เจาะลึกผู้นำTCEBลุยผ่าทางรอดอุตสาหกรรมไมซ์ปี63 จ่อใช้D-Globolization-ทวิภาคีจับมือตลาดแรกในจีน

เจาะลึกผู้นำTCEBลุยผ่าทางรอดอุตสาหกรรมไมซ์ปี63
จ่อใช้D-Globolization-ทวิภาคีจับมือตลาดแรกในจีน
คิงเพาเวอร์ชูแบรนด์มหานครชวนช้อปช่วยช้าง/ดับไฟป่า
แบรนด์หลงใหลคิงเพาเวอร์ชวนช้อปแบ่งปันช่วย4มูลนิธิ
ททท.เร่งทำมาตรฐานSHAสร้างเชื่อมั่นเที่ยวไทย-ทั่วโลก
บางจากลุยขายแอลกอฮอล์น้ำรอบ2ทั่วไทยตลอดพ.ค.นี้
มูลนิธิปิดทองจัดความสมบูรณ์ที่สัมผัส3จังหวัดแดนใต้
8 เทคนิคดี ๆช่วยทำให้แฮปปี้ได้ทุกวันช่วงต่อสู้โควิด-19
“คนร.”กุมขมับกาง13พ.ร.บ.อุดช่องผ่าแผนฟื้นฟูบินไทย
สมาคมโรงแรมไทยระดมสัมมนาออนไลน์ฟรี7พ.ค.63
วี วิลล่าหัวหินจัดโปรแรงขายโวเชอร์พูลวิลล่า1-20พ.ค.

ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” ในวันอาทิตย์ที่ 3 พฤษภาคม 2563 เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทางfacebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen บล็อกเกอร์ #gurutourza #รวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97  #TCEBผ่าทางรอดไมซ์ #คิงเพาเวอร์ช่วยมูลนิธิช้าง 

ช่วงที่ 1 เจาะทางออกของอุตสาหกรรมไมซ์กับ “นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) “สสปน./TCEB” กอดคอผู้ประกอบการไทยปรับกลยุทธ์ช่วงหยุดรอไวรัสโควิดสงบ ทำ 3 โปรเจ็กต์ “Webinar/O to O/E Learning” พร้อมใช้ช่องทางใหม่ “คณะกรรมการเตรียมความพร้อมจัดสถานที่เปิดกิจการด้านท่องเที่ยวและกีฬา” ใน ศบค.เป็นช่องทางออก ปูพรมปลุก D-Globalization ทำตลาดในประเทศให้เข้มแข็งด้วยแคมเปญ “ประชุมเมืองไทย ภูมิใจช่วยชาติ” และขยายผลสร้างความร่วมมือระดับ “ทวิภาคี” หลังแต่ละประเทศปลดล็อกกักตัว14วัน มั่นใจจับมือจีนนำไมซ์เข้าไทยเป็นชาติแรกปลายปีนี้

นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) “สสปน./TCEB” เปิดเผยว่า ได้ปรับกลยุทธ์โดยจัดทำคู่มือหรือไบเบิ้ลแนวทางการจัดงานประชุมจัดเตรียมไว้ เพราะตอนนี้อุตสาหกรรมไมซ์ไม่สามารถจัดงานต่าง ๆ  ได้ ประเภท การจัดนิทรรศการแสดง (Exhibition) แต่ละงานแค่เลื่อนจัดแต่ไม่ได้ยกเลิก จะต้องดูนโยบายของรัฐบาลตั้งแต่ต้นเดือนพฤษภาคมนี้เป็นต้นไป ถึงการผ่อนคลายล็อกดาวน์ธุรกิจแต่ละประเภท อีกทั้งล่าสุดทาง “ศูนย์บริหารสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 หรือ ศบค.” ได้แต่งตั้ง “คณะกรรมการเตรียมความพร้อมจัดสถานที่เปิดกิจการด้านท่องเที่ยวและกีฬา”  “ขึ้นมาอีกชุด โดยมีผมในฐานะผู้อำนวยการทีเส็บเป็นหนึ่งในกรรมการชุดนี้ จะทำหน้าที่รวบรวมบุคลากร สาธารณสุข ท่องเที่ยวและกีฬา ทีเส็บ เพื่อช่วยผ่อนคลายกิจการด้านไมซ์ ร้านอาหาร เพื่อเสนอรัฐบาล

ขณะนี้ทางทีเส็บได้จัดทำกิจกรรมส่งเสริมเยียวยาผู้ประกอบการไมซ์ในประเทศ 3 โครงการ ประกอบด้วย 1.Webinar เริ่มดำเนินการเมื่อปลายเดือนเมษายน 2563 เป็นต้นมา มีผู้สนใจเข้าร่วมโครงการเกี่ยวกับเนื้อหาการจัดประชุม สัมมนา ผ่านออนไลน์ รวม 500 ราย จะมีเฉพาะข้อมูลแต่สถานที่จัดประชุมจึงขาดรายได้ไปในช่วงนี้ แยกเป็นการอบรมย่อย 25 โครงการ

2. O to O : Offline to Online แพลตฟอร์มแอพลิเคชั่นจะแล้วเสร็จเดือนมิถุนายน นี้ เป็นการเปิดซื้อขายมหกรรมจัดแสดงสินค้าหรือ Exhibition ทางออนไลน์ สามารถผู้ค้างานเครื่องจักรกล ใช้ช่องทางดังกล่าวทำธุรกิจ 3.E-Learning ทำหัวข้ออบรมผ่านออนไลน์ เช่นกัน

ขณะนี้ทางด้านเนื้อหาของการพัฒนาผู้ประกอบการ ผู้ซื้อและผู้ขายไม่เป็นห่วง สิ่งที่กังวลคือ “การสร้างรายได้” ให้อุตสาหกรรมไมซ์ ปัจจุบันหลายองค์กรทำงานอยู่บ้านเช่นเดียวกับทีเส็บ ซึ่งสามารถทำงานประสานกันได้ตามปกติ ตัวอย่าง โครงการ Webinar สามารถรองรับให้คนเข้ามาร่วมประชุมพร้อมกันได้ครั้งละ 10,000 คน ทุกคนจะอยู่บนหน้าจอออนไลน์ ส่วน O to O หลังเดือนมิถุนายนจึงจะรู้ผลเรื่องการเปิดตลาดเอ็กซิบิชั่น

แต่ละโครงการมีกระแสตอบรับจากผู้สนใจเข้าร่วมมีจำนวนผู้ประกอบการสมัครเข้ามามากเกินกว่างบประมาณที่ได้จัดเตรียมไว้ แต่ทางทีเส็บต้องทำงานควบคู่กับนโยบายการเยียวยาของภาครัฐทั้งเรื่อง การจ่ายเงินเราไม่ทิ้งกันแก่อาชีพอิสระ 5,000 บาท/คน/เดือน เป็นเวลา 3 เดือน การจ่ายเงินประกันสังคมลูกจ้างประกันตนตามมาตรา 33 อัตรา 62 % ของเงินเดือนไม่เกิน 15,000 บาท/คน/เดือน เป็นเวลา 3 เดือน หรือเงินกู้ใหม่ดอกเบี้ยต่ำบุคคลธรรมดากลุ่มอาชีพอิสระและคนทำงานประจำ 

โดยทางทีเส็บได้รับนโยบายให้นำเงินที่เดิมจะต้องถูกปรับลดงบประมาณปี 2563 ลง 10 % เพื่อนำไปคืนเข้ารัฐ ก็ปรับมาใช้ “เยียวยา” กลุ่มผู้ประกอบการ ส่วนใหญ่เป็นพนักงาน เช่น ออร์กาไนเซอร์ไทยที่ประมูลงานจากต่างประเทศเข้ามาจัดเมืองไทย ขณะนี้ทีเส็บทำงานร่วมกับสมาคมจัดนิทรรศการแสดงสินค้า :Thade Exbition Association :TEA สมาคมเอกชนที่นำเงินจากทั่วโลกเข้ามาจัดในประเทศไทย ขณะนี้ยังจัดงานอยู่ ทางทีเส็บจึงดำเนินการ ระยะแรก ประกอบด้ว 1.นำงบประมาณเข้าไปช่วยพยุงออร์กาไนเซอร์ซึ่งยังต้องทำงานด้านการวางแผนเตรียมไว้ รอลูกค้าต่างประเทศซึ่งยังไม่สามารถเข้ามาได้ ทำให้งาน 70-80 % ต้องเลื่อนไปจนกว่าสถานการณ์จะกลับสู่ภาวะปกติ  ส่วนที่ 2 เปิดการฝึกอบรมหรือ training เตรียมความพร้อมเปิดประเทศ

เมื่อเข้าสู่ระยะกลาง จะส่งสำนักงานทีเส็บสาขาภูมิภาคลงพื้นที่ดูสถานที่จัดงาน จัดการประชุม เตรียมพร้อมไว้ทำงานได้ทันทีเมื่อรัฐบาลเปิดประเทศ โดยไปพูดคุยกับทางสภาอุตสาหกรรมและหอการค้าจังหวัด หาตลาดประชุมสัมมนา หน่วยงานราชการที่สามารถทำได้

งานที่พอจะจัดได้เมื่อสถานการณ์คลี่คลายคือ เอ็กซิบิชั่นภายในห้องประชุม ส่วนไมซ์ด้านอื่น ๆ คงจะยังไม่สามารถทำได้ เพราะแนวทางของรัฐบาลต้องใช้สาธารณสุขเน้นความปลอดภัยนำด้านเศรษฐกิจ แต่ทีเส็บก็จะไม่ได้รอเปิดทีเดียวทั้งประเทศ แต่จะเข้าไปทำงานอย่างใกล้เมื่อ “เปิดรายจังหวัด” ก็จะเสนอเข้าไปใน “คณะกรรมการเตรียมความพร้อมจัดสถานที่เปิดกิจการด้านท่องเที่ยวและกีฬา” ที่มีกระทรวงสาธารณสุข กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และทีเส็บ สังกัด สำนักนายกรัฐมนตรี รวมอยู่ด้วย

การเตรียมโครงการหลังสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 จะทยอยดูแต่ละจังหวัดเพื่อทำ “อนุภาคี” และ “การจัดไมซ์ข้ามจังหวัด” โดยใช้โครงการหลัก “ประชุมเมืองไทย ภูมิใจช่วยชาติ” เมื่อเข้าสู่ ZERO COVID สามารถเปิดการเดินทางท่องเที่ยว และจัดประชุม ซึ่งรูปแบบจะทำเป็นล็อต ไม่สามารถทำพร้อมกันได้ แต่ตลาดหลักที่จะกระตุ้นให้นำเงินเข้ามาใช้จ่ายในโครงการประชุมเมืองไทย ภูมิใจช่วยชาติ คือ ภาคีพันธมิตรทีเส็บ ซึ่งมีทั้ง หน่วยงานภาครัฐ บริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และอื่น ๆ รณรงค์ให้ช่วยกันภายในประเทศก่อน

หลังจากนั้น “ตลาดต่างประเทศ” ก็จะมีบางประเทศเริ่มเปิดโดยปลดล็อกหรือไม่มี Qualantine อีกต่อไป ตัวอย่างเช่น สาธารณรัฐประชาชนจีน ตามผลวิจัยและประมวลตามเอกสารต่าง ๆ จีนมีความพร้อมจะเลือกเดินทางมาไทยเป็นประเทศแรก ทีเส็บจึงมุ่งหวังทำตลาดกับจีนเป็นกลุ่มแรก เพราะเป็นไปไม่ได้เมื่อต้องเดินทางแล้วจะต้องกักตัวเข้าประเทศ 14 วัน ออกต่างประเทศโดนกักอีก 14 วัน หลังจากปลดนโยบายกักตัวคนเดินทาง ก็มีความเป็นไปได้ที่คู่ค้าปลดล็อกต่าง ๆ แล้ว ความร่วมมือแบบ “ทวิภาคี” จะเกิดขึ้น ทางทีเส็บก็จะต้องศึกษาอย่างรวดเร็วว่าประเทศใดบ้างพร้อมจะเดินทางจัดประชุมหรือทำกิจกรรมไมซ์

ตอนนี้จีนน่าจะเป็นประเทศในกลุ่มต้น ๆ ที่จะทำ “ทวิภาคี” กับไทย เพราะเราคงจะไม่สามารถรอเปิดพร้อมกันทีเดียวทั้งยุโรป อเมริกา ขณะนี้ทุกธุรกิจรอคุณหมอซึ่งเป็นหัวหอกสำคัญของการวิเคราะห์สถานการณ์ไวรัสโควิด

นายจิรุตถ์ยืนยันว่า ในสถานการณ์ปกติตลาดไมซ์กลุ่มหลัก คือ จีน อินเดีย สิงคโปร์ แต่ตอนนี้เป็นไปได้ยากที่เดินทางจัดงานได้ อย่างไรก็ตามต้องทำ D Globolization คือทำให้ตลาดภายในประเทศเกิดความเข้มแข็งก่อน อาจจะเป็น เดินทางภายในจังหวัดเดียวกัน ต่อด้วยการเดินทางข้ามจังหวัด ทุกฝ่ายจะต้องฟังทางสาธารณสุขเป็นหลัก

สำหรับสถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 เสมือนย้อนไปสู่ยุคศตวรรษ 19 จึงขอให้ทุกฝ่ายทำตามมาตรการของรัฐบาลคือ “สุขภาพต้องปลอดภัยก่อน” ถึงแม้คนส่วนใหญ่พยายามเรียกร้องให้รัฐผ่อนคลายการเปิดดำเนินธุรกิจ แต่ก็ขอให้ทุกฝ่ายเข้าใจ เพราะทุกคนได้รับผลกระทบเหมือนกัน ผมเองก็โดน แต่ก็ต้องขอให้เชื่อมั่นในรัฐบาลร่วมกันฝ่าฟันโรคระบาดไวรัสโควิด-19 ครั้งนี้ไปด้วยกันให้ได้ เพื่ออนาคตจะได้กลับมาใช้ชีวิตได้ตามสถานการณ์ปกใหม่หรือ New Normal อีกครั้ง
ข่าวต้นชั่วโมง

🎀ข่าวที่ 1 “คิงเพาเวอร์ชูแบรนด์มหานครชวนช้อปช่วยช้าง/ดับไฟป่า”

กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ รายงานว่า แบรนด์มหานครได้นำสินค้าสไตล์สตรีตแฟชั่น เชิญชวนให้ทุกคนมาร่วมช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติไฟไหม้ป่าครั้งใหญ่ ทางภาคเหนือของไทย ภายใต้แคมเปญ “ช้อปช่วยช้าง” และ “ช้อปช่วยป่า” กับโปรโมชั่นเซ็ตที่ลดราคาสูงสุดถึง 50% เพื่อแบ่งปันรายได้ 20% หลังจากหักค่าใช้จ่ายแล้ว จะร่วมบริจาคให้แก่ มูลนิธิเพื่อนช้าง และ มูลนิธิกระจกเงา (กองทุนภัยพิบัติ) ตั้งแต่วันนี้ – 30  มิถุนายน 2563

มูลนิธิเพื่อนช้าง จัดตั้งขึ้นเพื่อช่วยเหลือช้าง ขณะนี้กำลังประสบปัญหาอย่างหนัก ดังนั้นทุกคนสามารถร่วม “ช้อปช่วยช้าง” สมทบทุนได้ ด้วยการสนับสนุนสินค้าคอลเลคชั่นช้างไทยจากแบรนด์มหานคร 2 เซ็ต ดังนี้

เซ็ตที่ 1 มีเสื้อยืดจากคอลเลคชั่นช้างไทย 2 ตัว และกระเป๋าผ้าจากคอลเลคชั่นช้างไทย 1 ใบ พิเศษส่วนลด 44% เหลือเพียง 990 บาท จากราคาเต็ม 1,770 บาท รับฟรีอย่างละ 1 ชิ้น  คือ พวงกุญแจคอลเลคชั่นช้างน้อยออเจ้า มูลค่า 250 บาท และ หน้ากากอนามัย มูลค่า 150 บาท

เซ็ตที่ 2 เสื้อยืดจากคอลเลคชั่นช้างไทย 2 ตัว กระเป๋าผ้าจากคอลเลคชั่นช้างไทย 1 ใบ และพวงกุญแจหมอนดีไซน์ผ้าทอเอกลักษณ์ของชาวไทยภาคเหนือ 1 ชิ้น พิเศษส่วนลด 50% เหลือเพียง 990 บาท จากราคาเต็ม 1,970 บาท รับฟรีอย่างละ 1 ชิ้น พร้อมรับกล่องเอนกประสงค์ มูลค่า 250 บาท และ หน้ากากอนามัย มูลค่า 150 บาท

ส่วน มูลนิธิกระจกเงา จัดตั้งกองทุนภัยพิบัติขึ้น เพื่อให้การสนับสนุนการทำงานของเจ้าหน้าที่ และเป็นกำลังใจให้กับฮีโร่ผู้เสียสละ สามารถร่วม “ช้อปช่วยป่า” สมทบทุนได้ ด้วยการสนับสนุนสินค้าคอลเลคชั่นไทยร่วมสมัยจากแบรนด์มหานคร ดังนี้

เซ็ตที่ 1 หมอนดีไซน์เหรียญไทย 1 ใบ และกระเป๋าใส่เหรียญดีไซน์เหรียญไทย 1 ใบพิเศษ ส่วนลด 50% เหลือเพียง 610 บาท จากราคาเต็ม 1,220 บาท รับฟรีอย่างละ 1 ชิ้น คือ แม็กเน็ต มูลค่า 190 บาท หน้ากากอนามัย มูลค่า 150 บาท

เซ็ตที่ 2 กระเป๋าหนังสะพายข้างทรงกลมสีขาวลายปักสีน้ำเงินดีไซน์เครื่องลายคราม 1 ใบและกระเป๋าใส่เหรียญดีไซน์เครื่องลายคราม 1 ใบ พิเศษ ส่วนลด 50% เหลือเพียง 940 บาท จากราคาเต็ม 1,880 บาท รับฟรีหน้ากากอนามัย มูลค่า 150 บาท

เซ็ตที่ 3 เสื้อยืดจากคอลเลคชั่นไทยร่วมสมัย 2 ตัว และกระเป๋าผ้าดีไซน์ลวดลายขนมไทย 1 ใบ พิเศษ ส่วนลด 47% เหลือเพียง 850 บาท จากราคาเต็ม 1,630 บาท รับฟรีอย่างละ 1 ชิ้น คือ แผ่นรีดติดผ้า มูลค่า 95 บาท และ หน้ากากอนามัย มูลค่า 150 บาท
สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ Line: @mahanakhonshop_bkk Facebook: mahanakhonshop_bkk
IG: mahanakhonshop_bkk

🎀ข่าวที่ 2 “แบรนด์หลงใหลคิงเพาเวอร์แบ่งรายได้ช่วย4มูลนิธิ”

กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ นำแบรนด์ “หลงใหล” แบรนด์กระเป๋าหนังที่ใส่ใจในทุกรายละเอียดอย่างพิถีพิถัน ร่วมให้กำลังใจผู้หญิงทุกคน ผ่านโครงการ Longlai Get Together ให้กำลังใจ และช่วยเหลือผู้หญิงทุกคนให้ข้ามผ่านอุปสรรคต่างๆ นำรายได้สมทบทุนให้กับ 4 มูลนิธิหลัก ๆ ดังต่อไปนี้

1.มูลนิธิผู้หญิง ดำเนินงานพัฒนาและให้ความช่วยเหลือสตรี รวมถึงเด็กที่ประสบปัญหาความรุนแรงในครอบครัว และปัญหาความรุนแรงทางเพศในรูปแบบต่างๆ ร่วมสมทบทุนเพื่อเป็นกำลังใจให้ผู้หญิงทุกคนข้ามผ่านอุปสรรคนี้ไปด้วยกัน ด้วยการสนับสนุนสินค้า Embossed Red Garnet Collection ผ่านโครงการ Longlai Get Together รายได้ 20% หลังหักค่าใช้จ่าย จะนำไปมอบให้แก่มูลนิธิ

2.มูลนิธิศูนย์มะเร็งเต้านมเฉลิมพระเกียรติ เกิดขึ้นจากพระราชดำรัสของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ที่มีพระราชประสงค์ให้เป็นที่พึ่งของผู้หญิงที่ต้องเผชิญกับโรคมะเร็งเต้านม โดยมีจุดมุ่งหมาย ที่จะช่วยเหลือผู้ป่วยและต้านภัยจากโรคมะเร็งเต้านมอย่างมีประสิทธิภาพ ตลอดจนดูแลผู้ป่วยทั้งทางร่างกายและจิตใจ สามารถร่วมสมทบทุนเพื่อเป็นกำลังใจให้ผู้หญิงทุกคนด้วยการสนับสนุนสินค้า Canvazy Collection ผ่านโครงการ Longlai Get Together รายได้ 20% หลังหักค่าใช้จ่าย จะนำไปมอบให้แก่มูลนิธิ

3.มูลนิธิเพื่อนหญิง มีบทบาทในการพิทักษ์สิทธิและให้ความช่วยเหลือผู้หญิงที่ตกอยู่ในภาวะวิกฤตความรุนแรง จากภัยคุกคามต่างๆ อันส่งผลกระทบทั้งด้านร่างกาย จิตใจ สิทธิ เสรีภาพ และความมั่นคงในชีวิต จะมอบรายได้ผ่านศูนย์การทำงานที่ตั้งอยู่ทั้ง 4 ภาค ทั่วประเทศ ร่วมสมทบทุนได้ด้วยการสนับสนุนสินค้า Jekyll & Hyde Collection ล่าสุด ผ่านโครงการ Longlai Get Together รายได้ 20% หลังหักค่าใช้จ่าย จะนำไปมอบให้แก่มูลนิธิ

4.มูลนิธิจากนางฟ้าถึงคุณวันใหม่ - “การตัดผมเป็นสิ่งแรกที่เราทำได้อย่างไม่เกินกำลัง แต่วิกผมจะเป็นสิ่งสุดท้ายที่ผู้ป่วยมะเร็งจะซื้อ” จากจุดเริ่มต้นเล็กๆ ที่เพื่อนๆ จิตอาสาได้รวมตัวกันรับบริจาคเส้นผม เพื่อทอวิกผมจริงให้กับผู้ป่วยมะเร็งยากไร้ มูลนิธิจากนางฟ้าถึงคุณวันใหม่ จึงได้ถือกำเนิดขึ้น  ร่วมสมทบทุนและคืนความสดใสให้กับผู้ป่วยมะเร็ง ด้วยการสนับสนุนสินค้า ผ้าพันคอ VS รุ่น Shawl-Pink-Gold ในราคาผืนละ 435 บาท ผ่านโครงการ Longlai Get Together รายได้ทั้งหมดจากการขายโดยไม่หักค่าใช้จ่าย จะนำไปมอบให้แก่มูลนิธิจากนางฟ้าถึงคุณวันใหม่ต่อไป

สอบถามเพิ่มเติมที่ Line: @longlaileather IG: @longlaileather Facebook: Longlai Leather Store

🎀ข่าวที่ 3 “ททท.เร่งทำมาตรฐานSHAสร้างเชื่อมั่นท่องเที่ยวไทย-ทั่วโลก”

ดร.ยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า ได้รายงานนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ถึงการจัดทำ “มาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขภาพ : Safty Health Administration :SHA” ในที่ประชุม “ติดตามความคืบหน้าการดำเนินงานและหารือมาตรการต่าง ๆ สำหรับช่วยเหลือผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในอุตสาหกรรม” โดยย้ำถึงขั้นตอนขณะนี้ได้ใช้มาตรฐานการควบคุมโรคของกระทรวงสาธารณสุข ผนวกเข้ากับมาตรฐานบริการของสถานประกอบการ ซึ่งกำลังอยู่ระหว่างออกมาตรการ และการประชาสัมพันธ์ เพื่อให้สถานประกอบการเตรียมความพร้อม (Road to SHA)

รวมทั้งรายงานถึงแผนฟื้นฟูอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยภายหลังวิกฤตโควิด-19 ทาง ททท.ได้จัดทำผลวิเคราะห์ตามมาตรฐาน SWOT ของการท่องเที่ยวไทย และแนวทางการดำเนินงาน เตรียมความพร้อมสร้างรายได้ เสริมสภาพคล่อง กระตุ้นการบริโภคผ่านการเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศ มุ่งสร้างฐานรายได้ใหม่จากตลาดต่างประเทศกลุ่มศักยภาพที่พร้อมใช้จ่ายเงินสูง เพื่อสร้างสมดุลเชิงโครงสร้างใหม่เพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน โดยหันมาใช้กลยุทธ์ 5 R ได้แก่ Reboot-Rebuild-Rebrand-Rebound-Rebalance

ทั้งนี้รัฐมนตรีพิพัฒน์ ได้จัดการประชุม“ติดตามความคืบหน้าการดำเนินงานและหารือมาตรการต่าง ๆ สำหรับช่วยเหลือผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในอุตสาหกรรม” เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม 2563 โดยมีหน่วยงานต่าง ๆ เข้าร่วมอย่างพร้อมเพรียง ได้แก่ ททท.กรมการท่องเที่ยว องค์การพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (อพท.) ทุกหน่วยงานพร้อมจะร่วมมือกันช่วยเหลือผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวทั้งทางด้านซัพพลายและดีมานต์ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นทางด้านสาธารณสุขและช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจประเทศให้กลับคืนมาโดยเร็วที่สุด

🎀ข่าวที่ 4 “บางจากลุยขายแอลกอฮอล์น้ำรอบ2ทั่วไทยตลอดพ.ค.นี้”

บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ร่วมช่วยคนไทยสู้ภัยโควิด-19 อย่างต่อเนื่อง ในภาวะที่ยังคงเฝ้าระวังการแพร่ระบาด โดยจำหน่ายแอลกอฮอล์ทำความสะอาดชนิดน้ำราคาพิเศษเป็นครั้งที่ 2 เพื่อร่วมแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายของคนไทย ขนาด 500 มิลลิลิตร เพียงขวดละ 45 บาท  ที่สถานีบริการน้ำมันบางจากที่ร่วมรายการประมาณ 900 สาขา ครอบคลุมทุกภูมิภาคทั่วประเทศ ตั้งแต่วันที่  5 พฤษภาคม 2563  ตามลำดับดังนี้ 

1. กรุงเทพมหานคร เริ่มจำหน่าย 5 พฤษภาคม 2563 

2. ปริมณฑล ได้แก่ นนทบุรี ปทุมธานี และสมุทรปราการ เริ่มจำหน่าย 12 พฤษภาคม 2563
3. ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคตะวันตก เริ่มจำหน่าย 20 พฤษภาคม 2563
4. ภาคเหนือ ภาคอีสาน และภาคใต้ เริ่มจำหน่าย 28 พฤษภาคม 2563

แต่ละภาคจะเปิดจำหน่ายตั้งแต่เวลา 8.00 น.เป็นต้นไป จนกว่าของจะหมด ตรวจสอบรายชื่อสถานีบริการน้ำมันบางจาก และวันเวลาที่จำหน่ายในแต่ละพื้นที่ได้จาก www.bangchakmarketplace.com หรือ call center 1651

ทั้งนี้ เพื่อความสะดวกและแบ่งปันได้ทั่วถึงกัน  ขอความร่วมมือจำกัดการซื้อคนละ 1 ขวด โดยไม่จำเป็นต้องเติมน้ำมัน ซื้อสินค้าหรือใช้บริการใดๆ   จุดจำหน่ายสินค้าอยู่บริเวณหน้าสำนักงานของสถานีบริการ และขอความร่วมมือเข้าแถวรอซื้อโดยเว้นระยะห่างกันอย่างน้อยคนละ 1 เมตร

🎀ข่าวที่ 5 “มูลนิธิปิดทองจัดความสมบูรณ์ที่สัมผัส3จังหวัดแดนใต้”

นายทัณฑวัต พุทธวงค์ หัวหน้างานพื้นที่ต้นแบบจังหวัดชายแดนใต้ มูลนิธิปิดทองหลังพระฯ กล่าวว่า ในช่วงสถานการณ์โควิด-19 หลายพื้นที่ขาดแคลนอาหาร แต่ที่ “บ้านโคกยามู ตำบลไพรวัณ อำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส” วันนี้มีตู้กับข้าวขนาดใหญ่ “บนแปลงเกษตรผสมผสาน 66 ไร่” ที่ชาวบ้านทำเป็นแหล่ง “ผลิตอาหาร” ที่ “ปลอดภัย” ไว้ให้คนในชุมชนได้มีกิน ได้แบ่งปัน และได้จำหน่ายให้หน่วยงานราชการในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนใต้อีกด้วย

เป็นผลมมาจากโครงการปิดทองหลังพระฯเข้ามาในพื้นที่บ้านโคกยามู มอบพื้นที่ทำการเกษตร 66 ไร่ ให้ชาวบ้านซึ่งไม่มีที่ทำกิน 1 หลังคาเรือน / 1 ไร่ พร้อมกับเข้ามามีส่วนช่วยในการให้ความรู้ แนะนำการทำการเกษตรแบบผสมผสาน ใช้พื้นที่เดียวกันให้ได้ประโยชน์สูงสุดและจะนำไปสู่การเป็นระบบการเกษตรแบบยั่งยืน

ตอนนี้ชาวบ้านเคยไม่มีที่ทำกินในกลุ่มสมาชิก กว่า 49 คน จึงมีพื้นที่เพาะปลูกเกษตรแบบผสมผสาน ทำให้สามารถเพาะปลูกพืชผักสวนครัวอาทิ  ข้าวโพดหวาน อ้อย กระเจี๊ยบเขียว และอื่น ๆ สามารถทั้งขายและมีผลผลิตบริโภคเองตลอดทั้งปี แม้ในยามวิกฤติสถานการณ์การแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 ก็ตาม

เช่นเดียวกับกลุ่มเกษตรกร 22 คน ในพื้นที่บ้านละโพ๊ะ ตำบลป่าไร่  อำเภอแม่ลาน จังหวัดปัตตานี ที่มี “แปลงเกษตร พื้นที่รวมกัน 4.5 ไร่” เป็นแหล่งผลิตอาหารปลอดภัย และการบริหารจัดการ แบ่งปันอาหาร ส่งเข้าโรงพยาบาลแม่ลาน ในยามที่คนไทยด้วยกันประสบปัญหาวิกฤติรุนแรงได้

วิถีชีวิตใหม่ของเกษตรกรชาวบ้านทั้งสองพื้นที่ มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น สะท้อนได้จากที่ผ่านมาพื้นที่แปลงเกษตรผสมผสาน  66 ไร่ สามารถลดรายจ่ายได้กว่า 17,245 บาท และสร้างรายได้กว่า 90,000 บาท จากการจำหน่ายผลผลิตในชุมชน ตลาดตากใบและในเมืองนราธิวาส

ทั้งนี้  “แปลงเกษตรผสมผสาน” คือหนึ่งในโครงการภายใต้ร่มใหญ่ของ “โครงการส่งเสริมเกษตรทฤษฎีใหม่” ที่อนาคตจะขยายผลโครงการแปลงเกษตรทฤษฎีใหม่ ออกไปอีกยังโซนโคกยามู จังหวัดนราธิวาส พื้นที่อีกว่า 90 ไร่  พร้อมส่งเสริมให้ใช้สารชีวภัณฑ์แทนสารเคมีเช่นเดียวกันกับโซนพรุกาบแดง อำเภอตากใบ  นราธิวาส

ช่วงที่ 2

🎀8 เทคนิคดี ๆ แฮปปี้ได้ทุกวันในช่วงที่ต้องสู้โควิด-19

เคล็ดลับ เทคนิคทางจิตวิทยา และกลไกของร่างกายทางวิทยาศาสตร์ที่ช่วยให้เรามีความสุขได้ ตามคำแนะนำของนักจิตวิทยา ทำได้ง่าย ๆ 8 เทคนิคช่วยทำให้คนเราแฮปปี้ได้ทุกวัน ดังนี้

เทคนิคที่ 1 เรียนรู้ที่จะพูดคำว่า “ขอบคุณ” - เมื่อเราขอบคุณใครสักคน หรือแม้กระทั่งขอบคุณโชคชะตาสำหรับบางสิ่ง จะทำให้เราโฟกัสในด้านบวกของชีวิตมากขึ้น ความทรงจำที่น่าพอใจนี้จะทำให้มีการผลิตเซโรโทนินในส่วนหน้าของเปลือกสมอง CINGULATE CORTEX โดยเทคนิคนี้ก็มักใช้สำหรับการรักษาภาวะซึมเศร้าด้วย

เทคนิคที่ 2 แก้ปัญหาทีละอย่าง - เมื่อเรากังวลเมื่อไร ก็ต้องตามมาด้วยการค้นหาคำตอบ สมองจึงทำงานหนักกินพลังงานจำนวนมาก ดังนั้นเมื่อใดก็ตามที่สมองเหนื่อยและปัญหายังไม่ได้รับการแก้ไข เราจะรู้สึกวิตกกังวลและไม่สบายใจ ในทางตรงกันข้ามเมื่อตัดสินใจที่ประสบความสำเร็จ สมองของเราจะให้รางวัลตัวเองด้วยสารส่งผ่านประสาท 

(NEUROTRANSMITTERS) ที่ช่วยให้ระบบลิมบิกสงบลง และช่วยให้เรากลับมามองโลกอย่างสดใสอีกครั้ง

เทคนิคที่ 3 อย่าเก็บปัญหาไว้คนเดียว เขียนระบายมันออกมา เทคนิคที่ 4 การสัมผัสและโอบกอด เทคนิคที่ 5 มาเริ่มต้นเรียนรู้สิ่งใหม่ๆอีกครั้ง เพราะร่างกายจะหลั่ง “ฮอร์โมนแห่งความสุข” หรือโดพามีน ออกมา

เทคนิคที่ 6 เล่นกีฬา - การออกกำลังกายไม่เพียงแต่ดีต่อสุขภาพ ยังส่งผลที่ยิ่งใหญ่ต่ออารมณ์ของเราด้วย สังเกตได้ว่าเราจะอารมณ์ดีขึ้นหลังได้ออกเหงื่อ นั่นเป็นเพราะรางวัลที่ได้จากการออกกำลังกาย คือสารเอ็นโดฟินส์ที่ถูกปล่อยออกมาจากต่อมใต้สมอง มีผลคล้ายกับยาที่ประกอบด้วยฝิ่น (เช่น มอร์ฟีน) ช่วยลดอาการปวดและทำให้อารมณ์ดีขึ้น แต่ก็อาจไม่ถึงขั้นต้องวิ่งมาราธอนเพื่อที่จะได้ผลนี้ แค่การเดินธรรมดา ๆ ก็ทำให้เกิดผลดี ๆ ได้แล้วล่ะ การันตีเคล็ดไม่ลับนี้จากนักเขียนและนักแต่งเพลงหลาย ๆ คน ก็บอกว่าการเดินเป็นส่วนสำคัญในกระบวนการความคิดสร้างสรรค์ของพวกเค้าอีกด้วย

เทคนิคที่ 7 นอนหลับให้เพียงพอ -ในขณะที่เรานอนหลับอยู่ในความมืดนั้นร่างกายของเราจะหลั่งฮอร์โมนเมลาโทนิน ฮอร์โมนนี้ทำให้ทุกระบบในร่างกายทำงานช้าลง ช่วยในการซ่อมแซมร่างกายและเพิ่มระดับของเซราโทนินในสมองส่วนไฮโปทาลามัส ซึ่งหากสมองตรวจพบการเปลี่ยนแปลงของแสงจะทำให้สมองปล่อยฮอร์โมนความเครียดเพื่อกระตุ้นร่างกายให้ตื่นอย่างรวดเร็ว ดังนั้น จึงเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องนอนหลับ 6-8 ชั่วโมงต่อวันและโดยเฉพาะในห้องที่มืดเพียงพอ

เทคนิคที่ 8 ความสุขจากการคาดหวัง - เคยมีความสุขกับการรออะไรสักอย่างที่ชอบ ต้องการ หรือน่าตื่นเต้นมั้ยคะ เช่น รอที่จะได้รับประทานอาหารอร่อยๆ นี่ก็เป็นอีกกระบวนการที่สมองของเราจะได้สัมผัสกับความสุขเมื่อเราคาดหวังสิ่งที่จะได้มาตอบแทน เป็นเหตุผลที่เราชอบนับเวลาแล้วตั้งตารอช่วงพิเศษบางอย่าง ไม่ว่าจะเป็นวันเกิดหรืองานแต่งงาน การพบปะกับเพื่อน

ข่าวท้ายชั่วโมง

🎀ข่าวแรก “คนร.กุมขมับกาง13พ.ร.บ.อุดช่องแผนฟื้นฟูบินไทย”

มีรายงานข่าวว่า ในการประชุมเพื่อหารือแผนฟื้นฟู การบินไทย ของ คณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (คนร.) ที่มีพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน เมื่อวันที่ 29 เมษายน 2563 มีรายงานว่า ทางฝ่ายกฎหมายของ สคร.ได้จัดทำตารางโดยนำพระราชบัญญํติมากถึง 13 ฉบับ มาตรวจสอบสถานะความเป็น “รัฐวิสาหกิจ” ของ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) พร้อมทั้งระบุในหมายเหตุว่า ยังไม่มีความชัดเจนเกี่ยวกับการตีความนิยม “รัฐวิสาหกิจ” ตาม พ.ร.บ.การร่วมทุน แต่อย่างใด จึงต้องรอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี วันที่ 5 พฤษภาคม 2563 ว่าจะพิจารณาแผนฟื้นฟูการบินไทยในมุมใดได้บ้าง

ในการตรวจสอบสถานะของการบินไทย จากพ.ร.บ.ทั้งหมด 13 ฉบับ ผลปรากฎว่า มีการติ๊ก “เครื่องหมายถูก” ถึงสถานะการเข้าเกณฑ์การรัฐวิสาหกิจ 5 ฉบับ ได้แก่ 1.พ.ร.บ.วิธีพิจารณางบประมาณ 2.พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลัง  3.พ.ร.บ.จัดซื้อจัดจ้าง 4.พ.ร.บ.การบริหารหนี้ 5.พ.ร.ป.ตรวจเงินแผ่นดิน

ส่วนที่เหลือเป็นการติ๊ก “เครื่องหมายผิดหรือไม่เข้าเกณฑ์” ตาม พ.ร.บ.อีก  ฉบับ ไม่ปรากฎได้แก่ 1.พ.ร.บ.พัฒนารัฐวิสาหกิจฯ 2.พ.ร.บ.สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ 3.พ.ร.บ.แรงงานรัฐวิสาหกิจ 4.พ.ร.บ.จัดตั้งศาลปกครอง 5.พ.ร.บ.ความรับผิดทางละเมิด 6.พ.ร.บ.การร่วมลงทุน 7.พ.ร.บ.คุณสมบัติ และ 8. ระบุ ไม่ปรากฎนิยามรัฐวิสาหกิจ พ.ร.ป.ป.ป.ช.

🎀ข่าวที่สอง “โรงแรมไทยระดมสัมมนาออนไลน์ฟรี7พ.ค.63”

สมาคมโรงแรมไทย รายงานว่า ได้ร่วมกับ อินฟอร์มา มาร์เก็ตส์ ผู้จัดงานฟู้ดแอนด์โฮเทล ไทยแลนด์ 2020 (Food&Hotel 2020) จัดงานสัมมนาออนไลน์ขึ้นในหัวข้อ  "สร้างกลยุทธ์ เตรียมพร้อมการฟื้นตัว หลังผ่านพ้นวิกฤตการณ์โควิด-19" ในวันอังคารที่ 7 พฤษภาคม 2563 เวลา 14.00-15.30 น. โดยจะเปิดสัมมนาฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย เพื่อให้ข้อมูลของสถานการณ์การท่องเที่ยว สถิติและแนวโน้มต่างๆ ที่จะเกิดขึ้น ซึ่งจะช่วยให้ผู้ประกอบการและผู้ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจโรงแรม ร้านอาหาร รวมถึงผู้สนใจได้รับข้อมูลเพื่อนำไปใช้ในการเตรียมความพร้อมและวางกลยุทธ์สำหรับธุรกิจที่กำลังจะฟื้นตัวจากวิกฤตโควิด-19 อย่างรวดเร็ว
สามารถสมัครได้ที่  https://bit.ly/2ycDcIp  หรือสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ putthaporn.p@informa.com

โดยจะมีวิทยากรผู้เชี่ยวชาญในแวดวงธุรกิจบริการมาร่วมให้ความรู้ในประเด็นต่างๆ ประกอบด้วย
นายนพดล ภาคพรต รองผู้ว่าการด้านตลาดในประเทศ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย พูดในหัวข้อ เจาะลึกเทรนด์และแผนการตลาดนักท่องเที่ยวไทย

ฉัตรสุดา เลิศพิริยกมล Area Manager Partner Services Thailand, Booking.com พูดในหัวข้อ เจาะลึกเทรนด์และแผนการตลาดนักท่องเที่ยวชาวเอเชีย เน้นช่องทางการขายผ่าน OTAs

วาสนา สวัสดิ์วงษ์ Direct Channel Specialist, Roiback พูดในหัวข้อ "ทำอย่างไรให้ช่องทางการขายธุรกิจท่องเที่ยวออนไลน์ประสบความสำเร็จ"

ปุณยนุช ธรรมศิริ ผู้จัดการประจำประเทศไทย, RateGain พูดในหัวข้อ กลยุทธ์ราคาและช่องทางการขายพิชิตวิกฤติ"

🎀ข่าวที่สาม “วี วิลล่าหัวหินจัดโปรแรงขายโวเชอร์พูลวิลล่า1-20พ.ค.นี้”

โรงแรม วี วิลล่า หัวหิน ขายโวเชอร์โปรโมชั่นระหว่างวันที่ 1 - 20 พฤษภาคม 2563 เพื่อเก็บไว้เข้าพักได้นานถึง 30 มีนาคม 2564 ราคาแพคเกจห้องพักเริ่มต้นเพียง 16,900 บาท สุทธิ กับ พูลวิลล่าสุดเอ็กซ์คลูซีฟ “Beach is Calling” ห้องพักแบบพูลวิลล่าสุดหรู ในราคาสุดพิเศษรวมอาหารเช้าริมสระว่ายน้ําแบบอินฟินิตี้ หาดทรายสวยงาม พร้อมวิวทะเลหัวหิน และพลาดไม่ได้เลยกับการจิบชายามบ่ายแบบผู้ดีอังกฤษ V Floating Afternoon Tea ชุดจิบน้ำชายามบ่ายแบบลอยน้ำ ที่แรกและที่เดียวในหัวหินที่ไม่เหมือนใคร ให้คุณได้ซื้อวอชเชอร์เก็บไว้ หรือจะให้เป็นของขวัญในโอกาสพิเศษ

นักท่องเที่ยวจะได้พักผ่อนอย่างสุดหรูในที่พักตากอากาศสไตล์พาลาซโซ่ ที่ได้รับรางวัลรับรองระดับห้าดาวทั้งในประเทศ และ ต่างประเทศ พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันให้คุณเลือกวิลล่าแบบ 1, 2 และ แบบ 3 ห้องนอน เน้นความเป็นส่วนตัว สะดวกสบาย แต่ละวิลล่ามีพื้นที่กว้างขวางขนาดเริ่มต้นที่ 260 - 1,111 ตร.ม ห้องนอนออกแบบให้มีขนาดใหญ่พิเศษ มีเมนูหมอนให้เลือกตามชอบ ห้องน้ำแบบสวีทพร้อมทวินจากุชซี่ส่วนตัวและผลิตภัณฑ์จากแบรนด์ชั้นนำอย่าง Hermès ห้องนั่งเล่นเปิดโล่งโอ่โถงพร้อมระบบเสียงแบบโฮม เธียร์เตอร์ จาก Bose สระว่ายน้ำส่วนตัวภายในวิลล่ายาวเกือบ 10 เมตร มี Portier Smartphone สำหรับผู้เข้าพักได้ใช้ตามอัธยาศัยพร้อม Wi-Fi อินเตอร์เนททั่วทั้งรีสอร์ท พร้อมบริการบัทเลอร์ส่วนตัว 24 ชั่วโมง

สอบถามหรือสำรองแพคเกจได้ที่ 02 309 3939 อีเมล์ reservation@vvillashuahin.com และ www.facebook.com/vvillashuahin

ติดตามฟังรายการได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 11.00-12.00 น.ทาง สวท.FM 97.0 MHz.