ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

ททท.ภาคใต้จัดทัพรับNew Normal จ่อขายท่องเที่ยว6โปรแกรมเด็ดดึงคนไทย50ล้านคน

ททท.ใต้จัดทัพรับNewNormalจ่อขาย6โปรแกรมเด็ด

ลั่นดึงตลาดในประเทศ50ล้านคนช่วยหนุนธุรกิจฐานราก

คิงเพาเวอร์”ผงาดคว้าแชมป์เอเชีย2รางวัลใหญ่แห่งปี’63

“คิงเพาเวอร์”โชว์นวัตกรรมสุดล้ำ“เรียลไทม์ช้อปปิ้ง”รางน้ำ

ททท.ได้แรงหนุน“รมว.พิพัฒน์”ลุยชงเปิดเที่ยวไทย1มิ.ย.63

รมว.พิพัฒน์เปิดททท.ปลุก10ธุรกิจร่วมSHAค่อนประเทศ

บางจากทำสัญญาสยามแก๊สรับฝากยาวน้ำมันดิบน้ำมันใส

TCEBผลิตสื่อยูทูบ“หัวใจไทย ภูมิใจช่วยชาติ”ปลุกไมซ์ไทย

ตะลึง!เปิดแฟ้มการบินไทยเจอขยะใต้พรม10ปี10โครงการ

พัทยา-บางแสน”ติวเข้มมาตรการเซฟตี้เปิดเที่ยวหาด1มิ.ย.

อยุธยานำร่องเปิดวัด-โบราณสถานฟื้นเศรษฐกิจชุมชนปัง

 

ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” ในวันเสาร์ที่ 30 พฤษภาคม 2563 เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทางfacebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen บล็อกเกอร์ #gurutourza #รวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97  #เที่ยวกับกู๋  #ทททภาคใต้จัดทัพรับNewNormalขาย6โปรแกรมใหม่ #พัทยาบางแสนเปิดหาดแล้ว1มิย


                                

                     นิธี สีแพร”ผู้อำนวยการ ภูมิภาคภาคใต้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)


ช่วงที่ 1 “นิธี สีแพร”ผู้อำนวยการ ภูมิภาคภาคใต้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) นำทัพท่องเที่ยวชีพจร ลงเซาท์ ภาคใต้ 14 จังหวัด ขานรับปลดล็อกดาวน์เที่ยวไทยช่วง มิถุนายน นี้ พร้อมกอดคอภาคธุรกิจฝ่าวิกฤตโควิดปลุกคนเดินทาง 50 ล้านคน-ครั้ง ตั้งเป้าหารายได้เติมเข้าพื้นที่ปี’63 กว่า 10 % กระตุ้น Road trip เที่ยวทางรถ “ส่วนตัว-เวสป้า-สายแว้น” จัดเต็มแพกเกจต้อนรับตลาด New Normal 6 โปรแกรม“ทัวร์ตามกูรูฟื้นฟูสุขภาพ-ล้างพิษชมธรรมชาติ-เที่ยวกับเชฟกินสมุนไพรต้านภัยโควิด- บำบัดจิตกับเกจิดัง-ตะลอนทำดีกับฮีโร่แพทย์พยาบาล-เติมพลังเส้นทางสายกรีน” รอลุ้นโปรเจ็กต์ SAT ปิดเกาะรับทัวร์เศรษฐีและตลาดคุณภาพสูง

 

นายนิธี สีแพร ผู้อำนวยการ ภูมิภาคภาคใต้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ในฐานะที่ภาคใต้ 14 จังหวัดเคยเป็นพื้นที่หลักทำรายได้จากท่องเที่ยวสูงเป็นอันดับต้น ๆ ของประเทศ ขณะนี้พยายามรณรงค์ผู้คนโดยใช้แคมเปญ “คิดถึง...” ปูพรมไว้แล้ว เพื่อส่งต่อทันทีเมื่อรัฐบาลประกาศคลายล็อกดาวน์ท่องเที่ยวก็จะนำเข้าสู่ “ไปให้ถึง” ธรรมชาติ อากาศบริสุทธิ์ ทะเล ภูเขา เขียวสดใสสวยงาม พอตอนนี้เริ่มเข้าสู่ฤดูฝนอากาศจะยิ่งเย็นสบาย มีวิถีชุมชน อาหารรสจัดจ้าน เมนูสดใหม่ และความหลากหลายทางการท่องเที่ยวที่ยังคงครองใจนักเดินทางคนในประเทศ

 

โดยตั้งเป้าหมายจะพยายามฟื้นฟูเศรษฐกิจหารายได้จากการท่องเที่ยวมาให้ได้อีกไม่ต่ำกว่า 10 % จัดกิจกรรมเชิญชวนคนไทยเข้ามาเยี่ยมเยือนภาคใต้อีกสัก 40-50 ล้านคน แล้วนำเงินเข้ามาเติมเพิ่มให้ได้ 1 ใน 3 ของประเทศ ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้โดยรวมตลอดปีนี้ทั้งประเทศควรจะช่วยกันทำให้ได้ 1.2 ล้านล้านบาท ในช่วงโควิดรายได้ท่องเที่ยวหายไปจากภาคใต้ 60-70 % ก็ต้องพยายามอย่างเต็มที่เพื่อฟื้นกำลังซื้อกลับมาในทุกช่องทาง

 

ตอนนี้มู้ดแอนด์โทนของคนส่วนใหญ่ยังอยู่ในสถานการณ์ “คิดถึง” แต่ยังไม่สามารถเดินทางไปตามสถานที่ต่าง ๆ ได้มากนัก ผนวกกับกำลังเกิดวิถีการเดินทางใหม่หรือ New Normal นักท่องเที่ยวคงจะต้องปรับพฤติกรรมการเดินทางเข้าสู่โหมด 1.การรักษาระยะห่างทางสังคม : Social Distancing 2.หันมาเดินทางเป็นกลุ่มขนาดเล็ก ๆ กับคนที่คุ้นเคย 3.ใช้รถยนต์ส่วนตัวมากกว่ารถสาธารณะ

 

ทาง ททท.ภูมิภาคภาคใต้ จึงจะให้ความสำคัญกับผู้ประกอบการท่องเที่ยวทุกกลุ่มที่ได้รับผลกระทบจากไวรัสโควิด-19 โดยต้องเร่งช่วยเยียวยา รวมทั้งระยะนี้ภาคใต้มีข่าวเผยแพร่ออกมาค่อนข้างมากถึงการฟื้นตัวทางธรรมชาติกลับคืนมาสวยงาม สัตว์ทะเล เพิ่มจำนวนมากขึ้น ช่วงคนต้องอยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ ฉนั้นการจะโปรโมตการท่องเที่ยวนับจากนี้เป็นต้นไป จะต้องปรับกลยุทธ์เพิ่มด้วยการ ปลุกจิตสำนึกให้ท่องเที่ยวอย่างมีส่วนร่วมรับผิดชอบ ผนวกกับเน้นส่งเสริม “คนใต้เที่ยวภาคใต้” เริ่มจาก เฟสที่ 1 ท่องเที่ยวกันเองภายในจังหวัด เฟส 2 ท่องเที่ยวข้ามจังหวัดในพื้นที่สีเขียวไม่มีโรคระบาด เฟส 3 ท่องเที่ยวข้ามจังหวัด

 

เจาะลึกถึง “ตลาดคุณภาพ” กลุ่มกำลังซื้อหลักภายในประเทศ หลังจากที่เคยพึ่งต่างชาติมาตลอด แล้วก็ต้องหาแม่เหล็กดึงคนไทยที่เคยท่องเที่ยวต่างประเทศหันมาเที่ยวเมืองไทยให้มาก ๆ พร้อมกับตอกย้ำเป็นโอกาสดีมากที่จะได้สัมผัสเมืองไทยซึ่งหาไม่ได้อีกแล้ว มีทั้งราคาโปรโมชั่นต่าง ๆ มากมาย

 

มองว่าต่อไปนี้คนจะเที่ยวต้องนึกถึงสุขภาพเป็นหลักเป็นการท่องเที่ยวแบบ Healthy

 

ผอ.นิธีกล่าวว่า ขณะนี้วางแผนจัดลำดับที่ส่งเสริมการท่องเที่ยวได้ทันทีเมื่อรัฐบาลปลดล็อกดาวน์ อันดับแรก ชุมพร และจังหวัดที่ไม่มีผู้ป่วยโควิดเลยอย่าง พังงา ระนอง หรือจังหวัดที่ปลอดผู้ป่วยแล้วเกินกว่า 14 วัน อย่างสตูล หรือแม้กระทั่ง นครศรีธรรมราช ก็สามารถเดินทางท่องเที่ยวได้เช่นกัน

 

วิธีการออกแบบกิจกรรมเชิญชวนนักท่องเที่ยวเดินทางภายในจังหวัด จะใช้ความสนใจใหม่ ๆ เข้ามาเชิญชวนคนออกเที่ยว ไฮไลต์หลัก ๆ ได้แก่ 1.เที่ยวตามกูรูฟื้นฟูสุขภาพ เสริมสุขภาพร่างกายและจิตใจ ภาคใต้มีความพร้อมสิ่งต่าง ๆ เหล่านี้ โดยพาเที่ยวกับคุณหมอและเทรนเนอร์ 2.โปรแกรมล้างพิษ ซึ่ง ททท.จะร่วมกับโรงแรมนำร่องทำโปรแกรมได้ตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2563 เป็นต้นไป เพื่อให้นักท่องเที่ยวออกเดินทางไปชมธรรมชาติ 3.จะจัดโปรแกรม “ท่องเที่ยวกับเชฟ” พาไปรับประทานอาหารทะเลสด เมนูสมุนไพรต้านโรคโควิด มีร้านอาหารขึ้นชื่อเปิดอยู่ก่อนแล้ว หร็อย 100 เมนู 4.เที่ยวบำบัดจิตใจกับเกจิดัง พบสิ่งศักดิ์สิทธิ์ จีน พุทธ มุสลิม เดินทางสายบุญ หรือจะทำโปรโมชั่นร่วมกับไลลา หรือวัดต่าง ๆ 5.ท่องเที่ยวกับฮีโร่ ไปช่วยเหลือผู้อื่นในชุมชน หรือบุคลากรทางการแพทย์ 6.ท่องเที่ยวสายกรีน ไปตามสถานที่ธรรมชาติต่าง ๆ

 

สำหรับการเดินทางจะเน้นส่งเสริมการเดินทางขับรถเที่ยว Road trip มีหลากหลายรูปแบบ นอกเหนือจากรถยนต์ส่วนตัว ก็จะรณรงค์คาราวานรถเวสป้า บิ๊กไบค์ สายแว้น หรือขับรถไปแล้วขี่จักรยานต่อ หรือจะไปล่องทะเล ชมสวน หลากหลายกิจกรรม ซึ่งจะค่อย ๆ ขยายต่อไปเรื่อย ๆ

 

ส่วนเทรนด์ New Normal ทางด้านการบริหารจัดการพื้นที่ให้สอดคล้องกับขีดความสามารถในการรองรับนักท่องเที่ยวอย่างเหมาะสม เพราะต่างฝ่ายต่างกลัวเรื่องการแพร่เชื้อไวรัสโควิด-19 ทั้งเจ้าของพื้นที่และนักท่องเที่ยว มีหลายชุมชนไม่เปิดให้คนภายนอกเข้าไปเที่ยว ส่วนนักท่องเที่ยวก็อาจไม่มั่นว่าในพื้นที่ปลอดเชื้อไวรัสหรือไม่ ขณะเดียวกันทางกรมอุทยานแห่งชาติทางทะเลและทางบกก็ให้ความสำคัญอย่างมาก จึงต้องปรับแนวทางการรับนักท่องเที่ยว โดย 1.ให้เข้าไปจองล่วงหน้าก่อนเดินทางเข้าไปยังแหล่งท่องเที่ยว เช่น ชุมชน ได้ประชุมกันถึงการท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบ มีหลายพื้นที่จำกัดจำนวนและวัดอุณหภูมิ ทุกฝ่ายยังยึดหลักปฏิบัติไปอีกไม่น้อยกว่า 1 ปี จนกว่าจะมีวัคซีนป้องกันมาใช้ 2.กรมอุทยานเองก็ต้องนำมาตรการ carrying capacity มาใช้ เพราะตอนนี้สัตว์ทะเลที่กลับคืนมาอย่าง วาฬ ฉลาม และอื่น ๆ จะได้อยู่อย่างมีความสุขด้วย

 

ผอ.นิธีกล่าวถึงเรื่องที่ทางศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) เสนอให้เลือกภาคใต้บางโซนจัดทำเป็นพื้นที่ปิดเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวกำลังซื้อสูง หรือ Seal Area Tourism :SAT นั้นสอดคล้องกับแนวคิดของ ดร.ยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการ ททท.ซึ่งต้องการให้แต่ละภาคมุ่งเน้นการทำตลาดเชิงรุกกับกลุ่มนักท่องเที่ยวคุณภาพ ในช่วงเวลาที่ทุกคนยังห่วงเรื่องความปลอดภัย สุขภาพ โรคติดต่อ ซึ่งประเทศไทยมีภาพลักษณ์ที่ดีเป็นจุดแข็งที่สามารถนำไปใช้ได้ ทางด้านมีทีมแพทย์เชี่ยวชาญที่เข้มแข็ง ผนวกกับการวางระบบบริหารจัดการที่ดี จะกำหนดพื้นที่เฉพาะที่มีกำลังซื้อสูง พร้อมใช้จ่ายเงินในพื้นที่ปิด ตัวนักท่องเที่ยวก็ไม่นำโรคเข้าพื้นที่ หรือท้องถิ่นเองก็จะได้ไม่ต้องกลัวนักท่องเที่ยวออกนอกพื้นที่

 

ขณะนี้ ททท.กำลังมองหาพื้นที่เพื่อดำเนินโครงการ SAT แต่จะทำภายใต้การยอมรับของคนในพื้นที่นั้น ๆ ว่าพร้อมจะเข้าร่วมด้วยหรือไม่ เพราะเดี๋ยวนี้มีหลายปัจจัยโดยเฉพาะคนในท้องถิ่นต้องมีส่วนร่วมตัดสินใจว่าอยากได้รายได้จากการท่องเที่ยวหรือไม่

 

สำหรับหลักเกณฑ์การเลือกพื้นที่ปิดเพื่อการท่องเที่ยวกลุ่มเฉพาะ คือ การเข้าถึงได้สะดวก มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน พื้นที่ลักษณะเป็นเกาะอย่างสมุย ภูเก็ต แต่ก็ไม่จำเป็นจะต้องเป็นเกาะเพียงอย่างเดียว พื้นที่อื่น ๆ หากพร้อมก็สามารถทำได้ โดยจะต้องมีธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม สวยงาม และมีการบริหารจัดการพื้นที่ สำคัญสุดต้องมีระบบความปลอดภัยในสุขภาพตามมาตรฐานสากล โครงการนี้จะเป็นแผนระยะยาว เพราะจะต้องในพื้นที่เองก็จะต้องลงทุนอีกพอสมควรเพื่อให้องค์ประกอบการพักผ่อนครบตามเกณฑ์มาตรฐานของการรองรับนักท่องเที่ยวฐานะดีที่จะเข้ามาอยู่ในพื้นที่ปิด

 

ผอ.นิธีกล่าวถึงกลยุทธ์ภาพรวมในการสร้างแม่เหล็กดึงดูดนักท่องเที่ยวเข้าภาคใต้ จะต้องดูความพร้อมว่ากลุ่มใด ไม่ได้เป็นกลุ่มเสี่ยงต่อการติดเชื้อได้ง่ายอย่างผู้สูงวัย ดังนั้นจึงจะพุ่งเป้าไปยังกลุ่มเจนวาย มิเลนเนียล มีรายได้ประจำ แนะนำเข้าไปเที่ยวแหล่งใหม่ ๆ มีสถานบริการอย่างโรงแรม 5 ดาว โรงแรมพลู วิลล่า ซึ่งตามปกติจะไม่ค่อยมีโอกาสได้เข้าไปใช้บริการ

 

รวมทั้งการร่วมมือเปิดช่องทางการขายกับพันธมิตรอย่าง ผู้ขายท่องเที่ยวออนไลน์ -Online Travel Agents : OTA ค่ายมือถือ บัตรเครดิต และจัดเตรียมของแถมผลิตภัณฑ์ชุมชน โวเชอร์ โดยเน้นความคุ้มค่ามากที่สุด

 

แต่ด้วยข้อจำกัดบางอย่างในการเดินทางมาท่องเที่ยวภาคใต้ระยะทางไกล แล้วกำลังเข้าหน้าฝน จึงต้องหาวิธีให้เหมาะสม 1.ส่งเสริมคนใต้เที่ยวใต้ 2.ร่วมมือกับสายการบินทำโปรโมชั่น 3.การท่องเที่ยวนอกฤดูกาลเที่ยวหน้าฝนก็สวยงามไม่แพ้ภาคอื่น ๆ

ผอ.นิธี ย้ำว่าการเดินทางท่องเที่ยวหลังโควิด-19 ต้องห้ามการ์ดตก ดูแลรักษาสุขภาพก่อนเป็นอันดับแรก สวมหน้ากากอนามัย กินร้อนช้อนกลาง ควบคู่กับการดูแลแหล่งท่องเที่ยวที่เปราะบางอย่างรับผิดชอบ ซึ่งอยู่ในช่วงฟื้นตัว โดยจะทำการส่งเสริมท่องเที่ยวภาคใต้แบบค่อยเป็นค่อยไป จนกว่าสถานการณ์ทุกอย่างจะปกติจึงจะโหมทำกิจกรรมกระตุ้นการเดินทางสร้างรายได้เต็มรูปแบบในอนาคต ทำให้ทุกคนมีความสุข เพราะทุกพื้นที่ในภาคใต้ก็พร้อมที่จะต้อนรับนักท่องเที่ยวอย่างมีความสุขด้วยเช่นกัน

 

ข่าวต้นชั่วโมง

 

ข่าวที่ 1 คิงเพาเวอร์”คว้าแชมป์เอเชีย2รางวัลใหญ่แห่งปี’63

 

        กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ รายงานว่าในฐานะผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวและรีเทลระดับโลกของคนไทย ล่าสุดในเวที ‘ดีเอฟเอ็นไอ-ฟรอนเทียร์ เอเชีย แปซิฟิก อวอร์ดส 2020’ (DFNI-Frontier Asia Pacific Awards 2020) ประกาศให้ คิง เพาเวอร์ ได้รับรางวัลสำคัญของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและธุรกิจดิวตี้ฟรี ในภูมิภาคเอเชีย  2 รางวัล ได้แก่ 1.รางวัลผู้ประกอบการธุรกิจค้าปลีกสนามบินที่บริหารงานยอดเยี่ยม หรือ Asia Pacific Airport Travel Retailer of  the year 2.รางวัลผู้ประกอบการที่มีความรับผิดชอบต่อสังคมอย่างยั่งยืน หรือ CSR or Sustainability Initiative of the year  

 

           สำหรับรางวัลผู้ประกอบการธุรกิจค้าปลีกสนามบินที่บริหารงานยอดเยี่ยม หรือ Asia Pacific Airport Travel Retailer of the year การันตีถึงความเป็นมืออาชีพของ คิง เพาเวอร์ ในการบริหารจัดการร้านค้าจำหน่ายสินค้าปลอดอากรภายในสนามบินนานาชาติและร้านค้าเชิงพาณิชย์ ซึ่งพัฒนาตอบโจทย์ครอบคลุมทั้งด้านสินค้า บริการ แก่นักเดินทางทั่วโลก โดย คิง เพาเวอร์ ได้รับคะแนนโหวตสูงสุดเป็นชนะผู้เข้าแข่งขันจากธุรกิจดิวตี้ฟรี โดยมีผู้เข้าชิงอีก 3 ราย คือ จากอินเดีย 2 ราย ได้แก่ Delhi Duty Free กับ Hyderabad Duty Free และ The Shilla Duty Free เกาหลีใต้

 

นับเป็นความภาคภูมิใจของคนไทยทั้งประเทศ สำหรับปีนี้ที่ทาง ‘ดีเอฟเอ็นไอ-ฟรอนเทียร์ เอเชีย แปซิฟิก อวอร์ดส’ จัดให้มีเป็นปีแรกการมอบรางวัลสาขา CSR or Sustainability Initiative of the year รวมทั้งคัดเลือกให้กิจกรรมเพื่อสังคมของ คิง เพาเวอร์ ชนะผู้เข้าชิงรางวัลจากธุรกิจดิวตี้ฟรี และโครงการในธุรกิจที่เกี่ยวข้อง อีก 5 ราย ได้แก่ Delhi Duty Free อินเดีย, Dubai Duty Free สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์, Lotte Duty Free เกาหลีใต้, Ever Rich Duty Free สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) และโครงการ Wild Tiger’s Roar Trip อินเดีย

 

สำหรับคิง เพาเวอร์ ทำโครงการเพื่อสังคมด้านต่าง ๆ อย่างต่อเนื่องทั้งทางด้าน กีฬา ด้านดนตรี และด้านชุมชน รวมถึงการพัฒนาและส่งเสริมอุตสาหกรรมท่องเที่ยว โครงการต่างๆ ดังกล่าวขับเคลื่อนภายใต้แนวทาง CSR ของ คิง เพาเวอร์ ที่ได้ลงมือทำแล้วกว่า 12 โครงการ

          

การมอบรางวัล ‘ดีเอฟเอ็นไอ-ฟรอนเทียร์ เอเชีย แปซิฟิก อวอร์ดส 2020’ (DFNI-Frontier Asia Pacific Awards 2020) จัดโดย นิตยสาร ดิวตี้ ฟรี นิวส์ อินเตอร์เนชั่นแนล หรือ DFNI Magazine เป็นรางวัลระดับภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค ที่สำคัญของวงการธุรกิจดิวตี้ฟรี ตัดสินโดยคณะผู้ตัดสินที่มีชื่อเสียงและได้รับการยกย่องในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวระดับโลก เป็นการลงคะแนนให้กับผู้ประกอบการต่างๆ ผ่านทางเว็บไซต์ www.dfnionline.com ซึ่งจัดขึ้นเป็นประจำทุกปี

 

ขณะที่ปี 2563 ผลจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 คณะผู้ตัดสินจึงประกาศแจ้งผู้ได้รับรางวัลผ่านทางเว็บไซต์ และจัดส่งรางวัลให้แก่ธุรกิจที่ได้รับรางวัล โดยมิได้จัดกิจกรรมมอบรางวัลแต่อย่างใด

           

ส่วนกลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ได้รับรางวัล DFNI-Frontier Asia Pacific Awards ซึ่งเป็นรางวัลในกลุ่มผู้ประกอบการธุรกิจดิวตี้ฟรี ท่องเที่ยว และธุรกิจค้าปลีก มาแล้วถึง 8 ประเภทรางวัล ตั้งแต่ปี 2546 จนถึงปัจจุบัน ประกอบด้วย

 

ปี 2546 รางวัล Runner-up Best Partnership Initiative of the Year

ปี 2551 รางวัลชนะเลิศ Airport Retailer of the Year

ปี 2553 รางวัลชนะเลิศ Land Based - Border / Downtown Retailer of the Year

ปี 2554 รางวัลชนะเลิศ Best Land - Border / Downtown Retailer of the Year และรางวัลชนะเลิศ Best Airport Retailer of the Year

ปี 2561 รางวัลชนะเลิศ Border/ Downtown and Non-Airport Retailer of the Year

ล่าสุดปีนี้ 2563 ได้รับรางวัล Asia Pacific Airport Travel Retailer of  the year และ CSR or Sustainability Initiative of the year

      

ข่าวที่ 2 คิงเพาเวอร์โชว์นวัตกรรมเรียลไทม์ช้อปปิ้งรางน้ำ

 

กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ เน้นย้ำการบริหารจัดการจำนวนผู้เข้าใช้บริการ ผ่าน Innovative Real Time Dashboard ยกระดับมาตรการสุขอนามัย ภายใต้ยุทธศาสตร์  KING POWER CARE POWER สร้างความมั่นใจ เสริมสุขอนามัย ในทุกพื้นที่บริการ”

 

โดยจะทำการประมวลผลจำนวนผู้เข้าใช้บริการในอาคารทั้งหมด พร้อมแสดงจำนวนผู้เข้าใช้บริการในแต่ละพื้นที่แบบ Real Time หลังจากที่ผู้เข้าใช้บริการลงทะเบียนสแกน QR Code ผ่านแพลตฟอร์ม “ไทยชนะ” ตามมาตรการของศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) เพื่อใช้เป็นช่องทางบันทึกข้อมูลการใช้บริการในสถานที่ต่างๆ ของประชาชน ซึ่ง Innovative Real Time Dashboard สามารถช่วยอำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าในการวางแผนเข้าใช้บริการในพื้นที่ และยังสามารถช่วยบริหารจัดการจำนวนผู้เข้าใช้บริการแต่ละพื้นที่ได้ตามหลักเกณฑ์ 1 คน ต่อ 5 ตารางเมตร ได้อีกด้วย

 

ข่าวที่ 3 ททท.ได้แรงหนุนรมว.พิพัฒน์ชงเปิดเที่ยวไทย1มิ.ย.63

 

นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า ได้นำทีม กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กระทรวงสาธารณสุข เปิดโครงการ "มาตรฐานการรับรองความปลอดภัย :Safty and Healthly Administration : SHA" ที่จะให้ผู้ประกอบการท่องเที่ยว 10 ธุรกิจ เข้าร่วมปรับปรุงสถานที่ให้เป็นไปตามเกณฑ์ เพื่อสร้างความมั่นใจต้อนรับนักเดินทางหลังสถานการณ์โควิด-19 จบลง

 

โดยเมื่อวันศุกร์ที่ 29 พฤษภาคม 2563 ได้เสนอให้ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-109 หรือ "ศบค." พิจารณาปลดล็อกดาวน์การท่องเที่ยวในประเทศได้ตั้งแต่ 1 มิถุนายน 2563 เป็นต้นไป

 

เสนอให้เปิดการท่องเที่ยวข้ามจังหวัด เปิดโรงแรม และร้านอาหาร สถานที่ท่องเที่ยว เพื่อกระตุ้นคนในประเทศเดินทาง ซึ่งทางรัฐบาลจะแจกคูปองเพื่อสนับสนุนคนไทยเที่ยวในประเทศ

 

                ดร.ยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า เมื่อวันที่ 26 พ.ค.เวลา 9.30 น. ททท.จะหารือกับสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (ศสค.)ถึงแนวทางการจัดทำข้อเสนอโครงการฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคม ภายใต้ พ.ร.ก.กู้เงิน ที่รัฐอนมุติให้ใช้วงเงิน 4 แสนล้านบาท เข้ามาฟื้นฟูเศรษฐกิจฐานราก จึงจะขอให้พิจารณาเงินสนับสนุนการฟื้นฟูการท่องเที่ยวหลายมาตรการ

 

โดยเฉพาะแนวทางการอุดหนุนค่าใช้จ่ายให้แก่ผู้ประกอบการท่องเที่ยว เพื่อทำโปรโมชั่นลดราคากระตุ้นคนเดินทางในประเทศ  โครงการแรก คือการแจกคูปองท่องเที่ยว และอื่น ๆ ภายในปี 2563 จะเดินหน้าผลิตเป็นแพ็คเกจใหญ่ฟื้นฟูอุตสาหกรรมท่องเที่ยว แทนการรอตลาดต่างประเทศในช่วงไตรมาสที่ 4 ปีนี้

 

หลังจากเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2563  ททท.ประชุมร่วมกับผู้ประกอบการสายการบิน เห็นตรงกันว่าสถานการณ์ฟื้นตลาดท่องเที่ยวต่างประเทศกลับเข้ามาจะต้องทำอย่างระมัดระวัง อีกทั้งการนำร่องเปิดเที่ยวบินในประเทศของ 4 สายการบิน ตั้งแต่ 1 พฤษภาคม 2563 มาจนถึงขณะนี้ก็มีผู้โดยสารใช้บริการเพียงวันละพันคน ซึ่งผู้โดยสารส่วนใหญ่มีเพียง 2 กลุ่ม คือ 1.เดินทางเพื่อไปทำธุรกิจ และ 2.กลับภูมิลำเนา

 

                ททท.จึงวางแนวทางการฟื้นฟูตลาดการเดินทางในประเทศช่วงแรกจะเน้น การขับรถท่องเที่ยว หรือ Road Trip แล้วก็ต้องให้ผู้ประกอบการ สถานที่ท่องเที่ยว ต้องปรับตัวตามแบบวิถีใหม่ (New Normal) ดำเนินการด้วยกลยุทธ์ใหม่ที่ใช้ตัวย่อว่า BEST ได้แก่ B -Booking : ทำการจองล่วงหน้า  E-Edition : การจำกัดจำนวนคน S-Social Distancing : การรักษาระยะห่างทางสังคม T -Tecnology : นำเทคโนโลยีเข้ามาบริหารจัดการอย่างสมดุล

 

ขณะที่การเปิดให้ผู้ประกอบการ 10 ธุรกิจ เข้ามาลงทะเบียนเข้าร่วมมาตรฐาน SHA ตั้งแต่วันที่ 18-25 พฤษภาคม 2563 มีผู้สมัครแล้ว 1,442  ราย ตั้งเป้าตลอดโครงการในช่วง 2ปี 2563-2564 จะรณรงค์ให้มีธุรกิจเข้าร่วมกว่า 70% ของซัพลลายเชนท่องเที่ยวของประเทศทั้งหมด โดยเฉพาะกลุ่มโรงแรมขณะนี้มีมากถึง 700,000 ห้อง  จะพยายามให้โรงแรมที่จดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมายเข้ามาร่วมโครงการฝห้ได้มากที่สุด

 

อย่างไรก็ตาม ในวันเปิดตัวเมื่อ 25 พฤษภาคม 2563 นายพิพัฒน์ รัชกิจปราการ รัฐมนตรีว่ากระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้ทำพิธีมอบตรามาตรฐานสัญลักษณ์ SHA ให้โรงแรมพลาซ่า แอทินี กรุงเทพ ที่ปรับปรุงตามเกณฑ์จนผ่านมาตรฐานแล้วเป็นกลุ่มแรก

 

ข่าวที่ 4 รมว.พิพัฒน์นำทีมเปิดททท.ปลุก10ธุรกิจสมัครเข้าร่วม70%

 

นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา  เปิดเผยว่า ได้เปิดโครงการ “มาตรฐานการรับรองควมปลอดภัย” ที่จะนำมาใช้กับอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ซึ่งได้รับผลกระทบจากโควิด-19 และอาจจะเป็นอุตสาหกรรมสุดท้ายที่ฟื้นสู่ภาวะปกติ  จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องปรับตัวครั้งสำคัญเพื่อให้เกิดความยั่งยืนในอนาคต ตามที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา มอบหมายให้ ททท. ปรับนโยบายให้สอดคล้องกับมติคณะรัฐมนตรีภายใต้พันธกิจของ ททท. โดยนโยบายเร่งด่วนที่สำคัญ คือ การยกระดับมาตรฐานด้านความสะอาดและสุขอนามัย ตามแนวคิด    “ซ่อม-สร้าง” เพื่อกระตุ้นให้สถานประกอบการเตรียมความพร้อมปรับปรุงเพื่อให้สอดคล้องกับวิถีปกติใหม่ (New Normal) ไม่ใช่เฉพาะเรื่องการนำเสนอสินค้าและบริการที่ดีเหมือนอย่างที่เคยปฏิบัติกันมา แต่ยังต้องเตรียมความพร้อมเรื่องมาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัย เพื่อลดความเสี่ยงจากการแพร่กระจายของโรคติดต่อไวรัสโควิด-19 และการสร้างความมั่นใจให้แก่นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศในการเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศไทยอย่างมีความสุข และมีประสบการณ์ที่ดี และทำให้การท่องเที่ยวเป็นอีกหนึ่งเสาหลักทางเศรษฐกิจที่มั่นคงและยั่งยืนต่อไป

 

        แพทย์หญิงพรรณพิมล วิปุลากร  อธิบดีกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุข และ ททท. ได้ร่วมกันจัดทำมาตรฐาน SHA เรียบร้อยแล้ว ทางกรมอนามัยยังได้ทำคู่มือและแนวทางการดำเนินงานพร้อมสนับสนุนสถานประกอบการท่องเที่ยวและการกีฬา รวมทั้งจัดให้มีทีมเจ้าหน้าที่สาธารณสุข ระดับเขต จังหวัด อำเภอ ที่มีความรู้และสามารถให้คำแนะนำด้านการป้องกันโรค สุขลักษณะ สุขาภิบาล และอนามัยสิ่งแวดล้อมได้ อีกทั้งยังมีคณะกรรมการร่วม 2 กระทรวง ที่ขับเคลื่อนร่วมกันที่จะจัดทำแผนการงานอย่างต่อเนื่องด้วย

       

ขณะที่ ดร.ยุทธศักดิ์  สุภสร ผู้ว่าการ ททท. กล่าวว่ารายละเอียดว่า โครงการยกระดับอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยมาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัย หรือ Amazing Thailand Safety & Health Administration : SHA คือ ความตั้งใจของ ททท. ที่จะสร้างความเชื่อมั่นและมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยวหรือผู้มาใช้บริการหลังจากสถานการณ์โควิด-19 อยู่ในระดับที่ปลอดภัยสำหรับการเดินทาง  ด้วยการกระตุ้นให้ผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวได้ดำเนินการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงทั้งด้านการบริการและด้านสุขอนามัยให้เป็นไปตามมาตรการทางสาธารณสุข โดยกิจการที่สามารถขอรับมาตรฐาน SHA  แบ่งเป็น 10 ประเภทกิจการ ดังนี้           

 

1.ประเภทภัตตาคาร/ร้านอาหาร 2. ประเภทโรงแรม/ที่พักและสถานที่จัดประชุม 3. ประเภทนันทนาการและสถานที่ท่องเที่ยว 4. ประเภทยานพาหนะ 5. ประเภทบริษัทนำเที่ยว 6. ประเภทสุขภาพและความงาม 7. ประเภทห้างสรรพสินค้าและศูนย์การค้า 8. ประเภทกีฬาเพื่อการท่องเที่ยว 9.ประเภทการจัดกิจกรรม การจัดประชุม (MICE) โรงละคร โรงมหรสพ และ 10. ประเภทร้านค้าของที่ระลึกและร้านค้า อื่นๆ

 

โดยได้มีมาตรฐานเบื้องต้นจากกรมควบคุมโรคของทุกสถานประกอบการ มี 3 องค์ประกอบ  คือ 1. สุขลักษณะอาคารและอุปกรณ์เครื่องใช้ที่มีอยู่ในอาคาร 2. การจัดอุปกรณ์ทำความสะอาดเพื่อป้องกันการแพร่กระจายเชื้อโรค และ 3. การป้องกันสำหรับเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน ทั้งนี้ มีรายละเอียดของมาตรฐานเฉพาะประเภทกิจการเพิ่มเติม โดยผู้ที่ผ่านเกณฑ์มาตรฐานจะได้รับตราสัญลักษณ์ SHA ต่อไป

 

ผู้ว่าการ ททท. กล่าวเพิ่มว่า ททท. จะทำหน้าที่ควบคุมการออกตราสัญลักษณ์โดยการระบุหมายเลขของตราสัญลักษณ์ SHA ให้แก่ผู้ประกอบการเพื่อบันทึกเป็นฐานข้อมูลรายชื่อ ซึ่งมีอายุ 2 ปี และหากพบว่าผู้ประกอบการไม่สามารถรักษามาตรฐาน SHA ได้ เบื้องต้นจะแจ้งให้ผู้ประกอบการพัฒนาและปรับปรุง หากยังไม่สามารถรักษามาตรฐานได้ก็จำเป็นต้องเพิกถอนตราสัญลักษณ์และตัดรายชื่อออกจากฐานข้อมูล SHA 

 

สำหรับสถานประกอบการที่สนใจเข้าร่วมโครงการได้ฟรีทั้งหมด สามารถศึกษาแนวทางปฏิบัติตามมาตรฐาน SHA เข้าไปดาวน์โหลด e-Book ได้ที่ https://thailandsha.tourismthailand.org/ebook เพื่อปรับสถานประกอบการให้เป็นไปตามมาตรฐาน SHA

 

รวมทั้งสมัครขอรับการตรวจและรับตราสัญลักษณ์ SHA ได้ที่ www.tourismthailand.org/thailandsha

 

ขั้นตอนต่อจากการลงทะเบียนแล้ว ทางพันธมิตรของโครงการ เช่น สภา สมาพันธ์ หรือสมาคมต่างๆ ในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวที่ผู้ประกอบการนั้น ๆ เป็นสมาชิก จะเป็นผู้ดำเนินการตรวจสอบ (Checklist) และให้การรับรองว่าผู้ประกอบการได้ดำเนินการตามมาตรฐาน SHA หรือหากไม่เป็นสมาชิกของสมาคมท่องเที่ยวใด ททท. จะประสานผู้เชี่ยวชาญเป็นผู้ตรวจสอบ ทั้งนี้ ททท. จะเป็นผู้รวบรวมขั้นตอนสุดท้ายก่อนมอบตราสัญลักษณ์ ซึ่งจะใช้เวลาประมาณ 2 - 3 สัปดาห์                  

 

               ทั้งนี้ ททท. เปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวได้ช่วยตรวจสอบสถานประกอบการหรือกิจการที่ได้รับสัญลักษณ์ SHA อีกทางหนึ่ง เพื่อเป็นเสียงสะท้อน (Voice of Customers : VOC) จากการใช้บริการ นอกจากนี้   มีคณะกรรมการตรวจสอบมาตรฐาน SHA ประกอบด้วยกรมอนามัย สาธารณสุขจังหวัด กรมการท่องเที่ยว ททท.  และ อพท. สุ่มตรวจประเมินเป็นระยะอีกด้วย

 

     ผู้ที่ได้รับรองมาตรฐาน SHA  ททท. จะประชาสัมพันธ์ผ่านช่องทางต่างๆ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ทั้งนี้ ททท. ได้เปิดให้ลงทะเบียนเพื่อเข้ารับการตรวจสอบตามมาตรฐาน SHA ตั้งแต่วันที่ 18 พฤษภาคม 2563 เป็นต้นมา ขณะนี้มีผู้สนใจทยอยลงทะเบียนจำนวนมาก สอบถามรายเพิ่มเติมได้ทาง thailandsha@gmail.com หรือ Line Official : @thailandsha  และ 1672

 

ข่าวที่ 5 บางจากทำสัญญารับฝากน้ำมันดิบน้ำมันใสกับสยามแก๊ส

 

นายชัยวัฒน์ โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) “BCP” กล่าวว่า ได้ลงนามกับกลุ่มพันธมิตร เพื่อทำสัญญาบริการรับฝากน้ำมันดิบและน้ำมันใน กับทางนายวรวิทย์ วีรบวรพงศ์ ประธานกรรมการ และนายศุภชัย วีรบวรพงศ์ กรรมการผู้จัดการ บมจ.สยามแก๊ส แอนด์ ปิโตรเคมีคัลส์ (SGP) ภายใต้สัญญาระยะยาว ซึ่งเป็นแนวทางการบริหารจัดการคลังน้ำมันอีกรูปแบบในช่วงสถานการณ์ที่น้ำมันในตลาดขณะนี้มีปริมาณมาก

 

ข่าวที่ 6 TCEBชูยูทูบ“หัวใจไทย ภูมิใจช่วยชาติ”ปลุกไมซ์ไทย

 

สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) “สสปน./TCEB” รายงานว่า ได้ผลิต Youtube ในชื่อชุด “หัวใจไทย ภูมิใจช่วยชาติ” หลังศูนย์บริหารสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 (ศบค.) ประกาศมาตรการคลายล็อกดาวน์ภาคธุรกิจ โดยเฉพาะการจัดประชุมตามสถานที่ต่าง ๆ ได้ตั้งแต่กลางเดือนพฤษภาคม 2563 เป็นต้นมา ทางทีเส็บจึงได้นำร่องผลิตสื่อเพื่อเป็นกำลังใจรณรงค์ให้ผู้เกี่ยวข้องในภาคอุตสาหกรรมไมซ์หลอมรวมพลังทำให้ธุรกิจและเศรษฐกิจของประเทศกลับมายืนอย่างแข็งแกร่งต่อไป โดยวิธีสื่อสารรายละเอียดด้วยไฮไลต์ดังต่อไปนี้คือ

https://youtu.be/lqEL4OQVkLQ

 

ในวันที่เราต้องพบกับจุดเปลี่ยน เปลี่ยนวิถีชีวิต เปลี่ยนวิธีทำงาน แต่หัวใจไทยไม่เคยเปลี่ยน หัวใจที่เสียสละ หัวใจที่แบ่งปัน (ถ้าคนไทยไม่ช่วยกัน แล้วใครจะช่วยเรา) หัวใจนักสู้ (สถานการณ์ที่เกิดขึ้นก็จัดทำการขายอาหารดิลิเวอรี่)

เราผ่านมาด้วยกัน แล้วเราจะรอดไปด้วยกัน เราท้อได้ แต่อยากให้มองไปถึงข้างหน้าในวันพรุ่งนี้ยังมีวันที่จะก้าวต่อไปได้ แล้วเราจะกลับมาพร้อม ๆ กัน เป็นพลังสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศต่อไป

ด้วยหัวใจของนักสู้ของอุตสาหกรรมไมซ์ของประเทศ เพื่อธุรกิจได้เดินหน้าต่อไป ให้ประเทศไทยแข็งแกร่ง ยิ่งกว่าเดิม

สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) ขอขอบคุณหัวใจทุกหัวใจ ที่พร้อมจะลุกขึ้นมาขับเคลื่อนอุตสาหกรรมไมซ์ของประเทศกลับมาเติบโตอย่างยิ่งใหญ่ทั้งในระดับประเทศและเวทีโลกในอนาคตเมื่อทุกอย่างคลี่คลายลงไปในทางที่ดี

               

                ช่วงที่ 2 คนไทยห้ามการ์ดตก โดยเฉพาะเมื่อต้องอยู่นอกบ้าน มาดู” วิธีเตรียมพร้อมให้ทุกการเดินทางพ้นโควิด” เกาะติดข่าวร้อน “เปิดขยะใต้พรมการบินไทย 10ปี 10 โครงการ” ต้นเหตุหนี้กว่า3แสนล้านหรือไม่? “พัทยา-บางแสน” ติวเข้มมาตรการความปลอดภัยก่อนเปิดชายหาดให้เที่ยว 1 มิ.ย.63 “อยุธยา” ชิมลางเปิดวัด โบราณสถาน คนกรุงและต่างจังหวัด ร่วมมือตามมาตรการทัวร์แบบ New Normal

 

วิธีเตรียมพร้อมให้ทุกการเดินทางหายห่วงจากโควิด-19

 

การลดการออกไปนอกบ้านโดยไม่จำเป็น หลีกเลี่ยงการใช้ขนส่งสาธารณะ จะช่วยลดการแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้ อย่างไรก็ตาม หากมีธุระจำเป็นต้องเดินทาง ต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันอย่างเคร่งครัด เพื่อให้ตลอดการเดินทางปลอดภัยจากโควิด-19

 

1. ดูแลร่างกายให้แข็งแรง หมั่นออกกำลังกายและกินอาหารถูกสุขลักษณะ

2. ของต้องมีติดกระเป๋า หน้ากากอนามัยและแอลกอฮอล์เจล เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับทุกการเดินทาง

3. สังเกตตัวเองและคนรอบข้าง หากรู้สึกว่าตัวเอง หรือเห็นคนรอบข้างมีอาการป่วย ให้สวมหน้ากากอนามัยทันที

4. ภารกิจหลังเดินทาง หลังเดินทางกลับถึงประเทศไทยภายใน 14 วัน ถ้ามีอาการไข้ ไอ เจ็บคอ มีน้ำมูก หายใจ เหนื่อยหอบ ให้สวมหน้ากากอนามัย และรีบไปพบแพทย์

 

มี 5 สิ่งควรทำ 1. ล้างมือสม่ำเสมอ 2. สวมหน้ากากอนามัย 3. หลีกเลี่ยงสถานที่แออัด 4. ถ้าต้องไปตลาดค้าสัตว์ ต้องสวมหน้ากากอนามัย 5. ไม่สัมผัสสัตว์ป่วยหรือตาย

 

มี 2 สิ่งไม่ควรทำ 1. นำมือสัมผัส หู ตา จมูก ปาก โดยไม่จำเป็น 2. ใช้สิ่งของส่วนตัวร่วมกับผู้อื่น เช่น แก้วน้ำ ผ้าเช็ดตัว

 

ข่าวท้ายชั่วโมง

เปิดแฟ้มการบินไทยย้อน10ปีตะลึง10โครงการเป็นขยะใต้พรม

 

ทันทีที่ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) มอบหมายให้ บริษัท เบเคอร์ แม็คเคนซี่ จำกัด ยื่นศาลล้มละลายกลาง เพื่อนำการบินไทยเข้าสู่พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ล้มละลาย จนศาลรับคำฟ้องเรียบร้อยแล้วเมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม 2563 โดยที่ฝ่ายบริหารและสื่อสารภาพลักษณ์องค์กรสายการบินแห่งชาติ ยังคงปล่อยให้ข่าวขับเคลื่อนเป็นไปตามกระแสยังไม่มีรูปแบบการบริหารจัดการข้อมูลอย่างมืออาชีพนั้น

 

ภายในองค์กรการบินไทยเอง ก็มีแรงกระเพื่อมหนักไม่แพ้กัน จากกลุ่มพนักงานส่งต่อข้อมูลตั้งคำถามถึงสถานการณ์บริษัทฯ ที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์ อย่างกว้างขวาง จากหลายๆหน่วยงาน ทั้งนักวิชาการ รวมถึงอดีตรัฐมนตรี ถึงเรื่อง “ฐานะการเงินการบินไทย” ถึงขั้นล้มละลายมีหนี้สินเกินทรัพย์สินและทุนนั้น

 

สปอตไลท์หลัก ๆ ฉายไปยังตัวบุคคลแรกคือ “นายสุเมธ ดำรงชัยธรรม” กรรมการผู้อำนวยการใหญ่  หรือ DD การบินไทย คนสุดท้ายที่เพิ่งพ้นจากตำแหน่งแล้วบริษัทก็เดินเข้าสู่การต้องยื่นล้มละลายฟื้นฟูกิจการ

พนักงานการบินไทยได้ส่งต่อข้อมูลกันในองค์กร ทวงถามดัง ๆ อีกครั้ง โดยขอให้ย้อนหลังไป 10 ปี มีคำถามคาใจ 10 ข้อ ที่สังคมควรรู้คือ

 

นายสุเมธ ได้รับแต่งตั้งเข้ารับดำรงตำแหน่งเมื่อวันที่ 1 กันยายน 2561 ทำหน้าที่บริหารบริษัทมาเป็นเวลา  1 ปี 2  เดือน ภายในเวลา 14 เดือน สามารถทำให้บริษัทล้มละลายได้จริง ๆ หรือ !?

 

หากลำดับเหตุการณ์ย้อนหลังไป 10 ปี มีโครงการใหญ่ต่าง ๆ เกิดขึ้นมากมายในการบินไทย 10 โครงการที่น่าสนใจ คือ

 

1. โครงการนำเครื่องบิน B747 จำนวน 2 ลำ ดัดแปลง เป็นเครื่องบินขนส่งสินค้า ทำให้การบินไทยเสียหายไป 1,500 ล้านบาท ?

 

2. โครงการจัดตั้งสายการบินไทยสมายล์ ผลการทำ feasibility ช่วง 4  ปีแรก ระบุจะทำกำไร 7,020 ล้านบาท แต่เมื่อดำเนินธุรกิจจริง ปรากฎว่าผลประกอบการไทยสมายล์ขาดทุน - 6,075 ล้านบาท และยังคงขาดทุนสะสมมาจนถึงปัจจุบัน มูลค่า 8,282 ล้านบาท มีหนี้สิน 12,000 ล้านบาท ?

 

3. โครงการจัดซื้อเครื่องบิน 75 ลำ เงินลงทุน 3 แสนล้านบาท ได้จัดซื้อไปเรียบร้อยแล้ว 37 ลำ ?

 

4. โครงการ หดเพื่อโต โดยวิธีการนำเครื่องบิน A340-600 จำนวน 6 ลำ ออกจากฝูงบินเพื่อรอการขาย หลังจากจอดอยู่บนพื้นมานานกว่า 4 ปีแล้ว เกิดความเสียหายเป็นเงินกว่าหมื่นล้านบาท ?

 

5. โครงการจัดซื้อระบบสำรองที่นั่ง Navitare ให้ไทยสมายล์ ซื้อมาแล้วกลับไม่สามารถเชื่อมต่อกับระบบของการบินไทย จึงต้องเลิกใช้ ทำให้เสียหายไปอีก 500 ล้านบาท ?

 

6. โครงการจัดตั้ง “สายการบินนกสกู๊ต” ซึ่งมีสิงคโปร์แอร์ไลน์ถือหุ้น 49% ในขณะที่การบินไทยถือหุ้นเพียง 19% โครงการนี้ส่งผลกระทบกิจการของการบินไทยหรือไม่ ที่สำคัญโครงการดังกล่าวนี้สร้างความเสียหายต่อประเทศชาติอย่างมหาศาล มาจนถึงขณะนี้จนไม่สามารถประเมินค่าได้ใช่หรือไม่

7. กรณีแต่งตั้ง นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประกาศ มาเป็นประธานบอร์ดตั้งแต่วันที่ 10 กรกฎาคม 2561 พร้อมทั้งได้ ประกาศว่า “ความสำคัญลำดับแรกของการทำงาน ไม่ใช่การซื้อเครื่องบิน แต่คือ การฟื้นฟูกิจการ " แต่นโยบายดังกล่าวได้เปลี่ยนแปลงไปแล้ว

 

8. นโยบายของบริษัท แจ้งเป็นลายลักษณ์อักษรเปิดเผยกับพนักงานว่า มุ่งมั่น และจะปฎิบัติตามคู่มือการกำกับดูแลกิจการที่ดี แต่ในทางปฏิบัติกลับดำเนินการแต่งตั้ง บุคคลที่ ผิด พ.ร.บ. รัฐวิสาหกิจ และกฎระเบียบบริษัท ใช่หรือไม่ ?

 

9.ผู้บริหารการบินไทยให้ข่าวแจ้งต่อสาธารณชน เมื่อช่วงเดือน เมษายน 2562 ว่าได้ขายเครื่องบิน A340 จำนวน 8 ลำ ในราคา 4,000 ล้านบาท ทั้งที่ความจริงแล้วเครื่องบินทั้งหมดยังคงยอดอยู่จนถึงขณะนี้ และโอกาสที่จะขายในราคาดังกล่าว แทบไม่มีเลย ใช่หรือไม่ ?

 

10. โครงการที่จะเชื่อมต่อระหว่างไทยสมายล์ และการบินไทย เพื่อความสะดวกแก่ผู้โดยสาร  มีแต่นโยบาย แต่ไม่มีการปฏิบัติ ที่เป็นรูปธรรม ใช่หรือไม่ ?

 

การลำดับเหตุการณ์ การบินไทย ตลอดระยะเวลา 10 ปี ที่ผ่านมา จำเป็นต้องหาผู้รับชอบในโครงการต่างๆ ซึ่งเกิดขึ้นต่างกรรมต่างวาระดังต่อไปนี้ด้วยหรือไม่ ตามที่พนักงานกลุ่มการบินไทยชี้เป้าไว้ว่า

 

โครงการ 1- 3 ต้องถามไปยัง “นายกรณ์ จาติกวณิช”  อดีต ส.ส. พรรคประชาธิปัตย์ หัวหน้าพรรคกล้า กรุณาตั้งกระทู้ ในช่วงที่ดำเนินการ โครงการ 1 ,2 และ 3 ผู้ถือหุ้นใหญ่คือกระทรวงการคลัง ในช่วงที่รับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังขณะนั้น ได้ทราบปัญหาดังกล่าวหรือไม่ ?

 

โครงการ 4 - 6 ต้องขอให้ “นายถาวร เสนเนียม” รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคมในฐานะที่ได้รับมอบหมายเข้ามากำกับดูแลสายการบินแห่งชาติ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ตรวจสอบความเสียหาย และ สอบสวนหาผู้รับผิดชอบในการอนุมัติโครงการเหล่านี้

 

โครงการ 7 -10 ต้องทวงถามไปยัง นายเอกนิติ ประธานบอร์ดการบินไทย ขณะนั้น ถึงนโยบายของคณะกรรมการและฝ่ายบริหารยุคนั้น มิได้ดำเนินการตามคำมั่นสัญญา ดังประกาศไว้ ใช่หรือไม่ ?

ย้อนหลัง 10 ปี 10 โครงการ กับผู้บริหาร รัฐมนตรี เพียงไม่กี่คน มีคำถามเกิดขึ้นมากมาย แล้ววันนี้จะโยนบาปให้ใครดี “พนักงาน” และ/หรือ ฝ่ายบริหาร บอร์ด นักการเมือง ฯลฯ

 

ข่าวที่ 3 พัทยา-บางแสน”ถกเข้มมาตรการเซฟตี้ก่อนเปิดหาดเริ่ม1มิ.ย.63

                นายสนธยา คุณปลื้ม นายกเมืองพัทยา เปิดเผยว่า หลังจากศูนย์บริหารสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 (ศบค.) ประกาศผ่อนคลายล็อกดาวน์ให้เดินทางข้ามจังหวัดได้ ตั้งแต่ 1 มิถุนายน นี้เป็นต้นไป จะเริ่มทยอยเปิดแหล่งท่องเที่ยวชายหาดพัทยา ภายใต้การดูแลมาตรฐานความปลอดภัยอย่างใกล้ชิดจากเจ้าหน้าที่และทีมงาน ควบคุมป้องกันการท่องเที่ยวให้เป็นไปตามนโยบายหลัก ไม่ให้เกิดปัญหาตามมาภายหลัง

 

ทางด้านเทศบาลเมืองแสนสุข รายงานว่า จะเปิดให้ท่องเที่ยวชายหาดบางแสนตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย.2563 ด้วยเช่นกันโดยได้ประชุมเตรียมพร้อมความจัดระเบียบการใช้พื้นที่ชายหาดสาธารณะ รองรับการท่องเที่ยวที่จะทยอยกลับมาเปิดใหม่หลังล็อกดาวน์มาเกือบ 2 เดือน ตอนนี้พร้อมวางแผนการบริหารจัดการ ความสะอาด ขยะ การประกอบการร้านค้าเพื่อให้สอดคล้องต่อสถานการณ์ในปัจจุบัน รวมทั้งให้ความสำคัญเรื่องการกำหนดระยะห่างทางสังคม Social Distancing เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 

 

ข่าวที่ 3 อยุธยานำร่องเปิดวัด-โบราณสถานฟื้นเศรษฐกิจชุมชน

 

นายภานุ แย้มศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เปิดเผยว่า ภายหลังจากที่จังหวัดอยุธยาได้เริ่มผ่อนคลายมาตรการ โดยเฉพาะด้านการท่องเที่ยว ช่วงวันเสาร์อาทิตย์ปลายเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ได้ทดลองเปิดแหล่งท่องเที่ยวโบราณสถานและวัดต่างๆ ให้ประชาชนเข้ามาท่องเที่ยว ทำบุญกราบไหว้พระได้ตามปกติ ส่วนใหญ่เป็นคนไทยจากกรุงเทพ ฯ และต่างจังหวัดสนใจเข้าชมวัดและโบราณสถานในปริมาณพอสมควร เดินทางมาเที่ยวแบบไปเช้าเย็นกลับไม่ค้างคืน สถานที่หลัก ๆ ที่นักท่องเที่ยวเริ่มกลับมา เช่น วัดพนัญเชิงวรวิหาร และวัดใหญ่ชัยมงคล

 

ในจำนวนนี้มีนักท่องเที่ยวเกือบ 100 % สวมใส่หน้ากากอนามัย ให้ความร่วมมืออย่างดีปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคของจังหวัด ซึ่งออกประกาศมาตรการ หากออกนอกบ้านต้องสวมใส่หน้ากากอนามัยทุกครั้ง และในสถานที่ท่องเที่ยวรวมถึงวัดทุกแห่ง จะมีจุดลงทะเบียนเข้าออก ตรวจวัดอุณหภูมิ เจลและน้ำล้างมือ พร้อมกำหนดรูปแบบการเว้นระยะห่างทางสังคมอยู่ด้วย เมื่อมีนักท่องเที่ยวก็จะส่งผลดีไปถึงธุรกิจเชื่อมโยงอย่าง ตลาดน้ำ ตลาดย้อนยุค ร้านอาหาร ร้านขายของฝาก และธุรกิจอื่น ๆ จะได้มีรายได้เริ่มฟื้นตัวในทางที่ดีขึ้นต่อไป

            ติดตามฟังรายการได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 11.00-12.00 น.ทาง สวท.FM 97.0 MHz.


ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ททท.นครราชสีมาพลิกโฉมตลาดท่องเที่ยวปี67

  รุ่งทิพย์ บุกขุนทด  ผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานนครราชสีมา ททท.นครสีมานำธุรกิจพลิกโฉมตลาดปี 67 เที่ยวโคราช-ชัยภูมิ ปลุกกระแส 3 วัยเที่ยวมุมใหม่เมืองย่าโม 3 มรดกโลก 10 อำเภอ จัดชุดใหญ่ Soft Power365 วัน 2 จว. 5 จุดขาย-สงกรานต์สนุกแน่ สมัคร!!สมาชิกคิงเพาเวอร์มี.ค.รับกิฟท์โวเชอร์/กะรัต/ส่วนลด THE POWER BAND# 4คิงเพาเวอร์แจก2ล้านนักดนตรีอาชีพ พลูแมนคิงเพาเวอร์ชูแพ็คเกจ Wedding แจก12รายการ2-3มี.ค. ททท.หนุน PELUPO ปักหมุดพัทยาบูมเที่ยวเทศกาลดนตรีโลก บางจากนำโมเดลสมดุลเพื่อโลกยั่งยืน ESG ส่งต่อผู้อบรมกปร. สุขทันทีนั่งรถม้าเที่ยวลำปาง-วัดพระพุทธบาทผาหนามลำพูน นายกฯจุดฝันไทยฮับบินโลกดันสุวรรณภูมิติดท็อป 20 รุก 5 ส่วน 800 บูธร่วมมหกรรมลดกระหน่ำเทศกาลเที่ยวไทยถึง 3 มี.ค. 67 วันเสาร์ที่  2 มีนาคม 2567 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen #gurutourza # รวยด้วยข่าวเสาร์อ

TCEBนำไมซ์ปี67โร้ดโชว์เทรดโชว์ทั่วโลก-จัดยกทีมประชุมรุมรักเมืองไทย

นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) "TCEB" บิ๊ก TCEB ปี 67 ปั๊มยอดไมซ์โตลุยโร้ดโชว์/เทรดโชว์ทั่วเอเชีย ในประเทศจัดกระหึ่ม“ยกทีมประชุมรุมรักเมืองไทย”พ.ค.นี้   3-7 มี.ค.ประชุมโดฮาลุ้นข่าวดี !! ไทยเจ้าภาพ Korat Expo2029 ดับร้อน!!ที่คิงเพาเวอร์ช้อป4มันส์ลดแจกแลกฟรี-31มี.ค.67 คิงเพาเวอร์จัดเต็ม 3.3 BEAUTY TRIO” ช้อป 3 อย่างลด 25% ททท.นำร่องจัด AIR-MAZING ไทยฮับท่องเที่ยว/การบินปี67 บางจากแจกมี.ค.67นำปั๊มเอสโซ่เดิม & บางจากมอบ2โปรดี สุขทันทีที่เที่ยวแดนใต้นราธิวาสเมืองพหุวัฒนธรรม5พิกัด AWC ปี’66ทำ5นิวไฮ-ปี67ทุ่ม1.9หมื่นล้านเปิด18โครงการ Trip.com- ททท.ไลฟ์สตรีมขายสงกรานต์โกยต่างชาติ150ล. วันอาทิตย์ที่   3 มีนาคม 2567 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen #gurutourza # รวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์ FM97  # เพ็ญรุ่งใยสามเสน # เท

เปิดใจ “พศิน ลาทูรัส”ทายาท”นารายา”พลิกโมเดลแบรนด์ไทย ถอดบทเรียนโควิดปรับมุมคิดธุรกิจรุ่งปั้นสินค้าใหม่บุกทั่วโลก

  เปิดใจ “พศิน ลาทูรัส”ทายาท”นารายา”พลิกโมเดลแบรนด์ไทย ถอดบทเรียนโควิดปรับมุมคิดธุรกิจรุ่งปั้นสินค้าใหม่บุกทั่วโลก คิงเพาเวอร์ชวนช้อปออนไลน์แบรนด์เนมลด 70%26-31 ต.ค.นี้ สนุกกับ SUPER SURPRISE ดีลพิเศษราคาดิวตี้ฟรีที่คิงเพาเวอร์ ก.ท่องเที่ยวตีปีกรับทัวร์ต่างชาติ 3 เฟส-ไฟเขียวแล้ว 10 แอร์ไลน์ ไทยจ่อดึงลองสเตย์ต่างชาติซื้ออสังหาฟื้นเศรษฐกิจหลังโควิด “ TCEB” ชูไทยแลนด์ไมซ์สตาร์ตอัพปั้นนวัตกรรมใหม่5โปรเจ็กต์ หนาวนี้เที่ยว“นครพนม”ปลอดภัยมั่นใจเส้นทางสาย SHA ริมโขง วิธีเลือกกินเพื่อหลีกเลี่ยงความอ้วนควบคู่การลดโรคมากมาย ไทยสมายล์ขายตั๋วชุดเที่ยวไทยเหมาจ่าย4ใบเริ่มที่3.8พันบาท ไทยเวียตเจ็ทขายตั๋ว5บาท/เที่ยวโปร2เส้นทางใหม่ในประเทศ กรมเจ้าท่าฟุ้งแผนทำ10ท่าเรือรองรับวันสต็อปเที่ยวเจ้าพระยา   นายพศิน ลาทูรัส ซีอีโอฝ่ายพัฒนาธุรกิจ  บริษัท นารายณ์ อินเตอร์เทรด จำกัด ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” ในวันเสาร์ที่ 24 ตุลาคม 2563 เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง