ททท.นำอีสาน20จังหวัดพลิกจุดขายสู่ยุคทองท่องเที่ยวปี’66
ดันเต็มคาราเบล3โปรเจกต์“ทัวร์365วัน/เมืองรอง/เที่ยวยั่งยืน”
ปรับเป้าใหม่รับตลาดฟื้นเร็วเกินคาดเพิ่มยอดคนรายได้10%
คิง เพาเวอร์แจกโชคดีอั่งเปาชุดใหญ่ตรุษจีน27-29ม.ค.66
ไทยเทสต์ฮับคิงเพาเวอร์รางน้ำเสิร์ฟเมนูมงคลเสริมงานเงิน
สมัครสมาชิกคิงเพาเวอร์SCARLET-NAVYรับโชค2กอง5ชั้น
ครม.อนุมัติททท.3,946ล้านเที่ยวด้วยกันเฟส5+BoosterShot
บางจากทำดีคว้ารางวัลThailand HR Innovation
Award2022
กกร.ผนึกทีเส็บเครือข่ายเอกชนดันไทยเจ้าภาพExpo
2028
เช็คอินใหม่“หอมนสิการ”แก่งคอยสระบุรีสวรรค์โลกใกล้กรุง
5อาหารล้างพิษตับจำกัดสารตกค้างในร่างกายฟื้นสุขภาพ
“บิ๊กบินไทย”โชว์ปี’66ฟื้นแกร่ง4แนวหวังเทรดตลาดปลาย67
“ไมเนอร์”นำNH+NHCollectionรุกเปิด10รร.ในไทย3แห่ง
วันเสาร์ที่
28 มกราคม 2566 ต้อนเข้าสู่รายการ
“รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน”
ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทางfacebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen
บล็อกเกอร์ #gurutourza #รวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97 #เพ็ญรุ่งใยสามเสน
#เที่ยวกับกู๋ #KingPower
#TAT #TCEB #บางจาก #ทททภูมิภาคภาคอีสาน #มนสิการแก่งคอยสระบุรี ฟัง Live สดจากลิงค์นี้...
ช่วงที่ 1 เจาะอีสานยุคใหม่กับ “สรัสวดี อาสาสรรพกิจ ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สร้างยุคทองท่องเที่ยว 3 โปรเจกต์ โหมโปรเจกต์แรก “365 วันมหัศจรรย์เมืองไทยเที่ยวได้ทุกวัน”
ตลุยขาย 5FPlus ชู “Food -ดินแดนอาหารมิชลิน”
โคราช ขอนแก่น อุดร อุบล “Fight-บุรีรัมย์ Fashion -จ่อเปิดเทศกาลเมืองคราม Fiath
วัดเกจิดัง โปรเจกต์สอง “เมืองรองต้องลอง” เปิดเส้นทางทัวร์ 3 ธรรม “ธรรมชาติ-ธรรมะ-วัฒนธรรม” ศูนย์รวมสุดยอดตำนานนาคา โปรเจ็กต์สาม
“เที่ยวยั่งยืน” เดิน ปั่นจักรยาน นำร่องเชียงคาน
ขานรับโจทย์ใหม่เพิ่มยอดรายได้และจำนวนอีก 10 %
สร้างใหม่เพิ่ม3ตลาด มัลติเจน-คนทำงาน-Workation
นางสาวสรัสวดี
อาสาสรรพกิจ ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคตะวันออกเฉียงเหนือ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
(ททท.) เปิดเผยว่า
การทำตลาดท่องเที่ยวภาคอีสานปี
2566
ไฮไลต์บิ๊กโปรเจ็กต์ “365 วัน
มหัศจรรย์เมืองไทย เที่ยวได้ทุกวัน” จะบูมขายซอฟท์ เพาเวอร์ 5F+1F/faith
ประกอบด้วย F1-Food ปี 2566 อีสานมีร้านอาหารที่ได้รางวัลมิชลินบิ๊บกูร์มองต์
33 ร้าน
อยู่ใน 4 จังหวัด
คือ อุบลราชธานี 6 ร้าน
อุดรธานี 7ขอนแก่น
11ร้าน
นครราชสีมา 9 ร้าน
โดยมี ททท.ขอนแก่น บูมเส้นทางอาหาร “เมนูพระรอง”
อย่างร้านประสิทธิ์โภชนาทายาทเจนสองได้ประยุกต์เมนูต้นตำรับผสมผสานสไตล์ญี่ปุ่นข้าวไทยโปะหน้าเนื้อย่าง
F2 :Film โฟกัส 3 จังหวัด
ชัยภูมิ เลย สุรินทร์ ขณะนี้ ททท.ได้ลงนามตกลงกับสถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (NARIT)
ส่งเสริมการท่องเที่ยวเทรนด์ใหม่ชวนกันในชมดาวในพื้นที่ฟ้ามืดหรือ Dark Sky
ซึ่งทาง “ชัยภูมิ” มีพื้นที่ได้รับการประกาศจุดชมดาวท้องฟ้ามืดเหมาะเป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์
ละคร โรแมนติก ถึง 3 แห่ง
ที่อุทยานแห่งชาติภูแลนคา อ.เมือง อุทยานแห่งชาติป่าหินงาม อ.เทพสถิตกับ อ.ซับใหญ่
และทุ่งกะมัง (ทุ่งหญ้ากว่า5,000 ไร่) เขตอุทยานสัตว์ป่าภูเขียว และจ.เลย โปรโมต 20
ภูดูทะเลหมอก แนวโรแมนติกเช่นกัน และ “จ.สุรินทร์”
ททท.จะผลักดันให้เกิดการถ่ายทำเรื่องราววิถีชีวิตช้างบ้านกับคนในชุมชน
F3 -Fashion จังหวัด “สกลนคร” ดึงภาพเรื่องผ้าครามให้ชัดเจน โดยจะสร้างสรรค์งาน “เทศกาลเมืองคราม” กำลังระดมความคิดทำร่วมกับเอกชน
F4-Fight ต้องยกให้ “จ.บุรีรัมย์” ซึ่งเป็นเมืองแห่งกีฬา มีโปรแกรมชมการแข่งขันกีฬาชนิดต่าง ๆ ต่อเนื่องทุกสัปดาห์ พร้อมทั้งมีสนใจเข้าร่วมชมเต็มทุกรายการ
F5-Festival ในอีสานมีงานเทศกาลประเพณีโดดเด่นคึกคักและสนุกดึงดูดความสนใจ ไม่ว่าจะเป็น บุญผะเหวดร้อยเอ็ด ไหลเรือไฟนครพนม/หนองคาย บั้งไฟยโสธร ผีตาโขนด่านซ้าย จ.เลย บั้งไฟพญานาค แต่ละงานจะมีคนหลั่งไหลกันมาเที่ยว แล้วผู้หญิงส่วนใหญ่จะนิยมมารำฟ้อนบูชาให้ผู้คนได้ชมด้วย
ททท.มีแนวคิดจะใส่ความเป็นไลฟ์สไตล์เข้าไปในงานเทศกาลต่าง ๆ ของอีสาน เตรียมจะทำคาราวาน “ลูกทุ่ง หมอรำ” ดึงดูดแฟนคลับติดตามเดินทางเข้ามาชมศิลปินในดวงใจ
F6 -Faith การท่องเที่ยวที่สามารถสร้างเทรนด์เรื่องตามความเชื่อความศรัทธา ซึ่งมีคลื่นของสายมูเตลูหลั่งไหลกันเข้ามาสักการะในอีสานจำนวนมาก ไฮไลต์จะโปรโมต อุดรธานี มุกดาหาร บึงกาฬ ในปี 2566 จ.อุดรธานี ทาง “วัดป่าบ้านตาด” ของหลวงตามหาบัว ได้พัฒนาเพิ่มขึ้นใหม่ในพื้นที่ใกล้เคียงเปิด “พิพิธภัณฑ์กับมหาเจดีย์” งดงามมาก พร้อมทั้งมีเจ้าหน้าที่นำชมเรื่องราวความซาบซึ้งปิติในจิตใจมาก ขณะนี้ ททท.อุดรธานี เดินหน้าโปรโมตแหล่งท่องเที่ยว “มูกลางคืนก็ปัง มูกลางวันก็เฮง” ควบคู่กันไปด้วย ส่วน จ.มุกดาหาร กับ จ.บึงกาฬ จะมีเส้นทางพญานาค 3 พิภพ
โครงการที่ 2 ขาย “เมืองรอง ต้องลอง” กับ “เมืองรอง มิรู้ลืม” จะชูจุดขาย 3 ธรรม “ธรรมชาติ-ธรรมะ-วัฒนธรรม” ได้แก่ “สายธรรมะ” ในอีสานจะมีจุดเด่นสถานที่บวงสรวงพญานาค ถ้ำนาคา ถ้ำนาคี และวัดป่าขึ้นชื่อหลายแห่งด้วยกัน “สายธรรมชาติ” ต้องยกให้ เลยเป็นจังหวัดหลักกับโปรแกรมท่องเที่ยว 20 ภูดูทะเลหมอก ซึ่งมีอากาศเย็นสบายทั้งปี โดยเฉพาะช่วงฤดูฝนจะชมทะเลหมอกสวยงามมากที่สุด เสริมด้วยสุรินทร์กับบุรีรัมย์ที่จะผนวก 2 จังหวัดเข้าด้วยกันเพื่อชวนไปท่องเที่ยว “พระอาทิตย์ขึ้นดูนกกะเรียนบุรีรัมย์” ซึ่งมีเที่ยวบินเช้าลงสนามบุรีรัมย์ “พระอาทิตย์ตกดูช้างสุรินทร์” หมู่บ้านช้าง และสามพันโบก
“สายวัฒนธรรม”
ต้องห้ามพลาด ฮีต 12 (งานประเพณีอีสาน)
คลอง14 (แนววิถีปฏิบัติอย่างเคร่งครัด) เรื่อยไปจนถึงเส้นทางการแต่งกายแหล่งผ้าไหม
การกินอาหารถิ่น ร้อยเรียงเข้าด้วยกัน
โครงการที่ 3 การปลุกเทรนด์ “ท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน/Sustainable Tourism” แต่ละสำนักงานททท.ในอีสาน จะเน้นเกี่ยวกับ การมีส่วนร่วมลดสร้างขยะจากอาหารหรือ Food Waste ตัวอย่าง ททท.ขอนแก่น รณรงค์ร้านอาหารในโครงการเมนูพระรองเข้าร่วมนำร่องทำให้เหลือของเสียน้อยที่สุด ททท.เลย ปลุกกระแสนักท่องเที่ยวหันมาเดินหรือปั่นจักรยานท่องเที่ยวตามเส้นทางที่เหมาะสมอย่าง อำเภอเชียงคาน
ผอ.สรัสวดี กล่าวว่า ปี 2566 อีสานเป็นพื้นที่ซึ่งมีกับ ด้วยค่าครองชีพสมเหตุผล เตรียมสร้างสรรค์ตลาดใหม่เพิ่มขึ้น 3 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มที่ 1 มัลติเจน ครอบครัวที่มีพ่อแม่ลูกปู่ย่าตายายขับรถท่องเที่ยวกันเอง กลุ่มที่ 2 กลุ่มคนทำงาน กลุ่มที่ 3 กลุ่ม Workation ทำงานที่ไหนก็ได้จะเน้นจังหวัดที่มีโครงสร้างพื้นฐานอินเตอร์เน็ตประสิทธิภาพสูง ในเมืองใหญ่อย่าง ขอนแก่น มีทั้งมหาวิทยาลัย คาเฟ่เก๋ ๆ และ Co-Working Space อุดรธานี นครราชสีมา เน้นบริเวณเขาใหญ่ ปากช่อง ซึ่งมีต่างชาติพำนักในไทย (expat) อาศัยอยู่จำนวนมากซึ่งมีคาเฟ่และ Co-Working Space ค่อนข้างมาก
สรุปแล้วจะมี 3 ตลาดใหม่เพิ่มขึ้นจากเดิมมีตลาดหลักอยู่แล้ว
2 กลุ่ม คือ
ผู้สูงวัยใจเกินร้อย/Senior
Active กับกลุ่มบริษัทห้างร้านจัดประชุมสัมมนา (corporate)
ส่วน เป้าหมายปี 2566 ททท.ภูมิภาคภาคอีสาน 20 จังหวัด ได้รับโจทย์ใหม่ตามที่ ดร.ยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการ ททท. ให้ทั้ง 5 ภูมิภาค เพิ่มรายได้และจำนวนนักท่องเที่ยวขยับขึ้นอีก 10 % จากโจทย์เดิมตลาดในประเทศทำแผนร่วมกันไว้ภายใต้เป้าหมายใหญ่ไทยเที่ยวไทยปีนี้ 135 ล้านคน-ครั้ง “อีสาน” จะต้องทำให้ได้ 15 % คิดเป็นประมาณ 20 ล้านคน-ครั้ง เมื่อโจทย์เปลี่ยนใหม่ต้องเพิ่มอีก 10 % ซึ่งเป็นประเด็นท้าทายที่ตลาดในประเทศประชุมกำหนดเป้าหมายใหม่ปลายเดือนมกราคมนี้
ฟังข่าวต้นชั่วโมง
ข่าวที่ 1 คิง เพาเวอร์แจกโชคอั่งเปาชุดใหญ่ตรุษจีน27-29ม.ค.66
กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ชวนทุกคนมาฉลองตรุษจีน “KING POWER CHINESS NEW YEAR : THE GREAT FOUTUNE DESTINATION” ที่ คิง เพาเวอร์ ทั้งออนกราวนด์ร้านสาขาต่าง ๆ และออนไลน์ เว็บไซต์ www.kingpower.com KingPower Application พิเศษ !! วันนี้ศุกร์ที่ 27 - วันอาทิตย์ที่ 29 มกราคม 2566
“คิง เพาเวอร์ รางน้ำ” เปิดประตูต้อนรับนักช้อป นักชิม นักเดินทาง เข้ามารับพลังความสุขส่งท้ายฉลองเทศกาลตรุษจีน ประเดิมด้วย กิจกรรมแรก “มอบโชคดี 5 เฮง” มาปุ๊บรับปั๊บ เฮงที่ 1-ปี่เซียะ เรียกทรัพย์ เฮงที่ 2 -เช็กดวง เพิ่มทรัพย์ เฮงที่ 3 -ปัดเป่าทุกข์ กับ สี่ราชาสวรรค์ จาตุมหาราชา เฮงที่ 4 -จุดไฟให้ชีวิตใหม่ ปี 66 กับกิจกรรมเพนต์โคมจีนโดยศิลปินดัง เฮงที่ 5 -กินแล้วโชคดี อิ่มแล้วเฮงเฮงรับตรุษจีน จากร้าน NO NAME NOODLE/ไร้ชื่อ
กิจกรรมที่
2 ช้อปมั่งมี
แจกฟรี! อั่งเปาส่วนลด พร้อมโชคถึง 3
ชั้น! โชคชั้นที่
1 รับอั่งเปาส่วนลด 2 ใบ
รวม 6,500 บาท รับเต็มคาราเบล “อั่งเปาใบที่
1”
ส่วนลด 2,000 บาท สำหรับช้อป 10,000
บาทขึ้นไป/ใบเสร็จ “อั่งเปาใบที่
2”
ส่วนลด 4,500 บาท สำหรับช้อป 20,000
บาทขึ้นไป/ใบเสร็จ
โชคชั้นที่ 2 รับฟรี Auspicious Scarf เมื่อช้อปครบ
5,000 บาทขึ้นไป (สุทธิ)
โชคชั้นที่ 3 ลุ้นทริป
เสริมความเฮง ทุกการช้อปให้ครบทุก 20,000 บาท (สุทธิ) จะรออะไร ลุ้นรับตั๋วเครื่องบินลัดฟ้าไปสัมผัสวิถีวัฒนธรรมสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ไกลถึง
“ไต้หวัน”
พิเศษ! เฉพาะวันที่ 28 – 29 มกราคม
2566 เฮงรับโชคที่ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ รับฟรี! “ปี่เซี้ยะ”
เสริมความมั่งคั่ง เมื่อซื้อสินค้าและแสดงใบเสร็จรับเงิน
ข่าวที่
2 ไทยเทสต์ฮับคิงเพาเวอร์รางน้ำเสิร์ฟเมนูมงคลเสริมงานเงิน
“ไทย เทสต์ ฮับ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ” บริเวณชั้น 3 คิง เพาเวอร์ รางน้ำ มีของดีมาบอกสัปดาห์ส่งท้ายเทศกาลตรุษจีน “เลือกรับประทานอาหารเสริมสิริมงคล” ตามประเพณี มีความเชื่อที่จะสร้างพลังบวกในการดำเนินชีวิตอย่างมีความสุข เมื่อได้ลิ้มลองอาหารจานอร่อยที่มีความหมายดี ๆ แตกต่างกันไป วันนี้ -29 มกราคม 2566 มีร้านเด่น ๆได้รังสรรค์เมนูอาหารมงคลรับตรุษจีนมาไว้ให้เลือก
พิกัดแรก “ภัตตาคารเชียงการีลา” เสิร์ฟเมนูอิ่มสุขเสริมมงคล จานแรก “เป็ดย่าง” รับประทานแล้วจะประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน จานที่ 2 “ขนมจีบ ฮะเก๋า ซาลาเปา” สัญลักษณ์ของความมั่งมีเงินทอง เงินไหลมาเทมา ตลอดปี หรือจะเป็น จานที่ 3 “ปลาผัดเปรี้ยวหวาน” ปลาเป็นตัวแทนของความเจริญรุ่งเรือง รับประทานแล้วชีวิตจะประสบแต่ความสำเร็จ เจริญรุ่งเรือง จานที่ 4 “บะหมี่ผัดสไตล์ฮ่องกง” ด้วยคุณภาพของเส้นเหนียวนุ่มผัดกับผักหลายชนิด รสชาติกลมกล่อม เส้นหมี่ของร้านที่เลือกนำมาผัดจะมีความยาวจึงเชื่อว่ารับประทานแล้วทำให้มีอายุยืนยาว
พิกัดที่สอง “ร้านข้าวมันไก่สองสีเจ็กเม้ง” ลิ้มลองเมนู “ไก่ต้ม” เมนูคลาสสิกคู่โต๊ะอาหารวันตรุษจีน เชื่อกันว่าเป็นตัวแทนของครอบครัวพร้อมหน้าและชีวิตคู่ที่สมบูรณ์
พิกัดที่สาม “ร้านเอี๊ยงออเฮ่าชือ” นำเสนอของหวาน 2 เมนู ได้แก่ “บัวลอย” ด้วยลักษณะของลูกกลม ๆ เชื่อกันว่ารับประทานแล้ว ครอบครัวจะกลมเกลียว รักใคร่สามัคคีกันมากขึ้น กับ “รังนก” สีขาวนวลเป็นเนื้อเดียวกัน สื่อความหมายถึง ความราบรื่น ส่วนความยาวของเส้นรังนกต่อกันแบบไม่ขาด ก็หมายถึง สุขภาพแข็งแรง ชีวิตยืนยาวด้วย
พิกัดที่สี่ “ร้านทิพย์สมัย ผัดไทยประตูผี” นำเสนอเครื่องดื่มน้ำผลไม้ “น้ำส้ม” ตอกย้ำถึงความอุดมสมบูรณ์ โชคดี ดื่มช่วงตรุษจีนยิ่งโชคดี
ข่าวที่ 3 สมัครสมาชิกคิงเพาเวอร์SCARLET-NAVYรับโชค2กอง5ชั้น
คิง เพาเวอร์ แจกเต็มคาราเบล สมาชิกรับโชคดี เมื่อ “สมัครสมาชิก คิง เพาเวอร์” วันนี้ -29 มกราคม 2566 แจกสนุกจุใจให้ได้ลุ้นจาก 2 กอง โชคดี 2 และ 3 ชั้นด้วยกัน คือ
กองที่ 1 “SCARLET โชคดี” เมื่อสมัครสมาชิก คิง เพาเวอร์ SCARLET แล้วเติมเงิน 20,000 บาท เตรียมตัวให้พร้อมเพื่อรับโชค 3 ชั้น โชคชั้นที่ 1 รับอั่งเปา E-Gift Card มูลค่า 2,000 บาท โชคชั้นที่ 2 รับทันที ทองคำ 1 สลึง เมื่อช้อปครบ 60,000 บาท (สุทธิ) ภายในวันที่สมัคร โชคชั้นที่ 3 สมาชิกรับส่วนลดทุกการช้อป 10 %
กองที่ 2 “NAVY โชคดี” เมื่อสมัครสมาชิก คิง เพาเวอร์ NAVY แล้วเติมเงิน 1,000 บาท รับโชค 2 ชั้น โชคชั้นที่ 1 คูปองส่วนลด 1,000 บาท โชคชั้นที่ 2 สมาชิกรับส่วนลดทุกการช้อป 5%
สมัครง่ายได้ ผ่าน 2 ช่องทาง ที่ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ ศรีวารี พัทยา และภูเก็ต และ Line Official Account @KINGPOWER
เมื่อสมัครสมาชิก คิง เพาเวอร์ NAVY หรือ
SCARLET ในงาน
The Great Fortune
Destination ที่ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ เรียบร้อยแล้ว
ก็ร่วมฉลองเทศกาลตรุษจีนรับความเฮงต่อกับกิจกรรมพิเศษแบบปัง ๆ
มากมายได้ตลอดสุดสัปดาห์นี้
ข่าวที่ 4 ครม.อนุมัติททท.3,946ล้านเที่ยวด้วยกันเฟส5+BoosterShot
นายอนุชา บูรพชัยศรี
รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลประชุมคณะรัฐมนตรี
(ครม.) วันที่ 24 มกราคม 2566
ว่า ครม. มีมติอนุมัติเงินตามที่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
(ททท.) และกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เสนอรวมทั้งสิ้น 3,946,434,800 บาท เพื่อเดินหน้ากระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศไทยด้านการท่องเที่ยว
2 โครงการ ประกอบด้วย โครงการที่ 1 เราเที่ยวด้วยกัน
เฟส 5 วงเงินรวม 2,016 ล้านบาท คาดจะสร้างรายได้หมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจได้ถึง 12,539 ล้านบาท
โครงการที่ 2 กระตุ้นการท่องเที่ยวเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศไทย
(booster shot) วงเงิน
1,930,434,800 บาท ช่วยภาคธุรกิจทั้งในและนอกอุตสาหกรรมท่องเที่ยวรวม
และภาคแรงงานท่องเที่ยวและอุตสาหกรรมเกี่ยวเนื่องรวมกว่า 11 ล้านคน
โดยกำหนดกรอบระยะเวลา
กุมภาพันธ์-กันยายน 2566 ให้อยู่ในช่วงฤดูท่องเที่ยว
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง “เทศกาลสงกรานต์
และวันหยุดต่อเนื่องจากนักขัตฤกษ์” ช่วง 3 เดือนหลัก คือ พฤษภาคม มิถุนายน สิงหาคม นี้ จะช่วยกระตุ้นรายได้ให้อยู่ภายในประเทศ
ทำให้ระบบเศรษฐกิจขับเคลื่อนต่อเนื่อง รวมทั้งการช่วงชิงโอกาสทางแข่งขันกับประเทศต่างๆ
ภายใต้สถานการณ์โควิด-19
ที่ไม่รุนแรงและมาตรการเดินทางระหว่างประเทศไม่มีข้อจำกัดด้วย จึงต้องการให้คนเที่ยวในประเทศแทนการเลือกเดินทางไปใช้จ่ายเงินในต่างประเทศด้วย
โดยมีรายละเอียดทั้ง 2 โครงการดังนี้
โครงการที่
1 “เราเที่ยวด้วยกัน
เฟส 5” จัดเตรียม
“สิทธิประโยชน์” ไว้ดังนี้คือ เปิดให้ประชาชนไทยกับผู้ประกอบการในภาคการท่องเที่ยวที่เข้าร่วมโครงการ ทุกจังหวัดทั่วประเทศ ระยะเวลารวม 8 เดือน ระหว่างเดือนกุมภาพันธ์- กันยายน
2566 วงเงินรวม 2,016 ล้านบาท ประกอบด้วย
1..ให้ใช้สิทธิลงทะเบียนโรงแรมจำนวนห้องพัก
560,000 สิทธิ์ รัฐสนับสนุน40 %
แต่ไม่เกิน 3,000 บาท/ห้อง/คืน สูงสุด 5 ห้อง
2.แจกค่าคูปองอาหาร/ท่องเที่ยว (e-voucher) 600
บาท/วัน
3.คนไทยอายุ
18 ปี ขึ้นไป ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการผ่านเว็บไซต์ www.เราเที่ยวด้วยกัน.com พร้อมติดตั้งเป๋าตัง
โดยต้องจองห้องพักล่วงหน้าก่อนเดินทาง 7 วัน
4.ผู้ที่ไม่เคยเข้าร่วมมาตรการลงทะเบียนและยืนยันตัวตนเพื่อรับสิทธิจำนวน 5 สิทธิ ส่วนประชาชนที่เคยใช้สิทธิแล้ว
สามารถกดให้ความยินยอม consent ในระบบได้ เลย โดย 5 สิทธิดังกล่าว
ไม่นับรวมสิทธิที่ใช้แล้วในโครงการเราเที่ยวด้วยกันเฟส 4
5.ผู้เข้าร่วมโครงการจะได้ยกเว้นภาษีเงินได้บุคคล
เช่นเดียวกับโครงการเราเที่ยวด้วยกันเฟส 4
เพื่อให้สอดคล้องกับวัตถุประสงค์โครงการที่มุ่งให้เกิดการใช้จ่ายและการหมุนเวียนทางเศรษฐกิจในภาคการท่องเที่ยว
รวมทั้งเป็นการบรรเทาภาระของประชาชน
ทางภาครัฐได้เพิ่มความรัดกุมเพิ่มมาตรการป้องกันการทุจริต
โดยทาง “ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน)” จะจัดให้มีระบบแสดงจำนวนห้องพักของแต่ละโรงแรม/ที่พัก
หากทำการจอง “จำนวนห้องเกินที่แจ้งไว้”
ระบบจะสามารถจำกัดการจองได้ ภารกิจนี้มอบให้ ททท. สำนักงานสาขาในประเทศ รับผิดชอบ
เพื่อป้องกัน “การขึ้นราคาห้องพักเกินจริง”
จึงต้องให้ระบุในแบบฟอร์มยินยอม (consent)
อย่างชัดเจน
หากโรงแรมที่พักเจตนาขึ้นราคาห้องพักเกินจริง ผู้บริโภคสามารถเอาผิดเรียกเงินคืนและระงับการจ่ายได้
รวมทั้งต้องได้รับโทษถึงการตัดสิทธิในการเข้าร่วมทุกโครงการของรัฐบาล
ส่วนขั้นตอนสำคัญ ได้กำหนดให้ “มีระบบสแกนใบหน้าของผู้ใช้สิทธิเข้าเช็คอินเข้าพัก”
และการใช้ e-voucher เพื่อป้องกันการใช้บัตรประชาชนผู้อื่นสวมสิทธิใช้แทนกัน
โครงการที่
2 กระตุ้นการท่องเที่ยวเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศไทย
(Booster Shot) เพื่อเป็นการกระตุ้นคนไทยท่องเที่ยวในประเทศและต่างประเทศเที่ยวเมืองไทยเพิ่มขึ้น
จึงให้วงเงินรวม1,930.4348 ล้านบาท เดินหน้าทำ 4 เรื่องหลัก
เรื่องที่ 1 กระตุ้นให้นักท่องเที่ยวทั่วโลกเดินทางมาไทย
นำเสนอการขายซอฟท์ เพาเวอร์ผ่านการตลาดดิจิทัล
(Digital Market) และกิจกรรมทางการตลาด
เรื่องที่ 2 กระตุ้นการเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศ
ส่งเสริมไทยเที่ยวไทย เพื่อเพิ่มความถี่การเดินทางด้วยจำนวนครั้งมากขึ้น
เรื่องที่
3 การสื่อสารและประชาสัมพันธ์
เผยแพร่และสร้างกระแสการเดินทางภายในประเทศ ภายใต้แคมเปญ Amazing Thailand,
Amazing New Chapters
เรื่องที่
4 ยกระดับคุณภาพสินค้าเพื่อกระตุ้นการเดินทางท่องเที่ยว
ซึ่งการสนับสนุนงบประมาณกระตุ้นการท่องเที่ยวทั้ง
2 โครงการ
ภายใต้วงเงินรวม 3,946,434,800 บาท ต่อเนื่องตลอด
8 เดือน
ระหว่างกุมภาพันธ์- กันยายน 2566 รัฐบาลตั้งเป้าหมายช่วยผลักดันและสนับสนุนการสร้างรายได้ทางการท่องเที่ยวให้เป็นไปตามเป้าหมาย
2.38 ล้านล้านบาท
ข่าวที่ 5 บางจากทำดีคว้ารางวัลThailand HR Innovation
Award2022
บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) รายงานว่า เปิดศักราชปี 2566 ก็ได้รับรางวัลนวัตกรรมการบริหารและพัฒนาทรัพยากรมนุษย์
(Thailand HR Innovation Award 2022) ระดับ Silver Award จากโครงการ
“BCP Digital Driven for 100X Citizen Developer” จัดโดยสถาบันเพิ่มผลผลิตแห่งชาติ
(FTPI) คณะพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (NIDA) และ สถาบันพัฒนาวิชาชีพทรัพยากรบุคคลสมาคมการจัดการงานบุคคลแห่งประเทศไทย
(PMAT) โดยมี ดร.สุเมธ
ตันติเวชกุล เลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนา ประธานและผู้มอบรางวัล นายนพชัย นุตสติ
ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารทรัพยากรบุคคล เป็นผู้แทนรับรางวัลในงาน Thailand HR Day 2022
สำหรับ “BCP Digital Driven for
100X Citizen Developer” เป็น 1 ใน 13 โครงการที่ได้รับรางวัล
จากทั้งหมด 41 โครงการ ซึ่งสามารถพัฒนาทักษะดิจิทัลสร้างบุคลากรให้เกิดเป็น
Citizen Developer หรือ
กลุ่มพนักงานที่ไม่มีความรู้พื้นฐานทางด้าน IT (Non-IT Background) ให้มีความรู้ ความสามารถสร้างและพัฒนา Application ที่เป็น
Low Code Platform เช่น PowerApps, Power BI และ RPA เกิดเป็นนวัตกรรมเพื่อนำมาปรับปรุงกระบวนการทำงาน
ปี 2566 มีผู้เข้าร่วมประกวดทั้งหมด
33 องค์กร มีบริษัทที่ได้รับรางวัล HR Innovation Award รวม 12 บริษัท ได้แก่
บางจากฯ (Bangchak), CPPC, SCG, Gosoft, CPF, CPN, CRC, ThaiBev, GSB, Food
Passion, คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล และ TSH
การมอบ“รางวัล” นี้เพื่อส่งเสริมและยกระดับการสร้างสรรค์นวัตกรรมด้านการบริหารและการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์
กระตุ้นให้หน่วยงานทั้งภาครัฐ
และภาคเอกชนตื่นตัวคิดค้นนวัตกรรมในการบริหารงานบุคคลอย่างต่อเนื่องรวมถึงเป็นแนวทางให้เกิดการสร้างวัฒนธรรมในองค์กรทุกขนาดและทุกประเภท
เมื่อปี 2565 บางจากฯ
มีโครงการเปิดให้พนักงานร่วมกันปรับปรุงกระบวนการทำงานด้วยการนำเครื่องมือทางดิจิทัลเข้ามาใช้มากกว่า
50 กระบวนการ ผนวกเข้ากับการพัฒนาพนักงาน IT ให้สามารถเป็น Internal Instructor และสร้าง Citizen
Developer เกิดขึ้น 14%
ของจำนวนพนักงานทั้งหมดได้ด้วย
ข่าวที่ 5 กกร.ผนึกทีเส็บชูเครือข่ายเอกชนหนุนไทยเจ้าภาพExpo 2028
นายสนั่น อังอุบลกุล
ประธานคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.)
และประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า “คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ประกอบด้วย
สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และสมาคมธนาคารไทย ลงนามกับสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ
(องค์การมหาชน) “TCEB”
และจังหวัดภูเก็ต เพื่อสนับสนุนไทยเสนอเป็นเจ้าภาพจัดงาน Expo 2028 Phuket Thailand
ยกเป็นวาระแห่งชาติ เพื่อรอรับฟังการประกาศผลเดือนมิถุนายน 2566 ระหว่างไทยกับคู่แข่งขันอีก
4 ประเทศ
กกร.พร้อมจะสนับสนุนด้วยกลยุทธ์สร้างการรับรู้และขอความร่วมมือไปยังเครือข่ายทั้งในประเทศและต่างประเทศ
ภายใต้แนวคิด Connect the Dots รวมพลังเชื่อมต่อเพื่อสร้างการรับรู้ให้บรรลุผลได้อย่างมีประสิทธิภาพและเป็นรูปธรรม
โดยจะประสานการทำงานอย่างใกล้ชิดกับ กกร.จังหวัดภูเก็ต และ
กกร.กลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามัน ได้แก่ ภูเก็ต ระนอง พังงา กระบี่ ตรัง และ
สตูล เตรียมความพร้อมสร้างการมีส่วนร่วมและการรับรู้ในการดำเนินกิจกรรม
เพื่อสร้างโอกาสให้ไทยได้รับเลือกเป็นเจ้าภาพจัด Expo 2028 Phuket Thailand
รวมทั้งจะขอความร่วมมือจาก กกร.ทุกจังหวัดทั่วไทย
รวมทั้งกลุ่มผู้ประกอบการรุ่นใหม่ (YEC) ของหอการค้าไทย
ร่วมสนับสนุนอย่างเต็มที่ในทุกมิติ ซึ่งความร่วมมือของภาคเอกชนไทยจะเป็นพลังสำคัญทำให้ไทยซึ่งเสนอเป็นเจ้าภาพนำงานดังกล่าวมาจัดในจังหวัดภูเก็ตได้
ภายใต้แนวคิด “Future of Life: Living in Harmony, Sharing Prosperity”
นายจิรุตถ์
อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ
(องค์การมหาชน) “TCEB” กล่าวว่า ขณะนี้ทีเส็บร่วมกับพันธมิตรเสนอไทยเป็นเจ้าภาพจัดงาน
Expo 2028 Phuket Thailand ซึ่งการลงนามความร่วมมือครั้งสำคัญกับ
กกร. จะยิ่งเพิ่มพลังด้านการสื่อสารประชาสัมพันธ์การเสนอตัวเป็นเจ้าภาพงานดังกล่าวเข้าถึงทุกกลุ่มเป้าหมาย
ทั้งร่วมจัดเวทีหารือความร่วมมือ การพัฒนาสื่อสนับสนุนฯ การพัฒนา Supporting Feature บนเว็บไซต์
เพื่อเป็นช่องทางให้ประชาชนไทยได้แสดงพลังร่วมสนับสนุนโครงการด้วย เรื่อยไปจนถึงการเผยแพร่ตราสัญลักษณ์
แบนเนอร์ วีดิทัศน์ สร้างการรับรู้และประชาสัมพันธ์อย่างกว้างขวางทั่วประเทศด้วย
ปัจจุบันประเทศไทยผ่านเข้ารอบสุดท้ายร่วมกับอีก
4 ประเทศ คือ
สหรัฐอเมริกา เซอร์เบีย สเปน และอาร์เจนติน่า โดยมีผู้แทนสมาชิกของคณะกรรมการจากองค์การนิทรรศการนานาชาติ
(Bureau International des Expositions หรือ BIE) รวมกว่า 171 ประเทศ ทำหน้าที่ลงคะแนนเสียงเลือกประเทศเจ้าภาพการจัดงานและจะประกาศผลประเทศที่ได้รับเลือกเป็นเจ้าภาพเดือนมิถุนายน
2566
โดยไทยได้เสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดงานเอ็กซ์โปวาระพิเศษ
(Specialised Expo) ภายใต้ชื่อ
Expo 2028 Phuket Thailand เมื่อได้รับเลือกก็จะนำเข้ามาจัดระหว่างวันที่ 20 มีนาคม – 17 มิถุนายน 2571 ในพื้นที่ 141 ไร่ ที่ตำบลไม้ขาว
อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต ภายใต้แนวคิด Future of Life:
Living in Harmony, Sharing Prosperity หรือ ชีวิตแห่งอนาคต แบ่งปันความรุ่งเรือง อยู่ร่วมกันเป็นหนึ่งเดียว
สำหรับการได้รับสิทธิเป็นเจ้าภาพจัดงาน
จะทำให้ไทยได้รับประโยชน์ทั้งทางตรงและทางอ้อมหลายมิติเช่น
การสร้างความร่วมมือระหว่างประเทศ การแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ นวัตกรรมด้านต่าง ๆ
ที่เกี่ยวข้องกับความเป็นอยู่ของมนุษย์
การรักษาและใช้ทรัพยากรอย่างมีความรับผิดชอบ และการแบ่งปันความมั่งคั่งร่วมกัน
ก่อให้เกิดการขยายตัวของกิจกรรมเศรษฐกิจที่เกี่ยวข้อง กระจายรายได้
เพิ่มอัตราการจ้างงาน ด้านท่องเที่ยวและไมซ์
ตลอดจนเพิ่มศักยภาพและยกระดับการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ ด้านสังคม
เกิดการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ระบบสาธารณูปโภค การพัฒนาคุณภาพชีวิต
และการพัฒนาบุคลากรที่ยั่งยืนของคนในพื้นที่
โดยนายกรัฐมนตรีได้มอบหมาย
นายอนุทิน ชาญวีรกุล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข
เป็นประธานคณะกรรมการขับเคลื่อนการเสนอตัวเป็นเจ้าภาพ (Thailand Candidature Committee) จัดงาน Expo 2028 Phuket Thailand ซึ่งมีหน่วยงานบูรณาการทำงานร่วมกัน คือ 1.กระทรวงสาธารณสุขในฐานะหน่วยงานเจ้าภาพจัดงาน
2.จังหวัดภูเก็ตในฐานะเมืองเจ้าภาพ
3.กระทรวงการต่างประเทศในฐานะหน่วยงานหลักในการรณรงค์หาเสียงกับประเทศต่าง
ๆ 4.กระทรวงพาณิชย์ในฐานะสมาชิกอย่างเป็นทางการของ
BIE 5.การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยในฐานะหน่วยงานหลักด้านการประชาสัมพันธ์ความพร้อมของประเทศ
6.ทีเส็บหน่วยงานหลักเสนอเป็นเจ้าภาพดำเนินกิจกรรมตามข้อกำหนดของ
BIE
สำหรับกิจกรรมช่วงโค้งสุดท้ายเดือนกุมภาพันธ์
2566 ไทยกำหนดจัดกิจกรรม
Expo 2028 Phuket Thailand Symposia ที่กรุงปารีส ฝรั่งเศส เชิญคณะผู้แทนถาวรของประเทศสมาชิก BIE ในกรุงปารีสเข้าร่วม
พร้อมผู้ทรงคุณวุฒิของไทยในสาขาที่เกี่ยวข้องกับแนวคิดการจัดงานมาแสดงทรรศนะและจุดยืนของไทย
(Vision Statement) ควบคู่การจัดกิจกรรมประชุม
สัมมนา กลุ่มย่อย ในแต่ละกลุ่มประเทศ
ไทยตั้งเป้าหมายการเป็นเจ้าภาพจัดงาน
Expo 2028 Phuket Thailand จะดึงผู้เข้าร่วมงานได้ถึง
4.92 ล้านคน
มีผู้เข้าชมหมุนเวียนประมาณ 7 ล้านคน จาก 106 ประเทศ ทำเงินสะพัดตลอดการจัดงาน 49,231 ล้านบาท สร้างผลดีกับประเทศกระจายตามส่วนต่าง ๆ ดังนี้
1.สร้างมูลค่าเพิ่มผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ หรือ GDP มากกว่า 39,357 ล้านบาท 2.เกิดรายได้จากการจัดเก็บภาษีกว่า 9,512 ล้านบาท 3.เกิดการจ้างงานมากกว่า
113,439 ตำแหน่ง
ช่วงที่ 2 เที่ยวอันซีน “หอมนสิการ แก่งคอย” สระบุรี
ตื่นตากับสวรรค์บนโลก จุดเช็คอินสายศรัทธาแห่งใหม่ใกล้กรุง แล้วดูแลสุขภาพกับ “5อาหารล้างพิษสารตกค้างในตับ” และข่าวท้ายชั่วโมง ข่าวแรก การบินไทยโชว์ปี66ใช้4แนวฟื้นรายได้ ข่าวที่สอง ไมเนอร์โฮเต็ลส์ลุยใช้
NH, NH Collection เปิด 10 โรงแรมใหม่
ท่องเที่ยว
-เช็คอินใหม่“หอมนสิการ”แก่งคอยสระบุรีสวรรค์โลกใกล้กรุง
ต้อนรับศักราชใหม่ปีเถาะ แนะนำแหล่งท่องเที่ยวอันซีน ไทยแลนด์
ใกล้กรุงเทพฯ พิกัดใหม่ "หอมนสิการ" ตั้งอยู่ที่ 86/3 หมู่ 10 ต.สอนคอน อ.แก่งคอย จ.สระบุรี 18110
ใช้เวลาขับรถจากกรุงเทพฯ ประมาณ 90 นาที เป็นสถานที่สักการะ
“พระบรมสารีริกธาตุ 18 พระองค์” เมื่อได้เข้ามาท่องเที่ยวจะสัมผัสถึงการอยู่ใกล้ชิดธรรมชาติสวยงามของภูเขาหินปูนดั่งสวรรค์
เปิดบริการวันอังคาร - วันศุกร์ : 10.00 - 17.00 น.
วันเสาร์ - วันอาทิตย์ : 09.30 - 18.00 น.หยุดทุกวันจันทร์
พร้อมทั้งเปิดให้เข้าชมกรุ๊ปสุดท้ายก่อนเวลาปิดทำการ 30 นาที
ตอนนี้กำลังรอนักท่องเที่ยวแวะมาเยือนสักครั้ง
แล้วจะได้พบกับความอันซีนอันน่าตื่นตาตื่นใจ โดยมี 4 ไฮไลต์ คือ
ไฮลต์ที่ 1
พระพุทธรูปพระบรมโลกนาถ” ปิดทองคำแท้เนื้อสัมฤทธิ์
ไฮไลต์ที่ 2
ภาพปักพระบรมโลกนาถหนึ่งเดียวแห่งงานศิลปะงานปักมือถึง 651,000
ฝีเข็ม
ไฮไลต์ที่ 3
ชมนิทรรศการ "เส้นทางเดินของพระพุทธเจ้า" ผ่านการจัดแสดงแบบ Interactive เป็นครั้งแรกในเมืองไทย
แนะนำเข้าไปชมโซน Spiritial Life ซึ่งให้ความรู้การกระทำอย่างถูกต้องต่อพระสัญลักษณ์ของพระพุทธเจ้า
ไฮไลต์ที่ 4
หอกราบอยู่บริเวณด้านในสุด ตกแต่งอย่างละเอียดปราณีต งดงาม
ดึงดูดผู้คนให้เข้าไปเคารพ กราบ นมัสการ มีจิตอ่อนโยนตามไปด้วย
พิเศษ !!
มีโซนจำหน่ายของที่ระลึก สินค้าพื้นบ้าน กับมุมถ่ายรูปสวยๆ รวมถึงมี
“ชุดไทยให้เช่าถ่ายรูป” กับมีมุมพักผ่อนตรงคาเฟ่เก๋ ๆ By the Hill Cafe
โดยภาพรวมของ “หอมนสิการแก่งคอย” มุ่งนำเสนองานศิลปะร่วมสมัยผ่านความยิ่งใหญ่ของ
ภาพ แสง สี เสียง บรรยายผ่านวิดีโอสื่อผสมเทียบชั้นระดับภาพยนตร์เลยทีเดียว เพื่อสร้างภาพจำเข้าถึงโสตสัมผัสทั้ง
5
เสมือนกับได้เข้าสู่ยุคพุทธกาล
ทาง “มูลนิธิ โนอิ้ง บุดด้า” ได้เลือกตำแหน่งการสร้าง “หอมนสิการ”
ให้ตั้งอยู่เบื้องหน้าเขาพระพุทธบาทน้อย ใช้เวลาสร้างราว 5 ปี
ขณะนี้เริ่มเปิดให้บริการแล้ว โดยหวังให้เป็นสถานที่ปกป้องพระพุทธศาสนา โดยมี “อาจารย์อัจฉราวดี
วงศ์สกล” เป็นผู้นำสืบสานพระพุทธศาสนา ปลุกจิตสำนึกดีงาม
สำหรับค่าเข้าชม คนไทย 30 บาท ต่างชาติ 100
บาท เด็ก นักเรียน นักศึกษา ผู้สูงอายุ ผู้พิการ นักบวช เข้าฟรี ค่าเข้าชมนี้เพื่อช่วยสนับสนุนค่าน้ำค่าไฟ
สอบถามได้ที่ โทร.095 760 0885แผนที่เดินทาง : https://goo.gl/maps/7D18tfqfttupP3Di8
email : info@manasikarn.com Website : https://manasikarn.com/th
สุขภาพ
-5อาหารล้างพิษตับกำจัดสารตกค้างในร่างกายได้ผลชะงัด
การใช้ชีวิตในสังคมสมัยใหม่ทำให้ตับในร่างกายของเราทำงานมากเกินไป
เมื่อเรากินมากเกินหรือทานอาหารแปรรูปมากเกิน กินแต่อาหารทอด
การเผชิญกับมลภาวะจากสิ่งแวดล้อม รวมไปถึงความเครียด ตับก็จะทำงานหนักจนเกินกำลัง
เมื่อถึงจุดหนึ่งตับก็จะหมดความสามารถในการกรองสารพิษและไขมันต่างๆ
แต่มีอาหารอยู่หลายชนิดที่ช่วยชำระล้างพิษในตับ
โดยกระตุ้นความสามารถตามธรรมชาติเพื่อขับไล่ของเสียที่เป็นพิษออกจากร่างกาย
จะเน้นเฉพาะอาหารที่สามารถล้างพิษตับได้
เพื่อบำรุงสุขภาพตับให้กลับมาเป็นปกติ
ลองหาอาหารตามรายการเหล่านี้มาทานจะช่วยให้ตับทำงานได้ดีขึ้น
และแนะนำว่าควรเพิ่มอาหารเหล่านี้เข้าไปในอาหารประจำวันด้วย เป็นการดูแลตับให้สุขภาพดีและทำงานได้อย่างไม่บกพร่องไปตลอดชีวิตได้
1. กระเทียม -แค่ทานพืชหัวสีขาวนี้วันละเล็กน้อยก็ช่วยกระตุ้นเอนไซม์ในตับซึ่งช่วยให้ร่างกายขับสารพิษออกมาได้แล้ว
ในกระเทียมยังมีสารอัลลิซินและซีลีเนียมอยู่
สารสองชนิดนี้มีส่วนประกอบในการช่วยล้างพิษตับได้
2. เกรปฟรุต (ผลไม้ตระกูลส้ม) -ในเกรปฟรุตอุดมไปด้วยวิตามินซีและสารต้านอนุมูลอิสระจำนวนมาก
ผลไม้ตระกูลซิตรัสนี้ นอกจากเกรปฟรุตแล้วก็ยังรวมไปถึง ส้ม มะนาว และเลม่อน
ต่างก็ช่วยสนับสนุนกระบวนการล้างพิษตามธรรมชาติของตับ แค่ดื่มน้ำเกรปฟรุตคั้นสดๆ
วันละแก้ว จะช่วยกระตุ้นการผลิตของเอนไซม์ล้างพิษในตับ และช่วยชะล้างสารก่อมะเร็งและสารพิษอื่นๆ
ได้
3. บีทรูทและแครอท -ผักทั้งสองชนิดนี้เต็มไปด้วยฟลาโวนอยด์และเบต้าแคโรทีนปริมาณสูงมาก
การทานหัวบีทรูทและแครอทช่วยกระตุ้นและส่งเสริมการทำงานโดยรวมของตับได้
4. ชาเขียว -ชาเขียวจัดเป็นเครื่องดื่มที่คู่ควรกับตับมากที่สุด
เพราะในชาเขียวอุดมไปด้วยคาเทชิน สารต้านอนุมูลอิสระ
สารประกอบนี้เป็นที่รู้กันดีกว่าช่วยกาทำงานของตับได้ ชาเขียวยังมีรสชาติอร่อย
นำมาปรุงอาหารหรือปรุงเป็นเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพได้
(ชาเขียวที่ชงจากใบชาจะดีกว่าแบบสกัด)
5. ผักใบเขียว -หนึ่งในอาหารที่เป็นมิตรมากในการล้างพิษตับ
ผักใบเขียวสามารถทานได้ทั้งแบบดิบ แบบสุก หรือแบบคั้นน้ำก็ยังได้
ให้สารคลอโรฟิลล์สูงมาก
ผักใบเขียวช่วยดูดซับสารพิษจากสภาพแวดล้อมที่อยู่ในกระแสเลือด
อีกทั้งยังมีประสิทธิภาพในการต้านทานโลหะหนักของสารเคมีและสารกำจัดศัตรูพืชผักใบเขียวจึงจัดได้ว่าเป็นเครื่องมือที่ทรงประสิทธิภาพในการปกป้องตับนั่นเอง
ในแต่ละมื้อควรเพิ่มผักใบเขียวเข้าไปในอาหารด้วย ยกตัวอย่างเช่น มะระขี้นก,
ผักร็อคเก็ต, ผักโขม, ผักกาดเขียวปลี
ฯลฯ จะช่วยเพิ่มการสร้างน้ำดีและช่วยให้น้ำดีไหลเวียนดีขึ้น
ซึ่งจะช่วยกำจัดสิ่งสกปรกจากอวัยวะต่างๆ รวมไปถึงเลือดได้
ฟังข่าวท้ายชั่วโมง
ข่าวแรก “บิ๊กบินไทย”โชว์ปี’66ฟื้นแกร่ง4แนวหวังเทรดในตลาดปลาย67
นายชาญศิลป์ ตรีนุชกร ผู้บริหารแผนฟื้นฟู บริษัท
การบินไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยระหว่างการขึ้นเวทีเสวนาของเครือมติชน
เมื่อวันที่ 25 มกราคม 2566 ในหัวข้อ “Speed up การบินไทย-ท่องเที่ยวไทย” โดยกล่าวถึงตนเข้ามาทำหน้าที่บริหารการบินไทยเมื่อปี
2563 ช่วงวิกฤตโควิดและวิกฤตการบินไทยต่อเนื่องกัน 3 ปี กระทั่งสถานการณ์ทั่วโลกเริ่มคลี่คลายรัฐบาลไทยประกาศเปิดประเทศเมื่อครึ่งปีหลัง
2565 จนถึงปัจจุบัน ส่งผลให้การบินไทยและสายการบินต่าง ๆ
ทยอยกลับมาเปิดบริการเที่ยวบินระหว่างประเทศ
ผนวกกับสมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ (IATA) ประมาณการณ์เดินทางของชาวยุโรป
อเมริกา จะฟื้นเป็นปกติได้ต้องรอปี 2567 ส่วนประเทศแถบ “เอเชีย-แปซิฟิก”จะเติบโตอย่างคึกคักปี
2568-2569
ส่วน
“การบินไทย”
ปี 2566
จะกลับมาแข็งแกร่งอีกครั้งเบื้องต้นจากแรงหนุน
2 ปัจจัย ได้แก่ ปัจจัยที่
1 เจรจาลดมูลหนี้ที่ติดค้างกันอยู่ระหว่างลูกหนี้กับเจ้าหนี้หรือ
Hair Cut ปัจจัยที่ 2 เดินหน้าแปลงหนี้เป็นทุน แบ่งเป็น
รัฐบาลจะแปลงหนี้เป็นทุน 100 % เอกชนจะแปลงหนี้เป็นทุน
20% ส่งผลดีกับการบินไทยปี 2566-2568 จะมีสัดส่วนทางการเงินดีขึ้นและมีทุนเป็นบวก จะสามารถนำหุ้นกลับมาขายในตลาดหลักทรัพย์ได้ตั้งแต่ปลายปี
2567 หรือต้นปี 2568 เป็นต้นไป
สาระสำคัญของแผนฟื้นฟูการบินไทยฉบับใหม่
คือ 1.กระทรวงการคลัง
ผู้ถือหุ้นใหญ่ 44.693 % แปลงหนี้เป็นทุน 5,040 ล้านหุ้น ที่ราคา 2.5452 บาท รวมเป็นวงเงิน 12,827
ล้านบาท 2.เจ้าหนี้และเจ้าหนี้ผู้ถือหุ้นกู้
แปลงหนี้เป็นทุน 9,822 ล้านหุ้น ที่ราคา 2.5452 บาท รวมเป็นเงิน 25,000 ล้านบาท 3.การใช้สิทธิ์ซื้อหุ้นเพิ่มทุนของผู้ให้สินเชื่อใหม่ จัดสรรหุ้น 4,911
ล้านหุ้น ที่ราคา 2.5452 บาท หรือวงเงิน 12,500
ล้านบาท
แนวทางของการบินไทยใน
“การขายหุ้น” ประกอบด้วย 1.ขายหุ้นเพิ่มทุนให้กับผู้ถือหุ้นเดิม
(PO) 9,822 ล้านหุ้น ที่ราคา 2.5452
บาท รวมเป็นเงิน 25,000 ล้านบาท 2.หากยังมีหุ้นเหลือจะเสนอขายให้กับกรรมการ พนักงานบริษัท (ESOP) ในราคาต่ำกว่า 2.5452 บาท 3.หากยังเหลือจากการเสนอขายให้กรรมการ
พนักงานบริษัท (ESOP) จะจัดสรรให้กับบุคคลในวงจำกัด (PP) ตามราคา PO และไม่ต่ำกว่า 2.5452 บาท
เพื่อรองรับ
“การใช้สิทธิแปลงหนี้ดอกเบี้ยใหม่ตั้งพัก ให้เป็นหุ้นสามัญเพิ่มทุนของเจ้าหนี้”
จำนวน 1,904 ล้านหุ้น
ราคาไม่ต่ำกว่า 2.5452 บาท วงเงิน 4,845 ล้านบาท
“ปรับลดเงินกู้ก้อนใหม่ลงเหลือเพียง
25,000 ล้านบาท”
จากแผนเดิมจะกู้รวม 50,000 ล้านบาท
เพื่อใช้เป็นเงินทุนการดำเนินงานของบริษัท
“ภาพรวมผลประกอบการตามแผนปี
2566”
จะต้องทำให้มีผู้โดยสารใช้บริการวันละ 30,000-35,000 คน เพิ่มอัตราการบรรทุกผู้โดยสารเฉลี่ย
(cabin factor) ให้ได้ 75-80 % และเตรียมจัดหาเพิ่มเครื่องบินใหม่เข้ามาเสริมทัพอีก
4 ลำ รวมแล้วจะมีทั้งหมด 68 ลำ
จากปัจจุบันมีอยู่แล้ว 64 ลำ
นายชาญศิลป์
ย้ำว่าปี 2566 การบินไทยจะสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจมีเงินสดอยู่ในมือได้ถึง
56,000 ล้านบาท มาจากสถานการณ์โควิดคลี่คลายมีรายได้จากผู้โดยสารเพิ่มขึ้นตั้งแต่เดือนธันวาคม
2565 เป็นต้นมาทำได้เดือนละ 13,000 ล้านบาท
เกินค่าเฉลี่ยที่ตั้งไว้เดือนละ 12,000 ล้านบาท ฟื้นตัวจากช่วงโควิดมีรายได้ต่ำสุดเดือนละ 283
ล้านบาท ผู้โดยสารเกือบเป็นศูนย์คน ส่วนคาร์โก้ก็ทำได้เดือนละกว่า 100
ล้านบาท (สถานการณ์ปกติมียอดขายเฉลี่ยเดือนละ 12,000-13,000 ล้านบาท) ช่วงโควิดคาร์โก้มีเงินไหลเข้าเพราะการขนส่งทางเรือหยุดชะงักทำรายได้อยู่ที่เดือนละ
2,000 ล้านบาท แต่ปัจจุบันเมือการขนส่งทางเรือปกติรายได้คาร์โก้จึงลดลง
ปัจจุบันการบินไทยมีผู้โดยสารใช้บริการเฉลี่ยวันละกว่า
100 เที่ยวบิน
ทั้งจากตลาดในและต่างประเทศวันละ 30,000 คน โดยจะต้องทำงาน 24
ชั่วโมง เพราะมีคู่แข่งระดับโลกหลายทวีป เมื่อการท่องเที่ยวกลับมาคึกคัก ก็จะมีผลดีต่อการจ้างงานทำให้จีดีพีประเทศมาจากรายได้การท่องเที่ยวตลาดต่างประเทศประมาณ
12%
ส่วนการบินไทยต้องทำตามแผนเรื่องการหาเงินใหม่เข้ามาค้ำจุนจ่ายเจ้าหนี้
13,000 ราย มูลค่ากว่า
1 แสนล้านบาท ด้วยวิธี 1. จดทะเบียนเพิ่มทุนให้แล้วเสร็จ
2. ไม่มีเหตุผิดนัดเจ้าหนี้ 3. ต้องมีกำไรก่อนหลังจากหักค่าเช่าอย่างน้อย
12 เดือน 20,000 ล้านบาท 4. ตั้งกรรมการใหม่
นายชาญศิลป์กล่าวว่า
ในระหว่างฟื้นฟูกิจการเมื่อไม่มีเงินสร้างความลำบากมากไม่มีผู้ให้กู้ จึงต้องใช้วิธีเก็บเงินไว้กระทั่งเหลือต่ำสุด
4,000-5,000 ล้านบาท
นำมาหมุนเวียนใช้จ่ายได้ไม่เกิน 2-3
เดือน ตอนนั้นใช้วิธีทุกฝ่ายร่วมมือกันทำทุกวิถีทาง ทั้งพนักงาน
ผู้บริหาร เน้นปรับโครงสร้างองค์กร เชิญที่ปรึกษาอินเตอร์มาทำข้อเปรียบเทียบความเป็นมืออาชีพกับโครงสร้างของสายการบินระดับโลกโดยการบินไทยเดินหน้าทำแล้วเบื้องต้น
4 ส่วน ประกอบด้วย
ส่วนที่ 1
เพิ่มหน่วยงานด้านดิจิทัลพร้อมกับลดขนาดองค์กรจาก 8 เหลือ 5 ระดับ
ส่วนที่ 2 วางแผนจัดซื้อฝูงบินจะต้องดูตลาดให้สอดคล้องกับเส้นทางบินต้องความคุ้มค่าการลงทุน
จึงเลือกเจรจาลดค่าเช่าเครื่องบินและขอจ่ายตามจริงเพื่อแก้ปัญหาฝูงบินล้นความต้องการทั่วโลกมีให้เลือก
500-600 ลำ ผู้ให้เช่ายอมลดค่าเช่าลง 30-50% รวมกว่า 50 สัญญา
ส่วนที่ 3 ขายสินทรัพย์ที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์ออกไป ตัวอย่างเครื่องบินเดิมจอดทิ้งไว้นับสิบปีหลายลำ
ส่วนที่ 4 ปรับปรุงระบบดิจิทัลต้องหาเงินมาลงทุนเรื่องการตลาดดิจิทัล เปิดระบบจองตั๋วผ่าน คอล เซ็นเตอร์ ทำให้สถานการณ์รายได้ดีขึ้นเรื่อย ๆ
รวมถึงการบินไทยเริ่มมี
“รายได้อื่น ๆ” เข้ามา 9,274 ล้านบาท ควบคู่กับการเร่งปรับโครงสร้างและขนาดองค์กรสร้างความคล่องตัวทางการแข่งขัน
โดยเฉพาะการลดบุคลากรจากเดิม 24,500
คน ปัจจุบันเหลือ 15,000 คน พลิกฟื้นการบินไทยที่เคยขาดทุนติดต่อกัน
9 ปี ทำกำไรสะสมและทุนติดลบ แถมยังเกิดวิกฤตโควิดจึงใช้จังหวะ
3 ปีที่ผ่านมาสร้างโอกาสพลิกโฉมหน่วยงานใหม่อีกครั้ง
ข่าวที่สอง “ไมเนอร์”นำNH+NHCollectionรุกเปิด10รร.ในไทย3แห่ง
มร.ดิลลิป ราชากาเรีย ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ไมเนอร์ โฮเทลส์ เปิดเผยว่า ปี 2566-2567 กลุ่มไมเนอร์ โฮเทลส์ เตรียมเปิดโรงแรมใหม่ทั่วเอเชียและตะวันออกกลาง
10 แห่ง ต้อนรับการท่องเที่ยวทั่วโลกและขยายพอร์ตโรงแรมเอ็นเอเช โฮเต็ล กรุ๊ป
ภายใต้แบรนด์ NH 3 แห่ง และ
NH Collection 7 แห่ง เพิ่มจำนวนห้องพักได้อีก 2,643
ห้อง
ประเดิมเปิดแบรนด์ NH ครั้งแรกใน
“ประเทศไทย” คือ 1.เอ็นเอช โบ๊ท ลากูน ภูเก็ต รีสอร์ท ตามมาด้วย 2.เอ็นเอช
คอลเลคชั่นระยอง รีสอร์ท แอนด์ เรสซิเดนเซส มีห้องพักและห้องสวีทรวม 117 ห้อง และเรสซิเดนซ์อีก 60 ห้อง พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกทั้งร้านอาหาร
คาเฟ่ และบาร์หลาย สระว่ายน้ำ ห้องออกกำลังกาย และสภาพแวดล้อมที่ดี
ส่วนที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง ได้แก่ 3.เอ็นเอช คอลเลคชั่น เชียงใหม่ ปิง ริเวอร์ กำหนดเปิดให้บริการเต็มรูปแบบไตรมาส
4 ปี 2566 ด้วยอาคารสูง
2 ชั้น มีห้องพักและห้องสวีท
78 ห้อง ผสานเข้ากับธรรมชาติและภูมิทัศน์โดยรอบริมแม่น้ำ
พร้อมสระว่ายน้ำ พื้นที่อเนกประสงค์รวมร้านอาหาร คาเฟ่
พื้นที่จัดแสดงผลงานศิลปะและบาร์ ห้องออกกำลังกาย รายล้อมด้วยแหล่งท่องเที่ยววัดวาอาราม
หอศิลป์อันทันสมัย ร้านขายงานฝีมือ ร้านอาหารมากมาย ห่างจากสนามบินนานาชาติเชียงใหม่แค่ 4 กิโลเมตร
มร. ดิลลิป กล่าวว่าปี 2566 ยังจะเปิดโรงแรมแบรนด์เอ็นเอช
และ เอ็นเอช คอลเลคชั่น (NH Collection)
ทั่วเอเชียและตะวันออกกลาง ในสาธารณรัฐประชาชนจีน มีแผนเปิดใหม่ในเมืองเสิ่นหยางซึ่งเป็นเมืองสำคัญในจีน
2 โรงแรม ได้แก่ เอ็นเอช คอลเลคชั่น มี 375 ห้อง และ เอ็นเอช
เสิ่นหยาง ยูฮอง มี 275 ห้อง
(NH Collection และ NH Shenyang Yuhong) ทั้ง
2 โรงแมนี้จะมีทางเชื่อมเข้าถึงที่ตั้งสำนักงานของบริษัทชั้นนำติดอันดับ
Fortune 500 หลายแห่ง อยู่ใกล้เดินทางง่ายไปยังสถานที่ท่องเที่ยว สนามบิน
สถานีรถไฟความเร็วสูง
ส่วนโรงแรมแบรนด์เอ็นเอช
คอลเลคชั่น แห่งแรกในจีน ได้แก่ “เอ็นเอช คอลเลคชั่น จางเจียเจีย
รีสอร์ท” จะเปิดต้นเดือนมีนาคม 2566 มี358 ห้อง
ภายในมีห้องประชุม สโมสรเด็ก ห้องอ่านหนังสือ สระว่ายน้ำ สนามปิงปอง และ 3 ห้องอาหาร
ตั้งอยู่ใจกลางสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงระดับโลกในมณฑลหูหนาน
ถัดจากอุทยานแห่งชาติจางเจียเจี้ย ล้อมรอบด้วยทัศนียภาพงดงาม ท่ามกลางสถานที่ท่องเที่ยวระดับชาติ
12 แห่ง
และมรดกทางวัฒนธรรมของชนกลุ่มน้อยด้วย
พร้อมกับเตรียมเปิดเพิ่มโรงแรม 2 แห่ง โดยแบรนด์เอ็นเอช
โฮเทลส์ ได้แก่ โรงแรมเอ็นเอช
เจิ้งโจว จินชุ่ย/NH
Zhengzhou Jinshui ช่วงต้นปี
2566 มี 136 ห้อง
ร้านอาหาร ห้องออกกำลังกาย ห้องประชุม ปี 2567 จะเปิด เอ็นเอช
กุ้ยหยาง ฮัวซี/NH
Guiyang Huaxi มี165 ห้อง
ล็อบบี้เลานจ์ ร้านอาหาร ห้องประชุม และห้องจัดเลี้ยงแบบบอลรูม
ขณะที่ “ตะวันออกกลาง” ไมเนอร์ โฮเต็ล
จะเปิดในดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ได้แก่ โรงแรม เอ็นเอช คอลเลคชั่น ดูไบ เดอะ ปาล์ม เดือนกุมภาพันธ์
2566
เป็นโรงแรมสูง 14 ชั้น มีห้องพักมาตรฐาน
227 ห้องและห้องสวีท
306 ห้อง ห้องอาหาร
5 ห้อง ดาดฟ้าพื้นที่ผ่อนคลายและสระว่ายน้ำ
สปอร์ตบาร์ สปา
ห้องประชุม 5 ห้อง
สโมสรเด็ก ห้องออกกำลังกาย และบีชคลับส่วนตัว
โรงแรมนี้ตั้งอยู่ในทำเลยอดเยี่ยมบนถนนปาล์ม
จูไมราห์ ถัดจาก Nakheel Mall และสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญหลายจุด
อาทิ ตึกเบิร์จคาลิฟาตึกระฟ้าที่มีชื่อเสียงของนครดูไบ Ain Dubai (ชิงช้าสวรรค์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก), ดูไบ มารีน่า ดูไบ มอลล์ และพิพิธภัณฑ์แห่งอนาคต/Museum of the Future เพิ่งเปิดเมื่อเร็ว
ๆ นี้
และโรงแรม เอ็นเอช คอลเลคชั่น ลา สวีท โฮเทล ดูไบ ที่ไมเนอร์ฯ เข้าไปบริหารเริ่มไตรมาส 1 ปี 2566 แล้วจะปรับปรุงโรงแรมครั้งใหญ่ก่อนที่จะเปิดตัวภายใต้แบรนด์ เอ็นเอช คอลเลคชั่นเต็มรูปแบบช่วงหลังของปีเดียวกัน เป็นโรงแรมตั้งอยู่ใจกลางเมืองบนถนน Sheikh Zayed เลือกพักได้หลากหลาย 265 ห้อง ทั้งห้องพักแบบปกติ ห้องสวีท และอพาร์ตเมนต์แบบหนึ่ง สอง และสามห้องนอน ห้องอาหาร ล็อบบี้เลานจ์ สโมสรเด็ก พื้นที่จัดประชุม ห้องออกกำลังกาย และพื้นที่นันทนาการ
ปี 2566 มีเปิดอีก 1 แห่ง คือ โรงแรมเอ็นเอช คอลเลคชั่น
โอเอซิส โดฮา ประเทศการ์ตาร์ ขณะนี้อยู่ระหว่างก่อสร้างจะแล้วเสร็จพร้อมเปิดบริการต้นปี
2566 นี้
โดยมีห้องพักและห้องสวีท 299 ห้อง มีทิวทัศน์ของทะเลอาหรับอันงดงาม พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวก สระว่ายน้ำขนาดใหญ่ที่มีน้ำตกและบาร์ในตัว
ห้องออกกำลังกาย สโมสรเด็ก สปา สนามเทนนิสแบบพาเดล
(ส่วนผสมระหว่างเทนนิสและสควอช) 4 สนาม เลานจ์บนชั้นดาดฟ้า จุดชมวิวเมือง
ติดตามฟังรายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” ทุกวันเสาร์และวันอาทิตย์
เวลา 11.00-12.00 น.ทาง สวท.FM97.0MHz.
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น