้นนำแห่งเอเชีย” นายจิรุตถ์ กล่าวสรุป

ด้านการจัดงาน IT&CMA and CTW Asia-Pacific 2019 ซึ่งประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดงานต่อเนื่องมาเป็นปีที่ 18 และยังได้รับสิทธิ์การจัดงานไปจนถึงปี 2563 นั้น ปีนี้กำหนดจัดงานระหว่างวันที่ 24-26 กันยายน 2562 ณ บางกอกคอนเวนชั่นเซ็นเตอร์ โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ แอท เซ็นทรัลเวิลด์ ประมาณการว่าปีนี้จะมีผู้ร่วมงานทั้งสิ้น 3,000 คน จาก 61 ประเทศทั่วโลก โดยทีเส็บได้จัดสร้างคูหานิทรรศการประเทศไทย (Thailand Pavilion) เพื่อผู้ประกอบการไมซ์ไทย จำนวน 69 ราย ร่วมเจรจาธุรกิจกับผู้ซื้อจากนานาชาติ โดยมีบริษัทธุรกิจด้านการโรงแรมระดับชั้นนำทั้งของประเทศไทยและระดับโลก รวมถึงธุรกิจบริการด้านการประชุมและการเดินทางเพื่อเป็นรางวัลเข้าร่วม ทั้งนี้พื้นที่รวมคูหานิทรรศการทั้งสิ้น 600 ตารางเมตร



จุดเด่นปีนี้มีพื้นที่นำเสนอนวัตกรรมใหม่ด้านไมซ์ คือ แพลทฟอร์มศูนย์ข้อมูลอุตสาหกรรมไมซ์ - MICE Intelligence Centre เป็นศูนย์กลางความรู้ข่าวสารอุตสาหกรรมไมซ์ในรูปแบบไฟล์ดิจิตัล (Digital File) และหนังสือดิจิตัล (e-Book) รวบรวมไว้ในลักษณะห้องสมุดอิเล็กทรอนิกส์ (e-Library) เพื่อเป็นแหล่งค้นคว้าและเผยแพร่ข้อมูลไมซ์ให้กับพันธมิตร และผู้ประกอบการไมซ์, แอพพลิเคชัน BIzCONNECT เป็นแอปพลิเคชั่นที่รวบรวมทุกงานไมซ์ที่ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ ทุกประเภทในประเทศไทยให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างตรงจุด ตั้งแต่ข้อมูลรายละเอียดและกิจกรรมของแต่ละงานครบครัน การลงทะเบียนและซื้อตั๋วเข้างานที่ง่าย ครบ จบ ในแอปพลิเคชั่นเดียว 

รวมถึงในวันที่ 15 ตุลาคม 2562 เตรียมโครงการ Thai MICE Connect แพลทฟอร์มรวบรวมฐานข้อมูลสินค้าบริการในทุกรูปแบบที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมไมซ์ทั่วประเทศที่ชัดเจน ถูกต้อง แม่นยำ ครบถ้วน ด้วยการพัฒนาให้เป็น E-Marketplace ของธุรกิจไมซ์ที่สมบูรณ์แบบที่สุดครั้งแรกของไทย 



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ททท.เปิดTTE2025นำไทยสู่ Land of Art Toy เที่ยวเชิงสร้างสรรค์

  ททท.เปิดงาน TTE 2025 ดันไทยเมืองท่องเที่ยวสร้างสรรค์ Land of Art Toy ททท.ลั่นใช้ TTE2025 นำไทยสู่ Land of Art Toy ปลุกเทรนด์เที่ยวเชิงสร...