TCEBเปิดมาตรการไมซ์ไทยรับมือผลกระทบภาษีทรัมป์68
อิงตลาดอินเดีย-ยุโรป-BRICS-ทั่วโลกมั่นใจไมซ์ไทยยืนหนึ่ง
ผนึกTHACCA-หอการค้าลุยโครงการอวดเมืองบูมเฟสติวัล
คิงเพาเวอร์เปิดแล้ว“อภิมหาสงกรานต์รางน้ำ”วันนี้-15เม.ย.
Beatมันส์Funสุดสงกรานต์คิง เพาเวอร์มหานคร 6 ไฮไลต์
ช้อปคิงเพาเวอร์Online Exclusiveถึง30เม.ย.รับฟรี2รายการ
ททท.ฟูกูโอกะรุกทำGrand Festivitiesสงกรานต์ไทย-ญี่ปุ่น
บางจาก!ตรึงราคาน้ำมันสงกรานต์12-17เม.ย.68แจก3โปร
TCEBคว้ารางวัล6
ปีซ้อนThailand’s Most Admired Company
ชมคาร์นิวัลมหาสงกรานต์วอเตอร์เฟสต์ท้องสนามหลวง
7 วัน 7 วิธีป้องกันอันตรายท่องเที่ยวสงกรานต์ปลอดภัย
นายกฯอิ๊งค์ประธานเร่งทุกกระทรวงหนุนท่องเที่ยว7เรื่อง
สวนน้ำรามายณะชูสงกรานต์12-15เม.ย.แจกลด7รายการ
วันเสาร์ที่
12 เมษายน 2568 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ
“เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน”
ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย facebookLiveFM97.0
อ่านใน www.facebook.com/penroongyaisamsen #gurutourza #รวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97 #เพ็ญรุ่งใยสามเสน
#เที่ยวกับกู๋ #KingPower
#TAT #บางจาก #TCEB #MahasongkranWorldWaterFestival
ฟัง Live สดจากลิงค์นี้... https://www.facebook.com/share/v/15fLTd2isb/
ช่วงที่
1 สัมภาษณ์ !! “จิรุตถ์ อิศรางกูร
ณ อยุธยา” ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) “TCEB” รวมพลัง “อุตสาหกรรมไมซ์”
พลิกวิกฤตเป็นโอกาสรับมือมาตรการทรัมป์ขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าทั่วโลก
ระยะแรกไมซ์อเมริกาลด 5-8 % ย้ำในเวทีโลกยังมีสัญญาณดี
“ตลาดอินเดีย-เอเชีย-ยุโรป-BRICS” ส่วน “ประชุมเบาหวานโลก”
ที่กรุงเทพฯ โชว์โมเดลนานาชาติเชื่อมั่นแห่ร่วมเกินเป้า 6,500 คน เม.ย.นี้ ผนึก THACCA หอการค้าไทยทำโครงการ
“อวดเมือง” ปลุกทุกจังหวัดคัดอัตลักษณ์ท้องถิ่นจัดเทศกาลนานาชาติทุกปี
นายจิรุตถ์
อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ
(องค์การมหาชน) “TCEB” เปิดเผยว่าทีเส็บเตรียมรับมือกับนโยบายประธานาธิบดีทรัมป์ประกาศขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากทั่วโลก
ซึ่งจะส่งผลต่อภาพรวมอุตสาหกรรมไมซ์ไทยด้วย ขณะนี้ประเมินวิเคราะห์สถานการณ์ปี 2568 จะมีส่วนแบ่งตลาดกลุ่มหลักคือผู้ซื้อในอาเซียน เอเชีย ยุโรป เป็นหลัก 85-90%
ตลาดอเมริกามีเพียง 10-15 % เท่านั้น
แต่มาตรการขึ้นภาษีของทรัมป์อาจจะกระทบกับไมซ์ประมาณ 5-7 % ตามที่สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยประมวลผลจะกระทบทันทีกับอุตสาหกรรมอาหาร
ชิ้นส่วนยานยนต์ สิ่งทอ ซึ่งจะทำให้คำสั่งซื้อลดลง แล้วการแสดงสินค้า (Exhibition) กลุ่มเครื่องจักรที่ใช้กับอุตสาหกรรมเหล่านี้จะลดตามไปด้วย
ขณะนี้กำลังจับตามอง “เวียดนาม”
ประกาศนโยบายลดภาษีนำเข้าสินค้าจากอเมริกาเหลือ 0 % ก็จะส่งผลให้กลุ่มผู้จัดการแสดงสินค้าอเมริกามุ่งเข้าสู่เวียดนามมากขึ้น
ซึ่งเป็นช่องทางที่มีโอกาสเติบโต
ทีเส็บได้ประชุมร่วมกับภาคเอกชน
สมาคมต่าง ๆ จะนำเสนอบทบาทของไทยด้านการแสดงสินค้าโดยใช้ศักยภาพของไทย 1.ใช้จุดเด่นด้านที่ตั้งทางภูมิศาสตร์
กับสิ่งอำนวยความสะดวกเป็นศูนย์กลางจัดไมซ์ ซึ่งจะนำไปต่อรองกับอเมริกาได้ 2.การเข้าร่วมประชุมระดับโลกในฮุสตัน
กับงานไมซ์นานาชาติที่กำลังจะเกิดขึ้นในไทยเร็ว ๆ นี้ 3.ทีเส็บพร้อมจะเป็นหนึ่งในการมีส่วนร่วมเจรจาทำให้ไมซ์เป็นจุดหมายปลายทางตลาดอเมริกาต่อไป
4.การขยายตลาดดึงงานประชุมและการเดินทางเพื่อเป็นรางวัล (MI
:Meeting Incentive) เข้ามาไทย
ก็จะเร่งเข้าไปหารือกับผู้ประกอบการในไมซ์บูโรต่าง ๆ
“โอกาส” ของไมซ์ไทยในตลาดโลก หลังไทยเป็นเจ้าภาพในฐานะประเทศหุ้นส่วนเพื่อสนับสนุนการขับเคลื่อนความร่วมมือของกลุ่ม BRICS ทำหน้าที่จัดการประชุมสมาชิก BRICS :บราซิล-รัสเซีย-อินเดีย-จีน” แอฟริกา เอธิโอเปีย อิหร่าน ถือเป็นช่องทางใหม่ที่เกิดขึ้นซึ่งจะต้องอาศัยเวลาทำการตลาดกับคู่ค้า
สัญญาณเด่น ๆ ของไมซ์ไทยคือ “อินเดีย”
มีกลุ่มจัดประชุมและอินเซ็นทีฟ (MI) เติบโตอย่างรวดเร็ว
กำลังมองโอกาสต่อเนื่องด้านการค้าการลงทุนหลังจากนายกรัฐมนตรีอินเดียพบนายกรัฐมนตรีไทย
เพราะผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ขยายตัวต่อเนื่องมาหลายปี
เฉลี่ยปีละ 7-8 % โดยเล็งเห็นเมืองไทยเป็นศูนย์กลางการจัดงานต่าง
ๆ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งงานไมซ์ของยุโรปจะมีกลุ่มธุรกิจจากอินเดียเข้ามาเป็นแขกในงานด้วย
เช่น งานประชุมเบาหวานโลก (World Diabetes
Congress) ของสมาพันธ์เบาหวานนานาชาติ (International
Diabetes Federation: IDF) กำหนดจัดประจำทุก
2 ปี หมุนเวียนไปประเทศเป็นสมาชิกทั่วโลก มีเครือข่ายโรคเบาหวาน
240 แห่งใน 161 ประเทศ เมื่อต้นเดือนเมษายน
2568 เวียนมาจัดในเมืองไทย มีต่างชาติเข้าร่วมกว่า
6,500 คน เป็นอินเดีย ยุโรป กว่า 70 % รวมทั้งมีอาจารย์ผู้เชี่ยวชาญนานาชาติเข้ามาร่วมด้วย
สำหรับ “BRICS” เองก็อาจจะได้รับผลกระทบจากมาตรการขึ้นภาษีนำเข้าจากอเมริกาด้วย แต่ทุกฝ่ายก็พยายามใช้วิธีเจรจาเพื่อให้ได้ข้อยุติที่ดีเป็นประโยชน์มากที่สุด
ไทยเองก็มีความหวังที่จะใช้ศักยภาพของ “อุตสาหกรรมไมซ์” ขยายตลาดการเติบโตในกลุ่มสมาชิก BRICS ต่อไป เพราะยังมีโอกาสอีกหลายมิติด้วยกัน มีสัญญาณตอบรับที่ดีเนื่องจาก IDF จัดหลังเกิดเหตุแผ่นดินไหวในกรุงเทพฯ ซึ่งมีกลุ่มแพทย์ ตัวแทนคนป่วยโรคเบาหวาน และอื่น ๆ มารวมตัวกัน เกิดความมั่นใจ โดยได้เห็นปรากฏการณ์ที่ดีจากงานนี้ 4 สัญญาณ ได้แก่
1.จำนวนผู้เข้าร่วมงานประชุมโรคเบาหวานโลกครั้งนี้มีมากขึ้นรวมแล้วกว่า 8,000 คน แบ่งเป็น ต่างประเทศทั่วโลกจาก 6,000 เป็น 6,500 คน และคนไทยอีกประมาณ 2,000 คน ส่วนใหญ่ไม่ได้ตื่นตระหนกหรือยกเลิกการเดินทาง
2.ได้สร้างโมเดลการสื่อสารอย่างชัดเจนของหน่วยงานในไทย
ทั้งทีเส็บ กรุงเทพมหานคร ศูนย์ประชุมนานาชาติ
กับทุกหน่วยงานเกี่ยวข้องในไทยร่วมมือกันส่งข้อมูลมายังทีเส็บเพื่อสื่อสารตรงเข้าถึงผู้ร่วมงานทุกระดับ
สร้างความเข้าใจอย่างถูกต้อง รับรู้เหตุการณ์ตามความเป็นจริง
โดยเฉพาะการตรวจสอบอาคารทันที
และโรงแรมผู้ให้บริการที่พักผู้เข้าร่วมงานมั่นใจกับเหตุการณ์ครั้งนี้
3.โอกาสทางการตลาดของไมซ์ไทย มีทั้งสถานที่จัดงานนานาชาติพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกดึงดูดใจ ผนวกเข้ากับทักษะของหน่วยงานต่าง ๆ ได้รวมพลังกันสร้างความเชื่อมั่นกับผู้จัด ผู้เข้าร่วมงาน จึงสามารถเอาชนะความกลัวและความท้าทายใหม่ ๆ ได้
4.กระทรวงสาธารณสุขในฐานะหน่วยงานดูแลการจัดประชุมเบาหวานโลก ยังได้ทำให้เกิดองค์ความรู้ใหม่ ๆ ตามที่นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่ากระทรวงสาธารณสุขกล่าวถึงประโยชน์ที่จะได้รับคือช่วยป้องกันความสูญเสียทางเศรษฐกิจได้ปีละเป็นหมื่นล้านบาท จากการทำให้ประชาชน หน่วยงานการแพทย์ รู้วิธีรับมือกับโรคอย่างถูกต้อง โดยลดค่าใช้จ่ายของประเทศและลดจำนวนผู้ป่วยลงได้
ผอ.จิรุตถ์กล่าวว่า ทีเส็บเตรียมเดินหน้าสนับสนุนและทำงานอย่างใกล้ชิดโครงการ The Pitching โครงการเทศกาลอวดเมือง 2568 ของคณะกรรมการซอฟท์ พาวเวอร์แห่งชาติ (THACCA : Thailand Creative Culture Agency) ที่มีนายแพทย์สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี เป็นประธานกรรมการพัฒนาซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติมีทีเส็บเป็นกรรมการด้วย ในจำนวนนี้ 14-15 อุตสาหกรรม ทีเส็บรับผิดชอบ “เฟสติวัล ซอฟท์ พาวเวอร์” ดึงงานเทศกาลนานาชาติมาจัดในเมืองไทย ทำงานร่วมกับเสาหลักคือ “นายสนั่น อังอุบลกุล” ประธานคณะกรรมการหอการค้าไทย และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย
โดยได้นำโมเดลของประธานผู้ประกอบการรุ่นใหม่หอการค้า หรือ YEC : Young Entrepreneurs Chamber of Commerce ทั่วประเทศ 77 คน จาก 77 จังหวัด มาต่อยอดการทำPitching เสนอแนวคิดจัดงานเทศกาลระดับประเทศและนานาชาติ ที่ประสบความสำเร็จอย่างมากคือ “เทศกาลปลาร้า หมอลำ” จังหวัดขอนแก่น ผลงานการสร้างสรรค์จากฝีมือของ “กวิน ว่องกุศลกิจ” นักธุรกิจรุ่นใหม่ หรือ YEC กรุงเทพฯ เป็นเจ้าของโรงแรมแอดลิบ (Ad Lib) ขอนแก่น ถือเป็นต้นแบบนำอัตลักษณ์ของเมืองมาขยายเป็นธุรกิจ ซอฟท์ พาวเวอร์ รูปแบบหนึ่งได้
ทีเส็บ กับหอการค้าไทย จึงร่วมกันเดินหน้าโครงการอวดเมือง ขณะนี้ได้รับจัดงบประมาณต่อเนื่องปี 2568 และ ปี 2569 มาเพื่อขับเคลื่อนซอฟท์ พาวเวอร์ จัดงานเทศกาลนานาชาติ โดยมี “เทศกาลอวดเมือง” รวมอยู่ด้วย ได้ทยอยเปิดรับสมัคร The Pitching ผู้นำเสนอความคิดจัดเทศกาลอวดเมืองด้วยวิธีพิจารณาถึงความเป็นไปได้อัตลักษณ์พื้นที่ ความคุ้มค่าในเชิงเศรษฐกิจสร้างสรรค์ สร้างมูลค่าในเชิงโซเชียล เศรษฐกิจ ท้องถิ่น และสังคม แต่ละงานสามารถดึงดูดคนเข้าไปร่วมงาน ใช้จ่ายเงินกระจายถึงมือชุมชนให้ได้มากที่สุด
โครงการอวดเมืองริเริ่มทำต่อเนื่องมาแล้วตั้งแต่ปี 2567-2568 แล้วจะขยายผลทำต่อปี 2569 ทีเส็บร่วมกับคณะซอฟท์ พาวเวอร์แห่งชาติไปดูงานที่จังหวัดนครศรีธรรมราช แนวทางการจัดงานจะไม่ใช่อีเวนต์แบบรายครั้ง แต่จะต้องทำให้ติดตลาดจัดต่อเนื่องทุกปี
ฟังข่าวต้นชั่วโมง
ข่าวที่ 1-คิงเพาเวอร์เปิดแล้ว“อภิมหาสงกรานต์รางน้ำ”วันนี้-15เม.ย.
นายอัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร พร้อมด้วยคุณเอมอร ศรีวัฒนประภา ประธานกรรมการ กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ต้อนรับนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้เกียรติเป็นประธานเปิดงาน “อภิมหาสงกรานต์รางน้ำ มโหฬาร มหาสนุก” ที่ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ เริ่มต้นขึ้นแล้วตั้งแต่วันที่ 10 เมษายน 2568 และเดินหน้าจัดต่อเนื่องไปจนถึงวันที่ 15 เมษายน 2568 ร่วมกับพันธมิตรหลัก ได้แก่ กระทรวงมหาดไทย กรุงเทพมหานคร (กทม.) การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) และชุมชนย่านรางน้ำ เพื่อมอบประสบความการณ์ความสนุกสุดขีดให้นักท่องเที่ยวทุกคน และรวมพลังสร้างย่านรางน้ำให้เป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวแห่งการเฉลิมฉลองได้ทุกเทศกาลหรือ GLOBAL FESTIVALISATION สร้างเศรษฐกิจประเทศเติบโต ผลักดันการท่องเที่ยวไทยเป็นอีกหนึ่งประสบการณ์ไร้ขีดจำกัดหรือ Global Experience
“อภิมหาสงกรานต์รางน้ำ มโหฬาร มหาสนุก” ที่ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ ทำพิธีเปิดอย่างยิ่งใหญ่โดยนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย อรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) วันทนีย์ วัฒนะ ปลัดกรุงเทพมหานคร
โดยได้สร้างแม่เหล็กดึงดูดนักท่องเที่ยวคนไทยและต่างชาติด้วย
“ขบวนพาเหรด” ทัพศิลปินและนักแสดงสุดฮอตแห่งปี ทั้ง เจฟ-วรกมล ซาเตอร์, หลิงหลิง-ศิริลักษณ์ คอง, ออม-กรณ์นภัส
เศรษฐรัตนพงศ์ และ เอม-สรรเพชญ์ คุณากร สร้างความประทับใจตั้งแต่วันแรกเพื่อส่งต่อการท่องเที่ยววันต่อ
ๆ ไป
“คิง เพาเวอร์ รางน้ำ” ได้ดีไซน์บริการความสนุกไร้ขีดจำกัด ให้โลกจำ ครบจบที่เดียวตั้งแต่วันนี้ -15 เมษายน 2568 ด้วยการเพิ่มความฟินยก BEACH ! ชายหาดดังของเมืองไทยมาไว้ที่รางน้ำถึง 4 สไตล์ คือ เกาะภูเก็ต เกาะพะงัน พัทยา เกาะเสม็ด เอาใจนักท่องเที่ยวทุกวัย ไฮไลต์หลักต้องห้ามพลาด “กิจกรรมมหาสนุก” ชวนมาใกล้ชิดศิลปินแถวหน้าของเมืองไทยกว่า 100 ชีวิต และ “เสิร์ฟความอร่อย” ไม่ยั้งด้วยเมนูอาหารร้านเด็ดเจ้าดัง เติมเต็ม 5ประสบการณ์สุดขีดให้โลกจำ “สาด-เต้น-เล่น-กิน-ช้อป” ได้ดังนี้
• “สาด สุดขีดให้โลกจำ” พร้อมตอกย้ำย่านรางน้ำเป็นแลนด์มาร์กแห่งใหม่ในการเล่นน้ำสงกรานต์ สนุกสุดเหวี่ยงด้วยธีม “RANGNAM BEACH PARTY BY SUPERFLUID” ระหว่างวันที่ 13-15 เมษายน 2568 พบกับเหล่าศิลปิน T-POP จาก SUPERFLUID อย่าง LYKN, TRINITY, PERSES, 4EVE, ต้าห์อู๋–พิทยา, ออฟโรด-กันตภณ, PRETZELLE และศิลปินแนว EDM ระดับโลกนำโดย RETRO VISION, CYNDI และ BROOKS
• เต้น สุดขีดให้โลกจำ เหล่าศิลปินและแฟนคลับที่ชื่นชอบการเต้นมาร่วมโลกให้จำต่อเนื่องระหว่างวันที่ 11-13 เมษายน 2568
วันที่ 11 เมษายน : นำทัพศิลปินแถวหน้าของเมืองไทยจัดเต็มมาให้ได้ชมคือ SLOT MACHINE และอิ้งค์-วรันธร เปานิล
วันที่ 12 เมษายน : โชว์การแสดงสุดอลังการของ นนท์-ธนนท์ จำเริญ
วันที่ 13 เมษายน : ต้องได้เจอ อาโป-ณัฐวิญญ์ วัฒนกิติพัฒน์ วิน-เมธวิน โอภาสเอี่ยมขจร ต้าห์อู๋–พิทยา และออฟโรด-กันตภณ
• “เล่น สุดขีดให้โลกจำ” นักท่องเที่ยวจะได้เพิ่มประสบการณ์เกมส์มหาสนุก ดังนี้
1.พิชิตเกาะแก้ว ช้อปครบ 1,500 บาท/ใบเสร็จ รับสิทธิ์ร่วมสนุกพร้อมรับของรางวัล
2.เซิร์ฟความสุข ช้อปครบ 1,000 บาท/ใบเสร็จ
รับสิทธิ์เล่นเซิร์ฟฟรี
3.นวดไทย ช้อปครบ 1,000 บาท/ใบเสร็จ รับสิทธิ์นวดแผนไทยในบรรยากาศเพลิดเพลินริมชายหาด
• “กิน สุดขีดให้โลกจำ” อร่อยฉ่ำกับร้านดังกับเมนูเด็ดริมทะเล นำโดย คุณเปิ้ล หมูกระทะ "แอน" ก๋วยเตี๋ยวคั่วไก่ 88 อีสานกายะ อะโล ฮะ, เฮง กับป้าใจดี หมึกบดโบราณ, ไอ-ติม-ไทย หัวหาด บาร์ THE CHAFFEINE, อุ้ม&นภา ข้าวเหนียวมะม่วง, มาเฟีย หมี่คลุก, จีบโรจน์โคตร หร่อย, ไทย ไทย ก๋วยเตี๋ยวเรือ, DURI BURI, เบื้องเจริญ และ CRAZY ทะเลดอง
• ช้อป สุดขีดให้โลกจำ จะมีไฟลต์หรือไม่มีไฟลต์ก็ช้อปได้ที่
คิง เพาเวอร์ ตลอดอภิมหาสงกรานต์นี้
1.ช้อป 15,000 บาทขึ้นไป/ใบเสร็จ รับส่วนลดทันที 25%
2.เมื่อช้อป 8,000 บาทขึ้นไป/ใบเสร็จ รับส่วนลดทันที 20%
3.สิทธิพิเศษ !! เฉพาะสมาชิก คิง เพาเวอร์ เริ่มตั้งแต่วันนี้ -15 เมษายน 2568 ที่ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ ศรีวารี และภูเก็ต ช้อปครบ 50,000 บาทขึ้นไป (สุทธิ) รับตั๋วเครื่องบินไป-กลับ กรุงเทพฯ-ฮ่องกง 1 ที่นั่ง ช้อปก่อนมีสิทธิ์ก่อนได้วันละ 1 สิทธิ์/คน
คิง เพาเวอร์ โชว์พลังจัด “อภิมหาสงกรานต์รางน้ำ มโหฬาร มหาสนุก” ทำให้ทุกอย่าง “เป็น ไป ได้ ไม่สิ้นสุด” กับความสนุกสุดขีดให้โลกจำ แล้ว“ช้อป”รับสิทธิพิเศษwww.kingpower.com และแอปพลิเคชั่น KING POWER
ข่าวที่ 2 -Beatมันส์Funสุดสงกรานต์คิง
เพาเวอร์มหานคร6ไฮไลต์
คิง
เพาเวอร์ มหานคร หนึ่งในแลนด์มาร์คกรุงเทพมหานคร
ชวนมาฉลองสงกรานต์ 2568 กับงาน “Songkran Mahanakhon Ibiza Splash” วันเสาร์ที่ 12-อังคารที่ 15 เมษายน 2568 เวลา
11.00-22.00 น. บริเวณลานมหานคร สแควร์
ให้เข้างานฟรีงานประเพณีสุดชุ่มฉ่ำเพื่อเพิ่มประสบการณ์ฉ่ำ ๆ กับ “Beat มันส์
Fun สุด” ผสมผสานความสนุกแบบ Ibiza beach party
อัดแน่นด้วยเสียงเพลง น้ำ ความบันเทิงแบบไม่มีหยุด ได้ทั้ง “เต้น-สนุก-สไลด์-อร่อย” ได้ทั้ง 4
วัน
นักท่องเที่ยวมาแล้วสนุกได้ที่ “คิง เพาเวอร์
มหานคร” จัดเต็มความพิเศษ 6 ไฮไลต์ ดังนี้
•
ไฮไลต์ที่ 1 สไลเดอร์ยักษ์สูง 8 เมตร กับสุดยอดความมันส์ที่ต้องลอง สไลด์ลงมาจากความสูง 8 เมตร ให้คุณได้สัมผัสความตื่นเต้นและความสดชื่นไปด้วยกัน
•
ไฮไลต์ที่ 2 โชว์สุดมันส์จากศิลปินชั้นนำ สนุกกับการแสดงสดจาก ศิลปินสุดฮอตจะมาสร้างบรรยากาศความมันส์ให้คุณได้แดนซ์กันสุดพลัง
วันเสาร์ที่ 12 เมษายน – มัจฉา คิน และ อาลาล่า” ศิลปินป๊อปไอดอลจากค่าย
WhiteFox ภายใต้สังกัด GMM MUSIC
วันอาทิตย์ที่ 13 เมษายน-
แพรจ๋า ญาณวรรธน์ เจริญอธิพัฒน์ หรือเป็นที่รู้จักในนาม “แพรจ๋า TheVoice”
วันจันทร์ที่ 14 เมษายน- ไทแทน ทีปประสาน
ศิลปินชายเดี่ยวหนึ่งเดียวจากค่ายเพลง “โฟร์ วัน วัน มิวสิก” และ เพียว เอกพันธ์
วรรณสุทธิ์ แชมป์ The Voice All Star คนแรกของประเทศไทย
วันอังคารที่ 15 เมษายน-
"โจอี้บอย" เจ้าพ่อฮิปฮอปโค้ชเดอะวอยซ์
• ไฮไลต์ที่
3 RAIN TOWER – ฝนโปรยกลางแดนซ์ฟลอร์
สนุกกับ RAIN TOWER ยักษ์ ที่จะให้ได้เปียกแบบจัดเต็ม
ราวกับเต้นอยู่กลางพายุสงกรานต์สุดมันส์
• ไฮไลต์ที่
4 DJ สุดฮอต สไตล์ IBIZA PARTY
พบกับ ดีเจชั้นนำ ที่จะพาทุกคนไปสนุกกับเสียงเพลงสุดเร้าใจพร้อมแดนซ์กระจายไปกับบรรยากาศสุดมันส์
วันเสาร์ที่ 12 เมษายน-
ดีเจ DZIN และดีเจ SEVEK
วันอาทิตย์ที่ 13 เมษายน-
ดีเจ KEIGO และดีเจ KARTY PARTYY
วันจันทร์ที่ 14 เมษายน-
ดีเจ DEBBIE และดีเจ MIKE CERVELLO
วันอังคารที่ 15 เมษายน-
ดีเจ SMOKE และดีเจ CAMERON GLASGOW
• ไฮไลต์ที่
5 Viva Ibiza Dance - โชว์พิเศษสุดอลังการ
ชมการแสดงตื่นตาตื่นใจ แสง สี เสียง การแสดงสุดพิเศษทำให้บรรยากาศงานเทศกาลสนุกกว่าที่เคย
• ไฮไลต์ที่ 6 FOOD TRUCK FEST – อิ่ม อร่อย ไม่มีเบรก
ชวนกันมาลิ้มรสเมนูเด็ด “ฟู้ดทรัคร้านดัง” อิ่มอร่อยกับ อาหารสตรีทฟู้ด ขนมหวาน
และเครื่องดื่มสุดสดชื่น ที่คัดสรรมาให้โดยเฉพาะ เช่น Bendito, อาอู๋ ก๋วยเตี๋ยวหลอด,
อาฟง หมาล่า, Hawa Kebab และ A Ramen
ข่าวที่ 3-ช้อปคิงเพาเวอร์Online Exclusiveถึง30เม.ย.รับฟรี2รายการ
“คิง
เพาเวอร์”เปิด “Online Exclusive” ช้อปปิ้งสุดคุ้มค่า รับของแถม Special
Gift ฟรี! เฉพาะลูกค้าคนโปรดของเราเท่านั้น รีบมาช้อปเลย! ทาง คิง
เพาเวอร์ ออนไลน์! ได้จนถึง 30 เมษายน 2568 รับทันทีฟรีแบบง่าย ๆ
1.ฟรี! Mahanakhon Skywalk & Skyverse มูลค่า 1,200 บาท ทั้งหมด 300 สิทธิ์ เมื่อช้อปครบ 12,000
บาท เริ่มช้อปวันนี้- 30 เม.ย. 68 สามารถสะสมยอดช้อปออนไลน์สูงสุดตลอดทั้งเดือน
2.ฟรี! คูปองส่วนลดอาหาร
รางวัลที่
1 - 5 คูปองส่วนลดอาหารมูลค่า 2,000 รับฟรี 1 รางวัล/ 2 ท่าน
สำหรับใช้ที่ ห้องอาหาร OJO Restaurant
รางวัลที่
6 - 25 คูปองส่วนลดอาหารมูลค่า 1,000 รับฟรี 1 รางวัล/ 1 ท่าน
สำหรับใช้ที่ ห้องอาหาร The Standard Grill ที่ The
Standard, Bangkok Mahanakhon
ข่าวที่
4-ททท.ฟูกูโอกะรุกทำGrand Festivitiesสงกรานต์ไทย-ญี่ปุ่น
นางสาวฐาปนีย์
เกียรติไพบูลย์
ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ททท. สำนักงานฟูกูโอกะ
(สฟก.) ประเทศญี่ปุ่น ได้เข้าร่วมจัดงาน “สงกรานต์สาดน้ำอุ่นออนเซ็น” ปีที่ 3
ร่วมกับเทศกาล Beppu Hatto
Onpaku (Hot Springs Expo) เมืองเบ็ปปุ
จังหวัดโออิตะ จัดมาแล้ว 111
ปีเมื่อวันที่ 5-6 เมษายน 2568
พร้อมกับออกบูธประชาสัมพันธ์เมืองไทย
เพื่อเชื่อมโยงประเพณีสำคัญของ 2 ประเทศ
ทำประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวผ่านศิลปวัฒนธรรม ตลอด 2 วันมีผู้เข้าร่วมกว่า 40,000 คน
ปี 2569
ททท.วางแผนอาจจะเดินหน้าจัดงาน Thai
Week ก่อนการจัดงาน
“สงกรานต์สาดน้ำอุ่นออนเซ็น” และเทศกาล Beppu Hatto Onpaku (Hot Springs
Expo) เพื่อสร้างการรับรู้ประเทศไทย
กระตุ้นการเดินทาง และผลักดันการท่องเที่ยวไทย-ญี่ปุ่น ให้ยั่งยืน
เนื่องจาก
“เบ็ปปุ”
เป็นเมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงแห่งน้ำแร่ออนเซ็น มีชาวต่างชาติเดินทางไปเยือนเป็นจำนวนมาก
ทางททท.ฟูกูโอกะ วางแผนส่งเสริมการตลาดพื้นที่เมืองรองเพื่อส่งมอบประสบการณ์การท่องเที่ยวเชิญชวนมาไทยกับแคมเปญ
"Amazing Thailand Grand Tourism and Sports Year 2025" ด้วยการนำเสนอ Must Try และ Must See ท่องเที่ยว “สงกรานต์ไทย”
ประเพณีสำคัญทางสายน้ำของไทยสอดคล้องกับการเล่นสาดน้ำอุ่นออนเซ็นของเบ็ปปุด้วยเช่นกัน
ปี 2568
มีประธานพิธีให้เกียรติเปิดงาน นำโดย
Mr. Yasuhiro Nagano นายกเทศมนตรีเมืองเบปปุ,
Mr. Kazuo Gondo ประธานการจัดงาน
Beppu Hatto Festival นายโกศล
สถิตธรรมจิตร กงสุลใหญ่ ณ เมืองฟูกูโอกะ
ภายในงานเทศกาล
Beppu Hatto Onpaku (Hot Springs Expo) ทาง
ททท.ฟูกูโอกะ ได้จัดให้มี 4 กิจกรรม
ได้แก่
• กิจกรรมที่
1 “สรงน้ำพระพุทธรูป”
และการออกบูธประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวไทย เชิญชวนให้ผู้เข้าร่วมงานเดินทางมาสัมผัสประสบการณ์จริงทั่วไทยช่วงสงกรานต์หรือ
“Grand Festivity” ในเมืองไทย ร่วมมหกรรมเฉลิมฉลองความเย็นฉ่ำภายใต้แนวคิด
“Experience Festive Vibes in Thailand”
• กิจกรรมที่
2 การแสดงรำไทย
การเต้นร่วมสมัยของคณะนักศึกษาไทยจากมหาวิทยาลัย APU เมืองเบ็ปปุ การจำหน่ายอาหารและสินค้าไทย
การเข้าร่วมเดินขบวนพาเหรดของไทย
• กิจกรรมที่
3 การเล่นสาดน้ำอุ่นออนเซ็น
สร้างความสนุกสนานและความคึกคักอย่างมาก
• กิจกรรมที่
4 เล่นเกมส์ลุ้นชิงรางวัลพิเศษที่พักและผลิตภัณฑ์จากเมืองไทย
ข่าวที่ 5-บางจาก!ตรึงราคาน้ำมันสงกรานต์12-17เม.ย.68แจก 3 โปร
นายเสรี
อนุพันธนันท์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มธุรกิจการตลาด บริษัท บางจาก
คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บางจากฯ จะตรึงราคาน้ำมันช่วงเทศกาลสงกรานต์
2568 โดยจะไม่ปรับราคาขึ้นระหว่างวันที่ 12 - 17 เมษายน 2568 กรณีหากน้ำมันในตลาดโลกปรับลดลงบางจากก็จะลดราคาด้วย
ขณะนี้ได้จัดเตรียมความพร้อมสถานีบริการทั่วประเทศไว้แล้วกว่า 2,200 แห่ง พร้อมจะร่วมดูแลทุกความต้องการและต้อนรับประชาชนเดินทางช่วงวันหยุดเทศกาล
ด้วยการเติมเต็มความสุขให้คนทุกกลุ่มทุกช่วงวัยมีประสบการณ์ที่ดีกับบางจากตามแนวคิด
“Greenovative Destination”
ตลอดการเดินทางกรานต์ปี
2568 บางจากจัดเตรียมสถานีน้ำมันไว้บริการประชาชนทยอยเดินทางกลับภูมิลำเนาเยี่ยมญาติ
และท่องเที่ยวพักผ่อน โดยมีให้เลือกใช้ครบวงจรทั้ง 5 บริการ
ได้แก่ 1.ผลิตภัณฑ์น้ำมันคุณภาพสูง 2.เครื่องดื่มในร้านกาแฟอินทนิล
3.EV Charger (Quick Charge) จุดชาร์ตแบตเตอรี่รถยนต์ระบบไฟฟ้า 4.ธุรกิจเสริม ร้านค้า ร้านอาหาร 5.บริการห้องน้ำสะอาด ได้แวะพัก ระหว่างทางเพื่อความปลอดภัย
นักเดินทางทุกคนสามารถแวะสถานีน้ำมันบางจากที่ได้นำแนวคิด
“Greenovative Destination” มาให้บริการด้วย “3 โปรโมชั่น” ประกอบด้วย
• โปรโมชั่นแรก
“สุดคุ้ม” ได้ทันทีเมื่อแวะสถานีน้ำมันบางจากรับสิทธิพิเศษ 2 รายการ ได้แก่
รายการที่
1 “เติมน้ำมันบางจากคุณภาพสูง” ทุกผลิตภัณฑ์ ระหว่างวันนี้ -30 เมษายน 2568
สิทธิ์สำหรับ“สมาชิกบางจากกรีนไมลส์” เติมน้ำมันทุกชนิด ทุก 900
บาท รับฟรี! น้ำดื่ม 1.5 ลิตร 2 ขวด มูลค่า 30 บาท เท่ากับได้รับส่วนลดเฉลี่ยลิตรละ 1
บาท หากไม่ได้เป็นสมาชิกรับฟรี 1 ขวด
รายการที่
2 สมาชิกบางจากกรีนไมลส์ เมื่อเติมน้ำมันดีเซลทุกชนิด
ทุก 1,200 บาท รับเพิ่มผ้าเย็น 1 ซอง
บรรจุ 10 แผ่น มูลค่า 39 บาท ตั้งแต่วันนี้
10 – 30 เมษายน 2568
ดูรายละเอียดสถานีบริการน้ำมันที่ร่วมรายการได้ที่ www.bcpgreenmiles.com
• โปรโมชั่นที่
2 “เติมสุขสงกรานต์แลกรับกรมธรรม์” สมาชิกบางจากกรีนไมลส์รับสิทธิพิเศษต้อนรับสงกรานต์ปีใหม่ไทย
เติมเต็มความสุขและความอุ่นใจตลอดการเดินทางให้สมาชิกใช้เพียง 9 คะแนน แลกรับกรมธรรม์ประกันภัย สุขใจสงกรานต์ (ไมโครอินชัวรันส์) คุ้มครองสูงสุด 100,000 บาท
หรือแลกรับกรมธรรม์ประกันภัยสงกรานต์สุขใจบ้านปลอดภัย คุ้มครองสูงสุด 30,000
บาท
เปิดให้สมาชิกกรีนไมล์รับสิทธิ์ผ่านแอปพลิเคชั่นได้ตั้งแต่วันนี้– 16
พฤษภาคม 2568 ดูข้อมูลได้ทางเว็บไซต์ www.bcpgreenmiles.com
• โปรโมชั่นที่
3 เติมความสดชื่นที่ร้านอินทนิล วันนี้ -30 เมษายน 2568 ซื้อเครื่องดื่ม 2 แก้ว ราคาพิเศษ 99 บาท จากปกติ 100 –
130 บาท เปิดให้เลือกได้ถึง 9 เมนู
ที่อินทนิลทุกสาขา ตลอดโครงการไม่จำกัดจำนวนสิทธิ์ต่อใบเสร็จ
ข่าวที่
6- TCEBคว้ารางวัล6ปีซ้อนThailand’s
Most Admired Company
นายจิรุตถ์
อิศรางกูร ณ อยุธยา
ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) “TCEB” เปิดเผยว่า ทีเส็บคว้ารางวัล Thailand’s Most Admired Company ประจำปี 2024-2025 (รางวัลองค์การมหาชนอันดับ 1) ของนิตยสาร BrandAge
ต่อเนื่องเป็นปีที่ 6 ซึ่งเน้นความโดดเด่น 5 ด้าน ได้แก่ 1.ความสามารถในการสร้างสรรค์นวัตกรรม 2.ความสามารถในการดำเนินธุรกิจ
3.ภาพลักษณ์แบรนด์ของกิจการ 4.การบริหารงานการจัดการ
5.การให้บริการที่ดี
ทีเส็บได้ตอกย้ำความสำเร็จในฐานะผู้นำสะท้อนถึงวิสัยทัศน์ในการผลักดันอุตสาหกรรมไมซ์ไทยสู่ระดับสากล
หลังจากปี 2567 ได้ทำศึกษาวิจัย “MICE
Foresight” นำข้อมูลมากำหนดทิศทางและกลยุทธ์ตอบสนองความต้องการตลาดที่เปลี่ยนแปลงไป
สร้างมูลค่าเพิ่มและคุณค่าให้อุตสาหกรรมไมซ์ไทยแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น
ผอ.จิรุตถ์
กล่าวว่า
ทีเส็บมุ่งมั่นจะผลักดันไทยเป็นประเทศจุดหมายปลายทางการจัดประชุมที่มีคุณค่าสูง (High Value-Added Destination) ด้วยวิธีผสมผสานอัตลักษณ์ไทยเข้ากับนวัตกรรมและความร่วมมือกับทุกภาคส่วน
แนวทางนี้จะสร้างความแตกต่างอย่างโดดเด่นและคุณค่าให้แก่กิจกรรมไมซ์
รวมถึงตั้งความหวังอีก 10 ปีข้างหน้า
ภาพลักษณ์ไมซ์ไทยจะชัดเจนตามเป้าหมายดังกล่าว เพิ่มบทบาทไมซ์ไทยในภูมิภาคเอเชีย
หรือSpringboard of Asia’s Growth ทำให้ธุรกิจก้าวหน้า
มั่นคง ยั่งยืน
ทีเส็บได้รับรางวัล
Thailand’s Most Admired Company ในกลุ่มองค์การมหาชนติดต่อกัน
6 ปี เริ่มตั้งแต่ปี 2562-2568 คือความสำเร็จในการดำเนินงานตามพันธกิจและการดึงงานเข้ามาจัดในประเทศ
บรรลุตามเป้าหมายทั้งการสร้างงาน สร้างรายได้ สร้างเศรษฐกิจ
รางวัล
Thailand’s Most Admired Company ทางแบรนด์เอจ -BrandAge
ใช้วิธีสำรวจวิจัยต่อเนื่องเป็นปีที่ 17
เพื่อศึกษาและสร้างฐานข้อมูลด้านต่าง ๆ ขององค์กรในแต่ละอุตสาหกรรม ปรำกอบด้วย 1.การรับรู้เกี่ยวกับองค์กร (Corporate Perception) 2.ความมีชื่อเสียงขององค์กร
(Corporate Reputation) 3.ความสามารถขององค์กร (Corporate
Performance) 4.อิทธิพลขององค์กร (Corporate Influence) 5.ตลอดจนภาพลักษณ์องค์กร (Corporate Image) ที่สร้างความเชื่อมั่นและศรัทธาให้กับผู้บริโภค
โดยได้
“แบ่งกลุ่มบริษัท” ที่ทำการวิจัยออกเป็น 24 กลุ่มธุรกิจ
เดินหน้าศึกษาและวิจัยทัศนคติเจาะลึกไปยังกลุ่มเป้าหมายต่อปัจจัยการขับเคลื่อนธุรกิจสู่ความสำเร็จและสร้างภาพลักษณ์ที่ดีจนเป็นที่ยอมรับอย่างกว้างขวาง
อย่างภาพลักษณ์ที่ดีกับแต่ละองค์กร
ช่วงที่ 2 เที่ยวสงกรานต์สบาย ๆ ไปเช็คอินที่ท้องสนามหลวง “Maha Songkran
World Water Festival 2025” ชมคาร์นิวัลซอฟท์ พาวเวอร์ 12-15
เม.ย.นี้ ตระการ 8 ขบวน 5 ภาค แล้วฟัง “7 วัน7 วิธี”
ป้องกันอันตรายเที่ยวสงกรานต์ ฟังข่าวฮ็อต ๆ ข่าวแรก “นายกฯอิ๊งค์
กระตุ้นทุกกระทรวงหนุนท่องเที่ยว” 7 เรื่อง ข่าวที่สอง
“สวนน้ำรามายณะ” พัทยาจัดแจกสงกรานต์ 7 รายการ
ท่องเที่ยว
–ชมคาร์นิวัลมหาสงกรานต์วอเตอร์เฟสต์ท้องสนามหลวง
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
(ททท.) ชวนเที่ยว “Maha Songkran World Water Festival 2025” ไฮไลต์วันเสาร์ที่ 12-15 เมษายน
2568 บริเวณถนนท้องสนามหลวง
จัดเสร็จจะตั้งโชว์ให้นักท่องเที่ยวได้ชมตลอดเทศกาลไปเช็คอินสาดความเย็นฉ่ำกันได้
วันที่ 12 เมษายน 2568 ขบวนพาเหรด
เวลา 17.00 น. โดยเริ่มต้นจากอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เข้าสู่ถนนราชดำเนินในไปยังท้องสนามหลวง
เพลิดเพลินกับพาเหรดวัฒนธรรมยิ่งใหญ่ตระการตา
“วันที่
13 เมษายน 2568” ขบวนพาเหรด เริ่ม 17.30 น. โดยแห่รอบท้องสนามหลวง 8 ขบวน แนวคิด 8 T H A I N E S S I C O N I C มีนักแสดงกว่าร่วมขบวน
500 ชีวิต
• ขบวนที่ 1 สายน้ำบันดาลสุข
: “พญานาค” เทพแห่งสายน้ำ
บันดาลน้ำจากฟากฟ้า นำพาความอุดมสมบูรณ์สู่ผืนดิน ตัวแทนของความอุดมสมบูรณ์
เสริมวาสนา อำนวยพรความรุ่งเรืองแก่ทุกคน
“ขบวนรถเทรนเลอร์ 2 ตอน” ความยาว
15.8 เมตร บนรถตกแต่งด้วยพญานาค ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 0.7 เมตร ยกตัวสูง 5.20
เมตร ขยับหันซ้ายขวา 45 องศา พ่นน้ำได้
ตกแต่งด้านข้างรถเป็นคลื่นน้ำและฝูงปลาน้อยใหญ่ขยับไปมาบนเกลียวคลื่น
รวงข้าวสีทองและเครื่องจักสาน ด้วยองค์ประกอบขบวนเป็น หุ่นเชิดพญานาค
ขบวนกลองยาวนักแสดงเต้นกำรำเคียว นักแสดงแต่งชุดแฟนซีรวงข้าว แฟนซีเครื่องจักรสาน
รวมมีนักแสดงประกอบขบวน 65 คน
• ขบวนที่ 2 สีสันแห่งฤดูกาล
:
เฉลิมฉลองความภาคภูมิใจของแผ่นดินไทย ผ่านผลไม้ที่มีภาพลักษณ์สง่างามอย่างทุเรียน
สิ่งที่เป็นสัญลักษณ์ยืนยันได้ถึงความสง่างาม ก็คือ “มงกุฎ” หลายคนเปรียบหนามเหล่านั้นของทุเรียน
เหมือนกับยอดของมงกุฎพระราชาที่มียอดแหลมรวมไปถึงผลไม้ไทยหลากหลายฤดูกาลสะท้อน
ให้เห็นถึงความอุดมสมบูรณ์ของแผ่นดินไทยทำให้ผลไม้ไทยเป็นสินค้าส่งออกหลักจนเป็นที่รู้จักกันทั่วโลก
ผสมผสานกับแหล่งท่องเที่ยวและวัฒนธรรมของไทยที่มีมาแต่ช้านาน อย่างตลาดน้ำ
ที่เป็นสัญลักษณ์และอัตลักษณ์ที่สะท้อนความเป็นอยู่และการใช้ชีวิตของคนไทย
“ขบวนรถเทรลเลอร์ 1 ตอน” ความยาว
12 เมตร ตกแต่งเป็นเถาวัลย์ไม้ และ
ศาลาทุเรียนที่มีราชินีทุเรียนอยู่ด้านในบนแท่นหมุนได้ 360 องศา แบบกล่องดนตรี
สูงจากพื้น 9 เมตร ตกแต่งด้วยผลไม้นานาชานิด พร้อมวงมาร์ชชิ่งแบนด์
นักแสดงแต่งกายแฟนซีชุดผลไม้ และ SMOKE BOMB
• ขบวนที่
3 สมบูรณ์พูนเเซ่บ :
“ต้มยำกุ้ง” ไม่ใช่แค่อาหารธรรมดา
สะท้อนวิถีชีวิตและวัฒนธรรมไทยที่มีความเรียบง่าย
แต่แฝงไปด้วยความลึกซึ้งในแง่มุมต่างๆ ทั้งการพึ่งพาธรรมชาติ การสืบทอดภูมิปัญญา
และการอยู่ร่วมกันในสังคม
เป็นขบวนรถเทรนเลอร์
2 ตอนมีความยาวที่ 16 เมตร บนรถตกแต่งด้วยน้องอิ่ม
แม่ครัวแซ่บที่มีขนาดความสูงรวมฐานอยู่ที่ 6 เมตร กำลังปรุงต้มยำกุ้ง
ในหมอต้มยำขนาดใหญ่เส้นผ่านศูนย์กลางขนาด 3.3 เมตร และด้านหลังจะมีม่านน้ำย้อมสี
ด้านข้างรถประดับตกแต่งด้วยวัตถุดิบที่ใช้ทำต้มยำกุ้ง เช่น กุ้งแม่น้ำ พริก มะนาว
โดยมีองค์ประกอบขบวนเป็น
นักแสดงเพอร์คัชชันแต่ชุดเชฟและใช้อุปกรณ์เครื่องครัวเป็นเครื่องดนตรี
และนักแสดงใส่ชุดวัตถุดิบในการการทำต้มยำกุ้ง และขบวนฟู้ด ทรัค
• ขบวนที่
4 ขบวนช้างไทยแสนรู้ สัตว์มงคลคู่บ้านคู่เมืองไทย : สัญลักษณ์แห่งความเป็นชาติไทยความอุดมสมบูรณ์
และนำพาความโชคดีมาให้แก่ผู้ที่พบเห็น มีสถานภาพที่ศักดิ์สิทธิ์ตามความเชื่อของไทย
ช้างไทยมีบทบาทสำคัญในประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของไทยมาอย่างยาวนาน
ด้วยความชาญฉลาด พละกำลังมหาศาล เป็นกำลังสำคัญเคียงข้างพระมหากษัตริย์ในยามศึกสงคราม
ปัจจุบันช้างนอกจากจะมีความสำคัญทางด้านเศรษฐกิจการท่องเที่ยวแล้ว
โขลงช้างธรรมชาติ
ยังเป็นผู้บำรุงความอุดมสมบูรณ์ต่อระบบนิเวศของไทยผืนป่าไทยที่สำคัญ
เป็นขบวนรถเทรนเลอร์ 2 ตอน มีความยาวที่ 12.4
เมตร
บนรถตกแต่งด้วยช้างขนาดความสูง 6 เมตรที่สามารถขยับขา ขยับหัว
และงวงพ่นน้ำได้ พร้อมด้วยภูเขาน้ำตกจำลอง ตกแต่งด้านข้างด้วยดอกไม้ต้นไม้นานาพรรณ
โดยมีองค์ประกอบขบวนเป็น กลองฉลองชัย ขบวนนักมวยคาดเชือก
พร้อมด้วยขบวนแฟนซีชุดสัตว์ป่าและต้นไม้ดอกไม้ รวมทั้งขบวนต่อขาสูง
• ขบวนที่
5 ขบวนเชิดชูค่าปลากัดไทย : เชิดชูค่าปลากัดไทย
ปลากัดไทยได้รับการขนานนามว่า "สัตว์น้ำประจำชาติไทย"
ไม่เพียงแต่สะท้อนถึงความงดงามทางธรรมชาติ
และความคิดสร้างสรรค์ของคนไทยในการเพาะพันธุ์
แต่ยังเป็นสัญลักษณ์ของความเป็นไทยที่ควรรักษาและส่งเสริม
ในฐานะมรดกทางวัฒนธรรมและทรัพยากรธรรมชาติ ที่ล้ำค่า
เป็นขบวนรถเทรนเลอร์ 2 ตอนมีความยาวที่ 20.4
เมตร
บนรถตกแต่งด้วยปลากัดขนาด 4.3 เมตรสามารถขยับครีบได้
ตกแต่งด้วยคลื่นน้ำ ปะการัง และฟองอากาศขนาดใหญ่ โดยมีองค์ประกอบขบวนเป็น
นักแสดงคาบาเร่ต์โชว์ โชว์คนเชิดปลากัด และ BUBBLE SHOW
• ขบวนที่
6 ขบวนมหรสพวิถี ลีลาสยาม : “งานวัด” เป็นสัญลักษณ์ของความรื่นเริง
การละเล่น และความบันเทิงแบบไทยๆงานวัดเป็นพื้นที่ที่รวมศิลปะการแสดงและการละเล่นพื้นบ้านหลากหลายรูปแบบ
แสดงให้เห็นถึงภูมิปัญญาและความคิดสร้างสรรค์ของคนไทยและมหรสพนี้เปรียบเหมือนเป็นการอนุรักษ์และเผยแพร่วัฒนธรรมไทยในรูปแบบที่ร่วมสมัย
เป็นขบวนรถเทรลเลอร์ขนาด
1 ตอนความยาว 13.5 เมตร ตกแต่งเป็นชิงช้าสวรรค์ ม้าโยก ไฟนีออนหมุนได้แบบงานวัด โปสเตอร์หนังกลางแปลง
โดยมีองค์ประกอบขบวนเป็น ขบวนแตรรำวง ขบวนนักแสดงแต่งกายย้อนยุคเต้นร่วมกับคณะแตรวง
• ขบวนที่
7 ขบวนรถตุ๊กตุ๊ก รถแห่หมอลำซิ่ง : ชวนเฉลิมฉลองความรุ่มรวยทางวัฒนธรรมของไทยผ่านรถตุ๊กตุ๊ก
ป๊อปคัลเจอร์แบบไทยๆ ที่ครองใจ และสร้างความม่วนจอยแก่คนทั่วโลก ที่บรรทุก เงิน
ทอง และความโชคดีมาเต็มคันรถ พร้อมมาแจก กระจายความมั่งมีแก่ทุกคน
เป็นขบวนรถบัสตกแต่งเป็นรถตุ๊กตุ๊กขนาดใหญ่
โดยมีองค์ประกอบขบวนเป็น นักร้องและนักดนตรี ขบวนนักสดงใส่ชุดหางเครื่อง
ขบวนรถตุ๊กๆ ตกแต่งสวยงาม
• ขบวนที่
8 ขบวนสงกรานต์วัยใส : เด็กๆ
คือผู้สืบทอดมรดกวัฒนธรรมไทย โดยนำเสนอผ่านมุมมองของเด็กที่มีต่อประเพณีสงกรานต์ ผสมผสานความสนุกสนานกับการเรียนรู้คุณค่าทางวัฒนธรรม
ที่สำคัญที่สุด เด็กๆ ได้เรียนรู้ว่าพวกเขาไม่ได้เป็นเพียงผู้รับวัฒนธรรมเท่านั้น แต่ยังเป็นผู้ส่งต่อและสร้างสรรค์สิ่งใหม่
ๆ ให้กับประเพณีอันเก่าแก่นี้ ด้วยการที่สงกรานต์ได้รับความสนใจจากทั่วโลก ทำให้พวกเขารู้สึกภูมิใจและมีความรับผิดชอบที่จะรักษาแก่นแท้ของประเพณีไว้
ขณะเดียวกันก็พร้อมที่จะปรับเปลี่ยนให้เข้ากับยุคสมัย เพื่อให้สงกรานต์ยังคงเป็นเทศกาลแห่งความสุขที่ทุกคนบนโลกสามารถมีส่วนร่วมได้
เป็นขบวนรถเทรนเลอร์
2 ตอนมีความยาวที่ 16 เมตร บนรถตกแต่งด้วยน้องสนุกเด็กชายใส่ชุดลายช้างมีความสูงรวม
10 เมตร สามารถหมุนซ้ายขวาได้ถือปืนฉีดน้ำที่ฉีดน้ำได้ ตกแต่งประดับรถด้วยดอกไม้และผีเสื้อขนาดใหญ่
โดยมีองค์ประกอบขบวนเป็น ขบวนหัวโตขี่รถ ATV ขบวนมิลารีแบนด์ และขบวนรถน้องหมีเนย
และตามด้วยขบวนคลาสสิก คาร์
สุขภาพ –7 วัน 7
วิธีป้องกันอันตรายเที่ยวสงกรานต์ปลอดภัย
การเดินทางตลอด
7 วัน ช่วงวันหยุดสงกรานต์ ขอรณรงค์ให้ทุกคนช่วยกันป้องกันอุบัติเหตุบนท้อนถนน
เพราะบนท้องถนนมีรถเป็นจำนวนมาก เตรียมตัวเองให้พร้อม 7 วิธี
ดังนี้
1.ง่วงไม่ขับ -ตามประมวลฐานความผิดตาม
พ.ร.บ.ขนส่งทางบก 2522 ระบุว่า ผู้ขับขี่รถขณะร่างกาย
หรือจิตใจหย่อนความสามารถมีความผิดตาม ม.103 บทลงโทษปรับไม่เกิน
5,000 บาท
เมื่อเริ่มรู้ตัวว่าตัวเองหรือผู้ขับรถมีอาการง่วงควรปฏิบัติดังนี้
• จอดพักเพื่องีบสัก
15-20 นาที อย่านานกว่านี้เพราะสมองจะมึนและไม่สดชื่น
• ดื่มกาแฟ
เทคนิคคือให้ดื่มก่อนจะงีบ เพราะกาแฟออกฤทธิ์หลังดื่มไปแล้ว 10-15
นาที
• ร้องเพลง
เคี้ยวหมากฝรั่ง หรือการทำให้ปากขยับไล่ความง่วง
• งดดื่มแอลกอฮอล์คืนก่อนเดินทาง
2. งดขับรถเร็ว ปัจจุบัน พ.ร.บ. จราจรและ พ.ร.บ.
ทางหลวง ได้เพิ่มโทษให้สูงขึ้นเป็น 10,000 บาท ต้องลดความเร็วทั้งทางตรงและขับแซงทางโค้ง
ไม่เปลี่ยนเลนกระทันหัน เบรครถกระทันหัน และไม่ฝ่าไฟแดง
3.เมื่อเมาห้ามขับรถ - การดื่มเหล้าหรือแอลกอฮอล์จะมีผลอย่างยิ่งต่อระบบประสาทส่วนกลางทำให้เสียการทรงตัว
พูดไม่ชัด สายตาพร่ามัว ร่างกายมีปฏิกิริยาตอบสนองช้า การตัดสินใจช้าลง
และผิดพลาดง่าย
4.คาดเข็มขัดนิรภัย หรือแม้แต่การสวมใส่หมวกกันน็อค ปฏิบัติตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัด
และเป็นการคุ้มครองส่วนบุคคลเมื่อเกิดอุบัติเหตุขึ้น และช่วยลดโอกาสการเสียชีวิตหรือบาดเจ็บให้น้อยลง
5. ห้ามโทรศัพท์ขณะขับรถ การใช้โทรศัพท์มือถือไม่ว่ากรณีใด
ๆ อาจเสี่ยงเกิดอุบัติเหตุ มีโทษปรับตั้งแต่ 400-1,000 บาท เพราะขณะขับรถอาจทำให้การรับรู้ของประสาทลดลงแยกประสาทไม่ได้ทั้งสายตา
หู มือและประสาทสัมผัสต่าง ๆ หากเราจดจ่ออยู่กับโทรศัพท์อย่างเดียวอาจทำให้สติไม่ได้อยู่กับรถ
6. เช็คสภาพรถก่อนสตาร์ท -ควรตรวจเช็คสภาพรถเป็นประจำ
เป็นขั้นตอนพื้นฐานการดูแลรถ เช่น การเช็คลมยางก่อนทุกครั้ง เช็คไฟหน้าไฟหลัง
แบตเตอรี่ ถังน้ำมัน สัญญาณไฟเตือนต่าง ๆ สายเบรค เพื่อป้องกันอุบัติเหตุ
7. การไม่ประมาทและความไม่ขาดสติ -การขับรถบนท้องถนนเป็นสิ่งที่ควรระลึก
และจำขึ้นใจไว้เสมอ เป็นเสมือนเครื่องเตือนใจ และป้องกันภัยกับตัวเราได้ดีที่สุด
ติดต่อสายด่วนที่ควรรู้
1669 หรือโทร: 02 0805999
ฟังข่าวท้ายชั่วโมง
ข่าวแรก
–นายกฯอิ๊งค์ประธานเร่งทุกกระทรวงหนุนท่องเที่ยว7เรื่อง
นางสาวแพทองธาร
ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะหัวหน้าส่วนราชการระดับกระทรวงต่าง
ๆ เมื่อวันพุธที่ 9 เมษายน 2568 ที่การท่องเที่ยววแห่งประเทศไทย
(ททท.) โดยมี “กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา” เป็นเจ้าภาพ และมีองค์กรหลักร่วมประชุมคือสำนักงานเลขาธิการ
ก.พ. และสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี เพื่อย้ำเน้นถึงนโยบายให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬานำการท่องเที่ยวและกีฬาขับเคลื่อนประเทศ
สนับสนุน Amazing Thailand Grand Tourism and Sports Year 2025 ภายใต้แนวคิด "Tourism and Sports: Powerful Tools for
National Development" ขานรับปี 2568 เป็นปีแห่งการส่งเสริมอุตสาหกรรมหลักของประเทศ
ตั้งเป้าหมายยกระดับไทยเป็นจุดหมายปลายทางระดับโลกอย่างแท้จริง
“นางสาวนัทรียา
ทวีวงศ์” ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ยืนยันจะร่วมกับทุกหน่วยงานผลักดันศักยภาพของไทยทั้งด้านการท่องเที่ยวและกีฬาเป็นพลังหลักพัฒนาเศรษฐกิจ
สังคม และคุณภาพชีวิตของประชาชน มุ่งหวังให้ปี 2568
เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่แสดงศักยภาพไทยในระดับโลก และทำให้ไทยทุกคนจะได้ภาคภูมิใจในพลังการท่องเที่ยวและกีฬาไทย
โดยได้เสนอความร่วมมือกับหน่วยงานต่าง
ๆ ขยายผลอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวปี 2568 อย่างเป็นรูปธรรม ด้านท่องเที่ยว 4 เรื่อง
และด้านกีฬาอีก 3 เรื่อง ประกอบด้วย
“ด้านการท่องเที่ยว” เน้นหนักภารกิจเฉพาะหน้า 4 เรื่อง
• เรื่องที่ 1 ดูแลความปลอดภัยนักท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลสงกรานต์
2568 โดยร่วมมือกับกระทรวงมหาดไทย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
หน่วยงานท้องถิ่น เพื่อจัดกำลังเจ้าหน้าที่ดุแลพื้นที่ท่องเที่ยวทั่วประเทศ
• เรื่องที่ 2 ให้ความช่วยเหลือฉุกเฉินแก่นักท่องเที่ยว
โดยขอสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.) กระทรวงสาธารณสุข
• เรื่องที่ 3 บังคับใช้กฎหมายและควบคุมคุณภาพธุรกิจท่องเที่ยว
ร่วมกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรมการท่องเที่ยว กระทรวงพาณิชย์ กรมสอบสวนคดีพิเศษ
ปราบปรามบริษัทนำเที่ยวเถื่อน และนอมินีหรือเป็นตัวแทนอำพรางการทำธุรกรรมต่าง ๆ
•
เรื่องที่ 4 เพิ่มมาตรการความปลอดภัยทางน้ำและทางบก เช่น
การควบคุมเรือท่องเที่ยว, การควบคุมรถเช่าบิ๊กไบค์ ออกประกาศห้ามนักท่องเที่ยวเล่นน้ำบริเวณธงแดงร่วมกับกรมเจ้าท่า
กรมการขนส่งทางบก และกรมอุทยานแห่งชาติ
“ด้านการกีฬา” เดินหน้าผลักดันความร่วมมือกับทุกหน่วยงาน 3 เรื่อง
• เรื่องที่ 1 ผลักดันการมีวิชาพลศึกษาเป็นวิชาหลักในโรงเรียน
ประสานงานกับกระทรวงศึกษาธิการ เพื่อปลูกฝังวินัยและสุขภาวะในเด็กและเยาวชน
• เรื่องที่ 2 ส่งเสริมกีฬาเพื่อสุขภาพในแผนพัฒนาท้องถิ่น
ร่วมกับกระทรวงมหาดไทยในการผลักดันองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น บรรจุกิจกรรมกีฬาและออกกำลังกายในแผนพัฒนาท้องถิ่น
• เรื่องที่ 3 ร่วมประชาสัมพันธ์การแข่งขันกีฬาระดับนานาชาติ
เช่น ซีเกมส์ อาเซียนพาราเกมส์ และวอลเลย์บอลหญิงชิงแชมป์โลก 2025 เพื่อสร้างแรงบันดาลใจประชาชนและส่งเสริม ซอฟท์ พาวเวอร์ด้านกีฬา
ข่าวที่สอง
–สวนน้ำรามายณะชูสงกรานต์12-15เม.ย.แจกลด7รายการ
“สวนน้ำรามายณะ พัทยา” เปิดแมนเมดต้อนรับท่องเที่ยวเทศกาล “สงกรานต์”
แจกฟรี “ปืนฉีดน้ำ” มาก่อนมีสิทธิ์ก่อน พร้อมโปรโมชั่นดับร้อน
ระหว่าง 12-15 เมษายน 2568 ตั๋วเข้าสวนน้ำแบบครอบครัวเหลือ 3,549
บาท จากราคาเต็ม 6,758
บาท ระหว่าง 12-15
เมษายน 2568 มาก่อนมีสิทธิ์ก่อน สนุกสุดมันส์ได้ในแลนด์มาร์กแหล่งท่องเที่ยวผจญภัยทางน้ำชั้นนำและยอดนิยมของประเทศไทย ฉลองเทศกาลสงกรานต์ เสิร์ฟประสบการณ์การความสนุกเต็มพิกัดและกิจกรรมความบันเทิงแบบจัดเต็มสุดยิ่งใหญ่ไว้ในที่เดียว!
แจกโปรโมชั่นดับร้อน
และกิจกรรมความสนุกแบบฉ่ำ ๆ รับทั้งครอบครัว ระหว่าง 12 – 15 เมษายน 2568 เช็คอินรับสิทธิ์ได้ตลอดสงกรานต์ 7 รายการ ดังนี้
• แจกฟรี! ปืนฉีดน้ำ และความสนุกสุดสดชื่นสำหรับทุกคน! (ปืนฉีดน้ำมีจำนวนจำกัด)
• เข้าสวนน้ำฟรี
สำหรับเด็กสูงไม่เกิน 106 ซม.!
• กิจกรรม Meet
& Greet กับพี่มาสคอตสุดน่ารัก
• สัมผัสกับความตื่นเต้นได้ทั้งครอบครัวกับการแสดงเต้นลิมโบ
และระบำฮาวายพ่นไฟสุดตระการตา
• สนุกสนานได้ทั้งวัน
กับกิจกรรม Splash Activities มีทั้ง
เกม โซนบริเวณ คิดส์ คิงดอม
วอเตอร์ สแปช ดาวน์ และ วอเตอร์ กัน แบทเทิล และที่โซน Double Wave
Pool
• แด๊นซ์กระจายให้สวนน้ำลุกเป็นไฟกับโฟมปาร์ตี้
ที่มาพร้อมดีเจ EDM ชื่อดัง
• สัมผัสบรรยากาศสุดชิลล์
เล่นน้ำไปฟังเพลงเพลิน ๆ กับวงดนตรีสดสับเปลี่ยนหมุนเวียนขึ้นเวทีมอบความบันเทิงมากมาย
ติดตามฟังรายการได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 11.00-12.00 น.ทาง สวท.FM 97.0 MHz.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น