ททท.ขอนแก่นจัดเต็มมหาสงกรานต์
2 วิถีรายได้เฉียด600ล้าน
“วิถีมูวัฒนธรรม-ม่วนมหาสนุก”-Grand Momentบ้านเฮาเบาใจ
ไฮไลต์“วัดไชยศรี-สรงน้ำพระลับ500ปี”-ซิตี้บัสทัวร์ 5
Must Do
“คิง
เพาเวอร์”จัด“อภิมหาสงกรานต์รางน้ำดันศก.Q2/68โต20%
ช้อปคุ้ม ลดแรง50%รีบเลยที่คิง
เพาเวอร์ศรีวารีตลอดเม.ย.68
ททท.-เอ็กซ์พีเดียกรุ๊ปผนึกเพิ่มจุดขายเมืองน่าเที่ยวตลาดโลก
บางจากร่วมGreen
Transitionปลุกธุรกิจสู่เศรษฐกิจคาร์บอนต่ำ
สุขสงกรานต์เชียงใหม่-ลำพูนเย็นฉ่ำWater Festival12-14 เม.ย.
5 ประโยชน์ของการกินมะยงชิด-มะปรางผลไม้ฤดูกาลหน้าร้อน
เที่ยวคนละครึ่ง3,000ล้าน1ล้านสิทธิ์ปรับใหม่ให้แค่จันทร์-ศุกร์
AOT รับมือผู้โดยสารสงกรานต์คึกคัก 3 ล้านคน โตดี 20.7 %
วันอาทิตย์ที่ 6 เมษายน 2568 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97MHz. ฟังทางfacebookLiveFM97.0 อ่านในwww.facebook.com/penroongyaisamsen #gurutourza #รวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97 #เพ็ญรุ่งใยสามเสน #เที่ยวกับกู๋ #KingPower #TAT #บางจาก #TCEB #ทททขอนแก่น
ฟัง Live สดจากลิงค์นี้...
ช่วงที่ 1 สัมภาษณ์ !! “เสกสรร ศรีไพรวรรณ” ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานขอนแก่น ผนึกพันธมิตรปลุกกระแสเที่ยวสงกรานต์ 2 วิถี “สายมู/วัฒนธรรม-สายม่วน/มหาสนุก” คาดทำรายได้เฉียด 600 ล้าน จาก 2.2-2.5 แสนคน ทำยอดเข้าพัก 72.86 % เพิ่มวาระพิเศษโมเดลเที่ยว Grand Moment “สงกรานต์บ้านเฮา เบาใจ” ไฮไลต์ที่วัดไชยศรี และสรงน้ำเที่ยงคืน “พระลับ-พระศรีสัตนาคะนะหุต” ฉลอง 500 ปี ผนึก สมาร์ท ซิตี้ บัส นำไฮเทค Line OA กับ AI ให้คนร่วมเช็คอิน 5 Must Do เก็บดาต้าพฤติกรรมนักท่องเที่ยว ส่วนควันหลงเทศกาลเที่ยวเมืองไทยได้ขยายทัวร์เมืองน่าเที่ยว
นายเสกสรร
ศรีไพรวรรณ ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานขอนแก่น เปิดเผยว่า
มีแผนกระตุ้นการท่องเที่ยวช่วงสงกรานต์และร่วมกับพันธมิตรจัดกิจกรรมวาระพิเศษ Grand Moment ในจังหวัดขอนแก่น นำเสนอสงกรานต์ 2
วิถี “วิถีมู-วิถีม่วน” คาดการณ์นักท่องเที่ยวจะเดินทางตลอดสงกรานต์
12-16 เมษายน 2568 ช่วยเพิ่มรายได้และอัตราการเข้าพัก
(OR :Occupacy Rate) ในขอนแก่นเฉลี่ย 72.86 % มีนักท่องเที่ยวรวม 2.2 -2.5 แสนคน
เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันกับปีก่อนประมาณกว่า 40 % ทำรายได้ 590
ล้านบาท
นำโดย
“วิถีมู” นำเสนอกิจกรรมการท่องเที่ยวจัดทำ “วาระพิเศษ” เฉลิมฉลองภายใต้คอนเซ็ปต์ “Grand Moment” ททท.สำนักงานขอนแก่น ร่วมกับ บริษัท สมาร์ท ซิตี้ บัส จำกัด
สมาคมธุรกิจท่องเที่ยว
สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ดูแลตลาดไมซ์
โดยได้นำเสนอการท่องเที่ยวมูด้วยรูปแบบวัฒนธรรม
วันที่
13 เมษายน 2568 “ช่วงเช้า”
จะจัด “รถสมาร์ท ซิตี้ บัส” พานักท่องเที่ยวที่เช็คอินเข้าพักตามโรงแรมต่าง
ๆ สามารถลงทะเบียนไปทำกิจกรรม “สงกรานต์ อีสานบ้านเฮา สงกรานต์เบาใจ” ที่พิพิธภัณฑ์สินไซส่วนบุคคล
ตั้งอยู่บริเวณชานเมือง
ร้อยเรียงเล่าเรื่องราวสินไซเป็นภาพเขียนอยู่ในโบสถ์หรือสิมในอีสาน
รวมทั้งวรรณกรรม
“กิจกรรม” บนรถสมาร์ท ซิตี้ พร้อมทั้งจะมีการแสดงพื้นบ้าน จำลองวิถีสงกรานต์ บุญเดือนห้า อยู่ในฮีตสิบสองคลองสิบสี่ ของภาคอีสาน สรงน้ำพระ รดน้ำดำหัวผู้ใหญ่ นำชุมชนเด็กออติสติกมาทำกิจกรรมด้วย นำภาพเขียนสินไซของเด็กมาเล่าเรื่องราวผ่านวรรณกรรม
“ช่วงบ่าย” รถสมาร์ท ซิตี้ บัส จะนำไปร่วมงาน “สงกรานต์วัดไชยศรี” งานประเพณีสงกรานต์ซึ่งทางยูเนสโกขึ้นทะเบียนเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ
เป็นมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมลำดับที่ 4 ของไทย ในวันที่ 13 เมษายน นี้ จะนำนักท่องเที่ยวเข้าร่วมกิจกรรมที่วัดไชยศรีทำพิธี
“เสียเคราะห์” เป็นประเพณีสะเดาะห์แบบโบราณโดยใช้ “กระทงเสียเคราะห์ 9 ช่อง” แต่ละช่องก็จะมีเรื่องราวต่าง ๆ จารีต วัฒนธรรมวิถีอีสาน
เพื่อให้ผู้เข้าร่วมกิจกรรมนำไปวางทิ้ง
ภายในงานที่วัดไชยศรี ยังได้นำ “อาหารชุมชนบ้านสาวัตถี”
ทาง ททท.ฝ่ายสินค้า ชุมชน ร่วมกันทำเรียกว่า “พาสวย สินไซ”
โดยได้ร้อยเรียงเรื่องราวจากวรรณกรรมภาพเขียนสินไซทำเป็นเมนูต่าง ๆ
ไว้ต้อนรับคณะนักท่องเที่ยวที่เข้าร่วมกิจกรรม หลังเสร็จพิธีดังกล่าวแล้ว
“ช่วงเย็น” จะนำนักท่องเที่ยวเข้ามาในเมืองที่ “วัดธาตุพระอารามหลวง” มีพระธาตุประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ และ “พระพระลับ” หรือ “พระศรีสัตนาคะนะหุต ” เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัยประจำเมืองขอนแก่น ในปี 2568 จะเป็น Grand Moment ของเป็นพระศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองจะครบรอบ 500 ปี ตั้งแต่อัญเชิญมาประดิษฐานตั้งแต่ปี พ.ศ.2058 สมัยเวียงจันทน์ได้รับการสถาปนาเป็นเมืองหลวงอาณาจักรล้านช้าง พระเจ้าไชยเชษฐาธิราชกษัตริย์สมัยนั้นทรงตั้งพระลับขึ้นมาเป็นหนึ่งในพระพุทธรูปที่มีความเลื่อมใสศรัทธา สมัยก่อนเคยเกิดเรื่องสงครามเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึก รัชกาลที่ 1 ตีกรุงเวียงจันทน์แล้ว แล้วอัญเชิญพระแก้วมรกตมาไทย ดังนั้นพระวอจึงได้หาวิธีซ่อนพระพุทธรูปพระศรีสัตนาคะนะหุตไว้ที่วัดใต้หรือปัจจุบันคือ “วัดธาตุ” ป้องกันการอัญเชิญไปไว้ในกรุงเทพฯ จึงได้ชื่อว่าพระลับ
ปี 2568 ในโอกาสพิเศษฉลองครบ
500 ปี จะอัญเชิญ “พระลับ” มาให้ผู้คนได้สรงน้ำพระราชทาน
จึงมีพิธีสรงน้ำรับโชค ความเป็นสิริมงคลในวันปีใหม่ไทยหรือสงกรานต์
โดยจะมีรถซิตี้บัสบริการตั้งแต่บ่ายจนถึงเที่ยงคืน
เนื่องจากสภาพอากาศกลางวันค่อนข้างร้อนจึงได้เปิดให้สรงน้ำพระยามค่ำคืนพระลับได้ที่วัดธาตุ
เป็นไฮไลต์และมีความพิเศษเป็นอย่างยิ่งมาก
วิถีที่ 2 “สงกรานต์สายม่วน” ในจังหวัดขอนแก่น ได้จัดรถซิตี้บัสต่อยอดเรื่องเฟสติวัล ลูป ไลน์ ให้บริการฟรี โดย ททท.ขอนแก่น หอการค้า กับพันธมิตรทำร่วมกันมา 2-3 ปีแล้ว กระแสตอบรับช่วงเทศกาลค่อนข้างดี ปีนี้จะเน้นส่งเสริมกิจกรรม 5 Must Do in Khonkhen โดยจะมีรถ ซิตี้ บัส ให้บริการระหว่างวันที่ 13-15 เมษายน 2568 16.00 - 00.00 น. แบ่งเป็น 2 เส้นทาง ดังนี้
เส้นทางที่ 1 กังสดาล / กัลปพฤกษ์ / เซ็นทรัล / มิตรภาพ / เหล่านาดี / ททท. (ระยะทาง 13 กิโลเมตร )
เส้นทางที่ 2 ศูนย์ราชการ / บึงทุ่งสร้าง / เฉลิมพระเกียรติ / บึงแก่นนคร / หลังแฟรี่ / หน้าเมือง (ระยะทาง 9 กิโลเมตร)
นักท่องเที่ยวจะได้ร่วมสนุกกับกิจกรรม “สงกรานต์ On The Bus” กับเกมส์ล่าสมบัติ “5 Must do 5 สิ่งที่ต้องทำในสงกรานต์ขอนแก่น” 1.Must Taste ไปหม่ำ ของแซ่บ 2.Must Try เล่นน้ำสงกรานต์และสนุกสนานกับการเล่นคลื่นมนุษย์ 3.Must Buy ของฝากน่าซื้อ 4. Must Seek ทำกิจกรรมสรงน้ำพระลับ 5.Must See ไปม่วน ฟัง+ฟ้อนหมอลำ บนรถบัส
“ระหว่างอยู่บนรถ” ก็จะชวนนักท่องเที่ยวทำกิจกรรมบน Line OA LINE @kkcitybus ลุ้นรับรางวัลของที่ระลึก ผ่านตู้กาชาปอง อาทิ กระเป๋าสีสันสดใสลาย Amazing Thailand, กระบอกน้ำเก็บอุณหภูมิ, เสื้อฮาวายลายไดโนเสาร์, หมวกลายไดโนเสาร์, กระเป๋าเดินทางล้อลาก
กิจกรรมบนรถบัสตลอดทั้ง 3 วัน ระหว่างวันที่ 13-15 เมษายน เช่น เกมส์ เช็คอินตามจุดที่กำหนดให้อยู่ในคอนเซ็ปต์ 5 Must แล้วเก็บคอลเลคชั่นเพื่อสแตมป์หรือเก็บสถานที่ให้ครบ เช่น Must Seek ผ่านแหล่งท่องเที่ยว Must Taste ผ่านร้านอาหาร แล้วเก็บรวบรวมนำมาแสดงเพื่อรับของที่ระลึกจาก ททท.ในรูปแบบ “สงกรานต์ไอเทม” มี พัด แป้งร่ำ น้ำอบ ปืนฉีดน้ำ และอื่น ๆ เพื่อสร้างให้นักท่องเที่ยวเข้ามามีส่วนร่วมและส่วนรับผิดชอบไม่ขับรถยนต์ส่วนบุคคลช่วยแก้ปัญหาจราจรนำไปสู่การท่องเที่ยวที่ยั่งยืน
พิเศษ !! ททท.ขอนแก่น ได้ทำพรอมพ์ AI ให้คนเข้ามาร่วมสนุกค้นหาเรื่องราวสงกรานต์
สามารถใช้แพลตฟอร์มลงทะเบียนออนไลน์เข้ามา ตรวจเช็คข้อมูล สถานที่ท่องเที่ยว
ร้านอาหารการกิน พื้นที่เล่นน้ำสงกรานต์ และทำกิจกรรมต่าง ๆ
สามารถลงทะเบียนผ่านทาง Chat Bot แล้วสามารถวางแผนเดินทางร่วมกับสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวได้
หรือบริเวณหน้างานสงกรานต์วัดไชยศรี ก็จะเปิดให้ลงทะเบียนออนไลน์กับ
ททท.ขอนแก่นได้ด้วย
กลยุทธ์นี้นำร่องใช้เป็นครั้งแรก ๆ
มุ่งหวัง “เก็บข้อมูลพื้นฐานพฤติกรรมนักท่องเที่ยว”
ที่สนใจร่วมงานสงกรานต์แล้วชื่นชอบ 5 Must Do เรื่องใดมากที่สุด
ผอ.เสกสรร กล่าวว่า ตลอดเดือนเมษายน นี้ ในแต่ละพื้นที่การท่องเที่ยวที่ ททท.ขอนแก่น รับผิดชอบจะเน้นกระตุ้นการท่องเที่ยวงานประเพณีสงกรานต์ สร้างจัด “สงกรานต์วัฒนธรรมและมหาสนุก” อย่างที่ จังหวัดร้อยเอ็ด จัดบริเวณหน้าหอโหวด เล่นสาดน้ำ ส่วนพิธีกรรมจะจัดตามวัดหลัก ๆ กระจายในพื้นที่ต่าง ๆ และมหาสารคาม ก็จะจัดในรูปแบบร้อยแก่นสารสินธุ์
สำหรับควันหลงจากการเข้าร่วม “เทศกาลเที่ยวเมืองไทย 2568” เมื่อ 26-30 มีนาคม ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ได้เห็นพฤติกรรมตอบรับจากนักท่องเที่ยวที่เข้าเยี่ยมชมหมู่บ้านภาคอีสาน ได้แก่ 1.นักท่องเที่ยวสนใจ “เมืองน่าเที่ยว/เมืองรอง” ซึ่งมีสนามบินบริการ แต่ช่วงสงกรานต์ “ราคาตั๋วโดยสารเครื่องบิน” จะแพงมาก จากปกติเกือบ 2,000 บาท/เที่ยว กระโดดขึ้นเป็น 4,000-5,000 บาท/เที่ยว ไป-กลับ 8,000-10,000 บาท แต่ปริมาณผู้โดยสารจะเต็ม เพราะที่นั่งไม่เพียงพอ อาจจะต้องเพิ่มเที่ยวพิเศษ เพราะคนเดินทางกลับจำนวนมาก และมาทำบุญ เริ่มเดินทางตั้งแต่สัปดาห์หน้าจนถึงสิ้นสุดสงกรานต์
“ส่งผลดี” กับอัตราการเข้าพักเฉลี่ย เช่น ร้อยเอ็ด กาฬสินธุ์ จะทำได้ 50-60 % แต่คนใหญ่จะเดินทางกลับบ้านจึงพักที่บ้านไม่ได้ค่อยเข้าพักโรงแรม แต่จะเกิดการเดินทาง “เยี่ยมเยือนหรือทัศนาจร” ไปไหว้พระ ทำบุญ ใช้จ่ายเงินซื้อสินค้าอุปโภคบริโภค
“ไฮไลต์หลัก” คนจะเดินทางมาขอนแก่นเพื่อมาเล่นน้ำ ทางAgoda ได้ประเมินผลเป็นพื้นที่เป้าหมายให้คนมาเล่นน้ำแหล่งใหญ่ในอีสาน ผลสำรวจจากเสิร์ซ เอนจิ้น และนักท่องเที่ยวเข้ามาค้นหา พบข้อมูลการจองล่วงหน้ามายังขอนแก่นมีแนวโน้มที่ดี
ผอ.เสกสรร กล่าวว่า เชิญชวนคนมาเล่นน้ำสงกรานต์ในพื้นที่ “ร้อยแก่นสารสินธุ์” จังหวัดขอนแก่น ร้อยเอ็ด มหาสารคาม กาฬสินธุ์ กับสงกรานต์ 2 วิถี “วิถีมู :ทำบุญ” กับ “วิถีม่วน : มหาสนุก” ฉลองปีใหม่ไทย จึงขอเชิญชวนมา Grand Moment กับวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของโลก มีเฉพาะในไทยและเอเชีย พอทั่วโลกพูดถึง Water World Festival ก็จะนึกถึงสงกรานต์ไทย รวมถึงการเล่นคลื่นมนุษย์ Human Wave มีจำนวนคนเข้าร่วมเพิ่มขึ้น สถิติปี 2567 มีวันละ 90,000-100,000 คน ตลอด 3 วัน 13-15 เมษายน มีจำนวนรวมเกือบ 300,000 คน เป็นอีกโมเมนท์แห่งความสนุกสนาน มีความปลอดภัยสร้าความม่วน ส่วนความมูก็จะได้ไหว้พระ สรงน้ำพระธาตุ พระลับ/ศรีสัตนาคะนะหุต ฉลองงานประเพณีที่ดีงามไปด้วยกัน
ฟังข่าวต้นชั่วโมง
ข่าวที่ 1-“คิง เพาเวอร์”จัด“อภิมหาสงกรานต์รางน้ำดันศก.Q2/68โต20%
นายอัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ เปิดเผยว่า ในฐานะผู้นำธุรกิจค้าปลีกเพื่อการท่องเที่ยว เดินหน้าส่งเสริมตลาดท่องเที่ยวไตรมาส 2 ปี 2568 เตรียมต้อนรับปีใหม่ไทยจัดใหญ่งาน “อภิมหาสงกรานต์รางน้ำ มโหฬาร มหาสนุก” ต่อเนื่องตลอด 6 วัน ระหว่างวันที่ 10-15 เมษายน 2568 ที่ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ โดยได้ยกหาดดังของเมืองไทยในธีม “BEACH! สนุกสุดขีดให้โลกจำ” ผลักดันสงกรานต์ไทยสู่เฟสติวัลระดับโลก เป็นเทศกาลกาลอภิมหาความบันเทิงที่ได้รวมเหล่าดาราและศิลปินชื่อดัง กิจกรรมและโปรโมชั่นตอกย้ำการยกระดับย่านรางน้ำให้นักท่องเที่ยวทั่วโลกเลือกเป็นจุดหมายปลายทางแห่งการเฉลิมฉลองทุกเทศกาล
ปี 2568 กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ พร้อมเป็นส่วนหนึ่งนำ “สงกรานต์” ก้าวสู่เฟสติวัลระดับโลกตามนโยบายรัฐบาลในโครงการ “THAILAND SUMMER FESTIVALS” ระหว่างเดือนมีนาคม-กันยายน 2568 มุ่งใช้การท่องเที่ยวเป็นเครื่องมือหลักขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย ผ่านงานเทศกาลประเพณีต่าง ๆ สอดคล้องกับ คิง เพาเวอร์ มีโครงการ “THE POWER OF POSSIBILITIES เป็นได้สุด เป็นไปได้” ในการขับเคลื่อนย่านรางน้ำดึงดูดนักท่องเที่ยวทั่วโลกเลือกเป็นจุดหมายปลายทางเฉลิมฉลองทุกเทศกาลหรือ “GLOBAL FESTIVALISATION”
แล้วยังเป็นปีที่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ตั้งเป้านำนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาเที่ยวสงกรานต์ 3-4 ล้านคน คาดจะสร้างเงินสะพัดทั่วประเทศกว่า 26,500 ล้านบาท หนึ่งในกลยุทธ์การผลักดันไทยเป็นประเทศจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งปี
กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ จึงจับมือกับ 4 พันธมิตรหลัก นำโดย กระทรวงมหาดไทย กรุงเทพมหานคร การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) และชุมชนย่านรางน้ำ จัดงาน “อภิมหาสงกรานต์รางน้ำ มโหฬาร มหาสนุก” ยกทุก BEACH! สนุกสุดขีดให้โลกจำ นำเสนออีเวนต์การท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ผสานเสน่ห์ไทย หรือ ซอฟท์ ผสมผสานเอ็นเตอร์เทนเมนต์ได้อย่างลงตัว
พร้อมทั้งได้รวมรวบร้านอาหารดัง โปรโมชั่น และกิจกรรมต่าง ๆ ให้ร่วมสนุกตลอดงานสร้างแรงจูงใจนักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติเดินทางเข้ามาใช้บริการมากที่สุดอีกปี
คิงเพาเวอร์ ได้สร้างอัตลักษณ์ย่านรางน้ำเป็นย่านเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ปี 2568 วางกลยุทธ์จัดเทศกาลต่อเนื่องตอลดทั้งปี มุ่งให้เกิดประโยชน์สูงสุด 2 ด้านหลัก ได้แก่ ด้านที่ 1 สร้างเศรษฐกิจให้ชุมชนในพื้นที่ ด้านที่ 2 ขับเคลื่อนอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยยั่งยืน ตลอดแคมเปญที่คิง เพาเวอร์ จัดทำขึ้น จะช่วยเสริมสร้างเศรษฐกิจไตรมาส 2 ปี 2568 สร้างปริมาณการเดินทางเข้าออกของนักท่องเที่ยวเข้าสู่ย่านรางน้ำเพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่า 20% ต่อเนื่องจากปี 2567 สามารถดึงเม็ดเงินจากนักท่องเที่ยวหลั่งไหลเข้าพื้นที่มาแล้วกว่า 400 ล้านบาท
การจัดงาน “อภิมหาสงกรานต์รางน้ำ มโหฬาร มหาสนุก” ระหว่างวันที่ 10-15 เมษายน 2568 คิง เพาเวอร์ เตรียมยก “ทุก BEACH! สนุกสุดขีดให้โลกจำ” โดยได้จำลองชายหาดดังของไทยทั้งเกาะภูเก็ต พัทยา เกาะพะงัน เกาะเสม็ดมาไว้ภายในงาน มอบความให้เป็นไปได้ครบ 5 สไตล์ “สาด-เต้น-เล่น-กิน-ช้อป” สุดมันส์กับ 5 กิจกรรม ดังนี้
• “สาด สุดขีดให้โลกจำ” กิจกรรมที่ 1 จะตอกย้ำย่านรางน้ำเป็นแลนด์มาร์กแห่งใหม่ในการเล่นน้ำสงกรานต์
สนุกสุดเหวี่ยงในธีม “RANGNAM BEACH PARTY BY
SUPERFLUID” ระหว่างวันที่ 13-15 เมษายน 2568 พบกับเหล่าศิลปิน T-POP จาก SUPERFLUID อย่าง LYKN,
TRINITY, PERSES, 4EVE, ต้าห์อู๋–พิทยา, ออฟโรด-กันตภณ, PRETZELLE และศิลปินแนว EDM ระดับโลกนำโดย RETRO
VISION, CYNDI และ BROOKS
• เต้น สุดขีดให้โลกจำ กิจกรรมที่ 2 เหล่าศิลปินและแฟนคลับที่ชื่นชอบการเต้นมาร่วมโลกให้จำต่อเนื่อง 4 วัน ระหว่างวันที่ 10-13 เมษายน 2568
วันที่ 10 เมษายน : ชม “ขบวนพาเหรดสุดอลังการ แล้วพบกับศิลปินขวัญใจทุกวัยอย่าง เจฟ-วรกมล ซาเตอร์ หลิงหลิง-ศิริลักษณ์ คอง ออม-กรณ์นภัส เศรษฐรัตนพงศ์ และเอม-สรรเพชญ์ คุณากร และ“มินิคอนเสิร์ตจากศิลปินชื่อดัง” อย่าง TATTOOCOLOUR และ PROXIE
วันที่ 11 เมษายน : นำทัพศิลปินแถวหน้าของเมืองไทยจัดเต็มมาให้ได้ชมคือ SLOT MACHINE และอิ้งค์-วรันธร เปานิล
วันที่ 12 เมษายน : โชว์การแสดงสุดอลังการของ นนท์-ธนนท์ จำเริญ
วันที่ 13 เมษายน : ต้องได้เจอ อาโป-ณัฐวิญญ์ วัฒนกิติพัฒน์ วิน-เมธวิน โอภาสเอี่ยมขจร ต้าห์อู๋–พิทยา และออฟโรด-กันตภณ
• “เล่น สุดขีดให้โลกจำ” นักท่องเที่ยวจะได้เพิ่มประสบการณ์เกมส์มหาสนุก ดังนี้
1.พิชิตเกาะแก้ว ช้อปครบ 1,500 บาท/ใบเสร็จ รับสิทธิ์ร่วมสนุกพร้อมรับของรางวัล
2.เซิร์ฟความสุข ช้อปครบ 1,000 บาท/ใบเสร็จ รับสิทธิ์เล่นเซิร์ฟฟรี
3.นวดไทยช้อปครบ 1,000 บาท/ใบเสร็จ รับสิทธิ์นวดแผนไทยในบรรยากาศริมชายหาดแสนเพลิดเพลิน
• “กิน สุดขีดให้โลกจำ” อร่อยฉ่ำกับร้านดังกับเมนูเด็ดริมทะเล นำโดย คุณเปิ้ล หมูกระทะ "แอน" ก๋วยเตี๋ยวคั่วไก่ 88 อีสานกายะ อะโล ฮะ, เฮง กับป้าใจดี หมึกบดโบราณ, ไอ-ติม-ไทย หัวหาด บาร์ THE CHAFFEINE, อุ้ม&นภา ข้าวเหนียวมะม่วง, มาเฟีย หมี่คลุก, จีบโรจน์โคตร หร่อย, ไทย ไทย ก๋วยเตี๋ยวเรือ, DURI BURI, เบื้องเจริญ และ CRAZY ทะเลดอง
• ช้อป สุดขีดให้โลกจำ จะมีไฟลต์หรือไม่มีไฟลต์ก็ช้อปได้ที่ คิง เพาเวอร์ ตลอดอภิมหาสงกรานต์นี้
1.ช้อป 15,000 บาทขึ้นไป/ใบเสร็จ รับส่วนลดทันที 25%
2.เมื่อช้อป 8,000 บาทขึ้นไป/ใบเสร็จ รับส่วนลดทันที 20%
3.สิทธิพิเศษ !! เฉพาะสมาชิก คิง เพาเวอร์ เริ่มตั้งแต่วันนี้ -15 เมษายน 2568 ที่ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ ศรีวารี และภูเก็ต ช้อปครบ 50,000 บาทขึ้นไป (สุทธิ) รับตั๋วเครื่องบินไป-กลับ กรุงเทพฯ-ฮ่องกง 1 ที่นั่ง ช้อปก่อนมีสิทธิ์ก่อนได้วันละ 1 สิทธิ์/คน
คิง เพาเวอร์ เชิญชวนคนไทยและนานาชาติมาร่วมสนุกกับเทศกาล “อภิมหาสงกรานต์รางน้ำ มโหฬาร มหาสนุก” ยกทุก BEACH! สนุกสุดขีดให้โลกจำ ที่ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ แล้วยังสามารถช้อปออนไลน์กับสิทธิพิเศษอื่น ๆ เพิ่มผ่านทาง WWW.KINGPOWER.COM และ KING POWER แอปพลิเคชัน หรือสอบถามเพิ่มที่ 1631
ข่าวที่ 2 -ช้อปคุ้ม ลดแรง50%รีบเลยที่คิง เพาเวอร์ศรีวารีตลอดเม.ย.68
ช้อปคุ้ม
ลดแรง! ที่ “คิง เพาเวอร์ ศรีวารี” วันนี้ -30 เมษายน 2568 กับโปรดี ห้ามพลาด! Super Sale ลดครั้งใหญ่ สูงสุด
50% โดยไม่ต้องรอ ไม่ต้องบิน ก็ช้อปฟินได้ ทุกวัน
เจ้าของสินค้าแบรนด์ดังยอดนิยม ร่วมสร้างความแรงด้วยกันไม่ว่าจะเป็น BURBERRY, BVLGARI, ESTÉE LAUDER, GUCCI, ISSEY MIYAKE, JO MALONE,LANCÔME, LA MER, LA PRAIRIE, SISLEY, TOM FORD, VALENTINO, VERSACE, YSLและสินค้าอีกมากมาย
1.เครื่องสำอาง / สกินแคร์ 2.นาฬิกา / แว่นตา 3.เครื่องดื่มพรีเมียม 3.ขนม / ช็อกโกแลต 4. สินค้าไทย
พิเศษ !! สมาชิก คิง เพาเวอร์ ลด On-Top สูงสุด 20% ถ้ายังไม่เป็นสมาชิก สมัครฟรี NAVY! แล้วรับสิทธิ์ในการช้อปได้ทันที สะดวกทันใจ
ข่าวที่ 3-ททท.-เอ็กซ์พีเดียกรุ๊ปผนึกเพิ่มจุดขายเมืองน่าเที่ยวตลาดโลก
นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ททท.กับ
เอ็กซ์พีเดีย กรุ๊ป (Expedia Group) ลงนามหนังสือแสดงเจตจำนง (LOI)
ความร่วมมือพันธมิตรเชิงยุทธศาสตร์ระยะเวลา
3
ปี
มุ่งเจาะกลุ่มนักท่องเที่ยวคุณภาพสูงจากทั่วโลก
ส่งเสริมการเติบโตของเมืองน่าเที่ยว ช่วยผลักดันไทยสู่การเป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวระดับโลก
และเติบโตอย่างยั่งยืน ซึ่งทางเอ็กซ์พีเดีย กรุ๊ป มีเทคโนโลยีช่วยเสริมการเข้าถึงนักท่องเที่ยวกลุ่มเป้าหมายของไทย
การแลกเปลี่ยนข้อมูลและเทรนด์การท่องเที่ยวที่
ททท. สามารถนำมาใช้เป็นอินไซต์จัดกิจกรรมส่งเสริมตลาด
ด้วยวิธีนำเสนอสินค้าและบริการทางการท่องเที่ยวได้ตรงตามความต้องการของนักท่องเที่ยว
ประการสำคัญคือส่งเสริม
“การท่องเที่ยวเมืองน่าเที่ยวหรือเมืองรอง” โดย ททท. และเอ็กซ์พีเดีย กรุ๊ป
สามารถร่วมมือกันสร้างการรับรู้จุดหมายปลายทางใหม่
ๆ ให้นักท่องเที่ยว ซึ่งจะช่วยเพิ่มใช้จ่ายเงินและจำนวนนักท่องเที่ยวคุณภาพหลั่งไหลมาไทย
Mr. Greg Schulze
ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการพาณิชย์ บริษัท Expedia Group กล่าวว่า
ไทยเป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวสำคัญ ทางบริษัทยินดีได้ร่วมงานกับ
ททท.พัฒนาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวให้แข็งแกร่ง และใช้เครือข่ายทางการท่องเที่ยวของบริษัทแข็งแกร่งอยู่ระดับแนวหน้าของอุตสาหกรรม
มีฐานข้อมูลระดับโลกมาประยุกต์ใช้กับไทย เพื่อให้เกิดประโยชน์อย่างเต็มที่ร่วมมือกันในระยะยาว
สำหรับ
“เอ็กซ์พีเดีย กรุ๊ป” เป็นหนึ่งในบริษัทเทคโนโลยีการเดินทางชั้นนำของโลก
นำเสนอสินค้าและบริการท่องเที่ยวครบวงจรผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์
โดยมีเครือข่ายพันธมิตรโรงแรมและที่พักทั่วโลกกว่า 3 ล้านแห่งพร้อมข้อเสนอเที่ยวบิน
กิจกรรมหลายรูปแบบ บริการท่องเที่ยวครบ โดยมีแบรนด์หลัก ได้แก่ Expedia®,
Hotels.com® และ Vrbo®
การลงนามความร่วมมือ LO เป็นพันธมิตรเชิงยุทธศาสตร์ระยะเวลา
3 ปี ระหว่าง ททท. และ เอ็กซ์พีเรีย กรุ๊ป
ทั้งสองฝ่ายจะร่วมมือกันจัดกิจกรรมส่งเสริมตลาด เพื่อเพิ่มยอดนักท่องเที่ยวจองมาไทย
โดยมุ่งเน้นตลาดคุณภาพและใช้จ่ายทางการท่องเที่ยวสูง
การแลกเปลี่ยนข้อมูลและเทรนด์ท่องเที่ยว
ร่วมกันสร้างการเติบโตให้ท่องเที่ยวชุมชนในเมืองน่าเที่ยว ด้วยวิธีนำเสนอสินค้าและบริการของเมืองน่าเที่ยวผ่านแพลตฟอร์มของเอ็กซ์พีเรีย
ทั้งจัดเวิร์กชอปเสริมความรู้เพิ่มศักยภาพให้ผู้ประกอบการท้องถิ่น
ร่วมกันจัดกิจกรรมส่งเสริมตลาดโปรโมทเมืองน่าเที่ยว เพิ่มการรับรู้ และยอดการจองเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ
ททท. มั่นใจความร่วมมือกับเอ็กซ์พีเดีย
กรุ๊ป ครั้งนี้จะส่งเสริมไทยเป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวระดับโลก
เพิ่มช่องทางส่งเสริมการขายสินค้าและบริการท่องเที่ยวที่มีคุณภาพของไทย
กระจายการเดินทางไปสู่เมืองน่าเที่ยว
พร้อมยกระดับคุณภาพให้บริการและอำนวยความสะดวกสบายอย่างไร้รอยต่อ
และขับเคลื่อนอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยเติบโตอย่างยั่งยืนได้อย่างแน่นอน
ข่าวที่
4-บางจากร่วมGreen
Transitionปลุกธุรกิจสู่เศรษฐกิจคาร์บอนต่ำ
นางกลอยตา
ณ ถลาง รองกรรมการผู้จัดการใหญ่
งานบริหารความยั่งยืนและสื่อสารองค์กร บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า
ได้รับเชิญร่วมเสวนา The Great Green Transition ของธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) โดยมี นายชาติศิริ โสภณพนิช
กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) กล่าวเปิดงาน ที่โรงแรมสยามเคมปินสกี้
กรุงเทพฯ โดยมีผู้เข้าร่วมกว่า 600 คน มุ่งส่งเสริมและผลักดันให้ภาคธุรกิจมีศักยภาพเปลี่ยนผ่านธุรกิจสู่ธุรกิจสีเขียวและเศรษฐกิจคาร์บอนต่ำ
รองรับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ และคว้าโอกาสทางธุรกิจในยุคเศรษฐกิจใหม่
นางกลอยตาร่วมแลกเปลี่ยนมุมมองบนเสวนา
“The Great Green Transition: ธุรกิจต้องปรับตัวอย่างไร?”
กับ นายพีรพงศ์ กรินชัย ผู้บริหารสูงสุด สายงานวิศวกรรมกลาง บริษัท
เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) และนายมงคล ตั้งศิริวิช ประธานบริษัทดูแลประเทศไทย
ลาว และเมียนมา บริษัท ชไนเดอร์ จำกัด (มหาชน) โดยมี ดร. กอบศักดิ์ ภูตระกูล
กรรมการรองผู้จัดการใหญ่ และเลขานุการบริษัท ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) เป็นผู้ดำเนินรายการ
นางกลอยตา
กล่าวว่า การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศไม่ใช่เพียงวิกฤตที่ธุรกิจ ต้องเผชิญ
แต่คือโจทย์ใหม่ที่ท้าทายให้ทุกองค์กรต้องรู้ให้ลึกและใช้ให้เป็น
โดยเฉพาะเรื่องคาร์บอน ฟุตพริ้นท์
ซึ่งกำลังกลายเป็นตัวชี้วัดสำคัญในความสามารถในการแข่งขันของธุรกิจไทยในเวทีโลก
องค์กรที่สามารถวัด และเข้าใจปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้อย่างเป็นระบบ
จะมีความพร้อมในการวางแผนลดคาร์บอน อย่างมีประสิทธิภาพ
และสามารถขับเคลื่อนธุรกิจเข้าสู่ห่วงโซ่อุปทานคาร์บอนต่ำได้อย่างมั่นคง
ทั้งในด้านต้นทุน ความต้องการของลูกค้า และการปฏิบัติตามกฎระเบียบสากล
รองรับมาตรการทางการค้า เช่น CBAM
กลุ่มบริษัทบางจาก
ดำเนินธุรกิจโดยให้ความสำคัญเรื่องสมดุลในมิติต่าง ๆ
โดยยึดหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงตามพระราชดำริในหลวงรัชกาลที่ 9 เป็นแนวทางสำคัญในการบริหารองค์กรอย่างมีเหตุผล
เพื่อการเติบโตที่มั่นคงและยั่งยืน พร้อมปรับตัวรองรับการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงาน
ด้วยการลงทุนในกลุ่มธุรกิจ ที่หลากหลาย
และนำนวัตกรรมสีเขียวมาเสริมสร้างเศรษฐกิจคาร์บอนต่ำ
"ความท้าทาย” ของการเปลี่ยนผ่านสู่ธุรกิจสีเขียวคือโอกาสในการสร้างความเชื่อมั่นทางธุรกิจและขับเคลื่อน
สู่อนาคตที่ยั่งยืน ซึ่งต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน
ภายในงานยังจัดแสดงนิทรรศการ
Carbon Markets Club (CMC) เครือข่ายภาคเอกชนแห่งแรกของประเทศไทย
ก่อตั้งโดยบางจากฯ บีซีพีจี และพันธมิตร เพื่อส่งเสริมการซื้อขายคาร์บอนเครดิต
และการมีส่วนร่วมในการลดก๊าซเรือนกระจกอย่างเป็นรูปธรรม พร้อมนำเสนอกิจกรรมให้ความรู้และบริการต่าง
ๆ ของ CMC เช่น
เครื่องมือประเมินคาร์บอนฟุตพริ้นท์สำหรับองค์กร (CFO) แอปพลิเคชัน
MyCF สำหรับบุคคลทั่วไป
และแพลตฟอร์มที่ช่วยอำนวยความสะดวกในการซื้อขายคาร์บอนเครดิตอย่างโปร่งใสและเชื่อถือได้
ช่วงที่ 2 เตรียมเช็คอินสุขทันทีเที่ยวสงกรานต์ล้านนา“Water Festival 2025
เทศกาลวิถีน้ำ…วิถีไทย” ใน 2 จังหวัด “ลำพูน” 12-13 เม.ย.บริเวณตลาดนัดสงกรานต์ ถนนรถแก้ว และ “เชียงใหม่” 13-14 เม.ย.ที่วัดเจดีย์หลวง เย็นชุ่มฉ่ำกับภูมิปัญญาไทย แล้วฟัง “5ประโยชน์กินมะยงชิด-มะปรางหวาน” ผลไม้หน้าร้อนวิตามินเพียบ และฟังข่าวดี ๆ
ข่าวแรก “เที่ยวคนละครึ่ง3พันล้าน 1ล้านสิทธิ์”
ให้สิทธิ์จันทร์-ศุกร์ ข่าวที่สอง “AOTรับผู้โดยสารสงกรานต์”
คึกคัก 3 ล้านคน เพิ่ม 20.7 %
ท่องเที่ยว -สุขสงกรานต์“เชียงใหม่-ลำพูน”เย็นฉ่ำWater
Festival 12-14 เม.ย.
“เชียงใหม่-ลำพูน” ชวนขึ้นเหนือไปสนุกกับงานสงกรานต์
“Water
Festival 2025 เทศกาลวิถีน้ำ…วิถีไทย”
ชวนนักท่องเที่ยวไปสัมผัสมนต์เสน่ห์แห่งเมืองล้านนาสุดยิ่งใหญ่ฉลอง 10 ปี
พร้อมสืบสานทศวรรษแห่งความดีงาม “มรดกภูมิปัญญาไทยทางวัฒนธรรม” ของโลก
จัดภายใต้แนวคิด “มหาสงกรานต์ มหาสนุก” ช้อป ชิม ชมการแสดง การละเล่น
และภูมิปัญญาพื้นถิ่นล้านนาหลากหลายสาขาจากสล่ารุ่นครูสู่ยุวชนสล่าสืบสานต่อยอดมรดกวัฒนธรรมอย่างยั่งยืน เพื่อ “บอกเล่าความเป็นไทยไปทั่วโลก”
“จังหวัดเชียงใหม่”
จัดที่ “วัดเจดีย์หลวงวรวิหาร” อำเภอเมือง
ระหว่างวันที่ 12-14 เมษายน 2568 โดยมีกิจกรรมไฮไลต์ดังนี้
•
“กิจกรรมมงคล” ตักบาตรโชติกา พิธีห่มผ้าพระธาตุ
เข้าร่วมพิธีสวดสืบชะตาเพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต
อัญเชิญพระอัฏฐารสขึ้นขบวนแห่และร่วมขบวนไปยังวัดพระสิงห์
•
“กิจกรรมจุดผางประทีป” รอบพระธาตุเจดีย์หลวง
กราบสักการะมงคล 10 ประการ ที่วัดเจดีย์หลวงวรวิหาร
สายบุญสายมูต้องไม่พลาด
•
“กิจกรรมและการแสดงต่าง ๆ” เช่น กาดหมั้วครัวฮอม /กาดสล่า
โชว์หุ่นกระบอกจากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่
เพลิดเพลินกับการแสดงศิลปะพื้นบ้านจากชุมชนล้านนาและการแสดงจากเยาวชน
“จังหวัดลำพูน”
จัดที่ตลาดนัดสงกรานต์ ถนนรถแก้ว วันที่ 12 – 13 เมษายน 2568 ร่วมสรงน้ำพระพุทธรูปและกาดมั่ว
บริเวณถนนรถแก้ว ชมขบวนของดีเวียงลำพูน
ขบวนรณรงค์ด้านการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและส่งเสริมผู้ประกอบการสร้างสรรค์ในท้องถิ่น
บริเวณถนนเจริญราษฎร์และถนนอินทยงยศ ตั้งแต่โรงเรียนจักรคำคณาทร
ถึงวัดพระธาตุหริภุญชัย
งาน
“Water Festival 2025 เทศกาลวิถีน้ำ...วิถีไทย”
ยังได้จัดพร้อมกันทั่วประเทศ 4 ภาค 6 จังหวัด
ได้แก่
“ภาคกลาง”
ที่กรุงเทพมหานคร บนแลนด์มาร์คสำคัญทางประวัติศาสตร์
วัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร
วัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร วัดระฆังโฆสิตารามวรมหาวิหาร วัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร เอเชียทีคเดอะริเวอร์ฟร้อนท์
ท่ามหาราชท่าสุขสยาม ณ ไอคอนสยามท่าศาลเจ้ากวนอู (คลองสาน) คลองโอ่งอ่าง-วัดบพิตรพิมุขวรวิหาร
ปี 2568 ได้ขยายพื้นที่จัดไปในใจกลางเยาวราช “ไชน่าทาวน์
มาร์เก็ต เฉลิมบุรี”
“ภาคอื่น ๆ”
เลือกใช้แลนด์มาร์กแต่ละแห่งดังนี้ “ภาคใต้” ที่จังหวัดภูเก็ต
“ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ” ที่จังหวัดอุดรธานี และจังหวัดขอนแก่น
ร่วมสืบสานประเพณี
และวัฒนธรรมอันทรงคุณค่าของสงกรานต์ล้านนากับเทศกาล “Water
Festival 2025 เทศกาลวิถีน้ำ…วิถีไทย”
ครั้งที่ 10 ที่เชียงใหม่ 12-14
เมษายน และลำพูน 12-13 เมษายน ติดตามได้ทาง Facebook: Water Festival Thailand
โดยมีหน่วยงานที่ร่วมสนับสนุนการจัดงาน
“Water Festival 2025 เทศกาลวิถีน้ำ…วิถีไทย” จากหลายภาคส่วน
นำโดย กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)
กระทรวงวัฒนธรรม กองทัพเรือ กรุงเทพมหานคร
พันธมิตรท่าน้ำ
ชุมชนในพื้นที่การจัดงานทุกภูมิภาค เครือข่ายทุกภาคส่วน โดยมี บริษัท
ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) ในฐานะผู้ริเริ่มเป็นแกนหลักใหญ่การจัดงาน
สร้างความสุขให้นักท่องเที่ยวทุกคน
สุขภาพ –5 ประโยชน์ของการกิน
“มะยงชิด-มะปราง” ผลไม้หน้าร้อน
อากาศร้อนๆ
อาจทำให้ใครหลายคนรู้สึกไม่สบายตัว แต่เมืองไทยหน้าร้อนก็มีผลไม้ตามฤดูกาลได้ลิ้มชิมรสหลายชนิด
ตอนนี้เป็นช่วง “มะยงชิดกับมะปรางหวาน” กำลังมีผลผลิตสู่ตลาด เป็นผลไม้รสเปรี้ยวอมหวานรสชาติช่วยสร้างความสดชื่น
ประโยชน์
5 อย่างของมะยงชิด-มะปรางหวาน
1.
มีวิตามินซีสูง
ช่วยบำรุงฟันให้แข็งแรง และป้องกันโรคเลือดอออกตามไรฟัน ป้องกันหวัดได้เป็นอย่างดี
2.
มีวิตามินเอสูง ช่วยบำรุงสายตา ให้มองเห็นภาพชัดขึ้น
และมองภาพในที่มืดได้ดียิ่งขึ้น
3.
มีแคลเซียม และฟอสฟอรัส
ที่ช่วยบำรุงกระดูก และฟันให้แข็งแรง
4.
มีเบต้าแคโรทีน ช่วยบำรุงผิว
ลดความเสื่อมของเซลล์ในดวงตา ลดความเสี่ยงในการเป็นโรคต้อกระจก
เพิ่มระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายให้แข็งแรง
5.
มีสารต้านอนุมูลอิสระ
ที่ช่วยบำรุงผิวให้เปล่งปลั่ง และลดความเสี่ยงในการเป็นโรคมะเร็ง
วิธีเลือกซื้อมะยงชิด-มะปรางหวาน -แม้ผลไม้
2 ชนิดนี้จะมีสารอาหารที่ให้คุณประโยชน์ต่อร่างกายคล้ายกัน
และรูปร่างภายนอก รวมไปถึงรสชาติก็ใกล้เคียงกัน แต่อันที่จริงแล้วเป็นผลไม้คนละชนิด
“มะปรางหวาน”
มีผลรูปร่างคล้ายไข่นกพิราบ ผลสุกมีผิวสีส้ม มีสีเขียวที่ขั้วเล็กน้อย ส่วน “มะยงชิด”มีผลที่เรียวกว่ามะปรางเล็กน้อยรสชาติออกทางหวานมากกว่าเปรี้ยว
“การเลือก”
มะปรางหวาน และมะยงชิดให้มีรสชาติอร่อย ควรเลือก “ผลที่มีสีส้ม” บ่งบอกถึงความสุกราว
80% ถ้าสุกมากเกินไปเนื้อจะเละ ไม่แน่น และถ้า “ผิวมีสีเขียว”
มากเกินไปก็จะเปรี้ยวมากกว่าหวาน และอาจมีรสฝาดจาง ๆ ได้
ฟังข่าวท้ายชั่วโมง
ข่าวแรก
–เที่ยวคนละครึ่ง3,000ล้าน1ล้านสิทธิ์ปรับใหม่ให้แค่จันทร์-ศุกร์
นายจักรพล ตั้งสุทธิธรรม
ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า ความคืบหน้าโครงการ
"เที่ยวไทยคนละครึ่ง" กำลังรอสำนักงบประมาณพิจารณาการใช้งบ 3,000 ล้านบาท
เมื่อเสร็จเรียบร้อยแล้วทางกระทรวงฯ ก็จะนำเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรีพิจารณาอีกครั้ง
ล่าสุดหารือเรื่อง “การปรับเงื่อนไข” การใช้สิทธิโครงการเที่ยวไทยคนละครึ่ง โดยรัฐบาลจะช่วยสนับสนุนค่าใช้จ่าย
50% และประชาชนจ่ายเอง 50% ในการเดินทางท่องเที่ยวทั่วประเทศ 77 จังหวัด ในเมืองหลัก 22 จังหวัด และเมืองน่าเที่ยว 55
จังหวัด
“สิทธิ์”
ในวงเงิน 3,000 ล้านบาท จะมีทั้งหมด 1 ล้านสิทธิ ให้ประชาชนได้ใช้สิทธิได้คนละไม่เกิน
10 สิทธิ หรือ 10 ห้อง หรือ 10 คืน โดยอยู่ระหว่างเตรียมปรับเงื่อนไขใหม่กระจายใช้สิทธิให้ไปใช้พักในเมืองน่าเที่ยวมากขึ้นเบื้องต้นมี
2 แนวทาง
แนวทางที่ 1 สัดส่วนการใช้สิทธิระหว่างเมืองหลักกับเมืองรอง
กำหนด 5 : 5 สิทธิ
แนวทางที่ 2 สัดส่วนการใช้สิทธิระหว่างเมืองหลักกับเมืองรอง
กำหนด 4:6 สิทธิ
“เงื่อนไขใหม่อ” จะให้ประชาชนใช้สิทธิ์โครงการนี้เพื่อท่องเที่ยวได้เฉพาะ
“วันธรรมดา หรือวีคเดย์” ช่วงวันจันทร์-ศุกร์ เท่านั้น เช่น
ถ้าเข้าพักโรงแรมคืนวันศุกร์ใช้สิทธิถึงเช้าวันเสาร์ได้ แต่จะไม่ได้สิทธิพักค้างคืนวันเสาร์และวันอาทิตย์
หากต้องการเข้าพักในวันดังกล่าวนักท่องเที่ยวจะต้องจ่ายเงินเองทั้งหมด
ข่าวที่สอง
– AOT รับมือผู้โดยสารสงกรานต์คึกคัก 3 ล้านคน โตดี 20.7 %
นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ
รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2568
ระหว่าง 11 – 17 เมษายน 2568 การเดินทางทางอากาศ
โดยมอบหมายให้ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) “AOT” ดูแลอย่างใกล้ชิด ตามคาดการณ์จะมีผู้โดยสารใช้บริการสนามบินกว่า
3 ล้านคน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันกับปีก่อน 20.5% ขอขอให้บูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานที่ให้บริการในท่าอากาศยานจัดการอำนวยความสะดวกผู้โดยสารอย่างมีประสิทธิภาพ
บริการรวดเร็วทุกขั้นตอน และกระบวนการในส่วนผู้โดยสารขาเข้าและขาออกต้องคล่องตัว โดยจัดเจ้าหน้าที่ดูแลและให้ความช่วยเหลือผู้โดยสารเต็มที่
และเน้นย้ำการรักษามาตรฐานด้านความปลอดภัย
ดร.กีรติ กิจมานะวัฒน์
กรรมการผู้อำนวยการใหญ่บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) “AOT” กล่าวว่า ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ
ดอนเมือง เชียงใหม่ เชียงราย ภูเก็ต และหาดใหญ่
เตรียมแผนบริหารจัดการร่วมกับทุกหน่วยงานไว้คอยอำนวยความสะดวกและป้องกันความแออัดของผู้โดยสาร
เพิ่มเจ้าหน้าที่ เพื่อช่วยตรวจสอบเอกสารเดินทาง การรักษาความปลอดภัย
และทำความสะอาดพื้นที่สาธารณะ
AOT มีคำแนะนำให้ผู้โดยสารใช้บริการ
เครื่องเช็กอินอัตโนมัติ (CUSS) และเครื่องโหลดกระเป๋าอัตโนมัติ (CUBD),
ระบบไบโอเมตริก (Biometric) เพื่อลดเวลาตรวจสอบเอกสาร
ใช้บริการเช็คอินล่วงหน้า (Early Check-in) เพื่อลดความแออัดบริเวณเคาน์เตอร์เช็กอิน
คาดช่วงสงกรานต์ 2568
จะมีเที่ยวบินรวมกว่า 18,030 เที่ยว เพิ่มขึ้น 20.7%
แบ่งเป็น
• เที่ยวบินระหว่างประเทศ 10,442
เที่ยว เพิ่มขึ้น 25.8%
• เที่ยวบินภายในประเทศ 7,588
เที่ยว เพิ่มขึ้น 14.4%
คาดช่วงกรานต์จะจำนวนผู้โดยสารทั้งหมด 3
ล้านคน แบ่งเป็น
• ผู้โดยสารระหว่างประเทศ 1.86
ล้านคน เพิ่มขึ้น 20.9%
• ผู้โดยสารภายในประเทศ 1.14
ล้านคน เพิ่มขึ้น 19.9%
แต่ละสนามบินจะมีผู้โดยสารดังนี้ 1.สุวรรณภูมิ
1.4 ล้านคน เพิ่มขึ้น 11.9% 2.ดอนเมือง
824,786 คน เพิ่มขึ้น 30.3% 3.เชียงใหม่
232,057 คน เพิ่มขึ้น 45.1% 4.ภูเก็ต
404,831 คน เพิ่มขึ้น 17.1% และ
5.หาดใหญ่
90,796 คน เพิ่มขึ้น 47.7%
AOT ได้จัดที่จอดรถฟรีให้ผู้โดยสารเดินทางช่วงสงกรานต์
ระหว่าง 12-16 เมษายน 2568
• สนามบิน “สุวรรณภูมิ”
บริเวณลานจอดรถระยะยาวโซน C ดอนเมือง
บริเวณลานจอดรถยนต์หน้าอาคารจอดรถ 5 ชั้น
• สนามบินเชียงใหม่
บริเวณลานจอดข้างอาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ และ ภูเก็ต
บริเวณลานจอดหน้าอาคารสำนักงาน
ส่วน “มาตรการพกพาวเวอร์แบงก์”
บนเครื่องบิน เพื่อความปลอดภัย
ขอให้ผู้โดยสารตรวจสอบนโยบายของแต่ละสายการบินเกี่ยวกับโดยหลักเกณฑ์ทั่วไปคือ
ต่ำกว่า 100Wh หรือ 20,000 mAh สามารถนำขึ้นเครื่องได้ไม่เกิน
20 ชิ้น 100-160Wh หรือ
20,000-32,000 mAh สามารถ นำขึ้นเครื่องได้ไม่เกิน 2
ชิ้น และ หากเกิน 160Wh หรือ 32,000 mAh ห้ามนำขึ้นเครื่องทุกกรณี
ติดตามฟังรายการได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 11.00-12.00 น.ทาง สวท.FM 97.0 MHz.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น