ททท.ตากเปิดโมเดลเที่ยว ซอฟท์
พาวเวอร์“1พื้นที่ 1
อัตลักษณ์”
บูม3ประเพณี“สงกรานต์-ไหว้พระธาตุแก่งสร้อย-ขึ้นธาตุเดือนเก้า
Grand Momentน้ำตกทีลอซูสไตล์ใหม่/ชวนมู/ทัวร์ไร่ชมธรรมชาติ
ซีอีโอ“คิง
เพาเวอร์”โชว์วิสัยทัศน์ใหม่4ES4กล้า“ลอง-ให้-ทำ-เชื่อ”
คิง เพาเวอร์ชวนร่วมสนุกรับบัตรฟรี S2O Songkran Music Fest
ช้อปฟิน บินฟรี “คิงเพาเวอร์”แจกตั๋วฮ่องกง วันนี้-15 เม.ย.68
ททท.บูม“Maha
Songkran WorldFest 2025”โกย 2.65
หมื่นล้าน
บางจากยันผลิตน้ำมันการบินSAFคืบหน้า95%สู่ตลาด Q2/68
TCEBจัดMICE AcademyDayรุก2เครือข่ายรับมือจุดเปลี่ยนไมซ์
สุขทันทีสงกรานต์สาดน้ำสีดอกจานทั่วเมืองอุดร 13-15 เม.ย.68
“บ้านหมุน” ไม่ควรมองข้ามอาจเป็นหนึ่งในอาการอันตรายได้
ททท.เที่ยวภาคกลางมีความสุขทุกโมเมนท์ดึง50บริษัทแจกดีลดี
สรวงศ์เร่งแก้โจทย์ท่องเที่ยวหลังแผ่นดินไหวเอกชนเสนอ3แนว
วันเสาร์ที่ 5 เมษายน 2568 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97MHz. ฟังทางfacebookLiveFM97.0 อ่านในwww.facebook.com/penroongyaisamsen #gurutourza #รวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97 #เพ็ญรุ่งใยสามเสน #เที่ยวกับกู๋ #KingPower #TAT #บางจาก #TCEB #สงกรานต์
ฟัง Live สดจากลิงค์นี้... https://www.facebook.com/share/v/1AWVWZucn6/
ช่วงที่
1 สัมภาษณ์ !!
“ธมลวรรณ เจริญวงศ์พิสิฐ”
ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานตาก
เปิดจุดขายสุขทันทีที่เที่ยว “1 พื้นที่ 1 อัตลักษณ์”
เม.ย.-มิ.ย.นี้ เที่ยวบ้านตาก 3 งานประเพณี เริ่มด้วย “สงกรานต์กาดต้าตง” 12 เม.ย.พร้อม
“มนัสการพระบรมธาตุแก่งสร้อย” 7-9 เม.ย. และ “แห่ผ้าขึ้นธาตุเดือนเก้า” 8-10
มิ.ย. เดินหน้าเปิดโมเดล Grand
Moment “น้ำตกทีลอซู-ถ้ำสีฟ้า/ไล่จับสายรุ้ง” เที่ยว
“อำเภอแม่สอด” ไหว้พระ 3 วัด
“วัดโพธิคุณ-วัดไทยวัฒนาราม-วัดศรีพรเพ็ญมาตยาราม” สายธรรมชาติ มีแหล่งแช่น้ำแร่
ชมเทวะสถานพระพิฆเนศหินภูเขาไฟพันปี พร้อมชิลที่พิพิธภัณฑ์/คาเฟ่ไร่เตรยาวัน
ปิดท้ายทัวร์ผลไม้ ไร่แมคาเดเมีย อโวคาโด้ ส้มสายน้ำผึ้ง
นางสาวธมลวรรณ เจริญวงศ์พิสิฐ
ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานตาก เปิดเผยว่า ปี 2568 จังหวัดตากครองความนิยมจากนักท่องเที่ยวคนไทยในเดือนเมษายนนี้จะชูเสน่ห์ไทย
“สงกรานต์” นำร่องโครงการท่องเที่ยวงานเทศกาลประเพณี “1 พื้นที่ 1 อัตลักษณ์ ” มีโมเดลวิถี “กาดต้าตง” ศูนย์กลางย่านการค้าดั้งเดิมเมืองเก่าตาก
คนในพื้นที่กับหน่วยงานรัฐร่วมมือกันพัฒนาไว้ต้อนรับผู้มาเยี่ยมเยือนจะได้สัมผัสกับวิถีของผู้คนริมแม่น้ำปิง
อำเภอบ้านตาก เป็นต้นแบบงานประเพณีดั้งเดิมมาหลายร้อยปี
ปัจจุบันยังคงรักษาอัตลักษณ์เด่นที่ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวคนไทยและต่างชาติเพิ่มขึ้นต่อเนื่องทุกปี
จังหวัดตากเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมของนักท่องเที่ยว
1.กลุ่มเจนวาย
ชื่นชอบเส้นทางเที่ยวธรรมชาติ และการวิ่งเทรล 2.วัยเกษียน
จะมาเช็คอินสุขทันทีที่อำเภอพบพระ มีแหล่งท่องเที่ยวครบทั้ง สุขภาพแช่น้ำแร่
สายมูทัวร์ศาสนา และ 3
กลุ่มทั่วไป นิยมแหล่งท่องเที่ยวแมนเมด
อย่างไร่เตรยาวัน และอื่น ๆ
ประเพณีแรก “สงกรานต์เมืองตาก” วันที่ 12 เมษายน
2568 จะเปิดวันแรกให้นักท่องเที่ยวสามารถถือปิ่นโตไปซื้ออาหารจากชุมชนได้
แล้วททท.เปิดให้ลงทะเบียนด้วยการเดินวอล์คอินเข้าไปที่กาดแล้วก็รับคูปองฟรีไปใช้เป็นส่วนลดในงานได้
30 บาท
มีไฮไลต์แนะนำเป็น “สินค้าชุมชน” เป็น Must Taste อาหารพื้นบ้าน เมนู “แกงมะแฮะ”
ต้นตำรับมาจากอำเภอบ้านตากเป็นถั่วปลูกในบ้านตากทำคล้ายแกงส้มเพิ่มสมุนไพร
ใบส้มป่อย มะเขือต้ม หมูสามชั้นไม่มันมาก นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ชื่นชอบเมนูนี้มาก
หารับประทานได้ช่วงสงกรานต์ หรือในช่วงถั่วมะแฮะออกผลผลิตตั้งแต่ มีนาคม-พฤษภาคม
ของทุกปี บริเวณใกล้ ๆมีแหล่งท่องเที่ยว “วังปลา” เป็นแหล่งพักผ่อนหย่อนใจ
แหล่งท่องเที่ยวเชื่อมโยงจากกาดต้าตงไปเที่ยวต่อเนื่องได้อีก
2
แห่ง ได้แก่ สถานที่ 1 “อุทยานไม้กลายเป็นหิน”
เป็นความมหัศจรรย์ได้รับการประกาศใน “กินเนส บุ๊ค” ไม้กลายเป็นหินยาวที่สุดในโลก 69 เมตร
แล้วรอบบริเวณยังมีกลายเป็นหินมากที่สุดในเมืองไทย
ส่วนใต้ดินยังมีอีกเป็นจำนวนมากด้วยเช่นกัน
ขณะนี้ขุดขึ้นมาให้นักท่องเที่ยวชมประมาณ 7-8 ต้น
สถานที่ 2 แหล่งผลิตครกหินแกรนิต อดีตเคยส่งหินไปอ่างศิลาเพื่อแกะครก ภายหลังชาวตากนำมาแกะเอง ด้วยสภาพแวดล้อมเป็นภูเขาหินแกรนิต ชาวบ้านเริ่มเรียนรู้มีพัฒนาการ แกะครก และแก้วกาแฟที่ใช้ดิฟเก็บความร้อนได้เป็นอย่าง หรือชาวเกาหลีเรียกถ้วยบิมบิมบับ
ประเพณีที่ 2 งานมนัสการพระบรมธาตุแก่งสร้อย
อำเภอสามเงา วันที่ 7-8-9 เมษายน
2568 เกิดขึ้นจากเกจิอาจารย์ดังหลวงพ่อสร้อยเริ่มไว้กว่า
100 ปี
การเดินทางไปสักการะต้องเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวที่มีความมุ่งมั่นมาก
เพราะจะต้องล่องเรือแผผ่านเขื่อนภูมิพลโดยใช้เวลาราว 8 ชั่วโมง
ส่วนใหญ่บริษัทนำเที่ยวจะทำโปรแกรมขายล่วงหน้าพร้อมกับจองแพไว้
แล้วนำนักท่องเที่ยวลงเรือแพตอนเย็นเดินทางไปถึงพระธาตุตอนเช้าจากนั้นก็เริ่มพิธีทำบุญตามหลักศาสนา
ปีนี้มีบริษัทจำนวนมากนำนักท่องเที่ยวจากภูมิภาคต่าง ๆ ภาคกลาง และโดยเฉพาะภาคเหนือ
ชาวลำพูนจะล่องเรือจากอำเภอลี้ มาตามเส้นทางเขื่อนภูมิภล
เดินทางมางานบุญใหญ่ครั้งนี้ จึงขอเชิญชวนนักท่องเที่ยวมาเที่ยวได้
ประเพณีที่ 3 “แห่ผ้าขึ้นธาตุ” ประเพณีขึ้นธาตุเดือนเก้า ทุกวันขึ้น 14-15 ค่ำเดือน 9 ของภาคเหนือ ที่วัดพระบรมธาตุ อำเภอบ้านตาก วันที่ 8-10 มิถุนายน 2568 วัดแห่งนี้ได้ชื่อว่ามีความศักดิ์สิทธิ์ มีเจดีย์ชเวดากองจำลอง เป็นพระธาตุคนเกิดปีมะเมียสามารถเดินทางไปสักการะขอพรได้ โดยได้บรรจุพระบรมสารีริกธาตุพระพุทธเจ้า
กิจกรรมในงานนักท่องเที่ยวจะได้ชมขบวนแห่ ขบวนกลองยาว ขบวนปัจจัยไทยทาน ขบวนต้นเงิน ขบวนต้นผ้าป่า ขบวนตุงไชย และผ้าห่มองค์พระธาตุไปล้อมองค์พระธาตุ เป็นงานยิ่งใหญ่แห่งปี
ททท.ตากพร้อมจะได้นำเสนอการท่องเที่ยวสไตล์
“Grand Moment” ต้อนรับปีท่องเที่ยว
Amazing Thailand
Grand Tourism & Sport Year 2025 ไปสัมผัสวิถีธรรมชาติไฮไลต์
2 เส้นทาง
ได้แก่
เส้นทางที่ 1 “เที่ยวน้ำตกทีลอซุ” สูงที่สุดในเมืองไทย ในอำเภออุ้มผาง สามารถเที่ยวได้ตั้งแต่วันนี้จนถึงปลายเดือนมิถุนายน 2568 มีฝนตกลงมาทำให้มีปริมาณน้ำจำนวนมากเขียวขจีสวยงาม โดยมีไฮไลต์ “ล่องแพยาง” สัมผัสสายรุ้ง 2 ชั้น ชวนไปจับรุ้งได้ที่ “น้ำตกทีลอจ่อ” แล้วนั่งเรือต่อไปที่ “เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอุ้มผาง” แวะพักรับประทานอาหารกลางวันท่ามกลางธรรมชาติสวยงาม จากนั้นเดินเท้าอีกประมาณ 40 นาท ก็จะถึงน้ำตกทีลอซู
เส้นทางที่ 2 อันซีน ถ้ำสีฟ้า อำเภอแม่สอด การเดินทางไปยังแม่สอดจะต้องผ่านถ้ำแห่งนี้ มีสีสันสวยงามด้วยประติมากรรมธรรมชาติลวดลายหินงดงามเป็น Blue Fest อันซีน
พอมาถึง “อำเภอแม่สอด” สามารถเลือกท่องเที่ยวได้หลากหลายสไตล์ ตอบโจทย์ทุกกลุ่มทุกวัย เด่น ๆ คือ “กลุ่มสายมู” จะเดินทางไหว้สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ 3 แห่ง
แห่งที่ 1 วัดโพธิคุณ (วัดห้วยเตย) ตั้งอยู่ใกล้ถนนสายเอเซียตาก-แม่สอด หลักกิโลเมตรที่ 69 จุดเด่นคือพระอุโบสถคล้ายตั้งอยู่บนเรือสำเภา ภายในมีลวดลายศิลปะช่างสิบหมู่ นักท่องเที่ยวต่างชาติและคนไทยนิยมเดินทางมาชมความงดงามอย่างมาก
แห่งที่ 2 วัดไทยวัฒนาราม สไตล์ศิลปะไทยใหญ่ผสมเมียนมาและมอญ มีเจดียชเวดากองจำลองตั้งอยู่ด้วย และมี “พระมหามัยมุนีจำลอง” จากมัณฑะเลย์ พระล้างหน้าตอนตีห้า เรียกกันว่าพระนอนตาหวานองค์ยาวที่สุดในจังหวัดตาก ยาว 93 ศอก หรือเกือบ 40 เมตร
แห่งที่ 3 วัดศรีพรเพ็ญมาตยาราม
เมืองฉอด ตำบลแม่กาษา ห่างจากตัวอำเภอแม่สอดเพียง
16 กม.
มี "องค์ท้าวเวสสุวรรณโณ" สูงใหญ่ที่สุดในภาคเหนือ 9.9 เมตร น้ำหนัก 3.3
ตัน ทุกวันจะมีนักท่องเที่ยวคนไทยและต่างชาติเข้ามากราบบูชาขอพร ส่วนใหญ่จะขอเรื่องโชคลาภร่ำรวยเงินทอง
การค้าการลงทุน
“กลุ่มรักธรรมชาติ” จะนิยมท่องเที่ยวธรรมชาติเชิงสุขภาพ ประวัติศาสตร์ และเทวสถาน อีก 2 เส้นทาง
เส้นทางที่ 1 “แช่น้ำแร่” ตำบลแม่กาษา เป็นหมู่บ้านสายน้ำแร่กับน้ำพุร้อนอุณหภูมิราว 60 องศาเซียลเซส พร้อมกับมีคาเฟ่น่ารัก ๆ รอบบริเวณแหล่งน้ำแร่ เอกลักษณ์จะเป็นสไตล์ “แคมปิ้ง” กับที่พักแบบบ้าน ๆ รถบ้าน
เส้นทางที่ 2 เทวะสถานดอยสา เป็นสถานที่ท่องเที่ยว เชิงธรรมชาติและประวัติศาสตร์ อยู่ห่างจากภูกาษาวาเล่ย์ราว 200เมตร ภายในได้อัญเชิญพระพิฆเนศหินภูเขาไฟกว่า 1,000 ปี มาประดิษฐานไว้ พร้อมทั้งมีเทวาลัยพระตรีมูรดติ ให้ขอพรจาก 3 เทพ
ท่องเที่ยวต่อใน “อำเภอแม่ละมาด” มีร้านกาแฟ ท่ามกลางกราฟิตี้ นั่งชิล ๆ น่ารัก ๆได้ตลอด “อำเภอท่าสองยาง” มีถ้ำสีฟ้า แล้วต่อไปยัง “อำเภอพบพระ” มีพิพิธภัณฑ์ส่วนตัว “ไร่เตรยาวัน” มีของเก่าโบราณสวยงาม พร้อมกับคาเฟ่เก๋ ๆ แล้วเดินทางไปดูไร่แมคคาเดเมีย ด้วยภูมิศาสตร์เป็นน้ำแร่ดินดีจึงปลูกพืชชนิดนี้ได้ดี และมีผลไม้ขึ้นชื่ออโวคาโด้ ส้มสายน้ำผึ้ง และอีกมากมาย
ฟังข่าวต้นชั่วโมง
ข่าวที่ 1-ซีอีโอ“คิง เพาเวอร์”โชว์วิสัยทัศน์ใหม่4ES4กล้า“ลอง-ให้-ทำ-เชื่อ”
“อัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ เปิดเผยว่า ล่าสุดได้จัด TOWN HALL 2025 ประกาศวิสัยทัศน์กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ปี 2568 ซึ่ง พร้อมจะเปิดเวทีให้บุคลากรทั้งบริษัทร่วมขับเคลื่อนองค์กร ด้วยแนวคิด “KING POWER CORPORATE DNA” มุ่งเน้นการสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่หยั่งรากลึกถ่ายทอด DNA ปลุกจิตวิญญาณพนักงานสามารถรวมพลังกันเสริมสร้างความแข็งแกร่งจากภายในอย่างยั่งยืน ด้วยกลยุทธ์ POWER OF 4ES CULTURE – EXPLORE, ENCOURAGE, ENABLE และ EMPOWER ลุยขับเคลื่อนศักยภาพพนักงานด้วยการพัฒนาองค์ประกอบรอบด้านทุกมิติ ทั้งเพิ่มขีดความสามารถ ทักษะแห่งอนาคต และเปิดรับแนวคิดไอเดียใหม่ ๆ นำมาพัฒนาธุรกิจ สามารถต่อยอดสู่หน่วยธุรกิจใหม่หรือ “BUSINESS UNIT” ตอบโจทย์อนาคตได้อย่างทรงพลังต่อไป
วิสัยทัศน์ใหม่ของ “คิง เพาเวอร์” มุ่งตอกย้ำความเป็นผู้นำธุรกิจค้าปลีกเพื่อการท่องเที่ยว เร่งขับเคลื่อนองค์กรสู่อนาคต ด้วยแนวคิด “UNLOCK POSSIBILITIES, UNLEASH POTENTIAL” โดยพร้อมปลดล็อกศักยภาพและสร้างพลังแห่งความเป็นไปได้ หล่อหลอม DNA ขององค์กร พัฒนาสู่ “KING POWER CORPORATE DNA” ปลูกฝัง ส่งต่อ บ่มเพาะวัฒนธรรมองค์กรสู่พนักงานให้แข็งแกร่งมากยิ่งขึ้นต่อไป
ควบคู่กับการเปิดรับแนวคิดจากพนักงานเรื่องการเปลี่ยนแปลง การมีส่วนร่วมกับเป้าหมาย ลงมือทำจริงจนกลายเป็นวิถีปฎิบัติ เพื่อให้คนและองค์กรเติบโตไปด้วยกัน รวมถึงปรับโครงสร้างองค์กรเป็น “PEOPLE-CENTRIC” เน้นให้พนักงานเป็นศูนย์กลางแล้วผู้บริหารรับฟังความคิดเห็นนำมาพัฒนาธุรกิจด้วยการนำเสนอผ่าน 4 กลยุทธ์หลัก หรือ “POWER OF 4ES CULTURE” ประกอบด้วย
• กลยุทธ์ที่ 1 EXPLORE กล้าที่จะลอง : เปิดโอกาสให้พนักงานออกมาค้นหาความเป็นไปได้ใหม่ ๆ กับโครงการ “KP INFLUENCER PROGRAMME” สนับสนุนให้พนักงานกล้าลุกขึ้นมเป็น “อินฟลูเอนเซอร์” แข่งขันกันไลฟ์ขายของผ่านช่องทางโซเชียล มีเดีย แล้วค้นหาผู้ชนะระดับต่าง ๆ เช่น ท็อปเท็น (TOP 10 INFLUENCERS) ท็อปไฟฟ์ รีเอทีฟ คอนเทนท์ (TOP 5 MOST CREATIVE CONTENT CREATORS) เดือนพฤษภาคม 2568 จะประกาศผลการแข่งขัน
• กลยุทธ์ที่ 2 ENCOURAGE กล้าที่จะให้ : ให้การสนับสนุนทุกความคิดที่พร้อมสร้างความเป็นไปได้ใหม่ กล้าทำสิ่งใหม่ และผลักดันไอเดียเล็ก ๆ เติบโตสู่ความสำเร็จใหม่ได้
• กลยุทธ์ที่ 3 ENABLE กล้าที่จะทำ : จุดประกายไอเดีย เปิดพื้นที่ สร้างโอกาสทางธุรกิจให้พนักงาน เข้าร่วม THE FOUNDER PROGRAM โครงการบ่มเพาะธุรกิจตั้งต้น ปลุกคนกล้าคิดนอกกรอบ มีโอกาสเป็นเจ้าของธุรกิจร่วมกับคิง เพาเวอร์ ได้ด้วย
• กลยุทธ์ที่ 4 EMPOWER กล้าที่จะเชื่อ : ปลดล็อกศักยภาพ ท้าทายทุกขีดจำกัด สนับสนุนให้พนักงานกล้าจะเชื่อในศักยภาพของตัวเองกับ โครงการ “KING POWER SUPER POWER” จัดเวทีให้ทุกคนมีโอกาสได้ปล่อยพลังเต็มที่ ท้าทายทุกความเป็นไปได้ จัดทัวร์นาเมนท์การแข่งขันเฟ้นหาสุดยอดพนักงานจากแต่ละสาขา สร้างแรงบันดาลใจ ให้พนักงานเติบโตประสบความสำเร็จอย่างแท้จริง
“อัยยวัฒน์” ย้ำว่า กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ให้ความสำคัญต่อเนื่องมาตลอดจนถึงขณะนี้ปี 2568 กำลังการก้าวสู่ปีที่ 36 ได้เปิดโอกาสให้พนักงานยกระดับศักยภาพอย่างต่อเนื่องเติบโตคู่องค์กรมายาวนาน ส่งเสริมการพัฒนาและเพิ่มทักษะ (UPSKILL-RESKILL) ครอบคลุมรอบด้าน ทั้งความรู้เฉพาะทาง ดิจิทัล การคิดเชิงวิเคราะห์ ทักษะการสื่อสารและการทำงานร่วมกัน
โดยได้ “สร้างสภาพแวดล้อมการทำงาน” ให้เอื้อกับการแสดงความคิดเห็นและการแสดงออกอย่างสร้างสรรค์
เตรียมความพร้อมเดินหน้ารับมือการเปลี่ยนแปลงของตลาดอยู่เสมอ รวมทั้งยังได้นำนวัตกรรม AI และดาต้ามาเสริมความแข็งแกร่งองค์กร
ผลักดันบริการให้ลูกค้าและสมาชิกคิง เพาเวอร์
ทั้งในประเทศและทั่วโลกได้รับประสบการณ์เหนือระดับ เกิดความประทับใจไปตลอด
ข่าวที่ 2 -คิง เพาเวอร์ชวนร่วมสนุกรับบัตรฟรีS2OSongkranMusicFest
“คิง เพาเวอร์” ชวนคนไทยมาร่วมสนุกลุ้นรับ บัตรเข้างานฟรี! “Pepsi presents S2O Songkran Music Festival 2025” ฉลองครบ 10 ปี ร่วมสนุกสุดอลังการของสงกรานต์เฟสติวัล
1.ประเภทบัตร Regular 1 Day Pass 20 รางวัล ๆ ละ 2 ใบ
โดยสามารถเลือกรับตามรอบวันดังนี้
วันที่
12 เมษายน 2568 จำนวน 4 รางวัล
วันที่
13 เมษายน 2568 จำนวน 3 รางวัล
วันที่ 14 เมษายน 2568 จำนวน 13 รางวัล
ร่วมกิจกรรมแบบง่าย สุด ๆ เพียงแค่กดติดตามโซเชียลมีเดีย “King Power Official” ให้ครบทุกช่องทางต่อไปนี้ FACEBOOK / IG / TIKTOK / X / LINE และ YOUTUBE พร้อมแคปหน้าจอหลักฐานรวมทุกช่องทางของคุณคอมเมนต์ใต้โพสต์ได้เลย
จากนั้นให้ “แชร์ภาพสงกรานต์” ในสไตล์ของแต่ละให้ “สนุกสุดขีดให้โลกจำ” พร้อม Tag เพื่อน ที่คุณอยากไปมันส์ที่ S2O ด้วยกัน ใต้โพสต์ดังกล่าว ได้จนถึงวันที่ 5 เมษายน 2568 รอฟังประกาศผล 8 เมษายน นี้เวลา 12.00 น.
ผู้มีรายชื่อได้รับรางวัลจะต้องทำการยืนยันตัวตนภายในวันประกาศผลภายใน 21.00 น. มิฉะนั้นจะถือว่าสละสิทธิ์
ข่าวที่ 3-ช้อปฟิน บินฟรี “คิงเพาเวอร์”แจกตั๋วฮ่องกงวันนี้-15เม.ย.68
หยุดยาวนี้
“คิง เพาเวอร์” ชวน “ช้อปฟิน บินฟรี” ใครมีไฟลต์บินช่วงหยุดยาว ต้องแวะช้อป วันนี้
-15 เมษายน 2568 ที่ คิง เพาเวอร์
รางน้ำ ศรีวารี และ ภูเก็ต
โปรแรก
ลดสูงสุด 25% เริ่มจากลดทันที 20% เมื่อช้อปครบ
8,000 บาทขึ้นไป/ใบเสร็จ หรือ ลดทันที 25% เมื่อช้อปครบ 15,000 บาทขึ้นไป/ใบเสร็จ
โปรที่
2 สมาชิก คิง เพาเวอร์
รับฟรี!ตั๋วเครื่องบิน ไป - กลับ กรุงเทพฯ - ฮ่องกง* 1 ที่นั่งเมื่อช้อปครบ 50,000 บาทขึ้นไป (สุทธิ) ได้คนละ
1 สิทธิ์/วัน
ข่าวที่
4-ททท.บูม“Maha
Songkran WorldFest 2025”โกย 2.65หมื่นล้าน
นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า งาน Maha Songkran World Water Festival 2025 เป็นหนึ่งใน Grand
Festivity เป็นไฮไลต์ในโครงการ Thailand Summer Festival นำประเพณีสงกรานต์สร้างความยิ่งใหญ่
ตอกย้ำมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของมนุษยชาติ
ส่งเสริมภาพลักษณ์การท่องเที่ยวไทยและสร้างความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัยให้นักท่องเที่ยวทั่วโลก
ททท.คาดตลอดการท่องเที่ยวประเพณีสงกรานต์ระหว่างวันที่ 12-16
เมษายน 2568 นักท่องเที่ยวคนไทยและต่างชาติ จะใช้จ่ายเงินสร้างรายได้หมุนเวียนเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจกว่า
26,500 ล้านบาท เติบโตจากช่วงเดียวกันกับปีก่อน 8 % จะมีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ 476,000 คน
เพิ่มขึ้น 3 % สร้างรายได้ 7,324
ล้านบาท และคนไทย 4,418,500 คน-ครั้ง เพิ่มขึ้น 6 % สร้างรายได้ 19,240 ล้านบาท
ปี 2568 พื้นที่หลักจัด Maha Songkran World Water
Festival 2025 นักท่องเที่ยวจะได้รับประสบการณ์อัดแน่นเป็นพิเศษกับไฮไลต์ปัง
ๆ ดังนี้
• “ขบวนรถพาเหรดมหาสงกรานต์” ทำขบวนแห่คานิวัลรถสงกรานต์ ซอฟท์ พาวเวอร์ 8 ขบวน ได้แก่ 1.ขบวนสายน้ำบันดาลสุข 2.ขบวนสีสันแห่งฤดูกาล
3.ขบวนสมบูรณ์พูนแซ่บ 4.ขบวนช้างทัดยแสนรู้
สัตว์มงคลคู่บ้านคู่เมืองไทย 5.ขบวนเชิดชูค่าปลากัดไทย 6.ขบวนมหรสพวิถี ลีลาสยาม 7.ขบวนตุ๊กตุ๊ก รถแห่หมอลำซิ่ง และ 7.ขบวนสงกรานต์วัยใส
นำเสนออัตลักษณ์ไทยจากอดีตจนถึงปัจจุบันมุ่งสู่อนาคต
วันที่
12 เมษายน 2568 ขบวนรถพาเหรดมหาสงกรานต์จะเริ่มเคลื่อนตัวเวลา
17.00 น. เริ่มต้นตรงอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เข้าสู่ถนนราชดำเนิน แล้วไปสิ้นสุดที่ท้องสนามหลวง
วันที่
13 เมษายน 2568 เวลา 17.00 น.
แห่รอบท้องสนามหลวง พร้อมจอดแสดงบริเวณท้องสนามหลวง ระหว่างวันที่ 12-15 เมษายน
2568 เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้ชมความประณีตงดงาม
• “กิจกรรมพิเศษ”
บริเวณพื้นที่ท้องสนามหลวง ระหว่างวันที่ 11-15
เมษายน 2568 ด้วยไฮไลต์ที่จะเป็นพลังดึงดูดนักท่องเที่ยว
6 โซน ได้แก่
โซนที่
1 สงกรานต์อัตลักษณ์ 5 ภาค
โซนที่
2 เสน่ห์ไทย นำเสนอกิจกรรม 5 Must do in
Thailand
โซนที่
3 มหรสพงานวัดไทย ประกอบด้วย กิจกรรมบ้านผีสิง
หนังกลางแปลง ชิงช้าสวรรค์ ก่อเจดีย์ทราย “กิจกรรมสรงน้ำพระ” และรดน้ำผู้สูงอายุ
เนื่องในวันขึ้นปีใหม่ไทย
โซนที่
4 ลานเล่นน้ำพร้อมชมการแสดงน้ำพุประกอบดนตรี
สถานีบริการเติมน้ำเล่นน้ำสงกรานต์ ถังน้ำล้นยักษ์ การแสดง EDM โดย DJ ที่มีชื่อเสียง เช่น DJ Bubblepaint, DJ Leonie, DJ Jeffy, DJ
B-Bass, DJ Jay Cardi
โซนที่
5 จำหน่ายอาหาร ผลิตภัณฑ์และสุดยอดของดี 5 ภูมิภาค จำนวนรวมมากกว่า 100 บูท
โซนที่
6 เวทีใหญ่ พบกับการแสดงทางวัฒนธรรม การแสดงร่วมสมัย
การแสดงของศิลปินที่มีชื่อเสียงของประเทศ ได้แก่ Polycat, Joey Boy, Zeal,
Jeff Satur, The Toys, 4EVE, Paper
Planes, Paradox, Tilly Birds, Musketeers, Ink Waruntorn, จ๊ะ นงผณี, ลำไย ไหทองคำ, Lazyloxy, ต้าอู๋ห์, กระแต อาร์สยาม, Slapkiss ,
Yourmood, คาราบาว, Bodyslam
แล้ว
ททท. ได้ใช้ DNA ขององค์กรส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนด้วย
2 กิจกรรม ได้แก่
กิจกรรมแรก
GCYOUเทิร์น บริหารจัดการขยะจากพลาสติก ขวดน้ำดื่มในบริเวณงาน โดย recycle และ Upcycling
กิจกรรมที่สอง
Service Design จัดทำเว็บแอปพลิเคชัน
Maha Songkran World Water Festival 2025
รวบรวมข้อมูลกิจกรรมต่าง ๆ เช่น แผนผังงาน โซนการจัดแสดง ตารางเวลาการแสดงภายในงาน
และข้อมูลการจัดกิจกรรมสงกรานต์ทั่วประเทศ
ข่าวที่
5-บางจากยันผลิตน้ำมันการบินSAFคืบหน้า95% สู่ตลาด Q2/68
นายชัยวัฒน์
โควาวิสารัช
ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัทบางจาก และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจาก
คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่ากลุ่มบางจากความพร้อมดำเนินงานโครงการผลิตน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานยั่งยืน
(Sustainable Aviation Fuel: SAF) ทั้งด้านวัตถุดิบ
เทคโนโลยี และตลาดรองรับ ในฐานะผู้บุกเบิกการผลิต Neat SAF 100% รายแรกของไทย
ด้วยการใช้วัตถุดิบจากน้ำมันปรุงอาหารใช้แล้ว และวัตถุดิบทางเลือก
(ของเหลือทิ้งจากภาคอุตสาหกรรมและภาคบริการอื่นๆ)
ภายใต้ระบบที่ได้รับการรับรองมาตรฐานระดับสากลจาก International
Sustainability and Carbon Certification (ISCC)
การลงทุนในโครงการ SAF ถือเป็นก้าวสำคัญของบางจากฯ
จากผู้นำด้านพลังงานทดแทนสู่ผู้นำพลังงานแห่งอนาคต ต่อยอดจากประสบการณ์กว่า 20 ปี ที่ได้จัดเก็บ UCO เพื่อผลิตเชื้อเพลิงชีวภาพ
และมีความได้เปรียบเชิงต้นทุน
ด้วยการใช้ทรัพยากรและโครงสร้างพื้นฐานของโรงกลั่นเดิม
ช่วยลดต้นทุนการก่อสร้างและการดำเนินงาน
เดือนเมษายน
โครงการก่อสร้างก้าวหน้าแล้วกว่า 96%
และอยู่ระหว่างเตรียมเดินเครื่องในไตรมาส 2 ปี 2568 โดยมีแผนเริ่มต้นจากการทดสอบสมรรถนะของโรงงาน (Plant
Performance Test Run) และจะทยอยเพิ่มระดับการผลิต (Ramp-up) สู่การดำเนินงานต่อเนื่องตามสัญญาการจำหน่ายและแนวโน้มความต้องการของตลาด
ตามที่บางจากฯ
ได้ลงนามในสัญญาซื้อขาย SAF กับลูกค้าหลักแล้ว
และรับจ้างการกลั่น (Tolling) อีกทั้งอยู่ระหว่างการเจรจากับพันธมิตรเพิ่มเติมอย่างต่อเนื่อง
แม้ในหลายประเทศยังไม่มีนโยบายบังคับชัดเจนเรื่องการผสม SAF โดยเฉพาะในภูมิภาคเอเชีย
แต่ความต้องการเชื้อเพลิง SAF ทั่วโลกเติบโตต่อเนื่อง
จากแรงขับเคลื่อนสู่เป้าหมาย Net Zero และการบินมุ่งลดคาร์บอน ในหลายภูมิภาค เช่น
สหภาพยุโรป ปี 2568 เริ่มกำหนดเป้าหมายขั้นต่ำ
2%
สะท้อนทิศทางที่ชัดเจนและสร้างแรงจูงใจในการลงทุน ในระยะสั้นตลาด SAF อาจยังมีปริมาณเหลืออยู่บ้าง
แต่ระยะยาวเริ่มจากปี 2573 กลับมีแนวโน้มเข้าสู่ภาวะขาดแคลน
เมื่อข้อกำหนดบังคับเริ่มทยอยมีผลในหลายประเทศทั่วโลก
สำหรับหน่วยผลิต SAF ของกลุ่มบริษัทบางจาก ดำเนินการโดยบริษัท
บีเอสจีเอฟ จำกัด จะมีพิธีเปิดในวันที่ 25เมษายน 2568 ณ โรงกลั่นน้ำมันบางจาก พระโขนง
นับเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญของกลุ่มบริษัทบางจากในการต่อยอดสู่ธุรกิจพลังงานแห่งอนาคต
และร่วมผลักดันประเทศไทยสู่สังคมคาร์บอนต่ำ
ข่าวที่ 6- TCEBจัดMICE AcademyDayรุก2เครือข่ายรับมือจุดเปลี่ยนไมซ์
นายจิรุตถ์
อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ
(องค์การมหาชน) “TCEB” เปิดเผยว่า นำทีเส็บจัดกิจกรรม MICE
Academy Day 2025 ครั้งที่ 7 ที่SCBX
NEXT TECH ศูนย์การค้าสยามพารากอน กรุงเทพฯ พร้อมกับนำเสนอบนเวทีเรื่อง
“จุดเปลี่ยนโลกไมซ์ เชื่อมโยงโอกาส ก้าวสู่ศูนย์กลางการเรียนรู้ไมซ์แห่งอาเซียน”
เน้นสร้างผลสัมฤทธิ์ 2 เรื่อง คือ เรื่องที่ 1
เดินหน้ายกระดับพัฒนาศักยภาพอุตสาหกรรมไมซ์
เสริมความแข็งแกร่งด้านบุคลากรทางการศึกษาให้พร้อมรับการเปลี่ยนแปลง เรื่องที่ 2
สร้างเครือข่ายไมซ์ระดับภูมิภาคเชิงรุก ด้วยการผลักดันผู้นําไมซ์รุ่นใหม่ให้มีศักยภาพขับเคลื่อนอุตสาหกรรมอย่างมีประสิทธิภาพ
ตอบโจทย์ความเปลี่ยนแปลงของยุคสมัย แล้วทำให้ไทยเป็นจุดหมายปลายทางไมซ์ในตลาดโลก
แล้วการจัดงานครั้งนี้ก็ถือเป็น
"จุดเปลี่ยนสถานี" สำคัญ ที่ช่วยสร้าง ผู้สอนไมซ์ และผู้นำไมซ์รุ่นใหม่
ได้ต่อยอด ค้นพบเส้นทางแห่งโอกาส
เตรียมความพร้อมเพื่อก้าวเข้าสู่อุตสาหกรรมไมซ์อย่างมั่นใจ
เป็ฯพลังสำคัญของอุตสาหกรรมสร้างงาน สร้างอาชีพ
และเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันเมืองไทยเป็นหนึ่งในเวทีโลก
ภายในงานมีไฮไลต์จัดกิจกรรมไฮไลต์
ที่ได้รับความสนใจจากธุรกิจและผู้สนใจเข้าร่วมวงการไมซ์ ดังนี้
กิจกรรมที่ 1 “Train
the Trainer” เปิดโอกาสให้ คณาจารย์ในเครือข่ายภาคการศึกษาไมซ์
รับความรู้ เทคนิคการสอนให้มีความน่าสนใจ เข้าถึง
และดึงดูดให้ผู้เรียนเกิดประสิทธิภาพในการเรียนรู้มากที่สุด โดยได้รับเกียรติจาก
อาจารย์พากร อัตตนนท์ วิทยากรผู้เชี่ยวชาญด้านการสอนการถ่ายทอดอย่างมืออาชีพ
กิจกรรมที่
2 "Explore Opportunities" เปิดเวทีให้ธุรกิจชั้นนำในอุตสาหกรรมไมซ์
15 บริษัท นำเสนอข้อมูลและโอกาสในการทำงาน ผ่านกิจกรรม Job
Pitching โดยแต่ละแห่งได้แนะนำองค์กร ตำแหน่งงานที่พร้อมเปิดรับสมัคร
และแนวทางการเติบโตในสายอาชีพไมซ์อย่างยั่งยืน
กิจกรรมที่
3 “Get
Ready” ได้รับเกียรติจาก คุณสมบัษร ถิระสำโรช (ป้าตือ)
เจ้าของบริษัท ตือ จำกัด และอินฟลูเอนเซอร์ช่อง “ตือสนิท”
มาร่วมแชร์มุมมองและแนวคิดการเตรียมตัวเข้าสู่ตลาดแรงงาน โดยเฉพาะในวงการไมซ์ต้องอาศัยทั้งทักษะ
ความคิดสร้างสรรค์ ความพร้อมรับมือกับความท้าทายใหม่ ๆ เพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ
ช่วงที่ 2 สงกรานต์ปีนี้จะมาชวนไป “สาดน้ำสีดอกจานอุดรธานี”
ดื่มด่ำวัฒนธรรมความเย็นฉ่ำ ๆ 13-15 เมษายน 2568 จุดศูนย์กลางอยู่ตรง”สนามทุ่งศรีเมือง”
แล้วทั้งเมืองยังพร้อมใจกันจัดสงกรานต์ต้อนรับนักท่องเที่ยว ฟังต่อเรื่อง
“บ้านหมุน” หนึ่งในอาการที่ต้องระวังอันตราย และข่าวฮ็อต ๆ ข่าวแรก “ททท.ภาคกลาง”
ชวนเที่ยว17 จังหวัดสุขทุกโมเมนท์รับดีลดีจาก 50 บริษัท ข่าวที่สอง “สรวงศ์ แก้โจทย์ท่องเที่ยวหลังแผ่นดินไหว”
เอกชนเสนอใช้ 3 แนวทาง
ท่องเที่ยว–สุขทันทีสงกรานต์สาดน้ำสีดอกจานทั่วเมืองอุดร 13-15 เม.ย.68
ออกไปม่วนรับความเย็นฉ่ำปีใหม่ไทย
“เย็นทั่วหล้ามหา สงกรานต์” ปักหมุดวิถีวัฒนธรรม "สาดน้ำสีดอกจาน สงกรานต์เมืองอุดร 2568” ระหว่าง
13 - 15 เมษายน 2568 บริเวณสนามทุ่งศรีเมือง สวนสาธารณะหนองประจักษ์ศิลปาคม ศูนย์การค้ายูดีทาวน์ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลอุดร และพื้นที่ท่องเที่ยวอีกหลายแห่ง
ทั้งเมืองพร้อมใจกันนำสงกรานต์มาสร้างความประทับใจ
“สงกรานต์เมืองอุดรธานี
2568” ขอชวนนักท่องเที่ยวในพื้นที่และต่างภูมิภาค แพ็กกระเป๋ามาร่วมสัมผัสประสบการณ์ใหม่
ๆ แนะนำให้สวมใส่ “ชุดสีดอกจาน” นักท่องเที่ยวมาม่วนกันให้เต็มเหนี่ยวกับมหกรรมการเล่นสาดน้ำตามวัฒนธรรมไทย
ในบรรยากาศเต็มไปด้วยสีสันและความสนุกสนานพร้อมกันทั้งเมือง!กับ ไฮไลท์สนุกสุขทันทีสงกรานต์ที่อุดรธานี
ได้ถึง 5 สุข
•
สุขที่ 1 ร่วมบุญกับขบวนแห่พระพุทธรูปสิ่งศักดิ์สิทธิ์จาก 20 อำเภอ เสริมสิริมงคลรับปีใหม่ไทย
•
สุขที่ 2 ชมการแสดงนางรำ 545 คน ร่วมโชว์ศิลปวัฒนธรรมอีสานสุดตระการตา
•
สุขที่ 3 พิธีรดน้ำขอพรผู้สูงอายุ 132 คน เพื่อสืบสานประเพณีไทย
•
สุขที่ 4 เพลิดเพลินไปกับ การแสดงศิลปวัฒนธรรมพื้นบ้านและคอนเสิร์ตจากศิลปินชื่อดัง
•
สุขที่ 5 สัมผัสวิถีวัฒนธรรมของจังหวัดอุดรธานี
และแหล่งท่องเที่ยวเส้นทางศรัทธาอีกมากมาย ชวนครอบครัว เพื่อนฝูง คนรู้ใจ ออกมาสร้างความทรงจำดี
ๆ ด้วยกัน
“ตลอดเดือนเมษายน 2568” ททท.อุดรธานี ชวน”สายบุญ” มารับพลังดีๆ กับการท่องเที่ยวสายศรัทธา
ในพื้นที่ อุดรธานี, หนองคาย, และ บึงกาฬ
• แวะไหว้พระเสริมสิริมงคล ที่วัดสำคัญ
สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์
• แชะภาพสุดประทับใจ ได้ทุกที่ทุกเวลา
• ชิมของอร่อย อิ่มท้อง สบายกาย กับอาหารพื้นเมือง
• ช็อปของฝากสุดเก๋ จากชุมชน พักผ่อนท่ามกลางธรรมชาติ เติมพลังให้ชีวิต
สุขภาพ –“บ้านหมุน”ไม่ควรมองข้ามอาจเป็นหนึ่งในอาการอันตรายได้
ใครที่มีอาการบ้านหมุน
อย่าคิดว่าแค่นอนไม่พอเท่านั้น เพราะจริงๆ แล้วอาการบ้านหมุนมีหลายสาเหตุ
อาจอันตรายกว่าที่คิดก็ได้
อาการ
“บ้านหมุน” เป็นอย่างไร !?
ทุกคนอาจคุ้นเคยกับอาการ
“เวียนศีรษะ” ตามปกติ แต่สำหรับอาการบ้านหมุน
จะเป็นอาการที่รู้สึกว่าตัวเองหมุนหรือสิ่งแวดล้อมรอบตัวหมุนได้
ซึ่งที่จริงแล้วไม่มีการเคลื่อนไหวนั้นเกิดขึ้นจริง
สาเหตุของอาการบ้านหมุน
อาการเวียนศีรษะแบบบ้านหมุน
อาจเกิดได้จากหลายสาเหตุ
ทั้งความผิดปกติของระบบการทรงตัวของร่างกายตลอดจนความเจ็บป่วยอื่นๆ เช่น
ผู้ป่วยที่เป็นโรคหัวใจเต้นผิดจังหวะ โรคหลอดเลือดสมอง หรือโรคเบาหวาน
1.
ความผิดปกติของหูชั้นในหรือระบบสมองที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการทรงตัว
2.
ความผิดปกติของระบบอื่นๆ เช่น
ระบบไหลเวียนโลหิต หรือสายตา
3.
ฤทธิ์ข้างเคียงจากการรับประทานยาบางชนิด
4.
ปัจจัยอื่นๆ เช่น พักผ่อนไม่เพียงพอ
เมารถ หรือเมาเรือ
ดังนั้นควรรีบหาสาเหตุ
เร่งแก้ไข และควรปรึกษา เพื่อทำให้อาการบ้านหมุนหายเป็นปกติ
ฟังข่าวท้ายชั่วโมง
ข่าวแรก
–ททท.เที่ยวภาคกลางมีความสุขทุกโมเมนท์ดึง50บริษัทแจกดีลดี
นางสาววรรณภา
เกียรติพงษา ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคกลาง การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
เปิดตัวโครงการ “Everyday Special Moment เที่ยวกลางมีสุข
ทุกโมเมนต์”
กระตุ้นนักท่องเที่ยวเข้าสู่พื้นที่ภูมิภาคภาคกลางทั้งเมืองหลักและเมืองน่าเที่ยว
โดยใช้ City Marketing นำเสนอจุดขาย
พลิกมุมมองการท่องเที่ยวในวันธรรมดาที่ไม่ธรรมดาอีกต่อไป
นักท่องเที่ยวสามารถเพลิดเพลินกับช่วงเวลาอันล้ำค่าที่หลีกหนีความวุ่นวาย
เติมเต็มพลังให้กับร่างกาย ชาร์จความสุขให้กับจิตใจสู่การพักผ่อนอย่างแท้จริง
รวมถึงบอกเล่าเรื่องราว “เสน่ห์ไทย” ของแต่ละพื้นที่ ที่จะช่วยส่งเสริมและสร้างความแตกต่างอย่างโดดเด่น
ผ่านกลุ่มนักท่องเที่ยวเป้าหมาย Gen Z/ Millennials และกลุ่มครอบครัว
ททท.ร่วมกับภาคีพันธมิตร
เช่น บริษัท แม็กซ์ โซลูชัน เซอร์วิส จำกัด/บริษัท กาแฟพันธุ์ไทย จำกัด/ บริษัท
ครีเอทีฟ มาก จำกัด /บริษัท ปันโปรโมชัน จำกัด และแพลตฟอร์ม พาทัวร์ – Patois เสิร์ฟประสบการณ์และเสน่ห์ของการท่องเที่ยวในวันธรรมดา ได้แก่
กิจกรรม
“เที่ยวภาคกลาง สุขทุกโมเมนต์ กับ Max Me” ร่วมมือกับแอปพลิเคชั่น Max Me และ ร้านกาแฟพันธุ์ไทย เชิญชวนให้นักท่องเที่ยวเดินทางเที่ยวภาคกลาง
17 จังหวัด แวะพัก และซื้อสินค้าที่ร้านกาแฟพันธุ์ไทย เมื่อชำระเงินด้วย แอปพลิเคชั่น Max Me ตั้งแต่ 100 บาท ขึ้นไป
ตลอดเมษายน 2568 รับสิทธิ์ลุ้นเป็นผู้โชคดี ร่วมทริป นั่งรับบัสกินมิชลินชมกรุง กับ Thai Bus Food Tour
กว่า 24 รางวัล รางวัลละ 2 ที่นั่ง รวมมูลค่ากว่า 90,000 บาท
(ติดตามเงื่อนไขและรายละเอียดกิจกรรมผ่านเพจ PT Station และเพจ
PunThai Coffee) เริ่มวันที่ 1 เมษายน 2568 เป็นต้นไป
กิจกรรม
“กดปุ๊บลดปั๊บ รับโปรดี” ร่วมกับ พาทัวร์-Patois
Lifestyle Platform ในเครือบริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี
จำกัด (มหาชน) โดยนำเสนอแพ็กเกจท่องเที่ยวและกิจกรรมราคาสุดพิเศษ
จากผู้ประกอบการในภาคกลาง 17 จังหวัด กว่า 50 ราย
ในราคาสุดพิเศษพร้อมดีลส่วนลดมากกว่า 500 สิทธิ์ และสิทธิประโยชน์เพิ่มเติมกับสมาชิกบัตร Max Card Plus และ Max Card Plus EV รับส่วนลดเพิ่ม
8% สูงสุด 500 บาทต่อเดือน หรือ 1,500 บาท ตลอดโครงการรวมมูลค่ากว่า
130,000 บาท เริ่มตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป
กิจกรรม Challenge ‘Every Moment is Mine ประสบการณ์ใหม่ในภาคกลาง ร่วมกับ บริษัท
ปันโปรโมชัน จำกัด ให้นักท่องเที่ยวบอกเล่าเรื่องราวความประทับใจในการเดินทางท่องเที่ยวภาคกลาง
ผ่านโซเชียลมีเดียของตนเอง เพื่อกระตุ้นการออกเดินทางท่องเที่ยวภาคกลาง ลุ้นรับกว่า
10 รางวัล มูลค่ากว่า 350,000 บาท เริ่มวันที่ 17 เมษายน 2568
เป็นต้นไป
ททท.เชิญชวนให้นักท่องเที่ยวได้ลองมาสัมผัสโมเมนต์อันแสนสงบของวันธรรมดาที่จะเปิดโลกใบใหม่แห่งการท่องเที่ยวของคุณ
พร้อมค้นพบเสน่ห์และความมหัศจรรย์ที่จะยิ่งทำให้คุณหลงรักภาคกลางมากยิ่งขึ้น
ติดตามรายละเอียดโครงการและโปรโมชั่นแคมเปญพิเศษผ่านช่องทางต่าง
ๆ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ได้ที่ 5 เพจ คือ เพจ PT Station เพจ PunThai Coffee เพจ ปันโปร และเพจในเครือบริษัทฯ
(เพจแถวบ้าน) เพจและแพลตฟอร์ม พาทัวร์- Patois เพจ Everyday
Special Momemt เที่ยวกลางมีสุข ทุกโมเมนต์
ข่าวที่สอง
–สรวงศ์เร่งแก้โจทย์ท่องเที่ยวหลังแผ่นดินไหวเอกชนเสนอ3แนว
นายสรวงศ์
เทียนทอง
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า เป็นประธานการประชุมเมื่อวันที่
31 มีนาคม 2568 เปิดห้องหารือร่วมกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชน
เดินหน้าประเมินผลกระทบการท่องเที่ยวหลังผ่านเหตุการณ์แผ่นดินไหวเมื่อ 28 มีนาคม 2568 พร้อมร่วมกันกำหนดแนวทางการฟื้นฟูความเชื่อมั่นนักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศ
โดยมีผู้เข้าร่วมพร้อมเพียงกันทั้งนายจักรพล
ตั้งสุทธิธรรม ผู้ช่วยรัฐมนตรี นายจักรพรรดิ์ คล่องพยาบาล ที่ปรึกษารัฐมนตรี นายกฤษฎา
ตันเทอดทิตย์ เลขานุการรัฐมนตรี นางสาวนัทรียา ทวีวงศ์ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา
นายมงคล วิมลรัตน์ อธิบดีกรมพลศึกษา นายจาตุรนต์ ภักดีวานิช อธิบดีกรมการท่องเที่ยว, พลตำรวจโทศักย์ศิรา
เผือกอ่ำ ผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว
นางสาวฐาปนีย์
เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) และผู้แทนหน่วยงานภาคเอกชน
เช่น สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย หอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย, สมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (ATTA) สมาคมโรงแรมไทย (THA) สมาคมไทยบริการท่องเที่ยว (TTAA)
สมาคมธุรกิจท่องเที่ยวภายในประเทศ (สทน.) สมาคมมัคคุเทศก์อาชีพแห่งประเทศไทย
(PGAT) สมาคมส่งเสริมธุรกิจท่องเที่ยวไทย (สธทท.), สมาคมสายการบินประเทศไทย สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ
(องค์การมหาชน) “TCEB”
เวทีการประชุมครั้งนี้กระทรวงการท่องเที่ยวฯ
ได้เปิดรับฟังข้อเสนอจากเอกชนเพื่อเร่งกำหนดมาตรการเป็นรูปธรรม ที่จะรองรับและแก้ไขผลกระทบหลังเกิดเหตุแผ่นดินไหว
ทางเอกชนเสนอ
• มาตรการที่
1 ขอให้มี “ผู้สั่งการคนเดียว” (Single Command)
เพื่อให้การสื่อสารทั้งในและต่างประเทศชัดเจนและเชื่อถือได้
• มาตรการที่
2 ให้หน่วยงานรัฐออกใบรับรองความปลอดภัยของโรงแรมที่ผ่านการตรวจสอบโครงสร้างเรียบร้อยแล้ว
มีมาตรฐานบริการตามหลักสากล
• มาตรการที่
3 สื่อสารเชิงรุกถึงพื้นที่ท่องเที่ยวจังหวัดอื่น ๆ
ของไทย ยังคงปลอดภัยพร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวเดินทางได้ตามปกติ
กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา
จะรวบรวมข้อเสนอทั้งหมดนำไปเสนอให้ “นายกรัฐมนตรี” พิจารณาโดยเร็ว แล้วยังได้ขอความร่วมมือจากทุกภาคส่วนร่วมกันประชาสัมพันธ์แอปพลิเคชัน
“TPB :Thailand Tourist Police Application” ของกองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว
เครื่องมือสำคัญที่จะสร้างความมั่นใจและอำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยวไทยและต่างชาติ
โดยเฉพาะในช่วงสงกรานต์เทศกาลรายการใหญ่กลางเดือนเมษายนนี้
รมว.สรวงศ์
กล่าวว่ากระทรวงฯ และหน่วยงานเกี่ยวข้อง พร้อมจะร่วมกันดูแลและรับผิดชอบเรื่องความปลอดภัยนักท่องเที่ยวอย่างเต็มที่
โดยจะบูรณาการความร่วมมือกันทุกฝ่ายทั้งตำรวจภูธร นครบาล และตำรวจท่องเที่ยว
นำนวัตกรรมด้านความปลอดภัยเข้ามาใช้ เช่น กล้อง CCTV
เพื่อให้เกิดความมั่นใจในการเดินทางท่องเที่ยวเมืองไทย
ตอกย้ำถึงทุกภาคส่วนจะดูแลนักท่องเที่ยวทุกคนเป็นเป็นอย่างดี
แล้วก็ขอเชิญชวนสื่อมวลชน
พี่น้องประชาชนทุกคน ร่วมเป็นเจ้าบ้านที่ดี สร้างภาพลักษณ์อันอบอุ่นและปลอดภัยมอบให้นักท่องเที่ยว
นำพาประเทศผ่านพ้นวิกฤตครั้งนี้ผ่านพ้นไปด้วยดี
ทำให้อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเป็นเสน่ห์ดึงดูดนักเดินทางออกมาใช้จ่ายเงินสร้างเศรษฐกิจประเทศแข็งแกร่งตลอดปี
2568
ติดตามฟังรายการได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 11.00-12.00 น.ทาง สวท.FM 97.0 MHz.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น