ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

ททท.เปิดแผนจัดทัพสินค้าท่องเที่ยวรอขายหลังโควิดคลี่คลาย  ปั้นออนไลน์เพิ่มรายได้-ลุยทำ2บิ๊กโปรเจ็กต์SHA-TRAVELTEC 

ททท.เปิดแผนจัดทัพสินค้าท่องเที่ยวรอขายหลังโควิดคลี่คลาย
ปั้นออนไลน์เพิ่มรายได้-ลุยทำ2บิ๊กโปรเจ็กต์SHA-TRAVELTEC
คิงเพาเวอร์ออนไลน์ลดไม่ยั้ง70% BRAND OF THE WEEK
ช้อปสนั่นโซเชียลคิงเพาเวอร์Last Change SALE2บิ๊กแบรนด์
รมว.พิพัฒน์หนุนททท.ช่วยเอกชนท่องเที่ยวรอดวิกฤตโควิด19
ททท.ระยองโพสต์ปิดชั่วคราวบางแหล่งท่องเที่ยว-สวนผลไม้
บางจากเลื่อนประชุมผู้ถือหุ้น-พร้อมจ่ายปันผลปกติ24เม.ย.นี้
ราชวิทยาลัยจิตแพทย์แนะ5วิธีดูแลจิตให้แกร่งช่วงโควิด-19
ผู้โดยสารไทยที่สุวรรณภูมิหนีกักตัว3เม.ย.ทำชาติป่วน5เรื่อง
สภาท่องเที่ยวบี้นายกฯตู่ปลดล็อกด่วน3เรื่องช่วย113สมาคม
นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์
รองผู้ว่าการด้านสินค้าและธุรกิจท่องเที่ยว
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เ

ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” ในวันเสาร์ที่ 4 เมษายน 2563 เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทางfacebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen บล็อกเกอร์ #gurutourza #รวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97  #TATdepartmentstore #Kingpowerช้อปสนั่นโซเชียล  #AmazingThailandSaftyHealthAdministration #เราจะสู้โควิดไปด้วยกัน  #SocialDistancing 

ช่วงที่ 1 ล้วงลึก108 ไอเดีย กับ “ฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์” รองผู้ว่าการด้านสินค้าและธุรกิจท่องเที่ยว การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดหน้าร้านห้าง ททท.ดีพาร์ทเมนท์สโตร์ออนไลน์ นำสารพัดสินค้าท่องเที่ยวของเอกชนทั่วประเทศมาวางขายจากโครงการ Amazing Distancing@hotel สู่ delivery อาหาร ผลิตภัณฑ์หน้ากากอนามัยชุมชน เพิ่มความเข้มข้น Green Hotel Standard ขยายสู่ 2 บิ๊กโปรเจ็กต์ไว้รองรับกำลังซื้อหลังวิดสงบลง พร้อมเทขาย “SHA :Safty & Healthty Administration :จัดทัพค้าแพกเกจท่องเที่ยวปลอดภัย” และจับมือสตาร์ตอัพกลุ่ม Travel Tec ผลิตแพกเกจ Thank you Card การ์ดสารพัดความสุข ท่องเที่ยว สปา สุขภาพ มอบแพทย์ พยาบาล

นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ รองผู้ว่าการด้านสินค้าและธุรกิจท่องเที่ยว การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ภารกิจในช่วงทำงานอยู่บ้าน Work from Home ได้ขับเคลื่อนหมวดสินค้าท่องเที่ยวโดยใช้ “ห้างสรรพสินค้า ททท.ดีพาร์ทเมนท์ สโตร์” แบ่งเป็น  6 ชั้น เพื่อรองรับหมวดสินค้าของเอกชนที่จะนำมาวางขายแบบ Flash Sale มีทั้งห้องพัก/โรงแรม แพกเกจท่องเที่ยว/บริษัทนำเที่ยว ช้อปปิ้งต่าง ๆ/ค้าปลีก สปาและสุขภาพ เมื่อสถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทำให้ต้องหยุดเผยแพร่ประชาสัมพันธ์กิจกรรมกระตุ้นการท่องเที่ยวแล้วหันมารณรงค์ตามนโยบายรัฐบาล “อยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ”

จึงได้ปรับกลยุทธ์การขายออนไลน์บนหน้าร้าน ททท.ดีพาร์ทเมนท์สโตร์ จึงร่วมกับสมาคมโรงแรมไทยกับหอการค้าไทย นำร่องทำโครงการ “Amazing Distancing @Hotel” วัตถุประสงค์เปิดโอกาสให้โรงแรมที่ยังบริการอยู่มีมาตรการป้องกันโควิดเป็นอย่างดี ทุกโรงแรมที่เข้าร่วมล้วนเป็นสมาชิกของสมาคมโรงแรมไทย สำคัญอย่างยิ่งต้องเป็นสถานประกอบการที่ปฏิบัติตามมาตรฐานความปลอดภัยของกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข อย่างเคร่งครัดที่สุด

โรงแรมทั้งหมดที่เข้าร่วมโครงการขายในโปรแกรม “Amazing Distancing @Hotel” ทำแพกเกจพัก 7,14,21 คืน เพราะลูกค้าบางคนต้องทำงานอยู่บ้านไม่ได้กลับต่างจังหวัด ต้องการพัก บวกบริการอาหาร WiFi ในการทำงานครบทุกอย่าง จึงมีโรงแรมต่าง ๆ เข้าร่วมทั้งกรุงเทพฯและต่างจังหวัดรวมแล้วไม่ต่ำกว่ากว่า 69 โรงแรม ผู้ที่ต้องการใช้บริการเข้าไปดูได้ที่ www.toursimthailand.org/tourismdepartmentstore           จะมีรายชื่อโรงแรมปรากฎอยู่ทั้งหมด แต่จะมีอัพเดททุกวัน เพราะบางโรงแรมยอดจองครบแล้ว

โครงการที่ 2 นำสินค้า delivery หมวดร้านอาหาร ต่าง ๆ อยู่ใน ททท.ดีพาร์ทเมนต์สโตร์ชั้นที่ 6 ในเว็บไซต์ โดยกระจายอยู่ตามพื้นที่กรุงเทพมหานคร และทั่วประเทศ เมื่อ ททท.ได้รับทราบข้อมูลร้านอาหารก็พร้อมจะโปรโมตให้อย่างเต็มที่ เปิดรับตลอดตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป

โครงการที่ 3 สินค้าโอท็อป ทางด้านผู้ประกอบการที่ผลิตหน้ากากอนามัย มีรายชื่ออยู่ประมาณ 34 ราย ซึ่งปฏิบัติตามระเบียบกฎหมายถูกต้อง มาเป็นทางเลือกให้คนในประเทศได้เลือกใช้บริการ ผู้ขายสินค้าแต่ละรายจะระบุยอดสั่งซื้อแต่ละครั้ง 40 ชิ้นขึ้นไป พร้อมจัดส่งถึงบ้าน

นางสาวฐาปนีย์ กล่าวว่า การเข้าไปให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการสินค้าท่องเที่ยว ผนวกรวมบริษัทนำเที่ยว โดยเฉพาะ “โรงแรม” เดินหน้าทำโปรเจ็กต์ “ซ่อม-สร้าง” เน้นพัฒนายกระดับ “มาตรฐานห้องพัก” กำลังเตรียมความพร้อมรองรับนักท่องเที่ยวรอไว้เมื่อสถานการณ์กลับสู่ภาวะปกติ โดยได้เปิดให้โรงแรมทั่วประเทศลงทะเบียนสมัครโดยลดค่าธรรมเนียมลงถึง 50 % เชิญชวนมาเข้าร่วมโครงการ “Green Hotel Standard” การสร้างมาตรฐานโรงแรมรักษาสิ่งแวดล้อม ตอนนี้มีโรงแรมทั่วประเทศสมัครเข้ามาแล้วกว่า 120 โรงแรม  โดยทาง ททท.และคณะกรรมการตรวจมาตรฐานได้ทยอยลงพื้นที่อยู่ระหว่างการตรวจแล้วประมาณ 90 โรงแรม กำหนดจะดำเนินการตรวจให้แล้วเสร็จภายในเดือนมิถุนายน-กรกฎาคม 2563 จะต้องดูความพร้อมของการเปิดทำงานของ ททท.ด้วย จากนั้นจะมอบรางวัลมาตรฐาน Green Hotel โดยแต่ละโรงแรมจะต้องเติมมาตรฐานเพื่อเพิ่ม “ดาว” เมื่อโรงแรมได้รับดาวเพิ่มก็จะการันตีถึงคุณภาพที่ดีมากขึ้นไป

ส่วน “เงื่อนไขหรือสิทธิประโยชน์” ที่จะได้รับสิทธิประโยชน์” ส่วนลดค่าธรรมเนียม 50 % ภายใน 15 เมษายน 2563 แก่โรงแรมที่เข้าร่วมโครงการ “Green Hotel Standard” จึงขอเชิญชวนสมัครกันตั้งแต่ตอนนี้เป็นต้นไป

นางสาวฐาปนีย์ กล่าวว่า ช่วงเดือนเมษายนทุกปีจะมีการจัดเทศกาลสงกรานต์กันทั่วประเทศ ยกเว้นปี 2563 สถานการณ์ไม่พร้อม แต่ ททท.ก็ยังคงเน้นให้คนไทยได้มีส่วนร่วม “รักษาประเพณีปีใหม่ไทยแท้ดั้งเดิมอันดีงามไว้” โดยการกราบไหว้ขอพรจากผู้ใหญ่ในครอบครัว แต่งดรดน้ำดำหัว ปีนี้อาจจะเป็นปีเดียวที่อาจะไม่ได้ร่วมฉลองสงกรานต์เหมือนทุกปีที่ผ่านมา

ส่วนการทำแคมเปญ “วัฒนธรรมปีใหม่ไทย” ทั้ง ททท. กระทรวงวัฒนธรรม และหน่วยงานต่าง ๆ ก็คงจะรณรงค์ให้คนไทยรักษา ดูแล วัฒนธรรม การแต่งกายไทย กราบไหว้พ่อแม่ ซึ่งทำต่อเนื่องกันมาแต่โบราณ รวมถึงการนำสินค้า “ชุมชนโอท็อป” มาเสนอขายใน ททท.ดีพาร์ทเมนท์สโตร์ โดยได้ร่วมกับ กรมการพัฒนาชุมชน (กระทรวงมหาดไทย) กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กระทรวงอุตสาหกรรม) รายชื่อผู้ประกอบการที่ผลิตสินค้าต่าง ๆ สามารถซื้อขายทางออนไลน์ได้ตลอดเวลา ทั้งหน้าร้านและช่องทาง “โซเชียล มีเดีย” เพื่อช่วยหารายได้เพิ่มให้ชุมชนส่งเสริมสินค้าพื้นบ้านทั่วประเทศควบคู่กันไปด้วย

ปี 2563 ฝ่ายสินค้าและพัฒนาท่องเที่ยว ททท.ตั้งเป้าทำโปรเจ็กต์ไฮไลต์ กำลังดำเนินการยกระดับสินค้าท่องเที่ยวในภาวะวิกฤต เรียกว่า “Amazing Thailand Safty and Health Administration :SHA (ชา)” เป็นนโยบายของ ดร.ยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการ ททท.หารือถึงการเตรียมความพร้อมช่วง “ซ่อม-สร้าง” ระหว่างรอสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 สงบลง ควรช่วยกันมองหากิจการโรงแรมที่มีการบริหารจัดการอย่างเคร่งครัดและสามารถใช้มาตรการป้องกันโควิดอย่างเต็มพิกัด ททท.จะช่วยประชาสัมพันธ์ให้ตราสัญลักษณ์ “SHA” เป็นโครงการความร่วมมือของ 2 กระทรวงหลัก คือ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กับกระทรวงสาธารณสุข โดยมี ททท.ทำหน้าที่ในทางปฎิบัติประสานงานความร่วมมือกับทาง กรมควบคุมโรค กรมอนามัย

ขั้นตอนขณะนี้ SHA ได้จัดตั้ง “คณะกรรมการ” เสร็จเรียบร้อย โดยอยู่ระหว่างการ “เตรียมเอกสารสำคัญ” ในแต่ละสมาคมที่เกี่ยวข้องกับ SHA นั้นมีหลายจำนวนหลายสมาคม ซึ่งอยู่ในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว  ตามปกติแต่ละสมาคมจะมี “มาตรฐาน” รายสมาคมอยู่แล้ว แต่ยังไม่เพียงพอกับ SHA จึงต้องเติมเพิ่มจากกรมควบคุมโรค และกรมอนามัย ด้านมาตรฐานการป้องกันและควบคุมโรคระบาด โดยเฉพาะโรคโควิด-19

หลังจากตั้งคณะกรรมการ SHA เสร็จเรียบร้อยแล้ว จะเปิดให้แต่ละสมาคมในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวส่งรายชื่อ (list) ของสมาชิกผู้ประกอบการท่องเที่ยว โรงแรม และสมาคมนั้น ๆ มาให้พิจารณาก่อนลงพื้นที่ตรวจมาตรฐานอย่างเข้มข้น ช่วงนี้ทางนายกแต่ละสมาคมได้ไปพูดคุยทำความเข้าใจกับสมาชิก ผลตอบรับดีมาก ๆ แสดงความมั่นใจถึงมาตรฐานความปลอดภัย และสุขอนามัย ซึ่งทุกฝ่ายให้ความสำคัญมากที่สุด

ขณะนี้อุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยทั้งประเทศ จะต้องร่วมมือกัน “เตรียมความพร้อมด้านมาตรฐานความปลอดภัย” รอไว้ เมื่อถึงเวลาสถานการณ์สงบจะได้นำสิ่งเหล่านี้ไปบอกเล่าเชิญชวน “นักท่องเที่ยวทั่วโลก” เลือกประเทศไทยเป็นอันดับต้น ๆ ที่จะเดินทางเข้ามา ถึงแม้จะยังไม่รู้ว่าตลาดจะกลับมาเมื่อไร แต่ก็ต้องเตรียมความพร้อมไว้ให้มากที่สุด

โครงการ SHA จะเริ่มคลิกออฟได้ตั้งแต่เมษายน 2563 เป็นต้นไป ตอนนี้รอเช็คลิสต์รายชื่อ เพื่อส่งให้กระทรวงสาธารณสุขตรวจอีกครั้ง จากนั้นกรรมการจะดูช่วงเวลาอันเหมาะสมตามพื้นที่ซึ่งตอนนี้มีทั้งความยากลำบากและข้อจำกัด จึงต้องใช้วิธีทำงานทางออนไลน์ แต่ถ้าใครพร้อมตอบโจทย์ความมั่นใจในสถานการประกอบการ ทาง SHA ก็จะให้โลโก้แก่ผู้ประกอบการรายนั้น ๆ ทั้งนี้โลโก้ SHA ที่มอบให้ไปนั้นไม่ได้หมายความว่าการการันตีจะไม่มีการติดเชื้อโควิด เพียงแต่ยืนยันว่าพื้นที่นั้น ๆ มีมาตรฐานการป้องกันควบคุมได้ตามมาตรฐานสูงสุด เคร่งครัดทั้งความปลอดภัย สุขอนามัย อย่างดียิ่งเป็นหลัก

นางสาวฐาปนีย์ กล่าวว่า นอกเหนือจากการทำดีพาร์ทเมนท์สโตร์ การทำโปรเจ็กต์ไฮไลต์ SHA แล้ว ยังได้เพิ่มความเข้มข้นที่จะพัฒนาผู้ประกอบการ TRAVEL TEC ด้วย โดยทางผู้ว่าการ ททท.มอบหมายรองผู้ว่าการ ททท.ทั้ง 8 คน แบ่งความรับผิดชอบกันคิดโครงการ “มาตรการฟื้นฟูท่องเที่ยวหลังวิกฤตไวรัสโควิด-19” ในรูปแบบ “Tourism Recover Plan” เพราะวิกฤตครั้งนี้มีผลกระทบใหญ่หลวงมากครอบคลุมพื้นที่ทัวประเทศ

โดยแบ่งเป็น “จังหวัด” สัดส่วน 1 รองผู้ว่าการ ททท. ต่อ 1-3 จังหวัด ตอนนี้มีแนวคิดการณ์ใหญ่หรือ Big Idea เสนอไปทางกลุ่มนักลงทุนในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแล้วถึงแนวทางการทำอย่างเป็นรูปธรรม แต่ตอนนี้ยังไม่สามารถบอกรายละเอียดได้ เพราะอยู่ในขั้นตอนการเตรียมงานอย่างเป็นระบบ จนกว่าจะมีสัญญาณให้เห็นการแสดงความพร้อมถึงสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 คลี่คลายลง ทำงานเป็นหนึ่งเดียว ดูความพร้อมของพื้นที่ โดยจะเข้าพื้นที่สร้าง “สัญลักษณ์ความมั่นใจ” โดยใช้โปรเจ็กต์ตราสัญลักษณ์ SHA เป็นหัวหอกสำคัญ 2.ทำอย่างไรให้นักท่องเที่ยวอยากมาเที่ยวต่อไป 3.หาวิธีทำการรับรองยืนยัน : Endorsment Testmonial ทำก่อนที่จะไปถึง 4.การทำโปรโมชั่น ลดราคา สินค้าท่องเที่ยว

การที่ ททท.จะเข้าไปช่วย TRAVEL TEC ขับเคลื่อนอุตสาหกรรมท่องเที่ยวได้ จากปรากฎการณ์ตอนนี้สิ่งที่เห็นชัดเจนเมื่อทุกหน่วยงานต้องทำงานอยู่บ้าน จำเป็นอย่างยิ่งที่ทุกคนต้องเข้าถึง “digital” แม้กระทั่งการที่ประชาชนจะเข้าไปรับเงินฟรีจากรัฐบาล 5,000 บาท สะท้อนถึงว่าคนไทยทั้งประเทศต้องเริ่มใช้ “ออนไลน์” เข้าถึงความต้องการของตนเอง

ดังนั้น ททท.คุยกับกลุ่ม TRAVEL TEC จึงสนใจเริ่มพัฒนาศักยภาพ “อาชีพมัคคุเทศก์ทั่วประเทศผ่านออนไลน์” โดยมี “ผู้สอน” หนึ่งในนั้นเป็นคน ททท.ก็ได้ แล้วดึงกลุ่มสตาร์ต อัพ Travel Tec ทำ โครงการที่ 1 Virsaul Tour : การท่องเที่ยวเสมือนจริง โครงการที่ 2 ร่วมกับแพลตฟอร์มระดับอย่าง Google ตัวอย่าง ททท.เคยทำมาแล้วคือ Google Street ตอนนี้ทางฝ่ายสินค้า&ธุรกิจ ท่องเที่ยว ททท.ได้จับเข่าคุยกับแบรนด์ดังแล้ว เพื่อเสริมสินค้าแหล่งท่องเที่ยวที่เป็น Unseen ร่วมกับ TRAVEL TEC START UP เช่น จับมือกับ บริษัท เทค มี ทัวร์ จำกัด ซึ่งเป็นกลุ่มที่ได้รับรางวัล มีความคิดทำ “บัตรขอบคุณ -Thank you Card” ในรูปแบบของบัตรร้านอาหาร สปา สุขภาพ แพกเกจท่องเที่ยว และอื่น ๆ เปิดขายให้บุคคลกลุ่มต่าง ๆ เข้ามาซื้อออนไลน์แล้วนำไปแจกบุคลากรทางการแพทย์ ที่ทุ่มเทเป็นแนวหน้าต่อสู้กับไวรัสโควิด-19 อย่างเต็มที่มาตลอด เมื่อสถานการณ์คลี่คลายลงแล้วจะได้นำบัตรขอบคุณดังกล่าวนี้ไปใช้ประโยชน์ต่อไป

เรื่อยไปจนถึงแนวคิดในการจัดโครงการประกวด “Online HackaThon” ระดมทีม Travel Tec เก่ง ๆ ในเมืองไทยมาทำร่วมกัน เพื่อระดมสมองสร้างไอเดีย เยียวยา ฟื้นฟู อุตสาหกรรมท่องเที่ยว เพื่อช่วยเหลือเศรษฐกิจโดยรวม ชุมชน เพราะกลุ่มคนเหล่านี้มีพลังความสามารถล้นเหลือ เมื่อสถานการณ์ดีขึ้นแล้ว ทุกคนจะได้มาช่วยกันทำให้ฟ้าหลังฝนสดใส ประเทศไทยสดชื่น คนไทยมีรอยยิ้ม ผู้ประกอบการมีชีวิตชีวา นักท่องเที่ยวทุกคนมีความสุข

แต่ก่อนที่จะถึงวันนั้นคนไทยทุกคนควรช่วยกันในวันนี้ด้วยการ “อยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ” สยบการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ลงให้ได้เร็วที่สุด มุ่งมั่นช่วยกันตั้งแต่ตอนนี้เป็นต้นไป

ข่าวต้นชั่วโมง

ข่าวที่ 1 “คิงเพาเวอร์ชูช้อปออนไลน์ลด70%BRAND OF THE WEEK”

กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ลุยขายช้อปปิ้งออนไลน์ทางเว็บไซต์และแอพลิเคชั่น ด้วยแคมเปญ “BRAND OF THE WEEK – FASHION” ลดสูงสุด 70% โดยไม่ต้องมียอดขั้นต่ำในการซื้อสินค้าที่เข้าร่วมรายการ ระหว่างวันนี้- 30 มิถุนายน 2563 เพียงเข้าไปคลิกเลือกสินค้าใน www.kingpower.com  และ kingpower application พร้อมกับรับรหัสส่วนลดที่จะนำมาใช้ซื้อสินค้าได้ตลอด24 ชั่วโมง ด้วยกติกาดังนี้

1. รหัสส่วนลดใช้ได้ตั้งแต่วันนี้ – 7 เมษายน 2563 เท่านั้น
2.รหัสส่วนลดสามารถใช้ได้ที่ www.Kingpower.com หรือ King Power Application ตั้งแต่วันนี้ – 30 มิ.ย. 63 เฉพาะสินค้าที่ร่วมรายการ
3.แบ่งชำระ 0% ดังนี้ นานสูงสุด 10 เดือน เมื่อช้อปครบ 15,000.- (สุทธิ) / 1 รายการสั่งซื้อ และผ่อน 6 เดือน เมื่อช้อปครบ 10,000.- (สุทธิ) / 1 รายการสั่งซื้อ ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2563

ตรวจสอบเงื่อนไขการช้อปออนไลน์ทุกครั้งก่อนสั่งซื้อ

ข่าวที่ 2 “ช้อปสนั่นคิงเพาเวอร์Last Change SALE2บิ๊กแบรนด์”

กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ จัดมหกรรมลดกระหน่ำช้อปออนไลน์และแอพลิเคชั่น ระหว่างวันนี้-31 พฤษภาคม 2563 กับแคมเปญ“Last Change SALE “ ลดทันที 50 % ผลิตภัณฑ์สินค้าแฟชั่นกีฬาแบรนด์ของเลสเตอร์ เพียงเข้าเว็บไซต์ kingpower.com แล้วเข้าไปกดรับรหัสส่วนลด NFCL50

ประกอบด้วย “แบรนด์เลสเตอร์” สินค้าไฮไลต์คือ เสื้อนักเตะสโมสรเลสเตอร์ ซิตี้ ได้แก่ “เสื้อและกางเกงแข่งทีมเหย้า 2019-2020” เริ่มต้นฤดูกาลใหม่ 2019-2020 ไปพร้อมๆ กัน คว้าเสื้อทีมโปรด Leicester City Football Club เสื้อแข่งทีมเหย้า สวมเข้าแล้วส่งเสียงเชียร์อย่างแข็งแกร่ง ร่วมกันเป็นสักขีพยานแห่งการคว้าชัยของจิ้งจอกสีฟ้าไปพร้อมกับแฟนๆ จิ้งจอกทั่วโลกได้ในวินาทีนี้ เสื้อราคาตัวละ 2,600 บาท กางเกงตัวละ 1,350 บาท รวมทั้งยังมีเสื้อฝึกซ้อมสีดำ สีเทา ตัวละ 1,490 บาท

แบรนด์ “MAHANAKHON” เสื้อยืดลายทาง สกรีนลายบางกอกซิตี้ สีขาว สื้อยืดลายทางสีขาว ผลิตจากผ้าคอตตอน 100% ชายเสื้อด้านหลังสกรีนลายกรุงเทพมหานคร เมืองศิวิไลซ์ที่เป็น Top destination ของนักท่องเที่ยวทั่วโลก เสื้อยืดลายวิวทิวทัศน์ สีเหลือ ราคา 590 บาท/รายการ ลายช้าง Born to Survive สะท้อนเรื่องราวของช้างซึ่งเป็นสัตว์ประจำชาติไทย หมวก Sky Walk และเสื้อยืดลายไทยอีกหลากหลายแบบ ราคา 490 บาท/รายการ สำหรับกระเป๋าพับได้แบบพกพาสะดวกลายกราฟฟิก ใบละ 550 บาท กระเป๋าใส่เหรียญเอกลักษณ์เฉพาะรูปก้อนเมฆ ใบละ 310 บาท เรื่อยไปจนถึง Mahanakhon SkyWalk ถุงช้อปปิ้ง  ขนาดใหญ่ น้ำหนักเบา บรรจุของได้เยอะ ให้คุณช้อปปิ้งได้อย่างจุใจโดยไม่ต้องพึ่งพาถุงพลาสติก ราคาเพียงใบละ 210 บาท เท่านั้น

ข่าวที่ 3 “รมว.พิพัฒน์หนุนททท.ช่วยเอกชนท่องเที่ยวรอดวิกฤตโควิด”

นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า มอบหมายการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดรับฟังความเห็นและข้อมูลจากภาคเอกชนในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวทุกเรื่อง เพื่อจะได้เข้าไปช่วยแก้ไขปัญหาบรรเทาความเดือดร้อนแก่ผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวทั้งประเทศ โดยตระหนักถึงความจำเป็นและเร่งด่วนของปัญหาเรื่องผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19

โดยเฉพาะเรื่องของเสนอรัฐบาลเยียวยานำเงินประกันสังคมจากกระทรวงแรงงานมาจ่ายค่าชดเชยให้ “ลูกจ้าง” กิจการโรงแรมที่จะต้องหยุดบริการชั่วคราว ซึ่งตามมติคณะรัฐมนตรี วันที่ 31 มีนาคม 2563 เห็นชอบให้แก้ไขอุปสรรคบางส่วนไปบ้างแล้ว แต่ยังคงมีประเด็นถกเถียงกันถึงเรื่องแนวทางการปฏิบัติของกระทรวงแรงงาน ยังไม่สามารถนำเงินจากประกันสังคมมาจ่ายชดเชยให้ลูกจ้างโรงแรมที่รัฐไม่ได้สั่งปิดเหมือนธุรกิจอื่น ๆ

รวมทั้งได้รับจดหมายจาก นายชัยรัตน์ ไตรรัตนจรัสพร ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) และสมาคมโรงแรมไทย เสนอปัญหาอุปสรรคต่าง ๆ มายังกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เพื่อช่วยกันแก้ปัญหาให้ยุติลง เพื่อให้เกิดผลในทางปฏิบัติได้จริง

รวมทั้งก่อนหน้านี้ได้เป็นประธานการลงนามข้อตกลงความร่วมมือ MOU ระหว่าง ททท. สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) บรรษัทสินทรัพย์ประกันสินทรัพย์อุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) ธนาคารออมสิน เพื่อเพิ่มสภาพคล่องและรักษาขีดความสามารถเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศให้ทุกกิจการสามารถผ่านพ้นช่วงเวลาวิกฤตนี้ไปด้วยกันให้ได้

ข่าวที่ 4 “ททท.ระยองโพสต์ปิดชั่วคราวบางแหล่งท่องเที่ยว-สวนผลไม้”

การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานระยอง โพสต์เฟสบุ๊ค ถึงสถานการณ์ในช่วงที่รัฐบาลมีนโยบายให้ “อยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ” ป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ตามแหล่งท่องเที่ยวในจังหวัดระยองได้ปิดรับนักท่องเที่ยวชั่วคราว ดังต่อไปนี้

1.อุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ด / น้ำตกเขาชะเมา / น้ำตกคลองปลาก้าง แจ้งปิดตั้งแต่วันที่ 25 มีนาคม 2563 มาจนถึงขณะนี้ 2.สวนพฤกษศาสตร์ระยอง ปิดตั้งแต่วันนี้- 31 มีนาคม 3.ศูนย์เรียนรู้ป่าวังจันทร์  4.วัดถ้ำเขาประทุน อ.แกลง 5.สวนสมุนไพรสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารีปิดตั้งแต่วันที่ 21 มีนาคม 6. สถานแสดงพันธุ์สัตว์น้ำระยองปิดตั้งแต่วันที่ 20 มีนาคม

ขณะที่สวนผลไม้ ประกาศปิดชั่วคราวที่แจ้งอย่างเป็นทางการก็มี “สวนสุภัทราแลนด์” ปิดตั้งแต่วันนี้ 20 มีนาคม-2 เมษายน 2563 “สวนบ้านเรา” ปิดไม่มีกำหนด

ทางด้านคณะกรรมการโรคติดต่อระยองได้ประกาศให้ปิดชั่วคราว 5 สถานที่ ระหว่าง 25 มีนาคม – 7 เมษายน 2563 ได้แก่ 1. ศูนย์พระเครื่อง พระบูชา และสนามพระเครื่อง พระบูชา 2. สถานประกอบกิจการสถานที่ออกกำลังกายภายในโรงแรม รีสอร์ท ที่พักทุกประเภท 3. สระว่ายน้ำ รวมถึงสระว่ายน้ำภายในโรงแรม รีสอร์ท ที่พักทุกประเภท 4. สวนสนุก และเครื่องเล่นเกม 5. ร้านอาหารที่มีดนตรี การแสดงดนตรี หรือเปิดเพลงบริการลูกค้า

ข่าวที่ 5 “บางจากเลื่อนประชุมผู้ถือหุ้น-จ่ายปันผลปกติ24เม.ย.นี้”

นายชัยวัฒน์ โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า คณะกรรมการบริษัทฯ ได้มีมติเลื่อนการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2562 ออกไปไม่มีกำหนด และได้พิจารณาอนุมัติจ่ายเงินปันผล มีกำหนดจ่ายวันที่ 24 เมษายน 2563 เนื่องจากสถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 บางจากให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของพนักงานและการให้บริการทางธุรกิจด้วยการเตรียมแผนการบริหารความต่อเนื่องทางธุรกิจ (Business Continuity Management: BCM) ไว้รองรับ เพื่อให้ทุกกลุ่มธุรกิจสามารถดำเนินงานได้อย่างต่อเนื่อง ไม่มีผลกระทบต่อความมั่นคงด้านพลังงานของประเทศและการให้บริการลูกค้า หรือการติดต่อประสานงานกับหน่วยงานต่างๆ

บริษัท บางจากฯ ได้จัดเตรียมความพร้อมทั้งในด้านบุคลากร ระบบปฏิบัติการ ระบบสารสนเทศต่างๆ ที่จำเป็นต่อการทำงาน สำหรับพนักงานที่ปฏิบัติงานที่บ้าน (Work from Home) มีการนำเทคโนโลยีมาใช้เพื่อให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและคล่องตัว สามารถให้บริการลูกค้าได้อย่างต่อเนื่อง ในขณะที่พนักงานที่จำเป็นต้องปฏิบัติงานในพื้นที่ปฏิบัติการต่างๆ เช่นในโรงกลั่นน้ำมัน มีการแบ่งทีมปฏิบัติงานตามช่วงเวลา โดยจะได้รับการดูแลด้านสถานที่ทำงานที่สะอาดถูกสุขลักษณะและการอำนวยความสะดวกด้านต่างๆ เพื่อให้การปฏิบัติงานเป็นไปอย่างราบรื่น และได้กำหนดให้มีมาตรการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส  COVID-19 อย่างเคร่งครัด รวมถึงการใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลาและข้อปฏิบัติต่างๆ เพื่อรักษาระยะห่างทางสังคม (social distancing) ป้องกันการแพร่เชื้อและติดเชื้อ

ส่วน “สถานีบริการน้ำมันบางจาก” ทั่วประเทศยังคงเปิดขายน้ำมันตามปกติ เช่นเดียวกับ “ร้านสะดวกซื้อ SPAR และร้านกาแฟอินทนิล”  ยกเว้นในเขตที่ราชการประกาศเปิดแล้วให้บริการจำหน่ายเฉพาะนำกลับบ้านเท่านั้น โดยมีบางสาขาในห้างและมหาวิทยาลัยที่ภาครัฐขอความร่วมมือปิดชั่วคราว แต่สามารถติดต่อบางจาก www.bangchak.co.th เฟสบุ๊ก www.facebook.com/Bangchak/ และ Call Center 1651

ทั้งนี้ บริษัทฯ พร้อมจะปรับเปลี่ยนรูปแบบการดำเนินงานตามสถานการณ์ โดยจะปฏิบัติตามข้อกำหนดต่างๆ ของศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 ของรัฐบาลอย่างเคร่งครัด

ช่วงที่ 2 ชวนมาดูแลตัวเองด้วย “5วิธีรักษาสุขภาพจิตให้แข็งแรงในช่วงโควิด-19” ส่วนข่าวร้อนฉ่า ปรากฎการณ์ “ผู้โดยสารสุวรรณภูมิหนีกักตัวทำป่วนทั้งประเทศ 5 เรื่อง” พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา” เรียกทุกฝ่ายถกด่วนวันเสาร์ที่ 4 เม.ย.นี้ 9 โมงเช้า ส่วน “ผู้สภาท่องเที่ยว” ส่งหนังสือบี้รัฐบาลปลดล็อกช่วยกิจการท่องเที่ยว 13 อาชีพ 113 สมาคมด่วน ๆ 3 เรื่องใหญ่

@5วิธีดูแลจิตให้แข็งในช่วงสถานการณ์โควิด-19

ราชวิทยาลัยจิตแพทย์แห่งประเทศไทย แนะนำการดูแลสุขภาพจิตในช่วงระบาดของไวรัส COVID -19 ที่ทุกคนนำไปปรับใช้ได้ดังนี้

1.“เลือกรับข้อมูลที่เชื่อถือ” การแพร่ระบาดของ COVID-19 เป็นประเด็นที่คนให้ความสนใจมาก ทุกสื่อต่างพร้อมใจแชร์ข่าวสาร อัพเดตกันทุกๆ ชั่วโมงเลยทีเดียว โดยเฉพาะสื่อออนไลน์ที่เผยแพร่ข้อมูลได้รวดเร็ว แต่ก่อนจะแสดงความคิดเห็น หรือส่งต่อให้คนที่เรารู้จัก ควรตรวจสอบให้ดีว่าเป็นแหล่งข่าวที่น่าเชื่อถือหรือไม่ ควรเลือกอ่านจาก  หน่วยงานรัฐบาลหรือหน่วยงานด้านสาธารณสุข ถ้าเราส่งต่อข้อมูลผิด ๆ จะยิ่งทำให้คนสับสน และสังคมเกิดปัญหามากขึ้น

2.ลดการเสพข้อมูล - การรับข้อมูลข่าวสารให้ทันต่อเหตุการณ์เป็นสิ่งที่ควรทำ แต่ถ้าอ่านและดูข่าวมากเกินไปโดยไม่สนใจเรื่องอื่นๆ เลย จะยิ่งทำให้คิดมากและเครียดกว่าเดิม ควรจำกัดเวลารับข่าวสารว่าแต่ละวันจะใช้เวลาเท่าไหร่ และเช็กข่าวเวลาไหน ปิดการแจ้งเตือนจากโซเชียลบ้าง วิธีนี้ช่วยดูแลสุขภาพจิตให้ผ่อนคลายจากความเครียด

3.คลายเครียดด้วยงานอดิเรก - ช่วงนี้คนส่วนใหญ่ทำงานอยู่ที่บ้าน (Work from home) ตามมาตรการ Social distancing ควรแบ่งเวลาหันมาทำงานอดิเรกบ้าง เช่น ออกกำลังกายอยู่ที่บ้าน ดูซีรี่ย์ ทำอาหาร เล่นเกมส์ ทำให้ร่างกายหลั่งสารเอ็นโดรฟินหรือสารแห่งความสุข ช่วยให้รู้สึกดี สบายตัว ผ่อนคลายจิตใจได้

4.รู้เท่าทันอารมณ์ตัวเอง - คือการรู้จักดูแลและควบคุมอารมณ์ตัวเอง ในวิกฤติโรคระบาดนี้หลายคนรู้สึกเศร้า เครียด สิ้นหวัง  ซึ่งมาจากสาเหตุที่แตกต่างกัน ควรทำตามคำแนะนำในการดูแลสุภาพจิตดังนี้
4.1 ตระหนักและยอมรับ รับรู้ว่าตอนนี้เรากำลังรู้สึกไม่มั่นคงทางจิตใจและต้องการการดูแล เช่น อารมณ์โกรธ เศร้า เหงา

4.2 หาสาเหตุให้เจอ  คิดและไตร่ตรองหาสาเหตุว่าทำไมเราถึงรู้สึกแบบนี้ เครียดเพราะอะไร กังวลไปทำไม อาจจะเขียนสิ่งที่กังวลในกระดาษ แล้วลองเชื่อมโยงหาสาเหตุ  เพื่อให้เข้าใจที่มาของปัญหา

ปรึกษาคนที่ไว้ใจได้ อย่าแบกรับปัญหาไว้คนเดียว การได้ระบายและพูดคุยกับคนใกล้ตัว จะทำให้เราได้กำลังใจและข้อเสนอแนะในการรับมือกับปัญหา ช่วยลดความเครียด แต่ถ้ายังรู้สึกกังวลจนหาทางออกไม่ได้ ควรปรึกษาจิผู้เชี่ยวชาญหรือแพทย์ที่ดูแลสุขภาพจิตโดยตรง

มีสติอยู่กับปัจจุบัน ตั้งสติเพื่อรับมือกับปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องงาน สุขภาพ ของตัวเองหรือคนใกล้ตัว เมื่อไหร่ที่เกิดความเครียดให้ลองคิดถึงปัจจุบัน รับรู้ถึงลมหายใจตัวเอง ลองหายใจเข้า-ออก สัก 10 ครั้ง ช้าๆ แบบต่อเนื่อง จะช่วยให้จิตใจเราสงบมากขึ้น แล้วพร้อมคิดหาทางแก้ปัญหาต่อไป

5.แบ่งปันและให้กำลังใจ ในสถานการณ์ที่หลายคนในสังคมกำลังลำบาก เราสามารถหยิบยื่นความปราถนาดีให้แก่กัน  ส่งกำลังใจ หรือบริจาคช่วยเหลือสิ่งของให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตามศักยภาพ แล้วสิ่งที่ไม่ควรทำคือการแสดงท่าทีรังเกียจหรือซ้ำเติมผู้ติดเชื้อ หรือแสดงความเห็นแก่ตัวโดยไม่คิดถึงผู้อื่น เช่น การกักตุนสินค้าเกินความจำเป็น หรือฉวยโอกาสขึ้นราคาสินค้า เอารัดเอาเปรียบ จะยิ่งทำให้สังคมเป็นทุกข์มากขึ้น ในที่สุดจะส่งผลลบกับอารมณ์และจิตใจของเราด้วย

ข่าวท้ายชั่วโมง

ข่าวแรก “ผู้โดยสารไทยในสุวรรณภูมิหนีกักตัว3เม.ย.ทำชาติป่วน5เรื่อง”

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อช่วงเย็นวันศุกร์ที่ 3 เมษายน 2563 ในสนามบินสุวรรณภูมิ ผู้โดยสารคนไทยที่เดินทางกลับจากต่างประเทศ 166  คน ก่อเหตุไม่ปฏิบัติตามพระราชกำหนด (พรก.) ฉุกเฉินของรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา โดยปฏิเสธไม่เดินทางไปกับเจ้าหน้าที่เพื่อกักตัวในสถานที่ที่รัฐกำหนดไว้เป็นเวลา 14 วัน รวมทั้งมีบางส่วนอาศัยช่วงชุลมุนระหว่างที่มีกลุ่มผู้โดยสารกับเจ้าหน้าที่ถกเถียงกันอยู่แอบหลบหนีออกจากสนามบินกลับบ้าน ซึ่งในจำนวนนี้มีผู้โดยสารมีไข้สูงรวมอยู่ด้วย 3 คน

สำหรับผู้โดยสารคนไทยที่มาถึงสนามบินเมื่อวันที่ 3 เมษายน 2563 มีจำนวนรวม 416 คน มาจาก 8 เที่ยวบิน คือ ญี่ปุ่น เกาหลี ฮ่องกง กวางโจว การ์ต้า  สิงคโปร์ ในจำนวนนี้มี 166 คน ปฏิเสธการกักตัวส่วนใหญ่บินมาจากญี่ปุ่น สิงคโปร์ การ์ต้า แต่ผู้โดยสารทั้งหมดเดินทางมาถึงสุวรรณภูมิตรงกับวันแรกที่รัฐบาล พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ประกาศต้องใช้พระราชกำหนดฉุกเฉินเพิ่มเรื่องการห้ามคนออกนอกเคหะสถาน ตั้งแต่ 22.00-04.00 น.ด้วย

ส่งผลให้ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ต้องเรียกประชุมด่วนในเช้าวันเสาร์ที่ 4 เมษายน 2563 ซึ่งเป็นผลจากเหตุการณ์ความวุ่นวายที่สุวรรณภูมิ ที่คนไทยเดินทางกลับจากต่างประเทศไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย การกักตัวในสถานที่ที่รัฐจัดไว้ให้เป็นเวลา 14 วัน เพื่อป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19

จากเหตุการณ์ผู้โดยสารปฏิเสธการกักตัวครั้งนี้ ส่งผลตามมาถึง 5 เรื่อง ดังนี้

1.นายกรัฐมนตรีเรียกประชุมด่วนทั้งกระทรวงการต่างประเทศและเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องทั้งหมด

2.ทีมตำรวจ ทหาร ที่ได้รับมอบหมายให้ดูแลด้านความมั่นคง ปลอดภัย ความสงบเรียบร้อยในสนามบิน ต้องเสียกำลังพลไปติดตามคนเหล่านี้กลับมากักตัว

3.เจ้าหน้าที่สาธารณสุขเข้าแจ้งความที่สถานีตำรวจเอาผิดผู้โดยสารทั้งหมดที่ขัดขืนการปฏิบัติหน้าที่ดูแลความปลอดภัยเรื่องการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ตาม พรก.ฉุกเฉิน

4. สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) ออกประกาศแบนเที่ยวบินทั่วโลกทันที ห้ามสายการบินต่างประเทศขนผู้โดยสารเข้ามายังประเทศไทยเป็นเวลา 3 วัน  ระหว่าง 4-6 เมษายน 2563

5.สร้างความเดือดร้อนให้แก่ผู้โดยสารคนไทยทั่วโลกที่ต้องการเดินทางกลับประเทศในช่วงเวลาดังกล่าว

ขณะที่ต้องขอชื่นชมผู้โดยสารบางส่วนที่ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่เดินทางไปกักกันตัวเอง 14 วัน ตามที่ทางรัฐบาลได้จัดสถานที่ไว้ แต่ละสถานที่มีขีดสามารถรองรับคนได้ดังนี้ 1.สัตหีบ 300 คน 2.โรงแรมเอลิแกนซ์ เขตประเวศน์ 260 คน 3.โรงแรมเดอะภัทรา ซอยพระรามเก้า 31 ถนนพระรามเก้า 400 คน

ติดตามฟังรายการได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 11.00-12.00 น.ทาง สวท.FM97.0 

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ททท.นครราชสีมาพลิกโฉมตลาดท่องเที่ยวปี67

  รุ่งทิพย์ บุกขุนทด  ผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานนครราชสีมา ททท.นครสีมานำธุรกิจพลิกโฉมตลาดปี 67 เที่ยวโคราช-ชัยภูมิ ปลุกกระแส 3 วัยเที่ยวมุมใหม่เมืองย่าโม 3 มรดกโลก 10 อำเภอ จัดชุดใหญ่ Soft Power365 วัน 2 จว. 5 จุดขาย-สงกรานต์สนุกแน่ สมัคร!!สมาชิกคิงเพาเวอร์มี.ค.รับกิฟท์โวเชอร์/กะรัต/ส่วนลด THE POWER BAND# 4คิงเพาเวอร์แจก2ล้านนักดนตรีอาชีพ พลูแมนคิงเพาเวอร์ชูแพ็คเกจ Wedding แจก12รายการ2-3มี.ค. ททท.หนุน PELUPO ปักหมุดพัทยาบูมเที่ยวเทศกาลดนตรีโลก บางจากนำโมเดลสมดุลเพื่อโลกยั่งยืน ESG ส่งต่อผู้อบรมกปร. สุขทันทีนั่งรถม้าเที่ยวลำปาง-วัดพระพุทธบาทผาหนามลำพูน นายกฯจุดฝันไทยฮับบินโลกดันสุวรรณภูมิติดท็อป 20 รุก 5 ส่วน 800 บูธร่วมมหกรรมลดกระหน่ำเทศกาลเที่ยวไทยถึง 3 มี.ค. 67 วันเสาร์ที่  2 มีนาคม 2567 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen #gurutourza # รวยด้วยข่าวเสาร์อ

TCEBนำไมซ์ปี67โร้ดโชว์เทรดโชว์ทั่วโลก-จัดยกทีมประชุมรุมรักเมืองไทย

นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) "TCEB" บิ๊ก TCEB ปี 67 ปั๊มยอดไมซ์โตลุยโร้ดโชว์/เทรดโชว์ทั่วเอเชีย ในประเทศจัดกระหึ่ม“ยกทีมประชุมรุมรักเมืองไทย”พ.ค.นี้   3-7 มี.ค.ประชุมโดฮาลุ้นข่าวดี !! ไทยเจ้าภาพ Korat Expo2029 ดับร้อน!!ที่คิงเพาเวอร์ช้อป4มันส์ลดแจกแลกฟรี-31มี.ค.67 คิงเพาเวอร์จัดเต็ม 3.3 BEAUTY TRIO” ช้อป 3 อย่างลด 25% ททท.นำร่องจัด AIR-MAZING ไทยฮับท่องเที่ยว/การบินปี67 บางจากแจกมี.ค.67นำปั๊มเอสโซ่เดิม & บางจากมอบ2โปรดี สุขทันทีที่เที่ยวแดนใต้นราธิวาสเมืองพหุวัฒนธรรม5พิกัด AWC ปี’66ทำ5นิวไฮ-ปี67ทุ่ม1.9หมื่นล้านเปิด18โครงการ Trip.com- ททท.ไลฟ์สตรีมขายสงกรานต์โกยต่างชาติ150ล. วันอาทิตย์ที่   3 มีนาคม 2567 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen #gurutourza # รวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์ FM97  # เพ็ญรุ่งใยสามเสน # เท

เปิดใจ “พศิน ลาทูรัส”ทายาท”นารายา”พลิกโมเดลแบรนด์ไทย ถอดบทเรียนโควิดปรับมุมคิดธุรกิจรุ่งปั้นสินค้าใหม่บุกทั่วโลก

  เปิดใจ “พศิน ลาทูรัส”ทายาท”นารายา”พลิกโมเดลแบรนด์ไทย ถอดบทเรียนโควิดปรับมุมคิดธุรกิจรุ่งปั้นสินค้าใหม่บุกทั่วโลก คิงเพาเวอร์ชวนช้อปออนไลน์แบรนด์เนมลด 70%26-31 ต.ค.นี้ สนุกกับ SUPER SURPRISE ดีลพิเศษราคาดิวตี้ฟรีที่คิงเพาเวอร์ ก.ท่องเที่ยวตีปีกรับทัวร์ต่างชาติ 3 เฟส-ไฟเขียวแล้ว 10 แอร์ไลน์ ไทยจ่อดึงลองสเตย์ต่างชาติซื้ออสังหาฟื้นเศรษฐกิจหลังโควิด “ TCEB” ชูไทยแลนด์ไมซ์สตาร์ตอัพปั้นนวัตกรรมใหม่5โปรเจ็กต์ หนาวนี้เที่ยว“นครพนม”ปลอดภัยมั่นใจเส้นทางสาย SHA ริมโขง วิธีเลือกกินเพื่อหลีกเลี่ยงความอ้วนควบคู่การลดโรคมากมาย ไทยสมายล์ขายตั๋วชุดเที่ยวไทยเหมาจ่าย4ใบเริ่มที่3.8พันบาท ไทยเวียตเจ็ทขายตั๋ว5บาท/เที่ยวโปร2เส้นทางใหม่ในประเทศ กรมเจ้าท่าฟุ้งแผนทำ10ท่าเรือรองรับวันสต็อปเที่ยวเจ้าพระยา   นายพศิน ลาทูรัส ซีอีโอฝ่ายพัฒนาธุรกิจ  บริษัท นารายณ์ อินเตอร์เทรด จำกัด ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” ในวันเสาร์ที่ 24 ตุลาคม 2563 เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง