“นายกฯประยุทธ์”ลงใต้ตรวจแผนแก้จน-เมืองปูทะเลโลก
ปลุกธุรกิจท้องถิ่นแห่ลงทุนปลดล็อกคนจนเฉียดแสนราย
เรื่องโดย…#เพ็ญรุ่งใยสามเสน #gurutourza #รายการรวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97
#นายกรัฐมนตรีตรวจปัตตานียะลา #บพทแก้จนเบ็ดเสร็จ
#เปิดโครงการเมืองปูทะเลโลก
บพท.โชว์ผลงานต้อนรับ “พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา”นายกรัฐมนตรี นำทีมตรวจพื้นที่ชายแดนใต้ 15 ธ.ค.64 เกาะติดแผนงาน “แก้จนแบบเบ็ดเสร็จและแม่นยำ” ของ บพท.กับ ศอ.บต. มหาลัยในพื้นที่ ภาคีเครือข่าย เปิดโปรเจ็กต์ “เมืองปูทะเลโลกปัตตานี”ปลุกธุรกิจท้องถิ่นแห่ลงทุนเพิ่มสร้างเงิน งาน อาชีพ โตยั่งยืน ปลดล็อกคนจนเฉียดแสนราย
พล.อ.ประยุทธ
จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม
พร้อมด้วยคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง เดินทางตรวจราชการในพื้นที่ชายแดนใต้ 2 จังหวัด ที่ยะลาและปัตตานี พร้อมประชุมร่วมกับผู้บริหารศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนใต้
(ศอ.บต).เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2564 เน้นประเด็น”การแก้ปัญหาความยากจน” เนื่องมาจากปัตตานีเป็นจังหวัดที่ประชากรมีรายได้น้อยที่สุดในประเทศไทยตามดัชนีความก้าวหน้าของคน
โอกาสนี้นายกรัฐมนตรีได้รับฟังรายงานความคืบหน้าของแผนงานการแก้ปัญหาความยากจนแบบเบ็ดเสร็จและแม่นยำในจังหวัดชายแดนใต้ ซึ่งเป็นความร่วมมือกันตามบันทึกความเข้าใจที่ลงนามร่วมกันระหว่าง ศอ.บต.กับหน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการพัฒนาระดับพื้นที่ (บพท.) สังกัดกระทรวงการอุดมศึกษาวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) โดยหนึ่งในโครงการความร่วมมือนั้นคือ “เมืองปูทะเลโลก” ซึ่งมีการคิดค้นการเพาะพันธุ์ลูกปูทะเลสำเร็จเป็นครั้งแรกจนเกิดเป็นอาชีพใหม่ให้แก่ประชาชน
นายกรัฐมนตรีและคณะได้ตรวจเยี่ยม “โครงการเมืองปูทะเลโลก” ของจังหวัดปัตตานี ซึ่งเป็นโครงการที่พัฒนาขึ้นภายใต้กรอบแนวคิดการพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากที่ประสานการขับเคลื่อนร่วมกันระหว่าง ศอ.บต. กับ บพท.
นายกิตติ สัจจาวัฒนา ผู้อำนวยการ บพท. กล่าวว่า ปี 2563 บพท.ร่วมกับมหาวิทยาลัยในพื้นที่ตรวจค้น ตรวจทานจนสามารถนำประชาชนที่ยากจนเข้าสู่กระบวนการความช่วยเหลือของรัฐได้แล้ว 98,000 คน และยังได้สนับสนุนการพัฒนาโครงการเมืองปูทะเลโลกของมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี เพื่อสร้างเศรษฐกิจใหม่แก่ประชาชนด้วย
โครงการดังกล่าวเป็นความร่วมมือและบูรณาการระหว่าง
บพท. ศอ.บต. ตลอดจนภาคีอื่น ๆ ได้แก่ มหาวิทยาสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี
กรมประมง กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ตลอดจนกลุ่มวิสาหกิจชุมชน
และเกษตรกรในพื้นที่ โดยมีทีมนักวิชาการจากมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์สนับสนุนการสร้างองค์ความรู้เรื่องปูทะเลด้วยภูมิปัญญาคนไทยอย่างครบวงจร
ผอ.กิตติย้ำว่า ทุนวิจัย
บพท.ช่วยให้เกิดนวัตกรรมใหม่ เมื่อนำไปเชื่อมโยงกับกลไกสภาเกษตรกร เกษตรกร
ฟาร์มเพาะเลี้ยง ภาคธุรกิจเอกชน และหน่วยงานภาครัฐ ทำให้เกิดโอกาสทางเศรษฐกิจใหม่ของประชาชน
และจะต่อยอดฐานทรัพยากรให้เกิดเป็นเป็นเมืองปูทะเลโลกที่ปัตตานีได้อย่างยั่งยืนต่อไป
นายซุกรี หะยีสาแม กล่าวว่าในฐานะหัวหน้าโครงการวิจัยเมืองปูทะเลโลก
และอาจารย์คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี โครงการนี้เป็นวิจัยเพื่อพัฒนาการเพาะเลี้ยงปูทะเลให้เป็นสัตว์น้ำเศรษฐกิจใหม่แบบครบวงจร
เน้นการมีส่วนร่วมการใช้กลไกความร่วมมือเพื่อพัฒนาพื้นที่จังหวัดปัตตานี
ที่ได้รับทุนสนับสนุนจาก บพท.เข้ามาพัฒนาต้นแบบโครงการ
โดยเฉพาความต้องการปูทะเลมีสูงและสม่ำเสมอ แต่ที่ผ่านมาใช้ลูกปูจากธรรมชาติมาเพาะเลี้ยงทำให้ไม่มีผลผลิตมากและสม่ำเสมอมากเพียงพอ เมื่อได้งบวิจัยจนเกิดการเพาะพันธุ์ได้สำเร็จแล้ว ถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่เป็นประโยชน์แก่ประชาชน ทั้งยังกระตุ้นการลงทุน กระทั่งตอนนี้เกิดห่วงโซ่ครบวงจรแล้วในปัตตานี
นายซุกรียืนยันว่าโครงการเมืองปูทะเลโลก
ได้รับความเชื่อมั่นทั้งจากเกษตรกร และผู้ประกอบการภาคเอกชนมากขึ้น สังเกตุเห็นความได้ชัดเจนจากจำนวนเกษตรกร
หรือกลุ่มเกษตรกรสมัครใจเข้าร่วมโครงการต่อเนื่องจำนวนเพิ่มขึ้น รวมถึงมีเอกชนหันมาลงทุนทำธุรกิจเกี่ยวเนื่องกับปูทะเลมากขึ้น
จึงน่าเชื่อได้ว่าโครงการเมืองปูทะเลโลก จะเป็นรากฐานสำคัญของเศรษฐกิจระดับฐานรากที่จะมีส่วนอย่างสำคัญเรื่อง
การสร้างงาน สร้างอาชีพ และสร้างรายได้ ที่มั่นคงยั่งยืนแก่ประชาชนในพื้นที่
ซึ่งจะช่วยให้ปัญหาความยากจนได้รับการแก้ไขอย่างเบ็ดเสร็จ
สำหรับ “โครงการเมืองปูทะเลโลก จังหวัดปัตตานี” มีพัฒนาการเริ่มต้นจากการเพาะฟักลูกปู
แล้วนำลูกปูไปส่งเสริมให้เกษตรกรทำฟาร์มเลี้ยงปูทะเลแบบบ่อดิน แรกเริ่มมีเกษตรกรสนใจทำฟาร์มปูทะเลเพียง
3 ฟาร์ม
แต่ปัจจุบันขยายเป็น 25 ฟาร์ม และมีเกษตรกรพัฒนาเป็นฟาร์มปูขุนระบบคอนโดน้ำหมุนเวียน
และแบบแพลอยน้ำอีก 22 ราย
อีกทั้งยังมีการทำฟาร์มอนุบาลลูกปูวัยอ่อนเกิดขึ้น 2 แห่ง
รายงานการศึกษาวิจัยเบื้องต้นพบว่า การเลี้ยงปูบนที่ดินตัวเองของเกษตรกร ขนาดบ่อ 2 ไร่ ต้องใช้ต้นทุนรวม 23,100 บาทต่อรอบ 109 วัน สามารถทำรายได้จากการขายเป็นปูขุนได้ 89,000 บาทต่อรอบ สร้างกำไรจากการเลี้ยงรอบละ 65,900 บาท หรือคิดเป็นอัตราผลตอบแทนเฉลี่ยจากการเลี้ยงรอบละ 285.28 %
ทั้งนี้ปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญในการเลี้ยงปู
อยู่ที่คุณภาพน้ำ ต้องควบคุมให้มีค่าความเป็นกรด-ด่าง ระหว่าง พีเอช 6-8 และต้องรักษาค่าความเค็มให้ทรงตัวอยู่ที่ระดับ
30 พีพีเอ็ม
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น