ททท.อัพเดทตลาดจีน3เมืองใหญ่“เฉินตู-ฉงชิ่ง-ซีอาน”ปี’65 ธุรกิจไทยปรับด่วน5เรื่องรับจีนเทรนด์ใหม่ไฮเอนด์-รักษ์โลก
ททท.อัพเดทตลาดจีน3เมืองใหญ่“เฉินตู-ฉงชิ่ง-ซีอาน”ปี’65
ธุรกิจไทยปรับด่วน5เรื่องรับจีนเทรนด์ใหม่ไฮเอนด์-รักษ์โลก
12ธ.ค.นี้ช้อปคิงเพาเวอร์ออนไลน์12.12YearEndSaleลด70%
ช้อปสนั่นงานคราฟ์พรีเมี่ยมไทยงานคิงเพาเวอร์เช็คอินที่ภูเก็ต
หรอยแรงสตรีทฟู้ดรสจัดจ้านแดนใต้ที่ไทยเทสต์ฮับแอทภูเก็ต
ททท.ยันเที่ยวไทยวันหยุดยาว10-12ธ.ค.เงินสะพัด5.7พันล้าน
“บางจาก”ผนึกSCGเคมิคอลส์ลุยโปรเจ็กต์รักษ์ปันสุขจูเนียร์
เที่ยวกาญจน์ปีนเขาช้างเผือกทองผาภูมิ-พายซับสังขละบุรี
ระวัง!!กิน“อาหารแปรรูป”ต้องให้พอดีจึงปลอดภัยต่อสุขภาพ
“บินไทย”กลับมาเปิดรอยัลเลาจน์เทรนด์กรีนชั้น3สุวรรณภูมิ
3โลว์คอสต์ชิงขายโปรตั๋วบินทั่วไทยไลออนแอร์เทแรง499บาท
วันเสาร์ที่ 11 ธันวาคม 2564 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์”
เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน”
ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทางfacebookLiveFM97.0
และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen บล็อกเกอร์
#gurutourza #รวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97 #เพ็ญรุ่งใยสามเสน
#เที่ยวกับกู๋ #ทททเฉินตู
#TAT #KingPower #1212YearEndSale #ทัวร์จีนเทรนด์ใหม่
ฟัง Live สดจากลิงค์นี้ https://fb.watch/9PUZYHN2T9/
ช่วงที่ 1 เจาะลึกตลาดจีนกับ “กนกกิตติกา กฤตย์วุฒิกร ผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)
สำนักงานเฉินตู ชี้เป้า 3
เมืองใหญ่ “เฉินตู-ฉงชิ่ง-ซีอาน” รอเที่ยวไทย “กลุ่มนักเรียนมหาลัย” ทยอยมาแล้ว
ทางด้านเศรษฐียอมจ่ายตั๋วใบละเฉียดสองแสนบินเข้าไทย จับตา“พฤติกรรมทัวร์จีน”
หลังโควิด-19 แนะผู้ประกอบการไทยเร่งปรับด่วนรอรับจีนเทรนด์ใหม่
5 เรื่องใหญ่
“โรงแรมไฮเอนด์-กิจกรรมเที่ยวเทรนด์รักษ์โลก-เที่ยวเชิงอาหารgastronomy-ทัวร์วัฒนธรรมชุมชน-โปรแกรมดูแลสุขภาพ-เที่ยวทะเล”
ทุกวันนี้ชื่อเสียงเมืองไทยยังครองท็อปทรีในจีน
นางกนกกิตติกา กฤตย์วุฒิกร ผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
(ททท.) สำนักงานเฉินตู
ดูแลพื้นที่การตลาดในสาธารณรัฐประชาชนจีนทางด้านตะวันตก 3 เมืองหลัก ได้แก่ เมืองเฉินตู มหานครฉงชิ่ง
เมืองซีอาน มณฑลส่านซี
นอกจากนั้นก็ยังมีมณฑลกานซู่ ชิงไห่ ทิเบต ซินเจียง
ขณะนี้นโยบายของรัฐบาลจีนยังไม่ได้เปิดให้ชาวจีนเดินทางต่างประเทศ
แต่ก็ยังมีกลุ่มที่มีความจำเป็นสามารถเดินทางออกต่างประเทศได้ เช่น นักเรียน
นักศึกษา
ภารกิจของ ททท.เฉินตู ช่วงตลอด 2 ปีที่ผ่านมาระหว่างเกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้พยายามเจาะเข้าหากลุ่มที่สามารถเดินทางได้จริง ช่วงเปิดเดินทางได้บ้างได้จับมือกับทางโรงแรมในเมืองไทย และตัวแทนจำหน่าย จัดทำโครงการขายล่วงหน้าไปก่อนหรือ Pre-Sale ทางออนไลน์ เริ่มขายตั้งแต่พฤศจิกายน 2563 จนถึงขณะนี้ผ่านไปแล้วปีครึ่ง สถานการณ์โควิด-19 ยังไม่นิ่ง ส่งผลให้การเดินทางยังไม่สะดวกเท่าที่ควร จึงทำให้ผู้ซื้อขอคืนและขอเปลี่ยนไปเดินทางเที่ยวในประเทศจีนเองบ้าง หรือขอยืดเวลาบ้าง
ททท.เฉินตู
จึงต้องปรับกลยุทธ์ใหม่ “มองหาที่สามารถเดินทางไปใช้จ่ายเงินในไทยได้จริง” ก็จะมีกลุ่มหลัก ๆ ได้แก่ 1.นักธุรกิจที่จำเป็นจะต้องเข้ามาสานต่อการลงทุน 2.กลุ่มคนทำงาน 3.กลุ่มผู้ที่จะต้องเข้ามารักษาพยาบาล 4.กลุ่มนักเรียน นักศึกษา ในพื้นที่แถบนี้จะมีโครงการแลกเปลี่ยนระหว่าง
โรงเรียน มหาวิทยาลัยในจีนกับไทย เช่น มหาวิทยาลัยรังสิต มหาวิทยาชัยเชียงใหม่
มหาวิทยาลัยขอนแก่น และอีกหลายมหาวิทยาลัย รวมทั้งแพทย์ต่าง ๆ จะเรียนที่จีน 1 ปี แล้วเข้ามาอยู่ไทย 3 ปี
ซึ่งจะไม่เฉพาะนักเรียนเท่านั้นจะมีพ่อแม่เดินทางไปด้วยเพื่อใช้จ่ายเงินในไทย
ช่วงเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ 2565 จะมีนักศึกษาจึนเดินทางเข้าไทย
ถึงแม้การเดินทางจะเริ่มผ่อนคลายลงบ้างแล้ว
ก็ต้องทำเอกสารแจ้งล่วงหน้า เพื่อประสานงานกับทางกงศุลใหญ่ของไทยประจำเฉินตู
เพื่อตรวจเอกสารล่วงสาร การลงทะเบียนล่วงหน้าตอนนี้อาจจะมีจำนวนยังไม่ถึง 100 คน แต่ปกติจะมีประมาณ 300-500 คน เหตุผลที่จำนวนยังน้อยเพราะสถานการณ์โควิด-19
ไม่แน่นอน พอเกิดสายพันธุ์ใหม่ คนก็เริ่มชะลอเลื่อนเดินทาง
รวมทั้งมีกลุ่มรักษาพยาบาล กำลังเตรียมเดินทางจากจีนเข้าไทยด้วยเช่นกัน ททท.เฉินตู ทำงานใกล้ชิดกับทาง BEMS ดูแลตลาดกลุ่มป้องกันรักษาสุขภาพองค์รวม Health & Wellness
“รูปแบบการเดินทางของจีน”
ที่เข้าเมืองไทย จะบินด้วยสายการบินหลักคือ “เฉินตูแอร์ไลน์” จากเมืองเฉินตู มหานครฉงชิ่ง แวะพักที่ สิงคโปร์ ก่อน
จะเข้ามายัง “สนามบินภูเก็ต” ช่วงเกิดการระบาดของโควิดและด้วยข้อจำกัดทางรัฐบาลจีนมีมาตรการควบคุมการแพร่ระบาด
จึงอนุญาตให้สายการบินระหว่างประเทศได้เพียง เดือนละ 1 ครั้ง จากเดิมตอนเปิดภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์ ช่วง 1
สิงหาคม 2564 จะมีเที่ยวบิน 1 เที่ยว/สัปดาห์ ตอนนั้นมีจีนเดินทางเข้าภูเก็ตพอสมควร
นอกจากนั้นก็ยังมีสมาชิกบัตรที่สนใจซื้อ “อีลิตการ์ดของไทย” ตอกย้ำถึงกลุ่มที่มีศักยภาพเดินทางได้ สภาพของชีวิตความเป็นอยู่ของจีนแถบพื้นที่ตะวันตก รัฐบาลได้เร่งพัฒนาให้เทียบชั้นทางเซี่ยงไฮ้ ปักกิ่ง ดูได้จากอัตราการเติบโตของผลิตภัณฑ์รายได้มวลรวมภายในมณฑลสูงติดอันดับ และคนพร้อมใช้จ่ายเงิน โดยเฉพาะไทยยังคงเป็นประเทศที่ติดอันดับครองใจนักท่องเที่ยวจีนหรือ Top of Mind ประมวลจากรายการผลสำรวจเซนติเมนต์ของคนจีนแถบนี้ให้ไทยอยู่ในอันดับต้น ๆ ในเมืองยอดนิยมอย่าง กรุงเทพฯ ภูเก็ต เชียงใหม่
แต่อาจจะต่างจากสถานการณ์ช่วงก่อนโควิด-19 นักท่องเที่ยวจีนเดินทางเข้าไทยเป็นจำนวนมาก โดยมีเที่ยวบินตรงจากเมืองต้นทางเข้าไปยัง กรุงเทพฯ ภูเก็ต กระบี่ สมุย สุราษฎร์ธานี เชียงใหม่ ปีละเกือบ 1.8-2 ล้านคน แต่พอเกิดโควิดพฤติกรรมของนักท่องเที่ยวเปลี่ยนไป กลุ่มที่จะเดินทางต้องเป็น 1.มีเงินจริง 2.เป็นกลุ่มนักเดินทางที่มีอยู่จริง ในเฉินตูมีคนนิยมใช้รถซูเปอร์คาร์ทำยอดขายได้ดีมาก เฉพาะยี่ห้อโรลรอยซ์อย่างเดียวมีใช้อยู่บนท้องถนนกันมากถึง 600 คัน
ททท.เฉินตู
พยายามหาพันธมิตรใหม่เพิ่มขึ้นจากปัจจุบันก็มีอยู่แล้วทั้ง ตัวแทนบริษัทผู้ค้าส่ง
ค้าปลีก รายการนำเที่ยว พอช่วงโควิด-19 ส่งผลให้ทัวร์ขายไม่ได้ แล้วรัฐบาลห้ามขายในช่วงนี้ กลยุทธ์ที่ ททท.ต้องทำจึงใช้วิธีขายแยก
คือ ขายห้องพักโรงแรมจะเน้นที่พักแบบหรูหรา ตั๋วเครื่องบิน เข้ากรุงเทพฯ ตอนนี้ “ราคาตั๋วเครื่องบินสูงมาก”
เที่ยวเดียวกลับเข้ามาเฉินตู เที่ยวละประมาณ 30,000-40,000 หยวน
(150,000-200,000 บาท)
แต่ก็มีบางครั้งมีเที่ยวบินเช่าเหมาลำซึ่งราคาอาจจะถูกกว่า
ผอ.กนกกิตติกากล่าวว่า
คำถามที่ตอบยากตอนนี้ช่วงใดในปี 2565 รัฐบาลจีนจึงจะเริ่มมีนโยบายให้ประชาชนเดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศได้ตามปกติ
เพราะต้องขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยไม่ว่าจะเป็น ทั้งเรื่องเชื้อไวรัสมีกลายพันธุ์
แล้ววัคซีนยังต้องปรับตามเชื้อที่แพร่ระบาด
หากเป็นในเฉินตูตอนนี้ประชาชนฉีดวัคซีนป้องกันโควิดไปแล้วเกินกว่า 70 % ตอนนี้ ททท.เฉินตูได้ติดตามสถานการณ์ต่อเนื่องใกล้ชิด
ซึ่งตอนนี้มีเมืองใหญ่บางเมืองเริ่มฉีดเข็ม 3 ให้ประชาชนแล้ว
โดยนโยบายของผู้เชี่ยวชาญควบคุมโรคออกประกาศอยู่เรื่อย ๆ ทำให้โควิดเป็นศูนย์
เพราะหากเกิดการติดเชื้อขึ้นมา แล้วต้องรักษาค่าใช้จ่ายจะสูงกว่าการป้องกัน
ต้องยอมรับว่าระบบการตรวจในจีนดีมาก
เช่น เมื่อสัปดาห์ทีผ่านมามีคนติดในอพาร์ทเมนท์ แล้วมีไทม์ไลน์ไปไหนมาบ้าง
ไปสถานที่ใดมาบ้าง จะสั่งตรวจทุกคนที่ไปตามสถานที่นั้น ๆ อย่างละเอียดทุกแห่ง
รวมทั้งทุกคนที่อยู่ในเมืองนี้จะต้องโหลด Health Code ไว้ให้โทรศัพท์มือถือเพื่อแสดงทุกครั้งทุกสถานที่ที่เข้าไปใช้บริการจะต้องแสดงผลเป็น
“สีเขียว” เท่านั้นทั้งที่ทำงาน ร้านอาหาร ที่พัก และทุก ๆ ที่
เพราะฉนั้นการควบคุมป้องกันอยู่ในมาตรการที่ดีมาก
ผอ.กนกกิตติกากล่าวว่า ปัจจุบันประชาชนในมณฑลเฉสวนเดินทางเที่ยวในประเทศ นิยมไปเมืองซันย่า ไห่หนาน ซึ่งค่าใช้จ่ายสูงมาก ๆ คนส่วนใหญ่จะอั้นกันมาก รอมาเที่ยวเมืองไทย ตอนนี้ก็มีโครงการสร้างนักโอกาสหาตลาดใหม่ ๆ จากจีน โดยเชิญชวนชาวจีนโพ้นทะเลที่พำนักอยู่ต่างประเทศ เดินทางกลับมาแวะไทยแล้วถึงจะเข้ามายังจีน ซึ่งมีกลุ่มตลาดเหล่านี้อยู่บ้าง ในช่วงที่ประเทศไทยนำร่องทำโครงการ “ภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์” กับ “สมุย พลัส โมเดล” เมื่อนักท่องเที่ยวแวะพักในไทยก็ต้องอยู่ตามกำหนดอย่างน้อยถึง 7 วันขึ้นไป หรือบางคนพักอยู่ถึง 10 วัน สามารถเพิ่มรายได้ให้ผู้ประกอบการท่องเที่ยวในไทยได้พอสมควร
ตอนนี้จึงอยากจะบอก
“ผู้ประกอบการท่องเที่ยวไทย” ให้เตรียมความพร้อมต้อนรับ “นักท่องเที่ยวจีน”
ที่จะเดินทางกลับมาเที่ยวเมืองไทย การเปลี่ยนแปลงที่เห็นอย่างชัดเจนคือ “พฤติกรรม”
นักท่องเที่ยวจีนยุคใหม่หันมารณรงค์ส่งเสริมการท่องเที่ยวใส่ใจสิ่งแวดล้อมมากขึ้น
ดังนั้นการออกแบบ “กิจกรรม” และ “สินค้าท่องเที่ยวไทย”
ยังคงมีเสน่ห์ดึงดูดใจตลาดจีน ซึ่งหันมาเน้นสิ่งแวดล้อมมากขึ้น
ตลาดสำคัญคือ
“กลุ่มนักท่องเที่ยวคุณภาพ” มีกำลังซื้อสูงมาก ฉนั้นการเตรียมตัวต้อนรับตลาดนักท่องเที่ยวจีนในอนาคต
เบื้องต้น ต้องปรับกลยุทธ์รอรับตลาดจีน 5 เรื่องหลัก คือ
1.ผู้ประกอบการ “โรงแรมไฮเอนด์” จะเป็นกลุ่มแรก ๆ
ที่ได้ประโยชน์โดยตรงอย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย
2. “โปรแกรมท่องเที่ยว” ที่จะได้รับความนิยมมากขึ้นคือ “การท่องเที่ยวเชิงอาหาร
หรือ gastronomy”
โดยมีสตอรี่เล่าเรื่องราวมากมายกว่าจะมาเป็นเมนูอาหารในแต่ละจาน
ลักษณะแบบนี้จะเป็นแม่เหล็กดึงดูดนักท่องเที่ยวได้มากกว่าปกติ
3.การท่องเที่ยววิถีวัฒนธรรมตามชุมชน ถึงแม้ในสาธารณรัฐประชาชนจีนจะวัฒนธรรมท้องถิ่นเพื่อการท่องเที่ยวอย่างโดดเด่น แต่นักท่องเที่ยวก็ยังชื่นชอบจะเที่ยววัฒนธรรมชุมชนท้องถิ่นในเมืองไทย ซึ่งมีทั้งความคล้าย ความเหมือน และความแตกต่าง เช่น การมัดย้อมผ้า จักรสานไม้ไผ่ คล้ายทางจังหวัดสระแก้ว ฉะเชิงเทรา จากการสอบถามชาวจีนจะยืนยันตรงกันว่าของไทยจะต่างจากจีน
4.สินค้ายอดนิยมคือ โปรแกรมการดูแลสุขภาพองค์กร Wellness and Spa ที่ผู้คนยังโหยหาการดูแลสุขภาพอย่างมาก
5.การท่องเที่ยวทะเล ฮ็อตฮิตติดเทรนด์ครองใจนักท่องเที่ยวจีน ทั้งภูเก็ต
สมุย พังงา กระบี่ พัทยา เดิมมีเที่ยวบินตรงจำนวนมาก
โดยเฉพาะผลไม้ไทยที่ยังคงครองยอดขายดีมาก ๆ คือ “ทุเรียน”
แต่รสชาติที่ส่งมาขายอยู่ในจีนตอนนี้จะแตกต่างกับการเดินทางไปกินในสวนผลไม้
จันทบุรี ระยอง ตราด หรือแม้แต่ “น้ำมะพร้าวอ่อน”
ลองไปสั่งตามร้านอาหารในจีนรสชาติก็ไม่ใช่ต้นตำรับเหมือนเมืองไทย
ซึ่งไม่รู้เหมือนกันว่าเกิดอะไรขึ้น รสชาติต่างจากในไทยมากจริง
ดังนั้น ททท.จึงพยายามนำเสนอ “เอกลักษณ์ อัตลักษณ์ แท้ของความเป็นไทย” ให้ได้มากที่สุด ตอนนี้มีชาวจีนเดินทางไปเที่ยว “สิบสองปันนา” จะมีวิถีชุมชน จัดกิจกรรม การเลี้ยงช้าง อาบน้ำช้าง แต่ถึงอย่างไรก็ยังมีความต่างจากวิถีชุมชนช้างในเมืองไทย หรือแม้แต่ใน “เฉินตู” มีกิจกรรมไทยวัลเลย์ นำเอกลักษณ์ไทยมาบริการโดยได้แรงบันดาลใจมาจากโรงแรม “โฟว์ ซีซัน เชียงราย” หากประมวลอารมณ์การเที่ยวแล้วก็อาจจะเป็นภาพที่ทำให้คนนึกถึงประเทศไทย
ททท.จึงต้องพยายามให้ความรู้อย่างถูกต้องถึงรสชาติของอาหารไทยแท้
ๆ จะต้องเป็นมีอัตลักษณ์เฉพาะ ตอนนี้พอพูดถึงเมืองไทยผ่านช่องทางที่
ททท.เผยแพร่ประชาสัมพันธ์ เข้าถึงชาวจีนในพื้นที่
ส่วนใหญ่จะแสดงความชื่นชอบออกมาให้เห็นเลย แล้วไทยก็ติด 1 ใน 3 Top Three บ่อยมาก
ที่จีนจะใช้การแชร์ผ่าน We Chat to See ที่เป็นหัวข้อพูดคุยกัน
และทาง เว่ยโบ๋ ททท.ก็ใส่ข้อมูลเข้าไปในออนไลน์ด้วย พยายามความสนใจในตลาด
แต่ละช่วงสัปดาห์สนใจหัวข้อเรื่องอะไรบ้าง
แล้วก็จัดหาข้อมูลใส่เข้าไปเป็นบทความท่องเที่ยวเมืองไทย รวมทั้งสินค้าไทยชนิดต่าง
ๆ หรือแม้แต่ตอนนี้มีกิจกรรมหรือเกมต่าง ๆ ชาวจีนก็สนใจเข้าร่วมทุกครั้ง
ทุกเรื่องราวการแสดงออกและการเข้ามามีส่วนร่วมของประชากรจีนตอกย้ำถึงความคิดถึง
ความสนใจ ที่รอเวลาเปิดให้เดินทางมาท่องเที่ยวเมืองไทย
ฟังข่าวต้นชั่วโมง
ข่าวที่ 1 -12ธ.ค.นี้มีนัดช้อปคิงเพาเวอร์ออนไลน์12.12YearEndSaleลด70%
“คิง เพาเวอร์ ออนไลน์” ขอส่งความสุขแบบไม่มีขีดจำกัด กับโปรโมชั่นส่งท้ายปี 2564 ในแคมเปญพิเศษ KING POWER CELEBRATION 2022 A NEW JOURNEY BEGINS WITH A SMILE LIVE A LIFE BEYOND BOUNDARIES “12.12 YEAR-END SALE” ช้อปยาว ๆ แบบพิเศษสุดตั้งแต่วันที่ 8-24 ธันวาคม 2564
รับ 4 ดีลพิเศษ พร้อมแจกตลอดแคมเปญ 600 โค้ดพิเศษ และพลาดไม่ได้กับช่วง POWER DEAL วันที่ 12 เดือน 12 วันที่ 12 ธันวาคม 2564 วันเดียว เท่านั้น คิง เพาเวอร์ ออนไลน์ ทาง www.kingpower.com จัดเต็มส่วนลดสินค้าจุใจลดสูงสุดถึง 70% ช้อปได้อย่างปลอดภัย
เข้ามาเปิดประสบการณ์ช้อปออนไลน์กับ
คิง เพาเวอร์ แบบไม่ต้องมีไฟลต์บิน แม้จะอยู่บ้านก็สนุกกับการช้อปสินค้าราคาดิวตี้ฟรี
ได้ตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมบริการ Home Delivery จัดส่งฟรีถึงบ้านทั่วประเทศ
เมื่อช้อปขั้นต่ำ 699 บาท ทางเว็บไซต์ www.kingpower.com และ
Kingpower Application
ข่าวที่ 2 ช้อปสนั่นงานคราฟ์พรีเมี่ยมไทยงานคิงเพาเวอร์เช็คอินที่ภูเก็ต
คิง เพาเวอร์ ชวนช้อปงานคราฟต์สินค้าภูมิปัญญาไทย คุณภาพระดับพรีเมียมที่คัดสรรมาเพื่อคุณโดยเฉพาะ จะช้อปเป็นของขวัญของฝาก หรือของที่ระลึกดีต่อใจผู้ให้ ถูกใจผู้รับ พบกันที่งาน “King Power Holiday Check-In! เช็กอินความสุข ช้อปสนั่น กินสนุก รับวันหยุดยาว วันนี้ - 12 ธันวาคม 2564 ตั้งแต่เวลา 10.00 - 21.00 น. ที่ คิง เพาเวอร์ ภูเก็ต
รวมทั้งห้ามพลาด !!ช้อปอิ่มฟรี**
ที่ THAI TASTE HUB
@PHUKET 6-12 ธันวาคม 2564 ที่ คิง เพาเวอร์ ภูเก็ต
1.รับคูปองทานอาหาร 300 บาท เมื่อมียอดช้อป 5,000 บาทขึ้นไป(สุทธิ)/ใบเสร็จ หรือ
2.รับคูปองทานอาหาร 300 บาท × 2 ใบ เมื่อมียอดช้อป 10,000 บาทขึ้นไป(สุทธิ)/ใบเสร็จ
มีเงื่อนไข เรื่องจำกัดการรับคูปองทานอาหารเฉพาะยอดซื้อของใบเสร็จใบแรกเท่านั้น
โดยสามารถเลือกรับสิทธิ์ได้เพียง 1
Tier Spending เท่านั้น สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ King Power Contact Centre 1631
ข่าวที่ 3 หรอยแรงสตรีทฟู้ดรสจัดจ้านแดนใต้ที่ไทยเทสต์ฮับแอทภูเก็ต
“หรอยแรงกับสตรีตฟู้ดเจ้าดังภูเก็ต-พังงา ที่ THAI TASTE HUB @ PHUKET” รวมสตรีตฟู้ดรวมมาไว้ที่เดียวในภูเก็ต เมื่อมาถึงไม่กินไม่ได้แล้ว แถมไม่ต้องตระเวนไปทั่วเมืองให้เหนื่อย ไม่ต้องรอคิวนาน มางานเดียว “KING POWER HOLIDAY CHECK-IN” เช็กอินความสุข ช้อปสนั่น กินสนุก รับวันหยุดยาว! ที่ คิง เพาเวอร์ ภูเก็ต วันนี้ - 12 ธันวาคม นี้เท่านั้น
พบกับมหกรรมจัดเต็มเมนูความจัดจ้านแห่งรสชาติอันเป็นเสน่ห์อาหารใต้
เอกลักษณ์ที่ยากจะหาใครเหมือน ทั้งเมนูพื้นเมืองรสจัดแบบเรียกเหงื่อ
หรือลูกผสมพื้นเมืองกับความเป็นจีนรากเหง้าเก่าแก่ จากร้านระดับตำนานอย่าง เมนูหมี่สะปำคุณยายเจียร
บะหมี่ตลาดขวางพังงา ขนมจีนจี้ลิ่ว คุณทิพย์หมูสะเต๊ะเมืองพังงา โลบะบางเหนียว
สูตรดั้งเดิม ฮกกี่เหลา ก๋วยเตี๋ยวหลอดปู เลือกได้เลยที่ไทย เทสต์ ฮับ แอท ภูเก็ต
รวมทั้งเมนูสตรีตฟู้ดดังไม่ควรพลาดกว่า
20 ร้าน จากกรุงเทพฯ และภาคใต้ ได้แก่ ผัดไทยไฟทะลุ ธีรชัยไก่ย่าง ก๋วยเตี๋ยวเรือแม่มาลี กะเพราหม่อมแม่ Mayrai by ChefTon ป้าณีลูกชิ้นยืนกินบุรีรัมย์ เอี๊ยงออเฮ่าชือ หมี่สะปำคุณยายเจียร
โกเบนซ์ข้าวต้มแห้ง ฮกกี่เหลา
บะหมี่ตลาดขวางพังงา ขนมจีนจี้ลิ่ว คุณทิพย์หมูสะเต๊ะเมืองพังงา และโลบะบางเหนียว สูตรดั้งเดิม
ข่าวที่ 4 ททท.ยันเที่ยวไทยวันหยุดยาว10-12ธ.ค.เงินสะพัด5.7พันล้าน
ดร.ยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ประเมินสถานการณ์ท่องเที่ยวภายในประเทศช่วงวันหยุดยาวสัปดาห์นี้ ระหว่างวันที่ 10-12 ธันวาคม 2564 การท่องเที่ยวในประเทศจะคึกคักมีการเดินทาง 1.84 ล้านคน-ครั้ง ใช้จ่ายเงินกระจายตามพื้นที่ต่าง ๆ ทั่วประเทศรวม 5,720 ล้านบาท อัตราการเข้าพักเฉลี่ย 40 % เนื่องจากเข้าสู่ฤดูหนาว บวกกับมาตรการผ่อนคลาย พร้อมทั้งมีโครงการ “เราเที่ยวด้วยกัน เฟส 3” ช่วยให้การฟื้นฟูเศรษฐกิจดีขึ้นตามลำดับ
อีกทั้งผู้ประกอบการโรงแรม ร้านอาหาร ร้านของที่ระลึก และอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการเดินทางท่องเที่ยวพร้อมใจกันจัดทำโปรโมชั่นกระตุ้นความสนใจให้คนออกมาเที่ยวมากขึ้น และความตื่นตัวของธุรกิจ 10 ประเภท สมัครรับตรามาตรฐานสัญลักษณ์ SHA ความปลอดภัยด้านสุขอนามัย ทั้งกลุ่มผู้จัดกิจกรรม เช่น งานเทศกาลดนตรี ศิลปะ ธุรกิจขนส่ง ร้านอาหาร โรงแรม ที่พัก ต่างก็หันมาให้ความสำคัญกันมากขึ้น สร้างความมั่นใจแก่นักท่องเที่ยวทุกคน
สำหรับ
“แหล่งท่องเที่ยวยอดนิยม” ยังคงกระจุกตัวอยู่ในเมืองท่องเที่ยวหลัก เช่น ชลบุรี เชียงใหม่ นครราชสีมา ขอนแก่น
ส่วนเมืองรองมีบ้างในภาคเหนือ และตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งมีอากาศหนาวเย็น
อย่างอุดรธานี หนองคาย นครพนม เลย มุกดาหาร
ข่าวที่
5 “บางจาก”ผนึกSCGเคมิคอลส์ลุยโปรเจ็กต์รักษ์ปันสุขจูเนียร์
นางกลอยตา
ณ ถลาง ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานบริหารความยั่งยืนและสื่อสารองค์กร
บริษัท บางจากฯ กล่าวว่า โครงการ “รักษ์ ปัน สุข จูเนียร์”
เป็นการขยายผลความร่วมมือจากโครงการ “รักษ์ ปัน สุข” โดยบางจากฯ กับเอสซีจี
เคมิคอลส์ ร่วมมือกันทำมากว่า 2 ปี
โดยรวบรวมแกลลอนน้ำมันหล่อลื่นใช้แล้วมาผลิตใหม่และรวบรวมขวดน้ำบริโภคแล้วจากผู้บริโภคผ่านปั๊มบางจากฯ
ไปผลิตเป็นผลิตภัณฑ์อื่นโดยผ่านกระบวนการรีไซเคิล
ทางบางจากและมูลนิธิใบไม้ปันสุข องค์กรเพื่อสาธารณกุศลของบางจากฯ จัดทำขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์สนับสนุนกิจกรรมด้านการศึกษาและสิ่งแวดล้อมของเยาวชน
มุ่งหวังจะต่อยอดแนวปฏิบัติด้านเศรษฐกิจหมุนเวียนไปสู่เยาวชนให้มากขึ้น ด้วยการดูแลสิ่งแวดล้อมครบทุกบริบทของการจัดการขยะในโรงเรียน ส่งเสริมให้เยาวชนไทยใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า
มีความรู้รอบในการจัดการขยะใกล้ตัว
อีกทั้งยังสอดคล้องกับตัวชี้วัดการด้านการสร้างชุมชน
และสิ่งแวดล้อมยั่งยืน ภายใต้เป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนของสหประชาชาติ (SDGs:
Sustainable Development Goals) ช่วยสร้างประโยชน์ให้ชุมชนมีสิ่งแวดล้อมที่ดี
มีรายได้เพิ่มจากมูลค่าของของเสียที่ถูกจัดการ รวมทั้งมีคุณภาพชีวิตที่ดีอีกด้วย
นายศักดิ์ชัย
ปฏิภาณปรีชาวุฒิ ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ เอสซีจี เคมิคอลส์ กล่าวว่า
ได้ร่วมกันขับเคลื่อนเศรษฐกิจหมุนเวียนมาอย่างต่อเนื่องทำโครงการให้สำเร็จร่วมกัน
ได้แก่ การรีไซเคิลแกลลอนน้ำมันหล่อลื่นใช้แล้วให้กลับมาเป็นบรรจุภัณฑ์ใหม่ในโครงการ “รักษ์
ปัน สุข จูเนียร์” นอกจากจะตอบโจทย์การพัฒนาอย่างยั่งยืนของสหประชาชาติ (SDGs:
Sustainable Development Goals) แล้ว ยังสอดคล้องกับแนวคิด ESG
(Environmental, Social and Governance) ที่เอสซีจี เคมิคอลส์
ให้ความสำคัญอีกด้วย
เอสซีจี
เคมิคอลส์ ได้ริเริ่มโมเดลจัดการขยะแบบครบวงจรทั้งระดับองค์กร
และระดับชุมชน ภายใต้โครงการ ชุมชน LIKE (ไร้) ขยะ ขับเคลื่อนผ่าน บ้าน-วัด-โรงเรียน-ธนาคารขยะชุมชน
โดยใช้แอปพลิเคชัน “คุ้มค่า -KoomKah” มาช่วยบริหารจัดการข้อมูลของธนาคารขยะ ความร่วมมือครั้งนี้ เอสซีจี
เคมิคอลส์ จะนำองค์ความรู้ทั้งด้านวัสดุศาสตร์ และการบริหารจัดการขยะแบบครบวงจร
มาขยายผลร่วมกับบางจาก และมูลนิธิใบไม้ปันสุข ผ่านโครงการ “รักษ์ ปัน สุข
จูเนียร์” ปลูกฝังทัศนคติเรื่องการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า
และการจัดการขยะอย่างถูกต้องให้แก่เยาวชนไทย
ถือเป็นหัวใจสำคัญของเศรษฐกิจหมุนเวียน
เพื่อให้วัสดุหลายประเภทมีโอกาสได้กลับมาหมุนเวียนสร้างคุณค่าใหม่
และยังช่วยลดภาวะโลกร้อนได้อีกทาง
ช่วงที่
2 ถึงเวลาออกเที่ยวผจญภัยใน “กาญจนบุรี”
ฤดูแห่งการ “ปีนเขาช้างเผือก” ทองผาภูมิ และ “พายซับ สังขละบุรี”
วิถีความสุขเลือกได้ ไปกางเต็นท์ ก่อกองไฟ กลางไอเย็นธรรมชาติป่าสวย ๆ พร้อมกับ
“ระวังการกินอาหารแปรรูปให้พอดีปลอดภัยต่อสุขภาพ” เสพข่าวดี ๆ “การบินไทยกลับมาเปิดรอยัลเลาจน์ สุวรรณภูมิ” เอาใจสมาชิกบัตร ROP และสตาร์อัลไลแอนซ์ ส่วน “3โลว์คอสต์
“ไทยแอร์เอเชีย-ไลออนแอร์-ไทยเวียดเจ็ต” ไม่พลาดออกโปรตุนรายได้ในช่วง 12 เดือน12แบบแรง ซื้อก่อนเดินทางทีหลัง เริ่มต้น
499 บาท/เที่ยว
ท่องเที่ยว- เที่ยวกาญจน์ปีนเขาช้างเผือกทองผาภูมิ-พายซับสังขละบุรี
ออกไปหาประสบการณ์ผจญภัยได้ใน
“กาญจบุรี” หนาวนี้ต้องยกให้กิจกรรมท่องเที่ยวเชิงผจญภัย ไปปีน “เขาช้างเผือก"
พิชิตยอดเขาสูง หรือเที่ยววิถีธรรมชาติท่ามกลางเย็นของผืนป่าเขียวขจีกันสักครั้ง
ตอนนี้
อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ จ.กาญจนบรุี ได้เปิดการท่องเที่ยวการเดินป่าศึกษาธรรมชาติระยะไกลขึ้นเขาช้างเผือก
บริเวณป่าบ้านอีต่อง หมู่ที่ 1 ต.ปิล๊อก อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี ได้แล้ว เริ่มจากวันนี้ไปจนถึง
31 มกราคม 2565 โดยเปิดให้เริ่มจองก่อนล่วงหน้าได้ทุกวัน ตั้งแต่ 08.30 - 16.30 น.
นักท่องเที่ยวจะต้องปฏิบัติตามกฎด้วย
นั่นคือ ต้องติดต่อเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ
เพื่อลงทะเบียนรายชื่อคนที่ขึ้นเขา ในแต่ละวันทางอุทยานจำกัดไว้ไม่เกิน 60 คน ให้เหมาะกับพื้นที่กางเต็นท์ตรงยอดเขามีจำกัด
ปกติแล้วนักท่องเที่ยวจะนิยมค้างแรมบนยอดเขาแห่งนี้ 2 วัน 1 คืน
เส้นทางเดินขึ้นเขาช้างเผือก จุดเริ่มอยู่ตรง หลังหมู่บ้านอีต่อง ตำบลปิล็อก อำเภอทองผาภูมิ ระยะทางราว 8 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินไปจนถึงจุดกางเต็นท์พักแรมราว 4-5 ชั่วโมง
ระหว่างทางผ่านป่าโปร่ง เนินหญ้า
เนิน เขาเตี้ยบ้างสูงบ้างสลับกันไป มีวิวสวยให้เช็คอินถ่ายรูปได้
ไฮไลท์อีกจุดบนเขาช้างเผือก
คือช่วง "สันคมมีด" ความสูงจากระดับน้ำทะเล 1,249 เมตร เมื่อขึ้นไปถึงมองลงมาจะเห็นวิวพาโนรามา 360 องศา แต่จะต้องปีนสันเขาบางแคบไม่สูงมากนัก มีก้อนหินใหญ่บ้างเล็กบ้าง
จะต้องเดินแถวเรียงเดี่ยวปีนผาหินขึ้นไป ตอนนี้เจ้าหน้าที่นำเชือกไปขึงให้นักท่องเที่ยวปีนได้ง่ายและปลอดภัยมากขึ้นแล้ว
เมืองกาญจนบุรี ยังมีแหล่งท่องเที่ยวแนะนำเที่ยวหน้าอีกแห่ง คือ กิจกรรมพาย “SUP & Camping” ที่สังขละบุรี พายไปชมสะพานไม้ เจดีย์พุทธคยา วัดจมน้ำ ตอนนี้เปิดแค่ 12 วัน ช่วง 8-19 ธันวาคม 2564 ทำเป็นแพกเกจ 2 วัน 1 คืน คิดค่าใช่จ่ายคนละ 1,000 บาท
นักท่องเที่ยวสามารถพาย SUP โดยมีให้เลือกวันละ 2 รอบ “รอบเช้า” เริ่ม 07.30-09.00 น.พายไปชมสะพานไม้ กับเดินตลาดกินอาหารเช้าวิถีถิ่น หรือ “รอบเย็น” ตอน 16.00-18.30 พายไปชมเจดีย์พุทธคยา และวัดจมน้ำ จำกัดวันละ 10 คนเท่านั้น
พอตกกลางคืน จัดให้ชมดนตรีสด และก่อไฟอุ่น ๆ แก้หนาว สถานที่ก็อยู่ไม่ไกลจากสะพานไม้ และตลาด สนใจสอบถามเพิ่มเติมได้ที่Facebook : https://www.facebook.com/supclubkan หรือโทร.083-0885362
เที่ยวไทยไป “กาญจนบุรี” ตลุยปีนเขาช้างเผือกทองผาภูมิ
พายซับสังขละบุรี กับประสบการณ์แปลกใหม่เที่ยวเมืองไทย อะเมซิ่ง ยิ่งกว่าเดิม
สุขภาพ - ระวัง!!กิน“อาหารแปรรูป”ต้องให้พอดีจึงปลอดภัยต่อสุขภาพ
อาหารแปรรูปช่วยเพิ่มความสะดวกสบายและง่ายต่อการบริโภค
แต่การรับประทานอาหารแปรรูปที่มีส่วนผสมของน้ำตาล โซเดียม และไขมันมากเกินไป
ก็อาจส่งผลเสียต่อสุขภาพ ดังนั้นก่อนเลือกซื้อควรอ่านฉลากโภชนาการ
หรือมองหาสัญลักษณ์โภชนาการทางเลือกสุขภาพก่อนทุกครั้ง
ผศ. ดร.สุทัศน์ สุระวัง สาขาวิชาเทคโนโลยีการพัฒนาผลิตภัณฑ์
รองคณบดีคณะอุตสาหกรรมเกษตร มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ แนะนำข้อมูลเรื่องอาหารแปรรูปมีจุดเด่นในการถนอมรักษาคุณภาพอาหาร
ผ่านกระบวนการผลิตที่ได้มาตรฐาน ปลอดภัย อำนวยความสะดวกรับวิถีชีวิตนิวนอร์มอล
แนะรับประทานอย่างเหมาะสม มีความหลากหลาย ครบ 5 หมู่
และอ่านฉลากโภชนาที่ผลิตภัณฑ์ เพื่อสุขภาพที่ดี
เนื่องจากการแปรรูปอาหาร
เป็นขั้นตอนและวิธีการเปลี่ยนแปลงวัตถุดิบที่เป็นเนื้อสัตว์ ผัก ผลไม้ เช่น การใช้ความร้อน
ความเย็น การทำแห้ง ใช้น้ำตาล การฉายรังสี
เพื่อถนอมอาหาร ทำให้มีกลิ่นและรสชาติดีขึ้น
รวมทั้งการเติมสารอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายได้อีกด้วย
ตามที่องค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ
(FAO) ได้แบ่งประเภทของอาหารแปรรูป ตามระบบ The
NOVA Food Classification System ออกเป็น 4 กลุ่ม
ได้แก่
กลุ่มแรก คือ อาหารไม่ผ่านกระบวนการ (Unprocessed Foods) หรือผ่านกระบวนการเพียงเล็กน้อย
(Minimally processed foods) ส่วนใหญ่เป็นการตัดแต่งเอาส่วนที่บริโภคไม่ได้ออก
หรือผ่านการบด แยกส่วน กรอง คั่ว ต้ม หมัก การทำแห้ง การพาสเจอร์ไรซ์ การแช่เย็น
แช่แข็ง บรรจุในภาชนะหรือบรรจุภัณฑ์สุญญากาศ เพื่อรักษาคุณภาพ
คงความสดของอาหารตามธรรมชาติ
กลุ่มที่สอง คือ อาหารผ่านกระบวนการ โดยใช้เครื่องปรุง (Processed culinary ingredients) เช่น น้ำมัน เนย น้ำตาล และเกลือ เพื่อเตรียมปรุงอาหารในครัวเรือน
กลุ่มที่สาม คือ อาหารผ่านกระบวนการ (Processed Foods) เป็นอาหารแปรรูปโดยใช้น้ำมัน
น้ำตาล หรือเกลือเป็นส่วนผสม และวิธีการถนอมอาหาร โดยการดอง การรมควัน การบ่ม
เพื่อให้ส่วนผสมแทรกซึมเข้าไปในอาหาร และเปลี่ยนแปลงธรรมชาติของอาหาร เช่น
ผัก-ผลไม้บรรจุขวด ปลากระป๋อง แฮม เบคอน
กลุ่มที่สี่ คือ อาหารที่ผ่านกระบวนการสูง (Ultra-processed Foods) ใช้กระบวนการผลิตทางอุตสาหกรรมที่ได้มาตรฐาน
เป็นผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายรูปแบบ และช่วยยืดอายุในการเก็บรักษาได้นานขึ้น เช่น
ไส้กรอก อาหารว่าง (snacks) อาหารแช่แข็ง มาการีน ไอศกรีม
และ ผลิตภัณฑ์ขนมอบ
ซึ่งการแปรรูปอาหารยังมีประโยชน์มากมาย
อาทิ การทำลายสารที่เป็นพิษในอาหาร ช่วยถนอมอาหาร ทำให้มีกลิ่นและรสชาติดีขึ้น
สามารถจำหน่ายและขนส่งได้สะดวกขึ้น ตอบโจทย์ผู้บริโภคยุคใหม่ได้เป็นอย่างดี
และกระบวนการแปรรูปอาหารในภาคอุตสาหกรรม มั่นใจถึงมาตรฐานและความปลอดภัย
เพื่อให้มั่นใจว่า “บริโภคอาหารแปรรูป” แล้ว จะไม่ทำให้ร่างกายเราได้รับปริมาณน้ำตาล
ไขมัน โซเดียม เกินความต้องการ จึงควรอ่านฉลากโภชนาการให้แน่ใจก่อนทุกครั้งว่าไม่มีส่วนประกอบที่เป็นเกลือ
น้ำตาล หรือไขมันในปริมาณมากเกินไป
ปัจจุบันมีการใช้สัญลักษณ์โภชนาการ
"ทางเลือกสุขภาพ" (Healthier Choice) แสดงถึงผลิตภัณฑ์อาหารนั้นได้ผ่านเกณฑ์พิจารณาแล้วเรื่องส่วนผสม
ปริมาณน้ำตาล ไขมัน และโซเดียมที่เหมาะสม ส่วนการกินโดยลด หวาน มัน เค็ม เป็นอีกช่องทางช่วยลดปัจจัยเสี่ยงการเกิดโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง
ที่สำคัญควรรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่
ออกกำลังกายเป็นประจำ พักผ่อนให้เพียงพอ เพื่อสุขภาพแข็งแรงปลอดโรคปลอดภัย
เพื่อสุขภาพที่ดีห่างไกลโรค
ฟังข่าวท้ายชั่วโมง
ข่าวแรก “บินไทย”กลับมาเปิดรอยัลเลาจน์เทรนด์กรีนชั้น3สุวรรณภูมิ
นายสุวรรธนะ สีบุญเรือง
รักษาการแทนประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า
ล่าสุดได้เปิดบริการห้องรับรองพิเศษ Royal Orchid Prestige Lounge ที่สนามบินสุวรรณภูมิ
อีกครั้งแล้ว ตั้งอยู่ตรงบริเวณชั้น 3 Concourse D เปิดทุกวันเวลาระหว่าง 05.00-02.00 น. โดยปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคโควิด
19 อย่างเคร่งครัด
เพื่อรองรับการขยายตัวของปริมาณผู้โดยสารที่เพิ่มมากขึ้น
มุ่งเน้นให้บริการผู้โดยสารที่ซื้อตั๋วชั้นเฟิร์สคลาส
ชั้นธุรกิจ สมาชิกบัตรรอยัล ออร์คิด พลัส
(ROP)
แพลตทินั่ม โกลด์ กับสมาชิกสตาร์ อัลไลแอนซ์ โกลด์
ห้องรอยัล
ออร์คิด เพรสทีจ เลาจน์ การบินไทย ได้ออกแบบและตกแต่งภายใต้แนวคิด Ecology
Green Mood Concept สร้างบรรยากาศให้แก่ผู้โดยสารรู้สึกเหมือนกับได้พักผ่อนอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ
พร้อมอาหารและเครื่องดื่มถูกสุขอนามัยจากฝ่ายครัวการบินไทย เช่น
อาหารปรุงสำเร็จอุ่นร้อน เบเกอรี่ ขนมอบนานาชนิด ผลไม้สดและไอศกรีมโฮมเมดสูตรเฉพาะจากฝ่ายครัวการบินไทยโดนใจลูกค้าทุกกลุ่ม
ข่าวที่สอง 3โลว์คอสต์ชิงขายโปรตั๋วบินทั่วไทยไลออนแอร์เทแรง499บาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า
ในช่วงเทศกาลขายต้อนรับมหกรรมช้อป 12
เดือน 12 บรรดาสายการบินราคาประหยัดได้แข่งกันทำโปรโมชั่นกระตุ้นยอดขายหารายได้ล่วงหน้า
ด้วยกลยุทธ์ซื้อก่อนเดินทางทีหลัง ทุกเส้นทางบินในประเทศ โดยมีไฮไลต์ 3 สายการบินยอดนิยม
ได้แก่
1.ไทยแอร์เอเชียทำโปรโมชั่นตั๋วโดยสารลดสูงสุด 10% ระหว่างวันนี้ -20 ธันวาคม 2564 จองได้ทางแอพลิเคชั่น airasia Super App ผ่านบริการ Flights และมีแพกเกจตั๋วโดยสาร+ห้องพักโรงแรม ทำดีลพิเศษลดสูงสุดถึง 30% ตั้งแต่วันนี้ -20 ธันวาคม 2564 โดยจองผ่านบริการ SNAP ซื้อแล้วเริ่มใช้ได้ตั้งแต่ 3 มกราคม – 31 มีนาคม 2565 หรือจะเลือกรับส่วนลดทันที 20% เมื่อจองโรงแรมผ่าน Hotels เพียงใช้โค๊ด HAPPY20 เริ่มวันนี้ - 20 ธันวาคม 2564 จ่ายเงินเสร็จเรียบร้อยนำไปใช้ได้ปีหน้า เริ่มวันที่ 3 มกราคม– 30 กันยายน 2565 ดูข้อมูลเพิ่มที่ www.airasia.com
2.ไทยไลอ้อนแอร์” เปิดมหกรรมโปรโมชั่นตั๋วโดยสารบินในประเทศทุกเส้นทางลดราคาสูงสุด
20% ฟรีน้ำหนักกระเป๋าสัมภาระได้อีก 10 กิโลกรัม โหลดได้สูงสุดไม่เกิน 1 ใบ จองวันนี้- 12 ธันวาคม 2564 เพื่อนำไปใช้เดินทางได้ตั้งแต่วันนี้–
31 มีนาคม 2565
3.ไทยเวียตเจ็ท ทำโปรโมชั่นตั๋วโดยสารในประเทศแบบบินตรงและบินข้ามภาค
ราคาเริ่มต้น 449 บาท/เที่ยว ภายในวันที่ 12 ธันวาคม 2564 เส้นทาง ไป-กลับ สุวรรณภูมิ สู่เมืองหลัก
ขอนแก่น เชียงราย และข้ามภาคเหนือ เชียงใหม่
สู่ภาคใต้ ภูเก็ต จองบัตรโดยสารได้ที่เว็บไซต์ www.vietjetair.com ตั๋วที่จองสำเร็จสามารถนำไปใช้เดินทางได้วันที่
13 มกราคม -30 มิถุนายน 2565
สำหรับการซื้อตั๋วโปรโมชั่นจากโลว์คอสต์
แอร์ไลน์ ทุกสายการบิน จะกำหนดเงื่อนไข จึงขอให้ผู้โดยสารอ่านรายละเอียดให้เข้าใจอย่างชัดเจน
เพื่อประโยชน์ในทุกการเดินทาง
ติดตามฟังรายการได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 11.00-12.00 น.ทาง สวท.FM 97.0 MHz.
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น