เดอะลิฟวิ่งอาร์ทแกลเลอรี่ภูเก็ต”จัดใหญ่เอ็กซิบิชั่นศิลปะรับฤดูเที่ยว ช้อปชมฟรี“Curatorial Project xTalented Artists&Designers”ถึง8ม.ค.65

“เดอะลิฟวิ่งอาร์ทแกลเลอรี่ภูเก็ต”จัดใหญ่เอ็กซิบิชั่นศิลปะรับฤดูเที่ยว

ช้อปชมฟรี“Curatorial Project xTalented Artists&Designers”ถึง8ม.ค.65

 เรื่องโดย...#เพ็ญรุ่งใยสามเสน #gurutourza #รายการรวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97 #เดอะลิฟวิ่งอาร์ท แกลเลอรี่ภูเก็ต

“เดอะลิฟวิ่งอาร์ท แกลเลอรี่” ในโครงการบลูทรี ภูเก็ต จับมือกับพันธมิตรร่วมกันจัดนิทรรศการ “Curatorial Project X Talented Artists and Designers” ศิลปะสุดยิ่งใหญ่ส่งท้ายปี 2564 ต้อนรับปีใหม่ 2565 โดยได้รวบรวมงานศิลปะทุกแขนงจากทั่วประเทศไทยมาให้ชมกันตลอด 1 ปีที่ผ่านมา แล้วครั้งนี้ก็ถึงเวลาปรับโฉมและเปลี่ยนคอลเลคชั่นใหม่แล้ว ทุกคนสามารถเข้าชมฟรี ได้ตลอดการจัดงานทุกวันอังคาร-วันเสาร์ ระหว่างวันนี้- 8 มกราคม 2565 ตั้งแต่ 10.30 – 18.30 น.ณ เดอะลิฟวิ่งอาร์ท แกลเลอรี่ ภูเก็ต

สำหรับพิธีเปิดได้รับเกียรติจาก นายภูสิต รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) ให้เกียรติเป็นประธาน ซึ่งทาง กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) และ กลุ่มบัณฑิตจบใหม่จาก Glasgow School of Art สก็อตแลนด์ เป็นพันธมิตรที่ร่วมจัดแสดงนิทรรศการดังกล่าว 

วัตถุประสงค์หลักในการร่วมมือจัดแสดงงานนิทรรศการ “Curatorial Project X Talented Artists and Designers” ครั้งนี้ มุ่งเน้น ส่งเสริมนักออกแบบไทยสู่ตลาดสากล ส่งเสริมภาพลักษณ์นักออกแบบเพื่อชุมชนสู่สากล และสร้างโอกาสทางการค้าให้กับผลิตภัณฑ์งานศิลปะและงานฝีมือ ได้นำเสนอผลิตภัณฑ์ต้อนรับเทศกาลท่องเที่ยว Phuket Sandbox 2021

ตลอดงานทางกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศได้นำสินค้าดีไซน์สร้างสรรค์เกรดพรีเมี่ยมมานำเสนอในตลาด 3 กลุ่ม คือ

กลุ่มที่ 1 นักออกแบบแฟชั่นไทย (Designers’ Room)   กลุ่มที่ 2 นักออกแบบสินค้าไลฟ์สไตล์ (Talent Thai) กลุ่มที่ 3 ให้บริการด้านการออกแบบ (Creative Studio)  ร่วมมือกันสร้างไฮไลต์กิจกรรม Co-Brand ด้วยรูปแบบเวิร์คช็อปกับพันธมิตรหลากหลายจากแบรนด์ชั้นนำ เช่น

แบรนด์ที่ 1 Deesawat ร่วมมือกับนักออกแบบจาก 15 แบรนด์เพื่อพัฒนาสินค้าตามแนวคิด Local to Global โดยการนำเก้าอี้ไปร่วมดีไซน์สู่ผลิตภัณฑ์ใหม่

แบรนด์ที่ 2 Pasaya ร่วมมือกับนักออกแบบจาก 8 แบรนด์ เพื่อพัฒนาสินค้าตามแนวทางเศรษฐกิจหมุนเวียน หรือ Circular Economy

แบรนด์ที่ 3 SCG ร่วมมือกับนักออกแบบจาก 6 แบรนด์เพื่อพัฒนาสินค้าใหม่ตามแนวทาง Circular Economy   

รวมทั้งกรมส่งเสริมการส่งออกระห่างประเทศ ยังได้นำนักออกแบบมืออาชีพ 3 แบรนด์ คือ 1.Painkiller สินค้าแฟชั่น 2.Issarapharp สินค้าไลฟ์สไตล์และของตกแต่งบ้าน และ 3.Trimode.C สินค้ากลุ่มเครื่องประดับ มาทำงานร่วมกับผู้ผลิตสินค้าชุมชุน กลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามัน ในกระบี่ และภูเก็ต รวม 6 ชุมชน ผลิตเป็นสินค้าต้นแบบ มีทั้ง “กลุ่มผ้ามัดย้อม” จากชุมชนเกาะโหลน มินดาบาติก “กลุ่มผ้ามัดย้อมสีธรรมชาติภูษาเล” จากภูเก็ต “กลุ่มหัตถกรรมเตยปาหนัน” บ้านวังหิน  “กลุ่มกติกาแฮนด์เมด” จากกระบี่

โดยเปิดโอกาสให้กลุ่มบัณฑิตจบใหม่ 6 คนจาก Glasgow School of Art ประเทศสก็อตแลนด์ นำผลงานชุด Still Water ภายใต้โครงการ “Wunderkammer” ซึ่งเป็นโครงการภัณฑารักษ์ระดับนานาชาติ มาร่วมจัดนิทรรศการในครั้งนี้ด้วย

ในส่วนของนิทรรศการ “Collective Art and Craft Market” ที่คัดสรรโดย เดอะลิฟวิ่งอาร์ท แกลเลอรี่ ซึ่งเป็นนิทรรศการตลาดงานศิลปะและงานฝีมือ มาให้เลือกชม เลือกช้อปได้ตั้งแต่วันนี้ ไปจนถึงวันที่ 8 มกราคม 2565 ได้แก่

 

1.ศิลปหัตถกรรมจากชุมชนท้องถิ่น ซึ่งออกแบบและผลิตร่วมกับศิลปินและนักออกแบบชาวไทย

2.แฟชั่น เครื่องประดับ และเสื้อผ้า ออกแบบโดยดีไซน์เนอร์ไทยและต่างชาติ

3.เครื่องปั้นเซรามิก จากปัตตานีและเชียงใหม่

4.ภาพวาดโดยศิลปินไทย ผู้มีพรสวรรค์ด้านศิลปะ  

นักท่องเที่ยวจะได้พบกับ “COLLECTIVE ART AND CRAFT MARKET” คัดสรรโดย เดอะ ลิฟวิ่ง อาร์ท แกลเลอรี่  นิทรรศการงานศิลปะและงานฝีมือนี้ ประกอบไปด้วย 

 

1.ภาพวาด โดยศิลปินชาวไทยผู้มีพรสวรรค์

2.เครื่องปั้นเซรามิก ฝีมือศิลปินจากจังหวัดปัตตานี และเชียงใหม่

3.ศิลปหัตถกรรมจากชุมชนท้องถิ่น ซึ่งออกแบบและผลิตร่วมกับศิลปินและนักออกแบบชาวไทย

4.แฟชั่น เสื้อผ้า และเครื่องประดับ ออกแบบโดยดีไซเนอร์ไทย และดีไซเนอร์ชาวต่างชาติ

 

สอบถามรายละเอียดเพิ่มที่ โทร 065 926 9455 อีเมล: info@thelivingartsthailand.com เว็บไซต์: www.thelivingartsthailand.com 

 

@“STILL WATER”ผลงานน่าทึ่งของศิลปินจบใหม่สก็อตแลนด์

 

มาทำความรู้จักกับ “STILL WATER” ในโครงการ Wunderkammer เป็นผลงานของบัณฑิตจบใหม่ 6 คน ซึ่งเป็นโครงการภัณฑารักษ์ระดับนานาชาติ เพื่อแสดงผลงาน ของบัณฑิตจบใหม่จาก Glasgow School of Art สก็อตแลนด์  ได้ถ่ายทอดความคิดผ่านนิทรรศการ STILL WATER ด้วยการแสดงผลงานภายใต้บริบทของความสุขอันสงบนิ่ง ผ่านภาพวาด สื่อวิดีโอ ภาพถ่าย และงานประติมากรรม เป็นพื้นที่ที่แบ่งปันความรู้สึกอันหลากหลายที่เกิดขึ้น ในช่วงหลังโควิด 19

ถือเป็นส่วนหนึ่งในหลากหลายโครงการ สนับสนุนการศึกษาและศิลปินรุ่นใหม่ ของ เดอะ ลิฟวิ่ง อาร์ท เพื่อให้ศิลปินได้มีพื้นที่พัฒนาความสามารถ และสร้าง ประสบการณ์ ต่อยอดความคิดสร้างสรรค์งานศิลปะต่อไป

ที่มาของ “STILL WATER”  เมื่อปลายปี 2562 เกิดโรคระบาดที่ไม่มีใครรู้จักได้แพร่กระจายไปทั่วโลก ส่งผลกระทบต่อชีวิต และกิจวัตรประจำวันของผู้คน ทุกหนแห่งตกอยู่ในความอึมครึมและเงียบงัน ท้องถนนที่เคยเต็มไปด้วยผู้คนจากทุกมุมโลก เดินสวนกันไปมา ทักทายกัน อย่างครึกครื้น กลับว่างเปล่า เหลือเพียงความหดหู่ และหวาดกลัวอันไม่มีที่สิ้นสุด แม้กระนั้นเมื่อเวลาผ่านไป ในความ เงียบงันนี้ ผู้คนต่างพบว่าตัวเอง กำลังค่อยๆ ปรับตัวให้เข้ากับสภาพชีวิตประจำวันที่เชื่องช้าลง ความรื่นรมย์จึงค่อย ๆ กลับมาเบ่งบานขึ้นอีกครั้ง 

@โปรเจกต์วอนเดอร์คามเมอร์คิวเรียสรูมห้องแห่งความอยากรู้อยากเห็น

ความหมายอันทรงพลังของ “โปรเจกต์ วอนเดอร์คามเมอร์ -PROJECT WUNDERKAMMER” แท้ที่จริงคืออีกชื่อหนึ่งที่ใช้เรียก ‘คิวเรียส รูม’ หรือแปลได้ว่า ห้องแห่งความอยากรู้อยากเห็น ซึ่งมักพบเห็นอยู่ในบ้านของผู้มีฐานะร่ำรวยในยุคฟื้นฟูศิลปะ ภายในห้องเหล่านี้ คือ จุดเริ่มต้นของการจัดนิทรรศการ ที่มีความเป็นส่วนตัว และอิงจากความสนใจของเจ้าของบ้าน

ดังนั้นในโครงการนี้ แม้ทุกนิทรรศการจะถูกเชื่อมโยงด้วย แพลตฟอร์มออนไลน์ ก็ถือได้ว่าเป็นห้องแห่งความอยากรู้อยากเห็นห้องหนึ่ง แต่ละห้องมีเรื่องเล่า มีสีสัน และบริบท ที่แตกต่างกัน  ซึ่งนิทรรศการ STILL WATER ที่ภูเก็ตนี้ คือหนึ่งในนิทรรศการทั้ง 6 ของ Project Wunderkammer 

“ผู้ก่อตั้ง” “PROJECT WUNDERKAMMER” โครงการจัดงานนิทรรศการนานาชาติ” คือ “เอจิ โซ และกลุ่มศิลปินหลากหลาย” เพื่อแสดงผลงานของผู้สำเร็จการศึกษาจากกลาสโกว์สคูลออฟอาร์ต จำนวน  45 คน ก่อตั้งขึ้นเพื่อให้โอกาส บัณฑิตใหม่ที่กำลังอยู่ในระยะแรกเริ่มของอาชีพศิลปิน ได้มีพื้นทีสนทนา แลกเปลี่ยนความคิดเห็น และทำงานร่วมกัน

 

ถึงแม้ศิลปินแต่ละคนจะไม่ได้อาศัยอยู่ในประเทศเดียวกัน ก็เสริมสร้างความสัมพันธ์อันดี ในชุมชนศิลปินรุ่นใหม่ให้แน่นแฟ้น ยิ่งขึ้น ชุมชนนี้ถือได้ว่าเป็นทรัพยากรอันมีค่าของสังคม เนื่องด้วยสถานการณ์โควิด-19 ศิลปินทุกคนที่ร่วมในโครงการ ไม่เคยมีใครมีประสบการณ์จัดแสดงในนิทรรศการใหญ่ หากเป็นสถานการณ์ปกติจะได้จัดแสดงตอนสำเร็จการศึกษา แต่เวลานี้มีหลายคนที่กำลังทำงานอยู่เพียงลำพัง ไร้การสนับสนุน โอกาส และเงินทุน ด้วยเหตุนี้ กลุ่มศิลปินจึงร่วมมือกัน ก่อตั้ง Project Wunderkammer ขึ้นมา เพื่อทำตอกย้ำให้เห็นว่าศิลปะพร้อมจะก้าวไปข้างหน้าได้ทุกสถานการณ์

ปัจจุบัน โปรเจกต์ วอนเดอร์คามเมอร์ มีทั้งหมด 6 นิทรรศการ ซึ่งจะจัดขึ้นที่ กลาสโกว์ ลอนดอน สต็อกโฮล์ม กรุงโซล และ ภูเก็ต

สำหรับ “โปรเจกต์ วอนเดอร์คามเมอร์” ได้รับอิทธิพลทางความคิดจากกลุ่มศิลปินหัวก้าวหน้า “ฟลักซุส” โดยมีแนวคิดต่อต้าน ค่านิยมแบบเดิม ๆ และไม่มีข้อจำกัดว่าจะต้องแสดงผลงานในสไตล์หรือลักษณะใด โดยเฉพาะ

 

มีเพียงความกระตือรือร้น ของศิลปินหน้าใหม่ที่รวมตัวกันขึ้น เพื่อสร้างความเคลื่อนไหว กระจายความตื่นเต้นและความน่าสนใจของวงการศิลปะ ให้แก่ผู้ชมทุกคน ซึ่งกระบวนการสื่อสาร ความร่วมมือ และการแลกเปลี่ยนที่เกิดขึ้น ณ ที่นี้ ถือว่ามีความสำคัญ เทียบเท่ากับงานศิลปะที่นำมาแสดง