ททท.รีสตาร์ตท่องเที่ยวพังงาโกยรายได้ปีเถาะ66 ตามเป้า 1 แสนล้าน ใช้แอร์ไลน์2สนามบิน ภูเก็ต กระบี่ เพิ่มลูกค้าต่างชาติ
ททท.รีสตาร์ตท่องเที่ยวพังงา1ใน20เมืองหลักโกยแสนล้าน
ปี’66รุก3เป้า“ทวงคืนตลาดยุโรป-เพิ่มไฮเอนด์-รักษาทัวร์ไทย”
ผนึก2สนามบินภูเก็ต/กระบี่46แอร์ไลน์แชร์ต่างชาติเข้าพังงา
คิงเพาเวอร์ชวนเที่ยวตรุษจีนที่รางน้ำ4กิจกรรมถึง29 ม.ค.66
ซินเจียยู่อี่ที่คิงเพาเวอร์ช้อปชิมมั่งคั่งจัดเต็มคาราเบล4สไตล์
“X8เครือคิงเพาเวอร์”ชูสินค้าโปรเจกต์พิเศษPastelxBibleBuild
ททท.ลั่นเที่ยวตรุษจีนปีเถาะโกยรายได้ไทย-เทศเกิน2หมื่นล้าน
“บางจาก”เปิดโมเดลปี66“นักกีฬาไทยไร้คาร์บอน”กระหึ่มโลก
เที่ยวตรุษจีนเสริมมมงคลเยาวราชและ5พิกัดยอดนิยมทั่วไทย
ไทยถกกงสุลใหญ่ฯเพิ่มไกด์ในไทยรับทัวร์เกาหลียอดพุ่งปี’66
“กีรติ
กิจมานะวัฒน์”เข้าวินผอ.ใหญ่AOTตามโผรอจ้างก.พ.66
วันเสาร์ที่ 21 มกราคม 2566 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทางfacebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen บล็อกเกอร์ #gurutourza #รวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97 #เพ็ญรุ่งใยสามเสน #เที่ยวกับกู๋ #KingPower #TAT #TCEB #บางจาก #TATPhangnga #เทศกาลตรุษจีนปี2566
ฟัง Live สดจากลิงค์นี้... https://fb.watch/ibinXWu_YV/
ช่วงที่ 1 บิ๊กภารกิจของ “อุทิศ ลิ่มสกุล” ผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานพังงา นำ 1ใน 22 จังหวัดท่องเที่ยวหลักโกยรายได้ปีเถาะ 1 แสนล้านบาท ผนึกรัฐ เอกชน เดินหน้า 3 เป้าหมาย “ทวงคืนนักท่องเที่ยว ยุโรป สแกน-ขยายตลาดใหม่เพิ่มวันพักตลาดไฮเอนด์-รักษาส่วนแบ่งเที่ยวไทย” โหมโปรเจกต์“Phang-nga Enjoy It All”ขายต่างชาติ ดันแคมเปญ“เที่ยวใต้ให้ปัง ต้องพังงา”ครองใจในประเทศ ใช้ทำเลทองพึ่ง 2 สนามบิน “ภูเก็ต” กับ “กระบี่” ม.ค.66 มีเที่ยวบินหลั่งไหล เฉพาะม.ค.66ต่างชาติบินแล้ว 46 สายการบิน กว่า 3,393 เที่ยวบิน และบูม ซอฟท์ เพาเวอร์ 5F ปลุกใต้เที่ยวใต้
นายอุทิศ
ลิ่มสกุล ผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานพังงา เปิดเผยว่า
ปี 2566
วางกลยุทธ์ส่งเสริมพัฒนาตลาดท่องเที่ยวในฐานะพังงาเป็น 1 ใน 22
จังหวัดหลักทางการท่องเที่ยว
ได้กำหนดเป้าหมายทางการตลาดร่วมกันภายในจังหวัดพังงา ระหว่าง
ททท.สภาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว สมาคมธุรกิจท่องเที่ยว ตั้งเป้าหมาย 1 แสนล้านบาท ด้วยการขับเคลื่อน 3 เป้าหมาย ดังนี้
เป้าหมายที่ 1 ทวงคืนตลาดนักท่องเที่ยวกลับเข้าพังงา ตั้งเป้าจะต้องทำรายได้รวม 64,000 ล้านบาท มุ่งเจาะ กลุ่มยุโรป กลุ่มประเทศสแกนดิเนเวีย ด้วยการผลิตสินค้าให้สอดคล้องกับพฤติกรรมนักท่องเที่ยวหลัก จะเสนอขายการท่องเที่ยวเชิงพักผ่อน (Leisure) หาดทรายชายทะเลบริเวณเขาหลักมากสุด ซึ่งเดินทางมาเป็น กลุ่มครอบครัว พักค้างคืนเฉลี่ย 7-14 วัน/คน/ทริป
เป้าหมายที่ 2 การรักษาตลาดคนไทยไว้ให้ได้มากที่สุด เนื่องจากปี 2565 มาเที่ยวมากสุด 70 % จะใช้กิจกรรมหลักไว้ต้อนรับ ได้แก่ การเล่นเซิร์ฟ ซึ่งพังงาได้รับการจัดให้เป็น Surf Town และกิจกรรมคาเฟ่ ที่พักแนว Chic, Cool มีวันพักเฉลี่ย 1-3 วัน/คน/ทริป
เป้าหมายที่ 3 การขยายตลาดเพิ่มวันพัก
ทำให้มีวันพักเฉลี่ยต่อเนื่องยาวนานกว่าปกติ 7-14 วัน/คน/ทริป โดยให้ความสำคัญกับมากเป็นพิเศษกับตลาดที่สนใจท่องเที่ยวเฉพาะ
(Niche market) และกลุ่มนักท่องเที่ยวคุณภาพสูง (High
Value) ชอบกิจกรรมดำน้ำ กอล์ฟ ไตรกีฬา สายสุขภาพ/Health&Wellness
และการทำสมาธิ/Meditation
รุกตลาดต่างประเทศระยะใกล้ (shorthaul) สิงคโปร์ มาเลเซีย
เวียดนาม สปป.ลาว เกาหลี ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์
ปี 2566 ททท.พังงาได้เตรียมสถานที่ไว้ต้อนรับนักท่องเที่ยวปีท่องเที่ยว-Visit Thailand Year 2023 ภาพรวมส่งเสริมการขายตลาดในประเทศจะเน้นแคมเปญใหญ่ “365 วันมหัศจรรย์เมืองไทย เที่ยวได้ทุกวัน” จึงได้ทำแคมเปญรองรับในชื่อ “Phang-nga Enjoy It All” โดยททท.กับสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวและสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดพังงา เน้นเดินหน้า 1.กระตุ้นความถี่การเดินทางกับกลุ่มกระแสหลัก 2.เพิ่มเมนูประสบการณ์ท่องเที่ยวในแหล่งพื้นที่ใหม่ ๆ 3.เพิ่มมูลค่าการใช้จ่ายเงินเฉลี่ยจากนักท่องเที่ยวทุกกลุ่ม 4.เพิ่มการท่องเที่ยววันธรรมดา วันจันทร์-วันพฤหัส ของทุกสัปดาห์ตลอดทั้งปี
สำหรับ
“Phang-nga Enjoy It All”
จะเสนอขายนักท่องเที่ยวต่างชาติ 3 เรื่อง ได้แก่ 1.ท่องเที่ยวหน้าร้อนจะเสนอขาย
Dive to The Nature/ท่องเที่ยวดำน้ำสัมผัสธรรมชาติ 2.ท่องเที่ยวหน้าฝน Adventure/ท่องเที่ยวเชิงผจญภัย 3.ท่องเที่ยวหน้าหนาว ท่องเที่ยวหาดทรายชายทะเล
“นักท่องเที่ยคนไทย” จะเสนอขายแคมเปญ “เที่ยวใต้ให้ปัง ต้องพังงา” โดยได้ยึดโยงตามนโยบายรัฐบาลพลังซอฟท์ เพาเวอร์ 5F ไฮไลต์ คือ F1 -Food/อาหาร กระตุ้นคนไทยด้วยอาหารทะเล มีจัดเทศกาลผลไม้ตามฤดูกาล เช่น “ทุเรียนสาริกา” สายพันธุ์มีชื่อเสียงของพังงา “มังคุด” รสชาติเปรี้ยวอมหวานเป็นเอกลักษณ์ของจังหวัด จัดทำอีเวนต์การตลาดท่องเที่ยว ตามรอยอาหารรางวัลมิชลิน รวมแล้วทุกปีตอนนี้ในพังงามีทั้งหมด 24 ร้าน และสร้างคอนเทนท์ชุมชนด้วยการตลาดเช่นกัน เชิญชวนนักท่องเที่ยวเดินทางสัมผัสเมนูประสบการณ์ใหม่ที่ “ข้าวไร่ดอกข่า” อ.ปู่เจ้า หรือผลิตภัณฑ์ขมิ้นบ้านเขาตำหนอน ผลิตภัณฑ์สปาบ้านโคกไค อ.ทับผุด
F2-Film/ทำเลถ่ายทำภาพยนตร์ หลายปีที่ผ่านมาก็มี เจมส์บอน 007 เมื่อปี 2565 ก็มี The Machanic ถ่ายทำตรงแหลมหาด เกาะยาวใหญ่ รายการเกมโชว์ของเกาหลี โฆษณาในฝรั่งเศสติดต่อเข้ามาขอใช้พื้นที่ถ่ายทำในพังงา
F3-Fashion ใส่ผ้าไทยไปเที่ยว ผ้าพื้นเมืองในแถบอันดามัน เช่น ผ้าปาเต๊ะ
โดยได้รณรงค์ให้ใส่ชุดยะหยาบะบ๋า ย่านถนนวัฒนธรรมเมืองตะกั่วป่า
กำหนดจัดขึ้นทุกวันอาทิตย์ และถนนคนเดินปากถัก อ.กะปง
เน้นกระตุ้นการเดินเที่ยวถนนวัฒนธรรม ถ่ายรูป ชิมอาหารถิ่น พังงา
F4-Fighting ได้รวมรวมสนามมวยไทยต่าง ๆ ในพังงา
เชิญชวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่พำนักในเมืองไทย (expat)
มาเรียนรู้ เข้าค่าย เรียนมวยไทยไหว้ครูมวยไทย
F5-Festival การท่องเที่ยวงานเทศกาล เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวร่วมกิจกรรม “ยิ่งไหว้
ยิ่งปัง ต้องพังงา” เช่น งานแห่ผ้าขึ้นธาตุ วัดพระธาตุคีรีเขต อ.ตะกั่วป่า แห่ผ้าขึ้นธาตุวัดบางเหียนในวันมาฆบูชา วันที่ 6 มีนาคม 2566
เรื่อยไปจนถึงเทศกาลท่องเที่ยวงานสมโภชน์ศาลหลักเมืองพังงา
ร่วมพิธีบวงสรวงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในเดือนมิถุนายน นี้ และงานประเพณีถือศีลกินผัก
สุดคลาสสิกและโดดเด่นไม่แพ้จังหวัดอื่น ๆ งานประเพณีลอยเรือชาวเลในวันเพ็ญเดือน 6 และเดือน 11
รวมทั้ง
“ถนนคนเดิน”
ได้รวบรวมตลาดทั้งหมดในพังงาเปิดให้เดินอย่างเพลิดเพลินซึ่งคนไทยนิยมขับรถมาท่องเที่ยว
จากภูเก็ต นครศรีธรรมราช เช่น
“ตลาดหาดชายคลอง” เป็นพื้นที่เปิดใหม่ ทุกวันอาทิตย์ “ตลาดปากถัก” อ.กะปง
ตลาดชุมชนเปิดทุกวันอาทิตย์ “หลาดลงแล” ให้ความสำคัญกับการเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
ใช้ภาชนะทำจากวัสดุธรรมชาติ และตลาดที่ต่างชาติพำนักในไทยคุ้นเคยเป็นอย่างดี
“หลาดบางเนียง” ทุกวันจันทร์ พุธ ศุกร์ บ่าย 14.00-20.00 น. “ตลาดบิลต์” อ.ตะกั่วป่า เปิดทุกวันอังคาร พฤหัส ศุกร์ อาทิตย์ เวลา 13.00-20.00
น.
กิจกรรมที่มีชื่อเสียง “ดำน้ำ”
อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน และสุรินทร์ ติด 1 ใน 10 ของโลก “พายแคนู” อ่าวพังงา “ล่องแพไม้ไผ่”
บ้านคลองเคียน “ล่องแก่ง” บ้านสองแพรก “ล่องเรือคลอสังเน่ห์”
ชมป่าไทรโบราณาอายุนับร้อยปี เป็น 1 ใน 25 Thailand
Unseen New Series
“วิธีการเดินทางของนักท่องเที่ยว” เข้าถึงพังงาได้โดยใช้การเดินทางทั้งทางอากาศ ทางบก ดังนี้
“ทางอากาศ”
โดยเครื่องบินเข้ามายัง 2 สนามบินนานาชาติแล้วต่อเข้าพังงา
เฉพาะมกราคม 2566
มีต่างชาติบินรวม 46 สายการบิน จำนวนกว่า 3,393 เที่ยวบิน ดังนี้
1.สนามบินภูเก็ต ใช้เวลามาเมืองพังงา 45 นาที
ไปเขาหลัก 1 ชั่วโมง เดือนมกราคม 2566 มีเที่ยวบินในประเทศมาลงภูเก็ต
6 สายการบิน 3,724 เที่ยวบิน
มาจากกรุงเทพฯ และข้ามภูมิภาค เชียงใหม่ อุดรธานี อุบลราชธานี
“เที่ยวบินต่างประเทศ” ไม่รวมจีน มีทั้งหมด 40 สายการบิน อีก
3,280 เที่ยวบิน นักท่องเที่ยวดังกล่าวจะมีจำนวน 20-30
% เดินทางมาเที่ยวพังงา ซึ่งมีโปรแกรมเที่ยวเชื่อมต่อกับภูเก็ต พัก 3
คืน 4 วัน
2.สนามบินนานาชาติกระบี่ ใช้เวลาเดินทางมาพังงา 45
นาที -1ชั่วโมง เดือนมกราคม 2566 มีเที่ยวบินรวม
590 เที่ยว
เป็นเที่ยวบินระหว่างประเทศ (ไม่รวมจีน) 6 สายการบิน 113
เที่ยวบิน มาจาก สิงคโปร์ มาเลเซีย ดูไบ(สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์)
รัสเซีย
“ทางบก-โดยรถยนต์”
เนื่องจากพังงาเป็นจุดหมายปลายท่องเที่ยววันหยุดเสาร์-อาทิตย์ Weekend Desitnation ของคนภาคใต้ด้วยกัน จากหาดใหญ่
สงขลา สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช และคนใน 3 จังหวัดใต้ ยะลา
ปัตตานี นราธิวาส ขับรถมาเที่ยวได้อย่างสะดวกสบาย
นายอุทิศ
กล่าวว่า การเตรียมความพร้อมต้อนรับ “นักท่องเที่ยวตลาดสาธารณรัฐประชาชนจีน”
หลังจีนประกาศเปิดประเทศ ขณะนี้
ททท.หารือร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัดพังงาร่วมกันทุกฝ่าย
คาดการณ์จีนกลุ่มแรกจะเดินทางท่องเที่ยวพังงาช่วงตรุษจีนปลายเดือนมกราคม 2566 ประเมินสถานการณ์ตามรายงานของ ททท.สำนักงานปักกิ่ง
จะมีเที่ยวบินตรง ไป-กลับ ปักกิ่ง-ภูเก็ต 3 เที่ยว/สัปดาห์
ทุกวันจันทร์ พุธ วันอาทิตย์ ด้วยจำนวนที่นั่งรวม 477 ที่นั่ง/สัปดาห์
เที่ยวบินแรกจะเริ่มวันที่ 30 มกราคม นี้
ซึ่งจะสร้างโอกาสให้จีนมาเที่ยวพังงาด้วยเช่นกัน
ทาง
ททท.มองใน 2 มิติ มิติที่ 1 มาตรการความปลอดภัยทั้งประชาชนและผู้ประกอบการ
ได้รณรงค์ให้คนในพื้นที่ทั้งจังหวัดพังงาได้ฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 เข็มกระตุ้น จึงมีภูมิคุ้มกันอยู่ในเกณฑ์ปลอดภัยพร้อมรับนักท่องเที่ยว 2.พังงามีโรงแรมที่ได้รับมาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัย SHA ผ่านมาตรฐานดังกล่าวแล้วรวมกว่า 1,000 แห่ง
มิติที่
2 การทำแผนส่งเสริมตลาดนำภาคธุรกิจท่องเที่ยวเดินทางไปโร้ดโชว์ท่องเที่ยวตลาดจีน
กับ ททท.ส่วนกลาง ระหว่างวันที่ 20-24 กุมภาพันธ์ 2566
ในสาธารณรัฐประชาชนจีน 3 เมืองหลัก ได้แก่
เซี่ยงไฮ้ เฉินตู กวางโจ
โดยได้ทำคลิปประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวย่านเมืองเก่าพังงาทันทีที่รัฐบาลจีนประกาศเปิดประเทศ
ตั้งแต่ 8 มกราคม 2566 เป็นต้นมา โดยมี
ดร.ยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการ
ททท.เป็นผู้นำทำคลิปโดยใช้สถานที่แหล่งท่องเที่ยวพังงาถ่ายทำแล้วเผยแพร่ไปยังตลาดจีนผ่าน
ททท.ในจีนทั้ง 5 สำนักงาน
รวมทั้งยังได้ใส่ข้อมูล
ซับไตเติ้ล คลิปท่องเที่ยว “Phang-nga Enjoy
It All” เป็นภาษาจีน ประชาสัมพันธ์ครอบคลุมทุกพื้นที่
ซึ่งจะช่วยสร้างการรับรู้และสามารถกระตุ้นความนักท่องเที่ยวจีนให้เลือกจุดหมายปลายทางมายังพังงามากขึ้นด้วย
ส่วน “โรงแรมในพังงา”
ขณะนี้ทยอยเปิดเกือบจะครบ 100 % โดยมีห้องพักพร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวคนไทยและต่างชาติรวมทั้งหมด
14,348 ห้อง ในส่วนนักท่องเที่ยวที่พักค้างพังงา 24 %
ไปเช้าเย็นกลับอีก 76 % แล้วยังมี
“พื้นที่พักกางเตนท์” ทั้งที่อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์ อุทยานแห่งชาติหาดท้ายเหมือง
หรือเอกชนที่ได้รับความนิยม เช่น “อธิการ์เด้น” อ.ท้ายเหมือง
เป็นที่พักแนวแคมปิ้งและคาเฟ่กลางสวนยางพารา
ทั้งนี้ในสถานการณ์ปกติปี
2562 จังหวัดพังงาจะมีต่างชาติสูงถึง 76 % คนไทย 24 % แต่ช่วงสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลายตัวเลขพลิกผันเป็นตรงกันข้ามมีคนไทยเข้ามาท่องเที่ยวสูงสุด
สะท้อนถึง “โครงสร้างทางการตลาดท่องเที่ยวพังงา” ตามสถิติมกราคม-พฤศจิกายน 2565
พังงามีผู้เยี่ยมเยือนรวมทั้งหมด 1,052,760 คน
มีรายได้สูงอันดับ 6 ของประเทศ ทำได้ 4,914.15 ล้านบาท
ประกอบด้วย
“สัดส่วนนักท่องเที่ยว” คนไทย 735,717 คน
คิดเป็น 70 % สร้างรายได้ 2,331.68 ล้านบาท
คิดเป็น 47 % ต่างชาติเข้ามาเป็นอันดับ
8 ของไทย คือ 317,353 คน คิดเป็น 30
% สร้างรายได้ 2,582.47 ล้านบาท คิดเป็น 53
%
เมื่อย้อนไปยังสถานการณ์เดินทางได้ตามปกติปี
2562 พังงามีผู้เยี่ยมเยือนรวมทั้งหมด 4.9 ล้านคน แบ่งเป็น คนไทย 23.33 % ต่างชาติ 76.37
% “สร้างรายได้” ประมาณ 51,700
ล้านบาท คนไทย 12.50 % ต่างชาติ 87.50
% คิดเป็น 45,256 ล้านบาท
“การใช้จ่ายเงินเฉลี่ย” 5,327 บาท/คน/วัน แบ่งเป็น ต่างชาติ 5,824
บาท/คน/วัน คนไทย 3,334 บาท/คน/วัน
สถิติปี 2562 มีจำนวนนักท่องเที่ยวเข้าสู่พังงารวมทั้งหมด
4.9 ล้านคน เป็นการเดินทางเข้ามาพักค้างคืน 24 % และนักทัศนาจรเดินทางไปเช้าเย็นกลับ 76 % โดยมี
“วันพักเฉลี่ย” รวมทั้งหมด 5.11 วัน/คน/ทริป ต่างชาติ 6.39
วัน/คน/ทริป คนไทย 2.34 วัน/คน/ทริป ส่งผลตลอดทั้งปีมีวันพักเฉลี่ย 64.04 % มาจากนักท่องเที่ยวต่างชาติมากถึง 76.37 % ประกอบด้วย
5 อันดับ ได้แก่ อันดับ 1 เยอรมัน 185,000
คน อันดับ 2 สาธารณรัฐประชาชนจีน 118,372
คน อันดับ 3-9 เป็นยุโรปกับสแกนดิเนเวียทั้งหมด
และ อันดับ 10 ญี่ปุ่น 21,802 คน
ฟังข่าวต้นชั่วโมง
ข่าวที่ 1
คิงเพาเวอร์ชวนเที่ยวตรุษจีนที่รางน้ำ4กิจกรรมถึง29 ม.ค.66
นายอภิเชษฐ์ ศรีวัฒนประภา
ผู้ช่วยประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ เปิดเผยว่า กลุ่มบริษัท
คิง เพาเวอร์ ต้อนรับเทศกาลตรุษจีนปี 2566 ด้วยการจัดแคมเปญ “KING
POWER CHINESE NEW YEAR : THE GREAT FORTUNE DESTINATION” ช้อปมั่งคั่งรับปีเถาะ
ระหว่าง 19 - 29 มกราคม 2566 เชิญชวนนักเดินทางมาร่วมฉลองปีแห่งการเริ่มต้นใหม่กับกิจกรรม
“เสริมมงคล” และรับสิทธิพิเศษ ! เมื่อช้อปปิ้งในแคมเปญรับทันที ‘ปี่เซียะ’
รุ่นพิเศษจากไลลาหรือLeila Amulets
โดย “คิง เพาเวอร์ ได้จัดบรรยากาศฉลองตรุษจีนอย่างยิ่งใหญ่ต้อนรับมงคลรับปีกระต่ายได้มาบรรจบครบ
60 จึงได้อัญเชิญ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ “สี่ราชาสวรรค์ จาตุมหาราชา” มาให้นักเดินทางได้สักการะเพื่อความเป็นสิริมงคลที่
“คิง เพาเวอร์ รางน้ำ” โดยได้อัญเชิญจากสาธารณรัฐประชาชนจีน เป็นไม้พยุงแกะสลักและมีอายุมากกว่า
100 ปี ขนาดความสูง 1.3 เมตร ปัจจุบันประดิษฐานที่พิพิธภัณฑ์พุทธธรรม
พระบรมสารีริกธาตุ
“สี่ราชาสวรรค์ จาตุมหาราชา” เป็นผู้พิทักษ์โลกทั้งสี่ทิศ
หรือที่รู้จักในนาม ซื่อต้าจินกัง (ท้าวจตุโลกบาล)ผู้พิทักษ์คุ้มครองโลกทั้ง 4 ทิศ
ได้แก่ ตัวเหวินเทียนหวาง เจิงจ่างเทียนหวาง ฉือกว๋อเทียนหวาง
และกว่างมู่เทียนหวาง
ส่วนกิจกรรมเฉลิมฉลองเทศกาลตรุษจีนตลอด 7 วัน ที่ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ
แบ่งเป็น 2 ช่วง ได้แก่ ช่วงที่ 1 ระหว่างวันที่ 19 - 22 มกราคม และช่วงที่ 2 ระหว่างวันที่ 27 - 29 มกราคม 2566
นักช้อปสามารถนำใบเสร็จรับเงินมารับความมงคลที่จัดเตรียมมากมายกับ 4
กิจกรรม ดังนี้
กิจกรรมที่ 1 รับสิทธิ์ “อิ่มมงคลกับเมนูเส้นเสริมมงคล” สร้างพลังใจให้ชีวิตราบรื่นยืนยาว
มีความสุข และร่างกายแข็งแรง เพียงช้อปครบ 10,000 บาทขึ้นไป หรือสมัครสมาชิกใหม่ Scarlet รับสิทธิ์ได้จาก “ร้าน No Name Noodle” ร้านราเมน “ไร้ชื่อ” กับเมนูราเมนสูตรเฉพาะสุดพิถีพิถันจองยากที่สุดในกรุงเทพฯ
ทางร้านได้รังสรรค์เมนูใหม่พิเศษเป็นครั้งแรกที่ได้เส้นราเมนชั้นนำจากญี่ปุ่นที่ทางร้านนำมาใช้เป็นครั้งแรก
เพื่อลูกค้า คิง เพาเวอร์ เฉพาะงานนี้เท่านั้น กับเมนูชื่อ “คาเอเดะ”
ราเมนที่ผสมผสานของ 3 น้ำซุปและ 3 โชยุ
เคี่ยวจนเข้ากันอย่างกลมกล่อมรับประทานคู่กับเส้น Hirauchi Men
กิจกรรมที่ 2 ช้อปครบ 10,000 บาทขึ้นไป หรือเป็นสมาชิกใหม่ Scarlet ลุ้นรับ “ปี่เซียะ”เสริมความมั่งคั่ง เรียกทรัพย์ และหลวงปู่นิ่มวัดพุทธมงคล รุ่นพิเศษจาก Leila
Amulets (ไลลา) แบรนด์วัตถุมงคลสุดฮิต จัดทำสีพิเศษเฉพาะ คิง
เพาเวอร์ ผลิตเพียง 99 ชิ้น เท่านั้น หรือแลกรับ “โคมจีนสีแดง”
ซึ่งสามารถนำมาเพ้นท์รูปตนเอง หรือคนที่รัก โดยนักวาดภาพชื่อดัง PRINCE.S.COLLECTION และ VOLTAPSS ได้ด้วย
กิจกรรมที่ 3 ช้อปครบ 20,000 บาทขึ้นไป หรือเป็นสมาชิกใหม่ Scarlet รับสิทธิทำนายดวงชะตา เสริมดวง ให้เฮงรับตรุษจีน
จากกิจกรรม Fortune Telling โดย 2 หมอดูชื่อดัง อ.พรชนก ศรีสวัสดิ์
ผู้เชี่ยวชาญโหราศาสตร์ไทย และ อ.นรินทร์ชลี กังวานวิวัฒน์
ผู้เชี่ยวชาญโหราศาสตร์สากล จะทำนายทายดวงชะตาผ่านเสียงแบบส่วนตัว
พร้อมลุ้นทริปท่องเที่ยวไหว้พระเสริมมงคลในไต้หวัน
กิจกรรมที่ 4 รับอั่งเปาพร้อมสิทธิพิเศษ
ตลอดเทศกาลตรุษจีนระหว่าง 19 - 29 มกราคม 2566 ทาง คิง
เพาเวอร์ ได้เตรียมโปรโมชั่นสุดพิเศษไว้เตรียมต้อนรับนักเดินทางทุกคน กับการ
“ช้อปรับความเฮงกับอั่งเปาส่วนลด” พร้อมสิทธิประโยชน์อีกมากมายฉลองเทศกาลตรุษจีนตามสาขาที่เปิดบริการทุกวัน
ได้แก่ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ พัทยา ภูเก็ต และ คิง เพาเวอร์ศรีวารี เปิดบริการเฉพาะวันเสาร์-อาทิตย์
นักเดินทางและสมาชิกสามารถตรวจสอบโปรโมชั่นและสิทธิประโยชน์เพิ่มเติมก่อนช้อปเพียงเพิ่มเพื่อนในไลน์
Add LINE
Official Account : @kingpower หรือช้อปผ่านช่องทาง CALL TO SHOP หรือโทร. 02-338-7870 และ CHAT
TO SHOP เพียง Add LINE : @KP_ChatToShop
ข่าวที่ 2 ซินเจียยู่อี่ที่คิงเพาเวอร์ช้อปชิมมั่งคั่งจัดเต็มคาราเบล4สไตล์
สไตล์ที่ 1 เฮง เฮง เฮง POWER DEAL ลดสูงสุด 70% ไม่ต้องมีไฟลต์บินก็ช้อปคิง เพาเวอร์ ออนไลน์ ได้
ระหว่างวันที่ 20-22 มกราคม 2566 เลือกซื้อสินค้าส่งบ้าน
/HOME DELIVERY บริการส่งฟรีทั่วประเทศเมื่อช้อปครบ 699
บาทสุทธิ/ใบเสร็จ และ มีไฟลต์บินเลือกช้อป “ดิวตี้ฟรี”
ช้อปได้ทั้งขาเข้าขาออกแล้วรอรับสินค้าได้ที่สนามบิน พร้อมรับเพิ่มอีก 5 สิทธิประโยชน์ 1.แบ่งชำระ 0% นานสูงสุดถึง
10 เดือน 2.รับเครดิตเงินคืนสูงสุด 8,000 บาท 3.รับส่วนลด 200 บาทเมื่อสมัครสมาชิกออนไลน์
4.สมัครสมาชิก คิง เพาเวอร์ ฟรีเมื่อมียอดช้อปขั้นต่ำ 1,000 บาท/ครั้ง 5.รับของสมนาคุณพิเศษมาก่อนรับก่อนจนกว่าจะหมด
สไตล์ที่ 2 สวยรับทรัพย์กับบิวตี้ไอเทมแบรนด์โลกมาพร้อมโทนสีแดงรับตรุษจีน ช้อปได้ที่ คิง เพาเวอร์ สนามบินสุวรรณภูมิ และ คิง เพาเวอร์ ทุกสาขา
และช่องทางบริการใหม่ช้อป ดิวตี้ ฟรี ออนไลน์ทาง King
Power Click & Collect
เหล่าเครื่องสำอางค์แบรนด์ดังพาเหรดเข้าร่วมมอบความสวยงามให้ทุกคน
สไตล์ที่ 3 จองออนไลน์บุฟเฟต์อาหารจีนลด 30% ที่โรงแรมพูลแมน คิง เพาเวอร์ วันที่ 22-25 มกราคม 2566 ตั้งแต่ 18.00 – 22.30 น.ราคาคนละ 1,750 บาทสุทธิ เพื่อเสริมความสุขรับปีกระต่ายทอง
จึงชวนมาอิ่มอร่อยกับโปรโมชั่นบุฟเฟต์อาหารจีน มุมซีฟู้ดและบาร์บีคิว ละลานตากับเมนูเด่นเสริมความมั่งมีศรีสุขทั้ง
เป็ดปักกิ่ง หมูหัน ติ่มซำ และเมนูอร่อยอีกมากมาย
ไฮไลต์วันอาทิตย์ที่
22 มกราคม 2566 ตื่นตาตื่นใจไปกับ
“การแสดงเชิดสิงโต”เฉลิมฉลองเทศกาลตรุษจีน 2ช่วงเวลา คือ 10.15
น. และ 19.00 น.
สไตล์ที่ 4 ช้อปเสริมมงคลก่อนออกเดินทางให้ชีวิตมั่งคั่งตลอดปีเถาะ 2566 ได้ที่ คิง เพาเวอร์ สนามบินนานาชาติ 2 แห่ง ทั้ง “สุวรรณภูมิ และดอนเมือง” แล้วรับฟรี! ผ้าพันคอ “Auspicious
Scarf” ตลอดเทศกาลถึง 2,000 ผืน
เมื่อช้อปสินค้าคิง เพาเวอร์ครบ 5,000 บาทขึ้นไป (สุทธิ)
ระหว่างวันนี้-31 มกราคม 2566 รับผ้าพันคอดีไซน์รูปกระต่ายมงคลลายพิเศษ
ได้คนละ 1 ผืน/วัน แจกไปจนกว่าสินค้าจะหมด
ข่าวที่ 3 “X8
เครือคิงเพาเวอร์”ชูสินค้าโปรเจกต์พิเศษPastelxBibleBuild
นายรวิ อิทธิระวิวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท มัลติพลาย
บาย เอท จำกัด บริษัทในเครือ คิง เพาเวอร์ เปิดเผยว่า บริษัท
มัลติพลาย บาย เอท หรือ X8 กลุ่มบริษัทในเครือ
คิง เพาเวอร์ ผู้ผลิตแบรนด์ Pastel แบรนด์ Creative Personal Care สัญชาติไทย
ในวันเสาร์ที่ 21 มกราคม 2566 เตรียมเปิดตัวสินค้าที่สยามสแควร์
ซอย 7 ด้วยโปรเจกต์พิเศษ “Pastel x
BibleBuild” ผลิตภัณฑ์ยาดม Pastel Brand Pocket
Inhaler พร้อมเปิดตัวพรีเซนเตอร์ศิลปินไทยชื่อดัง“ไบเบิ้ล-วิชญ์ภาส สุเมตติกุล กับบิว-จักรพันธ์ พุทธา” พรีเซ็นเตอร์ล่าสุดPastel x BibleBuild จะมาในแพ็กเกจพิเศษ Pastel x
BibleBuild Box Set เป็นผลิตภัณฑ์เทรนด์ใหม่ชนิดพกพา หอม
เย็น สดชื่น มีจุดเด่นคือฟังก์ชั่นการสไลด์เปิดหลอดยาดมสามารถเปิด-ปิดได้ด้วยมือเดียว ไม่ต้องกังวลเรื่องฝาหายนั่นเอง
ทางมัลติพลาย บาย เอท พร้อมเดินหน้าสร้างผลิตภัณฑ์คุณภาพมาพร้อมฟังก์ชั่นการใช้งาน
และประสบการณ์การใช้งานที่สะดวกสบาย เพื่อทำให้ชีวิตประจำวันของทุกคนง่ายขึ้น เดินหน้าพัฒนาแบรนด์และสินค้าอย่างไม่หยุดยั้ง
ตอกย้ำผู้นำ Trend Setter ของกลุ่มสินค้า Personal Care ต่อเนื่อง และพร้อมเปิดตัวโปรเจกต์พิเศษ “Pastel x BibleBuild” ชวนทุกคนมา Get
Fresh รวมทั้งได้รับเกียรติจาก 2 นักแสดงรุ่นใหม่ มาร่วมเป็นตัวแทนของความหอม เย็น สดชื่น นำเสนอสินค้าซึ่งจะเป็นแรงขับเคลื่อนให้ ยาดม Pastel เป็นที่รู้จักและเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคเป้าหมายครอบคลุมทั้ง
กลุ่มวัยรุ่น กลุ่มนักเรียน นักศึกษา กลุ่มวัยทำงาน คนทำงานยุคใหม่
เพื่อสร้างความเชื่อมั่นในแบรนด์จึงได้กิจกรรมเอ็กซ์คลูซีฟด้วยการเปิดตัวพรีเซ็นเตอร์ยาดม Pastel คนล่าสุด Pastel x BibleBuild ในวันเสาร์ที่ 21 มกราคม 2566 พร้อมกิจกรรมพิเศษมากมาย ยินดีต้อนรับผู้สนใจสามารถเข้าร่วมกิจกรรมและรับสิทธิ์พิเศษภายในงานเมื่อสั่งซื้อ Pastel Brand Pocket Inhaler เพียงสแกน QR
Code ที่มากับกล่องหรือแผงสินค้า
สะสมพอยต์แลกรับของรางวัลสุดพิเศษ โดยเริ่มสะสมพอยต์ได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป
ข่าวที่ 4 ททท.มั่นใจเที่ยวตรุษจีนปีเถาะโกยรายได้ไทย-เทศเกิน2หมื่นล้าน
ดร.ยุทธศักดิ์
สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ประเมินสถานการณ์การท่องเที่ยวช่วงตรุษจีนจะมีตลาดในประเทศและต่างชาติเดินทางเที่ยวเมืองไทยต่อเนื่อง
9 วัน
ระหว่างวันที่ 19-27 มกราคม
2566 จะสามารถสร้างรายได้รวมประมาณ 21,296
ล้านบาท เพิ่มขึ้น 48% จากปีปกติ 2562 มาจากตลาดต่างประเทศ 16,696 ล้านบาท จำนวนนักท่องเที่ยว 588,900 คน และตลาดในประเทศอีก 4,600 ล้านบาท มีจำนวนนักท่องเที่ยว 1,384,200 คน-ครั้ง
เมื่อเปรียบเทียบการท่องเที่ยวตรุษจีนในสถานการณ์ปกติก่อนโควิดปี
2562 กับปี 2566 หลังผ่อนคลายโควิด การท่องเที่ยวของไทยมีไฮไลต์มาจาก
“นักท่องเที่ยวต่างชาติ” พร้อมเดินทางมาไทย 588,900 คน
เพิ่มขึ้น 41% ทำรายได้ 16,696
ล้านบาท เพิ่มขึ้น 44% เนื่องจากเดือนมกราคมนี้มีเที่ยวบินเข้าไทยรวม
11,515 เที่ยว จำนวนที่นั่งรวม 2.7
ล้านที่นั่ง เพิ่มขึ้นจากเดือนธันวาคมที่ผ่านมา 7 % พื้นที่ตลาดหลักเดินทางกันอย่างคึกคักส่วนใหญ่เป็นประเทศแถบเอเชียตะวันออก
เอเชียเหนือ และอาเซียนรวม 332,500 คน จะสร้างรายได้ 11,119
ล้านบาท จากเกาหลีใต้ เวียดนาม มาเลเซีย ซึ่งมีวันหยุดตรุษจีนต่อเนื่อง
3-5 วัน
ส่วนนักท่องเที่ยวจีนจะมาไทยช่วงตรุษจีนราว
29,400 คน ทำรายได้ 1,013
ล้านบาท จากสถิติเที่ยวบินของสาธาณรัฐประชาชนจีนเข้ามายังไทย
ระหว่างวันที่ 16-31 มกราคม 2566 มีวันละ11
เที่ยว ด้วยจำนวนที่นั่งรวมวันละ 2,000 ที่นั่ง เพิ่มขึ้นประมาณ 1 เท่า
ต่างจากช่วง 1-15 มกราคม ปีนี้ มีเที่ยวบินเพียงวันละ 4
เที่ยว ด้วยจำนวนที่นั่งรวมวันละ 1,000 ที่นั่ง
ผู้ว่าฯ ยุทธศักดิ์ กล่าวว่า ททท. ได้จัดกระตุ้นตลาดจีนด้วยกิจกรรม Boss
Live Streaming เปิดขายห้องพักออนไลน์ด้วยไลฟ์สตรีมมิ่งที่โรงแรม
เพนนินซูล่า กรุงเทพฯ ทำการตลาดล่วงหน้าเมื่อ 11 มกราคม ต่อเนื่อง 4
ชั่วโมง ตั้งแต่ 19.00-23.00 น. ได้รับความสนใจจากผู้เข้าชมกว่า
300 ล้านคน สร้างยอดขายสูงถึง 4,000 ล้านหยวน
(กว่า 20,000 ล้านบาท)
จากจำนวนกว่า 11,000 Pax
โดยนำเสนอขายห้องพักโรงแรมระดับหรูหราเป็นแรงกระตุ้นตลาดคุณภาพกลุ่มแรกที่มีความพร้อมออกเดินทางท่องเที่ยวอย่างอิสระด้วยตัวเอง
(F.I.T.)
ส่วน “ตลาดในประเทศ”
ช่วงตรุษจีนนี้จะมีผู้เยี่ยมเยือนคนไทย 1,384,200 คน-ครั้ง
สร้างรายได้รวม 4,600 ล้านบาท เพิ่มขึ้นฟื้น 81%
จากปี 2562 ทำให้มีอัตราเข้าพักเฉลี่ยขยับขึ้นเป็น 59%
ข่าวที่ 5 “บางจาก”เปิดโมเดลปี66“นักกีฬาไทยไร้คาร์บอน”กระหึ่มโลก
นายชัยวัฒน์ โควาวิสารัช
ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัทบางจากและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจาก
คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ได้นำทีมผู้บริหารบริษัท บางจากฯ สนับสนุนกีฬาแบดมินตัน
พร้อมกับทำโครงการ “นักกีฬาไร้คาร์บอน”
ต่อยอดโครงการชดเชยคาร์บอนฟุตพริ้นท์ควบคู่กันไปด้วย ซึ่งเมื่อเร็ว ๆ “โค้ชเป้-ภัททพล
เงินศรีสุข” โค้ชผู้นำทีม 3 นักกีฬาไทยก้าวสู่ระดับโลกจากโรงเรียนแบดมินตันบ้านทองหยอด
ในโอกาสปีใหม่และในฐานะบางจากให้การสนับสนุนโรงเรียนบ้านทองหยอดต่อเนื่องเป็นปีที่ 9 ก่อนทีมนักแบดมินตันจะเดินทางไปเข้าร่วมการแข่งขันรายการแรกปี 2566 รายการปิโตรนาส มาเลเซีย โอเพ่น 2023
ซึ่งโค้ชภัททพลนำนักกีฬาแบดมินตั้นไทยก้าวสู่ความสำเร็จระดับโลก
3 คน ทั้ง”น้องเมย์-รัชนก อินทนนท์” นักแบดมินตันหญิง
ติดอันดับ 6 ของโลก กับ
“น้องวิว-กุลวุฒิ วิทิตศานต์” นักแบดมินตันชาย ติดอันดับ 9 ของโลก และ “น้องจิว-ภัทรสุดา ไชยวรรณ” นักแบดมินตันหญิง อันดับ 27 ของโลก
บางจากฯ ประกาศปี 2566
พร้อมต่อยอดสนับสนุนนักกีฬาของบ้านทองหยอดที่จะเดินทางไปแข่งขันแบดมินตันตามประเทศต่าง
ๆ รวมประมาณ 20 รายการ โดยจะชดเชยคาร์บอนฟรุตพริ้นท์จากการเดินทาง
รวมถึงการใช้ชีวิตประจำวันของนักกีฬาแบดมินตันตลอดปีนี้ทั้ง 3 คน ด้วยวิธีคาร์บอนเครดิตผ่านการซื้อขายใน Carbon
Markets Club นำร่องหรือจุดเริ่มที่สามารถใช้ตัวบุคคลของนักกีฬาจุดเข้ามามีส่วนร่วมลดการปล่อยคาร์บอนได้สอดคล้องตามแนวทางความยั่งยืนทั้งในไทยและทั่วโลก
ตอกย้ำถึงทุกภาคส่วนสามารถมีส่วนร่วมช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก
อันเป็นสาเหตุของภาวะโลกร้อนได้อย่างเท่าเทียมกัน
ทั้งนี้เมื่อปี 2565 บางจากริเริ่มทำ “โครงการ Bangchak 100x Climate
Action” โดยมี “คณะผู้บริหารไร้คาร์บอน หรือ Carbon
Free Management Team” เป็นองค์กรแรกในไทย
และส่งเสริมให้พนักงานกลุ่มบริษัทบางจาก ร่วมมุ่งสู่เป้าหมายแรกอย่าง Carbon
Neutrality 2030 ก่อนมุ่งสู่เป้าหมาย Net Zero GHG
Emission 2050 ด้วยการรณรงค์ใช้ชีวิตประจำวันและปฎิบัติภารกิจให้มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยที่สุดเท่าที่ทำได้ เพื่อรณรงค์สร้างความตระหนักและส่งเสริมการส่วนร่วมบรรเทาปัญหาภาวะโลกร้อนอย่างยั่งยืน
ประสบความสำเร็จเป็นที่น่าพอใจ
ปี 2566 บางจากจึงเดินหน้าต่อยอดเปิดโมเดล
“นักกีฬาไร้คาร์บอน” นำร่องใช้กับนักแบดมินตันของทีมสโมสรบ้านทองหยอดซึ่งมีนักกีฬาติดอันดับโลกและมีทัวร์นาเมนท์แข่งขันต่อเนื่อง
มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายมีแฟนคลับและสามารถเป็นต้นแบบที่ดีกับภาคประชาชนซึ่งสามารถเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งด้วยการมีส่วนร่วมลดคาร์บอนและลดโลกพร้อมไปด้วยกัน
ช่วงที่
2 ตรุษจีนแล้วมีทริปท่องเที่ยวเสริมมงคลทั่วไทยมาแนะนำ
“เยาวราช” +5 พิกัดยอดนิยม ราชบุรี สุพรรณบุรี
ปากน้ำโพ/นครสวรรค์ หาดใหญ่/สงขลา ย่านเมืองเก่าภูเก็ต แล้วเกาะติดข่าวด่วน
ข่าวแรก “กรมท่องเที่ยวถกกงศุลใหญ่ฯ” เพิ่มไกด์เกาหลีรับทัวร์พุ่งปี’66 ข่าวที่สอง “กีรติ กิจมานะวัฒน์” เข้าวินขึ้น ผอ.ใหญ่
ทอท.รอคลังลงนามสัญญาจ้าง ก.พ.66
ท่องเที่ยว - ตรุษจีนเสริมมมงคลตลุยเยาวราช-5พิกัดยอดนิยมทั่วไทย
ต้อนรับตรุษจีนปีกระต่ายทอง
กับทริป ชม “สิริมงคล
รุ่งเรือง โชคดี ปีกระต่าย” ทั่วไทย 5 พิกัด
พิกัดที่
1 “เยาวราช”
เปิดประสบการณ์ความงดงามแสงสีเยาวราช” เดินลอดซุ้มอุโมงค์ไฟความยาว 45 เมตร
และโคมไฟประดับถนนกว่า 500 โคม บริเวณย่านเยาวราช กรุงเทพมหานคร
ถนนสายวัฒนธรรมชุมชนชาวจีนที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย
โดยผู้ที่สนใจสามารถเข้าชมการตกแต่งประดับไฟในเทศกาลตรุษจีนได้ตั้งแต่วันนี้ - 15
กุมภาพันธ์ 2566 เวลา 18.00 - 24.00 น. ณ ซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติ 6
รอบพระชนมพรรษา (วงเวียนโอเดียน) และถนนเยาวราช ซึ่งมกราคมนี้
คาดจะมีนักท่องเที่ยวจีนเที่ยวเมืองไทยประมาณ 60,000 คน
ชมนิทรรศการแหล่งท่องเที่ยวชุมชนจีน บอกเล่าความเป็นมาการจัดงานตรุษจีนในประเทศไทย
การทำนายและเสริมสิริมงคลชีวิตรับปีใหม่จีนตามหลักโหราศาสตร์จีน วันที่ 22-23
มกราคม 2566 บริเวณถนนเยาวราช
ในโอกาสปี 2566 ตรงกับปีนักษัตรปีเถา ร่วมชมกระต่ายแกะสลักหินอ่อนสูง
1.8 เมตร หนัก 1.8 ตัน ตั้งอยู่บริเวณซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติ 6 รอบ พระชนมพรรษา
ซึ่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ได้น้อมเกล้าฯ
ถวายแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 เมื่อปี 2554
เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษาครบ 7 รอบ 84 พรรษา
แสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์อันดี และความร่วมมือทางวัฒนธรรม ระหว่างการท่องเที่ยวไทยและสาธารณรัฐประชาชนจีน
พิกัดที่
2 “ตรุษจีนราชบุรี” เที่ยวได้ตั้งแต่วันนี้-23 มกราคม บริเวณริมเขื่อนรัฐประชาพัฒนา อำเภอเมือง
จังหวัดราชบุรี พบกับการแสดงเชิดสิงโต มังกร การแสดงศิลปวัฒนธรรม
การแสดงจากศิลปินชื่อดัง เสริมบรรยากาศด้วยไฟประดับและโคมไฟรูปทรงต่าง ๆ และเพลิดเพลินกิจกรรมสาธิตทำอาหารมงคล
การเพนท์โอ่งมังกรจิ๋ว การทำเทียนหอมมงคล และการเรียนรู้เรื่องวัฒนธรรมการดื่มชา
กิจกรรมเสริมสิริมงคลและโหราศาสตร์แบบจีน พร้อมเคล็ดลับขอพรรับโชครับวันปีใหม่จีน
โดยอาจารย์คฑา ชินบัญชร
พิกัดที่ 3 “ประเพณีตรุษจีนปากน้ำโพ” จังหวัดนครสวรรค์”
วันนี้-26 มกราคม 2566 ที่สำนักงานคณะกรรมการจัดงานเจ้าพ่อ-เจ้าแม่ปากน้ำโพ
มูลนิธิส่งเสริมงานประเพณีเจ้าพ่อ-เจ้าแม่ปากน้ำโพ จังหวัดนครสวรรค์
พิกัดที่ 4
“ท่องเที่ยวศิลปวัฒนธรรมตรุษจีนสุพรรณบุรี” เสา
22 -อาทิตย์ 23 มกราคม 2566 ที่อุทยานมังกรสวรรค์ พิพิธภัณฑ์ลูกหลานพันธ์มังกร
จังหวัดสุพรรณบุรี
พิกัดที่ 5 “HATYAI
Chinese New Year 2023” วันที่ 21-24 มกราคม 2566 ที่เวทีการแสดงลานอรรถกระวีสุนทรและถนนธรรมนูญวิถี,
นิพัทธ์อุทิศ 2,3 จังหวัดสงขลา
พิกัดที่ 6 “ตรุษจีน-ย้อนอดีตเมืองภูเก็ต”
วันที่ 27-29 มกราคม 2566 ณ บริเวณย่านเมืองเก่าภูเก็ต
ร่วมฉลองตรุษจีนตลอดสัปดาห์เสริมมงคลได้ทั่วไทยถึง
6 แห่งด้วยกัน
ฟังข่าวท้ายชั่วโมง
ข่าวแรก
ไทยถกกงสุลใหญ่ฯเพิ่มไกด์ในไทยรับทัวร์เกาหลีเพิ่มปี’66
นายจาตุรนต์ ภักดีวานิช รองอธิบดีกรมการท่องเที่ยว กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา
เปิดเผยว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ได้นำผู้บริหารกรมฯ ต้อนรับพร้อมเข้าร่วมหารือเรื่องท่องเที่ยวกับ
Mr.
KIM, Byumg Chul กงสุลใหญ่จากสถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐเกาหลีใต้ประจำประเทศไทย
โดยได้หารือถึงแผนดำเนินการรองรับนักท่องเที่ยวเกาหลีใต้ที่พร้อมจะเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวเมือไทยปี
2566 นี้ โดยเฉพาะเรื่องมัคคุเทศก์สื่อสารภาษาเกาหลีได้ควรจะต้องมีจำนวนมากเพียงพอต่อความต้องการของนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางมาไทยปีนี้
ตามนโยบายของนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ระบุปี 2566 การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
(ททท.) และหน่วยงานเกี่ยวข้อง จะต้องร่วมมือกันนำต่างชาติเข้ามาท่องเที่ยวเมืองไทยให้ได้เกิน
25 ล้านคน และภายในปี 2570 จะทำได้ถึง 80
ล้านคน โดยมีนักท่องเที่ยวเกาหลีใต้ก็เป็นหนึ่งในคาดการณ์ด้วย
ดังนั้นกรมการท่องเที่ยวยินดีร่วมมือกับทางสถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐเกาหลีใต้ประจำประเทศไทย
ซึ่งปัจจุบันไทยมีมัคคุเทศก์ภาษาเกาหลีแล้วกว่า 800 คน
เพียงพอรองรับนักท่องเที่ยวเกาหลีตลอดปีนี้
ส่วนหนึ่งต้องขอบคุณศูนย์วัฒนธรรมเกาหลีได้จัดอบรมภาษาเกาหลีให้มัคคุเทศก์ในไทยจำนวนหลายรุ่นด้วยกัน
เป็นผลดีทำให้ปัจจุบันยังจึงไม่พบปัญหาการขาดแคลนมัคคุเทศก์ที่สื่อสารภาษาเกาหลีได้
นายจาตุรนต์ กล่าวว่านักท่องเที่ยวเกาหลีมีแนวโน้มเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวไทยต่อเนื่อง
ทางกรมการท่องเที่ยวจะขยายผลร่วมหารือกับทางชมรมมัคคุเทศก์ภาษาเกาหลี
และหน่วยงานอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง
เตรียมความพร้อมทั้งผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ รวมทั้งส่งเสริมให้คนไทยที่ไม่ใช่มัคคุเทศก์ซึ่งสามารถสื่อสารภาษาเกาหลีได้
เข้าร่วมรับการอบรมเป็นมัคคุเทศก์อย่างถูกต้องตามกฎหมาย รวมถึงจะเปิดโอกาสให้คนสัญชาติเกาหลีเข้ารับการอบรมด้วยเช่นกัน
เพื่อทำหน้าที่เป็นผู้ประสานงานเกาหลี แล้วหลังจากนี้จะร่วมมือกันพัฒนาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวของทั้ง
2
ประเทศให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นต่อไป
Mr.
KIM, Byumg Chul กงสุลใหญ่จากสถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐเกาหลีใต้ประจำประเทศไทย
กล่าวว่า เกาหลีใต้มีนักเดินทางนิยมเดินทางมาเมืองไทยตามเป้าหมายแตกต่างกัน 2
กลุ่มหลัก ประกอบด้วยกลุ่มที่ 1 คนสูงอายุนิยมเดินทางเชิงธุรกิจและพักผ่อนควบคู่กับการเล่นกอล์ฟ
กลุ่มที่ 2 วัยรุ่นเกาหลีชื่นชอบเดินทางชิมอาหารและเที่ยวตลาดท้องถิ่นหรือถนนคนเดินตามแหล่งท่องเที่ยวต่าง
ๆ
ทว่าทางเกาหลีใต้แสดงความห่วงใยเรื่อง
“มัคคุเทศก์ไทยที่สื่อสารภาษาเกาหลี”
จะต้องเร่งเพิ่มจำนวนเข้าสู่ภาคบริการให้เพียงพอกับนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางเข้ามาตลอดปี
2566
เนื่องจากที่ผ่านมาประเทศไทยเองต้องเผชิญสถานการณ์โควิด-19 ทำให้ได้รับผลกระทบรุนแรงส่งผลต่อมัคคุเทศก์ลาออกจากอาชีพไปแล้วเป็นจำนวนมาก
ขณะนี้จึงอาจมีไม่เพียงพอก็เป็นได้
ข่าวที่สอง-“กีรติ กิจมานะวัฒน์”คว้าผอ.ใหญ่AOTตามโผรอสัญญาจ้างก.พ.66
บริษัท
ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) “AOT” รายงานว่าที่ประชุมคณะกรรมการ
AOT ซึ่งมีนายสราวุธ ทรงศิวิไล ประธานกรรมการ AOT เป็นประธาน เมื่อ 18 มกราคม 2566 ได้เห็นชอบผลการสรรหาผู้อำนวยการใหญ่ AOT โดยให้
“นายกีรติ กิจมานะวัฒน์” เป็นผู้สมัครที่ได้รับคะแนนสูงสุด ขั้นตอนหลังจากนี้จะส่งรายชื่อผู้ผ่านการคัดเลือกพร้อมประวัติและคุณสมบัติให้คณะอนุกรรมการพิจารณาผลตอบแทนของผู้อำนวยการใหญ่
AOT ดำเนินการพิจารณากำหนดผลตอบแทน สิทธิประโยชน์
ร่างสัญญาจ้าง และเจรจาต่อรองผลตอบแทนกับผู้ที่ได้รับการคัดเลือก
และเสนอผลการเจรจา
เตรียมจัดทำร่างสัญญาจ้างต่อคณะกรรมการ AOT เพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบในเดือนกุมภาพันธ์
2566 จากนั้นจะเสนอกระทรวงการคลังให้ความเห็นชอบ
โดยเมื่อกระทรวงการคลังได้พิจารณาเห็นชอบค่าตอบแทนและร่างสัญญาจ้างแล้ว
จะเสนอคณะกรรมการ AOT เพื่อดำเนินการแต่งตั้ง
และเชิญผู้ได้รับการคัดเลือกมาลงนามในสัญญาจ้างต่อไป
ประวัติของ
“นายกีรติ กิจมานะวัฒน์” ปัจจุบันดำรงตำแหน่งรองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่
(สายงานวิศวกรรมและการก่อสร้าง) AOT และเคยทำงานระดับผู้บริหาร
ได้แก่ เคยดำรงตำแหน่งรองประธานกรรมการอาวุโส บริษัท อีจีส เรล (ประเทศไทย) จำกัด ที่ปรึกษาสายงานพัฒนาธุรกิจ
บริษัท อินเด็กซ์ อินเตอร์เนชั่นแนลกรุ๊ป จำกัด (มหาชน)
ผู้ช่วยประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานพัฒนาธุรกิจ บริษัท อินเด็กซ์
อินเตอร์เนชั่นแนลกรุ๊ป จำกัด (มหาชน)และที่ปรึกษาประธานกรรมการบริหาร บริษัท
พีเอสเค คอนซัลแทนส์ จำกัด
“การศึกษา”
จบปริญญาตรีวิศวกรรมศาสตรบัณฑิต (วิศวกรรมโยธา) สถาบันเทคโนโลยีนานาชาติสิรินธร มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
ปริญญาโทวิศวกรรมศาสตรมหาบัณฑิต (วิศวกรรมโยธา) มหาวิทยาลัยโตเกียว และจบปริญญาเอกวิศวกรรมศาสตรดุษฎีบัณฑิต
(วิศวกรรมโยธา) มหาวิทยาลัยโตเกียว
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น