TCEBงัดโปรเจกต์ใหม่BizConnectปั๊มเศรษฐกิจไมซ์ปี’66 ดึง3หมื่นงานรับเทรนด์ลดโลกร้อน&เพิ่มไมซ์สุขภาพ+ชุมชน
“TCEB”งัดโปรเจกต์ใหม่BizConnectปั๊มเศรษฐกิจไมซ์ปี’66
ดึง3หมื่นงานรับเทรนด์ลดโลกร้อน&เพิ่มไมซ์สุขภาพ+ชุมชน
เรื่องโดย...#เพ็ญรุ่งใยสามเสน #gurutourza,www.facebook.com/penroongyaisamsaen
รองผู้อำนวยการสายงานพัฒนาและนวัตกรรม
สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) “TCEB”
----------------------
“TCEB”
งัดเครื่องมือใหม่ บิ๊กโปรเจ็กต์ “Biz Connect”
โกยตลาดไมซ์ไทยและทั่วโลกปี’66 ปลุกผู้จัดไมซ์กลุ่มหลักที่ทีเส็บสนับสนุนปีละกว่า
30,000 งาน
ตื่นรับเทรนด์ไมซ์ลดโลกร้อน ซื้อขายคาร์บอนฟุตปริ๊นท์เพิ่ม 20 %
เพิ่มฟีเจอร์รูป วิธีใช้ดิจิทัลเต็มรูปแบบ พร้อมเพิ่มจุดขายใหม่ MICE Plus 2
เส้นทางยอดฮิต “ไมซ์เฮลท์&เวลเนส+ไมซ์ชุมชน”
นางศุภวรรณ
ตีระรัตน์ รองผู้อำนวยการสายงานพัฒนาและนวัตกรรม
สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) “TCEB”
เปิดเผยว่า ได้วางกลยุทธ์พัฒนานวัตกรรมกับเทคโนโลยีปีงบประมาณ
2566 ถือเป็นหัวใจสำคัญที่ทีเส็บมุ่งมั่นให้อุตสาหกรรมไมซ์นำมาใช้ประโยชน์ทางเศรษฐกิจไมซ์ได้มากขึ้นทั้งการจัดประชุม
และจัดเทศกาลต่าง ๆ โครงการหลัก คือ แอพลิเคชั่น BizConnect
ใช้งานได้บนมือถือ ที่จะให้กลุ่มเป้าหมายได้แก่ ผู้จัดการประชุมสัมมนา
และผู้เข้าร่วมงาน สามารถลงทะเบียนแต่ละงานเพื่อดูรายละเอียดทั้งหมดเป็นการนำเครื่องมือดังกล่าวมาใช้แทนกระดาษช่วยลดการใช้ทรัพยากรสิ่งแวดล้อม
ขณะนี้ทีเส็บได้พัฒนาแอพลิเคชั่น
BizConnect เพื่อให้ผู้เกี่ยวข้องกับไมซ์ได้ใช้ฟรีในรูปแแบบ
All inclusive ประกอบด้วย
1.งานสัมมนา
ทุกคนสามารถเปิดดูข้อมูลรายละเอียดงาน วิทยากร หัวข้อประชุมสัมมนา 2.งานประชุมวิชาการต่าง
ๆ สามารถทำเป็นคำถามแลกเปลี่ยนระหว่างคนฟังกับวิทยากร ส่งเป็น Chat ให้วิทยากรทราบได้
พอจบงานยังสามารถทำสรุปจำนวนคนเข้าร่วมงาน ความชื่นชอบหัวข้อสัมมนาแต่ละโปรแกรม
หัวข้อ วิทยากร และการจัดงานโดนใจอย่างไร 3.งานแสดงสินค้าก็จะลงลึกไปถึงรายชื่อผู้นำสินค้ามาร่วมงาน
โชว์ที่ตั้งบูธต่าง ๆ ไฮไลต์ภายในงาน เวทีกลางมีกิจกรรมสำคัญ ๆ ได้แบบครบวงจร
โดยตั้งเป้าหมายปี 2565 กำหนดให้การจัดไมซ์ทั่วประเทศจะต้องลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ตลอดทั้งปี 200,000 ตัน จากนั้นปี 2566 จะขยับเพิ่มลดการปล่อยคาร์บอนให้ได้อีก 10-20 % หรือประมาณ 220,000-240,000 ตัน เล็งไปยัง กลุ่มแรก คือกลุ่มจัดงานไมซ์ที่ทีเส็บให้การสนับสนุนเข้ามาร่วมใช้เครื่องมือ BizConnect ซึ่งแต่ละปีจัดไมซ์ระดับท้องถิ่นและระดับประเทศรวมแล้วกว่า 30,000 งาน จำนวนงานมากที่สุดซึ่งเป็นงานสำคัญที่ทีเส็บสนับสนุนปีละ 300-500 งาน
ตอนนี้ทุกแห่งสนใจเข้าร่วมลดโลกร้อนจำนวนมากขึ้น ทางสถานที่จัดประชุม โรงแรมทั่วประเทศ ขอให้ทีเส็บไปจัดอบรมเรื่องการจัดงานไมซ์อย่างไรเพื่อลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ ลดโลกร้อน เพราะลูกค้ากำหนดเป็นเงื่อนไขที่จะเลือกใช้สถานที่จัดงานซึ่งเป็นส่วนสำคัญอย่างมาก เพราะเกี่ยวข้องกับการใช้ไฟฟ้า พลังงาน อาหาร การตกแต่ง สถานที่ ซึ่งทุกฝ่ายให้ความร่วมมืออย่างดีเยี่ยม
ปี 2566 เครื่องมือใหม่แอพลิเคชั่น BizConnect จะเพิ่มความพิเศษมากขึ้น อีกอย่างน้อย 3 ส่วน ประกอบด้วย
ส่วนที่ 1 สร้างเมนู “เครื่องมือคำนวณการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์กับคาร์บอนฟุตปริ๊นท์” การจัดไมซ์ ทั้งการจัดงานประชุม แสดงสินค้าและนิทรรศการ เปิดให้ตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศใช้งานฟรี โดยจะเพิ่มเครื่องมือใหม่ “การคำนวณคาร์บอนฟุตปริ๊นท์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ สนับสนุนการจัดงานไมซ์อย่างยั่งยืน นอกจากจะช่วยลดมลภาวะและความสูญเสียทางเศรษฐกิจเรื่องการใช้ทรัพยากรสิ้นเปลืองแล้ว ปีหน้าในวงการอุตสาหกรรมไมซ์ทั้งในประเทศและทั่วโลกยังเล็งเห็นถึงการใช้เครื่องมือ “วัดและประเมินผลคาร์บอนฟุตปริ๊นท์” อย่างมีนัยสำคัญด้วย เพื่อจัดงานเพื่อลดโลกร้อนให้ได้มากที่สุด
ดังนั้นทางทีเส็บจึงพยายามร่วมมือกับ
“องค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) “อวก./TGO :Thailand Greenhouse Gas Management Organization (Public Organization) คิดโมเดลคำนวณสูตรคาร์บอนฟุตปริ๊นท์แบบง่าย
ๆ
เข้ามาใช้ประเมินผลการจัดไมซ์แต่ละงานถึงการใช้ปริมาณคาร์บอนไดออกไซด์กี่ตันต่องาน
เท่ากับการปลูกต้นไม้กี่ต้น หากต้องการให้การจัดงานเป็นการลดขยะเป็นศูนย์หรือ Zero Waste รวมทั้งลดการใช้พลังงาน
และลดละการปล่อยมลพิษ ควบคู่กันไปทั้งหมดนั้น ก็ใช้เครื่องมือดังกล่าวได้
ผู้รับผิดชอบจัดไมซ์แต่ละงานที่ใช้เครื่องมือคำนวณการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์กับคาร์บอนฟุตปริ๊นท์เสร็จเรียบร้อยแล้ว
ก็สามารถที่จะทำความดีด้วยการ “ลงทุนซื้อหรือชดเชยการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์”
เรียกว่า Carbon offset
เพื่อช่วยนำออกซิเจนกลับคืนสู่ธรรมชาติ เช่น โครงการปลูกป่า
การลดมลพิษหรือลดการสร้างขยะแก่โลก
วิธีที่จะช่วยให้ไมซ์แต่ละงานเข้าร่วมโครงการลดโลกร้อนหรือลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ ลดขยะให้เป็นศูนย์ ลดพลังงาน ได้ ซึ่งแอพลิเคชั่น BizConnect จะมีสูตรสำเร็จให้ผู้เกี่ยวข้องกับงานไมซ์สามารถใส่ข้อมูลเข้าไปก็จะได้ผลลัพธ์เป็นคำตอบออกมาอย่างเป็นรูปธรรม 4 เรื่องด้วยกัน คือ
เรื่องที่ 1 ผู้เข้าร่วมงานลงทะเบียนผ่านแอพลิเคชั่น BizConnect ใส่รายละเอียดเพิ่มให้มากขึ้นได้แก่ เดินทางมางานด้วยระบบขนส่งใด ทางเครื่องบิน ทางรถ ทางเรือ เดินทางมาจากโซนไหน ในประเทศหรือประเทศใด เพราะการเดินทางโดยเครื่องบินตอนนี้สายการบินสามารถบอกได้ว่าแต่ละคนเดินทางมาระยะทางกี่กิโลเมตร นอกเหนือจากลงทะเบียนปกติทั่วไป จะใส่เพียง ชื่อ-สกุล ตำแหน่ง หน่วยงาน ความสนใจแต่ละหัวข้อเท่านั้น
เรื่องที่ 2 การเลือกใช้อาหารที่นำมาบริการภายในงาน ได้เลือกใช้วัตถุดิบจากภายในท้องถิ่น ลดพลังงานการขนส่ง และอื่น ๆ
เรื่องที่ 3 โรงแรมที่จัดงานสามารถนำข้อมูลการเดินทางโดยรถไฟฟ้าบีทีเอส รถไฟฟ้าใต้ดิน ของผู้เข้าร่วมงานทั้งหมดมาคำนวณเรื่องการลดคาร์บอนไดออกไซด์รวมเป็นเท่าไร
เรื่องที่ 4
ผู้จัดได้เลือกใช้พลังงานไฟฟ้าภายในแต่ละงานไมซ์
ได้นำเรื่องพลังงานแสงอาทิตย์/โซลาร์เซลมาใช้ด้วยหรือไม่
ส่วนที่ 2 เตรียมเพิ่มฟีเจอร์ “รูปการเข้าร่วมงานไมซ์” ทั้งจัดแสดงสินค้าและนิทรรศการ อีเวนต์ระดับนานาชาติ และงานอื่น ๆ เนื่องจากผู้จัดและผู้เข้าร่วมงานไมซ์ยุคปัจจุบันเป็นกลุ่มเจนเอ็กซ์ วาย มิลเลนเนียล จึงต้องเพิ่มฟีเจอร์เป็นแกลอรี่รูปเข้าไปด้วย
ส่วนที่ 3 เพิ่มข้อมูลความรู้ทักษะความสามารถทางดิจิทัล : Digital Literacy ในการจัดสัมมนา จัดประชุม ได้คัดเลือกผู้มีอิทธิพลหรือ Influencer ซึ่งมีรายชื่ออยู่ใน Tech Firm หรือบริษัทเทคโนโลยีที่มีชื่อเสียงระดับประเทศเข้าร่วมสัมภาษณ์ผลิตสื่อ youtube หรือ Portcase Media หรือช่องทีวีดิจิทัลเพิ่มเติม และใช้เครื่องมือโซเชียลมีเดีย เพื่อให้คนได้เข้าถึงมากที่สุด
ทีเส็บวางแผนจัดมหกรรมงาน
“TECH MART” ปี 2565
นำร่องจัดแล้วผู้ประกอบการผลตอบรับดีมาก
เพราะต้องการรู้สถานการณ์เชิงลึกถึงการใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ของกลุ่ม Tech Firm มีเครื่องมือพร้อมนำไปใช้งานได้อย่างไรบ้าง
ปี 2566
เตรียมจัดงาน “TECH MART 2023” ระดมบริษัทที่มีชื่อเสียงด้านเทคโนโลยี
กับผู้ประกอบการเข้ามาจับคู่เจรจาธุรกิจร่วมกัน รวมทั้งจะเชิญ สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ สนช./NIA :National Innovation Agency สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (DEPA :Digital Economy Promtion Agency) สมาคมเทคแห่งประเทศไทย
เข้าร่วมนำเสนอเรื่องเทคโนโลยีต่าง ๆ ซึ่งเมืองไทยยังมีจำนวนไม่มาก
จึงต้องไประดมเทคเฟิร์มจากธุรกิจท่องเที่ยวเข้ามาขยายผลในอุตสาหกรรไมซ์ควบคู่กันไป
นางศุภวรรณ
กล่าวว่า ขณะนี้ทางสมาคมไทยท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์และผจญภัย
(สทอ./TEATA :Thai Ecotourism & Adventure
Association)
ได้เข้ามาขอการสนับสนุนจากทีเส็บเพื่อจัดเส้นทางท่องเที่ยวพร้อมทำกิจกรรมไมซ์ที่สามารถลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์และทำคาร์บอนฟุตปริ๊นท์ด้วย
ขณะเดียวกันทีเส็บจะปลุกกระแสผู้จัดงานไมซ์ทั่วประเทศให้หันมาวัดและประเมินผลการลดโลกร้อนโดยมีตัวชี้วัดอย่างชัดเจน
รวมทั้งปัจจุบันทีเส็บได้รับงบประมาณปี 2566 ที่จะตอบสนองความต้องการของลูกค้าด้วยในการจัดทำ โครงการที่ 2 “7 Theme MICE Plus หรือไมซ์ชุมชน :Community Base MICE” ขยายผลจากชุมชนท่องเที่ยวมาตอบโจทย์ไมซ์โดยการสกรีนมาตรฐานรองรับงานไมซ์ได้ด้วย เพราะตอนนี้ไมซ์ที่เป็นกลุ่ม Incentive :การเดินทางเพื่อเป็นรางวัล ตลาดทั้งในประเทศและนานาชาติมีแนวโน้มเติบโตสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว เพราะเจ้าของกิจการยุคนี้พฤติกรรมของผู้บริหารเป็นเจนเอ็กซ์หรือมิลเลนเนียลคนรุ่นใหม่สนใจสร้างประสบการณ์โดยนิยมให้รางวัลพนักงานและเจ้าของกิจการเข้าไปเรียนรู้วิถีชีวิตชุมชนใหม่ ๆ เพิ่มมากขึ้น เป็นกลยุทธ์ใช้รางวัลการเดินทางแก่ทุกคนเพื่อให้องค์กรภูมิใจที่ได้ช่วยเหลือสังคมนอกเหนือจากการแจกโบนัสทั่วไป
ขณะนี้จึงมีเส้นทาง “ไมซ์ชุมชนรองรับการเดินทางเพื่อเป็นรางวัล” ทั่วประเทศพัฒนามาตรฐานเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก โดยมีกลุ่มบริษัท องค์กร เดินทางมาใช้สถานที่ จึงเกิดการแข่งขันสูง ทั้งในประเทศไทยและนานาชาติ หลายประเทศหันมาสร้างเมืองและชุมชนให้ได้มาตรฐานรองรับตลาดไมซ์ซึ่งมีศักยภาพใช้จ่ายเงินสูงกว่านักท่องเที่ยวทั่วไปซึ่งได้รับเงินรางวัลเดินทางฟรี กลุ่มอินเซ็นทีฟจึงคาดหวังสูงจากแต่ละสถานที่ที่จะไป
ปี 2566
ทีเส็บจะเพิ่มจุดหมายปลายทางให้เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางมากขึ้นอีก 2 เส้นทาง
ได้แก่
เส้นทางที่ 1 “ไมซ์เชิงสุขภาพองค์รวม หรือ Health &Wellness” ปัจจุบันในเมืองไทยมีชุมชนเด่น ๆ ซึ่งเป็นตัวชูโรงโดนใจตลาดคนไทยและต่างชาติทั่วโลก ชุมชนหันมาทำกิจกรรมเรื่องการฝึกสติให้อยู่กับปัจจุบัน (mindfulness) การทำสมาธิ (meditaion) และการป้องกันดูแลรักษาสุขภาพ จะคัดเลือกหลายพื้นที่เข้าร่วมโครงการ ตัวอย่าง ไมซ์ในเกาหลี ญี่ปุ่น หันมาเร่งทำโครงการ Duel City ส่งเสริมการขายไมซ์ไปยังเมืองหลักกับเมืองใกล้เคียง เช่นเดียวกับไทยก็เตรียมทำแบบเดียวกัน จะไม่ได้อยู่เพียงแค่จังหวัดเดียว จะเชื่อมการเดินทางไปยังพื้นที่ใกล้เคียงด้วย เช่น มากรุงเทพฯ กระตุ้นให้เดินทางต่อไปหัวหิน หรือเชียงใหม่ต่อไปยังสุโขทัย พิษณุโลก หรือภูเก็ตต่อไปยังอันดามันคลัสเตอร์
เส้นทางที่ 2 “ไมซ์ล่องเรือสำราญ” ขณะนี้ทีเส็บเดินหน้าศึกษาวิจัยแล้วจะเริ่มขายปี 2566 โดยได้สำรวจความพร้อมท่าเรือสำราญแล้วขยายเส้นทางดังกล่าวไปยัง เกาะสมุย กับพัทยา เพิ่มขึ้นจากภูเก็ตนั่นเอง
ส่วนปี 2565 ทีเส็บเปิดเส้นทางไฮไลต์รองรับตลาดอินเซ็นทีฟและไมซ์อื่น ๆ ไปเรียบร้อยแล้ว ได้แก่ 1.ท่องเที่ยวเชิงอาหารหรือ Gastronomy 2.บรรยากาศริมทะเล 3.ประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม 4.พื้นที่เชิงผจญภัย 5.กิจกรรมหรูหรา 6.สร้างทีมเวิร์ค Team Building 7.การประชุมเชิงอนุรักษ์ธรรมชาติสีเขียว (green meeting)
นางศุภวรรณ กล่าวว่า การพัฒนานวัตกรรมกลุ่มบริษัทเทคโนโลยีหรือ Tech Firm ปี 2566 เน้นให้ความสำคัญอย่างมากกับการใช้เครื่องมือแอพลิเคชั่น ซึ่งจะเป็นปีที่คนเริ่มออกมาจัดงานเพิ่มขึ้นจำนวนมากหลังจากต้องประชุมผ่านเวทีเสมือนจริง Virtual meeting มาตลอดสถานการณ์โควิด-19 จึงจะเน้นให้น้ำหนัก “สถานที่จัดงานจริง” 3 ประเภท 1.ศูนย์ประชุม 2.ห้องประชุมในโรงแรม 3.Specail Venue หรือสถานที่พิเศษเทรนด์ใหม่กลางธรรมชาติ เช่น ร้านอาหาร สถานที่สำคัญของจังหวัดต่าง ๆ ซึ่งต้องหาวิธีโชว์ศักยภาพการใช้เทคโนโลยี ให้พนักงานกับเจ้าของสถานที่เรียนรู้อย่างทันสถานการณ์ จึงต้องหาเทคเฟิร์มไปจับคู่กับผู้ประกอบการที่จะเข้าสู่ระบบไมซ์ไฮเทคในอนาคตตั้งแต่ปีหน้า 2566 เป็นต้นไป
โดยให้ความสำคัญกับเรื่องการใช้เทคโนโลยีทำการตลาด
ตัวอย่าง ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ เปิดเป็นตึก 4 ชั้น
พลิกโฉมโครงสร้างอาคารทันสมัยรองรับไมซ์ได้หลากหลายมากขึ้น
ภายใต้ดีไซน์ที่ยังคงความเป็นอัตลักษณ์ไทย เช่น โลกกุตระ หน้ายักษ์
นำมาตกแต่งอาคาร ทางทีเส็บร่วมกับทางศูนย์ประชุมสิริกิติ์ทำ “ป้ายอัจฉริยะ”
ทำหน้าที่ให้ข้อมูลทั้งหมดภายในศูนย์และชุมชนรอบพื้นที่
และจุดดึงดูดความสนใจการท่องเที่ยว บริการเดินทางด้วยรถไฟฟ้าทั้งใต้ดินกับบีทีเอส
และคนที่เดินทางเข้าร่วมงานทั้งคนไทยและต่างชาติสามารถคลิกดูข้อมูลทั้งหมดได้ กับการแท็กสรุปยอดจำนวนคนเข้าร่วมแต่ละงานที่อยู่ในศูนย์ได้ทุกวัน
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น