ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

ผู้นำ ททท.งัด4โปรเจ็กต์รอฟื้นท่องเที่ยวหลังโควิด-19 สายการบินจีน-เกาหลี-ญี่ปุ่นส่งสัญญาณกลับมาบิน คิงเพาเวอร์ลุยช่วยสังคม-ขายออนไลน์เต็มรูปแบบ



ผู้นำ ททท.งัด4โปรเจ็กต์รอฟื้นท่องเที่ยวหลังโควิด-19

สายการบินจีน-เกาหลี-ญี่ปุ่นส่งสัญญาณกลับมาบิน
คิงเพาเวอร์ลุยช่วยสังคม-ขายออนไลน์เต็มรูปแบบ
คิงเพาเวอร์ผนึกทอ./ทร.มอบถุงยังชีพเกาะยาวใหญ่
ททท.ปักกิ่งอัพเดทท่องเที่ยวจีนแนะควรรู้5นโยบาย
ททท.บูมแคมเปญพักSocial Distancing@Hotels
สมาชิกบางจากรีบเปลี่ยนใช้PIN4หลักเริ่ม1พ.ค.63
ชวน7กลุ่มเสี่ยงฉีดวัคซีนหวัดใหญ่1พ.ค.-31ส.ค.นี้
8โลว์คอสต์แห่ขอรัฐปล่อยกู้ซอฟท์โลน2.4หมื่นล้าน
บอร์ด ทอท.สั่งเยียวยารอบ2การบินและร้านพาณิชย์
โยนนายกฯประยุทธ์เคาะแผนฟื้นบินไทย29เม.ย.63


ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” ในวันเสาร์ที่ 25 เมษายน 2563 เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทางfacebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen บล็อกเกอร์ #gurutourza #รวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97  #เที่ยวกับกู๋  
ดร.ยุทธศักดิ์ สุภสร
 ผู้ว่าการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)

           ช่วงที่
1
เปิดมุมใหม่ “ดร.ยุทธศักดิ์ สุภสร” ผู้ว่าการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ทำแผนตลาดรอหลังโควิด-19 รุกในประเทศ “เพิ่มความถี่” รักษารายได้ 1 ใน ด้วย 4 โปรเจ็กต์ปั๊มท่องเที่ยวปลายปีสู่เทรนด์วิบวับ ด้วย 4 โปรเจ็กต์ “60เส้นทางความสุข-จัดชุดใหญ่เส้นทางเที่ยวปลอดภัย-บอกรักเมืองไทย-แคมเปญพลังบวก” งัดสูตร 6 ไม่” ควบทำมาตรฐานปลอดภัยต้นทางจนถึงปลายทาง ขานรับพฤติกรรมการเดินทาง New Normal พร้อมจัดทัพ 5 สำนักงานในจีนรอสัญญาณเปิดประเทศ เริ่มมีข่าวดีแอร์ไลน์ “จีน-เกาหลี-ญี่ปุ่น” จับเข่าคุยเส้นทางบิน และระหว่างรอปลดล็อกดาวน์เมืองไทยชวนช่วยกันอุดหนุนสินค้าชุมชนทั่วไทยในเพจเฟซบุ๊ค“Amazing Market-การฝากร้านแห่งประเทศไทย”

ดร.ยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ก่อนรัฐบาลจะเปิดล็อกดาวน์ประเทศซึ่งมีแนวโน้มอาจทยอยเปิดตั้งแต่เดือนพฤษภาคมนี้เป็นต้นไป แต่ก็ต้องขึ้นอยู่กับสถานการณ์แพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ททท.เตรียมการณ์กระตุ้นท่องเที่ยว ความเร็วฟื้นฟู คนไทยออกเดินทางอีกครั้ง หลังจากถูกจำกัดด้วยการแพร่ระบาดของไวรัส แผนจะเน้นเรื่อง “เพิ่มความถี่การเดินทางมากขึ้น” จากปกติเคยวางแผนเพิ่มค่าใช้จ่าย รวมทั้งอยากให้เมืองไทย “วีบวับ พรึบพรับ” สามารถรักษารายได้จากตลาดในประเทศให้ยังคงทำได้ 1 ใน 3 ของประเทศต่อไป


กลยุทธ์ “การเพิ่มความถี่” อันดับแรก จะต้องเลือกเส้นทางที่คนไทยอยากออกไปเที่ยว เมื่อปลดล็อกดาวน์แล้วควรจะไปเที่ยวไหนกันดี ทางนายนพดล ภาคพรต รองผู้ว่าการด้านตลาดในประเทศ ได้จัดเตรียม โครงการแรก “60 เส้นทางความสุข” ไว้ ทำให้คนไทยออกมาเที่ยวอย่างสะใจไปเที่ยวทั่วไทย ด้วยธรรมชาติฟื้นคืนมาอย่างสวยงาม ผนวกกับระยะแรกจะไม่แออัด เพราะนักท่องเที่ยวต่างชาติยังเข้ามาไม่ได้
โครงการที่ 2 สร้างแรงดึงดูดเพิ่มด้านความปลอดภัย เที่ยวอย่างมั่นใจ ด้านสุขภาพ อนามัย เรียกว่าสนามแม่เหล็กท่องเที่ยว ประกอบด้วย 2.1 การชูอาหารถิ่น จุดขายเป็นปัจจัยอันดับต้น ๆ ที่ทำให้คนเดินทาง 2.2 ส่งเสริมการเดินทางเข้าสู่พื้นที่ต่าง ๆ ประชุม สัมมนา จัดกิจกรรมข้ามภาค 2.3 รังสรรกิจกรรมดึงดูดการเดินทาง กิจกรรมต้องห้ามพลาด เช่น เขาเล่าว่า ครั้งหนึ่งนานมาแล้ว เทศกาลประจำถิ่นที่คนยังรู้จักน้อย
โครงการที่ 3 มุ่งเจาะคนไทยเคยเที่ยวต่างประเทศ หากช่วงพฤษภาคม-มิถุนายน คนยังไม่สามารถไปเที่ยวต่างประเทศได้ ททท.จะเปลี่ยนใจให้คนกลุ่มนี้ออกมา “บอกรักเมืองไทย” สัมผัสความงดงามของเมืองไทย เพราะปี 2562 มีคนไทยไปเที่ยวต่างประเทศกว่า 13 ล้านคน

โครงการที่ 4 เที่ยวพลังบวก กลุ่มเป้าหมายเฉพาะ 1.เที่ยวอิ่มบุญ ทำบุญไหว้พระ  2.เที่ยวดีแข็งแรงได้ พาไปออกกำลังกาย ดูแลสุขภาพ 3.เที่ยวพาคลายยิ้ม ในเชิงซีเอสอาร์ พาผู้ด้อยโอกาส ผู้พิการ สร้างประสบการณ์ให้บุคลากรทางการแพทย์ด้วยอาสาพาเที่ยวให้กลุ่ม อสม.
แต่การจัดกิจกรรมโครงการท่องเที่ยวทั้งหมดที่กล่าวข้างต้นนั้น จะต้องดูอีกครั้งว่าทั้งประเทศจะมีความพร้อมเมื่อไร และมั่นใจการเดินทางจะไม่กลายเป็นสาเหตุของการแพร่เชื้อได้ และเมื่อทุกอย่างกลับสู่ปกติ ผมมั่นใจการท่องเที่ยวจะกลับมาวิบวับได้



ดร.ยุทธศักดิ์ กล่าวว่า ได้ประเมินมาตรการขณะนี้บางจังหวัดยังยึดกฎเข้ม หากมีคนเดินทางข้ามจังหวัดจะต้องกักตัวเอง 14 วัน เพื่อดูอาการ หรือการงดบิน การปรับลดเส้นทางรถทัวร์ รถไฟ หากระบบคมนาคมยังไม่สามารถกลับมาได้ก็จะต้องรอ แต่ก็หวังว่าในเดือนพฤษภาคม 2563 เป็นต้นไป จะค่อย ๆ เห็นการเดินทางได้แบบค่อยเป็นค่อยไป เพราะต้องตระหนักถึงภาพรวมของประเทศยังอยู่ในสถานการณ์ป้องกันควบคุมการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19

ส่วนขณะนี้ ททท.สำนักงานต่าง ๆ ทั่วประเทศหันมาเปิดหน้าเพจหรือออนไลน์เป็นช่องทางช่วยเอกชน ชุมชน นำสินค้ามาจำหน่าย ในโครงการ “ฝากร้าน-แห่งประเทศไทย หรือ Amazing Market” ซึ่งเป็นความภาคภูมิใจ 1 ในมาตรการช่วยเหลือเยียวยามหาวิกฤตส่งผลกระทบเป็นห่วงโซ่กับอุตสาหกรรมท่องเที่ยวทั้งหมด ดังนั้นจึงต้องสร้างงาน สร้างรายได้ โครงการดังกล่าวได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ผู้ขายคือจากกลุ่มคนในวงการท่องเที่ยว ชุมชน ร้านอาหาร บุคลากรในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว จึงมีทั้งอาหารเครื่องดื่ม ผัก ผลไม้ ของสด หรือแม้แต่หน้ากากผ้าไทย หน้ากากผ้าชุมชน ททท.พยายามทำให้ผู้ซื้อรู้จักผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ กว้างขวางมากขึ้น ต่อจากนี้ไปใครที่อยากหาซื้อของดีจะต้องเข้ามาที่ “Amazing Market


ตอนนี้ทางฝ่ายสื่อสารการตลาดพยายามโปรโมต และต้องขอบคุณ ท่านพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ทั้งเข้ามาเยี่ยมชมและอุดหนุนสินค้าในออนไลน์ Amazing Market เป็นกำลังใจให้ผู้ขายทั่วประเทศ จึงขอเชิญชวนผู้บริโภคเข้ามาช่วยกันซื้อสินค้าในเพจ Amazing Market กันมาก ๆ แล้วจะได้ของดีไปบริโภคและใช้งาน ราคาเป็นธรรม สมเหตุผล ช่วยผู้ประกอบการท่องเที่ยวได้เป็นอย่างดี เป็นช่วงที่อยู่บ้านสามารถใช้มือคลิกเดียวก็สามารถได้สินค้าคุณภาพด้วย

ดร.ยุทธศักดิ์กล่าวว่า ได้วางแผนหลังไวรัสโควิด-19 สงบลง จะต้องมา Set Zero การจัดทำข้อมูลและภาพแหล่งท่องเที่ยวกันใหม่ครั้งใหญ่ จะต้องขยายเนื้อหามากกว่าเน้นตามรูปแบบเดิมเรื่องความสวยงาม ความปลอดภัย เพราะนักท่องเที่ยวยุคต่อไปต้องการข้อมูลที่มากว่า เช่น จะทำอย่างไรให้รู้ว่าไปตามแหล่งท่องเที่ยวนั้น ๆ แล้วจะปลอดภัย หรือมีการระบาดของเชื้อโรคหรือไม่

ดังนั้น ททท.จะร่วมมือกับท้องถิ่น และหน่วยงานเกี่ยวข้อง ปรับปรุงแหล่งท่องเที่ยว วิธีให้ข้อมูล ส่วน ททท.ก็เตรียมพาสื่อทั้งในประเทศและต่างประเทศทำให้กลายเป็น BIG WAVE ฉายให้เห็นทั้งความสวยงาม วิธีบริหารจัดการแหล่งท่องเที่ยว เพื่อตอกย้ำถึงการเดินทางท่องเที่ยวประเทศไทย ปลอดภัย มีสุขอนามัยที่ดี

สำหรับ “การท่องเที่ยวปลอดภัย” ภายหลังโควิดนั้นทุกอย่างคงจะไม่เหมือนเดิม จึงจะทำแบบเดิมไม่ได้แล้ว ตัวอย่าง ทาง ททท.สำนักงานเซี่ยงไฮ้ ได้จัดทำคลิปวิดีโอถึงวิธีการใหม่ในจีน เมื่อเข้าพักโรงแรม จะต้องเช็คอินล่วงหน้า ทางโรงแรมก็สร้างมาตรการดูแลความปลอดภัย จะเป็น NEW NORMAL ที่จะเกิดขึ้น

ขณะนี้ ททท.ร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข ออกมาตรการด้านความปลอดภัยและสุขอนามัย หรือ Safty & Health Administration :SHA  เพื่อเป็นคู่มือมีแนวทางปฏิบัติให้เกิดความมั่นใจแก่นักท่องเที่ยวที่จะเดินทางเข้ามารับรู้ถึงความปลอดภัย เป็นเครื่องหมายสร้างความมั่นใจแก่นักท่องเที่ยว จากนั้นในทุกจุด Touch Point นักท่องเที่ยวจะต้องได้รับการดูแลบนมาตรฐานเดียวกันตั้งแต่ต้นทางไปจนถึงปลายทาง
เริ่มจาก “ก่อนเดินทาง” จะให้ข้อมูลด้านความปลอดภัยที่ดี มีพื้นที่เสี่ยงอยู่บริเวณใดบ้าง

“ระหว่างเดินทาง” ก่อนขึ้นเครื่องบินจะต้องทำการคัดกรอง หรือต่อไปอาจจะต้องมี พาสปอร์ต สุขภาพ ประจำตัวนักท่องเที่ยว ควบคู่กับการทำ FIX TO FLY , FIX TO TRAVEL พอมาถึงสนามบิน  จะคัดกรองเพื่อให้เกิดความมั่นใจ ขณะนี้สายการบินในตะวันออกกลางเริ่มปฏิบัติแล้ว โดยมีชุดตรวจรวดเร็วด้านสุขภาพ และการจัดระยะห่างที่นั่งภายในเครื่องบินแต่ละเที่ยว จัดใหม่ พอมาถึงสนามบินเมืองไทย ทอท.ก็จะต้องดูแล พอขึ้นรถก็ต้องมีหน่วยงานดูแลจัดระเบียบตามมาตรการการรักษาระยะห่างทางสังคม Social Distancing เพื่อสร้างความเชื่อมั่นแก่นักท่องเที่ยวทั่วโลก

“หลังเดินทาง” ตอนนี้ทั้งโลกก็ไม่อยากมาแล้วติดโรคหรือนำโรคกลับไปแพร่เชื้อที่บ้าน ทุกขั้นตอนตลอดการเดินทางจึงต้องจัดมาตรฐานให้กลายเป็นส่วนหนึ่งของการท่องเที่ยวอย่างแท้จริง



สำหรับกลยุทธ์ซ่อม-สร้าง Re-Up Skill ที่จะเข้าไปสู่ปรับตัวต้อนรับการเดินทางท่องเที่ยวแนวใหม่ New Normal แบ่งเป็น Up Skill เริ่มตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2563 เป็นต้นไป จะเปิดคอร์สติดอาวุธทางการตลาด ทุกวัน 10 โมงเช้า และยังอยู่ระหว่างทำงานร่วมกับสถาบันอุดมศึกษา อบรมให้ความรู้แก่บุคลากรในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ซึ่งเป็นช่วงที่เหมาะสมเพราะหลายคนยังไม่ได้ทำงาน โดยจะจ่ายค่าเดินทาง รายได้จากการอบรมผ่านวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ แถมได้ความรู้ ด้วย

ส่วนการซ่อมสร้างแหล่งท่องเที่ยวให้มีรากฐานความมั่นคง แล้วหาแนวทางในการสร้างความเชื่อมั่น หาช่องทางพร้อมให้ประเทศไทยพร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยว จะใช้สูตร “6 ไม่” คือ ไม่อันตราย ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม ไม่ทรมานสัตว์ ไม่แออัด ไม่ค้ามนุษย์ ไม่ทำลายแหล่งท่องเที่ยว หากสามารถซ่อมสร้างแล้วเกิดสิ่งที่ดีทั้ง 6 ไม่สำเร็จ ก็น่ายินดี ซึ่งทุกเรื่องทำงานใกล้ชิดกับสาธารณสุข

ดร.ยุทธศักดิ์ กล่าวว่า วางแผนทำตลาดต่างประเทศในแถบเอเชีย แปซิฟิก โดยขอให้สำนักงาน ททท.ในสาธารณรัฐประชาชนจีน ทั้ง 5 แห่ง ทั้ง ปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ กวางโจว คุนหมิง เฉินตู ขอให้ส่งสัญญาณว่าเมื่อไรที่รัฐบาลจีนพร้อมให้คนเดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศได้ ตอนนี้เพิ่งจะเริ่มอนุญาตให้เที่ยวภายในมณฑล และระหว่างมณฑลได้ แต่ยังไม่อนุญาตให้ออกต่างประเทศ แต่ก็มีข่าวดีมีการติดต่อจากสายการบินนานาชาติของจีน  และแถบเอเชียตะวันออก เช่น เกาหลี ญี่ปุ่น จะบินมาบางจุดในประเทศไทย เรื่องดังกล่าว ททท.เองมีความพร้อม

สิ่งที่ทำได้ในขณะนี้ ททท.สำนักงานต่างประเทศ กำลังเก็บข้อมูลถึงความต้องการของแต่ละประเทศ โดยเฉพาะไม่ต้องการให้คนมาติดเชื้อโรค หรือกลับไปแพร่เชื้อไม่ว่าจะเป็น Second, Third Wave ในประเทศของตนเองอีกครั้ง ต้องทำความมั่นใจให้เกิดขึ้นให้ได้ รวมทั้ง ททท.ทุกสำนักงานจะต้องรักษาความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทั้ง บริษัทตัวแทนการท่องเที่ยว สื่อต่างๆ บล็อกเกอร์ KOL แล้ว ยังได้ประชาสัมพันธ์ให้ประเทศไทยเป็น TOP OF MIND-เป็นสถานที่ท่องเที่ยวในหัวใจของแต่ละชาติ เช่น ญี่ปุ่น ก็มีกิจกรรมโปรโมตอาหารไทย หรือทำออนไลน์ โร้ดโชว์ ขึ้นมา สะท้อนให้เห็นว่าเมื่อจบโควิดเปิดประเทศได้ “ไทย” จะเป็นอันดับต้น ๆ ที่นักท่องเที่ยวแถบเอเชียสามารถมาได้ทันที
 แต่ทุกอย่างขึ้นอยู่กับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศไทยและประเทศอื่น ๆ ถ้าหากถามว่าวันนี้ ททท.พร้อมจะทำให้การท่องเที่ยวฟื้นกลับมาหรือไม่ ตอบได้ทันทีว่าพร้อม สำคัญที่สุดคนไทยพร้อมหรือไม่ เพราะบางคนอาจจะยังกลัวอยู่ เพราะหากจะกังวลเมื่อมีชาวต่างชาติเข้ามา ดังนั้นจึงต้องติดตามสถานการณ์กันอย่างใกล้ชิดต่อไป เมื่อคนทั้งประเทศพร้อม ททท.เองนั้นเตรียมความพร้อมทุกเมื่ออยู่ตลอดเวลา

ข่าวต้นชั่วโมง

ข่าวที่ 1 คิงเพาเวอร์ลุยช่วยสังคม-ขายออนไลน์เต็มรูปแบบ”



กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ผู้บุกเบิกร้านค้าปลอดภาษี (duty free) ภายใต้การนำของ “อัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ได้จัดทัพ “พลัง คิง เพาเวอร์ พลังคนไทย เราเชื่อคนไทยทำได้” รับมือสถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ต่อเนื่องมาเป็นเดือนที่ 4 แล้ว เดินหน้าทำมาตรการครอบคลุมหลากหลายด้าน โดยเฉพาะด้านสำคัญ ๆ คือ “การดูแลมาตรฐานความปลอดภัย” พื้นที่ร้านค้า สำนักงาน บุคลากร “ด้านการช่วยเหลือสังคม” นำ “มูลนิธิวิชัย ศรีวัฒนประภา” ร่วมบริจาคเงินหน่วยงานแพทย์ พยาบาล ตามสถาบันและโรงพยาบาลต่าง ๆ ไปแล้วกว่า 45 ล้านบาท ล่าสุดร่วมโคงการ “พลังคนไทย ไม่ทิ้งกัน” จับมือกับกองทัพอากาศมอบถึงยังชีพ 300 ชุด ช่วยชุมชนชาวเกาะยาวฝ่าวิกฤตโควิด-19 เรื่อยไปจนถึง “ด้านการส่งพลังใจ” จัดทำคลิปวิดีโอส่งกำลังใจถึงบุคลากรทางการแพทย์ทุกพื้นที่ เพื่อเป็นขวัญ กำลังใจ ผู้ที่เสียสละทำงานอย่างหนักเพื่อให้คนไทยปลอดภัยจากเชื้อไวรัสโควิด-19

ช่วงต้นเดือนเมษายน 2563 กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ขยายมาทำ “ด้านส่งเสริมตลาดการขาย” สร้างกิจกรรมปลุกพลังพนักงานนับหมื่นชีวิตหันมารวมพลังกันขายสินค้าออนไลน์ในโครงการเฉพาะกิจ KING POWER TEAM POWER” ด้วยแฮชแท็ก #SHOPSAVE #STAYSAFE วางกลยุทธ์จัดคอร์สอินเซ็นทีฟให้บรรดานักขายมืออาชีพของคิง เพาเวอร์จากเดิมคุ้นชินกับการขายหน้าร้านแบบ onground เปลี่ยนแนวใหม่สู่ “Online” ร่วมด้วยช่วยกันพลิกวิกฤตไวรัสโควิด-19 เป็นโอกาสผลักดันผลิตภัณฑ์คู่ค้าออกสู่ตลาด ประการสำคัญยังได้คืนกำไรให้นักช้อปด้วยกลยุทธ์ “โปรโมชั่นลดราคาควบคู่กับบริการส่งฟรีโดยไม่ต้องมียอดสั่งซื้อขั้นต่ำ” เป็นแม่เหล็กดึงดูดสร้างความคึกคักการค้าออนไลน์โดยการชูจุดแข็ง “สินค้าแบรนด์เนม ส่งตรงถึงบ้าน ในราคาดิวตี้ฟรี” ทุกแบรนด์เสียภาษีถูกต้อง เพื่อนำมาขายในประเทศได้ตามกฎหมาย

ขณะนี้โครงการ “KING POWER TEAM POWER” ผ่านเข้าสู่สัปดาห์ที่สองแล้ว โปรโมชั่นราคาสินค้าแต่ละหมวด แต่ละแคมเปญ ยังคงมีสีสันและดีกรีความร้อนแรง เช่น  แคมเปญ Super Hotdeal ระหว่างวันนี้-30 มิถุนายน 2563 มอบส่วนลดสินค้าปกติ 5-20 % และส่วนลดสินค้าพิเศษ 45 % เพียงแค่คลิกดูรายละเอียดใน www.kingpower.com  หรือ king Power Application รับและใส่ Promotion Code เพื่อสั่งซื้อด้วยยอดช้อปครบ 3,000 บาท ก็จะได้สิทธิประโยชน์ต่าง ๆ โดยมีสินค้าให้เลือกมากมายหลากหลายแบรนด์ทั้งผลิตภัณฑ์กลุ่ม #staygorgeous ได้แก่ Skincare :ดูแลผิวพรรณ Make-Up :เครื่องสำอาง Perfume :น้ำหอม Fashion : กระเป๋า เครื่องหนัง #staystylish และ Food : อาหารการกิน #staytasty
           
ส่วนโปรโมชั่นต่อเนื่องระหว่างวันนี้- 30 เมษายน 2563 อยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ ชวนทุกคนมาร่วมช้อปปิ้งออนไลน์กับมหกรรมโปรโมชั่นแรง ๆ อย่าง  Home สินค้าภายในบ้าน “Electronics& gadgets” อิเลคทรอนิกส์และอุปกรณ์เครื่องใช้  ลดสูงสุดถึง 70 % นอกจากนี้ยังมีสินค้าเพื่อสุขภาพ  ผลไม้แปรรูปบรรจุซอง ลดสูงสุดถึง 50 % และผลิตภัณฑ์ เลสเตอร์ ซิตี้ ฟุตบอล คลับ เสื้อ กางเกง ลด 50 % ระหว่างวันนี้ถึง 31 พฤษภาคม 2563 แบรนด์ Mahanakhon มีเสื้อทีเชิร์ต พร้อมผลิตภัณฑ์ของใช้ดีไซน์เก๋อื่น ๆ ให้เลือกซื้อในราคาเริ่มต้นเพียงชิ้นละ 210 บาทขึ้นไป รวมอยู่ด้วยเช่นกัน

ข่าวที่ 2 “คิงเพาเวอร์ผนึกทอ./ทร.มอบถุงยังชีพช่วยเกาะยาวใหญ่”


กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ รายงานว่า เมื่อวันที่ 21 เมษายน 2563 ทาง ได้ร่วมกับ พล.อ.ท.ตรีพล อ่องไพทูรย์ เจ้ากรมกิจการทหารอากาศ นำถุงยังชีพ 300 ชุด  ไปส่ง ณ สนามบินภูเก็ต เพื่อมอบให้นายโชตินรินทร์ เกิดสม รองผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา และ น.อ.อภิชาติ วรภมร รองผู้อำนวยการ รักษาความมั่นคงภายใน (ผอ.รมน.) พังงา นำไปแจกจ่ายประชาชนในอำเภอเกาะยาวใหญ่ ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19

กิจกรรมนี้กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ได้รับการสนับสนุนการขนส่งจากกองทัพอากาศ โดยได้เข้าร่วมทำโครงการ ขนข้าวชาวนา แลกปลาชาวเล นำเครื่องบิน C-130 ขนของอุปโภคบริโภคมาลงยังสนามบินภูเก็ตและทัพเรือภาคที่ 3 เพื่อส่งต่อไปยังเกาะยาวใหญ่

นายโชตินรินทร์ เกิดสม รองผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา กล่าวว่า ขอบคุณกลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ กองทัพอากาศ กองทัพเรือภาคที่ 3 แทนพี่น้องประชาชนชาวเกาะยาวที่ได้รับถุงยังชีพมาช่วยบรรเทาความเดือดร้อน หลังจากที่กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ เคยมาสร้างสนามฟุตบอลหญ้าเทียมตามมาตรฐานให้เยาวชนได้ใช้ประโยชน์ ส่งเสริมสุขภาพ และการเล่นฟุตบอลเพื่อเป็นกีฬาทำให้ร่างกายแข็งแรง
ข่าวที่ 3 ททท.ปักกิ่งอัพเดทท่องเที่ยวจีนแนะควรรู้5นโยบายล่าสุด”

นางอัญชลี คุ้มวงศ์
ผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานปักกิ่ง
นางอัญชลี คุ้มวงศ์ ผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานปักกิ่ง โพสต์เฟสบุ๊ครายงานสถานการณ์ว่า ขณะนี้บริษัทนำเที่ยวในกรุงปักกิ่ง ได้รับอนุญาตให้เริ่มกลับมาเปิดบริการได้แล้วตั้งแต่วันที่ 17 เม.ย. 63 เป็นต้นไป แต่ให้ใช้หลักปฏิบัติเหมือนมณฑลอื่นๆ ที่ได้รับอนุญาตไปก่อนหน้านี้ คือ ให้ขายทัวร์เฉพาะภายในมณฑล (Living Surrounding Tour) แต่ยังไม่อนุญาตให้ขายทัวร์ข้ามมณฑล และทัวร์ระหว่างประเทศ ซึ่งในพื้นที่รับผิดชอบของ ททท. ปักกิ่งมีบริษัททัวร์เปิดได้แล้ว 7 มณฑล คงเหลือ 2 มณฑล คือ เทียนจิน และเฮยหลงเจียง

รวมถึงทางการ 3 มณฑล ได้แก่ กรุงปักกิ่ง เทียนจิน และเหอเป่ย อนุญาตให้ประชาชนในพื้นที่ใช้รหัสสุขภาพร่วมกันได้ ตามปกติแต่ละมณฑลจะมีรหัสสุขภาพเป็นของตนเองใช้ร่วมกับมณฑลอื่น ๆ ไม่ได้ ก่อนหน้านี้หากเดินทางข้ามมณฑลจะต้องถูกกักตัวทั้งไปและกลับครั้งละ 14 วัน แต่เนื่องจาก 3 มณฑลนี้อยู่ใกล้กัน ประชาชนจะเดินทางไป-กลับ เพื่อทำงาน ทำธุรกิจกันเป็นประจำ มาตรการใหม่จึงไม่ต้องกักตัวอีกต่อไป

ส่วนการใช้สนามบินต้าชิง (สนามบินแห่งใหม่ของปักกิ่ง) ซึ่งอยู่ติดมณฑลเหอเป่ย ในสถานการณ์ปกติชาวเหอเป่ยจำนวนมากใช้สนามบินนี้เดินทางในประเทศและต่างประเทศ ยกเว้นช่วงนี้จะมีเฉพาะเที่ยวบินในประเทศเท่านั้น



ผอ.อัญชลี ย้ำว่า รัฐบาลกลางจีน ได้ประกาศนโยบายที่น่าสนใจ ตั้งแต่วันที่ 10 เม.ย. 2563 เป็นต้นมา โดยมีเรื่องที่ควรทราบ 5 ประเด็นสำคัญ คือ

            1.รัฐบาลยังให้ความสำคัญกับการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของ COVID-19 เป็นอันดับแรก 
           
2.หามาตรการฟื้นฟูอุตสาหกรรมการผลิตที่มีประสิทธิภาพและเหมาะสมกับในแต่ละพื้นที่ โดยรัฐให้การสนับสนุนและส่งเสริมให้ฟื้นตัวโดยเร็ว ด้วยการดูแลเรื่องการจ้างงาน แหล่งเงินทุน วัตถุดิบในการผลิต
          
3.ดำเนินการโครงการหลัก ๆ ของรัฐที่ยังค้างให้เสร็จ เช่น การก่อสร้างสาธารณูปโภคต่างๆ 
        4.สนับสนุนและส่งเสริมให้อุตสาหกรรมบริการ ทั้งท่องเที่ยวและบันเทิง ในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงต่ำกลับมาเปิดได้ โดยให้หน่วยงานในแต่ละมณฑลพิจารณาตามความเหมาะสม  ยกเว้นกิจกรรมด้านวัฒนธรรม  และกีฬาระดับชาติยังไม่อนุญาตให้เปิด
         
5.ยังไม่อนุญาตให้เดินทางท่องเที่ยวระหว่างประเทศ ต้องใช้เวลาอีกระยะ

ข่าวที่ 4 ททท.ชวนจองแคมเปญพักSocial Distancing@Hotels


นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ รองผู้ว่าการด้านสินค้าและธุรกิจท่องเที่ยว การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) แนะนำโรงแรมที่เข้าร่วมขายในแคมเปญ Amazing Thailand Social Distancing @Hotels ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ และตอบรับกระแสการรักษาระยะห่างทางสังคมหรือ Social Distancing เพื่อให้ผู้บริโภคได้เลือกใช้สถานที่ที่ให้คุณได้พักผ่อนแบบสบายกาย สบายใจ แถมอิ่มท้องกับอาหารหลากหลายรสชาติ ที่สำคัญคือ คุณสามารถทำงานในบรรยากาศความเป็นส่วนตัวได้อย่างเต็มที่พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน และสิทธิพิเศษที่ไม่เหมือนใคร
มีบริการครบจบที่เดียว ทั้ง 1.อาหาร 3 มื้อ / ท่าน / ห้อง  2.บริการพิเศษ "อาหารท้องถิ่นจากร้านดังให้กับผู้เข้าพัก 1 รายการ" 3.ฟรี Internet ในห้องพัก 4.ฟรี ทำความสะอาดห้องพัก - บริการซักรีด ลด 50%
ทุกโรงแรมมีมาตรการสร้างความมั่นใจก่อนเข้าพัก และระหว่างพัก ด้วยการตรวจอุณหภูมิร่างกายทุกเช้า รวมทั้งมี Contact กับสถานพยาบาล พร้อมรองรับและช่วยเหลือฉุกเฉินครบวงจร
                ขณะนี้มีโรงแรมให้เลือกจอง ได้แก่
โรงแรมดีวาน บางกอก กรุงเทพฯ มีห้องพักแบบ Superior รวม 7 วัน ราคา 8,400 บาท และห้องพักแบบ Deluxe รวม 7 วัน ราคา 11,900 บาท
โรงแรม เดอะ คาวาลิ คาซ่า กรุงเทพฯ มี ห้องพักแบบ Superior Room รวม 7 วัน ราคา 8,400 บาท
                โรงแรมทองธารา ริเวอร์วิว กรุงเทพ มีห้องพักแบบ Superior Room รวม 7 วัน ราคา 17,500 บาท
ดูเพิ่มเติมได้ที่ : https://bit.ly/2yodG2z
โรงแรมสีลม ซีรีน ห้องพักแบบ Superior Room รวม 7 วัน ราคา 11,900 บาท ดูเพิ่มเติมได้ที่ : https://bit.ly/2VdPUQ3
โรงแรม เดอะ รายา ห้องพักแบบ Superior Room รวม 7 วัน ราคา 8,400 บาท  ดูเพิ่มเติมได้ที่ : https://bit.ly/2RJBMMh
โรงแรม รอยัล ออคิด เชอราตัน ห้องพักแบบ Deluxe River View รวม 7 วัน ราคา 17,500 บาท ดูเพิ่มเติมได้ที่ : https://bit.ly/3bfoxul
โรงแรมโพธิ ศิรีนทร์ เชียงใหม่ ห้องพักแบบ Deluxe Room รวม 7 วัน ราคา 17,500 บาท
ไม้แก้วดำเนิน รีสอร์ท ห้องพักแบบ Deluxe Room รวม 7 วัน ราคา 11,900  บาท
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : https://bit.ly/2K6Io2P

ข่าวที่ 5 “สมาชิกบางจากเปลี่ยนใช้PIN4หลักแลกสิทธิเริ่ม1พ.ค.63

บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) แจ้งสมาชิกบัตรบางจากทุกคนว่า
ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค. 63 การแลกคะแนนของสมาชิก ต้องใช้ PIN 4 หลัก ในรูปแบบวันเกิดและเดือนเกิด DDMM ที่ตรงกับฐานข้อมูลในระบบสมาชิกบางจาก เช่น คนที่เกิดในวันที่ 7 มิถุนายน 2530 รหัส PIN ในการแลกคะแนน คือ 0706 เพื่อใช้เป็นส่วนลดในการชำระค่าน้ำมันที่สถานีบริการน้ำมันบางจาก หรือ ร้านอินทนิล ร้านสพาร์ ร้านใบจาก  ร้านเลมอนกรีน ธุรกิจ FURiO CARE และ กรีนเซิร์ฟ

รีบตรวจสอบพร้อมอัพเดทข้อมูล วันเดือนปีเกิดด่วน เพื่อสิทธิประโยชน์ของสมาชิก  ผ่าน 3 ช่องทาง 1.แอปพลิเคชั่น Bangchak Mobile Application 2.เว็บ https://member.bangchak.co.th/th/
    3.Bangchak Call Center 1651 กด 8


                ช่วงที่ 2 กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข เชิญชวน “คนไทย 7 กลุ่มเสี่ยงไปฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่” 1 พ.ค.-31 ส.ค.นี้ “8โลว์คอสต์แอร์ไลน์ไทยแห่ขอกู้ 2.4หมื่นล้าน” ฟื้นกิจการหลังโควิด-19 “บอร์ดทอท.” เพิ่มมาตรการเยียวยารอบ 2 ทั้งแอร์ไลน์สและร้านค้าเชิงพาณิชย์ จอดเครื่องฟรี ยืดหนี้ยาว 11 เดือน “คลัง-คมนาคม โยนนายกฯ” เคาะแผนฟื้นฟูการบินไทย 29 เมษายน นี้

ชวน7กลุ่มเสี่ยงฉีดวัคซีนหวัดใหญ่1พ.ค.-31ส.ค.นี้


นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค เชิญชวนประชาชนไปฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ ตั้งแต่วันที่  1 พฤษภาคม -31 สิงหาคม 2563 จำนวน 4.11 ล้านโด๊ส เพราะไข้หวัดใหญ่เป็นโรคที่จะพบผู้ป่วยมากขึ้นในช่วงอากาศเปลี่ยนแปลง ประกอบกับช่วงนี้มีการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่มีอาการคล้ายไข้หวัดใหญ่ อาจเกิดความสับสนในการวินิจฉัยและการดูแลรักษา กรมควบคุมโรค จึงร่วมกับสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ รณรงค์เร่งให้ฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่เร็วขึ้น  
เน้นดูแลการฉีดวัคซีนประชาชน 7 กลุ่มเสี่ยง ได้แก่ 1.หญิงตั้งครรภ์ อายุครรภ์ 4 เดือนขึ้นไป 2.เด็กอายุ 6 เดือน -2 ปี 3.บุคคลที่มีอายุ 65 ปีขึ้นไป  4.โรคอ้วน (น้ำหนัก>100 กิโลกรัม หรือ BMI >35 กิโลกรัมต่อตารางเมตร) 5.ผู้พิการทางสมองที่ช่วยเหลือตนเองไม่ได้  6.โรคธาลัสซีเมียและผู้ที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง (รวมผู้ติดเชื้อ HIV ที่มีอาการ) และ 7.ผู้มีโรคเรื้อรัง (ปอดอุดกั้นเรื้อรัง หอบหืด หัวใจ หลอดเลือดสมอง ไตวาย ผู้ป่วยมะเร็งที่อยู่ระหว่างการได้รับเคมีบำบัด และเบาหวาน)
ประชาชนกลุ่มเสี่ยงสามารถขอรับบริการวัคซีนได้ที่สถานบริการสาธารณสุขของรัฐ และสถานพยาบาลเอกชนที่เข้าร่วมโครงการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ตามวันและสถานที่ดังกล่าว
รวมทั้งขอให้ประชาชนหลีกเลี่ยงการเข้าไปในพื้นที่ที่มีการรวมตัวกันของคนหมู่มาก เช่น ห้างสรรพสินค้า และตลาด ซึ่งในช่วงนี้ควรงดจัดกิจกรรมและงานการแสดงต่างๆ และป้องกันตัวเองโดยยึดหลักปิด ล้าง เลี่ยง หยุด” ได้แก่ ปิด คือปิดปากและปิดจมูก เมื่อไอ จาม ต้องใช้หน้ากากอนามัย หน้ากากผ้า หรือกระดาษทิชชูปิดปากและจมูกทุกครั้ง ล้าง คือ ล้างมือบ่อยๆ ด้วยน้ำและสบู่หรือใช้เจลแอลกอฮอล์ เมื่อสัมผัสสิ่งของ เช่น กลอนประตู ลูกบิด ราวบันได เลี่ยง คือ หลีกเลี่ยงการคลุกคลีใกล้ชิดกับผู้ป่วย หยุด คือ เมื่อป่วยควรหยุดเรียน หยุดงาน แม้จะมีอาการไม่มากก็ควรหยุดพักรักษาตัวอยู่ที่บ้านจนกว่าจะหายเป็นปกติ  โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยงขอให้ปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด หากมีอาการข้างต้นให้รีบไปพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยและรับการรักษา  ที่สถานพยาบาล
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร. 1422
ข่าวท้ายชั่วโมง

ข่าวแรก “8โลว์คอสต์ไทยแห่ขอรัฐปล่อยกู้ซอฟท์โลน2.4หมื่นล้าน”



ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 24 เมษายน 2563 ทาง 8 สายการบินของไทย ได้เสนอขอเงินกู้ใหม่ดอกเบี้ยต่ำ 24,150 ล้านบาท ประกอบด้วย 1.ไทยแอร์เอเชีย 4,500 ล้านบาท 2.นกแอร์ 4,000 ล้านบาท 3.ไทยไลออนแอร์ 3,750 ล้านบาท 4.นกสกู๊ต 3,500 ล้านบาท 5.บางกอกแอร์ 3,000 ล้านบาท 6.ไทยแอร์เอเชีย เอ็กซ์ 3,000 ล้านบาท 7.ไทยสมายล์ 1,500 ล้านบาท 8.ไทยเวียดเจ็ต 900 ล้านบาท

แต่เงื่อนไขต่าง ๆ ที่ สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท./CAAT) มีเงื่อนไขกติกาค่อนข้างเข้มมาก เว้นระยะที่นั่ง  โดยได้การเยียวยาจาก บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) “ทอท.” ยกเว้น ค่าหลุม-จอด ค่าขึ้นลงเครื่องบิน 50 % ให้เรียบร้อยแล้วไปจนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2563

แต่ก็มีหลายฝ่ายตั้งข้อสังเกตุว่า ในช่วงเศรษฐกิจท่องเที่ยวเติบโต อุตสาหกรรมการบินทำกำไรนำเงินเข้ากระเป๋าตัวเองไปแล้ว ได้แบ่งปันให้ลูกค้าหรือไม่ ขณะนี้เมื่อเดือดร้อนจะให้รัฐเยียวยานั้นถูกต้องหรือไม่

ส่วน สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) รายงานผลการหารือร่วมกับสายการบินในประเทศ ล่าสุดมี 5 สายการบิน  ไทยแอร์ เอเชีย 1 พ.ค.2563 ขณะที่ ไทยเวียดเจ็ต บางกอกแอร์เวย์ส นกแอร์ ไทยไลออนแอร์ ขอดูรายละเอียดเพิ่มเติมถึงความคุ้มทุนที่จะเปิดบินในประเทศอย่างไร โดยจะพิจารณาองค์ประกอบหลักดังนี้ 1.จังหวัดไหนปลดล็อกดาวน์ได้บ้าง 2.แต่ละเที่ยวบินจะอนุญาตให้บรรทุกผู้โดยสารได้กี่ที่นั่ง  3.ถ้าบินเกิน 90 นาที ตามระเบียบต้องเว้นแถวหลังให้คนมีไข้สูง4.ห้ามขายอาหารเด็ดขาด เพราะต้องให้ใส่หน้ากากอนามัย 5.ห้ามขายตั๋วโดยสารห้ามเกินเพดานราคาที่กำหนดไว้ที่ 9.40บาท/กม. ทุกวันนี้สายการบินต่าง ๆ เคยขายอยู่ที่ 3-5 บาท/กม.

ข่าวที่สอง “บอร์ด ทอท.สั่งเยียวยาการบิน&เชิงพาณิชย์รอบ2


บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) “ทอท.” ได้รายงานตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เรียบร้อยแล้ว จึงได้รายงานมติที่ประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) เพิ่มเติมเมื่อวันพุธที่ 22 เมษายน 2563 เรื่อง “มาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการและสายการบินที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ณ สนามบินที่อยู่ในความรับผิดชอบดำเนินงานของ ทอท.เพิ่มเติมจากมติบอร์ดเมื่อ 19 กุมภาพันธ์ 2563 เพื่อบรรเทาผลกระทบของผู้ประกอบการและสายการบินจากการลดลงของเที่ยวบินและผู้โดยสาร และสอดคล้องกับนโยบายของภาครัฐ
แบ่งการเยียวยาออกเป็น 2 กลุ่ม ได้แก่ 1.กลุ่มที่เกี่ยวข้องกับการบิน (Aero) 2.กลุ่มเชิงพาณิชย์ไม่ใช่การบินโดยตรง (Non Aero)

มาตรการเยียวยากลุ่มการบิน (Aero) ที่ใช้บริการสนามบิน ทอท. ประกอบด้วย

1. มาตรการด้านค่าเช่าพื้นที่ ค่าบริการ จะช่วยเหลือผู้ประกอบการและสายการบิน และค่าผลประโยชน์ตอบแทนคงที่รายเดือน 3 ส่วนย่อย คือ
1.1 กรณีผู้ประกอบการและสายการบินมีหนังสือขอยกเลิกการประกอบกิจการชั่วคราวหรือสนามบินยาน ทอท. ปิดให้บริการชั่วคราว ทอท. จะยกเว้นการเรียกเก็บค่าเช่าพื้นที่ ค่าบริการการใช้บริการในอาคาร และค่าผลประโยชน์ตอบแทนคงที่รายเดือนให้เป็นเวลา 9 เดือน ตั้งแต่ 1 เมษายน – 31 ธันวาคม 2563 หรือวันที่ผู้ประกอบการและสายการบินแจ้งขอกลับเข้ามาประกอบกิจการ แล้วแต่วันใดจะถึงก่อน
1.2 กรณีผู้ประกอบการและสายการบินที่ยังประกอบกิจการ ในสนามบิน จะช่วย
1.2.1 ปรับลดค่าเช่าพื้นที่ 50 % ให้แก่ผู้เช่าทุกราย มีกำหนดระยะเวลา 9 เดือน ตั้งแต่ 1 เมษายน – 31 ธันวาคม 2563
1.2.2 เรียกเก็บค่าบริการการใช้บริการในอาคาร เพียง15 % ของค่าเช่าพื้นที่ที่ปรับลดลง 50%
1.2.3 ให้ใช้อัตราค่าเช่าพื้นที่และค่าบริการการใช้บริการในอาคารตามบัญชีอัตราค่าภาระการใช้
สนามบิน ทรัพย์สิน บริการและความสะดวกต่างๆ ในกิจการของ ทอท. ฉบับปี 2559 สำหรับการคิดส่วนลดตามข้อ 1.2.1 และ 1.2.2


2. มาตรการช่วยเหลือสายการบินในการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมตามกฎหมายว่าด้วยการเดินอากาศ 4ส่วนย่อย คือ
2.1 กรณีสายการบินขอหยุดให้บริการชั่วคราว ทอท. จะยกเว้นหรือฟรีค่าบริการหลุมจอดเครื่องบิน(Parking Charges)  9 เดือน ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน – 31 ธันวาคม 2563
2.2 ให้ส่วนลดค่าบริการนำเครื่องบินขึ้นลง(Landing Charges) ในอัตรา 50 % และค่าหลุมจอดให้สายการบินที่ยังมีเส้นทางบิน ในอัตรา 50 % ทุกเส้นทางการบินทั้งในประเทศและระหว่างประเทศ เป็นเวลา 9 เดือน ระหว่าง 1 เมษายน – 31 ธันวาคม 2563
2.3 กรณีเที่ยวบินเช่าเหมาลำ (Charter Flight) ให้มีสิทธิเข้าร่วมมาตรการช่วยเหลือดังกล่าว ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2563 เป็นต้นไป
2.4 สายการบินที่เข้าร่วมโครงการส่งเสริมการตลาดด้านการบิน (Incentive Scheme) หรือมาตรการช่วยเหลือของ ทอท. จะได้รับประโยชน์ในรายการสนับสนุนประเภทเดียวกันได้เพียงรายการเดียวที่สายการบินได้รับประโยชน์สูงสุด

3. ให้สิทธิ์เลื่อนการชำระค่าเช่าพื้นที่ ค่าบริการการใช้บริการในอาคาร ค่าบริการสนามบินทั้งค่านำเครื่องขึ้นลงและหลุมจอดเครื่องบิน (Landing and Parking Charges) และค่าเครื่องอำนวยความสะดวก (Aircraft Service Charges) ให้กับผู้ประกอบการและสายการบินที่ร้องขอ 9 งวด ตั้งแต่งวดเดือนเมษายน - ธันวาคม 2563 ในแต่ละงวดให้ขยายระยะเวลาการชำระออกไปเป็นเวลา 6 เดือน นับจากวันครบกำหนดชำระตามระยะเวลาปกติ ทั้งนี้ เฉพาะในกรณีที่ผู้ประกอบการและสายการบินร้องขอ

 มาตรการเยียวยากลุ่มเชิงพาณิชย์ไม่ได้มาจากการบินโดยตรง (Non Aero) ที่ใช้บริการสนามบิน ทอท. ประกอบด้วย

4. ขยายเวลาการชำระค่าผลประโยชน์ตอบแทนในการประกอบกิจการของผู้ประกอบการตามมติบอร์ด ทอท. วันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2563 จากเดิม 6 งวด (กุมภาพันธ์ - กรกฎาคม 2563) เป็น 11 งวด (กุมภาพันธ์ - ธันวาคม 2563) โดยให้ขยายเวลาการชำระของแต่ละงวดออกไปเป็น 6 เดือนจากวันครบกำหนดชำระตามระยะเวลาปกติ ทั้งนี้ เฉพาะในกรณีที่ผู้ประกอบการและสายการบินร้องขอ

5. ปรับอัตราค่าผลประโยชน์ตอบแทนคงที่และค่าผลประโยชน์ตอบแทนขั้นต่ำจากการประกอบกิจกรรมเชิงพาณิชย์ ณ ท่าอากาศยานที่อยู่ในความรับผิดชอบของ ทอท. ภายหลังสิ้นสุดมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการตามมติบอร์ด ทอท. วันพุธที่ 19 กุมภาพันธ์ 2563 (วันที่ 31 มีนาคม 2565) มี 3 ส่วนย่อย คือ

5.1 ผู้ประกอบการที่ได้รับอนุญาตให้ประกอบกิจการเป็นลายลักษณ์อักษรจาก ทอท. หรือได้ลงนามในสัญญาและเข้าพื้นที่ประกอบกิจการก่อนหรือภายในวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2563 หรือผู้ประกอบการรายเดิมที่ต่อสัญญากับ ทอท. ระหว่างที่มาตรการให้ความช่วยเหลือ มีผลอยู่ ให้นำอัตราค่าผลประโยชน์ตอบแทนคงที่ และ/หรืออัตราค่าผลประโยชน์ตอบแทนขั้นต่ำของปีก่อนหน้ามีมาตรการให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการฯ(ปี 2562) มาใช้กำหนดเป็นอัตราค่าผลประโยชน์ตอบแทนคงที่ และ/หรืออัตราค่าผลประโยชน์ตอบแทนขั้นต่ำ

5.2 ผู้ประกอบการที่ได้รับอนุญาตให้ประกอบกิจการเป็นลายลักษณ์อักษรจาก ทอท. หรือที่มีการลงนามในสัญญาแล้ว แต่ยังไม่เข้าพื้นที่ประกอบกิจการก่อนหรือภายในวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2563 ให้นำอัตราค่าผลประโยชน์ ตอบแทนคงที่ และ/หรืออัตราค่าผลประโยชน์ตอบแทนขั้นต่ำที่ผู้ประกอบการยื่นข้อเสนอในการประมูลหรือการเจรจาตกลงค่าตอบแทน มาใช้กำหนดเป็นอัตราค่าผลประโยชน์ตอบแทนคงที่ และ/หรือ อัตราค่าผลประโยชน์ตอบแทนขั้นต่ำ

5.3 ในการเรียกเก็บค่าตอบแทนจากผู้ประกอบการตามข้อ 5.1 และ 5.2 ปีถัดจากปีแรกของรอบสัญญาหลังจากสิ้นสุดมาตรการให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการฯ ให้ฝ่ายบริหาร ทอท. พิจารณาเปรียบเทียบจำนวนผู้โดยสาร ณ ปีนั้นกับปีก่อนที่จะเกิดวิกฤตการณ์โควิด-19 (ปี 2562) หากน้อยกว่า ให้ใช้อัตราค่าผลประโยชน์ตอบแทนคงที่ และ/หรือค่าผลประโยชน์ตอบแทนขั้นต่ำของปีก่อนที่จะเกิดวิกฤตการณ์โควิด-19 (ปี 2562) ของแต่ละสนามบินมาใช้กำหนดเป็นอัตราเรียกเก็บ แต่หากปรากฏว่า จำนวนผู้โดยสาร ณ ปีนั้น มากกว่าปีก่อนที่จะเกิดวิกฤตการณ์โควิด-19 (ปี 2562) ให้ใช้อัตราการเติบโตจากจำนวนผู้โดยสาร ณ ปีนั้น เพื่อเป็นฐานในการคำนวณค่า MAGi เป็นต้นไป
ข่าวที่สาม “โยนนายกฯประยุทธ์เคาะแผนฟื้นบินไทย29เม.ย.63

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 24 เมษายน 2563 ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมร่วมกับกระทรวงคมนาคม และกระทรวงการคลัง เพื่อพิจารณาแผนฟื้นฟูการบินไทย รอบ 3 แต่ก็ยังไม่ได้ข้อสรุป

ตามที่นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวสั้น ๆ ว่า แผนฟื้นฟูการบินไทยยังไม่เสร็จสมบูรณ์ ที่ประชุมได้เร่งฝ่ายบริหารทำให้เสร็จทันนำเข้าที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (คนร.)ที่มีพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานพิจารณาสรุป ในวันที่ 29 เมษายน นี้ พร้อมยืนยันเมื่อแผนเสร็จจะช่วยอุตสาหกรรมการบินของไทยกลับมาเข้มแข็งได้ ส่วนรายละเอียดแผนทั้งหมดให้ทุกฝ่ายรอ คนร.ชี้แจงเอง
               
ติดตามฟังรายการได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 11.00-12.00 น.ทาง สวท.FM 97.0 MHz.

เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน
ผู้ดำเนินรายการ รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์ FM.97.0 MHz.



ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ททท.คุนหมิงดึงจีน3มณฑลเที่ยวไทยทางบก4ด่านเงินสะพัด

ททท.ปั๊มทัวร์จีนคุนหมิงแบบโอเวอร์แลนด์เงินสะพัดไทย 4 ด่าน ส.ค. 66- ปี ’67 กระหน่ำขาย “ New Ways to Amazing to Thailand” ล็อกเป้าจีน 4 ตลาดใช้จ่ายแสนบาท/ทริป-ดันอีสานอู้ฟู่ 20 จังหวัด ช้อป!!ของขวัญวันแม่ที่คิงเพาเวอร์ลด20%- Firster9 หมื่นไอเท็ม ฉลองวันแม่!พูลแมนคิงเพาเวอร์จัดบุฟเฟต์พรีเมี่ยมกลางวัน/ค่ำ กินฟินที่คิงเพาเวอร์มหานคร-รร.เดอะสแตนดาร์ดตลอดส.ค. 66 ททท.จัดแข่งผัดกะเพราโลก“ World Kaphrao 2023”ชิงเงินล้าน กลุ่มบริษัทบางจากโชว์ครึ่งปีแรก66กวาดรายได้1.48 แสนล้าน TCEB บุกจีนจัด Thailand MICE in China 2023 โกยไมซ์ 990 ล้าน เที่ยววันแม่ใกล้กรุงได้ที่อุทยานเบญจสิริ/ดรีมเวิลด์/สวนนงนุช เคล็ดลับ!!การรักษาแผลให้หายไวด้วยขั้นตอนง่ายๆทำได้เอง บินไทยฟื้นเร็ว!!ครึ่งแรกปี’66กำไร329%พกเงินสด5.1หมื่นล้าน เปิดขายแล้ว!!บัตรชม“โขน”สุดยิ่งใหญ่แห่งดูได้ 5 พ.ย.- 5 ธ.ค. 66   วันเสาร์ที่ 12 สิงหาคม 2566 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97.0 และอ

TCEB นำงานวิจัยMICE for Sightแนะธุรกิจปรับตัวรับไมซ์10ปีหน้า

  นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) "TCEB" “ TCEB ”เปิดคัมภีร์ MICE for Sight ปลุกไมซ์จัดทัพใหม่ 10 ปีหน้า รับมือ Gen Z ผงาดผู้ทรงอิทธิพลไมซ์โลกเขย่าตลาดครั้งใหญ่ ปี 67 เร่งโกย 1.4 แสนล้านโหมซอฟท์เพาเวอร์/ไมซ์ซิตี้/ไมซ์ชุมชน รีบช้อป!!คิงเพาเวอร์เป็นไปได้5รายการรางวัลสูงสุดกว่า 4 ล้าน ด่วน 4 วันสุดท้าย!คิงเพาเวอร์อัดโปร SurpriseOnlineSale ลด 50% คิงเพาเวอร์ช้อปวนไปแจกทันที 3 ฟรี คูปอง/ตั๋ว/รถยนต์ LEXUS ท่องเที่ยวรุกเจรจาธุรกิจ TEJ 2023ฉลุย300นัดโกยญี่ปุ่น9ตลาด บางจาก-กรุงไทยเปิดแอปเป๋าตังจองซื้อหุ้นกู้ดิทัลดีเดย์ 30 ต.ค. เที่ยวประจวบนอนแคมป์ทะเลหมอกบ้านป่าหมาก-วิ่งปราณบุรี บินไทยโชว์ยูนิฟอร์มใหม่ลูกเรือแฟชั่นผ้าลดโลกร้อนเริ่ม1ม.ค.67 คาเธ่ย์ กรุ๊ปทุ่มลงทุนฝูงบินใหม่ A 320 neo เพิ่ม32ลำบินจีน/เอเชีย   วันเสาร์ที่  28 ตุลาคม 2566 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97

ททท.ภาคเหนือ7เดือนปี66โกยแล้ว1.08แสนล้าน

นางสาวภัทรอนงค์ ณ เชียงใหม่ ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคเหนือ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)  ททท.ภาคเหนืออู้ฟู่ 7 เดือนแรกโกยได้แล้ว 1 แสนล้าน ต.ค.-ธ.ค. 66 ลุยขายเที่ยวไฮซีซัน 4 เทรนด์ใหม่มาแรง นำ The Link จับคู่ทัวร์ข้ามภาคสำเร็จ 3 เส้นทางสุดฮ็อต คิง เพาเวอร์แจกมันส์แจกฟินที่รางน้ำเสาร์16ก.ย.นี้ ช้อป KingPowerOnline รับแบบไม่ยั้ง2สุดคุ้มถึง24ก.ย. ช้อป DUTY FREE SALE นำบิวตี้แบรนด์โลกมาเต็ม ททท.ใช้ฟรีวีซ่าปั๊ม1.4แสนล้านชาเตอร์จีนเฮเข้าไทย บางจากโชว์อุตฯไทย-ไต้หวันชูนวัตกรรมธุรกิจสีเขียว TCEB ผนึก EECAutoPark หนุนไมซ์เอ็กซิบิชั่นอินเตอร์ เที่ยว Unseen “พิพิธภัณฑ์ป่าสัก-วัดขุนอิน-วัดปัญญา” 4วิธี“ปิดล้างเลี่ยงหยุด”ป้องกันไข้หวัดใหญ่ทุกพันธุ์ “สุดาวรรณ”รมว.ใหม่ท่องเที่ยวดึงต่างชาติ40ล้านคน กพท.-สมาคมแอร์ไลน์สไทยแบไต๋ตั๋วบินราคาแพง วันเสาร์ที่ 16 กันยายน 2566 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyai