โรงแรมไทยบุกออนไลน์4.0พลิกธุรกิจล้านล้าน
ตรุษจีนจ่อขึ้นค่าห้องพัก10%โกยรายได้ช่วงสั้น
คิงเพาเวอร์อัด4แคมเปญคืนเงินลูกค้าคุ้มสุดๆ
ททท.ฉลอง43ปีไทย-จีนจัดตรุษจีน13เมืองดัง
บางจากคว้ารางวัลอินเตอร์สุดยอดผู้นำธุรกิจ
เที่ยวสุขใจไปชมอุโมงค์ดอกไม้”ดอยอ่างขาง”
กินเพื่อสุขภาพ3มื้อ/วันดตามส่วน35-45-25
สนามบินเชียงใหม่ขอ4เดือนรื้อติดตั้งภายใน
เที่ยว”ไม้ดอก”ทั่วเมืองเชียงใหม่ตลอดก.พ.นี้
มาเลเซียจัดปีท่องเที่ยว63หวังดูด1.6แสนล้าน
แอร์พอร์ตลิงก์ขายบัตรคู่รักลิมิเต็ดเริ่ม5กพ.
สวัสดีวันอาทิตย์ที่ 4 กุมภาพันธ์ 2561 เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ในรายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังเรียลไทม์ได้ทางมือถือ และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen และบล็อกเกอร์ #gurutourza
ช่วงที่ 1 คุณศุภวรรณ ถนอมเกียรติภูมิ นายกสมาคมโรงแรมไทย (Thai Hotels Association :THA) นำทัพธุรกิจโรงแรมทั่วประเทศไทยที่มีกว่า 600,000 ห้อง หันใช้เทคโนโลยี “ดิจิตอลออนไลน์” นำธุรกิจเข้าสู่ยุค 4.0 เปิดตลาดการค้าขายห้องพักไร้พรมแดนอย่างสมบูรณ์แบบ รับกำลังซื้อมาแรงกลุ่มเดินทางอิสระทั้งคนไทยและต่างชาติ พร้อมทั้งส่งสัญญา”ตรุษจีน 2561” โรงแรมทั้งประเทศจะขยับขึ้นราคาห้องพัก 5-10 % ต้อนรับช่วงฤดูทำเงินการจองใช้ห้องพักหนาแน่น แต่จะขึ้นเพียงแค่ 1-2 สัปดาห์เท่านั้น แล้วจะกลับไปขายราคาปกติและมีโปรโมชั่นสลับกันไป เพื่อสนับสนุนรัฐบาลส่งเสริมปีการท่องเที่ยววิถีไทย เก๋ไก๋ อย่างยั่งยืน กระจายเม็ดเงินลงสู่ชุมชน
คุณศุภวรรณ ถนอมเกียรติภูมิ นายกสมาคมโรงแรมไทย (Thai Hotels Association :THA) เปิดเผยว่าในปี 2561 จะพุ่งเป้านำดิจิตอลเข้ามาเสริมทัพความแข็งแกร่งให้กลุ่มธุรกิจโรงแรมทั่วประเทศขานรับเทรนด์ของโลกที่มีการนำออนไลน์เข้ามาเป็นช่องทางการจองซื้อห้องพักรวมถึงคนไทยด้วยซึ่งเป็นพฤติกรรมของผู้ใช้บริการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว แต่ด้วยศักยภาพของโรงแรมในประเทศไทยมีไม่เท่ากัน ดังนั้นปีนี้การเปิด booking online เป็นหัวใจสำคัญที่จะต้องเพิ่มสัดส่วนให้ถึง 70 % ของการค้าขายห้องพัก ส่วนการจองผ่านตัวแทนหรือเอเย่นต์ก็ยังคงไว้บางส่วน
ช่องทางดิจิตอลออนไลน์ที่จะนำเข้ามาให้บริการอย่างเต็มที่ของผู้ประกอบการโรงแรมเมืองไทย ซึ่งโรงแรมเป็นการลงทุนขนาดใหญ่รวมกันทั้งประเทศเป็นอสังหาริมทรัพย์ที่มีมูลค่านับล้านล้านบาท และการหันมาเลือกใช้ช่องทางการค้าห้องพักผ่านออนไลน์เพื่อทำให้เกิดการขยายสู่ไทยแลนด์ 4.0 จะมีจุดเด่นคือ ความรวดเร็ว สะดวกสบาย เข้าถึงผู้บริโภคได้ง่ายและตรงกลุ่มเป้าหมาย ในเรื่องของราคานำเสนอขายทางออนไลน์มีทั้งข้อดีและข้อเสียผู้ประกอบการจะต้องตื่นตัวตลอดเวลา ต้องเพิ่มความเร่งและเฝ้าจับตาตลอดถึงยอดจองต่อเนื่อง เพื่อทำโปรโมชั่นหรือลดราคาห้องพักให้สอดคล้องกับความต้องการของลูกค้ารวมถึงการเพิ่มอัตราการเข้าพักเฉลี่ยให้เข้าเป้าหมาย ส่วนผู้บริโภคมีทางเลือกตามชอบ บริหารค่าใช้จ่ายตามต้องการ และเมื่อนำเทคโนโลยีออนไลน์เข้ามาทำการค้าห้องพักแล้วในภาพรวมของทั้งประเทศ จะเกิดปรากฎการณ์คือได้ตลาดลูกค้ากลุ่มเดินทางอิสระ F.I.T. เพิ่มขึ้นแทนที่ลูกค้าเดินทางเป็นหมู่คณะ G.I.T.อย่างน้อยจะเพิ่มได้เท่าตัวหรือสัดส่วน 60-40 นั่นเอง
ปี 2561 ประเทศไทยตั้งเป้ารายได้จากการท่องเที่ยวไว้สูงถึง 3.1 ล้านล้านบาท รายได้ส่วนนี้จะไหลเข้าสู่ธุรกิจโรงแรมในไทยไม่ต่ำกว่า 25 % เป็นรายได้รวมไม่ต่ำกว่า 7 แสนล้านบาท ต่อเนื่องไปถึงเอกชนที่จะกระจายการบริการให้ได้มาตรฐานเพิ่มขึ้นไปยังเมืองรองตามที่รัฐบาลกำลังพยายามปลุกกระแสการเดินทางเพื่อกระจายรายได้สู่ท้องถิ่นนั้น แต่ละพื้นที่มีความพร้อมไม่เท่าเทียมกัน เช่น ภาคเหนือ ลำปาง เชียงราย ภาคอีสาน หลายจังหวัด โรงแรมอาจจะพร้อมในระดับลดหลั่นกันไป แต่ถ้าเป็นภาคใต้ กระบี่ พังงา ศักยภาพใกล้เคียงกับภูเก็ตจนแทบจะเรียกเมืองรองไม่ได้
แต่อย่างไรก็ตามประเทศไทยคงจะต้องใช้เวลาสักระยะในการที่จะสร้างมาตรฐานความพร้อมในทุก ๆ ด้าน รวมถึงการลงทุนที่พักโรงแรมด้วย เพื่อทำให้เมืองรองเป็นแม่เหล็กดึงดูดความสนใจกำลังซื้อกลุ่มนักท่องเที่ยวคนไทยและต่างชาติเข้าไปเที่ยวและกระจายเงินสู่ท้องถิ่นได้ใกล้เคียงกัน เพราะอุปสรรคใหญ่อย่างในภาคอีสานแต่ละจังหวัดมีระยะการเดินทางไกลกันมาก ทั้งรัฐและเอกชนต้องพยายามช่วยกันทำเส้นทางเชื่อมโยงเพื่อทำให้นักท่องเที่ยวไม่รู้สึกถึงความน่าเบื่อตลอดทริปการท่องเที่ยวแถบอีสาน ซึ่งจะเริ่มปี 2561 ขณะเดียวกันก็มีหลายพยายามให้เอกชนเข้าไปลงทุนขยายโรงแรมเพิ่มในอีสานแต่ก็ยังติดปัญหาจะทำให้คุ้มทุนได้ภายในเวลาที่กำหนดได้หรือไม่
สำหรับการลงทุนโรงแรมในภาคใต้ ได้แก่ ภูเก็ต หรือภาคเหนือ เชียงใหม่ และตามเมืองท่องเที่ยวใหญ่ ก็ไม่น่าจะสร้างโรงแรมได้อีกแล้วเพราะปริมาณห้องพักหนาแน่นมาก รวมถึงแนวโน้มการลงทุนจะเปลี่ยนแปลงไปจากเคยสร้างโครงการละ 400-500 ห้อง ก็จะลดเหลือเพียงไม่เกิน 200 ห้อง
ศุภวรรณกล่าวว่าในการจัดทำกิจกรรมใหญ่ปลุกกระแสการท่องเที่ยวปี 2561 นั้นจะใช้วิธีร่วมมือสนับสนุนการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยเป็นหลัก เนื่องจากเป็นปีท่องเที่ยววิถีไทย เก๋ไก๋อย่างยั่งยืน ส่วนการที่รัฐบาลต้องการกระจารายได้สู่ชุมชนมีปัญหาสำคัญคือ “บริการห้องพัก” เพราะตามปกตินักท่องเที่ยวก็ยังคงต้องพักในเมืองแล้วไปเที่ยวในชุมชน ถ้าหากชุมชนมีกิจกรรม D.I.Y.หรือ ซีเอสอาร์ เพื่อที่จะทำให้นักท่องเที่ยวใช้จ่ายเพิ่มขึ้น ดังนั้นรายได้หลักเรื่องห้องพักก็ยังคงอยู่กระจุกอยู่ในเมือง สิ่งที่ชุมชนจะได้คือเงินจากการสร้างกิจกรรม
ส่วนสถานการณ์การลงทุนโรงแรมทั่วประเทศที่จดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมายมีประมาณ 300,000 ห้อง ส่วนห้องพักที่ยังไม่เข้าระบบถูกต้องตามกฎหมายเริ่มมีจำนวนน้อยลง เป็นผลมาจากทางสมาคมโรงแรมไทยได้รณรงค์มาสักปีครึ่งแล้ว มีโรงแรมที่รอใบอนุญาตถูกต้องในแต่ละพื้นที่ โดยเฉพาะในกรุงเทพมหานครเกือบ 1,000 แห่ง เป็นกลุ่มที่เข้าระบบแต่จะต้องรอการตรวจเพื่อปรับแก้ให้ถูกต้องตามมาตรฐาน
ขณะเดียวกันเรื่องการ “ปรับราคาห้องพัก” ปี 2561 เมื่อนำออนไลน์เข้ามาใช้มากขึ้น การขึ้นราคาห้องพักก็จะเป็นตามช่วงฤดูตามนิยม อาทิ เทศกาลตรุษจีน จะขยับขึ้นในระหว่าง 5-10 % เฉพาะในช่วงการเดินทางมีความต้องการใช้ห้องพักปริมาณมาก (peak season) 1-2 สัปดาห์เท่านั้น ซึ่งไม่สามารถขึ้นราคาต่อเนื่องได้ เปรียบเทียบแล้วจะคล้ายคลึงกับการทำกลยุทธ์ของสายการบินต้นทุนต่ำ Low Cost Airlines คือทำราคาขึ้น-ลงตามอุปสงค์หรือความต้องการของนักเดินทางกับอุปทานหรือการขายตามราคาให้สอดคล้องกัน ปัจจุบันโรงแรมที่ได้มาตรฐานทั่วประเทศก็ทำการค้าขายห้องพักในลักษณะเช่นนี้เหมือนกัน
อย่างไรก็ตามในวันที่ 28 มีนาคม 2561 ทางสมาคมโรงแรมไทย เตรียมจัดการเลือกตั้งกรรมการชุดใหม่ พร้อมกับเลือกนายกสมาคมไปพร้อม ๆ กัน ปัจจุบันคุณศุภวรรณ กรรมการบริหารของกลุ่มโรงแรม โซลทวิน ทาวเวอร์ รับตำแหน่งมาแล้ว 1 สมัย และมีแนวโน้มจะได้รับความไว้วางใจให้ทำงานต่ออีกเป็นสมัยที่ 2 ก็เป็นได้
ฟังข่าวต้นชั่วโมง
ข่าวที่ 1 “คิงเพาเวอร์อัด4แคมเปญคืนลูกค้าสุดคุ้ม”
กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ต้อนรับเดือนแห่งความรักให้คนไทยได้ช้อปอย่างคุ้มค่าเงินกับมหกรรมส่งเสริมการขายในคิง เพาเวอร์ ที่เป็นมากกว่าร้านค้าดิวตี้ฟรี
รายการแรก - ส่งเสริมการขายช็อป 1,000 บาท รับคืน 1,000 บาท ระหว่างวันนี้ – 28 กุมภาพันธ์ 2561 ที่ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ เท่านั้น สำหรับพาสปอร์ตไทย และสมาชิกบัตรคิง เพาเวอร์ซื้อสินค้าครบ 1,000 บาทขึ้นไป รับคืนทันที คูปองส่วนลด 1,000 บาท สำหรับซื้อสินค้า 5,000 บาทขึ้นไปจำกัด 500 ท่านแรก / วัน พิเศษ 16 – 18 กุมภาพันธ์ 2560 รับเพิ่ม Gift Voucher 500 บาท (1 สิทธิ์ / ท่าน ตลอดรายการ)
รายการที่ 2 -ส่งเสริมการขายรับ Gift Voucher สูงสุด 30,000 บาท ระหว่างวันนี้ – 28 กุมภาพันธ์ 2561 ที่ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ พัทยา และ ภูเก็ต สมาชิกบัตรคิง เพาเวอร์ ซื้อสินค้าครบทุก 20,000 บาท (สุทธิ) รับคืน Gift Voucher 2,000 บาท และพิเศษ ซื้อสินค้าครบ 200,000 บาทขึ้นไป (สุทธิ) รับเพิ่ม Gift Voucher 10,000 บาท ด้วยกติกา
จำกัดยอดซื้อสินค้าสูงสุด 200,000 บาท หรือ รับคืน Gift Voucher สูงสุด 30,000 บาท / ท่าน / วัน
รายการที่ 3 - ส่งเสริมการขายฟรี iPhone X ระหว่างวันนี้ – 28 กุมภาพันธ์ 2561 ที่ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ
สมาชิกบัตรคิง เพาเวอร์ ซื้อสินค้าครบ 600,000 บาทขึ้นไป (สุทธิ) รับ iPhone X (64 GB) 1 เครื่องสำหรับ 50 ท่านแรก เท่านั้น กติกาเฉพาะสินค้าที่ร่วมรายการ ตรวจสอบสินค้าที่ร่วมรายการเพิ่มเติมที่จุดขาย
รายการที่ 4 -ส่งเสริมการขายรับทริปท่องเที่ยวภูฏาน สำหรับ Top Spender ระหว่างวันนี้ – 31 มีนาคม 2561 สมาชิกบัตรคิง เพาเวอร์ ที่สะสมยอดซื้อสินค้าครบ 2,000,000 บาทขึ้นไป (สุทธิ) สูงสุด 10 ท่านแรก ที่ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ ศรีวารี พัทยา และ ภูเก็ตรับทริปท่องเที่ยวประเทศภูฎาน (1 รางวัล / 2 ที่นั่ง) โดยสงวนสิทธิ์ตลอดรายการ สมาชิก 1 คน รับได้เพียง 1 รางวัล ประกาศผลผู้ที่ได้รับรางวัลภายในวันที่ 20 เมษายน 2561
ไฮไลต์ในการช้อปคิง เพาเวอร์ ทุกรายการส่งเสริมการขายระหว่างวันนี้– 28 กุมภาพันธ์ 2561 ลูกค้าสัญชาติไทย และสมาชิกบัตรคิง เพาเวอร์ รับเครดิตเงินคืนสูงสุด 5% หรือใช้คะแนนแลกรับเครดิตเงินคืนสูงสุด 15% เมื่อช็อปผ่านบัตรเครดิตที่ร่วมรายการ
สอบถามเพิ่มที่ คอล เซ็นเตอร์ 1631 หรือดูได้ที่ www.kingpower.com
ข่าวที่ 2 “ททท.จัดตรุษจีน13จังหวัดฉลองสัมพันธ์43ปี
นายสันติ ชุดินธรา รองผู้ว่าการด้านตลาดเอเชียและแปซิฟิกใต้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) พร้อมด้วย Ms. Lan Suhong (หลัน ซูหง)ที่ปรึกษาด้านวัฒนธรรม สถานเอกอัครราชทูต สาธารณรัฐประชาชนจีน ประจำประเทศไทย เตรียมร่วมกันจัดเทศกาลตรุษจีนในประเทศไทย ประจำปี 2561 ในโอกาสครบรอบ 43 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-จีน ททท.จะได้ร่วมกับทางกระทรวงวัฒนธรรมสาธารณรัฐประชาชนจีน และสถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีน ประจำประเทศไทย จัดงานเทศกาลตรุษจีนใน 13 พื้นที่ ได้แก่ กรุงเทพมหานคร ภูเก็ต นครราชสีมา ตรัง สุพรรณบุรี ราชบุรี เพชรบุรี นครสวรรค์ อำเภอหาดใหญ่ (สงขลา) เชียงใหม่ อุดรธานี พระนครศรีอยุธยา และชลบุรี
พร้อมทั้งจะกล่าวถึงการจัดกิจกรรมแลกเปลี่ยนโดยทางกระทรวงวัฒนธรรมสาธารณรัฐประชาชนจีนจะได้นำคณะศิลปินจีนเดินทางไปแสดงตามจังหวัดต่าง ๆ เพื่อเผยแพร่วัฒนธรรมอันดีงามตามจังหวัดต่าง ๆ ทั่วไทย ตลอดเทศกาลตรุษจีนนี้
ส่วน ททท.เตรียมจัดให้ชมบูธอาหารมงคลและข้อมูลประชาสัมพันธ์ตรุษจีนทุกพื้นที่ พร้อมโชว์การแสดงเชิดสิงโตมงคล ที่ขึ้นชื่อจากนครสวรรค์ ในระหว่างงานแถลงข่าว “เทศกาลตรุษจีนประเทศไทย ประจำปี 2561” ในวันจันทร์ที่ 5 กุมภาพันธ์ 2561 เวลา 13.00 น. ณ ห้องโถง ชั้น 1 อาคารการททท. สำนักงานใหญ่ ถนนเพชรบุรีตัดใหม่ กรุงเทพฯ
ข่าวที่ 3 “บางจากคว้าอีกรางวัลอินเตอร์ผู้นำพลังงาน”
นายชัยวัฒน์ โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ล่าสุดนำทีมขึ้นรับรางวัล Most Sustainable Renewable Energy Company – Thailand ในงาน International Finance Magazine Awards 2017 หรือ IFM ซึ่งเป็นรางวัลที่มอบให้กับบุคคลและองค์กรในอุตสาหกรรมการเงินระหว่างประเทศที่สร้างความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญและเพิ่มมูลค่าให้กับอุตสาหกรรม
โดยบริษัท บางจากฯ เป็นองค์กรที่ให้ความสำคัญด้านพลังงานหมุนเวียน มีมาตรฐานสูงสุดในด้านของนวัตกรรมและผลการดำเนินงาน มีการกำกับดูแลกิจการที่ดีและมีความรับผิดชอบต่อสังคม ณ Marina Bay Sands Convention Center ประเทศสิงคโปร์ เมื่อเร็วๆ นี้
ช่วงที่ 2 กุมภาพันธ์ปีนี้ชวนกันไปเติมความสุขบนดอย “อ่างขาง อำเภอฝาง เชียงใหม่” ดื่มด่ำกับโดมดอกกุหลาบ หุบเขานางพญาเสือโคร่ง และดงดอกไม้หนาวหลากหลายสายพันธุ์กำลังชูช่อรอนักท่องเที่ยวไปแชะแชร์ชม ส่วนการดูแลสุขภาพต้องมาดูวิธีกินอาหารแต่ละวันสามสัดส่วนแต่ละมื้อแล้วจะอายุยืนแน่นอน ส่งท้ายด้วย 5 ข่าวฮ็อต เริ่มจากสนามบินเชียงใหม่ขอ 4 เดือนปิดซ่อมภายในอาคาร จากนั้น ทอท.ก็เอ็มโอยูกับเบลเยี่ยมสุวรรณภูมิเป็นประตูคาร์โก้สู่ยุโรปช่วยเกษตรกรไทยส่งออกสินค้า ทางด้านเมืองเชียงใหม่ ททท.กอดคอรัฐและเอกชนทำให้กุมภาพันธ์เป็นเดือนแห่งการท่องเที่ยวไม้ดอกได้ทุกแห่ง กลับมาในกรุง “แอร์พอร์ต ลิงก์” ทำเก๋ออกบัตรลวดลายลิมิเต็ดวาเลนไทน์ขายแค่ 500 คู่ เริ่มวันจันทร์ที่ 5 กุมภาพันธ์นี้ ข่าวจากเพื่อนบ้านที่น่าสนใจคือ รัฐบาลมาเลเซียประกาศจัดปีท่องเที่ยว 2563 ตั้งเป้าปั๊มรายได้จากทั่วโลก 1.6 แสนล้านริงกิต นำร่องปี 2561 รัฐยะโฮห์ผุดสวนสนุกขนาดใหญ่สุดในโลก
@เที่ยวโดมกุหลาบอ่างขางดงดอกไม้เมืองหนาว
นักท่องเที่ยวที่ชอบเสียงเพลงจากธรรมชาติซึ่งเกิดจากใบไม้เสียดสีส่งเสียงเป็นจังหวะตามแรงลม หรือจะเป็นดอกไม้เมืองหนาวหลากสีดังภาพวาด ต้องห้ามพลาดไปเยือน “สถานีเกษตรหลวงอ่างขาง” ต.แม่งอน อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ อันเป็นสถานีวิจัยแห่งแรกของโครงการหลวง เมื่อครั้งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จทางเฮลิคอปเตอร์ทอดพระเนตรเห็นทุ่งดอกฝิ่นและหมู่บ้านของชาวเขาเผ่ามูเซอ พระองค์จึงมีพระราชดำรัสที่จะแปลงทุ่งฝิ่นให้เป็นแปลงเกษตรเมื่อ พ.ศ.2512 โดยใช้สถานีวิจัยฯ นี้ มุ่งหาผลิตผลที่มีคุณค่ามาทดแทนการปลูกฝิ่นของชาวเขา และทำการส่งเสริมพัฒนาอาชีพเกษตรกรรมแก่ชาวเขาในบริเวณใกล้เคียง
ผ่านประตูเข้าสู่ด้านในมานิดเดียวก็จะเห็น “ทุ่งดอกไม้” ละลานตาในทุ่งกว้าง มีทั้งพันธุ์ไม้เมืองหนาวนานาชนิดชูช่อเต็มไปหมด ด้านหลังเห็นวิวภูเขาสลับซับซ้อน ท่ามกลางอากาศเย็นสบาย ส่วนบริเวณด้านข้างมี “โดมกุหลาบอ่างขาง” และ “ศูนย์จำหน่ายผลิตภัณฑ์โครงการหลวง” ให้ชม ชิม ช็อป ตามอัธยาศัย
บริเวณที่รับความนิยมมากที่สุดอีกจุดคือ “สวนซากุระและนางพญาเสือโคร่ง” ส่วนด้านบนโครงการฯ สองข้างถนนมีต้น “เมเปิล” ปลูกไว้สวยงาม รวมถึงดอกไม้เมืองหนาวอีกหลายสายพันธุ์
รับรองได้เลยว่าทุกครั้งที่มีโอกาสไปถึง “สถานีเกษตรหลวงอ่างขาง” จะต้องได้เห็นภาพเหล่านี้ตลอดเวลา จะต่างกันก็ตรงไม้ดอกแต่ละสายพันธุ์จะสลับกันมาต้อนรับนักท่องเที่ยว สอบถามการท่องเที่ยวเกษตรหลวงอ่างขางฯ ได้ที่โทร.053-450-107-9 หรือ www.angkhang.com
@กินอาหารอย่างให้พอเหมาะกับสุขภาพ
นักโภชนาการศาสตร์ แนะนำการบริโภคอาหารของเราในแต่ละวัน สิ่งแรกในการปฏิบัติคือไม่ควรให้หิวจัดหรืออิ่มจัด และ “อาหารเช้าต้องดี อาหารเที่ยงต้องอิ่ม อาหารเย็นต้องน้อย” ปริมาณมื้อเช้าร้อยละ 35 มื้อเที่ยงร้อยละ 40 มื้อเย็นร้อยละ 25 โบราณกล่าวว่า “มื้อเย็นลดน้อยหน่อย ชีวิตยืนยาวถึงเก้าสิบ” เป็นการเน้นถึงปริมาณอาหารมื้อเย็น ควรอยู่ในปริมาณที่น้อยเมื่อเทียบกับมื้ออื่น
เพื่อลดการทำงานของระบบการย่อยอาหาร ป้องกันการตกค้างของอาหารในกระเพาะอาหาร ลำไส้ ป้องกันภาวะอ้วน ป้องกันการนอนหลับไม่สนิท ลดการรบกวนภาวะพักผ่อนฟื้นฟูของร่างกาย ซึ่งเป็นพื้นฐานของการบำรุง ดูแลสุขภาพ เพื่อให้เกิดอายุยืนยาว นอกจากนี้หลังอาหารใหม่ๆ ไม่ควรนอนหลับทันที
ฟังข่าวท้ายชั่วโมง
ข่าวแรก “ทอท.MOUเบลเยี่ยมทำสนามบินคาร์โก้ดันส่งออกไทย”
นายนิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) “ทอท.” กล่าวว่าได้นำทีมบริหารร่วมเอ็มโอยูกับ Mr.Luc Partoune, CEO of Liege Airport ซึ่งเป็นผู้บริหารท่าอากาศยาน Liege S.A. เบลเยียม มีความโดดเด่นในบริการด้านการขนส่งสินค้าทางอากาศเป็นหลักติดอันดับ 8 ของทวีปยุโรป จึงร่วมมือกับท่าอากาศยานต่างประเทศลงนามทำ Sister Airport ให้สอดคล้องตามแผนแม่บทด้านกิจการระหว่างประเทศของ ทอท. (AOT International Business Development Master Plan) ปีงบประมาณ 2561 – 2567 เร่งพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ พร้อมร่วมมือกันในการแลกเปลี่ยนข่าวสารข้อมูล การดำเนินกิจกรรม การตลาดและส่งเสริมการขายร่วมกัน และประชุมร่วมกันเป็นประจำ
ส่วนประโยชน์จากการร่วมลงนามกับ Liege Airport S.A. ครั้งนี้จะทำให้ ทอท.ได้มีโอกาสหารือเกี่ยวกับการเตรียมโครงสร้างพื้นฐานเฉพาะของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ในด้านการขนส่งสินค้าทางอากาศไปยังทวีปยุโรป เพื่อลดความเสี่ยงจากการถูกส่งสินค้ากลับจากประเทศปลายทาง ตลอดจนสอดคล้องกับเป้าหมายของ ทอท.ที่จะจัดตั้งศูนย์กลางการขนส่งสินค้าทางอากาศที่ได้รับการรับรอง (Certified Hub) ศูนย์กลางด้านการค้าทางอิเล็กทรอนิกส์ (E-Commerce Hub) และศูนย์กลางขนส่งสินค้าเน่าเสียง่าย (Perishable Hub) ในอนาคต เพื่อให้สามารถรองรับความท้าทายและแนวโน้มทางธุรกิจในอุตสาหกรรมการขนส่งทางอากาศ รวมทั้งสภาพแวดล้อมและบริบททางธุรกิจที่มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา สร้างความมั่นคง และมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจให้ประเทศด้วย
โดย ทอท. ได้ร่วมกับบริษัท Euroavia International ผู้ให้บริการจัดงานและการประชุมต่างๆ ระดับโลก จัดการประชุม Asia Air Cargo Summit 2018 ระหว่าง 29-31 มกราคม 2561 ณ โรงแรม The Conrad Bangkok กรุงเทพฯ สอดคล้องกับทางสมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ (International Air Transport Association : IATA) คาดว่ามูลค่าการขนส่งสินค้าทางอากาศปี 2561 จะเติบโต 4 % และปริมาณการขนจะเพิ่ม 4.5 % และในปีงบประมาณ 2560 (ตุลาคม 2559 - กันยายน 2560) สนามบินหลักของ ทอท.6 แห่งได้แก่ สุวรรณภูมิ ดอนเมือง ภูเก็ต เชียงใหม่ หาดใหญ่ และแม่ฟ้าหลวง เชียงราย มีสินค้าและไปรษณียภัณฑ์เข้า – ออก รวมทั้งสิ้น 1.57 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 11.89 % สุวรรณภูมิทำได้มากสุด 1.42 ล้านตัน เติบโตเพิ่ม12.45 %
ข่าวที่สอง “สนามบินเชียงใหม่ขอ4เดือนรื้อติดตั้งภายในใหม่”
นาวาอากาศตรี มณธนิก รักงาม ผู้อำนวยการท่าอากาศยานเชียงใหม่ ทอท.กล่าวว่า รายงานว่า ช่วง 4 เดือนนี้ระหว่างวันนี้- 1 พฤษภาคม 2561 สนามบินเชียงใหม่ขอให้ผู้โดยสารเผื่อเวลาการเดินทางมายังสนามบิน เนื่องจากจะรื้อถอนและติดตั้งบันไดเลื่อนจำนวน 4 ตัว ภายในอาคารผู้โดยสาร ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการให้บริการ จึงขอแนะนำผู้โดยสารให้เผื่อเวลาในการเดินทางมายังสนามบินเร็วขึ้นเพื่อป้องกันการพลาดเที่ยวบิน เนื่องจากจะต้องติดตั้งบันไดเลื่อนใหม่ เพื่อทดแทนของเดิมที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน จำนวน 4 ตัว ภายในอาคารผู้โดยสารภายในประเทศ ในช่วงระหว่างดำเนินการได้ติดตั้งป้ายประชาสัมพันธ์ พร้อมจัดเจ้าหน้าที่ Airport Help คอยอำนวยความสะดวกผู้โดยสาร ตลอดจนแนะนำผู้โดยสารในการเลือกใช้บันไดอื่นในบริเวณใกล้เคียง ระหว่างติดตั้งบันไดเลื่อนใหม่บริเวณ 4 จุด ได้แก่
(1) บันไดเลื่อนขาลง ห้องผู้โดยสารขาเข้าภายในประเทศ (2) บันไดเลื่อนขาขึ้นด้านทิศใต้ (ประตูทางเข้าอาคารหมายเลข 5) (3) บันไดเลื่อนขาลงไปยัง Bus Gate อาคารผู้โดยสารภายในประเทศ และ (4) บันไดเลื่อนขาขึ้นด้านทิศเหนือ (ประตูทางเข้าอาคารหมายเลข 2)
แบ่งการติดตั้งออกเป็น 2 ช่วง ได้แก่ วันที่ 24 มกราคม – 10 มีนาคม 2561 เฉพาะช่วงเวลากลางคืน จะดำเนินการปิดกั้นพื้นที่ เพื่อรื้อถอนและติดตั้งบันไดเลื่อนขาลงห้องผู้โดยสารขาเข้าภายในประเทศ และบันไดเลื่อนขาขึ้นด้านทิศใต้ (ประตูทางเข้าอาคารหมายเลข 5)
ช่วงที่ 2 วันที่ 11 มีนาคม 2561- 1 พฤษภาคม 2561 เฉพาะช่วงเวลากลางคืน จะปิดกั้นพื้นที่บริเวณบันไดเลื่อนขาลงไปยัง Bus Gate อาคารผู้โดยสารภายในประเทศ และบันไดเลื่อนขาขึ้น ด้านทิศเหนือ (ประตูทางเข้าอาคารหมายเลข 2)
ข่าวที่สาม “ตลอดก.พ.ชวนเที่ยวเทศกาลไม้ดอกทั่วเชียงใหม่”
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานเชียงใหม่ รายงานว่า ร่วมกับจังหวัดเชียงใหม่ องค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ เทศบาลนครเชียงใหม่ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (สสปน.) (องค์การมหาชน) องค์กรภาครัฐ เอกชน จัดเดือนแห่งดอกไม้ และเดือนแห่งความรัก ตลอดเดือนกุมภาพันธ์ ภายใต้แนวคิด “Chiang Mai Blooms 2018” ได้รวบรวมเอากิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับดอกไม้ทำเป็นปฏิทินท่องเที่ยว ประชาสัมพันธ์ ผ่านทางออนไลน์ www.chiangmaiblooms.com พร้อมแนะนำการท่องเที่ยว 3 เส้นทาง โดย ททท. เชียงใหม่ จัดแคมเปญ “Chiang Mai Blooms 2018” เน้นสร้างประสบการณ์และความประทับใจให้แก่นักท่องเที่ยวในช่วงเดือนแห่งดอกไม้ ควบคู่กับส่งเสริมอาชีพกระจายรายได้สู่ท้องถิ่น และชุมชน ให้เกษตรกรผู้ปลูกไม้ดอก ไม้ประดับ ไม้ผล
เป็นการจัดงานต่อเนื่องจาก มหกรรมไม้ดอกไม้ประดับ ครั้งที่ 42 อย่างยิ่งใหญ่ สวยงามตระการตา ภายใต้แนวคิด “หมื่นแสนมวลบุปผา งามตาทั่วเวียงพิงค์” ระหว่าง 2 – 4 กุมภาพันธ์ 2561 ณ สวนสาธารณะหนองบวกหาด ลานอเนกประสงค์ข่วงประตูท่าแพ และเชิงสะพานนวรัฐ
นายปวิณ ชานิประศาสน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า ปีนี้การจัดงานมหกรรมไม้ดอกไม้ประดับเพื่อตอกย้ำภาพลักษณ์เชียงใหม่เป็นเมืองแห่งดอกไม้นานาพันธุ์ที่สวยงาม และเบ่งบานตลอดทั้งปี มีเอกลักษณ์ สร้างสรรค์ประสบการณ์ด้านการท่องเที่ยวที่จะทำให้เป็นปีระดับนานาชาติ “Flower Festival of The Year” เพราะเมื่อปี 2558 องค์กรระดับสากล International Garden Tourism Network ยกย่อง ชาวเชียงใหม่จึงตั้งใจร่วมกันผลักดันให้งานนี้เป็นงานประจำปีนานาชาติ (World Event) ส่งผลให้เชียงใหม่เป็นจุดหมายปลายทางระดับโลกของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ
ข่าวที่สี่ “มาเลเซียประกาศปีท่องเที่ยว’63หวังโกย1.6แสนล้านริงกิต”
ดาโต๊ะ ซรี โมฮัมเหม็ด นาซรี อับดุล อซิส รัฐมนตรีกระทรวงการท่องเที่ยวและวัฒนธรรมแห่งประเทศมาเลเซีย นำคณะเข้าร่วม ASEAN Tourism Forum หรือ ATF 2018 ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ จัดขึ้นที่เชียงใหม่ ภายใต้แนวคิด ‘ASEAN – Sustainable Connectivity, Boundless Prosperity’ พร้อมทั้งได้ประกาศแคมเปญการท่องเที่ยวใหม่สุดยิ่งใหญ่ ‘Visit Malaysia Year 2020’ ที่ตั้งเป้าเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกกว่า 36 ล้านคน
รัฐบาลมาเลเซียมั่นใจโปรเจ็กต์ Visit Malaysia Year 2020 จะดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกจากการลงนามความร่วมมือกับหลายสายการบิน ทั้งสิงคโปร์ แอร์ไลน์ส เอทิฮัดแอร์เวย์ส เอมิเรตส์ การตาร์แอร์เวย์ส และเคแอลเอ็ม รอยัล ดัทช์ แอร์ไลน์ส กระตุ้นยอดนักท่องเที่ยวจีนให้เดินทางเข้ามาประเทศมากขึ้น โดยยกเว้นวีซ่าและนำระบบ e-visa เข้ามาใช้ ตั้งเป้าปี 2563 อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวจะสร้างเม็ดเงินกว่า 1.68 แสนล้านริงกิต
ซึ่งการประกาศปีท่องเที่ยวมาเลเซียจะเกิดขึ้นพร้อมกับการเป็นเจ้าภาพจัดงาน Asia-Pacific Economic Cooperation Summit และ Commonwealth Heads of Government Meeting ในปี 2020
ส่วนภายในงานATF 2018 ที่เชียงใหม่ ทางมาเลเซียยังได้เปิดตัวแหล่งท่องเที่ยวใหม่ ‘Desaru Coast Adventure Waterpark’ หนึ่งในสวนน้ำที่ใหญ่ที่สุดในโลก ที่นักท่องเที่ยวไม่เพียงสนุกสนานกับกิจกรรมความสนุกมากมาย แต่ยังได้สัมผัสความอุดมสมบูรณ์ทางธรรมชาติของรัฐยะโฮห์ คาดปี2561 ธีมพาร์คใหม่แห่งนี้จะสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวกว่า 28 ล้านคน
ข่าวที่ห้า “แอร์พอร์ตลิงก์ทำเก๋ขายบัตรลิมิเต็ดวาเลนไทน์500คู่”
นายวิสุทธิ์ จันมณี กรรมการ และรักษาการกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด หรือผู้ให้บริการรถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ เปิดเผยว่า เพื่อเป็นการต้อนรับเทศกาลแห่งความรัก “วันวาเลนไทน์” ได้จัดแคมเปญจำหน่ายบัตรสมาร์ทพาสประเภทบุคคลทั่วไปลายพิเศษ “Limited Love Edition” หรือ “บัตรคู่รัก” จำกัดเพียง 500 คู่ (1,000 ใบ) เท่านั้น จะเริ่มจำหน่าย 5 กุมภาพันธ์ 2561 ที่ห้องจำหน่ายตั๋วทั้ง 8 สถานี ทั้งนี้บัตรสมาร์ทพาสลายพิเศษดังกล่าวมีข้อกำหนด และเงื่อนไขการใช้งานเช่นเดียวกับบัตรสมาร์ทพาสประเภทบุคคลทั่วไป (Adult Card) ผู้โดยสารที่เปิดบัตรสมาร์ทพาสประเภทบุคคลทั่วไปลายพิเศษ “Limited Love Edition” ระหว่าง 5 – 12 กุมภาพันธ์ 2561 หรือในสถานีอื่นที่ไม่ใช่สถานีพญาไท สามารถนำบัตรมาติดต่อขอรับของขวัญสุดพิเศษภายในกิจกรรมได้เช่นกัน
วันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2561 ตั้งแต่ 07.00 - 19.00 น. ที่แอร์พอร์ต เรล ลิงก์ สถานีพญาไท บริษัทจะจัดกิจกรรมเกี่ยวกับบัตรสมาร์ทพาสประเภทบุคคลทั่วไปลายพิเศษดังกล่าว ซึ่งผู้โดยสารที่ซื้อบัตรในงานจะได้รับบัตรชมภาพยนตร์เครือเมเจอร์ และอีจีวี ฟรี 2 ใบ (มีจำนวนจำกัด) พร้อมของขวัญพิเศษจากรถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล ลิงก์
สอบถาม Call Center 1690 หรือ www.srtet.co.th , www.facebook.com/AirportRailLink และ Twitter : Airport Rail Link
แล้วพบกันใหม่ในวันเสาร์และอาทิตย์ ที่ 11-12 กุมภาพันธ์ 2561 เวลา 11.00 - 12.00 น.ทาง FM 97.0 MHz.
ตรุษจีนจ่อขึ้นค่าห้องพัก10%โกยรายได้ช่วงสั้น
คิงเพาเวอร์อัด4แคมเปญคืนเงินลูกค้าคุ้มสุดๆ
ททท.ฉลอง43ปีไทย-จีนจัดตรุษจีน13เมืองดัง
บางจากคว้ารางวัลอินเตอร์สุดยอดผู้นำธุรกิจ
เที่ยวสุขใจไปชมอุโมงค์ดอกไม้”ดอยอ่างขาง”
กินเพื่อสุขภาพ3มื้อ/วันดตามส่วน35-45-25
สนามบินเชียงใหม่ขอ4เดือนรื้อติดตั้งภายใน
เที่ยว”ไม้ดอก”ทั่วเมืองเชียงใหม่ตลอดก.พ.นี้
มาเลเซียจัดปีท่องเที่ยว63หวังดูด1.6แสนล้าน
แอร์พอร์ตลิงก์ขายบัตรคู่รักลิมิเต็ดเริ่ม5กพ.
สวัสดีวันอาทิตย์ที่ 4 กุมภาพันธ์ 2561 เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ในรายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังเรียลไทม์ได้ทางมือถือ และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen และบล็อกเกอร์ #gurutourza
ช่วงที่ 1 คุณศุภวรรณ ถนอมเกียรติภูมิ นายกสมาคมโรงแรมไทย (Thai Hotels Association :THA) นำทัพธุรกิจโรงแรมทั่วประเทศไทยที่มีกว่า 600,000 ห้อง หันใช้เทคโนโลยี “ดิจิตอลออนไลน์” นำธุรกิจเข้าสู่ยุค 4.0 เปิดตลาดการค้าขายห้องพักไร้พรมแดนอย่างสมบูรณ์แบบ รับกำลังซื้อมาแรงกลุ่มเดินทางอิสระทั้งคนไทยและต่างชาติ พร้อมทั้งส่งสัญญา”ตรุษจีน 2561” โรงแรมทั้งประเทศจะขยับขึ้นราคาห้องพัก 5-10 % ต้อนรับช่วงฤดูทำเงินการจองใช้ห้องพักหนาแน่น แต่จะขึ้นเพียงแค่ 1-2 สัปดาห์เท่านั้น แล้วจะกลับไปขายราคาปกติและมีโปรโมชั่นสลับกันไป เพื่อสนับสนุนรัฐบาลส่งเสริมปีการท่องเที่ยววิถีไทย เก๋ไก๋ อย่างยั่งยืน กระจายเม็ดเงินลงสู่ชุมชน
คุณศุภวรรณ ถนอมเกียรติภูมิ นายกสมาคมโรงแรมไทย (Thai Hotels Association :THA) เปิดเผยว่าในปี 2561 จะพุ่งเป้านำดิจิตอลเข้ามาเสริมทัพความแข็งแกร่งให้กลุ่มธุรกิจโรงแรมทั่วประเทศขานรับเทรนด์ของโลกที่มีการนำออนไลน์เข้ามาเป็นช่องทางการจองซื้อห้องพักรวมถึงคนไทยด้วยซึ่งเป็นพฤติกรรมของผู้ใช้บริการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว แต่ด้วยศักยภาพของโรงแรมในประเทศไทยมีไม่เท่ากัน ดังนั้นปีนี้การเปิด booking online เป็นหัวใจสำคัญที่จะต้องเพิ่มสัดส่วนให้ถึง 70 % ของการค้าขายห้องพัก ส่วนการจองผ่านตัวแทนหรือเอเย่นต์ก็ยังคงไว้บางส่วน
ช่องทางดิจิตอลออนไลน์ที่จะนำเข้ามาให้บริการอย่างเต็มที่ของผู้ประกอบการโรงแรมเมืองไทย ซึ่งโรงแรมเป็นการลงทุนขนาดใหญ่รวมกันทั้งประเทศเป็นอสังหาริมทรัพย์ที่มีมูลค่านับล้านล้านบาท และการหันมาเลือกใช้ช่องทางการค้าห้องพักผ่านออนไลน์เพื่อทำให้เกิดการขยายสู่ไทยแลนด์ 4.0 จะมีจุดเด่นคือ ความรวดเร็ว สะดวกสบาย เข้าถึงผู้บริโภคได้ง่ายและตรงกลุ่มเป้าหมาย ในเรื่องของราคานำเสนอขายทางออนไลน์มีทั้งข้อดีและข้อเสียผู้ประกอบการจะต้องตื่นตัวตลอดเวลา ต้องเพิ่มความเร่งและเฝ้าจับตาตลอดถึงยอดจองต่อเนื่อง เพื่อทำโปรโมชั่นหรือลดราคาห้องพักให้สอดคล้องกับความต้องการของลูกค้ารวมถึงการเพิ่มอัตราการเข้าพักเฉลี่ยให้เข้าเป้าหมาย ส่วนผู้บริโภคมีทางเลือกตามชอบ บริหารค่าใช้จ่ายตามต้องการ และเมื่อนำเทคโนโลยีออนไลน์เข้ามาทำการค้าห้องพักแล้วในภาพรวมของทั้งประเทศ จะเกิดปรากฎการณ์คือได้ตลาดลูกค้ากลุ่มเดินทางอิสระ F.I.T. เพิ่มขึ้นแทนที่ลูกค้าเดินทางเป็นหมู่คณะ G.I.T.อย่างน้อยจะเพิ่มได้เท่าตัวหรือสัดส่วน 60-40 นั่นเอง
ปี 2561 ประเทศไทยตั้งเป้ารายได้จากการท่องเที่ยวไว้สูงถึง 3.1 ล้านล้านบาท รายได้ส่วนนี้จะไหลเข้าสู่ธุรกิจโรงแรมในไทยไม่ต่ำกว่า 25 % เป็นรายได้รวมไม่ต่ำกว่า 7 แสนล้านบาท ต่อเนื่องไปถึงเอกชนที่จะกระจายการบริการให้ได้มาตรฐานเพิ่มขึ้นไปยังเมืองรองตามที่รัฐบาลกำลังพยายามปลุกกระแสการเดินทางเพื่อกระจายรายได้สู่ท้องถิ่นนั้น แต่ละพื้นที่มีความพร้อมไม่เท่าเทียมกัน เช่น ภาคเหนือ ลำปาง เชียงราย ภาคอีสาน หลายจังหวัด โรงแรมอาจจะพร้อมในระดับลดหลั่นกันไป แต่ถ้าเป็นภาคใต้ กระบี่ พังงา ศักยภาพใกล้เคียงกับภูเก็ตจนแทบจะเรียกเมืองรองไม่ได้
แต่อย่างไรก็ตามประเทศไทยคงจะต้องใช้เวลาสักระยะในการที่จะสร้างมาตรฐานความพร้อมในทุก ๆ ด้าน รวมถึงการลงทุนที่พักโรงแรมด้วย เพื่อทำให้เมืองรองเป็นแม่เหล็กดึงดูดความสนใจกำลังซื้อกลุ่มนักท่องเที่ยวคนไทยและต่างชาติเข้าไปเที่ยวและกระจายเงินสู่ท้องถิ่นได้ใกล้เคียงกัน เพราะอุปสรรคใหญ่อย่างในภาคอีสานแต่ละจังหวัดมีระยะการเดินทางไกลกันมาก ทั้งรัฐและเอกชนต้องพยายามช่วยกันทำเส้นทางเชื่อมโยงเพื่อทำให้นักท่องเที่ยวไม่รู้สึกถึงความน่าเบื่อตลอดทริปการท่องเที่ยวแถบอีสาน ซึ่งจะเริ่มปี 2561 ขณะเดียวกันก็มีหลายพยายามให้เอกชนเข้าไปลงทุนขยายโรงแรมเพิ่มในอีสานแต่ก็ยังติดปัญหาจะทำให้คุ้มทุนได้ภายในเวลาที่กำหนดได้หรือไม่
สำหรับการลงทุนโรงแรมในภาคใต้ ได้แก่ ภูเก็ต หรือภาคเหนือ เชียงใหม่ และตามเมืองท่องเที่ยวใหญ่ ก็ไม่น่าจะสร้างโรงแรมได้อีกแล้วเพราะปริมาณห้องพักหนาแน่นมาก รวมถึงแนวโน้มการลงทุนจะเปลี่ยนแปลงไปจากเคยสร้างโครงการละ 400-500 ห้อง ก็จะลดเหลือเพียงไม่เกิน 200 ห้อง
ศุภวรรณกล่าวว่าในการจัดทำกิจกรรมใหญ่ปลุกกระแสการท่องเที่ยวปี 2561 นั้นจะใช้วิธีร่วมมือสนับสนุนการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยเป็นหลัก เนื่องจากเป็นปีท่องเที่ยววิถีไทย เก๋ไก๋อย่างยั่งยืน ส่วนการที่รัฐบาลต้องการกระจารายได้สู่ชุมชนมีปัญหาสำคัญคือ “บริการห้องพัก” เพราะตามปกตินักท่องเที่ยวก็ยังคงต้องพักในเมืองแล้วไปเที่ยวในชุมชน ถ้าหากชุมชนมีกิจกรรม D.I.Y.หรือ ซีเอสอาร์ เพื่อที่จะทำให้นักท่องเที่ยวใช้จ่ายเพิ่มขึ้น ดังนั้นรายได้หลักเรื่องห้องพักก็ยังคงอยู่กระจุกอยู่ในเมือง สิ่งที่ชุมชนจะได้คือเงินจากการสร้างกิจกรรม
ส่วนสถานการณ์การลงทุนโรงแรมทั่วประเทศที่จดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมายมีประมาณ 300,000 ห้อง ส่วนห้องพักที่ยังไม่เข้าระบบถูกต้องตามกฎหมายเริ่มมีจำนวนน้อยลง เป็นผลมาจากทางสมาคมโรงแรมไทยได้รณรงค์มาสักปีครึ่งแล้ว มีโรงแรมที่รอใบอนุญาตถูกต้องในแต่ละพื้นที่ โดยเฉพาะในกรุงเทพมหานครเกือบ 1,000 แห่ง เป็นกลุ่มที่เข้าระบบแต่จะต้องรอการตรวจเพื่อปรับแก้ให้ถูกต้องตามมาตรฐาน
ขณะเดียวกันเรื่องการ “ปรับราคาห้องพัก” ปี 2561 เมื่อนำออนไลน์เข้ามาใช้มากขึ้น การขึ้นราคาห้องพักก็จะเป็นตามช่วงฤดูตามนิยม อาทิ เทศกาลตรุษจีน จะขยับขึ้นในระหว่าง 5-10 % เฉพาะในช่วงการเดินทางมีความต้องการใช้ห้องพักปริมาณมาก (peak season) 1-2 สัปดาห์เท่านั้น ซึ่งไม่สามารถขึ้นราคาต่อเนื่องได้ เปรียบเทียบแล้วจะคล้ายคลึงกับการทำกลยุทธ์ของสายการบินต้นทุนต่ำ Low Cost Airlines คือทำราคาขึ้น-ลงตามอุปสงค์หรือความต้องการของนักเดินทางกับอุปทานหรือการขายตามราคาให้สอดคล้องกัน ปัจจุบันโรงแรมที่ได้มาตรฐานทั่วประเทศก็ทำการค้าขายห้องพักในลักษณะเช่นนี้เหมือนกัน
อย่างไรก็ตามในวันที่ 28 มีนาคม 2561 ทางสมาคมโรงแรมไทย เตรียมจัดการเลือกตั้งกรรมการชุดใหม่ พร้อมกับเลือกนายกสมาคมไปพร้อม ๆ กัน ปัจจุบันคุณศุภวรรณ กรรมการบริหารของกลุ่มโรงแรม โซลทวิน ทาวเวอร์ รับตำแหน่งมาแล้ว 1 สมัย และมีแนวโน้มจะได้รับความไว้วางใจให้ทำงานต่ออีกเป็นสมัยที่ 2 ก็เป็นได้
ฟังข่าวต้นชั่วโมง
ข่าวที่ 1 “คิงเพาเวอร์อัด4แคมเปญคืนลูกค้าสุดคุ้ม”
กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ต้อนรับเดือนแห่งความรักให้คนไทยได้ช้อปอย่างคุ้มค่าเงินกับมหกรรมส่งเสริมการขายในคิง เพาเวอร์ ที่เป็นมากกว่าร้านค้าดิวตี้ฟรี
รายการแรก - ส่งเสริมการขายช็อป 1,000 บาท รับคืน 1,000 บาท ระหว่างวันนี้ – 28 กุมภาพันธ์ 2561 ที่ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ เท่านั้น สำหรับพาสปอร์ตไทย และสมาชิกบัตรคิง เพาเวอร์ซื้อสินค้าครบ 1,000 บาทขึ้นไป รับคืนทันที คูปองส่วนลด 1,000 บาท สำหรับซื้อสินค้า 5,000 บาทขึ้นไปจำกัด 500 ท่านแรก / วัน พิเศษ 16 – 18 กุมภาพันธ์ 2560 รับเพิ่ม Gift Voucher 500 บาท (1 สิทธิ์ / ท่าน ตลอดรายการ)
รายการที่ 2 -ส่งเสริมการขายรับ Gift Voucher สูงสุด 30,000 บาท ระหว่างวันนี้ – 28 กุมภาพันธ์ 2561 ที่ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ พัทยา และ ภูเก็ต สมาชิกบัตรคิง เพาเวอร์ ซื้อสินค้าครบทุก 20,000 บาท (สุทธิ) รับคืน Gift Voucher 2,000 บาท และพิเศษ ซื้อสินค้าครบ 200,000 บาทขึ้นไป (สุทธิ) รับเพิ่ม Gift Voucher 10,000 บาท ด้วยกติกา
จำกัดยอดซื้อสินค้าสูงสุด 200,000 บาท หรือ รับคืน Gift Voucher สูงสุด 30,000 บาท / ท่าน / วัน
รายการที่ 3 - ส่งเสริมการขายฟรี iPhone X ระหว่างวันนี้ – 28 กุมภาพันธ์ 2561 ที่ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ
สมาชิกบัตรคิง เพาเวอร์ ซื้อสินค้าครบ 600,000 บาทขึ้นไป (สุทธิ) รับ iPhone X (64 GB) 1 เครื่องสำหรับ 50 ท่านแรก เท่านั้น กติกาเฉพาะสินค้าที่ร่วมรายการ ตรวจสอบสินค้าที่ร่วมรายการเพิ่มเติมที่จุดขาย
รายการที่ 4 -ส่งเสริมการขายรับทริปท่องเที่ยวภูฏาน สำหรับ Top Spender ระหว่างวันนี้ – 31 มีนาคม 2561 สมาชิกบัตรคิง เพาเวอร์ ที่สะสมยอดซื้อสินค้าครบ 2,000,000 บาทขึ้นไป (สุทธิ) สูงสุด 10 ท่านแรก ที่ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ ศรีวารี พัทยา และ ภูเก็ตรับทริปท่องเที่ยวประเทศภูฎาน (1 รางวัล / 2 ที่นั่ง) โดยสงวนสิทธิ์ตลอดรายการ สมาชิก 1 คน รับได้เพียง 1 รางวัล ประกาศผลผู้ที่ได้รับรางวัลภายในวันที่ 20 เมษายน 2561
ไฮไลต์ในการช้อปคิง เพาเวอร์ ทุกรายการส่งเสริมการขายระหว่างวันนี้– 28 กุมภาพันธ์ 2561 ลูกค้าสัญชาติไทย และสมาชิกบัตรคิง เพาเวอร์ รับเครดิตเงินคืนสูงสุด 5% หรือใช้คะแนนแลกรับเครดิตเงินคืนสูงสุด 15% เมื่อช็อปผ่านบัตรเครดิตที่ร่วมรายการ
สอบถามเพิ่มที่ คอล เซ็นเตอร์ 1631 หรือดูได้ที่ www.kingpower.com
ข่าวที่ 2 “ททท.จัดตรุษจีน13จังหวัดฉลองสัมพันธ์43ปี
นายสันติ ชุดินธรา รองผู้ว่าการด้านตลาดเอเชียและแปซิฟิกใต้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) พร้อมด้วย Ms. Lan Suhong (หลัน ซูหง)ที่ปรึกษาด้านวัฒนธรรม สถานเอกอัครราชทูต สาธารณรัฐประชาชนจีน ประจำประเทศไทย เตรียมร่วมกันจัดเทศกาลตรุษจีนในประเทศไทย ประจำปี 2561 ในโอกาสครบรอบ 43 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-จีน ททท.จะได้ร่วมกับทางกระทรวงวัฒนธรรมสาธารณรัฐประชาชนจีน และสถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีน ประจำประเทศไทย จัดงานเทศกาลตรุษจีนใน 13 พื้นที่ ได้แก่ กรุงเทพมหานคร ภูเก็ต นครราชสีมา ตรัง สุพรรณบุรี ราชบุรี เพชรบุรี นครสวรรค์ อำเภอหาดใหญ่ (สงขลา) เชียงใหม่ อุดรธานี พระนครศรีอยุธยา และชลบุรี
พร้อมทั้งจะกล่าวถึงการจัดกิจกรรมแลกเปลี่ยนโดยทางกระทรวงวัฒนธรรมสาธารณรัฐประชาชนจีนจะได้นำคณะศิลปินจีนเดินทางไปแสดงตามจังหวัดต่าง ๆ เพื่อเผยแพร่วัฒนธรรมอันดีงามตามจังหวัดต่าง ๆ ทั่วไทย ตลอดเทศกาลตรุษจีนนี้
ส่วน ททท.เตรียมจัดให้ชมบูธอาหารมงคลและข้อมูลประชาสัมพันธ์ตรุษจีนทุกพื้นที่ พร้อมโชว์การแสดงเชิดสิงโตมงคล ที่ขึ้นชื่อจากนครสวรรค์ ในระหว่างงานแถลงข่าว “เทศกาลตรุษจีนประเทศไทย ประจำปี 2561” ในวันจันทร์ที่ 5 กุมภาพันธ์ 2561 เวลา 13.00 น. ณ ห้องโถง ชั้น 1 อาคารการททท. สำนักงานใหญ่ ถนนเพชรบุรีตัดใหม่ กรุงเทพฯ
ข่าวที่ 3 “บางจากคว้าอีกรางวัลอินเตอร์ผู้นำพลังงาน”
นายชัยวัฒน์ โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ล่าสุดนำทีมขึ้นรับรางวัล Most Sustainable Renewable Energy Company – Thailand ในงาน International Finance Magazine Awards 2017 หรือ IFM ซึ่งเป็นรางวัลที่มอบให้กับบุคคลและองค์กรในอุตสาหกรรมการเงินระหว่างประเทศที่สร้างความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญและเพิ่มมูลค่าให้กับอุตสาหกรรม
โดยบริษัท บางจากฯ เป็นองค์กรที่ให้ความสำคัญด้านพลังงานหมุนเวียน มีมาตรฐานสูงสุดในด้านของนวัตกรรมและผลการดำเนินงาน มีการกำกับดูแลกิจการที่ดีและมีความรับผิดชอบต่อสังคม ณ Marina Bay Sands Convention Center ประเทศสิงคโปร์ เมื่อเร็วๆ นี้
ช่วงที่ 2 กุมภาพันธ์ปีนี้ชวนกันไปเติมความสุขบนดอย “อ่างขาง อำเภอฝาง เชียงใหม่” ดื่มด่ำกับโดมดอกกุหลาบ หุบเขานางพญาเสือโคร่ง และดงดอกไม้หนาวหลากหลายสายพันธุ์กำลังชูช่อรอนักท่องเที่ยวไปแชะแชร์ชม ส่วนการดูแลสุขภาพต้องมาดูวิธีกินอาหารแต่ละวันสามสัดส่วนแต่ละมื้อแล้วจะอายุยืนแน่นอน ส่งท้ายด้วย 5 ข่าวฮ็อต เริ่มจากสนามบินเชียงใหม่ขอ 4 เดือนปิดซ่อมภายในอาคาร จากนั้น ทอท.ก็เอ็มโอยูกับเบลเยี่ยมสุวรรณภูมิเป็นประตูคาร์โก้สู่ยุโรปช่วยเกษตรกรไทยส่งออกสินค้า ทางด้านเมืองเชียงใหม่ ททท.กอดคอรัฐและเอกชนทำให้กุมภาพันธ์เป็นเดือนแห่งการท่องเที่ยวไม้ดอกได้ทุกแห่ง กลับมาในกรุง “แอร์พอร์ต ลิงก์” ทำเก๋ออกบัตรลวดลายลิมิเต็ดวาเลนไทน์ขายแค่ 500 คู่ เริ่มวันจันทร์ที่ 5 กุมภาพันธ์นี้ ข่าวจากเพื่อนบ้านที่น่าสนใจคือ รัฐบาลมาเลเซียประกาศจัดปีท่องเที่ยว 2563 ตั้งเป้าปั๊มรายได้จากทั่วโลก 1.6 แสนล้านริงกิต นำร่องปี 2561 รัฐยะโฮห์ผุดสวนสนุกขนาดใหญ่สุดในโลก
@เที่ยวโดมกุหลาบอ่างขางดงดอกไม้เมืองหนาว
นักท่องเที่ยวที่ชอบเสียงเพลงจากธรรมชาติซึ่งเกิดจากใบไม้เสียดสีส่งเสียงเป็นจังหวะตามแรงลม หรือจะเป็นดอกไม้เมืองหนาวหลากสีดังภาพวาด ต้องห้ามพลาดไปเยือน “สถานีเกษตรหลวงอ่างขาง” ต.แม่งอน อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ อันเป็นสถานีวิจัยแห่งแรกของโครงการหลวง เมื่อครั้งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จทางเฮลิคอปเตอร์ทอดพระเนตรเห็นทุ่งดอกฝิ่นและหมู่บ้านของชาวเขาเผ่ามูเซอ พระองค์จึงมีพระราชดำรัสที่จะแปลงทุ่งฝิ่นให้เป็นแปลงเกษตรเมื่อ พ.ศ.2512 โดยใช้สถานีวิจัยฯ นี้ มุ่งหาผลิตผลที่มีคุณค่ามาทดแทนการปลูกฝิ่นของชาวเขา และทำการส่งเสริมพัฒนาอาชีพเกษตรกรรมแก่ชาวเขาในบริเวณใกล้เคียง
ผ่านประตูเข้าสู่ด้านในมานิดเดียวก็จะเห็น “ทุ่งดอกไม้” ละลานตาในทุ่งกว้าง มีทั้งพันธุ์ไม้เมืองหนาวนานาชนิดชูช่อเต็มไปหมด ด้านหลังเห็นวิวภูเขาสลับซับซ้อน ท่ามกลางอากาศเย็นสบาย ส่วนบริเวณด้านข้างมี “โดมกุหลาบอ่างขาง” และ “ศูนย์จำหน่ายผลิตภัณฑ์โครงการหลวง” ให้ชม ชิม ช็อป ตามอัธยาศัย
บริเวณที่รับความนิยมมากที่สุดอีกจุดคือ “สวนซากุระและนางพญาเสือโคร่ง” ส่วนด้านบนโครงการฯ สองข้างถนนมีต้น “เมเปิล” ปลูกไว้สวยงาม รวมถึงดอกไม้เมืองหนาวอีกหลายสายพันธุ์
รับรองได้เลยว่าทุกครั้งที่มีโอกาสไปถึง “สถานีเกษตรหลวงอ่างขาง” จะต้องได้เห็นภาพเหล่านี้ตลอดเวลา จะต่างกันก็ตรงไม้ดอกแต่ละสายพันธุ์จะสลับกันมาต้อนรับนักท่องเที่ยว สอบถามการท่องเที่ยวเกษตรหลวงอ่างขางฯ ได้ที่โทร.053-450-107-9 หรือ www.angkhang.com
@กินอาหารอย่างให้พอเหมาะกับสุขภาพ
นักโภชนาการศาสตร์ แนะนำการบริโภคอาหารของเราในแต่ละวัน สิ่งแรกในการปฏิบัติคือไม่ควรให้หิวจัดหรืออิ่มจัด และ “อาหารเช้าต้องดี อาหารเที่ยงต้องอิ่ม อาหารเย็นต้องน้อย” ปริมาณมื้อเช้าร้อยละ 35 มื้อเที่ยงร้อยละ 40 มื้อเย็นร้อยละ 25 โบราณกล่าวว่า “มื้อเย็นลดน้อยหน่อย ชีวิตยืนยาวถึงเก้าสิบ” เป็นการเน้นถึงปริมาณอาหารมื้อเย็น ควรอยู่ในปริมาณที่น้อยเมื่อเทียบกับมื้ออื่น
เพื่อลดการทำงานของระบบการย่อยอาหาร ป้องกันการตกค้างของอาหารในกระเพาะอาหาร ลำไส้ ป้องกันภาวะอ้วน ป้องกันการนอนหลับไม่สนิท ลดการรบกวนภาวะพักผ่อนฟื้นฟูของร่างกาย ซึ่งเป็นพื้นฐานของการบำรุง ดูแลสุขภาพ เพื่อให้เกิดอายุยืนยาว นอกจากนี้หลังอาหารใหม่ๆ ไม่ควรนอนหลับทันที
ฟังข่าวท้ายชั่วโมง
ข่าวแรก “ทอท.MOUเบลเยี่ยมทำสนามบินคาร์โก้ดันส่งออกไทย”
นายนิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) “ทอท.” กล่าวว่าได้นำทีมบริหารร่วมเอ็มโอยูกับ Mr.Luc Partoune, CEO of Liege Airport ซึ่งเป็นผู้บริหารท่าอากาศยาน Liege S.A. เบลเยียม มีความโดดเด่นในบริการด้านการขนส่งสินค้าทางอากาศเป็นหลักติดอันดับ 8 ของทวีปยุโรป จึงร่วมมือกับท่าอากาศยานต่างประเทศลงนามทำ Sister Airport ให้สอดคล้องตามแผนแม่บทด้านกิจการระหว่างประเทศของ ทอท. (AOT International Business Development Master Plan) ปีงบประมาณ 2561 – 2567 เร่งพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ พร้อมร่วมมือกันในการแลกเปลี่ยนข่าวสารข้อมูล การดำเนินกิจกรรม การตลาดและส่งเสริมการขายร่วมกัน และประชุมร่วมกันเป็นประจำ
ส่วนประโยชน์จากการร่วมลงนามกับ Liege Airport S.A. ครั้งนี้จะทำให้ ทอท.ได้มีโอกาสหารือเกี่ยวกับการเตรียมโครงสร้างพื้นฐานเฉพาะของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ในด้านการขนส่งสินค้าทางอากาศไปยังทวีปยุโรป เพื่อลดความเสี่ยงจากการถูกส่งสินค้ากลับจากประเทศปลายทาง ตลอดจนสอดคล้องกับเป้าหมายของ ทอท.ที่จะจัดตั้งศูนย์กลางการขนส่งสินค้าทางอากาศที่ได้รับการรับรอง (Certified Hub) ศูนย์กลางด้านการค้าทางอิเล็กทรอนิกส์ (E-Commerce Hub) และศูนย์กลางขนส่งสินค้าเน่าเสียง่าย (Perishable Hub) ในอนาคต เพื่อให้สามารถรองรับความท้าทายและแนวโน้มทางธุรกิจในอุตสาหกรรมการขนส่งทางอากาศ รวมทั้งสภาพแวดล้อมและบริบททางธุรกิจที่มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา สร้างความมั่นคง และมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจให้ประเทศด้วย
โดย ทอท. ได้ร่วมกับบริษัท Euroavia International ผู้ให้บริการจัดงานและการประชุมต่างๆ ระดับโลก จัดการประชุม Asia Air Cargo Summit 2018 ระหว่าง 29-31 มกราคม 2561 ณ โรงแรม The Conrad Bangkok กรุงเทพฯ สอดคล้องกับทางสมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ (International Air Transport Association : IATA) คาดว่ามูลค่าการขนส่งสินค้าทางอากาศปี 2561 จะเติบโต 4 % และปริมาณการขนจะเพิ่ม 4.5 % และในปีงบประมาณ 2560 (ตุลาคม 2559 - กันยายน 2560) สนามบินหลักของ ทอท.6 แห่งได้แก่ สุวรรณภูมิ ดอนเมือง ภูเก็ต เชียงใหม่ หาดใหญ่ และแม่ฟ้าหลวง เชียงราย มีสินค้าและไปรษณียภัณฑ์เข้า – ออก รวมทั้งสิ้น 1.57 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 11.89 % สุวรรณภูมิทำได้มากสุด 1.42 ล้านตัน เติบโตเพิ่ม12.45 %
ข่าวที่สอง “สนามบินเชียงใหม่ขอ4เดือนรื้อติดตั้งภายในใหม่”
นาวาอากาศตรี มณธนิก รักงาม ผู้อำนวยการท่าอากาศยานเชียงใหม่ ทอท.กล่าวว่า รายงานว่า ช่วง 4 เดือนนี้ระหว่างวันนี้- 1 พฤษภาคม 2561 สนามบินเชียงใหม่ขอให้ผู้โดยสารเผื่อเวลาการเดินทางมายังสนามบิน เนื่องจากจะรื้อถอนและติดตั้งบันไดเลื่อนจำนวน 4 ตัว ภายในอาคารผู้โดยสาร ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการให้บริการ จึงขอแนะนำผู้โดยสารให้เผื่อเวลาในการเดินทางมายังสนามบินเร็วขึ้นเพื่อป้องกันการพลาดเที่ยวบิน เนื่องจากจะต้องติดตั้งบันไดเลื่อนใหม่ เพื่อทดแทนของเดิมที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน จำนวน 4 ตัว ภายในอาคารผู้โดยสารภายในประเทศ ในช่วงระหว่างดำเนินการได้ติดตั้งป้ายประชาสัมพันธ์ พร้อมจัดเจ้าหน้าที่ Airport Help คอยอำนวยความสะดวกผู้โดยสาร ตลอดจนแนะนำผู้โดยสารในการเลือกใช้บันไดอื่นในบริเวณใกล้เคียง ระหว่างติดตั้งบันไดเลื่อนใหม่บริเวณ 4 จุด ได้แก่
(1) บันไดเลื่อนขาลง ห้องผู้โดยสารขาเข้าภายในประเทศ (2) บันไดเลื่อนขาขึ้นด้านทิศใต้ (ประตูทางเข้าอาคารหมายเลข 5) (3) บันไดเลื่อนขาลงไปยัง Bus Gate อาคารผู้โดยสารภายในประเทศ และ (4) บันไดเลื่อนขาขึ้นด้านทิศเหนือ (ประตูทางเข้าอาคารหมายเลข 2)
แบ่งการติดตั้งออกเป็น 2 ช่วง ได้แก่ วันที่ 24 มกราคม – 10 มีนาคม 2561 เฉพาะช่วงเวลากลางคืน จะดำเนินการปิดกั้นพื้นที่ เพื่อรื้อถอนและติดตั้งบันไดเลื่อนขาลงห้องผู้โดยสารขาเข้าภายในประเทศ และบันไดเลื่อนขาขึ้นด้านทิศใต้ (ประตูทางเข้าอาคารหมายเลข 5)
ช่วงที่ 2 วันที่ 11 มีนาคม 2561- 1 พฤษภาคม 2561 เฉพาะช่วงเวลากลางคืน จะปิดกั้นพื้นที่บริเวณบันไดเลื่อนขาลงไปยัง Bus Gate อาคารผู้โดยสารภายในประเทศ และบันไดเลื่อนขาขึ้น ด้านทิศเหนือ (ประตูทางเข้าอาคารหมายเลข 2)
ข่าวที่สาม “ตลอดก.พ.ชวนเที่ยวเทศกาลไม้ดอกทั่วเชียงใหม่”
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานเชียงใหม่ รายงานว่า ร่วมกับจังหวัดเชียงใหม่ องค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ เทศบาลนครเชียงใหม่ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (สสปน.) (องค์การมหาชน) องค์กรภาครัฐ เอกชน จัดเดือนแห่งดอกไม้ และเดือนแห่งความรัก ตลอดเดือนกุมภาพันธ์ ภายใต้แนวคิด “Chiang Mai Blooms 2018” ได้รวบรวมเอากิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับดอกไม้ทำเป็นปฏิทินท่องเที่ยว ประชาสัมพันธ์ ผ่านทางออนไลน์ www.chiangmaiblooms.com พร้อมแนะนำการท่องเที่ยว 3 เส้นทาง โดย ททท. เชียงใหม่ จัดแคมเปญ “Chiang Mai Blooms 2018” เน้นสร้างประสบการณ์และความประทับใจให้แก่นักท่องเที่ยวในช่วงเดือนแห่งดอกไม้ ควบคู่กับส่งเสริมอาชีพกระจายรายได้สู่ท้องถิ่น และชุมชน ให้เกษตรกรผู้ปลูกไม้ดอก ไม้ประดับ ไม้ผล
เป็นการจัดงานต่อเนื่องจาก มหกรรมไม้ดอกไม้ประดับ ครั้งที่ 42 อย่างยิ่งใหญ่ สวยงามตระการตา ภายใต้แนวคิด “หมื่นแสนมวลบุปผา งามตาทั่วเวียงพิงค์” ระหว่าง 2 – 4 กุมภาพันธ์ 2561 ณ สวนสาธารณะหนองบวกหาด ลานอเนกประสงค์ข่วงประตูท่าแพ และเชิงสะพานนวรัฐ
นายปวิณ ชานิประศาสน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า ปีนี้การจัดงานมหกรรมไม้ดอกไม้ประดับเพื่อตอกย้ำภาพลักษณ์เชียงใหม่เป็นเมืองแห่งดอกไม้นานาพันธุ์ที่สวยงาม และเบ่งบานตลอดทั้งปี มีเอกลักษณ์ สร้างสรรค์ประสบการณ์ด้านการท่องเที่ยวที่จะทำให้เป็นปีระดับนานาชาติ “Flower Festival of The Year” เพราะเมื่อปี 2558 องค์กรระดับสากล International Garden Tourism Network ยกย่อง ชาวเชียงใหม่จึงตั้งใจร่วมกันผลักดันให้งานนี้เป็นงานประจำปีนานาชาติ (World Event) ส่งผลให้เชียงใหม่เป็นจุดหมายปลายทางระดับโลกของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ
ข่าวที่สี่ “มาเลเซียประกาศปีท่องเที่ยว’63หวังโกย1.6แสนล้านริงกิต”
ดาโต๊ะ ซรี โมฮัมเหม็ด นาซรี อับดุล อซิส รัฐมนตรีกระทรวงการท่องเที่ยวและวัฒนธรรมแห่งประเทศมาเลเซีย นำคณะเข้าร่วม ASEAN Tourism Forum หรือ ATF 2018 ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ จัดขึ้นที่เชียงใหม่ ภายใต้แนวคิด ‘ASEAN – Sustainable Connectivity, Boundless Prosperity’ พร้อมทั้งได้ประกาศแคมเปญการท่องเที่ยวใหม่สุดยิ่งใหญ่ ‘Visit Malaysia Year 2020’ ที่ตั้งเป้าเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกกว่า 36 ล้านคน
รัฐบาลมาเลเซียมั่นใจโปรเจ็กต์ Visit Malaysia Year 2020 จะดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกจากการลงนามความร่วมมือกับหลายสายการบิน ทั้งสิงคโปร์ แอร์ไลน์ส เอทิฮัดแอร์เวย์ส เอมิเรตส์ การตาร์แอร์เวย์ส และเคแอลเอ็ม รอยัล ดัทช์ แอร์ไลน์ส กระตุ้นยอดนักท่องเที่ยวจีนให้เดินทางเข้ามาประเทศมากขึ้น โดยยกเว้นวีซ่าและนำระบบ e-visa เข้ามาใช้ ตั้งเป้าปี 2563 อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวจะสร้างเม็ดเงินกว่า 1.68 แสนล้านริงกิต
ซึ่งการประกาศปีท่องเที่ยวมาเลเซียจะเกิดขึ้นพร้อมกับการเป็นเจ้าภาพจัดงาน Asia-Pacific Economic Cooperation Summit และ Commonwealth Heads of Government Meeting ในปี 2020
ส่วนภายในงานATF 2018 ที่เชียงใหม่ ทางมาเลเซียยังได้เปิดตัวแหล่งท่องเที่ยวใหม่ ‘Desaru Coast Adventure Waterpark’ หนึ่งในสวนน้ำที่ใหญ่ที่สุดในโลก ที่นักท่องเที่ยวไม่เพียงสนุกสนานกับกิจกรรมความสนุกมากมาย แต่ยังได้สัมผัสความอุดมสมบูรณ์ทางธรรมชาติของรัฐยะโฮห์ คาดปี2561 ธีมพาร์คใหม่แห่งนี้จะสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวกว่า 28 ล้านคน
ข่าวที่ห้า “แอร์พอร์ตลิงก์ทำเก๋ขายบัตรลิมิเต็ดวาเลนไทน์500คู่”
นายวิสุทธิ์ จันมณี กรรมการ และรักษาการกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด หรือผู้ให้บริการรถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ เปิดเผยว่า เพื่อเป็นการต้อนรับเทศกาลแห่งความรัก “วันวาเลนไทน์” ได้จัดแคมเปญจำหน่ายบัตรสมาร์ทพาสประเภทบุคคลทั่วไปลายพิเศษ “Limited Love Edition” หรือ “บัตรคู่รัก” จำกัดเพียง 500 คู่ (1,000 ใบ) เท่านั้น จะเริ่มจำหน่าย 5 กุมภาพันธ์ 2561 ที่ห้องจำหน่ายตั๋วทั้ง 8 สถานี ทั้งนี้บัตรสมาร์ทพาสลายพิเศษดังกล่าวมีข้อกำหนด และเงื่อนไขการใช้งานเช่นเดียวกับบัตรสมาร์ทพาสประเภทบุคคลทั่วไป (Adult Card) ผู้โดยสารที่เปิดบัตรสมาร์ทพาสประเภทบุคคลทั่วไปลายพิเศษ “Limited Love Edition” ระหว่าง 5 – 12 กุมภาพันธ์ 2561 หรือในสถานีอื่นที่ไม่ใช่สถานีพญาไท สามารถนำบัตรมาติดต่อขอรับของขวัญสุดพิเศษภายในกิจกรรมได้เช่นกัน
วันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2561 ตั้งแต่ 07.00 - 19.00 น. ที่แอร์พอร์ต เรล ลิงก์ สถานีพญาไท บริษัทจะจัดกิจกรรมเกี่ยวกับบัตรสมาร์ทพาสประเภทบุคคลทั่วไปลายพิเศษดังกล่าว ซึ่งผู้โดยสารที่ซื้อบัตรในงานจะได้รับบัตรชมภาพยนตร์เครือเมเจอร์ และอีจีวี ฟรี 2 ใบ (มีจำนวนจำกัด) พร้อมของขวัญพิเศษจากรถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล ลิงก์
สอบถาม Call Center 1690 หรือ www.srtet.co.th , www.facebook.com/AirportRailLink และ Twitter : Airport Rail Link
แล้วพบกันใหม่ในวันเสาร์และอาทิตย์ ที่ 11-12 กุมภาพันธ์ 2561 เวลา 11.00 - 12.00 น.ทาง FM 97.0 MHz.
เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน คอลัมนิสต์ท่องเที่ยว-การบิน และบล็อกเกอร์ เจ้าของรายการ รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์ |
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น