ททท.โหมท่องเที่ยวพันธุ์ใหม่รับปี‘ฟื้นฟูเศรษฐกิจแห่งชาติ’ ปี’65รุกจัดเที่ยวเมืองไทย+เที่ยวชาชัวร์+โทเค่นเที่ยว+เมตาเวิร์ส”
ผู้นำททท.โหมท่องเที่ยวพันธุ์ใหม่รับปี‘ฟื้นฟูเศรษฐกิจแห่งชาติ’
ปี’65รุกจัดเที่ยวเมืองไทย+เที่ยวชาชัวร์+โทเค่นเที่ยว+เมตาเวิร์ส”
“คิง
เพาเวอร์”แจกปีใหม่สุข3ขั้น”บัตรสมาชิก/แคชการ์ด/รางวัล
แจกปีใหม่!!คิงเพาเวอร์ให้คูปองฟรี9,500บาท+อิ่มฟรี 500 บาท
“พูลแมนคิงเพาเวอร์”เปิดมื้อพิเศษFestive Dinning4ห้องอาหาร
บางจากให้ขวัญปีเสือ3บริการพิเศษเติมน้ำมัน-แวะร้านอินทนิล
ททท.ผนึก3สนามกอล์ฟดังเมืองปทุมจัดโปรวันธรรมดาม.ค.65
เที่ยวรับพรปีใหม่แวะไหว้พระใกล้กรุงที่พระนครศรีอยุธยา9วัด
5 วิธีการเลือกโปรแกรมตรวจสุขภาพหลังปีใหม่ให้โดนใจใช่เลย
“ทอท.”จ่อชงรองฯบอร์ดม.ค.65ลุยขยายสุวรรณภูม6.6พันล้านบาท
ก.อุตฯชิงต่อยอด”ไมโครทัวร์/ชุมชนสร้างสรร”ช่วยท่องเที่ยวปี’65
วันเสาร์ที่
1 มกราคม
2565 สวัสดีปีใหม่ขอต้อนเข้าสู่รายการ
“รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน”
ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทางfacebookLiveFM97.0
และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen บล็อกเกอร์
#gurutourza #รวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97 #เพ็ญรุ่งใยสามเสน
#เที่ยวกับกู๋ #KingPower #TAT
#ท่องเที่ยวพันธุ์ใหม่ปีเสือปีแห่งการฟื้นเศรษฐกิจชาติ #ไหว้พระ9วัดพระนครศรีอยุธยา
ฟัง Live สดจากลิงค์นี้
ช่วงที่ 1 ต้อนรับศักราชปีเสือกับ “ดร.ยุทธศักดิ์ สุภสร”
ผู้ว่าการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จัดเต็มปีแห่งการลุย “ฟื้นฟูเศรษฐกิจท่องเที่ยว 1.5 ล้านล้านบาท” โหมโรงปลุกตลาดในประเทศ เคลียร์พื้นที่สวนลุมพลิกโฉม
“เทศกาลเที่ยวเมืองไทย” ครั้งใหม่ 19-23 ม.ค.65 ชูขายเทรนด์ใหม่เที่ยวเชิงประสบการณ์ 5 ภาค ควบอีก 4 แคมเปญ “เราเที่ยวด้วยกันเฟส4”เปิดช่อง 9ล้านคนใหม่ลงทะเบียน ก.พ. ตามด้วย “เที่ยว SHA
SURE”
จุดกระแสปีเดินทางวิถีใหม่ “โทเค่น เที่ยว” เหรียญแห่งความหวัง
สะสมแลกสิทธิ์ยิ่งเที่ยวยิ่งได้ โชว์เคสจัดมหกรรมขานรับกระแสโลก “Metaverse
Tour” ส่วน
“ตลาดต่างประเทศ” สั่ง ททท.ทั่วโลก 29 แห่ง เล็งให้ตรงเป้า 2 กลุ่มหลัก
“ทัวร์สุขภาพ-เจนวายกล้าเที่ยวไม่หวั่นโควิด”
ดร.ยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)
เปิดเผยว่า ทิศทางการขับเคลื่อนท่องเที่ยวปี 2565 หลังต้องเผชิญหน้ากับไวรัสกลายพันธุ์โอมิครอน
ททท.ยังคงเดินหน้าตามนโยบายนายพิพัฒน์ รัแลชกิจประการ
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาคือ “ฟื้นประเทศด้วยการท่องเที่ยว”
พูดง่าย ๆ ปีนี้การท่องเที่ยวจะเข้าสู่โหมดของการฟื้นฟูไม่ถึงแม้จะต้องอยู่กับเป็นระบาดของไวรัสสายพันธุ์ใหม่ก็ตาม
องค์กรก็มีหน้าที่ต้องฟื้นฟูเศรษฐกิจประเทศให้กลับมาโดยเร็ว
โดยยืนยันเป้าหมายที่ยังคง “ฟื้นรายได้ท่องเที่ยวปี 2565” ให้ได้เกินกว่า 50 % ของปี 2562 ทำไว้รวม 3 ล้านล้านบาท อาจจะเป็นเป้าหมายท้าทายอย่างมาก เพราะยังไม่รู้ว่าจะต้องเผชิญหน้ากับไวรัสระบาดที่จะต้องมีมาตรการป้องกันการเดินทางมากน้อยขนาดไหน
“เป้าหมายรายได้” ของ ททท.ปี 2565 ได้จัดทำไว้บนฐานข้อมูล 3 กรณี นั้น “ทิศทางหรือเป้าหมายสร้างรายได้” ยังคงเหมือนเดิม เพียงแค่ช่วงหลังเทศกาลเดินทางปีใหม่จะต้องกลับมารีวิวกันอีกครั้ง อย่างไรก็ตามหากต้องการใช้ “ฟื้นฟูประเทศด้วยการท่องเที่ยว” เป็นไปตามนโยบายนายกรัฐมนตรี และ รมว.พิพัฒน์ รัชกิจประการ ปี 2565 จะต้องมีรายได้กลับมา 50 % ของปี 2562 ก่อนเกิดไวรัสโควิด
ดังนั้นปี 2565 หากต้องฟื้นรายได้ท่องเที่ยวกลับมาครึ่งหนึ่งของปี 2562 ก็น่าจะต้องทำให้ได้ 1.5 ล้านล้านบาท ททท.เองเดิมส่วนใหญ่สถิติปี 2562 จะเน้นรายได้ที่มาจาก “ตลาดต่างประเทศ” ค่อนข้างมาก แตกต่างจากปี 2565 น้ำหนักน่าจะอยู่ที่ “ตลาดในประเทศ” มากกว่า สัดส่วน “ตลาดในประเทศต่อตลาดต่างประเทศ” อาจจะเป็น 60 :40 หรือ 70:30
อย่างไรก็แล้วแต่ต้องยอมรับว่าความต้องการท่องเที่ยวหรือดีมานต์ในประเทศเองก็ไม่สามารถตอบโจทย์การปิดประเทศได้ทั้งหมด
ดังนั้น ททท.จะต้องเปิดช่องให้เกิดการเดินทางต่างประเทศ
บนพื้นฐานความปลอดภัยด้านสาธารณสุขของพี่น้องคนไทยต้องปลอดภัย
โดยจะคงรายได้ท่องเที่ยวปีนี้ไว้ให้ได้ 50 %
ในส่วนของ
“ตลาดต่างประเทศ”
ได้เห็นสัญญาณมาตั้งแต่เริ่มนโยบายเปิดประเทศ 1 พฤศจิกายน 2564 เป็นต้นมา
เห็นความต้องการเดินทางจากนักท่องเที่ยวต่างประเทศตลาดระยะไกลเดือนละ 2-3 แสนคน อยู่ในวิสัยที่สามารถทำได้หากประเทศต้นทางไม่เกิดการระบาดมาก
ถ้าจะดีกว่านั้นจะเห็นอีกกระแสการเดินทางจากตลาดระยะใกล้จาจีน ญี่ปุ่น
ซึ่งอาจจะต้องใช้เวลา
ดังนั้นโครงการสำคัญจึงเน้น
1.สินค้าท่องเที่ยวใหม่
ๆ นำเสนอเพราะหลังโควิดเชื่อว่าคนจะหันมาสนใจ Medical & Wellness เพิ่มขึ้น 2.Gen Y ก็อาจจะมีความกล้าเดินทางมากขึ้น
ททท.จึงใช้จังหวะนี้ให้ ททท.ต่างประเทศทั่วโลก 29 แห่ง รุกเจาะทั้ง 2 ตลาดนี้ พร้อม ๆ
กับการสร้างความเชื่อมั่นว่าประเทศไทย ปลอดภัยท่องเที่ยวได้
ขณะที่
“ตลาดในประเทศ” ต้องขอบคุณ รมว.พิพัฒน์ รัชกิจประการ
ที่ขอของขวัญปีใหม่ให้พี่น้องประชาชนคนไทย ดำเนินโครงการ “เราเที่ยวด้วยกันเฟส 4”
ตอนนี้ ททท.กำลังหารือกับทางสำนักงานคณะกรรมการสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
หรือสภาพัฒน์ เรื่องรายละเอียดโครงการ โดยจะมีจำนวนห้องเพิ่มให้นักท่องเที่ยวใช้สิทธิ์จองได้
2 ล้านห้อง
เนื่องจากโครงการ “เราเที่ยวด้วยกัน เฟส 3” จะสิ้นสุดวันที่ 31 มกราคม 2565 เบื้องต้นหารือกันถึงรายละเอียดดังนี้
1.การเปิดให้นักท่องเที่ยวจองก่อน แล้วเริ่มเดินทางท่องเที่ยวตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2565 ได้เลย ครอบคลุมไปถึงเทศกาลเดินทางเที่ยวสงกรานต์ ปิดเทอม เมื่อโรงเรียนเริ่มหยุดคนก็อาจจะกลับมาใช้ชีวิตนอกบ้านมากขึ้น ข้อมูลนี้เป็นแนวคิดเบื้องต้นที่วางไว้
2.คนที่ใช้สิทธิ์ไปแล้วก็คงจะไม่ได้เพิ่มให้ เพราะยังมีคนยังไม่ได้สิทธิ์อีก 8-9 ล้านคน ดังนั้นเฟส 4 จะเชิญชวนผู้ที่ยังไม่ได้เข้าร่วมโครงการเฟส 3 มาใช้สิทธิ์เฟส 4 ส่วนผู้ประกอบการโรงแรมยังคงจำนวนไว้เท่าเดิม
3.ความเข้มข้นมาตรการตรวจผู้เข้าร่วมโครงการ จะเพิ่มการสแกนใบหน้าเมื่อเช็คเอาท์ เพราะปัจจุบันสแกนใบหน้าเฉพาะตอนเช็คอินเท่านั้น เป็นมาตรการใช้งบประมาณอย่างคุ้มค่าเกิดประสิทธิภาพรัดกุมมากที่สุด
รวมทั้งมีตลาดในประเทศ
ททท.ยังเตรียมเดินหน้าทำอีก 2 โครงการสำคัญ ได้แก่
โครงการที่ 1 เที่ยวไทย ชา ชัวร์ (SHA-SURE)
จะบอกให้นำปากกามาวงได้เลยว่าเดินทางท่องเที่ยวที่ไหนปลอดภัย
โครงการที่ 2 โทเค่น (TOKEN) เที่ยว ขานรับเทรนด์ดิจิทัลเป็นการแลกเหรียญโทเค่นแล้วนำไปใช้กินเที่ยวได้ เพื่อโครงการพิเศษที่ทำมาเพื่อกระตุ้นคนไทยเที่ยวในประเทศโดยเฉพาะ วิธีการคือ จะดีไซน์รูปแบบการท่องเที่ยวให้นักท่องเที่ยวออกไปเก็บเกี่ยวประสบการณ์ เป็นการกระตุ้นเพิ่มความถี่การเดินทาง ยิ่งเที่ยวมากก็จะยิ่งได้เหรียญสะสมเพิ่มมากขึ้นเท่านั้น แล้วก็สามารถนำเหรียญไปแลกสิทธิประโยชน์พิเศษเฉพาะตัวไม่เหมือนใคร
ตอนนี้อยู่ระหว่างการหารือกับพันธมิตรเกี่ยวข้อง อาจจะจัด Meet & Greet หรือกิจกรรมดึงความสนใจให้คนเข้ามาร่วมโครงการ เช่น การท่องเที่ยวช่วงต้นปี หน้าหนาว อากาศเย็น รวมทั้งใช้เหรียญโทเค่นเข้าไปทำโครงการตามนโยบายรัฐบาล เช่น การท่องเที่ยวแบบเศรษฐกิจชีวภาพ-หมุนเวียน-สีเขียว BCG : Bio-Circular Green หรือการท่องเที่ยวเมืองรอง ใช้ “แลกเหรียญโทเค่นท่องเที่ยว” กระตุ้นคนไทยในประเทศออกเดินทาง “เพิ่มความถี่” ได้มากขึ้น
เพราะกลยุทธ์กระตุ้นการท่องเที่ยวตามปกติแล้วทำได้
3 อย่าง คือ 1.กระตุ้นเพิ่มการใช้จ่าย 2.กระตุ้นเพิ่มความการเดินทาง 3.กระตุ้นให้พักนานขึ้น
โดยจะสร้างความมั่นใจผ่านเที่ยวไทย ชา ชัวร์
ดร.ยุทธศักดิ์ กล่าวว่า ททท.ยังมีโครงการไฮไลต์ที่จะต้องขอบคุณทางกรุงเทพมหานคร อนุญาตให้ใช้สถานที่ จัด”เทศกาลเที่ยวเมืองไทย” ที่ภายในบริเวณสวนลุมพินี ระหว่างวันที่ 19 - 23 มกราคม 2565 โดยทำทุกอย่างเป็นตามขั้นตอนปฏิบัติความปลอดภัยด้านสุขอนามัย ททท.ไม่ได้จัดงานนี้มา 2-3 ปีแล้ว เพราะเป็นช่วงปิดปรับปรุงสวนด้วย เราผ่านการจัดงานเคาน์ดาวน์มาแล้ว โดยปฏิบัติตามมาตรการสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด ซึ่งไม่มีใครอยากให้เกิด “คลัสเตอร์การระบาดของโควิด” ซึ่งแน่นอนการจัดงานก็เพื่อกระตุ้นการใช้จ่ายในประเทศ แต่จะต้องไม่ใช่สาเหตุของการระบาดโควิดครั้งใหม่ ททท.จึงคงเดินหน้าจัดงานดังกล่าว
รูปแบบการจัดเทศกาลเที่ยวเมืองไทย ปี 2565 ได้ปรับแนวทางกระตุ้นการท่องเที่ยว จากเดิม ททท.ให้ความสำคัญกับ “แหล่งท่องเที่ยว” ค่อนข้างมาก แต่จากนี้เป็นต้นไปจะเน้นการขาย “ประสบการณ์การเดินทาง” โดยมีเรื่องราวหรือ Story Telling ประชาสัมพันธ์เน้นเที่ยวด้วยประสบการณ์เป็นหลัก เช่น “ภาคเหนือ -Nostalgia: คิดถึงวันวาน” ภาคอีสาน -IN LOVE ภาคใต้ -อาหาร ภาคตะวันออก -สบาย ๆ ภาคกลาง -IN TRENDs เพิ่มประสบการณ์ท่องเที่ยวแต่ละภาค ขณะเดียวกันก็สอดแซกประเพณี วัฒนธรรมต่าง ๆ พร้อมกับการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ทำให้เกิดกลิ่นอายของท้องถิ่นด้วย
ฉนั้นการจัดเทศกาลเที่ยวเมืองไทย
ปี 2565 ทุกอย่างจะอยู่ครบ
ทั้งเรื่อง การแสดง การจำหน่ายอาหารท้องถิ่น ซึ่ง ททท.ต้องการที่จะกระตุ้นฟื้นฟูเศรษฐกิจประเทศ
แต่จะต้อง “จำกัดจำนวนคนเข้าร่วมงาน” แต่ละวัน
เนื่องจากการจัดงานในช่วงสถานการณ์โควิด จึงต้องเน้นใช้มาตรการ COVID FREE
SETTING อย่างเคร่งครัด
กำลังประชาสัมพันธ์เพื่อให้คนรับรู้ให้ได้มากที่สุด
ภายในงานเทศกาลเที่ยวเมืองไทย
จะเปิดตัวโครงการ “โทเค่น เที่ยว” และอีกหลายโครงการเกี่ยวกับ “จักรวาลนฤมิตร
หรือ Metaverse” อีกไม่กี่วันก็จะได้พบกับเปิดตัวแต่ละโครงการภายในงานรับรองว่าตื่นเต้นอย่างแน่นอน
ส่วนกลยุทธ์กระตุ้น
เจาะกลุ่มกำลังซื้อ “ตลาดคนไทยเคยเที่ยวนอก” หันมา “เที่ยวในประเทศ”
เพื่อเพิ่มส่วนแบ่งรายได้นั้น ปัจจุบันตลาดกลุ่มนี้ก็เที่ยวเมืองไทยอยู่แล้ว
สิ่งที่จะทำได้จากนี้ไป คือ
1.ททท.กระตุ้นให้กลุ่มนี้หันมาใช้ในโครงการ
“เราเที่ยวด้วยกัน” พักโรงแรมหรู ๆ แล้ว
ททท.ก็อาจจะนำมาทำแพกเกจขายตลาดนี้ในโครงการ “เที่ยว ชา ชัวร์” ด้วยได้ เพราะส่วนใหญ่จะเดินทางเป็นครอบครัว
หากเกิดความมั่นใจก็สามารถเดินทางได้ อาจจะไม่ได้เที่ยวมาเป็นปีหรือ 2 ปีแล้ว ก็อยากจะไปเที่ยวเมืองไทย
2.โครงการ
“โทเค่น เที่ยว” ก็เป็นอีกหนึ่งแรงกระตุ้นได้ เพราะคนเหล่านี้เป็นนักลงทุนในระบบเศรษฐกิจอยู่แล้ว
ก็อาจจะสนใจเที่ยวโดยใช้โทเค่นที่ ททท.เตรียมทำด้วยเช่นกัน
ผู้ว่าฯ
ย้ำว่า การออกเดินทางท่องเที่ยวในประเทศปี 2565 นั้น หลังจากผู้คนเจอสถานการณ์โควิดมา 2 ปีแล้ว จึงทำให้เห็นว่าเราต้องปรับตัวสู่วิถีใหม่
การจำกัดการเดินทางไม่ได้สร้างผลดีต่อเศรษฐกิจประเทศ ไม่ว่าจะเป็นภาคส่วนใดก็ตาม
ขณะที่ “การท่องเที่ยว” เป็นส่วนหนึ่งของเศรษฐกิจในชีวิต
ดังนั้นผมคิดว่าการออกเดินทางจะเป็นส่วนหนึ่งทำให้การฟื้นประเทศ
และการท่องเที่ยวกลับมาได้ แต่แน่นอนต้องเป็นการท่องเที่ยวภายใต้วิถีใหม่
ทุกฝ่ายต้องปรับตัวไปพร้อม ๆ กัน ทั้ง ททท.ปนักท่องเที่ยว ภาคธุรกิจ อีกทั้งปี 2565
เป็นการเข้าโหมดฟื้นฟูเศรษฐกิจ
และการท่องเที่ยวกลับมา ภายใต้มาตรการควบคุมโรค
เพราะโควิดจะอยู่กับเราไปอีกพอสมควร
ส่วนการจับมือระหว่าง
ททท.กับ พันธมิตร ปี 2565
เดินหน้าสู่การท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนทั้งเรื่อง BCG และ การท่องเที่ยวลดการปล่อยคาร์บอนอย่างสมดุล :
Neutral Carbon/Zero Carbon และการท่องเที่ยวอย่างมีส่วนร่วมรับผิดชอบ
RT :Responsible Tourism ต้องทำอย่างเข้มข้นที่จะต้องทำร่วมกับพันธมิตร
ที่จะเอาประโยชน์จากท่องเที่ยวที่ต้องรับผิดชอบสร้างความยั่งยืน
เช่นโครงการ โทเค่น เที่ยว ของ ททท.ก็สามารถที่จะใช้ขับเคลื่อนการท่องเที่ยวทั้ง BCG และ ลดการปล่อยคาร์บอน ได้ แจกเหรียญนักท่องเที่ยวด้วยเช่นกัน เพราะโครงการนี้สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้หลายอย่าง ไม่แต่เฉพาะกระตุ้นความถี่การเดินทางเท่านั้น ยังสามารถทำให้บรรลุวัตถุประสงค์อื่น โดยทำงานร่วมกับพันธมิตรเพิ่มหลายมิติได้
สำหรับ “ผู้ประกอบการท่องเที่ยว” สมาชิกสมาคมต่าง ๆ ททท.จะดูแลเช่นกัน สิ่งแรก จะต้องปรับ My set ก่อนโดยทำความเข้าใจว่าการท่องเที่ยวไม่ได้เหมือนเดิมอีกต่อไป ททท.จะช่วย Up-Re-New Skill บวกการช่วยแสวงหา พันธมิตรเข้ามาช่วยเหลือการเพิ่มให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทาง “ดิจิทัล” มากขึ้น เพราะเชื่อว่าโลกหลังโควิดเป็นเรื่องที่ต้องเปลี่ยนแปลงอย่างแน่นอน
ไม่เฉพาะการเปลี่ยนแปลงทางการตลาดเท่านั้น ยังมีการเปลี่ยนแปลง ด้านอุปสงค์ และด้านอุปทาน ไปสู่ยุคการใช้ประโยชน์จากดิจิทัลมากขึ้นเป็นความจำเป็น และสุดท้ายจะทำให้ผู้ประกอบการปรับธุรกิจให้สอดคล้องกับพฤติกรรมของนักท่องเที่ยว ไม่ว่าจะเป็นในประเทศหรือต่างประเทศ ททท.ก็ต้องทำต่อเนื่องต่อไป
ผู้ว่าฯ
ยุทธศักดิ์กล่าวว่า “ขวัญปีใหม่ 2565” ความจริงรัฐมนตรีพิพัฒน์
รัชกิจประการ ได้มอบให้คนไทยไปแล้ว ส่วน ททท.ก็ขอให้ทั้งชาวไทยและต่างชาติคนเดินทางปลอดภัยทั้งชีวิตทรัพย์สิน
สุขภาพ สาธารณสุข ขออวยพรให้การท่องเที่ยวคือความสุขที่แท้จริงของทุกคน
ฟังข่าวท้ายชั่วโมง
ข่าวที่ 1 “คิง เพาเวอร์”แจกปีใหม่สุข3ขั้น”บัตรสมาชิก-แคชการ์ด-รางวัลช้อป”
กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ มอบความสุขต้อนรับปีเสือ 2565 ! มีไฟลต์บินหรือไม่มีไฟลต์บินก็ช้อปได้!เตรียมช้อป สุขขั้นที่ 1 สมัครเลย! สมัครสมาชิก คิง เพาเวอร์ SCARLET ใหม่เพียงเติมเงินเข้าบัญชีสมาชิก 6,000 บาท รับเพิ่ม 1,500 บาท* พร้อมรับส่วนลด 10% ตลอดอายุสมาชิก (ใช้ร่วมกับโปรโมชั่นเเพ็กเกจส่วนลดได้)
สุขขั้นที่ 2 ! ซื้อ CASH CARD ช้อปง่าย
ได้คุ้ม! ที่ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ ศรีวารี พัทยา เเละภูเก็ต
รับฟรี! GIFT CARD10,000 บาท*เมื่อซื้อ CASH CARD 25,000 บาท(ไม่สามารถใช้ร่วมกับเเพ็กเกจส่วนลด 3 ใบได้) และผ่อนคุ้ม ! จากบัตรเครดิตที่ร่วมรายการ ผ่อน 0% x สูงสุด 10 เดือน*
สุขขั้นที่ 3 รับสิทธิ์ลุ้นรับของขวัญพิเศษ รวม 31 รางวัล 1.ช้อปครบทุก 5,000 บาท
(สุทธิ)ลุ้นรับ! คูปองตัวอักษร สะสมให้ช้อปสนุก ที่ รางน้ำ พัทยา และศรีวารี 2.เมื่อช้อปครบทุก 10,000 บาท (สุทธิ)รับคืน GIFT
VOUCHER สูงสุด 10,000 บาท จำกัดยอดซื้อสินค้าสูงสุด
100,000 บาท/คน/วัน
ข่าวที่ 2 แจกปีใหม่!!คิงเพาเวอร์ให้คูปองฟรี9,500บาท+อิ่มฟรี500บาท
กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ มอบความสุขต้อนรับปีใหม่ สามารถช้อปได้ทุกช่องทางเพื่อรับด่วนคนละ 1 สิทธิ์ /วัน โดยนับสิทธิ์รวมทุกสาขากับเซอร์ไพรส์จัดเต็มทุกวัน ! รับฟรีคูปองส่วนลด ที่ รางน้ำ พัทยา และศรีวารี แจกจริง 3 ใบ มูลค่ารวม 9,500 บาท
ใบที่ 1
ส่วนลด 1,500 บาท สำหรับช้อป 6,000 บาทขึ้นไป/ใบเสร็จ
ใบที่ 2
ส่วนลด 3,000 บาท สำหรับช้อป 10,000 บาทขึ้นไป/ใบเสร็จ
ใบที่ 3 ส่วนลด 5,000 บาท สำหรับช้อป 15,000 บาทขึ้นไป/ใบเสร็จ
พิเศษ อิ่มฟรี ! 500 บาท ได้ทุกวันที่ THAI TASTE HUB รางน้ำ และ THAI TASTE HUB @SRIVAREEเมื่อมียอดช้อปครบ
10,000 บาทขึ้นไป (สุทธิ)/ใบเสร็จ ระหว่างวันนี้- 3 มกราคม 2565
ที่ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ พัทยา คิง
เพาเวอร์ ศรีวารี และภูเก็ต
ข่าวที่ 3 “พูลแมนคิงเพาเวอร์”เปิดมื้อพิเศษFestive Dinning4ห้องอาหาร
โรงแรมพูลแมน คิง เพาเวอร์ จัดเต็ม “Festive Dining” สนุกสุขสันต์ต้อนรับเทศกาลแห่งความสุข ส่งท้ายปี คิง เพาเวอร์ ชวนทุกคนมาทำคอนเท้นต์ความสุข ตั้งแต่เช้าถึงค่ำกับความอร่อยในหลากหลายบรรยากาศ
1.คอร์สโอมากาเสะมื้อกลางวันและมื้อค่ำกับเชฟโกจิ ณ ห้องอาหารเท็นโกะ Tenko Omakase
2.ชุดเฟสทีฟน้ำชายามบ่าย อาหารคาวหวาน ที่รอให้คุณมาลิ้มลอง ณ The Junction
3.เซ็ตอาหารญี่ปุ่นมื้อค่ำ ที่ห้องอาหารตกแต่งสไตล์โมเดิร์น ณ. ห้องอาหารเท็นชิโนะ Tenshino Bangkok
4.ส่งท้ายด้วยชุดของขวัญสำหรับคนพิเศษส่งท้ายปี
ด้วยกระเช้าของขวัญ ที่เราคัดสรรให้อย่างพิถีพิถันด้วยวัตถุดิบชั้นดี
สอบถามเพิ่มเติม
โทร. 02 680 9999
ข่าวที่ 4 ททท.ผนึก3สนามกอล์ฟดังเมืองปทุมจัดโปรวันธรรมดาตลอดม.ค.65
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานกรุงเทพฯ ดูแลพื้นที่ท่องเที่ยวใกล้กรุง รายงานว่า ได้จัดแคมเปญกระตุ้นตลาดคุณภาพจัด “สุขยกก๊วน ชวนเที่ยวปทุม” โดยได้จับมือกับผู้ประกอบการสนามกอล์ฟแถวหน้าของปทุมธานี 3 แห่ง ได้แก่ ชวนผู้ชื่นชอบกีฬากอล์ฟเลือกไปออกรอบสนับสนุนการท่องเที่ยว “วันธรรมดา” ทุกวันจันทร์ตลอดเดือนมกราคม 2565 ให้สิทธิเฉพาะล้นไทย ลุ้นรับของที่ระลึก 180 สิทธิ์/สนาม เมื่อออกรอบครบทั้ง 3 สนาม
สนามแรก อัลไพน์กอล์ฟ ราคาพิเศษเพียง 2,500 บาท ราคานี้รวม กรีนฟี / แคดดี้ / รถกอล์ฟ(สามารถใช้ได้เฉพาะวันจันทร์ ในเดือนมกราคม2565 ยกเว้นวันนักขัตฤกษ์ โทร.02-577-333
สนามที่สอง เดอะ อาร์จี ซิตี้ กอล์ฟ คลับ สามารถใช้โปรโมชั่นราคา 2,500 บาท ได้เฉพาะวันอังคารเท่านั้น โทรสำรองการออกรอบได้ที่ 02-577-8500
สนามที่สาม ริเวอร์เดล กอล์ฟ คลับ สามารถใช้โปรโมชั่นราคา 2,500 บาท ได้เฉพาะวันพุธเท่านั้น โทรสำรองการออกรอบได้ที่โทร. 02-501-2700
ข่าวที่ 5 บางจากให้ขวัญปีเสือ3บริการพิเศษเติมน้ำมัน-แวะร้านอินทนิล
นายสมชัย เตชะวณิช ประธานเจ้าหน้าที่การตลาดและรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ช่วงเทศกาลปีใหม่ 2565 บางจากฯ เตรียมความพร้อมสถานีบริการน้ำมันบางจาก “Greenovative Destination” ด้วยบุคลากรที่ได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 พร้อมปฏิบัติหน้าที่ให้บริการเพื่อรองรับทุกความต้องการ พร้อมอำนวยความสะดวกด้านอุปโภคบริโภค มอบสิทธิพิเศษแก่นักเดินทาง รวมถึงการรับชำระเงินอย่างปลอดภัย เติมเต็มความสุขให้ทุกการเดินทาง ด้วยไฮไลต์บริการพิเศษดังนี้
พิเศษที่ 1 “เติมบางจาก เติมความสดชื่น” ตั้งแต่วันนี้– 15 มกราคม 2565 เมื่อเติมน้ำมันบางจาก E20 S EVO และไฮพรีเมียมดีเซล S B7 ครบทุก 800 บาท รับน้ำดื่มขนาด 1.5 ลิตร 2 ขวด
พิเศษที่ 2 เติมความสดชื่นที่ร้านกาแฟอินทนิล ระหว่างวันนี้ – 28 กุมภาพันธ์ 2565 จัดเตรียมกาแฟสดที่คัดสรรเมล็ดกาแฟอาราบิก้า 100% รสเข้มข้นหอมกรุ่น พร้อมเมนูเครื่องดื่มอื่น ๆ และของว่างที่หลากหลาย รวมถึงโกโก้ เมนูเครื่องดื่มยอดนิยม ชาและน้ำผลไม้ ที่จะช่วยเติมความสดชื่นผ่อนคลายหายเหนื่อยจากการเดินทาง พร้อมเมนูสุดพิเศษช่วงเทศกาลอย่าง Inthanin Dalgona (อินทนิล ดัลโกน่า) เข้มข้น หอม อร่อย
พิเศษที่ 3 “สมาชิกบางจากรับสิทธิประโยชน์เน้น ๆ แลกคะแนนได้ง่าย ๆ” เมื่อสมัครสมาชิกใหม่และดาวน์โหลด Bangchak Mobile Application แล้ว จะได้รับ 150 คะแนน ตั้งแต่ วันนี้ - 31 มกราคม 2565 สามารถใช้คะแนนสะสมแลกสิทธิประโยชน์โดยกดรับสิทธิ์ที่ฟีเจอร์ E-Coupon โดย 199 คะแนน แลกเครื่องดื่มอินทนิล 1 แก้ว มูลค่า 45 - 55 บาท หรือแลกส่วนลด Shopee 50 บาท หรือแลกเติมเงินมือถือทุกระบบ 50 บาท ใช้ 250 คะแนน แลกรับสติกเกอร์ไลน์ มูลค่า 60 บาท และ 499 คะแนน ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ www.bcpgreenmiles.com
สำหรับร้านสะดวกซื้อท็อปส์ เดลี่ ร้านใบจาก มินิบิ๊กซี ยังจัดเต็มเครื่องดื่ม อาหาร สินค้าอุปโภคบริโภค ของใช้จำเป็น รวมถึงมีตู้เอทีเอ็มไว้พร้อมให้บริการ Greenovative Destination ของทุกการเดินทาง และในวาระดิถีขึ้นปีใหม่ 2565
ช่วงที่ 2 มาเริ่มต้นสิ่งดี ๆ ปีใหม่ 2565 สักการะขอพรสถานที่ใกล้กรุง“พระนครศรีอยุธยา”
เติมพลังศรัทธา 9 วัด แล้วต้องใส่ใจเลือก “5 วิธีเลือกโปรแกรมตรวจสุขภาพปีเสือ” และข่าวรับศักราชใหม่ ข่าวแรก “ทอท.ลุยเสนอบอร์ด”
ม.ค.65 ขยายสุวรรณภูมิ 6,600 ล้านบาท และ
“กระทรวงอุตสาหกรรม” ให้ดีพร้อมชิงโชว์ผลงานเปิด “ชุมชนท่องเที่ยวสร้างสรรค์”
รับเทรนด์ไมโครทัวริสซึ่มปี 2565
พาเที่ยว-เที่ยวรับพรปีใหม่ไหว้พระใกล้กรุงที่พระนครศรีอยุธยา 9 วัด
เที่ยวรับพรปีใหม่ ตั้งเข็มไมล์ไปขอพรไหว้พระเสริมสิริมงคลที่ “พระนครศรีอยุธยา” รับพรพิเศษปี 2565ครบรอบ 30 ปี ยูเนสโกประกาศขึ้นทะเบียนอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยาเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรม เที่ยวรับพลังศรัทธา ไหว้พระ 9 วัด
วัดแรก “วิหารพระมงคลบพิตร” - วัดเก่าแก่ในเขตกำแพงเมือง ภายในวิหารประดิษฐานพระพุทธรูปประธานขนาดใหญ่ นามว่า พระมงคลบพิตร เป็นพระพุทธรูปหล่อด้วยทองสัมฤทธิ์ ลงรักปิดทองงดงาม ส่วนวัดนั้นสร้างในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนต้นบนแผ่นดินสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ ซึ่งได้รับการบูรณะอย่างดีทำให้มีความสมบูรณ์อย่างในปัจจุบัน
วัดที่ 2 วัดพระศรีสรรเพชญ์ - วัดเก่าแก่ในอยุธยา สร้างขึ้นในสมัยสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ เป็นวัดที่สร้างอยู่ในพระราชวังหลวงของพระนครศรีอยุธยาในสมัยอดีต โบราณสถานที่สำคัญคือ เจดีย์ทรงลังกา 3 องค์ที่วางตัวเรียงกัน ภายในบรรจุพระบรมอัฐิของสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ สมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 3 และสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 2
วัดที่ 3 วัดพระราม - จุดเด่นของวัดอยู่ที่ พระปรางค์องค์ใหญ่ที่ตั้งเด่นเป็นสง่า และมองเห็นแต่ไกล รวมถึงมีบึงน้ำขนาดใหญ่อยู่ด้านหน้าวัด ชื่อว่า บึงพระราม ปัจจุบันได้กลายเป็นสวนสาธารณะ สำหรับพักผ่อนหย่อนใจของชาวอยุธยา
วัดที่ 4 วัดราชบูรณะ - วัดสร้างขึ้นในสมัยของเจ้าสามพระยา โดดเด่นด้วยพระปรางค์ และมีกรุใหญ่ที่เก็บสมบัติล้ำค่า โดยได้ค้นพบพระบรมสารีริกธาตุ พระแสงขันธ์ มงกุฎ ฉลองพระองค์ทองคำ และพระพิมพ์จำนวนมาก โดยได้นำไปจัดแสดงที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติเจ้าสามพระยาให้ประชาชนได้ชม
วัดที่ 5
วัดมหาธาตุ -
วัดชื่อดังในเขตอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา เป็นที่ประดิษฐานพระบรมธาตุ
โดยมีจุดสำคัญคือ เศียรพระพุทธรูปในรากไม้อายุกว่าร้อยปี ซึ่งนับเป็นจุด Unseen ที่ใครมาอยุธยาต้องมาชม
วัดที่ 6
วัดธรรมิกราช -
อดีตพระอารามหลวงในสมัยกรุงศรีอยุธยา
มีการพบเศียรพระธรรมิกราชซึ่งเป็นเศียรพระพุทธรูปสำริดขนาดใหญ่
และยังมีเจดีย์ทรงกลมล้อมด้วยปูนปั้นรูปสิงห์ที่หาชมได้ยาก
วัดที่ 7 วัดไชยวัฒนาราม - โบราณสถานเก่าแก่ในอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา สร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าปราสาททอง ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา มีจุดสำคัญ คือ พระปรางค์ศรีรัตนมหาธาตุ และระเบียงคดทั้ง 4 ทิศ โดยบรรยากาศจะสวยงามเป็นพิเศษในช่วงพระอาทิตย์ตกดิน
วัดที่ 8 วัดพนัญเชิงวรวิหาร - วัดสำคัญในอยุธยา คนนิยมมาสักการะพระพุทธไตรรัตนนายก หรือ หลวงพ่อโต พระพุทธรูปปางมารวิชัยองค์ใหญ่ ศิลปะอู่ทองสีทองอร่ามสวยงาม และบริเวณติดกับแม่น้ำป่าสักยังเป็นที่ตั้งของศาลเจ้าแม่สร้อยดอกหมาก ที่ประดิษฐานรูปปั้นเจ้าแม่สร้อยดอกหมาก คนนิยมมาขอพรเรื่องความรักและการงาน
วัดที่ 9
วัดโลกยสุธาราม -
สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนต้น จุดเด่นของวัดคือ พระพุทธไสยาสน์
หรือพระนอนองค์ใหญ่ ความยาว 42 เมตร สูง 8 เมตร ประดิษฐานอยู่กลางแจ้ง
นักท่องเที่ยวนิยมมาสักการะขอพร และปิดทองพระนอนองค์จำลองขนาดเล็ก
เพื่อความเป็นสิริมงคล
สุขภาพ - 5 วิธีการเลือกโปรแกรมตรวจสุขภาพปี’65ให้โดนใจใช่เลย
การตรวจสุขภาพเป็นประจำก็เป็นเรื่องที่สำคัญที่ไม่ควรมองข้าม
มีโปรแกรมตรวจสุขภาพให้เลือกตัดสินใจ 5 วิธี ที่โดนใจใช่เลยดังนี้
1.ช่วงอายุเพราะระบบการทำงานของร่างกายที่แตกต่างกันในแต่ละช่วงวัย
จึงมีสิ่งที่ต้องเฝ้าระวังที่แตกต่างกัน เช่น
-กลุ่มวัยทำงานช่วงอายุ 18 – 35 ปี เป็นช่วงที่ร่างกายแข็งแรงและค่อย ๆ เจริญเติบโตอย่างสมบูรณ์
จัดอยู่ในช่วงที่มีสุขภาพแข็งแรง
เหมาะสมกับโปรแกรมตรวจสุขภาพแบบธรรมดาที่ครอบคลุมการตรวจเช็คร่างกายทั่วไป
-กลุ่มวัยทำงานช่วงอายุ 35 - 60 ปี กลุ่มนี้เหมาะสมกับโปรแกรมที่มีการตรวจเพิ่มเติมเพื่อหาความเสี่ยงต่อโรคต่าง ๆ ตามองค์ประกอบอื่น ๆ เช่น เพศ โรคทางพันธุกรรม เป็นต้น นอกจากนี้ยังควรเน้นการตรวจสุขภาพตา และมะเร็งลำไส้ใหญ่เมื่ออายุ 40 ปีขึ้นไป
- กลุ่มผู้สูงอายุช่วงอายุ 60 ปีขึ้นไป ควรเลือกโปรแกรมตรวจสุขภาพผู้สูงอายุโดยเฉพาะ
เพราะร่างกายของผู้สูงอายุต้องการตรวจเช็คที่ละเอียด และบ่อยครั้งมากกว่า
เพื่อเฝ้าระวังโรคร้าย และเข้ารับการรักษาได้อย่างทันท่วงที
2. เพศ
ผู้หญิง
- ตรวจเต้านม - ผู้หญิงที่มีอายุ 30
ปีขึ้นไปมีโอกาสเสี่ยงที่จะเป็นมะเร็งเต้านม
ดั้งนั้นควรได้รับการตรวจทุก 3 ปีและอายุ 40 ปีขึ้นไปควรตรวจเป็นประจำทุกปี
- ตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก -
สามารถตรวจเช็คได้ด้วย Pap’s smear และวิธีป้ายหาความผิดปกติโดยใช้กรดอะซิติก (VIA) ซึ่งควรตรวจทุก 3 ปีและ 5 ปี ตามลำดับ
- ตรวจความหนาแน่นของกระดูก
ควรเข้ารับการตรวจความหนาแน่นของกระดูกช่วงกระดูกสันหลังส่วนเอว
และสะโพกเมื่ออายุ 55 ปีขึ้นไป
เพราะเมื่อายุมากขึ้นประสิทธิภาพในการซ่อมแซมของร่างกายก็ลดลงไปด้วย
ผู้ชาย
- ตรวจคัดกรองความผิดปกติของต่อมลูกหมาก -
ควรเริ่มตรวจเมื่ออายุ 30 ปีขึ้นไป
เพื่อป้องกันอาการต่อมลูกหมากอักเสบ โรคต่อมลูกหมากโต และมะเร็งต่อมลูกหมาก
- ตรวจระดับฮอร์โมนเพศชาย
และระบบการทำงานของกระเพาะปัสสาวะ – ควรเริ่มตรวจตั้งแต่อายุ 50
ปี
3. ประวัติอาการเจ็บป่วยของคนในครอบครัว - เพราะโรคบางชนิดสามารถถ่ายทอดได้ทางพันธุกรรม เช่น โรคโลหิตจางธาลัสซีเมีย โรคมะเร็ง โรคหัวใจ โรคเบาหวาน เป็นต้น ดังนั้นควรเลือกโปรแกรมที่ครอบคลุมการตรวจเช็คโรคเหล่านี้ เพื่อเฝ้าระวังอาการและรักษาได้ทัน
4. พฤติกรรมและอาชีพ -หากคุณมีพฤติกรรมการใช้ชีวิตหรือการทำงานที่ไม่เหมาะสมอยู่เป็นประจำ ทำให้มีความเสี่ยงที่จะทำให้เกิดอาการเจ็บป่วย เช่น โรคทางระบบหัวใจ โรคความดันโลหิตสูง โรคมะเร็ง โรคเบาหวาน โรคออฟฟิศซินโดรม เป็นต้น ดังนั้นควรเลือกโปรแกรมการตรวจสุขภาพที่ครอบคลุมถึงปัจจัยความเสี่ยงเหล่านั้น เช่น ผู้ที่ดื่มสุรา ควรเลือกโปรแกรมที่มีการตรวจค่าตับและไต เป็นต้น
5. ความคุ้มค่าของโปรแกรม -โปรแกรมการตรวจร่างกายที่คุ้มค่าที่สุดคือโปรแกรมที่ครอบคลุมกับสิ่งที่คุณต้องการในราคาที่คุณพึงพอใจที่สุด
เมื่อถึงเวลาเข้ารับการตรวจสุขภาพประจำปี สามารถเลือกเปรียบโปรแกรมจากหลากหลายโรงพยาบาลโดยใช้องค์ประกอบที่กล่าวมาข้างต้นเพื่อเลือกสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับทุกคน
ฟังข่าวท้ายชั่วโมง
ข่าวแรก “ทอท.”จ่อชงรองฯบอร์ดอนุทินม.ค.65ลุยขยายสุวรรณภูม6.6พันล้านบาท
นายกีรติ กิจมานะวัฒน์ รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด มหาชน “AOT/ทอทเปิดเผย ว่า เตรียมเสนอที่ประชุมเสนอคณะกรรมการ (บอร์ด) ทอท.เดือนมกราคม 2565 ที่มี นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธาน พิจารณาอนุมัติแนวทางการเพิ่มขีดความสามารถของอาคารผู้โดยสารสนามบินสุวรรณภูมิ โครงการก่อสร้างส่วนต่อขยายอาคารผู้โดยสารหลักหลังที่ 1 ด้านทิศตะวันออก (East Expansion) วงเงินลงทุน 6,600 ล้านบาท
โครงการก่อสร้างส่วนต่อขยายอาคารผุ้โดยสารหลังที่
1 ด้านทิศตะวันออก
ได้บรรจุอยู่ในแผนแม่บทการพัฒนาสนามบินสุวรรณภูมิที่ผ่านมาความเห็นเรียบร้อยแล้ว โดยไม่มีข้อโต้แย้งเรื่องการก่อสร้าง
รวมถึงสมาคมการขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ (IATA) ยืนยันผลการศึกษาสนับสนุนด้านความเหมาะสมในการดำเนินการก่อสร้าง
และสำนักงานคณะกรรมการสภาการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) รับทราบเรียบแล้วเช่นกัน
ข่าวสอง ก.อุตสาหกรรมชิงต่อยอด”ไมโครทัวร์-ชุมชนสร้างสรร”ช่วยท่องเที่ยวปี’65
นายณัฐพล
รังสิตพล อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม(ดีพร้อม)
เปิดเผยว่า ดีพร้อม มีบทบาทพัฒนาอุตสาหกรรมเชื่อมโยงภาคท่องเที่ยวชุมชน รวมถึงวิสาหกิจชุมชนที่อยู่ตามภูมิภาค
ขานรับนโยบายนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม
มีนโยบายให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมความพร้อมในการบูรณาการทำงานร่วมกันเพื่อให้การท่องเที่ยวของไทยกลับมาฟื้นตัวโดยเร็ว
ล่าสุดพบนักท่องเที่ยวและประชาชนหันมาสนใจทำโมเดล
“Micro Tourism” นำรูปแบบการท่องเที่ยวที่จำกัดจำนวนนักท่องเที่ยว
ความปลอดภัย เวลา และค่าใช้จ่าย
รวมถึงทางเลือกของสถานที่ที่ผู้คนให้ความสนใจเมืองเล็ก เมืองรอง หรือชุมชน
เพื่อหลีกเลี่ยงความแออัดจากสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยม
ตอบโจทย์งบประมาณที่จำกัดมากขึ้น จึงมอบหมายให้กองพัฒนาอุตสาหกรรมชุมชน
พัฒนาโครงการให้ตรงเพื่อแก้ปัญหาให้ความต้องการของผู้ประกอบการ
ตั้งเป้าหมายสร้างมูลค่าให้กับสินค้าวิสาหกิจชุมชน ชุมชนซีไอวีโดยเร็ว
ดังนั้น ดีพร้อม
จึงวางแนวทางฟื้นฟูภาคส่วนดังกล่าวเพื่อสนับสนุนภาคการท่องเที่ยวชุมชนและวิสาหกิจชุมชนให้มีโอกาสสร้างมูลค่าจากการดำเนินธุรกิจได้อีกครั้ง โดยวางแผนเดินหน้าแนวทางฟื้นฟูการท่องเที่ยวเชิงบูรณาการ
ประกอบด้วย
1.การพัฒนาหมู่บ้านอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ (ซีไอวี)
ให้มีความแข็งแกร่งและชัดเจนมากกว่าที่ผ่านมา
มุ่งคัดเลือกพื้นที่ที่มีอัตลักษณ์ทางภูมิศาสตร์และวัฒนธรรม
ทำให้สินค้าออกสู่ตลาดได้ทั้งช่องทางออนไลน์ –
ขายผ่านนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาท่องเที่ยวในชุมชน
ผลักดันให้รู้จักวิธีจัดทำบริการท่องเที่ยว ที่พัก องค์ประกอบดึงดูดนักท่องเที่ยว
2.ส่งเสริมด้านเทคโนโลยี
ผู้ประกอบการหรือแต่ละชุมชนต้องเร่งปรับตัวให้ทัน ใช้ช่องทางการค้าขายออนไลน์
เรียนรู้เทคนิคในการไลฟ์สดเพื่อนำเสนอภาพลักษณ์ที่น่าสนใจของชุมชน
การใช้แพลตฟอร์มที่เกี่ยวข้องกับคำค้นหาที่พัก หรือ บริการร้านอาหารบนอินเทอร์เน็ต
นำนวัตกรรมพัฒนาสินค้า ลดของเสีย ทำให้สินค้าเก็บได้นาน
3.จะช่วยด้านการออกแบบและความคิดสร้างสรรค์ เพื่อต่อยอดมูลค่าในผลิตภัณฑ์เดิมและผลิตภัณฑ์ใหม่ ผ่านศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคของดีพร้อมทั่วประเทศ ทั้ง 11 แห่ง ศูนย์ออกแบบและพัฒนาผลิตภัณฑ์ (CIV)
น.ส.ผกากานต์ รุ่งประชารัตน์
ผู้นำชุมชนบ้านผาหมี จ.เชียงราย กล่าวว่า ชุมชนบ้านผาหมี
ได้เข้าร่วมกิจกรรมพัฒนาผู้ประกอบการชุมชนในการยกระดับสู่ซีไอวี
ทางกรมฯได้ช่วยวิเคราะห์ปัญหาหลักของชุมชนบ้านผาหมี
มีผู้เชี่ยวชาญให้คำปรึกษาแนะนำการนำอัตลักษณ์และเอกลักษณ์ของชุมชนต่อยอดพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่เป็นของฝากของที่ระลึกประจำชุมชนสร้างการรับรู้สู่ตลาดนักท่องเที่ยว
ให้คำปรึกษาแนะนำช่องทางการตลาดสมัยใหม่
อนาคตทางชุมชนมีแผนดึงเอกลักษณ์ของทางวัฒนธรรม
และวิถีชีวิตคนในพื้นที่เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวจากต่างถิ่นมาสัมผัสความเป็นอยู่ที่สอดแทรกไปด้วยวัฒนธรรม
รวมถึงพัฒนาผลิตภัณฑ์ในพื้นที่ให้เกิดความแตกต่างและโดดเด่นเพื่อเพิ่มมูลค่าสินค้าควบคู่กันไปด้วย
ติดตามฟังรายการได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 11.00-12.00 น.ทาง สวท.FM 97.0 MHz.
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น