ททท.พัทยา”รุกเร็วโกยรายได้เมืองเที่ยวอินเตอร์ฟื้นที่พัก7หมื่นห้อง จัดใหญ่เคาน์ดาวน์ ต่างชาติเพิ่ม2เท่า 26ธ.ค.64ตีปีกรับชาเตอร์ไฟลต์ทัวร์คาซัคสถาน

 “ททท.พัทยา”รุกเร็วโกยรายได้เมืองเที่ยวอินเตอร์ฟื้นที่พัก7หมื่นห้อง

จัดใหญ่เคาน์ดาวน์-ลุยขายวันธรรมดา-เปิดประเทศต่างชาติเพิ่ม2เท่า

26ธ.ค.64ตีปีกรับชาเตอร์ไฟลต์ทัวร์คาซัคสถานบินอู่ตะเภาถึงก.พ.65

คิงเพาเวอร์เปิดแล้ว”มหานครอีเทอรี่”สุดยอดอาหารอร่อย7ร้าน7สไตล์

คิงเพาเวอร์แจกใหญ่ฉลองปีใหม่รับคูปองส่วนลด3ใบรวม9,500บาท

ททท.ชูเทรนด์ใหม่ปี’65งัดNFTXเพิ่มจุดขาย“ธรรมชาติ/อาหาร/สุขภาพ”

“บางจาก”MOUม.เกษตรลุยเน็ตซีโร่บลูคาร์บอนหญ้าทะเลเกาะหมาก

“TCEB”ชี้เป้าสถานที่จัดไมซ์สร้างสรรค์ปี65อีสาน+ใต้ให้เลือก5เส้นทาง

เที่ยวลำปางไม่ตกเทรนด์หนาวนี้เช็คอินที่แอนฟาร์ม-ผาหอบ-แพวังฮือ

“7วิธีท่องเที่ยวชุมชน”อย่างปลอดภัยห่างไกลโควิดทุกทริปทุกที่ทั่วไทย

ทอท.แจ้งข่าวดีเปิดประเทศแอร์ไลน์บินเพิ่มพ.ย.-ธ.ค.1.7หมื่นไฟลต์

“ครัวบินไทย”ชิงรายได้ปีใหม่ขายเค้ก-กระเช้าของขวัญเริ่ม290บาท

“ททท.นครพนม”บูมขายเที่ยวเส้นทางกัญชาบวกเมืองสุขริมโขง3ที่สุด

 

ขจรเดช อภิชาติตรากุล

ผู้อำนวยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานพัทยา

 วันอาทิตย์ที่ 19 ธันวาคม  2564 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทางfacebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen บล็อกเกอร์ #gurutourza #รวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97  #เพ็ญรุ่งใยสามเสน #เที่ยวกับกู๋  #KingPower  #TATPattaya   #Countdownแหลมบาลีฮาย  #คิงเพาเวอร์มหานครอีเทอรี่ #เที่ยวไทยไม่ตกเทรนด์

ฟัง Live สดจากลิงค์นี้ https://fb.watch/9_uZm1MtSL/

                ช่วงที่ 1 เปิดทุกมุมพัทยากับ “ขจรเดช อภิชาติตรากุล” ผู้อำนวยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานพัทยา ลุยจัดกิจกรรมกระตุ้นท่องเที่ยวถี่ยิบทุกสัปดาห์ ฮือฮา “พัทยา เคานด์ดาวน์ 2022” แหลมบาลีฮาย 27-31 ธ.ค.นี้ โรงแรม 7 หมื่นห้อง พร้อมแจกโปรของขวัญปีใหม่ ส่วนแหล่งท่องเที่ยว “แมนเมด” เปิดแล้ว 29 แห่ง เกาะล้านคนล้นหลาม ถนนคนเดินนาเกลือคึกคัก ส่วน “พัทยา มูฟ ออน” ฟื้นเร็วต่างชาติเพิ่มวันละ 2 เท่า 5 อันดับแรก รัสเซีย อังกฤษ เยอรมัน ฝรั่งเศส 26 ธ.ค.นี้ เตรียมรับชาเตอร์ไฟลต์“คาซัคสถาน” บินอู่ตะเภายาวถึง ก.พ.ปีหน้า นำพัทยาผงาดเมืองท่องเที่ยวอินเตอร์อีกครั้ง กระจายรายได้ขยายสู่พื้นที่ใกล้เคียง นาจอมเทียน สัตหีบ ปี’65 รุกขายวันธรรมดา Workation เจาะ 3 ตลาดหลัก “นักท่องเที่ยวทั่วไป-คุณภาพสูง-Expat”  

 

นายขจรเดช อภิชาติตรากุล ผู้อำนวยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานพัทยา เปิดเผยว่า วางแผนกระตุ้นท่องเที่ยวพัทยาต้อนรับส่งท้ายปี ตั้งแต่ศูนย์บริหารสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 (ศบค.) ผ่อนคลายการเดินทางตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2564 พัทยาจัดกิจกรรมอีเวนต์ต่อเนื่องทุกสัปดาห์ เริ่มตั้งแต่งานพลุพัทยาซึ่งหายไปนานปีนี้จัดยิ่งใหญ่สมกับที่ได้กลับมาจัดอีกครั้งช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน รวมทั้งได้จัดงานเทศกาลดนตรี Music Festival จัดทุกเสาร์-อาทิตย์ เว้นเฉพาะตอนจัดเทศกาลลอยกระทงเท่านั้น 

เร็ว ๆ นี้ ททท.พัทยา เตรียมจัดไฮไลต์การท่องเที่ยวงาน “เคาน์ดาวน์ พัทยา 2022” ตั้งแต่ 29-31 ธันวาคม 2564 บริเวณแหลมบาลีฮาย พัทยา มองเห็นเวิ้งวิวอ่าวพัทยาไกลจนถึงเกาะล้าน รองรับนักท่องเที่ยวที่จะมาเคาน์ดาวน์ ตามปกติแล้วทุกวันหยุดสุดสัปดาห์มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาแล้ว จะได้เห็นบรรยากาศเมืองท่องเที่ยวอินเตอร์ ตอกย้ำถึงความพร้อมรับนักท่องเที่ยวรวมทั้งคนไทยเอง เที่ยวใกล้ เที่ยวง่าย ใกล้กรุงเทพและจังหวัดอื่น ๆ โดยให้ความสำคัญมากที่สุดดูแลด้านสาธารณสุข ค่ำคืนวันที่ 31 ธันวาคม นี้ จะมีศิลปินไทยที่มีชื่อเสียงในเกาหลี BamBam GOT7 มาสร้างเซอร์ไพรส์ด้วย

ช่วงเคาน์ดาวน์การรองรับนักท่องเที่ยวทำได้อย่างเต็มที่ เพราะพัทยาเคยมี “ห้องพัก” กว่า 70,000 ห้อง ขณะนี้อาจจะมีบางแห่งเปิดยังไม่สมบูรณ์ แต่พอคนเที่ยวมากช่วงเสาร์-อาทิตย์ โรงแรมก็เปิดมากขึ้น สาเหตุที่โรงแรมยังเปิดได้ไม่หมดเป็นผลมาจากการปิดเมือง แต่ตอนนี้พอมีวัคซีนฉีดไปเกินกว่า 80 % ก็เปิดได้ เพราะสามารถดูแลนักท่องเที่ยวได้ตามมาตรฐานสาธารณสุขอย่างปลอดภัย

 

ห้องพักหรือโรงแรมต่าง ๆ เองได้ทำโปรโมชั่นเพื่อดึงดูดคนเข้ามาเที่ยวช่วงเคาน์ดาวน์ปลายปีนี้ แต่นักท่องเที่ยวจะต้องทำความเข้าใจอาจจะไม่ได้รับความสะดวกมากนัก เพราะจำนวนคนเข้ามาเยอะ ทว่ามั่นใจเรื่องความปลอดภัยด้านสุขอนามัยได้ ดูจากการจัดงาน พัทยา มิวสิค เฟสติวัล และกิจกรรมอื่น ๆ จัดต่อเนื่องถึงทุกวันนี้

 

ขณะนี้ต้องบอกว่า “พร้อมมาก” เพราะร้านอาหารเข้ามาตรฐานตราสัญลักษณ์ความปลอดภัยด้านสุขอนามัย SHA, SHA PLUS แล้วกว่า 1,000 ร้าน บวกกับมีผู้ประกอบการบางส่วนปิดบริการไปสักระยะกลับมาเปิดแล้วเช่นกัน โดยเฉพาะร้านอาหารที่มีดนตรีฟังด้วย “วิถีไนท์ไลฟ์ชีวิตกลางคืน” ในการท่องเที่ยวเมืองพัทยาเริ่มคึกคักมากขึ้น

ส่วน “กลางวัน” ก็สามารถท่องเที่ยวได้ตามปกติ ตัวอย่างแหล่งท่องเที่ยวที่มนุษย์สร้างขึ้นหรือ manmade เปิดเพิ่มขึ้นช่วงปิดตอนโควิด-19 แล้วกว่า 29 แห่ง จากทั้งหมดกว่า 50 แห่ง ถือว่ามีความพร้อมรองรับนักท่องเที่ยวได้ทุกกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็นผู้สูงวัย คู่รัก ครอบครัว ที่เดินทางเที่ยวกลางวัน ขณะที่ “กลางคืน” เองก็มีสีสันแล้ว มีตัวชี้วัดชัดเจนช่วงศุกร์-เสาร์-อาทิตย์ เมื่อประมาณช่วงวันหยุด 5 ธันวาคม ที่ผ่านมา มีนักท่องเที่ยวข้ามไปเที่ยวเกาะล้านถึง 25,000 คน ยืนยันถึงการจัดการได้ดี

อีกทั้งร้านอาหาร สถานประกอบการ ให้ความสำคัญเข้าร่วมาตรฐาน SHA, SHA Plus และพนักงานฉีดวัคซีนครบ ในเกาะล้านจึงถือว่าเที่ยวได้อย่างปลอดภัย

 

สำหรับ “แหล่งท่องเที่ยวฝั่งเมือง” ได้ขยายพื้นที่ไปยัง นาเกลือ นาจอมเทียน บางสะเหร่ มีนักท่องเที่ยวไทยขับรถเที่ยว สามารถกระจายรายได้ทั้งภายในพัทยาและต่อเนื่องสู่พื้นที่รอบข้างด้วย

 

ขณะนี้มีงานท่องเที่ยวทุกศุกร์-เสาร์-อาทิตย์ เทศกาลถนนคนเดิน “เดินกินถิ่นนาเกลือ” ชิม ช้อป แชะ แชร์ ได้ครบวงจร เหมาะกับนักท่องเที่ยวสายวัฒนธรรม ไม่เฉพาะเที่ยวทะเลเพียงอย่างเดียว ทางพัทยามีมาตรการต้องแจ้งผล ATK พนักงานทุก 3 วัน บวกกับมาตรฐานสาธารณสุขมีสูงพออย่างแน่นอน

ผอ.ขจรเดช กล่าวว่า ปี 2565 เตรียมวางแผนกระตุ้น “ท่องเที่ยววันธรรมดา” ปัจจุบันพฤติกรรมคนไทยปรับเข้าไปสู่การเดินทางไปทำงานพร้อมกับท่องเที่ยวด้วย หรือกลุ่ม Workation ททท.ส่งเสริมให้พัทยาเป็นเมืองเวเคชั่น ที่ผ่านมามีนักท่องเที่ยวกระจายตัวเข้ามายังพัทยาวันธรรมดามากขึ้น อัตราการเข้าพักขยับขึ้น โดยมีพนักงานบริการเต็มรูปแบบอย่างใกล้ชิด นักท่องเที่ยวจะได้รับบริการสมบูรณ์เหมือนวันหยุด มีที่นั่ง อาหาร เพียงพอ

รวมทั้งวันธรรมดานั้น “นักท่องเที่ยว” นิยมเดินทางมาทำงานและเที่ยว  ผนวกกับ “ผู้ประกอบการ” มีบริการเพิ่มความเร็วและแรงสัญญาณ Wifi พร้อมกับหลายแห่งปรับตัวเองเป็น “สถานที่ท่องเที่ยว” ควบคู่ไปในตัว ปรับปรุงเพิ่มจุดถ่ายรูป ร้านอาหารเองก็มีมุมทำงานสบาย ๆ มีของว่างบริการ ภาพทั้งหมดนี้จะเห็นชัดเจนตั้งแต่ปี 2565 เป็นต้นไป ททท.พัทยา ร่วมโปรโมตเจาะตลาดเป้าหมายหลักในประเทศ ประกอบด้วย

 

กลุ่มที่ 1 นักท่องเที่ยวทั่วไป รณรงค์ให้ผู้ประกอบการในพื้นที่ทำโปรโมชั่น“เที่ยวพัทยา มาได้ทุกวัน” ไม่จำเป็นจะต้องเป็นเสาร์-อาทิตย์ โดยมี “ราคา” จ่ายแบบคนละครึ่ง

 กลุ่มที่ 2 นักท่องเที่ยวคุณภาพสูง เช่น ผู้ประกอบการ เจ้าของกิจการ คนทำงานอิสระ หรือพรีเมี่ยม เช่น นักเล่นหุ้น ซึ่งมีเวลาว่างเยอะกว่าทั่วไป โดยเฉพาะ “นักกอล์ฟ” ทางเจ้าของสนามต่าง ๆ ทำราคาเล่นกอล์ฟแบบดึงดูดใจ หรือบางสนามก็ให้สิทธิทำโปรโมชั่นพิเศษ เช่น มีแคดดี้ รถกอล์ฟ บริการฟรี

การเจาะกลุ่มตลาดเจ้าของกิจการ ททท.พัทยาจับมือกับเจ้าของเรือยอร์ช ทำแพกเกจ “ล่องเรือยอร์ช วันธรรมดา” เป็นสิ่งที่จับต้องได้สำหรับนักท่องเที่ยวระดับกลางขึ้นไป ยอมจ่ายมูลค่าสูงแล้วได้รับประสบการณ์ประทับใจกลับไป ซึ่งไม่ได้หาได้บ่อยนัก อย่าง นักเรือยอร์ช ชีลเอาท์ ตกหมึก ทำให้การท่องเที่ยววันธรรมดามีสีสัน เติมช่องว่างได้มากขึ้น

กลุ่มที่ 3 ต่างชาติพำนักในพื้นที่หรือ Expat ในพัทยามีหลายประเภท เช่น ลองสเตย์ หรือย้ายเข้ามาในพื้นที่ สามารถเจาะกลุ่มเหล่านี้ได้

ผอ.ขจรเดช อธิบายถึงสถานการณ์ความคืบหน้า “พัทยา มูฟ ออน :PATTAYA MOVE ON” ตามนโยบายเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าพัทยาโดยไม่กักตัว มีสัญญาณดีมากตั้งแต่เริ่มเปิดเมื่อพฤศจิกายน 2564 จนถึงขณะนี้ มีต่างชาติบางกลุ่มเป้าหมาย มีนักลงทุนห่างหายไปนานอยากกลับเข้ามา ตัวเลขนักท่องเที่ยวช่วง 30 วันแรก ประมาณ 10,000 คนเศษ รวมนักท่องเที่ยวต่างชาติกลุ่มเป้าหมาย เรียงตามลำดับ ได้แก่ เยอรมันี สหราชอาณาจักร/อังกฤษ รัสเซีย เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น ถือเป็นกลุ่มหลักที่จะกระจายการเดินทางเพิ่มมากขึ้น แนวโน้มเดือนธันวาคม 2564 ตัวเลขแต่ละวันเพิ่มเป็น 2 เท่า จากช่วงแรกมีวันละ 200-300 คน ตอนนี้เป็นวันละ 600 คนแล้ว

จึงจะเห็นภาพนักท่องเที่ยวสูงขึ้นตามมาตรการผ่อนคลายของรัฐบาล อนาคตนับจากนี้ไป มีข่าวดี ไม่เฉพาะ 4 อำเภอ ในจังหวัดชลบุรี แต่ทาง ศบค.อนุญาตให้ขยายพื้นที่เที่ยวได้ทั่วจังหวัดชลบุรี จะดึงดูดหรือเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวได้มากขึ้นสู่บลูโซนทั้งจังหวัด

ในช่วงตารางบินฤดูหนาวปลายปี 2564-มีนาคม 2565 มีข่าวดีที่ ททท.ได้รับการติดต่อจากบริษัทตัวแทนจัดนำเที่ยวเตรียมขอทำเที่ยวบินเช่าเหมาลำ (Charter flight) จากประเทศ “คาซัคสถาน” บินมาลงสนามบินนานาชาติอู่ตะเภา ทาง ททท.มอสโก รัสเซีย ที่ดูแลพื้นที่ กับ ททท.ภูมิภาคยุโรป และ ททท.พัทยา ร่วมประชุมหารือกับทางสนามบินอู่ตะเภาเพื่อรับเที่ยวบินดังกล่าว

วันที่ 26 ธันวาคม 2564 จะเริ่มมีเที่ยวบินเช่าเหมาลำจาก “คาซัคสถาน” มาพัทยาเป็นเที่ยวปฐมฤกษ์ จะเดินทางเข้ามาทุก 10 วัน เที่ยวพัทยาแล้วพำนักระยะยาว 10 วัน ถึง 2 สัปดาห์ จะทำให้โรงแรม สถานที่ท่องเที่ยว รับนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้แบบซีรีย์ต่อเนื่องไปจนถึงเดือนกุมภาพันธ์ 2565

เชื่อว่าจะมีประเทศอื่น ๆ ตามมาด้วย หลังมาตรการผ่อนคลาย เพราะมีหลายประเทศสอบถามเข้าตลอด อย่างยุโรปตะวันออก จากโปแลนด์ ที่เห็นได้ชัดอีกตลาดคือ “อินเดีย” ตอนนี้กำลังอยู่ระหว่างการเจรจาของสายการบินกับหน่วยงานการบินระหว่างประเทศ รวมทั้งจะมีนักท่องเที่ยวตลาดระยะสั้นในเอเชียรอเข้ามาพัทยาอีกหลายประเทศ

 

ผอ.ขจรเดช ย้ำว่า ททท.พัทยากับ ททท.สำนักงานต่างประเทศ ได้ทำกลยุทธ์จับคู่เพื่อนำเสนอขายสินค้าท่องเที่ยวและเจาะตลาดเป้าหมาย ที่ผ่านมา ททท.ปารีส ฝรั่งเศส เชิญ เอเย่นต์ DMC ทัวร์โอเปอเรเตอร์ เดินทางเข้ามาสำรวจพัทยา นาจอมเทียน สัตหีบบางส่วน เพราะฝรั่งเศสเป็นกลุ่มที่ท่องเที่ยวโดยใช้เวลาค่อนข้างในไทย พัทยาเองก็มีสถานที่ท่องเที่ยวตอบโจทย์ตลาดนี้ได้ ทั้ง Sea Sand Sun 

นอกจากนี้ยังต้องการได้นักท่องเที่ยวอีก 2 ตลาด คือ รัสเซีย กับอินเดีย ซึ่งเป็นตลาดหลัก ช่วงที่ผ่านมายังมี “สาธารณรัฐประชาชนจีน” เป็นตลาดหลักอีกประเทศ แต่ตอนนี้ยังไม่มีสัญญาณที่จะส่งคนจีนเดินทางเที่ยวต่างประเทศ ดังนั้นแนวโน้มความเป็นไปได้คือ รัสเซีย กับอินเดีย ที่ ททท.พัทยาให้ข้อมูลผู้ประกอบการท่องเที่ยวอย่างใกล้ชิด อนาคตเมื่อมาตรการผ่อนคลายมีมากขึ้น เช่น รัสเซีย ตอนนี้เมื่อเดินทางเข้ามาไทยยังเป็นลักษณะ Sand box ต้องพัก 7 วัน อนาคตก็เป็นไปได้จะผ่อนคลายเหลือเพียง 1 วัน ซึ่งเป็นข้อเสนอขายที่จะกระตุ้นให้รัสเซียอยากมาเมืองไทยเพิ่มขึ้น

ส่วนอนาคตตลาดหลักของพัทยา อย่าง “เยอรมัน” ช่วงต้นเดือนมีนาคม 2565 จะมีการจัดงานท่องเที่ยวรายการใหญ่ระดับโลก ITB Berlin 2022 แม้พัทยาอาจยังไม่พร้อมเข้าร่วมขายในงาน แต่อย่างน้อยจะทำประชาสัมพันธ์ให้ผู้ประกอบการท่องเที่ยวคู่ค้ารับทราบ รวมทั้งจะเชิญตัวแทนบริษัทนำเที่ยวเยอรมันเข้ามาดูพื้นที่พัทยา อัพเดทสถานการณ์ เพื่อเจาะตลาดเป้าหมายให้เกิดขึ้นโดยเร็วที่สุด

 

ฟังข่าวต้นชั่วโมง

 

ข่าวที่ 1 คิงเพาเวอร์เปิดแล้ว”มหานครอีเทอรี่”สุดยอดอาหารอร่อย7ร้าน7สไตล์

“คิง เพาเวอร์ มหานคร” มุ่งมั่นพัฒนาและสร้างสรรค์ประสบการณ์ไลฟ์สไตล์อาหารการกินวิถีใหม่ครบวงจรแห่งใหม่ “มหานคร อีทเทอรี่ : MAHANAKHON EATERY” ใจกลางเมืองสาทร-สีลม เปิดบริการแล้วกับคอนเซปต์ Cross-Kitchen Dining ที่จะชวนทุกคนมาปักหมุดหยุดแฮงเอาท์ในพื้นที่สุดฮิปชั้น G อาคารมหานคร คิวบ์ ได้ทุกวันเริ่มวันนี้เป็นต้นไป เปิดบริการตั้งแต่ 07.00 – 22.00 น.

นับเป็นครั้งแรกที่ผู้ที่หลงไหลอาหารและเครื่องดื่มจะได้ตื่นตาตื่นใจกับการรวมร้านอาหารและคาเฟ่ระดับพรีเมี่ยมมาไว้ในที่เดียวถึง 7 ร้าน 7 สไตล์ ประกอบด้วย  1.ร้านเอวรีล กูร์เมต์ แอนด์ บอร์ดิเยร์ ซีเล็กชั่น 2.เอล มาร์ 3.อีซี่ 4.อิซาเบลล่า อิตาเลี่ยน โรติสเซอรี บาย อันเดรีย 5.เมซอง ดู แวงน์ 6.มีทแอนด์สไปซ์ บาย อนาเธอร์ฮาวด์ คาเฟ่ และ 7.ออเทอร์ คาเฟ่

แต่ละร้านได้รังสรรค์เมนูอาหารแต่ละจานเด่น ๆ ขึ้นมาใหม่โดยเฉพาะ เพื่อเสิร์ฟที่ “มหานคร อีทเทอรี่ : MAHANAKHON EATERY” ด้วยเอกลักษณ์ความอร่อย แปลกใหม่ มีเมนูอันหลากหลายอีกมากมายในบรรยากาศโมเดิร์นชิค โดยเฉพาะรสชาติอาหาร ต้องลองแล้วจะรู้ว่าอร่อยของจริง

หลังจากกลุ่มบริษัท “คิง พาเวอร์” ประสบความสำเร็จในการพัฒนา “ไทย เทสต์ ฮับ : THAI Taste Hub” ศูนย์รวมสตรีทฟู้ดชื่อดังระดับตำนานจนติดลมบนไปแล้ว ขณะนี้ คิง เพาเวอร์ มหานคร แลนด์มาร์คกรุงเทพฯ ได้ต่อยอดให้ย่านสาทร-สีลม เป็นจุดหมายปลายทางด้านแรงบันดาลใจและไลฟ์สไตล์ชั้นนำระดับโลกด้วยการเปิด มหานคร อีทเทอรี่ : MAHANAKHON EATERY บริเวณชั้น G อาคารมหานคร คิวบ์ ระดมร้านขึ้นชื่อพร้อมใจกันมาเติมเต็มประสบการณ์ดี ๆ ด้านอาหารภายใต้แนวคิดใหม่ Cross-Kitchen Dining ให้ทุกคนได้สัมผัสอย่างเต็มอิ่ม

ด้วยการออกแบบการครอสส์อย่างลงตัวได้ในมื้อเดียว ทั้ง เมนูหลายสัญชาติ หลายรสชาติ และความรู้สึก สมกับสโลแกน Eat. Meet. Joy. ตื่นตาตื่นใจกับเมนูสุดครีเอทีฟจากเชฟ และบาริสต้าทั้ง 7 ร้าน พร้อมจะถ่ายทอดผ่านมิติใหม่การรับประทานอาหารแบบ Gathering

โดยมีให้เลือกในแบบ “อิตาเลี่ยน” อย่างพาสต้า พิซซ่า “ยูโรเปียน” อย่างบิสโทรประเภทซีฟู้ด แอนด์กริลล์ “อาหารจานเดียว” สไตล์เวิสเทิร์นไทยทวิสต์ “เมนูทานง่าย ๆ” อย่าง แซนด์วิช และโคลด์คัตต่าง ๆ ไปจนถึง “ขนมหวาน” แสนสวย และ “เครื่องดื่ม” ฮิป ๆ อีกมากมายหลากหลายจานเด่น

 

“มหานคร อีทเทอรี่  : MAHANAKHON EATERY” สามารถตอบโจทย์ได้อย่างแท้จริง ทุกไลฟ์สไตล์ชีวิตในเมือง และบรรดาฟู้ดเลิฟเวอร์ทั้งหลาย โดยพร้อมจะทำให้กรุงเทพฯ ย่านสาทร-สีลม เป็นอีกหนึ่งหมุดหมายเส้นทางการท่องเที่ยวเชิงอาหารหรือ Gastronomic Destination ที่ใช่ในแบบไม่ซ้ำใคร

 

แต่ละร้านมีเอกลักษณ์ความโดดเด่นเฉพาะตัว ที่สามารถเดินทางมาค้นหาได้ คือ

“เอวรีล กูร์เมต์ แอนด์ บอร์ดิเยร์ ซีเล็กชั่น” ศูนย์รวมวัตถุดิบคุณภาพพรีเมียมจากแหล่งผลิตชั้นยอดในประเทศฝรั่งเศส และยุโรป มีประสบการณ์ธุรกิจอาหารมายาวนาน และได้รับความไว้วางใจจากร้านอาหาร และโรงแรมชั้นนำในไทยให้เป็นผู้จัดหาวัตถุดิบคุณภาพสูงจากแหล่งผลิตแถวหน้าของประเทศ

“เอล มาร์” ร้านซีฟู้ดแอนด์ไพรม์กริลมาพร้อมคอนเซปต์สบาย ๆ สไตล์บิสโทรแบบฝรั่งเศส โดยจำลองบรรยากาศของอู่ต่อเรือเก่าในหมู่บ้านชาวประมง นำเสนออาหารทะเลเกรดพรีเมียมสดใหม่จากทั่วโลก

“อิซาเบลล่า อิตาเลี่ยน โรติสเซอรี บาย อันเดรีย” ร้านอาหารอิตาเลี่ยนแห่งใหม่ของเชฟอันเดรีย โบนิฟาโช เจ้าของร้านอาหารอิตาเลี่ยนชื่อดังในตำนานเมืองหัวหิน “อันเดรีย อิตาเลียน เรสเตอร์รองท์ แอนด์ กริลล์” กับอาหารสูตรต้นตำรับขึ้นชื่อทั้ง พิซซ่า และโฮมเมดพาสต้า

มีทแอนด์สไปซ์ บาย อนาเธอร์ ฮาวด์ คาเฟ่ แบรนด์น้องใหม่ในคอนเซปต์ “เวสเทิร์นไทยทวิสต์” ที่เกิดจากการผสมผสานระหว่างอาหารตะวันตกเข้ากับความเผ็ดร้อนในแบบไทย จนออกมาเป็นเมนูสุดโมเดิร์นรสชาติจัดจ้านในแบบฉบับของทางร้าน

“อีซี่” ร้านขนมหวานและเบเกอรี่โดยเชฟเปเปอร์ อริสรา จงพาณิชกุล เชฟขนมหวานชื่อดังของไทยที่พร้อมถ่ายทอดเรื่องราวของขนมหวานสไตล์ฝรั่งเศสให้ออกมาดูน่ารัก และสนุกสนาน

“ออเทอร์ คาเฟ่” ร้านกาแฟสุดชิคแบรนด์ดังจากซอยรางน้ำที่มาพร้อมกับคาแรคเตอร์โดดเด่นไม่เหมือนใครในสไตล์มินิมอล Café Community ที่ Simple Yet Special เข้าใจและใส่ใจในรสสัมผัสของกาแฟจากทั่วทุกมุมโลก ประหนึ่งผู้ช่วยที่จะทำให้เรื่องกาแฟที่ซับซ้อนสามารถเข้าใจ และเข้าถึงได้ง่ายมากยิ่งขึ้น

“เมซอง ดู แวงน์” ไวน์เลาจน์แห่งแรก โดย เดอะ ไวน์ เมอร์ชานส์ ผู้นำและผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดจำหน่ายและนำเข้าไวน์ที่ได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าชั้นนำมากมาย ออกแบบอย่างมีเอกลักษณ์ในสไตล์ของโรงบ่มไวน์ฝรั่งเศส นำเสนอไวน์ชั้นเลิศจากหลากหลายประเทศ รวมถึงไวน์หายากจากกว่า 100  ไวน์เนอรีชั้นนำทั่วทุกมุมโลก

“มหานคร อีทเทอรี่ : MAHANAKHON EATERY” ได้นำเสนอสุนทรียภาพการรับประทานอาหารไว้อย่างเหนือระดับ ในพื้นที่ร้านกว่า 700 ตารางเมตร รองรับได้มากึง 200 ที่นั่ง เลือกมุมที่ชอบและที่โซนใช่ได้จาก 2 ชั้น ชั้นล่าง และชั้นลอย โดยรวมออกแบบตกแต่งสไตล์โมเดิร์นชิคสะท้อนถึงไลฟ์สไตล์ความเป็นตัวตนของมหานคร อีทเทอรี่ และคนเมืองยุคใหม่ได้อย่างมีเสน่ห์ดึงดูดฟู้ดเลิฟเวอร์หลากหลายวัย สอบถามข้อมูลเพิ่มที่ 02-677-8721

 

ข่าวที่ 2 คิงเพาเวอร์แจกใหญ่ฉลองปีใหม่คูปองส่วนลด3ใบรวม9,500บาท

คิง เพาเวอร์ ชวนคุณสุขส่งท้ายปีฉลองสนุกทุกการช้อป ส่งความสุขรับวันปีใหม่ ให้มากกว่าเดิม! เตรียมพบกับโปรฯ ดี มอบความคุ้มค่าส่งท้ายปี!รับฟรี! แพ็กเกจส่วนลด 3 ใบ รวม 9,500 บาท*

ใบที่ 1 ส่วนลด 1,500 บาท สำหรับช้อป 6,000 บาทขึ้นไป/ใบเสร็จ

ใบที่ 2 ส่วนลด 3,000 บาท สำหรับช้อป 10,000 บาทขึ้นไป/ใบเสร็จ

ใบที่ 3 ส่วนลด 5,000 บาท สำหรับช้อป 15,000 บาทขึ้นไป/ใบเสร็จ

เฉพาะสินค้าที่ร่วมรายการ จำกัด 1 สิทธิ์ / ท่าน /วัน โดยนับสิทธิ์รวมทุกสาขาและทุกช่องทางการช้อป

เซอร์ไพรส์จัดเต็มทุกวัน! ที่ รางน้ำ พัทยา และศรีวารี

รับสิทธิ์ลุ้นรับของขวัญพิเศษ รวม 31 รางวัล* เมื่อช้อปครบทุก 5,000 บาท (สุทธิ)/ ใบเสร็จ (รวมยอดซื้อสินค้าภายในใบเสร็จรับเงิน)

ลุ้นรับ! คูปองตัวอักษร สะสมให้ช้อปสนุก ที่ รางน้ำ พัทยา และศรีวารีเมื่อช้อปครบทุก 10,000 บาท (สุทธิ)รับคืน GIFT VOUCHER สูงสุด 10,000 บาท*จำกัดยอดซื้อสินค้าสูงสุด 100,000 บาท/ท่าน/วัน

อิ่มฟรี! 500 บาท* ได้ทุกวัน ที่ THAI TASTE HUB รางน้ำ และ THAI TASTE HUB @SRIVAREE เมื่อมียอดช้อปครบ 10,000 บาทขึ้นไป (สุทธิ)/ใบเสร็จ

ที่ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ พัทยา  ระหว่างวันที่ ตั้งแต่ 18 ธ.ค. 64 - 3 ม.ค. 65

ที่คิง เพาเวอร์ ภูเก็ต18-19, 25-26 ธ.ค. 64  

ที่ คิง เพาเวอร์ ศรีวารี 31 ธ.ค. 64 - 3 ม.ค. 65

ข่าวที่ 3 ททท.ชูเทรนด์ใหม่ปี’65งัดNFTXบูมขาย”ธรรมชาติ/อาหาร/สุขภาพ” 

ดร.ยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ปี 2565 วางกลยุทธ์สร้างจุดขายการท่องเที่ยวกระตุ้นตลาดในประเทศและต่างประเทศเพื่อทำรายได้ให้เป็นไปตามเป้า 1.2 ล้านล้านบาท โดยจะนำเสนอสินค้าท่องเที่ยวเทรนด์ที่สอดคล้องกับพฤติกรรมนักท่องเที่ยวคนไทยและทั่วโลกด้วย NFT X : Experience Thai Tourism ประกอบด้วย 1.N : Nature to keep การท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติ มุ่งการท่องเที่ยวที่มีส่วนร่วมปกป้องและการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม 2.F: Food to explore การท่องเที่ยวเชิงอาหาร ซึ่งสามารถต่อยอดอาหารไทยสู่สากลเพิ่มมากขึ้น  3.T : Thainess to discover หรือการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพต่างๆ

 

ซึ่งจะสามารถตอบโจทย์ความสำเร็จ 3 เรื่อง ได้แก่ 1.ฟื้นฟูอัตราการเข้าพักเฉลี่ยโรงแรมทั่วประเทศตลอดทั้งปี 2565 ได้ไม่ต่ำกว่า 50% จากสถิติเมื่อเดือนตุลาคม 2564 อัตราการพักเฉลี่ยยังคงมีอยู่ประมาร 25% เท่านั้น  2.ฟื้นฟูอัตราการบรรทุกผู้โดยสารเฉลี่ยของสายการบินทั้งในและต่างประเทศกลับคืน 70%  3.กระตุ้นนักท่องเที่ยวใช้จ่ายเงินท่องเที่ยวเพิ่มเฉลี่ยต่อคนต่อทริป แบ่งเป็น นักท่องเที่ยวต่างชาติ 12,580 บาท/คน/วัน นักท่องเที่ยวไทย 4,100 บาท/คน/ทริป 

ดร.ยุทธศักดิ์ ย้ำว่า ททท.พร้อมเดินหน้าแผนตลาดกระตุ้นการท่องเที่ยวเทรนด์ NFT X ผ่านช่องทางการโฆษณา ประชาสัมพันธ์ ช่องทางแรก “อินฟลูเอนเซอร์-ผู้มีอิทธิพลบนสื่อโซเชียล” ผลิตคอนเทนต์เผยแพร่โปรโมตบนแพลตฟอร์มต่าง ๆ เช่น ยูทูบ เฟซบุ๊ก จะต้องมีผู้ติดตามเกิน 1 ล้านคนขึ้น ช่วยผลักดันการประชาสัมพันธ์ภาพลักษณ์การท่องเที่ยวไทย

ช่องทางที่ 2 นำเทคโนโลยีใหม่เข้ามาเสริมทัพ เนื่องจากขณะนี้มีการเปลี่ยนแปลงด้านดิจิทัลหลากหลายมิติซึ่งอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวจำเป็นจะต้องลงทุนพลิกโฉมธุรกิจสู่ยุคดิจิทัลด้วยเช่นกัน รวมถึงพัฒนานวัตกรรมบนพื้นฐานทางเทคโนโลยีดิจิทัล สร้างบริการที่มีประสิทธิภาพ ปลอดภัย รวมถึงสะดวก เพื่อให้นักท่องเที่ยวทุกตลาดได้รับประสบการณ์ท่องเที่ยวเมืองไทยเชิงบวกทั้งปัจจุบันและอนาคต

ทั้งนี้ ททท.ตั้งเป้าหมายสร้างรายได้ท่องเที่ยวปี 2565 ไว้ 1.12 ล้านล้านบาท แบ่งเป็น 1.นำเข้านักท่องเที่ยวต่างชาติ 10 ล้านคน สร้างรายได้ 6.3 แสนล้านบาท 2.ไทยเที่ยวไทย 120 ล้านคน-ครั้ง สร้างรายได้ 4.9 แสนล้านบาท

 ข่าวที่ 4 “บางจาก”MOUม.เกษตรลุยเน็ตซีโร่บลูคาร์บอนหญ้าทะเลเกาะหมาก 

นางกลอยตา ณ ถลาง ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานบริหารความยั่งยืนและสื่อสารองค์กร บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) จับมือกับคณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ศึกษาความเป็นไปได้ในการใช้แหล่งหญ้าทะเลเพื่อช่วยในการกักเก็บก๊าซเรือนกระจกในแนวปะการังบริเวณเกาะหมากและเกาะกระดาด จังหวัดตราด มุ่งสู่เป้าหมาย Net Zero โดยมีBlue Carbon เป็นหนึ่งในเครื่องมือสำคัญ 

ล่าสุดทั้งบางจาก” โดยมีนางกลอยตา ณ ถลาง ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานบริหารความยั่งยืนและสื่อสารองค์กร กับผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ รองคณบดี ฝ่ายกิจการพิเศษ คณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้ลงนามบันทึกข้อตกลง “โครงการศึกษาความเป็นไปได้ในการใช้แหล่งหญ้าทะเลเพื่อช่วยในการกักเก็บก๊าซเรือนกระจก  ร่วมกัน

นางกลอยตากล่าวว่าเป้าหมายการมุ่งสู่การปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์หรือ Net Zero ในปี 2050 บางจากฯ ให้ความสำคัญเป็นอย่างมากกับการเปลี่ยนผ่านไปสู่พลังงานสะอาด มีการเพิ่มสัดส่วนธุรกิจสีเขียวมากขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง และสนับสนุนให้ใช้การซื้อขายคาร์บอนเครดิตเป็นเครื่องมือสำคัญในการเปลี่ยนผ่านนี้เพื่อผลักดันให้เกิดธุรกิจคาร์บอนต่ำ

รวมทั้งบางจากฯ ยังให้ความสำคัญกับการส่งเสริมการดูดซับและกักเก็บคาร์บอนเพื่อช่วยแก้ไขปัญหาก๊าซเรือนกระจกในระยะยาว ไม่ว่าจะเป็นการศึกษาการลงทุนในเทคโนโลยีใหม่ ๆ หรือการสนับสนุนแนวทางการดูดซับคาร์บอนผ่านระบบนิเวศทางธรรมชาติหลากหลายรูปแบบ เช่น การปลูกป่าไม้บนบก ป่าชายเลน และแหล่งหญ้าทะเล 

ทางบางจากมีความยินดีที่ได้สนับสนุนโครงการศึกษาความสามารถในการกักเก็บคาร์บอนของแหล่งหญ้าทะเลที่จัดเป็นระบบนิเวศ Blue Carbon ซึ่งมีข้อมูลอ้างอิงว่าสามารถกักเก็บคาร์บอนได้สูงมาก โดยตั้งเป้าการทำงานในบริเวณเกาะหมากและเกาะกระดาด จังหวัดตราด จัดเป็นโครงการความร่วมมือระหว่างภาครัฐและภาคเอกชนในด้านการศึกษาแหล่งหญ้าทะเลในแนวปะการังของภาคตะวันออกเป็นครั้งแรกในประเทศไทย เพื่อ ให้ได้ข้อมูลที่แม่นยำเกี่ยวกับศักยภาพในการกักเก็บคาร์บอนของแหล่งหญ้าทะเลในพื้นที่ดังกล่าว สามารถนำไปใช้ประโยชน์ในการชดเชยคาร์บอนในทางปฏิบัติต่อไป

ประการสำคัญ “เกาะหมาก”เป็นพื้นที่ที่มีศักย- ภาพสูงในฐานะพื้นที่ต้นแบบด้านการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์และชุมชนเข้มแข็งแห่งหมู่เกาะภาคตะวันออกของไทยสามารถพัฒนาต่อยอดไปสู่พื้นที่ตัวอย่างของแหล่งท่องเที่ยวแบบคาร์บอนต่ำได้อีกด้วย

โครงการศึกษาความเป็นไปได้ในครั้งนี้ยังจะมีส่วนช่วยสนับสนุนดูแลฟื้นฟูแหล่งหญ้าทะเลเพื่อการลดก๊าซเรือนกระจกจากการดำเนินการภายใต้การดูแลของผู้เชี่ยวชาญจากคณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ซึ่งบางจากฯ ยินดีที่ได้ร่วมสนับสนุนการดูแลธรรมชาติทางทะเลที่ยังประโยชน์ต่อการดูดซับคาร์บอนได้อย่างทวีคูณหลายต่อหลายเท่า ส่งผลดีต่อภาคส่วนต่าง ๆ ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว เพราะโครงการดังกล่าวไม่เพียงแต่ดีต่อสิ่งแวดล้อมจากการมุ่งลดก๊าซเรือนกระจก แต่ยังดีต่อสังคมจากการศึกษาวิจัยอย่างครบวงจรที่ครอบคลุมการเพิ่มศักยภาพของพื้นที่ ตลอดจนการร่วมมือกับชุมชนท้องถิ่น ในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับแหล่งหญ้าทะเล การลดก๊าซเรือนกระจก และการรักษาความหลากหลายทางชีวภาพ

 

ข่าวที่ 5 “TCEB”ชี้เป้าสถานที่จัดไมซ์สร้างสรรค์ปี65อีสาน+ใต้ให้เลือก5เส้นทาง

          สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) “TCEB” เดินหน้านำเสนอสถานที่จัดไมซ์สร้างสรรค์ ให้องค์กรและหน่วยงานต่าง ๆ เลือกไปทำกิจกรรมไมซ์ ในภาคอีสานกับภาคใต้เพิ่มอีก 5 เส้นทาง ได้แก่

เส้นทางที่ 1 “ขอนแก่น : Field Trip ต้องมนต์เสน่ห์เส้นทางไหม” รู้จักกับมรดกภูมิปัญญาอย่างผ้าไหมแบบลงลึกตั้งแต่หม่อนไปจนถึงการทักทอออกมาเป็นผืนผ้าอย่างปราณีตด้วยฝีมือเกษตรกร แถมยังได้ทำกิจกรรม CSR ปลูกต้นหม่อน และเพิ่มกำลังใจด้วยกิจกรรมรำบายศรีสู่ขวัญคู่เสี่ยว

เส้นทางที่ 2 “อุดรธานี-หนองคาย : Meeting ซิ่ง แซ่บ ม่วน” สนุกยกก๊วนด้วยสามล้อไฮเทคเอกลักษณ์ของอุดรธานี ลิ้มรสของขึ้นชื่อจากอารยธรรมเวียดนาม เรียนรู้ประวัติศาสตร์ชุมชนบ้านเชียง ผ่านกิจกรรมปั้นเครื่องปั้นดินเผา ทำเวิร์กชอปลายผ้ามัดย้อมบัวแดงของดีของเด่นในชุมชนบ้านโนนกอก และร่องเรือในลำน้ำโขงไปสักการะพระธาตุกลางหนองเพื่อความเป็นสิริมงคล

เส้นทางที่ 3 “พะงัน : Team Building เกาะสวรรค์ เติมพลังจากพระจันทร์” ผ่อนคลายสบายใจไปกับหาดทรายและน้ำทะเล ทำกิจกรรม CSR ธนาคารลูกปู สร้างสรรค์ศิลปะจากขยะริมเล ตามรอยเศรษฐกิจพอเพียงของในหลวง ร.9 พร้อมฟื้นฟูร่างกายและจิตใจด้วยศาสตร์แห่งอารยธรรมมายาที่ใช้เสียงและโกโก้ในการบำบัด

เส้นทางที่ 4 “ภูเก็ต : สัมมนาโอลด์ทาวน์ ชมวิถีชาวเพอรานากัน” สัมผัสวิถีชีวิตอันทรงคุณค่าย่านเมืองเก่าภูเก็ต ด้วยการลิ้มรสผัดหมี่ฮกเกี้ยน และขนมเต่าอังกู๊ ชมโรงตีเหล็กโรงสุดท้ายของจังหวัด เพลิดเพลินเสียงกู่เจิงในบ้านโบราณอายุกว่า 80 ปี เรียนรู้วิถีชีวิตชาวประมงกับเกษตรกรไร่สับปะรด สวนยางพารา ร่วมทำเวิร์คชอปกระเป๋าบาบ๋าย่าหยา และขนมท้องถิ่นขึ้นชื่ออย่างขนมโคและขนมครก

เส้นทางที่ 4 และ5 “สงขลา-ปัตตานี : เสน่ห์สามวิถี สัมมนาหลากวัฒนธรรม” เปิดประสบการณ์ใหม่ด้วยการสัมผัส 3 อารยธรรมอันทรงคุณค่า ไทย จีน และมลายู ที่ผสมผสานกันอย่างลงตัวผ่านสถาปัตยกรรมรอบตัวเมือง พร้อมทำกิจกรรม CSR สไตล์คนปัตตานีด้วยการไสกระดานไม้ปลูกป่าโกงกาง และทำเวิร์กชอปทอผ้าไหมอันเป็นเอกลักษณ์ของคนใต้อย่างจวนตานี

                ช่วงที่ 2 ทริปนี้พลาดได้ไง  เที่ยวเมืองรถม้า  “ลำปาง” รอบอำเภอแม่เมาะ ฤดูหนาวปลายปีนี้แนะนำแหล่งเช็คอินใหม่ ๆ 4 แห่ง “Ann Farm ผาหอบ แพวังฮือเลควิว ตูบฮ่อมดอย ห้ามพลาด “7วิธีเที่ยวชุมชนปลอดภัยห่างไกลโควิด” ทุกที่ทั่วไทย ตามด้วยข่าวฮ็อต “ทอท.” แจ้งข่าวดีเปิดประเทสทำสายการบินต่างชาติแห่บินเพิ่มอีก 10 % จองสล็อต พ.ย.-ธ.ค.กว่า 17,000 เที่ยวบิน ต่อด้วย “ครัวการบินไทย” รีบโกยรายได้ทำเค้กกับกระเช้าปีใหม่ขาย ราคาเริ่มต้น 290 บาท และ “ททท.นครพนม” ชิงเปิดเส้นทางเที่ยวกัญชา ต่อยอด “เมืองสนุกสุข3ที่สุด” ต้องไปเที่ยวกันสักครั้งในชีวิต

 

พาเที่ยว - เที่ยวลำปางไม่ตกเทรนด์หนาวนี้เช็คอินที่แอนฟาร์ม-ผาหอบ-แพวังฮือ

                การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานลำปาง ชวนเที่ยวไทยไม่ตกเทรนด์ ที่ลำปางซีรีย์ใหม่ ๆ ในพื้นที่รับลมหนาวใกล้อำเภอแม่เมาะ ออกเที่ยวกันเถอะกับ 4 จุดเช็คอินดี ๆ น่าเที่ยว

แห่งแรก “Ann’s Farm Lampang Thailand” บ้านสบเมาะ ตำบลสบป้าด เป็นฟาร์มสัตว์น่ารัก  นักท่องเที่ยวครอบครัว กับผู้ที่รักสัตว์ ต้องชอบแน่ ๆ มีให้เลือกทั้ง 1.เดินชมด้วยตัวเอง 2.นั่งรถรางชมทั่วบริเวณ 3.ขับรถ ATV  ลุยทั่วฟาร์ม

ภายในฟาร์มแห่งนี้นอกจากจะมีสัตว์น่ารักมากมายแล้ว ยังมีค่าเฟ่เสิร์ฟอาหารและเครื่องดื่มอร่อย ๆ รวมทั้งมีที่พักอยู่ด้วย   Ann’s Farm Lampang thailand

 

แห่งที่สอง ผาหอบ บ้านแม่เกี๋ยง หมู่ 7 ตำบลสบป้าน เป็นสถานที่ท่องเที่ยวของคนวัยมันส์ชอบการผจญภัย ที่นี่มีแม่น้ำท่ามกลางธรรมชาติเย็นฉ่ำ บรรยากาศใกล้เคียงกุ้ยหลินเมืองจีน ส่วนกิจกรรมก็ต้อง ล่องแพ พายเรือคายัค รวมทั้งไฮไลต์คือเส้นทางเดินเท้า ต้องคอยติดตามจะเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าได้เร็ว ๆ นี้ Pha Hob

 

แห่งที่สาม แพวังเฮือ Lake Hill ตั้งอยู่ในเขตระหว่าง อ.เมือง กับ อ.แม่ทะ เป็นอ่างเก็บน้ำที่มีภูเขาล้อมรอบ เหมาะแก่การพักผ่อนปิกนิกแบบธรรมชาติ ตอนนี้การท่องเที่ยวเชิงกีฬาทางน้ำกำลังมาแรง สถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้เหมาะกับคนรักกีฬา และกิจกรรมและบริการเช่า เจ็ทสกี เรือคายัค เซิร์ฟบอร์ด โลดแล่นไปชมความงดงามของอ่างเก็บน้ำวังเฮือ ในบรรยากาศสบาย ๆ ที่มีลมพัดมาตลอดเวลา

 

เหนื่อยจากการผจญภัยกับกีฬาทางน้ำ ก็มาลองชิมอาหารของแพได้ รวมทั้งมีพื้นที่ให้กางเต๊นท์พักค้างแรมได้ด้วย สามารถสอบข้อมูลได้ที่ แพวังเฮือ Lake Hill

 

แห่งที่สี่  “ตูบฮ่อมดอย- Toob Hom Doi” ที่บ้านแม่เกี๋ยง ตำบลสบป้าด ร้านกาแฟเก๋ ๆ ท่ามกลางธรรมชาติ เปิดทุกวัน 09.00-17.00 น. สงบและบรรยากาศเย็นสบายท่ามกลางธรรมชาติของจริงไม่เติมแต่ง กาแฟอร่อย แถมยังมีเส้นทางเดินป่าเชื่อมโยงไปยัง ผาหอบ อีกด้วยนะ สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ตูบฮ่อมดอย  

 

ตอนนี้ ททท.ลำปางททท.ชวนนักท่องเที่ยวสะสมแต้มแลกงานคาร์ฟต์ กับโครงการ  "สะสม point แลกงาน Craft ลำปาง Amazing ไม่ตกเทรนด์" เพียงเที่ยวลำปาง สะสมแต้ม ที่พัก ร้านอาหาร บริการ และของที่ระลึก ผ่านระบบออนไลน์สมัครง่าย ใช้ง่าย สะสมง่าย แลกรับง่ายๆ กับ E-Experience Voucher เพื่อนำไปเป็นส่วนลดทำเวิร์คช้อปได้ที่ 5 ร้าน 5 แบบ  ให้ได้เลือก ได้ตั้งแต่วันนี้ - 31 มกราคม 2565 (หรือจนกว่า E-voucher จะหมด จำกัดเพียง 500 รางวัล

 

เที่ยวไทย ไปลำปาง ไม่ตกเทรนด์ อยากเที่ยวที่ไหน สอบถามเพิ่มได้ที่ ททท.ลำปาง โทร. 054222214 ทุกวันจันทร์-ศุกร์ 08.30-16.30 น.

 

สุขภาพ -7วิธีท่องเที่ยวชุมชนอย่างปลอดภัยห่างไกลโควิดทุกทริปทุกที่ทั่วไทย

 

ถึงแม้สถานการณ์โควิด-19 จะส่งผลให้เกิดช่วงภาวะวิกฤตของการท่องเที่ยวไทย จากการแพร่ระบาดเป็นวงกว้างทำให้รัฐบาลต้องประกาศล็อกดาวน์ประเทศ ปิดสถานที่ท่องเที่ยว เพื่อแก้ไขปัญหาให้สถานการณ์กลับมาเป็นปกติโดยเร็วที่สุด แต่ตอนนี้สถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ เริ่มคลี่คลายลงแล้ว จึงมีข้อแนะนำ 7 วิธีเที่ยวชุมชนอย่างปลอดภัย อยู่กับโควิดให้ได้

 

“การท่องเที่ยวชุมชนปลอดภัย” นักท่องเที่ยวต้องเตรียมตัว เที่ยวเน้นปลอดภัยห่างไกลโควิดดังนี้

 

1.หาข้อมูลสถานที่ท่องเที่ยวซึ่งเป็นจุดหมายปลายที่ต้องการจะเดินทาง จากนั้นก็ต้องศึกษาพื้นที่ การเดินทาง ที่พัก เตรียมไว้ล่วงหน้าอย่างน้อย 1 อาทิตย์

 

2. ผู้ที่ฉีดวัคซีนครบ 2 เข็มแล้ว จะต้องจัดเตรียมเอกสารแสดงการฉีดวัคซีนเอาไว้ให้พร้อม

 

3. จัดเตรียมใบรับรองตรวจคัดกรองโควิด-19 ด้วย RT-PCR Test หรือ ATK เพื่อใช้แสดงต่อเจ้าหน้าที่ กรณีต้องเดินทางโดยเครื่องบิน หรือเข้าไปท่องเที่ยวในพื้นที่ควบคุม

4. สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา

5. เว้นระยะห่างทางสังคม อย่างน้อย 1-2 เมตร

6. ล้างมือให้บ่อย ๆ ด้วยแอลกอฮอล์ ตลอดเวลา ทั้งก่อนและหลังการรับประทานอาหาร หรือสัมผัสจุดสัมผัสร่วม

7. เมื่อเข้าที่พักควรอาบน้ำ ชำระร่างกายทันที

 

“ผู้ประกอบการท่องเที่ยวในชุมชน” จะต้องเตรียมความพร้อมรับนักท่องเที่ยวอย่างปลอดภัยด้วยเช่น คือ

1.จัดเตรียมระบบการขนส่งสาธารณะที่ดี ทั้งทางบก ทางอากาศ ทางเรือ ใช้เทคโนโลยีเข้ามาสนับสนุน ให้การเดินทางเป็นระบบมากขึ้น

 

2. ที่พัก ต้องสะอาด จัดทำสิ่งแวดล้อมที่อยู่ในที่พักต้องดี มีระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม. และครอบคลุมเรื่องมาตรการตรวจคัดกรองโควิด-19 นักท่องเที่ยวก่อนเข้าพักอาศัยอย่างเคร่งครัด

 

3. อาหาร ส่งเสริมเรื่องอาหารดีมีประโยชน์ อาหารพื้นถิ่นปลอดภัย อาหารอร่อยอย่างเดียวไม่พอ ต้องเพิ่มความสะอาด ปลอดภัย ปรุงสุกถูกสุขลักษณะ เน้นอาหารพื้นถิ่นในชุมชน ชูวัฒนธรรม สร้างคุณค่าและรายได้ให้กับชุมชน

 

4. กิจกรรมท่องเที่ยวต่าง ๆ  เช่น การล่องแก่ง ปีนเขา และอื่น ๆ ผู้ประกอบการต้องใส่ใจในความปลอดภัยทุกรายละเอียดของนักท่องเที่ยว เตรียมระบบการจัดการที่รองรับนักท่องเที่ยวให้สอดคล้องกับมาตรการป้องกันกันโควิด-19 ตามที่ภาครัฐกำหนด จัดทำโปรแกรมการท่องเที่ยว ตรวจเช็กอุปกรณ์สำหรับกิจกรรมให้ปลอดภัยอยู่เสมอ ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโควิด-19

 

เป็นเรื่องที่ทั้งนักท่องเที่ยวและเจ้าของแหล่งท่องเที่ยวสามารถปฏิบัติได้ง่าย ๆ เพียงแต่จะต้องมีวินัย และรับผิดชอบต่อตนเองและสังคม เพื่อสุขภาพการเดินทางท่องเที่ยวปลอดภัยทุกที่ทุกเวลา

 

ฟังข่าวท้ายชั่วโมง

 

ข่าวแรก ทอท.แจ้งข่าวดีเปิดประเทศแอร์ไลน์บินเพิ่ม10%พ.ย.-ธ.ค.นี้1.7หมื่นไฟลต์

          บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) “ทอท./AOT” เปิดเผยว่า นโยบายเปิดประเทศต้อนรับนักท่องเที่ยวเมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 2564  ส่งผลให้แนวโน้มการเดินทางเริ่มทยอยฟื้นตัวอย่างมีนัยยะสำคัญ จากข้อมูลสถิติตารางการบิน (Slot) ช่วง 1 พฤศจิกายน – 31 ธันวาคม 2564 มียอดจองตารางการบินระหว่างประเทศเพิ่มขึ้น 10% รวม 1,518 เที่ยว ได้รับการยืนยันแล้วทั้งสิ้น 17,132 เที่ยว เพิ่มจากยอดจองเดิมถึง 15,614 เที่ยว

 

สะท้อนความต้องการเดินทางในฤดูกาลท่องเที่ยว (High season) มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นช่วงสิ้นปีนี้ ที่ ทอท.พบเดือนธันวาคมมียอดการยืนยันสล็อตเพิ่มขึ้น24% เมื่อเทียบกับเดือนพฤศจิกายน 2564แบ่งเป็น 1.สล็อตที่ได้รับการยืนยันเดือนพฤศจิกายน 7,649 เที่ยว และเดือนธันวาคม  9,483 เที่ยว สอดคล้องกับปริมาณเที่ยวบินที่เริ่มฟื้นตัวได้อย่างต่อเนื่อง

 

ข้อมูลสถิติเที่ยวบินช่วงสัปดาห์แรกระหว่าง 1-8 ธันวาคม 2564 มีปริมาณเที่ยวบินทั้งหมด 2,159 เที่ยว คิดเป็น 270 เที่ยว/วัน เพิ่มขึ้น 7.6% เมื่อเปรียบเทียบกับค่าเฉลี่ยเดือนพฤศจิกายนมี 251 เที่ยว/วัน

 

ข่าวที่สอง “ครัวบินไทย”ชิงรายได้ปีใหม่ขายเค้ก-กระเช้าของขวัญเริ่ม290บาท

 

ครัวการบินไทย บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ร่วมฉลองเทศกาลแห่งความสุขต้อนรับปีใหม่ 2565 ด้วย "เมนูเค้กและกระเช้าอวยพร" สุดพิเศษ เพื่อให้เลือกนำไปเป็นของขวัญ พร้อมส่งต่อความรู้สึกดี ๆ ให้กับคนที่คุณรัก ตั้งแต่วันนี้ - 31 มกราคม 2565 เลือกแล้วโทรสั่งจองล่วงหน้า 3 วัน ดังนั้

 

1.เมนูเค้กปีใหม่หลากรสชาติ อาทิ  Cherry Red Wine Cake, Earlgrey Crème Brûlée, Lemon Strawberry Cake, Brioche Crown, Fruit Cake ราคาเริ่มต้น 290 บาท

 

2.กระเช้า Roasted Beef, Salmon Wellington, Baked Ham Hawaiian ราคาเริ่มต้น 590 บาท

ส่วนกระเช้าของขวัญสุดพิเศษ (Basket Special Gift) มีให้เลือก 3 แบบ ได้แก่

 

2.1  “กระเช้าแทนรัก” ประกอบด้วย Gourmet gift ต่างๆ ราคา 1,990 บาท

 

2.2 “กล่องของขวัญแทนใจ”ประกอบด้วยขนมไทยโบราณ ได้แก่ ขนมสัมปันนี ขนมโสมนัส และขนมกลีบลำดวนราคา 550 บาท

 

2.3 “กระเช้าแทนความห่วงใย” ประกอบด้วยชุดขนมไทย และหน้ากากผ้าลายพิเศษจากพิพิธภัณฑ์ผ้าในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พร้อมด้วยสเปรย์แอลกอฮอล์ล้างมือ ราคา 750 บาท

 

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม หรือสั่งจองกระเช้าล่วงหน้า 3 วัน โทร. 0-2356-1111 กด 7 ได้ตั้งแต่บัดนี้ - 31 ม.ค. 2565 ทุกวัน เวลา 08.00 - 17.00 น.

 

ดูรายละเอียดเพิ่มได้ที่เว็บไซต์ thaicatering.com และ puffandpie.com

 

ข่าวที่สาม “ททท.นครพนม”เร่งต่อยอดขายทัวร์เส้นทางกัญชา+เมืองสุขริมโขง3ที่สุด

 

น.ส.กนกวรรณ ดุงศรีแก้ว ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.).สำนักงานนครพนม เปิดเผยว่า เชิญชวนนักท่องเที่ยวร่วมฉลองเทศกาล “Isan Countdown 2022 New Normal”  เตรียมพบกับ “Countdown 2022 Online & Onsite 20 จังหวัดภาคอีสาน” ส่วนพื้นที่ความรับผิดชอบ ททท.นครพนม “กลุ่มจังหวัดสนุก”ประกอบด้วย สกลนคร-นครพนม-มุกดาหาร ได้ส่งเสริมเส้นทางท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ บวกกับ “เส้นทางท่องเที่ยวสายสุขภาพสวรรค์ชายโขง” กับเมืองนครพนม 3 ที่สุด

1."ศักดิ์สิทธิ์ที่สุด" คือ พระธาตุพนม&พระธาตุประจำวันเกิด

2."สวยที่สุด" คือ สะพานมิตรภาพไทย-ลาว 3

3."งามที่สุด" คือ ทิวทัศน์ริมฝั่งโขงงดงามสุดๆกับวิวหลักล้านๆ

พร้อมทั้งได้ผนวกการท่องเที่ยวเส้นทางสายสุขภาพกัญชาทางการแพทย์เชิง หรือ Medical and Wellness Tourism ซึ่งพื้นที่ในนครพนมเป็นแหล่งปลูกพืชสมุนไพรกัญชง-กัญชา อยู่ด้วย จึงร่วมกับภาคเอกชนเปิดเส้นทางเลือกท่องเที่ยวใหม่ดึงความสนใจคนเข้ามาเที่ยวเพิ่มขึ้น รวมทั้งต่อยอดจุดขายให้เกิดการเดินทางต่อเนื่องเข้าสู่กลุ่มจังหวัดสนุก เพิ่มมากขึ้น กระจายรายได้สู่พื้นที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ อย่างทั่วถึงต่อไป

 

      สำหรับ “เส้นทางท่องเที่ยวสายสุขภาพสวรรค์ชายโขง” กับเรื่องสมุนไพรพืชมหัศจรรย์กัญชง-กัญชา ในภาคอีสานนับเป็นเทรนด์ใหม่สำหรับการท่องเที่ยวหลังจากสถานการณ์COVID คลี่คลาย นักท่องเที่ยวจะหันมาท่องเที่ยวใส่เรื่องสุขอนามัยความสะอาดปลอดภัยใส่ใจสุขภาพเพิ่มมากขึ้นเป็นพิเศษ โดยนักท่องเที่ยวมีส่วนและสามารถออกแบบเส้นทางท่องเที่ยวเชื่อมโยงกับแหล่งปลูกกัญชาทางการแพทย์ ตั้งแต่ “ต้นน้ำ-กลางน้ำ-ปลายน้ำ” ให้กลายการท่องเที่ยวเส้นทางสายกัญชาทางการแพทย์เชิงสุขภาพ (Medical and Wellness Tourism) โดยเพราะเส้นทางนำร่องสำหรับอีสานเหนือริมแม่น้ำโขง(เลย-หนองบัวลำภู-อุดรธานี-หนองคาย-บึงกาฬ-นครพนม-สกลนคร) และในส่วนอีสานใต้ กับเส้นทางท่องเที่ยวสายสุขภาพ”นครชัยบุรินทร์”ในอนาคตต่อไปได้

 

                ติดตามฟังรายการได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 11.00-12.00 น.ทาง สวท.FM 97.0 MHz.