“บิ๊กเกาะสมุย”ลั่นท่องเที่ยวต้นปี66อู้ฟู่จองล่วงหน้าเต็มถึงก.พ.66
โรงแรมเฮเปิดกว่า2หมื่นห้อง-แอร์ไลน์สเอเชีย/ยุโรปบินคึกคัก
ชี้เป้าคนไทยเที่ยวด้วยกันเฟส5รอจองพักสมุยราคาดีหลังมี.ค.นี้
ช้อปปัง!!คิงเพาเวอร์โปรลด40%Payday/Weekend/ดอนเมือง
คิงเพาเวอร์เสนอสินค้าใหม่ TUK TUK CHOCOLATEอร่อย3รส
ททท.ถกตลาดในประเทศ5ภูมิภาคลุยปรับเป้าปี66ใหม่เพิ่ม10%
บางจากมูลนิธิใบไม้ฯดึงSCGCตั้งกล่องปันสุขร้านอินทนิล200แห่ง
ชวนสายมูบินเที่ยวกับบางกอกแอร์รับพลังบวก9พิกัด5เส้นทาง
“หัวหอม”วัตถุดิบอาหารคู่ครัวคนไทยสารพัดประโยชน์คู่สุขภาพ
กระทรวงท่องเที่ยว5องค์กรชูศูนย์วันสต็อปรับกรุ๊ปจีนฉลุยปี’66
Booking.comประกาศ“พังงา”แชมป์บริการนักเดินทางโลกปี’66
วันอาทิตย์ที่
29 มกราคม 2566 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00
น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน”
ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทางfacebookLiveFM97.0
และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen บล็อกเกอร์
#gurutourza #รวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97 #เพ็ญรุ่งใยสามเสน #เที่ยวกับกู๋ #KingPower #TAT
#TCEB #บางจาก
#เกาะสมุย
#สายมูบินเที่ยวกับบางกอกแอร์เวย์ส
ช่วงที่
1 สมุยฟื้นแล้วกับ
“เสนีย์ ภูวเศรษฐถาวร” กรรมการผู้จัดการ โครัลคลิฟฟ์บีชรีสอร์ตเกาะสมุย
และรองประธานหอการค้าจังหวัดสุราษฎร์ธานี แจกข่าวดีรับปีเถาะ “ท่องเที่ยวเกาะสมุย”
โรงแรมทุกระดับ เปิดรวดเดียวทั้งเกาะกว่า 20,000 ห้อง
โกยต่างชาติอื้อซ่าแถมเที่ยวบินเช่าเหมาลำหลั่งไหลเข้ามาเพียบ ไฮซีซันนี้
“เอกชน”นอนตีพุงไม่ต้องเหนื่อยทำตลาดยอดจองล่วงหน้าเต็มยาวถึง ก.พ.66
เหลือแค่ปลดล็อก 3
เรื่อง “เร่งหาแรงงานภาคบริการ” ขาดตลาดรุนแรงหา “เพิ่มแอร์ไลน์สบินตรง”
ไว้ต่อยอดซีซันหน้า “ยกเครื่องเรือเฟอรี่” จากฝั่งขึ้นเกาะ แนะ “นักท่องเที่ยวไทย”
ใช้สิทธิเราเที่ยวด้วยกันเฟส 5 รอจองหลังมี.ค.-ก.ย.ได้ราคาดีกว่าช่วง
ก.พ.นี้ ย้ำ สมุย พะงัน เกาะเต่า เขาสก ธรรมชาติสวยกำลังรอคนเที่ยว
นายเสนีย์
ภูวเศรษฐถาวร กรรมการผู้จัดการ โครัลคลิฟฟ์บีชรีสอร์ตเกาะสมุย
และรองประธานหอการค้าจังหวัดสุราษฎร์ธานี เปิดเผยว่า ปี 2566
ผู้ประกอบการโรงแรมในสมุยซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวติดอันดับโลกสถานการณ์ธุรกิจดีขึ้นมาก
มีโรงแรมเปิดบริการแล้ว 70-80
% คิดเป็นประมาณเกือบ 20,000 ห้อง
จากจำนวนห้องพักกว่า 25,000
ห้อง
ไม่รวมเซอร์วิสอพาร์ทเมนต์และบ้านพักตากอากาศ โดยมีนักท่องเที่ยวตลาดยุโรปเข้ามาพักผ่อนเป็นจำนวนมากจนแทบจะไม่ต้องทำตลาดการขาย
กลุ่มได้อานิสงมากสุดคือโรงแรมที่ประคองตัวรอดจากวิกฤตมาได้
โดยมียอดจองล่วงหน้าช่วงกุมภาพันธ์นี้มีมากถึง 80 % บวกกับมีสัญญาณดีจากสายการบินเช่าเหมาลำ
(charter flight)
ต่างประเทศ ทยอยเข้ามาอย่างหลากหลาย
เริ่มจากเมื่อวันที่ 23 มกราคม 2566 สายการบินไทยไลออน แอร์ ทำเช่าเหมาลำนักท่องเที่ยวไต้หวันซึ่งเป็นตลาดศักยภาพสูงเข้าสู่เกาะสมุย และจังหวัดสุราษฎร์ธานี ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์นี้เป็นต้นไปจะมีอีกหลายสายการบินจาก สาธารณรัฐประชาชนจีน รัสเซีย และประเทศอื่น ๆ เข้ามาด้วย
โดยภาพรวมปี 2566 ผู้ประกอบการโรงแรมและท่องเที่ยวเริ่มมีรายได้ใกล้เคียงสถานการณ์ปกติแล้ว แต่ยังเผชิญเรื่องสำคัญที่สุด “ขาดแคลนแรงงานภาคบริการท่องเที่ยว” ทำให้โรงแรมระดับ 4-5 ดาวใช้วิธีจ่ายค่าเซอร์วิสชาร์จ เพิ่มเงินเดือนสูงกว่าค่าจ้างงานขั้นต่ำ เป็นแรงจูงใจให้คนเข้ามาทำ ซึ่งทำให้ผู้ประกอบการเองจำยอมเพิ่มต้นทุนค่าใช้จ่ายในการจ้างงาน พร้อมกับกำลังร่วมกันหาทางออกใหม่ด้วยการใช้วิธี “จ้างเอาท์ซอร์ซ” แทนการจ้างประจำเสริมเข้ามาด้วย
ส่วนอุปสรรคที่จะเพิ่มนักท่องเที่ยวเข้าเกาะสมุยเพิ่มขึ้น ปีนี้จะมี 2 เรื่องหลัก คือ
เรื่องที่ 1 สายการบินซึ่งมีเครื่องบินจำกัดไม่เพียงพอ รวมทั้งบางกอกแอร์เวย์ส เพราะช่วงสถานการณ์วิกฤตโควิดต้องคืนเครื่องบินกันเป็นจำนวนมาก ตอนนี้ในสนามหอการค้าจังหวัดสุราษฎร์ธานีได้ยื่นข้อเรียกร้องให้เพิ่มเที่ยวบินในประเทศ และจากต่างประเทศมายังสมุยด้วย ระหว่างธันวาคม -เมษายน ของทุกปี เป็นฤดูท่องเที่ยวหนาแน่นหรือไฮซีซันในการท่องเที่ยวสมุย ซึ่งจะต้องเตรียมความพร้อมหาเที่ยวบินมาเสริม เนื่องจากยังมีความต้องการเดินทางสูง ถึงแม้ “ราคาตั๋วเครื่องบิน” จะสูงกว่าปกติคนก็ยังพร้อมจะจ่ายเงินมาพักผ่อน
เรื่องที่ 2 บริการเรือเฟอรี่ ไป-กลับ ฝั่งภาคพื้นดินกับเกาะสมุย ขณะนี้มีเพียง 2 บริษัท จึงขอความร่วมมือให้เน้นการเพิ่มความถี่เที่ยวเรือให้บริการ เน้นความสะอาด ตรงเวลา มากขึ้น
นายเสนีย์กล่าวว่า “ราคาห้องพักโรงแรมรีสอร์ต” ปี 2566 ตลอดไฮซีซันจะขยับขึ้นจากโลว์ซีซันประมาณ 20-30 % ช่วงที่ผ่านมาเป็นโอกาสของตลาดในประเทศได้พักรีสอร์ตสมุยแบบหรูหราในราคาไม่ถึง 5,000 บาท/ห้อง/คืน รวมทั้งยังได้โครงการของรัฐบาล “เราเที่ยวด้วยกัน” สนับสนุนค่าห้องพักอีก 40 % จึงมีส่วนแบ่งตลาดคนไทยเข้ามาใช้บริการจำนวนมาก
ปัจจุบันที่พักในเกาะสมุยมี “ราคา” ให้เลือกอย่างหลากหลายมากจากจำนวน 500 แห่ง บ้านพักตากอากาศบนเนินเขาให้เช่าเป็นหลัง ตั้งแต่ไม่ถึง 1,000 บาท/ห้อง/คืน หากเป็นโรงแรมระดับ 4 ดาว ราคาเฉลี่ย2500-3,000-3,500 ไม่เกิน 5,000 บาท/ห้อง/คืน ส่วนโรงแรม5 ดาว จะเกิน 10,000 บาทขึ้นไป/ห้อง/คืน
เมื่อรัฐบาลเปิดโครงการ “เราเที่ยวด้วยกันเฟส 5” เริ่มกุมภาพันธ์-กันยายน 2566 ทางผู้ประกอบการสมุยจะเข้าร่วมโดยไม่สามารถขึ้นราคาได้มากกว่าเราเที่ยวด้วยกันเฟส4 ปี 2565 ดังนั้นจึงแนะนำให้ “นักท่องเที่ยว” ที่ใช้สิทธิ์ “เราเที่ยวด้วยกันเฟส 5” เลือกจองห้องพักสมุยได้ตั้งแต่เดือนมีนาคม-กันยายน นี้ เพราะจะได้ราคาที่ดี และจำนวนนักท่องเที่ยวไม่หนาแน่นจนเกินไป
นายเสนีย์กล่าวว่า
ด้วยศักยภาพจุดขายของแหล่งท่องเที่ยวเกาะสมุย และพื้นที่อื่น ๆ
ในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ทางหอการค้าพร้อมให้การสนับสนุน การท่องเที่ยวชุมชน
การท่องเที่ยวหาดทรายชายทะเลตามเกาะต่าง ๆ ที่รอบพื้นที่ทั้งหมด
รวมถึงกระแสยกระดับสู่ การท่องเที่ยวอย่างมีส่วนร่วมรับผิดชอบ
การท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน และการท่องเที่ยวลดการปล่อยคาร์บอนนั้น
แต่ละภาคส่วนตื่นตัวที่จะทำโครงการเกี่ยวข้อง
ตามปกติ “นักท่องเที่ยวต่างประเทศ” จากประเทศแถบยุโรปจะรับรู้เรื่องการท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบต่อทรัพยากรและสิ่งแวดล้อมมาก่อนตลาดในเอเชีย กับในประเทศ ก็จะต้องรณรงค์ทำกิจกรรมอย่างจริงจัง ส่วน “กิจกรรม” ที่ทางสมุยจะเน้นสร้างแรงดึงดูดคือการท่องเที่ยวธรรมชาติทางทะเลเป็นหลัก
ดังนั้นจึงเชิญชวนนักท่องเที่ยวมาเที่ยวสมุย ซึ่งมีพื้นที่ท่องเที่ยวเชื่อมโยงตามเกาะต่าง ๆ ไฮไลต์ “ฟูลมูนปาร์ตี้” จัดเดือน 1 ครั้ง ที่ได้รับความนิยมทั้งจากนักท่องเที่ยวต่างชาติและคนไทย รวมทั้งมีแหล่งช้อปปิ้งสินค้าอย่างหลากหลายครบทุกรูปแบบเช่นกัน
ฟังข่าวต้นชั่วโมง
ข่าวที่ 1 ช้อปปัง!!คิงเพาเวอร์โปรลด40%Payday/Weekend/ดอนเมือง
คิง เพาเวอร์ เอาใจนักเดินทาง ด้วยโปรแรง 3 แคมเปญ ปังรับต้นปีลดสูงสุด 40 % เลือกช้อปได้ตามสะดวก ดังนี้
แคมเปญที่ 1 ดีลโดนใจ! PAYDAY BONUS เตรียมตัวให้พร้อมช้อปสุดเฮทุกสิ้นเดือน วันนี้- 31 ม.ค. 66 ช้อปเเบรนด์ดังในดวงใจคุณเเบบคุ้มค่า มาพร้อมกับส่วนลดตลอดสัปดาห์นี้ กดรับรหัสส่วนลด PBJAN เพื่อรับ “PAYDAY BONUS” ลดสูงสุด 40% เมื่อช้อปครบ 5,000 บาท และลดเพิ่มทันที 5% เมื่อช้อปครบ 8,000 บาท
แคมเปญที่ 2 “WEEKEND LUCKY CODE” คิง เพาเวอร์ ออนไลน์ จัดใหญ่โดยให้ลดสูงสุด 15% และลดเพิ่ม 5% เมื่อช้อปครบ 15,000 บาท ในช่วงสุดสัปดาห์นี้มีเเต่เเจก 28 - 29 ม.ค. 66 รับรหัสส่วนลด WLC4 รีบช้อปรีบใช้ โค้ดสุดคุ้ม สินค้า DUTY FREE สุดฮ็อตราคาสุดพิเศษ มีไฟลต์บินแล้วรีบเลย! รับสินค้าได้ที่สนามบิน ช้อปได้ทั้งขาเข้าและขาาออก
เลือกใช้สิทธิ์อีกเพียบได้ด้วยคือ 1.แบ่งชำระ 0% นานสูงสุดถึง 10 เดือน 2.รับเครดิตเงินคืนสูงสุด 8,000 บาท 3.ฟรี! ของสมนาคุณสุดพิเศษ จากแบรนด์ดัง (ของแถมมีจำนวนจำกัดและอาจมีการเปลี่ยนแปลงโดยไม่ได้แจ้งให้ทราบล่วงหน้า) 4.รับเลย! ส่วนลด 200 บาท เมื่อสมัครสมาชิกออนไลน์ 5.รับสิทธิ์การสมัครสมาชิก คิง เพาเวอร์ เมื่อช้อปขั้นต่ำ 1,000 บาท (สุทธิ)
แคมเปญที่ 3 คิง
เพาเวอร์ “สนามบินดอนเมือง” วันนี้ – 28 กุมภาพันธ์ 2566 ที่ คิง เพาเวอร์ ดอนเมือง แจกฟรี! คูปองส่วนลด 600 บาท
สำหรับช้อป 6,000 บาทขึ้นไป/ใบเสร็จ(จำกัดการใช้คูปอง 1 ใบ / ใบเสร็จ) เพื่อให้นำไปใช้เลือกช้อปต่อผลิตภัณฑื เครื่องสำอาง
น้ำหอม ที่โดนใจ
ข่าวที่ 2 คิงเพาเวอร์เสนอสินค้าใหม่ TUK TUK CHOCOLATEอร่อย3รส
คิง เพาเวอร์ ซีเล็คชั่น ชวนทุกคนลิ้มลองรสชาติแห่งการเดินทางอันหอมหวาน พกความอร่อยมาเต็มคันรถกับ TUK TUK CHOCOLATE with FREEZE-DRIED กับ TUK TUK CHOCOLATE with FREEZE-DRIED ดาร์กช็อกโกแลตคุณภาพดี รสชาติเข้มข้นกลมกล่อม พร้อมรังสรรค์ในรูปทรงรถตุ๊กตุ๊ก พาหนะเลื่องชื่อที่พาตะลอนทั่วไทย คู่ใจนักเดินทางมาช้านาน สอดไส้ผลไม้อันหวานฉ่ำที่ผ่านกรรมวิธี Freeze-Dried คงสารอาหารและความอร่อยไว้เต็มคันรถ มีให้ทุกคนเลือกกัน 3 รสชาติ
1.TUK TUK CHOCOLATE with FREEZE-DRIED Mango ดาร์กช็อกโกแลตสอดไส้มะม่วงน้ำดอกไม้ ผลสีเหลืองทอง รสชาติหวานฉ่ำ ที่ผ่านกรรมวิธี Freeze-Dried นับเป็นขนมหวานสีน้ำตาลเข้ม ที่ร้อยเรียงอรรถประโยชน์ไว้เต็มคัน ทั้งวิตามินเอ วิตามินซี และมีสารต้านอนุมูลอิสระสูง ช่วยลดความเครียด ชะลอความแก่
2.TUK TUK CHOCOLATE with FREEZE-DRIED Strawberry ดาร์กช็อกโกแลตสอดไส้สตรอว์เบอร์รีคัดเกรด เทพีผลไม้ที่ให้รสเปรี้ยวอมหวานอย่างพอดิบพอดี ผ่านกรรมวิธี Freeze-Dried คงความอร่อย พร้อมสอดแทรกนานาสรรพคุณ อาทิ บำรุงสมอง ลดความเครียด หัวใจแข็งแรง ลดเลือนริ้วรอย ชะลอความแก่
3.TUK TUK CHOCOLATE with FREEZE-DRIED Durian ดาร์กช็อกโกแลตสอดไส้เนื้อทุเรียนหมอนทอง ราชาแห่งผลไม้ไทย ที่ผ่านกรรมวิธี Freeze-Dried เพื่อคงกลิ่นรสอันหวานมันกลมกล่อม หอมอร่อย อุดมด้วยวิตามิน แร่ธาตุ สารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยให้เลือดไหลเวียนดีขึ้น กระตุ้นการทำงานของสมอง ชะลอความแก่ แก้โรคผิวหนัง
อร่อยกับดาร์กช็อกโกแลตสอดไส้ผลไม้นานาชนิดพร้อมโปรโมชั่นพิเศษ
เฟสบุ๊ค King Power
Selection และสั่งซื้อทางเว็บไซต์ หรือที่ คิง เพาเวอร์
ทุกสาขา
ข่าวที่ 3 ททท.ถกตลาดในประเทศ5ภาคลุยปรับเป้าปี66ใหม่เพิ่ม10%
นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ รองผู้ว่าการด้านตลาดในประเทศ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ดร.ยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการ ททท.ได้เป็นประธานเมื่อวันที่ 27 มกราคม 2566 เปิดการประชุม “ททท.ตลาดในประเทศ” ทั้ง 5 ภูมิภาค ทั้งภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ ที่เขื่อนของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย จ.อุตรดิตถ์ โดยได้การต้อนรับอย่างดีจากนายสมหวัง พ่วงบางโพ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุตรดิตถ์ นายชาญชัย พันธ์ไพโรจน์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการเขื่อนสิริกิติ์ 2 เจ้าของสถานที่จัดประชุมครั้งนี้
ประเด็นหลักการจัดประชุม ททท.ตลาดในประเทศ เพื่อ “ปรับเป้าหมาย” ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ใหม่ปี 2566 ซึ่งการท่องเที่ยวฟื้นกลับคึกคักเร็วเกินคาด จึงเร่งระดมสมองเพื่อปรับเป้าหมายใหม่ทั้งจำนวนผู้เยี่ยมเยือนและรายได้ขึ้นตามนโยบายผู้ว่าการ ททท.อีกประมาณ 10 % ชูใช้โครงการการ “ท่องเที่ยว 365 วันมหัศจรรย์เมืองไทย เที่ยวได้ทุกวัน” ชูโรงขายไทยเที่ยวไทย มุ่งเจาะ 3 กลุ่มเป้าหมายใหม่ ได้แก่ กลุ่มที่ 1 เพศสภาพ LGBTQ กลุ่มที่ 2 มิลเลนเนียล แฟมิลี่ และ กลุ่มที่ 3 YOLD/Young Old หรือผู้สูงวัยที่ตื่นตัวอยู่ตลอดเวลามีกำลังซื้อสูงในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคม
เป็นการขยับเป้าหมายการท่องเที่ยวตลาดในประเทศจากฐานเดิมปี 2565 ททท.ตั้งเป้าจะผู้เยี่ยมเยือนชาวไทยไม่น้อยกว่า 250 ล้านคน/ครั้ง สร้างรายได้รวมจากในประเทศและตลาดต่างประเทศไว้ทั้งหมด 2.38 ล้านล้านบาท
การขับเคลื่อนตลาดท่องเที่ยวของ ททท.ปี 2566 ได้ชูจุดขายใหญ่ ปีท่องเที่ยวไทย-Visit Thailand Year 2023 ขับเคลื่อนการท่องเที่ยวไทยสู่ความยั่งยืน ด้วยวิธีส่งมอบประสบการณ์ท่องเที่ยวอย่างมีความหมายรู้คุณค่า Meaningful Travel พร้อมกับเปลี่ยนสินค้าในแคตาล็อก (Product Catalog) ใหกลายเป็น “เมนูประสบการณ์ “ ออกแบบประสบการณ์ด้วยหัวใจ (Heart crafted)
โดยมีสินค้าหลักนำเสนอขายในตลาดทั้งในประเทศและทั่วโลกคือ NFT ได้แก่ Nature-ธรรมชาติ/Food-อาหาร/Thai wisdom-วิถีภูมิปัญญาไทย สร้างแรงบันดาลใจให้เกิดการท่องเที่ยวด้วยพลัง ซอฟท์ เพาเวอร์ 5F ควบคู่การนำการพัฒนาท่องเที่ยวสีเขียวสู่ความยั่งยืนหรือ SDG -Sustainable Development Green เพื่อผู้ประกอบการท่องเที่ยวฟื้นตัวหรือ Shape supply อย่างทรงพลังทั้งปัจจุบันและอนาคต
รวมทั้งการชูธีมกระตุ้นตลาดในประเทศด้วยแคมเปญกับธีมตลอดปี
2566 myh’ #โมเมนต์ที่ใช่สร้างได้ไม่ต้องรอ #เสน่ห์วันวานเมืองเหนือ
#gonorththailand #เที่ยวเมืองไทยAmazingยิ่งกว่าเดิม
ข่าวที่ 4 บางจากมูลนิธิใบไม้ฯดึงSCGCตั้งกล่องปันสุขร้านอินทนิล200แห่ง
นางกลอยตา ณ ถลาง ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานสื่อสารองค์กรและกิจการเพื่อความยั่งยืน บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) และกรรมการมูลนิธิใบไม้ปันสุข เปิดเผยว่า ได้จับมือกับพันธมิตรเดินหน้าส่งมอบ “กล่องปันสุข” ร่วมกับ นายวิษณุ วงศ์สุมิตร กรรมการผู้จัดการ บริษัทบางจาก รีเทล จำกัด นายกฤษดา เรืองโชติวิทย์ Head of ESG office บริษัท เอสซีจี เคมิคอลส์ จำกัด (มหาชน) เพื่อนำไปวางใน “ร้านกาแฟอินทนิล” ทั่วประเทศ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งโครงการที่จะใช้รับบริจาคสนับสนุนการศึกษาและดูแลสิ่งแวดล้อมกิจกรรมของมูลนิธิฯ พร้อมทั้งการส่งต่อความสุขที่ยั่งยืนให้เยาวชนไทย พร้อมกับอำนวยความสะดวกรองรับวิถีใหม่ให้ผู้ที่ต้องการโอนเงินบริจาคผ่านช่องทางเสริมสแกนผ่าน QR Code ได้ด้วย
ปี 2566 บางจากและพันธมิตรจึงเชิญชวนให้ลูกค้าและประชาชนร่วมสนับสนุนมูลนิธิฯ เพื่อร่วมกันส่งต่อความสุขที่ยั่งยืนให้กับเยาวชนไทยร่วมกัน ผ่าน “กล่องปันสุข” ได้ที่ร้านกาแฟอินทนิล 200 สาขา ได้ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2566 เป็นต้นไป
สำหรับ “มูลนิธิใบไม้ปันสุข”
โดยกลุ่มบริษัทบางจาก ได้เดินหน้าโครงการต่อเนื่องมาตลอด 5 ปี มีภารกิจสำคัญด้านการศึกษาของเยาวชน
ทั้งการอ่านเขียน การปลูกจิตสำนึกสิ่งแวดล้อมผ่านหลักเศรษฐกิจหมุนเวียน
การส่งเสริมพลังงานแสงอาทิตย์ในระบบเกษตร มูลนิธิฯ จึงทำงานร่วมกับพันธมิตรที่แข็งแรงจนมีแนวปฏิบัติและผลลัพธ์ที่ดี
สร้างความยั่งยืนให้เยาวชนในสถานศึกษาและชุมชนใกล้เคียง พร้อมทั้งมีแผนงานจะขยายโครงการอย่างต่อเนื่องต่อไป
ทางด้าน “นายวิษณุ วงศ์สุมิตร”
กรรมการผู้จัดการ บริษัทบางจาก รีเทล จำกัด กล่าวว่า ร้านกาแฟอินทนิล
คือแบรนด์กาแฟรักษ์โลก มุ่งมั่นพยายามจัดการของเสียในธุรกิจให้มีประสิทธิภาพและตอบสนองกับความต้องการของผู้มีส่วนได้เสียของสังคม
ด้วยการรวบรวมขวดนมและแกลลอนนมมาพัฒนาเป็น “กล่องปันสุข” เพิ่มช่องทางระดมทุนสนับสนุนการศึกษาเยาวชนไทย
และภูมิใจในการนำธุรกิจเข้ามามีส่วนร่วมสร้างคุณค่าให้ทั้งสังคมและสิ่งแวดล้อมทุกวัน
ขณะที่ “นายกฤษดา เรืองโชติวิทย์” Head of ESG office บริษัท เอสซีจี เคมิคอลส์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ทาง SCGC เล็งเห็นถึงปัญหาสิ่งแวดล้อมซึ่งทั่วโลกกำลังเผชิญอยู่ตอนนี้ ถือเป็นเรื่องที่ทุกคนต้องร่วมมือกันแก้ไข โดยเฉพาะการทำ Circular Economy หรือ เศรษฐกิจหมุนเวียน เป็นเรื่องที่ SCGC ให้ความสำคัญต่อเนื่องมาตลอด และคือหนึ่งในพันธกิจหลักเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน อีกทั้งยังเป็นโอกาสและทางออกของทุกธุรกิจต้องประยุกต์ใช้ตลอดห่วงโซ่อุปทานด้วย
ทาง SCGC มีโครงการ Hotels and Café love the Earth ซึ่งดำเนินการร่วมกับกลุ่มโรงแรม คาเฟ่ และร้านกาแฟอินทนิล เพื่อช่วยกันพัฒนาระบบนิเวศทางธุรกิจตามหลักเศรษฐกิจหมุนเวียน ทำให้ลดการใช้ทรัพยากร ลดการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกด้วย
สำหรับโครงการ “กล่องปันสุข” เป็นอีกหนึ่งผลงานอันเกิดขึ้นจากความร่วมมือของร้านกาแฟอินทนิล และ Wake Up Waste สตาร์ทอัพของ SCGC ผู้พัฒนาแพลตฟอร์มตอบโจทย์ลูกค้าให้เข้าถึงการรีไซเคิลง่ายขึ้น เนื่องจาก “กล่องปันสุข” ผลิตจากพลาสติกรีไซเคิลจากขวดนมพลาสติกที่ใช้แล้ว 5 ขวด โดยมีพนักงานร้านกาแฟอินทนิลเก็บรวมรวมแล้วช่วยกันคัดแยกขยะตามหลักเศรษฐกิจหมุนเวียน นำเข้าสู่กระบวนการรีไซเคิล ปลูกฝังความเข้าใจเรื่องการใช้ทรัพยากรให้เกิดคุณค่าสูงสุด ปัจจุบัน ร้านอินทนิลในพื้นที่ปทุมวัน เข้าร่วมโครงการ "Hotels and Cafe love the Earth" ตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2565 แล้วได้ส่งมอบบรรจุภัณฑ์ใช้แล้วเข้าโครงการรวมแล้วกว่า 4,700 กิโลกรัม
ช่วงที่ 2 สายมูฟังให้ชัด ๆ
“บางกอกแอร์เวย์ส” ชวนบินลัดฟ้าเที่ยวทั่วไทยและเพื่อนบ้าน 9 พิกัด 5 เส้นทาง เสริมมงคล การเงิน การงาน
สุขภาพ โชคลาภ รับปีเถาะ แล้วมาฟัง “หัวหอมวัตถุดิบอาหารคู่ครัว”
มีสารพัดประโยชน์คู่สุขภาพ และเกาะติดข่าวฮ็อต ข่าวแรก “กระทรวงท่องเที่ยวควง5องค์กร” ต่อยอดบริการศูนย์ Entry Thailand เตรียมเต็มที่รับกรุ๊ปทัวร์จีนฉลุย ข่าวที่สอง “booking.comประกาศให้พังงาแชมป์ต้อนรับนักท่องเที่ยวโลก”
ท่องเที่ยว-
ชวนสายมูบินเที่ยวกับบางกอกแอร์รับพลังบวก9พิกัด5เส้นทาง
ชวนปักหมุดท่องเที่ยวตามเส้นทางบินกับ
“บางกอกแอร์เวย์ส” ต้อนรับเปิดศักราชใหม่ปี 2566 ได้นำเสนอกิจกรรมไหว้พระเสริมโชคความรุ่งเรืองเป็นสิริมงคล
ทั้งการงาน การเงิน
สุขภาพ โชคลาภ และความรัก ราบรื่นตั้งแต่ต้นปีตลอดจนถึงปลายปี ด้วยการแนะนำสายมูเตลูร่วมเดินทางทั้งในและต่างประเทศ 9
จุดเช็คอิน 5 พิกัด
ในจังหวัด สุโขทัย เกาะสมุย(สุราษฎร์ธานี)
สิงคโปร์ ดานัง เวียดนาม และหลวงพระบาง สปป.ลาว
พิกัดที่ 1 กรุงเทพฯ – สุโขทัย
ในดินแดนศักดิ์สิทธ์ “รุ่งอรุณแห่งความสุข’ หนึ่งในจังหวัดที่โดดเด่นเรื่องศิลปวัฒนธรรม
มรดกทางพระพุทธศาสนา สามารถไปกราบสักการะ พระอจนะ พระพุทธรูปปูนปั้นปางมารวิชัย
ศิลปะสุโขทัย วัดศรีชุม ตำนานพระพูดได้เมืองพระร่วง
และห้ามพลาดสักการบูชาพระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมือง “พระอัฏฐารส” ประดิษฐานอยู่ที่
“วัดมหาธาตุ” กับพระอัฏฐารสองค์ใหญ่ปางประทานอภัย ประดิษฐานอยู่ที่ “วัดสะพานหิน” อายุเก่าแก่กว่า 700 ปี
พิกัดที่ 2 กรุงเทพฯ - สมุย
เกาะสวรรค์สุดยอดประติมากรรมสิ่งศักดิ์สิทธิ์ขนาดยักษ์ นอกจากทะเลสวยแล้วยังมีสุดยอดประติมากรรมสิ่งศักดิ์สิทธิ์ขนาดใหญ่มากมาย
คือ ‘พระพุทธโคดม’ องค์พระพุทธรูปปางมารวิชัยขนาดใหญ่ที่ “วัดพระใหญ่” บริเวณเกาะฟาน ซึ่งเป็นวัดชื่อดังประจำเกาะสมุย รวมทั้ง
“เจ้าแม่กวนอิม” กับ “พระสัจจาจายน์” วัดแหลมสุวรรณาราม (วัดปลายแหลม) ซึ่งมีพระอรหันต์ผู้บันดาลโชคลาภ
ขนาดใหญ่ตระการตาตั้งอยู่ในวัด และ“ศาลเจ้ากวนอู”
เก่าแก่เกิดขึ้นมาจากความศรัทธาของคนในท้องถิ่น มี “เทพกวนอู” รูปปั้นเนื้อสัมฤทธิ์มีขนาดใหญ่และสูงถึง
16 เมตร
พิกัดที่
3 เกาะสมุย – สิงคโปร์ จุดหมายปลายทาง ขอพรด้านการงาน
โชคลาภ ความรัก ขอบุตร ได้ถึง 3 แห่ง เริ่มต้นที่ “วัดเยี่ยไห่ชิง/Yueh Hai Ching Temple” ขึ้นชื่อเรื่องความปรารถนาพรด้านความรัก อนาคตการศึกษา
ให้โชคกับผู้ที่มีบุตรยากด้วย แล้วเดินทางต่อไปแสวงบุญสักการะ “เทพเจ้าไฉ่ ซิ้ง
เอี้ย” ที่ “วัดซัมบาวัง/Sembawang God of Wealth Temple” มีเชื่อกันว่ามีเทพเจ้าจีนแห่งความร่ำรวยคอยประทานพรโชคลาภให้ชีวิต ต่อด้วยกราบสักการะ “องค์หม่าโจ่ว หรือ
เจ้าแม่ทับทิม” ได้ที่ “วัดเทียนฮกเก๋ง” วัดจีนที่ได้รับการยกย่องให้เป็นอนุสรณ์สถานแห่งชาติมีความเก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งในสิงคโปร์
บรรดาผู้ศรัทธานิยมเดินทางมาขอพรเรื่องความสงบสุขในชีวิต
ขอบุตร และความยั่งยืนในชีวิตรัก
พิกัดที่
4
กรุงเทพฯ – ดานัง เวียดนาม ดินแดนมนต์เสน่ห์ เสริมโชค
โกยลาภ เป็นหนึ่งในจุดหมายของหลาย ๆ คนใฝ่ฝันจะไป “ดานัง”สักครั้งในชีวิตขึ้นชื่อว่าเป็น
‘ดินแดนยุโรปแห่งเอเชีย’ มีแหล่งท่องเที่ยวสวยงามและศาสนสถานอันศักดิ์สิทธิ์อย่าง
“วัดหลินอึ๋ง/Linh Ung Pagoda” ตั้งอยู่ทางเหนือของดานังที่มี “องค์เจ้าแม่กวนอิม”
ประดิษฐานอยู่ด้วยความสูงกว่า 67 เมตร
เพื่อให้ทุกคนที่เดินทางไปเยือนได้ขอพรเกี่ยวกับเรื่องสุขภาพ โชคลาภ การทำกิจการค้าขายให้รุ่งเรือง และการขอบุตรด้วย
พิกัดที่
5
กรุงเทพฯ – หลวงพระบาง สปป.ลาว ท่องเมืองสโลว์ไลฟ์สงบจิตใจกับกิจกรรมตักบาตรข้าวเหนียวรับอรุณ ซึ่งได้รับการยกย่องจากยูเนสโกให้เป็นเป็นเมืองมรดกโลก มีวัดเก่าแก่และโดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมหนึ่งเดียว
ด้วยวิถีภาพจำของคนทั่วโลกหากมาถึงแล้วจะต้องร่วม “ตักบาตรข้าวเหนียว” ยามเช้า ก่อนจะเข้าสักการะบูชาองค์พระพุทธรูปสำคัญที่สุดของลาวคือ
“พระบาง
หรือ พระบางพุทธลาวรรณ” ได้ที่ “หอพิพิธภัณฑ์เมืองหลวงพระบาง” ขอพร เสริมความสิริมงคลให้แก่ชีวิต
ทั้งนี้สายการบินบางกอก
แอร์เวย์ส มีเที่ยวบินบริการไปเช็คอิน เติมบุญ รับปีเถาะ 2566 ให้ผู้โดยสารเดินทางอย่างสะดวกสบาย พร้อมรับสิทธิประโยชน์เอ็กซ์คลูซีฟฟรี
เช่น บริการโหลดกระเป๋าสัมภาระฟรีคนละ
20 กิโลกรัม ใช้บริการห้องรับรองผู้โดยสาร บูทีคเลาจน์ ตามสนามบินที่เดินทาง
พร้อมเสิร์ฟอาหารในเที่ยวบินทุกเส้นทางอย่างครบถ้วน
สุขภาพ
-“หัวหอม”วัตถุดิบอาหารคู่ครัวสารพัดประโยชน์คู่สุขภาพ
“หัวหอม”
พืชในตระกูลเดียวกับกระเทียมซึ่งได้รับความนิยมไม่น้อยไปกว่ากัน
โดยทั้งหอมแดงหรือหอมใหญ่ต่างก็เป็นวัตถุดิบสำคัญในการเพิ่มรสชาติและกลิ่นหอมของอาหารที่ต้องมีคู่ครัวเสมอ
และนอกจากประโยชน์ในการนำมาทำอาหารแล้ว หัวหอมยังอาจดีต่อสุขภาพ
เพราะประกอบด้วยสารอาหารครบถ้วน มีแคลอรี่ต่ำ วิตามินซีสูง
รวมถึงอุดมด้วยสารที่มีคุณสมบัติต้านการอักเสบและต้านอนุมูลอิสระ
ส่วนคุณค่าทางโภชนาการของหัวหอมชนิดต่าง ๆ จะมีเท่ากัน
จากการวิจัยหนึ่งเปรียบเทียบสารอาหารที่พบในหัวหอมกว่า 10 ชนิด ปรากฏว่า
“หอมแดง” สารประกอบฟีนอลิก (Phenolic) และมีคุณสมบัติเป็นสารต้านอนุมูลอิสระสูงสุด
สารที่จะชะลอการเกิดความเสียหายภายในร่างกาย
ส่วน “หอมใหญ่” มีสารต้านอนุมูลอิสระในกลุ่มฟลาโวนอยด์
เป็นสารอาจช่วยลดความเสี่ยงต่อโรคมะเร็ง โรคหัวใจและหลอดเลือด ต้านการอักเสบได้
ซึ่งที่บริเวณเปลือกรอบนอกของหัวหอมจะมีสารนี้เข้มข้นที่สุด
เพื่อให้ได้สารอาหารที่มีคุณค่าจึงไม่ควรปลอกเปลือกหัวหอมออกมากเกินไป
สารอาหารมากคุณประโยชน์ใน “หัวหอม” จึงนำมาใช้โดยหวังคุณประโยชน์อื่น
ๆ นอกเหนือจากการรับประทานเป็นอาหาร เช่น ช่วยแก้หวัด คัดจมูก รักษาโรคหืด เบาหวาน หัวใจ มะเร็ง ลดการขาดร่วงของผม
รวมถึงประโยชน์ด้านสุขภาพผิวในการรักษาและป้องกันการเกิดแผลเป็น
ทว่ามีหลักฐานหรือข้อพิสูจน์ใดที่กล่าวสนับสนุนประสิทธิภาพเหล่านี้ของหัวหอมบ้าง
“ป้องกันและลดรอยแผลเป็น” เป็นสรรพคุณเดียวของหัวหอมที่นับว่าในปัจจุบันมีหลักฐานการวิจัยสนับสนุนอย่างค่อนข้างน่าเชื่อถือ
เนื่องจากการศึกษาส่วนใหญ่พบว่าการใช้สารสกัดจากหัวหอมอาจเป็นอีกทางเลือกหนึ่งการรักษาแผลเป็นด้ว
คาดว่าเป็นเพราะคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระและต้านการอักเสบ
ซึ่งมีกลไกช่วยลดกระบวนการสร้างเนื้อเยื่อที่จะทำให้มีแผลเป็นตามมาได้
จากการศึกษาสามารถลดรอยแผลเป็นชนิดคีลอยด์และรอยแผลเป็นนูนระหว่างสารสกัดจากหัวหอม
แผ่นเจลซิลิโคน หรือการใช้การรักษาร่วมกันทั้ง 2 ชนิด เป็นเวลา 6
เดือน พบว่าการใช้สารสกัดหัวหอมช่วยลดสีของรอยแผลเป็นได้ดีกว่า
แต่ไม่ได้ลดอาการคันหรือทำให้แผลเป็นยุบลงนัก
ในขณะที่แผ่นเจลซิลิโคนมีประสิทธิภาพมากกว่าในการช่วยให้แผลเป็นยุบตัวลง
ส่วนการรักษาที่ให้ผลดีที่สุดก็คือการใช้ทั้งสารสกัดหัวหอมทาและแปะด้วยแผ่นเจลซิลิโคนนั่นเอง
ทางด้านการรักษาแผลเป็นจากแผลผ่าตัดต่าง ๆ นั้น การวิจัยหนึ่งทดลองกับแม่ชาวเอเชียจำนวน
16 คนที่เพิ่งได้รับการผ่าคลอด โดยหลังจากนั้น 7 วันให้ใช้เจลที่มีสารสกัดจากหัวหอม
12% หรือยาหลอกทาแผลคนละข้างวันละ 3 ครั้ง
นาน 12 สัปดาห์
ผลลัพธ์พบความแตกต่างของความหนาและอาการจากแผลเป็นอย่างมีนัยสำคัญ
โดยเป็นการใช้เจลสารสกัดหัวหอมที่ให้ผลการรักษาดี
ทว่าไม่เห็นความแตกต่างของความแดง ความอ่อนนุ่ม และความสวยของแผลทั้ง 2 ข้างที่ใช้การรักษาต่างกันเท่าไร
แม้จะมีงานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับประสิทธิภาพของสารสกัดจากหัวหอมในการรักษาแผลเป็นชนิดต่าง
ๆ อย่างหลากหลาย ทั้งการใช้สารสกัดหัวหอมผสมกับตัวยาอื่น ๆ
หรือใช้ควบคู่กับวิธีการของแพทย์แผนปัจจุบัน
แต่ก็ยังไม่มีการสรุปว่าควรใช้รูปแบบใด ควบคู่กับอะไร จึงจะให้ผลดีที่สุด
ผู้ที่ต้องการทดลองสรรพคุณนี้ของหัวหอม ควรคำนึงถึงความปลอดภัยและความเหมาะสมด้วย
“แก้ปัญหาผมร่วงเป็นหย่อม ๆ” ปัญหาเส้นผมหลุดร่วงอันเกิดจากระบบภูมิคุ้มกันผิดปกติ
ถึงจะเกิดขึ้นเพียงชั่วคราว แต่ก็สร้างความไม่มั่นใจให้กับผู้ป่วย
หัวหอมจะเป็นอีกหนึ่งตัวเลืองเร่งการงอกของเส้นผมที่ง่ายและได้ผลหรือไม่นั้น
จากการวิจัยโดยให้ผู้ป่วย 23 คนใช้น้ำคั้นจากหัวหอมดิบทาศีรษะวันละ 2 ครั้ง
ในช่วง 2 เดือน แล้วใช้ผู้ป่วยอีก 15 คน
ใช้น้ำประปา พบว่าหลังจากใช้น้ำหัวหอมดิบทาหนังศีรษะนาน 4 สัปดาห์
พบผลลัพธ์การรักษาที่ดีใน 73.9% ของผู้ป่วยทั้งหมด เมื่อผ่านไป
6 เดือน ดีขึ้นเพิ 86.9 %
เมื่อเทียบกันระหว่างชายและหญิง น้ำจากหัวหอมให้ผลการรักษาผู้ป่วยชาย
(คิดเป็น 93.7%)
ดีกว่าผู้ป่วยหญิง (คิดเป็น 71.4%) อย่างมีนัยสำคัญ
แต่ก็ยังต้องมีการศึกษาเพิ่มเติมที่สามารถยืนยันประสิทธิภาพและความปลอดภัยได้ชัดเจนกว่านี้
ผู้ที่ทดลองใช้กับตัวเองควรใช้อย่างเหมาะสมเท่านั้น
“ป้องกันโรคหัวใจ” ความเชื่อหัวหอมช่วยป้องกันโรคหัวใจได้มีที่มาจากข้อมูลงานวิจัยหนึ่งที่กล่าวว่าอาหารเสริมเควอซิทิน
(Quercetin)
ที่พบในหัวหอม อาจส่งผลดีต่อระดับไขมันในเลือด ระดับความดันโลหิต
การตอบสนองต่อระดับน้ำตาลในเลือด และการอักเสบ
โดยทั้งหมดนี้ล้วนเป็นปัจจัยเสี่ยงของการเกิดโรคเบาหวาน โรคหัวใจ โรคหลอดเลือในสมองนั่นเอง
“หัวหอม” จึงเป็นวัตถุดิบที่อยู่คู่ครัวเรือนแต่ละบ้าน และคู่สุขภาพของคนด้วยเช่นกัน
ฟังข่าวท้ายชั่วโมง
ข่าวแรก
-ก.ท่องเที่ยว5องค์กรโชว์ศูนย์วันสต็อปรับกรุ๊ปจีนฉลุยปี’66
นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา
เปิดเผยว่า นายอารัญ บุญชัย ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือการบูรณาการระบบอำนวยความสะดวกแก่ผู้เดินทาง
ร่วมกับอีก 5 หน่วยงาน คือ กระทรวงวัฒนธรรม กรมอุตุนิยมวิทยา กรมศิลปากร
กรมอุทยานสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เดินหน้าโครงการเชื่อมโยงระบบให้บริการด้านต่างๆ มารวมศูนย์ไว้บนเว็บไซต์
Entry Thailand หรือระบบการอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้เดินทาง
(Ease of Traveling) พัฒนาแพลตฟอร์มเกี่ยวกับการรวบรวมข้อมูลหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องครบวงจรและน่าเชื่อถือ
สอดคล้องกับมาตรการควบคุมโรคของรัฐบาล อำนวยความสะดวกให้นักท่องเที่ยวทั่วโลกที่จะเดินทางเข้าออกเมืองไทยได้ใช้ข้อมูลวางแผนการเดินทางอย่างมีประสิทธิภาพ
ข้อมูลหลัก ๆ ประกอบด้วย 1.แจ้งเตือนสภาพอากาศหรือสาธารณภัยแบบเรียลไทม์
2.การให้บริการจองสถานที่ท่องเที่ยวและพักแรมของรัฐ 3.ข้อมูลแหล่งท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ เช่น อุทยานประวัติศาสตร์ พิพิธภัณฑ์
4.ข้อมูลปฏิทินวัฒนธรรมประเพณีและการจัดงานสำคัญ
เพื่อรองรับจำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้นหลังจากไทยเปิดประเทศต้อนรับนักท่องเที่ยวเต็มรูปแบบ
สอดรับปีท่องเที่ยวไทย 2566
โดยเฉพาะ “นักท่องเที่ยวจีน”
หลังรัฐบาลสาธารณรัฐประชาชนจีนประกาศผ่อนคลายอนุญาตให้เดินทางมาพร้อมกันแบบกรุ๊ปทัวร์เริ่ม
6 กุมภาพันธ์ 2566 เป็นต้นไป โดยไทยยังคงเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมของทั้งจีนและนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก
จึงจะต้องเร่งพัฒนาระบบบริการต่าง ๆ สร้างความมั่นใจด้านความปลอดภัย ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญของไทยที่จะใช้อุตสาหกรรมท่องเที่ยวพลิกฟื้นเศรษฐกิจกลับมาแข็งแกร่งมีรายได้เป็นไปตามเป้าหมายปีนี้กว่า
2.38 ล้านล้านบาท
ปี
2567 วางแผนต่อยอดการบูรณาการร่วมกับหน่วยงานอื่น ๆ เพิ่มเต็มรูปแบบ เช่น
การรถไฟแห่งประเทศไทย การกีฬาแห่งประเทศไทย มุ่งสร้างความประทับใจและตัดสินใจให้คนทั่วโลกกลับมาท่องเที่ยวซ้ำอีก
เป็นหนึ่งในแผนกระตุ้นการเดินทางและสร้างความมั่นใจได้ว่าการท่องเที่ยวจะเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจของไทยต่อไป
นายมาฆะ
ภูจินดา
ผู้อำนวยการกองพัฒนาระบบบริหาร สำนักปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า
กระทรวงการท่องเที่ยวพร้อมเดินหน้าภารกิจสำคัญเรื่องการอำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยว
ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 3 สิงหาคม 2564 ให้บริการประชาชนผ่านระบบ e-Service สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ
20 ปี (พ.ศ.2561 - 2580) และรองรับระบบราชการ 4.0 เต็มรูปแบบผ่านการพัฒนาระบบเทคโนโลยีดิจิทัลรองรับการให้บริการนักท่องเที่ยว
เร่งสร้างความสามารถทางการแข่งขันกับตลาดท่องเที่ยวโลกและยังคงรักษาความเชื่อมั่นด้านการท่องเที่ยวให้ไทยเป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวระดับโลก
ตามแผนการตลาดมุ่งเจาะกลุ่มนักท่องเที่ยวคุณภาพ
ต่อยอดศักยภาพที่เป็นจุดเด่นของประเทศทั้งด้านขนบธรรมเนียม ประเพณี วัฒนธรรม
อัตลักษณ์ความเป็นไทย คุณค่าการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม ควบคู่กันไป
ทางกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา
ได้ทำโครงการเชื่อมโยงต่อเนื่องกับบริการในรูปแบบ e-Service
ทั้ง แอปพลิเคชั่น Thailand pass หมอชนะ ระบบการขอ e-Visa การซื้อและตรวจสอบประกันสุขภาพก่อนเข้าประเทศ
การค้นหาข้อมูลด้านการท่องเที่ยวจากเว็บไซต์ TATnews.org
ของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย แอปพลิเคชั่น Tourist Police I Lert U ของกองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว
เช่นเดียวกับครั้งนี้ประกาศต่อยอดให้บริการด้านข้อมูลอื่นเพิ่มเติม
ช่วยนักท่องเที่ยวต่างชาติลดขั้นตอนความยุ่งยากในการเดินทาง ตั้งแต่การวางแผน
ระหว่างพำนักและเดินทางออกจากประเทศไทยได้ครบถ้วน
สำหรับพิธีบันทึกข้อตกลงความร่วมมือการบูรณาการระบบอำนวยความสะดวกแก่ผู้เดินทาง
มีตัวแทนลงนามร่วมกัน ประกอบด้วย 1.นายอารัญ บุญชัย ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา 2.นางยุถิกา อิศรางกูร ณ อยุธยา รองปลัดกระทรวงวัฒนธรรม 3.นางสาวชมภารี ชมพูรัตน์ อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา 4.
นายพนมบุตร จันทรโชติ อธิบดีกรมศิลปากร นางรุ่งนภา พัฒนวิบูลย์
รองอธิบดีรักษาราชการแทนอธิบดีกรมอุทยานสัตว์ป่าและพันธุ์พืช และ 5.นายรัฐพล นราดิศร รองอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย
ข่าวที่สอง -Booking.comประกาศ“พังงา”แชมป์บริการนักเดินทางโลกปี’66
นางสาวมิเชล เกา ผู้จัดการส่วนภูมิภาคประจำกลุ่มลุ่มแม่น้ำโขง Booking.com เปิดเผยว่า
ล่าสุดผลการโหวตรางวัล Traveller Review Awards 2023 ที่ทาง Booking.com
ได้รวบรวมข้อมูลจากนักเดินทางทั่วโลกกว่า 240 ล้านรีวิว
โหวตยกย่องผู้ให้บริการด้านการเดินทางทั่วโลกที่ให้บริการต้อนรับที่อบอุ่นและเป็นมิตรกว่า1.36
ล้านราย ประกาศให้ “พังงา” คว้าอันดับ 1 ในฐานะจังหวัดที่ให้การต้อนรับผู้เดินทางที่ดีที่สุดในประเทศไทย
(Thailand’s most welcoming province) ตามมาด้วยอีก 4
จังหวัด ได้แก่ กระบี่ ตราด เชียงราย และเชียงใหม่
สำหรับ Traveller Review Awards 2023 ในประเทศไทย ที่ได้รับการจัดอันดับจากรีวิวจริงของผู้เข้าพักกว่า 1.3
ล้านรีวิว ปีนี้ทั่วประเทศมีถึง 12,445 แห่ง ตามคะแนนรีวิวเฉลี่ย
8.6
ซึ่งทาง Booking.com
เดินหน้าเดินหน้าประกาศรางวัล Traveller Review Awards ประจำปีต่อเนื่อง เพื่อยกย่องผู้ให้บริการด้านการเดินทางใน 220 ประเทศและจุดหมายปลายทางทั่วโลก รวมถึงที่พักมากมายในประเทศไทย
ที่มุ่งมั่นส่งมอบบริการให้การต้อนรับอันยอดเยี่ยมแก่ผู้เข้าพักตลอดปีที่ผ่านมา
จากข้อมูลการรีวิวบนแพลตฟอร์ที่ Book.com รวมรวมมาได้กว่า
240 ล้านรีวิว ใน “ประเทศไทย” มีที่พัก 12,445 แห่ง ได้รับรางวัล Traveller Review Awards ปีที่ 11
นี้ ด้วยคะแนนรีวิวเฉลี่ย8.6 คะแนน จากปัจจัยที่ผู้เดินทางทั่วโลกให้ความสำคัญการรีวิวที่พักหรือบริการด้านการเดินทาง
ได้แก่ พนักงานที่ให้บริการ ตำแหน่งที่ตั้ง และความสะอาดของที่พัก
ซึ่งมี “จุดหมายปลายทาง” ต้อนรับผู้มาเยือนดีที่สุดในประเทศไทย ปี 2566 เป็นพื้นที่ชายฝั่งทะเลสวยงามเปรียบเสมือนอัญมณีเม็ดงามที่ซุกซ่อนอยู่
รวมไปถึงสถานที่ท่องเที่ยวในท้องถิ่นที่โอบล้อมด้วยธรรมชาติที่งดงาม ทัศนียภาพเทือกเขาอันตระการตา
โดยประเทศไทยติดอันดับยอดนิยมเรื่องสัดส่วนที่พักได้รับรางวัล Traveller
Review Awards 2023 มากที่สุด เป็นตัวแทนของภาคใต้ ภาคตะวันออก
และภาคเหนือ ดังนี้ 1.พังงา 2.กระบี่
3.ตราด 4.เชียงราย และ 5.เชียงใหม่
นางสาวมิเชล เกา กล่าวว่ารางวัล Traveller Review Awards 2023 ทำขึ้นเพื่อมอบให้คู่ค้าพร้อมกับแสดงความขอบคุณในความมุ่งมั่นทุ่มเทให้บริการต้อนรับอย่างอบอุ่น
เป็นมิตร มอบประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมให้ผู้เข้าพัก
ด้วยบริการแสนวิเศษของพนักงานขับรถแท็กซี่สนามบินคอยกล่าวทักทายผู้เดินทางด้วยมิตรไมตรี
หรือเคาน์เตอร์ให้บริการรถเช่าคอยแนะนำเส้นทางและเทคนิคการขับรถบนถนนไปยังจุดหมายปลายทางที่ผู้เดินทางไม่คุ้นเคย
ต่อเนื่องถึงการเขียนการ์ดต้อนรับมอบให้ผู้เข้าพักด้วย
ผู้เดินทางทั่วโลกยังคงชื่นชอบที่พักแปลกใหม่
ในบรรดาผู้เดินทางทั่วโลก
อพาร์ตเมนต์ยังคงเป็นประเภทที่พักที่ได้รับรางวัลมากที่สุดมาเป็นอันดับหนึ่ง
จากการจัดอันดับของ Traveller
Review Awards 2023 และครองตำแหน่งติดต่อกันเป็นปีที่ 6 แต่สำหรับประเทศไทยประเภทที่พักที่ยังคงเป็นที่นิยมมากที่สุดในปีนี้
ได้แก่ โรงแรม โดยจำนวนโรงแรมที่ได้รางวัลในปีนี้มีทั้งสิ้น 3,559 แห่ง ตามมาด้วยรีสอร์ท โดยมีรีสอร์ทที่ได้รางวัลจำนวนทั้งสิ้น 2,192
แห่ง และที่พักแปลกใหม่อื่น ๆ ที่ได้รับความนิยมรองลงมาได้แก่
อพาร์ตเมนต์ (1,614 แห่ง) และบ้านพัก (1,264 แห่ง)
ในจำนวนผู้ที่ได้รับรางวัลที่พักยอดเยี่ยมจากเกือบ 1 ใน 10 จากจำนวนรวม 122,095 แห่ง ยังได้รับป้ายสัญลักษณ์ ‘ที่พักการเดินทางอย่างยั่งยืน’ (Travel Sustainable Badge) ในฐานะผู้ดำเนินธุรกิจตามแนวทางด้านความยั่งยืนเพื่อรักษาสิ่งแวดล้อมและเพิ่มผลกระทบเชิงบวกให้ชุมชน มีโอกาสได้รับรางวัล Traveller Review Award 2023 มากกว่าถึงสามเท่า
ปี 2566 เป็นปีที่ 4 ที่ Booking.com ได้ยกย่องผู้ให้ “บริการด้านการขนส่งโดยสารและเดินทางในระหว่างทริป” (in-trip transport) ที่มอบบริการอันยอดเยี่ยมให้กับผู้เดินทางอต่อเนื่อง ปีนี้มีบริษัทให้เช่ารถทั่วโลก 150 ประเทศ 230 รายจาก ทั่วโลกที่ได้รับรางวัลดังกล่าวด้วย
ติดตามฟังรายการได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์
เวลา 11.00-12.00 น.ทาง สวท.FM 97.0 MHz.
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น