ททท.จัดทัพใหญ่บุกจีนชิงตลาดกรุ๊ปทัวร์ตั้งเป้าปี66โกย2.9แสนล้าน
นำเอกชนไทยลุยขาย3มณฑล “เซี่ยงไฮ้-กวางโจว-เฉินตู”19-24ก.พ.66
ATF2023อาเซียนแข่งเดือดปีท่องเที่ยว3ชาติไทย-เวียดนาม-กัมพูชา
คิงเพาเวอร์แจกช้อปCLICK&COLLECT EXCLUSIVELYลด12%+5%
รับฟรี!!กดติดตามโซเชียลคิงเพาเวอร์ลุ้นบัตรกินไทยเทสต์ฮับรางน้ำ
ททท.พัทยาบูมWorkationวันธรรมดาร่วมแชร์เทรนด์เที่ยว12แห่ง
บางจากชูเดินวิ่งโอลิมปิกเดย์ปี’66หนุนกีฬาลดคาร์บอน4จังหวัด
TCEB ดึงธุรกิจไมซ์รับเทรนด์ผู้จัดงานยุคใหม่ต้องรู้ใจผู้เข้าร่วมงาน
5 ข้อต้องทำด่วนตัวช่วยเรื่องการเผาผลาญพลังงานสร้างสุขภาพดี
TTAAใส่เกียร์แรงจัดเที่ยวทั่วไทยไปทั่วโลกหวัง200ล้าน16-19ก.พ.
เคปแอนด์แคนทารีโฮเทลส์เจาะวาเลนไทน์7โรงแรมราคาหลักพัน
กลุ่มดุสิต”ชู2แบรนด์ปี’66เปิดใหม่14รร.ครั้งแรกในญี่ปุ่น/ยุโรป
วันอาทิตย์ที่
12 กุมภาพันธ์ 2566
ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง
ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz.
ฟังทางfacebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen
บล็อกเกอร์ #gurutourza #รวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97 #เพ็ญรุ่งใยสามเสน
#เที่ยวกับกู๋ #KingPower
#TAT #TCEB #บางจาก #เกาะกุลาชุมพร #เที่ยวทั่วไทยไปทั่วโลก2566
ฟัง Live สดจากลิงค์นี้... ..https://fb.watch/iEbuwWS4_S/
ช่วงที่ 1 ถอดรหัสทัวร์จีนกับ “ธเนศวร์ เพชรสุวรรณ รองผู้ว่าการด้านตลาดเอเชีย
และแปซิฟิกใต้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ยุคทองท่องเที่ยวปีเถาะ
ฟื้นรายได้ตลาดจีนเข้าเป้า 3 แสนล้าน
ขานรับกรุ๊ปทัวร์เซกเมนท์ตลาดใหญ่ 4 กลุ่ม
“มิลเลนเนียล-ครอบครัวพ่อแม่ลูก-ผู้หญิง-อินเซ็นทีฟ” 19-24 ก.พ.นี้
นำเอกชนท่องเที่ยวเทรนด์ใหม่ 60 ราย บุกโร้ดโชว์ 3 เมือง เซี่ยงไฮ้ กวางโจว เฉินตู ส่วนควันหลง ATF2023 เห็นสัญญาณการแข่งขันดุ 3 ประเทศ
“ไทย-เวียดนาม-กัมพูชา” ประกาศใช้ปีท่องเที่ยวดึงรายได้ และ
ททท.เล็งปรับกลยุทธ์ด่วนตลาดญี่ปุ่นแก้เกมญี่ปุ่นปลุกเที่ยวในประเทศแทนต่างประเทศ
นายธเนศวร์
เพชรสุวรรณ รองผู้ว่าการด้านตลาดเอเชีย และแปซิฟิกใต้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
(ททท.) เปิดเผยว่า ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2566 นักท่องเที่ยวตลาดสาธารณรัฐประชาชนจีนมาครบแล้วทั้งแบบเดินทางอิสระโดยลำพัง
(FIT) และหมู่คณะ (GIT)
สถิติมกราคมปีนี้เพียงเดือนเดียวมามากกว่า 91,000 คน
จากเป้าตั้งไว้เพียง 60,000 คน เพิ่มขึ้นกว่า 30 % และภายในกุมภาพันธ์จะเกินเดือนละแสนคน
ตอนนี้ต้องเร่งนำเที่ยวบินจากจีนกลับมาให้ได้เพราะยังมีเพียง 30 % แต่การเพิ่มเป็นแบบช้า ๆ เพราะข้อจำกัดเรื่องการนำเครื่องบินกับจำนวนที่นั่งเที่ยวบินกลับมาคงต้องใช้
อาจจะไม่ได้เพิ่มอย่างรวดเร็วทันที 1-2 เท่า
เพียงแต่เพิ่มทุกเดือนตลอดปีนี้ตลาดจีนมากสุดมีแนวโน้มจะถึง 7-8 ล้านคน ตามเป้าจะต้องฟื้นรายได้ตลาดจีนกลับมาให้ได้ 2.93 แสนล้านบาท เกินกว่าเดิมปี 2562 ทำไว้เกือบ 6
แสนล้านบาท
ส่วนพฤติกรรม
“กรุ๊ปทัวร์จีน” จะมี 3 เรื่อง คือ เรื่องที่
1 สนใจเลือกจุดหมายปลายทางท่องเที่ยวเป็นไปตามโปรแกรมขายที่ระบุไว้
เที่ยวเมืองชายทะเล ได้แก่ ภาคตะวันออก เกาะเสม็ด พัทยา ภาคใต้ฝั่งอันดามัน
ในภูเก็ต แหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติภาคเหนือ ในเชียงใหม่ เรื่องที่ 2 การใช้จ่ายเงิน เพิ่มขึ้นมากกว่าเดิมนิยมช้อปปิ้ง รับประทานอาหาร
ตอนนี้ร้านอาหารในเชียงใหม่เปิดบริการคึกคักมากต้อนรับเที่ยวบินจีนและฮ่องกง
เรื่องที่ 3 กิจกรรมระหว่างท่องเที่ยวจะเน้นโปรแกรมทัวร์คุณภาพ
ททท.วางกลยุทธ์รุกเจาะนักท่องเที่ยวหลังโควิด-19 ตลาดทัวร์จีนจะมีทั้งหมด 4 กลุ่มหลัก
แบ่งเป็น ช่วงครึ่งแรกปี 2566 จะมี 3 กลุ่ม
คือ กลุ่มที่ 1 มิลเลนเนียล คนรุ่นใหม่ กลุ่มที่ 2 ครอบครัวเป็นคู่พ่อแม่ลูก กลุ่มที่ 3 ผู้หญิง
ช่วงครึ่งปีหลังจะเพิ่ม กลุ่มที่ 4 นักเดินทางเพื่อเป็นรางวัลหรือ
Incentive เปรียบเทียบตัวเลขกับปีปกติ 2562 มีอินเซนทีฟจีนเข้าเมืองไทยทำให้ตัวเลขรวมทั้งหมดทำได้ถึง 11 ล้านคน
นายธเนศวร์กล่าวว่า
ททท.ได้จัดเตรียมสินค้าท่องเที่ยวขานรับเซกเมนท์ตลาด เช่น
กลุ่มนักท่องเที่ยวตลาดมิลเลนเนียลส่วนใหญ่เป็นเจน Z จะ “ชูขายที่พัก” นำเสนอโรงแรมสไตล์ CHIC, ดีไซน์
และซิตี้ จะไม่เน้นห้องพักพูลวิลล่า แต่เน้นห้องพักที่มีบริการสะดวกสบาย
มีพื้นที่ภายในห้องพักกว้างขวาง มีสระน้ำขนาดเล็ก “ทำเล”
ควรตั้งอยู่ใกล้สถานีรถไฟฟ้าในกรุงเทพฯ หรือร้านอาหารแบบเก๋ ๆ
ในเชียงใหม่เป็นพื้นที่ตัวอย่างด้านการลงทุนร้านอาหารเก๋ไก๋ตอบโจทย์นักท่องเที่ยวจีน
ซึ่งนำห้องแถวตามซอกมุมตึกมาตกแต่งใส่ดีไซน์สะอาดน่านั่ง มีนักท่องเที่ยววัยรุ่นต่างชาติจำนวนมาก
ระหว่าง
19-24 กุมภาพันธ์ 2566 นี้
ททท.จะนำผู้ประกอบการท่องเที่ยวไทยไปทำ “โร้ดโชว์” ครั้งแรก ในสาธารณรัฐประชาชนจีน
3 เมือง เซี่ยงไฮ้ เฉินตู กวางโจว ทางผู้ซื้อหรือBuyer
ของจีนแจ้งความประสงค์มาแล้วขอให้นำเอกชนไทยคัดแล้วมี 60 ราย จะเป็นผู้ขายหรือ Saler จากเมืองไทยจะต้องมีโปรดักซ์ชัดเจนขานรับตลาดจีนเทรนด์และเซกเมนท์ตลาดข้างต้นมากที่สุด
และสอดคล้องกับธีมขายของ ททท.Amazing New Chapters
สำหรับเอกชนท่องเที่ยวไทยที่จะเดินทางไปโร้ดโชว์กับ
ททท.ในจีนรอบแรกนี้ได้คัดผู้ประกอบการที่มีสินค้าท่องเที่ยวคุณภาพของทั้ง 60 ราย นำเสนอได้ครบทุกมิติ ที่พักโรงแรม
สวนสนุก/สวนน้ำ/ธีมปาร์ค รถนำเที่ยว บริษัทตัวแทนจัดนำเที่ยว/DMC (Destination Management Company)
ซึ่งจะเป็นคู่ค้าสำคัญของกรุ๊ปทัวร์จีน นอกจากนี้ยังวางแผนทำโร้ดโชว์จีนเมืองอื่น
ๆ ต่อไปด้วย
แนวโน้มตั้งแต่เดือนเมษายน
2566 เป็นต้นไปจะเริ่มมี “กรุ๊ปทัวร์จีน”
และเที่ยวบินจากจีนกลับมา นำคนเดินทางเข้ามามากขึ้น รวมทั้งจะมีเซกเมนท์ใหม่ ๆ
กลุ่มอินเซนทีฟกับคอร์ปอเรตขนาดใหญ่เพิ่มเป็นจำนวนมากเป็นไปตามเป้าหมายปีนี้
นายธเนศวร์กล่าวว่า
ตลาดสำคัญอีกตลาดหลัง ททท.นำเอกชนเข้าร่วมขายในงาน ATF
:Asean Tourism Forum 2023 เมื่อปลายเดือนมกราคมที่ผ่านมา
โดยมีตัวแทนผู้ขายจากสมาชิกกลุ่มประเทศอาเซียนรวมทั้งไทย
กับผู้ซื้อจากตลาดใหญ่ทั่วโลกทั้งจาก ยุโรป อเมริกา จีน ญี่ปุ่น
เดินทางมาท่องเที่ยวในภูมิภาคอาเซียน
ผ่านความร่วมมือหลายอย่างที่จะเชื่อมการท่องเที่ยวเข้าด้วยกัน โดยมีเวทีการขายหรือ
TRAVEX 2023 ระหว่างบรรยายบนเวที market briefing แต่ละประเทศงัดสินค้าดี ๆ
มาแข่งขันกันโชว์เพื่อดึงความสนใจคู่ค้ากันอย่างดุเดือด
ส่วน
ททท.ได้รับความสนใจจากหลายประเทศขอคำแนะนำเพื่อนำไปประยุกต์ใช้ในประเทศของตนเองถึงความสำเร็จของไทยในการทำ
“โมเดลท่องเที่ยว”
ซึ่งสามารถเปิดประเทศอย่างราบรื่นเป็นโยบายรัฐบาลไทยให้อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเป็นผู้นำเชิงรุกเนื่องจากประเทศต้องพึ่งพารายได้หลักจากการท่องเที่ยวอย่างมีนัยสำคัญ
ดังนั้นในงาน ATF 2023 แต่ละประเทศจึงพากันประกาศปีท่องเที่ยวชนกันถึง
3 ประเทศ ได้แก่ Visit Thailand Year/ไทย
Visit Vietnam Year/เวียดนาม
และ Visit Cambodia Year/กัมพูชา ทำให้ปี 2566 กลายเป็นปีท่องเที่ยว ซึ่งล้วนเป็น 1 ใน 20 ประเทศ ที่รัฐบาลสาธารณรัฐประชาชนจีนประกาศให้ประชาชนจีนเดินทางมาท่องเที่ยวได้
บรรยากาศใน
ATF 2023 อบอวนไปด้วย “การแข่งขัน”
ท่ามกลางสัมพันธ์ของกลุ่มสมาชิกอาเซียนที่จะร่วมมือกันส่งเสริมให้เป็นภูมิภาคที่มีนักท่องเที่ยวทั่วโลกเข้ามาใช้จ่ายเงินให้ได้มากที่สุด
ททท.เองก็ได้ทำหน้าที่รักษา “ความเป็นผู้นำการตลาดท่องเที่ยว” หรือ Market
Leader แห่งอาเซียนไว้ให้ได้
ซึ่งมีไฮไลต์ที่แต่ละประเทศนำเสนอจุดขายใหม่ ได้แก่
“การท่องเที่ยวอย่างมีส่วนร่วมรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติ/Responsible
Tourism เช่น อินโดนีเซีย ชูเรื่องกรีนทัวริสซึ่มค่อนข้างมาก
แต่ในเชิงความสะดวกสบายที่พัก แหล่งท่องเที่ยว มาตรฐานการบริการที่ดี
กับโครงสร้างพื้นฐานด้านโลจิสติกส์เชื่อมโยงเข้าถึงง่าย ยกเว้น บริเวณถนนสายพระราม
2 ยังไม่ค่อยสะดวกมากนักกับนักท่องเที่ยวอาเซียนที่ชื่นชอบจุดหมายปลายทางไปยังหัวหิน
ประจวบคีรีขันธ์
ททท.ยังเดินหน้าปรับแผนใหม่ในเอเชียตะวันออก
คือ “ญี่ปุ่น” มอบหมายให้ ททท.3 สำนักงาน โตเกียว โอซาก้า ฟูกูโอกะ
ควรจะต้องเร่งทำกลยุทธ์กระตุ้นให้สอดคล้องกับความต้องการของแต่ละตลาด
เพราะตอนนี้ญี่ปุ่นใช้แคมเปญแจกคูปองท่องเที่ยวในประเทศ รวมทั้งไม่ได้อยู่ในรายชื่อ
20 ประเทศ ที่จะมีนักท่องเที่ยวจีนเดินทางเข้าไป
จึงเน้นเที่ยวญี่ปุ่นด้วยกัซึ่นเองเพื่อรักษาเศรษฐกิจและรายได้ปีนี้ ทำให้
ททท.ต้องปรับแผนให้ทันต่อเหตุการณ์ใหม่ในญี่ปุ่นต่อไป
ฟังข่าวต้นชั่วโมง
ข่าวที่
1 คิงเพาเวอร์แจกช้อปCLICK&COLLECT EXCLUSIVELYลด12+5%
กลุ่มบริษัท
คิง เพาเวอร์ ต่อยอดแคมเปญ “CLICK AND
COLLECT EXCLUSIVELY FOR ARRIVALS” มอบความพิเศษสุด!
ให้นักเดินทางขาเข้ารับลดสูงสุด 12% เมื่อช้อปครบ 10,000 บาท พร้อมกับลดเพิ่มทันทีอีก 5% (มูลค่าสูงสุด
1,000บาท) เมื่อช้อปครบ 15,000 บาท
ซื้อสินค้า
Duty Free สุดฮอต มีไฟลต์บินแล้วรีบเลย!
รับสินค้าที่สนามบิน ช้อปได้ทั้งขาเข้าและขาออก
ช้อปง่าย
ๆ แค่มีไฟลต์บินต่างประเทศ ก็ใช้ “CLICK AND
COLLECT EXCLUSIVELY FOR ARRIVALS”
ก่อนเดินทางเข้าไปเลือกช้อปสินค้าแบรนด์ก่อนบินได้ทาง คิง เพาเวอร์ ออนไลน์
ด้วยการกดรับรหัสส่วนลด KPDARV5 ได้ตั้งแต่วันนี้ - 21 กุมภาพันธ์ 2566
ห้ามพลาดรับสิทธิ์
1.แบ่งชำระ 0%* นานสูงสุดถึง 10 เดือน 2.รับเครดิตเงินคืนสูงสุด 8,000 บาท
3.รับเลย! ส่วนลด 200 บาท
เมื่อสมัครสมาชิกออนไลน์ 4.รับสิทธิ์การสมัครสมาชิก คิง เพาเวอร์ เมื่อช้อปขั้นต่ำ 1,000 บาท (สุทธิ)
ข่าวที่
2 รับฟรี!!กดติดตามโซเชียลคิงเพาเวอร์ลุ้นกินไทยเทสต์ฮับรางน้ำ
คิง เพาเวอร์ ให้ลุ้นรับฟรี!
บัตรรับประทานอาหารไทย “เทสต์ ฮับ รางน้ำ” คิง เพาเวอร์ ชั้น 3 เพียงกดติดตามโซเชียลมีเดีย
King Power Official เตรียมลุ้นรับฟรี! ลุ้นรับ 10
รางวัล มูลค่ารางวัลละ 300 บาท เริ่มตั้งแต่วันนี้ – 17 กุมภาพันธ์ 2566 รอฟังจะเป็นหนึ่งในผู้โชคดี 20 กุมภาพันธ์ 2566
ผ่านช่องทาง www.facebook.com/Kingpowerofficial โดยวิธีร่วมสนุก
1.กดติดตาม Line / Facebook / IG
/ TikTok และ Twitter ของ
King Power Official
2.แคปภาพหน้าจอที่ติดตามเรียบร้อยแล้ว
มาคอมเมนต์ที่โพสต์ >>
3.Like และ
Share โพสต์ดังกล่าว ตั้งค่าสาธารณะ
ภายในวันที่ 23
กุมภาพันธ์ 2566 กำหนดให้ผู้โชคดีที่ได้รับรางวัลจะต้อง
“ยืนยันตัวตน” แจ้ง ชื่อ สกุล ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ ผ่านทาง Inbox Message
facebook.com/Kingpowerofficial
แล้วจากนั้น
คิง เพาเวอร์ จะจัดส่งรางวัลทางไปรษณีย์ให้กับผู้โชคดีที่ได้ทำการยืนยันตัวตนภายในเวลาที่กำหนด
ผ่านที่อยู่ที่ได้แจ้งไว้
การร่วมสนุกครั้งนี้ต้องปฏิบัติอย่างเคร่งครัดคือ
1.ไม่สามารถโอนสิทธิ์รับรางวัลจากกิจกรรมนี้ให้ผู้อื่นได้ในทุกกรณี
2.หากคณะกรรมการตรบพบผู้ใดมีพฤติกรรมส่อไปในทางทุจริต
คณะกรรมการจะตัดสิทธิ์ในการรับรางวัลทันที 3.คำตัดสินของคณะกรรมการถือเป็นเด็ดขาดและเป็นที่สิ้นสุดทุกกรณี
4.ห้ามพนักงานของบริษัท
คิง เพาเวอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด และบริษัทในเครือเข้าร่วมกิจกรรมนี้
ข่าวที่
3 ททท.พัทยาบูมWorkationวันธรรมดาร่วมแชร์เทรนด์เที่ยว12แห่ง
นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์
รองผู้ว่าการด้านตลาดในประเทศ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ททท.
สำนักงานพัทยา ได้ต่อยอดโครงการ Workation/ทำงานได้เที่ยวด้วย ทำกิจกรรมเชิงรุกกระตุ้นตลาดนักเดินทางเริ่มตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์
นี้เป็นต้นไป โดยเน้นเจาะกลุ่มทำงานอิสระ เข้าไปใช้บริการที่พักพร้อมท่องเที่ยววันธรรมดา
ทุกวันจันทร์-ทุกวันพฤหัสบดี ได้ตลอดปี 2566 เพื่อร่วมกันประชาสัมพันธ์แหล่งท่องเที่ยว
ที่พัก ร้านอาหารของจังหวัดชลบุรี ผ่านเพจ กิน เที่ยว ถ่าย โดยจัดทำ Content
“เที่ยวพัทยา 2 วัน 1
คืน เที่ยวจัดเต็มแบบไม่ต้องง้อวันหยุด” แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในพัทยา 12
แห่ง ดังนี้
1.หาดพัทยาและจุดชมวิวพัทยา 2.City coffee pattaya 3.Slow
Bar (Arbour Hotel ชั้น 24 ) 4.Kept pier café 5.the
beachlawn pattaya 6.ร้านปูเป็น Seafood Pattaya
7.House of benedict 8.Underwater
World Pattaya 9.ร้าน ป๋า เย็นตาโฟ 10.ปราสาทสัจธรรม
11.Tappia floating cafe pattaya และ 12.ที่พัก X2 Vibe Pattaya Seaphere
โดยเชิญชวนนักเดินทางได้ให้เข้าร่วมสนุกกับกิจกรรมทดสอบการรับรู้สาระทางการท่องเที่ยว
(Content) ร่วมตอบคำถาม และแจกของที่ระลึก (แก้ว Starbucks
Pattaya ) ตาม “กติกา”
สามารถเลือก 3 สถานที่ จากในโพสต์ต้องการจะไปท่องเที่ยวที่ไหน
พร้อมคำตอบถึงแรงจูงใจเป็นเพราะอะไร สามารถร่วมได้ทาง
เพจ กิน เที่ยว ถ่าย ซึ่งมีผู้ติดตามรับชมและค้นหาข้อมูลรวมกว่า 5.6 แสนคน
โดดเด่นมีชื่อเสียงในเรื่องรูปภาพนำเสนอมีความสวยงามและเกิดการบอกต่อจุดถ่ายภาพใหม่
ๆ ตามแหล่งท่องเที่ยวทั่วเมืองไทย
ข่าวที่ 4 บางจากชูเดินวิ่งโอลิมปิกเดย์ปี66หนุนกีฬาลดคาร์บอน4จังหวัด
นางกลอยตา ณ ถลาง
ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานสื่อสารองค์กรและกิจการเพื่อความยั่งยืน
บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ปี 2566
บางจากฯ วางแผนงานเข้าร่วมส่งเสริมและสนับสนุนมหกรรมกีฬางานเดิน-วิ่งOlympic
Day 2023 ที่มีคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ เป็นเจ้าภาพ
จัดร่วมกับหน่วยงานต่าง ๆ กระจายใน 4 จังหวัด ได้แก่ จ.
น่าน จ. มุกดาหาร จ. เชียงใหม่ และ จ. กาญจนบุรี
ทางบางจากฯ ได้ใช้ศักยภาพของงานที่มีคนมารวมตัวกันเป็นจำนวนมาก นำเครื่องดื่มอินทนิลไปบริการ
พร้อมกับจำหน่ายน้ำมันเครื่อง Furio ราคาพิเศษ
เน้นการรณรงค์ให้ผู้เข้าร่วมงานมีส่วนร่วมดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม
ในการวิ่งแต่ละจังหวัดทางบางจากฯ
เตรียมจะจัดกิจกรรมให้ความรู้เกี่ยวกับ Climate Action หรือการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและเรื่อง
Circular Economy หรือเศรษฐกิจหมุนเวียน ผ่านโครงการต่างๆ
ของบางจากฯ เช่น โครงการ ‘ทอดไม่ทิ้ง’
รับซื้อน้ำมันใช้แล้วจากการปรุงอาหารไปผลิตเป็นน้ำมันเครื่องบินชีวภาพ โครงการ
‘แก้วเพาะกล้า’ รวบรวมแก้วเครื่องดื่มอินทนิลนำไปส่งมอบให้กับกรมป่าไม้
และจะรวบรวมขวดน้ำพลาสติกนำไปรีไซเคิลผลิตเป็นของที่ระลึก เพื่อนำมาใช้ในกิจกรรมครั้งต่อไป
เรื่อยไปจนถึงแจกต้นไม้หรือ ‘พืชพรรณปันสุข’ ในแก้วเพาะกล้า เพื่อดูดซับคาร์บอน
ปี 2566 บางจากฯ ตั้งเป้าจะชดเชยคาร์บอนฟรุตพริ้นท์ของผู้เข้าร่วมกิจกรรมด้วยคาร์บอน
เครดิตผ่าน Carbon Markets Club เพื่อให้การจัดกิจกรรมปล่อยคาร์บอนเป็นศูนย์
ตอบสนองแนวทางการทำงานด้านกีฬาเพื่อเตรียมความพร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศขององค์การสหประชาชาติ
(UN Sports for Climate Action) อย่างเข้มข้นต่อไป
นางกลอยตาย้ำว่า
แต่ละกิจกรรมที่เข้าร่วมสนุบสนุนมีความสอดคล้องตามแนวทางการดำเนินธุรกิจของบางจากฯ
ซึ่งมุ่งมั่นพัฒนานวัตกรรมดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน ควบคู่กับการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมและสังคมต่อเนื่องทั้งภายในและภายนอกองค์กร
เช่นเดียวกันกับการสนับสนุนการเดิน-วิ่ง Olympic
Day บางจากฯ เข้าร่วมมาตั้งแต่ปี 2561 ถือเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมส่งเสริมการออกกำลังกาย
ดูแลสุขภาพและประชาสัมพันธ์กิจกรรมโอลิมปิก ให้เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง
สำหรับกิจกรรมเดินวิ่ง
Olympic Day มีนายพิชัย ชุณหวชิร รองประธาน
คณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์
ประธานอนุกรรมการฝ่ายกีฬาเพื่อมวลชนและสิ่งแวดล้อม ประธานกรรมการจัดกิจกรรมดังกล่าว
ร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน รองผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร
รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ รองผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี
ผู้แทนหน่วยงานภาครัฐและเอกชนที่ร่วมจัดและสนับสนุนการจัดงานที่ได้เปิดตัวโครงการไปเมื่อเร็ว ๆ นี้ ที่สำนักงานใหญ่บริษัท บางจากฯ อาคารเอ็ม
ทาวเวอร์
ข่าวที่ 5
TCEB เปิดดึงธุรกิจไมซ์รับเทรนด์ผู้จัดงานยุคใหม่ต้องรู้ใจผู้เข้างาน
สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ
(องค์การมหาชน) “TCEB” เชิญชวนภาคธุรกิจไทยได้เข้าถึงเทรนด์ใหม่
Metamorphic Design การสร้างประสบการณ์ที่ดี
และตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มเป้าหมายที่แตกต่างกัน มีกลยุทธ์การทำตลาด
และมีเทคโนโลยีเด่น ๆ สนับสนุนการจัดงานไมซ์ในรูปแบบ Personalized
Experience
เริ่มจาก
Key Takeaways
1.ผู้เข้าร่วมกิจกรรม และนักท่องเที่ยวไมซ์มีความต้องการในรูปแบบเฉพาะบุคคล
(Personalization) เพิ่มมากขึ้น
ผู้ประกอบการไมซ์ควรหากลยุทธ์การจัดงานที่ไม่ใช่การมอบสิ่งเดียวกันสำหรับทุกคน (All
in one) แต่เปิดโอกาสให้ทุกคนได้ร่วมกันมีส่วนร่วมในการออกแบบประสบการณ์ของตัวเอง
2.ChatGPT เทคโนโลยีใหม่มาแรง
ช่วยให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์แก่ผู้เข้าร่วมงานและนักเดินทางไมซ์
เพื่อวางแผนการเข้าร่วมกิจกรรมและการท่องเที่ยวไมซ์อย่างครบครัน
อีกทั้งผู้ประกอบการไมซ์ยังสามารถนำข้อมูลต่าง ๆ มาพัฒนาบริการในรูปแบบ Personalized
Experience ให้ดียิ่งขึ้น
3.ผู้ประกอบการไมซ์สามารถประยุกต์ใช้เทคโนโลยี Interactive Kiosk ออกแบบกิจกรรมไมซ์ เช่น การสร้าง Interactive Game เพิ่มความน่าสนใจ
และกระตุ้นการมีส่วนร่วมจากผู้เข้าร่วมงาน
4.การใช้งานแพลตฟอร์ม AI Business Matching เป็นอีกช่องทางสนับสนุนให้ผู้ประกอบการไมซ์เชื่อมต่อถึงกันอย่างสะดวก
สร้างโอกาสต่อยอดธุรกิจอย่างมีประสิทธิภาพ ในขณะที่เทคโนโลยี 3D Hologram ช่วยออกแบบสินค้าตามความต้องการ และแสดงผลจำลองในเวลาอันรวดเร็ว
สร้างความประทับใจเกินความคาดหมายแก่ผู้เข้าร่วมงาน
กลุ่มผู้บริโภคในอุตสาหกรรมไมซ์คาดหวังการได้รับสินค้าและบริการที่ตรงต่อความต้องการของตนเองเพิ่มมากขึ้น
โดยจากสถิติของกลุ่มโรงแรมในเครือ Hilton ที่สำรวจความคิดเห็นของนักท่องเที่ยวกว่า 7,000
คนทั่วโลก แสดงให้เห็นว่า ในปี 2566 ร้อยละ 86 ของนักท่องเที่ยวมองหาการบริการที่ช่วยสร้างประสบการณ์เฉพาะบุคคล (Personalized
Experience) เช่น การมีฟังก์ชั่นแนะนำตัวเลือกต่าง ๆ
ระหว่างการเดินทางและการให้บริการผ่านเทคโนโลยีช่วยอำนวยความสะดวกที่พิเศษกว่าเดิม
และไม่เป็นการมอบสิ่งเดียวกันสำหรับทุกคน (All in one) แต่เปิดโอกาสให้ทุกคนร่วมออกแบบให้เหมาะสมกับแต่ละคนได้
(ข้อมูลอ้างอิงจาก Hilton และ Mckinsey)
ตัวอย่าง
“แมริออท อินเตอร์เนชั่นแนล” เป็นบริษัทบริหารการลงทุนด้านที่พักอาศัยและโรงแรม ได้เปิดตัว
Marriott Design Lab พัฒนาห้องพักด้วยเทคโนโลยีโซลูชั่นให้ผู้เข้าพักปรับเปลี่ยนพื้นที่และเฟอร์นิเจอร์ภายในห้องได้ด้วยตนเอง
ผู้เข้าพักสามารถปรับเตียงนอนขึ้นไปเก็บไว้บนเพดาน เปลี่ยนพื้นที่เป็นโต๊ะอาหาร
หรือโต๊ะทำงานผ่านโทรศัพท์หรือเสียงสั่งการตามความชอบ และการใช้งานของแต่ละคน ทำให้เกิดความยืดหยุ่นและสร้างประสบการณ์ใหม่
ๆ ในการเข้าพัก
ถือเป็นตัวอย่างที่น่าสนใจของอุตสาหกรรมไมซ์ในการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีและนวัตกรรมยกระดับบริการให้ตอบโจทย์ลูกค้าได้ดีกว่าเดิม
เป็นหนึ่งในกลยุทธ์ที่ผู้ประกอบการรู้ว่าลูกค้าหรือผู้เข้าร่วมงานของเราต้องการอะไร
โดยที่เขาไม่ต้องเอ่ยขอ คงสร้างความประทับใจไม่น้อย
แสดงถึงความใส่ใจที่จะมอบสิ่งที่ดีที่สุดให้กับเขา
ซึ่งเป็นโจทย์สำหรับผู้ประกอบการไมซ์ในการพัฒนาบริการให้ดีขึ้นเพื่อมัดใจลูกค้าและผู้เข้าร่วมงาน
ChatGPT ตัวช่วยใหม่ของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและไมซ์
ChatGPT (Generative Pre-trained
Transformer) เทคโนโลยีที่มาแรงที่สุดในเวลานี้
หลังจากเปิดตัวเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2565
ก็ได้รับความนิยมทันที เนื่องจากเป็นเทคโนโลยีที่สามารถสื่อสาร ตอบคำถาม
วิเคราะห์ข้อมูล หรือแม้แต่ช่วยวางแผนงาน ซึ่งทำให้สามารถจัดการภาระงานต่าง ๆ
จำนวนมากให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
https://www.meetings-conventions-asia.com/News/Technology/What-ChatGPT-can-do-in-the-event-industry?utm_source=enews&utm_medium=email&utm_campaign=MCAeweekly
สำหรับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและไมซ์
ChatGPT สามารถเป็นตัวช่วยในการรวบรวม
และให้ข้อมูลเพื่อนำมาวิเคราะห์ต่อยอดธุรกิจสำหรับผู้ประกอบการไมซ์ เช่น
ข้อมูลการตลาด เทรนด์เทคโนโลยีใหม่ ๆ
และแนวโน้มพฤติกรรมความสนใจของผู้บริโภคในปัจจุบัน
รวมทั้งสามารถวิเคราะห์ประวัติการเข้าชม
การซื้อสินค้าหรือบริการของลูกค้าเพื่อประเมินความสนใจและความชอบของลูกค้า
เพื่อนำข้อมูลที่ได้มาสร้างคำแนะนำและข้อเสนอให้เหมาะสมกับแต่ละบุคคล
ซึ่งช่วยให้ผู้ประกอบการกำหนดรูปแบบของการจัดงาน ออกแบบกิจกรรม
สถานที่หรือจุดหมายปลายทางที่หลากหลาย
ตลอดจนการจัดเตรียมตัวเลือกให้เหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมายที่มีความยืดหยุ่น
คำนึงถึงการมอบประสบการณ์ที่มีความหมายและเป็นที่จดจำให้กับผู้เข้าร่วมงานและนักเดินทางไมซ์ได้
ขณะเดียวกัน
ChatGPT อาจเป็นเทคโนโลยีที่ช่วยขับเคลื่อนการท่องเที่ยวในอนาคต
เป็นประโยชน์ต่อผู้เข้าร่วมงานและนักเดินทางไมซ์ในการให้ข้อมูลและบริการอย่างครบครัน
ตั้งแต่ขั้นตอนการจัดเตรียมวางแผนเดินทางท่องเที่ยว การประชุมทางธุรกิจ
การจองตั๋วเดินทางอัตโนมัติ ทั้งเที่ยวบิน การขนส่ง และโรงแรม ซึ่งช่วยประหยัดเวลา
ที่สำคัญคือสามารถออกแบบตามความต้องการเฉพาะของแต่ละบุคคลได้
ช่วงที่ 2 ออกเดินทางเที่ยวพิกัดใหม่ “เกาะกุลา” จ.ชุมพร ชายหาดสวย ชมปะการังริมทะเลได้สบาย
จากนั้นดูแลสุขภาพด้วย “อาหาร 5 ชนิด” ช่วยเผาผลาญพลังงาน
ข่าวท้ายชั่วโมง ข่าวแรก “TTAAแรงต้นปีจัดเที่ยวทั่วไทยไปทั่วโลก”
หวังโกย200ล้าน 16-19
ก.พ.นี้
ข่าวที่สอง “เคปแอนด์แคนทารี7โรงแรม” กอดคอขายวาเลนไทน์ดินเนอร์
ข่าวที่สาม “ดุสิตธานี” ชู2แบรนด์ลุย7ประเทศเปิด14โรงแรมเน้นญี่ปุ่นกับยุโรป
ท่องเที่ยว-พิกัดใหม่เที่ยว“เกาะกุลา”จ.ชุมพรเดินดูปะการังสวยได้ตรงริมหาด
โมเมนท์ที่ใช่
ไม่ต้องรอ เป็นอีกหนึ่งคอนเซ็ปต์กระตุ้นไทยเที่ยวไทย วันนี้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
(ททท.) สำนักงานชุมพร ชวนไปเที่ยวพิกัดใหม่ “เกาะกุลา” เกาะเล็ก ๆ ในอำเภอสวี
จังหวัดชุมพร พื้นที่ความดูแลของอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะชุมพร
“เกาะกุลา”
เปิดให้ชมความงดงามทางธรรมชาติอันน่าหลงไหล มีหาดทรายขาวนวลดุจแป้ง และน้ำใสมากจนเห็นปะการังกับฝูงปลาได้ และบริเวณหน้าหาดสามารถดำน้ำชมปะการังได้เลย เป็นเกาะที่มีสัตว์น้ำอยู่อาศัยอยู่เป็นจำนวนมากทั้ง
หอยเม่น หอยมือเสือ ปลาเสือ
หากจะลงไปดำน้ำก็ต้องดูพื้นที่ให้ดีก่อนเพราะหอยเม่นอาจจะตำเท้าได้
ถ้าไม่ต้องการลงเล่นน้ำทะเล
ไม่ดำน้ำตื้น ก็เลือกบนสะพานเทียบเรือทอดยาวเพื่อเดินชม “แนวปะการัง” ได้บริเวณหน้าเกาะเช่นเดียวกัน
ก็มีกิจกรรม “พายเรือคายัค”
รอบเกาะได้ภายในเวลาชั่วโมงครึ่ง แล้วเกาะกุลายังมีบ่ออนุบาลเต่าทะเล เพราะทุก ๆ ปีจะมีเต่ามาวางไข่บนเกาะเป็นประจำ
เจ้าหน้าที่จึงจัดทำอนุบาลเต่ากระและปล่อยลงสู่ทะเลเพื่อเป็นการอนุรักษ์พันธุ์สัตว์ไว้เพื่อขยายพันธุ์และให้นักท่องเที่ยวได้ชมไปพร้อม
ๆ กัน
การท่องเที่ยว
“เกาะกุลา” สามารถเดินทางแบบไปเช้าเย็นกลับได้ มีบริการขึ้นเรือจากท่าเรือฝั่ง “อ่าวคราม”
ซึ่งตั้งอยู่ตรงข้ามเกาะกุเลา จะได้รับความสะดวกใช้เวลาเดินทางเพียง 15-20 นาทีเท่านั้น
หรือเหมาเรือนำเที่ยวจากที่ทำการอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะชุมพร ใช้เวลาใกล้เคียงกัน 20
นาที
จะไปเที่ยวเกาะกุลา
โทร.สอบถาอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะชุมพรได้ที่
077 – 558 – 144
สุขภาพ -5 ข้อต้องทำด่วนตัวช่วยการเผาผลาญพลังงานสร้างสุขภาพดี
มีบางคนโชคดีกินอย่างไรก็ไม่อ้วน
แถมออกกำลังกายน้อยอีกต่างหาก
นั่นอาจเป็นเพราะว่าร่างกายมีระดับการเผาผลาญสูงที่มีติดตัวตามธรรมชาติ
แต่สำหรับคนที่น้ำหนักขึ้นง่าย อย่าเพิ่งกังวลไป
เพราะเรามีวิธีเพิ่มระดับการเผาผลาญให้กับร่างกายเพื่อเป้าหมายในการรักษารูปร่างและสุขภาพให้สมบูรณ์แข็งแรง
แค่ลองทำตาม 5 วิธีนี้ ความฝันการมีหุ่นดีน่าจะเป็นจริงได้
1.ห้ามอดมื้อเช้า มื้อเช้าสำคัญจริง ๆ
เพราะถ้าคุณงดมื้อเช้า ร่างกายจะลดระบบเผาผลาญลงและสมองจะหลั่งสารเคมีที่ชื่อว่า
นิวโรเปปไทด์ วาย (Neuropeptide Y) ซึ่งจะส่งสัญญาณให้คุณหิวและอยากกินมากกว่าเดิมโดยไม่รู้ตัว
แถมยังอาจไม่มีสมาธิในการทำงาน เพราะสมองไม่มีน้ำตาลกลูโคสจากอาหารไปหล่อเลี้ยง
แล้วยังทำให้อยากของหวานมากขึ้น น้ำหนักก็จะขึ้นง่าย
ด้วยอาหารมื้อเช้าให้กับตัวเองด้วยเมนูง่าย
ๆ อย่างขนมปังโฮลเกรนโปะมะเขือกับอะโวคาโดแทนแยมสตรอว์เบอร์รีและเนยสดต่อด้วยสมูทตี้ผลไม้
ช่วยให้คุณอิ่มท้องได้ประโยชน์ หรือเสริมอาหารที่มีโปรตีนไม่ติดมันเข้าไปด้วย เช่น
ไก่ ปลา ไข่ไก่ ถั่วเมล็ดกลม เต้าหู้ เป็นต้น
เพราะโปรตีนใช้เวลาย่อยนานกว่าอาหารประเภทแป้ง จึงช่วยให้รู้สึกอิ่มนานขึ้น
เหมาะสำหรับคนที่อยากควบคุมน้ำหนัก
2.ผสมเวทเทรนนิ่งบวกกับออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอ เช่น เดินเร็ว วิ่ง ปั่นจักรยาน ว่ายน้ำ
หรือเต้นรำ ช่วยเผาผลาญไขมัน
แต่ต้องอยู่ในระดับที่ทำให้หัวใจเต้นเร็วระดับหนึ่งเพื่อให้เลือดสูบฉีด
ร่างกายได้ดึงไขมันมาใช้ และควรพ่วงการเล่นเวทเทรนนิ่งเข้าไปด้วยเพื่อเสริมสร้างกล้ามเนื้อและยังเพิ่มอัตราการเผาผลาญพลังงาน
(เมตาบอลิซึม)
ซึ่งการทำคาร์ดิโอเพียงอย่างเดียวไม่สามารถกระตุ้นปฏิกิริยานี้เท่าได้มากเท่ากับการเล่นเวท
Tips ออกกำลังกาย ก่อนออกกำลังกาย 1
ชั่วโมงควรทานอาหารที่มีดัชนีน้ำตาลสูงหรือกลุ่มคาร์โบไฮเดรตเชิงเดี่ยว เช่น
ขนมปัง ผลไม้หวาน ๆ เช่น แตงโม กล้วย น้ำหวาน เพราะย่อยง่าย
ร่างกายสามารถนำไปใช้ได้ทันที แต่ควรหลีกเลี่ยงอาหารที่มีกากใยหรือโปรตีนสูง เช่น
ขนมปังโฮลวีท มูสลี่ เนื้อสัตว์ต่าง ๆ เพราะให้พลังงานช้า ควรทานแต่ในมื้อปกติดีกว่า
3.เติมแอลคาร์นิทีน ถ้าอยากเผาผลาญดีขึ้นต้องเติมแอลคาร์นิทีนที่เป็นสารซึ่งถูกสร้างขึ้นในร่างกายของเราเองจากกรดอะมิโน
2 ตัวคือ ไลซีน (Lysine) และเมไทโอนีน (Methionine) ที่ผลิตที่อวัยวะตับ
โดยจะถูกนำไปเก็บไว้ในกล้ามเนื้อตามแขน ขา หัวใจ สมอง ซึ่งจะช่วยเพิ่มกระบวนการในการดึงไขมันมาเผาผลาญออกมาเป็นพลังงานในร่างกาย
แหล่งแอลคาร์นิทีนส่วนใหญ่พบได้ในเนื้อสัตว์ นม อะโวคาโด และถั่ว
4.นอนเร็วขึ้นอีกหน่อย ปกติแล้วร่างกายจะมีระบบเป็นนาฬิกาชีวภาพ
ซึ่งทำหน้าที่ควบคุมการหลั่งฮอร์โมน เพื่อรักษาประสิทธิภาพการทำงานของร่างกายและควบคุมรอบการหลับ
– ตื่น (กลางคืน – กลางวัน) เวลาการเข้านอนที่ดีที่สุดคือช่วง 21.00 – 23.00 น.
ซึ่งเป็นเวลาของระบบภูมิต้านทานโรคที่จะทำงานได้ดี
และสะสมพลังงานสำรองเพื่อซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ
เมื่อนอนเร็วก็จะช่วยสกัดอาการหิวยามดึกและร่างกายจะหลั่งฮอร์โมนเล็ปติน (Leptin)
ซึ่งเป็นฮอร์โมนทำให้รู้สึกอิ่ม
เพิ่มอัตราการเผาผลาญให้ทำงานได้ดีมากขึ้น ซึ่งจะช่วยคุมน้ำหนักตัวให้คงที่
5.หมั่นดื่มน้ำ -ผลการศึกษาของนักวิจัยของ Virginia
Tech แห่งเมืองแบล็กส์เบิร์ก รัฐเวอร์จิเนีย (Blacksburg,
Virginia) ระบุว่า คนที่ดื่มน้ำในแก้วขนาด 8 ออนซ์ ประมาณ
8 – 12 ครั้งต่อวัน จะเพิ่มอัตราการเผาผลาญสูงขึ้นกว่าคนที่ดื่มเพียง 4 ครั้ง
อีกทั้งควรดื่มน้ำให้ได้ครึ่งลิตรหรือ 5 แก้วหลังตื่นนอนก่อนอาหารเช้า
ระบบขับถ่ายจะคล่องโล่งสบาย หรือจิบชาเขียวควบคู่กับการคุมอาหารและออกกำลัง
ฟังข่าวท้ายชั่วโมง
ข่าวแรก –TTAAใส่เกียร์แรงจัดเที่ยวทั่วไทยไปทั่วโลกหวัง200ล้าน16-19ก.พ.
นายเจริญ
วังอนานนท์ นายกสมาคมไทยบริการท่องเที่ยว (Thai Travel Agents Association :TTAA)
เปิดเผยว่า ได้เปิดพื้นที่ให้ผู้ประกอบการท่องเที่ยวไทยร่วมมหกรรมขายการท่องเที่ยวครั้งใหญ่แห่งปี“เที่ยวทั่วไทย
ไปทั่วโลก” ครั้งที่ 28 หรือ Thai International
Travel Fair 2023 (TITF#28) ระหว่างวันที่ 16-19 กุมภาพันธ์ 2566 เปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา10.00-20.00
น.ที่เอ็กซิบิชั่น ฮอลล์ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ตั้งเป้าจะมีผู้สนใจเข้าร่วมงานไม่ต่ำกว่า 750,000
คน สร้างยอดซื้อขายหมุนเวียนตลอดงานกว่า 200 ล้านบาท
การจัดงาน “เที่ยวทั่วไทย
ไปทั่วโลก” ก่อนหน้านี้ต้องหยุดไปในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ตลอด 3 ปี ปี 2566 มีโอกาสกลับมาจัดอีกครั้ง
จึงได้รับความสนใจทั้งจากบริษัทตัวแทนขายการท่องเที่ยวไทย
และองค์การส่งเสริมการท่องเที่ยว (National Tourism Organizations :NTOs) นานาชาติที่ตั้งอยู่ในเมืองไทยเข้ามาร่วมอย่างคับคั่ง
ตามที่ได้จัดเตรียมพื้นที่ขนาด 5,000 ตารางเมตร ไว้รองรับรวม
300 บูธ
เพื่อผู้ประกอบการที่ลงทะเบียนเข้าร่วมงานนี้ได้นำเสนอสินค้าท่องเที่ยว
เพื่อสร้างแรงจูงใจคนไทยเที่ยวในประเทศและทั่วโลก
ตลอดงานจะมีสินค้าท่องเที่ยวมากมายให้นักท่องเที่ยวได้เลือกช้อป
ทั้ง แพ็กเกจทัวร์ในประเทศและต่างประเทศ ตั๋วโดยสารสายการบินต่าง ๆ โรงแรมที่พัก ประกันภัยการเดินทาง เรือสำราญ และข้อมูลแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวจากองค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวทั้งในประเทศและต่างประเทศ
ภายในงานยังได้กิจกรรมมากมายเพื่อเพิ่มประสบการณ์แปลกใหม่ให้ผู้เข้าร่วมชม
ประกอบด้วย กิจกรรมที่ 1 การแสดงโชว์ขององค์กรส่งเสริมการท่องเที่ยวต่างประเทศคัดสรรมาเพื่องานนี้โดยเฉพาะทางด้านวิถีวัฒนธรรมของแต่ละประเทศ
กิจกรรมที่ 2 สถานที่ท่องเที่ยวต่างประเทศที่สวยงามใน
ญี่ปุ่น เกาหลี ฮ่องกง ไต้หวัน ฟิลิปปินส์, มาเลเซีย และอื่น
ๆ ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถหาข้อมูลพร้อมเลือกซื้อสินค้าท่องเที่ยวได้ตามไฟล์สไตล์ตอบโจทย์ของแต่ละคนจบครบในงานนี้งานเดียว
นายเจริญกล่าวว่า
ทางสมาคมไทยบริการท่องเที่ยว ได้รับการสนับสนุนเป็นอย่างดีในการจัดมหกรรมการขาย
“เที่ยวทั่วไทย ไปทั่วโลก” ครั้งที่ 28 โดยมีพันธมิตรหลัก ได้แก่ บริษัท ไทยอะมาดิอุส เซาท์อีสต์เอเชีย จำกัด
บริษัท ประกันภัยไทยวิวัฒน์ จำกัด (มหาชน) และบริษัท บัตรกรุงศรีอยุธยา จำกัด ร่วมกันทำให้ผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวเมืองไทย
มีโอกาสฟื้นฟูธุรกิจและกระตุ้นเศรษฐกิจท่องเที่ยว ส่งเสริมการเดินทางกลับมาคึกคักอีกครั้ง
ประการสำคัญจะเป็นงานที่สามารถสร้างโอกาสทางการตลาดให้ผู้ประกอบการท่องเที่ยวฟื้นจากวิกฤตโควิด-19
มายาวนานถึง 3 ปี
ได้เดินหน้าพัฒนาธุรกิจกลับมาแข็งแกร่งได้ในเร็ววันนี้
ข่าวที่สอง-เคปแอนด์แคนทารีโฮเทลส์เจาะวาเลนไทน์7โรงแรมราคาหลักพัน
โรงแรมดังในเครือเคป แอนด์ แคนทารี เปิดเผยว่า
ได้นำโรงแรมทั่วไทยในพื้นที่ท่องเที่ยวยอดนิยม 7 แห่ง 3 ภาค 5 จังหวัด ในกรุงเทพฯ อยุธยา ชลบุรี ระยอง
และพังงา เปิดให้ทุกคู่รักมาร่วมฉลองค่ำคืน “วาเลนไทน์” ในบรรยากาศแสนโรแมนติกกับดินเนอร์มื้อค่ำแสนหวานสุดประทับใจ
ที่เชฟรังสรรค์ขึ้นเพื่อเทศกาลนี้โดยเฉพาะ
เริ่มจาก
“กรุงเทพฯ” เปิดห้องอาหาร “นัมเบอร์ 43” อิตาเลียน บิสโทร โรงแรมเคป เฮ้าส์ กรุงเทพฯ พร้อมเสิร์ฟเซตดินเนอร์
ตั้งแต่ 18.00-24.00 น.ในราคาเพียงคนละ 1,180++ บาท
กับเมนูพิเศษ 4
คอร์ส
“ภาคกลาง” วาเลนไทน์ใกล้กรุง ที่ห้องอาหาร
“แคลิฟอร์เนีย สเต็ก” โรงแรมแคนทารี อยุธยา เสิร์ฟสไตล์บุฟเฟ่ต์ดินเนอร์ เวลา18.00-22.00
น.ราคาเพียงคนละ 850 บาทสุทธิ ลดครึ่งราคาสำหรับเด็กอายุต่ำกว่า 12 ปี
หรือส่วนสูงไม่เกิน 120 เซนติเมตร
“ภาคตะวันออก” มีให้เลือก 4 โรงแรม
ได้แก่ แห่งแรก จังหวัดชลบุรี ที่ห้องอาหาร “เลอ มาแรงน์” โรงแรมเคปราชา ศรีราชา
พร้อมเสิร์ฟเซตดินเนอร์ เวลา18.00-22.00 น.
ราคาเพียงคนละ 800++ บาท จังหวัดระยอง มี 2 แห่ง แห่งที่สอง เปิด “รูฟท็อป ชั้น 7” โรงแรมแคนทารี บ้านฉาง เสิร์ฟเซตดินเนอร์
เวลา 18.00-22.00 น. ราคาคนละ 1,200
บาทสุทธิ
แห่งที่สาม “โรงแรมแคนทารี เบย์ ระยอง”
เสิร์ฟเซตดินเนอร์ 5 คอร์ส ราคาเพียงคนละ 1,200
บาทสุทธิ แห่งที่สี่ “ห้องอาหารแคลิฟอร์เนีย สเต็ก” ชั้นรูฟท็อป โรงแรมคามิโอ
แกรนด์ ระยอง เสิร์ฟเซตดินเนอร์มื้อค่ำ 5 คอร์ส ราคาเพียงคนละ 1,400
บาทสุทธิ
ข่าวที่สาม-“กลุ่มดุสิต”ชู2แบรนด์ปี’66เปิดใหม่14รร.ครั้งแรกในญี่ปุ่น/ยุโรป
มร.จิลล์
เครตัลเลช ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน)
เปิดเผยว่า ปี 2566 กลุ่มดุสิตธานีมีแผนที่จะขยายธุรกิจโรงแรมและรีสอร์ททั่วโลก 7
ประเทศ 14 แห่ง มีห้องพักเพิ่มอีกรวม 1,700 ห้อง จะเพิ่มทั้งในเมืองไทย เอเชีย และยุโรป
เพื่อทำให้มีโรงแรมทั่วโลก 17
ประเทศ รวม 62 แห่ง หรือประมาณ 13,700 ห้อง และมีอสังหาริมทรัพย์ที่กำลังทยอยก่อสร้างเตรียมเปิดอีก
3-4 ปีข้างหน้าอีกกว่า
60 แห่ง สอดคล้องกับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในแต่ละประเทศหลังสถานการณ์โควิด-19
กำลังฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว
โดยกลุ่มดุสิตธานีตั้งเป้าเปิดโรงแรมในเครือในพื้นที่ตลาดใหม่ที่ยังไม่เคยให้บริการมาก่อน
ได้แก่ “ญี่ปุ่น” จะเริ่มภายในไตรมาส 2 และ 3 ปี โดยทำภายใต้ 2 แบรนด์หลัก คือ แบรนด์ที่ 1 ดุสิตธานีมุ่งจับกลุ่มตลาดลักซูรี่
และแบรนด์อาศัยรุกตลาดมิเลนเนียลในเมืองเกียวโต ซึ่งเป็นอดีตเมืองหลวงเก่ามีวัฒนธรรมดั้งเดิมเต็มไปด้วยเสน่ห์ดึงดูดนักท่องเที่ยว
เมื่อสร้างให้ผู้คนรู้จักแบรนด์แล้วก็ขยายไปยังเมืองท่องเที่ยวอื่นในญี่ปุ่น
รวมทั้งจะบุกเข้า
“ยุโรป” เป็นครั้งแรก เปิดโรงแรมบูติคโฮเทลภายใต้แบรนด์
“ดุสิตสวีท” ที่เมืองเอเธนส์ ประเทศกรีซ อีก 1 โรงแรม พร้อมกับเปิดโรงแรมในต่างประเทศเพิ่มเติมจากที่เคยเปิดไว้บ้างแล้ว
ได้แก่ เนปาล 2 แห่ง อินเดีย 2 แห่ง เคนย่า 1 แห่ง และสาธารณรับประชาชนจีน
3 แห่ง
ปี 2566
ทำพอร์ตกลุ่มดุสิตธานีมีโรงแรมและรีสอร์ทในไทยรวมทั้งหมด 18 แห่ง
จึงได้วางแผนเตรียมเปิดโรงแรมใหม่เพิ่มอีก
3 แห่ง ประกอบด้วย โรงแรมที่ 1 อาศัย
กรุงเทพ สาทร ซึ่ง “อาศัย-ASAI Hotels” เป็นแบรนด์ไลฟ์สไตล์น้องใหม่ของดุสิตเน้นทำเลที่ตั้งมีอัตลักษณ์โดดเด่นบรรยากาศครึกครื้น
มีชีวิตชีวา
เพื่อเชื่อมโยงประสบการณ์ท้องถิ่นให้ผู้มาเข้าพักได้สัมผัสอย่างแท้จริง โรงแรมที่ 2 “ดุสิตดีทู สามย่าน กรุงเทพ” บริหารภายใต้แบรนด์
ดุสิตดีทู แห่งแรกในกรุงเทพฯ โรงแรมที่ 3 ดุสิตปริ๊นเซส
พัทลุง
“ภาคใต้” ห้องอาหารสิมิลัน
โรงแรมแคนทารี บีช เขาหลัก เสิร์ฟเซตดินเนอร์ ราคาสำหรับ 2 คน
รวม 2,600 บาทสุทธิ
ติดตามฟังรายการได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์
เวลา 11.00-12.00 น.ทาง สวท.FM 97.0 MHz.
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น